Sunday, December 3, 2017

[บทสรุป] Zero no Kiseki - Prologue chapter แผนกสนับสนุนภารกิจพิเศษ

序章 特務支援課
บทนำ แผนกสนับสนุนภารกิจพิเศษ

สำหรับเควสต์ในภาคนี้ นอกจากจะมี Main Quest เป็นเนื้อเรื่องหลักแล้ว
ยังมี Sub-quest เปรียบเสมือน Main Quest ที่ทำให้เนื้อเรื่องดำเนินไปด้วย
ซึ่ง Sub-quest ที่ว่านั้นจะต่อท้ายด้วยคำว่า "ฉุกเฉิน" ค่ะ
เมื่อเราเคลียร์ "Sub-quest ฉุกเฉิน" เนื้อเรื่องก็จะดำเนินไปเช่นเดียวกับ Main Quest ค่ะ


Walkthrough - บทสรุป
- Prologue -
- ณ สถานที่แห่งหนึ่งซึ่งดูเหมือนโบราณสถานอันเก่าแก่ หนุ่มสาว 4 คนวิ่งลงบันไดที่ทอดยาวไปข้างล่างอย่างร้อนใจ
- "ว่าไง......ทีโอ?" ชายหนุ่มชื่อ "ลอยด์" (ロイド) เอ่ยถาม
- "......ตรงตามที่สังหรณ์ไว้เลยค่ะ" เด็กสาวผมยาวสีฟ้าสลวยชื่อ "ทีโอ" (ティオ) ตอบพลางพูดต่อ "เวลา, อากาศ, มายา...... ธาตุชั้นสูงกำลังทำงานอยู่ เหมือนที่ <หอคอย> (塔) กับ <อาราม> (僧院) เลยค่ะ"
- "เหรอ กะแล้วเชียว...... ดูท่าข้างหน้านี่คงจะรับมือยากพอดูนะ" หญิงสาวชื่อ "เอลี่" (エリィ) กล่าวด้วยสีหน้าท่าทางเคร่งเครียด
- "พูดแบบนั้น แสดงว่ามีพวกปิศาจไม่น่าไว้ใจเดินป้วนเปี้ยนอยู่สินะ เฮ้อ ไม่ชอบเรื่องแบบนี้เลย" ชายหนุ่มผมแดง "แรนดี้" (ランディ) กล่าวขึ้นด้วยอาการเหนื่อยหน่าย
- "งั้นเหรอ...... เข้าใจแล้ว งั้นก็ต้องมีพวกศัตรูดักซุ่มโจมตีอยู่แน่ ๆ ...... พวกเรา ตั้งจิตใจให้แน่วแน่ แล้วลุยกันเถอะ!" ลอยด์ปลุกพลังใจ เหล่าพวกพ้องตอบรับด้วยเสียงหนักแน่น
- บังคับตัวละครฝ่ายเราลงไปด้านล่างต่อเลยค่ะ
- "ที่นี่คือ......!?" ลอยด์และพรรคพวก หยุดยืนดูหลุมที่ลึกลงไปด้านล่างซึ่งมองเห็นได้จากตรงระเบียงที่พวกเขายืนอยู่ ข้างใต้นั่นเต็มไปด้วยกลิ่นอายอันสะอิดสะเอียน
เอลี่ "หลุมต่อเนื่องมาจนถึงก้นบึ้งของแผ่นดิน...... จะกว้างใหญ่ไปไหนเนี่ย"
แรนดี้ "ลองกะเอาด้วยสายตาจากตรงนี้ ความลึกอยู่ที่ราว ๆ 500 อาร์จสินะ เฮ้อ......สงสัยต้องเหนื่อยอีกแล้ว"
ทีโอ "....................................."
- ทุกคนหันมามองทีโอที่จู่ ๆ ก็เงียบไป "ทำไมเหรอทีโอ?" ลอยด์ถาม
เอลี่ "เป็นอะไรหรือเปล่า? หน้าซีดเชียว"
ทีโอ "......ไม่มีปัญหาอะไรหรอกค่ะ แค่นึกถึงสถานที่ที่เคยอยู่มาเมื่อก่อนขึ้นมานิดหน่อย......"
ลอยด์ "ที่ที่เคยอยู่มาเมื่อก่อน...... งั้นเหรอ"
แรนดี้ "หมายถึง ฐานที่มั่นของเจ้าพวกนั้น ที่อยู่ตะวันตกสุดของสาธารณรัฐใช่มั้ย?"
ทีโอ "............ใช่ค่ะ คิดว่าหลุมนี่คงจะถูกสร้างขึ้นโดยอุปมาว่าเป็นถนนสู่ยมโลก (黄泉路) ที่ต่อเนื่องไปยังแดนชำระ (煉獄) ค่ะ เพื่อใช้เป็นเครื่องมือในการเข้าใกล้มารซึ่งถือเป็นความเชื่อที่แสดงการปฏิเสธเอดอส (เทพธิดา)...... แล้วก็เพื่อจัดให้มี <พิธีกรรม> บูชายัญเครื่องเซ่นไหว้แก่พวกเขาด้วย"
เอลี่ "เป็นพวกที่เลวที่สุดเลย"
แรนดี้ "ฮะ ถึงว่าได้กลิ่นชวนสะอิดสะเอียนชะมัด"
ลอยด์ "------ถ้าอย่างนั้น งานของพวกเรามีเพียงหนึ่งเดียว เพื่อเหล่าผู้คนที่เบิกหนทางให้พวกเรา เพื่อเด็กคนนั้นที่รอการกลับไปของพวกเราอยู่...... ทลายภาพลวงตาที่สะอิดสะเอียนนั่น แล้วลากมันออกมาให้อยู่ใต้แสงแห่งดวงอาทิตย์! ให้มันสิ้นสุดจะได้ไม่มีใครต้องรู้สึกเจ็บปวดรวดร้าวอีก......!"
ทีโอ ".........คุณลอยด์............"
แรนดี้ "เฮ้อ อยากจะบอกว่าเลือดร้อนซะจริง...... แต่เอาเถอะ แค่ครั้งนี้ก็ขอมีเอี่ยวด้วยแล้วกัน!"
เอลี่ "หึหึ ฉันก็ขอร่วมด้วย ศัตรูเป็นผู้ที่ราวกับแมงมุมไม่น่าไว้ใจ ชักใยทุกอย่างจากเบื้องหลัง ...... ถ้าเป็นพวกเราในตอนนี้จะต้องได้ตัวมันมาแน่นอน"
ทีโอ "......ค่ะ ยังไงก็......ไม่ยอมแพ้เด็ดขาด!"
ลอยด์ "ดีล่ะ...... งั้นก็ลุยกันเถอะ ลอยด์ แบนนิงส์พร้อมผู้ติดตามรวม 4 นาย สังกัดแผนกสนับสนุนภารกิจพิเศษ กรมตำรวจครอสเบล------ จากนี้ไปจะขอเริ่มเปิดฉากลอบเข้าไปสืบสวนเพื่อคลี่คลายคดี......!"



ขบวนรถไฟ (列車)
- ลอยด์สะดุ้งตื่นขึ้น มองซ้ายมองขวาเลิ่กลั่ก ก่อนที่จะรู้ตัวว่าตัวเองหลับไปหลังจากกล่าวลาพวกคุณลุงที่มาส่ง แล้วก็ขึ้นรถไฟขบวนนี้มาหลังจากส่งสัมภาระไปก่อนแล้ว
- สามีภรรยาเฒ่าที่นั่งฝั่งตรงข้าม สอบถามด้วยความเป็นห่วงเป็นใยว่าไม่สบายตรงไหนหรือเปล่า เพราะเห็นลอยด์เพ้อหนักเหมือนฝันร้าย แต่ลอยด์แค่นอนไม่พอและฝันอะไรแปลก ๆ เท่านั้น แน่นอนว่าไม่ได้ฝันดี ๆ อย่างมีผู้หญิงวิ่งไล่ในฝันอย่างที่ผู้เฒ่าแซวด้วย
- หลังจากรับน้ำมะนาวจากแม่เฒ่ามาดื่ม ก็รู้สึกดีขึ้นและเริ่มคุยกันถึงความเป็นมาของเพื่อนร่วมทางต่างวัย ซึ่งทั้งลอยด์และสามีภรรยาเฒ่าเกิดที่ครอสเบลเหมือนกัน เพียงแต่ลอยด์ไปใช้ชีวิตอยู่ในต่างประเทศมาหลายปี ส่วนสามีภรรยาเฒ่าก็เพิ่งเดินทางกลับจากเดินทางท่องเที่ยวที่สาธารณรัฐ
- สามีภรรยาเฒ่าได้ฟัง ก็ถามลอยด์ว่าคงรู้สึกว่าเมืองครอสเบลเปลี่ยนไปใช่ไหม เพราะ 2 - 3 ปีมานี่มีการเปลี่ยนแปลงไปมาก ลอยด์บอกว่าเขาพอจะเห็นตึกสูง ๆ จากที่ไกล ๆ แล้ว เพราะเมื่อไม่นานมานี้เขานั่งรถไฟขบวนนี้ผ่านเมืองครอสเบลบ่อย ๆ สามีภรรยาเฒ่าจึงเล่าความเปลี่ยนแปลงต่าง ๆ ให้ลอยด์ฟังค่ะ
- ทั้งเรื่องที่ครอสเบลเจริญรุ่งเรืองขึ้นจนกลายมาเป็นเมืองธุรกิจการค้าระหว่างประเทศขนาดใหญ่ที่สำคัญของทวีป มีออฟฟิศและตึกสูงโผล่ขึ้นมาเป็นดอกเห็ด แต่ผู้คนกลับเห็นแก่มิร่ามากขึ้น ลอยด์ได้ฟังก็เงียบไป แม่เฒ่ารีบขอโทษที่เล่าเรื่องแย่ ๆ ให้ฟังทั้งที่ลอยด์เพิ่งกลับมา ซึ่งลอยด์ก็ไม่ได้รู้สึกอะไร เพราะเขาพอจะได้อ่านจากจดหมายที่ได้รับมาบ้างแล้ว และในความคิดเขา บ้านเกิดก็ยังคงเป็นบ้านเกิดวันยังค่ำ
- ผู้เฒ่าได้ฟังก็เลยคุยเรื่องการเมืองต่อโดยไม่เกรงใจว่า ภายในสภาที่แบ่งเป็นฝ่ายจักรวรรดิและฝ่ายสาธารณรัฐก็ยุ่งเหยิงพึ่งพาอาศัยไม่ได้ คนเดียวที่พอจะพึ่งพาได้ก็มีแค่นายกเทศมนตรีแม็กดูเวลเท่านั้น
- มาถึงตรงนี้แม่เฒ่ารีบห้าม แต่ลอยด์บอกไม่เป็นไรอีกเช่นเคย เพราะถึงแม้เขาจะอยู่ต่างประเทศก็ยังคงรับหนังสือพิมพ์ "ครอสเบลไทมส์" มาอ่าน ทั้ง 3 คนคุยกันเพลินจนขบวนรถไฟใกล้จะเข้าเทียบชานชลา
- "------เรียนท่านผู้โดยสารทุกท่านทราบ อีกไม่นานขบวนรถจะถึงเมืองครอสเบล เขตปกครองตนเองครอสเบล ท่านผู้โดยสารที่จะโดยสารเรือเหาะประจำทางที่จะมุ่งหน้าไปยังลีเบร์ลและเรมิเฟเรีย กรุณาเปลี่ยนระบบการเดินทางด้วย อนึ่ง ด้วยระเบียบข้อบังคับของบริษัททางรถไฟแห่งทวีป รถขบวนนี้จะหยุดให้บริการที่สถานีครอสเบลประมาณ 30 นาที ท่านที่ต้องการเดินทางไปยังเอเรโบเนีย หลังจากกรอกใบคำร้องขอเข้าประเทศแล้ว กรุณายื่นเอกสารต่อเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองด้วย" เสียงพนักงานตรวจตั๋วโดยสารประกาศ
- ถึงแม้จะคุยกับพี่เซซิลหลายครั้งผ่านทางอุปกรณ์สื่อสารออร์บเมนท์ แต่ก็เป็นเวลา 3 ปีแล้วที่ลอยด์ไม่ได้กลับมายังครอสเบล เขาหยิบรูปถ่ายใบเก่าขึ้นมาดู ในรูปมีเขายืนยิ้มอยู่หน้าพี่ชายและผู้หญิงที่เขาเรียกว่าพี่เซซิล "(ชั้น กลับมาแล้ว กลับมายังครอสเบล เมืองที่เคยใช้ชีวิตอยู่กับทุกคน)" ลอยด์ยิ้มและพูดเบา ๆ




- รถไฟเข้าเทียบชานชลาที่ 2 ผู้โดยสารต่างทยอยลงจากขบวนรถไฟ
- ณ ลานกว้างใจกลางเมือง ลอยด์หยุดยืนดูทิวทัศน์ในตัวเมืองที่เปลี่ยนแปลงไปมากในช่วงเวลา 3 ปีมานี่ด้วยความตื่นตาตื่นใจ หลังจากคืนกระเป๋าสัมภาระที่ช่วยถือให้แก่คู่สามีภรรยาเฒ่าแล้ว สายตาของเขาไปสะดุดกับตึกแถวเก่า ๆ ตึกหนึ่งที่ไม่คิดว่าจะยังเหลืออยู่ สักพักเขาก็หยิบจดหมายขึ้นมา
เรียน คุณลอยด์ แบนนิงส์
กองบัญชาการตำรวจครอสเบลได้มีคำสั่งให้เข้ามาประจำยังแผนกสนับสนุนภารกิจพิเศษ
จึงให้มารายงานตัวตามวันและเวลาดังที่ได้ระบุไว้ด้วย
                                                            ฝ่ายทรัพยากรบุคคล กรมตำรวจครอสเบล
- ลอยด์ทวนชื่อแผนกในจดหมายอีกครั้ง รู้สึกสงสัยว่าเป็นหน่วยงานแบบไหนกันแน่ เพราะสมัยเรียนที่โรงเรียนตำรวจก็ไม่เคยได้ยินชื่อแผนกสนับสนุนภารกิจพิเศษมาก่อน แถมตอนนี้ก็ยังไม่ได้รับเครื่องแบบมาอีกด้วย แต่ไม่ว่าจะเป็นหน่วยงานแบบไหน ยังไงก็คือกรมตำรวจอยู่ดี เมื่อคิดได้ดังนั้นลอยด์จึงพับจดหมายเก็บและมุ่งหน้าไปยังกองบัญชาการตำรวจค่ะ

กองบัญชาการตำรวจครอสเบล (クロスベル警察本部)
- บังคับ "ลอยด์" เข้าไปติดต่อ "ประชาสัมพันธ์หญิง" ได้เลยค่ะ
- เมื่อเข้าไปคุยกับประชาสัมพันธ์หญิง ดูเหมือนจะไม่มีการแจ้งเอาไว้ว่าวันนี้จะมีคนเข้าใหม่มารายงานตัว แถมประชาสัมพันธ์หญิงก็ไม่เคยได้ยินชื่อแผนกสนับสนุนภารกิจพิเศษด้วย
(ตรงนี้เราจะได้ทราบว่า การได้คุณวุฒิเข้าเป็นเจ้าหน้าสืบสวนสอบสวนนั้นยากมาก และลอยด์ก็สอบผ่านมาทั้งที่อายุที่ยังน้อย ทำให้ประชาสัมพันธ์หญิงถึงกับทึ่ง ส่วนลอยด์ก็ถ่อมตัวบอกว่าที่เขาผ่านเพราะโชคช่วยแถมคนที่สอบรอบนี้ก็มีแค่เขาคนเดียวด้วยค่ะ)
- "......โอ้ มาแล้วเรอะ" เสียงผู้ชายดังขึ้น เขาเดินมาที่หน้าเคาน์เตอร์ประชาสัมพันธ์ "อ๊ะ สารวัตรเซอร์เกย์" เธอเรียก
ชายหนวดเครารุงรัง "ฟราน ชั้นขอตัวหมอนี่ไปก่อนนะ เป็นคนใหม่ของชั้นเอง"
ประชาสัมพันธ์หญิงฟราน "อ๋อ อย่างนี้นี่เอง...... ที่แท้ก็เป็นชื่อของหน่วยงานใหม่ที่สารวัตรตั้งขึ้นสินะคะ"
ชายหนวดเครารุงรัง "อือ ฝากตัวด้วยล่ะ แต่ก็อาจจะหายไปทั้งที่ยังไม่ถึงครึ่งปีดีก็ได้มั้ง"
ประชาสัมพันธ์หญิงฟราน "อะ อะฮะฮะ......"
- ลอยด์สบโอกาสถามแทรกขึ้นมา ชายไว้หนวดจึงแนะนำตัวว่าเขาเป็นหัวหน้าแผนกสนับสนุนภารกิจพิเศษชื่อ "เซอร์เกย์ ลูว์" (セルゲイ・ロウ) ว่าแล้วก็บอกให้ลอยด์ตามเขามาโดยที่ลอยด์ยังไม่ทันได้แนะนำตัวเสร็จ
- ภายในห้องประชุมเล็ก ๆ ที่ "หัวหน้าแผนกเซอร์เกย์" พามา มีคนนั่งรออยู่แล้ว 3 คน
หัวหน้าแผนกเซอร์เกย์ "ขอโทษที่ให้รอ หมอนี่เป็นสมาชิกคนสุดท้าย เอ้า แนะนำตัวสิ"
ลอยด์ "ครับ (อ้าว...... สมาชิกนี่ไม่เห็นเหมือนเป็นรุ่นพี่เลยนี่...... คนใหม่เหมือนกัน......? ไม่สิ ยิ่งกว่านั้นดูเหมือนจะมีเด็กที่อายุยังน้อยเกินไปอยู่ด้วย......)"
หัวหน้าแผนกเซอร์เกย์ "เอ้า ทำไมอีกล่ะ? เอาแค่ชื่อกับสถานที่เกิดก็พอ"
ลอยด์ "ขะ ขอโทษครับ ------ลอยด์ แบนนิงส์ เกิดที่เมืองครอสเบลนี่แหละครับ แต่ไปใช้ชีวิตอยู่ต่างประเทศมาระยะหนึ่ง...... ครั้งนี้ที่กลับมาก็เพราะได้เข้ากรมตำรวจ จากนี้ไปก็ขอฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะครับ"
ชายหนุ่มผมแดง "โอ้โห จริงจังจังแฮะ ชั้นแรนดี้ แรนดี้ ออแลนโด้ งานอดิเรกคือหลีหญิง เล่นพนัน ชอบนิตยสารกราเวีย ไว้จะให้นายยืมคอลเล็กชั่นลับของชั้นที่เก็บไว้อย่างดีคราวหน้านะ"
ลอยด์ "หา......!?"
หญิงสาว "......อะแฮ่ม ------ยินดีที่ได้รู้จัก เอลี่ แม็กดูเวลค่ะ เกิดที่เมืองครอสเบลเหมือนคุณ ฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะคะ"
ลอยด์ "อะ อือ......"
สาวน้อยชุดดำ "ทีโอ พลาโต มาจากเขตปกครองตนเองเรแมนค่ะ ......ฝากตัวด้วยนะคะ (คำนับ)"
ลอยด์ "ฝะ ฝากตัวด้วย......"
- หลังจากแนะนำตัวกันเสร็จแล้ว ลอยด์ก็หันไปถามหัวหน้าแผนกเซอร์เกย์เกี่ยวกับแผนกสนับสนุนภารกิจพิเศษ ว่าเป็นหน่วยงานแบบไหน ทำไมถึงมีแต่สมาชิกอายุยังน้อย พอเซอร์เกย์บอกว่ามีแต่คนเข้าใหม่ ลอยด์ก็หน้าเหวอพูดอะไรไม่ออก เสียงโทรศัพท์ดังขึ้น เซอร์เกย์หยิบบางอย่างที่ดูเหมือนเครื่องมือสื่อสารขนาดพกพาขึ้นมารับสายแล้วก็วางหูไป พร้อมกับบอกจะพาไปยังสถานที่แห่งหนึ่งค่ะ

