Sunday, December 3, 2017

[บทสรุป] Zero no Kiseki - Chapter 1 ยามบ่ายของเหล่าหมาป่าเทวะ

第1章 神狼たちの午後
บทที่ 1 ยามบ่ายของเหล่าหมาป่าเทวะ


Walkthrough - บทสรุป

- "------เหนื่อยหน่อยนะฮ้า เดือนนี้ก็ลำบากอีกแล้ว" เสียงผู้ชาย (?) คนหนึ่งดังขึ้น
- บนชั้น 2 ของสมาคมเบรเซอร์สาขาครอสเบล "ประชาสัมพันธ์มิเชล" (受付ミシェル) กล่าวขอบคุณ "อาริออส" (アリオス) ที่เหน็ดเหนื่อยกับงานของสาขา ซึ่งอาริออสตอบกลับมาสั้น ๆ ว่างานเหมือนเดิมไม่ลำบากอะไร พร้อมทั้งฝากมิเชลว่าอย่าลืมโอนเงินให้เขาด้วย มิเชลรู้ใจบอกจะโอนเงินผ่านบัญชี IBC ให้ แล้วก็ขอให้อาริออส ช่วยลด ๆ งานลงบ้าง ชิซึกุจังจะได้ไม่เหงาด้วย แต่อาริออสกลับใช้ความเงียบแทนคำตอบ
- มิเชลรู้ตัวว่าหลุดปากพูดเรื่องนี้ทั้งที่สัญญาว่าจะไม่พูดถึงไปแล้ว ก็รีบขอโทษขอโพยใหญ่ แล้วก็เปลี่ยนเรื่องไปบอกว่าทาง "สำนักงานใหญ่เรแมน" (レマン総本部) ติดต่อมาถามเรื่องเดิมอีกแล้ว
อาริออส "เรื่องนั้นอีกแล้วรึ...... เกี่ยวกับเรื่องนั้นน่าจะปฏิเสธไปหลายครั้งแล้วนี่"
ประชาสัมพันธ์มิเชล "ก็นะ สำหรับสำนักงานใหญ่แล้ว คงอยากจะเตรียมหาคนมาแทนคาซิอุส ไบรท์นั่นแหละ เธอเองก็เป็นศิษย์น้องของเขานี่นา? ผลงานที่ผ่านมาก็ไม่ได้ด้อยไปกว่ากันด้วย ลองคิด ๆ ดูหน่อยเป็นไง?"
อาริออส "น่าเสียดาย...... แต่สำหรับเขากับชั้นบทบาทต่างกันเกินไป เพราะถ้าดูตามผลงานแล้ว ชั้นก็ไม่ได้แก้ไขปัญหาระดับชาติอย่างเขาด้วย บอกตามตรงว่ามันยังเป็นเรื่องที่ไม่สมควร"
ประชาสัมพันธ์มิเชล "ถ้าพูดถึงปัญหาระดับชาติก็มีคดีที่เรมิเฟเลีย (レミフェリア) นี่ แถมยังได้รับเครื่องราชฯ มาจากท่านแกรนด์ดยุคด้วย เรื่องผลงานน่าจะมีเหลือเฟือแล้วนา"
อาริออส "......ก็คดีนั่นไม่ได้คลี่คลายลงจริง ๆ สักหน่อย ถึงจะทำลายหน่อเชื้อที่อยู่ในอาณาจักรดยุคลง แต่ก็ปล่อยให้คนที่ชักใยอยู่เบื้องหลังอีกส่วนหลุดมือไป จริง ๆ อยากจะปฏิเสธไม่รับเครื่องราชฯ อะไรนั่นแต่แรกอยู่แล้ว......"
ประชาสัมพันธ์มิเชล "เฮ้อจริง ๆ เล้ย...... จริงจังเกิ๊น อย่างน้อยถ้าเลื่อนขั้นแล้ว กลับกันจะทำให้สบายขึ้นอีกนิดไม่ใช่เหรอ? ลำพังแค่เดือนนี้ก็ปาเข้าไปตั้ง 100 กว่าคดี...... ไม่ธรรมดาแล้วนะเนี่ย ปริมาณงานขนาดนี้น่ะ"
อาริออส "ก็ไม่ได้คิดที่จะฝืนอยู่แล้ว จำนวนเที่ยวของรถไฟกับเรือเหาะก็เพิ่มมากขึ้น ทำให้การเดินทางไปนอกเขตปกครองตนเองก็สะดวกขึ้น แถมยังมีคนที่พึ่งพาอาศัยได้มาช่วยอีก จากนี้ก็คงจะหายใจหายคอได้สักพัก"
ประชาสัมพันธ์มิเชล "เด็กพวกนั้นน่ะเหรอ...... จะว่าไปก็เป็นหน้าใหม่ไซส์บิ๊กที่รอคอยเลยนะเนี่ย อย่างน้อยก็ดูจะพึ่งพาได้มากกว่าพวกเด็ก ๆ แผนกสนับสนุนฯ นั่นหลายเท่าด้วย"
- "ขอประทานโทษค่า~" เสียงหญิงสาวเต็มไปด้วยชีวิตชีวาดังขึ้นมาจากชั้น 1 มิเชลจึงเดินไปบอกให้ขึ้นมาด้านบน "รบกวนด้วยนะครับ" คราวนี้เป็นเสียงชายหนุ่มดังขึ้นมาบ้าง
- "หญิงสาวผมทรงทวินเทล" (ก็ผมแกละนั่นแล...) กับ "ชายหนุ่มผมสีดำขลับ" ที่ดูคุ้นตาเดินขึ้นมา แล้วก็ต้องประหลาดใจเล็กน้อยที่เห็นคุณอาริออสอยู่ด้วย อาริออสจึงพูดขึ้นว่า "3 เดือนแล้วเหรอเนี่ย...... ที่ทั้ง 2 คนอุตส่าห์มาช่วย" ด้วยรอยยิ้มเล็กน้อย
- มิเชลก็รู้สึกดีใจไม่ต่างกันที่มีคนเก่ง ๆ มาช่วยงานสาขาครอสเบล หญิงสาวผมทรงทวินเทลหัวเราะร่วน บอกมิเชลว่าประเมินเธอสูงเกินไปแล้ว ส่วนชายหนุ่มผมดำก็กล่าวอย่างถ่อมตัวเช่นกัน
- "------ขอแนะนำตัวอีกครั้ง เบรเซอร์ทางการ เอสเทล ไบรท์" หญิงสาวผมทรงทวินเทลแนะนำตัว ตามด้วยชายหนุ่มผมดำ "และโยชัวร์ ไบรท์"
เอสเทล & โยชัวร์ "ขอเข้ามาสังกัดสมาคมเบรเซอร์สาขาครอสเบลอย่างเป็นทางการค่ะ / ครับ------!"



แผนกสนับสนุนภารกิจพิเศษ (特務支援課)
- ตัดมาที่ยามเช้าอันสดใสของเมืองครอสเบล ผู้คนยังคงพลุกพล่านเหมือนเช่นเคย
- ณ แผนกสนับสนุนภารกิจพิเศษ พวกลอยด์นั่งรอหัวหน้าแผนกของเขาที่มาประชุมเช้าสายอย่างหน่าย ๆ แต่เมื่อ "หัวหน้าแผนกเซอร์เกย์" โผล่หน้ามากลับบอกว่าไม่มีความจำเป็นที่ต้องประชุมเช้าแล้ว เพราะเมื่อครู่นี้กองบัญชาการตำรวจติดต่อเข้ามาให้เราไปรับภารกิจพิเศษค่ะ

กองบัญชาการตำรวจครอสเบล (クロスベル警察本部)
- ณ กองบัญชาการตำรวจครอสเบล พวกลอยด์ขึ้นลิฟท์มาที่ชั้น 3 พลางสงสัยว่าภารกิจพิเศษที่จะให้พวกเขาทำนั้น เป็นภารกิจแบบไหนกันแน่
- เมื่อเข้ามาในห้องทำงานของ "รองอธิบดีปิแอร์" (ピエール副局長) ลอยด์สังเกตเห็นผู้หญิง 2 คนยืนอยู่ในห้องนั้นด้วย ซึ่งเมื่อดูจากชุดเครื่องแบบแล้วก็ทำให้ทราบได้ว่าพวกเธอคือสมาชิกของ "กองกำลังรักษาความปลอดภัย" (警備隊) แต่จู่ ๆ แรนดี้ก็ร้องเสียงหลงถอยหลังกรูดเมื่อเห็นผู้หญิงใส่แว่นที่ยืนอยู่ข้างหน้า ลอยด์หันมาถามว่ารู้จักด้วยเหรอ ส่วนทีโอเหน็บแรนดี้เล็ก ๆ ด้วยเสียงเรียบ ๆ ว่า "เป็นปฏิกริยาที่ดูเหมือนจะมีอะไรที่รู้สึกผิดเลยนะคะ......"
- ที่แท้ผู้หญิงใส่แว่นคนนั้นที่ทำให้แรนดี้ถึงกับผวาได้ก็คือ "พันโทโซเนีย แบลซ์" (ソーニャ・ベルツ) รองผู้บัญชาการแห่งกองกำลังรักษาความปลอดภัยนั่นเองค่ะ
(ตรงนี้แรนดี้จะกระซิบบอกกับพวกลอยด์ว่า รองผู้บัญชาการโซเนียเนี่ย เป็นเบอร์ 2 ในกองกำลังรักษาความปลอดภัยก็จริง แต่ความสามารถในการบังคับบัญชาถือได้ว่าเป็นเบอร์ 1 เลยล่ะค่ะ)
- จากนั้น เราจะทราบว่าในวันนี้ที่ "รองผู้บัญชาการโซเนีย" เรียกพวกเรามา ก็เพราะมีเรื่องจะขอแรงให้พวกเราช่วยตรวจสอบความเสียหายจากสัตว์ปิศาจ เนื่องจากว่าในช่วง 1 เดือนเศษมานี่ ในแต่ละพื้นที่ของเขตปกครองตนเองได้รับความเสียหายจากสัตว์ปิศาจซึ่งมีลักษณะเฉพาะเกิดขึ้นติด ๆ กัน ซึ่งเธออยากจะให้พวกเราลองตรวจสอบด้วยมุมมองที่ต่างออกไปจากมุมมองของกองกำลังรักษาความปลอดภัย ที่ตอนนี้หมดหนทางที่จะตรวจสอบแล้วค่ะ
(ดูเหมือนว่าจริง ๆ แล้วโซเนียอยากจะให้ "กองกำกับการสืบสวนสอบสวน 1" เป็นคนตรวจสอบ แต่รองอธิบดีปิแอร์ปฏิเสธแบบกล้า ๆ กลัว ๆ เกรง ๆ ว่า สืบสวนฯ 1 งานเยอะ ไม่ค่อยว่างกัน ส้ม (?) ก็เลยมาหล่นอยู่กับพวกลอยด์ค่ะ)
- เมื่อพวกเรารับปากจะทำงานนี้ รองผู้บัญชาการโซเนียจึงสั่งให้ผู้หญิงที่ชื่อ "โนเอล" มอบ Event Item "สำนวนคดีสัตว์ปิศาจประเภทหมาป่า" (狼型魔獣被害調書) ให้กับลอยด์
(ตอนที่รับสำนวนสอบสวนมา ลอยด์มองหน้าโนเอลแล้วรู้สึกเหมือนคุ้นหน้าเธอยังไงบอกไม่ถูกด้วยค่ะ)
- ก่อนจากไป รองผู้บัญชาการโซเนียหันมาถามไถ่แรนดี้ ซึ่งแรนดี้บอกว่าตอนนี้เขาสนุกกับการใช้ชีวิตในตอนนี้ มากกว่าตอนเฝ้าระวังในเขตชายแดนหรือตอนซ้อมรบอีก รองผู้บัญชาการโซเนียได้ยินแบบนั้นก็บอกว่า "ถ้าอย่างนั้นก็ดีแล้ว...... ค่อยคุ้มค่ากับการที่ฉันแนะนำไปด้วย" ค่ะ
(ตรงนี้เราจะรู้ว่า โซเนียไม่ได้เป็นหัวหน้าโดยตรงของแรนดี้ค่ะ แต่เธอเป็นคนที่คอยชี้แนะแรนดี้หลายต่อหลายครั้งในตอนฝึกฝนกับตอนซ้อมรบ ซึ่งแรนดี้บ่นอุบว่าเป็นคนสวยก็จริง แต่ถ้าทำให้โกรธขึ้นมาก็น่ากลัวไม่ใช่เล่นเลยล่ะค่ะ พอพูดถึงตรงนี้ทีโอก็สบโอกาสเหน็บแรนดี้อีกครั้ง...ว่าไม่ใช่เพราะการใช้ชีวิตของแรนดี้หรอกเหรอที่เป็นสาเหตุให้รองผู้บัญชาการโซเนียโกรธ ซึ่งเพื่อน ๆ ก็เห็นด้วยค่ะ นอกจากนั้นเราจะได้รู้ว่า ผู้หญิงที่มาด้วยกันกับโซเนียนั้น เป็นคนที่แรนดี้ไม่เคยเห็นหน้ามาก่อน คาดว่าน่าจะเป็นสมาชิกที่ประจำอยู่ที่ประตูทังแกรมที่รองผู้บัญชาการดูแลอยู่ค่ะ แรนดี้นึกขึ้นมาได้ว่าลอยด์ทำท่าเหมือนรู้สึกอะไรกับผู้หญิงคนเมื่อกี๊ก็เลยแซว ทำเอาเอลี่กับทีโอหันมาหรี่ตามองลอยด์อย่างไม่ไว้วางใจ ลอยด์ลนลานรีบปฏิเสธบอกว่าเขาแค่รู้สึกว่าเคยเจอเธอมาก่อนเท่านั้นเอง ในขณะที่พวกเรากำลังคุยกันเพลินก็โดนรองอธิบดีปิแอร์ไล่ออกไปนอกห้องค่ะ)

Main Quest DP ตรวจสอบความเสียหายจากสัตว์ปิศาจ (魔獣被害の調査)
5(+10)

แผนกสนับสนุนภารกิจพิเศษ (特務支援課)
- เราจะกลับมาที่แผนกสนับสนุนฯ อ่านสำนวนคดีที่ได้มา พบว่าความเสียหายที่เกิดขึ้นจากสัตว์ปิศาจประเภทหมาป่าเกิดขึ้นในแต่ละพื้นที่ของเขตปกครองตนเองทั้งสิ้น 3 แห่ง
1) หมู่บ้านอาร์โมริกา: เกิดเหตุขึ้นคืนกลางดึกเมื่อ 3 สัปดาห์ก่อน, ในตอนเช้าพบว่า ผลผลิตทางการเกษตรและสัตว์ที่เลี้ยงไว้เกิดความเสียหาย, ไม่มีผู้พบเห็นเหตุการณ์ เพราะหลับกันหมด, รอบ ๆ หมู่บ้านพบรอยเท้าของสัตว์ประเภทสุนัข แต่พื้นที่ใกล้เคียงไม่พบร่องรอยแบบเดียวกันเลย
2) วิทยาลัยแพทย์ศาสตร์เซนต์เออร์ซูล่า: เกิดเหตุขึ้นคืนกลางดึกเมื่อ 1 สัปดาห์ก่อน, แพทย์วิจัยถูกทำร้ายได้รับบาดเจ็บ 1 คน เจ้าหน้าที่ของรพ.ไปพบเข้าตอนเช้า, ผู้เสียหายเห็นสิ่งมีชีวิตคล้าย ๆ หมายป่าสีดำ, แถว ๆ ที่เกิดเหตุไม่พบร่องรอยใด ๆ มีความเป็นได้ว่าผู้เสียหายเข้าใจผิดไปเอง
3) เมืองเหมืองแร่ไมนซ์: ประมาณ 4 ทุ่มเมื่อ 2 วันก่อน, ชาวเหมืองถูกทำร้ายได้รับบาดเจ็บ 1 คนในตอนกลับจากร้านเหล้า ชาวเหมืองที่พักที่เดียวกับผู้เสียหายเป็นผู้แจ้งเหตุการณ์, มีชาวเมืองเห็นหมาป่ากำลังวิ่งหนีไป, พบรอยเท้าจำนวนมากแถว ๆ ที่เกิดเหตุ, เหมือนกับที่เกิดขึ้นที่หมู่บ้านอาร์โมริก้า
- จากข้อมูลที่ได้ ทำให้พวกเราสรุปว่า ถ้า "คนร้าย" คือสัตว์ปิศาจประเภทสุนัขจริง ก็ไม่พบ "เหตุจูงใจ" ในการทำเลย ดังนั้นสิ่งที่จำเป็นในตอนนี้คือข้อมูลเพิ่มเติมจากสำนวนที่ได้มา โดยพวกลอยด์จะไปลงพื้นที่ตรวจสอบเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้ง 3 แห่ง โดยเริ่มจากหมู่บ้านอาร์โมริก้าก่อนค่ะ
★QUEST★ (6) เรียกคืนหนังสือยืมเกินกำหนด
DP เบี้ยเลี้ยง (6) เรียกคืนหนังสือยืมเกินกำหนด (延滞本の回収)
3 1000 มิร่า
- ไปคุยกับ "ไมลส์" (マイルズ) พ่อของเซซิลซึ่งทำงานเป็นบรรณารักษ์อยู่ที่หอสมุดเทศบาล ในเขตการปกครอง
- เลือกข้อ 1 "รับงาน" (引き受ける) เพื่อฟังรายละเอียด โดยคุณลุงไมลส์จะขอให้พวกลอยด์ช่วยเรียกคืนหนังสือที่ยืมเกินกำหนดจำนวน 3 เล่ม โดยเราจะไปที่ไหนก่อนก็ได้นะคะ

(1) ถนนตะวันตก: "อพาร์ทเมนท์ เบลไฮม์"
- ห้องแรกสุด คุยกับ "แพนเซ่" (パンセ) น้องสาวของเวนดี้ จะทราบว่า "เฟย์" (フェイ) พ่อของเธอไม่กลับบ้านมา 2 เดือนแล้วค่ะ พอพวกลอยด์บอกว่ามาหาหนังสือที่คุณลุงเฟย์ยืมไป แพนเซ่ก็ถามว่าใช่หนังสือที่เธอกำลังอ่านอยู่หรือเปล่า พวกลอยด์ขอดูก็พบว่าใช่จริง ๆ และได้รับ "คำแนะนำแด่ผู้คลั่งไคล้ทางรถไฟ" (鉄道マニアのススメ) คืนมาค่ะ
(ที่แพนเซ่ไม่อ่านต่อ เพราะเธอว่างก็เลยหยิบมาอ่านเท่านั้น แถมหนังสือยังน่าเบื่อมาก ๆ ด้วย เธอก็เลยคืนให้พวกลอยด์มาแบบเต็มใจสุด ๆ ค่ะ)

(2) ถนนตะวันออก: "อพาร์ทเมนท์ บ้านพักอาร์คาเชีย"
- ห้องทางด้านขวามือบนชั้น 1 คุยกับ "คลาริส" (クラーリス) แม่ของฟราน เธอจะบอกว่า สงสัยเพราะอายุมากแล้วก็เลยลืมไปเลยค่ะ แล้วถ้าโนเอลรู้ มีหวังโดนดุแน่ ๆ ว่าแล้วคลาริสก็รีบไปหยิบหนังสือ "มาร์คกับแม่มดในป่าลึก เล่มต้น" (マルクと深き森の魔女・上) นิทานสำหรับเด็กที่มีคนยืมมากที่สุดมาคืนค่ะ
(จริง ๆ แล้วคุณคลาริสยืมหนังสือเล่มนี้มา เพื่อมาอ่านให้ "ยูก็อต" น้องชายของ "ซาริน่า" ห้องตรงข้ามฟังค่ะ ซึ่งคลาริสจะคอยเลี้ยงดูให้ตอนที่ซาริน่าไม่อยู่ และซาริน่าก็เป็นพี่สาวของ "อาเซล" สมาชิกของเทสตาเมนส์ที่โดนทำร้ายในบทที่แล้วค่ะ)

(3) เขตการปกครอง: "กองบัญชาการตำรวจ"
- หน้าตู้ขายของอัตโนมัติ คุยกับ "เจ้าหน้าที่สืบสวนฯ เรมอนด์" (レイモンド捜査官)ตอนแรกเรมอนด์พยายามเปลี่ยนเรื่อง เพราะรู้ตัวว่าผิดที่ยืมจนลืม แต่เมื่อโดนสายตาของพวกลอยด์ทิ่มแทงเข้า ก็ทนไม่ไหวต้องไปควานหาหนังสือ "เหล่าสาวงามผู้ขับเคลื่อนทวีป" (大陸を動かした美人たち) มาคืนจนได้ค่ะ
(เอลี่สงสัยว่าทำไมเรมอนด์ถึงได้ยืมหนังสือรวมผลงานของผู้หญิงที่สร้างคุณงามความดีต่าง ๆ มากมายเล่มนี้มา ซึ่งเรมอนด์บอกอย่างไม่อายว่าเขาคิดว่า หนังสือเล่มนี้จะเหมือนนิตยสารกราเวียที่รวมสาว ๆ สวย ๆ ระดับทวีปเอาไว้ค่ะ ถ้าเราลองเปิดอ่านหนังสือเล่มนี้ดู จะพบว่านอกจาก "ลีแอนน์ แซนด์ล็อต" แห่งจักรวรรดิเอเรโบเนีย ~สตรีสงคราม ผู้นำทัพกองทหารม้าเหล็กทะยานเข้าสมรภูมิรบ~, "ชีน่า เดิร์ก" แห่งสาธารณรัฐคาลวาร์ด ~ผู้สร้างผลงานในเงามืดแห่งการปฏิวัติการเปลี่ยนแปลงไปสู่ระบอบประชาธิปไตย~ บุคคลในประวัติศาสตร์แล้ว ยังมี "ราชินีอาริเชียที่ 2" แห่งราชอาณาจักรลีเบร์ล ~จากสงครามร้อยวัน ถึงการลงนามสนธิสัญญาไม่ทำสงคราม~ ลงในหนังสือเล่มนี้ด้วยค่ะ)

