Saturday, October 21, 2017

[บทสรุป] Sora no Kiseki SC - Chapter 3 งานเลี้ยงน้ำชาวิปลาส

บทที่ 3 งานเลี้ยงน้ำชาวิปลาส
第三章 狂ったお茶会
จดหมายข่มขู่ทั้ง 9 ฉบับถูกส่งไปยังสถานที่ต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการร่วมลงนามใน [สนธิสัญญาไม่ทำสงคราม] ซึ่งกำลังจะมีขึ้น ณ ราชคฤหาสน์เอลเบ
พวกเอสเทลได้ทำการตรวจสอบที่มาของจดหมายและค้นหาพ่อแม่ของ "เร็น" เด็กสาวที่เอสเทลรับฝากเอาไว้
แต่แล้ว จู่ ๆ ก็ได้รับเชิญให้เข้าร่วม [งานเลี้ยงน้ำชา] อันแปลกประหลาด
หรือเหตุการณ์ในครั้งนี้ จะมีความเกี่ยวข้องกับ [งูกินหาง] อีกงั้นเหรอ!!?


Walkthrough Chart - Main Quest
ค่ายเรสตอน 『レイストン要塞』
- เรือเหาะโรงงาน [ไลฟ์นิท] 『ライプニッツ号』 ลงจอดที่ลานเทียบเรือเหาะค่ายเรสตอน เพื่อทำการซ่อมบำรุงยานลาดตระเวนความเร็วสูง [อัลเซยู] 『アルセイユ』 ตามกำหนดการ
หัวหน้าซ่อมบำรุงกุสตาฟ "โอ้ ดูเหมือนว่าอัลเซยูจะมาถึงก่อนแล้วนะ ก๊าก ---- จะดูกี่ทีกี่ทีก็เป็นเรือเหาะที่ทำให้ตื่นเต้นได้อยู่เรื่อย ๆ เลยนะเนี่ย"
เฟย์ "จริงด้วยค่ะ...... ตกหลุมรักซะแล้วสิเนี่ย ถ้าได้ซ่อมบำรุงเรือเหาะแบบนี้ทุกวันแล้วล่ะก็ ถือเป็นโชคดีสุด ๆ ของช่างซ่อมบำรุงเลยนะคะ"
หัวหน้าซ่อมบำรุงกุสตาฟ "เหอะ นั่นมันคำพูดของชั้นต่างหาก"
- "ไง หัวหน้าซ่อมบำรุงกุสตาฟ มีงานรัดตัวแท้ ๆ แต่ยังอุตส่าห์มาช่วยอีกนะ" เสียงชายคนหนึ่งดังขึ้นมาจากอีกด้าน
หัวหน้าซ่อมบำรุงกุสตาฟ "ไง พันโทซีด เป็นนายออกมารับอีกแล้วเรอะ ไม่ใช่ว่าออกจากการเป็นหัวหน้ากองกำลังรักษาความปลอดภัยไปแล้วเหรอไง?"
พันโทซีด "ฮะฮะ ไม่ใช่อย่างนั้นหรอก ที่จริงแล้ว หลังจากนี้มีกำหนดการที่จะต้องออกบินไปกับยานรักษาความปลอดภัยพร้อมกับพวกลูกน้อง เพราะอย่างนั้นก็เลยมีเวลาว่างไปจนกว่าจะตระเตรียมอะไรเสร็จ ก็เลยออกมารับเองน่ะ"
หัวหน้าซ่อมบำรุงกุสตาฟ "เหนื่อยหน่อยนะ จริงสิ ได้ยินมาว่าทางนี้ก็เกิดแผ่นดินไหวด้วยไม่ใช่เหรอไง? อัลเซยูคงไม่ได้เสียหายหรอกนะ?"
พันโทซีด "เปล่าหรอก อัลเซยูเพิ่งมาถึงหลังจากเกิดแผ่นดินไหวไปแล้วน่ะ แต่ถึงจะเป็นแผ่นดินไหว อัลเซยูที่ติดตั้งอุปกรณ์ต่าง ๆ อย่างครบครันก็ไม่น่าจะได้รับความเสียหายอะไร แล้วสถานที่ตั้งของที่นี่ก็ใช้เพื่อการนั้นอยู่แล้วด้วย"
หัวหน้าซ่อมบำรุงกุสตาฟ "ช่วยได้มากเลยนะนั่น แต่ตอนนี้ชั้นอยากจะรีบ ๆ เริ่มงานไว ๆ แล้ว แล้ว...... พวกหน่วยองครักษ์ไปอยู่ที่ไหนกันซะล่ะ?"
พันโทซีด "อ้อ...... จะนำทางให้นะ ถ้าไปตอนนี้อาจจะได้ดูอะไรที่น่าสนใจก็เป็นได้"
หัวหน้าซ่อมบำรุงกุสตาฟ "หา?"
- ณ สนามฝึกซ้อมของค่ายเรสตอน พรั่งพร้อมไปด้วยเหล่าพลทหารกองทัพราชอาณาจักรและเหล่ากองกำลังรักษาพระองค์
นายพลมอร์แกน "ทั้ง 2 คน เตรียมตัว!"
- "คาซิอุส" และ "ร้อยเอกยูเลีย" จัดอาวุธของตนเตรียมตัวพร้อมประลองฝีมือ
- "เริ่มได้!" นายพลมอร์แกนสั่งเริ่มการประลองด้วยเสียงอันดังลั่น
- "ย๊าาาาาาาาาาาาา" ร้อยเอกยูเลียชิงโอกาสบุกเข้าโจมตีก่อน แต่เธอไม่อาจทำอะไรคาซิอุสได้เลย
ร้อยเอกยูเลีย "คึ......"
คาซิอุส "เป็นอะไรไป!? การเคลื่อนไหวมันส่อให้เห็นกันโต้ง ๆ เกินไปแล้วนะ! ดาบเรียวนั่นน่าจะมีการโจมตีที่ลื่นไหลได้อยู่แล้ว! นึกถึงเรื่องที่เคยสอนให้ออกสิ!"
ร้อยเอกยูเลีย "คะ...... ค่ะ!"
- ร้อยเอกยูเลียเข้าโจมตีคาซิอุสอีกครั้ง
คาซิอุส "ทำได้ดี...... ถ้างั้น ทางนี้ก็จะบุกล่ะนะ!"
- คาซิอุสเริ่มเปิดฉากเข้าโจมตียูเลีย โดยที่ยูเลียทำได้แค่เพียงตั้งรับ แต่เพราะคาซิอุสคอยแนะแนวทางการต่อสู้ให้เธอ ยูเลียจึงพยายามหาโอกาสโจมตีไปด้วยป้องกันไปด้วย
- การประลองดำเนินต่อไปเรื่อย ๆ เมื่อรู้ผลแล้ว นายพลมอร์แกนจึงสั่งให้ทั้ง 2 คนหยุดมือ ตามมาด้วยเสียงปรบมือชื่นชมจากเหล่าพลทหารและเหล่าองครักษ์ แม้ร้อยเอกยูเลียจะทำได้ดีแต่ก็ไม่อาจเอาชนะอาจารย์ของเธอได้
คาซิอุส "หึหึ สมกับที่เป็นเธอนะ เมื่อก่อน ตอนที่ชั้นสอนเธอก็แค่หลักการขั้นพื้นฐาน แต่.... ก็อุตส่าห์มาถึงขั้นนี้ได้ด้วยกำลังของตนเอง"
ร้อยเอกยูเลีย "มะ...... ไม่หรอก...... ดิฉันยังอ่อนประสบการณ์ค่ะ......"
นายพลมอร์แกน "เป็นการประลองที่ดี"
ร้อยเอกยูเลีย "ท่านนายพล แต่ว่า......"
นายพลมอร์แกน "บอกตามตรง ไม่คิดว่าเธอจะมาได้ถึงขนาดนี้ ถึงจะเป็นคู่มือระดับที่สมน้ำสมเนื้อกับคาซิอุส แต่ดาบก็คงจะถูกปัดออกจนกระเด็นนั่นแหล่ะ"
ร้อยเอกยูเลีย "ขะ ขอบคุณค่ะ....... แต่ว่า โอกาสเช่นนี้ไม่ค่อยจะมีเท่าไรนัก...... ถ้าเป็นไปได้ก็อยากจะประลองต่อไปจนกว่าฝีมือจะเข้าที่ จะอนุญาตได้หรือไม่คะ?"
นายพลมอร์แกน "หึฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า! ท่าทางจะฝากฝังได้นะนี่ เอาไงดีล่ะ คาซิอุส?"
คาซิอุส "หึหึ อยากจะประลองกันต่อให้มากกว่านี้เหมือนกัน แต่...... ดูเหมือนว่าจะมีแขกนะครับ"
- คาซิอุสหันไปยังด้านที่พันโทซีดและหัวหน้าซ่อมบำรุงกุสตาฟกำลังเดินเข้ามา กุสตาฟจะรู้สึกทึ่งกับการประลองเมื่อสักครู่มาก
- หลังจากยูเลียและกุสตาฟแนะนำตัวให้กันและกันแล้ว คาซิอุสจะสั่งให้ทหารเลิกแถวเพื่อไปประจำตามหน้าที่ของแต่ละคน ส่วนร้อยเอกยูเลียจะพากุสตาฟไปยังอัลเซยูเพื่อดำเนินการซ่อมบำรุงค่ะ
พันโทซีด "หึหึ...... ยอดเยี่ยมนะครับ หล่อนน่ะ จากนี้ไปคงจะพัฒนาฝีมือไปได้มากกว่านี้แน่"
คาซิอุส "อา ใช่แล้ว ------อีก 1 หรือ 2 ก้าว ก็คงตามนายหรือริชาร์ดทันแล้วล่ะมั๊ง"
นายพลมอร์แกน "ฮืม พอมองคนหนุ่มสาวแบบนั้นแล้ว ร่างกายแก่ ๆ นี่ก็รู้สึกคึกคักขึ้นมาเหมือนกันนะ ------ คาซิอุส หลังจากนี้มาประลองกันหน่อยมั๊ยล่ะ?"
คาซิอุส "ท่านนายพล...... ควรพิจารณาหน่อยนะครับว่ามันไม่เป็นการดีต่ออายุอานามขนาดนั้นเลยน่ะ?"
นายพลมอร์แกน "อึอึก......"
คาซิอุส "เท่าที่ได้ยินมา งานประลองยุทธ์เมื่อปีที่แล้วก็อดปรากฏตัวอย่างยิ่งใหญ่เลยใช่ไม๊ล่ะครับ? อีกเดี๋ยวก็ต้องให้โอกาสคนหนุ่มสาวบ้างแล้วนะครับ"
นายพลมอร์แกน "ฮึ่ม เพราะงั้นก็เลยมอบหมายให้เจ้ารับตำแหน่งผู้บังคับบัญชาไงล่ะ ถ้าพูดถึงขนาดนั้นแล้ว จะให้เจ้าทำงานแบบไม่มีบ่นเลยก็แล้วกันนะ?"
คาซิอุส "โอ๋ยโหย๋ ทำให้เรื่องมันยิ่งแย่ไปกันใหญ่แล้วสิเนี่ยเรา"
พันโทซีด "หึหึ......"
นายพลมอร์แกน "จริงสิพันโทซีด ได้ยินมาว่าวันนี้ต้องออกเดินทางสินะ?"
พันโทซีด "ครับ กำหนดการตอนเที่ยงวัน นำกองร้อย 3 กอง ใช้ยานรักษาความปลอดภัย 2 ลำครับ"
นายพลมอร์แกน "ชั้นจะเข้าร่วมในพิธีลงนามด้วย จนกว่าจะถึงตอนนั้นก็เลยไปไหนไม่ได้ เรื่องปกป้องนครหลวงน่ะ ฝากด้วยนะ"
พันโทซีด "วางใจได้เลยครับ และก็จะขอความร่วมมือไปยังสมาคมเบรเซอร์ด้วย"
นายพลมอร์แกน "อะ อืม...... เพราะมันไม่ใช่เรื่องเล็ก ๆ เฉพาะคราวนี้ก็คงต้องเป็นอย่างนั้นล่ะ"
คาซิอุส "หึหึ ดูเหมือนว่าความเกลียดชังกิลด์ของท่านนายพลจะเริ่มหายไปบ้างแล้วนะครับ"
- หน้าค่ายเรสตอนปรากฏร่างของหญิงสาวท่าทางคุ้นตาอำพรางตัวเฝ้ามองห่างออกไป
คาโนเน่ "เซนเซอร์ออร์บเมนท์ที่หอสัญญาณ แล้วยังมีทุ่นระเบิดติดตั้งใต้น้ำอีก ช่างเป็นการป้องกันที่สมบูรณ์แบบจริง ๆ นะ...... ฮึ่ม ช่วยไม่ได้...... อย่างที่พวกนั้นบอก ต้องใช้นั่นอย่างเดียวเท่านั้นสินะ ท่านคะ...... อีกไม่นานค่ะ ยังไงก็ช่วยรอจนถึงตอนนั้นนะคะ"



เมืองไซสส์ 『ツァイス市』
- เลือกเพื่อนร่วมทีมต่อสู้ และไปยังท่าเทียบเรือเหาะเพื่อมุ่งหน้าสู่นครหลวงแกรนเซลค่ะ
☆อย่าลืมแวะไปดูบอร์ดรับงานด้วยนะคะ จะมีซับเควสต์ให้ทำในช่วงนี้ค่ะ ดูรายละเอียดในหัวข้อซับเควสต์ของบทที่ 2 ได้เลยนะคะ☆
(20) ค้นหาแขกพักแรม
★ในกรณีที่ไม่ได้เลือก "โอลิเวียร์" และ "คลอเซ่" หรือ "ทีต้า" เข้ากลุ่มต่อสู้ ลองไปคุยกับโอลิเวียร์บนชั้น 2 ของสาขา (เลือกคำสั่งที่ 2 ไม่เอาเข้ากลุ่ม) จะมีบทพูดของโอลิเวียร์แนว ๆ ว่า จะขอใช้เวลาที่มีอยู่อันน้อยนิดก่อนที่จะขึ้นเรือเหาะอยู่ข้าง ๆ องค์หญิงหรือทีต้าคุงให้ดื่มด่ำไปเลยค่ะ
(เฮ้อ นายเนี่ยน๊า กะเด็กก็ไม่เว้น)
★ถ้าแวะไปคุยกับ "เอลูค" 『エィルク』 ที่ "บริษัทค้าอาวุธสไตน์" จะได้รับทราบว่า ตอนนี้ "บริษัทไลน์ฟอลท์แห่งจักรวรรดิ" 『ラインフォルト社』 และ "บริษัทเวล์นแห่งสาธารณรัฐ" 『ヴェルヌ社』 เป็น 2 ผู้ผลิตปืนออร์บเมนท์รายใหญ่ของทวีปนี้ค่ะ แต่แน่นอนว่าวิทยาการออร์บเมนท์ของ "โรงงานกลางไซสส์ [Ziess Central Factory]" แห่งราชอาณาจักรลีเบร์ลก็ไม่น้อยหน้าใครค่ะ
★คุยกับ "หว่อง" 『ウォン』 เบรเซอร์ประจำสาขาไซสส์ในร้านขายอาวุธนี้ เขาจะบอกว่าดูเหมือน "กุนดอล์ฟ" 『グンドルフ』 ที่ไปช่วยงานที่นครหลวงก็กำลังเดินทางกลับมาที่ไซสส์ค่ะ
(เพื่อน ๆ บางคนอาจจะยังไม่ทราบว่า ช่วงนี้เบรเซอร์ขาดแคลนกำลังคนค่ะ เบรเซอร์ประจำสาขาต่าง ๆ จะสลับกันเดินทางไปช่วยเหลือสาขาอื่น ๆ ที่ตัวเองไม่ได้สังกัด เหมือนอย่างพวกเอสเทลในตอนนี้ค่ะ)
★หากไปที่หน้าโรงงานกลางก่อนทางเข้าไปท่าเทียลเรือเหาะ จะพบกับ "กุนดอล์ฟ" ที่ "หน้าร้านเครื่องดื่มพรีแอม" (รถเข็น) ค่ะ เขาจะทักทายเบรเซอร์รุ่นพี่ของเรา (อากัตหรือเจ๊เชร่า) (กรณีของ "เจ๊เชร่า" กุนดอล์ฟ จะบอกว่า "ดูมีเสน่ห์ขึ้นนะ เชราซาร์ด" ด้วยนะคะ) แล้วก็จะหันมาขอบคุณเอสเทลที่มาช่วยงานสาขาไซสส์ในช่วงที่เขาไม่อยู่ค่ะ ซึ่งเราจะบอกเขาไปว่าพวกเรากำลังจะออกเดินทางไปยังนครหลวงเพราะได้รับคำไหว้วานจากทางกองทัพ แต่กุนดอล์ฟบอกว่าตอนที่เขาออกมาจากนครหลวงไม่เห็นจะได้ยินเรื่องอย่างนั้นเลยค่ะ แต่เขาก็ไม่แน่ใจว่าจะเป็นคำไหว้วานหลังจากที่เขาออกเดินทางมาแล้วหรือเปล่า ก็เลยฝากให้พวกเราช่วยดูแลงานที่นครหลวงต่อด้วยค่ะ
★หากไปคุยกับ "ฟรายดี้" ที่โรงงานกลางชั้น 1 เขาจะถามเอสเทลว่าจะกลับไปรอเลนซ์เมื่อไร ซึ่งเอสเทลจะบอกว่ายังไม่รู้ค่ะ เพราะต่อจากนี้พวกเธอต้องไปที่นครหลวงต่อ ซึ่งฟรายดี้บอกว่าเขากำลังจะกลับไปรอเลนซ์ เพราะใกล้จะเรียนวิจัยออร์บเมนท์รุ่นใหม่จบแล้ว และถ้าเอสเทลกลับไปที่รอเลนซ์ก็เชิญที่ร้านเขาได้ทุกเมื่อค่ะ
★หากไปที่ชั้น 2 ห้องเอกสารจะพบ "คอนสแตนเช่" กับ "มิว" (เพื่อนทีต้า) กำลังคุยกันเรื่องหนุ่ม ๆ ในโรงงานกลางค่ะ
★หากไปคุยกับ "ทีเอรี่" ที่ห้องทดลอง บนชั้น 4 เขาจะบอกว่าเด็กใหม่ที่ชื่อ "มิว" น่ารักมาก เขาก็พยายามคิดถึงแต่เรื่องการทดลอง แต่ทำยังไง ๆ ก็ไม่สามารถลบเรื่องสาวน้อยที่ชื่อ "มิว" ออกไปจากหัวได้เลยค่ะ (สะดุดรักกลางโรงงาน)
★หากไปที่ชั้น 2 ห้องหัวหน้าโรงงานจะพบ "หัวหน้าโรงงานเมอร์ด็อกซ์" กับ "ดร. รัซเซล" กำลังคุยกันเรื่องรายงานจากทางกองทัพที่ทำการตรวจสอบเครื่องสร้างภาพเสมือน ที่พวก [งูกินหาง] ใช้ตอนเหตุการณ์ในพื้นที่รูอันค่ะ
ท่าเทียบเรือเหาะ 『発着場』
- คุยกับ "ประชาสัมพันธ์ซีราล" 『ジラール』 ตรงเคาน์เตอร์ หากไม่ลืมอะไรแล้ว ก็เลือกหัวข้อที่ 2 เพื่อเซ็นเอกสารการขึ้นเรือประจำทาง แล้วเตรียมตัวออกเดินทางได้เลยค่ะ
เซชิเรีย 『セシリア号』
- คุยกับทุกคนบนเรือประจำทางค่ะ
◆ในกรณีที่มากับเจ๊เชร่า "โอลิเวียร์" จะดีดลูทให "เจ๊เชร่า" ฟังในห้องชมวิวค่ะ (แน่นอนว่าต้องเป็นเพลงประจำตัวนายติ๊งต๊อง "ความรักสีอำพัน") จากตรงนี้จะรู้ว่าโอลิเวียร์น้อยใจเจ๊แกอยู่นิด ๆ เพราะเขาถึงขนาดเอ่ยปากชวนเจ๊แกไปเที่ยวบ่อน้ำพุร้อนด้วยกันก็แล้ว เตรียมใจยอมให้มอมเหล้าก็แล้ว แต่กลับได้รับคำปฏิเสธกลับมา แต่เจ๊เชร่าให้เหตุผลว่าเธอไม่ว่างค่ะ และไม่ได้ตั้งใจจะทำให้โอลิเวียร์เมาถึงขนาดที่พูด แค่อยากจะให้โอลิเวียร์ค่อย ๆ ดื่มไปเรื่อย ๆ เท่าที่ตัวเองพอไหวน่ะค่ะ (โห มีส่วนใจดีเหมือนกันนะเจ๊) แต่เอสเทลบอกว่าเจ๊เชร่าก็ดื่มโดยไม่รู้จักให้พอดีเหมือนกันค่ะ ยังไงก็ตามเจ๊เชร่าจะให้โอลิเวียร์เตรียมใจเอาไว้เท่าที่จะดื่มไหว แต่สำหรับไอน่าน่ะไม่แน่ แค่ได้ยินประโยคนี้ โอลิเวียร์ก็สั่นสะท้านไปทั้งตัวเลยค่ะ และบอกว่าอย่าพูดถึงเรื่องนั้นเพราะมันทำให้เขานึกถึงตอนที่ไปรอเลนซ์ครั้งแรกค่ะ
◆คุยกับ "โอลิเวียร์" อีกครั้ง เขาจะบอกว่าเชร่าคุงน่ะ ดื่มมาก ๆ แล้วหน้ายังแดงขึ้นมาบ้าง แต่ไอน่าคุงน่ะ ดื่มเท่าไรสีหน้าก็ไม่เปลี่ยนไปเลย
◆คุยกับ "ทีต้า" และ "คลอเซ่" บนดาดฟ้า ทีต้าจะบอกว่าคุณคลอเซ่เล่าเรื่องตอนงานเทศงานโรงเรียนให้เธอฟังค่ะ เธอก็เลยอยากเห็นตอนพวกเอสเทลแสดงบ้าง คลอเซ่จึงชวนทีต้าไปดูปีหน้าและบอกว่าคงต้องขอร้องให้พวกเอสเทลขึ้นแสดงอีกครั้งแล้วแหล่ะ แล้วเอสเทลจะถามถึงเรื่องพ่อแม่ของทีต้าค่ะ
◆คุยกับ "ทีต้า" อีกครั้ง เธอจะอธิบายถึงเรื่องทำไมลมบนดาดฟ้าไม่พัดเบามาก ทั้ง ๆ ที่ความเร็วสูงขนาดนี้
(แน่นอนว่าสมองระดับเอสเทลจะไม่ค่อยเข้าใจ ส่วนคลอเซ่จะเข้าใจแค่ครึ่งเดียวค่ะ)
◆คุยกับ "คลอเซ่" เธอจะพูดว่าอยากจะเขียนจดหมายไปหาพวก ผอ. เทเรซ่า ค่ะ
◆ในกรณีที่มากับอากัต "อากัต" กับ "ทีต้า" จะนั่งคุยกันอยู่ในห้องชมวิวค่ะ อากัตจะถามไถ่ความรู้สึกของเอสเทลที่ไปฝึกฝนที่ [ลู=ล็อคเคิล] แถมต้องนั่งเรือประจำทางถึงครึ่งวันค่ะ (แต่เอสเทลบอกว่าขึ้นไปนั่ง ก็หลับทันที) ทีต้าได้ฟังแล้วก็อยากจะลองไปต่างประเทศดูซักครั้ง เผื่อจะได้พบคุณพ่อกับคุณแม่ก็เป็นได้ค่ะ อันที่จริงพ่อแม่ของเธอก็ไม่ได้กลับมา 2 ปีแล้ว เอสเทลคิดว่าระยะเวลาขนาดนั้นมันก็นานอยู่เหมือนกัน แต่ทีต้าบอกว่าเธอส่งจดหมายไปหาพ่อกับแม่เดือนละครั้งค่ะ ก่อนหน้านี้ก็เขียนไปเล่าเรื่องของพวกเอสเทลด้วย เอสเทลอยากรู้ว่าพ่อแม่ของทีต้าเป็นคนยังไง ทีต้าจึงเล่าว่า
ทีต้า "แม่เป็นคนที่ร่าเริงและเป็นคนที่ให้ความรู้สึกว่ามีพลังอยู่เต็มเปี่ยม แต่ก็ชอบทะเลาะกับคุณตาประจำเลย แต่ก็ไม่ได้เกลียดกันนะ คุณพ่อน่ะบอกว่าที่พวกเขาทำ ก็เป็นการแสดงความรักของพ่อลูกแบบเด็ก ๆ ก็เท่านั้นเองจ้ะ ส่วนคุณพ่อก็เป็นคนใจดี เป็นห่วงเป็นใยผู้อื่น และก็เคยเป็นเบรเซอร์จนถึงเมื่อ 10 ก่อนด้วยจ้ะ"
(ตรงนี้อากัตก็เคยได้ยินปู่รัซเซลเล่ามาเหมือนกันว่า พ่อของทีต้าเคยเป็นเบรเซอร์ที่เก่งมาก ๆ แต่เพราะได้รับบาดเจ็บจึงล้างมือจากวงการค่ะ)
ได้ยินดังนั้นเอสเทลก็เลยอยากจะเจอบ้าง ทีต้าเลยบอกว่าถ้าพ่อแม่เธอกลับมาจะแนะนำให้เอสเทลรู้จัก รวมทั้งคุณอากัตด้วย อากัตเลยงง ๆ ว่าทำไมต้องแนะนำเขาด้วยล่ะ จากเหตุผลของทีต้าก็เพราะอากัตเป็นเพื่อนที่ดีของคุณตาเธอ และเธอก็เคยเขียนจดหมายเล่าเรื่องของอากัตส่งไปให้พ่อกับแม่อ่านด้วยค่ะ อากัตก็จำยอมแบบเลยตามเลย บอกว่าถ้าเขามีงานที่ต้องแวะมาที่ไซสส์จะเข้าไปทักทายพ่อแม่ของทีต้าก็แล้วกันค่ะ
◆คุยกับ "ทีต้า" เธอจะอธิบายว่าทำไมลมถึงพัดแค่เบา ๆ บนดาดฟ้าของเรือประจำทาง ซึ่งโดยปกติจะต้องพัดแรงมาก ๆ เมื่อเทียบกับระดับความเร็วขนาดนี้ นั่นก็เพราะว่าเป็นผลมาจาก [เครื่อจักรลอยตัว] ที่ทำให้เรือเหาะบินไปบนท้องฟ้าได้ค่ะ เพราะในขณะที่เครื่องจักรทำงานอยู่ จะสร้างสนามพลังต้านแรงโน้มถ่วงขึ้นรอบ ๆ เรือทั้งลำ ทำให้ลมหรือแรงเฉี่อยไม่มีผลค่ะ
(เอสเทลจะถามอากัตเบา ๆ ว่า เข้าใจไม๊ ซึ่งอากัตเองก็ไม่เข้าใจที่ทีต้าอธิบายเหมือกันค่ะ ---ก็ระดับสมองของ 2 คนนี้ มันเท่า ๆ กันน่ะนะ)
ทีต้าเพิ่มเติมอีกว่าเครื่องจักรลอยตัวที่ว่าก็ใช้พลังงานจาก [ออร์เบิลเอนจิ้น (เครื่องยนต์ออร์บเมนท์)] นั่นแหล่ะค่ะ เอสเทลกับอากัตเลยพอจะรู้เรื่องอยู่บ้าง
◆ส่วน "โอลิเวียร์" จะดีดลูทให้ "คลอเซ่" กับ "ซิก" ฟังบนดาดฟ้าของเรือค่ะ ซึ่งคลอเซ่เหมือนโดนบังคับแกม ๆ ให้ฟังเพลงของโอลิเวียร์ แต่เธอก็ชมจากใจจริงว่าเป็นเพลงที่ไพเราะมาก ๆ ค่ะ โอลิเวียร์เลยได้ใจชวนคลอเซ่ไปฟังเพลงกัน 2 ต่อ 2 หลังจากไปถึงนครหลวงแล้วค่ะ (จีบด่ะจริง ๆ) ซิกส่งสายตาปิ๊งปั๊ง แล้วบินรอบ ๆ ตัวโอลิเวียร์ ทำให้เขามึนไปเลย (คลอเซ่บอกว่า นั่นเป็นการแสดงความรักของซิกค่ะ) แต่ยังไงก็ตามเอสเทลก็ได้ขู่โอลิเวียร์ว่า "ถ้าเป็นคุณยูเลียล่ะก็ ไปพูดจาล้อเล่นแบบนี้ไม่ได้หรอกนะ" แต่ตาติ๊งต๊องก็ไม่สะทกสะท้านใด ๆ ทั้งสิ้นค่ะ กลับบอกว่า "ถ้ามีโอกาสจะลองหาทางใกล้ชิดดู" ซะอย่างนั้น แต่คลอเซ่บอกว่าอย่าทำเป็นเล่นกับคุณยูเลียจะดีกว่า เพราะว่างานเลี้ยงที่จัดขึ้นในราชวังก่อนหน้านี้ มีพวกผู้ชายเมาเข้ามายุ่มย่ามกับพวกเธอ ยูเลียเอาดาบฟันเสื้อผ้าของคนพวกนั้นขาดจนโป๊หมดเลยค่ะ (เอสเทลกับคลอเซ่ หน้างี้แดงแจ๊ดเลยค่ะ) แค่นั้นแหล่ะโอลิเวียร์ก็อึ้งกิ่มกี่ไปเลย
◆คุยกับ "โอลิเวียร์" นายติ๊งต๊องบ้ายออีกครั้ง นายเนี่ยไม่รู้จักยอมแพ้จริง ๆ (สงสัยจะเป็นข้อดีเพียงหนึ่งเดียว) บอกว่าถึงโป๊ก็จะบรรเลงบทเพลงแห่งรักด้วยลูทนี้ต่อหน้ายูเลียให้ได้
◆คุยกับ "คลอเซ่" อีกครั้ง เธอบอกว่าเหตุการณ์ในคราวนั้น (ที่ฟันเสื้อผู้ชายขาด จนโป๊น่ะค่ะ) มีลงใน "ลีเบร์ลสาร" ด้วย นับแต่นั้นมาไม่ว่าจะเป็นผู้คนในวงสังคมหรือชาวเมืองก็กลายมาเป็นแฟนคลับของคุณยูเลีย แถมจำนวนแฟนคลับ (ผู้หญิง) ยังเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วเสียด้วยสิ
★ไปคุยกับ "จิน" จินจะครุ่นคิดเรื่องในอดีตอยู่คนเดียว (เรื่องของวอลเตอร์) เอสเทลจะถามว่าชายแว่นกันแดดนั่นเป็นคนยังไง
จิน "ไม่ว่าจะพูดยังไงก็เป็น [อัจฉริยะ] เต็มเปี่ยมไปด้วยเซนส์ในการต่อสู้ ประสาทสัมผัสในการตอบรับก็ดีเยี่ยม ทั้งร่างกายที่ทรงพลัง ทั้งความเร็ว แถมยังเป็นผู้ใช้ [ลมปราณ] ที่ยอดเยี่ยม ไม่ว่าจะด้านไหนก็เป็นสุดยอดในหมู่สุดยอด"
เอสเทล "จะว่าไปการเคลื่อนไหวนั่นก็ยอดเยี่ยมจริง ๆ นั่นแหล่ะ ถ้าพูดถึงกำลังเพียว ๆ กับความเร็วแล้ว อาจจะเหนือกว่าร้อยตรีโรแลนซ์นั่นก็ได้"
จิน "......คงจะเป็นอย่างนั้น เมื่อ 6 ปีก่อนสมัยที่ยังอยู่ในสำนัก ชั้นน่ะ เคยหลงใหลในความแข็งแกร่งของหมอนั่น --------- จนกระทั่งหมอนั่นจัดการ [อาจารย์ริวง่ะ] ด้วยมือของมันเองน่ะ"
เอสเทล "!!! .......อาจารย์ของตัวเอง!?"