ถนนหน้าสถานี (駅前通り)
- "หัวหน้าแผนกเซอร์เกย์" พาทุกคนมาตรงทางแยกหน้าสถานีรถไฟค่ะ
(เหตุผลที่หัวหน้าแผนกเซอร์เกย์พามาที่นี่ ก็เพราะจะทำการทดสอบภาคสนามเพื่อวัดความสามารถโดยรวมของพวกเรา โดยให้พวกเราเก็บกวาดสัตว์ปิศาจที่เดินป้วนเปี้ยนอยู่ภายในเขตใต้ดินค่ะ ลอยด์ค้านว่านี่มันไม่ใช่งานของเจ้าหน้าที่สืบสวนฯ แล้วเขาก็ไม่ใช่กองกำลังรักษาความปลอดภัยด้วย หัวหน้าแผนกเซอร์เกย์ตอบว่าถ้าตามปกติก็ไม่ใช่งานของเจ้าหน้าที่สืบสวนฯอยู่แล้ว แต่สำหรับสมาชิกแผนกสนับสนุนน่ะมันอีกเรื่อง)
- ว่าแล้วเซอร์เกย์ก็มอบ "อินิกม่า" (エニグマ) ออร์บเมนท์ต่อสู้ยุคที่ 5 รุ่นใหม่ล่าสุดให้พวกเรา พร้อมทั้งมอบหมายหน้าที่ให้ทีโอเป็นคนสอนวิธีใช้ ทีโอจึงขอควอทซ์สำหรับรุ่นใหม่มาจากเซอร์เกย์ด้วย
- ได้รับ Event Item เป็น "กุญแจจีโอ ฟร้อนท์ A", "สมุดจดสืบสวน" และ "สมุดจดการต่อสู้" จากเซอร์เกย์ค่ะ
- ก่อนเซอร์เกย์จะไปเขาโยนตำแหน่งหัวหน้ากลุ่ม (ลีดเดอร์) ให้ลอยด์ โดยที่ลอยด์ไม่ทันได้ตั้งตัว ด้วยเหตุผลว่าลอยด์เป็นคนเดียวที่มีคุณวุฒิในการเป็นเจ้าหน้าที่สืบสวนฯอย่างเป็นทางการค่ะ
- จากนั้น ทุกคนจะเริ่มสร้างความสนิทสนมกันโดยถามอายุของกันและกันเพื่อจะได้เรียกกันถูกค่ะ
(และเมื่อทุกคนรู้ว่าทีโออายุแค่ 14 ก็ตกใจ เพราะตำรวจทั่วไปต้องอายุ 16 ปีขึ้นไป แถมดูแล้วทีโอยังไม่จบโรงเรียนวันอาทิตย์เสียด้วย ทีโอจึงบอกว่าเธอไม่ใช่เจ้าหน้าที่ตำรวจ แต่เป็นคนของมูลนิธิเอปสไตน์ มาเพื่อทำการทดสอบ "ออร์เบิล สตัฟ (導力杖)" ค่ะ)
- จากนั้นพอลอยด์ยอมรับในตัวทีโอแล้ว ทุกคนก็ผลัดกันโชว์อาวุธของแต่ละคนค่ะ
- หากต้องการฟังระบบออร์บเมนท์ต่อสู้จากทีโอให้เลือกคำสั่งที่ 1 "ขอฟังรายละเอียด" (説明してもらう) แต่ถ้าไม่อยากฟังก็เลือกคำสั่งที่ 2 ได้เลยค่ะ
- สวมใส่ควอทซ์ลงในออร์บเมนท์ให้ครบทุกคน (นอกจากลอยด์แล้ว ทุกคนจะมีคุณสมบัติออร์บเมนท์บังคับไว้)
- จากนั้นสำรวจประตูเลือกคำสั่งที่ 1 "ใช้กุญแจ" (鍵を使用する) เพื่อลงไปยังเขตใต้ดินค่ะ

Main Quest DP ตรวจค้นจีโอ ฟร้อนท์ (ジオフロントの探索)
1(+5)

เขตจีโอ ฟร้อนท์ (ジオフロント区画)
- เราสามารถเลือกที่จะดู Tutorial ได้โดยเลือกคำสั่งที่ 1 หรือจะไม่ดูก็เลือกคำสั่งที่ 2 ได้ค่ะ
(ถ้าเลือกดู จะทำให้ทราบว่าไม้เท้าของทีโอ เป็นไม้เท้าที่ปล่อยพลังเหมือนกับอาร์ทออกมา โดยทำงานสัมพันธ์กับเกราะหน้าอกของทีโอค่ะ)
★ITEM★ ยาแห่งเทียร์, ระเบิดควัน *5, เซพิธ (ดิน, น้ำ, ไฟ, ลม) *20, ยาแห่งเซราส, เซพิธทุกคุณสมบัติ *20, ยาแห่งเทียร์
- เมื่อเข้ามาถึงห้อง ๆ หนึ่ง จะได้ยินเสียงเด็กร้องไห้ ให้เข้าไปในท่อจะพบเด็กผู้ชายชื่อ "อังลี่" (アンリ) ค่ะ
- สืบทราบได้ความว่า อังลี่เล่นกับเพื่อนแถว ๆ ระฆังตรงลานกว้างใจกลางเมือง พอเจอฝาท่อเปิดออกมาก็เจอบันได แล้วปีนลงมาเล่นที่นี่กันค่ะ พอรู้ว่าอังลี่ไม่ได้มาคนเดียวลอยด์จึงตัดสินใจว่า

男の子を連れていったん戻る
พาเด็กผู้ชายกลับไปก่อน
-
男の子と一緒にもう一人の子を探す
พาเด็กผู้ชายไปด้วย แล้วตามหาเด็กอีกคน
DP+2

★★ไม่ว่าจะเลือกข้อไหน อังลี่ก็จะกลายมาเป็น NPC ของเรา และในฉากต่อสู้ถ้า NPC ตาย GAME OVER ทันทีค่ะ
★ITEM★ เฟลม ซิปโป้, แบทเทิล สโคป *5
- เตรียมตัวที่จุดเพิ่มเลือดด้านในให้พร้อม เมื่อไปต่อจะพบเด็กที่ชื่อ "ริว" (リュウ) กำลังโดนสัตว์ปิศาจล้อมอยู่ค่ะ

そのまま魔獣の背後に突っ込む
บุกเข้าทางด้านหลังสัตว์ปิศาจเลย
สัตว์ปิศาจทุกตัวจะเน้นโจมตีไปที่ริวก่อน
ซึ่งเสี่ยงกับเกมโอเวอร์มาก ๆ
魔獣の注意をこちらに引き付ける
ดึงความสนใจสัตว์ปิศาจมาทางนี้
เอลี่จะไปดึงความสนใจจากสัตว์ปิศาจ
ทำให้สัตว์ปิศาจบางส่วนหันมาโจมตีเราแทนค่ะ

★★ไม่ว่าจะเลือกข้อไหน ก็ไม่มีผลกับ DP Bonus ที่ได้รับค่ะ

BATTLE ฟรอสต์ กัม *5
フロストグミ
- เนื่องจากการโจมตีกายภาพฟันเจ้าหมากฝรั่งแช่เย็นนี่ไม่ค่อยจะเข้า แนะนำให้เน้นโจมตีด้วยอาร์ทจะง่ายขึ้นค่ะ

- การต่อสู้ในครั้งนี้มีผลกับ DP ที่ได้รับ ถ้าหากทำให้ริวไม่โดนโจมตีเลย เราจะได้ DP Bonus เพิ่มค่ะ
- เพราะฉะนั้น แนะนำให้ปราบศัตรูที่อยู่ใกล้ริวให้เร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ ถ้ากดใช้ S-Break เพื่อปราบศัตรูทั้งหมดในอึดใจเดียวได้ยิ่งดีค่ะ

ชนะการต่อสู้โดยที่ริว (NPC) ไม่โดนโจมตีเลย DP+3

★★หากชนะการต่อสู้โดยที่ริวไม่บาดเจ็บเลย บทพูดจะเปลี่ยนไปนิดหน่อยค่ะ
(ริวบอกกับอังลี่ว่า ไม่ได้แผลเลยสักกะแผล แล้วก็หันมาชมพวกลอยด์ว่าเก่งมาก ๆ ค่ะ)

- ปราบได้ เด็ก ๆ ไม่เคยเห็นหน้าพวกลอยด์มาก่อน ก็เลยเข้าใจไปว่าพวกลอยด์เป็นคนเข้าใหม่ของกิลด์ พอรู้ว่าไม่ใช่ก็ประหลาดใจสงสัยว่าทำไมพวกตำรวจถึงมาเดินยามแถวนี้ได้ เพราะพ่อของริวเคยบอกว่าตำรวจชอบเบ่งชอบวางก้าม แต่ไม่เคยช่วยอะไรจริง ๆ เลย เบรเซอร์ซะอีกที่พึ่งพาได้มากกว่าไม่รู้กี่สิบเท่า
- ขณะที่กำลังคุยกับอยู่ จู่ ๆ สัตว์ปิศาจยักษ์ก็โดดลงมาขวางทางออกเอาไว้ ซึ่งประตูด้านหลังที่พอจะหนีออกไปได้ก็ดันล็อกอยู่เสียด้วย เมื่อไม่มีทางเลือกลอยด์จึงตัดสินใจเป็นคนดึงความสนใจจากสัตว์ปิศาจ และให้แรนดี้กับเอลี่อุ้มอาศัยโอกาสนั้นพาเด็ก ๆ หนีไป
- "เฮ้อ จะเสียสละตัวเองมันก็ดีอยู่หรอก แต่อย่าวู่วามให้มากนักสิ" เสียงหนึ่งดังขึ้น ณ เบื้องหน้านั้นชายไม่หนุ่มกระโดดฟันสัตว์ปิศาจยักษ์ออกเป็น 2 ซีกในดาบเดียว โดยไม่มีใครมองการเคลื่อนไหวของเขาทันเลย เด็ก ๆ รีบไปล้อมรอบชายคนที่เขาเรียกว่า "คุณอาริออส" (アリオス) ด้วยความปลาบปลื้มดีใจ
- ถึงแม้ชายคนนั้นจะดุใส่เด็ก ๆ ว่าถ้าไม่มีคนไปแจ้งว่าเห็นพวกเขาลงท่อมาจะเป็นยังไง แต่ที่เขาดุก็ด้วยความเป็นห่วง พร้อมบอกพวกเด็ก ๆ ด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยรอยยิ้มอันอ่อนโยนว่า เย็นมากแล้วเขาจะพากลับบ้านเอง
- แต่พอชายคนนั้นกำลังจะเดินไป เห็นพวกลอยด์ไม่เดินตามมาด้วย ก็ถามว่าไม่กลับรึ ลอยด์รีบตอบว่าจะขอกลับไปด้วย ว่าแล้วชายคนนั้นก็เดินนำไปก่อน ทิ้งให้พวกลอยด์สงสัยว่าเขาเป็นใครกันแน่ เอลี่ฉุกใจขึ้นมา แรนดี้สงสัยถามว่าคุณหนูรู้จักผู้ชายคนนั้นด้วยเหรอ เอลี่ก็เลยบอกว่าถ้าแค่ชื่อเธอพอจะรู้จักค่ะ
(ตรงนี้ เอลี่หันไปถามแรนดี้ว่าทำไมถึงเรียกเธอว่าคุณหนู แรนดี้บอกว่าเพราะท่าทางเอลี่ให้ค่ะ)
ลอยด์ "------อาริออส แม็กเลน เคยอ่านในครอสเบลไทมส์หลายครั้งแล้ว เบรเซอร์ระดับ A สังกัดสมาคมเบรเซอร์สาขาครอสเบล ------ไม่ว่าจะคำไหว้วานแบบไหนก็จัดการได้อย่างไร้ที่ติ ได้รับความไว้วางใจจากชาวเมืองอย่างล้นหลาม เทพพิทักษ์ตัวจริงของครอสเบล...... <ปราชญ์ดาบแห่งสายลม> อาริออส แม็กเลน (《風の剣聖》アリオス・マクレイン) ไง"
- เมื่อขึ้นมาข้างบน พวกลอยด์เจอนักข่าวสาวสาวจากครอสเบลไทมส์กำลังถ่ายรูปขอทำสกู๊ปที่อาริออสลงไปช่วยเด็ก ๆ (ข่าวไวจริง ๆ) มือของเธอกดชัตเตอร์ไม่ยั้ง
- หลังจากถ่ายภาพอาริออสจนหนำใจแล้ว ก็หันมาถ่ายภาพแขกที่น่าสนใจอย่างพวกลอยด์ เธอถ่ายรูปไปพลางพูดถึงการปรากฎตัวเป็นครั้งแรกของ "แผนกสนับสนุนภารกิจพิเศษ" ไป แต่คำพูดนั้นดูเหมือนจะเข้าข้างสมาคมเบรเซอร์อย่างเห็นได้ชัด อาริออสจึงหันมาบอกให้เธออย่าแสดงความเห็นทั้งที่ไม่ได้ฟังอีกฝ่ายพูด เพราะคนที่ช่วยเด็กพวกนี้ในตอนแรกก็คือพวกเขา ถึงแม้จะฝีมือยังไม่เฉียบขาดเท่าไหร่ก็เถอะ ลอยด์ถึงกับสะอึกกับคำสบประมาท
หญิงสาว "อุ๊ยต๊ายตาย ดูเหมือนจะเป็นอย่างนั้นจริง ๆ ด้วย เอาเถอะ ว่าจะเขียนอะไรหลาย ๆ อย่างลงไปในข่าว ยังไงก็อย่าคิดมากแล้วกันนะ? นึกซะว่าได้รับแรงเชียร์จากพี่สาว ต่อจากนี้ก็พยายามหน่อยแล้วกัน ------แล้วก็ คุณอาริออสคะ เรื่องการสัมภาษณ์แบบตัวต่อตัวน่ะค่ะ"
อาริออส "เกียวกับเรื่องนั้น น่าจะเคยปฏิเสธไปก่อนหน้านี้แล้วนี่......"
- เมื่อพวกอาริออสจากไป พวกลอยด์รู้สึกไม่ชอบใจที่โดนทำเหมือนเป็นตัวตลก แต่ลอยด์ก็ต้องตัดสินใจกลับไปรายงานหัวหน้าแผนกเซอร์เกย์ที่กองบัญชาการตำรวจก่อน
- จู่ ๆ เสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้น เขาเพิ่งจะรู้ว่าออร์บเมนท์ที่ได้มา สามารถใช้เป็นเครื่องมือสื่อสารแบบพกพาได้ด้วย (ก็มือถือนั่นแหละ) เขารับโทรศัพท์ ที่ปลายสายเป็นเสียงประชาสัมพันธ์หญิงที่เพิ่งพบเมื่อครู่ใหญ่นี้ บอกให้พวกลอยด์รีบกลับมาที่กองบัญชาการตำรวจโดยด่วน เพราะดูเหมือนรองอธิบดีเรียกตัวอยู่ค่ะ

กองบัญชาการตำรวจครอสเบล (クロスベル警察本部)
- "------โธ่ว้อย! คิดจะทำอะไรกันหา!?" เสียงตวาดราวกับคนประสาทดังลั่น ในห้อง "รองอธิบดีปิแอร์" (ピエール副局長) ตะโกนด่าพวกลอยด์ที่ไปแกว่งเท้าหาเสี้ยนทำงานที่ไม่เกี่ยวข้องกับหน้าที่ ทั้งยังหาว่าไปทำให้อาริออส แม็กเลนมีผลงานที่นับหน้าถือตามากขึ้น แถมยังโดนครอสเบลไทมส์เขียนข่าวตีแผ่อีก
(ลอยด์พยายามจะอธิบาย แต่โดนตะคอกใส่อย่างไร้เหตุผล รองอธิบดีปิแอร์ยังกล่าวอีกว่าเขาถึงได้คัดค้านการตั้งหน่วยงานใหม่ แล้วก็โบ้ยความผิดไปให้เจ้าเซอร์เกย์ตัวชอบทำให้หัวเสียที่ขอทำเรื่องแลกเปลี่ยน พอเอลี่จะถามว่าหมายถึงเรื่องอะไรก็โดนตะคอกกลับว่าไม่เกี่ยวกับพวกเราอีก)
- แต่แล้วจู่ ๆ เสียงของรองอธิบดีก็อ่อนลงเหมือนนึกอะไรบางอย่างได้ เขาวางแผนที่จะให้เซอร์เกย์ไม่เหลือลูกน้องในแผนกที่ตั้งใหม่เลยสักคน แล้วแผนกก็จะยุบไปโดยปริยายนี่เอง คิดได้ดังนั้น ก็ยื่นข้อเสนอให้พวกลอยด์ไปลาออกจาก "แผนกสนับสนุนภารกิจพิเศษ" ภายในวันสองวันนี้
- พวกลอยด์ไม่เข้าใจความหมายที่บอก รองอธิบดีก็ให้เหตุผลข้าง ๆ คู ๆ ว่ายังไงก็คงเป็นหน่วยงานที่อยู่ได้ไม่ถึงครึ่งปี แถมยังไม่มีประโยชน์ใด ๆ ด้วย ดีไม่ดีอาจจะก่อปัญหา ทำให้ประวัติด่างพร้อยได้ พวกลอยด์ได้แต่เงียบ รองอธิบดีเห็นว่าลอยด์ตั้งใจจะเป็นเจ้าหน้าที่สืบสวนฯ จึงยื่นข้อเสนอว่าจะย้ายลอยด์ไปแผนกสืบสวนสักแผนก ส่วนคนอื่นก็จะเตรียมย้ายไปแผนกใหม่ที่เหมาะสม โดยให้พวกเราเก็บไปคิดกันคืนนึงค่ะ
- ที่หน้าลิฟท์ชั้นหนึ่ง พวกลอยด์ได้แต่บ่นให้กัน ไม่นึกว่ากรมตำรวจจะเป็นยิ่งกว่าข่าวลือแบบนี้ ทีโอถึงกับคิดไม่ออกว่าจะทำยังไง เพราะถ้าเป็นแบบนี้ก็ไม่ตรงตามสัญญาที่ให้ไว้ เอลี่สงสัยว่าสัญญาที่ว่าคืออะไร ทีโอรีบปฏิเสธบอกว่าเป็นเรื่องส่วนตัวของทางเธอ ที่แน่ ๆ ตอนนี้หัวหน้าแผนกเซอร์เกย์อยู่ที่ไหน พวกเพื่อน ๆ เห็นลอยด์ซึมไปก็นึกว่าลอยด์จะลาออกจากแผนก แต่ลอยด์แค่คิดว่าที่นี่แตกต่างจากที่เขาคิดไว้สิ้นเชิง
- "สารวัตรโดนาแวน" (ドナバン警部) กับ "เจ้าหน้าที่สืบสวนฯ เรมอนด์" (レイモンド捜査官) แห่ง "กองกำกับการสืบสวนสอบสวน 2" ก็เข้ามาทักพวกลอยด์ค่ะ
(พอสารวัตรโดนาแวนรู้ว่าลอยด์คือคนที่ว่าก็เหมือนจะพูดอะไรขึ้นมา แต่เรมอนด์ทักเอาไว้ก่อน ซ้ำเรมอนด์ยังบอกว่าพวกลอยด์ช่างไม่รู้เรื่องอะไรเลย ถ้าเป็นเขาคงลาออกไปแล้ว ส่วนสารวัตรโดนาแวนก็ให้พวกลอยด์ลองไปคิด ๆ กันดูว่าจะเอายังไง ถ้าลาออกเขาก็อยากจะขอดึงตัวเข้ามาทำงานที่สืบสวนฯ 2 ค่ะ ก่อนจากไปเรมอนด์ไม่วายขอหลีเอลี่ สารวัตรโดนาแวนรีบห้ามแล้วเดินขึ้นลิฟท์ไป)
- จะยังไงก็ตาม ตอนนี้เราต้องหาตัวหัวหน้าแผนกเซอร์เกย์เพื่อถามรายละเอียดกันก่อน พอจะไปถามกับประชาสัมพันธ์ว่าหัวหน้าแผนกอยู่ที่ไหน ก็มีสายเข้ามาที่ลอยด์ปลายสายนั้นเป็นหัวหน้าแผนกเซอร์เกย์นี่เอง
- ดูเหมือนเขาจะกะจังหวะที่พวกลอยด์โดนเจ้าจิ้งจอกบ่นเสร็จพอดีแล้วค่อยโทรมา ทำเอาลอยด์เคืองทีเดียว และที่แท้ที่เซอร์เกย์หายไป เพราะสัมภาระของพวกเรามาส่งแล้ว เขาก็เลยมาเซ็นรับของให้ ลอยด์เข้าใจว่าเป็นหอพักเลยถามว่าที่ไหน แต่เซอร์เกย์บอกว่าไม่ใช่หอพักซะทีเดียว แต่เป็น "สำนักงานย่อย แผนกสนับสนุนภารกิจพิเศษ" ซึ่งเขาให้ชั้น 2 ชั้น 3 เป็นที่พักสำหรับพวกเรานั่นเองค่ะ

