Sunday, December 31, 2017

[บทสรุป] Sen no Kiseki - Prologue chapter โรงเรียนนายร้อยธอส์

The Legend of Heroes : Sen no Kiseki

บทนำ โรงเรียนนายร้อยธอส์
序章 トールズ士官学院

Walkthrough – บทสรุป

31 สิงหาคม ปีเจ็ดจรัส 1204
ชายแดนตะวันออก จักรวรรดิเอเรโบเนีย
สนามซ้อมรบ ป้อมกาเรเลีย (ガレリア要塞)------


- รถถังของกองพลหุ้มเกราะที่ 5 (第五機甲師団) ยิงใส่รถถังคันเล็กของกองพลเดียวกันไม่ยั้งจนพังยับ จากคำพูดของ2 พลทหารที่หลบอยู่หลังรถถังอีกคัน ดูเหมือนจะมีใครบางคนบังคับรถถังของกองพลฯ อยู่ ทางออกทางเดียวคือการติดต่อขอความช่วยเหลือจาก "กองพลหุ้มเกราะที่ 4" (第四機甲師団) ซึ่งนำโดยพลโทเครก (クレイグ中将)

- ตัดมาอีกด้านหนึ่ง กลุ่มคนจำนวนกว่าสิบ ประกอบด้วยสาวสวยผมแดงท่าทางปราดเปรียว หนุ่มหล่อผมทองร่างกายกำยำ และเหล่านักเรียนหนุ่มสาวในชุดแดงอีก 9 คน วิ่งเข้าไปในป้อมกาเรเลียที่โดนโจมตี ภายในนั้นคละคลุ้งไปด้วยกลิ่นดินปืน และร่างของทหารกองทัพจักรวรรดินอนจมกองเลือดอยู่เต็มไปหมด ดูจากสถานการณ์แล้วเป้าหมายการบุกรุกในครั้งนี้ ต้องเป็น "ปืนรางรถไฟ" (列車砲) เพื่อเด็ดหัวของ "นายกฯ เลือดเหล็ก" (鉄血宰相) ที่กำลังเข้าร่วม "การประชุมการค้าเซมเรียตะวันตก" (西ゼムリア通商会議) ณ เขตปกครองตนเองครอสเบลอย่างแน่นอน

- เวลาไม่รอท่า "เด็กหนุ่มผมดำ" ที่เพื่อน ๆ เรียกว่า "รีน" (リィン) เสนอตัวให้ความร่วมมือในการหยุดยั้ง "ปืนรางรถไฟ" ก่อนที่มันจะถูกเดินเครื่อง ซึ่งได้รับความเห็นพ้องต้องกันจากเหล่าพวกพ้อง "ครูฝึกหญิง" เห็นว่ามาถึงขั้นนี้แล้วจะเฉยไปก็คงไม่ได้ จึงสั่งให้รีนนำทีม A บุกตามเธอไป ส่วนทีม B ให้ตามชายผมทองที่เธอเรียกว่า "พันโท" ไป เพื่อแยกกันหยุดยั้ง "ปืนรางรถไฟ" ทั้งปีกซ้ายและปีกขวาไปพร้อม ๆ กัน พร้อมกับกำชับว่า "นี่ไม่ใช่การฝึก------ แต่เป็นสงครามของแท้! จงระมัดระวังตัวให้ดี!" และแล้วภารกิจในการหยุดยั้งการเดินเครื่องปืนรางรถไฟของเหล่าเด็กนักเรียน "ห้อง VII" แห่งโรงเรียนนายร้อยธอส์ก็เริ่มขึ้น

★★ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Sen no Kiseki - System Guide ค่ะ★★


▼ป้อมกาเรเลีย (ガレリア要塞)

- เมื่อเข้าประตูจาก "เขตบัญชาการ" (司令区画) ไปยัง "เขตที่พักทหาร" (要塞・兵舎区画) จะเกิดการต่อสู้ขึ้นค่ะ

★BATTLE★ แฟแลงซ์ J9 *2 + ไทรแอคแทคเกอร์ R2 *3 (ファランクスJ9 + トライアタッカーR2)

- ปราบได้ พวกเราจะค่อนข้างแน่ใจว่า "โอเวอร์มัพเพ็ต (ตุ๊กตาสงคราม)" (人形兵器(オーバーマペット)) ที่องค์กรหนึ่งเป็นผู้สร้างขึ้นพวกนี้ เป็นชนิดเดียวกับตัวที่เราเคยเจอตอนฝึกปฏิบัติการและเป็นผู้ที่โจมตีทหารที่นอนจมกองเลือดที่เราเจอเมื่อครู่

ว่าด้วย [Break Object]
- Break Object ตามรายทาง สามารถทำลายเพื่อเก็บไอเทมเล็ก ๆ น้อย ๆ ได้นะคะ โดยไอเทมจะออกมาแบบสุ่มค่ะ


- เมื่อเข้าไปจนสุด "บริเวณทางร่วม" (中継エリア) จะมีจุดฟื้นฟูอยู่ เตรียมตัวให้พร้อมเพราะเมื่อขึ้นไปยัง "ระเบียงฝั่งครอสเบล" (クロスベル側回廊) แล้วจะเกิดอีเวนท์ขึ้นค่ะ

- ขณะที่พวกเรากำลังเหม่อมองวิวทิวทัศน์ของ "หุบเขากาเรเลีย" (ガレリア峡谷) ชายแดนติดครอสเบลนั้น "ปืนรางรถไฟ" ก็เริ่มเดินเครื่องเร็วกว่าที่เราคาดไว้ และจังหวะนั้นเองศัตรูก็ปรากฏตัวออกมาขัดขวางค่ะ

BATTLE เซฟี่แรนธัส *2
(ゼフィランサス)
- แนะนำ ให้ใช้อาร์ทสนับสนุน "เมลทิไรซ์" (メルティライズ) ใส่ฝ่ายเราเพื่อเพิ่ม CP อัตโนมัติระหว่างต่อสู้ แล้วใช้ S-craft ปราบจะง่ายขึ้นค่ะ

- หากเห็นเจ้าดอกลิลลี่ป่า เซฟี่แรนธัส (ชื่อเดียวกับกันดั้มเด๊ะ) ร่ายอาร์ทเมื่อใด ให้รีบสกัดโดยด่วน เพราะไม่อย่างนั้นอาจโดนอาร์ท "แอนเชียนท์ กลิฟ" (エンシェントグリフ) ที่พลังทำลายล้างสูงแถมยังโจมตีกินอาณาเขตด้วยค่ะ