จิน "ถ้าจะให้พูด ก็เป็นการประลองที่ทั้ง 2 คนยอมรับนั่นแหล่ะ อาจารย์น่ะมองความมืดมิดในจิตใจของหมอนั่นได้อย่างทะลุปรุโปร่งมาตั้งแต่แต่เมื่อก่อนแล้วล่ะ หลงมัวเมาไปกับพลังอันเปี่ยมล้นของตนเอง ไล่ตามความแข็งแกร่งไม่รู้จักจบสิ้น -------- อาจารย์ว่ากล่าวตักเตือนเรื่องที่เป็นอันตรายแก่พวกเรา สั่งสอนจิตใจแห่งวิทยายุทธ์ เพิ่มพูนจิตใจผ่านการต่อสู้ จิตใจแห่ง [ฝ่ามือรักษ์ชีวี] ของ [สำนักไทโตะ] น่ะ"
เอสเทล "[ฝ่ามือรักษ์ชีวี]...... เท่ห์ไปเลยแฮะ"
จิน "แต่ผลสุดท้าย จิตใจนั่นก็ส่งไปไม่ถึงวอลเตอร์ และแล้วหมอนั่นก็หลงมัวเมาเข้าสู่ด้านมืดแห่งวิทยายุทธ์"
เอสเทล "ดะ ด้านมืดแห่งวิทยายุทธ์......!?"
จิน "เป็นวิทยายุทธ์ที่ไม่ยอมรับว่าเทคนิคการต่อสู้ที่มีได้มาถึงทางตันแล้ว...... ฝ่ามือที่แปรเปลียนตนเองให้กลายเป็นยักษ์ จ้องเอาแต่ชีวิตของอีกฝ่าย กล่าวคือ [ฝ่ามือฆ่าคน] ยังไงล่ะ"
เอสเทล "อ๊ะ......"
จิน "และแล้ว อาจารย์ก็เสี่ยงทำการประลองกับหมอนั่นที่ได้ตัดสินใจลาออกจากสำนักเพื่อที่จะไปไขว่คว้าสิ่งนั้น...... ผลสรุปนำไปสู่การสูญเสียชีวิต...... ......ในฐานะที่ชั้นเป็นแค่คนดูก็ทำได้แต่เพียงเฝ้าดูการประลองเท่านั้น"
เอสเทล "......คุณจิน........."
จิน "แล้วหลังจากเกิดเรื่องอย่างนั้นขึ้น ชั้นก็ออกตามหาวอลเตอร์ที่หายตัวไปเรื่อยมา แต่แล้วก็กลับมาพบกันอีกครั้งที่ลีเบร์ลนี่น่ะ...... นี่อาจจะเป็นการชี้นำของเทพธิดาก็เป็นได้"
- จินเห็นเอสเทลรู้สึกไม่สบายใจจึงขอโทษที่เล่าเรื่องน่าเบื่ออย่างนี้ให้ฟัง เอสเทลจึงถามจินว่า "ที่ตามหาผู้ชายคนนั้นอยู่ ก็เพื่อแก้แค้นให้อาจารย์อย่างงั้นเหรอ?" แต่จินบอกว่าไม่ใช่ค่ะ เพราะนั่นเป็นการประลองที่ทั้ง 2 ฝ่ายเห็นชอบด้วยกัน เขาไม่มีสิทธิ์ไปก้าวก่าย แต่ที่เขาตามหาวอลเตอร์ก็เพราะอยากจะพิสูจน์อะไรบางอย่าง แต่ตอนนี้เขาตั้งใจจะให้ความช่วยเหลือพวกเอสเทลก่อนค่ะ
★คุยกับ "จิน" อีกครั้ง เอสเทลจะบอกกับจินว่าเธอเริ่มจะเข้าใจความสัมพันธ์ของจินกับชายคนนั้นแล้ว แต่คุณคิริก้าเธอยังไม่ค่อยเข้าใจค่ะ ตรงนี้จินไม่สามารถบอกอะไรมากไปกว่านี้ได้ แต่เรื่องเดียวที่บอกได้นั้นก็คือคิริก้าเป็นลูกสาวของอาจารย์ริวง่ะค่ะ นอกเหนือจากนี้จินบอกให้ไปถามจากคิริก้าโดยตรง สักวันเธออาจจะยอมเล่าอะไรให้พวกเราฟังก็เป็นได้ค่ะ
★คุยอีกครั้ง "จิน" จะบอกว่าถ้าไปถึงนครหลวงแล้วจะลองแวะไปที่ "สถานทูตสาธารณรัฐ" ซึ่งเอสเทลพอจะจำทูตหญิงที่ใส่แว่นได้ จินจะบอกว่าถึงท่านทูตเอลซ่าจะไม่ชอบจักรวรรดิ (อย่างเข้าไส้ด้วย) แต่ก็เป็นผู้หญิงที่เก่งมาก ๆ ค่ะ
- หลังจากคุยครบทุกคนแล้ว ให้ตัดฉากก็จะดำเนินเรื่องต่อไปได้ค่ะ
นครหลวงแกรนเซล 『王都グランセル』
- เมื่อมาถึงแล้ว ก่อนที่เราจะไปสอบถามเอลนันเรื่องที่ทางกองทัพจะทำการไหว้วานเหล่าเบรเซอร์นั้น เราจะสังเกตเห็นว่า [อัลเซยู] ที่จอดอยู่ที่นี่ประจำหายไปค่ะ คลอเซ่จะบอกว่ายานอันเซยูไปที่ค่ายเรสตอนเพื่อไปทำการทดสอบเครื่องยนต์รุ่นใหม่ค่ะ ทีต้าเลยนึกขึ้นมาได้ว่าพวกหัวหน้าซ่อมบำรุงกุสตาฟก็บอกว่าจะไปที่ค่ายเรสตอนด้วยเรือเหาะโรงงานค่ะ ถึงรูปร่างภายนอกของอัลเซยูจะไม่เปลี่ยนแปลงอะไรเพราะเปลี่ยนเฉพาะเครื่องยนต์ แต่เรื่องความเร็วจะต้องเป็นเรือเหาะที่บินได้เร็วที่สุดในโลกแน่นอนค่ะ
สาขาแกรนเซล 『グランセル支部』
- พบกับ "เอลนัน" ที่ได้อ่านรายงานการทำงานของพวกเราจากรูอันและไซสส์แล้ว จึงขอบคุณเราเป็นอย่างมากค่ะ
(เอสเทลสังกัดอยู่กับสาขานครหลวงค่ะ ลองดูในสมุดจดเบรเซอร์ทางการได้นะคะ)
- ถึงจะเจอกับพวก [องค์กร] แต่เอลนันบอกว่า จากนี้ไปทางสมาคมเริ่มได้รับความร่วมมือจากทางกองทัพมากขึ้นกว่าเดิม ทำให้ทำงานได้ง่ายขึ้นค่ะ
- ส่วนเรื่องที่ทางกองทัพต้องการปรึกษานั้น เอลนันยังไม่ทราบรายละเอียดใด ๆ เพราะทางนั้นแจ้งมาว่าเนื้อหาที่จะปรึกษานั้น อธิบายผ่านทางเครื่องมือสื่อสารได้ยากค่ะ เป็นไปได้อย่างมากว่าทางกองทัพกลัวที่จะถูกขโมยข้อมูล
(จากคำบอกเล่าของเอลนัน เครื่องมือสื่อสารออร์บเมนท์ก็สะดวกดีอยู่หรอก แต่ก็มีความเสี่ยงที่จะโดนขโมยข้อมูลได้ง่ายค่ะ สำหรับการติดต่อระหว่างสมาคมด้วยกันก็จะใช้ฟังก์ชั่นแปลงสัญญาณในการป้องกันการขโมยข้อมูล อันที่จริงทางกองทัพก็มีการป้องกันเหมือนกันค่ะ แต่ใช้มาตรฐานการสื่อสารเป็นเอกเทศที่ใช้ได้ในส่วนของกองทัพเท่านั้นค่ะ นางเอกของเราเห็นว่าทางกองทัพทำอะไรให้มันยุ่งยาก ทำไมไม่ใช้ให้เป็นมาตรฐานเดียวกันนะ)
- จากตรงนี้ ตามที่เอลนันก็คาดเอาไว้ว่าเรื่องที่ทางกองทัพจะไหว้วานพวกเบรเซอร์น่าจะเกี่ยวข้องกับ [สนธิสัญญาไม่ทำสงคราม] ค่ะ
(คลอเซ่จะเพิ่มเติมว่าสนธิสัญญาไม่ทำสงคราม เป็นสนธิสัญญาที่องค์ราชินีเสนอให้ 3 ประเทศคือ "ลีเบร์ล" "เอเรโบเนีย" และ "คาลวาร์ด" ร่วมลงนามไม่ทำสงครามกัน แต่ไม่ใช่ว่าหลังจากทำสนธิสัญญาแล้วจะไม่มีสงครามเกิดขึ้นเลย เพียงแต่ลดโอกาสในการเกิดสงครามขึ้นเท่านั้นค่ะ)
เอลนัน "สนธิสัญญาไม่ทำสงครามนั้น จัดให้มีการร่วมลงนามกันที่ [ราชคฤหาสน์เอลเบ] ในปลายสัปดาห์หน้า มีการรวบรวมบุคคลสำคัญจากต่างประเทศ ซึ่งน่าจะเป็นที่จับตามองจากสื่อน่ะครับ ในสถานการณ์แบบนั้น ถ้าหากว่า [องค์กร] วางแผนจะทำอะไรสักอย่างล่ะก็......"
- นอกจากนั้น เอลนันบอกว่าจนกว่าจะถึงวันร่วมลงนาม จะให้พวกเราเตรียมพร้อมที่นครหลวงอย่างอิสระค่ะ
- เสียงเครื่องมือสื่อสารดังขึ้นเอลนันจึงขออนุญาตไปรับสายก่อน ซึ่งคนที่ติดต่อมานั้นไม่ใช่ทางกองทัพ แต่เป็นทางราชคฤหาสน์เอลเบที่ติดต่อมาว่าเด็กที่มาท่องเที่ยวหายตัวไปค่ะ โดยทางหน่วยอารักขาของราชคฤหาสน์กำลังลำบากเพราะหาเด็กคนนั้นไม่เจอ ดังนั้นแล้วพวกเอสเทลจึงขอรับงานนี้ค่ะ
- เอลนันจะให้เราไปคุยกับ "เรมอนด์" คนที่รับฝากเด็กที่หายไปที่ราชคฤหาสน์เอลเบค่ะ
(เอสเทลกับจินจะจำได้ว่าเรมอนด์ที่ว่า คือคนที่เป็นหัวหน้าพ่อบ้านหนุ่มที่เราเคยเจอตอนเหตุการณ์ไปช่วยคลอเซ่ ซึ่งเขาเป็นเพื่อนของไนแอลด้วยค่ะ)

เด็กหลงทางที่ราชคฤหาสน์เอลเบ1-2
『エルベ離宮の迷子①‐②』 {BP2(+5)}
นครหลวงแกรนเซล 『王都グランセル』
☆เลือกเพื่อนร่วมกลุ่มต่อสู้ 2 คนได้เลยค่ะ☆
(22) ประกาศจับสัตว์ปิศาจบนถนนรอบเมืองเอลเบ
(23) ประกาศจับสัตว์ปิศาจที่ทางน้ำใต้ดิน
- อย่าลืมแวะไปซื้อ "ลีเบร์ลสาร ฉบับ 4" ด้วยนะคะ จะไปซื้อที่ "ห้างเอเดล - มุมจิปาถะ" หรือจะไปซื้อที่ "บริษัทเรือเหาะ" ก็ได้ค่ะ
- นอกจากนั้น สำหรับเซียนตกปลาทั้งหลาย อย่าลืมแวะไปคุยกับคุณนาย "นอร์เช" ที่บ้านที่อยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือของเขตเมืองด้านเหนือด้วยนะคะ จะได้เบ็ดตกปลา "ก้านไม้ไผ่" มาไว้ใช้ค่ะ
★หากไปคุยกับ "ลอยด์" บนชั้น 2 ของ [สำนักงานใหญ่สมาพันธ์นักตกปลา] เขาจะกลับมาจากพื้นที่รูอันแล้ว และก็จะถามเอสเทลว่าได้ใช้เบ็ดที่เขาให้ไปบ้างหรือเปล่าค่ะ
◆ในกรณีที่มี "จิน" ร่วมกลุ่ม จะมีบทสนทนาพิเศษระหว่างจินและ "พลทหารทาคุโตะ" 『兵士タクト』 ที่หน้าสถานทูตสาธารณรัฐค่ะ เขาบอกว่าถ้ารู้ว่าคุณจินกลับมาท่านทูตเอลซ่าจะต้องดีใจมาก ๆ ค่ะ
◆ในกรณีที่มี "โอลิเวียร์" ร่วมกลุ่ม จะมีบทสนทนาพิเศษระหว่างโอลิเวียร์และ "พลทหารเบลกัน" 『兵士ベルガン』 ที่หน้าสถานทูตจักรวรรดิค่ะ ซึ่งเขาจะบอกว่าคุณมิวเลอร์โกรธมากที่โอลิเวียร์หายตัวไปจากบ่อน้ำพุร้อนเอลโม เอสเทลพอจะรู้แกวว่าโอลิเวียร์มากับพวกเธอโดยไม่แจ้งให้ทางสถานทูตรู้อีกแล้วค่ะ
★ในกรณีที่เคลียร์ซับเควสต์ (20) ค้นหาแขกพักแรม จะพบ "จิมมี่" ยืนอยู่หน้า "พิพิธภัณฑ์ทางประวัติศาสตร์" และกำลังจะนำ "อาร์ติแฟกซ์" (?) ไปให้ทางพิพิธภัณฑ์ตรวจสอบค่ะ
★หากไปคุยกับ "ซันเท" 『サンテ』 บนชั้น 1 ของพิพิธภัณฑ์ ตอนแรกเอสเทลจะจำเขาไม่ได้ค่ะ จริง ๆ แล้วซันเทก็คือ คนที่วานให้เราไปถ่ายรูปหอคอยฟ้าครามที่เมืองรูอันค่ะ (กรณีที่เคลียร์ซับเควสต์ (2) ถ่ายรูป [หอคอยฟ้าคราม] ค่ะ) เขาจะบอกว่าการตรวจสอบหอคอยไม่คืบหน้าเลย รู้แต่เพียงว่าหอคอยที่ว่านั้น ถูกสร้างขึ้นเมื่อสมัยเซมเรียโบราณเท่านั้นค่ะ
★หากไปคุยกับ "หัวหน้าพิพิธภัณฑ์" 『館長』 เขาจะบอกว่าเมื่อก่อนนี้มี "ศจ. อัลบา" 『アルバ教授』 นักวิชาการที่เก่งมาก ๆ ที่คอยเดินทางไปทั่วเพื่อทำการตรวจสอบหอคอยทั้ง 4 ซึ่งตอนนี้ทางพิพิธภัณฑ์ก็อยากจะสอบถามเขาเกี่ยวกับเครื่องอะไรบางอย่างบนหอคอยเริ่มทำงาน แต่หัวหน้าพิพิธภัณฑ์ก็ไม่รู้เหมือนกันว่า ศจ. อัลบา หายไปไหนค่ะ
(เอสเทลจะรู้สึกว่าเหมือนเธอเคยได้ยินชื่อ "ศจ. อัลบา" มาจากที่ไหนซักแห่ง แต่นึกยังไงก็นึกไม่ออกค่ะ)
★หากไปคุยกับ "นอร์เช" 『ノーチェ』 บนชั้น 2 ของบ้านทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือ ในเขตเมืองด้านเหนือ (ในภาค FC นอร์เชจะไม่เข้าใจสามีของเธอที่เอาแต่บ้าตกปลา มีเวลาว่างเมื่อไรก็ไปตกปลา ทิ้งให้เธอเหงาอยู่บ้านคนเดียว จากนั้นพอเธอเริ่มสมัครเป็นสมาชิกของสมาพันธ์นักตกปลาโดยไม่บอกให้สามีรู้ กลับกลายเป็นว่าฝีมือตกปลาของเธอเก่งกว่าสามีของเธอซะอีกค่ะ) เธอจะมองออกว่าเอสเทลก็ตกปลาเหมือนกัน เธอจึงมอบเบ็ดตกปลา "ก้านไม้ไผ่" ให้เอสเทลไว้ใช้ค่ะ
(เอสเทลจะเขิน ๆ ว่าทำไมนอร์เชถึงรู้ได้ว่าเธอก็ตกปลาเหมือนกัน มันมีอะไรบ่งบอกงั้นหรือเนี่ย)
★หากไปคุยกับเมด "ดาเลีย" 『ダリア』 ที่คฤหาสน์ของนายพลมอร์แกน ในเขตเมืองทิศตะวันตก (ข้าง ๆ มหาวิหารแกรนเซล) เธอจะบอกว่านายพลมอร์แกนน่ากลัวก็จริง แต่กลัวภรรยาเป็นที่สุดค่ะ
(เข้าตำรา "กลัวเมีย" จ้า)
★ส่วน "คุณนายแคทรีน่า" 『カテリナ夫人』 จะบอกว่าตอนที่นายพลมอร์แกนได้ยินว่านายพลจัตวาคาซิอุสจะกลับมาเข้ากองทัพ ท่านนายพลทำหน้าตาดีใจมาก ๆ ค่ะ ซึ่งคุณนายแคทรีน่าอยากจะให้พวกเราได้เห็นหน้าตอนนั้นของสามีเธอเหลือเกิน
★"รีอานู" 『リアーヌ』 หลานสาวท่านนายพล จะจำได้ว่า เอสเทลเคยช่วยเธอตอนเหตุการณ์ปฏิวัติค่ะ
★หากไปคุยกับ "ฟีลิโอ" 『フィリオ』 ในโกดังที่ท่าเรือแกรนเซล เขาจะขอบคุณพวกเราที่ทำให้เขาเลิกเล่นคาสิโน และได้เริ่มทำงานที่นี่แล้วค่ะ (กรณีเคลียร์ซับเควสต์ (9) รับสมัครนักเสี่ยงโชคผู้เก่งกาจด่วน ค่ะ)
ราชคฤหาสน์เอลเบ 『エルベ離宮』
- ใช้ "ถนนคิลเช" หรือจะอ้อมไปเข้าทาง "ถนนรอบเมืองเอลเบ" ก็ได้ แล้วมุ่งหน้าเข้าสู่ราชคฤหาสน์เอลเบได้เลยค่ะ
★หากคุยกับ "ทหารยาม" 『衛兵』 หน้าประตูใหญ่ เขาจะกังวลเรื่องสัตว์ปิศาจที่อยู่ตรงทางที่จะเข้ามาที่นี่ค่ะ
(กรณีที่เราปราบ (22) ประกาศจับสัตว์ปิศาจบนถนนรอบเมืองเอลเบ มาแล้วเขาจะขอบคุณเราค่ะ)
- เมื่อเข้าไปในราชคฤหาสน์ จะพบกับ "หัวหน้าพ่อบ้านเรมอนด์" 『執事レイモンド』 ที่กำลังลำบากใจเพราะหาเด็กที่หายไปไม่เจอค่ะ
(เรมอนด์จะจำพวกเอสเทลได้ ทั้งยังบอกว่าพวกเอสเทลเป็นผู้มีพระคุณของที่นี่ค่ะ)
◆ในกรณีที่พา "คลอเซ่" มาด้วย เรมอนด์จะรู้สึกว่าคลอเซ่หน้าคล้าย ๆ กับใครซักคน (องค์หญิงคลอเดีย) คลอเซ่เลยแซวไปว่า "คงไม่ใช่คนรักใช่ไม๊คะ" ทำเอาเรมอนท์ปฏิเสธแทบไม่ทันค่ะ
(จากคำบอกเล่าของ "เรมอนด์" เด็กคนที่หายไปเป็น "เด็กผู้หญิงใส่เสื้อสีขาวฟูฟ่อง คาดโบว์สีดำ อายุประมาณ 10 ขวบ" เขาได้ถามชื่อเด็กคนนั้นไป แต่เด็กคนนั้นไม่ยอมตอบ เอาแต่บอกว่าเป็นความลับ ถึงจะไม่รู้ชื่อแต่ดูเหมือนว่าเด็กคนนั้นจะมากับครอบครัว แต่ไม่เจอคนที่น่าจะเป็นครอบครัวอยู่เลย จู่ ๆ เด็กคนนั้นก็พูดว่า "เล่นซ่อนหากันเถอะ" แล้วก็หายไปไหนก็ไม่รู้ ทางราชคฤหาสน์ก็ตามหากันแทบตาย แต่ก็หาไม่เจอ ดังนั้นเรมอนด์จึงไหว้วานให้เป็นหน้าที่ของเหล่าเบรเซอร์อย่างพวกเอสเทลค่ะ)
- จากนั้นเรมอนด์จะไปรอที่ห้องสนทนา เผื่อว่าเด็กคนนั้นจะกลับไปที่นั่นค่ะ
(ตามนิสัยของเด็กคนนั้น ที่เรมอนด์บอกว่าเป็นเด็กร่าเริงและชอบหยอกเอินคนอื่นไปทั่ว พวกเราก็เลยร่วมใจกันเรียกเด็กคนนั้นว่า "ลูกแมวน้อย" ค่ะ)
- ค้นหาเด็กคนที่หายไป ตามสถานที่ดังนี้ค่ะ
(1) "ไหอันใหญ่ด้านในสุด" ใน "ห้องจัดแสดง" (ห้องบนสุด ด้านขวามือ)
(2) "ม้านั่ง" ใน "สวน" (จะสำรวจม้านั่งตัวไหนก็ได้ค่ะ)
(3) "เวทีปราศรัย" ใน "ห้องสัญลักษณ์" (ห้องตรงกลาง)
(4) "โต๊ะทานอาหารตัวใหญ่" ใน "ห้องรับรอง" (ห้องบนสุด ด้านซ้ายมือ)
(เอสเทลจะก้มลงไปหาใต้โต๊ะโดยไม่ทันระวัง อากัตหรือเจ๊เชร่าจะเตือนเอสเทลให้ระวังหน่อย เพราะว่าตอนนี้เธอเปลี่ยนมาใส่กระโปรงไม่ได้ใส่กางเกงเหมือนแต่ก่อน ทำเอานางเอกของเราอายไปเลยค่ะ)
◆ในกรณีที่พา "โอลิเวียร์" มาด้วย หมอนี่เล่นพูดตรง ๆ เลยว่า "เกือบเห็น" โดยไม่มีความละเอียดอ่อนต่อจิตใจของสาวน้อยอย่างเอสเทลเลยค่ะ
(5) ไปที่ "ห้องรับรอง" ด้านซ้ายมือล่างสุด จะพบกับ "ดยุคดิวนัน" 『デュナン公爵』 ที่กำลังรอฟิลลิปซื้อโดนัทของชอบกลับมาให้เขาค่ะ
(เมื่อ "ดยุคดิวนัน" เห็นพวกเอสเทลก็รู้สึกไม่พอใจอย่างยิ่ง เพราะพวกเอสเทลคือต้นเหตุที่ทำให้เขาต้องออกจากวังมาใช้ชีวิตอยู่ที่นี่ค่ะ ถึงดยุคดิวนันจะรักและเทิดทูนเสด็จป้า (ราชินีอาริเชีย) เพียงไร แต่เขาก็ไม่ยอมรับ "คลอเดีย" (คลอเซ่) ให้ขึ้นเป็นราชินีองค์ต่อไปค่ะ ตรงนี้เอสเทลจะเถียงแทนคลอเซ่ด้วยนะคะ แต่ที่จริงแล้วดยุคดิวนันเข้าใจหน้าที่ของราชวงศ์ดี อย่างเรื่องที่จะทำอะไรก็ต้องมองไปถึงประชาชนก่อนเป็นอันดับแรก แต่ที่เขาไม่ยอมรับคลอเซ่ก็เพราะกลัวว่า คลอเซ่ที่เอาแต่หลบหนีจากภาระหน้าที่ของราชวงศ์จะไม่สามารถเป็นองค์ราชินีที่ดีได้ค่ะ
ก่อนจากมาเราจะถามดยุคดิวนันว่าเห็นเด็กผู้หญิงชุดขาวบ้างหรือเปล่า แต่เขาก็ไม่เห็นค่ะ)

◆ในกรณีที่พา "คลอเซ่" มาด้วย เธอจะบอกเสด็จลุงว่าเธอยังไม่ได้เตรียมใจที่จะขึ้นเป็นราชินีองค์ต่อไป ดังนั้นมันก็ยังเป็นเรื่องที่ไม่แน่นอนค่ะ ตรงนี้ "ดยุคดิวนัน" ก็พอใจในคำพูดของคลอเซ่ในระดับหนึ่ง แต่เขาก็ยังต่อว่าคลอเซ่อีกว่าที่ตัวคลอเซ่ไปเป็นนักเรียนก็เพื่อที่จะหลบหนีภาระหน้าที่ของราชวงศ์ แถมยังไปคลุกคลีกับพวกเด็กกำพร้าอีก งานราชการ งานราชพิธีที่เป็นทางการก็ไม่รับรู้ (ท่าทางจะโกรธมากนะเนี่ย) คลอเซ่บอกกับดยุคดิวนันของเธอว่าตอนนี้เธอให้ความร่วมมือกับพวกเอสเทลไปด้วย และกำลังหาเส้นทางของตนเองไปด้วยว่าเธอสมควรที่จะเป็นราชินีหรือไม่ ดังนั้นเธอจึงอยากให้เสด็จลุงรอจนกว่าจะถึงวันนั้น วันที่เธอสามารถให้คำตอบอย่างชี้ขัดลงไปได้ค่ะ เมื่อออกมานอกห้องคลอเซ่จะบอกว่าโชคดีที่ได้มาพบกับเสด็จลุง ทำให้เธอรู้ความรู้สึกที่แท้จริงของตัวเองซักทีค่ะ
(6) ไปที่ "ห้องสนทนา" สำรวจ "ใต้เคาน์เตอร์ด้านหลัง" (ข้าง ๆ เรมอนด์) จะพบ "เร็น" 『レン』 แอบอยู่ใต้โต๊ะค่ะ
(ตอนแรก เราจะเข้ามาในห้องสนทนาไม่ได้จนกว่าจะไปทำเหตุการณ์คุยกับ "ดยุคดิวนัน" ก่อนค่ะ)
☆สำหรับ Main Quest อันนี้ มีวิธีที่จะทำให้ได้ โบนัส BP อยู่หลายแบบค่ะ แต่ให้ระวังเอาไว้ว่าหากเราคุยกับเรมอนด์แม้แต่ครั้งเดียวก่อนที่จะเจอกับเร็นล่ะก็ อดได้โบนัส BP เต็ม 5 นะคะ☆
วิธีที่ 1
ค้นหาตามสถานที่ต่าง ๆ ครบ 6 ที่ แล้วไปสำรวจใต้เคาน์เตอร์ด้านหลัง โดยไม่คุยกับเรมอนด์เลยแม้แต่ครั้งเดียว Bonus BP
หรือ
วิธีที่ 2
ไม่ค้นหาสถานที่ใด ๆ เลย แล้วไปคุยกับดยุคดิวนัน จากนั้นไปสำรวจใต้เคาน์เตอร์ด้านหลัง โดยไม่คุยกับเรมอนด์เลยแม้แต่ครั้งเดียว Bonus BP
- เราจะรู้ว่าเด็กคนที่หายไปนั้น ก็คือ "เร็น" ที่เราเคยพบที่ แอร์ แลตเท่นค่ะ
หัวหน้าพ่อบ้านเรมอนด์ "แหม ------ ไม่คิดว่าจะเป็นคนรู้จักของพวกเธอเลยนะ เอ เธอ...... ชื่อเร็นจังใช่ไม๊?"