แผนกสนับสนุนภารกิจพิเศษ (特務支援課)
- ณ มุมหนึ่งของลานกว้างใจกลางเมืองยามค่ำคืน พวกลอยด์มองตึกเก่า ๆ ซ่อมซ่อ ต่างนึกไม่ถึงว่าตึกเก่า ๆ นี่จะเป็นสำนักงานย่อยของแผนกสนับสนุนภารกิจพิเศษ ทันใดนั้น "หัวหน้าแผนกเซอร์เกย์" ก็ออกมาต้อนรับ พร้อมกับบอกให้พวกเราเข้าไปข้างใน คำถามที่อยากถามเขาจะเป็นคนตอบให้ทั้งหมดค่ะ
- ในห้องทำงานของเซอร์เกย์ เป็นครั้งแรกที่ทุกคนได้รู้เหตุผลของการก่อตั้งแผนกสนับสนุนภารกิจพิเศษขึ้นมา ทีแท้ก็เป็นหน่วยงานที่คำนึงถึงความปลอดภัย ตอบรับความต้องการต่าง ๆ ของชาวเมืองเป็นอันดับแรก แทบจะเหมือนกับเบรเซอร์นั่นเองค่ะ
(จากคำบอกเล่าของหัวหน้าแผนกเซอร์เกย์ ที่ต้องตั้งแผนกแห่งนี้ขึ้นมา ก็เพราะปัจจุบันนี้ความนิยมในสมาคมเบรเซอร์สูงมาก แตกต่างกับกรมตำรวจลิบลับ เซอร์เกย์มองเห็นปัญหาตรงจุดนี้ว่า ถ้าอีกหน่อยกรมตำรวจหมดความสำคัญลง จะส่งผลต่อเนื่องไปถึงรัฐบาลของเขตปกครองตนเองได้ และที่ต้องตั้งแผนกขึ้นมาใหม่ เพราะแนวคิดพื้นฐานของกรมตำรวจคือ รักษาความสงบเรียบร้อยภายในประเทศและปฏิบัติตามกฏหมายของเขตปกครองตนเอง โดยการให้บริการประชาชนเป็นเรื่องรองลงมา ในกรมตำรวจจึงไม่มีใครเห็นด้วยและโดนเหน็บว่า "พวกสารพัดประโยชน์" บ้างล่ะ "เลียนแบบเบรเซอร์" บ้างล่ะ หรือ "ไก่รองบ่อน" บ้างล่ะ พวกลอยด์ได้ฟังก็ถึงกับอึ้งไม่คิดว่าแผนกนี้จะมีที่มาที่ไปอย่างนี้ จากนั้นเซอร์เกย์จะให้พวกเราไปคิดกันคืนนึงว่าจะอยู่หรือจะไปค่ะ)
- ในห้องที่ยังจัดของไม่เสร็จ ลอยด์นั่งบนเตียงดูรูปเก่า ๆ ของเขาอีกครั้ง ในใจรู้สึกสับสัน พลางคิดว่าพี่ชายของตัวเองเคยสังกัดอยู่กับ "กองกำกับการสืบสวนสอบสวน 1" สร้างผลงานต่าง ๆ มากมายทำให้เขายิ่งรู้สึกท้อแท้ว่าตัวเองช่างห่างไกลจากพี่ซะจริง ลอยด์เงียบไปก่อนที่จะลุกยืนขึ้น เขาตัดสินใจจะไปลองถามเพื่อน ๆ อีก 3 คนถึงเหตุจำเป็นที่มาเข้าแผนกนี้ค่ะ
- บังคับลอยด์ไปคุยกับเพื่อน ๆ ตามห้องต่าง ๆ ดังนี้ค่ะ
(1) ห้อง 202 "แรนดี้" : แรนดี้คิดว่างานของแผนกสนับสนุนน่าจะมีงานพวกเอกสารน้อย แล้วก็ดูเหมือนจะเป็นงานสบาย ๆ ที่เหมาะกับนิสัยของเขา แถมยังได้อยู่รวมกันแบบนี้ก็สะดวกดี เขาจึงคิดที่จะอยู่ที่นี่ต่อไปค่ะ ส่วนเหตุจำเป็นจากแรนดี้ที่ไม่ได้จบโรงเรียนตำรวจมา แต่ดันได้เข้ามาประจำแผนกในกรมตำรวจก็เพราะโดนไล่ออกจากกองกำลังรักษาความปลอดภัยที่ทำงานเก่า (ประจำอยู่ประตูเบลการ์ด ประตูสู่จักรวรรดิค่ะ) ด้วยเรื่องชู้สาวค่ะ และเพราะแรนดี้เคยอยู่กองกำลังรักษาความปลอดภัยนี่เองจึงทำให้เขาสามารถใช้ฮัลเบิร์ดได้อย่างคล่องแคล่ว ...แต่เจ้าตัวก็บอกว่ามันค่อนข้างจะหนักไปหน่อย ส่วนที่ได้ออกมาจากกองกำลังรักษาความปลอดภัย เขากลับคิดว่าเป็นโชคดีของเขา และเป็นการชี้นำของเทพธิดาด้วยค่ะ (แรนดี้ไม่วายยังชวนลอยด์ว่าไว้มีโอกาสเขาจะพาไปที่แจ่ม ๆ ด้วยล่ะค่ะ)
(2) ห้อง 301 "เอลี่" : ตอนแรกเอลี่ก็ลังเลว่าจะลาออกดีหรือเปล่า แต่สุดท้ายเธอก็ตัดสินใจแล้วว่าจะอยู่ที่นี่ ถึงแม้อนาคตแผนกนี้จะดูริบหรี่ เพราะไม่มีความสมเหตุสมผลและนโยบายที่บอกมาก็ไม่เป็นรูปเป็นร่าง ถ้าอยู่ต่อไปหากไม่มีผลงานแล้วล่ะก็คงจะมีปัญหาเรื่องงบประมาณที่จะใช้จ่ายเป็นแน่ ลอยด์สงสัยว่าในเมื่อเอลี่รู้อย่างนี้แล้วทำไมถึงยังไม่คิดจะลาออก เอลี่บอกว่าเพราะเธอรู้สึกว่าที่นี่ดีต่อการสังเกตถึงสิ่งที่บิดเบี้ยวที่โดนแรงกดดันจากภายนอก ลอยด์งงกับคำพูดของเอลี่ เอลี่บอกเธอพูดเล่นแล้วหัวเราะพร้อมบอกว่าเธอคงไม่ได้คิดที่จะทำงานที่กรมตำรวจตลอดไป ดังนั้นถึงเธอจะไม่ได้ประสบความสำเร็จที่นี่ก็ไม่มีปัญหาค่ะ และที่เอลี่ซึ่งไม่ได้จบจากโรงเรียนตำรวจได้เข้ามาทำงานที่นี่ ก็เพราะเธอทำข้อสอบเข้ากรมได้คะแนนเต็มค่ะ ก่อนลอยด์ไปเอลี่บอกว่าเธออยากจะให้อยู่ด้วยกันแบบนี้ เพราะการเป็นหัวหน้ากลุ่มที่ดีของลอยด์ในเหตุการณ์วันนี้ ทำให้เธอวางใจและทำการสนับสนุนได้เต็มที่ค่ะ
(3) ห้อง 303 "ทีโอ" : จะพบว่าทีโอไม่อยู่ในห้องค่ะ
- หากไปบนดาดฟ้า จะมีเหตุการณ์เล็ก ๆ ในการชมวิวเมืองในมุมสูงยามค่ำคืนและได้เจอน้องแมวดำค่ะ (ไม่บังคับ ถึงขึ้นมาทีหลังก็จะเจอแมวดำเดินป้วนเปี้ยนบนนี้อยู่ดีค่ะ)
- ลงไปที่ชั้น 1 จะเห็น "ทีโอ" กำลังเช็กคอมพิวเตอร์ปลายทางเอนกประสงค์ ที่ได้พัฒนามาจากระบบคาเปลของ ZCF (โรงงานกลางไซสส์) ให้ดีขึ้นที่มูลนิธิเอปสไตน์อยู่ค่ะ
(ซึ่งเครื่องนี้จะทำงานผ่านระบบเครือข่ายออร์บเมนท์ ที่ทางมูลนิธิเอปสไตน์กำลังดำเนิน "โครงการเชื่อมโยงเครือข่ายออร์บเมนท์" อยู่ในครอสเบลนี่เองค่ะ ลอยด์เห็นท่าทางทีโอแบบนี้ก็รู้ได้ทันทีว่าทีโอไม่ได้คิดที่จะลาออกจากที่นี่แม้แต่นิดเดียว ลอยด์เลยคิดไปเองว่าทีโอโดนมูลนิธิบังคับให้ทำงานที่นี่ แต่ทีโอบอกว่าเธอไม่ได้โดนบังคับ ที่เธอมาประจำที่นี่ เพราะเธอพูดเอาแต่ใจขอมาเองค่ะ พูดจบเธอก็บอกว่าเธอมีเหตุผลทำให้ต้องอยู่ที่นี่ และบอกกับลอยด์ว่าก่อนที่จะห่วงคนอื่น ก็ควรจะห่วงตัวเองเสียก่อน ลอยด์ได้ฟังคำพูดของทีโอทำให้เขารู้ว่าทีโอเข้าใจความรู้สึกของเขาทีเดียว แต่ทีโอรีบตัดบทขอตัวไปนอนก่อน เพราะพรุ่งนี้เธอต้องวุ่นวายกับการติดตั้งสายเคเบิลออร์บเมนท์อีกค่ะ)
- บังคับ "ลอยด์" ออกไปรับลมด้านนอกค่ะ
- ลอยด์ยืนคิดอะไรอยู่คนเดียวแล้วสายตาของเขาก็ไปหยุดอยู่ที่อพาร์ทเม้นท์ที่ชื่อ "เบลไฮม์" ฉับพลันภาพความคิดในสมัยก่อนที่เคยอาศัยอยู่กับพี่เขาก็ลอยขึ้นมา พอลอยด์มองย้อนดูตัวเองในช่วงเวลา 3 ปีที่ผ่านมา ทั้งเป็นภาระของคุณลุงที่อุตส่าห์รับไปเลี้ยงดู เข้าเรียนที่โรงเรียนตำรวจ แต่สุดท้ายเขาก็ไม่รู้ว่าที่ผ่านมาทำอะไรไปได้บ้าง
- ขณะที่เขากำลังครุ่นคิดอยู่ "ริว" และ "อังลี่" ที่ลอยด์ช่วยไว้เมื่อเย็นก็อุตส่าห์ตามหาเพื่อมาขอบคุณเขา และบอกว่าถึงฝีมือจะยังเทียบกับคุณอาริออสที่เป็นเบรเซอร์ไม่ได้ แต่ต่อไปคงจะพยายามขึ้นอีกใช่หรือเปล่า คำพูดนั่นทำให้ลอยด์ฉุกใจคิดว่าเขายังสามารถพัฒนาตัวเองได้ เมื่อเด็ก ๆ กลับบ้านไป ลอยด์รู้สึกปลอดโปร่งเพียงเพราะคำขอบคุณแค่คำเดียว ดูเหมือนตอนนี้เขาจะตัดสินใจอะไรบางอย่างได้แล้ว
"------ดีแล้วเหรอ ลอยด์
ถ้าเป็นผู้ชายล่ะก็ ต้องกล้าทุ่มสุดตัวใส่สิ่งที่อยู่ตรงหน้าสิ
ไปคว้าความจริงของนายคนเดียวด้วยหัวใจของนายไง
ถ้าทำได้ล่ะก็ นายต้องมองเห็นว่าอยากจะทำอะไรแน่ ๆ"
- "......อืม นั่นสินะ" ลอยด์หันกลับไปดูตึกแถวเก่าซ่อมซ่ออีกครั้ง "ก่อนอื่นถ้าไม่ทุ่มตัวเข้าไป ก็ไม่มีทางรู้ได้......" เขาเดินเข้าไปในตึกอีกครั้ง แต่แตกต่างจากตอนเดินออกมาตรงที่สายตาของเขาเต็มไปด้วยความมั่นใจเต็มเปี่ยม
- เมื่อเดินเข้ามาที่ห้องโถง เสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้นลอยด์รีบวิ่งไปรับสาย เสียงผู้หญิงปลายสายช่างคุ้นหูลอยด์มาก ที่แท้คนที่โทรมาก็คือ "พี่เซซิล" (セシル) ของเขานั่นเอง
(เซซิลบอกว่าเธอไ้ด้เบอร์มาจากกรมตำรวจและพอจะรู้เรื่องของลอยด์ที่ได้ไปประจำที่แผนกสนับสนุนภารกิจพิเศษบ้างนิดหน่อย ลอยด์ขอโทษที่ไม่ได้ไปหาไปทักทาย ส่วนเซซิลก็ขอโทษที่ไม่ได้ไปรับลอยด์ที่สถานี แต่ลอยด์ก็เข้าใจดีว่าพี่เซซิลงานยุ่ง เซซิลจึงหาว่าลอยด์เย็นชาทั้งที่ไม่ได้เจอตั้ง 3 ปี แล้วทั้ง 2 ก็คุยเล่นกันอย่างมีความสุข ซึ่งเซซิลดีใจมากที่ลอยด์กลับมาครอสเบลค่ะ)



- เช้าวันใหม่ "หัวหน้าแผนกเซอร์เกย์" ขอฟังคำตอบจากทุกคน แน่นอนว่า "แรนดี้", "เอลี่", "ทีโอ" รวมถึง "ลอยด์" ทุกคนตัดสินใจแล้วว่าจะยังอยู่ที่นี่ไม่ไปไหนค่ะ
- ได้รับค่าใช้จ่ายในการสืบสวนฯเริ่มแรก "1000 มิร่า" ค่ะ



เสียง "------เอดอส (เทพธิดา) ของข้าพเจ้าผู้สถิตย์อยู่บนสวรรค์เอย
ขอจงเปิดประตูสวรรค์เพื่อให้ดวงวิญญาณได้ไปสู่ร่างกายของท่านด้วยเถิด------"
เสียง "(ไม่น่าเชื่อเลย...... เจ้าคนที่ดูเหมือนแข็งแรงคนนั้น......)"
เสียง "(มีคนรักที่น่ารักอยู่ด้วย นึกว่าจะแต่งงานกันเร็ว ๆ นี้เสียอีก ......ทำไมถึงได้เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นได้นะ......)"
เสียง "(โธ่ว้อย......! กรมตำรวจมัวทำอะไรอยู่!? พวกเดียวกันถูกฆ่าไม่ใช่เรอะ!? คิดจะปล่อยให้เรื่องมันเงียบไปเองอีกแล้วงั้นรึไง!?)"
เสียง "(ถ้าจำไม่ผิด...... พ่อแม่ก็ไม่อยู่แล้วด้วยนี่? น้องชายจะทำยังไงล่ะเนี่ย......)"
ผู้หญิง "......ไม่เป็นไรนะ ลอยด์? ไม่ต้องฝืนนะ? ไม่ค่อยได้นอนเลยไม่ใช่เหรอ?"
ลอยด์ "......พี่เซซิลต่างหาก ขอโทษนะที่ต้องให้ช่วยหลายเรื่อง ที่จริงแล้วชั้นต้องเป็นคนจัดการเองคนเดียวแท้ ๆ......"
ผู้หญิง "......อย่าพูดเหมือนเป็นคนอื่นคนไกลแบบนั้นสิ เราเป็นเหมือนครอบครัวเดียวกันนี่นา แล้ว...... เรื่องของคุณกาย สำหรับพี่แล้ว...... ......................................"
ลอยด์ ".........พี่เซซิล.................."
ผู้หญิง "......ขอโทษนะ ทั้งที่คนที่เจ็บปวดที่สุดก็คือลอยด์แท้ ๆ จากนี้ไปคงลำบาก ถ้ามีเรื่องอะไรก็มาขอให้ช่วยได้ไม่ต้องเกรงใจนะ......? จนกว่าเธอจะยืนหยัดได้ด้วยตัวเอง พี่จะคอยดูแลเธอเอง......"
- ตัดกลับมา ณ ปัจจุบัน ลอยด์นำดอกไม้มาไหว้หลุมศพของพี่ชาย เขาขอโทษต่อหน้าหลุมศพของพี่ ที่ไม่ได้มาให้เห็นหน้าเลย พร้อมกับบอกเล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นให้พี่ชายบนสวรรค์ฟัง จะได้ไม่ต้องเป็นห่วงเขาด้วยค่ะ

แผนกสนับสนุนภารกิจพิเศษ (特務支援課)
- "หัวหน้าแผนกเซอร์เกย์" พร้อมทั้งสมาชิกนั่งประชุมและบรีฟงานสั้น ๆ โดยเซอร์เกย์ได้ให้ลอยด์เป็นคนอธิบายหลักการใช้สมุดจดสืบสวนให้ทุกคนฟัง และจากนั้นก็ให้ทีโอจะเป็นคนอธิบายต่อถึงเรื่อง "คำร้องขอความช่วยเหลือ" (Support Request) โดยทีโอพาทุกคนไปที่คอมพิวเตอร์ปลายทางที่เธอเพิ่งวางสายเคเบิลออร์บเมนท์เสร็จค่ะ
- สำรวจเครื่องคอมพิวเตอร์ปลายทาง เลือกคำสั่ง "ตรวจสอบคำร้องขอความช่วยเหลือ" (支援要請の確認) แล้วเลือกคำร้อง (เควสต์) "คำอธิบายเพิ่มเติมเรื่องคำร้องขอความช่วยเหลือ" (支援要請の補足説明) ที่มี แล้วกดออกมาได้เลยค่ะ
- เมื่อกดออกจากคอมพิวเตอร์ปลายทางแล้ว เราจะเริ่มเควสต์ที่รับมาเมื่อสักครู่นี้ทันทีค่ะ นอกจากจะให้เราทำคำร้องนี้แล้ว เซอร์เกย์ยังให้เราเป็นคนแนะนำตัวเมือง พร้อมกับแวะไปดูร้านขายอาวุธและออร์เบิลสโตร์เอาไว้เพื่อเตรียมความพร้อมในการทำงานด้วยค่ะ

ว่าด้วย [คำร้องขอความช่วยเหลือ]
- กดปุ่มวงกลมที่เครื่องคอมพิวเตอร์ปลายทางที่ตั้งอยู่ในแผนกสนับสนุนฯ เมื่อเลือก "ตรวจสอบคำร้องขอความช่วยเหลือ" จากหัวข้อที่มีแล้ว จะมีคำไหว้วานที่เป็นงานถึงพวกลอยด์ (เควสต์) แสดงขึ้นมาบนหน้าจอค่ะ

- ซึ่งเราจะทำหรือไม่ทำเควสต์ก็ได้ แต่ถ้าเราเคลียร์จะได้รับ DP กับมิร่ามาค่ะ
- เควสต์มีกำหนดระยะเวลาด้วย ตรงนี้ต้องระวังให้ดี ๆ นะคะ เพราะถ้าเราผ่านฉากไปเควสต์ระยะสั้น ๆ จะหายไปทันทีค่ะ

- นอกจากนั้น ยังมีการระบุแถบสีเพื่อให้ง่ายต่อการแยกแยะประเภทของเควสต์ในสมุดจดสืบสวนฯ ด้วย โดย...
(1) Main Quest จะเป็น "สีน้ำตาล"
(2) Sub-quest จะเป็น "สีฟ้าเข้ม"
(3) Sub-quest "สีม่วง" จะเป็นซับเควสต์บังคับที่ทำแล้วเนื้อเรื่องหลักจะดำเนินไป โดยปกติจะมีคำว่า "ฉุกเฉิน" (緊急) ระบุอยู่ในตอนที่เราตรวจสอบคำร้องบนหน้าจอคอมฯ ค่ะ

- ระวัง ทุกครั้งที่เคลียร์เควสต์เสร็จแล้ว ต้องกลับมารายงานผลที่คอมพิวเตอร์ปลายทางด้วยนะคะ

★หากขึ้นไปบนดาดฟ้า "ทีโอ" จะบอกว่าแมวดำตัวนี้ชื่อ "ค็อปเป" (コッペ) ทุกคนก็เลยเข้าใจว่าทีโอเป็นคนตั้ง แต่จริง ๆ ไม่ใช่ จะยังไงก็ตามทีโอก็คิดว่าชื่อนี้ก็เหมาะกับแมวตัวนี้ แรนดี้ก็เสนอว่าบางครั้งก็เอาอะไรมาให้มันกินบ้างดีกว่า (ส่วนเหตุผลว่าทำไมทีโอถึงได้รู้ชื่อแมวได้นั้น มีเฉลยในบทหลัง ๆ ค่ะ)

ว่าด้วย [การให้อาหารน้องเหมียว]
- ตั้งแต่บทนำเป็นต้นไป หากมี "อาหารแมว" (ねこまんま) ที่ได้จากการทำอาหารผิดพลาด หรือพวกปลาต่าง ๆ ที่ตกได้ ก็สามารถนำมาให้ค็อปเปกินได้นะคะ
- ค็อปเปจะตอบแทนบุญคุณโดยการให้ "ควอทซ์" ซึ่งแตกต่างกันไปตามชนิดอาหารที่เรานำมาให้ค่ะ

- เราสามารถให้อาหารน้องเหมียวได้เพียงบทละครั้งเท่านั้น เพราะงั้นให้มั่นใจก่อนว่าอาหารที่เราจะนำไปให้ ดีที่สุดเท่าที่จะหาได้ในบทนั้น ๆ แล้ว!!

