Wednesday, September 13, 2017

[บทสรุป] Sora no Kiseki FC - Chapter 3 ออร์บเมนท์สีดำ

第3章 黒のオーブメント
บทที่ 3 ออร์บเมนท์สีดำ
พวกเอสเทลที่เข้าสู่พื้นที่ไซสส์เพื่อต้องการตรวจสอบออร์บเมนท์สีดำ
ได้รับการช่วยเหลือจากดอกเตอร์รัซเซลผู้เป็นสุดยอดแห่งการวิจัยออร์บเมนท์
แต่ทว่าดอกเตอร์รัซเซลได้ถูกลักพาตัวไปโดยกลุ่มคนชุดดำซะแล้วสิ
ในที่สุดความจริงของคดีก็ปรากฏ


Walkthrough Chart - Main Quest
ทางหลวงไอน่า 『アイナ街道』
- ยามค่ำคืนที่มืดมิดบนทางหลวงไอน่าเส้นทางที่มุ่งสู่แอร์ แลตเท่น กลุ่มคนชุดดำ 2 คนได้หนีการตามล่าของ "อากัต" ที่ถึงแม้จะถือดาบหนักวิ่งมาด้วย แต่กลุ่มคนชุดดำก็ไม่สามารถสลัดอากัตให้หลุดได้เลย กลุ่มคนชุดดำคิดว่าเมื่อไม่มีทางเลือกก็ต้องสู้เท่านั้น ซึ่งอากัตก็รอโอกาสนี้อยู่แล้ว อากัตได้บอกคนชุดดำทั้ง 2 ว่า
อากัต "การวิวาทก็คือพลังใจในการต่อสู้ หากจิตใจยอมแพ้ก็จบกันน่ะสิเฟ้ย!!"
- พวกคนชุดดำที่ไม่สามารถเอาชนะอากัตได้ ขณะที่กำลังถูกบังคับให้บอกความจริงอยู่นั้น ก็ปรากฏร่างของ "ชายขุดดำสวมหน้ากาก" ที่พวกคนชุดดำเรียกว่า "หัวหน้ากอง" เขาสามารถเข้ามาถึงตัวอากัตได้โดยที่อากัตไม่รู้สึกตัวเลย
- ชายสวมหน้ากากให้ลูกน้องของตัวเองหนีไปพบกันที่จุดนัดพบ อากัตเห็นดังนั้นจึงวิ่งตามไปแต่ถูกชายสวมหน้ากากขัดขวาง อากัตเลยเปลี่ยนเป้าหมายมาจับชายสวมหน้ากากที่ดูท่าทางจะมีข้อมูลมากกว่าเจ้าพวกที่หนีไป
(ขณะที่สู้กันชายสวมหน้ากากได้บอกกับอากัตว่า อากัตกับเขามีส่วนที่คล้ายคลึงกัน)
- ทั้ง 2 ตัดสินกันในดาบสุดท้าย ชายสวมหน้ากากก็ล้มลงด้วยดาบของอากัต แต่ทว่านั่นเป็นเพียงแค่ร่างแยกของเขาเท่านั้น โดยเสียงชายหนุ่มผู้นั้นดังออกมาจากพุ่มไม้ในเงามืดบอกกับอากัตว่า
เสียงชายหนุ่ม "ทำได้ไม่เลว แต่ดาบยังมีความความสับสนอยู่ หากจะเป็นอสูรก็ต้องเตรียมใจละทิ้งทุกอย่าง ถ้าอยากมีชีวิตอยู่แบบมนุษย์ล่ะก็จงลืมความโกรธและความเศร้าซะ"
- เมื่อเสียงจากทางพุ่มไม้ได้กล่าวลาไปแล้ว อากัตจะพูดกับตัวเองว่า
อากัต "ให้ลืมงั้นเหรอ เรื่องอย่างนั้นมันทำได้ที่ไหนกันล่ะเฟ้ยยยยยยยยย!!!"
 

 
เมืองรูอัน 『ルーアン市』
- เอสเทลกับโยชัวร์จะมารอคลอเซ่ที่สะพานแลนแกรนด์ เมื่อคลอเซ่กับซิกมาถึงก็เดินทางสู่แอร์ แลตเท่นได้เลยค่ะ
- ก่อนออกเดินทางอย่าลืมแวะไปซื้อ "ลีเบร์ลสาร ฉบับ 6" ที่ร้านค้าปลอดภาษีโอนีลด้วยนะคะ
☆นอกจากนี้ถ้าไปคุยกับ "เพอเพิล" 『パープル』 ที่ห้องข้อมูลบนชั้น 2 ของคลับเฮ้าส์ในโรงเรียนเจนิส เธอจะมอบ "คาร์เนเรีย เล่ม 6" ให้เราค่ะ
★ช่วงนี้ถ้าคุยกับคนในเมือง พวกเขาจะรู้สึกวิตกว่าเมืองของพวกเขาจะไปในทิศทางใด หลังจากดัลมอร์โดนจับ โดยพวกเขาหวังว่าจะมีการเลือกตั้งใหม่ขึ้นในเร็ววันนี้
- เมื่อไม่ลืมทำอะไรในพื้นที่รูอันแล้ว ก็ใช้ "ทางหลวงไอน่า" มุ่งหน้าสู่แอร์ แลตเท่น เพื่อไปยังพื้นที่ไซสส์กันเลยค่ะ
แอร์ แลตเท่น 『エア=レッテン』
- เมื่อมาถึงแอร์ แลตเท่น เอสเทลก็บอกว่าที่รูอันนี่มีแต่สถานที่สวย ๆ เยอะแยะไปหมดเ ขนาดแอร์ แลตเท่นที่เป็นด่านนั้นก็ยังมีนักท่องเที่ยวมา คลอเซ่บอกว่าที่รอเลนซ์เองก็สวยไม่แพ้กันค่ะ เอสเทลจึงสงสัยว่าคลอเซ่เคยไปที่รอเลนซ์ด้วยเหรอ คลอเซ่บอกกับพวกเอสเทลว่า หัวเมืองใหญ่ทั้ง 5 นั้นเธอไปมาหมดแล้วค่ะ
- คุยกับ "พลทหารคลอน" 『兵士クロン』 ตรงเคาน์เตอร์เขาจะให้เราเซ็น "ใบผ่านทาง" ค่ะ
- ไปที่ชั้น 2 คลอเซ่จะแยกกับเรา ก่อนจะแยกไปเธอจะถามว่า
คลอเซ่ "ถ้าพวกคุณเอสเทลไปทั่วราชอาณาจักรเรื่อย ๆ แบบนี้ ไม่แน่ว่าอาจจะได้เจอกันที่นครหลวงก็เป็นได้นะคะ เพราะดิฉันเองก็คิดจะกลับไปที่นครหลวงในช่วงงานเทศกาลเฉลิมฉลองวันพระราชสมภพเช่นกัน เพราะเป็นการรวมญาติยังไงเก็ต้องไปอยู่แล้วน่ะค่ะ"
- โยชัวร์จะบอกว่า ถ้างานเทศกาลล่ะก็อีกประมาณ 1 เดือน ถ้าถึงตอนนั้นพวกเขาก็คงจะไปถึงที่นครหลวงแล้วล่ะมั๊ง เอสเทลจะเสริมว่า ถ้าคลอเซ่ทำธุระกับพวกญาติ ๆ เสร็จแล้ว ก็ให้ติดต่อไปที่สาขานครหลวงเผื่อจะได้เจอกัน คลอเซ่เงียบไปซักพักก่อนที่จะพูดออกมาว่า
คลอเซ่ "ตอนที่บุกไปที่คฤหาสน์ดัลมอร์นั้น ดิฉันได้พูดจาใหญ่โตกับดัลมอร์เอาไว้ อย่าง [ใช้ตำแหน่งในทางที่ไม่ถูกต้อง] หรือ [ทำแต่เรื่องดี ๆ ให้กับตัวเอง] ซึ่งนั่นก็เป็นตัวดิฉันเช่นเดียวกันค่ะ ดิฉันก็เคยหนีจากสถานะของตัวเอง หนีไปอยู่ที่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้าบ้าง หนีไปอยู่ที่โรงเรียนบ้าง หนีไปที่ไหนก็ได้ที่สามารถไปได้ แต่... ดิฉันที่เป็นอย่างนั้น พวกคุณเอสเทลก็ได้สอนให้รู้จักว่า ไม่ว่าเวลาใดก็ตามต้องมีความมุ่งมั่นเพื่อเดินไปข้างหน้า ต้องมีความเข้มแข็งเพื่อปกป้องสิ่งสำคัญ ขอบคุณที่ทำให้ดิฉันมีความกล้าหาญขึ้นมาบ้างแล้วนะคะ"
- เอสเทลฟังคลอเซ่แล้ว ก็ไม่ค่อยเข้าใจถึงสถานะที่คลอเซ่พูดถึงหรอก แค่คลอเซ่มีความสุขเธอก็ดีใจแล้วแหล่ะ แล้วเจอกันใหม่ที่นครหลวงนะ
- หลังจากที่พวกเอสเทลเข้าไปในอุโมงค์คัลเดียแล้ว "ร้อยโทยูเลีย" ที่เพิ่งกลับมาจากค่ายเรสตอนจะมารับคลอเซ่ไปฟังรายงานผลของคดีที่เกิดขึ้นบน "อัลเซยู" ที่ได้จอดรออยูแล้วบนทางหลวงค่ะ
- ด้านหน้าของอุโมงค์คัลเดีย โยชัวร์จะรู้สึกเหมือนกับมีใครมา เอสเทลคิดว่าคงเป็นพวกที่จะผ่านเส้นทางนี้เหมือนกัน แต่เมื่อไม่เห็นมีใครเข้ามา โยชัวร์เลยบอกว่าดูเหมือนว่าเขาจะเข้าใจผิดไปค่ะ เอสเทลเลยปิ๊งขึ้นมาว่า
เอสเทล "ตัดใจไม่ขาดจากคลอเซ่ใช่ไม๊ล่ะ อย่าเขินไปเลย อย่าเขินไปเลย พี่สาวมองได้ทะลุปรุโปร่งนะ ก็ในละครสนิทกันถึงขนาดจุ๊บกันด้วยนี่นา ถ้ายังไงตอนนี้กลับไปแล้วลองเรียกดูสิ คิดว่าคงไห้คำตอบที่ดีกลับมาน่ะ"
- โยชัวร์จะหนักใจกับเอสเทลที่มัวแต่เข้าใจผิดแล้วบอกกับเธอว่า
โยชัวร์ "นี่ คงจะ......ไม่รู้อะไรเลยจนถึงตอนนี้ล่ะสิท่า ฉากสุดท้ายนั่นน่ะ เขาเรียกว่าแกล้งทำต่างหากล่ะ แกล้งทำน่ะ ใช้มุมเหมาะ ๆ ทำให้มองเห็นว่าเป็นอย่างนั้นต่างหากล่ะ เธอนี้มันด่วนสรุปจริง ๆ ในบทก็มีเขียนบอกเอาไว้ไม่ใช่เหรอ"
- เอสเทลได้ยินดังนั้นก็โล่งใจค่ะ แต่ก็รู้สึกว่าทำไม่ตัวเองถึงต้องเป็นเดือดเป็นร้อนเรื่องนั้นถึงขนาดนี้นะ
อุโมงค์คัลเดีย 『カルデア隧道』
- ระหว่างทางจะเจอกับเด็กผู้หญิง ("ทีต้า" 『ティータ』) เธอจะถามเราว่า ระหว่างทางที่เดินมาเห็นแสงไฟที่ติดกับกำแพงอุโมงค์ดับบ้างหรือเปล่า โยชัวร์บอกว่าแสงไฟที่ดับไม่มีหรอก แต่เห็นมีอยู่ดวงที่สภาพไม่ค่อยดีอยู่เลยแม่น้ำไป 2 สายน่ะ ทีต้าได้ยินดังนั้นก็บอกว่าเป็นอย่างที่คิดจริง ๆ ด้วย แล้วเธอก็รีบวิ่งไปตามทางที่โยชัวร์บอกทันทีค่ะ
- เอสเทลกับโยชัวร์จะรู้สึกเป็นห่วงจึงได้ตามทีต้าไป
- เจอทีต้ากำลังหนักใจกับสัตว์ปิศาจที่กำลังล้อมโคมไฟที่เธอกำลังหาอยู่ เธอกลัวโคมไฟจะพังยิ่งขึ้นไปอีก เมื่อเป็นอย่างนี้เธอจึงใช้อาวุธของเธอ (ปืนใหญ่ออร์บเมนท์) ยิงขู่พวกสัตว์ปิศาจ (ทีต้าตั้งใจยิงไม่ให้โดนพวกมันค่ะ เพราะกลัวโคมไฟแตก) สัตว์ปิศาจเลยหันเป้าหมายมาที่ทีต้าแทน โชคดีที่พวกเอสเทลเข้ามาช่วยทันเวลาพอดีค่ะ
- สู้กับ (ดัมพ์คลาวเลอร์ *4) **ทีต้าเข้ากลุ่ม**
- ปราบได้ เอสเทลได้ถามว่า ทำไมพวกสัตว์ปิศาจนั่นถึงได้สนอกสนใจโคมไฟดับ ๆ นั่นล่ะ โยชัวร์บอกว่าเรื่องแบบนี้ก็เคยมีให้เห็นตอนที่เราไปเปลี่ยนโคมไฟบนทางหลวงค่ะ เพราะว่าวงจรภายในของหินเจ็ดจรัสจะมีออร์บเมนท์อยู่ด้านใน ซึ่งเป็นของชอบของพวกสัตว์ปิศาจ ปกติจะมีฟังก์ชั่นควบคุมอยู่แต่ถ้าฟังก์ชั่นพังก็จะเป็นจุดสนใจของสัตว์ปิศาจค่ะ
- เราจะให้ทีต้ากลับไปที่ไซสส์พร้อมกัน แต่ทีต้าขอซ่อมโคมไฟก่อนค่ะ
(จากตรงนี้จะทราบว่า "ทีต้า" ได้สำรวจดาต้าเบสของวงจรควบคุมหลักที่โรงงานกลาง (คอมฯตัวแม่) ทำให้รู้ว่ามีโคมไฟในอุโมงค์เสียหายค่ะ เอสเทลจะงง ๆ กับคำศัพท์ที่ทีต้าพูดออกมา พอทีต้าอธิบายแบบง่าย ๆ ล่ะก็........ยาววววววววเฟื้อย จนเอสเทลบอกให้หยุดแทบไม่ทันเลยล่ะ (ทีต้าเป็นโอตาคุเครื่องจักรเล็ก ๆ นะนี่))
- เมื่อทีต้าซ่อมโคมไฟเสร็จแล้วก็มุ่งหน้าสู่ไซสส์ได้เลยค่ะ
โรงงานกลางไซสส์ 『ツァイス・中央工房』
- เมื่อมาถึงทางเข้าโรงงานกลางไซสส์ ก็ให้ไปทางด้านซ้ายมือเพื่อขึ้นลิฟท์ได้เลยค่ะ
- ที่ชั้น 1 "เฮเซล" 『ヘイゼル』 ประชาสัมพันธ์ของโรงงานกลางจะบอกกับทีต้าว่า "หัวหน้าทรานซ์" 『トランス主任』 กำลังตามหาตัวเธออยู่ ทีต้าเลยขอแยกตัวไปค่ะ
- เอสเทลเห็นทีต้าเป็นเด็กที่น่ารักขนาดนั้นเลยพูดขึ้นมาว่า "ชั้นเองก็อยากได้น้องสาวที่น่ารักอย่างนั้นบ้างจัง ไม่ใช่น้องชายที่ไม่น่ารักเหมือนใครบางคน" โยชัวร์พูดทั้งที่ยังทำหน้ายิ้มแย้มว่า "แต่ถึงจะพูดไปกี่ครั้งก็เถอะ คนที่ต้องคอยตามช่วยเหลืออยู่เสมอก็ยังเป็นผมอยู่ดี ถ้าอยากจะทำตัวให้สมกับเป็นพี่สาวล่ะก็ต้องตื่นตัวกว่านี้อีกหน่อยนะ" ทำเอาเอสเทลหงุดหงิดเล็ก ๆ ไปเลยค่ะ

 
ตรวจสอบออร์บเมนท์สีดำ
『黒いオーブメントの調査』 (BP0)