เร็น "ใช่แล้ว เร็นก็คือเร็นล่ะ ขอโทษที่ปิดเป็นความลับนะ"
หัวหน้าพ่อบ้านเรมอนด์ "ฮะฮะ อย่าใส่ใจไปเลย แต่ทำไม่จู่ ๆ ถึงได้มาเล่นซ่อนหาซะล่ะ?"
เร็น "ก็ พอได้ยินว่าพี่สาวจะมา...... คิดว่าน่าจะมาเล่นด้วยกัน เร็นก็เลยพยายามซ่อนตัวแบบเต็มที่เลยล่ะ"
เอสเทล "อ๊ะฮะฮะ งั้นเหรอ แต่รู้ว่าพวกชั้นจะมาเนี่ย ยอดไปเลยนะ"
เร็น "พี่สาวเป็นคุณเบรเซอร์ใช่ไม๊ล่ะ? ก็เร็นได้ยินว่าคุณเบรเซอร์จะมานี่นา"
เอสเทล "แต่ว่านะ...... เบรเซอร์ไม่ได้มีแค่ชั้นหรอกนะ อาจจะเป็นคนอื่นมาก็ได้ใช่ไม๊ล่ะ?"
เร็น "แต่ เร็นมั่นใจว่าพี่สาวจะมานี่นา หลักฐานก็นี่ไง พี่สาวมาแล้วจริง ๆ ใช่ไม๊ล่ะ?"
เอสเทล "อะ อืมม์ ......ก็จริงนะ"
- จากนั้น อากัตหรือเจ๊เชร่าจะถามเร็นว่าพ่อกับแม่ไปไหน ทำไมถึงมาเล่นแถวนี้คนเดียว
◆ในกรณีที่มากับ "อากัต" เร็นจะบอกกับอากัตว่าเวลาถามเลดี้อย่างเร็น อย่าใช้คำพูดแบบนั้นมันไม่ดีค่ะ (อากัตจะใช้คำพูดแบบเถื่อน ๆ ตามสไตล์ของเขาน่ะค่ะ)
◆ในกรณีที่มากับ "เจ๊เชร่า" เร็นจะถามเจ๊ว่า "สีผิวแบบนั้น เกิดที่ทางใต้ใช่ไม๊? แล้วมาอยู่ในที่หนาว ๆ แบบนี้ ไม่หนาวบ้างเหรอ?" ซึ่งเจ๊แกจะบอกว่าตอนเด็ก ๆ เดินทางร่อนเร่ไปกับคณะละครสัตว์ ไปมาหลายพื้นที่ ไม่ว่าจะแถบร้อนหรือแถบหนาว เธอก็รู้สึกเฉย ๆ ค่ะ
เร็น "ปาป๊ากับมาม๊าไปไหน เร็นก็ไม่รู้เหมือนกัน"
เอสเทล "ไม่รู้เหรอ?"
เร็น "เร็นน่ะ มาเที่ยวที่นี่กับปาป๊ามาม๊าก็จริงอยู่...... แต่พอทานอาหารกลางวันเสร็จ พวกปาป๊าก็พูดกับเร็นด้วยสีหน้าเคร่งเครียดว่า [พวกปาป๊ามีงานสำคัญมาก ๆ จำเป็นต้องแยกจากเร็น แต่ไม่เป็นไรนะ หลังเสร็จธุระแล้วจะต้องกลับมาหาเร็นแน่นอน จนกว่าพวกปาป๊าจะกลับมา เป็นเด็กดีรออยู่ที่นี่ได้ไม๊?] แบบเนี๊ยะล่ะ"
เอสเทล "พะ พูดแบบนั้นมัน......"
เร็น "หึหึ เร็นก็ 11 ขวบแล้ว ก็เลยตอบไปว่า [ได้แน่นอนอยู่แล้ว] ไงล่ะ แล้วหลังจากนั้น ปาป๊ากับมาม๊าก็ไปที่ไหนสักที่นึงน่ะแหล่ะ"
- เราจะเข้าใจว่าเร็นถูกพ่อแม่ทิ้ง ไม่ใช่แค่เด็กหลงทางธรรมดาซะแล้ว แต่ถึงยังไงการตามหาพ่อแม่ของเร็นก็ถือเป็นงานของเบรเซอร์ ดังนั้นแล้วเราจะพาเร็นไปฝากไว้ที่สมาคมสาขานครหลวงค่ะ **เร็นเข้าเป็น NPC**
★ในช่วงที่มีเร็น หากไปคุยกับ "ดยุคดิวนัน" อีกรอบ เร็นจะสงสัยว่า "นี่ พี่สาว ทำไมคุณลุงคนนี้ถึงไว้ผมทรงตล๊กตลกล่ะ?" เอสเทลรีบเสริมทันควันว่า "ที่จริงแล้วคุณลุงคนนี้น่ะ ไม่ใช่แค่ไว้ทรงผมตลกอย่างเดียวนะ ทั้งเสื้อผ้า ทั้งนิสัย ก็ประหล๊าดประหลาดด้วยล่ะ"
ถนนคิลเช 『キルシェ通り』
- ระหว่างทางพบกับ "หัวหน้าพ่อบ้านฟิลลิป" 『執事フィリップ』 ที่กำลังเดินทางกลับไปยังราชคฤหาสน์ หลังจากไปซื้อ "โดนัท" ของชอบของดยุคดิวนันที่นครหลวงค่ะ
(เขาเห็นอาการของพวกเอสเทลแล้ว พอจะรู้ว่าพวกเอสเทลได้พบกับนายของเขาที่ราชคฤหาสน์เอลเบแล้ว และคงโดนพูดเสีย ๆ หาย ๆ ใส่มาด้วย (ถูกต้่องนะค๊า) จึงขอโทษขอโพยพวกเอสเทลแทนนายของตนเสียยกใหญ่ค่ะ หลังจากฟิลลิปไปแล้ว เอสเทลจะบอกว่ายังเป็นคนที่มารยาทดีสุด ๆ เหมือนเคยค่ะ ก็แหม ลุงฟิลลิปเค้าใช้ภาษาพูดที่สุภาพมาก ๆ ช่างแตกต่างกับเอสเทลโดยสิ้นเชิง แถมยังมีบทสนทนาขำ ๆ ของเร็นที่ถามเอสเทลว่า "คุณลุงคนเมื่อตะกี๊ไม่ธรรมดาเลยเนอะ เพราะว่าเดินไปทั้ง ๆ ที่หลับตาได้น่ะ เร็นยังทำไม่ได้เลย" (มันไม่ใช่อย่างนั้นนะหนูเร็น ลุงแกตาตี่ต่างหากล่ะ))

ตรวจสอบจดหมายข่มขู่
『脅迫状の調査』 (BP3)
นครหลวงแกรนเซล 『王都グランセル』
- ไปปรึกษาเรื่องของเร็นกับ "เอลนัน" ที่สาขาค่ะ
★ในช่วงนี้หากไปคุยกับ "ดิ๊ค" 『ディック』 เด็กที่อยู่หน้าบ่อน้ำพุ เขาจะบอกเร็นว่าเด็ก ๆ ที่มาที่นครหลวงทุกคนต้องทักทายเขาก่อนค่ะ แต่เร็นปฏิเสธและให้เหตุผลแบบแก่น ๆ ว่า "ปาป๊าพูดเสมอว่า ถ้าเป็นสุภาพบุรุษต้องเป็นฝ่ายทักทายก่อน" ค่ะ
★หากไปคุยกับ "ฟิชเชอร์" หัวหน้าสมาพันธ์นักตกปลา เอสเทลจะถามเร็นว่าเคยไปตกปลากับปาป๊าหรือเปล่า เร็นจะบอกว่า "ตกปลา เป็นเรื่องของเด็ก กับผู้ชายเท่านั้นนี่นา" ทำเอาเอสเทลจ๋อยไปเลยค่ะ แต่ถึงยังไงเอสเทลก็ชอบตกปลาอยู่ดี เร็นก็เลยคิดว่าคราวหน้าจะลองดูก็ได้ค่ะ
★หากไปคุยกับ "เปชูล" 『ペシュール』 บนชั้น 2 ของสำนักงานใหญ่สมาพันธ์นักตกปลา จะรู้ว่าระดับของลอยด์ที่เคยตกเจ้าของได้นั้นคือ [นักตกปลาระดับพิเศษ] ส่วนของเขาจะอยู่แค่ระดับ [นักตกปลาชั้นต้น] ส่วนของหัวหน้ากลุ่มฟิชเชอร์ก็คือ [นักตกปลาสุดยอด (ไทโคโบ)] ค่ะ
★หากไปคุยกับ "เพ็นเซอร์" 『ペンサー』 ที่นั่งอยู่ในบาร์ "ซันนี่เบล อินน์" จะรู้ว่าตอนนี้พันเอกริชาร์ดเป็นนักโทษถูกคุมขังอยู่ที่ค่ายเรสตอนค่ะ
สาขาแกรนเซล 『グランセル支部』
- พบกับ "พันโทซีด" ที่สาขาแกรนเซลค่ะ
(พันโทซีดเพิ่งจะมาถึงนครหลวงเมื่อสักครู่นี่เองค่ะ ที่แวะมาที่สมาคมเพราะมีเรื่องจะขอให้ทางสมาคมช่วย ดังนั้นเอสเทลก็เลยขอให้เร็นขึ้นไปรอที่ชั้น 2 ก่อน โดยทีต้าจะขอไปเป็นเพื่อนเร็นด้วยจะได้คุยกับเร็นและทำความรู้จักเร็นให้มากกว่านี้ค่ะ)
- พันโทซีดบอกว่านี่เป็นการไหว้วานอย่างเป็นทางการจากกองทัพราชอาณาจักร โดยจะให้พวกเอสเทล ทำการตรวจสอบและรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับจดหมายข่มขู่ที่ไม่มีการลงชื่อที่ถูกส่งไปทั่วทุกพื้นที่ เพื่อทำการขัดขวางการร่วมลงนามใน [สนธิสัญญาไม่ทำสงคราม] ที่จะมีขึ้นค่ะ ซึ่งสถานที่ ๆ จดหมายพวกนี้ถูกส่งไปก็จะมี
(1) กองบัญชาการที่ค่ายเรสตอน
(2) บริษัทเรือเหาะ
(3) มหาวิหารแกรนเซล
(4) โฮเต็ล โลเอนบาว์ม
(5) สำนักข่าวลีเบร์ล
(6) สถานทูตจักรวรรดิ
(7) สถานทูตสาธารณรัฐ
(8) ราชวังแกรนเซล
(9) ราชคฤหาสน์เอลเบ
- รวมทั้งสิ้น 9 ที่ 9 ฉบับค่ะ ซึ่งสถานที่ทั้งนั้น รุ่นพี่ของเราคิดว่าจดหมายข่มขู่ถูกส่งไปแม้กระทั่งสถานที่ ๆ ไม่มีความเกี่ยวข้องกับการลงนามเลย แต่พันโทซีดปฏิเสธว่า
พันโทซีด "ไม่ใช่ว่าไม่มีความเกี่ยวข้องกันเลยหรอกนะ ก่อนอื่น บริษัทเรือเหาะก็มีหมายกำหนดการเหมาเรือเหาะทั้งลำ เพื่อทำการรับ-ส่งผู้ที่เกี่ยวข้องที่มาจากจักรวรรดิและสาธารณรัฐน่ะ โรงแรมก็มีการจองห้องพักให้กับผู้เกี่ยวข้องเช่นเดียวกัน และยิ่งไปกว่านั้น อัครสังฆราชคาแลนท์แห่งมหาวิหาร ก็ได้รับการไหว้วานจากองค์ราชินีให้ทำหน้าที่เป็นสักขีพยานในการร่วมลงนามอีกด้วย...... ส่วนสำนักข่าวลีเบร์ลเอง ก็มีการลงบทความพิเศษเกี่ยวกับสนธิสัญญาไม่ทำสงครามมาหลายฉบับก่อนหน้านี้แล้วล่ะ"
เอสเทล "อื~ม ไม่ว่าจะที่ไหน ๆ ก็มีความเกี่ยวข้องกับสนธิสัญญาแฮะ แล้วใครกันนะที่เป็นคนทำเรื่องอย่างนี้"
(จากการวิเคราะห์ของเพื่อน ๆ คนที่ทำเรื่องอย่างนี้อาจเป็นได้ทั้ง [ผู้เกี่ยวข้องจากสาธารณรัฐ] [ผู้เกี่ยวข้องจากจักรวรรดิ] [ผู้เกี่ยวข้องในราชอาณาจักร] หรือที่ร้ายแรงที่สุดก็คือ [องค์กร] ค่ะ)
- พันโทซีดจะขอร้องให้เราช่วยไปตรวจสอบสถานที่ 7 ที่ จาก 9 ที่ ยกเว้น "ค่ายเรสตอน" และ "ราชคฤหาสน์เอลเบ" ที่ทางกองทัพจะดำเนินการตรวจสอบเองค่ะ
(จริง ๆ แล้วการไหว้วานในคราวนี้ที่ทางกองทัพไม่ไปไหว้วานคนอื่น เพราะป๋าคาซิอุสและพันโทซีดเสนอให้มาไหว้วานพวกเอสเทลค่ะ)
- รายงานเรื่องของเร็นให้กับ "เอลนัน" ฟัง
(จากการระดมความคิด การตามหาพ่อแม่ให้เร็นก็ไม่สามารถวางใจได้ งานไหว้วานของทางกองทัพก็สำคัญเหมือนกัน แต่เอลนันบอกว่านั่นไม่ใช่ปัญหาค่ะ ในระหว่างที่ตรวจสอบเรื่องจดหมายข่มขู่ก็สามารถสอบถามข่าวคราวพ่อแม่ของเร็นไปด้วยก็ได้ ถือว่ายิงปืนนัดเดียวได้นก 2 ตัวค่ะ เพราะยังไงซะ พ่อแม่ของเร็นก็เป็นชาวต่างชาติ คงจะมีคนในสถานทูตหรือตามโรงแรมพบเห็นบ้าง รวมทั้งที่บริษัทเรือเหาะก็ต้องมีแขกโดยสารท่านอื่นพบเห็นด้วยเหมือนกันค่ะ พันโทซีดก็จะให้ความร่วมมือโดยจะลองถาม ๆ พวกทหารที่ประจำอยู่ให้ด้วยเหมือนกันค่ะ)
- จากนั้นพวกเอสเทลจะไปส่งพันโทซีดค่ะ เอสเทล จิน โอลิเวียร์และคลอเซ่ จะทำการตรวจสอบที่สถานทูตของประเทศทั้ง 2 ราชวังแกรนเซลและสำนักข่าวลีเบร์ล ส่วนอากัตหรือเจ๊เชร่าจะทำการตรวจสอบตามสถานที่ที่เหลือเพียงคนเดียวค่ะ
เอสเทล "งั้น พวกชั้นจะออกไปข้างนอกเดี๋ยวนะ ทีต้า เร็นจัง โทษที ช่วงที่ไม่อยู่ฝากด้วยนะ?"
เร็น "ก็ได้อยู่หรอก...... แต่ว่าเร็นจะออกไปซื้อของกับทีต้านะ"
เอสเทล "เห๊ะ!?"
ทีต้า "ขะ ขอโทษนะ พี่จ๋า เร็นจังน่ะ ไม่ว่ายังไงก็อยากจะไปที่ห้างน่ะจ้ะ......"
เร็น "อุ๊ย ไม่อยากจะเชื่อ ทีต้าเองก็บอกว่าอยากจะไปดูพวกตุ๊กตาด้วยไม่ใช่เหรอ"
ทีต้า "อ๊า...... เร็นจังล่ะก็"
เอสเทล "อะ อื~ม...... ถึงไม่รู้ว่าจะได้ข่าวพวกปาป๊าของเร็นจังตอนไหน แต่ชั้นอยากจะให้รออยู่ที่นี่......"
- เร็นกับทีต้ามองหน้าเอสเทลด้วยความผิดหวัง เอสเทลถึงกับรู้สึกจี๊ด ๆ ขึ้นมาทันทีค่ะ
เอสเทล "อูย...... มองแบบนั้นคูณ 2 มันขี้โกงนะยะ"
- แต่อากัตหรือเจ๊เชร่าจะเห็นว่าถ้าให้เร็นไปซื้อของกับทีต้าเท่านั้นก็ไม่น่าจะเป็นไร เอสเทลก็เลยอนุญาตให้ 2 หนูน้อยไปซื้อของกันค่ะ แต่เอสเทลจะเคอร์ฟิวให้ทั้ง 2 กลับมาในช่วงเย็นก่อนที่พวกเธอจะกลับมาที่สมาคมค่ะ
(แต่ถึงยังไงเอสเทลก็อดเป็นห่วงเร็นกับทีต้าไม่ได้อยู่ดีนะคะ)

- จากข้อมูลของ "เอลนัน" เขาได้ยินมาจากเร็นว่าพ่อแม่ของเร็นเป็นคู่สามีภรรยาที่ทำธุรกิจค้าขายระหว่างประเทศที่อาศัยใน "เขตปกครองตนเองครอสเบล" 『クロスベル』 ชื่อ [ฮาโรลด์ เฮเวิร์ส] กับ [โซเฟีย เฮเวิร์ส] ค่ะ
- จากนั้น เราจะแยกย้ายกันไปสอบถามข้อมูลจากที่ต่าง ๆ ตามที่ได้แบ่งเอาไว้ในตอนแรกค่ะ
นครหลวงแกรนเซล 『王都グランセル』
(21) ผลงานจัดแสดงที่หายไป **หากสอบถามครบทั้ง 4 ที่แล้ว ซับเควสต์นี้จะหายไปนะคะ**
★หากไปคุยกับ "คุณยายพิลน่า" 『ピルナ婆さん』 ที่เดินไปเดินมา รอบ ๆ ห้างเอเดล ยายแก่จะบ่น ๆ ว่าช่วงนี้ ไม่ค่อยเห็นเบรเซอร์ที่ชื่อคูลซ์เลยค่ะ
(ยายแกชื่นชมรุ่นพี่คูลซ์อย่างแรง เพราะคูลซ์เป็นคนกริยามารยาทเรียบร้อยถูกต้องตามแบบทุกอย่างน่ะค่ะ)
★หากไปคุยกับ "เบลี่" 『ベリー』 ที่ยืนดูสัญลักษณ์ของจักรวรรดิอยู่ด้านหน้าสถานทูต เธอจะแอบปิ๊ง ๆ หนุ่มผมดำในชุดทหารที่ถึงแม้ท่าทางจะดูไม่ค่อยเป็นมิตร แต่เธอว่าเขาเท่ห์สุด ๆ น่ะค่ะ (มิวเลอร์ไงคะ เสน่ห์แรงใช่เล่นเลยนะเนี่ย)
★หากแวะไปคุยกับ "เร็น" ที่ห้างเอเดล เร็นจะให้เอสเทลช่วยเลือกตุ๊กตาให้ ทำให้เอสเทลนึกถึงคุณอาเนราสที่ชอบตุ๊กตาน่ารัก ๆ เหมือนกัน พอเร็นได้ยินเรื่องของอาเนราสก็เลยอยากจะพบเธอขึ้นมาค่ะ
★หากแวะไปที่ "บริษัทเรือเหาะ" จะพบ "อากัต" หรือ "เจ๊เชร่า" ที่มาทำการตรวจสอบและรวบรวมข้อมูลอยู่ที่นี่ค่ะ
★หากแวะไปที่ "สำนักข่าวลีเบร์ล" คุยกับ "หัวหน้ากองบรรณาธิการ" จะทราบว่า "ไนแอล" ออกไปหาข่าวข้างนอก ยังไม่กลับเข้ามาค่ะ
★หากไปคุยกับ "นักบวชลีวาล" 『リヴァル司祭』 ที่มหาวิหาร เขาจะบอกว่าบาทหลวงลาดตระเวนที่ชื่อเควินที่มาลีเบร์ลคราวนี้นั้น เป็นผู้รับใช้พระเจ้าแท้ ๆ แต่ดูไม่ค่อยน่าเชื่อถือเลย ดูยังไง๊ยังไงก็เป็นบาทหลวงลาดตระเวนที่แปลกเอาการอยู่ ทำให้นักบวชลีวาลค่อนข้างเป็นกังวลค่ะว่าบาทหลวงลาดตระเวนจะมีแต่คนแปลก ๆ แบบเควินหรือเปล่า
★หากไปคุยกับ "ซิสเตอร์ โนอา" 『シスター・ノア』 จะเล่าว่าเธอลองถามอัครสังฆราชเกี่ยวกับงานที่หลวงพ่อลาดตระเวนต้องทำ ซึ่งอัครสังฆราชบอกว่าเป็นงานที่หนักหนาสาหัสมาก ๆ แต่พอเธอมองคุณเควินแล้ว กลับไม่เห็นเขาจะทำท่าทางว่างานมันหนักหนาสาหัสอะไรแบบนั้นเลย
สถานทูตสาธารณรัฐ 『共和国大使館』
- คุยกับ "พลทหารทาคุโตะ" ที่หน้าสถานทูตค่ะ
(โดยปกติแล้วถ้าไม่มี "จิน" ที่เป็นพลเมืองของสาธารณรัฐอยู่ด้วย เราจะไม่สามารถเข้าไปในสถานทูตได้นะคะ หากต้องการเข้ามาที่นี่อีกครั้งในภายหลัง อย่าลืมเอาจินเข้ากลุ่มด้วยนะคะ)
☆จะมีเงื่อนไขในการเคลียร์ซับเควสต์ (21) ผลงานจัดแสดงที่หายไป อยู่ที่ห้องหนังสือ ภายในสถานทูตสาธารณัฐแห่งนี้ด้วยนะคะ ดูรายละเอียดได้ที่หัวข้อซับเควสต์ของบทนี้ค่ะ☆
★หากไปคุยกับ "ฟาล่า" 『ファラ』 ที่อยู่ในห้องหนังสือ เธอจะบอกว่าแค่เห็นคนตัวใหญ่ ๆ เดินเข้ามาก็รู้ทันทีเลยว่าเป็นคุณจินค่ะ เอสเทลเลยรีบเสริมว่าตอนแรกที่เธอเห็นคุณจินก็นึกว่าคุณจินเป็นหมียักษ์ซะอีก
★หากคุยกับคนในสถานทูตฯ จะทราบว่าจินเป็นที่นิยมชมชอบของบุคคลทั่วไป อย่างที่พลทหารทาคุโตะบอกในภาค FC จริง ๆ นะคะ
- เข้าพบ "ทูตเอลซ่า" 『エルザ大使』 ที่ห้องบนชั้น 2 ค่ะ
ทูตเอลซ่า "อ้าว คุณจินไม่ใช่หรือ! เพิ่งจะกลับประเทศไปเมื่อวันก่อนแท้ ๆ มาลีเบร์ลอีกแล้วเหรอเนี่ย?"
จิน "ครับ ก็มีงานของกิลด์ที่ยังทำค้างเอาไว้ คิดว่าจะพักอยู่ที่ลีเบร์ลต่อซักระยะนึงน่ะครับ"
ทูตเอลซ่า "หึหึ สมกับที่เป็นเบรเซอร์ระดับ A งานยุ่งเสียยิ่งกว่าอะไรอีกนะ แล้ว ท่านเหล่านั้นคือ?"