- กลับไปรายงานผลและคืนหนังสือให้กับลุง "ไมลส์" ค่ะ

★QUEST★ (7) คำไหว้วานให้รวบรวมวัตถุดิบ
DP เบี้ยเลี้ยง (7) คำไหว้วานให้รวบรวมวัตถุดิบ (食材集めの依頼)
3(+3) 1500 มิร่า
- ไปคุยกับ "ออสการ์" (オスカー) เพื่อนรักช่างทำขนมปังที่ "เบเกอรี่คาเฟ่ มอร์จ" บนถนนตะวันตกค่ะ
- ออสการ์จะขอให้พวกลอยด์ช่วยหาวัตถุดิบสำหรับการทำขนมปังมาให้กับเขา ซึ่งที่ต้องการให้หาให้ก็มี "เนื้อปลาสัตว์ปิศาจ" 4 ชิ้นและ "ไข่สัตว์ปิศาจ" 3 ฟองค่ะ
(ถ้าลอง "ถามรายละเอียดคำไหว้วาน" (依頼について聞く) กับออสการ์อีกครั้ง จะทราบว่าเนื้อปลาสัตว์ปิศาจหาได้จากสัตว์ปิศาจจำพวกปลา ส่วนไข่ก็หาได้จากสัตว์ปิศาจจำพวกนกหรือไม่ก็พวกงูค่ะ)

- หากไปคุยกับ "เบ็นเน็ต" (ベネット) ลูกสาวของเจ้าของร้าน ที่กำลังวิจัยและแข่งทำขนมปังกับออสการ์อยู่ (แน่นอนว่าออสการ์ไม่รู้ว่าเบ็นเน็ตมองเขาเป็นคู่แข่ง) เธอจะขอให้พวกลอยด์หา "ไข่สัตว์ปิศาจ" มาให้เธออีก 2 ฟองและต้องนำมามอบให้เธอก่อนด้วย เพราะเธออยากทำขนมปังเมนูใหม่ให้ได้ก่อนออสการ์ค่ะ
(ตอนแรกเพื่อน ๆ คิดว่าจะดีเหรอที่รับงานซ้อนแบบนี้ แต่ลอยด์เห็นว่าไม่น่าจะมีอะไร แรนดี้เห็นท่าทางลอยด์แล้วก็บอกว่าใช้ได้เหมือนกันนะเนี่ย เอลี่กับทีโอหรี่ตามอง รู้สึกว่าลอยด์เคยชินกับการทำให้ผู้หญิงพอใจยังไงบอกไม่ถูกค่ะ)

- ออกตามหาวัตถุดิบได้ตามนี้เลยค่ะ

(1) เนื้อปลาสัตว์ปิศาจ (魔獣の魚肉):
- หาได้จากการนำ "อาหารแมว" (ねこまんま) ไปให้ค็อปเป เราจะได้เนื้อปลาสัตว์ปิศาจมา 3 ชิ้น
- หรือจุดเรืองแสงบนถนน (ต้องอาศัยโชคช่วย เพราะไอเทมที่จะออกมาเป็นแบบสุ่ม)
- หรือไม่ก็รอผ่านบทจากหมู่บ้านอาร์โมริกา แล้วค่อยไปตีศัตรูประเภทปลาบนถนนสายรองเออร์ซูล่าก็ได้ค่ะ
(2) ไข่สัตว์ปิศาจ (魔獣の卵):
- ได้จากศัตรูประเภทนกกับงู บนทางหลวงครอสเบลตะวันออกหรือถนนสายเก่าอาร์โมริกาค่ะ

- เมื่อรวบรวมวัตถุดิบได้ครบแล้ว ก็กลับไปคุยกับ "ออสการ์" ได้เลยค่ะ

คุยกับ "เบ็นเน็ต" มอบ "ไข่สัตว์ปิศาจ" ให้เธอ 2 ฟองก่อนหรือหลังจากให้ออสการ์แล้วก็ได้ค่ะ
(แต่ถ้ามอบทีหลัง เบ็นเน็ตจะเหวี่ยงใส่ว่าทำไมไม่เอามาให้เธอเร็วกว่านี้ค่ะ)
DP+3

- เคลียร์ค่ะ

★QUEST★ (8) ขอความร่วมมือเข้ามาใช้บริการใหม่
DP เบี้ยเลี้ยง (8) ขอความร่วมมือเข้ามาใช้บริการใหม่ (新サービスの運用協力)
3 1000 มิร่า
- ไปคุยกับ "ประชาสัมพันธ์หญิงแรนฟี่" (受付嬢ランフィ) ที่เคาน์เตอร์ "IBC" จะทราบว่าบริการใหม่ที่ว่าเป็นบริการเกี่ยวกับการแลกเปลี่ยนเซพิธเป็นมิร่าได้ในอัตราที่สูงกว่า แต่เนื่องจากมีปัญหาเซพิธปลอมและการโจรกรรม ทำให้ทางธนาคารตัดสินใจจะจำกัดจำนวนสมาชิก ทั้งยังมีกำหนดการจัดตั้งการจัดเก็บเซพิธผ่านเครื่องคอมพิวเตอร์ปลายทางด้วย ดังนั้น จึงขอความร่วมมือไปทางแผนกสนับสนุนฯ ให้มาทดลองใช้บริการนี้ค่ะ
(ตรงนี้เพื่อน ๆ จะประหลาดใจมากที่ประชาสัมพันธ์หญิงแรนฟี่รู้จักเอลี่ด้วย ซึ่งจากคำบอกเล่าของแรนฟี่ เธอบอกว่าครั้งสุดท้ายที่ได้เจอคุณหนูเอลี่ ก็คือตอนที่คุณหนูไปเรียนต่อต่างประเทศค่ะ ซึ่งแรนฟี่ยังบอกว่าถ้าแจ้ง "ท่านมาเรียเบล" ที่ตอนนี้ไปตรวจงานที่มิชลามล่ะก็จะต้องดีใจแน่ ๆ ที่รู้ว่าคุณหนูเอลี่กลับมาแล้ว เอลี่ได้ฟังก็ยิ้มกล่าวว่า "หึหึ......ท่าทางเบลจะยังยุ่งไม่เปลี่ยนเลยนะ" พวกลอยด์เห็นเอลี่สนิทกับคนของ IBC ก็หันมาซุบซิบกัน สงสัยว่าเอลี่จะเป็นคุณหนูจริง ๆ หรือเปล่าด้วยค่ะ)

- ได้รับ Event Item "IBC ไพรมารี่การ์ด" (IBCプライマリーカード) บัตรสมาชิกสำหรับใช้บริการกับทางธนาคารค่ะ

- คุยกับ "ประชาสัมพันธ์แรนฟี่" เลือกข้อ 2 "แลกเป็นเงิน" (換金をする) จากนั้นเลือก "Exchange" เพื่อแลกเซพิธ โดยเราจะต้องแลกเซพิธทั้ง 7 ชนิด ชนิดละ 30 ก้อนค่ะ
(ถ้ามีเซพิธไม่พอ ก็สามารถแลกทีละนิดละหน่อยก็ได้ แต่สุดท้ายแล้วเซพิธที่แลกไป รวมแล้วต้องได้ชนิดละ 30 ก้อน และถึงจะแลกเกิน 30 ก้อนก็ไม่มีผลกับ DP ที่ได้รับค่ะ)

- เมื่อแลกครบก็ถือว่าเคลียร์ และได้รับ "ยาแห่งเทียร่า *3", "ยาแห่งเซราส *2" และ "EPชาร์จI *2" และยังได้บัตรสมาชิกเก็บเอาไว้ มาใช้บริการในภายหลังอีกด้วยค่ะ

- อย่าลืมซื้อ "ครอสเบลไทมส์ ฉบับที่ 2" ที่ "มุมเบ็ดเตล็ดซาซาร์ก" ในห้างไทมส์หรือที่ "ร้านขายของทาลีซ" บนถนนตะวันตกด้วยนะคะ
- ในช่วงนี้แนะนำให้ไปสำรวจรอบ ๆ ตัวเมืองครอสเบลก่อนค่ะ
- ลองเข้า Camp Menu แล้วเลือกคำสั่ง Orbment จะเห็นว่าที่ตัวออร์บเมนท์มีสแตร็ป (สายคล้องมือ) เพิ่มเติมขึ้นมา ซึ่งแต่ละคนจะมีรูปแบบแตกต่างกันไปค่ะ นอกจากนี้เรายังสามารถเปลี่ยนกรอบ (คัฟเวอร์) ของออร์บเมนท์ได้ด้วย โดยไปคุยกับ "ชาโค" (チャコ) ที่ "ออร์เบิลสโตร์ เก็นเต็น" สนนราคาค่าเปลี่ยนกรอบ ๆ ละ 1000 มิร่าค่ะ (หากมีมิร่าเพียงพอ แนะนำให้เปลี่ยนไปเลย แต่ถ้าไม่มีค่อยมาเปลี่ยนทีหลังก็ได้ เพราะเมื่อเราสะสมควบคู่ไปกับเครื่องเรือนจนครบจะได้รับ Record แถมยังมีผลต่อค่าความสัมพันธ์ของเพื่อน ๆ ในกลุ่มด้วยค่ะ)
- หากมีมิร่าเพียงพอ อย่าลืมไปซื้อเครื่องเรือนใน "ห้างไทมส์" ตรง "มุมเบ็ดเตล็ดซาซาร์ก" จะมี "แจกันดอกไม้ชั้นสูง" (上品な花瓶) เครื่องเรือนของเอลี่ขายอยู่ค่ะ
- ในเขตเมืองเก่า (旧市街) จะมี "ร้านรับแลกเปลี่ยน ไนน์วัลลิ" และ "ร้านปรับแต่ง โรงงานกีโยม" เปิดให้บริการแล้วค่ะ
- นอกจากนั้น ตั้งแต่บทนี้เราสามารถเข้าไปเล่นมินิเกมต่าง ๆ ใน "คาสิโนเฮ้าส์ บาร์ก้า" ได้แล้ว และมีของรางวัลเป็น "ชุดปาลูกดอก" (ダーツセット) เครื่องเรือนของแรนดี้ให้แลกด้วย ยังไงลองแวะไปดูได้นะคะ
- คุยกับ "โครม่า" (クロマ) ที่ "ซุ้มเครื่องดื่มของโครม่า" ที่ตั้งอยู่ในเขตการปกครอง (行政区) จะได้รับสูตรอาหาร "น้ำผลไม้สดใหม่" (新鮮果実ジュース) มาค่ะ
- คุยกับ "คุณยายบาร่า" (バーラお婆さん) ในบ้านติดทางออกนอกเมือง (บ้านข้าง ๆ เทวรูปจิโซ) บนถนนตะวันออกจะได้รับ Event Item "น้ำมะนาว" (レモネード) มาค่ะ (นอกจากจะมีผลกับบทสนทนาในช่วงต่อไปแล้ว ยังมีผลกับไอเทมที่จะได้รับจากคุณยายอีกครั้งในบทต่อไปด้วยนะคะ)
- คุยกับคุณป้า "เลเต้" (レイテ) แม่ของเซซิล ที่ห้องในสุดของ "อพาร์ทเมนท์ เบลไฮม์" ซึ่งตั้งอยู่บนถนนตะวันตก จะได้รับสูตรอาหาร "จุ๊ยซี่สเต็ก" (ジューシーステーキ) มาค่ะ

★หากไปคุยกับ "ฌีรงด์" (ジロンド) เจ้าของบริษัทค้าอาวุธฌีรงด์ เขาจะบอกว่าหัวหน้าของทีโอ (หมายถึงหัวหน้าผู้ดูแลทีโอในช่วงที่มาอยู่ในครอสเบล) เอาอาวุธมาวางให้ซื้อเหมือนเดิมอีกแล้ว ลอยด์กับเอลี่จึงสงสัยว่าทำไมหัวหน้าของทีโอถึงไม่นำมามอบให้ทีโอตรง ๆ นะ ทีโอนิ่วหน้าคิดในใจว่า "หัวหน้า...... ถ้าไม่ทำอะไรให้มันพอดี จะโกรธแล้วนะคะ?" ค่ะ
★หากคุยกับ "เวนดี้" (ウェンディ) เพื่อนสมัยเด็กของลอยด์ที่ออร์เบิลสโตร์ เก็นเต็น เธอจะบอกว่า มีตำรวจกับเบรเซอร์มาใช้บริการเธอเยอะมาก ดูเหมือนว่าคนที่ใช้ออร์บเมนท์รุ่นใหม่จะมีจำนวนเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ค่ะ
★หากคุยกับ "ซาซาร์ก" (サザーク) ที่มุมเบ็ดเตล็ดซาซาร์ก ห้างไทมส์ เขาจะทักแรนดี้ว่าเป็นคนที่มาซื้อนิตยสารกราเวียบ่อย ๆ ช่วงนี้นี่ แรนดี้ก็บอกว่ามันเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดของเขาในช่วงชีวิตนี้เลยล่ะ เอลี่หรี่ตามองแรนดี้ ส่วนลอยด์ก็ถอนหายใจขอให้แรนดี้เลิกทำตัวแบบนั้นต่อหน้าพวกผู้หญิง แรนดี้เลยถามไปว่าลอยด์ก็อยากดูบ้างเหรอ เดี๋ยวให้ยืมก็ได้ ลอยด์รีบปฏิเสธเลิ่กลั่กบอกไม่ได้ขอสักคำ สิ้นคำทีโอหรี่ตามองลอยด์ทันทีค่ะ
★หากคุยกับ "ฟราน" (フラン) ประชาสัมพันธ์ผู้น่ารักที่กองบัญชาการตำรวจ เธอจะกังวลว่าการติดต่อสื่อสารผ่านอินิกม่านอกเขตตัวเมืองอาจจะไม่เต็มร้อยเปอร์เซ็นต์ ซึ่งทีโอบอกว่าตามทฤษฎีแล้ว ถ้าอยู่นอกเมืองในช่วง 200 เซลจ์ คลื่นออร์บเมนท์ก็ยังส่งไปถึงได้ ซึ่งเป็นระยะที่มีผู้คนอาศัยอยู่ในเขตปกครองตนเอง แสดงว่าสัญญาณยังคงส่งถึงกันได้แบบฉิวเฉียด ฟรานได้ยินก็โล่งใจที่สามารถติดต่อพูดคุย เวลาที่พวกลอยด์ไปทำงานนอกเมืองได้ค่ะ
★หากคุยกับ "เดรก โอนเนอร์" (ドレイク・オーナー) โอนเนอร์ของคาสิโนเฮ้าส์ บาร์ก้า แรนดี้จะทักว่าทำไมลุงเจี๊ยกไม่ทักเขาเลย ซึ่งเดรกตอบกลับมาอย่างเย็นชาว่า ".....แรนดี้ แกไม่ต้องมาก็ได้นะ" แถมยังไล่ชิ่ว ๆ อีกด้วย แรนดี้เลยย้อนว่าต้องคอยระวังเขาชนะเยอะ ๆ ใช่มั้ยล่ะ ไม่ต้องห่วงคืนนี้เขามาเล่นอีกแน่ ๆ และถ้าเราลองไปคุยกับคนที่มาเล่นในคาสิโนดู จะรู้ว่าแรนดี้มาเล่นบ่อยจนสนิทกับทุกคนไปทั่วเลยด้วยค่ะ
★หากคุยกับ "เมอซี่" (マーシー) ในห้องบนชั้น 2 ของอพาร์ทเมนท์ บ้านพักอาร์คาเชียซึ่งตั้งอยู่บนถนนตะวันออก เขาจะบอกว่ามีคนเพิ่งย้ายมาใหม่ที่ห้องฝั่งตรงข้ามเขา เป็นหญิงสาวผมทวินเทลกับชายหนุ่มผมดำ รู้สึกว่าจะเป็นเบรเซอร์ด้วยค่ะ (หมายถึงใครคงจะทราบแล้วนะคะ)
★หากคุยกับ "อาริออส" (アリオス) ที่ชั้น 2 ของสมาคมเบรเซอร์ เขาจะชมว่าพวกเราทำได้ดีตอนที่เกิดคดีที่เมืองเก่า ซึ่งพวกเราบ่นอุบอิบกันว่า ถ้าอาริออสโผล่ออกมาก็คงแก้ไขสถานการณ์ได้ในชั่วอึดใจค่ะ หากคุยกับ "อาริออส" อีกครั้ง อาริออสจะยิ้มน้อย ๆ บอกว่าตั้งแต่พวกเขามา ก็เลยทำให้มีเวลาเพิ่มขึ้นอีกนิด ลอยด์สงสัยในใจว่าอาริออสหมายถึงใครกันนะ
★หากคุยกับหนู "ริมะ" (リマ) เด็กที่เดินไปเดินมาหน้าห้องบนชั้น 2 ของอพาร์ทเมนท์ โลตัสไฮนส์ซึ่งตั้งอยู่ในเขตเมืองเก่า เธอจะบอกว่าเมื่อวานมีพี่สาวที่ไม่รู้จักย้ายเข้ามาอยู่ที่นี่ด้วยค่ะ
★หากไปคุยกับ "โคโลน่า" (コロナ) แม่ของริมะ เธอจะรู้สึกเป็นห่วงผู้หญิงที่เพิ่งย้ายเข้ามาใหม่ รวมทั้งตกใจมากที่ได้รู้ว่าเป็นผู้หญิงแต่มาใช้ชีวิตอยู่คนเดียวค่ะ
★หากคุยกับ "วาลด์" (ヴァルド) ที่ไลฟ์เฮ้าส์ อิกนิส พวกเราจะขอบคุณวาลด์ที่ช่วยเหลือในคดีคราวที่แล้ว ซึ่งวาลด์บอกว่ายังไงเขาก็ตั้งใจจะจัดการพวกมาเฟียก่อนพวกเรากับวาซี่อยู่แล้ว และถ้าครั้งต่อไปพวกมาเฟียสกปรกเสนอหน้ามาอีก เขาจะทำให้พวกมันจมกองเลือดเลยค่ะ
★หากคุยกับ "วาซี่" (ワジ) ที่พูลบาร์ ทรินิตี้ วาซี่จะบอกว่าดีใจที่ลอยด์มาหา ลอยด์รีบตีหน้าเข้มบอกว่าจะมาขอบคุณธรรมดา ๆ เท่านั้น ทีโอพูดขึ้นลอย ๆ ว่า "คุณลอยด์ ร้อนรนแบบผิดธรรมชาติจังค่ะ" วาซี่ก็เลยเลิกล้อลอยด์เล่น บอกว่าถ้ามีเรื่องอะไรให้ช่วยก็มาหาเขาได้ เขาจะเป็นกำลังให้ค่ะ ลอยด์ขอบคุณพร้อมกับรู้สึกในใจว่า รับมือกับคน ๆ นี้ยากจริง ๆ ค่ะ
★หากคุยกับ "แอชลีย์" (アシュリー) เจ้าของร้านรับแลกเปลี่ยน (หลังคุยกับ "จิงโก้" (ジンゴ) ลูกสาวของเธอที่เคาน์เตอร์แล้ว) พวกเราจะถามว่าร้านนี้เป็นร้านแบบไหนกันแน่ แอชลีย์ตอบว่าเธอเป็นโบรกเกอร์รับซื้อขายแลกเปลี่ยน แรนดี้กับเอลี่ก็เลยสงสัยว่ามีอาวุธขายด้วยแบบนี้ หรือจะมีความเกี่ยวข้องกับรูวาเช่ แอชลีย์จึงตอบกลับมาว่า ถึงเธอจะติดต่อซื้อขายกับกองทัพหรือพวกกองทหารรับจ้างจากหลายสิบประเทศก็จริง แต่เธอก็เป็นโบรกเกอร์มือสะอาด อย่าเหมาเธอรวมกับพวกมาเฟียค่ะ
หากคุยกับ "แอชลีย์" อีกครั้ง เธอจะถามแรนดี้ว่าเป็นทหารใช่หรือเปล่า แรนดี้บอกว่าเคยอยู่ที่กองกำลังรักษาความปลอดภัยมาก่อน แต่ตอนนี้ไม่ได้เป็นแล้ว แอชลีย์ก็เงียบไปแล้วเอ่ยถึงผมยาวสีแดงของแรนดี้ว่าเหมือนเคยได้ยินมาจากที่ไหนสักแห่งค่ะ ถ้าคุยอีกครั้งจะทราบว่า เฮยเยวี่ยก็สั่งซื้อของจากร้านนี้เช่นกันค่ะ

ทางหลวงครอสเบลตะวันออก (東クロスベル街道)
- ใช้ทางออกตรงถนนตะวันออกเพื่อไปสู่ "ทางหลวงครอสเบลตะวันออก" ค่ะ
(ในตอนที่มาถึงทางหลวงฯ รถออร์บเมนท์โดยสารประจำทางเพิ่งจะออกไป และถ้าจะรอก็ต้องรอถึง 2 ชั่วโมง ทีโอจึงเสนอให้เดินไปแทน เพราะเฉลี่ยแล้วเดินไปน่าจะใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงครึ่ง เอลี่ก็เห็นดีเห็นงาม เพราะจะได้ใช้โอกาสนี้เดินชมวิวปีนเขาไปด้วยค่ะ พวกหนุ่ม ๆ ยืนฟังนิ่ง ถึงไม่คัดค้าน แต่ดูจากท่าทางแล้วก็ไม่เห็นด้วยซะทีเดียว เพราะเป็นห่วงว่าพวกสาว ๆ จะไม่ไหวกัน ส่วนเอลี่กับทีโอยังไม่รู้ว่าหนทางไกลขนาดไหน ในตอนนี้ก็เลยดี๊ด๊ากันใหญ่เลยค่ะ)

ว่าด้วย [จุดเรืองแสงบนฉากฟิลด์]
- เราสามารถเก็บไอเทมจากจุดเรืองแสงบนฉากฟิลด์ได้ ซึ่งไอเทมที่เก็บได้จะเป็นแบบสุ่ม โดยเราสามารถเปลี่ยนแปลงไอเทมในจุดนั้น ๆ ได้ด้วยการโหลดเกมขึ้นมาใหม่
- ความสว่างของจุดเรืองแสงจะแตกต่างกันไป เรืองแสงน้อยก็จะเป็นไอเทมธรรมดา ๆ เรืองแสงมากก็เป็นไอเทมดี ๆ ขึ้นมาหน่อย เรืองแสงสุด ๆ ก็จะเป็นไอเทมดีสุด ๆ ค่ะ

- เราสามารถกลับมาเก็บไอเทมได้เรื่อย ๆ ทุกครั้งที่ไปตัดฉากที่ฉากเมืองหรือหมู่บ้าน ฯลฯ โดยจุดเรืองแสงจะปรากฏออกมาตรงจุดเดิมเสมอ แต่อาจจะไม่ปรากฏทุกครั้งไปค่ะ