- ส่วนการโจมตีอื่น ๆ นอกจากนี้ เช่น "ไซโคลน เรเซอร์" (サイクロンレーザー : เส้นตรง, ทำให้ติด MOV down หรือ STR down) หรือ "บลัสเตอร์ ช็อก" (ブラスターショック) ก็ไม่ถือว่าน่ากลัวเท่าไหร่ แต่ยังไงถ้าเห็นท่าไม่ดีให้รีบฟื้นฟูสภาพก่อนเป็นดีที่สุดค่ะ


- ถึงแม้จะปราบศัตรูลงได้ แต่ก็สายเกินการณ์ "ปืนรางรถไฟ" ทำงาน เสียงปืนดังสนั่นกลบเสียงรีนที่ร้องคำรามกึกก้อง


Opening Theme



วันพุธที่ 31 มีนาคม S.1204 โรงเรียนนายร้อยธอส์
พิธีปฐมนิเทศ

------5 เดือนก่อน
ภาคกลาง จักรวรรดิเอเรโบเนีย
ชานเมืองนครหลวงจักรวรรดิ [เฮมดัล]
ห่างจากเมือง [ทริสต้า] ออกไปทางตะวันตก 400 เซลจ์


- บนขบวนรถไฟโดยสารสีเขียว ขาไป "เมืองขุนนาง [บาเรียฮาร์ท]" (公都《バリアハート》) เด็กหนุ่มผมดำในชุดนักเรียนสีแดงนั่งเหม่อมองทิวทัศน์จากทางหน้าต่างรถไฟ
- เสียงประกาศแจ้งสถานีถัดไป "เมืองทริสต้า" ซึ่งเป็นจุดหมายปลายทางของเด็กหนุ่ม แม้ทางนี้จะเป็นฤดูใบไม้ผลิแล้ว แต่ดูเหมือนบ้านเกิดของเขาจะยังเป็นฤดูหนาวที่มีหิมะตกอยู่เลย


▼เมืองชานเมืองทริสต้า (近郊都市トリスタ)

- เมื่อเด็กหนุ่มนามว่า "รีน" เดินออกมาด้านนอกสถานีทริสต้า ก็ได้พบกับบรรยากาศของเมืองแสนสวยในฤดูใบไม้ผลิ "ดอกไรโน" (ライノの花) บานสะพรั่ง สร้างความประทับใจให้แก่เขาซึ่งไม่เคยเห็นมันบานแบบนี้มาก่อน ทำให้รู้สึกสงบกับการเริ่มต้นชีวิตที่นี่อีก 2 ปีหลังจากนี้

- ขณะที่เขากำลังเหม่อมองดูดอกไม้อยู่นั่นเอง "หญิงสาวผมทอง" ที่มัวแต่มองดูทิวทัศน์เช่นเดียวกันก็ชนเข้ากับรีน "ขะ ขอโทษ เป็นอะไรหรือเปล่า? ......โทษทีนะ เพราะชั้นมัวแต่เหม่อแท้ ๆ" รีนรีบยื่นมือออกไปพร้อมกล่าวขอโทษ ซึ่งสาวเจ้าก็ยื่นมือมารับน้ำใจนั้นพร้อมกับขอโทษเช่นกัน

- "ว่าแต่ว่า...... นี่เราใส่ชุดสีเดียวกันเลยเนอะ?" เด็กสาวผมทองสังเกตเห็นว่ารีนใส่ชุดนักเรียนสีเดียวกัน

รีน "จะว่าไปก็จริงแฮะ ทั้งที่ทุกคนใส่ชุดสีเขียวแต่ไม่รู้ว่าทำไม? ชั้นแค่ใส่ตามชุดที่เขาส่งไปให้ก็เท่านั้นเอง......"
หญิงสาวผมทอง "ฉันก็เหมือนกัน...... แต่ก็เห็นมีคนอื่นอีกที่ใส่นะ คงมีเหตุผลอะไรล่ะมั้ง อย่างเช่นอยู่ห้องเดียวกันอะไรแบบนี้"

- พูดจบหญิงสาวผมทองก็ขอตัวไปก่อน ทิ้งให้รีนรู้สึกเสียดายที่ไม่ได้ถามชื่อเอาไว้ แต่ยังไงก็คงมีโอกาสได้พบกัน ถึงตอนนั้นคงได้ทำความรู้จักกันอีกที

- เมื่อทบทวนคำพูดเรื่องชุดที่เหมือนกัน รีนก็นึกขึ้นมาได้และหยิบอุปกรณ์ "ออร์บเมนท์" (オーブメント) ที่ส่งมาพร้อมกับชุดนักเรียนที่ไม่ได้เขียนคำอธิบายอะไรมาด้วย แต่คิดตอนนี้ก็ปวดหัวเปล่า ๆ รีนจึงเก็บออร์บเมนท์แล้วมุ่งหน้าสู่ "โรงเรียนนายร้อยธอส์" ที่อยู่ทางเหนือของเมืองค่ะ

ว่าด้วย [Note]
- ในภาคนี้สมุดจดต่าง ๆ จะรวมอยู่ใน Note เล่มเดียวกันค่ะ วิธีการเรียกใช้จะเรียกจากหน้า Camp Menu หรือกดปุ่ม Select ขึ้นมาก็ได้ค่ะ

- นอกจากนั้น หากกดปุ่ม □ (สี่เหลี่ยม) จะมีหน้าต่าง Navigation คอยบอกเป้าหมายต่อไปว่าต้องทำอะไรบ้างตรงมุมล่างขวามือด้วยค่ะ


- เมื่อเข้าไปสวนสาธารณะหน้าสถานีจะพบ "เด็กสาวผมเงิน" ซึ่งใส่ชุดสีเดียวกันนอนอยู่ พอรีนจะปลุกเพราะกลัวเธอจะไปเข้าพิธีปฐมนิเทศสาย เด็กสาวก็ตื่นขึ้นพอดี ยังไม่ทันได้พูดอะไรเธอก็วิ่งไปซะแล้ว ดู ๆ ไปก็คล้ายแมวเหมือนกันนะ (ไม่บังคับ)

- เมื่อเข้าไปใน "โบสถ์น้อยทริสต้า" (トリスタ礼拝堂) สถานที่นมัสการเทพธิดาแห่งท้องฟ้า "เอดอส" ของโบสถ์เจ็ดจรัส จะพบกับ "ชายหนุ่มตัวสูง" ภาวนาอยู่ ผิวสีน้ำตาลของเขาทำให้เข้าใจได้ว่าไม่ใช่คนจักรวรรดิ (ไม่บังคับ)

- เมื่อถึงสี่แยกหน้าโรงเรียนจะพบ "ชายชราที่ดูเหมือนพ่อบ้าน" ยกห่อที่บอกว่าเป็นอาวุธประจำกายให้คุณหนูของเขา "หญิงสาวผมสีน้ำเงิน" รับมาพร้อมกับบอกให้ชายชราดูแลตัวเองดี ๆ และช่วยดูแลท่านพ่อของเธอด้วย