เมืองไซสส์ 『ツァイス市』
- คุยกับ "คิริก้า" 『キリカ』 ที่สมาคมสาขาไซสส์ ซึ่งจางได้ติดต่อมาที่นี่แล้ว คิริก้าจึงให้พวกเราเซ็นเอกสารในการย้ายสังกัดทันทีค่ะ
(เอลเทลจะถามคิริก้าเรื่องของคุณพ่อด้วยค่ะ ซึ่งตรงนี้คิริก้าบอกว่า "น่าเสียดายที่คุณคาซิอุสไม่ได้อยู่ที่ไซสส์ แล้วช่วงหลายเดือนที่ผ่านมาก็ไม่ได้แวะมาที่สาขานี้ด้วย")
- คิริก้าจะมอบ "จดหมายแนะนำตัวถึงหัวหน้าโรงงาน" ให้ เพราะเป็นธรรมเนียมปฏิบัติที่ต้องไปแนะนำตัวกับหัวหน้าโรงงานซึ่งที่ไซสส์นี่สถานะของหัวหน้าโรงงานก็เหมือนกับนายกเทศมนตรี นอกจากนั้นคิริก้ายังบอกอีกว่าถ้าต้องการตรวจสอบออร์บเมนท์สีดำให้ลองไปปรึกษากับหัวหน้าโรงงานจะดีกว่าค่ะ
(เอสเทลรู้สึกว่าคิริก้านี่ยอดเยี่ยมจริง ๆ ขนาดยังไม่ได้บอกรายละเอียดเรื่องราวอะไรเลย แต่เธอเตรียมให้พร้อมหมดทุกอย่าง และก็ได้แต่แอบสงสัยว่าคุณคิริก้าเป็นพวกคนเหนือคนหรือเปล่าเนี่ย)
(41) ต้องการบรรณารักษ์เฉพาะกิจ
(42) บรรณารักษ์เฉพาะกิจทำโอที
(45) ประกาศจับสัตว์ปิศาจบนถนนทุ่งหญ้าทรัต
โรงงานกลางไซสส์ 『ツァイス・中央工房』
- คุยกับ "เฮเซล" ที่ประชาสัมพันธ์ชั้น 1 โรงงานกลาง เธอจะแจ้งไปยังห้องของหัวหน้าโรงงานผ่านทางอินเตอร์โฟนว่าเรามาขอเข้าพบค่ะ
- คุยกับ "หัวหน้าโรงงานเมอร์ด็อกซ์" 『マードック工房長』 ที่ห้องหัวหน้าโรงงานบนชั้น 2 เขาจะบอกว่า
หัวหน้าโรงงานเมอร์ด็อกซ์ "ถ้าเป็นเรื่องของลูก ๆ ของ [คาซิอุส ไบรท์] ผู้มีพระคุณของโรงงานกลางแล้วล่ะก็ไม่มีปัญหาหรอก เพราะที่โรงงานกลางแห่งนี้เรียกได้ว่า เป็นสถานที่ที่เทคโนโลยีออร์บเมนท์ก้าวหน้าที่สุดในทวีปก็ไม่ได้พูดเกินความจริงเลย และเป็นเรื่องธรรมดาที่เวลามีการพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ ๆ จะต้องมีปัญหาขึ้นมามากมาย ดังนั้นเวลาที่มีปัญหาอะไรเกิดขึ้น ทางนี้ก็จะติดตอ่ไปที่สาขารอเลนซ์ให้เขามาช่วยน่ะ"
(ซึ่งหัวหน้าโรงงานเมอร์ด็อกซ์ยินดีมากที่จะให้คำปรึกษากับลูก ๆ ของผู้มีพระคุณค่ะ)
- หลังจากที่เราบอกเรื่องออร์บเมนท์สีดำและเอาให้เมอร์ด็อกซ์ดู เขาจะบอกว่าดูภายนอกก็เหมือนกับออร์บเมนท์ที่ถูกผลิตขึ้นเมื่อเร็ว ๆ นี้ แต่กลับไม่มี [แคริเวอร์] สลักไว้เลย
(จากคำบอกเล่าของเมอร์ด็อกซ์ [แคริเวอร์] คือ หมายเลขรุ่นที่สลักลงบน [เฟรม] (กรอบ) ของออร์บเมนท์ ไม่ว่าจะเป็นออร์บเมนท์ที่ผลิตขึ้นมาจากที่ใดในทวีปนี้ ยังไงก็ต้องมีการสลักหมายเลขรุ่นลงไปค่ะ)
- ซึ่งเมอร์ด็อกซ์ยังกล่าวต่อไปว่า ถ้าไม่มีการระบุ [แคริเวอร์] ลงไป แสดงว่าไม่ต้องการที่จะเปิดเผยถึงที่มาของออร์บเมนท์ ซึ่งเป็นได้สูงว่าต้องมีเรื่องเบื้องลึกเบื้องหลังอะไรแน่ แถมฝาครอบก็ไม่มี ถ้าดูให้ดี ๆ แล้วก็ไม่มีการใช้ตัวเชื่อมประกอบขึ้นมาด้วย ถ้าเป็นแบบนี้จะตรวจสอบดูภายในคงจะยาก
- เอสเทลเสนอให้ลองผ่าเฟรมออก แต่เมอร์ด็อกซ์ไม่เห็นด้วย เพราะยังไงก็เป็นของที่ส่งมาถึงคุณคาซิอุส ถ้ามีรอยจะไม่ดี โยชัวร์พูดขึ้นมาว่าถ้าเป็นดอกเตอร์ที่ว่าคงจะให้เขาตรวจสอบได้ พวกเอสเทลจึงเอากระดาษโน้ตที่ติดมากับออร์บเมนท์ให้เมอร์ด็อกซ์ดู
- เขาจะแนะนำให้เราลองไปปรึกษา "ดร. รัซเซล" เพราะถ้าพูดถึง R คนที่คุณคาซิอุสรู้จักแล้วล่ะก็มีแต่ดร. รัซเซลคนเดียวไม่ผิดแน่
(จากคำบอกเล่าของเมอร์ด็อกซ์ คนที่ประดิษฐ์ออร์บเมนท์ขึ้นมาคือ "ดร. เอปสไตน์" 『エプスタイン博士』ซึ่ง "ดร. รัซเซล" เป็น 1 ในลูกศิษย์โดยตรงของเขาค่ะ และดร. รัซเซลก็ได้นำวิทยาการออร์บเมนท์ เข้ามาสู่ลีเบร์ลเมื่อ 40 ปีก่อน เรียกได้ว่าดร. รัซเซลเป็น "บิดาแห่งการปฏิวัติออร์บเมนท์" ของลีเบร์ลเลยล่ะค่ะ)
- แต่เมอร์ด็อกซ์ก็กังวลว่าถ้าให้ดร. รัซเซลวิจัยออร์บเมนท์นี่ จะทำให้อะไรเกิดขึ้นอีกก็ไม่รู้ อย่างตอนที่เริ่มพัฒนาเรือเหาะออร์บเมนท์ คิดแล้วก็ ฟู่....
- แล้วเมอร์ด็อกซ์จะโฟนเรียก "ทีต้า" หลานสาวของดร. รัซเซลมา เพื่อพาพวกเราไปยังโรงงานรัซเซลค่ะ **ทีต้าเข้ากลุ่มอีกครั้งค่ะ**
เมืองไซสส์ 『ツァイス市』
★ช่วงที่ทีต้าอยู่ด้วยนี้ ถ้าไปคุยกับพวกชาวเมืองจะได้รู้เรื่องราวต่าง ๆ ของทีต้ามากขึ้นนะคะ เช่นว่า ทีต้าหยุดเรียนโรงเรียนวันอาทิตย์ไปนานมาก เพราะมัวแต่ทำงานเป็นวิศวกรฝึกหัดที่โรงงานกลาง หรือว่าจะเป็นเรื่องที่คุณตาของเธอ ดร. รัซเซลชอบทำเรื่องยุ่งวุ่นวายให้กับพวกชาวเมือง อย่างทำแก๊ซระเบิดตอนที่ทำการทดลองค่ะ
★ถ้าไปคุยกับ "คิริก้า" ที่สาขา ขนาดพวกเรายังไม่ได้บอกอะไรกับเธอ เธอจะบอกว่าถ้าโรงงานรัซเซลล่ะก็ จะอยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ของเมือง เอสเทลจะประหลาดใจที่คิริก้าอ่านเรื่องได้ไม่พลาดอีกแล้วค่ะ แต่คิริก้าให้เหตุผลว่าแค่เห็นว่ามีหลานสาวของดร. อยู่ด้วยก็เข้าใจได้ง่ายอยู่แล้วค่ะ
โรงงานรัซเซล 『ラッセル工房』
- ไปที่โรงงานรัซเซลในห้องทดลองบนชั้น 2 จะพบ "ดร. รัซเซล" 『ラッゼル博士』 ที่กำลังคร่ำเคร่งกับการทดลองของเขาอยู่ค่ะ
(จากตรงนี้จะทราบว่า เวลาดร. รัซเซลทำการทดลงอะไรจะไม่สนใจสิ่งรอบข้างเลยค่ะ)
- ตามดร. รัซเซลลงไปที่ชั้น 1
(ทีต้าจะพยายามแนะนำพวกเอสเทลให้คุณตาของเธอได้รู้จัก แต่กลายเป็นว่า ทีต้าต่างหากที่เป็นฝ่ายถูกดึงให้เข้าไปช่วยทำการทดลองโดยลืมเรื่องของพวกเอสเทลไปสนิทเลยซะนี่ แถมโยชัวร์ก็ยังถูกดร. รัซเซลใช้ให้ไปหยิบเอกสารที่ห้องชั้นบน เท่านั้นยังไม่พอยังใช้เอสเทลไปชงกาแฟอีก แถมเรื่องมากต้องเป็นกาแฟดำเท่านั้นอีกแน่ะ นอกจากนั้นเอสเทลยังโดนเรียกว่า "ผมทรงหนวดแมลง" อีกต่างหากค่ะ แหม โดนกันถ้วนหน้าเลยนะคะเนี่ย)
- เมื่อทำการทดลองเสร็จจะเป็นเวลาโพล้เพล้พอดี เอสเทลอดบ่นอุบไม่ได้ว่า
เอสเทล "หลงนึกไปว่า [บิดาแห่งการปฏิวัติออร์บเมนท์] จะเป็นคนที่ยอดเยี่ยมขนาดไหนกันนะ ไม่คิดว่า... จะเป็นคุณปู่บ้าเครื่องจักรแบบนี้เลย"
- "ดร. รัซเซล" ที่ตอนแรกนึกว่าพวกเอสเทลเป็นเด็กเข้าใหม่ของเมอร์ด็อกซ์ซะอีก ได้บอกว่า "ไม่ต้องชมฉันถึงขนาดนั้นร๊อก" (ไม่ได้ชมสักกะหน่อย เขาประชดต่างหากล่ะ) แล้วดร. รัซเซลยังบอกอีกว่า เขารู้จักกับคาซิอุสเมื่อ 20 ปีกว่า ๆ ตอนที่คาซิอุสยังอยู่ในกองทัพค่ะ
(จากนั้น เราจะให้ดร. รัซเซลดูออร์บเมนท์สีดำ ซึ่งดร. ได้ลองเอาคัตเตอร์สำหรับงานช่างที่แข็งแรงเป็นพิเศษ กรีดลงไปที่ด้านหลังของออร์บเมนท์ แต่ออร์บเมนท์ไม่มีรอยขีดข่วนอะไรเลย แถมคัตเตอร์ที่แข็งแรงมาก ๆ กลับเป็นฝ่ายหักซะเองค่ะ)
- หลังจากที่กินข้าวเย็นกันเสร็จเรียบร้อยแล้ว "ดร. รัซเซล" ได้ทำการตรวจสอบออร์บเมนท์ที่ห้องทดลองและได้ตั้งชื่อออร์บเมนท์นี้ว่า [ออร์บเมนท์สีดำ] ง่าย ๆ ได้ใจความตามคำกล่าวที่ว่า "ซิมเปิ้ล อีส เบส" ค่ะ
(ในตอนที่ทำการทดลองอยู่นั้น เข็มวัดระดับหมุนติ้วไม่สามารถวัดค่าของพลังงานภายในที่อยู่ในออร์บเมนท์ได้ แล้วจู่ ๆ ออร์บเมนท์ก็ส่องแสงสีดำออกมา เหมือนตอนของดัลมอร์ ทั้งยังทำให้มีผลกระทบต่อพลังงานออร์บเมนท์ภายในเมืองทั้งหมด ทีต้าจะขอให้คุณตาของเธอหยุดทำการทดลองเดี๋ยวนี้ แต่ดร. รัซเซลดื้อค่ะ เขาขอทดลองต่ออีกนิดเผื่อจะรู้อะไรมากขึ้น เอสเทลวิ่งเข้ามาบอกว่า แสงไฟในตัวเมืองดับหมดเลย เมื่อเป็นอย่างนี้ดร. รัซเซลจึงจำเป็นต้องหยุดการทดลองอย่างเสียไม่ได้ทันที เมื่อหยุดเครื่อง เหตุการทั้งหมดก็กลับคืนสู่ปกติ โดยดร. รัซเซลได้ระบุเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ว่า "ปรากฏการณ์ออร์บเมนท์หยุดการทำงาน" ค่ะ)
- "หัวหน้าโรงงานเมอร์ด็อกซ์" หน้าตาตื่นวิ่งเข้ามาที่โรงงานรัซเซล เขาโกรธมากที่ดร. รัซเซลทำให้เกิดเรื่องอย่างนี้ขึ้นไม่รู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้ง แต่ดร. ปฏิเสธว่าเรื่องเมื่อกี๊ไม่ได้เกี่ยวข้องกับเขาซักกะนิด แต่เป็นเพราะออร์บเมนท์นั่นต่างหาก (มันจะไม่เกี่ยวกับดร. ได้ยังไงกันล่ะค๊า โต๊ง ๆ เลยนะนั่น)
- เช้าวันต่อมา "ทีต้า" จะบอกว่าคุณตาของเธอไปที่โรงงานตั้งแต่เข้าตรู่เพื่อที่จะหาความลับของออร์บเมนท์สีดำค่ะ
(ตอนที่ทีต้าขึ้นมาปลุกพวกเอสเทล เธอลืมไปเลยว่าตั้งซุปเอาไว้ พอพวกเอสเทลได้กลิ่นอะไรบางอย่าง ทีต้าจึงนึกขึ้นมาได้แล้วเลยรีบลงไปดูค่ะ เอสเทลเห็นทีต้าน่ารักขนาดนั้นจึงรู้สึกว่าทีต้าน่าเอ็นดู๊เอ็นดู โยชัวร์เห็นเอสเทลทำตัวแบบนั้น จึงบอกว่าเอสเทลนี่เหมือนพวกคุณลุงเลยค่ะ)
สาขาไซสส์ 『ツァイス支部』
- ไปที่สาขา คุยกับ"คิริก้า" เพื่อแจ้งรายละเอียดของเหตุการณ์เมื่อคืนนี้ ซึ่งเรื่องราวส่วนใหญ่คิริก้ารู้มาจากหัวหน้าโรงงานแล้วค่ะ แต่ต้องการให้พวกเราเล่าถึงสาเหตุที่แท้จริงด้วย
★ถ้าขึ้นไปที่สมาคมบนชั้น 2 จะพบกับเบรเซอร์ประจำสาขานี้ "กุนดอล์ฟ" 『グンドルフ』 กับเบรเซอร์ที่เพิ่งเข้าใหม่อย่าง "หว่อง" 『ウォン』 ซึ่งกุนดอล์ฟต้องเดินทางไปที่นครหลวง เพราะมีเรื่องที่ทางโน้นต้องการคนด่วน ไม่เฉพาะแค่เขาเท่านั้นเห็นว่ายังเรียกเบรเซอร์ของสาขาต่าง ๆ อีก 2 -3 คนด้วยค่ะ
โรงงานกลางไซสส์ 『ツァイス・中央工房』
- คุยกับ "ดร. รัซเซล" ที่ห้องเทคนิคบนชั้น 3 ของโรงงานกลาง
(ดร. รัซเซลจะลองใช้เครื่องมือผ่าเฟรมของออร์บเมนท์อีกครั้ง แต่ไม่สำเร็จ ดูเหมือนว่าออร์บเมนท์สีดำนี่จะมีคุณสมบัติหยุดพลังงานของออร์บเมนท์ทั้งหมด ดังนั้น ดร. รัซเซลคิดว่าถ้าเปลี่ยนไปใช้เครื่องมือที่ไม่ได้ใช้พลังงานจากออร์บเมนท์อย่าง "เครื่องสร้างกระบวนการเผาไหม้จากภายใน" 『内燃機関』 ที่มีการใช้กันมาก่อนการประดิษฐ์ออร์บเมนท์ (เก่าแก่ขนาดทีต้ายังไม่รู้จักเลยล่ะค่ะ) น่าจะผ่าเฟรมออกได้ แต่เครื่องที่ว่าต้องใช้ "แก๊ซโซลีน" 『ガソリン』 เป็นเชื้อเพลิงด้วยน่ะสิ แต่ดูเหมือนว่าตอนนี้ดร. รัซเซลจะลืมไปแล้ว่า เราจะไปหาอุปกรณ์พวกนี้จากที่ไหนกันนะ ทีต้าจึงแนะนำให้ลองไปหาข้อมูลที่ห้องประมวลผลบนชั้น 5 ซึ่งจะมีเครื่องมือที่เก็บรวบรวมข้อมูลทั้งหมดเอาไว้อยู่ค่ะ)
- ได้รับการไหว้วานให้หา "แก๊ซโซลีน" และ "เครื่องสร้างกระบวนการเผาไม้จากภายใน" โดยจะเริ่มหาจากอันไหนก่อนก็ได้นะคะ ตามสะดวกเลยค่ะ
- ที่ห้องประมวลผลบนชั้น 5 "หัวหน้าทรานซ์" จะแนะนำวิธีใช้เครื่องประมวลผล [คาเปล] ที่ดร. รัซเซลเป็นผู้พัฒนาขึ้นให้พวกเราฟังค่ะ (ตอบข้อไหนก็ได้ค่ะ)
- เมื่อฟังคำอธิบายเสร็จ ก็ให้สำรวจ [คาเปล] เพื่อหาข้อมูลของอุปกรณ์ทั้ง 2 อย่าง โดยคำสั่งของคาเปลจะมีดังนี้ค่ะ
เกี่ยวกับโรงงานกลาง > การก่อตั้ง, ประวัติความเป็นมา
> เทคโนโลยีโดยรวม
> เกี่ยวกับข้อมูลโดยรวม > เครื่องสร้างกระบวนการเผาไหม้จากภายใน
> แก๊ซโซลีน
> รถขนของ

- เมื่อได้ข้อมูลที่ต้องการแล้วก็ไปหาอุปกรณ์กันได้เลยค่ะ
- ไปที่ชั้นใต้ดินคุยกับ "เฟย์" 『フェイ』 จะได้ "ถังใส่แก๊ซโซลีน" 『ガソリンタンク』 มาค่ะ ถังจะวางอยู่บนสายพานลำเลียงอย่าลืมหยิบมานะคะ
เมืองไซสส์ 『ツァイス市』
- ที่ท่าเทียบเรือเหาะคุยกับประชาสัมพันธ์ "ซีราล" 『シラール』
(ซีราลจะบอกว่า ตอนนี้หัวหน้าช่างซ่อมบำรุงกุสตาฟไม่อยู่ เพราะในช่วง 2 - 3 วันมานี่หัวหน้าฯ ไปที่ค่ายเรสตอนตลอด แต่ถ้าดร. ไหว้วานมาเขาจะติดต่อกลับไปให้ถ้าหัวหน้าฯ กลับมาค่ะ)
- ในช่วงที่เราคุยกันอยู่ ก็มีเรือเหาะลำหนึ่งกำลังเทียบท่าอยู่ และดูเหมือนว่าหัวหน้าช่างซ่อมบำรุงจะกลับมาแล้วด้วยค่ะ
- หลังจากที่เรือโรงงาน [ไลฟ์นิท] 『ライプニッツ号』 เทียบท่าให้ไปคุยกับ "หัวหน้าช่างซ่อมบำรุงกุสตาฟ" 『グスタフ整備長』 จะได้รับ "ชุดเครื่องสร้างกระบวนการเผาไหม้จากภายใน" 『内燃機関ユーニット』 ซึ่งกุสตาฟได้บอกว่า เจ้าเครื่องนี่ทางกองทัพได้ขอยืมไปเพิ่งจะได้คืนมาวันนี้เอง ซึ่งก็เป็นเรื่องบังเอิญที่น่าสนใจที่ปู่รัซเซลก็ขอยืมเจ้าเครื่องนี่ด้วยเหมืนกันค่ะ
โรงงานกลางไซสส์ 『ツァイス・中央工房』
- เมื่อได้อุปกรณ์ครบแล้ว ก็ไปคุยกับ "ดร. รัซเซล" ที่ห้องเทคนิคบนชั้น 3 ดร. รัซเซลจะเริ่มทำการทดลองใหม่อีกครั้ง โดยใช้พลังงานจากเครื่องสร้างกระบวนการเผาไหม้จากภายในค่ะ
(ถ้าเทียบกับออร์เบิลเอนจิ้นแล้ว เครื่องสร้างกระบวนการเผาไหม้ฯ อันนี้จะมีเสียงค่อนข้างจะดังกว่ามากค่ะ จะว่าไปในโลกของ sora no kiseki นี่ พวกวิทยาการต่าง ๆ คงจะก้าวหน้าไปมากกว่าโลกเราซักเล็กน้อยนะคะ แต่ก็ไม่เห็นมีทีวีเลยนี่เนอะ)
- เมื่อลองผ่าออร์บเมนท์อีกรอบ ดร. จะสามารถทำให้เกิดรอยเล็ก ๆ ขึ้นที่เฟรมเท่านั้นเองค่ะ
- ในตอนนั้นเอง "หัวหน้าโรงงานเมอร์ด็อกซ์" ก็ได้เข้ามาบอกว่า มีข้อความจากเรียวคังที่เอลโมมาถึงดร. รัซเซล แจ้งว่าเครื่องสูบน้ำเสีย แต่ดร. รัซเซลบอกว่าเขากำลังยุ่ง ๆ อยู่ ให้พวกหนุ่ม ๆ ไปทำแทนก็แล้วกัน ทีต้าจึงเสนอตัวขอไปซ่อมเครื่องสูบน้ำแทน โดยมีเอสเทลกับโยชัวร์เลยอาสาคุ้มภัยให้กับทีต้าไปยังหมู่บ้านเอลโมค่ะ
 
ซ่อมเครื่องสูบน้ำที่บ่อน้ำพุร้อนเอลโม
『エルモ温泉のポンプ修理』 (BP5)