- ป.ล. จุดเรืองแสงบางจุดจะไม่เห็นบนฉากและบางทีก็ไม่มี Look Point (สัญลักษณ์ !) แสดงออกมาด้วยค่ะ ไม่แน่ใจว่าเป็นบั๊กของเกมหรือเปล่า

★ITEM★ ยาแห่งเทียร์, เลเธอร์ แจ็กเก็ต, ซิลเวอร์บรอธ, เซพิธทุกคุณสมบัติ *20, EPชาร์จI, สตีล ริสท์
- เมื่อมาถึงตรงทางแยกบนทางหลวงฯ พวกสาว ๆ จะเริ่มเหนื่อยถึงขนาดถอนหายใจออกมา พร้อมกับบ่นว่าลำบากกว่าที่คิดค่ะ ลอยด์บอกเป็นธรรมดาที่จะเหนื่อย เพราะต้องเดินไปสู้กับสัตว์ปิศาจไปด้วย แรนดี้จึงถามขึ้นมาว่าจะพักมั้ย เอลี่บอกยังไหว ส่วนทีโอถึงจะเหนื่อย แต่ก็ถือทิฐิไม่ยอมพัก แรนดี้ก็เลยแซวบอกว่าอย่าฝืน ถ้าไม่ไหวเดี๋ยวพี่ชายจะช่วยแบกเอง ทีโอก็เลยแขวะแรนดี้คืนค่ะ
★★ตรงป้ายรถเมล์ของฉากที่เป็นทาง 3 แยกเชื่อมระหว่างถนนสายเก่าอาร์โมริกาและประตูทังแกรม ถ้าโชคดีจะเจอเจ้ามันจูขาวจั๊วะน่าเจี๊ยะ "ไชน์นิ่งปอม" (シャイニングポム) ศัตรูพิเศษประจำซีรี่ส์นี้ออกมาป้วนเปี้ยนด้วยนะคะ โดยจุดที่เจอจะอยู่ใกล้ ๆ กับจุดที่มะเขือเทศสีแดง "นิงะโทแมโทแมน" (ニガトマトマン) ออกมาค่ะ และเนื่องจากการปรากฏตัวของไชน์นิ่งปอมเป็นแบบสุ่ม อัตราการพบมีแค่ 1 ใน 8 เท่านั้น ดังนั้นในกรณีที่ไม่เจอแนะนำให้ไปตัดฉากซ้ำหลาย ๆ ครั้งที่เมืองครอสเบล แล้วค่อยมาจุดนี้ทีเดียวจะมีโอกาสเจอมากกว่า และถ้าเป็นไปได้เมื่อเจอแล้วให้เซฟก่อน จากนั้นค่อยเข้าสู้ เพราะจำนวนที่ออกมาก็เป็นแบบสุ่มตั้งแต่ 1 - 4 ตัวค่ะ
สำหรับรายละเอียดเพิ่มเติม สามารถเข้าไปดูได้ที่หน้า Shining Pom นะคะ (อยู่ระหว่างการจัดทำค่ะ)


ถนนสายเก่าอาร์โมริกา (アルモリカ古道)
★★บนถนนสายเก่าอาร์โมริกา จะมี Rare monster ที่เป็นกบชื่อ "บัดฮีสต์ ฟร็อกเกอร์" (バドヒストフロッガー) โดยจะออกมากับผึ้งสีเหลือง ๆ ชื่อ "เม็ตฮันเตอร์" (メットハンター) และ "ซาซ่าแพนด้า" (ササパンダー) ที่จะออกมาพร้อมกับศัตรูที่เป็นดอกทานตะวันชื่อ "เดธ โคโรลล่า" (デスコローラ) ด้วย ซึ่ง Rare monster พวกนี้จะออกมาแบบสุ่ม หากปราบได้จะได้รับ "Uแมทเทเรียล" (Uマテリアル) ไอเทมสำคัญสำหรับการปรับแต่งอาวุธเหมือนที่ดร็อปได้จากไชน์นิ่งปอมด้วยค่ะ
ขอบคุณคุณ seria สำหรับข้อมูลในส่วนนี้ด้วยนะคะ

★ITEM★ ยาแห่งเซราส, กลาส ฮ็อปเปอร์, คูล เน็คเลส
- เมื่อมาถึงจุดแวะพักกลางทาง สาว ๆ จะเหนื่อยแทบเดินไม่ไหว ขอพักสักครู่ที่นี่ค่ะ
- ระหว่างที่คุยกัน (กรณีที่มีอีเวนท์ไอเทม "น้ำมะนาว" จะมีบทสนทนาเพิ่มเติมขึ้นมาเล็กน้อย) จะทราบจากเอลี่ด้วยว่า ใกล้ ๆ กับสถานที่ที่สวยงามเช่นนี้ มีสนามรบเก่าที่ไม่ใช้แล้วด้วย ซึ่งสนามรบที่ว่านั่นก็คือสนามรบที่เอเรโบเนียกับคาลวาร์ดเข้าห้ำหั่นกันค่ะ พอแรนดี้ได้ยินก็สนใจอยากไปดูสนามรบที่ว่านั่น แต่ไม่มีใครเห็นด้วยค่ะ
- นอกจากนั้น แรนดี้ยังสังเกตและหันมาถามลอยด์ว่าไม่เห็นเหนื่อยเลย ลอยด์บอกว่าเพราะเขารับการฝึกเซอร์ไวเวอร์มาสมัยอยู่โรงเรียนตำรวจมาก็เลยไม่ค่อยเหนื่อย ส่วนแรนดี้ก็ไม่มีเหงื่อสักหยด เพราะเคยชินกับการเดินลาดตระเวนค่ะ ตรงช่วงนี้รถออร์บเมนท์โดยสารประจำทางก็ผ่านไปพอดี ทีโอเห็นก็อุบอิบรู้สึกอยากโบกมือเรียกให้รถจอด ลอยด์เหงื่อตกบอกว่า ถ้าขึ้นรถคันนั้นไปก็ไม่มีความหมายที่เดินมาจนถึงที่นี่สิ
- หลังจากชื่นชมทิวทัศน์อันสวยงามและพักจนหายเหนื่อยแล้ว ก็ออกเดินทางต่อได้เลยค่ะ
★ITEM★ Uแมทเทเรียล, คมดาบผนึกมาร, ยาแห่งเซราส, เซพิธทุกคุณสมบัติ *20, โจมตี2 (สู้กับ เม็ตฮันเตอร์ *6), EPชาร์จI

หมู่บ้านอาร์โมริกา (アルモリカ村)
- เมื่อมาถึงหมู่บ้านอาร์โมริกา พวกลอยด์จะรู้สึกว่าที่นี่ช่างเป็นหมู่บ้านที่แสนเงียบสงบและสวยงามมาก แถมยังมีกลิ่นน้ำผึ้งอบอวลไปทั่วหมู่บ้านเลย ซึ่งจากฐานข้อมูลของทีโอบอกว่าน้ำผึ้งของที่นี่เป็น 1 ในผลผลิตท้องถิ่น และด้วยความที่เต็มเปี่ยมไปด้วยคุณภาพมากมาย จึงมีการส่งออกไปขายยังประเทศข้างเคียงด้วย ลอยด์ได้ฟังก็แทบไม่เชื่อว่าสินค้าขายดีที่วางขายตามร้านจะผลิตจากสถานที่แบบนี้ เอลี่ก็เห็นด้วย แล้วก็พูดขึ้นลอย ๆ ด้วยสีหน้าไม่สบายใจว่า "......สิ่งที่เรารู้ในฐานะความรู้ กับสิ่งที่เรารู้ในความเป็นจริงนั้น แตกต่างกันมาก" ว่าแล้วก็เงียบไปก่อนที่จะบอกว่าไม่มีอะไร และไปสอบถามกับหัวหน้าหมู่บ้านถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นค่ะ
- แวะไปที่ "โรงเตี๊ยมโทเนริโก้" (トネリコ亭) สำรวจป้ายเมนูอาหารที่ติดบนผนังข้าง ๆ เคาน์เตอร์ จะได้รับสูตรอาหาร "ออมไรซ์ สไตล์ชนบท" (田舎風オムライス) มาค่ะ
- ในโรงนาท้ายหมู่บ้าน (ข้าง ๆ บ้านหัวหน้าหมู่บ้าน) จะมีหีบสมบัติที่เก็บควอทซ์ "ลดEP1" ด้วย อย่าลืมไปเก็บนะคะ
- เมื่อเข้าไปที่บ้านของหัวหน้าหมู่บ้านอาร์โมริกา จะเห็น "ผู้ชายที่ดูสุภาพ" (温和そうな男性) กำลังกล่าวขอบคุณหัวหน้าหมู่บ้านที่ทำให้เขาสามารถทำการค้าขายดี ๆ ได้อยู่ค่ะ
(เราจะทราบว่า ผู้ชายที่ดูสุภาพคนนี้ซื้อน้ำผึ้งของที่นี่ไปในราคาที่แพงกว่าพ่อค้ารายอื่นถึง 2 เท่า สาเหตุที่ยอมจ่ายแพงขนาดนี้ เพราะเขาอยากจะซื้อในราคาที่เหมาะสมกับคุณภาพของผลผลิตท้องถิ่นของที่นี่ ทำให้หัวหน้าหมู่บ้านรู้สึกเกรงใจแล้วก็รู้สึกขอบคุณเขาเป็นอย่างมาก รวมทั้งไม่ลืมที่จะบอกให้เขาพาภรรยาและลูกชายมาเที่ยวที่นี่คราวหน้าด้วยค่ะ จากตรงนี้ถ้าเพื่อน ๆ คนไหนติดตามซีรี่ส์นี้มาตลอดจะเดาได้ทันทีเลยว่า พ่อค้าผู้แสนใจดีคนนี้เป็นใคร และเกี่ยวข้องอะไรกับตัวละครในภาคก่อน ๆ บ้างค่ะ)
- หลังจากโดนบ่นให้ฟังเรื่องที่พวกกองกำลังรักษาความปลอดภัยมาตรวจสอบไปแต่ไม่เห็นมีอะไรคืบหน้า และถูกเข้าใจผิดคิดว่าเป็นเบรเซอร์อีกแล้ว พวกลอยด์ก็ได้รับข้อมูลจาก "หัวหน้าหมู่บ้านโทลต้า" (トルタ村長) เพิ่มเติมว่า คนในหมู่บ้านพบรอยเท้าสัตว์ประเภทสุนัขก็จริง แต่พอให้พวกกองกำลังรักษาความปลอดภัยที่บังเอิญเดินตรวจตราอยู่แถว ๆ หมู่บ้านในวันเกิดเหตุพอดีมาช่วยตรวจสอบ ก็ไม่พบสัตว์ประเภทสุนัขที่พอจะเข้าเค้าตัวเป็น ๆ เลย แล้วความเสียหายที่เกิดขึ้น ไม่ว่าบ้านหลังไหนก็ได้รับความเสียหายเพียงเล็กน้อย ตีค่าความเสียหายออกมาแค่ 100000 มิร่าเท่านั้นเอง
- แล้วในตอนที่ทุกคนกำลังท้อแท้ ก็มีคนมาติดต่อซื้อขายผลผลิตในราคาดีพอดี ทุกคนในหมู่บ้านก็เลยสามารถนำมาหักกลบลบหนี้กับความเสียหายที่เกิดขึ้นได้โดยไม่มีปัญหาใด ๆ ซึ่งคนที่มาติดต่อซื้อขายนั้นก็ไม่ใช่ใครอื่น คือผู้ชายที่ดูสุภาพอ่อนโยนคนนั้น ซึ่งเปิดกิจการค้าขายระหว่างประเทศในเมืองครอสเบลที่ทุกคนในหมู่บ้านสนิทสนมคุ้นเคยมาหลายปีแล้ว พอรู้ข่าว เขาก็มาขอซื้อของในราคาที่เพิ่มขึ้นเพื่อช่วยคนในหมู่บ้านค่ะ
- หัวหน้าหมู่บ้านโทลต้าบอกว่า ความเสียหายที่เกิดขึ้นนี้อาจจะยังถือว่าเล็กน้อยก็เป็นได้ พวกลอยด์สงสัยว่าทำไมถึงพูดแบบนี้ หัวหน้าหมู่บ้านจึงเล่าเรื่อง "หมาป่าเทวะ" (神狼) ตำนานเล่าขานในสมัยก่อนซึ่งไม่ปรากฎแม้แต่ในฐานข้อมูลของทีโอให้ฟังค่ะ
(จากคำบอกเล่าของหัวหน้าหมู่บ้านโทลต้า "หมาป่าเทวะ" เป็นสัตว์ที่อยู่อาศัยบนผืนแผ่นดินของครอสเบลมาตั้งแต่ครั้งโบราณกาล รูปกายเป็นหมาป่าขนเรียงเส้นสีขาว ไม่ใช่สัตว์ปิศาจทั่ว ๆ ไป แต่เป็นสัตว์ศักดิ์สิทธิ์ที่เทพธิดารังสรรค์ขึ้นมา คอยเฝ้าดูความโง่เขลาของมนุษย์ บางครั้งนึกครึ้มขึ้นมาก็ให้ความช่วยเหลือผู้ไร้ซึ่งกำลัง จากบนผืนแผ่นดินครอสเบลที่มักจะถูกปกคลุมไปด้วยสงครามที่ราวกับเลือดต้องล้างด้วยเลือดมาตั้งแต่อดีตกาล เรื่องเล่าขานนี้มีกล่าวไว้ในหนังสือที่หอสมุด แต่ในช่วงหลายสิบปีที่ผ่านมาครอสเบลเปลี่ยนแปลงไปมาก ในขณะที่ค่อย ๆ กลายเป็นเมืองธุรกิจการค้าที่สำคัญภายใต้อิทธิพลจากจักรวรรดิและสาธารณรัฐ ผู้คนก็เริ่มลืมเลือนความทรงจำในอดีตไป และแล้ว "หมาป่าเทวะ" ก็ได้หายตัวไปตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่ทราบได้ หัวหน้าหมู่บ้านโทลต้ารู้สึกว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตอนนี้ น่าจะเป็นลางบอกเหตุถึงการกลับมาของ "หมาป่าเทวะ" หรือเปล่าด้วยค่ะ)
- เมื่อออกมาข้างนอก ทุกคนก็เริ่มหิวกันแล้วด้วย เพราะงั้นแวะไปหาอะไรกินกันที่โรงเตี๊ยม พร้อมทั้งหาข้อมูลจากชาวบ้านคนอื่น ๆ ไปด้วยกันดีกว่าค่ะ

ว่าด้วย [การตกปลา]
- ดูเหมือนการตกปลาจะเป็นมินิเกมประจำซีรี่ส์นี้ไปแล้วซะแล้ว ซึ่งในภาคนี้ เราสามารถเริ่มตกปลาได้โดยการคุยกับ "โคปัง" (コパン) สมาชิกสมาพันธ์นักตกปลา สาขาครอสเบล

- หลังจบเหตุการณ์คุยกับ "หัวหน้าหมู่บ้านโทลต้า" เสร็จแล้ว ให้ไปคุยกับ "โคปัง" ที่สะพานในหมู่บ้าน จะได้รับเบ็ดตกปลา "โนวิซ ร็อด", "สมุดบันทึกการตกปลา" อุปกรณ์สำคัญในการตกปลา รวมทั้ง "หนอน" กับ "เนริดังโงะ" เหยื่อในการตกปลามาให้อีกอย่างละ 10 ชิ้นค่ะ

- รายละเอียดอื่น ๆ ติดตามได้ในหน้า Mini game Fishing ได้เลยค่ะ

- เข้าไปในโรงเตี๊ยมโทเนริโก้ คุยกับ "โกฟาน" (ゴーファン) เจ้าของร้านและ "อัลเฟร็ด" (アルフレッド) ตรงเคาน์เตอร์เพื่อถามข้อมูลเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นคืนกลางดึกเมื่อ 3 สัปดาห์ก่อน เมื่อไม่ได้ข้อมูลเพิ่มเติมอะไรมาก ก็ขอกินข้าวให้อิ่มท้องกันก่อนค่ะ ว่าแล้วโกฟานก็ขอเลี้ยงออมไรซ์ เมนูดังของร้านให้พวกเราหม่ำแก้หิวกันค่ะ
- บนชั้น 2 ของโรงเตี๊ยม จะพบกับ "ผู้ชายที่ดูสุภาพ" ซึ่งภายหลังได้ทราบว่าเขาชื่อ "ฮาโรลด์ เฮเวิร์ส" (ハロルド・ヘイワース) ค่ะ
- ไปคุยกับทุกคนในหมู่บ้าน เพื่อฟังข้อมูลเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เมื่อคุยครบแล้วให้ตัดฉากเพื่อกลับออกมากลางหมู่บ้านจะเกิดอีเวนท์ขึ้น ซึ่งเป้าหมายในการตรวจสอบข้อมูลต่อไปก็คือ วิทยาลัยแพทย์ค่ะ
- ก่อนออกจากหมู่บ้าน ให้แวะไปคุยกับ "ผู้เฒ่าเรออร์" (レオール老人) ที่ "ร้านขายของชำเรออร์" เขาจะมอบหนังสือ "เกล็นหมอปิศาจ เล่ม 2" ให้เราค่ะ
- นอกจากนั้นจะมี "แบบจำลองรถออร์บเมนท์" (導力車模型) เครื่องเรือนของลอยด์ขายด้วย ยังไงก็อย่าลืมซื้อมานะคะ
- สำรวจป้ายรถโดยสารประจำทางที่หน้าหมู่บ้านเพื่อเดินทางกลับ แต่ดูเหมือนว่าต้องรอถึง 30 นาที ณ ตอนนั้นเองทีโอก็รู้สึกเหมือนได้ยินเสียงอะไรบางอย่างมาจากที่ไกล ๆ เธอเลยขยายกำลังของเซ็นเซอร์เพื่อฟังเสียงให้ชัด ๆ แต่ดูเหมือนว่าเธอจะรู้สึกไปเอง ซึ่งเสียงที่เธอได้ยินนั้นเหมือนเสียงหอนจากที่ไกล ๆ ค่ะ
(ตรงนี้เราจะทราบว่าเซ็นเซอร์ของทีโอ ใช้งานได้ในระยะ 50 เซลจ์ แต่ถ้าเสียงลอยมาตามลมก็อาจจะขยายระยะได้มากกว่านั้นหลายเท่าค่ะ นอกจากนั้น ทีโอยังสงสัยด้วยว่า ทำไมทุกคนถึงเชื่อว่าเธอได้ยินเสียงจริง ๆ เธออาจจะคิดไปเองก็ได้ แต่ทุกคนพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า พวกเขาเชื่อใจและเชื่อในความสามารถของทีโอ รวมทั้งทีโอก็ไม่มีเหตุผลที่จะโกหกด้วยค่ะ)
- ในขณะที่พวกเรากำลังยืนคุยกันอยู่นั่นเอง "ฮาโรลด์" ก็เดินออกมาเพื่อจะกลับไปยังเมืองครอสเบลพอดี จึงขันอาสาขับรถออร์บเมนท์ไปส่งพวกเราค่ะ
(เราจะทราบว่า รถออร์บเมนท์เป็นอะไรที่แพงมาก ๆ ในตอนนี้ ราคาเกือบ 8 แสนมิร่าเชียวค่ะ แล้วก็ได้รู้ว่าฮาโรลด์เป็นคุณพ่อตัวอย่างที่รักลูกรักครอบครัวมาก ดูเหมือนตอนนี้ลูกชายของเขาก็อายุ 5 ขวบก่อนวัยเข้าโรงเรียนวันอาทิตย์ น่ารักน่าหยิกพอดี พวกเราได้ฟังก็รู้สึกว่าครอบครัวของฮาโรลด์ดูมีความสุขมาก ๆ แต่จู่ ๆ แววตาของฮาโรลด์กลับเปลี่ยนไปฉายแววเศร้าแทน พร้อมทั้งบอกว่า "พวกเราไม่ได้มีความสุขหรอกครับ" ค่ะ)
- เมื่อมาถึงทางสามแยก หลังจากรถของฮาโรลด์วิ่งผ่านไป "หมาป่าสีขาว" (白い狼) ตัวใหญ่ก็กระโดดลงมาจากเนินเขา มันยืนนิ่งจ้องมองรถที่พวกเรานั่งมาไม่วางตาค่ะ

เมืองครอสเบล (クロスベル市)
- ฮาโรลด์มาส่งพวกลอยด์ที่ลานกว้างใจกลางเมือง ก่อนแยกตัวไปก็ได้มอบ Event Item "แผนที่เมืองครอสเบล" (クロスベル市の地図) ให้พวกเราไว้ใช้ด้วย ซึ่งแผนที่นี้ทำให้เราสามารถไปไหนมาไหนในเมืองครอสเบลได้อย่างสะดวก ด้วยการกดปุ่ม Start ในตอนที่อยู่นอกอาคารแล้วเลือกจุดหมายปลายทางได้เลยค่ะ

ว่าด้วย [แผนที่เมืองครอสเบล]
- เมื่อกดปุ่ม Start ในตอนที่อยู่นอกอาคารหรือบนดาดฟ้าของแผนกสนับสนุนฯ จะปรากฏแผนที่เพื่อให้เราเลือกไปยังพื้นที่อื่น ๆ ในเมืองครอสเบลได้โดยไม่ต้องเดิน กล่าวคือ แผนที่นี้เปรียบเสมือนการช็อตคัตนั่นเองค่ะ ซึ่งรายละเอียดของสถานที่ต่าง ๆ ขออธิบายตามลำดับของแผนที่ดังนี้ค่ะ

- 特務支援課 (แผนกสนับสนุนภารกิจพิเศษ)
- 中央広場 (ลานกว้างใจกลางเมือง)
- 西通り (ถนนตะวันตก)
- 東通り (ถนนตะวันออก)
- 行政区 (เขตการปกครอง)
- 港湾区 (เขตท่าเรือ)
- 歓楽街 (ย่านบันเทิง)
- 住宅外 (ย่านที่พักอาศัย)
- 旧市街 (เมืองเก่า)
- 駅前通り (ถนนหน้าสถานี)
- 裏通り (ถนนด้านหลัง)
- IBC
- ウルスラ間道 (ถนนสายรองเออร์ซูล่า)
- マインツ山道 (เส้นทางภูเขาไมนซ์)
- 東クロスベル街道 (ทางหลวงครอสเบลตะวันออก)
- 西クロスベル街道 (ทางหลวงครอสเบลตะวันตก)