▼โรงเรียนนายร้อยธอส์ (トールズ士官学院)

- เมื่อเข้าไปในโรงเรียน ขณะที่รีนกำลังชื่นชมกับทิวทัศน์ภายในโรงเรียนอยู่นั้น รถลิมูซีนออร์บเมนท์สีเขียวหยก รุ่นใหม่ล่าสุดของบริษัทไรน์ฟอร์ดก็แล่นเข้ามา "ชายหนุ่มผมทอง" ลงมาจากรถ "คนขับรถลิมูซีน" พยายามจะถือสัมภาระให้ แต่ชายหนุ่มปฏิเสธเสียงแข็ง พร้อมกับบอกให้คนรถไปพักผ่อนก่อนแล้วค่อยกลับไปยังบาเรียฮาร์ทก็ได้


- "------ยินดีด้วยค่ะที่สอบเข้าเรียนได้!" เสียง "สาวน้อยร่างเล็ก" กล่าวต้อนรับรีนที่เดินเข้ามาในรั้วโรงเรียนอย่างสดใส เธอเดินเข้ามาพร้อมกับ "ชายหนุ่มร่างอ้วน" ในชุดหมีสีเหลือง

สาวน้อยร่างเล็ก "อืม ๆ ดูเหมือนเธอจะเป็นคนสุดท้ายสินะ รีน ชวาร์เซอร์คุง------ ใช่มั้ยจ๊ะ?"
รีน "คะ ครับ ------ยินดีที่ได้รู้จัก ว่าแต่...... ทำไมถึงรู้จักชื่อ?"
สาวน้อยร่างเล็ก "เอ๊ะเหะเหะ พอดีมีอะไรนิดหน่อยน่ะ แต่ตอนนี้อย่าเพิ่งใส่ใจเลยนะ"
รีน "???"
ชายหนุ่มร่างอ้วน "นั่นเป็นของที่นำมาสมัครเรียนใช่เปล่า? ขอรับฝากไว้ก่อนก็แล้วกันนะ"
รีน "อา...... ตรงตามที่เขียนไว้ในเอกสารเลยนะครับ"

- รีนฝากห่อผ้าที่เขาถือมาให้กับชายหนุ่มร่างอ้วน ซึ่งเขาบอกว่าเดี๋ยวจะคืนให้เองไม่ต้องเป็นห่วง พร้อมกับได้รับการแนะนำทางไปหอประชุมและคำต้อนรับจากสาวน้อยตัวเล็กด้วย
- รีนเดินออกมาหันไปมองทั้ง 2 คนซึ่งน่าจะเป็นรุ่นพี่ แต่รู้สึกว่าคนที่เป็นผู้หญิงนั้นตัวเล็กจนดูไม่เหมือนอายุมากกว่าเลย แม้จะสงสัยในคำพูดที่ว่า "ตัวเองเป็นคนสุดท้าย" แล้ว แต่ระฆังเริ่มพิธีปฐมนิเทศก็ดังขึ้นทำให้เขาหยุดคิดและเดินเข้าห้องประชุมไป


- "อาจารย์ใหญ่แวนไดค์" (ヴァンダイク学院長) กล่าวเปิดพิธีปฐมนิเทศอันเร่าร้อน พร้อมทั้งเล่าประวัติโรงเรียนแห่งนี้ที่ก่อตั้งมา 220 ปี ว่า "มหาจักรพรรดิดรัยเคิลส์" (ドライケルス大帝) ผู้ทำให้สงครามราชสีห์ (獅子戦役) สิ้นสุดลง เป็นผู้ก่อตั้งขึ้นหลังขึ้นครองราชย์มาได้ 30 ปี และได้ทิ้งคำพูดให้อนุชนคนรุ่นหลังว่า "หนุ่มสาวเอย------ จงเป็นรากฐานของโลกใบนี้"

- เมื่อจบพิธีปฐมนิเทศ "ชายหนุ่มผมแดง" ที่นั่งข้าง ๆ รีนก็ชวนคุยพร้อมกับแนะนำตัวว่าเขาชื่อ "เอลิออท เครก" (エリオット・クレイグ) ซึ่งเขาก็รู้สึกแปลก ๆ เหมือนกันที่นักเรียนเข้าใหม่ส่วนใหญ่จะใส่ชุดสีเขียว แต่ทำไมมีแค่ไม่กี่คนที่ใส่ชุดสีแดง (ส่วนชุดขาวเป็นนักเรียนฝ่ายขุนนาง) จากนั้นครูฝึกที่ดูเหมือนขุนนางจะประกาศให้นักเรียนแยกย้ายไปตามชั้นเรียนตามเอกสารแนะนำที่แจกให้ก่อนเข้าเรียน เพื่อพบครูที่ปรึกษาและรับทราบเรื่องหลักสูตรวิชาที่ต้องเรียน แต่ปัญหาคือ... พวกรีนไม่รู้ว่าตัวเองอยู่ห้องไหน เพราะในเอกสารแนะนำที่พวกเขาได้มาก่อนเข้าเรียนไม่มีระบุเอาไว้

- "เอ้า ๆ นักเรียนที่ใส่ชุดแดงหันมาทางนี้หน่อย~! ดูท่าทางกำลังงง ๆ กันอยู่เพราะไม่รู้ว่าตัวเองอยู่ชั้นไหนสินะ จริง ๆ แล้วมันมีเหตุนิดหน่อยน่ะ ------แต่เดี๋ยวพวกเธอต้องเข้ารับ "การปฐมนิเทศพิเศษ" แล้วนะ" ครูฝึกหญิงผมสีแดงกล่าวพร้อมกับบอกให้นักเรียนตามเธอมา พวกรีนก็เดินตามไปแบบงง ๆ โดยมีพวกนักเรียนในชุดขาวมองตามอย่างสงสัย


วันพุธที่ 31 มีนาคม S.1204 สำรวจชั้นใต้ดินอาคารเรียนเก่า
การปฐมนิเทศพิเศษ

▼อาคารเรียนเก่า (旧校舎)

- ครูฝึกหญิงเดินนำเข้าไปในอาคารหลังเก่า แม้จะยังคลุมเครือแต่ทุกคนก็ตามเข้าไปอย่างเสียไม่ได้