เอสเทล "อ๊ะ ยินดีที่ได้รู้จักค่ะ เอสเทล ไบรท์ จากสมาคมเบรเซอร์ค่ะ ส่วน 2 คนนี่ เป็นผู้ให้ความร่วมมือ คลอเซ่ และก็โอลิเวียร์ค่ะ"
โอลิเวียร์ "ฮึ ยินดีที่ได้รู้จักท่านทูต"
คลอเซ่ "ยินดีที่ได้รู้จักค่ะ"
ทูตเอลซ่า "ยินดีที่ได้รู้จัก ดิฉันทูตสาธารณัฐคาลวาร์ด เอลซ่า โคคุรัน ดูท่าที่มาเยี่ยมนี่คงจะมีเรื่องอะไรมาสอบถามสินะ?"
- พวกเอสเทลจะลองสอบถามเกี่ยวกับจดหมายข่มขู่ที่ทางสถานทูตได้รับกับทูตเอลซ่าค่ะ
(ทูตเอลซ่าบอกกับพวกเอสเทลตรง ๆ เลยว่า เธอไม่เห็นด้วยกับการร่วมลงนามในสนธิสัญญาที่จะมีขึ้นค่ะ ทำให้พวกเอสเทลตกใจกับคำพูดของทูตเอลซ่ามาก โดยเอลซ่าให้เหตุผลว่า ที่เธอไม่เห็นด้วยก็เพราะเธอเกลียดเอเรโบเนียอย่างแรงค่ะ แต่ถึงอย่างไรเรื่องการลงนามนี่ทางสภาผู้แทนราษฎรต่างลงมติเห็นชอบแล้ว เธอจึงไม่ได้คัดค้านอะไร เอสเทลได้ยินจึงโล่งใจไปเปราะนึงค่ะ)
- จากนั้น เอสเทลจะถามอีกว่ามีคนอื่นที่ไม่เห็นด้วยอีกไม๊
ทูตเอลซ่า "มีก็เป็นส่วนน้อยล่ะนะ แต่นั่นก็ไม่ได้มีอิทธิพลในการคัดค้านอย่างจริงจังด้วย"
เอสเทล "ไม่ได้คัดค้านอย่างจริงจัง?"
ทูตเอลซ่า "แหม แรกเริ่มเดิมทีสนธิสัญญาไม่ทำสงครามน่ะ แทบจะไม่มีผลอะไรหรอกนะ เพราะเนื้อหาระบุไว้ว่า [ไม่ทำสงครามเผชิญหน้ากันในระดับชาติ คลี่คลายปัญหาด้วยการเจรจาสันติภาพ] เท่านั้นน่ะ ถ้าตามนั้นแล้ว น่าจะเรียกว่าคำประกาศใช้ร่วมกันมากกว่าสนธิสัญญาน่ะ"
โอลิเวียร์ "ถ้าอย่างนั้น ก็เป็นการแสดงว่าไม่ใช่แค่สัญญาปากเปล่าที่จะทำลายลงเมื่อไรก็ได้สินะ"
ทูตเอลซ่า "หึหึ เป็นเช่นนั้นแหล่ะ แหม ก็ในช่วง 10 ปีมานี่ ความสัมพันธ์ระหว่างคาลวาร์ดกับเอเรโบเนียไม่ค่อยจะลงรอยกันซักเท่าไร ...... ไม่คิดว่าจะสามารถจัดให้มีการเจรจากันในโอกาสแบบนี้ได้"
- นอกจากนั้น เรายังได้ทราบว่าทางราชินีอาริเชียได้มีการมอบตัวอย่างเครื่องยนต์รุ่นใหม่ให้แก่คาลวาร์ดและเอเรโบเนีย ซึ่งก็เป็นส่วนหนึ่งสำหรับการทำสนธิสัญญาในครั้งนี้ด้วย ดังนั้นแล้วแทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่จักรวรรดิหรือสาธารณรัฐจะทำการขัดขวางการร่วมลงนามในครั้งนี้ค่ะ
- หลังจากสอบถามเรื่องจดหมายข่มขู่แล้ว เอสเทลจะสอบถามเรื่องพ่อแม่ของเร็นกับทูตเอลซ่าด้วยค่ะ แต่ทูตเอลซ่าไม่รู้จักและถ้าพูดถึง "เขตปกครองตนเองครอสเบล" นั้น ก็เป็นสถานที่ที่อยู่ระหว่างจักรวรรดิและสาธารณรัฐด้วย ดังนั้นเธอเลยแนะนำให้ลองไปถามที่สถานทูตจักรวรรดิดู ไม่แน่ว่าอาจจะรู้รายละเอียดอะไรก็เป็นได้ค่ะ
ทูตเอลซ่า "จริงสิ คุณเอสเทล ไบรท์สินะ คุณเป็นลูกสาวของนายพลจัตวาคาซิอุสใช่ไม๊?"
เอสเทล "เอ๋ ซะ ทราบด้วยเหรอคะ?"
ทูตเอลซ่า "ก็เป็นเขาเป็นวีรบุรุษที่ทำการปราบกองทัพจักรวรรดิเมื่อครั้งอดีต และก็กลับมาเป็นผู้นำกองทัพราชอาณาจักรอีกครั้งนี่คะ เคยได้ยินมาว่ามีลูกสาวด้วย แต่ก็เพิ่งจะได้เจอตัวเนี่ยแหล่ะ"
เอสเทล "เอ่อ ชั้นก็เป็นแค่เบรเซอร์มือใหม่ธรรมดา ๆ เท่านั้นเองค่ะ......"
ทูตเอลซ่า "อืม รู้อยู่แล้วล่ะ ที่สถานทูตของเราก็เคยไปรบกวนกิลด์เอาไว้เยอะเหมือนกัน คราวหน้าถ้ามีคำไหว้วานจากทางเราล่ะก็ จะยินดีมากเลย ที่คุณจะรับไปทำให้น่ะ"
เอสเทล "อ๊ะฮะฮะ...... ถ้ามีโอกาสล่ะก็ ยินดีแน่นอนค่ะ งั้นขอลานะคะ"
★หากแวะไปที่พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ จะพบ "เร็น" กับ "ทีต้า" บนชั้น 2 ทั้ง 2 คนกำลังดูเครื่องปั่นด้ายอยู่ค่ะ เร็นจะสงสัยแล้วถามเอสเทลว่า ปกติเวลาทีต้าเห็นเครื่องจักรจะมีหมกมุ่นแบบนี้เสมอเหรอเนี่ย (ก็ทีต้าเป็นโอตาคุ เครื่องจักรนี่นา)
★ในช่วงนี้หากแวะไปที่ "โฮเต็ล โลเอนบาว์ม" จะพบ "อากัต" หรือ "เจ๊เชร่า" กำลังสอบถามเรื่องจดหมายข่มขู่อยู่ค่ะ
สถานทูตจักรวรรดิ 『帝国大使館』
- คุยกับ "พลทหารเบลกัน" เพื่อเข้าไปในสถานทูตจักรวรรดิค่ะ
☆ในกรณีที่ยังไม่ได้ไปทำเหตุการณ์ที่สถานทูตสาธารณรัฐมาก่อนจะเข้าไปในนี้ไม่ได้นะคะ☆
- พบกับ "มิวเลอร์" 『ミュラー』 ที่กำลังเคือง ๆ โอลิเวียร์อยู่ เพราะเวลานายคนเนี๊ยะไปไหนมาไหนไม่เคยแจ้งให้ทางสถานทูตรับรู้เลยค่ะ แถมยังมีหน้ามาบอกว่าที่ทำอย่างนี้ก็เพราะกำลังไล่ตามความรักอยู่น่ะ (เฮ้อ มีเพื่อนแบบนี้ก็ลำบากหน่อยนะ มิวเลอร์)
- จากนั้น เราจะบอกมิวเลอร์ว่าเรามาเข้าพบทูตจักรวรรดิเพื่อสอบถามเกี่ยวกับจดหมายข่มขู่ค่ะ
มิวเลอร์ "จดหมายข่มขู่นั่นน่ะเหรอ...... ชั้นเองก็ไม่ได้รู้สึกสะกิดใจอะไรเท่าไร แต่ไม่คิดว่ากิลด์จะเคลื่อนไหวด้วยนี่สิ เป็นการไหว้วานจากทางกองทัพราชอาณาจักรสินะ?"
เอสเทล "ส่วนหนึ่งน่ะใช่...... แต่ชั้นตั้งใจว่าจะตรวจสอบในฐานะคนกลางเท่าที่จะทำได้น่ะ"
มิวเลอร์ "หึหึ เป็นความตั้งใจที่ดี ถ้าอย่างนั้นชั้นจะพาไปแนะนำตัวกับทูตดาวิลล์ให้นะ น่าจะได้รับความเชื่อถือมากกว่าเจ้าบ้ายอที่อยู่ตรงนั้นแน่นอน"
เอสเทล "เอ๋ จะดีเหรอ!?"
จิน "ดีเลย ขอบใจนะ"
คลอเซ่ "ขอบคุณนะคะ"
โอลิเวียร์ "เอ๋...... ผมเชื่อถือไม่ได้ขนาดนั้นเลยเหรอ?"
เอสเทล "เอ๊ะ...... นี่นายไม่รู้ตัวเลยเหรอยะ!?"
จิน "ก็ ถ้าเป็นนายพาไปแนะนำตัวล่ะก็ ดูไปแล้วน่าจะไปทำให้เขาเข้าใจผิดซะยิ่งกว่าเดิมน่ะสิ"
คลอเซ่ "เอ่อ...... ขอโทษนะคะ คุณโอลิเวียร์"
โอลิเวียร์ "ซิกซิก......"
มิวเลอร์ "เป็นการลงความเห็นที่ชาญฉลาดแล้วล่ะ"
★หากไปคุยกับเมด "คามิลล่า" 『カミーラ』 ที่ห้องทางด้านตะวันออกของที่นี่ หลังจากฟังคามิลล่าเล่าให้ฟัง เอสเทลจะรู้สึกเลยว่ามิวเลอร์รู้สึกปวดขมองขนาดไหนกับพฤติกรรมของโอลิเวียร์ค่ะ
- พบ "ทูตดาวิลล์" 『ダヴィル大使』 ที่ห้องบนชั้น 2 ค่ะ ซึ่งมิวเลอร์ได้เข้ามาเกริ่นเรื่องของพวกเราไว้ก่อนแล้ว
ทูตดาวิลล์ "ยินดีต้อนรับสู่สถานทูตเอเรโบเนีย ชั้นคือทูตประจำลีเบร์ล ดาวิลล์ ไครนัชฮ์"
เอสเทล "เอ่อ เอสเทล ไบรท์ จากสมาคมเบรเซอร์ค่ะ"
จิน "จิน วาแซ็ค จากสมาคมเบรเซอร์เช่นเดียวกัน"
คลอเซ่ "ดิฉัน คลอเซ่ รินซ์ นักเรียนชั้นปีที่ 2 โรงเรียนเจนิสแห่งราชอาณาจักรค่ะ"
โอลิเวียร์ "และผม ทูตแห่งความรักและสันติภาพ โอลิเวียร์ เลนไฮม์!"
ทูตดาวิลล์ "ฮึ่ม...... เธอเองเหรอ ได้ยินมาว่าไปที่หมู่บ้านเอลโมแล้วก็หายตัวไปเลยสินะ เลิกทำให้มิวเลอร์คุงกับชั้นเป็นห่วงซะทีเถอะ"
โอลิเวียร์ "หึ เข้มงวดจัง"
ทูตดาวิลล์ "ยังไงก็ตาม...... ได้ยินมาว่าจะมาสอบถามเรื่องจดหมายข่มขู่ที่ว่าสินะ อยากรู้อะไรบ้างล่ะ?"
- จากนั้น เอสเทลจะสอบถามเรื่องคนที่ไม่เห็นด้วยกับการลงนามในสนธิสัญญาเหมือนที่ถามกับทูตเอลซ่าค่ะ
(ตรงนี้ ทูตดาวิลล์ได้ตอบว่า เป็นธรรมดาที่จะมีคนไม่เห็นด้วยอยู่แล้ว แต่เป็นไปไม่ได้ที่จะมีคนของจักรวรรดิส่งจดหมายข่มขู่ไปอย่างแน่นอนค่ะ เพราะถึงยังไง "องค์จักรพรรดิ" ก็เห็นด้วยกับการลงนามในครั้งนี้อยู่แล้ว แต่ดูเหมือนทูตดาวิลล์ไม่ค่อยจะให้ความร่วมมือกับเราเท่าที่ควร ซ้ำยังโยนไปให้ทางสาธารณรัฐอีกต่างหาก เท่านั้นยังไม่พอยังมาย้อนถามพวกเราอีกด้วยนะคะ ทำยังกับว่าเชื่อมั่นในประเทศตนอย่างมากโดยไม่เห็นหัวประเทศอื่นเลย)
คลอเซ่ "ท่านทูตดาวิลล์คะ...... ไม่ทราบว่าท่านนายกรัฐมนตรีออสบอร์น กำลังรับมือเช่นไรกับสนธิสัญญาไม่ทำสงครามในครั้งนี้คะ?"
ทูตดาวิลล์ "ว่าไงนะ......!?"
มิวเลอร์ "โฮ่......"
โอลิเวียร์ "เป็นคำถามที่รวบรัดตรงประเด็นดี"
เอสเทล "เอ่อ...... แล้วคุณออสบอร์นที่ว่านั่น?"
โอลิเวียร์ "ผู้แทนรัฐบาลจักรวรรดิ [นายกฯเลือดเหล็ก] 『鉄血宰相』 ออสบอร์น ผู้ที่เปิดเผยต่อสาธารณชนอย่างไม่ลังเลใจว่า [ความมั่นคงของประเทศชาติ ต้องมาจากปืนและเลือดเนื้อ] น่ะ เป็นผู้วางเส้นทางรถไฟออร์บเมนท์ทั่วจักรวรรดิและรวบอำนาจทางทหารจากเขตปกครองตนเองน้อยใหญ่ แหม จะว่าไปก็เป็นนักการเมืองที่มีความมุ่งมั่นน่ะแหล่ะ"
เอสเทล "มะ มีคนแบบนั้นอยู่ด้วยเหรอ....."
ทูตดาวิลล์ "นะ นี่โอลิเวียร์คุง! หยุดใช้คำพูดแบบนั้น วิพากษ์วิจารณ์นายกรัฐมนตรีของตนเองเดี๋ยวนี้นะ!"
โอลิเวียร์ "หึ ไม่ได้ตั้งใจจะวิพากษ์วิจารณ์ซักหน่อย ก็แค่ให้ความร่วมมือมากขึ้นอีกนิด จะได้ไม่มีใครมาต่อว่าเอาได้ไม่ใช่เหรอ? เมื่อสักครู่ก็ฟังอะไรหลาย ๆ อย่างมาจากทูตเอลซ่าแห่งสาธารณรัฐด้วย...... ทางนั้นให้ความร่วมมือมากกว่าทางนี้เยอะเลยล่ะ"
ทูตดาวิลล์ "วะ ว่าไงนะ!?"
โอลิเวียร์ "ถ้าปล่อยให้เป็นแบบนี้ไปเรื่อย ๆ ประเทศที่ชื่อว่าเอเรโบเนียอาจจะถูกสงสัยเอาได้นะ...... ถ้าเป็นอย่างนั้น ผมเองก็ทนไม่ได้หรอก"
- ทูตดาวิลล์ที่ได้ฟังเหตุผลของโอลิเวียร์ถึงกับพูดอะไรไม่ออก
มิวเลอร์ "ทูตดาวิลล์ เกี่ยวกับเรื่องในครั้งนี้ไม่ควรจะปิดบังข้อมูลอะไรนะครับ ถ้าบอกข้อมูลอย่างตรงไปตรงมา ไม่น่าจะมีปัญหาอะไรไม่ใช่เหรอครับ?"
ทูตดาวิลล์ "......ฮึ่ม ก็ได้ ------------- คำถามเมื่อสักครู่ ทั้งฝ่าบาท ทั้งนายกรัฐมนตรีออสบอร์น ต่างก็มีความรู้สึกที่ดีต่อสนธิสัญญาไม่ทำสงครามในครั้งนี้ อันที่จริงท่านนายกฯต่างหาก ที่เป็นคนทูลเกล้าเรื่องนี้ต่อฝ่าบาทน่ะ"
- เอสเทลจะสงสัยว่าที่นายกฯเห็นด้วยกับสนธิสัญญาไม่ทำสงครามนั้น เป็นเพราะเห็นแก่เครื่องยนต์รุ่นใหม่ที่ทางราชอาณาจักรให้นำไปหรือเปล่า ทูตดาวิลล์ว่าไม่เกี่ยวกับเรื่องนั้นค่ะ เพราะเรื่องเครื่องยนต์รุ่นใหม่นั้น นายกฯกราบทูลฝ่าบาททีหลังค่ะ
- เมื่อพวกเราได้ฟังดังนั้น แสดงว่ามีความเป็นไปได้มากที่ทางจักรวรดิเป็นผู้บริสุทธิ์ค่ะ
- ก่อนจะไปเอสเทลจะถามเรื่องพ่อแม่ของเร็น แต่ไม่ว่าจะทูตดาวิลล์หรือมิวเลอร์ก็ไม่รู้จักและไม่เคยเห็นเหมือนกันค่ะ
- มิวเลอร์จะไปส่งพวกเราที่หน้าประตูสถานทูตค่ะ
★หากคุยกับ "ทูตดาวิลล์" อีกครั้ง เขาจะบอกว่าพวกเบรเซอร์นี่งานก็รัดตัวเอาเรื่องเหมือนกันนะ พลอยทำให้นึกถึงเรื่องเมื่อหลายเดือนก่อนขึ้นมาว่า มีรายงานแจ้งเข้ามาเกี่ยวกับเรื่องสาขาสมาคมในจักรวรรดิถูกจู่โจมแบบสายฟ้าแลบค่ะ
★หากไปคุยกับ "เจรัลด์" 『ジェラルド』 ห้องข้าง ๆ ท่านทูตทางขวามือ จะทราบว่า "รัฐมนตีออสบอร์น" เป็นนักการเมืองที่มาจากทหารค่ะ ซึ่งนั่นก็เป็นเรื่องเมื่อ 10 ปีก่อนก่อนที่จะเข้ารับตำแหน่งเป็นนายกรัฐมนตรีค่ะ
☆อย่าลืมแวะไปคุยกับ "เนซัน" 『ネイザン』ที่ห้องสมุดด้วยนะคะ เขาจะรีบมอบ (ยัดเยียด) "แจ็คนักเสี่ยงโชค เล่ม 4" ให้เรา เพราะว่ามันเป็นหนังสือที่ห้ามวางจำหน่ายในเอเรโบเนีย จึงต้องรีบเอาออกไปก่อนที่เขาจะโดนทูตดาวิลล์กินหัวเอา แต่เขาก็ยังงง ๆ อยู่ว่าหนังสือเรื่องนี้มาอยู่บนชั้นหนังสือที่นี่ได้ยังไง (มิวเลอร์หงุดหงิดขึ้นมาทันที เหมือนเขาจะรู้ตัวต้นเหตุค่ะ)
- หน้าสถานทูต
เอสเทล "คุณมิวเลอร์ ขอบคุณนะ เพราะคุณแท้ ๆ เลย ถึงได้ข้อมูลหลาย ๆ อย่างมาจากคุณทูตน่ะ"
มิวเลอร์ "ไม่หรอก...... ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร เดิมทีเรื่องนี้เป็นปัญหาของทั้ง 3 อาณาจักรก็ต้องให้ความร่วมมืออยู่แล้วไม่ใช่เหรอ"
จิน "ฮะฮะ ถูกต้อง"
คลอเซ่ "แต่ถ้าแก้ไขปัญหาได้ก็คงจะดีกว่านี้นะคะ......"
- โอลิเวียร์ยืนครุ่นคริดอะไรคนเดียวด้วยสีหน้าเคร่งเครียดอย่างไม่เคยเห็นมาก่อน
เอสเทล "เอ๊ะ...... มีอะไรเหรอ โอลิเวียร์?"
โอลิเวียร์ "เปล่า...... คิดอะไรนิดหน่อยน่ะ ไม่ได้เกี่ยวกับคดีข่มขู่อะไรหรอก อย่าใส่ใจเลย"
เอสเทล "อะ อืม......?"
- มิวเลอร์นิ่งเงียบยังกับรู้ว่าเพื่อนรักของเขากำลังคิดอะไรอยู่
มิวเลอร์ "โอลิเวียร์ ช่วงที่อยู่ในนครหลวงนายคงจะพักที่สถานทูตนี่ใช่ไม๊?"
โอลิเวียร์ "หึ แน่นอนอยู่แล้ว จะนอนฝันหวานบนเตียงของนายเหมือนอย่างทุกทีนั่นแหล่ะ"
เอสเทล "เอ๋~!?"
คลอเซ่ "อุ๊ย......"
- มิวเลอร์เริ่มอารมณ์ประทุอีกครั้ง
มิวเลอร์ "......หยุดพูดเรื่องตลกไร้สาระได้แล้ว เห็นไม๊ว่าพวกคุณหนูเขาเชื่อน่ะ ถ้านายล้อเล่นมากเกินไปจะมัดเอาไว้กับเตียงแล้วจับหมุนให้กลิ้งเลย"
โอลิเวียร์ "❤ อ๊าย หรือว่านั่น จะเป็นการละเล่นแบบถึงเนื้อถึงตัว?"
มิวเลอร์ "อย่าหวัง ---- ชั้นจะแขวนนายเอาไว้ตรงหน้าต่างให้เหมือนกับตัวหนอนดิ้นไปดิ้นมาเลยล่ะ"
- โอลิเวียร์ถึงกับหน้าซีดเหงื่อตกไปเลยค่ะ
(ก่อนจากกัน มิวเลอร์จะให้กำลังใจพวกเราในการหาข้อมูลด้วยนะคะ)
ราชวังแกรนเซล 『グランセル城』
- ด้านหน้าราชวัง "พลทหารดัน" 『兵士ダン』 และ "พลทหารอารูท" 『兵士アルツ』 จะอนุญาตให้เราผ่านเข้าไปในวังได้ค่ะ
(พวกพลทหารจะให้ความเคารพ "องค์หญิงคลอเดีย" เป็นอย่างมาก จินถึงกับพูดว่าถ้าท่านดยุคนั่นรู้คงจะน้อยใจน่าดูเลยล่ะค่ะ)
- เนื่องจากว่า "ร้อยเอกยูเลีย" ไปที่ค่ายเรสตอน ดังนั้นพวกเอสเทลลงความเห็นว่าควรจะไปทักทาย "คุณนายฮิลด้า" กันก่อนค่ะ จะได้สอบถามเรื่องพ่อแม่ของเร็นด้วยค่ะ
☆เราสามารถเลือกได้ว่าจะไปเข้าเฝ้า "องค์ราชินี" ก่อนหรือไปพบ "คุณนายฮิลด้า" ก่อนก็ได้ค่ะ☆
★หากไปที่ "เขตบริหารการจัดการ" (ห้องทางซ้าย บนชั้น 1) คุยกับ "เฮลมูต" 『ヘルムート』 เขาเริ่มวิตกว่าผู้ชายอย่างเขาในฐานะสามีนั้นเริ่มจะสั่นคลอนเสียแล้ว เพราะทั้ง ๆ ที่ภรรยาของเขา (นอร์เช) เพิ่งเริ่มตกปลาแท้ ๆ แต่เก่งเกินหน้าเกินตาเขาไปซะแล้วค่ะ
★คุยกับ "เชีย" 『シア』 ที่ห้องเมด เชียจะดีใจที่ได้พบกับเอสเทล, องค์หญิงคลอเดียและก็จินอีกครั้งค่ะ พอโอลิเวียร์ได้ยินว่าเอสเทลเคยใส่ชุดเมดถึงกับหูผึ่ง แต่ยิ่งกว่านั้นพอได้ยินว่าโยชัวร์ก็ใส่ชุดเมดเหมือนกันแล้ว ก็ยิ้มกรุ้มกริ่มพูดออกมาอย่างไม่อายปากว่า "โยชัวร์คุงที่แสดงเป็นองค์หญิงเซซิเรียได้อย่างงดงามหมดจดในชุดนางกำนัลอย่างนั้นเหรอ...... โอ้ คงจะเป็นอะไรที่น่ารักน่าเอ็นดูเลยใช่เปล่า น่าเสียดายอย่างสุดซึ้งจริง ๆ ที่ไม่สามารถเข้าร่วมงานเลี้ยงอาหารค่ำของดยุคดิวนันได้น่ะ" และก็จะได้รับทราบจากเซียด้วยค่ะว่าหัวหน้านางกำนัลฮิลด้าอยู่ที่ห้องเอกสารค่ะ
- พบ "คุณนายฮิลด้า" 『ヒルダ夫人』 ที่ห้องเอกสาร บนชั้น 2 ของราชวังแกรนเซล ปีกซ้ายค่ะ
- คุณนายฮิลด้าจะดีใจมากที่เห็นเอสเทลและองค์หญิงคลอเดียปลอดภัยค่ะ โดยเฉพาะเรื่องของเอสเทลที่คุณนายฮิลด้าได้ฟังเรื่องราวต่าง ๆ มา ทำให้เธออดเป็นห่วงเอสเทลไม่ได้ พอเอสเทลได้รับรู้ถึงความเป็นห่วงของคุณนายฮิลด้าทำเอาเธอซึ้งไปเลยค่ะ
- จากนันคุณนายฮิลด้าจะให้เราย้ายไปคุยกับที่ห้องรับรองค่ะ
(จากที่ได้สนทนากัน คุณนายฮิลด้าเชื่อว่าคนในราชวังไม่มีใครทำการส่งจดหมายข่มขู่ไปเช่นนั้นอย่างแน่นอน แต่จะพูดให้คนนอกเชื่อโดยไม่มีหลักฐานคงจะเป็นเรื่องยากค่ะ)
คลอเซ่ "ไม่ทราบว่า จดหมายข่มขู่ที่ส่งมาที่ราชวังจ่าหน้าถึงใครเหรอคะ?"
คุณนายฮิลด้า "น่าละอายยิ่งนัก ที่เป็นจดหมายจ่าหน้าถึงองค์ราชินีเพคะ จดหมายน่าสงสัยที่จ่าหน้าถึงฝ่าบาทมีอยู่มากมาย ทางเราก็ทำการตรวจสอบอยู่หลายฉบับ หม่อมฉันไม่สามารถกราบทูลเนื้อความในจดหมายได้เพคะ โธ่ถัง ในโลกนี้ก็มีคนที่ไม่รู้จักที่ต่ำที่สูงและไร้มารยาทอยู่ด้วยนะเพคะ"
จิน "ขอแทรกหน่อยนะครับ...... นอกจากจดหมายที่ส่งมาที่ราชวังแล้ว ไม่มีของน่าสงสัยอื่น ๆ ใช่ไม๊ครับ? อย่างพวกเอกสารที่มีเนื้อหาวิพากษ์วิจารณ์ราชวงศ์อะไรแบบนี้"
คุณนายฮิลด้า "เรื่องนั้น......"
คลอเซ่ "คุณฮิลด้าคะ ดิฉันก็ขอร้องด้วยค่ะ อยากจะได้ข้อมูลสำหรับการวินิจฉัยให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้น่ะค่ะ"
คุณนายฮิลด้า "ถ้าทรงตรัสถึงขนาดนั้นล่ะก็...... พอจะกราบทูลได้ว่าจดหมายนั่นไม่ได้ลงชื่อผู้ส่งมา และก็ไม่ใช่จดหมายวิพากษ์วิจารณ์ราชวงศ์แต่อย่างใดเพคะ นอกจากนั้นยังมีจดหมายมากมายที่ร้องขอให้ทำการลดโทษของพันเอกริชาร์ดด้วยนะเพคะ เกรงว่าส่วนหนึ่งอาจจะเป็นพวกชาวเมืองขอเข้ามาก็เป็นได้......"