- เมื่อกดปุ่ม Start อีกครั้ง จะเป็นการเปิดแผนที่เขตปกครองตัวเองทั้งหมดเช่นเดิม และกด X จะเป็นการออกจากเมนูแผนที่ค่ะ

★QUEST★ (9) ตามหาเจ้าของลูกแมวเหมียว [เควสต์ลับ]
DP เบี้ยเลี้ยง (9) ตามหาเจ้าของลูกแมวเหมียว (仔猫の飼い主捜し)
5 500 มิร่า
- หากแวะไปหา "ริว" (リュウ) และ "อังลี่" (アンリ) ห้องที่ 2 ใน "อพาร์ทเมนท์ เบลไฮม์" บนถนนตะวันตก เด็ก ๆ ทั้ง 2 จะขอให้เราช่วยตามหาเจ้าของแมวน้อยที่พวกเขาเก็บมาดูแลจนมันแข็งแรงดีแล้ว หากไม่ติดอะไรก็เลือกข้อ 1 "รับงาน" (引き受ける) ได้เลยค่ะ
(ที่พวกริวรู้ว่าแมวตัวนี้มีเจ้าของ ก็เพราะปลอกคอที่แมวน้อยสวมอยู่ค่ะ ซึ่งเมื่อดูจากปลอกคอ อังลี่คิดว่าคนที่เป็นเจ้าของน่าจะเป็นเด็ก เพราะปลอกคอที่ว่าเป็นปลอกคอที่ทำขึ้นเองด้วยฝีมือของเด็กที่อายุน่าจะไล่เลี่ยกับพวกเขาเนี่ยแหละ ส่วนสถานที่ที่เจอแมวก็อยู่ใกล้ ๆ ย่านที่พักอาศัยด้วย พวกลอยด์ได้ยินดังนั้น จึงจำกัดวงในการค้นหาด้วยการสอบถามเฉพาะเด็ก ๆ ที่อยู่แถว ๆ ถนนตะวันตกและเขตที่พักอาศัยค่ะ)

- คุยกับ "แพนเซ่" (パンセ) ในอพาร์ทเมนท์เดียวกัน เธอจะบอกว่าแมวไม่ใช่ของเธอ และมีความเป็นไปได้ต่ำมากที่พ่อกับพี่สาวที่บ้าวิศวกรรมทั้งคู่ จะเป็นคนเอามาเลี้ยงเองค่ะ (ไม่บังคับ)
- คุยกับ "โมโมะ" (モモ) ลูกสาวเจ้าของร้านขายของของทาลีซที่ยืนอยู่หน้าร้าน บนถนนตะวันตก หนูน้อยโมโมะจะไม่รู้ค่ะว่าแมวเป็นของใคร (ไม่บังคับ)
- คุยกับ "พีท" (ピート) ผู้ช่วยของทนายเอียน ในสำนักงานกฎหมายกริมวู้ด เขาจะบอกว่าสำนักงานกฎหมายเลี้ยงแมวไม่ได้ ดังนั้น พีทไม่ใช่เจ้าของแมวค่ะ (ไม่บังคับ)
- คุยกับ "โคลิน" (コリン) ลูกของฮาโรลด์และโซเฟีย บนชั้น 2 ของบ้านเฮเวิร์ส ในย่านที่พักอาศัย เขาจะบอกว่าเคยเห็นแมวตัวนี้มาก่อน แต่พักนี้ไม่ค่อยเห็นค่ะ นั่นแสดงว่าเจ้าของแมวตัวนี้ต้องอยู่ในเขตนี้แน่ ๆ (ไม่บังคับ)
- หากไปสำรวจบ้านหลังใหญ่ทางด้านตะวันตกที่ล็อกประตูไว้ (บ้านที่มีรูปปั้นม้าตั้งอยู่ในสวน ด้านล่าง หลังในสุด) ลอยด์ทำท่าจะเข้าไปถามหาเจ้าของแมว เพราะไม่แน่ว่าข้างในบ้านอาจจะมีเด็กอยู่ก็ได้ เอลี่รีบอ้างขึ้นมาว่าดูเหมือนจะไม่มีคนอยู่ให้ลองกดกริ่งดูก่อนดีมั้ย (แรนดี้รู้สึกว่าทำไมคุณหนู ถึงดูแปลก ๆ ไป) จากนั้น ลอยด์จะลองเข้าไปกดกริ่ง พอสังเกตเห็นกริ่งเป็นกริ่งออร์บเมนท์ ก็รู้สึกว่าบ้านหลังนี้ท่าทางจะมั่งคั่งไม่ใช่น้อย เมื่อกรดกริ่งคนที่ชื่อ "เฮลเมอร์" (ヘルマー) จะออกมาต้อนรับ (ซึ่งในขณะที่ไม่มีใครรู้ตัว เอลี่ก็ค่อย ๆ เดินหนีไปหลบอยู่หลังเสา) ลอยด์ถามเฮลเมอร์ว่าที่นี่มีคนเลี้ยงแมวหรือเปล่า เฮลเมอร์บอกว่าเขาเป็นพวกชอบแมวก็จริง แต่เจ้านายและคุณหนูเป็นพวกชอบสุนัข ดังนั้น สรุปได้ว่าบ้านหลังนี้ไม่มีเจ้าของแมวตัวนี้อยู่แน่ ๆ ค่ะ (ไม่บังคับ)

- ที่บ้านหลังข้าง ๆ บ้านที่มีรูปปั้นม้าตั้งอยู่ ขึ้นไปบนชั้น 2 คุยกับ "ซันนีต้า" (サニータ) เธอจะตอบเราแบบลุกลี้ลุกลนว่าไม่รู้ค่ะ

- ไปตรงทางเข้าสู่ถนนตะวันตก ในขณะที่พวกลอยด์กำลังจะเดินออกไป จะเห็น "ซันนีต้า" ออกมาตามหาอะไรบางอย่าง พวกลอยด์รู้สึกสงสัยว่าทำไมเด็กเล็กแบบนั้นถึงได้ออกมาคนเดียวนอกบ้านค่ะ

- ไปคุยกับ "ซันนีต้า" ที่เดินไปเดินมาอยู่ข้าง ๆ บ้านสมาชิกสภาแคมเบล (บ้านที่อยู่ติดทางออกไปเส้นทางภูเขาไมนซ์) เมื่อเห็นลูกแมวที่อยู่ในแจ็คเก็ตของลอยด์ ซันนีต้าจะเรียกแมวตัวนั้นว่า "แมรี่" ค่ะ
(ซันนีต้าบอกว่าเธอไม่ได้เลี้ยง แมรี่เป็นแมวจรจัด แต่ที่ทำปลอกคอมาให้ใส่ก็เพราะ ถึงจะเป็นแมวจรจัดแต่ก็ถือว่าเป็นของ ๆ เธอค่ะ พวกลอยด์ได้ฟังก็เหงื่อตกไปตาม ๆ กัน สงสัยว่าทำไมไม่เอาไปเลี้ยงเลยล่ะ ซันนีต้าบอกว่า เพราะตอนที่แมรี่ปีนหน้าต่างเข้ามาในห้องตอนที่พ่อเธอนอนกลางวันไปด้วยความเหนื่อยจากงาน แมรี่ทำเอกสารสำคัญของพ่อเธอเละไปหมด ทำให้เธอไม่กล้าขอพ่อเลี้ยงในบ้านค่ะ เมื่อได้ฟังดังนั้น พวกลอยด์จึงพาซันนีต้าไปสารภาพกับพ่อของเธอ เพื่อจะได้ลองถามดูด้วยว่าจะเลี้ยงแมรี่ได้หรือเปล่า ซึ่งพอมาคุยกับพ่อของซันนีต้า เขาบอกว่ารู้สึกสงสัยมานานแล้วว่าทำไมพักนี้ลูกสาวถึงไม่ค่อยร่าเริง ชอบออกไปตามหาอะไรบางอย่างข้างนอกบ่อย ๆ และแล้ว...เพื่อความสุขของลูกสาว คุณพ่อผู้ใจดีและคลั่งงานคนนี้ ก็ยอมให้ซันนีต้าเลี้ยงแมรี่ในบ้านค่ะ)

- หากกลับไปรายงาน "ริว" กับ "อังลี่" จะมีบทสนทนาเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่ถึงแม้ริวจะดีใจที่หาเจ้าของพบ แต่หลังจากดูแลมาเกือบอาทิตย์ ก็รู้สึกอยากจะเลี้ยงแมวตัวนั้นขึ้นมาจริง ๆ ซะแล้วค่ะ (ไม่บังคับ)

★หากไปคุยกับคุณป้า "เลเต้" (レイテ) ที่ห้องในสุดของอพาร์ทเมนท์ เบลไฮม์ซึ่งตั้งอยู่บนถนนตะวันตก คุณป้าจะบ่นว่าเซซิลเอาแต่ทำงานแม้กระทั่งวันหยุดสุดสัปดาห์ค่ะ
★หากไปคุยกับ "เบรเซอร์เอโอเลีย" (遊撃士エオリア) บนชั้น 2 ของสมาคมเบรเซอร์ ทีโอจะโดนเลิฟคอลอันสยิวกิ้วจากเอโอเลียอีกครั้งค่ะ
★หากไปคุยกับ "หัวหน้าสาขาเซลดัน" (セルダン支部長) ที่สมาพันธ์นักตกปลา เราจะโดนจับมัดมือชกเข้าเป็นสมาชิกของสมาพันธ์นักตกปลาทันที เพราะดันไปรับเบ็ดตกปลามาจากสมาชิกโคปังค่ะ ซึ่งหลังจากนี้ เราจะสามารถตรวจสอบระดับชั้นนักตกปลารวมถึงจำนวนชนิดของปลาที่ต้องตกเพื่อเลื่อนชั้นได้จากหัวหน้าสาขาค่ะ รายละเอียดดูได้ที่หน้า Mini game Fishing นะคะ
★หากไปคุยกับ "คุณนายบาร่า" (バーラ夫人) ที่บ้านใกล้ ๆ ทางออกนอกเมืองบนถนนตะวันออก เราจะขอบคุณที่มอบน้ำมะนาวให้เราค่ะ (เฉพาะกรณีที่เรารับน้ำมะนาวมาก่อนหน้านี้นะคะ)
★หากไปที่ภัตตาคารหลงเหล่า จะพบกับ "หัวหน้าแผนกเซอร์เกย์" (セルゲイ課長) ที่มานั่งกินข้าวอยู่ที่นี่ค่ะ
★หากไปคุยกับ "วาซี่" (ワジ) ที่พูลบาร์ ทรินิตี้ เขาจะบอกว่าเหมือนเคยได้ยินเรื่องหมาป่าที่มีขนสีขาวจากในพระธรรมของโบสถ์เจ็ดจรัสมาก่อนเลยค่ะ
★หากไปตรงท่าเทียบเรือ จะเห็นเรือโดยสารประจำทางที่จะไป "มิชลาม" ด้วยค่ะ แต่เรายังไม่สามารถไปได้นะคะ

- เมื่อไม่มีธุระอะไรในเมืองครอสเบลแล้ว ให้ไปที่จุดหมายต่อไปกันโดยออกไปยังทางออกด้านใต้ของเมืองได้เลยค่ะ
- สำรวจป้ายรถโดยสารเพื่อรอรถที่จะมาในอีก 10 นาทีให้หลังค่ะ
(แรนดี้จะดี๋ด๊ามาก ๆ เพราะอยากจะเห็นสาวสวยในชุดนางพยาบาลเต็มแก่แล้ว ยิ่งพอรู้ว่าคนรู้จักของลอยด์เป็นนางพยาบาลก็ยิ่งดี๊ด๋าเข้าไปใหญ่ ส่วนทีโอกลับแสดงท่าทีแตกต่างออกไป เพราะเธอไม่ถูกโรคกับโรงพยาบาล ด้วยความที่ไม่ชอบกลิ่นยาฆ่าเชื้อหรือเข็มฉีดยาค่ะ)
- เมื่อรอไปรอมาตั้ง 30 นาทีรถโดยสารประจำทางก็ยังไม่มาสักที ตอนนั้นเองพนักงานประจำท่าก็ออกมาบอกว่าทางเขาติดต่อรถโดยสารประจำทางที่น่าจะต้องกลับมาแล้วไม่ได้เลย เมื่อได้ยินดังนั้น พวกลอยด์จึงคิดว่าน่าจะเกิดปัญหาขึ้นแล้วล่ะ ก็อาสาเป็นคนไปดูว่าเกิดอะไรขึ้นให้เองค่ะ

ถนนสายรองเออร์ซูล่า (ウルスラ間道)
★ITEM★ คอรัล ริง, EPชาร์จI
- เมื่อเดินมาจนถึงกลางทาง เราจะพบสัตว์ปิศาจตัวยักษ์ใหญ่กำลังจู่โจมรถโดยสารประจำทางอยู่ และเกิดการต่อสู้ขึ้นค่ะ

BATTLE กอร์เดี้ยน *2
ゴーディアン
- สัตว์ปิศาจตัวนี้พลังป้องกันค่อนข้างสูงและอึด แนะนำให้ใช้อาร์ทคุณสมบัติไฟปราบจะง่ายขึ้นค่ะ

- เมื่อปราบได้ จะทราบว่าที่แท้เครื่องยนต์เกิดปัญหา ในตอนที่จะซ่อมก็โดนสัตว์ปิศาจเข้ามารุมนั่นเองค่ะ แต่ในขณะที่เรากำลังนึกว่าไม่น่าจะมีปัญหาอะไรแล้ว ก็ปรากฏร่างของกอร์เดี้ยนอีกฝูงใหญ่
- ตอนที่กำลังเข้าตาจนนั่นเอง "หญิงสาวผมทรงทวินเทล" กับ "ชายหนุ่มผมสีดำขลับ" ก็ปรากฏตัวขึ้นมาปราบสัตว์ปิศาจลงเพียงด้วยท่าผสานอันทรงพลังเพียงกระบวนท่าเดียวค่ะ
(ตรงนี้ พวกลอยด์จะทราบแล้วว่าหญิงสาวกับชายหนุ่มเป็นเบรเซอร์ที่ชื่อ "เอสเทล" กับ "โยชัวร์" ค่ะ แล้วเมื่อพวกเอสเทลได้ยินชื่อลอยด์กับทีโอ ก็รู้สึกว่าเป็นเรื่องบังเอิญอย่างแปลกประหลาดที่ชื่อไปคล้องกับคนรู้จักพอดีค่ะ ซึ่งตรงนี้ถ้าอยากรู้ว่าเป็นใคร ลองไปติดตามเอาจาก Sora no Kiseki FC กับ SC ดูได้นะคะ อ้อ ตรงนี้พวกลอยด์รู้สึกแปล๊บนิดหน่อย เพราะว่าทีโอที่ดูเป็นความหวังเดียวของเรา ไม่ถนัดเรื่องเครื่องยนต์อย่างที่คิด เพราะถนัดแค่พวกคอมฯเท่านั้น งานนี้พวกเอสเทลที่มีโยชัวร์ซึ่งเก่งเรื่องเครื่องยนต์ก็เลยรับหน้าที่ช่วยเหลือเรื่องรถโดยสารประจำทางแทน ส่วนพวกเราก็มุ่งหน้าต่อไปวิทยาแพทย์ได้เลยค่ะ)
★หากคุยกับ "เอสเทล" (エステル) เธอจะถามว่าแผนกสนับสนุนภารกิจพิเศษเนี่ย ใช่งานที่เหมือนกับเบรเซอร์หรือเปล่า ทำเอาพวกลอยด์ถึงกับสะอึกกันเลยทีเดียวค่ะ แต่เอสเทลก็ไม่ได้คิดร้ายอะไรตามสไตล์ บอกว่ารู้สึกดีใจที่มีคนทำงานด้วยความมุ่งมั่นเดียวกัน เมื่อเป็นแบบนั้นก็เหมือนเป็นพรรคพวกเดียวกันเลย พวกเราถึงกับเหงื่อตกกับการมองโลกในแง่ดีของเอสเทลที่เลเวลสูงกว่าของลอยด์หลายเท่าเลยล่ะค่ะ
หากคุยกับ "เอสเทล" อีกครั้ง เอสเทลนึกถึงพวกรถยนต์ออร์บเมนท์ หรือพวกเครือข่ายออร์บเมนท์ของครอสเบลแล้วก็ประหลาดใจมาก เพราะเธอนึกว่าลีเบร์ลเป็นผู้นำเรื่องวิทยาการออร์บเมนท์ประเทศเดียวเสียอีก โยชัวร์จึงบอกว่าลีเบร์ลเป็นผู้นำในการพัฒนาวิทยาการออร์บเมนท์ก็จริง แต่เมื่อได้มูลนิธิเอปสไตน์เข้ามาร่วมลุงทุน ก็กล่าวได้ว่าตอนนี้ครอสเบลมีอัตราการพัฒนาออร์บเมนท์เร็วที่สุดในทวีปก็ว่าได้ค่ะ เอสเทลได้ยินก็คิดว่าถ้าทีต้ามาด้วยคงดีใจน่าดูเหมือนกันนะเนี่ย ซึ่งตรงนี้เราจะได้รู้ด้วยว่าพวกเอสเทลผ่านช่วงเวลาที่พูดถึงมาได้ 3 เดือนแล้วค่ะ
★หากคุยกับ "พนักงานขับรถ" เลือกข้อแรก จะสามารถขึ้นไปพักเพิ่ม HP&EP บนรถได้นะคะ
★ITEM★ รูน ครอส (สู้กับ แบ็คลัช *8), ยาแห่งเซราส, สกัดกั้น1, ทวิงเคิล เพียส, EPชาร์จI, เซพิธทุกคุณสมบัติ *20
★★บนถนนสายรองเออร์ซูล่า จะมี Rare monster ที่เป็นผีเสื้อสีทองชื่อ "โกลด์ ฟลายเยอร์" (ゴルドフライヤー) และผีเสื้อสีแดง "ครัม ฟลายเยอร์" (クラムフライヤー) โดยเจ้าพวกนี้จะออกมาแบบสุ่มเมื่อเราสู้กับผีเสื้อสีฟ้า "บัตเตอร์ ฟลายเยอร์" (バタフライヤー) ค่ะ
★★เมื่อมาถึงฉากที่จะเข้าสู่วิทยาลัยแพทย์ฯ จะมีโอกาสเจอกับ "ไชน์นิ่งปอม" (シャイニングポム) โดยจุดที่เจอจะอยู่ใกล้ ๆ ทางที่มีบันไดขึ้นไปเก็บหีบค่ะ ในกรณีที่ไม่เจอให้ไปตัดฉากซ้ำ ๆ ที่เมืองครอสเบลหรือที่วิทยาลัยแพทย์ฯ สำหรับรายละเอียดเพิ่มเติม สามารถเข้าไปดูได้ที่หน้า Shining Pom นะคะ (อยู่ระหว่างการจัดทำค่ะ)