- สำหรับบทนำ (ในรอบแรก) เรายังตกปลาไม่ได้ แนะนำให้อาหารแมวไปก่อนได้เลยค่ะ

- ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่หน้า ให้อาหารน้องเหมียว & เทวรูปจิโซ ค่ะ

เมืองครอสเบล (クロスベル市)
- เริ่มแรกให้เราเข้าไปที่ "บริษัทค้าอาวุธฌีรงด์" (ジロンド武器商会) ก่อนเลยค่ะ
(เราจะทราบว่า ถ้าไม่มีใบอนุญาติจะไม่สามารถซื้ออาวุธในครอสเบลได้ แต่พอ "ฌีรงด์" (ジロンド) เจ้าของร้านรู้ว่าเราเป็นคนที่เซอร์เกย์บอกมา ก็ให้เราเลือกซื้ออาวุธได้ตามสบาย ซึ่งในกรณีนี้เราจะใช้สมุดจดสืบสวนแทนใบอนุญาติซื้ออาวุธค่ะ)
★หากเราคุยกับ "ฌีรงด์" อีกครั้ง เขาจะบอกว่าเมื่อกี๊มีผู้ชายที่ดูเหมือนพวกวิศวกรแวะมาขาย "ออร์เบิล สตัฟ" ที่บอกว่าเป็นอาวุธที่คิดค้นขึ้นมาใหม่ด้วย ฌีรงด์ก็งงว่าของแปลก ๆ แบบนี้จะขายใครได้ ทีโอเหงื่อตกบอกว่าคน ๆ นั้นเป็นหัวหน้าเธอเอง พร้อมกับบ่นว่าทั้ง ๆ ที่เอามาให้เธอตรง ๆ ก็ได้ทำไมต้องเอามาขายด้วยค่ะ
- ให้เข้าไปที่ "ออร์เบิลสโตร์ เก็นเต็น" (オーバルストア《ゲンテン》) ที่เมื่อก่อนชื่อบ้าน ๆ ว่าโรงงานเก็นเต็น
- คุยกับวิศวกรตรงเคาน์เตอร์ที่ชื่อ "เวนดี้" (ウェンディ) ซึ่งเป็นเพื่อนเก่าของลอยด์ได้เลยค่ะ ถ้าหากเรามีเซพิธเพียงพอก็ "เปิดผนึก" สล็อต หรือ "ผสมควอทซ์" เตรียมไว้ได้เลยนะคะ
(เราจะทราบว่าออร์บเมนท์รุ่นใหม่ที่ชื่อ "อินิกม่า" มีพวกตำรวจกับเบรเซอร์ทดลองใช้งานอยู่ ดังนั้นในร้านจึงมีควอทซ์ที่ใช้ร่วมกันเตรียมไว้ด้วยค่ะ)
- หลังจากนั้น เราจะไปยัง "กองบัญชาการตำรวจ" เลยก็ได้ หรือจะเดินดูรอบ ๆ เมืองก็ได้ค่ะ (ไม่บังคับ) แต่แนะนำว่าให้ไปเคลียร์เควสต์ที่ได้มาที่กองบัญชาการตำรวจก่อนค่ะ เพราะหลังจากเคลียร์เควสต์นี้แล้ว เราจะได้เควสต์ใหม่ ๆ มาทำด้วย ซึ่งเราก็อาศัยจังหวะนั้นชมเมืองไปได้ด้วยเหมือนกันค่ะ
★QUEST★ (1) คำอธิบายเพิ่มเติมเรื่องคำร้องขอความช่วยเหลือ [ฉุกเฉิน]
DP เบี้ยเลี้ยง (1) คำอธิบายเพิ่มเติมเรื่องคำร้องขอความช่วยเหลือ (支援要請の補足説明)
5 1500 มิร่า
- ไปคุยกับ "ประชาสัมพันธ์หญิงรีเบ็กก้า" (受付嬢レベッカ) หรือ "ประชาสัมพันธ์หญิงฟราน" (受付嬢フラン) ที่กองบัญชาการตำรวจค่ะ

- ฟังคำอธิบายเกี่ยวกับระบบคำร้องขอความช่วยเหลือทั้งหมดครบ 4 ข้อ
- จากนั้น เลือกข้อที่ 5 เพื่อออกจากคำอธิบายก็เคลียร์ค่ะ

- หากสำรวจเครื่องขายของอัตโนมัติที่เพิ่งมีมาวางในครอสเบล จะสามารถซื้อพวกเครื่องดื่มกระป๋องได้ค่ะ
(แน่นอนว่าเจ้าเครื่องนี้ก็เป็นผลงานพัฒนาของมูลนิธิเอปสไตน์ค่ะ)
★หากสำรวจลิฟท์ในกรมตำรวจ จะเกิดเหตุการณ์ที่ "รองอธิบดีปิแอร์" ลงมาพอดี นอกจากจะด่าว่าแล้ว เขายังไล่พวกลอยด์อย่างกับหมูกับหมา แถมยังสั่งไม่ให้เราขึ้นไปข้างบนด้วยค่ะ
- กลับไปรายงานผลผ่านทางคอมพิวเตอร์ปลายทางที่แผนกสนับสนุนฯ โดยเลือกคำสั่ง "รายงานผลไปที่กองบัญชาการ" (本部に報告する) จะได้รับเบี้ยเลี้ยงสืบสวนซึ่งจะมี DP และมิร่าแสดงให้เห็นค่ะ
- จากนั้นจะมีคำร้องเข้ามาใหม่ ให้เลือกคำสั่งที่ 1 เพื่อตรวจสอบคำร้อง จะได้เควสต์ใหม่มาทำอีก 3 เควสต์ค่ะ
★QUEST★ (2) ช่วยหาของที่หล่นหาย
DP เบี้ยเลี้ยง (2) ช่วยหาของที่หล่นหาย (紛失物の捜索願)
3 1000 มิร่า
-ไปคุยกับ "โตรอนโต้" (トロント) บนชั้น 2 "โฮเต็ล มิลเลเนียม" (ホテル・ミレニアム) ในย่านบันเทิง เขาจะขอร้องให้เราช่วยหาของ 3 อย่างที่ตกไปจากกระเป๋าเก่า ๆ ขาด ๆ ของเขาตอนเดินช็อปปิ้งรอบเมือง โดยของชิ้นที่ 3 เขาจำไม่ได้ว่าเป็นอะไร แต่จำได้ว่าสถานที่ที่ไปช็อปปิ้งคือ ห้าง, ถนนตะวันออก และเขตท่าเรือ โดยเราจะไปหาที่ไหนก่อนก็ได้ค่ะ

- ไปคุยกับ "ประชาสัมพันธ์หญิงซินเซีย" (受付嬢シンシア) หรือ "ประชาสัมพันธ์หญิงเพิร์ล" (受付嬢パール) ประจำห้างไทมส์ จะได้รับอีเวนท์ไอเทม "กระเป๋าสตางค์ของผู้ชาย" (男物の財布) ค่ะ
- ไปคุยกับ "มัลเต้" (マルテ) ตรงแผงลอยบนถนนตะวันออก จะได้รับอีเวนท์ไอเทม "กล่องของฝาก" (土産物の小包) มาค่ะ
- ไปคุยกับ "โอเซล" (オーゼル) แผงลอยราเม็งในเขตท่าเรือ เขาจะบอกว่าถ้าเป็นเรื่องของหาย ให้ไปคุยกับผู้หญิงที่เดินไปเดินมาแถวนี้ค่ะ
- คุยกับ "คูเนีย" (クーニャ) ที่เดินไปเดินมาแถว ๆ นั้นจะได้รับอีเวนท์ไอเทม "ตั๋วไปสาธารณรัฐ" (共和国行きのチケット) มาค่ะ (ต้องคุยกับโอเซลมาก่อน)

- กลับไปคุยกับ "โตรอนโต้" ที่โรงแรมอีกรอบค่ะ
(พวกลอยด์ถึงกับไม่อยากจะเชื่อว่าโตรอนโต้จะลืมว่าของชิ้นที่สุดท้ายตกหายไปคือตั๋วกลับบ้านเกิดเขา ถ้าคุยกับโตรอนโต้อีกครั้ง พวกเราจะขอให้เขาซื้อกระเป๋าใบใหม่ เพราะถ้ายังเป็นรูอยู่แบบนี้ ของอาจจะตก ๆ หล่น ๆ แบบนี้อีกค่ะ


★QUEST★ (3) คำไหว้วานให้ไปตรวจสอบบ้านที่ไม่มีผู้พักอาศัย
DP เบี้ยเลี้ยง (3) คำไหว้วานให้ไปตรวจสอบบ้านที่ไม่มีผู้พักอาศัย (不在住戸の確認依頼)
3 1000 มิร่า
- ไปคุยกับ "ประชาสัมพันธ์หญิงชิออน" (受付嬢シオン) ที่ "สำนักงานเทศบาลเมืองครอสเบล" ในเขตการปกครอง เธอจะขอให้เราไปช่วยตรวจสอบความเรียบร้อยของบ้านที่ไม่มีคนอยู่ เพื่อป้องกันอาชญากรรมที่อาจเกิดขึ้น เลือกข้อ 1 เพื่อตอบรับงาน แล้วชิออนจะให้เอกสารที่เกี่ยวกับบ้านที่ไม่มีผู้พักอาศัยซึ่งมีทั้งหมด 3 แห่งดังนี้ค่ะ (จะไปสำรวจที่ไหนก่อนก็ได้นะคะ)

- ย่านพักอาศัย : "บ้านหลังแรกสุด" ที่อยู่ติดกับทางไปย่านบันเทิง
- ถนนตะวันออก : อพาร์ทเมนท์ที่อยู่ด้านขวามือของสมาคมเบรเซอร์ เมื่อเข้ามาเราก็พบว่าที่นี่ไม่ใช่อพาร์ทเมนท์ แต่เป็นสมาพันธ์นักตกปลา ไปคุยกับ "หัวหน้าสาขาเซลดัน" (セルダン支部長) จะทราบว่าข้อมูลที่ได้มาจากชิออนผิด อพาร์ทเมนท์แถวนี้มีแค่ที่อยู่ด้านซ้ายมือของสมาคมเบรเซอร์ซึ่งถัดจากที่นี่ไป 2 หลังค่ะ
- ถนนตะวันออก : สำรวจประตูห้องว่างบนชั้น 2 ของ "อพาร์ทเมนท์ บ้านพักอาร์คาเชีย" (アパルトメント《アカシア荘》) เมื่อสำรวจแล้วเอลี่จะแก้ไขข้อมูลในเอกสารบ้านที่ไม่มีผู้พักอาศัยให้ถูกต้องค่ะ
- เมืองเก่า : "อพาร์ทเมนท์ โลตัสไฮนส์" (アパルトメント《ロータスハイツ》) 3 ห้อง แต่เมื่อเข้ามาด้านใน จะรู้ว่าตอนนี้ที่นี่เหลือห้องว่างแค่ 1 ห้องเท่านั้น คือห้องบนชั้น 2 ซ้ายมือสุด เมื่อสำรวจแล้วเอลี่จะแก้ไขข้อมูลให้ถูกต้องค่ะ

- กลับไปรายงานผลกับ "ประชาสัมพันธ์ชิออน" ก็เคลียร์ค่ะ

- อย่าลืมซื้อ "ครอสเบลไทมส์ ฉบับที่ 1" (クロスベルタイムズ) ที่ "มุมเบ็ดเตล็ดซาซาร์ก" (雑貨コーナー《サザーク》) ใน "ห้างสรรพสินค้าไทมส์" (百貨店《タイムズ》) ด้วยนะคะ หรือจะไปซื้อที่ "ร้านขายของทาลีซ" (タリーズ商店) บนถนนตะวันตกก็ได้ค่ะ
- ไปคุยกับ "โนวาส" (ノバース) ที่นั่งอ่านหนังสืออยู่ใน "หอสมุดเทศบาล" (市立図書館) ณ เขตการปกครอง จะได้รับ "เกล็นหมอปิศาจ เล่ม 1" (闇医者グレン) มาค่ะ
- ไปคุยกับ "ออสการ์" (オスカー) เพือนเก่าของลอยด์ ที่ "เบเกอรี่คาเฟ่ มอร์จ" (ベーカリーカフェ《モルジュ》) บนถนนตะวันตก เขาจะมอบ "สมุดจดสูตรอาหาร" และสูตรในการทำ "แซนวิชแฮม ระริกระรี้" (うきうきハムサンド) ให้เป็นของขวัญต้อนรับการกลับมาของลอยด์ค่ะ
★หากคุยกับ "ออสการ์" อีกครั้ง ลอยด์จะบอกว่าในจดหมายที่เวนดี้เขียนมาหาเขา บอกว่าขนมปังของออสก้าร์รสชาติดี ออสการ์ได้ยินก็บอกว่าเขายังต้องพยายามอีกมากค่ะ
- ลอดใต้บันไดชั้น 1 ใน "อพาร์ทเมนท์ วิลล่า เรซัน" (アパルトメント《ヴィラ・レザン》) บนถนนตะวันตก จะเจอทางออกไปด้านหลังตึก ตรงสุดทางจะพบควอทซ์ "ตาเหยี่ยว" (鷹目) ในหีบสมบัติค่ะ
- ไปคุยกับ "โซฟียู" (ソフィーユ) ร้านไอศครีมที่ตั้งอยู่หน้าคณะละครอาร์ก ออง เชียล ในย่านบันเทิง จะได้สูตรอาหาร "วนิลาโอเล่ควบแน่น" (濃縮バニラオレ) มาค่ะ (ต้องได้สมุดจดสูตรอาหารมาก่อน)
- สำรวจตู้หนังสือบนชั้น 2 ของ "สมาพันธ์นักตกปลา" (釣公師団) บนถนนตะวันออก จะได้สูตรอาหาร "คริสปี้ ฟราย" (クリスピーフライ) มาค่ะ (ต้องได้สมุดจดสูตรอาหารมาก่อน)
- ที่เมืองเก่า ให้เราวิ่งไปจนสุดทางด้านซ้าย (เยื้อง ๆ กับฐานทัพของพวกทรินิตี้) จะมีทางลับขึ้นมาเก็บรองเท้าสำหรับผู้หญิง "ฟลาวเวอร์ พัมพส์" (フラワーパンプス) บนดาดฟ้าตึกค่ะ

★หากไปคุยกับ "ผู้จัดการเนสตัน" (ネストン支配人) ที่ "ห้างสรรพสินค้าไทมส์" (百貨店《タイムズ》) บนชั้น 1 จะมีเหตุการณ์พิเศษที่ผู้จัดการร้านคนนี้เรียกเอลี่ว่า "คุณหนู" พวกลอยด์ก็พากันสงสัยว่าทำไมถึงเรียกแบบนี้ เอลี่รีบบอกว่าผู้จัดการรู้จักกับคุณลุงของเธอ และขอให้เนสตันไม่ต้องให้อภิสิทธ์ใด ๆ ด้วยค่ะ
★หากไปคุยกับ "แพนเซ่" (パンセ) ที่อพาร์ทเมนท์ เบลไฮม์ (アパルトメント《ベルハイム》) บนถนนตะวันตก ลอยด์จะจำได้ว่าแพนเซ่คือเจ้าตัวเล็กที่เป็นน้องสาวของเวนดี้เพื่อนเขาค่ะ แรนดี้เห็นก็เข้าใจว่าลอยด์ชอบเด็ก ลอยด์สวนกลับแบบเน้นเสียง บอกให้แรนดี้เลิกผู้เรื่องที่ทำให้เข้าใจผิดแบบนี้ค่ะ
★หากไปคุยกับ "ไมลส์" (マイルズ) และ "เลเต้" (レイテ) ที่อพาร์ทเมนท์ เบลไฮม์ ลอยด์จะทักทายพวกเขา เพราะพวกเขาคือพ่อและแม่ของเซซิลค่ะ
★ในย่านที่พักอาศัย จะมีบ้านอยู่หลังหนึ่งอยู่ทางตะวันออกของย่านนี้ที่ชื่อ "บ้านเฮเวิร์ส"  (ヘイワーズ宅) ในบ้านจะมีผู้หญิงที่ชื่อ "โซเฟีย" (ソフィア) และเด็กผู้ชายที่ชื่อ "โคลิน" (コリン) อยู่ โซเฟียบอกว่าฮาโรลด์สามีของเธอออกไปข้างนอกค่ะ ตรงนี้พวกลอยด์จะได้รู้ว่าสามีของโซเฟียทำงานค้าขายระหว่างประเทศ ส่วนโซเฟียขอโทษที่เข้าใจพวกลอยด์ผิดว่าเป็นลูกค้าของสามีค่ะ (ใครจำได้บ้างคะ ว่าคนพวกนี้เป็นใคร และมีความเกี่ยวพันอะไรจากภาคก่อน)
★หากเราไปสำรวจบ้านหลังใหญ่ทางด้านตะวันตกของย่านที่พักอาศัยที่ล็อกประตูไว้ (บ้านที่มีรูปปั้นม้าอยู่ในสวน) เอลี่จะมีท่าทางร้อนรนอย่างเห็นได้ชัด และพยายามพูดให้พวกลอยด์รีบไปจากตรงนี้ค่ะ
★หากไปคุยกับผู้หญิงที่เดินไปเดินมาอยู่ตรงถนนด้านหลังที่ชื่อ "ไอริส" (アイリス) เธอจะน้อยใจที่แรนดื้ไม่มาหาเธอเลยช่วงนี้ แรนดื้ก็เลยบอกว่าจะมาคืนนี้เลยแล้วกัน เอลี่ได้ฟังก็พูดเน้นเสียง (แต่หน้ายังยิ้มอยู่) ว่า "คุณแรนดี้คะ ก.รุ.ณา อย่าพูดเรื่องนี้ต่อหน้าเด็กสิคะ?" ส่วนลอยด์ก็ได้ถอนหายใจว่าปกติแรนดื้เป็นแบบนี้เองเหรอเนี่ย
★หากไปคุยกับ "เอริก" (エリック) บาร์เทนเดอร์ของ "แจ๊สบาร์ การันเต้" (ジャスバー《ガランテ》) บนถนนด้านหลัง ลอยด์จะพูดว่าเคยได้ยินพี่ชายพูดถึงแจ๊สบาร์ร้านนี้อยู่ ส่วนทีโอพอเอริกพูดว่าที่นี่เป็นร้านสำหรับผู้ใหญ่ และปรายตามามองทีโอ ทีโอก็เลยไม่พอใจที่โดนทำเหมือนไม่เข้าพวกค่ะ (ถ้าคุยกับเอริกอีกครั้ง ทีโอจะสั่งน้ำส้มคั้น ทั้ง ๆ ที่รู้อยู่แล้วว่าไม่มีขายค่ะ กวน ๆ แบบนี้ น่ารักได้อีกนะคะเนี่ยหนูทีโอ)
★หากเข้าไปในคณะละครอาร์ก ออง เชียง จะพบอีเว้นท์ "หญิงสาวผมทอง" คุยกับ "หญิงสาวผมม่วง" ว่าจะไปหาอพาร์ทเมนท์ถูก ๆ เองค่ะ ซึ่งเราสามารถเจออีเว้นท์นี้ต่อเนื่องได้อีกที่ "สำนักเทศบาลเมืองครอสเบล" (เขตการปกครอง) และสุดท้ายเราจะไปเห็นเธอนั่งพักที่ "ภัตตาคารหลงเหล่า" (ถนนตะวันออก) ค่ะ
★หากเข้าไปที่ "สมาคมเบรเซอร์ สาขาครอสเบล" บนถนนตะวันออก จะมีบทสนทนาพิเศษที่ "ประชาสัมพันธ์มิเชล" (受付ミシェル) ชายหัวใจตุ้งติ้ง จะคุยกับพวกลอยด์ว่า ได้ฟังเรื่องราวมาจากอาริออสแล้ว และมิเชลก็ดีใจมากที่มีพวกเรามาช่วยทำคำไหว้วานต่าง ๆ จากชาวเมืองที่ทำแทบไม่ทันด้วยจำนวนเบรเซอร์ที่มีอยู่น้อยมากในตอนนี้ แต่พวกลอยด์ถึงกับเถียงไม่ออก เมื่อมิเชลแกล้งหยอกว่าฝีมือพวกเรายังไม่ถึงขั้น แต่ถึงยังไงมิเชลก็อยากให้ทั้งเบรเซอร์และแผนกสนับสนุนฯ ต่างคนต่างพยายามค่ะ
หากคุยกับ "ประชาสัมพันธ์มิเชล" อีกครั้ง เขาจะบอกว่าไว้ให้เรามาที่นี่อีกครั้ง เขาจะเตรียมไอเดียใหม่ ๆ เพื่อขอทดสอบความสามารถที่แท้จริงของพวกเราอย่างเป็นรูปธรรมค่ะ นอกจากนี้ถ้าเราตรวจสอบบอร์ดรับงานของเบรเซอร์จะเห็นว่าปริมาณงานมากมาย ได้รับความไว้วางใจจากชาวเมืองสุด ๆ แต่จำนวนเบรเซอร์ที่มีประจำสาขานี้ก็มีแค่ 5 คน ซึ่งตอนนี้อาริออสไปปฏิบัติหน้าที่ที่เอเรโบเนียอยู่ค่ะ
★หากไปคุยกับ "เบรเซอร์สก็อต" (遊撃士スコット) และ "เบรเซอร์เว็นเชล" (遊撃士ヴェンツェル) บนชั้น 2 ของสมาคมเบรเซอร์ จะเกิดอีเว้นท์พิเศษที่ตอกย้ำความเป็นลูกไก่ของแผนกสนับสนุนภารกิจพิเศษค่ะ
★หากไปคุยกับ "คุณยายบาร่า" (バーラお婆さん) และ "ผู้เฒ่าโมรุส" (モルス老人) ที่บ้านหลังหนึ่งซึ่งอยู่ติดทางออกนอกเมืองบนถนนตะวันออกจะรู้ว่านี่คือบ้านของพวกเขา ซึ่งเป็นคนที่นั่งคุยกับลอยด์มาบนขบวนรถไฟค่ะ
★หากไปคุยกับ "คลาริส" (クラーリス) ที่อพาร์ทเมนท์ บ้านพักอาร์คาเชีย ห้องที่อยู่ทางด้านขวามือบนชั้น 1 เธอจะบอกว่าเธอมีลูกสาว 2 คน คนพี่ทำงานอยู่กองกำลังรักษาความปลอดภัย ส่วนคนน้องทำงานตำรวจ ลอยด์พยายามนึก ว่าเขาเคยเจอลูกสาวที่ทำงานตำรวจของคลาริสบ้างหรือเปล่าค่ะ
★หากไปคุยกับ "หัวหน้าโรงงานกีโยม" (ギヨーム親方) ที่โรงงานกีโยมในเขตเมืองเก่า จะเกิดอีเวนท์ที่ตอนนี้ทางโรงงานยังเปิดให้บริการไม่ได้เนื่องจากอะไหล่ไม่พอ และให้เรามาใช้บริการที่นี่ในภายหลังค่ะ
หากคุยกับ "หัวหน้าโรงงานกีโยม" อีกรอบ จะทราบว่าเวนดี้เพื่อนเก่าของลอยด์ คือลูกศิษย์ของเขานี่เองค่ะ