- อีกด้านหนึ่ง บนเนินที่ห่างออกไปไม่ไกลจากตัวอาคารนัก ปรากฏร่างของ "ชายหนุ่มโพกผ้า" กับ "หญิงสาวชุดหนังสีดำ" ที่กำลังกล่าวถึงรุ่นน้องของพวกเขา ดูเหมือนว่าตลอดระยะเวลา 1 ปีที่ผ่านมาพวกเขาร่วมมือกันทำอะไรบางอย่างเพื่อวันนี้ แถมดูเหมือนว่าหญิงสาวในชุดหนังสีดำจะถูกอกถูกใจ "อลิซ่าคุง" มากทีเดียว ถึงขนาดเอ่ยปากว่าต้องหาทางเข้าใกล้สักหน่อยแล้ว ส่วนชายหนุ่มโพกผ้าก็ตัดพ้อที่หญิงสาวในชุดหนังทำให้เขาต้องมีชีวิตนักเรียนชายแสนเศร้าเคล้าความเหงามาตลอด 1 ปีที่ผ่านมา

- ขณะที่ทั้ง 2 คนกำลังทะเลาะกันอยู่ "สาวน้อยร่างเล็ก" ก็เข้ามาห้ามพร้อมกับ "ชายหนุ่มร่างอ้วน" ดูเหมือนพวกเขาเพิ่งเตรียมการอะไรบางอย่างเสร็จ โดยเฉพาะสาวน้อยร่างเล็กที่ทุกคนเรียกเธอว่า "ประธานนักเรียน" ดูจะกระตือรือร้นที่สุดที่ได้ซัพพอร์ต "ชั้นเรียนพิเศษ" ซึ่งก่อตั้งขึ้นในปีนี้ด้วย "เหตุผลอะไรบางอย่าง" ค่ะ


▼อาคารเรียนเก่า ชั้น 1 (旧校舎・1F)

- "------ซาร่า วาเลสไทน์ (サラ・バレスタイン) ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ชั้นคือครูที่ปรึกษาของพวกเธอ [ห้อง VII] ฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะจ๊ะ❤" ครูฝึกซาร่ากล่าวแนะนำตัว พวกนักเรียนต่างก็งงไปตาม ๆ กัน เพราะไม่เคยได้ยินมาก่อนว่ามีชั้นเรียนนี้ด้วย

หญิงสาวสวมแว่น "อะ เอ่อ......ครูฝึกซาร่าคะ? หนูจำได้ว่าชั้นเรียนของนักเรียนปี 1 ที่โรงเรียนนี้มีจำนวน 5 ห้อง แยกตามฐานะหรือชาติกำเนิดของคน ๆ นั้นนี่คะ......"
ครูฝึกซาร่า "โอ๊ะ สมแล้วที่ได้คะแนนสอบเข้าเป็นอันดับ 1 เตรียมตัวมาดีนี่นา ใช่แล้วล่ะ ชั้นเรียนมีจำนวน 5 ห้อง แบ่งเป็นขุนนางและสามัญชน ------จนถึงเมื่อปีที่แล้วน่ะ แล้วชั้นเรียนอีก 1 ห้องก็เพิ่งก่อตั้งขึ้นมาใหม่ในปีนี้~ ซึ่งหมายความว่าพวกเธอ------ คือ [ห้อง VII] ชั้นเรียนพิเศษที่ได้รับเลือกมาโดยไม่เกี่ยงว่าจะมีชาติกำเนิดแบบไหนไง"

- "ชายหนุ่มสวมแว่น" นาม "มาคิอัส เรกนิทซ์" (マキアス・レーグニッツ) ได้ยินก็ไม่พอใจ ขึ้นเสียงว่าไม่เคยได้ยินว่ามีการแบ่งห้องแบบนี้มาก่อน และเขารับไม่ได้หากต้องร่วมชั้นเรียนเดียวกับพวกขุนนาง
- "ชายหนุ่มผมทอง" หัวเราะเยาะเบา ๆ พร้อมกับกัดนิด ๆ ว่าสามัญชนเนี่ยเสียงดังดีจัง มาคิอัสลดเสียงลง และเมื่อรู้ชื่อของชายหนุ่มผมทองว่าแท้จริงแล้วเขาคือ "ยูซิส อัลบาเรอา" (ユーシス・アルバレア) ก็ถึงกับตกใจ ที่รู้ว่ายูซิสเป็นเชื้อสายขุนนางใน "สี่ตระกูลใหญ่" (四大名門) ที่ปกครองเขตคลอยแชง (クロイツェン州) ซึ่งตั้งอยู่ทางภาคตะวันออกของจักรวรรดิ
- ก่อนที่เรื่องราวจะบานปลาย ครูฝึกซาร่าขอให้ทุกคนเงียบกันก่อน เพราะเธอต้องเริ่มปฐมนิเทศแล้ว ซึ่งการปฐมนิเทศนี้มีความเกี่ยวพันกับของที่ฝากไว้ที่ประตูทางเข้าอย่างที่รีนคาดไว้ไม่มีผิด ครูฝึกซาร่าเห็นรีนมีเซ้นส์ที่ไม่เลว จึงไม่พูดพล่ามทำเพลงกดปุ่มที่ซ่อนไว้ข้างเวทีเพื่อเริ่มปฐมนิเทศทันที
- เสียงจากพื้นดังลั่น ทุกคนค่อย ๆ ตกลงไปข้างล่างอย่างไม่ทันตั้งตัว แต่เด็กสาวผมเงินไหวตัวทันยิงตะขอเกาะคานไว้ "------แน่ะฟี อย่าโดดร่มสิ เธอเองก็ต้องไปด้วย ไม่งั้นมันก็ไม่ใช่ปฐมนิเทศสิ" ว่าแล้วครูฝึกซาร่าก็ปามีดบินออกไปตัดเชือกตะขอ เด็กสาวผมเงินถอนหายใจอย่างเซ็ง ๆ หล่นปุ๊ลงข้างล่างตามทุกคนไป


▼อาคารเรียนเก่า เขตใต้ดิน1 (旧校舎・地下区画1)

- ทุกคนที่ตกลงมาค่อย ๆ ยืนขึ้นสำรวจสภาพรอบ ๆ ด้วยสายตา ดูเหมือนทุกคนดูจะปลอดภัยดี ยกเว้นรีนที่อยู่ในสภาพที่ไม่สู้ดีเท่าไหร่ เพราะเขาเอาตัวเข้ารับเด็กสาวผมทอง แต่ก็ต้องโดนฉาดเข้าที่หน้าทั้งที่ไม่ผิด (หรือเปล่า?)