วิทยาลัยแพทยศาสตร์เซนต์เออร์ซูล่า (聖ウルスラ医科大学)
- เมื่อมาถึงวิทยาลัยแพทย์ฯ แล้ว แรนดี้จะดี๊ด๊ามาก ๆ ที่จะได้เห็นพยาบาลสาว ๆ สวย ๆ แต่ดูเหมือนทีโอจะนิ่ง ๆ ไปไม่รู้ว่าเพราะเหตุใดค่ะ
(จากคำบอกเล่าของเอลี่ จะทราบว่าวิทยาลัยแพทย์เซนต์เออร์ซูล่าแห่งนี้ ก่อตั้งขึ้นมาด้วยความร่วมมือของอาณาจักรดยุคเรมิเฟเลีย (レミフェリア公国) ซึ่งเป็นประเทศที่การแพทย์เจริญก้าวหน้าที่สุดบนทวีปค่ะ)
- คุยกับ "หัวหน้าหอพักเคียร์ช" (キルシュ寮長) ตรงเคาน์เตอร์ในหอพัก ออแบร์ฌ เล็กตีเอ (オーベルジュ《レクチェ》) จะได้รับสูตรอาหาร "สตูว์เนื้อ ปรุงพิเศษ" (特製ビーフシチュー) มาค่ะ
★หากแวะไปที่หอพักพนักงานหญิงบนชั้น 3 จะมีอยู่ห้องนึง (ตรงข้ามกับทางออกไปดาดฟ้า) สำรวจรูปที่ตั้งโชว์อยู่ที่ตู้ จะพบว่าเป็นรูปของลอยด์, เซซิลและพี่ชายของลอยด์ ซึ่งพอลอยด์เห็นรูปก็รู้ได้ทันทีว่าที่นี่เป็นห้องพักของพี่เซซิลนั่นเองค่ะ
- ไปติดต่อที่ "ประชาสัมพันธ์หญิงเซร่า" (受付譲セラ) ตรงล็อบบี้ชั้น 1 เพื่อขอพบพี่สาวคนสนิทของลอยด์ได้เลยค่ะ
- ในตอนแรกประชาสัมพันธ์จะเรียกหัวหน้านางพยาบาลมาให้แทนหัวหน้าโรงพยาบาลที่ไม่อยู่ ลอยด์จึงรีบบอกว่าขอพบกับคนรู้จักดีกว่า ทุกคนเห็นก็รู้สึกว่าลอยด์ตื่นเต้นเกินไปหรือเปล่า ยังไม่ทันที่ประชาสัมพันธ์จะประกาศเรียก พี่ "เซซิล" (セシル) นางพยาบาลสาวสวยก็บังเอิญลงมาพบกับลอยด์เองพอดีค่ะ
- "------ยินดีที่ได้รู้จัก เซซิล นอยเอสค่ะ" เซซิลกล่าวทักทายเพื่อนร่วมงานของลอยด์อย่างเป็นกันเอง แถมยังแซวเล่นด้วยว่า นึกว่าลอยด์จะพาแฟนมาเที่ยวเสียอีก เพราะผ่านไปตั้ง 3 ปีที่ไม่ได้พบกัน ก็น่าจะมีแฟนสักคนสองคนแล้ว "เอ๊ะ หรือว่าจะแอบคบกันระหว่างทำงานใช่มั้ย ขอโทษด้วยนะที่เผลอพูดออกไป ว่าแต่คบกับคุณเอลี่ หรือทีโอจัง หรือว่าคบควบทั้งสองคนอยู่ล่ะจ๊ะ......" ลอยด์บอกไม่ใช่เต็มปากเต็มคำ เซซิลเลยเข้าใจว่าคบกับแรนดี้อยู่ซะงั้น เพื่อน ๆ หัวเราะคิกคัก พลางบอกว่าเซซิลไม่เหมือนใครดี ลอยด์หงุดหงิด ตัดบทเข้าเรื่องที่มาในวันนี้ ซึ่งเซซิลก็รู้อยู่แล้วจึงขออธิบายสิ่งที่เกิดขึ้นตามที่เธอได้รับอนุญาตมาจากหัวหน้านางพยาบาลค่ะ
เซซิล "......กลางดึกของคืนเมื่อ 1 สัปดาห์ก่อน มีแพทย์ฝึกหัดโดนสัตว์ปิศาจทำร้ายที่นี่ แต่มีเรื่องประหลาดอยู่อย่างนึง......"
ทีโอ "จากสำนวนคดีของกองกำลังรักษาความปลอดภัย เขียนเอาไว้ว่ามีความเป็นไปได้ที่ผู้เคราะห์ร้ายจะเข้าใจผิดไปเองนี่คะ......?"
เซซิล "......ใช่จ้ะ ก็ดูเหมือนจะเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่งนั่นแหละ รายละเอียดลึก ๆ แล้วฉันเองก็ไม่แน่ใจ...... แต่ดูเหมือนว่าสถานที่โดนทำร้ายจะเป็นดาดฟ้าของตึกพยาบาล"
- ทุกคนได้ยินก็ตกใจไปตาม ๆ กัน พลางสงสัยว่าทำไมสัตว์ปิศาจถึงได้ไปปรากฎตัวบนดาดฟ้าได้ ซึ่งดูผิดปกติเป็นอย่างมาก ตรงจุดนี้เองที่ทางวิทยาลัยแพทย์ฯ อยากไหว้วานให้พวกลอยด์ตรวจสอบให้
(ตรงนี้เซซิลจะเอ่ยปากชมพวกลอยด์ด้วยนะคะ เพราะเธอได้อ่านครอสเบลไทมส์ที่ลงเรื่องที่พวกลอยด์ในเขตเมืองเก่าแล้ว แถมยังได้ฟังความกล้าหาญและพยายามของพวกลอยด์จากเด็ก ๆ ที่บาดเจ็บที่เข้ามารักษาที่โรงพยาบาลอีกด้วยค่ะ)
- จากนั้น เซซิลจะอาสาพาไปพบผู้เคราะห์ร้ายที่พักรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลและสำรวจสถานที่เกิดเหตุ ในช่วงพักของเธอเองค่ะ
- ก่อนอื่นก็ไปห้องพักผู้ป่วยหมายเลข 202 บนชั้น 2 ได้เลยค่ะ (เซซิลจะพามาที่ห้องอัตโนมัติ ไม่ว่าเราจะเข้าจากทางด้านหน้าตึก หรือจากทางเชื่อมระหว่างหอพักกับตึกพยาบาลค่ะ)
- เมื่อเข้ามาจะเห็นหมอคนนึงกำลังตรวจผู้เคราะห์ร้ายอยู่ ดูจากคำพูดของเขาแล้วดูเหมือนจะเป็น 1 ในอาจารย์หมอเสียด้วยสิ
(จากตรงนี้ จะทราบจากเซซิลว่า หมอคนนั้นคือ "ผู้ช่วยศาตราจารย์โยอาคฮิม" (ヨアヒム准教授) ที่มีฝีมือเก่งกาจระดับสุดยอด แต่ลักษณะนิสัยช่างสวนทางกับความเก่ง เพราะนอกจากคำพูดคำจายังไม่ค่อยเหมือนคนเป็นหมอแล้ว ยังชอบโดดร่มแอบหนีไปเที่ยวอยู่บ่อย ๆ ด้วยค่ะ)
- จากคำให้การของผู้เคราะห์ร้าย "แพทย์ฝึกหัดริตตอน" (研修医リットン) กลางดึกของคืนเมื่อสัปดาห์ก่อน เขาได้ออกไปรับลมบนดาดฟ้าหลังเขียนรายงานเสร็จ จู่ ๆ ก็ได้ยินเสียงอะไรบางอย่าง พอหันไปด้านหลังก็เจอสัตว์ปิศาจเข้่ามาทำร้ายแล้วก็สลบไป เท่าที่เขาจำได้ก็คือเรื่องราวถึงตรงนี้ เพราะหลังจากนั้นคุณภารโรงก็ไปเจอเข้าแล้วก็พามาแอดมิททันทีค่ะ ซึ่งรูปร่างของสัตว์ปิศาจเป็นแบบไหน ริตตอนก็จำไม่ค่อยได้เพราะเขาสลบไปด้วยความตกใจ แต่เท่าที่จำได้คือมีตาส่องแสงสีแดง เขี้ยวสีขาว ขนเรียงเส้นสีดำเท่านั้น ซึ่งทางกองกำลังรักษาความปลอดภัยก็สันนิษฐานว่าน่าจะเป็นหมาป่าไปแล้วด้วยค่ะ ส่วนบาดแผลที่หลงเหลืออยู่บนตัวเขาก็มีเพียงรอยเขี้ยวบนไหล่ขวา ไม่มีรอยแผลอื่น ๆ อีกเลย คาดว่าพอโดนกัดแล้ว ก็โดนปล่อยไว้เฉย ๆ แบบนั้น ทุกคนรู้สึกสงสัยเป็นอย่างมากว่า ทำไมสัตว์ปิศาจพวกนั้นไม่ทำร้ายอะไรอีกค่ะ
★หากคุยกับ "หัวหน้าพยาบาลมาธา" (マーサ師長) ในศูนย์พยาบาลบนชั้น 2 เซซิลจะรายงานเรื่องที่พวกลอยด์มาสืบ แต่ไม่รู้ทำไมทีโอถึงเงียบ ๆ ไปอีกแล้วค่ะ
- จากนั้น ไปสำรวจดาดฟ้าซึ่งเป็นสถานที่เกิดเหตุต่อได้เลยค่ะ โดยเซซิลจะชี้จุดที่ริตตอนล้มอยู่ ซึ่งก็คือตรงหน้าม้านั่งที่อยู่ตรงดาดฟ้าด้านในสุด ข้าง ๆ "ตึกวิจัย" (研究棟) เมื่อมาถึงตรงนี้เซซิลก็ขอตัวไปทำงานต่อ ส่วนพวกเราก็ลงมือตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุต่อได้เลยค่ะ โดยจุดที่ต้องตรวจสอบก็ตามนี้เลยนะคะ
1) รั้วด้านในสุดที่ติดกับตัวตึกวิจัย - ด้านล่างเป็นแม่น้ำ สัตว์ปิศาจไม่น่าจะขึ้นมาได้ (ไม่บังคับ)
2) รั้วด้านหน้าตึกโรงพยาบาล - ความสูงขนาดนี้ สัตว์ปิศาจไม่น่าจะขึ้นมาได้ (ไม่บังคับ)
3) รั้วในซอกตึกด้านที่เห็นเป็นป่า - มีความเป็นไปได้ แต่ความสูงขนาดนี้ก็ทำให้ตัดความเป็นไปได้นั้นทิ้งไป (ไม่บังคับ)
4) รั้วตรงทางเชื่อมระหว่างตึก - สัตว์ปิศาจไม่น่าจะขึ้นมาได้ (ไม่บังคับ)
5) รั้วที่อยู่ถัดจากราวตากผ้าด้านติดระเบียง - มีความเป็นไปได้สูงมากว่าสัตว์ปิศาจน่าจะขึ้นมาจากตรงนี้ เมื่อเป็นแบนนี้ก็ต้อง...
6) กองลังไม้บนระเบียงบนชั้น 2 ของหอพักพนักงานชาย - พบรอยเท้าสัตว์ปิศาจบนกล่องไม้ที่เต็มไปด้วยฝุ่น คาดว่า สัตว์ปิศาจน่าจะมาจากทางป่าด้านหลังค่ะ
- หลังจากสำรวจเสร็จแล้ว จะไปรายงานเซซิลที่ศูนย์พยาบาลเลยก็ได้ แต่ว่าถ้าหากสำรวจต่อจะได้ Bonus DP ค่ะ
(1) สำรวจลังไม้ตรงด้านที่ติดกับป่า จะพบว่าไม่มีร่องรอยใด ๆ นอกจากฝุ่นหนาเตอะ
(2) จากนั้น จะสามารถสำรวจรั้วด้านตะวันตกที่ติดกับลานจอดรถโดยสารออร์บเมนท์ได้ และพบรอยถลอกที่เพิ่งเกิดขึ้นไม่นานมานี้
DP+2
- คุยกับ "นางพยาบาลฟีเรีย" (看護婦フィリア) เพื่อจะขอรายงานผลการตรวจสอบกับเซซิลค่ะ
(ตรงนี้ฟีเรียบอกกับลอยด์ว่า เหมือนที่เคยได้ยินเซซิลเล่ามาเลย แถมพอได้ยินว่าลอยด์กลับมาครอสเบลแล้ว เซซิลก็ทำท่าดีอกดีใจใหญ่ ที่แท้ก็เพราะน่ารักจิ้มลิ้มแบบนี้นี่เอง ทีโอกับเอลี่เห็นท่าทางของลอยด์ก็อดเหน็บแนมไม่ได้ แรนดี้เลยอาสารับหน้าเอง แต่กลายเป็นว่าไปนัดเดทฟีเรียซะงั้น จีบกันไปจีบกันมา หัวหน้าพยาบาลเลยออกมาดุเข้าให้ แรนดี้ถอยกรูดแทบไม่ทันเลยล่ะค่ะ)
- ได้รับทราบจาก "หัวหน้าพยาบาลมาธา" ว่า ตอนนี้เซซิลน่าจะอยู่ที่ห้องของเด็กคนนั้น และขอให้พวกลอยด์ไปเยี่ยมเด็กคนนั้นด้วยเลยแล้วกันค่ะ
★หากตามเข้าไปคุยกับ "หัวหน้าพยาบาลมาธา" (マーサ師長) ในห้อง เธอจะจำทีโอได้ ทีโอก็จำหัวหน้าพยาบาลได้เช่นกัน แต่ก็ไม่อธิบายว่าทำไมถึงมาร่วมกลุ่มกับตำรวจ พร้อมกับตัดบทขอตัวอย่างสุภาพ เมื่อออกมานอกห้องศูนย์พยาบาล ลอยด์จะถามทีโอว่าเคยอยู่ที่นี่มาก่อนเหรอ "......ใช่ค่ะ เป็นเรื่องเมื่อ 6 ปีก่อนน่ะค่ะ ก็ไม่ได้ตั้งใจจะเก็บเงียบหรอกนะคะแต่ว่า......" ลอยด์ได้ยินก็บอกว่าทุกคนต่างก็มีเรื่องที่พูดออกมาลำบากด้วยกันทั้งนั้น แต่ทีโอก็ยังคงรู้สึกไม่ดีขึ้น เอลี่เลยเดินเข้ามากอดทีโอแน่นพร้อมกับบอกทีโอว่า "อย่าทำหน้าแบบนั้นสิ เดี๋ยวหน้าตาน่ารัก ๆ ก็เสียหมดหรอก?" แรนดี้กับลอยด์พูดต่อว่า ถึงแม้จะต่างเพศต่างวัย ต่างที่มา แต่พวกเราก็คือพวกพ้องที่อยู่ด้วยกัน ทำงานด้วยกันมาตลอด 1 เดือนที่ผ่านมานะ ทีโอได้ยินดังนั้นก็รู้สึกดีขึ้น พร้อมกับบอกให้ไปรายงานคุณเซซิลกันต่อด้วยสีหน้านิ่งเหมือนเคยค่ะ (ค่าความสัมพันธ์กับทีโอ+10)
- ไปยังห้องผู้ป่วยหมายเลข 304 จะพบ "เซซิล" และเด็กสาวตาบอด "ชิซึกุ แม็กเลน" (シズク・マクレイン) ลูกสาวเพียงคนเดียวของเบรเซอร์ระดับ A ปราชญ์ดาบแห่งสายลม อาริออส แม็กเลนค่ะ
- จากคำบอกเล่าของเซซิล ดูเหมือนชิซึกุจังที่อยู่ที่นี่ จะสะดุดใจอะไรบางอย่างกับเหตุการณ์ที่พวกเรากำลังตามสืบอยู่ด้วยค่ะ
ชิซึกุ "เอ่อ คือว่า...... คืนวันที่คุณริตตอนโดนทำร้ายน่ะค่ะ หนูนอนไม่หลับ ก็เลยอ่านหนังสืออักษรเบลล์อยู่...... แล้วในตอนนั้นก็ได้ยินเหมือนเสียงกรีดร้องค่ะ และเพราะรู้สึกเป็นกังวล ก็เลยเปิดหน้าต่างที่อยู่ตรงโน้น จะได้ฟังให้ชัด ๆ...... แต่แทนที่จะได้ยินเสียงกรีดร้อง กลับเป็นเสียงหัวเราะ ฮ่าฮ่าฮ่า แล้วหายใจแรง ๆ แทน สักพักก็ได้ยินเสียงตึงตึงเหมือนอะไรกระโดด......"
- ซึ่งเรื่องนี้ ชิซึกุไม่ได้เล่าให้กองกำลังรักษาความปลอดภัยฟัง เพราะคิดว่าตัวเองฝันไป แต่พอได้ยินคุณเซซิลเล่าให้ฟัง ก็เลยรู้สึกเหมือนว่าตัวเองเคยเจอเรื่องแบบนี้มาแล้ว จึงตัดสินใจเล่าให้คุณเซซิลกับพวกเราฟังค่ะ
- เมื่อลองวิเคราะห์เหตุการณ์ดู เสียงร้องในตอนแรกน่าจะเป็นเสียงที่แพทย์ฝึกหัดโดนทำร้าย ส่วนเสียงหายใจแรงน่าจะเป็นของสัตว์ปิศาจ และเสียงกระโดดน่าจะเป็นเสียงกระโดดขึ้นลังไม้หนีไปค่ะ นอกจากนี้ ชิซึกุยังเล่าต่ออีกว่า ในตอนที่มีเสียงที่ได้เล่าไปนั้น เธอยังได้ยินเสียง "วิ้งง" ซึ่งเป็นเสียงเฉพาะที่เธอไม่เคยได้ยินมาก่อนด้วยค่ะ
- เมื่อออกมานอกห้อง เซซิลจะเล่าให้ฟังว่า ที่ชิซึกุจังตาบอด เพราะอุบัติเหตุเมื่อหลายปีก่อน ตอนนี้ทางโรงพยาบาลก็กำลังรักษาตาของชิซึกุจังอยู่ ซึ่งสักวันจะต้องค่อย ๆ กลับมามองเห็นได้เหมือนเดิม และเนื่องจากว่าพ่อของชิซึกุจังงานยุ่งมาก เซซิลกลัวชิซึกุจังจะเหงา ก็เลยขอร้องพวกลอยด์ให้มาเที่ยวเล่นกับเธอบ่อย ๆ ซึ่งพวกลอยด์ก็ยินดีค่ะ
- จากนั้น เราจะพาเซซิลไปดูระเบียงบนหอพักชายชั้น 2 ที่คาดว่าน่าจะเป็นสถานที่ที่สัตว์ปิศาจลอบเข้ามา โดยเซซิลจะติดต่อให้หัวหน้าธุรการมาติดตั้งรั้วเพิ่มค่ะ ซึ่งพอติดรั้วเสร็จก็มืดมากแล้ว พวกลอยด์จึงขอตัวกลับไปพักผ่อนที่แผนกสนับสนุนฯ ค่ะ
(ก่อนกลับ เซซิลยังแอบแซวลอยด์ด้วยว่า ไม่ว่าลอยด์จะคบกับทีโอจังหรือเอลี่จัง ก็ให้บอกเธอด้วย แล้วเธอจะให้ของขวัญเท่าที่เธอจะหาได้ในฐานะพี่สาว หรือว่าถ้าคบกับคุณแรนดี้ เธอก็จะเตรียมอ่านหนังสืออะไรเทือกนั้นไว้คอยเป็นที่ปรึกษาให้ลอยด์เองค่ะ ตรงนี้ทำให้ทุกคนรู้สึกว่าเซซิลเป็นคนใจดีอบอุ่นมากจริง ๆ ว่าแล้วทุกคนก็นึกขึ้นมาได้ว่า ลอยด์กับเซซิลมีความสัมพันธ์กันแบบไหนกันแน่ ลอยด์ตัดบทให้เลิกคุยเรื่องนี้ พร้อมกับเร่งให้กลับไปยังครอสเบลด้วยสีหน้าเคร่งเครียดเช่นเคยค่ะ)
- สำรวจ "ป้ายรถออร์บเมนท์โดยสารประจำทาง" เพื่อกลับไปยังครอสเบลได้เลยค่ะ
- เมื่อรถออร์บเมนท์ประจำทางใกล้จะถึงเขตเมืองครอสเบล ก็ปรากฏร่าง "หมาป่าสีขาว" ตัวใหญ่กระโดดมายืนนิ่งจ้องมองรถประจำทางนั้นจนลับตาไปเหมือนก่อนหน้านี้ค่ะ



"ระ รอเดี๋ยวสิ......!" เสียงเด็กชายร้องเรียก
- "จู่ ๆ ก็บอกว่า......จะออกเดินทางสักพักเนี่ยนะ คิดจะไปไหนกันแน่?" ลอยด์เอ่ยถามชายคนนึง สีผมและลักษณะภายนอกของเขาดูคล้ายคลึงกับลอยด์เหลือเกิน
ชายหนุ่ม "อาณาจักรดยุคเรมิเฟเลียไง อะไรกาน ถึงบอกว่าสักพักแต่ราว ๆ 2 เดือนก็คงจะเสร็จ หรือไม่แน่ก็อาจจะยังไม่ถึงครึ่งเดือนดี แล้วแต่กรณีมั้ง"
ลอยด์ "กะ ก็เข้าใจอยู่หรอก....... แต่พี่ครับ ยังไงก็เป็นเจ้าหน้าที่สืบสวนสอบสวนของกรมตำรวจไม่ใช่เหรอ? ไปเที่ยวนานขนาดนั้นจะดีเหรอ?"
ชายหนุ่ม "โอ๊ะโอ อย่าบอกนะว่า~ ที่พี่ไม่อยู่เนี่ยจะเหงาขนาดนั้นเลยเหรอ~? ที่แท้ลอยด์คุงก็เป็นเด็กขึ้เหงานี่เองงง"
ลอยด์ "......งั้นก็อย่ามาพูดแค่ 2 เดือนเลย ไปเที่ยวสัก 2 ปีเลยเป็นไง? แค่นั้นผมอยู่คนเดียวได้สบายอยู่แล้ว"
ชายหนุ่ม "ล้อเล่นน่า เข้าเรื่องดีกว่า ที่จริง...... มันมีเหตุผลลึก ๆ อยู่น่ะสิ Top Secret เลยเชียวนะ"
ลอยด์ "น่าสงสัยชะมัด ไหน ๆ ก็พูดออกมาแล้ว แล้วมันเป็นความลับแบบไหนกันล่ะ?"
ชายหนุ่ม "โอ้ว ถามได้ดี ที่จริง...... มันเป็นการเดินทางที่ต้องคุ้มครองเด็กผู้หญิงน่ารักเป็นที่สุดไปด้วยน่ะ"
ลอยด์ "เอ๋......"
ชายหนุ่ม "ก็หมายความว่าจะหลบหน้าหลบตาไปเรมิเฟเลีย อาณาจักรทางเหนือที่แสนงดงามพร้อมกับเด็กคนนั้นไง ไงล่ะ อิจฉาใช่ม้า?"
ลอยด์ "......................................."
ชายหนุ่ม "เอาเป็นว่าเลิกล้อเล่นดีกว่า ชั้นไปขอร้องคุณห้องข้าง ๆ ให้ช่วยดูแลเรื่องมื้อเย็นของนายในช่วงที่ชั้นไม่อยู่ไว้แล้ว มื้อเช้านายก็หาอะไรกินเองแล้วกัน?"
ลอยด์ "แค่อาหาร ทำเองได้อยู่แล้วล่ะน่า...... ------ไม่ใช่สิ! เด็กผู้หญิงน่ารัก ๆ นั่นน่ะ...... ตั้งใจจะทำอะไรกันแน่!? ถ้าพี่เซซิลรู้เรื่องนั้น จะทำยังไง!?"
ชายหนุ่ม "เอ๊ะ...... ทำไมต้องมีชื่อเซซิลโผล่มาด้วยล่ะ?"
ลอยด์ "ทำไมน่ะเหรอ...... โว้ยยย!! (พี่เซซิลก็ไม่น่า......กับเจ้าพี่บ้าความรู้สึกช้าแบบนี้)"
ชายหนุ่ม "??? ยังไงก็เหอะ ชั้นคุยกับเซซิลไว้ก่อนหน้านี้แล้วล่ะ......แต่ว่า"
ลอยด์ "!?"
ชายหนุ่ม "หืมม์ ดูเหมือนจะเข้าใจผิดยังไง ๆ อยู่นะ ถึงจะบอกว่าเดินทาง แต่ก็เป็นการเดินทางไปทำงานของกรมตำรวจนะเฟ้ย? แล้วเด็กคนนั้น....... อายุก็ยัง...... ด้วย"