ว่าด้วย [การถวายอาหารให้แด่เทวรูปจิโซ]
- บนถนนตะวันออกข้าง ๆ บ้านคู่สามีภรรยาเฒ่าโมรุสและบาร่า จะมีศาลเจ้าของ "เทวรูปจิโซ" อยู่ ซึ่งศาลเจ้าค่อนข้างเล็ก ต้องสังเกตดี ๆ หรือดูง่าย ๆ จะเห็นว่ามีกังหันลมสีเขียว 1 อันหมุนอยู่ค่ะ

- เราสามารถนำอาหารมาถวายเทวรูปจิโซได้ โดยอาหารที่นำมาถวายจะทำเองหรือซื้อก็ได้ แต่ต้องเป็นอาหารในหมวดทำสำเร็จอย่างงดงามเท่านั้น เมื่อถวายครบจำนวนที่กำหนด (ไม่ซ้ำชนิด) แล้วจะได้รับ "ยาแห่งเทียร์" มาค่ะ
- และเมื่อถวายอาหารจนครบ 24 ชนิดแล้ว จะได้รับควอทซ์ "อัญมณีดวงตะวัน" (日輪珠) มาค่ะ

- การถวายของไหว้จะเหมือนกับการให้อาหารน้องเหมียว แต่ในกรณีนี้เราสามารถตัดฉากเพื่อกลับมาให้ใหม่ในรอบต่อไปได้เลยค่ะ

- ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ ให้อาหารน้องเหมียว & เทวรูปจิโซ ค่ะ

เขตจีโอ ฟร้อนท์ (ジオフロント区画)
★QUEST★ (4) ประกาศจับสัตว์ปิศาจในเขตจีโอ ฟร้อนท์ A [ฉุกเฉิน]
DP เบี้ยเลี้ยง (4) ประกาศจับสัตว์ปิศาจในเขตจีโอ ฟร้อนท์ A (ジオフロントA1区画の手配魔獣)
5 1500 มิร่า
- ลงไปยังเขตจีโอ ฟร้อนท์ A ตรงจุดที่เคยเจออาริออส เพื่อปราบ "เมก้าโล แบ็ต" และ "เกรฝ แบ็ต *4" ค่ะ

- เมื่อจบการต่อสู้ จะได้ควอทซ์ "สืบพบ" (探知) จากเจ้าค้างคาวอ้วนมาด้วย และเนื้อเรื่องจะดำเนินต่อไปค่ะ

★ITEM★ เซพิธทุกคุณสมบัติ *30 (ต้องปีนบันไดในจีโอ ฟร้อนท์ เพื่อขึ้นไปเก็บหีบที่อยู่ตรงลานกว้างใจกลางเมืองค่ะ)
- เมื่อปราบได้ ทีโอจะบอกให้ใช้ทางออกอีกทางที่เปิดล็อกแล้ว ขึ้นลิฟท์เพื่อออกจากเขตใต้ดินค่ะ (หากเราสวมควอทซ์ที่ได้มากับตัวละครหัวแถว จะทำให้เรามองเห็นหีบสมบัติบนแผนที่ด้วยนะคะ)

Main Quest DP ไกล่เกลี่ยข้อพิพาท (喧嘩の仲裁)
2(+12)

เมืองครอสเบล (クロスベル市)
- เมื่อออกมาจากจีโอ ฟร้อนท์ "หัวหน้าแผนกเซอร์เกย์" จะติดต่อมามอบหมายภารกิจให้พวกลอยด์ไปจัดการเหตุทะเลาะวิวาทที่เกิดขึ้นจาก 2 แก๊งค์อันธพาลวัยรุ่นในเมืองเก่าค่ะ และจากฐานข้อมูลของทีโอ แก๊ง 2 แก๊งที่ว่านั้นก็คือ "ซาเบลไวเปอร์" (サーベルバイパー) กับ "เทสตาเมนส์" (テスタメンツ) นั่นเองค่ะ

ว่าด้วย [สมุดจดการต่อสู้]
- ในช่วงนี้ หากไปคุยกับ "ประชาสัมพันธ์หญิงรีเบ็กก้า" (受付嬢レベッカ) จะมีคำสั่ง "ให้ดูสมุดจดการต่อสู้" (戦闘手帳を見せる) เพิ่มขึ้นมาค่ะ

- ในระหว่างที่เราดำเนินเกมไป ถ้าสะสมข้อมูลของศัตรูได้ในระดับหนึ่ง แล้วมาเลือกคำสั่งนี้ จะได้รับ "500 มิร่า" และ "Uแมทเทเรียล" (Uマテリアル) ไอเทมในการปรับแต่งอาวุธมาค่ะ (จำนวนครั้งที่ได้รับสูงสุด 10 ชิ้น)

- และถ้าหากสะสมข้อมูลได้ถึงระดับที่กำหนด จะได้รับวัตถุดิบในการตีเครื่องป้องกันสุดยอด "ดีไวน์ครอส" (デヴァインクロス) มา 1 ชิ้น แต่ถ้าสะสมข้อมูลศัตรูได้ครบทุกตัวแล้วล่ะก็ จะได้รับเพิ่มเป็น 2 ชิ้นค่ะ (เฉพาะกรณีนี้ แค่มีชื่อศัตรูอย่างเดียวก็เพียงพอแล้วค่ะ)

- นอกจากนี้ หากเราสะสมข้อมูลในสมุดจดการต่อสู้จนสมบูรณ์แล้วล่ะก็ จะได้ Record ด้วย ดังนั้น แนะนำให้ตรวจสอบข้อมูลศัตรูที่ไม่รู้จักทุกครั้ง (โดยเฉพาะบอส) ค่ะ

- การจะสะสมข้อมูลศัตรูให้ครบทุกตัว ต้องเคลียร์เกมไปแล้วอย่างน้อย 1 รอบ และรายละเอียดข้อมูลทุกอย่างของศัตรูแต่ละตัว ต้องครบถ้วนสมบูรณ์ค่ะ

- เมื่อไปถึงเมืองเก่า จะพบอันธพาล 2 แก๊งค์กำลังมีเรื่องกันอยู่ค่ะ

まず捜査手帳を見せる
ให้ดูสมุดจดสืบสวนก่อน
DP+2
明かさないで仲裁を続ける
ไกล่เกลี่ยต่อโดยไม่เผยตัว
-

- พวกลอยด์พยายามไกล่เกลี่ยให้ทั้ง 2 แก๊งเลิกวิวาทกัน เพราะชาวเมืองแจ้งเข้ามาว่าเดือดร้อนกันมาก แต่ทั้ง 2 แก๊งกลับบอกว่าที่นี่ (เมืองเก่า) ก็มีกฏของที่นี่ เมื่อคุยกันไม่รู้เรื่องและไม่มีทางเลือกก็มีแต่ต้องสู้กันเท่านั้นค่ะ
★BATTLE★ Sไวเปอร์ มีด + Sไวเปอร์ ไม้ตอกตะปู + เทสตาเมนส์ ท่อนเหล็ก + เทสตาเมนส์ หนังสติ๊ก (Sバイパー・ナイフ + S・バイパー・釘バット + テスタメンツ・鉄棒 + テスタメンツ・SS)
- ปราบได้ "ชายหนุ่มท่าทางป่าเถื่อน" (獰猛そうな青年) และ "เด็กหนุ่มท่าทางใจเย็น" (涼しげな少年) หัวหน้าของทั้ง 2 แก๊งจะออกมาถามว่าเกิดอะไรขึ้นค่ะ
(ซึ่งวิธีการสอบถามสถานการณ์จากลูกน้องของหัวหน้าทั้ง 2 แก๊งช่างแตกต่างกันลิบลับ ไม่เพียงแต่ลูกน้องเท่านั้นดูเหมือนระดับหัวหน้าทั้ง 2 แก๊งก็บาดหมางไม่น้อยไปกว่ากันเลย พวกลอยด์เห็นลักษณะท่าทางของพวกเขาก็ได้แต่สงสัยว่า 2 แก๊งนี้เกี่ยวข้องกันยังไงแน่ค่ะ)
- หัวหน้าทั้ง 2 แก๊งบอกว่าพวกลอยด์ดูไม่เหมือนตำรวจ ลอยด์จึงบอกว่าพวกเขาเป็นคนใหม่ที่เข้ามาประจำแผนกสนับสนุนภารกิจพิเศษ พอบอกชื่อนี้ไปชายหนุ่มท่าทางใจเย็นก็ดูเหมือนจะรู้จัก เพราะอ่านเจอจากครอสเบลไทมส์ฉบับวันนี้ เอลี่ถึงกับถอนหายใจที่ข่าวแพร่กระจายไปรวดเร็วสมกับเป็นครอสเบลไทมส์
- ส่วนผู้ชายท่าทางป่าเถื่อนไม่รู้ จึงถามว่าเป็นพวกแบบไหน ชายหนุ่มท่าทางใจเย็นจึงอธิบายว่าเป็นพวกที่มีบทบาทในการทำงานเหมือนสุนัขไว้คอยกัดกิลด์ ลอยด์ไม่พอใจที่โดนดูถูก แต่ดูเหมือนชายหนุ่มท่าทางใจเย็นคนนี้จะแค่แหย่เล่นเท่านั้น ว่าแล้วเขาก็หันมาแนะนำตัวเองกับพวกลอยด์ค่ะ

- "------ผมชื่อวาซี่ วาซี่ เฮมิสเฟียร์ (ワジ・ヘミスフィア) เห็นอย่างนี้ก็รู้สึกว่าจะเป็นหัวหน้าของ [เทสตาเมนส์] นะ?" "เด็กหนุ่มท่าทางใจเย็น" กล่าวแนะนำตัว
- "ผู้ชายร่างใหญ่หัวล้าน" (禿の大男) ที่ติดตามมาด้วยสงสัยว่าทำไมวาซี่ใช้ประโยคคำถาม วาซี่จึงหันไปบอกว่า "ก็เพราะดูยังไง ๆ นายเหมือนเป็นหัวหน้ามากกว่านี่นา หึหึ แถมเพราะหัวล้าน หัวก็เลยมันวาวด้วยนะ" (เป็นการเล่นคำของวาซี่ค่ะ หัว (เฮด) = หัวหน้า (เฮด)) ชายร่างใหญ่ได้ฟังก็เงียบไปแบบอึ้ง ๆ
- "ชายหนุ่มที่ดูป่าเถื่อน" บอกให้พวกวาซี่เลิกคุยเล่นกัน "------วาลด์ วาลด์ วาเลส (ヴァルド・ヴァレス) หัวหน้าของ [ซาเบลไวเปอร์]" เขาหันมาแนะนำตัวเองบ้าง
- ลอยด์จึงแนะนำตัวเองอีกครั้งและขอให้ทั้ง 2 แก๊งเลิกมีเรื่องกัน แต่ทั้งวาลด์และวาซี่หัวเราะออกมาดังลั่น พร้อมกับบอกว่าการวิวาทกันครั้งนี้มันแค่เริ่มต้นเท่านั้น และพวกเขาวางแผนที่จะมาฉะกันให้รู้ดำรู้แดงกันไปข้างหนึ่งอีกในภายหลัง ว่าแล้วทั้ง 2 แก๊งก็สลายตัว ทิ้งให้พวกลอยด์คิดหาทางว่าจะทำไงกันต่อไปค่ะ
- เมื่อแก๊งอันธพาลทั้ง 2 ไปกันหมดแล้ว ทุกคนปรึกษาว่าจะทำยังไงต่อดี ทีโอเห็นว่าหลังจากนี้เกินขอบเขตภารกิจที่ได้รับมาจากหัวหน้าแผนกเซอร์เกย์ แต่ลอยด์ปฏิเสธว่าภารกิจยังไม่จบ เพราะถ้าปล่อยไว้เฉย ๆ แบบนี้จะไม่สามารถเรียกความไว้วางใจจากประชาชนที่มีต่อกรมตำรวจกลับคืนมาได้ค่ะ จากนั้นทุกคนจะถามลอยด์ว่าจะทำอย่างไรต่อไป

本部の応援を頼む
ขอกำลังสนับสนุนจากกองบัญชาการ
-
本部の応援は頼めない
หวังพึ่งการกำลังสนับสนุนจากกองบัญชาการไม่ได้
DP+2

- ลอยด์ฉุกใจถึงประเด็นหนึ่งขึ้นมาได้ว่าทั้ง 2 แก๊งกำลังจะเปิดศึกสู้กัน แต่คงไม่ได้มาจากเหตุผลเพื่อต่อสู้แย่งชิงเขตแดนกันอย่างที่แรนดี้วิเคราะห์ สาเหตุที่ทำให้ต่อสู้กันแบบไม่มีใครยอมใครแบบนี้ แสดงว่าต้องมีเรื่องอะไรบางอย่างที่ให้อภัยกันไม่ได้แน่ ๆ ทุกคนตะลึงกับการสันนิษฐานของลอยด์พร้อมกับชื่นชมว่าสมแล้วที่ได้รับคุณวุฒิในการเป็นเจ้าหน้าที่สืบสวนค่ะ ดังนั้น ถ้ามีเหตุผลอะไรซ่อนอยู่เบื้องหลังการวิวาทในครั้งนี้ล่ะก็ ต้องไปหาข้อมูลมาจากทั้ง 2 ฝ่ายแล้วล่ะค่ะ
- ก่อนอื่น บังคับพวกลอยด์ไปคุยกับพวก "เทสตาเมนส์" ที่ "พูลบาร์ <ทรินิตี้>" (プールバー《トリニティ》) ก่อนเลยค่ะ
(วาซี่บอกว่ายังไงพวกเขาก็ไม่เลิกล้มที่จะต่อสู้กับพวกไวเปอร์ ถ้าหากพวกชาวเมืองต้องลำบากก็ให้ทน ๆ ไป ลอยด์จึงบอกว่าเขาไม่ได้คิดที่จะมาหยุดยั้ง แต่มาถามวาซี่ว่ามีเหตุผลอะไรถึงต้องเปิดศึกสู้กันด้วย พวกวาซี่ตกใจ ลอยด์เห็นท่าทางแล้วยิ่งมั่นใจว่าต้องมีเรื่องอะไรแน่ ๆ วาซี่บอกว่า ถ้าบอกแล้วพวกลอยด์จะทำอะไรได้ ขนาดเบรเซอร์ยังไม่คิดจะเข้ามาวุ่นวายกับพวกแบดบอยส์ที่อาศัยอยู่ในเมืองเก่าอย่างพวกเขาเลย ลอยด์จึงบอกว่างานที่คอยปกป้องผู้คนนั้นไม่จำเป็นจะต้องทำเหมือนพวกเบรเซอร์สักหน่อย วาซี่จึงพูดขึ้นมาว่าคิดจะหาข้อมูลโดยไม่มีการกิฟแอนด์เทค (การให้และรับอย่างยุติธรรม) เลยเหรอ)
ลอยด์ "......มีสิ ถ้ากิฟ (ให้) ล่ะก็มีอยู่แล้ว งานของเจ้าหน้าที่สืบสวนฯ คือการเปิดเผยความจริงที่จมอยู่ในความมืดมิด แล้วนำแสงสว่างมาสู่ผู้คนและสังคม...... อย่างน้อยพวกชั้นก็เรียนรู้มาแบบนั้น ถ้าเกิดพวกนายมีความมืดมิดที่เรียกว่าความสงสัยแม้เพียงเล็กน้อย...... ชั้นคิดว่าชั้นช่วยทำให้มันกระจ่างแจ้งได้ นั่นแหล่ะ...... คือกิฟ (การให้) ที่ชั้นจะยกให้ได้"
- วาซี่ได้ฟังก็หัวเราะออกมาดังลั่นรู้สึกถูกใจลอยด์ขึ้นมา ลอยด์รู้สึกแปลก ๆ รีบตัดบทถามถึงเหตุผลที่ต้องสู้กัน ซึ่งตอนนี้วาซี่ยอมบอกแต่โดยดี แล้วให้ผู้ชายตัวใหญ่หัวล้านที่ชื่อ "อับบัส" (アッパス) เป็นคนเล่าให้พวกลอยด์ฟังค่ะ
(ซึ่งเรื่องราวเริ่มต้นจากตอนกลางดึกของ 5 วันก่อน ที่สมาชิกคนหนึ่งโดนพวกซาเบลไวเปอร์ดักโจมตีตรงถนนด้านหลังที่ใกล้ ๆ กับฐานของพวกเขา และตอนนี้คนที่โดนดักโจมตีนั้นก็ยังนอนไม่รู้สติอยู่ที่โรงพยาบาล เพราะหัวถูกตีอย่างแรงค่ะ)
- ทีโอสงสัยว่าในเมื่อคนที่โดนโจมตียังไม่ได้สติ แล้วทำไมถึงได้รู้ว่าเป็นฝีมือของพวกซาเบลไวเปอร์ล่ะ วาซี่จึงให้พวกลอยด์ลองคิดหาเหตุผลดูเองค่ะ

襲われた場所の位置
สถานที่ที่โดนโจมตี
-
襲われたメンバーの傷跡
รอยแผลของสมาชิกที่โดนโจมตี
DP+2
現場に残されていた足跡
รอยเท้าที่หลงเหลืออยู่ในที่เกิดเหตุ
DP+1