เอสเทล "งะ งั้นเหรอ......"
โอลิเวียร์ "ฮืม สมกับเป็นคนที่เป็นคู่ปรับในอดีตที่ผมให้ความสนใจนะ ถึงจะโดนจับกุมไปแล้วแต่ยังคงได้รับความนิยมอยู่สินะ"
คลอเซ่ "พันเอกเป็นคนที่มีความสามารถมาก ไม่ว่าใครก็ให้การยอมรับน่ะค่ะ ถึงจะมีคนให้ความเห็นอกเห็นใจก็ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรเลยกระมังคะ"
จิน "แต่จดหมายที่เขียนนั่น ท่าทางจะไม่เกี่ยวข้องกับจดหมายข่มขู่สินะครับ ท่าทางก็ไม่ได้มีเป้าหมายที่ราชวงศ์ด้วย"
- จากนั้น เอสเทลจะถามคุณนายฮิลด้าเรื่องพ่อแม่ของเร็นค่ะ และน่าแปลกใจเพราะคุณนายรู้จัก "ฮาโรลด์ เฮเวิร์ส" ด้วยค่ะ
คุณนายฮิลด้า "เมื่อหลายวันก่อนหม่อมฉันว่างจากงานพอดี จึงเป็นคนพาครอบครัวนั้นที่เข้ามาทัศนศึกษาเดินชมภายในราชวังเองเพคะ แต่มีอยู่เรื่องนึงที่น่าประหลาดใจก็คือ ฝ่ายลูกสาวแสดงความดีใจที่ได้มาเที่ยวชมเป็นอย่างมาก แต่เมื่อเทียบกับฝ่ายพ่อแม่ที่บรรยากาศรอบ ๆ ตัวพวกเขา ราวกับว่าจิตใจไม่ได้อยู่กับเนื้อกับตัวเลย ถึงหม่อมฉันชวนพวกเขาคุยเรื่องทั่วไป แต่ก็ไม่ได้แสดงความรู้สึกอะไรตอบกลับมา คงจะมีเรื่องลำบากใจอะไรอยู่กระมังเพคะ"
(ก่อนจะไป คุณนายฮิลด้ายังชวนพวกเราทุกคนให้มาพักผ่อนที่ราชวังในคืนนี้ด้วยนะคะ โดยปกติเวลาคลอเซ่มานครหลวงก็จะพักที่นี่อยู่แล้ว แต่น่าเสียดายที่โอลิเวียร์กับจินจะไปพักที่สถานทูตของพวกเขาค่ะ ส่วนเอสเทลก็ขอไปถามอากัตหรือเจ๊เชร่ารวมทั้งทีต้ากับเร็นก่อนค่ะ ซึ่งคุณนายฮิลด้าบอกว่าไม่เป็นไร ยังไงเธอก็จะเตรียมห้องเอาไว้ให้ค่ะ)
สวนลอยฟ้า 『空中庭園』
- ไปที่ "ตำหนักราชินี" บน "สวนลอยฟ้า" ออกไปยังระเบียงจากห้องบรรทมองค์ราชินี จะพบกับ "ราชินีอาริเชีย" 『アリシア女王』 ค่ะ
(ราชินีอาริเชียจะทราบเรื่องที่พวกเอสเทลจะมาพบอยู่แล้ว เพราะ "ซิก" 『ジーク』 ฮายะบุซะสุดเก่ง สัญลักษณ์แห่งลีเบร์ลบินมาบอกข่าวเรียบร้อยค่ะ และองค์ราชินียังทราบเรื่องของเอสเทล (เรื่องโยชัวร์) จากป๋าคาซิอุสด้วย แต่เอสเทลบอกกับราชินีว่า เพราะมีงานที่ต้องทำและก็มีพวกคลอเซ่คอยให้ความช่วยเหลือเธอจึงไม่เป็นไรแล้วค่ะค่ะ)
- จากนั้น องค์ราชินีจะเชิญเราเข้าไปร่วมดื่มน้ำชากันค่ะ
(ราชินีอาริเชียมีงานอดิเรกคือ ชงน้ำชาค่ะ และชอบชงให้คนอื่น ๆ ดื่มด้วยนะคะ)
- สอบถามข้อมูลจากราชินีอาริเชียเกี่ยวกับจดหมายข่มขู่ค่ะ
- คลอเซ่จะถามความเห็นเสด็จย่าของเธอเกี่ยวกับความเป็นไปได้ของผู้ส่งจดหมายว่าจะเป็นคนในหรือเปล่า แต่องค์ราชินีถามความเห็นของคลอเดียหลานของเธอกลับไป โดยให้สมมติว่าถ้าคลอเดียเป็นผู้สืบทอดราชบัลลังก์แล้ว จะมีความคิดเห็นเช่นไรกับสถานการณ์ภายในประเทศค่ะ
คลอเซ่ "เกี่ยวกับสนธิสัญญาไม่ทำสงครามนั้น หม่อมชั้นคิดว่าภายในประเทศแทบจะไม่มีอิทธิพลที่จะำดำเนินการคัดค้านใด ๆ ได้เพคะ แต่ก็ได้ยินเรื่องทำนองว่า หลังจากเหตุการณ์ปฏิวัติพวกขวาจัดก็ถูกกดดัน ซึ่งนั่นอาจจะเป็นเหตุผลที่ทำให้มีการส่งจดหมายข่มขู่ขึ้นมาก็ได้เพคะ"
ราชินีอาริเชีย "หึหึ...... สมกับที่เป็นหลาน ส่วนใหญ่ก็ตรงกับความคิดเห็นของย่านะ"
เอสเทล "เอ เรื่องอะไรเหรอคะ?"
ราชินีอาริเชีย "นอกจากพันเอกริชาร์ดแล้ว ผู้คนที่เคยยืนยันความคิดของตนเองในการขยายอำนาจของกองทัพมีเพียงส่วนน้อย แต่หลังจากเหตุการณ์ปฏิวัติ ก็ได้ปิดกั้นความคิดเหล่านั้นไปทั้งหมด ซึ่งอาจจะดำเนินชีวิตอยู่ด้วยความกังวลและไม่พอใจก็เป็นได้ค่ะ"
เอสเทล "เอ ถ้าจะสรุปก็คือ...... นอกจากพันเอกริชาร์ดแล้ว ก็มีคนเห็นด้วยกับความคิดที่จะขยายอำนาจของกองทัพใช่ไม๊คะ?"
ราชินีอาริเชีย "กล่าวเช่นนั้นก็คงจะไม่ผิดค่ะ ถ้าเป็นเช่นนั้นล่ะก็...... ความผิดของพวกเขาก็เป็นความรับผิดชอบของข้าพเจ้า มิใช่ใครอื่นกระมังคะ เพราะในลีเบร์ลแห่งนี้อนุญาตให้มีสิทธิเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นค่ะ......"
คลอเซ่ "เสด็จย่า......"
เอสเทล "แต่ก็ไม่มีความจำเป็นที่ต้องให้ความสนใจเท่าไรเลยนี่คะ......."
ราชินีอาริเชีย "ไม่หรอก สิ่งที่เรียกว่าสิทธิเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นเป็นสิ่งที่ได้รับการยอมรับยิ่งกว่าสิ่งใด ๆ ค่ะ ถึงข้าพเจ้าจะไม่เห็นด้วยต่อการขยายอำนาจทางการทหาร แต่สิ่งนั้นก็มาจากจิตใจในความรักชาติเป็นแน่แท้ การค่อย ๆ พิจารณาเรื่องเช่นนั้นทั้งหมด ถือเป็นการบังคับหางเสือของประเทศว่าจะไปในทิศทางใด...... และสิ่งนั้นก็คือความรับผิดชอบของผู้นำประเทศค่ะ"
- คลอเซ่รู้สึกละอายใจและนิ่งเงียบฟังสิ่งที่เสด็จย่าของเธอตรัสออกมา
จิน "อืม ถ้าเป็นแบบนั้น...... เรื่องอันตราย ๆ ที่จะมาระงับสนธิสัญญานั่นก็เป็นไปได้ยากสินะครับ?"
ราชินีอาริเชีย "ถ้าคนร้ายที่ข่มขู่เป็นพวกที่เห็นด้วยกับการขยายอำนาจทางการทหารล่ะก็ คงจะกล่าวเช่นนั้นได้กระมัง พวกของพันเอกริชาร์ดที่ถูกจับกุมอยู่ตอนนี้ก็ไม่มีอำนาจพอที่จะทำให้เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นหรอกค่ะ ที่น่าเป็นห่วงก็คือกรณีที่คนอื่นเป็นคนร้ายข่มขู่ต่างหาก...... เกี่ยวกับความเป็นไปได้นั้นข้าพเจ้าก็ไม่อาจชี้ชัดลงไปได้ค่ะ"
เอสเทล "งั้นเหรอคะ......"
โอลิเวียร์ "ราชินีอาริเชีย ขอถามอะไรหน่อยได้ไม๊?"
ราชินีอาริเชีย "ค่ะ เรื่องอะไรคะ"
โอลิเวียร์ "ทำไมฝ่าบาท เพิ่งมีการเรียกร้องให้ทำสนธิสัญญาไม่ทำสงครามในเวลานี้ล่ะพะย่ะค่ะ? ยิ่งในสถานการณ์ที่ความสับสนจากเหตุการณ์ปฏิวัติยังไม่คลี่คลายลงไปเช่นนี้น่ะ ถึงตอนนี้จะคิดว่าควรมุ่งประเด็นไปที่ต่างประเทศมากกว่าเรื่องภายในประเทศก็ตามแต่"
เอสเทล "เดี๋ยวดิ๊ โอลิเวียร์......"
ราชินีอาริเชีย "หึหึ อาจจะเป็นอย่างที่คุณโอลิเวียร์กล่าวก็เป็นได้นะคะ แต่เกี่ยวกับเรื่องสนธิสัญญาไม่ทำสงครามนั้น ข้าพเจ้าก็ได้หยั่งเสียงจากรัฐบาลของทั้ง 2 ประเทศมาก่อนหน้าเหตุการณ์ปฏิวัติแล้วล่ะค่ะ ถ้ากำหนดการเลื่อนออกไป อาจจะเข้าไปเกี่ยวพันกับอำนาจบารมีของประเทศชาติก็ได้กระมัง ยิ่งไปกว่านั้นดูเหมือนว่า [ปัญหาครอสเบล] 『クロスベル問題』 ก็กำลังประทุขึ้นมาอีกครั้งด้วยค่ะ"
โอลิเวียร์ "โฮ่......"
เอสเทล "ครอสเบลเนี่ย...... เขตปกครองตนเองที่เร็นจังอาศัยอยู่น่ะเหรอ?"
คลอเซ่ "ใช่ค่ะ เป็นเขตปกครองตนเองที่มีพื้นที่ตั้งอยู่ระหว่างจักรวรรดิกับสาธารณรัฐน่ะค่ะ ปีที่แล้วทั้งสองประเทศก็ขัดแย้งกันอย่างรุนแรงเพื่อที่จะนำเขตปกครองตนเองนี้กลับมาอยู่ในความปกครองค่ะ"
จิน "ก็ คงจะเป็นก้างปลาชิ้นใหญ่ที่คอยทิ่มแทงจักรวรรดิกับสาธารณรัฐน่ะนะ เรื่องระหองระแหงที่เกี่ยวข้องก็ถูกเรียกรวมกันว่า [ปัญหาครอสเบล] น่ะ"
เอสเทล "งั้นเหรอ....... มีที่แบบนั้นอยู่ด้วยเหรอเนี่ย"
โอลิเวียร์ "ถ้าเช่นนั้น สนธิสัญญาไม่ทำสงครามเนี่ย ทางลีเบร์ลก็จะเป็นผู้ที่ดึงก้างปลานั่นออกไป...... เป็นเช่นนั้นใช่ไม๊พะยะค่ะ?"
ราชินีอาริเชีย "เพราะนั่น ไม่ใช่ปัญหาที่จะสะสางได้ภายใน 1 วัน 1 คืน ข้าพเจ้าก็แค่คิดว่าควรจะมีการแก้ปัญหาที่มูลเหตุ แล้วสิ่งนั้นก็จะต้องเชื่อมโยงไปสู่ความมั่นคงของทวีปในแถบตะวันตก รวมทั้งสิทธิในการแสดงความคิดเห็นของลีเบร์ลก็น่าจะเพิ่มขึ้นอย่างแน่นอนค่ะ"
- จากนั้น เอสเทลจะสอบถามเรื่องพ่อแม่ของเร็นค่ะ แต่ก็ตามที่คิดไว้ว่าราชินีอาริเชียคงจะไม่ทราบอยู่แล้ว ดังนั้นองค์ราชินีจะแนะนำให้ไปถามคนในพระราชวัง อย่างคุณนายฮิลด้าดูค่ะ
☆ถ้าเราไปพบ "คุณนายฮิลด้า" มาแล้ว บทสนทนาจะเปลี่ยนไปนิดหน่อยค่ะ☆
- ก่อนที่จะไปตรวจสอบที่อื่นต่อ คลอเซ่เหมือนอยากจะพูดอะไรกับเสด็จย่าของเธอ แต่ราชินีอาริเชียรู้อยู่แล้วว่าคลอเซ่ต้องการจะพูดอะไร จึงกล่าวกับหลานของตนว่า "เรื่องนั้น ค่อยมาบอกย่าตอนที่หลานมาพักที่ราชวังในคืนนี้ก็แล้วกัน"
- หน้าห้องบรรทม
โอลิเวียร์ "ว้าว ช่างเป็นท่านที่ยิ่งใหญ่จังนะ โดยเฉพาะความรู้สึกที่เป็นกลางอย่างเหลือล้นที่มีต่อทวีปนี้นั่นน่ะ"
จิน "นั่นสิ...... เป็นผู้ปกครองประเทศในอุดมคติอย่างแท้จริงเลยนะ น่าอิจฉาชาวลีเบร์ลจริงๆ"
เอสเทล "อือหื~ม มันแน่นอนอยู่แล้ว จะพูดยังไงก็เป็นสมเด็จพระราชินีของประเทศของพวกเรานี่นะ"
คลอเซ่ "..................................................."
เอสเทล "มีอะไรเหรอ คลอเซ่?"
คลอเซ่ "อ๊ะ เปล่าค่ะ...... แค่กำลังตระหนักถึงความยอดเยี่ยมของเสด็จย่าอีกครั้งน่ะค่ะ ดิฉันเนี่ย คงเทียบไม่ติดเลยจริงๆ นะคะ......"
เอสเทล "..............เอ๊ะ"
โอลิเวียร์ "นี่ องค์หญิง ตอนที่องค์ราชินีขึ้นครองราชย์ทรงมีพระชนมายุเท่าไรกันน๊า?"
คลอเซ่ "อ๊ะ คะ คิดว่าน่าจะ 20 ค่ะ"
โอลิเวียร์ " แล้ว ตอนนี้องค์หญิงอายุเท่าไรล่ะ?"
คลอเซ่ "จะ 16 แล้วค่ะ...... .........อ๊ะ........."
- คลอเซ่คิดอะไรบางอย่างขึ้นมาได้
โอลิเวียร์ "หึ ก็เป็นอย่างนั้นแหล่ะ แม้แต่ฝ่าบาทเองตอนที่ขึ้นครองราชย์แรก ๆ ก็คงจะพยายามเรื่อยมาจนสามารถออกว่าราชการได้อย่างยอดเยี่ยมดังเช่นปัจจุบัน แล้วตอนนี้องค์หญิงก็ยังอายุน้อยกว่าตอนที่ฝ่าบาทขึ้นครองราชย์ซะอีก ไปเปรียบเทียบกันก็คงจะไม่ได้ใช่ไม๊ล่ะ?"
จิน "ในเชิงวิทยายุทธ์นั้น ถ้าเป็น [หลักการ] มีเพียงผู้ที่ [เก่งกาจ] จึงจะไปถึงได้ ถึงแม้จะมีความ [เก่งกาจ] นั่น แต่ถ้าไม่สั่งสมไปทีละก้าวทีละก้าว ก็ไม่อาจบรรลุเป้าหมายได้อย่างแน่นอน ------ แล้วฝ่าบาทก็ดูออกถึงความ [เก่งกาจ] ที่จะไปถึง [หลักการ] ได้อยู่ในตัวเธอยังไงล่ะ ชั้นว่าไม่ใช่การตัดสินใจด้วยความรักใคร่อย่างไม่ลืมหูลืมตาหรอกนะ"
คลอเซ่ "คุณโอลิเวียร์ คุณจิน...... ------ ......ขอบคุณมากนะคะ"
เอสเทล "หึหึ ทั้ง 2 คนพูดได้ดีแฮะ อายุก็ไล่เลี่ยกันด้วยไม่ใช่เหรอไง"
โอลิเวียร์ "เสียมารยาท...... ผมอายุแค่ 25 เอง น้อยกว่าคุณจินตั้ง 5 ปีเชียวนะ"
จิน "ที่เสียมารยาทน่ะ มันนายต่างหากล่ะ......"
- คลอเซ่ถึงกับอดขำโอลิเวียร์กับจินไม่ได้ค่ะ จากนั้นเราจะมุ่งหน้าไปสอบถามข้อมูลกันต่อ
★หากไปที่เขตเมืองตะวันออก หน้าร้านขายไอศครีม (ฝั่งตรงข้ามห้างเอเดล) จะพบ "ทีต้า" กับ "เร็น" ยืนกินไอศครีมอยู่ค่ะ ทีต้าจะบ่นอุบอิบ ๆ กับเอสเทลว่า
ทีต้า "ทั้ง ๆ ที่ไอศครีมออกจะอร่อย ทำไมคุณอากัตถึงไม่มากินด้วยกันนะ? อ๊ะ...... หรือว่าจะไม่ชอบไอศครีมหรือเปล่านะ"
เอสเทล "คิดว่าคงไม่ใช่หรอก ถ้าเป็นอากัตคงจะแค่รู้สึกเขินเท่านั้นมั๊งนะ"
ทีต้า "หมะ หมายความว่า เพราะมากับหนูที่ดูเหมือนเด็กใช่ไม๊? เอ่อเอ่อ...... งั้นถ้าหนูโตเป็นผู้ใหญ่ คุณอากัตจะมากินด้วยกันหรือเปล่า?"
เอสเทล "งะ ไงดีล่ะ...... ลองไปถามเจ้าตัวจะดีกว่าไม๊? ------------- แต่ ทีต้าที่เป็นผู้ใหญ่งั้นเหรอ...... คงจะดีเกินไปสำหรับอากัตนะ......"
ทีต้า "เห~?"
★หากไปคุยกับ "หัวหน้าพิพิธภัณฑ์" เขาจะบอกว่าได้ส่งของที่จิมมี่นำมาให้เขา ไปให้กับ "อัครสังฆราชคาแลนท์" ให้ตรวจสอบให้แล้วค่ะ
★หากไปคุยกับ "คุณนายแคทรีน่า" ที่บ้านนายพลมอร์แกน เธอจะบอกว่าก่อนหน้านี้พันโทซีดก็มาเล่นกับ "รีอานู" และรีอานูก็ชอบพันโทซีดมากซะด้วยสิ เพราะพันโทซีดรักเด็ก เด็กก็มักจะรับรู้ได้ตรงจุดนั้นค่ะ
★หากไปคุยกับ "ปีกเกอร์" 『ピーカー』 ที่เดินไปเดินมาหน้ามหารวิหาร เขาจะบอกว่าช่วงนี้เห็นพี่ชายหัวเขียว ๆ เดินเข้าเดินออก มหาวิหารบ่อย ๆ หรือว่าพี่ชายคนนั้นจะเป็นผู้รับใช้พระเจ้าเหมือนกันนะ แต่ดูไม่เเหมือนเลยแฮะ (ก็มีแต่คนบอกอย่างนี้)
★หากไปคุยกับ "อัครสังฆราชคาแลนท์" เขาจะบอกว่าทางมหาวิหารได้รับ "อาร์ติแฟกซ์" มาจากพิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ ซึ่งตั้งแต่ครั้งอดีตแล้วอาร์ติแฟกซ์ที่พิพิธภัณฑ์ทำการค้นพบและนำมามอบให้โบสถ์เจ็ดจรัสนั้น ส่วนใหญ่พลังจะหายไปหมดแล้วค่ะ
★จะเจอ "อากัต" หรือ "เจ๊เชร่า" ที่มาสอบถามข่าวที่มหาวิหารด้วยนะคะ
สำนักข่าวลีเบร์ล 『リベール通信社』
- ไปสอบถามข้อมูลจาก "ไนแอล" 『ナイアル』 ที่ชั้น 3 ค่ะ
- เราจะสอบถามไนแอลถึงเรื่อง "จดหมายข่มขู่" ที่ส่งมาที่สำนักข่าวฯ ตอนแรกไนแอลนึกว่าทางกองทัพซะอีกที่เป็นฝ่ายทำการตรวจสอบเรื่องนี้ เอสเทลก็เลยอธิบายไปว่าทางกองทัพไหว้วานให้สมาคมเบรเซอร์ตรวจสอบค่ะ
- แต่เป็นที่น่าเสียดายว่าไนแอลเพิ่งจะกับมาที่นครหลวงจึงไม่มีข่าวเด็ด ๆ ให้ แต่เขาต่างหากที่อยากได้ข่าวจากพวกเอสเทล
(เอสเทลกะโอลิเวีย์จะพูดจาเหน็บแนมไนแอลนิด ๆ ค่ะ ก็แหม เป็นถึงผู้สื่อข่าวทั้งทีแต่ทำมั๊ยทำไมใช้อะไรไม่ได้เล๊ย)
- คลอเซ่ถึงกับก้มหัวขอร้องไนแอลว่าขอแค่ข้อมูลเล็ก ๆ น้อย ๆ ก็ยังดี ทำให้ไนแอลรีบบอกให้องค์หญิงเงยหน้าขึ้น ส่วนเขาจะบอกข้อมูลเท่าที่เขามีให้กับพวกเราค่ะ
(แต่เรื่องสถานที่ที่จดหมายข่มขู่ส่งไปนั้น พวกเรามีอยู่แล้วค่ะ เพราะงั้นข้อมูลของไนแอลก็ใช่อะไรไม่ได้ ยังไงไนแอลก็ไม่มีประโยชน์จริง ๆ ซะด้วยสิ)
- แต่เรื่องหนี่งที่ไนแอลคิดเอาไว้ก็คือ เขาไม่คิดว่าคนที่ส่งจดหมายข่มขู่ต้องการยับยั้งการร่วมลงนามจริง ๆ หรอก แค่ต้องการสร้างความวุ่นวายเท่านั้น และคนที่ทำการส่งก็ต้องเป็นคนที่รู้เรื่องภายในประเทศเป็นอย่างดี เพราะรู้ไปถึงสถานที่ที่เกี่ยวข้องถึง 9 แห่ง ซึ่งพวกเอสเทลก็คิดเช่นนั้นเหมือนกับไนแอลค่ะ
- จะยังไงก็ตาม ไนแอลก็รับปากจะลองตรวจสอบข้อมูล ค้นหาดูว่าใครเป็นคนร้ายที่ส่งจดหมายไปทั้ง 9 แห่งให้กับพวกเอสเทลค่ะ
- ก่อนจะไปเอสเทลจะถามถึง "โดรธี" จากไนแอล เขาจะบอกว่าโดรธีกำลังถ่ายรูปทำบทความพิเศษอยู่ที่บอสค่ะ ซึ่งบทความพิเศษที่ว่าก็ไปหาข้อมูลจากฐานทัพลับที่พวกสลัดอากาศเคยใช้เป็นที่มั่นค่ะ
(อันที่จริง ไนแอลก็เป็นห่วงรุ่นน้องของเขาเหมือนกันนะคะ เป็นห่วงว่าจะไปทำอะไรป้ำ ๆ เป๋อ ๆ ให้เสียเรื่องน่ะค่ะ เฮ้อ เป็นไนแอลก็ลำบากเหมือกนันนะเนี่ย)
- จากนั้น เอสเทลจะสอบถามเรื่องพ่อแม่ของเร็นกับไนแอลค่ะ ซึ่งไนแอลก็เคยได้ยินชื่อ "ฮาโรลด์ เฮเวิร์ส" มาบ้างเหมือนกัน แต่ก็ไม่มีข้อมูล [คนหาย] เข้ามาที่เขา แต่เขาก็จะลองสอบถามไปทางคนรู้จักของเขาที่อยู่ในพื้นที่ครอสเบลให้ค่ะ
สาขาแกรนเซล 『グランセル支部』
- กลับไปรายงานผลกับ "เอลนัน" ค่ะ
(รุ่นพี่ของเรา (อากัต หรือเจ๊เชร่า) จะมารออยู่แล้ว ส่วนทีต้ากับเร็น เอลนันบอกว่าทั้งสองคนอยู่บนชั้น 2 กำลังดูของที่เพิ่งซื้อกันมาอยู่ค่ะ)
- จากนั้น เอสเทลจะรายงานผลการตรวจสอบสถานที่ทั้ง 4 ส่วนทางด้านรุ่นพี่เบรเซอร์ของเรานั้น ไม่ได้ข้อมูลอะไรที่พอจะคาดเดาตัวคนร้ายได้จากสถานที่ทั้ง 3 แห่งค่ะ
- เอสเทลจะลองถามความเป็นไปได้ของคนร้ายจากเอลนันว่าจะเป็นฝีมือของ [องค์กร] หรือเปล่า แต่เอลนันคิดว่าไม่น่าจะเป็นไปได้ เพราะเหตุการณ์ในครั้งนี้ไม่มีความเกี่ยวข้องกับการทดลอง [กอสเปล] ขององค์กรที่เคยทำมาเลย แม้แต่น้อยค่ะ
- ยังไงก็ตาม เอลนันจะทำรายงานเรื่องที่ตรวจสอบ และมอบหมายให้พวกเอสเทลนำไปมอบให้กับพันโทซีดที่ราชคฤหาสน์เอลเบในวันพรุ่งนี้ค่ะ
- ส่วนเรื่องพ่อแม่ของเร็นนั้น ทางอากัตหรือเจ๊เชร่าได้ข้อมูลมาว่าพ่อแม่ของเร็นเคยพักอยู่ที่โรงแรมในช่วง 2 สัปดาห์ในนครหลวง แล้วก็เพิ่งเช็คเอาท์ออกไปเมื่อเช้านี้เองค่ะ หลังจากนั้นก็ไปภาวนาที่มหาวิหารด้วย แต่คุณนักบวชบอกว่าท่าทางของทั้ง 2 คนแปลก ๆ ดูเหม่อเลย (ตรงนี้ พวกเอสเทลจะสะกิดใจว่าลักษณะท่าทางของพ่อแม่เร็น เหมือนกับที่คุณนายฮิลด้าบอกเลย) ส่วนที่บริษัทเรือเหาะนั้น จากที่รุ่นพี่ของเราลองทำการตรวจสอบรายชื่อผู้โดยสารย้อนหลังไปครึ่งปี พบว่าไม่มีชื่อของครอบครัวเฮเวิร์สเลยค่ะ ซึ่งเป็นเรื่องที่แปลกประหลาดมาก ๆ
- จะมีคำถามให้เราเลือกตอบเกี่ยวกับความเป็นไปได้ที่พวกเร็นจะเดินทางมาลีเบร์ลโดยทางบก
う、うーん
อือ อืมม์
-
そんなはずはない
น่าจะไม่ใช่แบบนั้น
Bonus BP
- จากการวิเคราะห์เรื่องราว พวกเราคิดว่าไม่น่าจะเป็นเช่นนั้น เพราะเท่าที่จำได้ ตอนที่พบกับเร็นครั้งแรกที่แอร์=แลตเท่น เร็นบอกว่ากับพวกเอสเทลว่ามาโดยทางเรือเหาะ
- เอลนันวิเคราะห์ว่า อาจจะเป็นไปได้ที่พ่อแม่ของเร็นจะใช้ชื่อปลอมเดินทางมาค่ะ ดังนั้นเอลนันจะแจ้งเรื่องพ่อแม่ของเร็นไปที่สมาคมทุกพื้นที่ แล้วให้พวกเอสเทลรอฟังข้อมูลเฉย ๆ เพราะตอนนี้คงจะทำอะไรมากไปกว่านี้ไม่ได้ ส่วนเร็นนั้นทางสมาคมจะรับฝากเอาไว้ เมื่อเป็นเช่นนั้นเอสเทลจึงขันอาสาเป็นคนดูแลเร็นเองค่ะ
- จากนั้น เอสเทลจะบอกรุ่นพี่ของเราว่าคุณนายฮิลด้าเสนอให้เราไปพักที่ราชวัง แต่รุ่นพี่เราเห็นว่าถ้าอยู่พักอยู่ในเมืองเวลามีข่าวคราวอะไรเข้ามาจะเคลื่อนไหวได้สะดวกกว่าค่ะ เอสเทลเลยฝากคลอเซ่ไปขอโทษคุณนายฮิลด้าที่เธอไปพักที่ราชวังไม่ได้ ส่วนจินและโอลิเวียร์ก็จะไปพักที่สถานทูตของพวกเขาค่ะ
(โอลิเวียร์จะออกปากชวนพวกเราไปทานข้าว (ดื่มเหล้า) ก่อนแยกย้ายกันไปพักผ่อนด้วยนะคะ เอสเทลเผลอบอกไปว่า "ไม่ได้ฟังเสียงเปียโนเพราะ ๆ ของโอลิเวียร์มาตั้งนานแล้ว" ตาติ๊งต๊องเลยได้ใจใหญ่เลยค่ะ แถมบอกเอสเทลว่า "เข้าใจความไพเราะของเพลงได้เนี่ย แสดงว่าเริ่มเข้าใจรสชาติความเป็นผู้ใหญ่แล้วสินะ" ซะอีกแน่ะ)
- ในคืนนั้น พวกเอสเทลรวมทั้งเร็นก็ไปทางอาหารเย็นกันที่บาร์ "ซันนี่เบล อินน์" และยังเรียกไนแอลกับมิวเลอร์มาร่วมสังสรรค์กันด้วยนะคะ
(น่าเสียดายที่ช่วงนี้ทางฟาลคอมไม่ได้ทำฉากให้ดูค่ะ มีแต่ตัวหนังสือเขียว ๆ เฮ้อ อยากดูจัง)
นครหลวงแกรนเซล 『王都グランセル』
- พวกเอสเทลจะมาส่งคลอเซ่ที่หน้าทางเข้าราชวัง
(ทีต้าจะพูดประมาณว่า ไม่น่าเชื่อเลยว่าฝีมือการเล่นเปียโนของโอลิเวียร์จะสุดยอดจริง ๆ น่ะค่ะ)
โฮเต็ล โลเอนบาว์ม 『ホテル・ローエンバウム』
- เราจะต้องแยกพักกันเป็น 2 ห้องค่ะ อากัตหรือเจ๊เชร่าจะให้เอสเทลตัดสินใจว่าจะพักกับใคร ซึ่งเร็นจะขอพักกับเอสเทลค่ะ ทีต้าเองก็อยากจะพักกับเอสเทลด้วยเหมือนกัน แต่ทีต้าก็ยอมให้เร็นพักกับพี่เอสเทลเฉพาะวันนี้เท่านั้นค่ะ
◆หากมากับ "เจ๊เชร่า" เจ๊เชร่าจะชวนทีต้าเล่นทำนายไพ่ทาโร่ต์ค่ะ
◆หากมากับ "อากัต" อากัตจะนึกถึงตอนที่พักกับทีต้าแล้วก็ปู่รัซเซลค่ะ (เหตุการณ์ปฏิวัติ ในภาค FC)
- เมื่อเข้ามาในห้องพัก เอสเทลจะนึกถึงตอนที่เธอมาพักอยู่กับโยชัวร์เมื่อก่อนนี้ค่ะ
เร็น "เป็นไรเหรอ พี่สาว?"