- เสียงเรียกเข้าดังจากออร์บเมนท์ที่ทุกคนได้รับก่อนเข้าเรียน ดูเหมือนออร์บเมนท์อันนี้จะใส่ฟังก์ชั่นเครื่องมือสื่อสารเข้ามาด้วย ครูฝึกซาร่าที่อยู่ปลายสายอธิบายว่าที่พวกเราถืออยู่คือ 1 ในออร์บเมนท์ต่อสู้รุ่นถัดไป ที่มูลนิธิเอปสไตน์ร่วมมือกับบริษัทไรน์ฟอร์ดพัฒนาขึ้นมา เป็นออร์บเมนท์ต่อสู้รุ่นที่ 5 เรียกว่า "อาคุส (ARCUS)" ว่าแล้วก็บอกให้นักเรียนทุกคนไปเอาควอทซ์ที่เตรียมไว้ให้มาใส่ ซึ่งอาวุธที่ฝากไว้ก็มีมาวางเตรียมไว้ให้ที่นี่เช่นกันค่ะ

- เดินไปสำรวจแท่นที่วางอาวุธของรีน จะได้รับมาสเตอร์ควอทซ์ "ฟอร์ซ" (フォース) มา วิธีการเซ็ตคือเข้าไปที่ Camp Menu > Orbment > Quartz แล้วเซ็ตลงตรงกลางออร์บเมนท์ค่ะ

**ในกรณีที่ดึงเซฟจบมาเล่นใหม่อีกครั้ง
ถ้าเลือกดึง มิร่า & เซพิธ หรือ Item หรือสมุดจดต่าง ๆ ก็จะได้รับมาในช่วงนี้ค่ะ**


- เมื่อเซ็ตควอทซ์เสร็จแล้ว ออร์บเมนท์จะเรืองแสงและส่งเสียงขานรับเพื่อเป็นเครื่องยืนยันว่า ARCUS เชื่อมต่อ (link) กับผู้ใช้งานเรียบร้อยแล้ว จากนั้นการปฐมนิเทศของจริงก็จะเริ่มขึ้น โดยเป้าหมายคือการกลับไปยังชั้น 1 ของอาคารหลังนี้ค่ะ

- เมื่อรู้ว่าไม่ใช่เรื่องล้อเล่น ยูซิสจึงเดินนำเข้าไปก่อน สร้างความไม่พอใจให้แก่มาคิอัส (ปากร้ายพอกันทั้งคู่) เมื่อเถียงกันไปเถียงกันมา ต่างคนต่างไม่ยอมแพ้กัน เลยกลายเป็นว่าแยกกันไปเดี่ยว ๆ ซะอย่างนั้น ส่วนทางด้านผู้หญิง เด็กสาวผมสีน้ำเงินตั้งตัวเป็นโต้โผชักชวนผู้หญิงให้ร่วมเดินทางไปด้วยกัน แต่เด็กสาวผมสีเงินเดินเข้าไปด้านในคนเดียวซะก่อน เลยเหลือเป็นทีมหญิง 3 คน และทีมชาย 3 คน (แน่นอนว่ารีนกำลังจิตตกสุด ๆ ที่โดนเข้าใจผิด แต่ก็ไม่ยอมแพ้หาโอกาสขอโทษใหม่ทีหลังค่ะ)

- เมื่อแนะนำตัวและโชว์ของกันเสร็จเรียบร้อยแล้วให้มุ่งหน้าไปด้านในได้เลยค่ะ

★PARTY★ "เอลิออท" และ "ไกอุส" เข้ากลุ่มค่ะ

★★ดันเจี้ยนนี้จะเป็นติวโตเรียลโหมดให้เราได้เรียนรู้ระบบต่าง ๆ เบื้องต้น โดยเฉพาะระบบต่อสู้ค่ะ★★

★ITEM★ เซพิธทุกคุณสมบัติ *50, นีดเดิล ช็อต

★BATTLE★ เหมียวบิน *3 (飛び猫)

ว่าด้วย [Active Voice และ Battle Note]
- ในภาคนี้ ตามฉากหรือดันเจี้ยนต่าง ๆ จะมี Active Voice เป็นบทสนทนาที่ตัวละครพูดคุยกัน โดยเราสามารถเปิดดู Log ได้จาก Active Voice Note ซึ่งเก็บย้อนหลังได้สูงสุด 50 logs ค่ะ

- ส่วน Battle Note หรือสมุดจดต่อสู้ จะเหมือนกับภาคก่อน ๆ นะคะ


★BATTLE★ กลาสโดรว์เม่ *3 (グラスドローメ), คอยน์ บีทเทิล *7 (コインビートル)

- เมื่อจบการต่อสู้ที่สุดทางใต้ดิน1 จะเกิดอีเวนท์ที่ "มาคิอัส" เข้ามาช่วยพวกเราจากการลอบโจมตีของคอยน์ บีทเทิลค่ะ เขาจะขอโทษที่หุนหันออกมาในตอนแรก นอกจากนี้ พอเห็นว่าพวกเรามีกันอยู่ 3 คนจึงขอเข้าร่วมด้วย แต่ก่อนอื่นเขาอยากเช็คชาติกำเนิดของแต่ละคนก่อนเพื่อความชัวร์ ซึ่งแน่นอนว่าทั้งเอลิออทและไกอุสตอบอย่างไม่ลังเลว่าเป็นสามัญชน ส่วนรีนคิดครู่นึง ก่อนที่จะบอกว่าตัวเองไม่มีเลือดของขุนนางไหลเวียนอยู่ในตัวเลย ก็คงบอกได้ว่าเป็นเหมือนทุกคนในนี้ แม้เอลิออทจะฉุกใจในสิ่งที่รีนพูดแต่ก็ไม่ได้ถามอะไร ส่วนมาคิอัสเมื่อได้ยินดังนั้นก็รู้สึกวางใจ พร้อมร่วมเดินทางไปกับเราค่ะ

★PARTY★ "มาคิอัส" เข้ากลุ่มค่ะ



▼อาคารเรียนเก่า เขตใต้ดิน2 (旧校舎・地下区画2)

- เมื่อมาถึงกลางทาง จะพบกับทีมสาว สาว สาว "ลอร่า" แห่งตระกูลไวส์เคานท์ ผู้ปกครองเมืองริมทะเลสาบเลแกรม, "เอมม่า" นักเรียนทุนที่เกิดแถวชายแดนจักรวรรดิ ใช้ออร์เบิลสตัฟเป็นอาวุธเหมือนเอลิออท และ "อลิซ่า" สาวผมทองจากเมืองรูเรที่มีสำนักงานใหญ่ของบริษัทไรน์ฟอร์ดตั้งอยู่ เธอมีนามสกุลสั้น ๆ ว่า R และกำลังเคืองรีนไม่หาย
- ลอร่าปฏิเสธการร่วมกลุ่มกันในตอนนี้ เพราะมั่นใจในฝีมือ และคิดว่าแยกกันตะลุยน่าจะดีกว่า เพราะน่าจะหาคนที่เหลืออีก 2 คนได้ง่ายขึ้นด้วยค่ะ
(ตรงนี้รีนจะบอกเพื่อน ๆ ในกลุ่มที่พูดคุยเกี่ยวกับฝีมือของลอร่าที่น่าจะไม่ธรรมดาว่า "สำนักดาบอาร์ซีด" แห่งเลรแกรม เป็นสำนักสอนวิชาดาบให้กับอัศวินที่สืบทอดกันมาในจักรวรรดิ ซึ่งพ่อของลอร่าคือ ไวส์เคานท์อาร์ซีด นักดาบอันดับหนึ่งในจักรวรรดิ และมีฉายาที่รู้จักกันในวงการว่า "ปรมาจารย์ดาบแห่งแสง" (光の剣匠) ค่ะ)