- ได้รับทราบจากพวกวาซี่ว่า อาวุธที่ทำร้ายคนของเขาเป็นอาวุธตีที่มีลักษณะเด่น ที่ทั้งแข็งและมีปลายแหลม ๆ ยื่นออกมา ซึ่งตรงกับไม้ตอกตะปูอาวุธของพวกซาเบลไวเปอร์ ลอยด์ได้ฟังก็พอจะเข้าใจเรื่องราวคร่าว ๆ แล้ว และตั้งใจที่จะไปถามพวกซาเบลไวเปอร์ต่อ พร้อมกับบอกว่าถ้าได้ข่าวอะไรจะมาบอกวาซี่อีกทีค่ะ
- ไปคุยกับพวก "ซาเบลไวเปอร์" ที่ "ไลฟ์เฮ้าส์ อิกนิส" แต่วัยรุ่นซึ่งเพิ่งเข้ากลุ่มที่ทำหน้าที่เฝ้ายามอยู่หน้าไม่ยอมให้เราเข้าไป เอลี่จึงถามชื่อเด็กวัยรุ่นคนนั้น เด็กวัยรุ่นตอบไปอย่างงง ๆ ว่าเขาชื่อ "ดีโน่" (ディーノ) เอลี่ทำให้เขาไว้ใจว่าถ้าพวกเราเข้าไปแล้วจะไม่สู้กันกับพวกรุ่นพี่ของเขาอีก ว่าแล้วเอลี่ก็ยื่นปืน อาวุธซึ่งเปรียบเสมือนสมบัติสำคัญของเธอให้ ดีโน่ไม่รู้จะทำยังไงขอเข้าไปถามคุณวาลด์ก่อนค่ะ
(ตรงนี้ลอยด์จะชื่นชมและทึ่งกับวิธีการต่อรองของเอลี่มาก ๆ แต่เอลี่บอกว่าถ้าแค่นี้เธอพอทำได้ แต่กับวาลด์แล้วคงต้องลอยด์เป็นคนพูดให้เหมือนตอนที่คุยกับวาซี่ค่ะ)
- ก่อนเข้าไปคุยให้สวมอาวุธ, เครื่องป้องกันที่คิดว่าดีที่สุดให้กับลอยด์เตรียมไว้ได้เลยนะคะ ส่วนพวกออร์บเมนท์ให้สวมควอทซ์ที่ทำให้มีพวกอาร์ทเพิ่มเลือดเตรียมไว้ด้วย ค่ะ
- เมื่อเข้าไปในไลฟเฮ้าส์ ลอยด์จะถามถึงเหตุผลที่ต้องต่อสู้กับพวกเทสตาเมนส์ พวกเพื่อน ๆ สงสัยว่าในเมื่อรู้เหตุผลจากพวกเทสตาเมนส์อยู่แล้ว ทำไมลอยด์ถึงต้องถามพวกซาเบลไวเปอร์ด้วย ลอยด์บอกว่าถึงจะได้เหตุผลจากพวกเทสตาเมนส์แล้ว แต่ตราบใดที่หลักฐานยังไม่กระจ่างชัด ก็ถือว่ายังไม่สามารถตรวจสอบความจริงที่แท้ได้ค่ะ
- ส่วนวาลด์ก็ไม่คิดที่จะให้ข้อมูลของเขาง่าย ๆ เหมือนกัน เขาถามลอยด์ว่าถ้าเขาให้ข้อมูลแล้ว ลอยด์จะให้อะไรตอบแทนเขาล่ะ ลอยด์เห็นท่าทางวาลด์แล้ว ก็คิดว่าคงจะใช้ความจริงเข้าแลกเปลี่ยนกับพวกซาเบลไวเปอร์ไม่ได้ ว่าแล้วพวกซาเบลไวเปอร์ก็งัดอาวุธขึ้นมา วาลด์บอกให้เอาชนะพวกเขาทุกคนให้ได้ก่อนถึงจะเป็นการแลกเปลี่ยนที่ดี หรือถ้าไม่ชอบการวิวาทก็ให้ลอยด์ฝากพวกผู้หญิงไว้ให้พวกเขาดูแลสักระยะแทนก็ได้ ลอยด์จึงตัดสินใจยื่นข้อเสนอขอดวลกับวาลด์ตัวต่อตัว วาลด์หัวเราะชอบใจไม่คิดว่าจะมีคนบ้ากล้ามาขอดวลตัวต่อตัวกับเขาค่ะ

BATTLE วาลด์
ヴァルド
- พลังโจมตีของวาลด์ค่อนข้างสูง มีคราฟท์ที่สร้างความเสียหายได้รุนแรงอย่าง "เนค แฮงค์" และ "ออร์ก้า สแลช" (เส้นตรง - MOV Down) แต่ความเร็วค่อนข้างต่ำค่ะ
- แนะนำให้โจมตีไปเรื่อย ๆ แล้วใช้ S-Break (CP 100 หน่วย) ก็จะชนะได้โดยง่ายค่ะ (ถ้าจะให้ดีควรเก็บ CP ของลอยด์ให้ MAX มาก่อน จะทำให้การต่อสู้ง่ายขึ้นมากค่ะ)

- ในกรณีที่ HP ใกล้หมดจะใช้อาร์ทหรือไอเทมฟื้นฟูก็ได้ตามแต่สะดวกค่ะ แต่พึงระวังเรื่องเวลาด้วย ถ้าหมดเวลาก่อนชนะวาลด์ เราจะอด DP Bonus นะคะ

- อย่าลืมใช้ "แบทเทิล สโคป" ตรวจสอบข้อมูลของวาลด์ไว้ด้วยนะคะ

ชนะวาลด์ได้ก่อนหมดเวลา DP+3

- เมื่อจบการต่อสู้ วาลด์จะยอมบอกเหตุผลค่ะ
(ซึ่งเหตุผลก็เหมือนกับพวกเทสตาเมนส์ คือ เมื่อกลางดึกของ 5 วันก่อน คนของเขาถูกดักโจมตีใกล้ ๆ ไลฟ์เฮ้าส์นี่แหล่ะค่ะ นอกจากนั้นวาลด์ยังรู้ด้วยว่าพวกเทสตาเมนส์ก็พูดว่าถูกพวกเขาทำร้าย แต่วาลด์พูดอย่างเต็มปากเลยว่าพวกเขาถูกกล่าวหา เพราะซาเปลไวเปอร์เป็นแก๊งที่ใช้กำลังเข้าห้ำหั่นกันต่อหน้า ไม่มีทางใช้วิธีสกปรกอย่างดักโจมตีแน่นอน ลอยด์ฟังแล้วพิจารณาเงียบ ๆ ก่อนจะถามว่าคนที่ถูกทำร้ายเป็นอย่างไรบ้าง วาลด์บอกก็กระดูกหักเพราะถูกกระแทกอย่างแรง ต้องพักรักษาตัวในโรงพยาบาลเดือนนึง และถึงคนที่โดนโจมตีจะไม่เห็นตัวคนร้ายก็จริง แต่เพราะเห็นหินลอยมาแต่ไกล พวกวาลด์จึงมั่นใจว่าเป็นพวกเจ้าชุดฟ้าแน่ ๆ พวกลอยด์เข้าใจได้ทันที เพราะเห็นชัด ๆ ว่าอาวุธของเทสตาเมนส์ก็มีหนังสติ๊กด้วยค่ะ วาลด์ทิ้งท้ายเอาไว้ว่า ถึงยังไงพวกเขาก็ไม่ยอมยุติอยู่แค่นี้ ต้องต่อสู้ให้รู้ดำรู้แดงเพื่อแก้แค้นให้คนของเขา และถ้าพวกลอยด์จะขัดขวาง เขาก็ไม่เกี่ยง เพราะเขาจะจัดการไปพร้อม ๆ กับเจ้าพวกชุดฟ้าไปเลย ลอยด์บอกขอบคุณที่ให้ความร่วมมือ และบอกว่าถ้าได้ข้อมูลอะไรเพิ่มเติมจะมาบอกพวกวาลด์อีกทีค่ะ)
- เมื่อได้ข้อมูลจากทั้ง 2 ฝ่ายมาแล้วให้ออกไปนอกไลฟ์เฮ้าส์ ลอดย์จะรู้สึกมีอะไรบางอย่างแปลก ๆ จากเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อ 5 วันก่อน แต่ข้อมูลยังไม่ประติดประต่อกันเหมือนชิ้นส่วนจิ๊กซอว์ที่ขาดหายไป
- ขณะที่พวกเรากำลังวิเคราะห์ข้อมูลอยู่นั้น นักข่าวสาวแห่งครอสเบลไทมส์ "เกรซ หลิน" (グレイス・リン) ก็ปรากฏตัวขึ้น พร้อมกับบอกว่าเพราะได้พวกเรา ทำให้ข่าวของเธอคราวที่แล้วได้รับการตอบรับดีเกินคาด ซึ่งครั้งนี้เธอก็อยากจะได้ข่าวอีกจึงชวนเราไปกินข้าวไปพลาง คุยไปพลาง โดยมีของหวานตบท้ายเป็นชิ้นส่วนที่ขาดหายไปที่พวกเราต้องการค่ะ (พูดง่าย ๆ เธอมาขอแลกเปลี่ยนข้อมูลกับพวกลอยด์นั่นเองค่ะ)
- ไปคุยกับ "เกรซ" ที่ "ภัตตาคารหลงเหล่า" บนถนนตะวันออกค่ะ
- ตอนแรกลอยด์จะขอฟังข้อมูลจากเกรซอย่างเดียว ปฏิเสธไม่รับการเลี้ยงข้าวจากเกรซ เกรซก็เลยถามทีเล่นทีจริงประโยคนึง "หรือว่า? จะบอกว่า [พวกขั้นไม่รับสินบนเหมือนพวกคนใหญ่คนโตในกรมตำรวจหรอก!] สินะ?"
- ลอยด์พูดอะไรต่อไม่ออก แรนดี้ ทีโอ เอลี่เลยพูดต่อว่า พวกเขาไม่คิดที่จะปฏิเสธถ้าจะเลี้ยงแบบไม่มีนอกมีในอะไร ลอยด์จึงต้องจำยอมตกลงกินข้าวกับเกรซ แต่มีข้อแม้ว่าขอให้มื้อนี้ไม่มีเหล้าค่ะ
เอลี่ "อร่อย...... ท่าทางจะมีกุ๊กฝีมือดีมากทีเดียวอยู่นะเนี่ย"
ทีโอ "หยับหยับ...... ......รสชาติใช้ได้เลยค่ะ......"
แรนดี้ "แต่ ไม่น่าเชื่อเลยแฮะ ว่าจะไม่มีเหล้าเคล้าอาหารอร่อยขนาดนี้ นี่ลอยด์ ไหน ๆ ก็ขนาดนี้แล้ว แค่นิดหน่อยก็คงจะได้ใช่ม้า~?"
ลอยด์ "......บอกว่าไม่ได้ไง เรากำลังปฏิบัติหน้าที่กันอยู่นะ หัดแยกแยะหน่อยสิ"
แรนดี้ "คร้าบคร้าบ เฮ้อ หัวหน้ากลุ่มเราเนี่ยเข้มงวดจริงน้า"
ทีโอ "แต่ฉันว่าคุณแรนดี้ต่างหากที่หย่อนยานเกินไป......"
เอลี่ "จริงด้วย ไม่สมควรดื่มเหล้าระหว่างปฏิบัติหน้าที่นะ"
เกรซ "หึหึ......"
- เกรซหัวเราะคิกคัก พลางบอกว่าพวกลอยด์น่าสนใจ ทั้งที่คนในกลุ่มไม่เป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน แต่ก็รวมตัวเป็นหนึ่งเดียวได้
ลอยด์ "......ถึงจะชมก็ไม่มีอะไรให้หรอกนะครับ ว่าแต่------ เกี่ยวกับคดีที่เกิดขึ้นที่เมืองเก่าที่คุยกันคร่าว ๆ เมื่อครู่นี้ [ชิ้นส่วนของจิ๊กซอว์ที่ขาดไป] ที่คุณมีอยู่...... จะเล่าให้พวกเราฟังได้หรือยังครับ?"
เกรซ "อุหึหึ...... ถ้าบอกว่าไม่ล่ะ?"
ลอยด์ "......ก็แค่ ไม่ให้ความไว้วางใจในตัวคุณเกรซอีกต่อไปครับ แล้วโอกาสที่จะได้คุยกัน วันนี้ก็คงเป็นครั้งสุดท้าย"
เกรซ "ล้อเล่น ๆ อย่าเป็นจริงเป็นจังไปซี่ แต่นิสัยที่เด็ดขาดนั่นเยี่ยมไปเลยน้า~ ความแตกต่างระหว่างหน้ากากอันอ่อนโยน รู้สึกเร้าใจยังไงไม่รู้~"
ลอยด์ "------เอ้า พวกเรา ได้เวลากลับไปสืบกันต่อได้แล้วมั้ง"
เอลี่ "อืม นั่นสิ"
ทีโอ "......ขอบคุณที่เลี้ยงค่ะ"
เกรซ "อ๊างง ก็บอกว่าล้อเล่น~"
- สีหน้าของเกรซจริงจังขึ้นมากระทันหัน เมื่อเห็นพวกลอยด์ทำท่าจะไปจริง ๆ เธอเกริ่นเข้าเรื่อง ถามพวกเราว่ารู้จัก "บริษัทรูวาเช่" (ルバーチェ商会) หรือไม่ ลอยด์กับเอลี่สะดุดกึกกับชื่อที่เกรซกล่าวออกมา
ทีโอ "[บริษัทรูวาเช่]...... รู้สึกจะมีชื่อนั้นอยู่ในนิติบุคคลที่ได้รับอนุญาตในเมืองครอสเบล"
เกรซ "หึหึ ฉากหน้าก็แสดงตนว่าเป็นนิติบุคคลได้รับอนุญาต แต่ตัวตนที่แท้จริงก็คือ ------[มาเฟีย] ที่คอยปกครองโลกมืดของครอสเบลมาตั้งแต่เมื่อก่อน"
- คราวนี้แรนดี้กับทีโอเป็นฝ่ายประหลาดใจบ้าง
ทีโอ "มาเฟีย...... แสดงว่าเป็นองค์กรอาชญากรรมงั้นเหรอคะ"
แรนดี้ "งี้นี่เอง...... เคยได้ยินข่าวลืมแบบนั้นมาเหมือนกัน ดูเหมือนลอยด์กับคุณหนูจะรู้อยู่แล้วสินะ?"
ลอยด์ "อือ...... ถ้าเคยอาศัยอยู่ในครอสเบล ถึงไม่ชอบก็มีชื่อลอยเข้าหูมาอยู่ดีนั่นแหละ"
เอลี่ "ดูเหมือนจะมีความสัมพันธ์ต่าง ๆ มากมายด้วยนะ...... เคยได้ยินมาว่าเพราะมีความสัมพันธ์กับผู้มีอิทธิพล แม้แต่ตำรวจก็ยื่นมือเข้าไปยุ่งด้วยง่าย ๆ ไม่ได้......"
แรนดี้ "งี้นี่เอง...... โลกมืด ไม่ว่าประเทศไหนก็เหมือนกันรึเนี่ย"
ทีโอ "แล้ว [รูวาเช่] นั่น มันยังไงกันเหรอคะ......?"
เกรซ "อืม นั่นสิ รู้สึกว่าสมาชิกของ [รูวาเช่] นั่นกำลังเคลื่อนไหวแปลก ๆ พิกลอยู่น่ะ ดูยุ่งวุ่นวาย เคลื่อนไหวกระตือรือร้นยังไงไม่รู้...... ชั้นก็เลยหาโอกาสตรวจสอบหลาย ๆ อย่าง......"
ลอยด์ "มาเฟียกำลังเคลื่อนไหวดูยุ่งวุ่นวาย......?"
เอลี่ "......ไม่ว่าจะคิดยังไง ก็ดูเหมือนจะไม่ใช่ลางบอกเหตุที่ดีเลยนะคะ หรือว่าที่คุณไปที่เมืองเก่าจะเกี่ยวข้องกับเรื่องนั้น......?"
- ทุกคนประหลาดใจไปพร้อม ๆ กัน ซึ่งเกรซก็ยอมรับค่ะ
- เกรซยังบอกต่ออีกว่าสายคนหนึ่งของเธอเล่าว่าเมื่อประมาณครึ่งเดือนก่อน สมาชิกของมาเฟียไปเดินป้วนเปี้ยนแถว ๆ เมืองเก่า ยิ่งกว่านั้นยังดูเหมือนจะแต่งตัวเรียบ ๆ เพื่อหลบเลี่ยงสายตาผู้คนด้วย พวกเราชักเริ่มได้กลิ่นทะแม่ง ๆ สงสัยว่าจะมีบุคคลที่ 3 โผล่มาเกี่ยวข้องกับเรื่องที่เกิดขึ้นกับแก๊งอันธพาลทั้ง 2 แก๊ง แต่มันก็แปลก ๆ ตรงที่ทำไมองค์กรมาเฟียต้องลำบากลำบนมาลอบโจมตีคนของแก๊งอันธพาลด้วย ทั้งที่ไม่มีความเกี่ยวพันกันฉันท์ศัตรูเลยแท้ ๆ
เกรซ "อืมม์ เท่าที่ชั้นรู้ จนถึงตอนนี้ก็ไม่เห็นจะมีเรื่องระหองระแหงที่ว่านั่นเลยน้า~ ถึงจะเป็นพวกชอบใช้ความรุนแรงเหมือนกัน แต่มาเฟียเป็นมืออาชีพ...... พวกอันธพาลเป็นมือสมัครเล่นชั้นปลายแถว...... ถ้าไม่ได้เกี่ยวพันกับเรื่องผลประโยชน์ ก็ไม่มีจุดเชื่อมโยงที่จะมาเผชิญหน้ากันเลยน้า~"
แรนดี้ "งั้น ถ้าแก๊งไหนสักแก๊งร่วมมือกับมาเฟียเพื่อทำลายอีกฝ่ายล่ะ? ถ้าเป็นกรณีนั้นก็น่าจะพรางตัวเองในการลอบโจมตีได้......"
เอลี่ "อืมม์...... ต้องทำถึงขนาดนั้นเลยเหรอ?"
ลอยด์ "อือ อย่างน้อยวาซี่กับวาลด์ 2 คนนั่นก็ไม่มีความเลวร้ายถึงขั้นนั้นเลยด้วย ไม่ว่าจะฝ่ายไหนก็ดูเหมือนจะยอมรับในตัวกันและกันอย่างบอกไม่ถูก......"
เกรซ "อุ๊ยตาย เฉียบแหลมไม่ใช่เล่น เท่าที่ชั้นรู้ วาลด์คุงกับวาซี่คุงนั่นให้ความรู้สึกว่าเป็นคู่วิวาทที่สมน้ำสมเนื้อกันเลยแหละ เดิมทีคนที่อยู่ในเมืองเก่านั่น มีแค่ [ซาเบลไวเปอร์] วาลด์คุงเท่านั้น...... แต่แล้วเมื่อประมาณ 2 ปีก่อนหน้านี้ จู่ ๆ วาซี่คุงคนนั้นก็ปรากฎตัวขึ้น แล้วก่อตั้ง [เทสตาเมนส์] ขึ้นมาน่ะ แน่นอนว่ามันลามไปถึงพวกวาลด์คุงด้วย เคยทำท่าจะเลิกไปเลยแหละ......"
ลอยด์ "......หรือว่าเอาคืน?"
เกรซ "ใช่ ๆ นั่นแหละใช่เลย! เห็นอย่างนั้นวาซี่คุงก็มีทักษะการต่อสู้นะ เห็นว่าซัดวาลด์คุงที่ย่ามใจด้วยการต่อยกับเตะที่มองตามไม่ทันจนหมอบเลยล่ะ!"
เอลี่ "อุ๊ย......"
ทีโอ "......เหลือเชื่อเลยค่ะ"
แรนดี้ "เหอ~ หน้าตาน่ารักปานนั้น เก่งกาจขนาดนั้นเลยเรอะ"
ลอยด์ "อืมม์ ก็พอ ๆ กับวาลด์คนนั้นเลย......"
เกรซ "ก็นะ ตอนแรกสุดก็แค่ย่ามใจไป แต่รู้สึกว่าหลังจากนั้นก็ประมือกันหลายครั้ง ฝีมือก็เกือบจะสูสีกันเลย แต่เพราะมีเรื่องราวเป็นมาอย่างที่ว่า ก็เลยดูเหมือนว่าจะยอมรับในตัวกันและกันน่ะ?"
เอลี่ "อย่างนี้นี่เอง...... แสดงว่าเป็นคู่ปรับกันสินะคะ"
แรนดี้ "เมื่อเป็นแบบนี้ ไม่มีเหตุผลที่หลอกใช้มาเฟีย ทำลายอีกฝ่ายสินะ"
ลอยด์ "นั่นสิ...... ทั้งสองคนก็ดูจะได้รับความเชื่อถือมาก คงไม่ทำตามใจตัวเองโดยไม่สนใจลูกน้องด้วย...... อืมม์ ถ้าเป็นแบบนั้น......"
เกรซ "หึหึ...... นี่ชั้นเซอร์วิสให้มากเกินไปหรือเปล่าเนี่ย?"
- เกรซลุกขึ้น ขอตัวลาเพื่อไปหาข้อมูลอื่น ๆ อีก พร้อมกับบอกให้พวกลอยด์พยายามให้มาก จะได้ทำให้เธอมีข่าวดี ๆ เขียนว่าแล้วเธอก็เดินออกจากภัตตาคารไปอย่างอารมณ์ดี
- และเพราะได้เกรซช่วย ทำให้เรารวบรวมข้อมูลได้มากพอดู แต่ทีโอไม่สามารถดูข้อมูลของพวกมาเฟียที่ชื่อ "รูวาเช่" จากฐานข้อมูลของกรมตำรวจได้ เพราะดูเหมือนว่าจะมีการนำข้อมูลตรงส่วนนี้ไปเก็บไว้ในที่ ๆ มีระบบการป้องกันสูง ยังไงก็ตามในตอนนี้เราต้องกลับไปให้หัวหน้าแผนกเซอร์เกย์ตัดสินว่าจะให้ทำยังไงกันต่อค่ะ