เอสเทล "อ๊ะ อืม ก็นิดหน่อยน่ะ ยังไงก็ตาม...... เร็นจัง ขอโทษที่หาปาป๊ากับมาม๊าไม่เจอนะ"
เร็น "ไม่เป็นไรหรอก ก็ปาป๊ากะมาม๊าสัญญากับเร็นไว้แล้วว่าจะมารับ พวกพี่สาวไม่จำเป็นต้องไปฝืนตามหาเลยนะ"
เอสเทล "แต่ว่า......"
เร็น "ปาป๊ากะมาม๊าของเร็นเล่นซ่อนหาเก่งนะ ถึงจะไม่เก่งเท่าเร็น แต่ก็หาเจอไม่ได้ง่าย ๆ หรอก"
เอสเทล "อ๊ะฮะฮะ งั้นเหรอ งั้นจะไม่ฝืนตามหา แต่จะค่อย ๆ ตามหาไปเรื่อย ๆ ก็แล้วกันนะ"
- จากนั้น เร็นจะขอร้องเอสเทล 2 เรื่อง เรื่องแรกเธอจะขอให้เอสเทลเรียกเธอว่า "เร็น" เฉย ๆ เพราะทีทีต้า เอสเทลยังเรียก "ทีต้า" โดยไม่เติม "จัง" เลย เอสเทลก็ตกลง แต่เธอก็ให้เร็นเรียกเธอว่า "เอสเทล" แทนด้วยเหมือนกันค่ะ ส่วนอีกเรื่อง เร็นจะขอให้เอสเทลบอกเรื่องที่ไม่สบายใจกับเธอ เพราะตอนที่เอสเทลเข้ามาในห้องแล้วทำสีหน้าเศร้า ๆ น่ะค่ะ
เอสเทล "ก่อนหน้านี้น่ะนะ ชั้นเคยพักอยู่ในห้องนี้กับคน ๆ นึง ก็เลยนึกเรื่องของคน ๆ นั้นขึ้นมานิดหน่อยน่ะ"
เร็น "ว้าว! หรือว่าจะเป็นคนรัก!?"
เอสเทล "หึหึ...... เสียใจด้วยไม่ใช่หรอกจ้ะ เป็นคนที่เหมือนพี่น้องของชั้นที่ใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันในฐานะครอบครัวเดียวกันน่ะ แต่ตอนนี้เราก็ไม่ได้อยู่ด้วยกันมาพักนึงแล้วล่ะ......"
เร็น "หื~ม...... คน ๆ นั้นเป็นพี่ชายแบบไหนกันเหรอ? ชื่อล่ะ? หน้าตาล่ะ?"
เอสเทล "อ๊ะ อืม...... ชื่อโยชัวร์น่ะ มีผมสีดำขลับ นัยน์ตาสีอำพัน เรียกได้ว่าหล่อมาก อื~ม หล่อเหรอ น่าจะพูดว่าสวยมากกว่ามั๊ง"
เร็น "คุณคนสวยเหรอ?"
เอสเทล "หึหึ ก็ตอนที่แสดงละครเขาแสดงเป็นองค์หญิงน่ะ เป็นคนที่เหมาะกับบทนั้นมากจนน่ากลัวเลยล่ะ"
เร็น "ว้าว ดีจังเลยน๊า~ เร็นก็อยากจะเจอคนแบบนั้นบ้างซักครั้งจัง นี่นี่ จะได้เจอเมื่อไรเหรอ?"
เอสเทล "อ๊ะ อืม...... ก็ไม่รู้เหมือนกันน่ะ"
เร็น "........................ หรือว่า ที่เศร้าก็เพราะไม่รู้ว่าจะได้พบกันเมื่อไรน่ะเหรอ?"
เอสเทล "......เปล่าหรอก ไม่ใช่อย่างนั้น เพราะชั้นน่ะตัดสินใจไว้แล้วว่าไม่ว่าจะใช้เวลากี่ปีก็จะพากลับมาให้ได้น่ะ"
เร็น "งั้น ทำไม?"
เอสเทล "ที่ทำหน้าแบบนั้น ก็เพราะคิดว่าตอนนี้โยชัวร์ก็คงจะทำอะไรฝืน ๆ อยู่น่ะสิ...... ทั้ง ๆ ที่เป็นแบบนั้น...... ชั้นก็ไม่สามารถเป็นกำลังให้กับเขาได้ ......ก็เลยรู้สึกเศร้าใจล่ะมั๊ง"
เร็น ".........(เร็นทำหน้าหงุดหงิด)......."
เอสเทล "อ๊ะฮะฮะ โทษทีโทษที เรื่องแบบนี้เร็นทีไม่รู้เรื่องอะไรคงจะไม่สนุกสินะ?"
เร็น "เปล่า ไม่ใช่อย่างนั้นหรอก พี่ชายที่ชื่อโยชัวร์นั่นน่ะ คงจะเป็นคนที่ยอดเยี่ยมมาก ๆ เลยสินะ?"
เอสเทล "ไม่ยอดเยี่ยมหรอก...... แต่ชั้นว่าเป็นคนที่ทำให้ชั้นปวดเศียรเวียนเกล้ามาก ๆ เลยล่ะ จากกันไปแบบนั้น ......คะ ครั้งแรกของชั้น"
เร็น "? ครั้งแรก?"
เอสเทล "หวะ หวา ไม่มีอะไร! วันนี้เหนื๊อยเหนื่อย นอนกันเถอะนะ!"
เร็น "อ๊า~ หลอกกันชัด ๆ! ถ้าไม่เล่ามาให้หมด ยังไงก็ไม่ยอมนอนหรอกนะ!"
- จากนั้น พวกเอสเทลจะเข้านอนและพูดคุยกันทุกเรื่อง ยกเว้นเรื่องรัก ๆ ใคร่ ๆ ค่ะ
เหมืองร้างราเวนนู 『ラヴェンヌ廃坑』
- ฉากจะตัดมาที่พวก "อากัต" หรือ "เจ๊เชร่า" (คนที่เราไม่ได้เลือก) กับ "อาเนราส" ที่ตามพวกทหารพิเศษมาจนถึงเหมืองร้างค่ะ โดยพวกเขาจะตัดสินใจบุกเข้าไปเดี๋ยวนันเลยเพราะไม่มีเวลาแจ้งไปทางสมาคมค่ะ
- ที่ด้านในสุดของเหมืองร้าง ทั้ง ๆ ที่ดูเหมือนเป็นฐานทัพลับ แต่รุ่นพี่ของเราจะจับวี่แววของคนไม่ได้เลย แถมทหารเมื่อตะกี๊หายไปไหนก็ไม่รู้ แต่ถึงยังไงก็ต้องทำการสำรวจรอบ ๆ กันก่อน
- หลังจากทำการสำรวจ อาเนราสจะนำแฟ้มที่พบในเต๊นท์มามอบให้กับรุ่นพี่ค่ะ เป็นแฟ้ม "โครงการพัฒนา [ออลกวิยู]" 『オルグイユ』 ซึ่งพวกรุ่นพี่ก็ไม่ทราบเหมือนกันว่าเป็นชื่อของอะไร อาจจะเป็นชื่อของเรือเหาะก็เป็นได้ จากนั้น อากัตหรือเจ๊เชร่าจะพบเศษกระดาษเขียนข้อความเสียบอยู่ในแฟ้มนั้นว่า
[ดำเนินการส่งจดหมายข่มขู่เสร็จสิ้น
เตรียมโต๊ะและเก้าอี้ไว้เรียบร้อยแล้ว
การเตรียมการจัดงานเลี้ยงน้ำชาถึงจุดสิ้นสุด
ต่อไปก็แค่อบขนมรอแขกเหรื่อมาชุมนุมเท่านั้น
]
- ในระหว่างที่กำลังตีความอยู่นั้น พวกทหารพิเศษก็บุกโจมตีเราอย่างไม่ทันตั้งตัวค่ะ (เกิดการต่อสู้แบบ Back Attack)
- ทหารพิเศษ กงเล็บคู่ *2 + ทหารพิเศษ มือปืน -
- 『特務兵・両手爪*2+特務兵・銃』 -
**ไม่ยากค่ะ โจมตีธรรมดาก็จะสามารถชนะได้โดยง่าย หรือจะล่อใหัศัตรูมาอยู่รวมกันแล้วใช้ "Chain-Craft" ก็ได้ค่ะ**
- ปราบได้ พวกเราจะรู้สึกว่าเจ้าพวกนี้คงใช้ยาอะไรซักอย่างทำให้เก่งขึ้นเหมือนตอนพวกเด็กเกในรูอัน
- "อ๊ะฮะฮะ ยอดเยี่ยมยอดเยี่ยม" เสียงชายหนุ่มพร้อมทั้งเสียงปรบมือดังขึ้น "พวกพี่ชาย (พี่สาว) เป็นพวกเบรเซอร์ชั้นเยี่ยมเลยนะเนี่~ย" ชายหนุ่มในชุดสีชมพูดูแปลกตาปรากฏตัวขึ้นจากในเงามืด
ชายหนุ่มประหลาด "อุหึหึ...... ผู้ดำเนินแผนการ No. 0 [ตัวตลก] 『道化師』 คัมพาเนลล่า ผู้เข้าร่วมกับ [งูกินหาง] ไง"
- พวกเราจะถามคัมพาเนลล่าว่าต้องการทำอะไรกันแน่ รวมทั้งพวกทหารพิเศษพวกนี้ด้วย
ตัวตลกคัมพาเนลล่า "อุหึหึ คราวนี้หน้าที่ของผมคือ [เฝ้าดู] ให้ถึงที่สุดต่างหาก มาถามผมเรื่องแผนการที่ชัดเจนน่ะ คิดผิดแล้วล่ะ ถ้าจะให้พูดผมก็ไม่รู้อะไรเลยด้วย -------แต่ถ้าจะเข้าร่วม [งานเลี้ยงน้ำชา] ล่ะก็ รีบ ๆ กันหน่อยอาจจะดีกว่านะ ถึงผมจะไม่รู้ว่าจัดงานไปถึงไหนแล้ว แต่มั่นใจได้เลยว่าคนไม่น้อยอย่างที่นี่หรอกนะ หรือไม่งั้น จะร่วมดื่มกาแฟยามค่ำกับผมที่นี่ไม๊ล่ะ? "
อาเนราส "เอ่อ เธอน่ะ ดูยังเด็กอยู่เลยนะ เป็นคนของ [องค์กร] จริง ๆ เหรอ? จะไม่ว่าอะไรหรอก แต่หยุดทำอย่างนั้นจะดีกว่านะ"
ตัวตลกคัมพาเนลล่า "อุหึหึ เป็นพี่สาวที่ใจดีจังนะ แต่ตัวตลกน่ะ ไม่เฉพาะการทำอะไรตลก ๆ....... แต่เรื่องที่น่าเป็นห่วงก็คือการฝ่าฝืนมารยาทน่ะนะ"
อาเนราส "เอ๋......"
- คัมพาเนลล่าดีดนิ้วให้สัญญาณ ทำให้พวกทหารพิเศษลุกขึ้นมาอีกครั้ง และให้สัญญาณทำให้ร่างของพวกทหารพิเศษระเบิดออกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย
ตัวตลกคัมพาเนลล่า "อ๊ะฮะฮะ ประหลาดใจป่าว? เป็นกล่องตกใจที่ใช้ได้เลยใช่ม๊า?"
- คัมพาเนลล่าดีดนิ้วอีกครั้ง เปลวไฟสีแดงพวยพุ่งขึ้นมารอบ ๆ ตัวเขา
ตัวตลกคัมพาเนลล่า "อุหึหึ โชว์คืนนี้จบแค่นี้ล่ะ ------งั้น ขอให้ทุกท่านโชคดีนะ (โค้งคำนับ)"
- เมื่อคัมพาเนลล่าไปแล้ว ถึงแม้จะเป็นศัตรูกันก็เถอะ แต่เราจะรู้สึกไม่ดีกับการตายของเหล่าทหารพิเศษพวกนี้ ช่วงที่กำลังรู้สึกเช่นนั้น อาเนราสจะสังเกตเห็นอะไรบางอย่าง เธอเดินเข้าไปหยิบแขนของพวกทหารที่กระจัดกระจายอยู่บนพื้น
อาเนราส "อะ รุ่นพี่...... แขนนี่มัน...... เหมือนกับของที่ทำขึ้นมาเลยค่ะ!!"
- เมื่ออากัตหรือเจ๊เชร่าลองตรวจสอบดู ก็พบว่าร่างของพวกทหารนั้นมีแต่พวกฟันเฟืองและก็วงจรผลึกอยู่ภายในค่ะ
- "ตุ๊กตาออร์บเมนท์ที่เคลื่อนไหวได้ด้วยตนเอง...... ถ้าจะให้พูด ก็คงจะเป็นพวกตุ๊กตาสงครามน่ะ" เสียงของชายหนุ่มดังขึ้น สิ้นเสียงปรากฏร่างของชายในชุดบาทหลวงลาดตระเวน
◆ในกรณีของ "เจ๊เชร่า" เจ๊เชร่าจะจำเควินได้ค่ะ
◆ในกรณีของ "อากัต" อากัตจะไม่ทราบว่าเควินเป็นใครค่ะ
หลวงพ่อเควิน "มีเรื่องอะไรจะปรึกษาหน่อย...... ช่วยมาแลกเปลียนข้อมูลกันได้ไม๊ล่ะ?"
ทางหลวงบอสฝั่งตะวันตก 『西ボース街道』
- เหล่าทหารพิเศษวิ่งผ่านทางหลวงบอสยามค่ำคืน
- "ฮึ้ยส์ย่าาาาาาา" โดรุน คาปัวที่แอบอยู่บนต้นไม้กระโดดลงมาจู่โจมทหารพวกนั้น ต่อด้วยคีลน้องชายของเขา โจเซ็ตน้องสาวคนสุดท้อง และโยชัวร์ใช้ท่า "เขี้ยวดำขลับ" ปิดท้ายด้วยการโจมตีเพียงครั้งเดียว ตุ๊กตาสงครามในร่างของทหารพิเศษระเบิดออกชิ้นส่วนกระจัดกระจายไปทั่วทางหลวง
คีล "เหะเหะ ฝีมือยังยอดเยี่ยมเหมือนเดิมเลยนะ"
โยชัวร์ "......พวกคุณต่างหากล่ะ ที่ร่วมมือกันได้อย่างยอดเยี่ยมน่ะ เพราะพวกคุณก็เลยสามารถจัดการได้ในทีเดียวน่ะสิ"
โจเซ็ต "อือหืม...... ถึงจะยกยอปอปั้นยังไงก็เหอะ นี่มัน 10 ครั้งเข้าไปแล้วนะ? แล้วจะให้ตามล่าอีกซักเท่าไรเนี่ยห๊า?"
โยชัวร์ "นั่นสินะ...... คิดว่าน่าจะพอได้แล้วล่ะ กองทัพราชอาณาจักรก็มีการเคลื่อนไหวแล้ว คงจะถอนตัวกันได้แล้วล่ะ"
โจเซ็ต "งั้นเหรอ......"
โดรุน "แต่ไอ้องค์กรที่ว่าน่ะ ไม่เข้าใจเลยว่ามันคิดอะไรอยู่ ทำไมต้องให้ไอ้หนูตุ๊กตาตัวดำ ๆ พวกนี้เดินไปเดินมารอบ ๆ ด้วยล่ะ?"
คีล "นั่นก็จริงอยู่ แล้วพวกทหารพิเศษตัวจริงที่รอดตายไปไหนกันหมดซะล่ะ?"
โยชัวร์ "เป็นไปได้มากที่น่าจะเข้าร่วม [งานเลี้ยงน้ำชา] ตามข้อความนั่น...... ตุ๊กตาสงครามคงจะถูกใช้ให้ทำหน้าที่ดึงความสนใจจากพวกกองทัพล่ะมั๊ง"
คีล "อย่างนี้เองเหรอเนี่ย....... ถึงไม่รู้ว่าจะทำอะไรก็ตาม แต่มันทะแม่ง ๆ จริง ๆ"
โดรุน "เอาเถอะ พวกเราก็ไม่มีหน้าที่ให้ความช่วยเหลือ...... แต่ไอ้ [งานเลี้ยงน้ำชา] นั่น ปล่อยเอาไว้จะดีเหรอ?"
- โยชัวร์นิ่งเงียบไปครู่นึงก่อนที่จะตอบโดรุนว่า
โยชัวร์ "ตอนนี้พวกเบรเซอร์น่าจะกำลังตรวจค้นเหมืองนั่นอยู่แน่นอน ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของกองทัพและกิลด์ไปเถอะ"
โจเซ็ต "ใช่ใช่ ทิ้งเอาข้อความกับแบบแปลนเอาไว้ก็น่าจะพอแล้วล่ะ ถ้าทำแบบนี้ก็จะได้เปลี่ยนให้กิลด์มาเป็นพวกที่ขับไล่ตุ๊กตาแทน ต่อไปก็ให้ยัยสมองกลวงนั่นจัดการไป ดีเลยไม่ใช่เหรอไง?"
- โยชัวร์นิ่งเงียบลงไปเมื่อได้ยินโจเซ็ตพูดถึงเอสเทล
โจเซ็ต "หืมม์ อะไรล่ะ มาตอนนี้เพิ่งจะมาเป็นห่วงเพื่อนเก่า ๆ หรือไงกัน?"
โยชัวร์ "เปล่า...... คนพวกนั้นไม่เกี่ยวอะไรกับผมอีกแล้วล่ะ ถ้า [งานเลี้ยงน้ำชา] เริ่มขึ้นเมื่อไร การเฝ้ายามของกองทัพก็จะเน้นไปทางด้านนั้น เราก็จะได้เคลื่อนไหวได้สะดวก อย่าปล่อยให้โอกาสนั้นหลุดลอยไปล่ะ"
โดรุน "ได้เลย!"