★ITEM★ เทียร์

- เมื่อไปต่อจนมาถึงโถงของเขตใต้ดิน2 จะพบกับ "ฟี" ที่ขอแยกไปคนเดียว โดยให้เหตุผลว่าเธอชินกับการทำอะไรคนเดียวมากกว่า ซึ่งดูแล้วปราดเปรียวอย่างเธอน่าจะเอาตัวรอดได้แบบไม่ต้องเป็นห่วง
(แต่คำพูดที่ว่า "มาถึงครึ่งทางแล้ว" ของฟี ก็ทิ้งให้รีนรู้สึกสงสัยว่าทำไมฟีถึงได้รู้ว่าครึ่งทางแล้ว ไม่แน่ว่าเธอไปเห็นทางออกมาแล้วหรือเปล่า)

- เมื่อมาจนสุดทางเขตใต้ดิน2 จะได้ยินเสียงดาบ ต้นเสียงนั้นก็คือ "ยูซิส" ที่กำลังต่อสู้กับสัตว์ปิศาจที่กำลังรุมอยู่หลายตัวได้อย่างสบาย ๆ นั่นเอง

- มาคิอัสกับยูซิสมีปากเสียงกันจนทำให้เพื่อน ๆ รู้ว่าแท้จริงแล้ว มาคิอัสเป็นบุตรชายของคาร์ล เรกนิทซ์ (カール・レーグニッツ) ผู้ว่าราชการนครหลวงคนแรกที่เกิดในชนชั้นสามัญชน ยูซิสยังพูดต่ออีกว่ามีพ่อเป็นถึงผู้ว่าฯ แบบนี้ คงพูดเต็มปากไม่ได้ว่าเป็นสามัญชนธรรมดา มาคิอัสเถียงกลับบอกว่าถึงพ่อเขาจะเป็นผู้ว่าฯ แต่ความเป็นสามัญชนก็ไม่ได้เปลี่ยนแปลงไป อย่าเอาไปรวมกับพวกชนชั้นอภิสิทธิ์อย่างนาย เถียงกันไปเถียงกันมาเริ่มลุกลามไปถึงความรู้สึกของมาคิอัสว่า ที่เกลียดพวกขุนนางเข้าไส้แบบนี้ เพราะพ่อเป็นเพื่อนร่วมสาบานของ "นายกฯ เลือดเหล็ก" ที่เป็นฝ่ายปฏิรูปหรือเปล่า มาคิอัสทนไม่ไหวเดินปรี่เข้าไปหาเรื่องยูซิส

ユーシスを注意する
เตือนยูซิส
รีนจะเตือนยูซิสที่เอาเรื่องพ่อแม่มาทะเลาะกัน ซึ่งดูเหมือนยูซิสก็ยอมรับเหมือนกันว่าเขาพูดแรงไป และขอแยกตัวไปสำรวจคนเดียวเหมือนเดิม ส่วนมาคิอัสก็ขอโทษที่ไม่ได้บอกเรื่องพ่อ แต่เขาก็ไม่ได้ตั้งใจจะปิดบัง และถึงยังไงเขาก็ยังคงเป็นสามัญชนอยู่ดี แถมเงินเดือนพ่อก็ไม่ได้มากมายอะไร ห่างชั้นกับพวกขุนนางหลายขุม ซึ่งตรงนี้พวกเราก็เข้าใจ เพราะพ่อของมาคิอัสขึ้นชื่อว่าเป็นคนใจซื่อมือสะอาดค่ะ
マキアスを止める
หยุดมาคิอัส
รีนจะเข้าไปล็อกตัวมาคิอัสไว้ และต่อว่ายูซิสว่าพูดแรงไป ส่วนมาคิอัสบอกให้รีนปล่อยพร้อมกับขอออกจากกลุ่มไปสงบสติอารมณ์สักพัก และบอกให้พวกรีนเอายูซิสเข้าร่วมแทน พอมาคิอัสออกไปรีนก็เตือนยูซิสว่าไม่ควรเอาเรื่องพ่อแม่มาทะเลาะกัน ยูซิสก็รับผิดที่พูดแรงไป เอลิออทแปลกใจ ไม่คิดว่าชนชั้นอภิสิทธิ์อย่างยูซิสจะยอมรับผิดง่าย ๆ แบบนี้ ตอนแรกยูซิสจะสำรวจต่อคนเดียว แต่ก็ไม่อยากทำตัวแบบเดียวกับมาคิอัส จึงขอร่วมทางไปกับพวกเราด้วยค่ะ

★PARTY★ "ยูซิส" เข้ากลุ่มค่ะ (เฉพาะกรณีที่เลือกคำตอบข้อ 2)


▼อาคารเรียนเก่า เขตใต้ดิน3 (旧校舎・地下区画3)

★ITEM★ เซพิธทุกคุณสมบัติ *50, หลบหลีก1


▼อาคารเรียนเก่า ห้องบันได (旧校舎・階段部屋)

- ขณะที่รีนกำลังครุ่นคิดเกี่ยวกับเรื่อง "ห้อง VII" ที่มีคนจากหลายชนชั้นมารวมตัวกัน เสียงคล้าย ๆ กับหินแตกก็ดังขึ้น เบื้องหน้าพวกรีนรูปปั้นการ์กอยล์ค่อย ๆ เปลี่ยนสภาพ สยายปีกพร้อมบุกโจมตีทุกเมื่อ


BOSS การ์กอยล์ (ผู้พิทักษ์ศิลา) "อิกรูโด้ การ์ม"
(石の守護者《イグルードガルム》)
HP : 8,270
การโจมตีที่ได้ผล : ฟัน ★ / แทง ★ / ยิง ★ / กระแทก ★★
ธาตุอาร์ทที่ได้ผล : ดิน120 / น้ำ120 / ไฟ120 / ลม120