ไปคุยกับ "ฮิวอี้" (ヒューイ) สมาชิกของซาเบลไวเปอร์และ "คีนท์" (キーンツ) สมาชิกของเทสตาเมนส์ จะได้ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับรถพยาบาลที่มารับคนบาดเจ็บไปโรงพยาบาล ว่าเป็นคันเดียวกัน เป็นการยืนยันได้ว่าเหตุเกิดขึ้นในคืนวันเดียวกันค่ะ DP+1

- ในช่วงนี้ หากไปคุยกับ "ประชาสัมพันธ์มิเชล" ที่สมาคมเบรเซอร์ จะมีเควสต์ลับให้ทำด้วยนะคะ
★QUEST★ (5) สารท้ารบจากมิเชล [เควสต์ลับ]
DP เบี้ยเลี้ยง (5) สารท้ารบจากมิเชล (ミシェルの挑戦状)
3(+2) 500 มิร่า
- หากแวะไปหา "ประชาสัมพันธ์มิเชล" (受付ミシェル) แห่งสมาคมเบรเซอร์ตามคำชวนก่อนหน้านี้ เขาจะท้าให้เราทดสอบความรู้ด้วยข้อสอบข้อเขียนเกี่ยวกับความรู้ทั่วไปที่ใช้ในการฝึกพวกเบรเซอร์ ที่เขาดึงออกมาถามเรา 10 ข้อ ถ้าหากพร้อมแล้วก็เลือกคำสั่งที่ 1 "รับคำท้า" (受けて立つ) ได้เลยค่ะ

- โดยคำถามและคำตอบทั้งหมดก็ตามนี้เลยค่ะ

(1) 《導力革命》が起こったのは?
<การปฏิวัติออร์บเมนท์> เกิดขึ้นเมื่อ?
③約50年前
ประมาณ 50 ปีก่อน
(2) 導力器を生み出した人物は?
ผู้ให้กำเนิดออร์บเมนท์คือ?
②C・エプスタイン博士
ดร. C. เอปสไตน์
(3) セピスと呼ばれるもの、それは・・・・・・?
สิ่งที่เรียกว่าเซพิธคือ......?
③七耀石の欠片
เศษของหินเจ็ดจรัส
(4) エレボニア帝国の紋章に描かれているものは?
สัญลักษณ์ของจักรวรรดิเอเรโบเนียคือ?
③黄金の軍馬
ม้าศึกทองคำ
(5) 共和国に存在する有名導力器メーカーの名前は?
ชื่อของผู้ผลิตอุปกรณ์ออร์บเมนท์ที่มีชื่อเสียงซึ่งอยู่ในสาธารณรัฐคือ?
①ヴェルヌ社
บริษัทเวล์น
(6) 《暗黒時代》を終わらせた勢力の名は?
ชื่อของพลังที่ทำให้ <ยุคมืด> สิ้นสุดลงคือ?
①七耀協会
โบสถ์เจ็ดจรัส
(7) 七耀教会の祭儀全般を担当する行政機関の名前は?
ชื่อของหน่วยงานบริหารที่รับผิดชอบการจัดศาสนพิธีของโบสถ์เจ็ดจรัสคือ?
②典礼省
กระทรวงสักการพิธี
(8) 遊撃士協会の本部があるのは?
สถานที่ตั้งของสำนักงานใหญ่สมาคมเบรเซอร์คือ?
②レマン自治州
เขตปกครองตนเองเรแมน
(9) 数年前帝国に現れた『怪盗』のコードネームは?
โค้ดเนมของ [จอมโจร] ซึ่งปรากฎตัวที่จักรวรรดิในหลายปีมานี่คือ?
②怪盗B
จอมโจรB
(10) リベール、帝国、共和国の3国で締結された条約の名称は?
ชื่อเรียกของสนธิสัญญาซึ่งจัดทำขึ้นโดย 3 ประเทศอันมี ลีเบร์ล, จักรวรรดิ, สาธารณรัฐคือ?
②不戦条約
สนธิสัญญาไม่ทำสงคราม

ตอบถูกทุกข้อ DP+2

- ในกรณีที่ตอบถูกครบทุกข้อ นอกจากจะได้รับ Bonus DP แล้ว ยังได้รับควอทซ์ "การกระทำ 1" มาด้วยนะคะ

- หากคุยกับ "ประชาสัมพันธ์มิเชล" อีกครั้ง เขาจะบอกให้เรามาหาเขาอีก เพราะจะมีการทดสอบในระดับยากกว่านี้เตรียมไว้ให้เราทำอีกค่ะ

★หากไปคุยกับ "เบรเซอร์ลิน" (遊撃士リン) กับ "เบรเซอร์เอโอเลีย" (遊撃士エオリア) บนชั้น 2 ของสมาคมเบรเซอร์ จะเจออีเวนท์ของเอโอเลียที่ปิ๊ง ๆ ทีโอ หันไปถามลินว่าจะเอาทีโอกลับไปด้วยได้หรือเปล่าค่ะ แน่นอนว่าลินไม่เห็นด้วย แรนดี้จึงเสนอตัวให้พาเขาไปแทน แต่ก็โดนเอโอเลียตอกกลับมาอย่างไร้เยื่อใยค่ะ
★หากไปคุยกับ "คลาริส" (クラリス) ที่อพาร์ทเมนท์ บ้านพักอาร์คาเชีย ห้องที่อยู่ทางด้านขวามือบนชั้น 1 เราจะแน่ใจแล้วว่าลูกสาวของเธอทำงานเป็นโอเปอเรเตอร์ของกรมตำรวจ ซึ่งก็คือฟรานนี่เองค่ะ

แผนกสนับสนุนภารกิจพิเศษ (特務支援課)
- กลับไปคุยกับ "หัวหน้าแผนกเซอร์เกย์" ที่แผนกสนับสนุนฯ ได้เลยค่ะ
(เมื่ออธิบายเรื่องราวต่าง ๆ ให้ฟัง หัวหน้าแผนกเซอร์เกย์จะให้พวกเราเป็นคนตัดสินใจว่าจะทำยังไงต่อไป โดยที่เขาจะไม่บอกอะไรที่เกี่ยวข้องกับรูวาเช่โดยให้พวกเราไปตรวจสอบเอง ส่วนเหตุผลที่หัวหน้าแผนกตัดสินใจแบบนี้ก็เพราะ เขารู้ว่าถ้าเขาบอกให้เราเลิกทำงานนี้ เราก็คงไม่ยอมรับกันค่ะ ช่างเป็นหัวหน้าที่เข้าใจลูกน้องเสียจริง)
- เมื่อเห็นว่าพวกเรายังเป็นลูกเจี๊ยบที่ไม่รู้อะไร หัวหน้าแผนกจึงแนะนำแอดไวเซอร์ (ที่ปรึกษา) ให้พวกเราด้วย ซึ่งนามบัตรที่หัวหน้าแผนกยื่นให้ลอยด์เขียนไว้ว่า "สำนักงานกฎหมายกริมวู้ด" (グリムウッド法律事務所) ซึ่งตั้งอยู่บนถนนตะวันตก โดยหัวหน้าแผนกให้เราไปพบทนายเคราดกที่ชื่อเอียนค่ะ
(จากคำบอกเล่าในช่วงนี้ ทำให้ทราบว่าสมัยก่อนลอยด์ก็เคยเจอทนายคนนี้ค่ะ แต่แค่ทักทายเฉย ๆ ค่ะ และเพราะทนายคนนี้มีเคราดก ก็เลยได้ฉายาว่า "ทนายเคราหมี" แต่กับเรื่องมาเฟียแล้ว ทนายคนนี้มีข้อมูลอยู่ในมือมากทีเดียว ซึ่งต้องเป็นประโยชน์กับพวกเราแน่นอนค่ะ)

เมืองครอสเบล (クロスベル市)
- ไปยัง "สำนักงานกฎหมายกริมวู้ด" ซึ่งตั้งอยู่บนถนนตะวันตกเลยค่ะ
- ในตอนที่เรามาถึงหน้าสำนักงานกฎหมายฯ ก็พบกับชายใส่แว่นคนหนึ่งเดินออกมาพอดี เขาเห็นพวกเราก็ยิ้มอย่างดูถูกพูดว่า "......อย่างนี้นี่เอง แสดงว่าเป็นพวกลูกสุนัขที่คุณเซอร์เกย์เพิ่งเริ่มเลี้ยงสินะ" ลอยด์สังเกตเห็นเข็มกลัดทำให้รู้ว่าผู้ชายใส่แว่นคนนี้เป็นคนของกรมตำรวจ แต่เขาก็บอกปัดว่าอย่าสนใจเรื่องของเขาเลย ถ้ามาพบกับอาจารย์เอียนก็อย่าทำให้ท่านเสียเวลามาก เพราะท่านเป็นคนที่ยุ่งมากผิดกับพวกเราที่ไร้ประโยชน์ค่ะ ว่าแล้วผู้ชายคนนั้นก็เดินจากไป ปล่อยให้พวกลอยด์เจ็บใจที่ตอบโต้อะไรไม่ได้
(ตรงนี้ แรนดี้จะสังเกตเห็นว่ามีอาวุธเหน็บอยู่ที่รักแร้ด้านซ้ายของผู้ชายใส่แว่นคนนั้นด้วย ส่วนทีโอก็จับสัญญาณจากเซ็นเซอร์ได้เหมือนกันว่าผู้ชายคนนั้นพกปืนพกทหารขนาดใหญ่เอาไว้ด้วย ลอยด์กับเอลี่ถึงกับออกปากชมทั้ง 2 คนเลยล่ะค่ะ)
- เข้าไปในสำนักงานกฎหมายฯ จะพบผู้ชายเคราดก เมื่อเขาเห็นลอยด์ก็จำได้ว่าเป็นเด็กที่เคยอยู่แถวนี้มาก่อน ลอยด์ดีใจที่ทนายเอียนยังจำเขาได้ จึงแนะนำตัวอีกครั้ง พอผู้ชายเคราดกได้ยินนามสกุลแบนนิงส์ก็ตกใจที่รู้ว่าลอยด์ เป็นน้องชายของกาย แบนนิงส์ ลอยด์ประหลาดใจที่รู้จักพี่ชายของเขาด้วย ผู้ชายเคราดกจึงแนะนำตัวว่าเขาชื่อ "เอียน กริมวู้ด" (イアン・グリムウッド) เป็นทนายของสำนักงานแห่งนี้ค่ะ
- เมื่อทนายเอียนรู้ว่าพวกเราเป็นคนเข้าใหม่ของ [แผนกสนับสนุนภารกิจพิเศษ] ที่เซอร์เกย์คุงเคยบอกเอาไว้ แถมลอยด์ก็เป็นน้องของกายที่เคยมาขอแลกเปลี่ยนข้อมูลกับเขาด้วย ก็รู้สึกแปลกใจอย่างบอกไม่ถูก คิดว่านี่คือโชคชะตานำพามาให้เจอกันของเทพธิดา พวกเพื่อน ๆ ของลอยด์เพิ่งรู้ว่าพี่ชายของลอยด์เป็นตำรวจก็ถามว่าทำไมไม่เคยบอก ลอยด์ขอโทษพร้อมกับบอกว่าพี่ชายเขาเสียไปในระหว่างปฏิบัติหน้าที่เมื่อ 3 ปีก่อน เพื่อน ๆ ได้ฟังก็เข้าใจว่าเพราะเหตุนี้นี่เองที่ลอยด์ถึงต้องจากเมืองไปตั้งนาน
- จากนั้น ลอยด์ก็ขอเข้าเรื่องถามถึง "รูวาเช่" กับทนายเอียน ทำให้เรารู้ว่ามีข่าวลือที่ไม่ดีเกี่ยวข้องมากมาย อย่างการค้าขายผิดกฏหมายระหว่างจักรวรรดิและสาธารณรัฐ ซื้อขายของโจร ฟอกมิร่า ไปจนถึงการลักลอบค้าอาวุธ เป็นคนกลางติดต่อกับพวกทหารพราน แต่การมีอยู่ของมาเฟียก็เป็นลักษณะเฉพาะตัวที่ปฏิเสธไม่ได้ของครอสเบลที่ภายในอ่อนแอ เพราะมีการแบ่งฝักแบ่งฝ่าย แถมอภิสิทธิ์ต่าง ๆ ของรูวาเช่กล่าวได้ว่าเทียบเท่ากับพวกสมาชิกสภาเลยทีเดียวค่ะ
- แต่ดูเหมือนว่าช่วงนี้จะมีการเปลี่ยแปลงเกิดขึ้น จากข้อมูลล่าสุดของทางกรมตำรวจที่ทนายเอียนได้มาบอกว่า มีอิทธิพลที่จะมาต่อกรกับรูวาเช่ปรากฏตัวขึ้น เป็นองค์กรที่กำลังสร้างอิทธิพลครั้งใหญ่ในย่านชาวตะวันออกของสาธารณรัฐคาลวาร์ด และกำลังเริ่มรุกเข้ามายังครอสเบล ชื่อขององค์กรนั้นก็คือ "เฮยเยวี่ย" (黒月(ヘイユエ))ซึ่งบังเอิญช่วงนี้ก็มี "บริษัทการค้าระหว่างประเทศเฮยเยวี่ย" มาตั้งที่เขตท่าเรือของครอสเบลพอดี ถึงตอนนี้จะยังไม่รู้ว่าพวกเฮยเยวี่ยกำลังจะเริ่มลงมือทำอะไร แต่พวกกองกำกับการสืบสวนสอบสวน 1 กำลังจับตาดูอยู่ ซึ่งผู้ชายใส่แว่นที่พวกลอยด์เจอเมื่อครู่นี้ก็เป็นเจ้าหน้าที่สืบสวนฯ ประจำสืบสวน 1 ที่ชื่อดัดลีย์ ที่เข้ามาคุยกับทนายเอียนเกียวกับเรื่องนี้นั่นเอง และเมื่อลอยด์ได้ฟังข้อมูลจากทนายเอียน และคิดอะไรบางอย่างออกแล้ว จึงขอตัวลากลับไปก่อนค่ะ
- ถ้าไม่มีเรื่องอะไรที่ต้องสะสางแล้ว ให้กลับไปที่แผนกสนับสนุนได้เลยค่ะ

แผนกสนับสนุนภารกิจพิเศษ (特務支援課)
- เมื่อเข้ามาในแผนกสนับสนุนฯ จะเห็นข้อความบนกระดานซึ่งหัวหน้าแผนกเขียนบอกพวกลอยด์ว่า "ออกไปข้างนอกเพราะธุระงี่เง่า เดี๋ยวกลับมา เรื่องคดีนั่นจัดการตามใจชอบเลย" เมื่อเป็นแบบนี้ พวกเราก็สามารถเริ่มประชุมกันเองได้เลยค่ะ
- ไปที่โต๊ะพอ ! (Look Point) แสดงขึ้นมาให้กดปุ่มวงกลมแล้วเลือก "เริ่มประชุม" (ミーティングを始める)เพื่อเริ่มประชุม แต่ถ้าหากยังจัดการพวกเควสต์ต่าง ๆ ไม่ครบ ก็สามารถเลือก "ยังมีธุระอื่นอีก" (まだ他に用事がある) ได้ค่ะ (ระวัง เมื่อเราเริ่มประชุมไปแล้วเควสต์ต่าง ๆ ที่ยังไม่ได้เคลียร์จะหายไปทันทีค่ะ)
- เมื่อเลือกเริ่มประชุม เราจะมาสรุปข้อมูลที่ได้กันค่ะ ซึ่งเราสรุปกันได้ว่ามีบุคคลที่ 3 เข้ามาเกี่ยวข้องกับเรื่องที่เกิดขึ้นที่เมืองเก่าเมื่อกลางดึกของ 5 วันก่อน ซึ่งบุคคลที่ 3 นั้นก็คือ "บริษัทรูวาเช่" มาเฟียที่ปกครองโลกมืด แต่ปัญหาที่ยังไม่คลี่คลายก็คือเรื่องแรงจูงใจ ซึ่งลอยด์ได้คาดเอาไว้ถึง "ความเกี่ยวโยง" ที่เชื่อม "จุด" 3 จุดเข้าไว้ด้วยกันคือ

ワジの経歴
ภูมิหลังของวาซี่
DP+1
ヴァルドの過去
อดีตของวาลด์
-
黒月の存在
การมีอยู่ของเฮยเยวี่ย
DP+2

- ถ้ามองถึงความเป็นไปได้ที่น่าจะเป็นจริงที่สุดก็คือ "เฮยเยวี่ย" ซึ่งเป็นตัวเชื่อมโยง "ความจำเป็นที่หลีกเลี่ยงไม่ได้" ที่มาเฟียต้องการให้แก๊งอันธพาลทั้ง 2 แก๊งต่อสู้กัน
- เพราะถ้าเฮยเยวี่ยรุกเข้ามายังครอสเบล ฝ่ายรูวาเช่ก็ต้องเพิ่มกำลังให้เข้มแข็งขึ้น แต่สำหรับกำลังอาวุธนั้นรูวาเช่เป็นคนค้าอยู่แล้ว ที่จำเป็นต้องหาจริง ๆ ก็คือกำลังพลในการรบ ซึ่งไม่สามารถให้ทหารพรานเข้ามาช่วยได้ เพราะตอนนี้ครอสเบลกำลังเป็นที่จับตามองของนานาประเทศ ทั้งยังมี "สนธิสัญญาไม่ทำสงคราม" ด้วย ถ้าให้ทหารพรานเคลื่อนไหว จักรวรรดิและสาธารณรัฐต้องไม่ยอมนิ่งเฉยแน่ ๆ
- เพราะงั้นตัวเลือกก็เลยไปตกกับพวกอันธพาลนั่นเองค่ะ แต่ถ้าวิเคราะห์ตามนิสัยของพวกวาซี่และวาลด์แล้ว คงไม่ยอมอยู่ใต้อาณัติพวกรูวาเช่แน่ ๆ พวกรูวาเช่จึงหาทางออกอื่นโดยการทำให้ทั้ง 2 แก๊งต่อสู้กันเอง พอต่างฝ่ายต่างอ่อนแอลง ก็หาโอกาสแทรกเข้าไปจัดการทันที
- เมื่อสรุปได้ดังนี้ ลอยด์จึงเห็นว่าควรจะต้องบอกเรื่องทั้งหมดให้ทั้งวาลด์ และวาซี่ หัวหน้าของซาเบลไวเปอร์และเทสตาเมนส์รู้ค่ะ