(35) ทดสอบผลิตภัณฑ์ตัวใหม่
(36) ค้นหารถขนของ
(37) ซ่อมแซมรถขนของ
(38) ค้นหาเครื่องปรุงแบบใหม่
(39) สัปดาห์รณรงค์งดสูบบุหรี่
(40) ทูตแห่งการขอคืนดี
(46) ประกาศจับสัตว์ปิศาจบนทางหลวงริตเตอร์
☆หากเริ่มเมนเควสต์ไปแล้ว (เข้าไปทำเหตุการณ์ที่โรงเตี๊ยม)
ซับเควสต์ส่วนใหญ่จะหายไปนะคะ ยังไงก็ต้องระวังด้วยค่ะ☆
- ใช้ถนนทุ่งหญ้าทรัต เพื่อมุ่งหน้าสู่หมู่บ้านเอลโม (ทางออกอยู่ทางด้านทิศใต้ของเมืองค่ะ)
หมู่บ้านเอลโม 『エルモ村』
- คุยกับ "คุณป้ามาโอะ" 『マオ婆さん』 โจโจ้ซังแห่งโรงเตี๊ยมโมมิจิ 『紅葉亭』 ค่ะ
(ได้รับทราบว่า หัวหน้าโรงงานเมอร์ด็อกซ์ได้ติดต่อมาหาป้าแกแล้วว่า ดร. รัซเซลให้ทีต้ามาซ่อมเครื่องสูบน้ำแทน ทีต้าจะรีบแก้ตัวแทนคุณตาของเธอว่า คุณตาก็คิดจะมาซ่อมเครื่องสูบน้ำให้อยู่ แต่ติดการทดลองจึงทำให้มาไม่ได้ค่ะ ซึ่งป้ามาโอะก็ไม่ได้ใส่ใจอะไร แถมยังบอกว่าตาแก่นั่นก็มีเรื่องทำการทดลองอยู่ในหัวอย่างเดียวไม่เปลี่ยนเลย ทำให้เราทราบว่าป้ามาโอะเป็นเพื่อนตั้งแต่สมัยเด็กของ ดร. รัซเซลค่ะ)
- ได้รับ "กุญแจกระท่อมเครื่องสูบน้ำ" 『ポンプ小屋の鍵』 มาค่ะ
- เมื่อได้กุญแจมาแล้ว ก็ให้ไปที่กระท่อมทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือของหมู่บ้านค่ะ
(เมื่อได้เห็นเครื่องสูบน้ำที่อยู่ในกระท่อม เอลเทลกับโยชัวร์เห็นว่า เครื่องสูบน้ำนี้ไม่เหมือนกับเป็นของเก่าเลย ทั้ง ๆ ที่ก็ผลิตมาตั้ง 40 ปีแล้ว ทีต้าจึงบอกว่าคุณตาของเธอเป็นคนสร้างขึ้นมาด้วยตัวเอง ก่อนที่จะมีเทคโนโลยีออร์บเมนท์เสียอีกค่ะ นอกจานั้น ทีต้าก็เคยได้ยินมาว่า เครื่องสูบน้ำเครื่องนี้เป็นสิ่งที่สร้างขึ้นเพื่อให้มนุษย์ได้รับความสะดวกสบายในยุคแรก ๆ ค่ะ)
- จากนั้น ทีต้าบอกว่าเธอสามารถทำเองคนเดียวได้ ให้พวกคุณเอสเทลไปเดินชมสถานที่ภายในหมู่บ้านได้ค่ะ **ทีต้าออกจากกลุ่ม**
- เมื่อเข้าไปที่โรงเตี๊ยมโมมิจิอีกครั้ง เราจะบอกกับ "คุณป้ามาโอะ" ว่าถ้าอยู่ข้าง ๆ ทีต้าจะไปรบกวนเธอพวกเราจึงคิดว่าออกมารอที่นี่ดีกว่าค่ะ
(จากคำบอกเล่าของป้ามาโอะ ทีต้าถือได้ว่าเป็นอัจฉริยะมากกว่า ดร. รัซเซลอีกนะคะ เพราะอายุแค่นี้ก็สามารถทำโน่นทำนี่ได้มากกว่าวิศวกรอายุเยอะ ๆ อีกค่ะ)
- "เอ็ด" 『エド』 พนักงานของที่นี่ที่เพิ่งกลับเข้ามาจะมาบอกว่า เห็นพี่สาวที่มาจากนครหลวงออกไปเดินชมวิวแล้วก็เดินเล่นที่ถนนทุ่งหญ้าที่แสนอันตราย ทั้ง ๆ ที่เขาห้ามแล้ว แต่พี่สาวที่เป็นตัวของตัวเองสุด ๆ คนนั้นก็ไม่ฟังค่ะ
- ป้ามาโอะรู้สึกเป็นห่วงมาก เพราะถนนทุ่งหญ้ามีแต่สัตว์ปิศาจเต็มไปหมด อาจจะทำให้แขกคนนั้นจะเป็นอันตรายได้ ดังนั้น พวกเอสเทลจึงอาสาออกไปตามแขกที่ว่านั่นให้ป้ามาโอะค่ะ
ถนนทุ่งหญ้าทรัต 『トラット平原道』
- ออกมาที่ถนนทุ่งหญ้าทรัต ไปทางด้านทิศคะวันตกเฉียงเหนือของฉาก จะพบ "โดรธี" กำลังถูกสัตว์ปิศาจรุมอยู่ค่ะ
- เกิดการต่อสู้กับ (แอคแทคเดอเว่น *6) **โดรธีเป็น NPC**
- ปราบได้ เอสเทลกับโยชัวร์จะรู้สึกถึงความผิดปกติว่า ทั้ง ๆ ที่ระยะทางก็อยู่ำไกลกัน แต่ทำไมสัตว์ปิศาจซึ่งเคยเจอที่ด่านบนยอดเขาโครเน่พวกนี้ ทำไมถึงมาปรากฏตัวถึงที่นี่ได้ค่ะ
(จากคำบอกเล่าของ "โดรธี" เธอมาที่นี่ก็เพื่อมาหาวัตถุดิบทำข่าวดี ๆ ค่ะ แต่ถึงแม้จะเจอเรื่องแบบนี้โดรธีก็ดื้อดึงที่จะไปหาข้อมูลอีกแหน่ะ เอสเทลจึงโกรธมากที่โดรธีไม่รู้จักระวังตัวเอง ทั้ง ๆ ที่คนอื่น ๆ เตือนแล้ว ห้ามแล้วก็ไม่ฟัง โยชัวร์เห็นเอสเทลโกรธมากขนาดนี้ ก็คิดในใจว่าหายากจริง ๆ ที่จะเห็นเอสเทลโกรธคนอื่นได้ถึงขนาดนี้ค่ะ แล้วโยชัวร์จะทำให้เอสเทลใจเย็นลง โดยบอกว่าเครื่องสูบน้ำน่าจะซ่อมเสร็จแล้ว ให้เรากลับไปที่หมู่บ้านกันก่อนค่ะ เพื่อน ๆ ลองสังเกตนะคะ ว่าโดรธีจะกลัวเอสเทลมาก ๆ ก็แหม เวลาเอสเทลโกรธน่ากลัวอย่าบอกใครนี่นา)
- พาโดรธีกลับหมู่บ้านเอลโมโดยสวัสดิภาพค่ะ
หมู่บ้านเอลโม 『エルモ村』
- เมื่อเข้าไปที่หมู่บ้านเอลโมเครื่องสูบน้ำจะซ่อมเสร็จแล้ว โดรธีจึงขอแยกตัวไปแช่น้ำพุร้อน ก่อนไปเธอยังขอบคุณพวกเราที่ช่วยเธอไว้เมื่อกี๊ด้วยค่ะ (ว่าแต่ มาขอบคุณอะไรตอนนี้กันล่ะ)
- ไปรับ "ทีต้า" ที่กระท่อมเครื่องสูบน้ำค่ะ **ทีต้าเข้ากลุ่ม**
- ไปรายงานผลกับ "คุณป้ามาโอะ" เธอจะให้พวกเราแช่น้ำพุร้อนแล้วก็ให้พักที่นี่แทนคำขอบคุณค่ะ
(จากคำบอกเล่าของป้ามาโอะ ทำให้ทราบว่าเมื่อตะกี๊ ตาแก่รัซเซลติดต่อมาบอกว่า "การทดลองทางนี้คงใช้เวลาถึงพรุ่งนี้ คืนนี้ก็พักที่นั่นไปแล้วกัน" ได้ยินดังนั้นพวกเราจึงตกลงพักที่นี่คืนนึงค่ะ)
- ไปเก็บสัมภาระที่ห้องยูซึบนชั้น 2 (ห้องทางขวาล่าง)
(ได้รับทราบจากทีต้าว่า ป้ามาโอะเกิดที่ดินแดนทางตะวันออก แต่ย้ายถิ่นฐานมาที่ลีเบร์ลพร้อม ๆ กับครอบครัว ดังนั้น ห้องของที่นี่ทุกห้องจึงตกแต่งแบบตะวันออกค่ะ)
- ที่ระเบียงทางเดินเชื่อมไปยังบ่อน้ำพุร้อน จะพบกับ "โดรธี" ที่เพิ่งขึ้นจากบ่อน้ำพุร้อนค่ะ เธอจะรอกินข้าวเย็น พร้อมพวกเรา โดยจะรอที่ห้องอาหารไปด้วยแล้วก็ดื่มนมผลไม้ไปด้วยจนกว่าพวกเราจะขึ้นจากน้ำค่ะ
☆ หากสำรวจตรงตะเกียงหินข้างบ่อน้ำใต้ระเบียงทางเชื่อม
จะพบหนังสือ "ระบบนิเวศนกหัวขวานเอลเบ"
ซึ่งเป็นไอเทมสำหรับเคลียร์ซับเควตส์ (42) บรรณารักษ์เฉพาะกิจทำโอที ด้วย อย่าลืมเก็บมานะคะ☆
- เข้าไปที่บ่อน้ำพุร้อน จะเกิดอีเวนท์บ่อน้ำพุร้อนค่ะ
- หลังจากที่คุยเรื่องสัพเพเหระกันแล้ว ทีต้าจะถามเอสเทลว่า
ทีต้า "คุณเอสเทลกับคุณโยชัวร์แต่งงานกันหรือยัง?"
เอสเทล " เอ๋ โทษที ๆ เมื่อกี๊ว่าไงนะ ท่าทางชั้นจะฟังผิดไปแฮะ ชั้นกับโยชัวร์ทำไมนะ"
- ทีต้าถามอีกครั้งอย่างอาย ๆ ว่าเอสเทลกับโยชัวร์แต่งงานกันหรือยัง เอสเทลได้ยินที่ทีต้าถาม ถึงกับร้องออกมาด้วยความตกใจว่าทำไมถึงคิดแบบนั้น
ทีต้า "กะ ก็เห็นนามสกุลเหมือนกัน แล้วก็ดูไม่เหมือนว่าเป็นพี่ชายน้องสาวด้วย หนูก็เลยคิดว่าเป็นแบบนั้นน่ะสิ"
เอสเทล "ที่ไม่เหมือนกันก็เพราะไม่ได้มีสายเลือดเดียวกัน ละ แล้วที่นามสกุลเหมือนกัน ก็เพราะว่าโยชัวร์เป็นลูกบุญธรรมของคุณพ่อต่างหากเล่า"
ทีต้า "เหะ เหะ ขอโทษค่ะ ดูเหมือนหนูจะเข้าใจผิดไป"
เอสเทล "เข้าใจผิดเต็ม ๆ เลยล่ะ ก็ชั้นกับโยชัวร์เพิ่งจะอายุ 16 เองนะ เรื่องแต่งงงแต่งงานอะไรนั่น มันเป็นเรื่องหลังจากนี้อีกนานเลยล่ะ"
ทีต้า "อ๋อ ถึงจะชอบกันขนาดไหน ก็ไม่แต่งงานกันเร็วขนาดนั้นสินะคะ"
เอสเทล "ก็บอกว่าชั้นกับโยชัวร์ไม่ใช่คนรักกัน ไม่ได้มีอะไรกันยังไงล่ะ เป็นแค่ครอบครัวเท่านั้น ครอบครัวน่ะได้ิยินไม๊"
ทีต้า "งะ งั้นเหรอคะ"
เอสเทล "ก็งั้นสิ ....นี่ ทีต้าจัง ชั้นกับโยชัวร์ดูเหมือนเป็นแบบนั้นเหรอ"
ทีต้า "ดูเหมือนเป็นแบบนั้น?"
เอสเทล "กะ ก็ดูเหมือนเป็นคนรักกันไง แบบว่าเลิฟเลิฟ หรือเร่าร้อน หรือจู๋จี๋ดู๋ดี๋ อะไรแบบนั้นน่ะ"
ทีต้า " อ๋อ ไม่ได้รู้สึกแบบนั้นหรอกค่ะ แต่เป็นบรรยากาศแบบที่ว่า เวลาอยู่ด้วยกันให้ความรู้สึกที่เป็นธรรมชาติ ไม่ต้องพูดอะไรก็เข้าใจซึ่งกันและกันน่ะ"
เอสเทล "ก็นะ ท่าทางจะเป็นอย่างนั้นบ้างนิดหน่อย แต่ดูแล้วไม่ให้บรรยากาศแบบครอบครัวหรือว่าเพื่อนเหรอ ชั้นว่าชั้นกับโยชัวร์น่าจะมีบรรยากาศแบบนั้นมากกว่านะ"
- แล้วเอสเทลจะลองนึกถึงเรื่องราวต่าง ๆ ที่ทำมาด้วยกันกับโยชัวร์ ว่าแล้วก็เขินสุด ๆ พลางคิดไปว่าที่ผ่านมาตััวเธอทำอะไรลงไปเนี่ย
เอสเทล "นี่ชั้นทำเรื่องน่าอายแบบนั้นมาจนถึงตอนนี้เลยเหรอเนี่ย"
ทีต้า "คุณเอสเทล หน้าแดงจังเลยค่ะ"
เอสเทล "หวะ หวา ไม่มีอะไร ไม่มีอะไร ไม่สิ ยังไงก็ตาม ไอ้บ่อน้ำพุร้อนเนี่ยมันได้ผลจริง ๆ นะ จริงสิ เห็นบอกว่ามีบ่ออาบน้ำกลางแจ้งด้วยนี่ ชั้นจะลองไปที่นั่นดูนะ"
- พูดจบเอสเทลก็รีบตาลีตาเหลือกวิ่งออกไป
ทีต้า "อ๊ะ ค่ะ....------อ๊ะ จะว่าไป คุณเอสเทล บ่ออาบน้ำกลางแจ้งนั่นมัน................ บ่อรวมนะคะ!!"
- ที่บ่ออาบน้ำกลางแจ้งสาวน้อยเอสเทลที่มีแค่ผ้าตัวผืนเดียวห่อหุ้มร่างกายเอาไว้ครุ่นคิดอยู่คนเดียว
เอสเทล "(เฮ้อ พอพูดแล้วหัวใจแทบจะระเบิด ชั้น..... ก่อนนี้ทำไมถึงทำเรื่องแบบนั้นลงไปได้นะ จนถึงตอนนี้ก็ไม่ได้คิดเรื่องทำนองนั้นกับโยชัวร์เลยแท้ ๆ ..........โอ๊ย พอ ๆ มันไม่ใช่ตัวชั้นเลยนี่)"
- เอสเทลก็เดินลงไปในบ่อน้ำพุร้อน
เอสเทล "ฮ้า รู้สึกดีจัง ห้องอาบน้ำด้านในก็ว่าดีแล้ว ข้างนอกนี่ยิ่งวิเศษสุด ๆ เลยแฮะ อืม กว้างก็กว้าง ทำอะไรได้อิสระด้วย"
เสียงเด็กชาย "แต่ถึงจะพูดอย่างนั้น ก็ว่ายน้ำไม่ได้นะ"
เอสเทล "แหง่ะ ไม่ทำอย่างนั้นหรอกน่า................เอ๊ะ"
- ด้วยไอน้ำในบ่อน้ำร้อนทำให้เอสเทลไม่ทันที่จะสังเกตสิ่งรอบ ๆ ตัวในตอนแรก เธอพยายามมองหาที่มาของเสียง และ ณ เบื้องหน้าของเอสเทลนั้นก็พบกับชายหนุ่มที่มีเพียงผ้าเช็ดตัวผืนเดียวที่ห่อหุ้มร่างกายเอาไว้
โยชัวร์ "ไง เอสเทล ผมเข้ามาก่อนแล้วน่ะ ฮะฮะ ในสภาพแบบนี้ก็น่าอายเหมือนกันนะ"
เอสเทล "............................"
โยชัวร์ "ตะ แต่ว่าบ่อน้ำพุร้อนนี่ได้ผลกว่าที่คิดเอาไว้อีกนะ ดูเหมือนว่าจะดีกับบาดแผล แล้วก็บรรเทาความเหนื่อยล้าที่สะสมมาให้หายเป็นปลิดทิ้งเลยล่ะ ท่าทางน่าจะเหมาะต่อการทำงานของเบรเซอร์นะ"
เอสเทล "............................"
โยชัวร์ "นี่ สภาพอย่างนี้ไม่พูดอะไรเลยมันไม่ค่อยสบายใจนะ"
เอสเทล "เอ๊ะ อือ อา............................. กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด"
- "คุณป้ามาโอะ" เข้ามาต่อว่าพวกเอสเทลที่ร้องเสียงหลงถึงขนาดนั้น และได้อธิบายว่าบ่ออาบน้ำกลางแจ้งเนี่ย เขาก็ได้เขียนเอาไว้อยู่แล้วว่าเป็นบ่อรวม ทำเอาเอสเทลถึงกับจ๋อยไปเลยค่ะ
- เมื่อป้ามาโอะกลับไปทำงานต่อ เอสเทลจะต่อว่าโยชัวร์ว่าที่เป็นแบบนี้ก็เพราะโยชัวร์ทั้งหมด โยชัวร์เถียงว่าเป็นเพราะเอสเทลต่างหากที่ร้องซะเสียงดังอยู่คนเดียว แถมยังไม่ระวังตัวเองด้วย มีป้ายที่เขียนบอกอยู่แท้ ๆ แต่ก็ไม่รู้จัีกสังเกตบ้าง
เอสเทล "พูดจาซะใหญ่โต เพราะงี้ไงถึงได้ว่านายมันไม่น่ารักเอาซะเลย"
โยชัวร์ "อ๋อ อย่างนั้นเหรอครับ ก็ได้ อันที่จริงถึงเธอจะคิดว่าผมน่ารัก ผมก็ไม่ได้รู้สึกดีใจหรอกนะ"
เอสเทล "ว่าไงนะ"
โยชัวร์ "ก็อะไรล่ะ มองคนอื่นแล้วร้องเสียงหลงอย่างนั้น ถูกอีกฝ่ายทำอย่างนั้นใส่ ไม่คิดไม่ฝันมาก่อนเลยนะ"
เอสเทล "ก็ตอนนั้น จะ จังหวะมันไม่ค่อย....... ไม่สิ ชั้นไม่ได้รังเกียจที่ต้องอยู่กับโยชัวร์หรอกนะ"
โยชัวร์ "พอเถอะ ไม่ต้องฝืนหรอก ผมจะขึ้นแล้ว ทั้ง 2 คนค่อย ๆ แช่น้ำไปแล้วกันนะ"
เอสเทล "ชั้นไม่ได้บอกซักคำว่ากำลังฝืนอยู่ไม่ใช่เหรอ! โยชัวร์ บ้า!"
โยชัวร์ "หึ ใครบ้ากันแน่"
- ทีต้าเห็นทั้ง 2 คนทะเลาะกันจะหัวเราะแล้วบอกว่า
ทีต้า "อิจฉาพวคุณเอสเทลจัง ก็หนูน่ะไม่มีพี่น้องให้ทะเลาะกันแบบนี้นี่นา คุณตาก็ใจดีไม่ค่อยดุหนูหรอก คุณพ่อกับคุณแม่ก็ไม่ค่อยได้อยู่ด้วยกัน เพราะว่าทั้ง 2 คนเป็นวิศวกรไปทำงานที่ต่างประเทศหลายปีแล้ว ได้ยินมาว่าไปเผยแพร่เทคโนโลยีออร์บเมนท์ในสถานที่ที่วิทยาการยังเข้าไม่ถึง แล้วก็ไม่ได้กลับมาที่ไซสส์ได้หลายปีแล้ว แต่หนูไม่เหงาหรอกนะคะ เพราะว่าคุณตาก็ยังอยู่ด้วย แถมทุกคนที่โรงงานกลางก็มีแต่คนใจดี พอมองพวกคุณเอสเทลแล้ว ก็เลยรู้สึกอิจฉาขึ้นมานิดหน่อย"
- ได้ยินดังนั้น เอสเทลจึงตัดสินใจว่าจะเป็นพี่สาวให้กับทีต้า แน่นอนว่าโยชัวร์ก็ต้องเป็นพี่ชาย ว่าแล้วเอสเทลก็ให้ทีต้าตัดคำว่า "คุณ" ออก แล้วให้เรียกพวกเธอซะใหม่ว่า "พี่เอสเทล" กับ "พี่โยชัวร์" ค่ะ
- อีกด้านหนึ่ง "โดรธี" ที่กำลังนั่งรอพวกเอสเทลอยู่ ก็ดื่มนมผลไม้มากเกินไปจนพุงจะแตกอยู่แล้ว ฮือ ฮือ
(หลังจากพวกเอสเทลขึ้นจากน้ำก็มาหาโดรธีแล้วกินข้าวเย็นกัน จากนั้นทั้ง 4 คนก็เล่นไพ่กัน แล้วก็กลับไปแช่น้ำพุร้อนต่อตอนกลางคืนอีกครั้งค่ะ)
☆หลังจากนี้เราสามารถเข้าไปใช้บ่อน้ำพุร้อนเพื่อเพิ่ม HP & CP ได้ด้วยนะคะ☆
- เช้าวันต่อมาพวกเราจะเดินทางกลับไปยังเมืองไซสส์
★หากตอนนี้เข้าไปที่โรงเตี๊ยมโมมิจิอีกคร้ง ห้องของโดรธีบนชั้น 2 จะแขวนป้ายติดไว้ว่า "กำลังหลับอย่างเอาเป็นเอาตาย กรุณาอย่ารบกวน" ด้วยนะคะ
- ขณะที่กำลังจะเดินออกจากหมู่บ้าน "โดรธี" ในสภาพงัวเงียเพิ่งตื่นนอน จะขอตามพวกเราไปที่ไซสส์ด้วยค่ะ **โดรธีเข้าเป็น NPC**
(จู่ ๆ โดรธีก็เรียกทีต้าอย่างสนิทสนมว่า "ทีจัง" โดยให้เหตุผลว่า "ทีต้าจัง" มันเรียกยากด้วยนะคะ)
ถนนทุ่งหญ้าทรัต 『トラット平原道』
- เมื่อออกจากหมู่บ้านจะเจอกับ "ชายร่างใหญ่" (จิน) เขาบอกว่าได้มาจากประเทศทางตะวันออก "สาธารณรัฐคาลวาร์ด" ค่ะ (โดรธีกับทีต้าจะเรียกเขาว่า "คุณหมี" ค่ะ) เขาจะถามทางไปบ่อน้ำพุร้อนที่ชื่อเอลโมค่ะ จินจะมองพวกเอสเทลแล้วบอกว่า "พวกนายคงจะเป็น..."
- พอโยชัวร์ถามว่ามีอะไรหรือเปล่า จินบอกว่าไม่มีอะไรแล้วก็เดินจากไปค่ะ
- เอสเทลเห็นลักษณะท่าทางของชายคนเมื่อตะกี๊ ก็พูดขึ้นมาว่าเป็นคนที่ดูล่องลอยจังเลยนะ ทีต้ากับโดรธีได้ยินก็เข้าใจไปอีกแบบ และบอกว่าเหมือนคุณหมีจริง ๆ ค่ะ แต่อันที่จริงแล้วเอสเทลหมายความว่า "ไม่ใช่หมีหรอก ท่าทางจะเป็นผู้มีทักษะการต่อสู้อย่างแพรวพราวเลยแหล่ะ ที่ดูออกก็เพราะว่ายังไงชั้นก็เป็นคนในตระกูลนักสู้นะ" โยชัวร์จะเสริมว่า "วิธีการเดิน ก็ไม่ใช่เดินแบบไร้ประโยชน์ ตามที่เอสเทลอ่านคงจะเป็นระดับผู้เชี่ยวชาญเลยล่ะ"
- มุ่งหน้าสู่เมืองไซสส์กันต่อได้เลยค่ะ
 