คีล "อา~วละ ท่าทางจะยุ่งขึ้นอีกนะเนี่ย"
ราชคฤหาสน์เอลเบ 『エルベ離宮』
- เช้าวันต่อมา พวกเอสเทลก็นำรายงานเรื่องจดหมายข่มขู่ไปมอบให้ "พันโทซีด" ที่ราชคฤหาสน์เอลเบ ถึงแม้จะไม่สามารถหาตัวคนร้ายได้ก็จริง แต่พันโทซีดก็พึงพอใจสำหรับข้อมูลที่ได้มาค่ะ
(ได้รับทราบว่า ทางกองทัพได้วางกำลังรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวดรอบ ๆ ราชคฤหาสน์ เพื่อเตรียมพร้อมกับงานร่วมลงนามที่จะเกิดขึ้น และที่ไม่มีสัตว์ปิศาจรอบ ๆ ราชคฤหาสน์เลย ก็เพราะว่าพันโทซีดให้พวกลูกน้องฝึกขับไล่ศัตรู โดยอาศัยการตระเวนปราบพวกสัตว์ปิศาจที่อยุ่รอบ ๆ ราชคฤหาสน์น่ะค่ะ ซึ่งรุ่นพี่เราจะบอกว่าเป็นการช่วยเหลือสมาคมได้อีกทางเลยนะนั่น)
- ส่วนเรื่องพ่อแม่ของเร็น พันโทซีดบอกว่าเขาได้แจ้งเรื่องไปที่ด่านต่าง ๆ แล้ว แต่ยังไม่มีข้อมูลเข้ามา แต่ถ้าได้ข้อมูลมาแล้ว พันโทซีดจะแจ้งไปที่สมาคมให้เองค่ะ ตอนนี้พวกเอสเทลก็เลยทำได้แค่รออย่างเดียวเท่านั้น พวกเอสเทลจึงถามซีดว่าจะให้พวกเบรเซอร์ช่วยไปเฝ้าระวังที่นครหลวงด้วยไม๊ แต่พันโทซีดบอกว่าพวกเบรเซอร์ก็ยุ่ง ๆ อยู่แล้ว ไม่อยากจะรบกวนไปมากกว่านี้ และทางนั้นกำลังที่วางเอาไว้ก็น่าจะเพียงพอค่ะ
- "รองหัวหน้ากองเบลูค" จะเข้ามารายงานพันโทซีดว่ามีการติดต่อมาจากพื้นที่บอส ถึงเรื่องที่พบพวกรอดตายในพื้นที่บอสค่ะ (คนที่พบก็คือ พวกรุ่นพี่ของเรา) และทางกองบัญชาการก็ได้ส่งกองกำลัง หน่วยที่ 2 เข้าไปประจำในพื้นที่นั้นเพื่อทำการตรวจสอบแล้วค่ะ
- ออกมาที่สวน "ทีต้า" กับ "เร็น" ที่เล่นกันอยู่ จะเข้ามาสมทบกับเอสเทลค่ะ
(ทีต้ากับเร็นจะแย่งกันเล่นกับเอสเทลค่ะ (น่ารักจริง ๆ) แถมทีต้ายังพูดกับเอสเเทลด้วยความน้อยใจว่า "พี่เอสเทลกับเร็นเรียกชื่อกันห้วน ๆ ตั้งกะเมื่อไร หรือว่าหนู...... จะเป็นเด็กที่พี่สาวไม่ต้องการแล้วเหรอ?" เอสเทลจึงดินเข้าไปกอดทีต้าแสดงความรัก เร็นเห็นแล้ว ถึงกับอิจฉาทีต้าสุด ๆ ค่ะ)
- เมื่อออกมาด้านนอกราชคฤหาสน์จะพบ "ดยุคดิวนัน" และลุง "ฟิลลิป" ค่ะ
("ดยุคดิวนัน" กำลังจะออกไปข้างนอก แต่เขาไม่พอใจที่มีทหารรับใช้ไปด้วยแค่ 3 นาย นายทหารให้เหตุผลว่าเพราะมีการฝึกซ้อม ก็เลยเจียดคนมาทำหน้าที่คุ้มครองท่านดยุคได้เท่านี้ค่ะ แต่ดยุึคดิวนันไม่ยอม (เอาแต่ใจจริง ๆ) เพราะว่าเขาเป็นถึงราชวงศ์ชั้นสูง อย่างน้อยต้องมีทหารคุ้มครอง 10 นายถึงจะเพียงพอค่ะ)
- เอสเทลจะอาสาไปกับพวกดยุคดิวนันด้วย
(จากตรงนี้จะทราบว่า ดยุคดิวนันได้รับการอนุญาตให้กลับเข้าไปอยู่ที่ราชวังแล้วค่ะ เอสเทลเลยแซวไปว่าเมื่อกลับไปแล้วก็ระวังอย่าให้ถูกหลอกใช้อีกเป็นครั้งที่ 2 (ในภาค FC เขาถูก "อดีตพันเอกริชาร์ด" หลอกใช้ค่ะ) แถมเอสเทลยังกำชับดยุคดิวนันว่าเป็นคนในราชวงศ์จะต้องมีสติมากกว่าอีกหน่อยด้วยนะคะ ทุกคนได้แต่นิ่งเงียบและคิดว่าที่เอสเทลพูดก็ถูก (ไม่น่าเชื่อว่าเอสเทล จะพูดอะไรดี ๆ มีความคิดกะเขาเป็น) ดยุคดิวนันเหมือนจะคิดอะไรได้ แล้วก็รีบให้พวกทหารพาเขาออกไปจากที่นี่และปฏิเสธโดยสิ้นเชิงว่าจะไม่ไปกับพวกเอสเทลค่ะ)
- ฟิลลิปจะขอบคุณเอสเทลที่ช่วยเหลือเรื่องดยุคดิวนันหลายต่อหลายครั้งค่ะ
- เอสเทลบอกกับฟิลลิปว่าโดยเนื้อแท้แล้วดยุคไม่ได้เป็นคนไม่ดีอะไร ดังนั้นเธอจึงคิดว่าน่าจะมีคนปราม ๆ เขาบ้างก็น่าจะเพียงพอแล้ว ทำเอาฟิลลิปถึงกับซึ้งที่มีคนเข้าใจนายของเขาด้วย แต่ยังไม่ทันที่ฟิลลิปจะพูดอะไรต่อเสียงดยุคก็เร่งให้ฟิลลิปรีบ ๆ ไปกับเขาค่ะ ทำให้รุ่นพี่ของเราออกปากชมเอสเทลเลยว่าทำได้ดี สมกับที่เป็นลูกของป๋าจริง ๆ ค่ะ
★หากลองคุยกับพวกพลทหารในนี้ จะได้รู้เรื่องราวในกองทัพบางส่วนด้วยนะคะ เช่นว่ามีคนเปรียบเทียบระหว่าง "พันโทซีด" กับ "พันเอกริชาร์ด" ว่าใครเก่งกว่าใครน่ะค่ะ ถ้าเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับการวางแผนป้องกันแล้วล่ะก็ กล่าวได้ว่าพันโทซีดเก่งกาจยิ่งกว่าพันเอกริชาร์ดอีกนะคะ ตอนที่เกิดสงครามร้อยวันก็เพราะมีพันโทซีดคอยประจำการอยู่ที่ประตูเซนต์ไฮม์ นครหลวงถึงไม่โดนยึดง่าย ๆ ค่ะ
- กลับไปรายงานผลกับเอลนัน รวมทั้งแจ้งข้อมูลที่มีผู้พบเห็นทหารพิเศษด้วยค่ะ
☆ในช่วงนี้ระหว่างทางจะไม่มีสัตว์ปิศาจให้ต่อสู้นะคะ ตามเหตุผลข้างต้นค่ะ☆
สาขาแกรนเซล 『グランセル支部』
- ไปที่สาขาพบกับ "คลอเซ่" และ "จิน" ที่มารออยู่แล้ว และได้รับค่าเหนื่อยจากงาน "ตรวจสอบจดหมายข่มขู่" จากเอลนันค่ะ
(ได้รับฟังเรื่องราวจาก "เอลนัน" เรื่องที่พวกเบรเซอร์รุ่นพี่อีกกลุ่มหนึ่งพบพวกทหารพิเศษในพื้นที่บอสค่ะ และได้รับทราบว่า [องค์กร] กำลังเคลื่อนไหวทำอะไรบางอย่าง ทั้งยังได้พบกับ [คัมพาเนลล่า] 1 ใน [ผู้ดำเนินแผนการ] อีกด้วย รวมทั้งแผนผังพาหนะขับเคลื่อนโดยออร์บเมนท์ที่ชื่อ [ออลกวิยู] และข้อความปริศนา ที่เกี่ยวกับ [งานเลี้ยงน้ำชา] ที่อยู่ในแผนผังนั้นด้วยค่ะ)
- ในระหว่างที่กำลังพูดคุยกัน "เร็น" จะเดินออกไปจากที่นี่โดยไม่มีใครสังเกตเห็น ในช่วงที่เอสเทลกำลังถามพวกเอลนันว่าโอลิเวียร์หายไปไหน ซึ่งเอลนันบอกว่าอันที่จริงโอลเวียร์มารอที่นี่แล้ว แต่เมื่อสักครู่ทางสถานทูตจักรวรรดิติดต่อมา คุณโอลิเวียร์ก็เลยต้องไปทางนั้นก่อน เดี๋ยวก็คงจะกลับมาที่สาขาค่ะ
- พอพูดถึงโอลิเวียร์แล้ว เอสเทลถึงได้รู้สึกตัวว่าเร็นหายตัวไปเหมือนกันค่ะ เอสเทลจึงขอเอลนันออกไปตามหาเร็น ตรงนี้ทีต้าก็จะขอตามไปด้วยค่ะ
☆เลือกเพื่อนเข้ากลุ่ม 1 คน ได้ตามสบายเลยนะคะ (เอสเทล อากัต หรือ เจ๊เชร่า และทีต้า เป็นตัวละครบังคับ)☆

ตามหาเร็น
『レンの捜索』 {BP2(+3)}
นครหลวงแกรนเซล 『王都グランセル』
(24) ประกาศจับสัตว์ปิศาจที่ทางน้ำใต้ดิน2
- เราจะเริ่มตามหาเร็นกันค่ะ จากความเห็นของทีต้าคิดว่าเร็นน่าจะอยู่ "เขตเมืองด้านตะวันออก" ที่เมื่อวานพวกเธอไปเดินเที่ยวกันค่ะ
- ให้เราเริ่มหาจากเขตเมืองตะวันออกได้เลยนะคะ โดยจะมีวิธิได้โบนัส BP ง่าย ๆ ดังนี้เลยค่ะ
ตามหาเร็นพบ โดยไม่สอบถามเอลนัน เกี่ยวกับคำใบ้ที่ได้มาจากที่ต่าง ๆ เลย Bonus BP
☆ทางที่ดี อย่าคุยกับเอลนันในช่วงที่ได้คำใบ้เลยก็ดีค่ะ เพราะถึงแม้เราจะเปลี่ยนใจ "ไม่ถามคำใบ้จากเอลนัน" (เลือกคำสั่งที่ 2) ตัวเกมก็จะไม่ให้โบนัส BP กับเราอยู่ดีค่ะ (เศร้า)
☆ถึงจะสอบถามเอลนันไม่ได้ แต่เราสามารถสอบถามชาวเมืองได้นะคะ เพราะชาวเมืองบางคนก็เห็นเร็นตามที่ต่าง ๆ ที่เธอไปเหมือนกันค่ะ☆
★หากไปคุยกับ "ลอยด์" ที่สมาพันธ์นักตกปลา เขาจะบอกว่าคุณนายที่ชื่อ "นอร์เช" ที่เพิ่งเข้าร่วมสมาพันธ์หลังจากงานเฉลิมฉลองวันพระราชสมภพนั้น สุดยอดมาก ๆ ค่ะ เพราะเมื่อไม่นานมานี้เธอเพิ่งจะตก "เจ้าของ" ได้ และตอนนี้เธอก็เลือนมาอยู่ระดับเดียวกับลอยด์คือ [นักตกปลาระดับพิเศษ] ค่ะ
★หากไปคุยกับ "ทูตเอลซ่า" (ต้องมี "จิน" อยู่ในกลุ่ม) ทูตเอลซ่าจะสงสัยว่า "ทีต้า" เป็นเด็กคนที่เอสเทลมาถามถึงพ่อแม่เมื่อวานนี้หรือเปล่า ทีต้าเลยแนะนำตัวกับทูตเอลซ่าไป พอเอลซ่าได้ยินชื่อ "รัซเซล" ก็รู้เลยว่าทีต้ามีความเกี่ยวข้องกับ ดร. รัซเซล ผู้โด่งดังค่ะ (ดังข้ามประเทศจริง ๆ นะเนี่ย แต่ตัวจริงน่ะ นิสัยช่าง......)
★หากไปคุยกับ "พลทหารเบลกัน" เขาจะบอกว่าโอลิเวียร์ออกไปข้างนอกกับมิวเลอร์ได้สักครู่แล้วค่ะ
★หากไปที่ "ห้างเอเดล" จะพบกับ "คุณป้าบลูม" 『ブルーム婆さん』 (แม่ของรินอน ที่เดินทางมาจากเมืองรอเลนซ์ค่ะ) อันที่จริงที่ป้าแกมาที่นี่ ก็เพื่อมาหาเจ้าสาวให้รินอนนั่นแหล่ะค่ะ
★หากไปคุยกับ "ซิสเตอร์ โนอา" ที่มหาวิหารแกรนเซล เธอจะบอกว่าได้รับฝากจดหมายที่จ่าหน้าถึงหลวงพ่อเควินเอาไว้ แต่เจ้าตัวหายไปไหนก็ไม่รู้เนี่ยสิ
- สำหรับสถานที่ที่เร็นไป ก็ตามนี้เลยค่ะ
(1) "ห้างเอเดล" เขตเมืองด้านตะวันออก
- พบเร็นกำลังเดินออกจากห้างค่ะ แต่พอรีบตามออกไปก็ไม่เจออยู่ดีค่ะ
(2) "พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์"
- "รีเชีย" 『リーシア』 ประชาสัมพันธ์จะบอกว่าเห็นเด็กผู้หญิงชุดขาวที่มาที่นี่เมื่อวานนี้ เข้ามาในพิพิธภัณฑ์เมื่อสักครู่นี่เองค่ะ น่าจะอยู่ที่ไหนสักแห่งในนี้นี่แหล่ะ
- ขึ้นไปบนชั้น 2 แล้วลงมาชั้น 1 จะพบเร็นกำลังถามรีเชียว่า [รู้ไม๊ว่าคุณปลาที่ไม่มีสี อยู่ที่ไหน?] แล้วก็ออกไปด้านนอกค่ะ โดยพวกเราก็ตามเร็นไม่ทันเช่นเคย
(เพราะมีคำใบ้ให้อย่างนี้ เอสเทลเลยเริ่มรู้แล้วว่าเร็นกำลังเล่นซ่อนหากับพวกเธออยู่ค่ะ)
(3) "สำนักงานใหญ่สมาพันธ์นักตกปลา"
- สำรวจภาพพิมพ์ปลาทางด้านซ้ายมือค่ะ
- เร็นจะทิ้งปริศนาให้ "ฟิชเชอร์" หัวหน้าสมาพันธ์เอาไว้ว่า [รู้ไม๊ว่า ร้านแสนอร่อย ที่ทั้งเผ็ด ทั้งแสบร้อน อยู่ที่ไหน?]
(4) "คอฟฟี่เฮ้าส์ บาราล"
- คุยกับ "บาราล" 『バラル』 มาสเตอร์ของร้านนี้ค่ะ
- บาราลจะบอกว่าเด็กผู้หญิงชุดขาวเพิ่งมาสั่งคาเฟ่โอเล่แล้วดื่มอย่างเอร็ดอร่อยไปเมื่อกี๊นี้เอง แล้วก็ถามปัญหาแปลก ๆ กับเขาว่า [ขนมที่ไม่ร้อน มีขายที่ไหน?]
☆อย่าลืมคุยกับ "คูนิก้า" 『クニーガ』 ที่นั่งดื่มกาแฟอยู่ในคอฟฟี่เฮ้าส์ เขาจะให้ "แจ็คนักเสี่ยงโชค เล่ม 5" มาให้เราอ่านด้วยนะคะ
(5) "ร้านไอศครีม" ที่เขตเมืองตะวันออก
- คุยกับ "ซอร์เบ" 『ソルベ』 เจ้าของร้านค่ะ
- เธอจะบอกว่าเพื่อนของทีต้าที่มาด้วยกันเมื่อวานเพิ่งมากินไอศครีมไปเมื่อกี๊ แล้วทิ้งคำพูดเอาไว้ให้ว่า [นัดกับพวกพี่สาวเอาไว้ ที่ท่าเทียบเรือเหาะ]
(6) "ท่าเทียบเรือเหาะ"
- ระหว่างทางจะพบกับ "หัวหน้าช่างซ่อมบำรุงกุสตาฟ" และก็ "เฟย์" ที่กำลังขน "ตัวอย่างเครื่องยนต์รุ่นใหม่สำหรับอัลเซยู [XG-02]" ค่ะ ถึงจะบอกว่าเป็นตัวอย่างแต่ก็ใช้งานได้เหมือนกับของจริงค่ะ (แล้วทีต้า ก็จะเข้าสู่โหมดบ้าเครื่องจักรค่ะ) ซึ่งเครื่องยนต์ 2 ชิ้นนี้ ก็คือตัวอย่างที่จะมอบให้กับจักรวรรดิและสาธารณรัฐ ซึ่งพวกกุสตาฟกำลังจะนำไปเก็บที่โกดังที่ท่าเรือค่ะ
◆ในกรณีที่พา "คลอเซ่" มาด้วย คลอเซ่จะขอบคุณกุสตาฟที่นำเครื่องยนต์ตัวอย่างมามอบให้โดยสวัสดิภาพ ตอนแรกกุสตาฟไม่รู้ว่าคลอเซ่คือองค์หญิงคลอเดียค่ะ พอคลอเซ่แนะนำตัวว่าเป็นองค์หญิงกุสตาฟถึงกับตกใจเลยล่ะค่ะ
- ไปที่ท่าเทียบเรือเหาะ "โอลิเวียร์" กำลังส่ง "มิวเลอร์" ขึ้น "รินเด" มุ่งหน้าไปยังพื้นที่บอสเพื่อไปดำเนินการนำ "แมวป่า" กลับคืนมาค่ะ
(จากคำบอกเล่าของโอลิเวียร์ "แมวป่า" 『山猫号』 นั้น เดิมทีเป็นเรือเหาะที่ผลิตในเอเรโบเนีย และเนื่องจากว่า "กลุ่มสลัดอากาศ" ที่เคยเป็นอดีตขุนนางของเอเรโบเนียยังคงลอยนวลอยู่ในราชอาณาจักร ทางรัฐบาลเอเรโบเนียจึงอนุญาตให้ไปเก็บกู้คืนมาเพื่อแสดงความร่วมมือให้แ่ก่ราชอาณาจักร และเป็นการช่วยสะสางปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้นก่อนการร่วมลงนามสนธิสัญญาที่จะมีขึ้นค่ะ นอกจากนั้นพอเอสเทลรู้ว่า "ยัยห้าว" (ในภาษาญี่ปุ่น คำที่เอสเทลใช้เรียกโจเซ็ตคือคำว่า "ボクっ子" (โบขุกโกะ) ซึ่งแปลได้ว่าเด็กผู้หญิงที่ใช้คำแทนตัวว่าผม ซึ่งถ้าแปลว่า "ทอม" ไปเลยเกรงจะไม่ถูกต้องนัก เพราะถึงแม้จะใช้คำแทนตัวแบบผู้ชายก็จริง แต่นิสัยก็ยังเป็นผู้หญิงเหมือนเดิมค่ะ) คนนั้นเป็นอดีตตระกูลขุนนางก็ถึงกับตกใจเลยค่ะ)
โอลิเวียร์ "ถ้าพูดถึงบารอนคาปัวแล้วล่ะก็ เคยเป็นถึงเจ้าผู้ครองแคว้นเล็ก ๆ ในแถบเอเรโบเนียตะวันออก ได้ยินมาว่าหลายปีก่อนหน้านี้ต้องแบกหนี้ก้อนใหญ่และทิ้งที่ดินในความปกครองไปน่ะ"
เอสเทล "มะ มีเรื่องอย่างนั้นด้วยเหรอเนี่ย...... จะพูดไงดีล่ะ...... เป็นพวกที่น่าสงสารนิด ๆ นะเนี่ย"
- พบ "เร็น" ที่ท่าเทียบเรือเหาะค่ะ เอสเทลจะบ่นเร็นว่า จู่ ๆ ก็หายไปทำให้ทุกคนเป็นห่วง แต่เร็นใช้ลูกไม้อ้างว่าซึ้อคุ๊กกี้และชามาจากห้างเอเดลจะแบ่งให้พวกเอสเทลกินกันค่ะ ยังไงก็ตามเอสเทลก็โกรธเร็นไม่ลงอยู่ดี
- เมื่อโอลิเวียร์ได้ฟังพวกเอสเทลว่ามีเรื่องเกิดขึ้นที่พื้นที่บอส ดังนั้นโอลิเวียร์จึงขอให้เล่ารายละเอียดให้ฟัง แต่ยังไงก็ตามเราจะกลับไปที่สมาคมกันก่อนค่ะ
- หน้าสมาคมในขณะที่ทุกคนเข้าไปในสมาคมหมดแล้ว จู่ ๆ เร็นก็หยุดไม่เข้าไปในสมาคมแล้วถามเอสเทลว่า
เร็น "นี่ เอสเทล......"
เอสเทล "หืม มีอะไรเหรอ? ไม่โกรธแล้วล่ะ ทำใจให้สบายเถอะนะ"
เร็น "อุหึหึ ไม่ใช่ซักหน่อย อีกอย่างถึงเอสเทลจะโกรธก็ไม่เห็นจะน่ากลัวเลย"
เอสเทล "อุก...... ไม่ต้องพูดก็ได้มั๊ง --------- แล้ว มีอะไรเหรอ?"
เร็น "เอ่อ...... จริง ๆ แล้ว มีของที่รับฝากมาให้เอสเทลน่ะ"
เอสเทล "ของที่รับฝาก?"
เร็น "อืม อย่าตกใจนะ?"
- เร็นมอบจดหมายให้กับเอสเทล พร้อมทั้งบอกให้เอสเทลอย่าตกใจและลองอ่านดูก่อน
[ถึง เอสเทล
แม้จะสับสนมาก แต่มีธุระที่จำเป็นต้องบอกเธอให้ได้
ถึงจะลาจากกันไปแบบนั้น
ให้คิดซะว่าเป็นเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ
แล้วออกมาพบกันแค่ 2 คนได้ไม๊?
เย็นนี้ จะรอบนอาเนนเบิร์กฝั่งประตูกริวเน่นะ
]
- เมื่อเอสเทลได้อ่านจดหมาย เอสเทลถึงกับตกใจและถามเร็นว่าใครเป็นคนฝากจดหมายมา
เร็น "เป็นพี่ชายหน้าหล่อเหลา ผมสีดำสนิท ตาสีอำพันล่ะ ตอนที่เร็นรอพวกเอสเทลในที่พักผู้โดยสารที่ท่าเทียบเรือเหาะ เขาก็มาขอร้องเร็นให้ช่วยรับฝากไว้หน่อยน่ะ"
- เอสเทลจะดีใจมาก ๆ เพราะจากลักษณะที่เร็นพูด ไม่ว่ายังไงก็ต้องเป็นโยชัวร์อย่างแน่นอน แต่ทว่าตอนนี้ใกล้จะเย็นแล้ว
- รุ่นพี่เบรเซอร์ของเราจะออกมาเรียกให้เข้าไปได้แล้ว เพราะเอลนันกำลังจะแจ้งข้อมูลของทุกพื้นที่ให้ฟัง
- เอสเทลบอกเรื่องจดหมายแล้วปรึกษารุ่นพี่ว่าควรจะทำยังไงดี ซึ่งรุ่นพี่ก็อนุญาตให้เราไปได้ค่ะ เร็นจะสงสัยว่าอยากจะเจอพี่ชายคนนั้นขนาดนั้นเชียว ซึ่งรุ่นพี่บอกว่าเพราะโยชัวร์เป็นเป้าหมายในการออกเดินทางของเอสเทลค่ะ (ซึ้ง)

จดหมายเรียกให้ออกไปพบ
『呼び出しの手紙』 (BP0)
ประตูกริวเน่ 『グリューネ門』
- ใช้ "ถนนคิลเช" มุ่งเข้าสู่ประตูกริวเน่ค่ะ
- ไปบน "อาเนนเบิร์ก" ด้านใต้
(ขยายความกันนิดนะคะ "อาเนนเบิร์ก" 『アーネンベルク』 เป็นชื่อกำแพงที่ล้อมรอบอาณาเขตทั้งหมดของนครหลวงค่ะ ลองเปิดแผนที่ใหญ่ดูได้นะคะ จะมีการระบุเอาไว้ค่ะ)
นครหลวงแกรนเซล 『王都グランセル』
- ตัดมาที่นครหลวง "ดยุคดิวนัน" ดื่มเหล้าจนเมามาย (แถมยังกินข้าวแกงกะหรี่กะกาแฟอีกต่างหาก ท้องคนเหรอนั่นน่ะ) ที่กำลังเดินไปบ่นไป
ดยุคดิวนัน "คลอเดีย...... แล้วก็ยัยเด็กเบรเซอร์นั่น....... ทำไมยัยเด็กนั่น...... กับชั้น...... ทำไมคำพูดของยัยเด็กแบบนั้น...... ไม่ยอมหลุดออกไปจากความคิดของชั้นซักทีนะ......"
- เสียงของหญิงสาวกล่าวทักทายดยุคดิวนัน เมื่อเขามองไป ณ เบิ้องหน้า หญิงสาวในชุดทหารพรานอดีตลูกน้องของพันเอกริชาร์ด "คาโนเน่" และเหล่าทหารพิเศษปรากฏกายขึ้น
ประตูกริวเน่ 『グリューネ門』
- ตัดมาที่ประตูกริวเน่อีกครั้ง เอสเทลวิ่งไปหาเงาของชายหนุ่มที่ทอดยาวไปตามแสงอาทิตย์อัสดง แต่ทว่าชายหนุ่มคนนั้นไม่ใช่โยชัวร์ แต่เป็น......
หลวงพ่อเควิน "เห๊ะ...... เอสเทลจังเหรอ......?"
เอสเทล "คุณเควิน...... ทะ ทำไมถึงมาอยู่ที่นี่ได้......?"
- เอสเทลพยายามมองหาโยชัวร์ แต่ไม่พบคนอื่นนอกจากหลวงพ่อเควินเลย
หลวงพ่อเควิน "แหม~ ไม่ได้เจอกันนานเลยน๊า~ แต่ได้มาพบกันอีกครั้งในที่แบบนี้ พวกเราเนี่ยคงจะมีบุญต่อกันแน่เลย~"
เอสเทล "นี่ คุณเควิน! ได้เจอกับใครบนนี้บ้างหรือเปล่า!?"
หลวงพ่อเควิน "เห๊ะ...... ที่บอกว่าใครน่ะ --------- หรือว่าเอสเทลจังก็มีนัดบนนี้ด้วยเหรอ?"
เอสเทล "อะ อืม...... ......หรือว่า คุณเควินก็ด้วย?"
หลวงพ่อเควิน "อา...... มีจดหมายเรียกออกมาน่ะ"
เอสเทล "ชะ ชั้นก็เหมือนกัน ------------- เอ๊ะเหะเหะ เป็นความบังเอิญที่น่าเหลือเชื่อจังนะ"
หลวงพ่อเควิน "ฮะฮะ จริงด้วยสิน๊า~ ไม่สิ มีเรื่องบังเอิญแบบนั้นด้วยเหรอไง!"
เอสเทล "ก็คงงั้นมั๊ง? ถ้างั้น โยชัวร์ก็เรียกคุณเควินออกมาพบเหมือนกัน......"
หลวงพ่อเควิน "โยชัวร์?...... เขาคนนั้นน่ะเหรอ?"
เอสเทล "อะ อืม......"
หลวงพ่อเควิน "มะ ไม่รู้มาก่อนเลยแฮะ...... ว่าที่จริงแล้วโยชัวร์คุงอายุรุ่นราวคราวลุงน่ะ ก็เนี่ยแหล่ะน๊า หากจะรักแล้วความต่างวัยก็ไม่เป็นปัญหาน่ะ......... ถ้าเป็นแบบนั้นโอกาสของชั้นก็........."
เอสเทล "เอ่อ~ อย่ามาเหมารวมเรื่องที่ละเอียดอ่อนแบบนั้นสิ มันรู้สึกตะหงิด ๆ นะ...... แล้วใครเป็นคนใช้จดหมายเรียกคุณเควินออกมาพบกันล่ะ?"
หลวงพ่อเควิน "อา มีจดหมายจ่าหน้าถึงชั้นส่งไปที่มหาวิหารน่ะ ได้ยินมาว่าคนที่นำจดหมายมาส่งเป็นชายวัยกลางคนรูปร่างหน้าตาดีน่ะ......"
เอสเทล "ยะ โยชัวร์น่ะ อายุเท่าชั้นต่างหากล่ะ! ต้องไม่ใช่ตาลุงอยู่แล้วน่ะสิ!"
หลวงพ่อเควิน "อ๊ะ จริงเหรอ? เฮ้อ~ ชั้นคิดอะไรแปลก ๆ สินะเนี่ย~"
เอสเทล "ไม่ต้องบอกก็น่าจะรู้...... แต่นี่มันเรื่องอะไรกันล่ะเนี่ย? ถ้าเป็นแบบนั้น ไม่แน่ว่า......"
- จะมีคำตอบให้เราเลือกค่ะ
本当にただの偶然?
เป็นเรื่องบัญเอิญทั่วไป?
-
2人を始末するための罠
กับดักเพื่อกำจัดเรา 2 คน
Bonus BP
中年男性はヨシュアの変装
คุณลุงวัยกลางคนนั่น คือโยชัวร์ปลอมตัวมา
-
- แท้จริงแล้ว คนที่ส่งจดหมายมาหาเอสเทลและเควินนั้นต้องการจัดการพวกเขา 2 คนนั่นเองค่ะ **เควินเข้ากลุ่ม** (เกิดการต่อสู้แบบ Back Attack)
- พอร์ตซีกเกอร์ *2 -
- 『 ポートシーカー*2』 -
**เจ้าตัวนี้พลังป้องกันค่อนข้างสูง แถมยังใช้อาร์ทเพิ่มเลือดให้ตัวเองได้ ทั้งยังใช้อาร์ท "ดาร์คแมทเทอร์" โจมตีเราหนักพอสมควรเลยล่ะค่ะ**
**แนะนำให้เอสเทลโจมตีธรรมดา ส่วนเควินใช้อาร์ทปราบจะง่ายขึ้นค่ะ**
- เมื่อปราบได้ศัตรูจะหนีไป
(จากคำบอกเล่าของเควิน ศัตรูในคราวนี้ไม่ใช่ "สัตว์ปิศาจ" แต่เป็น "ตุ๊กตาสงคราม" เหมือนกับพวกที่ปรากฏตัวที่ "เขตที่ถูกผนึก" ในราชวังค่ะ)
- เควินจะรู้สึกว่าเจ้าพวกเมื่อกี๊จะแตกต่างไปนิดหน่อย และคาดว่าน่าจะเป็นพวกที่เพิ่งสร้างขึ้นมาได้ไม่นานนี้ค่ะ ทำให้เอสเทลถามว่าแล้วมันแตกต่างกันยังไง
หลวงพ่อเควิน "ถ้าเป็นตุ๊กตาสงครามในเขตที่ถูกผนึกเป็น [อาร์ติแฟกซ์ (มรดกแห่งอารยธรรมโบราณ)] ชนิดหนึ่งล่ะก็...... เมื่อกี๊ก็เป็นแค่ตุ๊กตาสงครามในสมัยนี้ที่ขับเคลื่อนด้วยออร์บเมนท์น่ะ แถมดู ๆ ไปแล้วประสิทธิภาพก็ผิดกันด้วย"
- เอสเทลสงสัยอีกเรื่องก็คือ "ทำไมคุณเควิน ถึงรู้เรื่องเขตที่ถูกผนึกได้ล่ะ?" ทำเอาเควินสะอึกไปเลยค่ะ
- แต่ทว่า "รองหัวหน้ากองกริฝ" 『グリヴ副長』 ที่ได้ยินเสียงต่อสู้เมื่อสักครู่ก็มาดูว่าเกิดอะไรขึ้น และเข้าใจว่าพวกเอสเทลเป็นคนร้าย
- ก่อนที่จะถูกจับไปสอบสวน เควินแก้ปัญหาเฉพาะหน้าโดยการให้เอสเทลแสดงตนว่าเป็นเบรเซอร์ (ให้เอสเทลเอาสมุดจดเบรเซอร์ให้กับพวกทหารดู) และเควินยังเล่ารายละเอียดคร่าว ๆ ให้พวกทหารฟังว่าทางเรากำลังตรวจสอบ [องค์กร] อยู่ค่ะ ซึ่งพวกทหารก็พอจะทราบเรื่องอยู่แล้วเพราะกองบัญชาการมีการแจ้งเตือนในเรื่องนี้เหมือนกันค่ะ
- "รองหัวหน้ากองกริฝ" ได้บอกว่าทางพันโทซีดได้แจ้งมาว่า มีกลุ่มคนปรากฏตัวที่ถนนรอบเมืองและตอนนี้พวกรักษาความปลอดภัย ก็ได้เกณฑ์กำลังทหารส่วนหนึ่งไล่ตามกลุ่มคนที่ว่าไปค่ะ เควินจึงรีบให้เอสเทลกลับไปที่สมาคมกันก่อน และเดินออกมาก่อนปล่อยให้เอสเทลได้แต่เดินตามไปอย่างงง ๆ
เอสเทล "เดี๋ยวก่อนสิ! นี่มันเรื่องอะไรกันเนี่ย!?"