- ยามค่ำคืนที่เงียบสงัด "วาลด์" เดินหยุดเดินตรงทางแยกที่หน้าสถานีครอสเบล เขารู้สึกรำคาญที่โดนเรียกตัวมาคนเดียวกลางดึกเช่นนี้ พลางคิดว่าเจ้า่พวกตำรวจนั่นคิดจะทำอะไรกันแน่ เขาเดินไปจนถึงทางเข้าเขตใต้ดิน ซึ่งรถไฟขบวนสุดท้ายผ่านไปพอดี และ ณ ที่นั้น "วาซี่" ก็มารออยู่ที่นี่เช่นกัน
- วาลด์เห็นจึงเข้าใจไปว่าที่แท้วาซี่เป็นคนเรียกเขาออกมา ก็เลยจะเข้าไปดวลกัน แต่วาซี่บอกว่าทั้งเขาและวาลด์ก็เป็นแขกที่ได้รับเชิญมาเหมือนกัน ว่าแล้วพวกลอยด์ก็ลงมา วาซี่เห็นพวกลอยด์ก็รู้ทันทีว่าที่เรียกมา ก็เพื่อมาคุยเรื่องที่เกิดขึ้นกับแก๊งของเขาทั้ง 2 คน ซึ่งตอนแรกวาซี่ก็คิดว่าเป็นการทะเลาะวิวาทกันปกติ แต่เมื่อลองคิดถึงสถานการณ์ที่เกิดขึ้น เขาก็รู้สึกถึงความไม่เป็นธรรมชาติทั้งฝ่ายเขาและฝ่ายไวเปอร์ แต่ความคิดของเขาก็ตันอยู่แค่เท่านี้ คิดอะไรต่อไม่ออกค่ะ พวกลอยด์ประหลาดใจมากที่วาซี่วิเคราะห์ได้ถึงขนาดนี้ เมื่อวาลด์ได้ฟังที่วาซี่เกริ่น ๆ มา จึงยอมหันมารับฟังลอยด์
- เมื่อทั้งวาลด์และวาซี่ได้ฟังเรื่องราวทั้งหมด วาซี่ก็ยอมให้ความร่วมมือในการจัดการคดีในครั้งนี้กับพวกลอยด์ค่ะ ส่วนวาลด์นั้นเมื่อเห็นวาซี่ยอมช่วย ก็ตัดสินใจจะบุกพวกมาเฟียซึ่ง ๆ หน้าจะได้จัดการไปพร้อม ๆ กับพวกวาซี่ วาซี่จึงว่าให้ว่า พวกนั้นเป็นมาเฟียคงสู้กันซึ่งหน้าไม่ได้ วาลด์ยังดื้อบอกไม่ลองไม่รู้ วาซี่เลยถามว่าถ้าทำแบบนั้น คิดจะทำให้พวกลูกน้องที่น่ารักต้องพลอยติดร่างแหไปด้วยหรือไง เจอไม้นี้เข้าไป วาลด์ผู้เป็นห่วงลูกน้องจึงยอมอ่อนลงค่ะ และที่วาซี่ยอมช่วยพวกลอยด์ ไม่ใช่เพราะจะช่วยคลี่คลายคดีนะคะ แต่เพราะเขามีความจำเป็นที่จะต้อง "สั่งสอน" เพื่อที่คราวหน้าคราวหลังพวกมาเฟียจะได้ไม่ต้องมาวุ่นวายกับพวกเขาอีกนั่นเองค่ะ ลอยด์ได้ฟังถึงกับอ้าปากค้างทีเดียวเชียวค่ะ



------3 วันผ่านไป
การต่อสู้ของพวกอันธพาลที่เคยตึงเครียดก็ไม่เคยเกิดขึ้นเลยแม้แต่ครั้งเดียว......
เมืองเก่าได้บรรยากาศอันสงบสุขอย่างไม่ค่อยเป็นธรรมชาติคืนกลับมา
และแล้ว------
- เหล่าผู้ชายใส่แว่นกันแดดปรากฎตัวขึ้นกลางดึกในเขตเมืองเก่า พวกเขารู้สึกว่ามันช่างเงียบผิดปกติ และสงสัยว่าทำถึงขนาดนั้นแล้วทำไมการต่อสู้ให้ตายกันไปข้างนึงถึงยังไม่เริ่มขึ้นอีก ว่าแล้วพวกเขาก็เริ่มลงมือกันอีกครั้ง โดยวางแผนกันว่าอย่าให้ใครเห็น ถ้าเจอพวกไวเปอร์ก็ให้ใช้หนังสติ๊กยิง แต่ถ้าเป็นพวกเทสตาเมนส์ก็ให้ตีจากด้านหลัง
- อีกด้านหนึ่ง ชายหนุ่มชุดฟ้าเดินออกจากพูลบาร์ ทรินิตี้ รังของพวกเขา และเมื่อเดินมาถึงมุมตึกซึ่งเคยเกิดเรื่องขึ้น ก็ถูกเข้าโจมตีทางด้านหลัง เขาล้มลงทันที ในขณะที่ชายสวมแว่นกันแดดหัวเราะชอบใจที่จับกระต่ายได้ 1 ตัว พรรคพวกสวมแว่นดำพากันกรูเข้ามาชมผลงาน และหมายจะเข้ามาซ้ำให้คางเหลืองเพื่อสร้างเรื่อง
- ทันใดนั้นเอง ชายหนุ่มชุดฟ้าก็ลุกขึ้นใช้ทอนฟาปัดการโจมตีของชายแว่นกันแดดออกไป สร้างความตกตะลึงแก่พวกเขาเป็นอย่างมาก ที่แท้ชายหนุ่มชุดฟ้านั่นก็คือ "ลอยด์" ซึ่งปลอมตัวมาเป็นเหยื่อล่อ โดยมีพวกวาซี่และเพื่อน ๆ เฝ้าดูเหตุการณ์อยู่บนหลังคานั่นเองค่ะ
- พวกชายแว่นกันแดดเห็นท่าไม่ดีจึงแยกกันหนีออกเป็น 2 ฝั่ง วาซี่ไม่รอช้ากระโดดลงมาบอกให้พวกเราตามไป 2 คน ลอยด์ต้องทำตามอย่างเสียไม่ได้
- เรียกเพื่อนที่อยู่บนหลังคา เพื่อเข้ากลุ่มต่อสู้อีกคน โดยเพื่อนที่เราเลือกเข้ากลุ่มนั้นจะได้รับ "Link Point+15" ค่ะ

ว่าด้วย [Link Point (ค่าความสัมพันธ์)]
- สำหรับในภาคนี้ จะมี Link Point หรือ "ค่าความสัมพันธ์" ระหว่างลอยด์และพรรคพวกในแผนกสนับสนุนภารกิจพิเศษด้วย

- โดยการเพิ่มระดับความสัมพันธ์สามารถทำได้โดยการทำตามเงื่อนไขต่าง ๆ ที่แตกต่างกันไป เช่น การเลือกเพื่อนเข้ากลุ่มต่อสู้ในบางเหตุการณ์, จำนวนครั้งในการใช้คอมบิคราฟท์, การเคลียร์เงื่อนไขบางอย่างขณะดำเนินเรื่อง หรือแม้แต่การเปลี่ยนกรอบเอนิกม่าและการซื้อเครื่องเรือนมาประดับห้องค่ะ

- Link Point หรือค่าความสัมพันธ์นี้ จะส่งผลถึงคอมบิคราฟท์ รวมทั้ง Record ที่จะได้รับในบทส่งท้ายด้วยค่ะ

- อนึ่ง เหตุการณ์บางอย่างที่เราไม่สามารถเลือกการกระทำต่อพรรคพวกในแผนกสนับสนุนฯ จะไม่มีผลต่อค่าความสัมพันธ์ที่ได้รับค่ะ

- ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่หน้า Link Event & Link Point ค่ะ

BOSS มาเฟีย มีดดาบ + มาเฟีย ปืน
マフィア・鉈 + マフィア・銃
- ระวังท่า "แสงวาบ" (一閃), "สับแหลก" (ぶった切り) ของมาเฟียมือมีดไว้นะคะ เพราะท่านี้จะโจมตีเป็นเส้นตรง, กินอาณาเขต แถมหนักด้วย ถ้าไม่ระวังให้ดียืนเกาะกลุ่มกันมากไปมีหวังตายหมู่แน่ ๆ ค่ะ
- ส่วน "ควิกช็อต" (クイックショット) ของมือปืนถึงจะกินอาณาเขตแต่ก็ไม่น่ากลัวเท่าไหร่ แต่ท่า "กระสุนเจาะเกราะ" (徹甲弾) ทำให้ DEF Down ได้ค่ะ

- แนะนำให้ใช้คราฟท์ของวาซี่ "แฟนธ่อม รัช" (โจมตี + SPD-50%) จะทำให้การต่อสู้ง่ายขึ้นมาก โดยรวมการต่อสู้ครั้งนี้ไม่ยากค่ะ (ก็มีวาซี่คอยช่วยด้วยนี่นา 555+) แค่คอยโจมตีสลับกับเพิ่มเลือดไปเรื่อย ๆ ก็จะชนะได้โดยง่ายค่ะ

- อย่าลืมใช้คราฟท์ของทีโอหรือแบทเทิล สโคปตรวจสอบด้วยนะคะ

- ปราบได้พวกมาเฟียจะขู่ว่า ทำแบบนี้กับพวกเขาจะทำให้รูวาเช่โกรธเอาได้ วาลด์ไม่สนใจเข้าไปคว้าคอเสื้อพวกมาเฟียอย่างไม่เกรงกลัว ขู่กลับว่าจะทำให้พวกมาเฟียเป็นกระสอบทรายแทน
- วาซี่จึงออกโรงเป็นคนปรามวาลด์อีกครั้งค่ะ (เอาลูกน้องมาเป็นข้ออ้างอีก) ทันใดนั้นเอง นักข่าวสาว "เกรซ" ก็ออกมารัวชัตเตอร์ไม่ยั้ง ที่แท้เธอจับตาดูพวกเรามาตั้งแต่เมื่อหลายวันก่อนแล้วนี่เอง ถึงได้ปรากฎตัวในเวลาพอเหมาะพอเจาะแบบนี้
- คราวนี้พวกมาเฟียหันมาขู่เกรซที่ถ่ายรูปพวกเขาเพื่อไปทำข่าวแทน เกรซเลยขู่ว่าถ้าทำอะไรลงไป ระวังพวกสมาคมเบรเซอร์เอาไว้ เพราะคุณอาริออสตั้งใจที่จะเข้าแทรกแซงคดีในครั้งนี้ด้วย แต่เพราะงานคุณอาริออสยุ่งมาก ก็เลยได้พวกเธอ (ลอยด์) เข้ามาแทรกแซงแทนค่ะ พวกลอยด์ได้ฟังก็รู้สึกเหมือนโดนทำให้เต้นไปบนฝ่ามือของอาริออสอีกแล้ว พวกมาเฟียไม่อยากมีเรื่องกับอาริออส จึงยอมรามือแล้วก็จากไปแต่โดยดีค่ะ
- ส่วนพวกไวเปอร์พอเห็นเรื่องราวคลี่คลายแล้วก็สลายโต๋กลับรัง พวกเทสตาเมนส์ก็จะกลับบ้าง ลอยด์รีบกล่าวขอบคุณวาซี่ที่ให้ความร่วมมือ พร้อมกับหวังว่าจะไม่มีเรื่องวิวาทระหว่าง 2 แก๊งอีก วาซี่ตีหน้างง อับบัสเลยแทรกขึ้นมาว่าถึงจะจบเรื่องมาเฟียแล้ว แต่ความสัมพันธ์ของพวกเขากับพวกไวเปอร์ก็ไม่มีทางเปลี่ยนแปลง วาซี่พูดต่อว่าถึงจะไม่สู้กันให้รู้ดำรู้แดงกันไปข้างหนึ่ง แต่ก็คงต้องขอมีการทะเลาะวิวาทเล็ก ๆ น้อย ๆ กันบ้าง พร้อมกับเชิญให้ลอยด์เข้าร่วมการวิวาทในครั้งหน้าด้วย พวกลอยด์ก็ได้แต่หน่ายใจ ไม่อยากฟังเรื่องล้อเล่นแบบนี้เลยค่ะ
- แม้คดีจะคลี่คลายลงไปแล้ว แต่ลอยด์ก็ยังรู้สึกไม่โล่งใจเท่าที่ควร เกรซได้ยินจึงบอกว่า "หึหึ ไม่ถูกใจที่ไม่ได้คลี่คลายคดีด้วยกำลังของพวกตัวเองอย่างเดียว...... ใช่ความรู้สึกแบบนั้นหรือเปล่า?"
ลอยด์ "เอ๊ะ......?"
เกรซ "กระจอก กระจอกจริง ๆ นะ ถ้าจำเป็น ก็ไม่ต้องทนเก็บไว้ หัดขอยืมกำลังของคนอื่นแล้วไปคว้าความจริงที่ยิ่งใหญ่กว่านี้...... ทำแบบนั้นได้สำเร็จต่างหากถึงจะเป็นเจ้าหน้าที่สืบสวนที่โตเป็นผู้ใหญ่แล้วน่ะ? ------เหมือนกับพี่ชายของเธอไง"
ลอยด์ "! อะ......!?"
เกรซ "หึหึ เอาล่ะ...... พี่สาวเองก็ถอยบ้างดีกว่า เพราะถึงวัยที่ต้องกังวลกับริ้วรอยบนใบหน้าแล้วนี่น้า~ งั้นก็ ราตรีสวัสดิ์จ้า~♪"
- หลังจากทิ้งคำพูดให้ลอยด์ได้คิด เกรซก็เดินจากไป
แรนดี้ "พี่ชายของนายนี่...... ท่าทางจะเป็นที่รู้จักเยอะดีนะ"
เอลี่ "ดูเหมือนจะเป็นคนที่ยอดเยี่ยมมาก ๆ เลยสินะ?"
ลอยด์ "......ฮะฮะ แค่มีความกล้าที่จะเสี่ยงกับแรงที่จะกระทำยอดเยี่ยมที่สุดเท่านั้นเอง"
ทีโอ "............................"
ลอยด์ "------ภารกิจเสร็จสิ้นแล้ว กลับแผนกสนับสนุนฯ แล้วไปรายงานหัวหน้าแผนกเซอร์เกย์กันเถอะ"

แผนกสนับสนุนภารกิจพิเศษ (特務支援課)
- ลอยด์เล่าเรื่องราวต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นให้หัวหน้าแผนกเซอร์เกย์ฟัง ดูเหมือนหัวหน้าแผนกจะพอใจไม่น้อยที่พวกเราสามารถทำได้ถึงขนาดนี้ทั้งที่เป็นเด็กใหม่ (ถึงจะเอ่ยปากชมที่เหมือนไม่ได้ชมเลยก็ตาม)
หัวหน้าแผนกเซอร์เกย์ "แต่คดีในครั้งนี้ คงทำให้พวกนายเริ่มมองเห็นแล้วสินะ อีกด้านหนึ่งที่เป็นปัญหายุ่งยากของสถานที่ที่ได้ชื่อว่าครอสเบลแห่งนี้"
ลอยด์ ".........มันก็............"
แรนดี้ "เฮ้อ ก็ดูเหมือนจะเป็นที่วุ่นวายนิด ๆ จริง ๆ ด้วยแหละ"
ทีโอ "ด้านมืดมากมายโซ่ตรวนหลากหลาย...... ให้ความรู้สึกว่าเป็นแหล่งบ่มเพาะความเป็นไปของผู้ใหญ่เลยค่ะ"
เอลี่ "......นั่นสินะ"
หัวหน้าแผนกเซอร์เกย์ "มันก็ไม่ได้แสดงว่าพวกในกองบัญชาการตำรวจน่ะไร้ความสามารถหรอกนะ แต่มันก็ดูเหมือนจะมีพวกโง่ ๆ ที่คอยรับสินบนอยู่ด้วย...... เจ้าหน้าที่สืบสวนส่วนใหญ่ ก็ค่อนข้างยอดเยี่ยม เป็นพวกที่มีจิตใจเที่ยงธรรมในแบบของตัวเอง แต่ว่า......มันมี [กำแพง] ที่มองเห็นและมองไม่เห็นกั้นอยู่ อย่างเช่น ระหว่างสมาชิกสภาแล้วก็พวกเจ้าหน้าที่ของรัฐที่มีความเกี่ยวข้องกับอภิสิทธิ์ของมาเฟียน่ะ"
ลอยด์ "............................................."
หัวหน้าแผนกเซอร์เกย์ "ว่าไงล่ะ ลอยด์? เริ่มอยากจะลาออกจากกรมตำรวจ แล้วเปลี่ยนไปทำงานเป็นเบรเซอร์หรือยัง?"
ลอยด์ "......ไม่ครับ เพราะสถานการณ์เป็นแบบนั้น ถึงต้องเป็น [แผนกสนับสนุนภารกิจพิเศษ] ไม่ใช่หรือครับ?"
- ทุกคนหันมามองลอยด์เป็นตาเดียว
ลอยด์ "[ปกป้องผู้คน]------ แนวความคิดของเบรเซอร์วิเศษก็จริง แต่มันก็มีปัญหาที่ลำพังแค่นั้นไม่สามารถแก้ไขได้อยู่ด้วย   ค้าขายผิดกฎหมาย ลักลอบค้าอาวุธ ซื้อขายของโจร ฟอกมิร่า แล้วก็ความสัมพันธ์ใกล้ชิดระหว่างมาเฟียกับนักการเมือง...... ไม่ว่าจะเรื่องไหนก็เป็นปัญหาที่เบรเซอร์ไม่สามารถแทรกแซงเข้าไปได้ตรง ๆ ครับ"
แรนดี้ "จะว่าไปก็......"
ทีโอ "หมายความว่าแม้แต่พลังของ [ปลอกแขนผนึกกำลัง] เองก็มีขีดจำกัดสินะคะ......"
ลอยด์ "------แต่ถ้าตำรวจล่ะก็ น่าจะสามารถทำได้ตั้งแต่แรกอยู่แล้ว ถึงจะเป็น [กำแพง] ต่าง ๆ ที่ขวางกั้นความเป็นจริงเอาไว้ก็เถอะ...... ความเป็นไปได้ที่จะทำลายกำแพงนั่นลง ก็ไม่ได้เป็นศูนย์สักหน่อย"
เอลี่ "อย่างนี้นี่เอง...... ถ้าเป็นที่นี่ (แผนกสนับสนุนฯ) ก็อาจจะหาความเป็นไปได้อันนั้นเจอก็ได้...... หมายความว่าอย่างนั้นใช่มั้ย?"
ลอยด์ "อือ...... ก็ไม่รู้ว่าจะมองโลกในแง่ดีเกินไปหรือเปล่านะ?"
ทีโอ "......ในความเป็นจริงคงไม่ง่ายขนาดนั้นหรอกค่ะ แต่ ไม่ว่าจะเป็นความเป็นไปได้แบบไหนก็ตาม ไม่ได้เป็นศูนย์แน่นอนอยู่แล้ว"
แรนดี้ "เฮ้อ...... ทั้งดวลตัวต่อตัวกับหัวหน้าอันธพาล ทั้งอาสารับหน้าที่เหยื่อล่อที่เป็นอันตราย...... ตีหน้าจริงจังอย่างกับผู้ใหญ่ เลือดร้อนจริง ๆ เล้ย"
ลอยด์ "ชั้นว่าชั้นไม่เห็นจะเลือดร้อนตรงไหน...... ------แต่ต่อไป ก็อยากจะทำงานร่วมกับทุกคนแบบนี้อีก ถึงจะมีส่วนที่ยังอ่อนหัดเหมือนกัน...... แต่ถ้าเป็นสมาชิกกลุ่มนี้แล้วล่ะก็ ไม่ว่าจะเป็นกำแพงแบบไหน ก็จะรวมพลังกัน ข้ามผ่านมันไปได้"
เอลี่ "ละ ลอยด์......"
แรนดี้ "ฮะฮะ...... พูดไรเนี่ย"
ทีโอ "......เน่าเกินไปแล้วค่ะ......"
- "คึคึ...... ฮ่าฮ่าฮะฮะ!" หัวหน้าแผนกเซอร์เกย์หัวเราะออกมาดังลั่น
ลอยด์ "มะ ไม่ต้องหัวเราะขนาดนั้นก็ได้ เอ่อ...... หรือว่าจะเพ้อฝันมากเกินไปหรือครับ?"
หัวหน้าแผนกเซอร์เกย์ "คึคึ...... ก็นะ ก็ดีแล้วนี่? ที่ [แผนกสนับสนุนภารกิจพิเศษ] ถูกก่อตั้งขึ้นมา ก็ด้วยโซ่ตรวนต่าง ๆ นั่นแหละ...... แต่จะใช้สถานที่นั้นยังไง ก็เป็นอิสระของพวกนาย"
ลอยด์ "อา......"
หัวหน้าแผนกเซอร์เกย์ "ชั้นคงไม่จำเป็นต้องให้พวกนายยืมพลังกันตรง ๆ แล้วล่ะ...... ถึงจะทำอะไรกันเกินไปก็จะคอยบัง ๆ ไว้ให้ พวกคนใหญ่คนโตจะได้ไม่มาจับผิดเอาได้"
ลอยด์ "หัวหน้าแผนก......"
เอลี่ "หึหึ...... สรุปก็คือ ยึดถือหลักการไม่เข้ามายุ่งเกี่ยวสินะคะ"
แรนดี้ "โธ่เอ๊ย ถึงจะรู้หรือไม่รู้ ก็แค่ปัดความรับผิดชอบไม่ใช่เหรอไง"
ทีโอ "ถ้าจะพูดให้ถูก ก็แค่ไม่อยากวุ่นวายนี่คะ......?"
หัวหน้าแผนกเซอร์เกย์ "แหม ก็เพราะผู้ใหญ่ขี้โกงไง   จะจบลงโดยที่ [แผนกสนับสนุนภารกิจพิเศษ] เป็นแค่เพียงพวกเลียนแบบเบรเซอร์หรือไม่...... หรือจะสามารถหาความเป็นไปได้ใหม่ ๆ เจอหรือเปล่า...... ขอชั้นพ่นบุหรี่ไป ชมไปให้เต็มที่เลยแล้วกัน"

- จบบทนำค่ะ



Related entries:
Zero no Kiseki (零の軌跡)


No comments:

Post a Comment