เหตุการณ์ประหลาดที่โรงงานกลาง1-2
『中央工房の異変①‐②』 {BP6(+8)}

โรงงานกลางไซสส์ 『ツァイス・中央工房』
- เมื่อมาถึงเมืองไซสส์ ที่โรงงานกลางจะถูกปกคลุมไปด้วยกลุ่มควันปริศนา
- ทุกคนออกมาข้างนอกหมดแล้ว แต่ว่า ดร. รัซเซลไม่อยู่ที่นี่ คาดว่าน่าจะยังติดอยู่ด้านในที่ห้องเทคนิคบนชั้น 3 พวกเอสเทลรวมทั้งทีต้าที่รู้จักทางในโรงงานกลางดี จะเข้าไปหา ดร. รัซเซลด้านใน ส่วนโดรธีพวกเอสเทลจะไม่ให้เข้าไปด้วย เพราะว่าอันตรายเกินไปค่ะ
☆หากคุยกับ "เอลวิน" 『エルウィン』 ที่อยู่ใกล้ ๆ ทางออกของโรงงานกลาง
เขาบอกว่าได้หยิบไอเทมมาจากร้านสารพัดอย่าง "เบล สเตชั่น" ของเขามาเผื่อจำเป็นด้วย
ซึ่งเขาจะมอบไอเทมให้เรา 1 อย่าง เพื่อน ๆ เลือกเอาได้เลยค่ะว่าจะเอาไอเทมไหนจาก 3 อย่างดังนี้
"ตุ๊กตาเปลี่ยนแทน", "ยาแห่งอาเซราส", และควอทซ์ "คมดาบศิลา" ค่ะ☆
- เมื่อเข้ามาด้านใน โยชัวร์จะบอกว่านี่เป็นควันที่มีไว้ใช้ปั่นป่วนเฉย ๆ คงมีต้นตอของควันอยู่ในโรงงานกลางแห่งนี้แน่นอน
- หากเราสามารถค้นหาท่อปล่อยควันในแต่ละชั้น จะได้รับโบนัส BP ด้วยนะคะ สถานที่มีดังนี้เลยค่ะ
(1) B1 ใกล้กับสายพานด้านบนซ้ายที่อยู่ในห้อง
(2) 1F ใกล้กับม้านั่ง
(3) 2F ข้างลิฟท์
(4) 3F ห้องวางแผน
(5) 4F ห้องทดลอง
- จำนวนของท่อปล่อยควันที่เราพบมีผลทำให้โบนัส BP เป็นดังนี้ค่ะ
พบ 1 ที่ BP+1
พบ 2 ที่ BP+2
พบ 3 ที่ BP+3
พบ 4 ที่ BP+4
พบ 5 ที่ BP+5

☆ในตอนนี้ลิฟท์จะใช้งานไม่ได้ ต้องใช้บันไดหนีไฟแทนค่ะ
(ทีต้าบอกว่าปกติไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็สามารถใช้งานได้ แต่ตอนนี้น่าจะมีคนใช้ลิฟท์อยู่แน่ ๆ
โยชัวร์รู้สึกว่ามันแปลก ๆ เพราะถ้ามีคนใช้ลิฟท์ก็ต้องมีการเลื่อนขึ้นเลื่อนลงแล้วล่ะ)
- ที่ชั้น 3 ใน "ห้องเทคนิค" เราจะไม่พบใครเลย มีแต่เครื่องมือที่ยังคงทำงานอยู่ แถมออร์บเมนท์สีดำก็หายไปด้วย
- พบกับ "อากัต" เราะจะถามว่าทำไมเขาถึงมาอยู่ที่นี่ได้ แต่อากัตบอกว่าเขาควรจะเป็นฝ่ายถามมากกว่า แล้วทำไมยัยหนูนี่ถึงมาอยู่ที่นี่ได้ (อากัตจะจ้องทีต้าเขม็งจนเธอกลัวด้วยนะคะ)
- เมื่อเล่าเรื่องราวต่าง ๆ ให้อากัตฟัง เขาจะให้เราร่วมมือกันหาดร. รัซเซลกับเขาค่ะ **อากัตเข้าเป็นพวก**
-ที่ชั้น 5 จะพบกับดร. รัซเซลที่กำลังถูกกลุ่มคนชุดดำจับแล้วกำลังหนีลงลิฟท์ไป
★หากเราเข้าไปสำรวจ "คาเปล" ที่ห้องประมวลผล จะพบว่าหน่วยประมวลผลของคาเปลหายไปค่ะ โยชัวร์บอกว่าเป็นไปได้อย่างมากที่พวกนั้นจะเอาไปด้วย**
- จากการวิเคราะห์ของอากัต พวกคนชุดดำอาจจะหนีไปที่เมืองหรือที่ทางออกอุโมงค์ใต้ดินก็เป็นได้ ยังไงก็ต้องลองไปหาดูค่ะ
- ไปที่ "ชั้นใต้ดิน" เราจะไม่พบกับกลุ่มคนชุดดำ และำไม่คิดด้วยว่าพวกศัตรูจะหนีไปทางนี้ เพราะไม่มีรอยเท้าใหม่ ๆ เหลือทิ้งไว้ค่ะ (ไม่บังคับค่ะ)
- ไปที่ "ชั้น 1" เราจะเห็นประตูลิฟท์เปิดค้างอยู่ นั่นหมายความว่ากลุ่มคนชุดดำหนีลงมาที่ชั้นนี้แล้วออกไปที่ตัวเมืองค่ะ
- ออกมาด้านนอกโรงงานกลาง "หัวหน้าโรงงานเมอร์ด็อกซ์" ได้บอกกับพวกเราว่า เห็นมีพวกกองทัพออกมา นึกว่ามีอะไรเกิดขึ้นซะอีก ส่วนโดรธีก็บอกว่า ทหารพวกนั้นสวมเครื่องแบบสีขาว-น้ำเงิน แสดงว่าต้องเป็นหน่วยองค์รักษ์ขององค์ราชินีแน่ ๆ เลย
- พวกเรารู้สึกสงสัยว่า กองทัพที่เคยช่วยเหลือตอนคดีของดัลมอร์ที่รูอันมาที่นี่ได้ยังไง ทีต้าจึงถามเมอร์ด็อกซ์ว่า คนพวกนั้นแบกคุณตาของเธอออกมาด้วยหรือเปล่า พอได้ฟังเมอร์ด็อกซ์ว่า ไม่เห็นดร. รัซเซลแต่เห็นคนกลุ่มนั้นแบกสัมภาระอันใหญ่ออกมาด้วยเท่านั้น ทำให้พวกเอสเทลรู้เลยว่า องครักษ์ที่พวกเมอร์ด็อกซ์เห็น เป็นพวกคนชุดดำปลอมตัวหนีออกไปค่ะ
- จากนั้น เราจะแยกกันค้นหาทั่วพื้นที่เมืองไซสส์ แต่หาเท่าไรก็ไม่พบตัวพวกที่ลักพาตัว ดร. รัซเซลได้ค่ะ
- ที่ห้องหัวหน้าโรงงาน "ร้อยเอกคาโนเน่" ได้มารับเรื่องที่เกิดขึ้นและบอกว่าเหตุการณ์นี้น่าจะเป็นการก่อการร้าย ซึ่งตอนนี้เธอได้สั่งการให้ แอร์ แลตเท่น, ป้อมวูลฟ์, เส้นทางกองทัพโซลดาร์ทและประตูเซนต์ไฮม์ตั้งด่านจับเรียบร้อยแล้วค่ะ
- โยชัวร์ถามร้อยเอกคาโนเน่ว่า คิดยังไงที่คนพวกนั้นปลอมตัวเป็นหน่วยองครักษ์ แต่คาโนเน่ไม่ใส่ใจ หันหันไปถามขอควอทซ์ไวแสงในกล้องที่โดรธีถ่ายรูปไว้ไปทำการตรวจสอบ ตอนแรกโดรธีไม่ยอมให้ เพราะเธออุตส่าห์ได้สกู๊ปแล้ว แต่สุดท้ายด้วยเหตุผลของร้อยเอกคาโนเน่จึงต้องยอมยกให้ไปค่ะ
- ร้อยเอกคาโนเน่ยังได้บอกให้พวกเบรเซอร์เลิกติดตามคนพวกนั้นด้วยค่ะ แต่อากัตบอกว่า เขาตามพวกคนชุดดำมาตั้งแต่ต้นแล้วยังไงก็ต้องตามต่อไป ร้อยเอกคาโนเน่บอกว่า "ช่วยไม่ได้ งั้นก็ตามต่อไปเถอะ แต่ถ้าได้ข้อมูลอะไรให้ช่วยแจ้งไปยัง [หน่วยสืบข้อมูล] ที่ค่ายเรสตอนด้วยก็แล้วกันนะ" ซึ่งอากัตก็ตกลง แต่ก็ยื่นข้อเสนอว่าถ้าทางคาโนเน่มีอะไรก็ต้องแจ้งมาที่สาขาไซสส์เหมือนกันค่ะ
- หลังจากคาโนเน่ไปแล้ว อากัตพูดว่า "ยังไงชั้นก็ไม่ถูกกับพวกทหารอยู่ดีนั่นแหล่ะ" แล้วเขาจะบอกให้เราไปรายงานเรื่องนี้ที่สาขาจากนั้นค่อยออกตามหากลุ่มคนชุดดำ ซึ่งคราวนี้เขาจะให้พวกเอสเทลทำงานร่วมกับเขาด้วยค่ะ
(เอสเทลรู้สึกหงุดหงิดอากัตนิด ๆ ว่าทำไมคราวนี้จู่ ๆ อากัตก็อนุญาตให้พวกเธอไปด้วยได้ล่ะ อากัตบอกว่าก็ดูเหมือนคราวนี้พวกนายจะใช้ประโยชน์ได้น่ะนะ)
★คุยกับ "เร" 『レイ』 ที่ห้องทดลองบนชั้น 4 เขาจะน้อยใจว่า ที "คาเปล" ยังถูกขโมยไป แต่ทำไม "มะเขือเทศรสขม" ของเขากลับไม่ถูกเอาไปด้วยล่ะเนี่ย
- ออกมานอกโรงงานโดรธีจะขอแยกตัวไปซื้อควอทซ์ไวแสงแทนอันที่ร้อยเอกคาโนเน่ขอไปค่ะ **โดรธีออกจาก NPC**
เมืองไซสส์ 『ツァイス市』
- ที่สมาคมจะพบกับ "ศจ. อัลบา" 『アルバ教授』 ที่มาแจ้งว่า ตอนที่เขาไปสำรวจหอคอยก็ไปเห็นพวกกองทัพหลายคนเข้าไปในหอคอยแดงชาด แต่เขารู้สึกว่ามันแปลก ๆ เหมือนกับพวกนั้นหาเส้นทางหนีมากกว่าค่ะ
- เมื่อพวกเอสเทลได้รับข้อมูลดังนั้น จึงตัดสินใจที่จะตามไปช่วยดร. รัซเซลค่ะ ซึ่งทีต้าจะขอตามไปด้วย แต่อากัตไม่อนุญาตให้ไป โดยให้เหตุผลว่า "ยัยจิ๋วนี่จะไปเกะกะซะเปล่า ๆ" เอสเทลโกรธที่อากัตพูดจาหักหาญน้ำใจแบบนั้น แต่โยชัวร์ก็เห็นด้วยกับอากัตที่จะไม่ให้ทีต้าไปด้วย เพราะมันอันตรายเกินไปค่ะ **ทีต้าออกจากกลุ่ม**
- หลังจากทีต้าวิ่งร้องไห้ออกไป โยชัวร์จะห้ามไม่ให้เอสเทลตามไป เพราะตอนนี้สิ่งที่จะช่วยเยียวยาทีต้าได้คือการช่วยดร. รัซเซลออกมาต่างหาก จากนั้นอากัตจะให้คิริก้าติดต่อไปทางกองทัพเพื่อรายงานข่าวที่ได้มาค่ะ
- ใช้ถนนทุ่งหญ้าทรัต เพื่อมุ่งสู่หอคอยแดงชาดได้เลยค่ะ
☆ก่อนที่จะเข้าไปทำเหตุการณ์ที่หอคอยแดงชาด อย่าลืมแวะไปคุยกับ "บรูโน" 『ブルーノ』 ที่ป้อมวูลฟ์ เขาจะให้ "คาร์เนเรีย เล่ม 7" มาค่ะ
หอคอยแดงชาด 『紅蓮の塔』
- เมื่อเข้าไปในหอคอยจะเกิดการต่อสู้กับ (แอคแทคเดอเว่น *5) ทันทีค่ะ
- ปราบได้ จะมีคำตอบให้เลือกดังนี้ค่ะ
単なる偶然とか?
เป็นเรื่องบังเอิญทั่วไป?
BP+0
この塔に棲みついてる?
ย้ายถิ่นมาอยู่ที่หอคอยนี่?
BP+1
黒衣束の連中と関係?
มีความเกี่ยวข้องกับพวกคนชุดดำ?
BP+3