โจมตีธรรมดา = อาณาเขต M + ทำให้ติด "แผลไฟไหม้"
โซลเบลอร์ = 1 คน + ทำให้ติด "หมดสติ"

- พลังป้องกันกายภาพของการ์กอยล์ตัวนี้ค่อนข้างสูง ดังนั้นการใช้อาร์ทปราบจึงเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด
- แต่ถ้าหากไม่อยากใช้อาร์ท จะใช้ Craft "ปลุกใจ" (激励) ของรีน เพิ่มพลังโจมตีให้ฝ่ายเรา และใช้ Craft "เอคโค่ส์ บีท" (エコーズビート) ของเอลิออทเพิ่มพลังป้องกันพร้อมกับฟื้นฟู HP เรื่อย ๆ จากนั้นค่อย ๆ โจมตีตอดไปก็จะชนะได้ง่ายค่ะ

- เมื่อ HP ของอิกรูโด้ การ์มลดลงเหลือประมาณครึ่งนึง จะเปลี่ยนร่างไปเป็นเวอร์ชั่นบินพร้อมกับฟื้นฟู HP ขึ้นมาประมาณ 1/4 พร้อมกับค่าพลังที่เพิ่มขึ้นค่ะ

▼การ์กอยล์ (ผู้พิทักษ์ศิลา) "อิกรูโด้ การ์ม" (เวอร์ชั่นบิน)
การโจมตีที่ได้ผล : ฟัน ★ / แทง ★ / ยิง ★ / กระแทก ★★
ธาตุอาร์ทที่ได้ผล : ดิน125 / น้ำ100 / ไฟ120 / ลม100

โจมตีธรรมดา = 1 คน
วายุกระหน่ำ = เส้นตรง + ทำให้ถอยร่นไปแนวหลัง
แอเรียล = อาณาเขต L


- ปราบได้ Link EXP ของทุกคนเพิ่มขึ้น 100 หน่วย
- อิกรูโด้ การ์มจะลุกขึ้นมาอีกครั้ง รีนประเมินสถานการณ์คาดว่าเพื่อน ๆ คงถึงขีดจำกัดแล้ว เขาตัดสินใจที่จะทำอะไรบางอย่าง แต่จังหวะนั้นเองกลุ่มของสาว สาว สาวก็เข้ามาช่วยเหลือได้ทันท่วงที รวมไปถึงฟีและมาคิอัส (หรือยูซิส) ก็เข้ามาช่วยสมทบอีกแรงด้วย ขณะที่ทุกคนร่วมมือร่วมใจกันโจมตีศัตรู แสงส่องสว่างวาบขึ้นมาห่อหุ้มร่างแต่ละคน เมื่อช่วยกันโจมตีจนศัตรูอ่อนแรงลง ลอร่าจึงจัดการปิดท้ายเด็ดหัวปิศาจการ์กอยล์ซะ

- ขณะที่พวกเรากำลังสงสัยเกี่ยวกับแสงที่ห่อหุ้มร่างกายเมื่อสักครู่ ครูฝึกซาร่าก็ปรากฏตัวขึ้น "------ใช่แล้วล่ะ นั่นก็คือความสามารถที่แท้จริงของ ARCUS" เธอกล่าวพร้อมกับปรบมือชื่นชมให้กับชัยชนะจากทีมเวิร์คของเหล่าลูกศิษย์

ครูฝึกซาร่า "การปฐมนิเทศพิเศษเสร็จสิ้นลงแต่เพียงเท่านี้...... อะไรเนี่ยพวกเธอ ดีใจให้มากกว่านี้หน่อยไม่ได้หรือไง?"
มาคิอัส "จะ จะดีใจได้ยังไงกันล่ะครับ!"
อลิซ่า "บอกตามตามนะคะ ว่ามีแต่ความสงสัยกับรู้สึกไม่ไว้ใจ......"
ครูฝึกซาร่า "อ้าว?"
ยูซิส "------เข้าเรื่องเลยดีกว่า ชั้นเรียนพิเศษ <ห้อง VII>...... มีจุดประสงค์อะไรกันแน่?"
เอมม่า "รู้แค่ว่าเป็นชั้นเรียนที่ไม่เกี่ยวว่าจะมีฐานะหรือชาติกำเนิดอะไร......"
ลอร่า "คำถามคือ ทำไมพวกเราถึงถูกเลือกเข้ามา"
ครูฝึกซาร่า "อืม นั่นสินะ มันมีเหตุผลหลายอย่างที่พวกเธอถูกเลือกเข้ามายัง <ห้อง VII>...... ซึ่งเหตุผลที่เข้าใจได้ง่ายที่สุด ก็อยู่ใน นั่นน่ะแหละ"

- ทุกคนหยิบ ออร์บเมนท์ต่อสู้รุ่นถัดไปขึ้นมา ครูฝึกซาร่าเริ่มอธิบายต่อว่า "ออร์บเมนท์ต่อสู้รุ่นใหม่ที่มีประสิทธิภาพดีที่สุด จากการพัฒนาร่วมกันของมูลนิธิเอปสไตน์ (エプスタイン財団) และบริษัทไรน์ฟอร์ด (ラインフォルト社) เป็นออร์บเมนท์ที่ใช้อาร์ทได้หลายรูปแบบ มีฟังก์ชั่นสื่อสาร และฟังก์ชั่นอื่น ๆ อีกมากมายที่ยังปิดเป็นความลับ...... ความสามารถที่แท้จริงของมันคือ สิ่งที่พวกเธอเรียนรู้ได้ตนเองเมื่อกี๊ไง" และแน่นอนว่า ไม่ใช่ว่าใครก็สามารถใช้งานของออร์บเมนท์ตัวนี้ได้ แต่ต้องเป็นผู้ที่มีคุณสมบัติเหมาะสมเท่านั้น ซึ่งก็คือพวกเราทั้ง 9 คนนั่นเอง

ครูฝึกซาร่า "เอาล่ะ ------ตามสัญญา ชั้นจะสาธยายให้ฟังล่ะนะ โรงเรียนนายร้อยธอส์พบว่าพวกเธอ 9 คนเป็นผู้มีคุณสมบัติตรงตามเงื่อนไขของ ARCUS พวกนี้ แต่ก็ใช่ว่าเราจะมีงบประมาณเพียงพอให้กับคนที่ไม่มีใจหรือไม่เต็มใจเข้าร่วมหรอกนะ นอกจากนี้ ชั้นเรียนที่พวกเธอจะเข้ามาสังกัด มีหลักสูตรวิชาที่ยากต้องใช้ความพยายามอย่างมาก ดังนั้นชั้นจะขอถามอีกครั้งว่า------ เตรียมตัวเตรียมใจที่จะเข้าร่วม <ห้อง VII> หรือไม่?"