แผนกสนับสนุนภารกิจพิเศษ (特務支援課)
- เช้าวันที่ 2 ของการสืบคดี "ลอยด์" ตื่นขึ้นแบบงัวเงีย ๆ เพราะฝันถึงเรื่องเมื่อหลายปีก่อนตั้งแต่เขาอายุ 13 ปี แล้วพอเขากำลังจะนึกอะไรออก ก็มีเสียงเรียกเข้าจากอินิกม่าดังขึ้น ปลายสายเป็น "หัวหน้าแผนกเซอร์เกย์" ที่เรียกรวมพลที่ห้องทำงานของเขา เพราะมีแขกมาพบพวกลอยด์นี่เอง
- เมื่อมาถึงห้องทำงานของหัวหน้าแผนกเซอร์เกย์ แขกคนที่ว่าก็คือ "รองผู้บัญชาการโซเนีย" ตามคาด และที่เธอมาในวันนี้ก็เพราะว่าสถานการณ์ของทางเธอเปลี่ยนไปนิดหน่อย
- จากคำบอกเล่าของเธอ เมื่อคืนวานนี้ทางกองกำลังรักษาความปลอดภัยที่ได้ไปตรวจตราทางเมืองเหมืองแร่ แล้วก็ถอนกำลังออกมาแล้วทั้งหมดในเช้านี้ ทั้ง ๆ ที่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นที่เมืองเหมืองแร่เพิ่งผ่านมา 3 วันเอง และถึงแม้ทางรองผู้บัญชาการโซเนียอยากจะตรึงกำลังไว้สัก 1 อาทิตย์ก็ตามที แต่ดันมีคำสั่งลงมาว่าให้หยุดการดำเนินการแต่เพียงเท่านี้ แรนดี้ได้ยินก็รู้ได้ทันทีว่าเป็นคำสั่งของ "จอมประจบสอพลอ" แหง ๆ เพราะระดับท็อปของกองกำลังรักษาความปลอดภัย ประตูเบลการ์ด ที่แรนดี้เคยสังกัดอยู่ เป็นพวกมีความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นกับสมาชิกสภาฝ่ายจักรวรรดิ ที่วัน ๆ ไม่ทำงาน เอาแต่เลียแข้งเลียขานั่นเองค่ะ
- จากตรงนี้ โซเนียจะแนะนำผู้ช่วยของเธอ "จ่าสิบเอกโนเอล ซีกเกอร์" ให้รู้จัก ทำให้เราทราบว่าที่แท้เธอเป็นพี่สาวฝาแฝดของประชาสัมพันธ์สาวฟรานนี่เอง
(จากตรงนี้ โนเอลบอกว่าเธอได้ยินตำนานของรุ่นพี่แรนดี้มานาน อยากเจอตัวเป็น ๆ นานแล้ว พวกลอยด์ได้ยินก็คิดได้เลยว่า ต้องเป็นเรื่องผู้หญิงแหง ๆ ซึ่งแรนดี้ก็ยอมรับด้วยความภูมิใจค่ะ)
- จากนั้น เราจะรายงานผลการตรวจสอบที่ได้มาให้โซเนียฟัง โซเนียอึ้งไปพักนึง เพราะไม่คิดว่าพวกเราจะทำได้ดีเกินคาด เธอจึงตัดสินใจมอบหมายให้พวกเราดำเนินการตรวจสอบเมืองเหมืองแร่ต่อ โดยไม่ต้องสนใจคำสั่งของผู้บัญชาการที่ไม่แม้แต่จะทำงานค่ะ
(เมื่อโซเนียกับโนเอลขอตัวลาไปแล้ว พวกเราก็หันเหความสนใจมาที่หัวหน้าแผนกเซอร์เกย์ว่าสนิทสนมกับรองผู้บัญชาการโซเนียมากเลยเหรอ เพราะเห็นเรียกด้วยชื่อตัวห้วน ๆ เลย ซึ่งตรงนี้เราก็ได้รู้แล้วว่าทำไมทั้ง 2 คนสนิทกันนัก ที่แท้ก็เป็นเพื่อนสมัยเด็กนี่เองค่ะ)
- เมื่อได้รับคำชี้แนะจากหัวหน้าแผนกเซอร์เกย์ว่า ไหน ๆ ก็ลองเลียนแบบเบรเซอร์ในการใช้การเดินเท้าสำรวจที่ต่าง ๆ ด้วยตาตัวเอง และจะได้เป็นการฝึกความอดทนไปด้วย พวกลอยด์ได้ยิน ก็เลยฮึดสู้ไม่คิดจะยอมแพ้พวกเอสเทล จึงตัดสินใจเดินไปยังเมืองเหมืองแร่ไมนซ์ โดยไม่ใช้รถออร์บเมนท์ประจำทางค่ะ
★QUEST★ (10) รับสมัครผู้ช่วยเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมือง
DP เบี้ยเลี้ยง (10) รับสมัครผู้ช่วยเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมือง (臨検官補佐求ム)
3(+2) 2000 มิร่า
- ไปคุยกับ "เจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองควอโตร" (臨検官クワトロ) บนชั้น 2 หน้าสำนักงานเจ้าหน้าที่ตรวจสอบคนเข้าเมือง (อยู่ใกล้ ๆ Ticket Office ของสาธารณรัฐคาลวาร์ด) ใน "สถานีครอสเบล" เขาจะบอกว่า เขาเป็นเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองที่กองทัพจักรวรรดิเอเรโบเนียส่งเข้ามาประจำการค่ะ และถ้าพร้อมที่จะฟังรายละเอียดงานแล้ว ให้เลือกข้อ 1 ได้เลยค่ะ
(ตรงนี้ ควอโตรจะทำท่าไม่เชื่อมั่นในตัวแผนกสนับสนุนฯ อย่างพวกเราด้วยนะคะ เพราะเขาเห็นว่ามีแต่เด็ก ๆ แต่ตอนนี้มันช่วยไม่ได้ มีดีกว่าไม่มีคนมาช่วย ทำเอาแรนดี้รู้สึกเหม็นขี้หน้าตาลุงนี่ขึ้นมาทันทีค่ะ)

- ไปที่ชานชลา 2 คุยกับ "เจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองควอโตร" อีกครั้ง เลือกข้อ 1 เพื่อแยกย้ายไปขึ้นรถไฟคนละตู้เพื่อไปตรวจสอบเอกสารคนเข้าเมืองกับสัมภาระที่นำติดตัวมาได้เลยค่ะ
(ตอนแรก ลอยด์จะให้เอลี่กับทีโอจับคู่ทำร่วมกัน แต่เอลี่กับทีโอบอกว่า ถึงจะเป็นผู้หญิงก็เป็นแผนกสนับสนุนฯ เหมือนกัน ลอยด์เห็นความมุ่งมั่นแล้วก็เลยยอมให้แยกกันไปคนละตู้ค่ะ)

- คุยกับผู้โดยสารทุกคนที่อยู่บนรถไฟค่ะ
(พอตรวจสอบเสร็จ ถึงจะไม่พบอะไรที่ผิดปกติแต่ลอยด์พูดกับตัวเองว่ารู้สึกตื่นเต้นเหมือนกัน เพราะเพิ่งเคยทำงานแบบนี้เป็นครั้งแรก ดีไม่ดีอาจจะมีพลาดก็ได้)

กลับไปคุยกับกลุ่มผู้โดยสารพ่อแม่ลูก แล้วไปคุยกับผู้ชายผมสีม่วงที่เบาะฝั่งตรงข้าม DP+2

- ลูกชายจะงอแงกับพ่อแม่ว่าอยากจะเดินไปดูตู้อื่นบ้าง แต่พ่อแม่บอกต้องให้เขาตรวจเสร็จเสียก่อน ลูกชายก็เลยบอกว่า แต่พี่ผู้ชายเบาะฝั่งตรงข้ามยังเดินมาจากตู้ข้างหน้าได้เลย
- ลอยด์ฉุกคิดขึ้นมาในใจว่าตู้ก่อนหน้าตู้ลอยด์เป็นตู้ที่คุณควอโตรกำลังตรวจอยู่ และตอนที่กำลังทำการตรวจคนเข้าเมืองต้องนั่งอยู่กับที่ห้ามไปไหนด้วย ทำให้ลอยด์รู้สึกสงสัยขึ้นมาทันทีค่ะ

- เมื่อไปคุยกับผู้ชายที่หัวเราะลุกลี้ลุกลนในตอนแรก ลอยด์จะขอให้เขาไปพบคุณควอโตรโดยตรง เพราะลอยด์วิเคราะห์แล้วว่าผู้ชายคนนี้คงจะหนีคุณควอโตรมาแน่ ๆ และก็จริง ๆ ค่ะ เพราะผู้ชายคนนี้เอาเอกสารขอเข้าเมืองใบเก่ามาปลอมแปลงใหม่หลายครั้งแล้ว ซึ่งเมื่อก่อนคุณควอโตรก็เคยจับได้แล้วด้วย
- จากคำบอกเล่าของคุณควอโตร ผู้ชายคนนี้เป็นอดีตนักต้มตุ๋นในสาธารณรัฐมาก่อน เป็นคนที่ชอบท่องเที่ยวมาก ซึ่งคนที่พบการปลอมแปลงในครั้งก่อนก็คือคุณควอโตร ส่วนครั้งนี้ก็เป็นครั้งที่ 2 ที่จับได้ และที่ครั้งที่แล้วต้องปล่อยตัวทั้งที่มีประวัติต้องโทษ ก็เพราะความผิดที่ทำเป็นความผิดเพียงเล็กน้อยเท่านั้นค่ะ

★QUEST★ (11) คำร้องขอให้กำจัดสัตว์ปิศาจในอพาร์เมนท์ร้าง
DP เบี้ยเลี้ยง (11) คำร้องขอให้กำจัดสัตว์ปิศาจในอพาร์เมนท์ร้าง (廃アパートの魔獣駆除要請)
4 2500 มิร่า
- ไปคุยกับ "คุณนายอิเมลด้า" (イメルダ夫人) ที่ "ร้านแอนทีค อิเมลด้า" บนถนนด้านหลัง เธอจะให้เราไปไล่พวกสัตว์ปิศาจที่มาอาศัยอยู่ในอพาร์ทเมนท์ร้างของเธอในเขตเมืองเก่า ถ้าพร้อมแล้วก็เลือกข้อ 1 "รับงาน" (引き受ける) ได้เลยค่ะ
- ได้รับ Event Item "กุญแจแมนชั่น อิเมลด้า" (メゾン・イメルダの鍵)

- ไปเขตเมืองเก่า ขึ้นไปบนอพาร์ทเมนท์ร้าง "แมนชั่น อิเมลด้า" ลอยด์จะใช้กุญแจเพื่อไขเข้าไปค่ะ

★ITEM★ เซพิธ (เวลา, อากาศ, มายา) *40, เซพิธ (ดิน, น้ำ, ไฟ, ลม) *40, ลองบาเรล

- ให้ปราบศัตรูที่อยู่ในนี้จนหมด แล้วออกมาตรงทางเข้าอพาร์ทเมนท์ "วาลด์" จะโวยวายเดินเข้ามา เพราะรำคาญเสียงดังหนวกหูค่ะ
(วาลด์เห็นสภาพเนื้อตัวมอมแมมของพวกลอยด์แล้ว ก็หลุดหัวเราะออกมาดังลั่น พอรู้ว่าพวกเรามาปราบสัตว์ปิศาจในอพาร์ทเมนท์ร้าง ก็บอกว่าเป็นเรื่องปกติในเขตเมืองเก่าที่จะมีสัตว์ปิศาจโผล่ออกมาอยู่แล้ว จากนั้นจู่ ๆ ก็มีเสียงดังมาจากด้านใน ทีโอบอกกับลอยด์ว่าจริง ๆ เธอสัมผัสได้ถึงอะไรบางอย่างที่อยู่ลึกเข้าไปอีกมาตั้งแต่เมื่อครู่แล้ว ว่าแล้ววาลด์ก็ไม่สนใจใคร เดินอาด ๆ บุกเดี่ยวเข้าไปจัดการเอง แต่เสียงดังสนั่นก็ดังขึ้นอีกครั้ง พวกลอยด์เป็นห่วงกลัวว่าวาลด์จะรับมือไม่ไหว ลอยด์จึงให้เอลี่และทีโอเฝ้าประตูไว้ เผื่อมีพวกสัตว์ปิศาจหนีออกไป ส่วนเขาและแรนดี้จะเข้าไปช่วยวาลด์ค่ะ)


★หากคุยกับ "ทีโอ" อีกครั้ง ลอยด์จะขอให้ทีโอบอกเขามาเลย ไม่ต้องเกรงใจเวลาที่จับสัมผัสหรือรู้สึกได้ถึงอะไร ทีโอขอโทษที่ไม่มั่นใจในความรู้สึกตัวเอง และรับปากว่าจะครั้งต่อไปเธอจะบอกค่ะ

- เราสามารถฟื้นฟู HP กับเอลี่ และ EP กับทีโอได้ตลอดเวลาค่ะ

★ITEM★ สปรินเตอร์, ไฟเบอร์ โค้ท (สู้กับ เจรัลมู โป *4)

- เมื่อเข้าไปถึงในห้องด้านในสุด จะพบวาลด์กำลังถูกสัตว์ปิศาจยุงรุมอยู่ค่ะ

BATTLE ซุพีเรียล ยา คา + ยา คา *5
スペリオルヤ・カー+ヤ・カー
- เนื่องจากซุพีเรียร์ ยา คา สามารถใช้ท่า "หมอกแดง" (อาณาเขตแคบ) ทำให้เราติด "พิษ" ได้ แนะนำ ให้สวมเครื่องประดับอย่าง "เฟเธอร์ บรอธ" กันเอาไว้ และให้ลอยด์หรือแรนดี้มีอาร์ทเพิ่มเลือดด้วยจะง่ายขึ้นค่ะ

- "ซุพีเรียร์ ยา คา" สามารถเรียก "ยา คา" มาเพิ่มได้ แต่ไม่น่าเป็นห่วง เพราะพลังโจมตีของยุงตัวเล็กไม่รุนแรงมาก แค่จะสร้างความรำคาญให้เท่านั้นเอง จะปล่อยให้วาลด์เป็นคนจัดการก็ได้ค่ะ

- ระวัง หาก "วาลด์" ตาย Game Over เพราะงั้นถ้าไม่มั่นใจให้เพิ่มเลือดวาลด์ก่อนเลยค่ะ

- ถ้าดวงดี อาจจะได้ดร็อปควอทซ์ "คมดาบแห่งพิษ" จากซุพีเรียร์ ยา คาด้วยนะคะ

- ปราบได้ วาลด์จะจากไปอย่างหัวเสียที่พวกเราเข้ามายุ่ง ส่วนพวกเราจะกลับไปรายงานคุณนายอิเมลด้าที่ร้านแอนทีค อิเมลด้า (อัตโนมัติ) ซึ่งคุณนายจะให้เราเก็บกุญแจเอาไว้ เผื่อคราวหน้าจะได้เข้าไปช่วยดูแลอพาร์ทเมนท์ให้เธออีกค่ะ

★QUEST★ (12) ประกาศจับสัตว์ปิศาจบนเส้นทางภูเขาไมนซ์
DP เบี้ยเลี้ยง (12) ประกาศจับสัตว์ปิศาจบนเส้นทางภูเขาไมนซ์ (マインツ山道の手配魔獣)
4 2000 มิร่า
- ปราบ "ฟอลวาชิ *2" (フォールワシ) สัตว์ปิศาจนกอินทรีบน "เส้นทางภูเขาไมนซ์" ค่ะ (อยู่ตรงทางแยกแรก บนทางที่จะขึ้นไปยังโรงงานตุ๊กตาโรเซนเบิร์ก)

- ถ้าดวงดี อาจจะได้ดร็อปควอทซ์ "แม่นยำ2" และ "หลบหลีก2" มาด้วยนะคะ

★QUEST★ (13) มิชชี่ที่ใฝ่ฝัน [เควสต์ลับ]
DP เบี้ยเลี้ยง (13) มิชชี่ที่ใฝ่ฝัน (憧れのみっしぃ)
5 500 มิร่า
- ไปคุยกับ "ลาลูส" (ラルス) ในห้องพักของ "ภัตตาคารหลงเหล่า" บนถนนตะวันออก เขาจะขอร้องให้เราช่วยหาตุ๊กตา "มิชชี่" ตัวละครมาสค็อตของสถานพักตากอากาศมิชลามให้ลูกชายเขา ที่อุตส่าห์ดั้นด้นมาถึงครอสเบลเพื่อหาซื้อตุ๊กตาตัวนี้โดยเฉพาะ แต่แล้วก็ต้องผิดหวัง เพราะเมื่อไปดูในห้างไทมส์ ก็พบว่าตุ๊กตาขายหมดเกลี้ยงไม่มีเหลือเลย
(อันที่จริง ทีโอก็เป็นแฟนพันธุ์แท้สะสมมิชชี่คอลเลคชั่นอยู่ แต่ยังไม่ได้ตุ๊กตาตัวนี้มาเหมือนกัน แถมทีโอรู้หมดค่ะว่าตัวนี้ชื่ออะไร ได้รับความนิยมมากแค่ไหน ขาดตลาดยังไง แรนดี้ถึงกับเอ่ยปากชมว่า "โห สมแล้วที่เป็นฐานข้อมูลของทีโอสุเกะ......" ค่ะ และเมื่อแรนดี้นึกดูดี ๆ เหมือนเขาจะเคยเห็นตุ๊กตาตัวนี้มีให้แลกในคาสิโนด้วย ลาลูสก็เลยขอร้องให้พวกเราช่วยไปแลกมา เพราะเขาไม่เก่งเรื่องคาสิโนเอาซะเลย ตอนแรกลอยด์รู้สึกลำบากใจที่ต้องเข้าคาสิโน แต่เพื่อคำไหว้วานอันบริสุทธิ์ใจของพ่อคนนี้ ลอยด์ก็ตกลงรับปากจะหาตุ๊กตามิชชี่มาให้ค่ะ)

- ไป "คาสิโนเฮ้าส์ บาร์ก้า" ที่ตั้งอยู่ในย่านบันเทิง คุยกับ "เชอรี่" (チェリー) ตรงเคาน์เตอร์ เธอจะบอกว่าตุ๊กตามิชชี่มีให้แลกด้วยจำนวนเมดัลน้อยที่สุดในคาสิโนแห่งนี้ค่ะ
(ตรงนี้ เพื่อน ๆ ทุกคนจะสังเกตเห็นแววตาจริงจังของทีโอ ที่เหมือนจะอยากได้ตุ๊กตาตัวนี้ซะเองด้วยค่ะ)

- รวบรวมเมดัลให้ได้ 200 เมดัล ก็จะสามารถแลก Event Item "ตุ๊กตามิชชี่" (みっしぃぐるみ) มาได้ค่ะ
(เกมที่เล่นได้เมดัลง่ายและเร็วที่สุดก็คือโป๊กเกอร์และรูเล็ตค่ะ)

- กลับไปคุยกับ "ลาลูส" เราจะมอบ "ตุ๊กตามิชชี่" ให้เขา แล้วเขาจะมอบ "120 มิร่า" เพื่อเป็นสินน้ำใจเล็ก ๆ น้อย ๆ ให้แก่พวกเราด้วยค่ะ

★หากไปคุยกับคุณป้า "เลเต้" แม่ของเซซิลที่อพาร์ทเมนท์ เบลไฮม์ บนถนนตะวันตก ลอยด์จะบอกว่าเมื่อวานไปเจอพี่เซซิลมาด้วย คุณป้าได้ยินก็ถามใหญ่ว่า เซซิลดูมีคนดี ๆ มาชอบหรือไปชอบเขาหรือยัง ลอยด์ตอบแบบงง ๆ ว่าก็ไม่รู้เหมือนกัน แล้วคิดในใจว่าไม่อยากให้มีเลยแฮะ คุณป้าก็เลยวางแผนจะจัดดูตัวให้ลูกสาวเพียงคนเดียวที่ไม่เคยคิดถึงเรื่องอนาคต แรนดี้รีบออกหน้าออกตาจะขอสมัครเป็นคู่ดูตัวบ้าง ส่วนลอยด์ได้แต่หัวเราะแห้ง ๆ จนผิดสังเกตค่ะ
★หากไปคุยกับ "ทนายเอียน" บนถนนตะวันตก จะเห็นเขาโดน "พีท" ผู้ช่วยตัวจิ๋วดุใส่ เพราะทนายเอียนลืมเก็บค่าตอบแทนจากคนที่มาไหว้วานอีกแล้ว ทำให้งบรับจ่ายของสำนักงานขึ้นตัวแดงเต็มเลย ทนายเอียนก็ได้แต่ขอโทษพีทค่ะ
★หากไปยังสมาคมเบรเซอร์ บนถนนตะวันออกจะพบ "เอสเทล" และ "โยชัวร์" กำลังรายงานผลกับประชาสัมพันธ์มิเชลอยู่พอดี ซึ่งเอสเทลก็ยังทักทายพวกลอยด์อย่างสดใสตามสไตล์ค่ะ แต่พวกลอยด์เนี่ยสิ ทั้งรู้สึกดีและแย่พร้อม ๆ กันที่เอสเทลมองโลกในแง่ดีจัด จนไม่ได้คิดว่าพวกลอยด์เป็นคู่ปรับแม้แต่นิดเลย
★หากไปคุยกับ "ปีเตอร์" (ペーター) ที่สมาพันธ์นักตกปลา บนถนนตะวันออก เขาจะบอกว่ามีนักตกปลาสุดเก่ง ที่ชื่อเอสเทลมาเข้าสมาพันธ์ด้วยค่ะ ซึ่งระดับนักตกปลาของเธอในลีเบร์ลก็สูงซะด้วย ปีเตอร์กับหัวหน้าสาขาเซลดันก็ยินดีดีใจใหญ่ที่มีคนเก่ง ๆ มาเข้าร่วม ลอยด์ได้ยินก็ได้แต่ถอนใจ พึมพัมว่าแม้แต่เรื่องตกปลาก็ด้วยเหรอเนี่ย