- เราจะพิจารณาถึงเรื่องที่พบกับพวกสัตว์ปิศาจที่เคยพบบนยอดเขาโครเน่ค่ะ
อากัต "สัตว์ปิศาจพวกนั้นคงจะเป็น [สุนัขสงคราม] หลังจากที่ชั้นเริ่มทำการตรวจสอบเจ้าพวกนั้น ก็มักจะมีสุนัขพวกนี้เข้ามาโจมตีอยู่เสมอ จะว่าไปแล้ว เพราะพ่อของพวกนายดันทิ้งงานนี่ไว้ให้นั่นแหล่ะ มันสร้างความวุ่นวายให้กับชั้นใช่ย่อยเลยนะ แล้วงานในครั้งนี้ตาลุงเปิ่นนั่นก็เล่นทิ้งเอาไว้ให้ก่อนจะเกิดคดีสลัดอากาศได้ไม่นาน แต่ตอนนี้ยังไงก็ต้องตรวจสอบต่อไป นอกจากนั้นชั้นก็อยากจะจับ [เจ้านั่น] ให้ได้ด้วย"
- พวกเอสเทลได้ฟ้ง ก็ประหลาดใจที่พ่อของพวกเธอเป็นคนมอบงานนี้ให้อากัต แล้วก็อดสงสัยไม่ได้ว่า "เจ้านั่น" ทีอากัตว่าเป็นใคร แต่อากัตไม่ยอมบอกค่ะ
- ในหอคอยแดงชาดจะมีหีบสมบัติที่มีสัตว์ปิศาจออกมาด้วยนะคะ จะสู้กับ (รับเบอร์ทรัฟเวอร์ *3) ทั้งหมด 5 หีบค่ะ ของดี ๆ ทั้งนั้นเลย อย่าลืมเก็บมาด้วยนะคะ
- บนชั้นดาดฟ้าจะพบกับกลุ่มคนชุดดำค่ะ
- คนชุดดำ *2 + คนชุดดำ มือปืน -
- 『黒装束*2+黒装束 銃』 -
**แนะนำให้ใช้อาร์ท "คาออสแบรนด์" ทำให้ศัตรูติด "สับสน" แล้วจะง่ายขึ้นค่ะ**
- ปราบได้ คนชุดดำจะขู่ทำร้ายตัวประกัน อากัตบอกว่าตอนนี้กองทัพเคลื่อนไหวแล้ว พวกแกต้องโดนจับอย่างแน่นอน แต่พวกคนชุดดำกลับหัวเราะออกมา อากัตสงสัยว่าหัวเราะเรื่องอะไรกัน
- ทันใดนั้น เรือเหาะก็ปรากฏออกมารับพวกกลุ่มคนชุดดำ ในเมื่อพวกมันมีตัวประกันอยู่ โยชัวร์กับอากัตเห็นว่าตอนนี้แกล้งทำเป็นยอม ๆ ไปก่อน แล้วรอจังหวะโจมตีเวลาที่พวกมันอุ้มดร. รัซเซลขึ้นเรือเหาะค่ะ
- เมื่อจังหวะที่ได้รอมาถึง จู่ ๆ "ทีต้า" ก็โผล่เข้ามาช่วยคุณตาของเธอ แต่กลับทำให้เหตุการณ์ยิ่งแย่เข้าไปใหญ่ค่ะ
- อากัตเข้ามากันทีต้าให้พ้นจากปืนของคนชุดดำ แล้วกลุ่มคนชุดดำก็ใช้จังหวะนี้ชิงหนีไปซะก่อน
- เมื่อกลุ่มคนชุดดำลักพาดร. ไปได้สำเร็จ ทีต้าก็ร้องไห้ไม่หยุด โยชัวร์เห็นว่าควรกลับไปรายงานผลที่ไซสส์กันก่อน แต่ดูเหมือนทีต้าจะไม่เย็นลงเลย
อากัต "นี่ ยัยจิ๋ว"
ทีต้า "......?"
- "เพี๊ยะ" อากัตตบหน้าทีต้าที่ไม่ทันตั้งตัวแม้แต่น้อย
ทีต้า "...อ๊ะ....!"
เอสเทล "ดะ เดี๋ยวก่อน!"
อากัต "พูดไปแล้วใช่ไม๊ว่าจะมาเกะกะชั้นน่ะ เพราะเธอเขามาขวางโอกาสที่จะช่วยคุณตาก็เลยหลุดลอยไป เธอคิดจะรับผิดชอบยังไงล่ะ"
ทีต้า "อ๊ะ....หนู....หนู ไม่ได้คิดจะ......."
อากัต "แล้วไอ้การข่มขู่ไม่ได้เรื่องอย่างนั้นน่ะ ก็ทำให้ชีวิตตกอยู่ในอันตรายอีกต่างหาก..... ชั้นน่ะนะ ไอ้ประเภทที่ไร้ความสามารถแล้วยังอยากจะแสดงออก เห็นแล้วอยากจะอาเจียนที่สุดเลยเฟ้ย"
ทีต้า "ขะ..ขอโท... ขะ..ขอโท..ษ..ค่ะ... อา...ฮึ... ฮืออออ...."
เอสเทล "ดะ เดี๋ยวก่อน! ทำไมถึงพูดจาโหดร้ายอย่างนั้นล่ะ!? ทีต้าก็แค่อยากจะช่วยคุณตาเท่านั้นเอง"
อากัต "หุบปากเหอะน่า ....นี่ ยัยจิ๋ว จะร้องไห้อย่างนั้นก็ได้ แต่ฟังนะ"
ทีต้า "อึ....ฮือออ..."
อากัต "เธอน่ะ ทำอย่างนี้จะดีเหรอ เอาแต่สิ้นหวังโดยไม่คิดจะช่วยคุณตาหรือยังไง?"
- ทีต้าได้แต่ส่ายหน้า เธอยังคงมีจิตมุ่งมั่นที่จะช่วยคุณตาของเธอ แม้ใบหน้าของเธอตอนนี้จะมีแต่น้ำตาที่ไหลอาบแก้ม
อากัต "ถ้าอย่างนั้น ก็อย่าละทิ้งจิตใจนั่น จะร้องไห้คร่ำครวญก็ได้ แต่ก่อนอื่นต้องยืนได้ด้วยลำแข้งของตัวเองสิ คนที่เอาแต่สร้างความลำบากอย่างเธอน่ะ จะสามารถช่วยคนได้หรือไงกัน"
ทีต้า "อ๊ะ..."
อากัต "ถ้ายังทำไม่ได้ ก็ไม่ต้องมาเกะกะพวกชั้นอีกเป็นครั้งที่ 2 กลับไปนอนคลุมโปงร้องไห้ให้สมกับที่เป็นเด็กอมมือซะ......... ฮึ แต่ถ้าเป็นชั้นล่ะก็ คงไม่ยอมให้ใครมาช่วยหรอก"
ทีต้า "........................................"
เอสเทล "ทีต้า"
ทีต้า "............ไม่เป็นไรหรอก...พี่จ๋า.........หนู.....ลุกขึ้นเองได้....."
อากัต "เหอะ ถ้าจะทำก็ทำได้ไม่ใช่เหรอไง"
ทีต้า "ต้อง...ขอโทษ...จริง ๆ..นะคะ เพราะหนูแท้ ๆ คนพวกนั้นถึงหนีไปได้"
เอสเทล "เด็กโง่.... ไม่ใช่เรื่องที่จะต้องมาขอโทษขอโพยอะไรเลยนะ"
โยชัวร์ "อืม แค่ทีต้าไม่เป็นอะไรไปก็ดีแล้วล่ะ"
ทีต้า "ขอบคุณนะคะ พี่เอสเทล พี่โยชัวร์ ---------อะ...เอ่อ คุณอากัต"
อากัต "อะไร จะมาบ่นอะไร ชั้นก็ไม่สนหรอกนะ"
ทีต้า "คือว่า ขะ ขอบคุณมาก... นะคะ ที่ช่วยเอาไว้ แล้วก็ ขอบคุณที่ให้กำลังใจนะคะ"
อากัต "มะ ไม่ได้ให้กำลังใจซักหน่อย ก็แค่กระตุ้นเจ้าคนที่กำลังงอแงอยู่ก็เท่านั้นเอง!"
ทีต้า "อื------ม จริงด้วยยยย...สินะ"
อากัต "แล้วทำไม คนที่เพิ่งร้องไห้ถึงมาหัวเราะอย่างนั้นซะล่ะ!? เป็นยัยเพี๊ยนหรือไงกันหา...."
เอสเทล "นายนี่น๊า รับคำขอบคุณดี ๆ สิ ปากไม่ตรงกับใจเอาซะเลย"
โยชัวร์ "ไม่หรอก คุณอากัตคงจะเขินเฉย ๆ ล่ะมั๊ง"
เอสเทล "อ๋อ...อย่างนี้นี่เอง ก็มีส่วนที่น่ารักด้วยไม่ใช่เหรอไง"
อากัต "ตรงนั้นน่ะ หนวกหูน่า"
- แล้วอากัตจะบอกให้กลับไปแจ้งที่สาขาก่อนค่ะ เพราะดูท่าว่าเบื้องหลังเจ้าพวกนั้นคงมีเรื่องใหญ่ไม่ผิดแน่ แล้วพวกเราก็จำเป็นต้องขอความร่วมมือกับทางกองทัพด้วย **ทีต้าเข้ากลุ่ม**
- ขณะที่ออกจากหอคอยอากัตจะรู้สึกเวียนหัวนิดหน่อย แต่ก็บอกว่าไม่เป็นไรค่ะ
ถนนทุ่งหญ้าทรัต 『トラット平原道』
- ระหว่างทางจะพบกับจินที่เพิ่งออกจากหมู่บ้านเอลโมอีกครั้งค่ะ
(ดูเหมือนว่าจินไม่ค่อยอยากให้เอสเทลเรียกเขาว่า "คุณลุง" ค่ะ)
- จินสังเกตเห็นสีหน้าอากัตดูไม่สู้ดี ฉับพลันอากัตก็ล้มลงไป เพราะแผลที่ช่วยกันทีต้าจากคนชุดดำ โยชัวร์ตรวจดูอาการของอากัตแล้วคาดว่าคงจะโดนพิษประเภททำลายประสาทแน่นอน จินจะช่วยแบกอากัตไปที่โรงงานกลางเพื่อทำการรักษา เพราะยังไงเขาก็ตัวใหญ่แบกของหนัก ๆ ได้สบายอยู่แล้ว
จิน "ยังไงเราก็เป็นเพื่อนร่วมอาชีพ ขอแนะนำตัวเองหน่อยแล้วกัน ชั้น [จิน วาแธ็ค] เบรเซอร์ภายใต้สังกัดสมาคมแห่งสาธารณรัฐ ยินดีที่ได้รู้จักเหล่าเบรเซอร์แห่งลีเบร์ลทั้งหลาย"
โรงงานกลางไซสส์ 『ツァイス・中央工房』
- ที่ห้องพยาบาลชั้น 4 "คุณหมอมิเรียม" 『ミリアム先生』 ได้แต่หมดหวังเพราะไม่สามารถหาทางรักษาอากัตได้
- โยชัวร์ที่เพิ่งกลับมาหลังจากไปรายงานผลกับคิริก้า เข้ามาให้ห้องพยาบาลแล้วบอกว่า "คุณคิริก้าได้แจ้งไปทางกองทัพแล้ว ถ้าได้รับการรายงานจากกองทัพคงจะได้ข้อมูลอะไรก็เป็นได้ ส่วนคุณจินดูเหมือนจะรู้จักกับคุณคิริก้าน่ะ ก็เลยคุยกันอยู่"
- คุณหมอมิเรียมบอกให้เราลองไปปรึกษากับ "สังฆราชบิคเซ่น" เผื่อว่าท่านจะช่วยได้ เพราะว่า "โบสถ์เจ็ดจรัส" นั้นมีการเก็บรวบรวมศาสตร์ในการรักษามามากกว่าพัน ๆ ปี ทั้งยังมีการศึกษาเล่าเรียนเกี่ยวกับเภสัชศาสตร์แขนงต่าง ๆ มากมายอีกด้วยค่ะ
เมืองไซสส์ 『ツァイス市』
★ในช่วงนี้หากแวะไปที่ "โฮเต็ล ซานราด" จะพบ "ศจ. อัลบา" มาพักอยู่ที่นี่ด้วยนะคะ เราจะขอบคุณเขาที่เขานำเรื่องพวกคนชุดดำมาบอกค่ะ
- คุยกับ "สังฆราชบิคเซ่น" 『ビクセン教区長』 ที่โบสถ์ไซสส์
(จากคำบอกเล่าของสังฆราช เขาบอกว่ายาที่ใช้รักษาอาการของอากัตได้นั้นมีอยู่ แต่ตอนนี้ไม่มีวัตถุดิบอยู่เลย ซึ่งวัตถุดิบที่ว่าก็คือพืชเรืองแสงชนิดหนึ่งที่มีมาตั้งแต่อารยธรรมเซมเรียจึงได้ชื่อว่า "มอสเซมเรีย" 『ゼムリア苔』ซึ่งมีขึ้นอยู่ที่ "ถ้ำหินย้อยคัลเดีย" 『カルデア鍾乳洞』 ที่อยู่ด้านในของอุโมงค์คัลเดียค่ะ และเมื่อก่อนเคยมีการไหว้วานให้ทางสมาคมให้รวบรวมวัตถุดิบตัวนี้ ดังนั้น สังฆราชจึงแนะำนำให้เราลองไปดูบันทึกที่ประชาสัมพันธ์ก่อนค่ะ)
- จากข้อมูลที่เก็บไว้ของทางสมาคม "มอสเซมเรีย" จะขึ้นอยู่แถว ๆ ทิศตะวันตกเฉียงเหนือของถ้ำหินย้อยคัลเดียในทะเลสาบด้านในสุด แต่สัตว์ปิศาจด้านในถ้ำนั้นเก่งมาก ก่อนหน้านี้ก็เป็นพวกเบรเซอร์ที่มีประสบการณ์เชี่ยวชาญ 4 คนรวมกลุ่มกันทำคำขอร้องนี้ค่ะ
- "คิริก้า" บอกให้พวกเราเอาจินร่วมทางไปด้วยค่ะ **จินเข้ากลุ่ม**
(เราสามารถรับรู้ความโหดเงียบของคิริก้าได้จากบทสนทนาของเธอกับจินด้วยนะคะ ตอนแรกที่คิิริก้าเอ่ายปากให้พวกเราพากจินไปด้วย จินได้ถามคิริก้าว่า "ไม่ถามอีกฝ่ายก่อนเลยเหรอไง" แต่คิริก้าบอกว่ายังไงจินก็คิดจะไปช่วยอยู่แล้ว จินก็เลยเถียงไม่ออก เพราะเขาก็อยากช่วยจริง ๆ นั่นแหล่ะค่ะ แต่ว่าจินต้องไปที่นครหลวงพรุ่งนี้ตอนเช้า ดังนั้น เขาจะช่วยเหลือพวกเราจนกว่าจะถึงเวลานั้นค่ะ และคราวนี้ทีต้าจะขอตามไปด้วย โยชัวร์ก็ไม่ห้ามอะไรแต่ขอให้ทีต้าระวังตัวให้มาก ๆ ค่ะ)
- ใช้ "อุโมงค์คัลเดีย" มุ่งหน้าสู่ถ้ำหินย้อยได้เลยค่ะ
ถ้ำหินย้อยคัลเดีย 『カルデア鍾乳洞』
☆ในถ้ำนี้จะมีอาวุธของทีต้า "G-อิมแพ็ค" อยู่ในหีบที่มีสัตว์ปิศาจออกมาด้วยนะคะ
แต่ต้องสู้กับ (เพนกวินแดง + เพนกวินชมพู + เพนกวินน้ำเงิน + เพนกวินเขียว + เพนกวินเหลือง + เพนกวินขาว) ค่ะ☆
- ที่ด้านในสุดของถ้าจะได้รับ "มอสเซมเรีย" แต่จะพบกับเจ้าของ ของทะเลสาบที่นี่ค่ะ
- เพนกวินจักรรพรรดิ + เพนกวินชมพู *2 + เพนกวินเหลือง *2 -
- 『オウサマペングー+モモペングー*2+キペングー*2』 -
**เจ้าเพนกวินจักรพรรดิแพ้ไฟ แนะนำให้ใช้อาร์ทคุณสมบัติ "ไฟ" ปราบ จะง่ายขึ้นค่ะ**
- ปราบได้แล้วก็เดินทางกลับไปยังเมืองไซสส์ได้เลยค่ะ
เมืองไซสส์ 『ツァイス市』
- เอาวัตถุดิบที่ได้มามอบให้ "สังฆราชบิคเซ่น" เขาจะผสม "ยาวิญญาณแห่งอาลูฟ" 『アルヴの霊薬』ให้พวกเราค่ะ
โรงงานกลางไซสส์ 『ツァイス・中央工房』
- ที่ห้องพยาบาลชั้น 4 คุยกับ "คุณหมอมิเรียม" แล้วเธอจะเอายาให้อากัตดื่มค่ะ
- ตกกลางคืนทีต้าจะคอยพยาบาลอากัตจนดึก อากัตจะเรียกทีต้าว่า "มีช่า" แล้วเขาจะเพ้อว่า "พี่อยู่นี่แล้ว ไม่ต้องกลัวนะ" แล้วก็จะสลบไปอีกครั้งหนึ่ง ทำให้ทีต้ารู้สึกสงสัยว่า มีช่าที่ว่าเป็นใครกันนะ
- เช้าวันต่อมาเราจะไปส่งจินที่ท่าเทียบเรือเหาะ จินบอกว่าไม่แน่ใจว่าจะอยู่ที่ลีเบร์ลจนถึงเมื่อไร แต่คงจะอยู่จนถึงเทศกาลวันพระราชสมภพ เอสเทลจึงบอกว่า พวกเธออาจจะได้พบกันอีกครั้ง ตอนนั้นก็ขอรบกวนด้วยก็แล้วกัน พอจินไปแล้วทีต้าจะขอไปเฝ้าไข้อากัตต่อ ส่วนเอสเทลกับโยชัวร์จะไปที่สมาคมเผื่อว่าจะมีข้อมูลจากกองทัพมาค่ะ **จินกับทีต้าออกจากกลุ่ม**
- เอสเทลจะรู้สึกว่าทีต้าใจดีกับอากัตเหลือเกิน ทั้ง ๆ ที่ไม่ต้องใจดีด้วยถึงขนาดนั้นก็ได้ โยชัวร์จะบอกว่า
โยชัวร์ "เอสเทลกับคุณอากัตมีส่วนที่เหมือนกันตรงที่ว่า เป็นพวกหุนหันพลันแล่นและก็เป็นพวกที่ใส่ใจคนอื่นมากจนเกินไป คุณอากัตถึงแม้จะพูดจารุนแรงแต่ก็คำนึงถึงจิตใจอีกฝ่ายมาก ซึ่งทีต้าก็คงเข้าใจตรงส่วนนั้นของคุณอากัตน่ะแหล่ะ"
เมืองไซสส์ 『ツァイス市』
(43) บรรณารักษ์เฉพาะกิจทำโอที (ต่อ)
☆หากต้องการเคลียร์ซับเควสต์ (42) บรรณารักษ์เฉพาะกิจทำโอที สามารถเคลียร์ได้ในช่วงนี้เลยค่ะ☆
- ตอนนี้ถ้าเราแวะไปที่ร้านสารพัดอย่าง "เบล สเตชั่น" 『ベル・ステーション』 จะมี "ลีเบร์ลสาร ฉบับ 7" วางขายแล้วนะคะ
- คุยกับ "คิริก้า" ที่สมาคม เธอจะบอกว่าถึงจะติดต่อไปยังกองบัญชาการที่ "ค่ายเรสตอน" 『レイストン要塞』 ก็ไม่มีการติดต่อกลับมา นอกจากนั้นก็มีการยกเลิกด่านที่ตั้งอยู่ทุกพื้นที่ทั้ง ๆ ที่ยังจับคนร้ายไม่ได้ ไม่แน่ว่าตอนนี้อาจจะมีคดีอะไรเกิดขึ้นภายในกองทัพก็เป็นได้
- พบ "โดรธี" ที่เข้ามาในสมาคม เธอเล่าว่าได้ติดต่อไปหารุ่นพี่ไนแอลที่อยู่กองบรรณาธิการแล้ว แต่รุ่นพี่ไนแอลโกรธที่เธอให้ทางกองทัพยืมควอทซ์ไวแสงไป เธอก็เลยตามไปทวงคืนที่ค่ายเรสตอน แต่บรรยากาศตอนกลางคืนที่นั่นน่ารักมาก ๆ ว่าแล้วเธอก็เลยถ่ายรูปไว้ด้วยค่ะ
- เมื่อได้ดูรูปของโดรธี พวกเอสเทลก็สะดุดใจเรือเหาะที่อยู่ด้านบนขวาของรูป ซึ่งดูจากรูปร่างแล้วไม่ใช่เรือเหาะซ่อมบำรุงอย่างแน่นอน น่าสงสัยว่าจะเป็นลำเดียวกับที่จับตัวดร. รัซเซลไปค่ะ
- ได้รับ "รูปของโดรธี"
★ช่วงนี้ถ้าขึ้นไปที่ชั้น 2 จะพบกับ "กุนดอล์ฟ" ที่กลับมาจากนครหลวงแล้ว เขาได้ข่าวมาจากคิริก้าว่าอากัตบาดเจ็บจึงรู้สึกเป็นห่วงนิดหน่อย ทำให้เราทราบว่าสมัยก่อนกุนดอล์ฟรู้จักกับอากัตที่มีชื่อเสียงในเรื่องหุนหันพลันแล่นค่ะ
 
ค้นหาดอกเตอร์รัซเซล1-2
『ラッセル博士の捜索①‐②』 {BP10(+6)}

(44) บรรณารักษ์เฉพาะกิจทำโอที (ต่ออีก)
(47) ประกาศจับสัตว์ปิศาจบนทางหลวงริตเตอร์2
ค่ายเรสตอน 『レイストン要塞』
- ที่หน้าค่ายเรสตอนเราจะขอพบกับผู้ดูแลที่นี่ แต่ดูเหมือนว่าผู้ดูแลจะไม่อยู่ ดังนั้น โยชัวร์จึงขอพบกับคนของฝ่ายสืบข้อมูลแทนค่ะ
- พบกับ "พันตรีซีด" 『シード少佐』 หัวหน้ากองกำลังป้องกันของที่นี่ เราจะแนะนำตัวกับเขา พอพันตรีซีดได้ยินนามสกุล "ไบรท์" ก็สะดุดใจ แต่พอเราถามว่ามีอะไร เขาก็บอกว่าไม่มีอะไรค่ะ
พันตรีซีด "ถ้าจะมาสอบถามข้อมูลเกี่ยวกับคดีที่โรงงานกลางกับหน่วยสืบข้อมูลล่ะก็ น่าเสียดายที่ตอนนี้คนของฝ่ายสืบข้อมูลไม่มีใครอยู่เลยน่ะ"
- เมื่อเป็นเช่นนี้เอสเทลก็จะหาทางซักไซร้ไล่เลียงพันตรีซีดค่ะ (ตอบข้อไหนก็ได้ค่ะ)
- เราจะเอารูปที่โดรธีถ่ายให้เขาดู เมื่อซีดได้เห็นรูปแล้ว ก็บอกว่าจะนำเรื่องนี้ไปแจ้งแก่หน่วยสืบข้อมูล แต่เอสเทลว่า มันแปลก ๆ นะ ทำไมไม่สงสัยเลยว่า เรือเหาะที่น่าจะเป็นของคนร้ายมาอยู่ที่ค่ายเรสตอนได้ไง แต่ซีดบอกว่า พวกเขาไม่สามารถจัดการได้ทุกอย่างหรอกนะ แถมเรือเหาะนี่ก็อยู่ทางทิศเหนือ ไม่แน่ว่าอาจจะเป็นเรือเหาะของจักรวรรดิบินผ่านมาก็เป็นได้
- ได้ยินดังนั้น โยชัวร์จึงขอถามพันตรีซีด 1 ข้อว่า คนในหน่วยสืบข้อมูลคนไหนบ้างที่ออกไปข้างนอก แต่พันตรีซีดปฏิเสธที่จะตอบ เพราะมันเป็นความลับของทางกองทัพ ว่าแล้วเขาก็ขอตัวออกไปค่ะ
- ขณะที่ประตูค่ายกำลังจะปิดนั้น ประตูกลับหยุดการทำงานกะทันหัน เราจะได้ยินพันตรีซีดพูดว่า "หยุดทำงานอีกแล้วเหรอ หรือว่าเพราะปรากฏการณ์นั่นอีก" เมื่อได้ยินซีดพูดดังนั้น เอสเทลกับโยชัวร์จึงรู้เลยว่าพวกเขามาถูกทางแล้ว
- พันตรีซีดได้ออกมาอธิบายว่า ตอนนี้ประตูค่ายมันไม่ค่อยดี ให้เห็นในสิ่งที่ไม่สมควรให้เห็นซะแล้ว โยชัวร์กับเอสเทลเลยแกล้งพูดไปว่า
เอสเทล "ลองให้ทางโรงงานกลางมาดูให้ซิ ยิ่งถ้าเป็นดร. รัซเซลละก็ เรื่องซ่อมประตูแค่นี้สบายอยู่แล้ว"
พันตรีซีด "จะรับไว้พิจารณาแล้วกัน"
- แล้วพันตรีซีดจะสั่งให้พลทหารเฝ้ายามที่ประตูไม่ให้ใครเข้ามาป้วนเปี้ยนแถวนี้ค่ะ
- เอสเทลกับโยชัวร์ลงความเห็นว่า ถ้าเกิดปรากฏการณ์ออร์บเมนท์หยุดการทำงานแบบเมื่อกี๊ล่ะก็ แสดงว่าดร. รัซเซลอาจจะถูกจับอยู่ในค่ายก็ได้ ดังนั้น เราจะไปปรึกษากับคิริก้าและให้เรียกหัวหน้าโรงงานเมอร์ด็อกซ์มาด้วย
เมืองไซสส์ 『ツァイス市』
- กลับไปรายงานผลที่สาขา (อัตโนมัติ) ค่ะ
(เมอร์ด็อกซ์แทบจะไม่เชื่อเลยว่ามีเรื่องอย่างนี้เกิดขึ้นจริง ๆ คิริก้าบอกว่าจากรูปของโดรธี รวมทั้งปรากฏการณ์ออร์บเม้นท์หยุดการทำงานทีประตูหน้าของค่ายเรสตอนเมื่อรวมทั้ง 2 ข้อแล้ว มีความเป็นไปได้ที่กองทัพจะมีส่วนเกี่ยวข้องค่ะ)
- มีคำตอบให้เลือกดังนี้ค่ะ
新衛隊は事件と無関係なの?
หน่วยองครักษ์ไม่มีความเกี่ยวข้องกับคดีงั้นเหรอ?
BP+1
やっぱり新衛隊が黒幕だったの?
หน่วยองครักษ์เป็นผู้อยู่เบื้องหลังจริง ๆ ด้วยสินะ?
BP+0
新衛隊がはめられたってこと?
หลอกพวกเราว่าเป็นหน่วยองครักษ์?
BP+3