- ทุกคนมองตากันเลิ่กลั่ก

ครูฝึกซาร่า "อ้อ ถ้าจะถอนตัว เราจะให้ไปสังกัดห้องตามแบบเดิม ถ้าเป็นขุนนางก็ห้อง I ไม่ก็ห้อง II นอกนั้นก็เป็นห้อง III - V ตอนนี้ยังเป็นวันแรกอยู่คิดว่าน่าจะเข้าร่วมชั้นไปทั้ง ๆ เครื่องแบบนั้นเลยก็ได้มั้ง~?"

- ภาพในความคิดเมื่อสมัยเด็กของรีนผุดขึ้น เขาตัดสินใจก้าวไปข้างหน้า "รีน ชวาร์เซอร์ ------ขอเข้าร่วมครับ" ท่ามกลางความตกใจของทุกคน รีนให้เหตุผลว่าที่เข้าร่วมเป็นเพราะความเอาแต่ใจของตนที่อยากจะเข้าเรียน ดังนั้น ไม่ว่าจะให้อยู่ห้องไหน ขอแค่ทำให้เขาพัฒนาตนเองได้ก็พอ
- ลอร่าได้ยินดังนั้นก็ขอเข้าร่วมเป็นคนที่ 2 เพราะเธอตั้งใจจะฝึกฝนตัวเองเหมือนกัน
- ตามมาด้วยไกอุสที่ออกเดินทางมายังดินแดนต่างถิ่นแห่งนี้ จึงอยากเลือกเส้นทางที่ท้าทาย
- จากนั้นก็เป็นเอมม่า ซึ่งมีเหตุผลว่าอยากให้ความร่วมมือแม้เพียงเล็กน้อยก็ยังดี เพราะตัวเธอเองก็รับทุนจากทางโรงเรียนอยู่
- ส่วนเอลิออทที่ตัดสินใจเข้าร่วมต่อมานั้น รู้สึกว่านี่อาจจะเป็นโชคชะตา แล้วก็รู้สึกว่าน่าจะไปกันกับทุกคนได้ดีด้วย
- ตามมาด้วยอลิซ่าที่ตอนแรกครูฝึกซาร่าคิดว่าเธอจะขอถอนตัวไปซะอีก เธอให้เหตุผลว่าเธอสนใจเรื่องการใช้งาน ARCUS ที่ยังอยู่ระหว่างการทดสอบเป็นการส่วนตัว
- ครูฝึกซาร่าได้ยินก็ดีใจ หันไปถามฟีว่าจะเอายังไง ซึ่งฟีก็ตอบว่ายังไงก็ได้ ให้ซาร่าตัดสินใจไปเลย แต่ครูฝึกซาร่าบอกให้ฟีตัดสินใจเอง "ไม่ได้ เธอต้องตัดสินใจเอง สัญญาไว้แล้วไม่ใช่เรอะ ว่าเรื่องของตัวเองก็ต้องตัดสินใจด้วยตัวเองน่ะ?" ฟีส่ายหัวพูดคำติดปากว่าน่ารำคาญ แต่ก็ตอบตกลงเข้าร่วมค่ะ
- เหลือยูซิสกับมาคิอัส ครูฝึกซาร่าเห็นเงียบทั้งคู่เลยแกล้งหยอกว่า ถ้าได้อาบเหงื่อต่างน้ำกับชีวิตวัยรุ่นด้วยกัน เดี๋ยวก็สนิทกันเอง มาคิอัสรีบปฏิเสธ (แบบซึน ๆ) แถมยังเอาเรื่องระบบแบ่งชนชั้นที่แข็งปั้กของจักรวรรดิมาบ่นว่า ถ้ายังแก้ไขปัญหานี้ จักรวรรดิก็คงไม่มีอนาคตซะงั้น ยูซิสจึงก้าวออกมาบอกว่าจะขอเข้าร่วมด้วย มาคิอัสได้ยินก็ไม่เข้าใจ ค่อนขอดว่าลูกชายขุนนางใหญ่อย่างยูซิสไม่น่าจะทนได้ถ้าต้องมาร่วมชั้นเรียนเดียวกับสามัญชน ยูซิสหันไปมองหน้าบอกว่าอย่าคิดเองเออเอง "ถ้ามองในมุมของตระกูลอัลบาเรอา ไม่ว่าจะขุนนางตระกูลอื่นหรือสามัญชนมันก็เหมือน ๆ กัน แบบนี้ก็สะดวกดีไม่ต้องคอยกังวลว่าจะมีคนโน้นคนนี้มาป้วนเปี้ยนทั้งที่เข้าใจอะไรผิด ๆ ชั้นเอง ก็ไม่มีรสนิยมให้สุนัขที่เห่าหอนอย่างไร้ประโยชน์มาอยู่ข้าง ๆ ด้วย...... ดังนั้นแยกตัวออกมาตรงนี้เลยก็น่าจะได้ประโยชน์ด้วยกันทั้งคู่ ว่าไงล่ะ?" มาคิอัสได้ยินก็ไม่พอใจที่ยูซิสทำมาเป็นให้คำแนะนำแบบหยิ่งยโส เขาเลยตัดรำคาญก้าวออกมาขอเข้าร่วม <ห้อง VII> เพื่อพิสูจน์ว่าสามัญชนกับขุนนางที่ยึดติดกับสิทธิพิเศษคร่ำครึนั้น ใครจะเหนือกว่าใครกันแน่ค่ะ


- เมื่อทั้ง 9 คนเข้าร่วมหมด ครูฝึกซาร่าก็กล่าวเปิดตัว <ห้อง VII> อย่างเป็นทางการ เริงร่าอย่างออกนอกหน้าว่าอีก 1 ปีต่อจากนี้ คงจะมีเรื่องสนุก ๆ ให้ทำด้วยกันแน่นอน

- บนชั้น 2 "อาจารย์ใหญ่แวนไดค์" และ "ชายหนุ่มผมทอง" เฝ้ามองเหล่านักเรียนทั้ง 9 อย่างมีความหวัง

- "------นี่คงเป็นการชักนำของเทพธิดาที่นำพาให้มาเจอกันกระมัง บางทีพวกเขาต่างหากที่อาจเป็น "แสงสว่าง" ก็ได้ แสงสว่างเพียงหนึ่งเดียวที่จะก้าวข้ามความขัดแย้งในจักรวรรดิที่ได้ยินเสียงฝีเท้าของกลียุค------" ชายหนุ่มผมทองที่ดูคุ้นหน้าคุ้นตากล่าว

- จบบทนำค่ะ







Related entries:
Sen no Kiseki (閃の軌跡)


No comments:

Post a Comment