เส้นทางภูเขาไมนซ์ (マインツ山道)
- ใช้เส้นทางภูเขาไมนซ์ เพื่อไปยังเมืองเหมืองแร่ไมนซ์เลยค่ะ (ใช้ทางออกตรงเขตที่พักอาศัย)
- เมื่อออกมายังเส้นทางภูเขา เซนเซอร์ของทีโอก็เหมือนจะจับอะไรได้ ซึ่งพอทีโอขยายคลื่นความถี่ก็ปรากฏว่าเป็นเสียงหอนของสัตว์ปิศาจที่ดังมาจากทางเส้นทางภูเขา ที่อยู่ไกลออกไปประมาณ 40 เซลจ์ค่ะ
★หากไปคุยกับ "ซิสเตอร์ มาร์เบิล" (シスター・マーブル) ที่มหาวิหารครอสเบล จะทำให้ทราบว่าซิสเตอร์คนนี้เคยสอนหนังสือให้กับลอยด์และเอลี่เมื่อสมัยยังเรียนโรงเรียนวันอาทิตย์ค่ะ ซึ่งตรงนี้ทั้งลอยด์และเอลี่ต่างก็ประหลาดใจเป็นอย่างมากที่ได้รับการสอนมาด้วยอาจารย์คนเดียวกัน ทีโอเห็นก็รู้สึกแปลกใจว่าทั้ง ๆ ที่เอลี่กับลอยด์อายุก็ใกล้ ๆ กันแล้วก็เรียนหนังสือมากับซิสเตอร์คนเดียวกัน ทำไมถึงจำกันและกันไม่ได้ ซึ่งตรงนี้ซิสเตอร์ มาร์เบิลก็อธิบายว่า เมืองครอสเบลกว้างขวาง เด็ก ๆ ที่อาศัยในเขตที่ต่างกัน ก็จะมาเรียนโรงเรียนวันอาทิตย์กันคนละวันค่ะ ตรงนี้เอลี่บอกลอยด์ว่า ดีไม่ดีพวกเราอาจจะเคยเป็นเพื่อนสมัยเด็กกันมาก่อนก็ได้นะ ซึ่งลอยด์ก็คิดแบบนั้นเหมือนกันค่ะ และที่ซิสเตอร์ มาร์เบิลจำพวกลอยด์ได้นั้น เป็นเพราะเธอไม่เคยลืมเด็กที่เคยสอนไปแม้แต่คนเดียว แถมลอยด์กับเอลี่ก็ไม่ค่อยจะเหมือนใคร ตรงที่สมัยเด็ก ๆ ลอยด์จะติดพี่สาวคนนึง แล้วก็ขี้อ้อนมาก ๆ ส่วนเอลี่ก็เป็นเด็กที่รู้อะไรเกินตัว เหมือนไม่ใช่เด็กเลย แรนดี้ชอบใจที่ได้ยินเรื่องราวในอดีตของคนอื่น ก็ยุให้ซิสเตอร์ มาร์เบิลเล่าอีก ลอยด์กับเอลี่รีบห้าม ซิสเตอร์ก็หัวเราะคิกคัก บอกว่าแค่ล้อเล่น ส่วนทีโอก็อุบอิบเบา ๆ ว่าน่าเสียดายค่ะ
★ITEM★ คมดาบมืดมิด, เซพิธ(เวลา+อากาศ+มายา) *50
- เมื่อมาถึงจุดชมวิวบนเส้นทางภูเขา พวกเราก็ได้ยินเสียงหอนของสัตว์ปิศาจอีกครั้ง ซึ่งเสียงนั้นอยู่ไกลออกไปเพียงแค่ 10 เซลจ์ ซึ่งถ้าเทียบกับจุดบนแผนที่ ก็จะอยู่แถว ๆ ทางแยกของเส้นทางภูเขาพอดีค่ะ
★ITEM★ ลูมินัส กลาส, อัญมณีกันย์ (สู้กับ ฮิวดร้า อาร์มเมอร์ *2 หีบ Lv35)

ว่าด้วย [หีบสมบัติที่มีการระบุ Level ของสัตว์ปิศาจ]
- ระหว่างทาง จะมีหีบที่มีการระบุ Level ของสัตว์ปิศาจที่จะออกมาตายตัวค่ะ

- สัตว์ปิศาจที่มีการระบุ Level เหล่านี้ จะแข็งแกร่งเป็นอย่างมาก หากฝ่ายเรามีกำลังไม่เพียงพอ แนะนำให้มาเก็บใหม่ในช่วงหลัง ๆ ของเกม หรือถ้าอยากลองดูว่าเป็นยังไง จะลองเสี่ยงเปิดหีบสู้แบบเล่น ๆ ก็ได้นะคะ เพราะหากเราวางแผนดี ๆ ก็อาจจะชนะแบบฟลุค ๆ ได้เหมือนกัน

- ไอเทมในหีบจะเป็นควอทซ์ระดับสูงที่หาจากที่ไหนไม่ได้ และหีบที่มีการระบุ Level นี้ ทั้งเกมจะมีแค่ 5 หีบเท่านั้น โดยจะวางอยู่ตามที่ต่าง ๆ ตามนี้เลยค่ะ

(1) Level 25
- สู้กับ "กอร์ดี้ อ็อซซ่า *2" บนถนนสายรองเออร์ซูล่า (ป่าที่ไปสู่ "หอคอยเพ่งดารา")
- ควอทซ์ที่ได้ "อัญมณีมกร"

(2) Level 30
- สู้กับ "มาสเตอร์ คลีออน *2" บนทางหลวงครอสเบลตะวันออก (หน้าทางเข้าสู่ "ประตูทังแกรม")
- ควอทซ์ที่ได้ "อัญมณีเมษ"

(3) Level 35
- สู้กับ "แพะแมแม ไวปานวอก *8" บนทางหลวงครอสเบลตะวันตก
- ควอทซ์ที่ได้ "อัญมณีกรกฎ"

(4) Level 35
- สู้กับ "ฮิวดร้า อาร์มเมอร์ *2" บนเส้นทางภูเขาไมนซ์
- ควอทซ์ที่ได้ "อัญมณีกันย์"

(5) Level 40
- สู้กับ "ไอออน สตาร์ก *2" บน "หอคอยเพ่งดารา" ชั้น 3F
- ควอทซ์ที่ได้ "อัญมณีสิงห์"

- เมื่อมาถึงตรงทางสามแยก เราจะไม่พบวี่แววของสัตว์ปิศาจที่ได้ยินเสียงเมื่อสักครู่ คาดว่ามันคงย้ายที่ไปแล้ว เอลี่สังเกตเห็นว่ามีเส้นทางที่ขึ้นเขาไปอีกเส้นทางนึง ซึ่งในฐานข้อมูลของทีโอก็ไม่ปรากฏด้วย ดังนั้น พวกเราจึงลงความเห็นว่าให้ไปสำรวจไว้ก่อนดีกว่าค่ะ
★ITEM★ ยาแห่งเทียร์ร่า, EPชาร์จI
★★เมื่อมาถึงป้ายรถเมล์ใกล้ ๆ ทางแยกขึ้นไปโรงงานโรเซนเบิร์ก จะมีจุดที่พบ "ไชน์นิ่งปอม" (シャイニングポム) ด้วยค่ะ ในกรณีที่ไม่เจอให้ไปตัดฉากที่เมืองครอสเบลบ่อย ๆ สำหรับรายละเอียดเพิ่มเติม สามารถเข้าไปดูได้ที่หน้า Shining Pom นะคะ (อยู่ระหว่างการจัดทำค่ะ)

โรงงานโรเซนเบิร์ก (ローゼンベルク工房)
- ที่ปลายทางของทางขึ้นเขาอันสูงชันนั้น แท้จริงแล้วก็คือ "โรงงานโรเซนเบิร์ก" (ローゼンベルク工房) โรงงานผลิตตุ๊กตาโบราณชั้นสูงชื่อดัง โดยฝีมือของนักทำตุ๊กตาอัจฉริยะนั่นเองค่ะ
(จากคำบอกเล่าของเอลี่ เธอเองก็เคยได้ยินว่าโรงงานตั้งอยู่ในครอสเบล แต่ไม่คิดว่าจะมาอยู่ในที่ห่างไกลเช่นนี้)
- "------ถ้าคุณปู่ล่ะก็ ตอนนี้ไม่อยู่หรอกนะ" เสียงของเด็กสาวดังขึ้น ขณะที่พวกลอยด์กำลังคิดที่จะเข้าไปดูข้างในโรงงานที่ขึ้นป้ายไว้ว่าผู้ไม่เกี่ยวข้องห้ามเข้า ซึ่งต้นเสียงนั้นเป็นเด็กสาวผมม่วงตัวเล็กในชุดเดรส
- "อุหึหึ สวัสดี พวกพี่ชายเป็นใครกันเหรอ? มีธุระอะไรกับโรงงานนี่หรือเปล่า?" เธอเดินเข้ามาทักทายถามพวกลอยด์ใกล้ ๆ
- จากการคุยกันทำให้ได้รู้ว่า เด็กตัวเล็ก ๆ คนนี้ก็ได้ยินเสียงหอนของสัตว์ปิศาจเมื่อสักครู่เหมือนกัน และพอพวกลอยด์ได้รู้ว่า โรงงานแห่งนี้มีแค่เธอกับคนที่เธอเรียกว่าคุณปู่อยู่แค่ 2 คน และกว่าคนที่เธอเรียกว่าคุณปู่จะกลับมาก็ช่วงเย็น ๆ ลอยด์จึงกำชับให้เด็กสาวไปรอที่บ้านก่อน แต่เด็กสาวกลับพูดขึ้นว่า "อุหึหึ การตามพวกพี่ชายไป ก็น่าสนใจดีเหมือนกันนะ ก็ กำลังเล่นไล่จับกับคุณหมาป่านั่นอยู่ไม่ใช่เหรอ? หรือว่าเล่นซ่อนหาล่ะ? อุหึหึ น่าสนุกจังเลย" ลอยด์งง ๆ แต่ก็ปฏิเสธไปว่าให้อยู่ในบ้านอย่าตามไปดีกว่า เพราะไม่รู้จะเกิดอะไรขึ้นบ้าง
- เด็กสาวชักสีหน้า บ่นอุบว่า "เขา" ซ่อมเสร็จก็คงจะหายเซ็งแท้ ๆ แต่ก็ไม่ต่อความยาวสาวความยืด บอกว่าจะไปมุด ๆ ทางนั้น เล่นกับหน้าตกกระคุงแทน หรือไม่ก็ไปเล่นที่ปราสาทแก้วดีกว่า พวกลอยด์สงสัยว่าเด็กคนนี้พูดถึงอะไร แต่พอถามก็ไม่ได้รับคำตอบค่ะ
- ก่อนจะแยกย้ายไป เด็กสาวในชุดเดรสแนะนำตัวว่าเธอชื่อ "เร็น" (レン) ค่ะ
เด็กสาวในชุดเดรส "อุหึหึ...... เรียกเร็นเถอะ จริง ๆ ก็อยากจะแนะนำเด็กอีกคนให้รู้จักอยู่หรอก แต่โชคไม่ดีที่เด็กคนนั้นบาดเจ็บที่ขาขวา กำลังให้คุณปู่รักษาให้อยู่น่ะ"
ลอยด์ "งะ งั้นเหรอ (พูดถึงตุ๊กตาหรืออะไรแบบนั้นรึเปล่าเนี่ย......?)"
เร็น "อุหึหึ แต่ดูเหมือนว่าคุณหมาป่านั่นจะฉลาดมาก ๆ เลยนะ อยากลองไปเล่นด้วยดูบ้างจัง...... แต่เร็นน่ะโตเป็นผู้ใหญ่แล้ว เพราะงั้นจะไม่พูดอะไรเอาแต่ใจแบบนั้นหรอก พยายามเข้านะ พวกพี่ชายแผนกสนับสนุนฯ"
- เมื่อเร็นเข้าไปในโรงงาน ขณะที่คนอื่นกำลังรู้สึกว่าเป็นเด็กที่แปลกไม่เหมือนใคร หน้าตาน่ารักแล้วก็มีเสน่ห์ดึงดูดอย่างน่าประหลาดนั่นเอง ลอยด์ก็นึกขึ้นมาได้่ว่ายังไม่มีใครบอกเด็กคนนั้นเลยว่าพวกเราเป็นคนของแผนกสนับสนุนภารกิจพิเศษ แต่ไม่แน่เด็กคนนั้นอาจจะเห็นจากครอสเบลไทมส์ก็เป็นได้ค่ะ
- กลับสู่เส้นทางภูเขาไมนซ์ แล้วไปกันต่อได้เลยค่ะ (แนะนำให้กลับไปรายงานผล Sub-quest ต่าง ๆ ที่ทำมาที่เมืองครอสเบลก่อนในช่วงนี้นะคะ เพราะเมื่อไปผ่านบทที่เมืองเหมืองแร่ไมนซ์แล้ว จะไม่สามารถกลับไปรายงานผลได้อีกค่ะ)

เส้นทางภูเขาไมนซ์ - อุโมงค์ (マインツ山道・トンネル道)
- เมื่อมาถึงอุโมงค์ที่เป็นแหล่งขุดหาเซพเที่ยม (หินเจ็ดจรัส) ซึ่งสร้างขึ้นมากว่า 70 ปีแล้วนั้น พวกเราจะได้ยินเสียงหอนของสัตว์ปิศาจขึ้นอีกครั้ง จากการตรวจจับของทีโอทำให้ทราบว่า เสียงนั้นมาจากปลายทางอันเป็นทางออกของอุโมงค์นี้ค่ะ
★ITEM★ เซพิธ(ดิน+น้ำ+ไฟ+ลม) *50, เอนจิเนียร์ บู๊ท (สู้กับ มาดาระ มัวเดอร์ + มาดาระ คิลเลอร์ *2)

เส้นทางภูเขาไมนซ์ (マインツ山道)
- เมื่อออกมานอกอุโมงค์ก็ได้พบกับ "หมาป่าสีขาว" ตัวใหญ่ซึ่งมีลักษณะตรงตามตำนาน <หมาป่าเทวะ> เปี๊ยบ กระโดดลงมายืนต่อหน้าพวกลอยด์ ทีโอสัมผัสได้ว่าหมาป่าตัวนี้ไม่มีรังสีที่บ่งบอกว่าแสดงตนเป็นศัตรู เธอจึงบอกให้พวกลอยด์อย่าเพิ่งลงมือและปล่อยให้เป็นหน้าที่เธอเองค่ะ
ทีโอ "......ในที่สุดก็ได้เจอกันสักทีนะคะ ท่าทางเหมือนจะมาเพื่อพบพวกเรา...... ไม่ทราบว่ามีเรื่องอะไรที่อยากจะบอกหรือเปล่าคะ......?"
หมาป่าสีขาว "ครือออ......"
ทีโอ "......งั้นเหรอคะ......ว่าแล้วเชียว"
เอลี่ "ทะ ทีโอจัง!?"
ลอยด์ "รู้ภาษา------ของมันด้วยเรอะ!?
ทีโอ "ก็แค่เข้าใจที่พูดมาโดยไม่ทราบสาเหตุค่ะ...... แล้ว......อยากบอกอะไรเหรอ?"
- หมาป่าสีขาวตัวนั้น ส่งเสียงออกมาราวกับพูดคุยกับทีโอรู้เรื่อง ก่อนจากไปก็หันมาทางพวกลอยด์พร้อมทั้งส่งเสียงคำรามออกมาดังลั่นจนพวกลอยด์ตกใจ ลอยด์รีบหันมาถามทีโอว่า "เขา" พูดอะไรกับทีโอกันแน่
ทีโอ "เรื่องนั้น......ถ้าจะให้บอกแบบมีความหมายแฝงอยู่ล่ะก็ [ชิ้นส่วนสุดท้ายอยู่ที่ข้างหน้านี่ ที่เหลือก็ขึ้นอยู่กับพวกเจ้าแล้ว]...... ------ประมาณนี้ค่ะ"
- ลอยด์ได้ฟังก็เข้าใจได้ทันทีว่าอาจจะหมายถึงเรื่องความเสียหายที่เกิดขึ้นจากสัตว์ปิศาจ ซึ่งชิ้นส่วนสุดท้ายที่ว่าก็อาจจะเป็นข้อมูลที่พวกเราขาดไป เอลี่ก็แย้งขึ้นมาว่าถึงหมาป่านั่นจะบอกทีโอมาแบบนั้นจริง แต่จะเชื่อได้จริง ๆ หรือ แรนดี้ก็เห็นด้วยว่าหมาป่าตัวนั้น ฉลาดขนาดนี้ก็ไม่แน่ว่าจะหลอกเราหรือเปล่า แต่ลอยด์กลับเห็นต่างออกไปว่า สัตว์ปิศาจที่ก่อเรื่องขึ้นทั่วทุกพื้นที่เป็นคนละตัวกับหมาป่าตัวเมื่อกี๊ค่ะ ซึ่งสิ่งที่ทำให้คิดว่าเป็นแบบนั้นได้ก็เพราะ

遠吠え
เสียงหอน
DP+1
色と外見
สีและลักษณะภายนอก
DP+1
その両方
ทั้งสองอย่าง
DP+2

- ซึ่งจากการวิเคราะห์ข้อมูลแล้วทั้งเสียงแล้วก็สีของสัตว์ปิศาจที่ทำร้ายคุณริตตอนที่เป็นแพทย์ฝึกหัดนั้น มีขนสีดำ แต่ลอยด์ก็คิดเผื่อไว้เหมือนกันว่า ถึงแม้สีขนจะไม่เหมือนกัน แต่หมาป่าตัวเมื่อกี๊อาจจะเป็นตัวหัวหน้าที่คอยสั่งการลูกน้องให้ทำก็ได้ ดังนั้นในตอนนี้ก็สรุปได้แล้วว่ามีหมาป่าอยู่ 2 ชนิด แต่ก็ยังไม่รู้แน่ว่าตัวไหนจะเป็นคนร้ายกันแน่ แต่ที่แน่ ๆ หมาป่าที่เจอเมื่อกี๊ไม่มีจิตมุ่งร้ายใด ๆ กับพวกเราเลยค่ะ ว่าแล้วก็ไปหาชิ้นส่วนต่อไปของปริศนาทั้งหมดที่เกิดขึ้นกันต่อดีกว่าค่ะ
★ITEM★ ยาแห่งเซราส

เมืองเหมืองแร่ไมนซ์ (鉱山町マインツ)
- เมื่อมาถึงก็ให้ไปถามรายละเอียดสิ่งที่เกิดขึ้นกับเจ้าเมืองได้เลยค่ะ แต่ดูเหมือนเจ้าเมืองจะมีแขกอยู่ อีกสักพักกว่าจะเสร็จ เพราะงั้นอาศัยช่วงนี้ไปเก็บข้อมูลจากชาวเมืองไว้ก่อนก็ไม่น่าเสียหายอะไรค่ะ
(หรือจะสอบถามชาวเมืองก่อน แล้วค่อยมาสำรวจบ้านเจ้าเมืองแล้วก็ตัดฉากอีกที ก็จะผ่านบทไปได้เหมือนกันค่ะ)
★หากคุยกับ "อามี่" (アミー) ที่เดินไปเดินมาอยู่แถว ๆ ด้านหน้าเมือง เธอจะมองลอยด์กับแรนดี้ไม่วางตา เพราะหลงใหลในความเท่ของทั้ง 2 คน
ถ้าหากคุยกับ "อามี่" อีกครั้งลอยด์จะงง ๆ ว่ามามองอะไรเขา แต่แรนดี้กลับรู้สึกดีที่มีสาวมองค่ะ
★★หากใครพลาดหนังสือเกล็นหมอปิศาจเล่ม 1 และเล่ม 2 ไป สามารถเข้าไปหาซื้อได้ที่ "ร้านขายของบัคคาไร" ที่อยู่ในเมืองนี้ได้นะคะ
- เมื่อคุยกับชาวเมืองเสร็จ แขกที่มาพบเจ้าเมืองก็ออกมาพอดี ซึ่งแขกที่มาพบนั้นไม่ใช่ใครอื่น แต่เป็นพวกมาเฟียของ "บริษัทรูวาเช่" (ルバーチェ商会) นั่นเองค่ะ
(ฟังดูที่พวกมาเฟียคุยกันดูเหมือนจะเกี่ยวกับเรื่องเงินเรื่องทองซะด้วย แถมเจ้าของรถตู้สีดำคันหรูจากบริษัทไรน์ฟอร์ดนั่นก็ไม่ใช่ใครที่ไหน แต่เป็นพวกมาเฟียที่เห็นนี่เอง ว่าแต่เจ้าพวกนั้นมาเมืองเหมืองแร่แบบนี้ทำไม ต้องไปสอบถามเจ้าเมืองให้แน่ใจอีกทีค่ะ)
- เข้าไปสอบถาม "เจ้าเมืองพิกเซ่น" (ピクセン町長) และ "คุณนายแอนนา" (アンナ夫人) จะทำให้เราทราบว่าก่อนหน้านี้เคยเกิดเหตุการณ์ขึ้นมา 3 ครั้ง แต่ไม่เคยมีใครได้รับบาดเจ็บมาก่อน ยกเว้นครั้งล่าสุดที่เพิ่งเกิดเมื่อวันก่อนค่ะ ถึงแม้จะไม่บาดเจ็บอะไรมากมาย แต่ชาวเมืองก็รู้สึกหวาดกลัวมากที่เกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้น ตรงนี้พวกเจ้าเมืองมีแอบบ่นด้วยนะคะ ว่ากองกำลังรักษาความปลอดภัยไม่เคยทำอะไร เอาแต่ทอดทิ้งพวกเขา แถมก่อนหน้าที่กองกำลังรักษาความปลอดภัยจะมา เจ้าเมืองก็เคยไปขอร้องสมาคมเบรเซอร์มาแล้วด้วย แต่โดยปกติเบรเซอร์จะยุ่งอยู่แล้ว ก็เลยไปขอให้กองกำลังรักษาความปลอดภัยที่ต้องเดินยามอยู่แล้วมาช่วยดู แล้วจู่ ๆ ตอนเช้าก็ถอนกำลังออกไปซะเฉย ๆ เจ้าเมืองก็เลยคิดที่จะไปไหว้วานสมาคมเบรเซอร์อีกหน แต่จู่ ๆ พวกมาเฟียก็มาหา พร้อมทั้งเสนอว่าจะให้บอดี้การ์ดมาดูแลให้โดยไม่คิดสักมิร่าเดียว แต่ขอแลกกับการซื้อขายเซพเที่ยมแต่เพียงผู้เดียวแทน พวกลอยด์ได้ฟังก็ชักรู้สึกไม่ชอบมาพากล
(ตรงนี้จะได้ทราบจากเจ้าเมืองว่า การซื้อขายเซพเที่ยมนั้น ไม่ได้ตกลงซื้อขายกันได้ง่าย ๆ เพราะเป็นสินค้าที่ช่วยพยุงเศรษฐกิจของครอสเบลค่ะ)
- เมื่อได้ฟังเรื่องราวจากเจ้าเมืองพิกเซ่น ลอยด์จึงออกปากขอให้แผนกสนับสนุนภารกิจพิเศษเป็นคนจัดการเรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมดเอง ซึ่งผลสรุปทั้งหมดจะเฉลยออกมาภายในเช้าวันพรุ่งนี้ โดยที่ลอยด์ตัดสินใจว่าจะพักอยู่ที่นี่ไม่กลับไปครอสเบล และจะประชุมกันอีกทีว่าคดีทั้งหมดเป็นมายังไงในคืนนี้ค่ะ
- กลางดึกคืนนั้น ณ ห้องพักใน "ที่พักร้านเหล้า <โรงเตี๊ยมอิฐมอญ>" (宿酒場《赤レンガ亭》) ลอยด์จะเริ่มการประชุม โดยจัดการกับข้อมูลทั้งหมดที่ได้มาค่ะ
- ข้อมูลที่น่าจะพิสูจน์ให้เห็นชัดได้ตั้งแต่แรกคือ?