- เมื่อพิจารณาว่า การที่คนร้ายนำเครื่องแบบของหน่วยองค์รักษ์มาใส่ได้นั้น เป็นเครื่องแสดงว่าจะต้องมีคนภายในกองทัพให้ความช่วยเหลืออย่างแน่นอนค่ะ
- พบกับ "ทีต้า" และ "อากัต" ที่อาการดีขึ้นแล้วเข้ามาสมทบ ทีต้าที่เห็นอากัตชอบทำเรื่องเกินตัวทั้ง ๆ ที่เพิ่งฟื้นจากพิษ แต่ชอบทำอะไรไม่คิด ก็ขอร้องให้อากัตอย่าฝืน อากัตเห็นทีต้าทำหน้าจะร้องไห้ก็รีบบอกว่า จนกว่าสภาพจะเป็นปกติเขาจะไม่ทำอะไรหุนหันก็แล้วกัน
(ดูเหมือนว่าอากัตจะกลัวทีต้าร้องไห้มากเลยนะคะเนี่ย)
- หลังจากที่เราเล่าเหตุการณ์ต่าง ๆ ในช่วงที่อากัตพักฟื้นให้ฟังแล้วนั้น อากัตจะตัดสินใจลอบเข้าไปในค่ายเรสตอนเพื่อช่วย ดร. ออกมาค่ะ
คิริก้า "มันไม่ง่ายอย่างนั้นหรอก เพราะมีกฏระหว่างสมาคมเบรเซอร์กับทางกองทัพที่ว่า ห้ามก้าวก่ายซึ่งกันและกันตามมาตราข้อที่ 3 ในข้อตกลงของสมาคมว่าด้วยเรื่อง [ไม่ขัดต่อความมั่นคงของชาติ] ที่ว่า [เบรเซอร์ไม่สามารถดำเนินการตรวจสอบหรือจับกุม หน่วยงานสาธารณะซึ่งรับรองโดยอำนาจอธิปไตยแห่งชาติได้] กล่าวง่าย ๆ ก็คือ เราไม่มีสิทธิก้าวก่ายกองทัพได้นั่นเอง แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะไม่มีทา เพราะตามบทมาตราข้อที่ 2 ว่าด้วย [หน้าที่ให้คุ้มครองแก่ชาวเมือง] ที่ว่า [เบรเซอร์มีอำนาจหน้าที่คุ้มครอง ในกรณีที่ชีวิตหรือสิทธิของชาวเมืองถูกข่มขู่โดยไม่ถูกต้อง] น่ะ"
- โยชัวร์เข้าใจที่คิริก้าพูดทันที "นั่นหมายความว่า ดร. ไม่ใช่ทั้งข้าราชการและพลเรือน เป็นชาวเมืองที่สมควรได้รับความคุ้มครองสินะครับ" ซึ่งคิริก้าว่า "ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ขึ้นอยู่กับหัวหน้าโรงงานเมอร์ด็อกซ์แล้วล่ะ ว่าต้องการที่จะช่วยดร. ออกมาหรือไม่" แน่นอนว่าเมอร์ด็อกซ์ตกลงทำการไหว้วานให้เหล่าเบรเซอร์ช่วยเหลือดร. รัซเซลออกมาค่ะ
- แต่ปัญหาใหญ่ก็คือเซ็นเซอร์ตรวจจับของค่ายเรสตอน เอสเทลจะเสนอว่าให้ซ่อนตัวในเรือเหาะลำสีส้ม (ไลฟ์นิท เรือเหาะโรงงาน) ที่เข้าออกค่ายเรสตอนได้ แต่เมอร์ด็อกซ์บอกว่าเป็นไปไม่ได้ที่จะซ่อนตัวไปกับเรือเหาะ เพราะจะมีการตรวจสอบคนเข้าออกทุกคนไม่เว้นแม้แต่ในตู้คอนเทนเนอร์ ก็ยังใช้เครื่องมือตรวจจับ แม้แต่หนูซักตัวยังไม่สามารถเล็ดลอดเข้าไปได้เลย
- ทีต้านึกขึ้นมาได้ว่า ตอนที่พาพวกเอสเทลชมเมืองและได้พบกับคุณตาของเธอนั้น คุณตาของเธอเพิ่งประดิษฐ์ออร์บเมนท์รุ่นใหม่ที่พวกเอสเทลช่วยทำด้วย นั่นเป็นอุปกรณ์ที่สามารถขัดขวางการทำงานของเครื่องตรวจจับได้ค่ะ **ทีต้ากับอากัตเข้ากลุ่ม**
☆ในช่วงนี้ใครต้องการเคลียร์ซับเควสต์ (43) บรรณารักษ์เฉพาะกิจทำโอที (ต่อ)
และ (44) บรรณารักษ์เฉพาะกิจทำโอที (ต่ออีก) สามารถเคลียร์ได้ในช่วงนี้นะคะ
ดูรายละเอียดในหัวข้อซํบเควสต์ได้เลยค่ะ☆
★ในช่วงนี้ถ้าเราไปคุยกับ "สังฆราชบิคเซ่น" ทีต้าจะบอกกับอากัตว่าสังฆราชเป็นคนผสมยาให้กับอากัต ซึ่งอากัตได้บอกกับสังฆราชว่าเขาคงทำความเดือดร้อนให้สินะ เอสเทลบอกกับอากัตว่า "แบบนี้อีกแล้ว พูดขอบคุณดี ๆ ไม่เป็นหรือไงยะ"
- ที่โรงงานรัซเซล ในห้องวิจัยบนชั้น 2 จะได้ "อุปกรณ์กวนสัญญาณ" 『感知妨害機』
- กลับไปคุยกับ "คิริก้า" ที่สาขาอีกครั้ง เธอจะมอบ "แผนที่คร่าว ๆ ของค่ายเรสตอน" 『レイストン要塞の概略図』
(เอสเทลสงสัยว่า แผนที่ที่คิริก้าหามาได้แผ่นนี้ ถือว่าเป็นความลับของกองทัพเชียวนะ แล้วทำไมถึงมีอยู่ที่สมาคมได้ คิริก้าบอกว่า "พวกเรา (สมาคมเบรเซอร์) มีวิธีที่จะได้แผนที่มาอยู่แล้ว อยู่ที่ว่าจะนำมาใช้หรือไม่ใช้เท่านั้น" และเธอยังบอกอีกว่า ที่จริงเธอไม่อยากจะให้เอสเทลกับโยชัวร์มาข้องเกี่ยวเช่นนี้เลย แต่ก็ได้แค่คิดเท่านั้น เพราะยังไงตอนนี้เอสเทลกับโยชัวร์ก็อยู่ภายใต้สังกัดของสาขาไซสส์ไปแล้ว นอกจากนั้น คิริก้ายังได้ถามทีต้าอีกว่า "เธอที่ไม่ใช่เบรเซอร์นั้นไม่เปลี่ยนใจแน่นะ" แต่ทีต้าก็ยืนยันหนักแน่นว่าเธอจะไปด้วยเพราะเธอคิดว่าคนที่จะทำให้ "อุปกรณ์กวนสัญญาณ" นี่ทำงานได้นั้นมีแค่เธอเท่านั้นค่ะ แต่อากัตก็ยังไม่ยอมให้ทีต้าไป แต่เอสเทลเห็นว่าทีต้าอุตส่าห์เสนอตัวให้ความร่วมมือ ยังไงก็ทำให้พวกเราทำงานง่ายขึ้น ถึงแม้ทีต้าจะอยู่ในอันตราย แค่พวกเราปกป้องได้ก็โอเคแล้ว ซึ่งนั่นมันเป็นงานของเบรเซอร์ไม่ใช่เหรอไง โยชัวร์จะเสริมอีกว่า "ไม่ว่าจะเป็นเด็กใหม่หรือผู้เชี่ยวชาญ เมื่อมาถึงตรงนี้ก็ไม่เกี่ยวแล้วล่ะ ความรู้สึกที่อยากจะปกป้องไม่ได้เป็นของเบรเซอร์เท่านั้น ถ้าจะพูดให้ถูก งานของพวกเราก็คือการสนับสนุนความรู้สึกนั้นไม่ใช่หรือครับ" ในที่สุดเมื่อทุกคนขอร้องอากัตขนาดนี้ เขาจึงยอมให้ทีต้าไปด้วยเป็นกรณีพิเศษ แต่ก็พูดเหน็บ ๆ ทีต้าว่าอย่ามาเกะกะเขาอีก (ตามสไตล์ของอากัตน่ะนะ) แต่โยชัวร์บอกว่า ที่อากัตพูดแบบนั้นเพราะพยายามจะซ่อนความรู้สึกเขินของตัวเองต่างหากค่ะ)
- เมื่อเตรียมตัวพร้อมแล้วก็ไปที่ท่าเทียบเรือเหาะไซสส์ได้เลยค่ะ
- คุยกับ "หัวหน้าโรงงานเมอร์ด็อกซ์" เขาจะบอกว่าทางเรือเหาะโรงงานเพิ่งเตรียมตัวเสร็จ แล้วก็โชคดีที่มีกำหนดการออกเดินทางไปที่ค่ายเรสตอนพอดีด้วย แล้ว "ไลฟ์นิท" จะเทียบท่า "หัวหน้าช่างซ่อมบำรุงกุสตาฟ" บอกว่า ได้ยินเรื่องทั้งหมดจากหัวหน้าโรงงานแล้ว ซึ่งเขายินดีให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่เพราะยังไง ดร. ก็เป็นผู้มีพระคุณของเขาด้วยเหมือนกันค่ะ
- ถ้าพร้อมแล้วตอบตกลงกับ "หัวหน้าช่างซ่อมบำรุงกุสตาฟ" ได้เลย เราจะขึ้นเรือเหาะเพื่อแอบลอบเข้าไปในค่ายเรสตอนค่ะ
- "โดรธี" รีบวิ่งกระหืดกระหอบมาที่ท่าเทียบเรือเหาะ เพราะมีเรื่องใหญ่จะบอกพวกเอสเทล แต่ก็ตามมาไม่ทันโดรธีบอกกับเมอร์ด็อกซ์ ถึงเรื่องที่ใหญ่ที่ว่าก็คือ
โดรธี "ดูเหมือนว่า หน่วยองครักษ์ที่นครหลวงทั้งหมดจะถูกจับไปแล้วน่ะซี------"
ไลฟ์นิท 『ライプニッツ号』
- กุสตาฟจะให้เราดูตู้คอนเทนเนอร์ที่จะให้เราจะแอบเข้าไปในค่ายซึ่งมีพวกเครื่องอุปโภคบริโภคใส่อยู่ค่ะ
(เห็นใหญ่ ๆ อย่างนี้แต่จริง ๆ แล้วมีที่เหลืออยู่ครึ่งเดียว ยังไงก็ทนเป็นมันจูอัดกันไปจนถึงค่ายเรสตอนก็แล้วกันนะ)
- จะมีเวลาก่อนที่จะถึงค่ายเรสตอนอีกนิด อากัตกับทีต้าจะขอตัวแยกออกไปตรวจสภาพของออร์บเมนท์ ส่วนพวกเราก็ให้ไปคุยกับทุกคนที่อยู่บนเรือเหาะ (น้องเหมียวแอนโตวานนูก็ขึ้นมาด้วยนะ) แล้วออกไปที่ดาดฟ้าของเรือค่ะ
- เอสเทลที่ไม่ได้ขึ้นเรือเหาะมานานจะชมทิวทัศน์ด้วยกันกับโยชัวร์บนดาดฟ้าเรือ
(เอสเทลกังวลใจว่า ลีเบร์ลที่แสนสงบสุขแห่งนี้ ไม่รู้จะมีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้นอีกหรือเปล่า โยชัวร์ก็รู้สึกเช่นเดียวกันค่ะ เพราะไม่ว่าจะเป็นคดีสลัดอากาศหรือคดีที่รูอันก็มีกลุ่มคนชุดดำเป็นผู้อยู่เบื้องหลัง ไม่แน่ว่านี่อาจเป็นเหตุผลที่ทำให้คุณพ่อไม่อยู่ก็เป็นได้)
- ที่ห้องชั้นบน ในขณะที่ทีต้ากับอากัตกำลังปรับปรุงออร์บเมนท์อยู่ ทีต้ารู้สึกเป็นห่วงอากัตว่าอาการเป็นไงบ้าง
อากัต "น่าจะห่วงตัวเองมากกว่านะ เธอไม่กลัวหรือไง ที่จะลอบเข้าไปในกองทัพเพื่อช่วยคุณตาออกมา มันน่าจะเป็นเรื่องที่หนักหนาสาหัสสำหรับอายุเท่านี้นะ แล้วทำไมยังทำตัวสบาย ๆ อยู่อีกล่ะ"
- ทีต้าได้บอกกับอากัตว่า จริง ๆ แล้วเธอก็กลัว แต่เพราะมีพี่เอสเทล, พี่โยชัวร์และก็คุณอากัตอยู่ ทำให้รู้สึกว่าปลอดภัยมากกว่ารู้สึกกลัวค่ะ
- ทีต้าเอ่ยปากถามอากัตถึงชื่อมีช่าที่เธอได้ยินตอนที่อากัตสลบไป อากัตได้แต่บอกเรียบ ๆ ว่ามีช่าเป็นชื่อของน้องสาวเขาเอง อายุก็ราว ๆ ทีต้าค่ะ
(พอทีต้าเห็นอากัตพูดแบบนี้ ทีต้าก็เลยสงสัยว่า อากัตไม่ค่อยได้เจอกับน้องสาวเหรอ อากัตบอกว่าเขาจะกลับไปให้เห็นหน้าที่บ้านเกิดปีละครั้ง ซึ่งจริง ๆ เขาก็อยากอยู่ด้วยกันนานกว่านี้ค่ะ ถึงอากัตจะบอกมาแบบนี้ แต่ทีต้าก็ยังคงสงสัยในคำพูดของอากัต แต่ก็มีเสียงประกาศว่าเรือเหาะใกล้ถึงค่ายเรสตอนซะก่อน การสนทนาเลยหยุดไว้แค่นี้ค่ะ)
- ไปคุยกับ "หัวหน้าช่างซ่อมบำรุงกุสตาฟ" เขาจะเตรียมการที่ตู้คอนเทนเนอร์เสร็จเรียบร้อยแล้วค่ะ
(เอสเทลรู้สึกอึดอัดเวลาอยู่ในคอนเทนเนอร์กับโยชัวร์ค่ะ แต่โยชัวร์ก็บอกให้เอสเทลอดทนหน่อยละกัน ส่วนอากัตก็บอกทีต้าว่าถ้ามันแน่นไปก็อย่าฝืน ซึ่งทีต้าว่าเธอทนได้ค่ะ)
- แล้วไลฟ์นิทจะมาถึงค่ายเรสตอนค่ะ
ค่ายเรสตอน 『レイストン要塞』
- เมื่อกองทัพตรวจสอบสิ่งน่าสงสัย เซ็นเซอร์จะตรวจจับสิ่งมีชีวิตได้จากในตู้คอนเทนเนอร์ เมื่อเปิดออกมาจะเป็นน้องเหมียว "อันโตวานู" ค่ะ
(รู้สึกว่าพันตรีซีดจะชอบแมวนะคะ ถึงขนาดบอกว่า "ถ้าถูกใจที่นี่ จะมาอาศัยอยู่ที่นี่ก็ได้นะ" แต่ดูเหมือนว่าน้องเหมียวอันโตวานูจะไม่อยากอยู่ที่นี่ ก็เลยวิ่งหนีเข้าไปในเรือเหาะซะอย่างนั้นค่ะ)
- หลังจากการตรวจสอบเสร็จสิ้น พลทหารจะถามพันตรีซีดว่า พวกเขาจะต้องทำเรื่องพวกนี้ต่อไปจนถึงเมื่อไร พันตรีซีดก็เข้าใจลูกน้องว่ารู้สึกยังไง แต่มันช่วยไม่ได้เพราะการเชื่อฟังผู้บังคับบัญชาก็เป็นหน้าที่ของทหารเหมือนกันค่ะ
- หลังจากพวกทหารไปกันหมดแล้ว พวกเอสเทลจะดูแผนที่เพื่อวิเคราะห์ว่าตอนนี้ ดร. ถูกจับไปไว้ที่ไหน โดยอากัตในฐานะที่เป็นรุ่นพี่ก็อยากจะทดสอบพลังในการวินิจฉัยเหตุการณ์ของเอสเทลค่ะ (ตอบข้อไหนก็ได้ไม่มีผลกับ BP ค่ะ แต่มีคำตอบที่ถูกต้องคือ "ตึกวิจัยส่วนกลาง" ค่ะ 『中央の研究棟』)
- ออกจากโกดังเรือเหาะ มุ่งหน้าไปทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือลูกเดียวเลยค่ะ
- เมื่อมาถึงตึกวิจัยส่วนกลางแล้ว เราจะพบกับเรือเหาะที่ปรากฏตัวที่หอคอยจอดอยู่ที่นี่ รวมทั้งทหารของกองกำลังพิเศษที่ถูกฝึกฝนมาในด้านการทำลายล้างเฝ้าอยู่หน้าประตูตึกวิจัยส่วนกลาง ยังไงก็แล้วแต่ถ้าถูกพบพวกทหารอื่น ๆ คงแห่กันมาแน่ ต้องหาวิธีเข้าไปในตึกโดยไม่ให้พวกมันเห็น
- วิ่งไปข้าง ๆ ตึกวิจัย สำรวจหน้าต่างจะเห็น "ดร. รัซเซล" ที่ถูกจับมา รวมไปถึง "พันเอกริชาร์ด", "ร้อยเอกคาโนเน่" และ "พันตรีซีด" ที่มาอยู่กันพร้อมหน้าค่ะ
- พันเอกริชาร์ดจะเป็นตัวแทนของหน่วยสืบข้อมูลขอบคุณดร. รัซเซลที่ช่วยเหลือทำให้รู้วิธีควบคุม [กอสเปล] (ออร์บเมนท์สีดำ) แต่ ดร. รู้สึกไม่พอใจและบอกว่า
ดร. รัซเซล "เป็นเจ้านี่เองที่อยู่เบื้องหลัง เมื่อก่อนก็เคยอยู่ใต้บังคับบัญชาของคาซิอุสนี่"
พันเอกริชาร์ด "จริงสิ จะว่าไปคุณก็รู้จักกับเขานี่นา ถ้าเป็นที่ที่คาซิอุส ไบรท์ไปล่ะก็ พวกเราก็กำลังตรวจสอบอยู่ แต่ตอนนี้ก็ยังระบุแน่ชัดไม่ได้ ถ้าคุณรู้ก็ช่วยบอกหน่อยแล้วกัน"
- แต่ดร. รัซเซลก็ไม่รู้จริง ๆ ว่าคาซิอุสไปไหน พันเอกริชาร์ดยังบอกอีกว่า "ถ้า [กอสเปล] นี่ถูกส่งไปถึงเขาล่ะก็ คงจะกลายเป็นเรื่องที่ลำบากน่าดูทีเดียว" ทำให้ดร. รัซเซลสงสัยว่า พวกริชาร์ดไปเอาออร์บเมนท์อันตรายนี่มาจากไหนและต้องการเอาไปทำอะไร แต่พันเอกริชาร์ดบอกว่าอีกไม่นานเป้าหมายของพวกเขาจะกระจ่างแจ้งเองน่ะแหล่ะ ถึงตอนนั้นเขาก็จะปล่อยดร. ให้เป็นอิสระ และจะขอให้ ดร. ช่วยประดิษฐ์วิทยาการใหม่ ๆ เพื่อลีเบร์ลแห่งนี้ค่ะ
- เมื่อดร. รัซเซลไม่ยอม ร้อยเอกคาโนเน่จึงเอาทีต้ามาขู่ แต่พันเอกริชาร์ดให้เธอหยุดพูดและขอโทษดร. รัซเซลว่า ร้อยเอกคาโนเน่เป็นพวกมีอารมณ์ขันเป็นพิเศษน่ะ แล้วสิ่งที่พวกเขาจะทำก็เพราะความรักชาติเท่านั้นค่ะ
- "ร้อยตรีโรแลนซ์" เข้ามารายงานผลที่เป็นไปตามที่พันเอกได้คาดการณ์เอาไว้ล่วงหน้า สร้างความพึงพอใจให้กับพันเอกริชาร์ดเป็นอย่างมาก จากนั้นเขาจะขอตัวออกไปก่อนโดยไม่ลืมหยิบออร์บเมนท์สีดำไปด้วย และได้ฝากเรื่อง ดร. ให้พันตรีซีดดูแลต่อค่ะ
- พอพวกพันเอกออกไปแล้ว พันตรีซีดจะถามดร. ว่าต้องการอะไรหรือไม่ ถ้าพวกเสื้อผ้าเขาจะหามาให้ ดร. รัซเซลปฏิเสธและพูดกับพันตรีซีดว่า "คิดว่านายต่างกับคนพวกนั้นแต่ดูเหมือนว่าเขาจะเข้าใจผิดซะแล้วซิ" ซึ่งพันตรีซีดก็บอกว่าเขารู้สึกขอบคุณที่ดร. เคยมองเขาว่าเป็นเช่นนั้นค่ะ แต่เพราะดร. รัซเซลขัดขืน เขาจึงจำเป็นต้องใช้วิธีลักพาตัวมาแบบนี้ และเพื่อรับความผิดนั้นเขาก็อยากจะเป็นผู้ส่งจดหมายไปหาหลานสาวให้ แต่ก็มีเงื่อนไขอยู่ พอ ดร. รัซเซลได้ยินดังนั้นก็โกรธมากและไล่พันตรีซีดออกไปให้พ้นหน้าเขาค่ะ
- พวกเราที่ยืนฟังอยู่ด้านนอกจะได้ยินเรื่องทั้งหมด แถมโยชัวร์ก็ยังรู้สึกสะดุดใจผู้ชายที่สวมหน้ากากด้วยค่ะ
(ตอนที่พวกพันเอกริชาร์ดขึ้นเรือเหาะ ร้อยตรีโรแลนซ์จะหันมาด้านที่พวกเราอยู่แล้วพูดออกมาว่า "หึ จะผ่านไปได้ตลอดรอดฝั่งหรือเปล่านะ" ด้วยนะคะ)
- ให้เราจะฉวยโอกาสนี้ บุกเข้าไปช่วยดร. รัซเซลได้เลยค่ะ แต่รู้สึกว่าโยชัวร์มีอะไรแปลก ๆ ไม่เหมือนกับโยชัวร์ที่สุขุมเยือกเย็นคนเดิมเลยนี่สิ
- จัดการกับยามเฝ้าประตู
- ทหารพิเศษ *2-
- 『特務兵*2』 -
**แนะนำให้ใช้อาร์ท "คาออสแบรนด์" เพื่อทำให้ศัตรูสับสนแล้วโจมตีกันเอง จะชนะง่ายขึ้นค่ะ**
- เข้าไปในห้องเพื่อช่วยดร. รัซเซลและนำ "ออร์บเมนท์ประมวลผล" 『演算オーブメント』 กลับคืนมาค่ะ **ดร. รัซเซลเข้าเป็น NPC**
(จากตรงนี้จะทราบว่า ดร. รัซเซลได้ใช้ออร์บเมนท์ประมวลผลวิจัยหาวิธีควบคุม [ออร์บเมนท์สีดำ] นั่นเองค่ะ แล้วตอนที่เข้ามาในห้องก็มีบทสนทนาขำ ๆ ที่ดร. เห็นอากัตก็อดพูดไม่ได้ว่าหัวอากัตเหมือนไก่เลย เอสเทลเคยโดนว่าแนวนี้มาแล้วเลยไม่รู้สึกอะไรค่ะ แถมยังชม ดร. อีกแน่ะว่าพูดได้ดีมากด้วยนะคะ)
- ถึงจะช่วย ดร. ออกมาได้ แต่ดูเหมือนว่าพวกทหารจะรู้สึกตัวแล้วว่าพวกเราบุกรุกเข้ามา ทำให้ไม่สามารถทำตามแผนที่วางไว้แต่แรกที่จะหนีไปทางท่าเทียบเรือเหาะ ดังนั้นเราต้องหาเส้นทางอื่นเพื่อหนีออกไปค่ะ
- ตอนที่ออกมายังไงก็พยายามหลบพวกทหารไปด้วยนะคะ จะได้โบนัส BP เพิ่มดังนี้ค่ะ
ไม่ถูกทหารพบเลย BP+3
ถูกพบ 1 ครั้ง BP+2
ถูกพบ 2 ครั้ง BP+1
ถูกมากกว่า 2 ครั้งขึ้นไป BP+0

- เมื่อมีทหารออกมามากมายไปหมด เราจะหนีเข้าไปใน "ตึกบัญชาการ" ค่ะ
- ที่ชั้นใต้ดินจะพบกับ "ตระกูลคาปัว" ซึ่งถูกขังอยู่ที่นี่ ทั้งยังมีพวกหน่วยองครักษ์ ดัลมอร์และกิลเบิร์ตคุงถูกขังอยู่ที่นี่ด้วยนะคะ
(ตรงนี้จะมีบทสนทนาขำ ๆ ด้วยนะคะ เพราะนางเอกของเราสาวน้อยเอสเทลไม่รู้จะพูดอะไรกับพวกคาปัวที่ถูกจับอยู่ก็เลยถามไปว่า "สบายดีหรือเปล่า?" พอโจเซ็ตได้ยินคำถามนั้นก็พูดกับเอสเทลด้วยความเคืองสุด ๆ ว่า "อย่ามาทำหน้าเจ็บปวดแบบนั้นใส่ผมนะ ยัยสมองกลวง!!" เอสเทลได้ยินเสียงแข็ง ๆ ของโจเซ็ตก็พอจะรู้สึกได้ว่าพวกเธอคงจะสบายดีน่ะแหล่ะนะ ส่วนอากัตก็สงสัยว่า เรารู้จักเจ้าพวกนี้ด้วยเหรอ พอเราบอกว่าเป็นกลุ่มสลัดอากาศคาปัว ดร. รัซเซลเลยออกอาการโอตาคุเครื่องจักร รีบถามพวกคาปัวว่าสเปกของเรือเหาะประสิทธิภาพสูง ที่สลัดอากาศใช้รุ่นของจักรวรรดิมันระดับประมาณไหนกัน คีล (ที่เป็นโอตาคุเรือเหาะ) ก็เผลอตอบคำถามดร. ไปด้วยเหมือนกันค่ะ (ขำมากค่ะ) แล้วพอโดรุนถามถึงเสียงไซเรนที่ร้องอยู่นั่น เป็นเพราะพวกเบรเซอร์อย่างพวกเราอย่างงั้นเหรอ พวกเราทั้งหมดจึงใช้วิธีเลี่ยงการตอบคำถามโดยเดินหนีไปซะดื้อ ๆ พวกคาปัวก็ได้แต่ตะโกนถามว่า "พวกนายเป็นผู้บุกรุกใช่ม๊ายยย" แบบนี้น่ะค่ะ ทำเอาคนเล่นขำเกือบตายเลยนะคะ)
- กลับขึ้นมาที่ชั้น 1 เราจะสรุปว่าพวกสลัดอากาศเกี่ยวข้องกับกลุ่มคนชุดดำจริง ๆ ด้วย แต่ทำไมถึงถูกจับล่ะ
โยชัวร์ "พวกสลัดอากาศคงจะถูกพันเอกใช้ประโยชน์ก็เป็นได้นะ ไม่แน่ว่าอาจจะรวมไปถึงนายกเทศมนตรีดัลมอร์ด้วย"
- ตรงประตูทางเข้าตึก จะมีเสียงทหารคุยกันว่าจะเข้ามาค้นในตึกบัญชาการพร้อม ๆ กับรายงานให้พันตรีทราบ ในขณะที่เรากำลังจะจนมุมอยู่นั่นเอง ก็มีเสียงของผู้ชายคนหนึ่งเรียกให้เราตามเขาไปค่ะ
- วิ่งไปทางต้นเสียง ซึ่งเอสเทลกับโยชัวร์จะจำเสียงนี้ได้
- สำรวจที่ประตูด้านในสุด เข้าไปจะพบกับ "พันตรีซีด" ที่เป็นคนช่วยพวกเราไว้นั่นเองค่ะ แต่ดร. รัซเซลไม่เขื่อว่า คนที่อยู่ใต้บัญชาของพันเอกจะมาหวังดีกับพวกเรา พันตรีซีดจึงได้ให้เหตุผลว่า
พันตรีซีด "ตอนนี้กองทัพราชอาณาจักรอยู่ภายใต้การควบคุมของหน่วยสืบข้อมูลที่นำโดยพันเอกไปแล้ว ไม่ว่าจะเป็นนายพลของฉัน รวมทั้งนายพลมอร์แกนก็ถูกคุมขังอยู่ที่ประตูฮาเก้นด้วย ถึงแม้ว่ากองทัพจะยิ่งใหญ่ แต่หลังจากสงครามระหว่างจักรวรรดิสิ้นสุดลง กฏระเบียบข้อบังคับภายในกองทัพก็หย่อนยาน แต่เรื่องที่พวกระดับชั้นนายพลได้มีการแก่งแย่งชิงดี, คอยเฝ้าจับตามอง, ติดสินบน ซึ่งเรื่องเหล่านี้ก็ไม่ได้หมดไป พันเอกริชาร์ดก็เลยใช้โอกาสจากตรงนั้นน่ะแหล่ะ และเมื่อนายพลมอร์แกนถูกคุมขังผู้ที่เป็นผู้บัญชาการกองทัพสูงสุดในตอนนี้ก็คือพันเอกริชาร์ดยังไงล่ะ"
- อากัตถามว่าพวกกองกำลังรักษาพระองค์ภายใต้สังกัดราชินีอาริเชียไม่เคลื่อนไหวอะไรเลยเหรอไง ตรงนี้พันตรีซีดบอกว่า "พวกนั้นถูกกล่าวหาว่าเป็นกบฏไปแล้ว สาเหตุก็มาจากคดีที่เกิดขึ้นที่โรงงานกลางนั่นแหล่ะ"
- หลังจากนั้นพันตรีซีดจะเปิดทางลับให้เราหนีไป เป็นทางที่จะลงไปสู่แม่น้ำและเขาให้เราใช้เรือที่อยู่ที่นั่นค่ะ พวกเราจะขอบคุณพันตรีซีดที่ช่วยเหลือ
พันตรีซีด "ฉันรู้อยู่แล้วว่าซักวันจะเกิดเหตุการณ์อย่างนี้ขึ้น ตั้งแต่ตอนที่พบกับพวกเธอเป็นครั้งแรก ตั้งแต่ตอนที่ได้ยินนามสกุลน่ะ พวกเธอเป็นลูก ๆ ของพันเอกคาซิอุสใช่ไม๊ล่ะ ทั้งฉันทั้งพันเอกริชาร์ดนั่น ก็เคยอยู่ภายใต้สังกัดของเขาผู้เป็นวีรบุรุษที่อยู่เบื้องหลังการขับไล่กองทัพจักรวรรดิที่ทำสงครามรุกรานกับราชอาณาจักรเมื่อ 10 ปีก่อน ฉันก็ได้แต่คิดว่า ถ้าเป็นเด็กพวกนั้นต้องพิสูจน์ความจริงและก็มาช่วยดร. ได้อย่างแน่นอน"
- เอสเทลรู้สึกประหลาดใจมาก เพราะเธอไม่เคยรู้เลยว่าพ่อของตนมียศสูงถึงพันเอก แถมยังได้รับการกล่าวขานว่าเป็นวีรบุรุษอีกต่างหาก แต่พวกพลทหารมาที่หน้าห้องแล้ว ทำให้ต้องการสนทนาต้องจบลงแต่เพียงเท่านี้ค่ะ
- เมื่อหนีออกมาได้โดยสวัสดิภาพ โยชัวร์เห็นว่า ที่ข้างนอกไม่มีทหารออกมาตรวจตราแม้แต่คนเดียว อาจเป็นเพราะพันตรีซีดให้ความช่วยเหลือพวกเราก็เป็นได้ แต่ถึงยังไงก็ต้องหาสถานที่ที่จะให้ ดร. รัซเซลหนีไปก่อนค่ะ ซึ่งอากัตจะเอ่ยปากขอรับหน้าที่พาดร. รัซเซลหนีไปเอง
อากัต "เพราะคดีในครั้งนี้ ชั้นก็เหมือนกับถูกตีตราจากพวกหน่วยสืบข้อมูลอยู่แล้ว รวมทั้งคุณตาและทีต้า ก็ต้องโดนตามล่าต่อไปเหมือนกัน ในช่วงที่ชั้นหนีไปนี่ก็จะถือโอกาสพาทั้ง 2 คน หลบหนีไปยังที่ปลอดภัยให้เอง"
- ในตอนแรกเอสเทลไม่เห็นด้วยที่จะให้พวกอากัตหนีไปตามลำพัง แต่โยชัวร์เห็นด้วยกับอากัต เพราะยังไงมันก็เป็นวิธีที่ถูกต้องแล้วค่ะ
- ดร. รัซเซลจะขอร้องให้เรานำเรื่อง "ออร์บเมนท์สีดำ" นี้ไปแจ้งแก่ราชินี เพราะดูเหมือนว่าแต่เดิมพันเอกริชาร์ดได้มันมาจากที่ไหนซักแห่ง เพราะเขาเรียก "ออร์บเมนท์สีดำ" ว่า [กอสเปล (พระสุรเสียง)] อย่างเต็มปากเต็มคำราวกับรู้ที่มาที่ไปของมันค่ะ
ดร. รัซเซล "ยังไงก็ตาม คงมีใครบางคนชิง [กอสเปล] ออกมาจากหน่วยสืบข้อมูล ไม่แน่ว่าอาจจะเป็นคนที่ส่งพัสดุจ่าหน้ามาถึงคาซิอุส แต่เพราะเหตุการณ์ออร์บเมนท์หยุดการทำงาน ก็เลยทำให้หน่วยสืบข้อมูลรู้เรื่องนี้เข้า สาเหตุที่แท้จริงที่เจ้าพวกกลุ่มคนชุดดำแล้วก็ทหารพิเศษนั่นบุกเข้าไปที่โรงงานกลาง ไม่ใช่ทั้งชั้นไม่ใช่ทั้งออร์บเมนท์ประมวลผลอะไรนั่นร๊อก แต่ต้องการเอาสิ่งนั้นกลับคืนไปต่างหาก"
- จะได้รับการไหว้วาน "ข้อความถึงราชินีอาริเชีย" 『アリシア女王への伝言』 จากดร. รัซเซลค่ะ
(บทสนทนาซึ้ง ๆ ตรงนี้ ยิ่งอ่านยิ่งซึ้งค่ะ ทีต้าไม่อยากจากพวกเอสเทลไป เธอจะขอบคุณพวกพี่เอสเทลที่ช่วยเหลือเธอและเป็นพี่ที่ดีให้กับเธอ ทีต้าบอกว่าเธอชอบพวกเอสเทลมากค่ะ ส่วนเอสเทลก็บอกกับพวกอากัตว่าคงจะต้องจากกันไปนานเลยล่ะ เอสเทลก็เลยขอบคุณอากัตและเรียกอากัตว่า "รุ่นพี่อากัต" อากัตได้ฟังก็รู้สึกไม่ดีที่เรียกเขาอย่างนั้น เลยบอกให้เอสเทลอย่าเรียกเขาอย่างนั้น แหมท่าทางอากัตจะเขินน่ะสิคะ)
- แล้วพวกอากัตจะพาดร. รัซเซลกับทีต้าหนีออกไปจากที่นี่ค่ะ **ทีต้ากับอากัตออกจากกลุ่ม**
- จบบทที่ 3 ค่ะ
 
 
Sub-Quest
(35) ทดสอบผลิตภัณฑ์ตัวใหม่ 『新製品のテスト』 {BP4(+2)}
- คุยกับ "ทีเอรี่" 『ティエリ』 ที่ห้องทดลองบนชั้น 4 ของโรงงานกลาง เขาจะให้เราช่วยทำการทดสอบประสิทธิภาพของรองเท้ารุ่นใหม่ของ "บริษัทสเตรเกอร์" ค่ะ
(เอสเทลเป็นแฟนพันธุ์แท้รองเท้ากีฬาของบริษัทนี้ค่ะ ซึ่งเวลามีรองเท้ารุ่นใหม่ ๆ ออกมาไม่มีพลาด เพราะเธอได้ขอให้รินอนแห่งร้านสารพัดอย่างที่รอเลนซ์จะเก็บไว้ให้และสำหรับเควินที่เราจะได้พบในภาค SC นั้น ก็เป็นแฟนพันธุ์แท้ของบริษัทนี้เหมือนกันด้วยนะคะ ในโลกแห่งนี้ยี่ห้อสเตรเกอร์เนี่ย ก็คงราว ๆ ไนกี้ หรือ อดิแดสมั๊งคะ)
- ได้รับ "สเตรเกอร์ อัลฟ่า" 『ストレガーα』 ให้เอสเทลใส่แล้ววิ่งไปรอบ ๆ พื้นที่ต่าง ๆ ดังนี้ค่ะ
(1) หมู่บ้านเอลโม
(2) แอร์ แลตเท่น
(3) ค่ายเรสตอน
(4) ประตูเซนต์ไฮม์
(5) ป้อมวูลฟ์
- โดยใส่วิ่งตั้งแต่ 3 ที่ขึ้นไปก็ถือว่าเคลียร์ค่ะ แต่ถ้าอยากจะได้รับโบนัส BP กับไอเทมพิเศษ "สเตรเกอร์ เบต้า" 『ストレガーβ』 แล้วล่ะก็ดำเนินการตามนี้ได้เลยค่ะ
ให้เอสเทลใส่วิ่งไปตามพื้นที่ต่าง ๆ ตั้งแต่ 4 ที่ขึ้นไป BP+2

- กลับไปรายงานผลกับ "ทีเอรี่" ได้เลยค่ะ

 
(36) ค้นหารถขนของ 『運搬車の捜索』 (BP4)
- คุยกับ "หว่อง" 『ウォン』 และ "บรูโน" 『ブルーノ』 ที่ยืนดูรถขนของที่ขยับเขยื้อนไปไหนไม่ได้อย่างหมดหวังอยู่บนถนนทุ่งหญ้าทรัตค่ะ (จะอยู่แถว ๆ ทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ของแผนที่ ที่เป็นทางเข้าสู่หอคอยแดงชาดค่ะ)
- ขณะที่เรากำลังคิดหาวิธีซ่อมออร์เบิลเอนจิ้นอยู่นั้น สัตว์ปิศาจจะเข้ามารุมทั้งหน้าและหลัง เราจะฝากให้หว่องจัดการด้านหลังให้ ส่วนเราจะจัดการด้านหน้าเอง เกิดการต่อสู้ค่ะ
- กระต่ายจู่โจม *6 -
- 『装攻ウサギ*6』 -
**พลังป้องกันของกระต่ายที่แสนน่ารักเหล่านี้ค่อนข้างสูงค่ะ**
**แนะนำ ให้ใช้อาร์ทที่กินอาณาเขตกว้าง อย่าง "เอเรียล" หรือ "เฮล เกต" ปราบ จะง่ายขึ้นค่ะ**
**ถ้าเห็นศัตรูชาร์จเมื่อไหร่ล่ะก็ ระวังให้ดี มีสิทธิ์ถูกโจมตีแล้วจะเกิดอาการ "ตายคาที่" ได้ค่ะ**

- ปราบได้ ทีต้าบอกว่าถ้าจะซ่อมคงใช้เวลานาน โยชัวร์จึงเสนอให้ลองหาออร์เบิลเอนจิ้นมาเปลี่ยนดีกว่า โดยคงจะต้องไปขอความร่วมมือจาก "คุณโพรเมเต้" ที่โรงงานกลางจากคำบอกเล่าของคุณบรูโนค่ะ