魔獣の正体
ตัวจริงของสัตว์ปิศาจ
DP+1
魔獣の住処
ที่อยู่ของสัตว์ปิศาจ
DP+1
魔獣の目的
เป้าหมายของสัตว์ปิศาจ
DP+3

- ซึ่งเป้าหมายของพวกสัตว์ปิศาจไม่ใช่เพื่อทำลายพื้นที่ทั่วครอสเบล แต่เป็นการเบี่ยงเบนเป้าหมายที่แท้จริงด้วยการทำลายพื้นที่ที่เกิดเหตุขึ้น จากนั้น ลอยด์จะจำกัดวงขึ้นโดยตั้งสมการวิเคราะห์ขึ้นมาว่าใครคือ "คนร้าย" มี "เป้าหมาย" อะไร ใช้ "วิธีการ" ไหน แล้ว "ผลลัพธ์" ออกมาเป็นยังไง
- เมื่อเอลี่ลองวิเคราะห์คร่าว ๆ ก็เข้าใจว่าจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยปกติคนทั่วไปก็จะคิดว่า "คนร้าย=พวกหมาป่าสีดำ", "เป้าหมาย=?", "วิธีการ=ความสามารถทางกายภาพของหมาป่า" และ "ผลลัพธ์=ความเสียหายในแต่ละพื้นที่" ซึ่งจริง ๆ แล้วอาจจะไม่ใช่ก็ได้
- ดังนั้น... ให้ลองเปลี่ยนวิธีคิดไปเป็น...

『犯人』に相当するのは?
ให้ "คนร้าย" เป็น?
?
『目的』に相当するのは?
ให้ "เป้าหมาย" เป็น?
狼の身体能力
ความสามารถทางกายภาพของหมาป่า
『手段』に相当するのは?
ให้ "วิธีการ" เป็น?
黒い狼たち
พวกหมาป่าสีดำ
『結果』に相当するのは?
ให้ "ผลลัพธ์" เป็น?
各地の被害
ความเสียหายในแต่ละพื้นที่


ตอบถูกหมดตั้งแต่ครั้งแรก DP+2
ตอบถูกหมดในครั้งที่ 2 หรือ 3 DP+1

- ถึงแม้รูปคดีจะค่อย ๆ กระจ่างชัดออกมา แต่ที่ยังคงเป็นปริศนาในตอนนี้คือ วิธีการควบคุมสัตว์ปิศาจประเภทหมาป่านั่นเอง ซึ่งจริง ๆ เราก็มีพยานที่ให้การในเรื่องของวิธีการที่ใช้ในการควบคุมสัตว์ปิศาจนั้นคือ...
- ชื่อของพยานคือ?

ハロルド・ヘイワース
ฮาโรลด์ เฮเวิร์ส
-
リットン研修医
แพทย์ฝึกหัดริตตอน
-
シズク・マクレイン
ชิซึกุ แม็กเลน
DP+1
ノエル・シーカー
โนเอล ซีกเกอร์
-

- ซึ่งพวกเราก็นึกไปถึงตอนที่ชิซึกุจังเล่าให้ฟัง ว่าเธอได้ยินเสียง "วิ๊งง" ซึ่งเป็นเสียงที่มีลักษณะเฉพาะ ทีโอเลยเข้าใจได้ทันทีว่า เสียงนั่นน่าจะเป็นเสียงที่คนปกติธรรมดาทั่วไปไม่ได้ยิน แต่จะได้ยินเฉพาะสัตว์หรือคนที่มีประสาทหูไวเป็นพิเศษ ซึ่งน่าจะเป็นนกหวีดที่ใช้ในการออกคำสั่งสัตว์มาตั้งแต่สมัยก่อน หรือก็คือ "นกหวีดเรียกสุนัข" (犬笛) ที่แม้กระทั่งตอนนี้ก็มีการสอนการใช้กับสุนัขทหารนั่นเองค่ะ
- เมื่อเป็นแบบนี้เรื่องทุกอย่างก็ค่อย ๆ กระจ่างออกมา เพื่อเป็นการพิสูจน์ให้แน่ใจเราจะใช้อินิกม่าติดต่อไปยังประชาสัมพันธ์ของมหาวิทยาลัยแพทย์เซนต์เออร์ซูล่าค่ะ
- เมื่อเอลี่ลองติดต่อไป ทำให้ทราบว่าในวันที่เกิดเหตุ มีรถตู้สีดำของ "บริษัทรูวาเช่" ไปจอดอยู่ตรงลานจอดรถหน้าเซนต์เออร์ซูล่าจริง
(ตรงนี้ หากเราสำรวจลังไม้ตรงด้านที่ติดกับป่ามาก่อน จะมีบทสนทนาเพิ่มขึ้นมาว่า ไม่มีร่องรอยใด ๆ นอกจากฝุ่นหนาเตอะที่ลังไม้ซึ่งอยู่ทิศที่เราคิดว่าสัตว์ปิศาจใช้เป็นทางขึ้นมาค่ะ ซึ่งพวกมาเฟียคงใช้รถตู้ของตัวเองสร้างทางให้สัตว์ปิศาจปีนขึ้นไปบนชั้น 2.... พวกเราถึงกับถอนหายใจเมื่อรู้เป้าหมายที่แท้จริงของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นคือ การได้ซื้อขายเซพเที่ยม แต่เมื่อมาลองคิดดูจริง ๆ แล้วอาจจะเป็นแค่ผลพลอยได้ เพราะตั้งแต่มี "เฮยเยวี่ย" เข้ามา ทางรูวาเช่เองก็พยายามสั่งสมกำลังให้มากขึ้นเพื่อจะได้คานอำนาจกัน และคิดที่จะใช้ความสามารถของพวกหมาป่า โดยทดสอบการควบคุมพวกมันผ่านเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นค่ะ ซึ่ง ณ ตอนนี้กองกำลังรักษาความปลอดภัยถอนตัวไปแล้ว คิดว่าพวกรูวาเช่คงทำการทดสอบความสามารถทางการต่อสู้ของพวกสัตว์ปิศาจพอแล้ว แต่การเคลื่อนไหวสุดท้ายคงจะเปลี่ยนไปเป็นการถือสิทธิ์ครอบครองในการซื้อขายเซพเที่ยมแต่เพียงผู้เดียว ซึ่งถ้าลองวิเคราะห์ดูเจ้าเมืองบอกว่าจะไปขอร้องให้สมาคมเบรเซอร์มาช่วยในวันพรุ่งนี้ ดังนั้น เวลาในการลงมือครั้งสุดท้ายของรูวาเช่ก็คงจะเป็นคืนนี้นั่นเองค่ะ)
- ก่อนจะสำรวจที่โต๊ะเพื่อเริ่มดำเนินการ ในตอนนี้เราสามารถออกไปนอกโรงเตี๊ยมได้นะคะ
- หากไปคุยกับ "ชาวเหมืองแม็กส์" (鉱員マックス) ที่นอนพักรักษาตัวจากการถูกสัตว์ปิศาจทำร้ายบนเตียงที่บ้านหลังล่างสุด เขาจะมอบ "เกล็นหมอปิศาจ เล่ม 3" มาให้ค่ะ
- หากไปคุยกับ "หัวหน้าเหมืองฮอฟแมน" (鉱山長ホフマン) ที่กำลังปิดประตูทางเข้าเหมืองเพื่อป้องกันสัตว์ปิศาจชอบออกมาป้วนเปี้ยนบ้างบางครั้ง ลอยด์ได้ยินก็เลยคิดว่าจะขอเข้าไปจัดการสัตว์ปิศาจข้างในเพื่อเป็นการอุ่นเครื่องก่อนเริ่มแผนการไปด้วย ซึ่งหัวหน้าเหมืองก็อนุญาตค่ะ (ในเหมืองจะมีศัตรูให้เราสู้ แล้วก็มีหีบสมบัติให้เก็บด้วยนะคะ ถ้ายังไงก็แวะไปหน่อยก็ดีค่ะ)
★ITEM★ HP2, ยาแห่งเทียร์ร่า, ยาแห่งเซราส, ชุดต่อสู้
- เมื่อเตรียมตัวเรียบร้อยแล้ว ให้สำรวจที่ "โต๊ะในห้องพัก" แล้วเลือกข้อ 1 "ตั้งรับจนถึงกลางดึก" (深夜まで待機する) ได้เลยค่ะ
- กลางดึกคืนนั้น สองสหาย "ชาวเหมืองกันซ์" (鉱員ガンツ) และ "ชาวเหมืองมาร์โล" (鉱員マルロ) เดินออกมาจากโรงเตี๊ยมอิฐมอญหลังจากดื่มกันมาเต็มที่ ขณะที่คุยกันเรื่องคาสิโนกันอยู่ดี ๆ จู่ ๆ ก็ได้ยินเสียงหมาป่าหอนขึ้น แล้วปรากฏตัวต่อหน้าพวกเขา แต่พวกลอยด์ที่เตรียมตัวอยู่ก่อนแล้วก็ออกมาช่วยได้ทันท่วงทีค่ะ
★BATTLE★ เดอเว่น ไคเซอร์ *3 (ドーベンカイザー)
- ปราบได้ เจ้าหมาทหารทั้ง 3 ตัวจะหนีไป พวกลอยด์จึงไล่ตามจนเจอพวกมาเฟียที่จอดรถรออยู่นอกเมือง จากนั้นพวกมาเฟียจะใช้ยารักษาน้องหมาทั้ง 3 แล้วออกคำสั่งให้เข้าโจมตีพวกเราค่ะ

BOSS มาเฟีย มีดดาบ + มาเฟีย ปืน + เดอเว่น ไคเซอร์ *3
マフィア・鉈 + マフィア・銃 + ドーベンカイザー
- การต่อสู้กับพวกมาเฟีย จะเหมือนช่วงท้ายของบทนำค่ะ
- แต่การต่อสู้ในครั้งนี้ จะน่ารำคาญตรงที่ว่ามีน้องหมาทหารโผล่มาด้วย โดยเฉพาะท่า "เขี้ยวเปล่า" (空牙) ที่ทำให้เราติด AT-Delay แถมพลังโจมตีก็ไม่ใช่น้อยด้วย ทางที่ดีใช้ท่า "แครช บอม" (クラッシュボム) ของแรนดี้ทำให้ศัตรูติด "มืดมิด" เพื่อลด AGL ที่เหลือ ก็แค่โจมตีสลับกับฟื้นฟูไปเรื่อย ๆ ก็จะชนะได้โดยง่ายค่ะ

- แนะนำให้จัดการมาเฟียก่อน เพราะสามารถใช้ยาแห่งเทียร์ ฟื้นฟูฝ่ายตัวเองได้ค่ะ

- ปราบได้ มาเฟียจะไม่ยอมแพ้ เปิดประตูหลังรถเรียกเดอเว่น ไคเซอร์ออกมาอีก ขณะที่เรากำลังเข้าตาจนอยู่นั้น เสียงขู่คำรามก็ดังมาจากบนหน้าผา ณ เบื้องหน้านั้นปรากฏหมาป่าจำนวนมาก ซึ่งหมาป่าตัวที่อยู่ตำแหน่งสูงสุดก็คือ "หมาป่าสีขาว" ที่พวกเราเจอมาก่อนหน้านี้นั่นเองค่ะ
- เสียงขู่คำรามดังขึ้นอีกครั้ง เดอเว่น ไคเซอร์ถึงกับหมอบราบคาบแก้ว พวกลอยด์จึงได้โอกาสเข้าจับกุมพวกมาเฟีย เพื่อส่งต่อให้กองกำลังรักษาความปลอดภัยจัดการค่ะ
- อีกฟากหนึ่งของหน้าผา ปรากฏร่างของเด็กสาวในชุดเดรสยืนมองพวกลอยด์ "อุหึหึ...... กะแล้วเชียวว่าต้องรู้ตัว" "เร็น" หัวเราะชอบใจที่หมาป่าสีขาวตัวนั้นรู้ว่าเธอยืนอยู่ตรงนี้
เร็น "คุณหมาป่านั่น เป็นใครกันแน่นะ? ท่าทางจะไม่ธรรมดาเลย...... อุหึหึ แต่ว่าพวกพี่ชายนั่นก็ท่าดีทีเหลวไปหน่อย ถ้าพวกคุณหมาป่าไม่มาช่วยล่ะก็จะทำยังไงล่ะนั่น คิกคิก...... อดคิดไม่ได้เลยว่าต่อไปจะเป็นยังไง"
- "......ก็คงหลังจากนี้ล่ะมั้ง" "อาริออส" เดินเข้ามา เร็นดูไม่ค่อยตกใจมากนัก ยังทักทายกลับอย่างไม่ใส่ใจตามสไตล์
เร็น "อุหึหึ คุณก็มาด้วยเหรอเนี่ย ถ้าพวกเขาฝีมือไม่ถึงขึ้นมา ตั้งใจจะเข้าไปช่วยสินะ? <ปราชญ์ดาบแห่งสายลม> อาริออส แม็กเลน......"
อาริออส "......เธอต่างหากล่ะ ผู้ดำเนินแผนการ (執行者) แห่งองค์กร <อุโรโบรอส (งูกินหาง)> (身喰らう蛇(ウロボロス)) No.------ XV------ <นางฟ้าแห่งการทำลายล้าง> (殲滅天使) เร็น"
เร็น "คิกคิก...... ถึงขนาดไม่ต้องแนะนำตัวเลยเหรอ ดูไปแล้วก็สมกับที่ปฏิเสธคำขอร้องให้เลื่อนขั้นขึ้นเป็นระดับ S นะ?"
อาริออส "บอกตามตรง ระดับมันสูงไป ถึงจะได้รับความคาดหวังให้มาแทนคาซิอุส ไบรท์ก็ตาม แต่ภาระมันหนักก็เท่านั้น"
เร็น "หึหึ...... ยังไงล่ะนั่น? เร็น เคยเจอกับคาซิอุส ไบรท์มาแล้วครั้งนึง...... ถ้าฝีมือดาบแล้วล่ะก็ คุณน่ะนำหน้าเขาอยู่นี่นา? รู้สึกว่าฝีมือทัดเทียมกับคนที่แข็งแกร่งที่สุดที่เร็นรู้จักเลย"
อาริออส "หึหึ...... อย่างนี้ต้องบอกว่าเป็นเกียรติดีมั้ย ------หลายเดือนมานี่ ชั้นรู้อยู่แล้วว่าเธออาศัยอยู่ในเขตปกครองตนเองครอสเบล ตอนแรกนึกว่าจะจัด [งานเลี้ยงน้ำชา] (お茶会) อะไรนั่นเสียอีก......"
เร็น "อุหึหึ ไม่ได้เข้าใจเอาซะเลย ถึงเร็นไม่ได้จัดงานเลี้ยงน้ำชา ครอสเบลก็น่าตื่นเต้นพอตัวอยู่แล้วนี่? แถมจัดงานสังสรรค์มากเกินไป มันก็ไม่สุนทรีย์เอาซะด้วย"
อาริออส "ถ้าได้ยินแบบนั้นก็วางใจ ท่าทางจะแค่มาอาศัยเพราะเหตุจำเป็นส่วนตัวสินะ...... ------คิดจะหนี "พวกเขา" ไปจนถึงเมื่อไหร่กัน?"
เร็น "! ................................"
อาริออส "ชั้นไม่คิดจะกล่าวพาดพิงถึงบุญถึงกรรมของพวกเธอหรอก แต่การที่พวกเขามาช่วยที่ครอสเบล ส่วนตัวแล้วก็ถือว่าช่วยได้มากจริง ๆ แต่ก็...... ไม่มีทางที่จะหนีจากคำตอบที่อยู่ตรงหน้าได้ตลอดไปหรอกนะ?"
เร็น "......อย่างมายุ่งดีกว่านะ แถมที่เร็นอยู่ที่นี่ ก็ไม่ใช่เพราะเรื่องของเอสเทลอย่างเดียวด้วย ยังต้องซ่อม "เขา"...... แล้วก็มีเรื่องที่ต้องทำให้แน่ใจด้วย"
อาริออส "เรื่องที่ต้องทำให้แน่ใจ......?"
เร็น "อุหึหึ ไม่เกี่ยวกับคุณหรอก สัญญาว่าจะทำตัวดี ๆ เพราะงั้นอย่ามายุ่งเรื่องของเร็นก็แล้วกัน แน่นอนว่า...... อย่าพูดอะไรไร้สาระกับพวกเอสเทลด้วย?"
อาริออส "......เข้าใจแล้ว ตราบใดที่เธอไม่เป็นภัยต่อดินแดนแห่งนี้ ชั้นก็ขอให้คำมั่นว่าจะไม่ก้าวก่ายเกินความจำเป็น"
เร็น "อุหึหึ ขอบคุณ งั้น เร็นไปก่อนละนะ ลาก่อน...... คุณ <ปราชญ์ดาบแห่งสายลม>"
- เร็นเดินจากไป อาริออสมองตามแล้วก็พูดออกมานิ่ง ๆ ว่า "ลูกแมวหลงทางเรอะ...... แต่ถ้าปล่อยให้เป็นแบบนี้ รังแต่จะทำให้ทั้งเธอและพวกเขาสับสนกันต่อไป ถ้ามีบุคคลที่สามที่นำมาซึ่งโอกาสดี ๆ บางอย่างแล้วล่ะก็ ไม่แน่ว่า......" พูดจบอาริออสฉุกคิดอะไรบางอย่างได้ พร้อมกับมองไปทางที่พวกลอยด์อยู่ เขายิ้มน้อย ๆ แล้วพูดขึ้นว่า "หึ...... หรือว่า"



- เช้าวันใหม่ กองกำลังรักษาความปลอดภัยนำโดย "รองผู้บัญชาการโซเนีย" และ "จ่าสิบเอกโนแอล" ได้นำกำลังเข้ามาดำเนินการต่อที่เมืองเหมืองแร่ไมนซ์ แต่ถึงจะจับพวกมาเฟียได้ก็มีความเป็นไปได้สูงที่ต้องปล่อยตัวไป เพราะความสัมพันธ์ลับ ๆ กับผู้นำระดับสูงของเขตปกครองตนเองค่ะ จากนั้น โซเนียจะให้โนแอลขับรถพาพวกลอยด์ไปส่งที่เมืองครอสเบลค่ะ
- ทุกคนมาถึงเมืองด้วยสภาพง่วงนอนเต็มที่ พอมาถึงหน้าแผนกสนับสนุนภารกิจพิเศษก็ต้องประหลาดใจที่ "หัวหน้าแผนกเซอร์เกย์" มายืนรอรับพวกเขาอยู่ค่ะ ซึ่งหัวหน้าแผนกเซอร์เกย์บอกว่าเขาได้ฟังเรื่องราวต่าง ๆ จากโซเนียทางอุปกรณ์สื่อสารแล้ว พร้อมทั้งเอ่ยชมพวกลอยด์ด้วย ถึงลอยด์จะสงสัยว่าชมอยู่จริง ๆ หรือเปล่าค่ะ
- และสาเหตุที่หัวหน้าแผนกเซอร์เกย์ต้องออกมายืนข้างนอกแบบนี้ เป็นเพราะมีแขกที่น่าตกใจมาหาต่างหาก ซึ่งแขกที่ว่าก็คือ "หมาป่าสีขาว" นั่นเองค่ะ
- "[ข้าชื่อ <ไซท์> (ツァイト) ขอบใจที่ช่วยทำให้ข้อกล่าวหาที่มีต่อพวกข้ากระจ่างแจ้ง ] ------เขาว่างั้นน่ะค่ะ" ทีโอช่วยแปลคำพูดของหมาป่าสีขาวให้ทุกคนเข้าใจ ทุกคนก็น้อมรับคำขอบคุณด้วยความยินดี แต่ดูเหมือนไซท์มีอะไรจะพูดอีก ลอยด์จึงถามทีโอว่ามีอะไร
- ทีโอถ่ายทอดคำพูดของไซท์อีกครั้งด้วยหน้าตาท่าทางที่ไม่ค่อยดีใจเท่าไหร่นัก "[ทว่า พวกเจ้ายังเยาว์วัยนัก ยังพึ่งพาอะไรไม่ได้...... ช่วยไม่ได้ ข้าจะให้ยืมพลังสักระยะก็แล้วกัน ข้าจะคอยช่วยในยามที่ต้องการเอง]" พวกลอยด์อึ้งกันถ้วนหน้า ทีโอก็แปลต่อให้ว่า "[ไม่ต้องเป็นห่วง ทางฝูงนั้น ข้าวานให้ลูกน้องจัดการแล้ว วางใจเถอะ]" ลอยด์ยิ้มแหย ๆ บอกไม่ได้เป็นห่วงเรื่องนั้น แต่ยังไม่ทันจะพูดอะไรต่อ ไซท์ก็หาวกว้างแล้วทิ้งตัวลงนอนอย่างไม่แยแส
- "คึคึ <หมาป่าเทวะ> ในตำนานเรอะ...... ถึงจะพิศดารยังไง แต่ดูเหมือนจะโดนหมายตาไปแล้วสินะ?" หัวหน้าแผนกเซอร์เกย์พูดพลางหัวเราะพลาง ลอยด์รีบหันมาจะแก้ตัว หัวหน้าแผนกกล่าวต่อว่าให้ไซท์เป็น "สุนัขตำรวจ" ไปก็ได้ ต่อไปจะยังไง ให้พวกลอยด์เป็นคนตัดสินใจเองแล้วกัน ว่าแล้วก็ขอตัวไปนอนต่อ
- ถึงจะรู้สึกอึ้ง ๆ แต่พวกลอยด์ก็รู้สึกดีที่มีไซท์มาช่วย ว่าแล้วก็กะจะไปหาซื้อปลอกคอมาให้ด้วยค่ะ
- จบบทที่ 1 ค่ะ

Previous Chapter: บทนำ แผนกสนับสนุนภารกิจพิเศษ
Next Chapter: บทที่ 2 ตะวันทอง, จันทราเงิน



Related entries:
Zero no Kiseki (零の軌跡)


No comments:

Post a Comment