 
(37) ซ่อมแซมรถขนของ 『運搬車の修理』 (BP5)
※เควสต์ลับ
※ต้องเคลียร์ (36) ค้นหารถขนของ ก่อนค่ะ
- คุยกับ "โพรเมเต้" 『プロメテ』 ที่ห้องวางแผนชั้น 3 เขาจะบอกว่าเรื่องที่เขาเคยดูแลพวกออร์เบิลเอนจิ้นนั้นเป็นเรื่องในอดีตไปแล้ว ตอนนี้เข้าเปลี่ยนหน้าที่รับผิดชอบไปแล้ว และเขาก็ไม่รู้ด้วยว่าจะไปหาออร์เบิลเอนจิ้นจากที่ไหนด้วย
- สำรวจ [เครื่องประมวลผล (คาเปล)] ที่ห้องประมวลผลชั้น 5 เลือกดูฐานข้อมูล "รถขนของ" 『運搬車』 จากข้อมูลที่ได้สถานที่ที่มีอยู่คือชั้นใต้ดินทางเข้าสู่โรงงานค่ะ (ถ้าเคยสำรวจคาเปลในหัวข้อรถขนของมาก่อนหน้านี้แล้ว จะไปที่ชั้นใต้ดินเลยก็ได้นะคะ)

- ได้รับ "ออร์บเมนท์ขับเคลื่อน" 『駆動オーブメント』 จาก "รูดี้" 『ルーディ』 ที่ชั้น B1 ตรงทางออกไปสู่อุโมงค์คัลเดียค่ะ
- นำออร์บเมนท์ขับเคลื่อนที่ได้มาไปมอบให้กับพวกหว่องบนถนนทุ่งหญ้าทรัตได้เลยค่ะ
(ทีต้าจะลงมือเปลี่ยน "ออร์บเมนท์ขับเคลื่อน" ด้วยตัวเอง ทำให้รถขนของกลับมาใช้งานได้อีกครั้ง บรูโนชมทีต้าว่าสมกับที่เป็นหลานสาวของ ดร. รัซเซล จริง ๆ ทั้งที่อายุแค่นี้ น่าจะทำได้แค่ไปเรียนที่โรงเรียนวันอาทิตย์เท่านั้น แต่ฝีมือเหลือร้ายจริง ๆ ค่ะ)

- แล้วบรูโนกับหว่องก็สามารถขับรถขนของไปส่งที่ป้อมวูล์ฟได้อีกครั้งค่ะ
Remark: ถ้าเราไปคุยกับโพรเมเต้ แล้วกลับไปคุยกับบรูโนเลยทันที โดยไม่ได้ไปสำรวจคาเปลหรือไปคุยกับรูดี้มาก่อน
นอกจากจะไม่สามารถเคลียร์เควสต์ลับนี้ได้แล้ว ตัวเกมยังค้างด้วยค่ะ

 
(38) ค้นหาเครื่องปรุงแบบใหม่ 『親食材の調達』 (BP3)
- ถ้าใครยังไม่มี "มะเขือเทศรสขม" 『にがトマト』ก็สามารถหามาได้ฟรี ๆ จากห้องทดลองบนชั้น 4 ของโรงงานกลางนะคะ
- คุยกับ "เบ็น" 『ベン』 ที่บาร์ฟอร์เกล เราจะมอบ "มะเขือเทศรสขม" ให้กับเขาค่ะ
- ได้รับเมนู "แซนด์วิชไส้มะเขือเทศรสขม" 『にがトマトサンド』 เมนูใหม่ที่เบ็นคิดขึ้นค่ะ
(เมนูนี้เพิ่มเลือดได้น้อยก็จริง แต่ใช้เพิ่ม CP ได้ถึง 40 หน่วยเลยนะคะ แต่ส่วนผสมที่ใช้ก็ค่อนข้างหายากหน่อยเพราะในภาค FC สามารถหามะเขือเทศรสขมได้จากห้องทดลองชั้น 4 เท่านั้นค่ะ)

 
(39) สัปดาห์รณรงค์งดสูบบุหรี่ 『禁煙強化週間』 (BP4)
- ฟังเรื่องราวจาก "คุณหมอมิเรียม" ที่ห้องพยาบาลบนชั้น 4
(คุณหมอบอกว่า มีคนเอาบุหรี่ไปจากชั้นวางของในห้องนี้ไปค่ะ ส่วนเหตุผลที่มีบุหรี่อยู่ในห้องพยาบาลนั้น ก็เพราะเธอเป็นคนรณรงค์ให้มีวันงดสูบบุหรี่ในโรงงานมาตลอดช่วงหลายปีมานี่ โดยในช่วงรณรงค์นั้นก็จะให้ทุกคนนำบุหรี่ทั้งหมดมาเก็บไว้ที่นี่ค่ะ)
- จากคำให้การของคุณหมอมิเรียม บุคคลต้องสงสัยที่สูบบุหรี่ก็จะมี "หัวหน้าทรานซ์" ที่อยู่ห้องประมวลผล และก็ "คุณฟูโก้" ที่ห้องวางแผนงาน แต่ตอนนี้น่าจะอยู่ที่ล็อบบี้ชั้น 1 ค่ะ
- โดยคุณหมอจะให้เราเอาน้องเหมียวไปด้วย เพราะน้องเหมียวสามารถรู้ได้ว่าใครเป็นคนแอบสูบบุหรี่ แต่ถ้าต้องการให้น้องเหมียวไปด้วยต้องให้ "นมสดใหม่" 『新鮮ミルク』 กับน้องเหมียวก่อนนะ
(ถ้าไม่มีสามารถหาซื้อได้ที่ร้าน "เบล สเตชั่น" ได้เลยค่ะ)
- ให้ "นมสดใหม่" กับน้องเหมียว "อันโตวานู" 『アントワーヌ』 แล้วน้องเหมียวจะเข้ากลุ่มด้วยค่ะ
☆ในกรณีที่มีน้องเหมียวอยู่ด้วย
เราจะไม่สามารถออกไปนอกโรงงานได้ จำเป็นต้องเคลียร์ซับเควสต์นี้ให้เรียบร้อยก่อนค่ะ☆
- คุยกับ "หัวหน้าทรานซ์" ที่ห้องประมวลผลชั้น 5 เราจะถามถึงเรื่องบุหรี่ แล้วลองให้อันโตวานูตรวจดู แต่ไม่พบปฏิกริยาอะไรค่ะ (ไม่บังคับ)
- คุยกับ "ฟูโก้" 『フーゴ』 ที่ล็อบบี้ชั้น 1 เขาจะไม่สนใจพวกเราเลย เอสเทลจึงให้อันโตวานูตรวจดู แต่ก็ไม่พบปฏิกริยาอะไรเหมือนกันค่ะ (ไม่บังคับ)
- บนชั้น 2 แอนโตวานูจะหยุดร้องหน้าห้องหัวหน้าโรงงาน
- คุยกับ "หัวหน้าโรงงานเมอร์ด็อกซ์" เราจะถามเขาว่าวันนี้ได้เข้าไปที่ห้องพยาบาลหรือเปล่า แต่เขาปฏิเสธ เราเลยขอค้นห้องซึ่งเขาก็ไม่รังเกียจค่ะ
- สำรวจในห้องดังนี้เลยนะคะ
(1) สำรวจที่ประตูด้านใน
- อันโตวานูจะมีปฏิกริยา
(2) สำรวจที่หนังสือปกเขียวที่อยู่บนโต๊ตรงกลางด้านซ้ายของห้อง
- ได้รับ "กุญแจห้องด้านใน"
(3) เข้าไปที่ห้องด้านใน
- พบ "บุหรี่" วางอยู่บนโต๊ะค่ะ
- เมื่อมีหลักฐานมัดตัว "หัวหน้าโรงงานเมอร์ด็อกซ์" จะยอมไปสารภาพผิดกับ "คุณหมอมิเรียม" ซึ่งคุณหมอมิเรียมก็นึกไม่ถึงว่า คนที่แอบเอาบุหรี่ไปสูบจะเป็นหัวหน้าโรงงานเมอร์ด็อกซ์ที่เลิกสูบบุหรี่มานานเกือบ 10 ปีนี่เอง
- ซึ่งเมอร์ด็อกซ์เล่าทุกอย่างด้วยใบหน้าที่รู้สึกผิดว่า เขาก็ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกัน แต่หลังจาก "ปรากฏการณ์ออร์บเมนท์หยุดการทำงาน" พวกชาวเมืองก็ร้องเรียนกันเข้ามามากมาย จู่ ๆ เขาก็อยากสูบบุหรี่ขึ้นมาซะอย่างนั้น เมื่อได้ยินดังนี้ทีต้าจะขอโทษแทน (การทดลองแบบบ้าระห่ำของ) คุณตาของเธอ แต่เมอร์ด็อกซ์จะบอกว่า ไม่เกี่ยวกับดร. หรอก เป็นเพราะเขาไม่ดีเองต่างหากค่ะ
- ดังนั้น สาเหตุทั้งหลายก็มาจากความเครียดนี่เอง เอสเทลกับโยชัวร์จึงแนะนำให้เมอร์ด็อกซ์พักผ่อนซะบ้าง ส่วนคุณหมอมิเรียมก็ไม่เอาเรื่องอะไร นอกจากขอให้เมอร์ด็อกซ์สัญญาว่า จะปล่อยวางงาน แล้วก็หาเวลาพักผ่อนซะบ้าง ซึ่งเมอร์ด็อกซ์ก็ตกลงค่ะ

 
(40) ทูตแห่งการขอคืนดี 『復活愛の使者』 {BP2(+4)}
※เควสต์ลับ
- คุยกับ "พลทหารบรัม" 『兵士ブラム』 ตรงประตูที่ป้อมวูล์ฟ เมื่อเขารู้ว่าเรารู้จักกับเฟย์แถมยังเป็นเบรเซอร์ เขาจะขอให้เราช่วยเขาให้คืนดีกับเฟย์ค่ะ
- ได้รับ "จดหมายถึงเฟย์" จากบรัม แต่เอสเทลรู้สึกว่าแค่จดหมายอาจจะส่งความรู้สึกไปไม่ถึงผู้หญิงนะ ดังนั้น นางเอกของเราจึงแนะนำให้บรัมมอบของขวัญให้เฟย์ด้วยค่ะ
- ได้รับ "1000 มิร่า" จากบรัมเพื่อเป็นค่าของขวัญน่ารัก ๆ ที่จะซื้อให้เฟย์ค่ะ
- ที่เมืองไซสส์ เราต้องเลือกซื้อของขวัญแทนบรัมมา 1 อย่าง โดยระดับโบนัส BP ที่ได้จะแตกต่างกันดังนี้เลยค่ะ
หมวกนิตติ้งฟู๊ฟู 『もこもニット帽』 BP+4
ทาร์ตหน้าผลไม้ 『旬のフルーツタルト』 BP+2
ถุงมือใช้ทำงาน 『作業用グローブ』 BP+2
ไม่ซื้อของขวัญให้เลย BP+0

- คุยกับ "เฟย์" ที่ชั้น B1 เราจะมอบ "จดหมายถึงเฟย์" และของขวัญ (ในกรณีที่ซื้อมาให้) ให้เธอค่ะ
- เคลียร์ค่ะ
☆เราจะได้เจอกับเฟย์ตอนบทสุดท้ายในวันเทศกาลวันพระราชสมภพที่ท่าเทียบเรือเหาะแกรนเซลอีกครั้งค่ะ
ถ้าเราเลือกของขวัญเป็น "หมวกนิตติ้งฟู๊ฟู" ให้กับเธอล่ะก็ เธอจะคืนดีกับพลทหารบรัมและมาเที่ยวงานเทศกาลด้วยกันค่ะ
แต่ถ้าเลือกเป็นอย่างอื่นให้เธอหรือไม่ได้ทำซับเควสต์นี้เลย เธอจะไปคบกับรูดี้ที่เป็นรุ่นน้องเธอแทนค่ะ☆

 
(41) ต้องการบรรณารักษ์เฉพาะกิจ 『臨時司書求む』 (BP3)
- คุยกับ "คอนแสตนเช่" 『コンスタンシェ』 ที่ห้องเอกสารบนชั้น 2 เธอจะให้เราช่วยหาหนังสือที่มีคนยืมไปแล้วไม่ยอมคืนตามที่ต่าง ๆ ดังนี้ค่ะ
(1) "รวมทฤษฎีทัศนศาสตร์ของผลึกคริสตัล" 『結晶光学論集』
- สำรวจตรงแท่นเหยียบในห้องวางแผนงานบนชั้น 3 ของโรงงานกลางค่ะ
(2) "อาหารของวันพรุ่งนี้" 『明日の料理』
- สำรวจบนโต๊ะตัวแรกฝั่งขวาในห้องทดลองบนชั้น 4 ของโรงงานกลางค่ะ
☆หากอ่านหนังสือเล่มนี้ เราจะได้รับสูตรอาหาร "บุยยาเบสพกพา" 『携帯ブイヤベース』 ด้วยนะคะ☆
(3) "คู่มือพูดภาษาเหมียวที่ใช้ในชีวิตประจำวัน" 『猫語日常会話入門』
- สำรวจบนโต๊ะหัวเตียงในห้องพยาบาลบนชั้น 4 ของโรงงานกลางค่ะ
- นำหนังสือทั้ง 3 เล่มไปมอบให้กับ "คอนแสตนเช่" ดูเหมือนว่าจะเคลียร์ แต่เธอบอกว่า น่าจะยังมีหนังสือที่คนยืมไปแล้วไม่นำมาคืนเหลืออยู่อีกค่ะ ที่เธอคิดว่าเป็นเช่นนั้น เพราะมีการ์ดเขียนข้อความบอกเอาไว้ค่ะ
- ข้อความในการ์ดเขียนเอาไว้ว่า "หมู่บ้านหุบเขา หยุดยืนที่บ่อน้ำ มองมนุษย์หินที่ใกล้เข้ามา ไม่ได้รับคำกล่าวลา" ค่ะ

- คอนแสตนเช่จะขอร้องให้เราช่วยตามหาหนังสือซึ่งน่าจะอยู่ที่ไหนซักแห่งในพื้นที่ไซสส์ค่ะ
☆หนังสือที่เราเอามาคืนให้เธอ สามารถมาอ่านได้ตามตู้หนังสือได้นะคะ☆

 
(42) บรรณารักษ์เฉพาะกิจทำโอที 『臨時司書の残業』 (BP3)
※เควสต์ลับ
※ต้องเคลียร์ (41) ต้องการบรรณารักษ์เฉพาะกิจ ก่อนค่ะ
- สำรวจตะเกียงหินที่อยู่ใต้ระเบียงทางเชื่อมในสวนญี่ปุ่นของ "โรงเตี๊ยมโมมิจิ"
- จะพบ "ระบบนิเวศของนกหัวขวานเอลเบ" 『エルベキツツキの生態』 อยู่ในห่อผ้าค่ะ
- นำหนังสือไปมอบให้ "คอนแสตนเช่" เธอจะบอกว่ายังมีงานต่อไปอีก เพราะหนังสือที่หายไปทั้งหมดมีอยู่ 3 เล่ม ตอนนี้ก็น่าจะเหลืออีก 2 เล่มค่ะ
- ได้รับคำใบ้ที่เป็นรูปกากบาทอยู่ระหว่างวงกลม 4 วงค่ะ
(เอสเทลที่ตอนแรกบอกว่า ไม่อยากได้คำใบ้แบบตอนแรกแล้ว แต่พอเห็นคำใบ้ที่เป็นรูปภาพก็บอกว่าแบบนี้ให้เป็นตัวหนังสือยังจะดีซะกว่า)
- ไปเควสต์ลับต่อไปค่ะ

 
(43) บรรณารักษ์เฉพาะกิจทำโอที (ต่อ) 『続・臨時司書の残業』 (BP4)
※เควสต์ลับ
※ต้องเคลียร์ (42) บรรณารักษ์เฉพาะกิจทำโอที ก่อนค่ะ
- สำรวจ "ก้อนหินที่สูงที่สุดที่อยู่ตรงกลาง" ของก้อนหินที่วางเรียงราย (สโตนเซอร์เคิล) บนถนนทุ่งหญ้าทรัต (จะอยู่ตรงฉากทางตะวันออกของหอคอยแดงชาดค่ะ)
- ได้รับ "การผจญภัยของเด็กชายฮาร์ท เล่มจบ" 『ハーツ少年の冒険・下』 ค่ะ
- นำหนังสือไปมอบให้ "คอนแสตนเช่" อีกครั้ง เธอจะให้เราดูการ์ดที่มีคำใบ้สถานที่ซ่อนของหนังสือเล่มสุดท้ายค่ะ
- ไปเควสต์ลับต่อไปค่ะ

 
(44) บรรณารักษ์เฉพาะกิจทำโอที (ต่ออีก) 『続々・臨時司書の残業』 (BP4)
※เควสต์ลับ
※ต้องเคลียร์ (43) บรรณารักษ์เฉพาะกิจทำโอที (ต่อ) ก่อนค่ะ
- จากคำใบ้ที่ได้มา ถ้าอ่านจากด้านซ้ายสุดและด้านขวาสุดจากบนลงล่าง จะได้คำใบ้ว่า "ถังไม้ที่อยู่บนชั้น 3 ของอาร์เนมเบิร์ค"『あーねんべるくの3かいにある樽』 ค่ะ
(อาร์เนมเบิร์ค คือ กำแพงเมืองที่ล้อมรอบพื้นที่นครหลวงแกรนเซลทั้งหมดค่ะ)
- สำรวจ "ถังไม้" บนชั้น 3 ของประตูเซนต์ไฮม์
- ได้รับ "สิ่งทอ 31 อย่าง" 『31本の糸杉』 ค่ะ
- เอสเทลจะสังเกตเห็นว่ามีการ์ดเสียบอยู่ในหนังสือ มีข้อความเขียนไว้ว่า
"ขอบคุณที่เหนื่อยนะ
เธอจะเป็นใครไม่รู้หรอก แต่เก่งมากที่ตามรอยมาถึงนี่ได้
จะขอแนะนำตัวเองล่ะ ฉันก็คือเป็นนักวิจัยควอทซ์ คนร้ายที่นำหนังสือทั้ง 3 เล่มมาซ่อนไว้
เธอทำได้ยอดเยี่ยมมาก ดังนั้น ฉันจะมอบของที่อยู่ในห่อผ้านี้แก่เธอ
เปิดอย่างระวังนะ"
- เมื่อเปิดห่อผ้าดูข้างในจะเป็นควอทซ์ "สกัดกั้น3" ค่ะ
(แต่พวกเราจะนำไปมอบให้กับคอนแสตนเช่ เพราะถือว่าของชิ้นนี้ควรจะเป็นของผู้จ้างวานค่ะ)
- นำหนังสือไปมอบให้ "คอนแสตนเช่" เธอจะยกควอทซ์ "สกัดกั้น3" ที่ได้มาให้แก่เราค่ะ
- เคลียร์ได้อย่างสมบูรณ์ค่ะ

 
(45) ประกาศจับสัตว์ปิศาจบนถนนทุ่งหญ้าทรัต 『 トラット平原道の手配魔獣』 (BP4)
- ปราบ (โครโน่ไซเดอร์ *4) ตรงทิศตะวันตกเฉียงใต้ของฉากที่จะเข้าสู่หอคอยแดงชาดบนถนนทุ่งหญ้าทรัตค่ะ
**เจ้าตัวนี้ไม่มีจุดอ่อนอะไรเลยค่ะ แนะนำ ให้ใช้อาร์ท "คาออสแบรนด์" ทำให้ติดสับสนจะง่ายขึ้นค่ะ**
**แล้วก็ระวังท่าที่ทำให้เราติด "หมดสติ" ด้วยนะคะ ทางที่ดีใส่ "เฟเซอร์บรอธ" 『フェザーブローチ』หรือ "เครสต์ชาม" 『クレストチャーム』 เตรียมไว้ก่อนดีกว่าค่ะ**

 
(46) ประกาศจับสัตว์ปิศาจบนทางหลวงริตเตอร์ 『リッター街道の手配魔獣』 (BP5)
- ปราบ (เมลคลีไวเปอร์ + เวนคอบร้า *4) ตรงด้านหน้าทางเข้าสู่เส้นทางกองทัพโซลดาร์ท (ตรงที่เป็นทาง 3 แพร่ง) บนหลวงริตเตอร์ค่ะ

 
(47) ประกาศจับสัตว์ปิศาจบนทางหลวงริตเตอร์2 『リッター街道の手配魔獣②』 (BP6)
- ปราบ (บลัดดี้เซเบอร์ + โซลิดโดเซอร์ *2 + แอคแทคเดอเว่น *2) บนทางหลวงริตเตอร์ ในตอนเหตุการณ์ที่จะมุ่งไปยังค่ายเรสตอนค่ะ



Related entries:
Sora no Kiseki FC (空の軌跡FC)

No comments:

Post a Comment