หลวงพ่อเควิน "อ๊า~ ยังไม่เข้าใจอีกเหรอ?"
เอสเทล "มะ มันแน่นอนอยู่แล้วไม่ใช่เหรอ! รู้กระทั่งการเคลื่อนไหวของพวกชั้น แล้วยังรู้เรื่องของ [องค์กร] ด้วย นาย...... เป็นใครกันแน่!? เป็นบาทหลวงธรรมดา ๆ จริง ๆ เรอะ!?"
หลวงพ่อเควิน "บาทหลวงแห่งโบสถ์เจ็ดจรัสตัวจริงเสียงจริงเลยล่ะ แต่ถ้าจะให้พูด...... ก็ไม่ใช่บาทหลวงธรรมดา ๆ หรอกนะ"
เอสเทล "แล้วมันอะไรล่ะ?"
หลวงพ่อเควิน "เรื่องนั้นไว้อธิบายทีหลังก็แล้วกันนะ เมื่อกี๊ก็บอกไปแล้วนี่ว่า ตอนนี้รีบกลับไปที่กิลด์กันก่อนจะดีกว่า ไม่แน่ว่าอาจจะมีเรื่องวุ่นวายที่คาดไม่ถึงเกิดขึ้นก็เป็นได้"
เอสเทล "เรื่องวุ่นวายที่คาดไม่ถึง...... โอ๊ย...... เหมือนหัวจะปวดตึ๊บ ๆ ! --------- ทั้ง ๆ ที่...... ทั้ง ๆ ที่จะได้พบโยชัวร์ ทำไมเรื่องถึงกลายเป็นแบบนี้ล่ะ......"
หลวงพ่อเควิน "ถ้าจดหมายนั่นเป็นของเขาคนนั้นล่ะก็นะ..... แต่มัน จะใช่จดหมายที่เขาส่งมาจริง ๆ เหรอ?"
เอสเทล "เอ๊ะ......? อะ อืม ก็เด็กคนที่รับฝากจดหมายเอาไว้บอกอย่างนั้นนี่นา ก็คิดได้แต่เพียงว่าน่าจะเป็นโยชัวร์......"
หลวงพ่อเควิน "แล้วเด็กคนนั้นรู้เรื่องของเขาคนนั้นเหรอ? ถ้าเป็นแบบนั้น ก็เป็นไปได้ว่าคงจะมีการเตรียมคนที่ลักษณะคล้ายคลึงกันเอาไว้"
เอสเทล "ตะ แต่ว่า...... ตัวหนังสือก็เหมือนกับของโยชัวร์......"
หลวงพ่อเควิน "เรื่องลายมือน่ะ มันก็ทำให้เหมือนกันได้นะ ยิ่งใช้กับคนที่กำลังหวั่นไหวก็ยิ่งหลอกได้ง่าย ที่จริงแล้วจดหมายที่ชั้นรับมาจากมหาวิหารก็คืออันนี้น่ะ"
- เควินหยิบจดหมายออกมาจากซองที่ฉีกแล้วให้เอสเทลดู เอสเทลถึงกับตกใจ เพราะทั้งซองทั้งลายมือเป็นแบบเดียวกับที่เธอได้รับ
- แล้วจดหมายอันนี้เควินได้ทำการตรวจสอบแล้ว แต่ก็ยังไม่รู้ว่าใครเป็นคนส่งมา เอสเทลจะโกรธมากที่มีคนปลอมเป็นโยชัวร์แล้วเรียกเธอออกมาเช่นนี้ ถึงกับตะโกนสุดเสียงด้วยความโกรธออกมาว่า "ยังไงก็ไม่ให้อภัยเด็ดขาด!!" ทำเอาเควินถึงกับหูชาไปเลยค่ะ แล้วเควินจะบอกให้เอสเทลใจเย็นลงรีบกลับไปที่สมาคมก่อน
(แต่เอสเทลยังไม่เชื่อใจเควินซะทีเดียวค่ะ เธอบอกว่าถ้าเควินหลอกเธอล่ะก็ จะซัดให้กระเด็นเลยล่ะค่ะ แต่เควินก็มามุกขายขนมจีบเอสเทลว่า "ถ้าเอสเทลจังจะเป็นคนซัดให้กระเด็น ชั้นก็ยินดีนะ ถ้าเพื่อผู้หญิงที่ชั้นหลงรัก ยังไงก็จะเตรียมตัวเตรียมใจรอเลยล่ะ" ซะงั้นน่ะ)

เข้าร่วมงานเลี้ยงน้ำชา
『お茶会への出席』 {BP4(+3)}
นครหลวงแกรนเซล 『王都グランセル』
- ใช้ "ถนนคิลเช" มุ่งสู่นครหลวงค่ะ
☆ตอนนี้เราจะใช้ถนนรอบเมืองเอลเบไม่ได้ เพราะมีการตั้งด่านเพื่อความปลอดภัยค่ะ☆
- เมื่อมาถึงนครหลวงก็จะเป็นช่วงเวลากลางคืน เอสเทลจะขอโทษเควินที่ทำกริยาไม่ดีใส่เขาเมื่อตะกี๊ค่ะ แต่เรื่องที่ยังเชื่อใจเควินไม่เต็ม 100 นั้น เธอก็ยังไม่เปลี่ยนนะคะ
- พบกับลุง "ฟิลลิป" เขาจะถามเอสเทลว่า เห็น "ดยุคดิวนัน" บ้างหรือเปล่า เพราะดยุคดิวนันออกมาในเมืองตั้งแต่ช่วงบ่ายยังไม่กลับไปที่ราชวังเลยค่ะ ซึ่งเอสเทลจะเสนอให้ฟิลลิปไปที่สมาคมกับเธอ เผื่อจะมีใครแจ้งมาว่าดยุคดิวนันไปทำความเดือดร้อนให้ใครบ้างหรือเปล่าค่ะ
- เมื่อเข้าไปที่สาขาจะพบว่า เอลนันและเพื่อน ๆ ทุกคนที่อยู่บนชั้น 2 โดนยานอนหลับค่ะ
- พบจดหมายที่ใช้ซองเหมือนกับที่เควินและเอสเทลได้รับ
[รับฝากเด็กสาวกับท่านดยุคเอาไว้แล้ว
ถ้าต้องการรับตัวกลับไป ก็จงเข้าร่วม [งานเลี้ยงน้ำชา] สิ
]
- จากการวิเคราะห์ของพวกเรา เด็กสาวที่กล่าวถึงในจดหมายอาจจะเป็นเร็นก็ได้ เพื่อความชัวร์เอสเทลจึงวิ่งขึ้นไปหาเร็นที่ชั้น 3 แต่ก็ไม่เจอ เควินจะพูดออกมาเบา ๆ ว่า "[งานเลี้ยงน้ำชา] ที่ว่า อยู่ที่นครหลวงนี่เอง"
- "เอสเทล" จะรู้สึกผิดที่ทำให้เร็นและดยุคดิวนันพลอยมาติดร่างแหไปด้วย แต่ฟิลลิปบอกว่าไม่ใช่ความผิดของเอสเทลเลย เพราะยังไงท่านดยุคก็ชอบออกมานอกราชวังอยู่แล้ว และงานคุ้มครองก็เป็นหน้าที่ของเขาต่างหาก
- เควินจะให้เอสเทลลองหาสถานที่ของ [งานเลี้ยงน้ำชา] ในจดหมายอีกครั้ง แต่ในจดหมายก็ไม่ได้บอกสถานที่เอาไว้ แล้วเอสเทลจะสงสัยว่าทำไมเควินถึงพูดว่า "อยู่ที่นครหลวงนี่เอง"
- พบกับ "อากัต" หรือ "เจ๊เชร่า" (ที่เราไม่ได้เลือกในตอนแรก) รุ่นพี่จะอธิบายเรื่องราวทุกอย่างที่พวกเขาได้พบที่ฐานทัพลับนั้นกับเอสเทลค่ะ
- จากนั้น "อาเนราส" จะตามมาสมทบอีกคน และบอกว่าเครื่องมือสื่อสารถูกถอดอะไหล่ออกไป ทำให้ไม่สามารถใช้งานได้ทันที รุ่นพี่ลองสำรวจเครื่องมือสื่อสารบนชั้นนี้ก็พบว่าใช้ไม่ได้เหมือนกันค่ะ
- เอสเทลจะให้รุ่นพี่ดูจดหมายที่ได้มาเมื่อกี๊ค่ะ ซึ่งจากการวิเคราะห์แล้วเป็นไปได้ว่า ต้องเป็นฝีมือของ [งูกินหาง] แน่ ๆ ที่อยู่เบื้องหลังเหตุการณ์คราวนี้
- จากนั้นรุ่นพี่จะใช้ให้อาเนราสวิ่งไปที่ราชคฤหาสน์เอลเบเพื่อแจ้งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นค่ะ และวานให้ฟิลลิปช่วยดูแลพวกพ้องที่สลบอยู่ที่นี่ค่ะ
ราชคฤหาสน์เอลเบ 『エルベ離宮』
- "พันโทซีด" รับฟังรายงานจากลูกน้องเกี่ยวกับการไล่ตามกลุ่มคนที่ปรากฏตัวบนถนนรอบเมือง ตามรายงานที่ได้รับ ทราบว่าเมื่อกำลังทหารตามกลุ่มคนพวกนั้นไป พวกนั้นกลับหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย ไม่แน่ว่าที่กลุ่มคนพวกนั้นทำอย่างนี้ อาจจะเป็นเพียงแค่การเบี่ยงเบนความสนใจก็เป็นได้
- จากนั้นพลทหารจะเข้ามารายงานผลการติดต่อไปยังกองบัญชาการที่ค่ายเรสตอนว่าเรียบร้อยแล้ว แต่ติดต่อไปที่สมาคมเบรเซอร์สาขานครหลวงไม่ได้ พันโทซีดจะฝากเรื่องให้ "รองหัวหน้ากองเบลูค" ช่วยจัดการทางนี้ต่อ ส่วนเขาจะไปที่ห้องสื่อสารเพื่อทำการติดต่อไปยังกองบัญชาการที่ค่ายเรสตอนอีกครั้งค่ะ
นครหลวงแกรนเซล 『王都グランセル』
- "ซิก" จะบินมาหาเอสเทลและให้ทำท่าทางว่าจะนำทางพวกเราไปยังสถานที่ที่ว่าให้ค่ะ **อากัต หรือ เจ๊เชร่า (ที่ไม่ได้เลือกในบทที่ 1) เข้าเป็นพวก**
☆ก่อนจะไปที่ท่าเรือ แนะนำให้เตรียมตัวให้เรียบร้อยนะคะ และก็อย่าลืมอัฟเกรดสล็อตออร์บเมนท์เตรียมไว้ด้วยนะคะ เพราะหลังจากนี้จะเจอกับศึกหนักค่ะ☆
- ตามซิกไปทาง "เขตเมืองด้านตะวันตก"
★หากไปที่สำนักข่าวลีเบร์ล คุยกับ "ไนแอล" เขาจะขอตามพวกเราไปด้วย แต่เพราะเรากำลังรีบจึงรอไม่ได้ค่ะ ดังนั้นไนแอลจึงให้พวกเราไปก่อน แล้วเขาจะตามไปทีหลังค่ะ
★หากไปคุยกับ "อัครสังฆราชคาแลนท์" ที่มหาวิหาร เขาจะขอให้เควินรายงานผลเรื่องที่ว่าให้เขาฟัง แต่เควินขอเลื่อนไปคราวหลังเพราะตอนนี้กำลังรีบอยู่ค่ะ
นครหลวงแกรนเซล - ท่าเรือ 『王都グランセル・波止場』
- เมื่อเข้ามาที่ท่าเรือจะเกิดการต่อสู้ขึ้น (แอทแทคเดอเว่น *3) 『アタックドーベン』
- เมื่อปราบได้ เราจะแน่ใจได้เลยว่าที่นี่คือสถานที่จัด [งานเลี้ยงน้ำชา] อย่างแน่นอน
- เข้าไปในโกดัง (หากเราเดินผ่านไปเลย รุ่นพี่จะบอกให้เราลองเข้าไปตรวจสอบในโกดังค่ะ)
- พบ "ดันเคะ" 『ダンケ』 และ "ฟีลิโอ" 『フィリオ』 ที่กำลังถูกพวกทหารพิเศษล้อมอยู่ค่ะ
- ทหารพิเศษ กงเล็บคู่ *2 + ทหารพิเศษ มือปืน -
- 『特務兵・両手爪*2+特務兵・銃』 -
**ไม่ยากค่ะ โจมตีไปเรื่อย ๆ ก็จะชนะได้ หรือถ้าอยากจะให้ง่ายขึ้นก็ใช้ "คาออสแบรนด์" ทำให้ศัตรูติด "สับสน" ก็ได้นะคะ**
- ปราบได้ พวกทหารพิเศษจะพูดว่า "หน้าที่ของเราลุล่วงแล้ว ที่เหลือปล่อยให้เป็นหน้าที่ของท่านร้อยเอก หน่วยสืบข้อมูลจงเจริญ" เอสเทลจะติดใจกับ [ร้อยเอก] ที่พอจะนึกก็มีแต่ [จิ้งจอกตัวเมีย]
(เป็นฉายาที่ฟังดูโหดร้าย น่าสงสารคาโนเน่จริง ๆ)
- เอสเทลจะสังเกตเห็น ตัวอย่าง "เครื่องยนต์รุ่นใหม่ (ออร์เบิลเอนจิ้น)" สำหรับใช้กับยานอัลเซยูหายไป 1 อัน ซึ่งดันเคะบอกว่าพวกพ้องของทหารพวกนี้ขนไปที่ท่าเรือด้านในค่ะ
- ไปยังโกดังท่าเรือด้านใน (ด้านทิศตะวันออก) พบกับ "คาโนเน่"
(เอสเทลจะเรียกคาโนเน่ว่า "ร้อยเอก" แต่เธอบอกด้วยความแค้นว่า เป็น "อดีตร้อยเอก" ต่างหากค่ะ)
- เอสเทลจะบอกให้คาโนเน่คืนเด็กมา แต่ดูเหมือนคาโนเน่จะไม่รู้เรื่องของเร็น และบอกว่าเธอแค่ขอความร่วมมือ (แบบบังคับ) จากท่านดยุคเท่านั้น ไม่มีคนอื่นค่ะ ซึ่งเป้าหมายของเธอก็คือการช่วยเหลือพันเอกริชาร์ด
- จากนั้น คาโนเน่จะออกคำสั่งให้เริ่มแผนการได้และสั่งให้ลูกน้องของเธอสกัดพวกเราเอาไว้ค่ะ
- เกิดการต่อสู้กับ (ทหารพิเศษ กงเล็บคู่ *2 + ทหารพิเศษ มือปืน *2) 『特務兵・両手爪 + 特務兵・銃』
- ปราบได้คาโนเน่จะขับ [ออลกวิยู] พังประตูโกดังออกมา
(จากคำบอกเล่าของคาโนเน่ [ออลกวิยู] 『オルグイユ』 เป็นรถถังออร์บเมนท์พลังขับเคลื่อนสูงติดปืนรุ่นใหม่ล่าสุด ที่หน่วยสืบข้อมูลใช้เวลาพัฒนาขึ้นมาให้มีลักษณะพิเศษไม่เหมือนใคร ปืนกลไฟมีพลังมากกว่ารถถังของจักรวรรดิถึง 2 เท่า ยิงเรือเหาะรักษาความปลอดภัยได้ถึง 4 ลำในครั้งเดียว และยังมีเครื่องยนต์รุ่นใหม่ของ [อัลเซยู] ที่เอามาอีกค่ะ สุดยอดจริง ๆ)
- และที่คาโนเน่จับตัวดยุคดิวนันมานั้น ก็เพื่อเป้าหมายที่แท้จริงของเธอก็คือ "องค์ราชินี" ค่ะ และเธอจะใช้ [ออลกวิยู] นี่แหล่ะ บุกเข้าไปในพระราชวัง
- เราจะตามคาโนเน่ไป แต่ทว่าดูเหมือนความฝันที่จะบุกเข้าไปในราชวังเพื่อจับตัวองค์ราชินีเป็นตัวประกันของคาโนเน่ จะต้องหยุดลงที่ท่าเรือนี่ เพราะ "ร้อยเอกยูเลีย" พร้อมทั้งกำลังติดอาวุธแห่งกองกำลังรักษาพระองค์เตรียมพร้อมรับมือเอาไว้ได้
ร้อยเอกยูเลีย "ไม่ได้เจอกันนานนะ คาโนเน่ และก็ไม่คิดว่าจะได้พบกับเธอในที่แบบนี้ด้วย"
คาโนเน่ "พวกเธอ...... ทำไมถึงมาอยู่ที่นี่ได้!? ไม่ได้ทดสอบการบินอยู่ที่ค่ายเรสตอนเหรอ!?"
ร้อยเอกยูเลีย "มีการขอกำลังเสริมฉุกเฉินจากพันโทซีดน่ะ ดูท่าเขาคงจะอ่านออกว่าจะมีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้นที่แกรนเซลนี่ พวกเราก็เลยบินมาถึงที่นี่ไงล่ะ"
คาโนเน่ "คึ...... นึกว่าจะเป็นแค่ตะเกียงยามกลางวัน......"
ร้อยเอกยูเลีย "พันโทก็เหมือนกับพันเอกริชาร์ด ที่เคยอยู่ใต้บังคับบัญชาของนายพลจัตวาคาซิอุสมาก่อนนะ เธอไปดูถูกเขาก็พลาดซะแล้วล่ะ"
คาโนเน่ "ดูเหมือนจะเป็นอย่างนั้นนะ...... แล้วพวกเธอ คิดจะทำอะไรงั้นเหรอ?"
ร้อยเอกยูเลีย "ว่าไงนะ......?"
- ด้วยความแข็งแกร่งของออลกวิยู คาโนเน่จึงมั่นใจว่าพวกยูเลียไม่สามารถทำอะไรเธอได้ ถึงแม้จะมีกองหนุนของพันโทซีดที่กำลังมุ่งหน้ามาก็ตาม
(คาโนเน่จะบอกว่ายูเลียยังเป็นคนตรงไปตรงมาเหมือนเดิม ไม่เปลี่ยนไปจากสมัยที่เรียนนายร้อยเลย ซึ่งเธอก็ไม่ได้เกลียดนิสัยตรงนั้นของยูเลียหรอก ตัวยูเลียเองก็ไม่ได้เกลียดคาโนเน่เหมือนกันค่ะ แต่เพราะทั้ง 2 คนเป็นหัวกะทิในรุ่นเดียวกัน จึงมักถูกเปรียบเทียบเสมอว่า "คาโนเน่ฝ่ายบุ๋น ยูเลียฝ่ายบู๊" น่ะค่ะ)
- แต่คาโนเน่ตัดสินใจแล้วว่าเพื่อพันเอกริชาร์ดแล้ว ไม่ว่าใครมาขัดขวางเธอก็จะไม่ยกโทษให้ค่ะ เมื่อเป็นเช่นนี้ยูเลียจึงจำใจต้องสั่งการให้รถถังของหน่วยองครักษ์โจมตี [ออลกวิยู]
- ขณะนั้นเอง แสงเรืองรองสีดำส่องแสงออกมาจากเสาสัญญาณของ [ออลกวิยู] ทำให้ปืนใหญ่ออร์บเมนท์ของรถถังของหน่วยองครักษ์ใช้งานไม่ได้ ซึ่งนี่ก็คือ [ปรากฏการณ์ออร์บเมนท์หยุดการทำงาน] นั่นเอง ยิ่งไปกว่านั้น ทั้ง ๆ ที่เกิดปรากฏการณ์ออร์บเมนท์หยุดการทำงานแท้ ๆ แต่ [ออลกวิยู] ยังสามารถเคลื่อนไหวได้อยู่ ทั้งยังสามารถยิงปืนใหญ่และปืนกลรัวใส่พวกยูเลียได้
(ที่ [ออลกวิยู] ยังเคลื่อนไหวได้อยู่ ก็เพราะ [กอสเปล] รุ่นใหม่ที่คาโนเน่ได้รับมาเพื่อให้ความร่วมมือกับ [การทดลอง] ขององค์กรค่ะ)
- พวกเราจะมาถึงและตกตะลึงกับสภาพที่เห็น
เอสเทล "การทดลองของ [งูกินหาง] ที่ใช้กอสเปลรุ่นใหม่...... ทะ ทำให้เกิดเรื่องแบบนี้!"
หลวงพ่อเควิน "ชิ...... แย่จังน๊า ในช่วงที่ไอ้นั่นทำงานอยู่ พวกอาร์ทอะไรก็ใช้ไม่ได้ซะด้วยสิ ถ้าเป็นแบบนี้...... คงต้องใช้ไพ่ตายซะแล้ว"
- เควินจะบอกพวกเอสเทลว่า ถ้าเขาทำสำเร็จอาจจะทำให้ [กอสเปล] หยุดการทำงานได้ครู่นึง และให้พวกเอสเทลจู่โจมในช่วงนั้นค่ะ แต่เควินบอกว่าโอกาสที่จะสำเร็จก็ 50 - 50 จึงขอให้พวกเอสเทลช่วยภาวนากับเทพธิดาด้วย ว่าแล้วเควินก็หยิบเอาคฑาออกมา
เอสเทล "อ๊ะ...... นั่นหรือว่าจะเป็น!?"
หลวงพ่อเควิน "[คฑาล้ำค่าแห่งการผนึก] 『封じの宝杖』...... อาร์ติแฟกซ์ต้องห้ามที่นายกเทศมนตรีดัลมอร์เคยครอบครองไงล่ะ!"
- เควินวิ่งเข้าไปหา [ออลกวิยู] และฟาดคฑาลงไปบน [กอสเปล] ที่กำลังทำงานอยู่ ชั่วพริบตาทุกสิ่งทุกอย่างกลับมาเป็นปกติ ถึง [กอสเปล] จะใช้งานไม่ได้ แต่คาโนเน่ก็ยืนหยัดที่จะต่อสู้กับเราค่ะ
- ด้วย [กอสเปล] จะหยุดการทำงานเป็นระยะเวลาสั้น ๆ เท่านั้น ดังนั้นเควินจึงขอความร่วมมือจากร้อยเอกยูเลียเพื่อทำการหยุดยั้ง [ออลกวิยู] ค่ะ **ร้อยเอกยูเลีย ร่วมการต่อสู้**
- ออลกวิยู -
- 『オルグイユ』 -
**[ออลกวิยู] จะมีพลังโจมตีที่สูงมาก ไม่ว่าจะเป็นท่า "เฮลไฟร์" หรือท่าที่ต้องชาร์จก่อนอย่าง "ออร์เบิลแคนนอน" (ยกเลิกการชาร์จไม่ได้ค่ะ) หากเห็นศัตรูชาร์จแล้วเดินหนีไม่ทัน แนะนำให้กด "S-Break" ใช้ "แกรล สเฟียร์" ของเควินกันไว้ก่อนค่ะ**
**เมื่อ [ออลกวิยู] ใกล้จะพัง (ตายนั่นแหล่ะค่ะ) จะชาร์จพลังเพิ่ม STR&SPD ค่ะ ช่วงนี้เราต้องรีบกระหน่ำโจมตีให้เร็วที่สุด เพราะนรกกำลังมาค่ะ**
- ปราบได้ คาโนเน่จะไม่ละทิ้งความพยายามที่จะช่วยนายของเธอค่ะ
(น่านับถือความมุ่งมั่นและความจงรักภักดีของเธอจริง ๆ ค่ะ)
- คาโนเน่ + ทหารพิเศษ กงเล็บคู่ *2 + ทหารพิเศษ มือปืน -
- 『カノーネ+特務兵・両手爪*2+特務兵・銃』 -
**คาโนเน่จะมีท่าโจมตีที่ทำให้ติด "พิษ" และ "ผนึกทักษะ" ใส่เครื่องประดับกันไว้ก่อนก็ดีค่ะ และเธอยังใช้อาร์ท "ชาโดว์สเปียร์" ได้ด้วย หากโชคร้ายสกัดการร่ายอาร์ทไม่ทัน อาจจะเกิดอาการ "ตายคาที่" ค่ะ**
**โดยรวมแล้วไม่ยากค่ะ แต่ก็ต้องระวังด้วยนะคะ เพราะบางทีคาโนเน่ก็จะเข้ามาดูด CP เราด้วย แถมไม่ใช่จำนวนน้อย ๆ อีกต่างหากค่ะ (50 หน่วย) ทางทีดีก็ใช้ ๆ คราฟท์ไปเถอะค่ะ จะได้ไม่มาเสียดายทีหลัง**
- ปราบได้ดยุคดิวนันจะขอบคุณเรา (เฉพาะคราวนี้น่ะนะ) และบอกว่าจะมอบภาพลับ ๆ ของเขาให้ด้วยค่ะ (แต่ไม่มีใครอยากได้หรอกนะ)
- เอสเทลจะนึกขึ้นมาได้ว่าเร็นไม่อยู่ เธอจึงถามดยุคดิวนันด้วยความร้อนใจ แต่ดยุคดิวนันบอกว่านอกจากเขาแล้วก็ไม่มีใครอยู่ในรถถังอีก เอสเทลเลยไปถามคาโนเน่ แต่คาโนเน่ก็ไม่รู้เรื่องอะไร รวมทั้งเรื่องจดหมายที่ทิ้งเอาไว้ที่สมาคมด้วย
- จู่ ๆ คาโนเน่ก็หัวเราะดังลั่น เพราะเธอรู้ตัวแล้วว่ายัยเด็กน้อยนั่นหลอกใช้พวกเธอ ทั้ง ๆ ที่เธออุตส่าห์เฝ้าคิดหาแผนการช่วยเหลือพันเอกออกมา
- "หึหึ เสียมารยาทนะ ที่บอกว่าเด็กน้อยน่ะ" เสียงของเด็กสาวดังขึ้น เมื่อพวกเอสเทลมองไปบนหลังคาโกดัง ทิศทางของต้นเสียงก็พบกับเร็นนั่นเอง
เร็น "อุหึหึ สายันณ์สวัสดิ์ เป็นค่ำคืนที่พระจันทร์งดงามจริง ๆ นะ สนุกกับงานเลี้ยงน้ำชาคืนนี้หรือเปล่าจ๊ะ?"
เอสเทล "...........เร็น................... ทะ ทำอะไรอยู่เหรอ แล้วยังขึ้นไปที่แบบนั้นอีก...... อ๊ะ มันอันตรายไม่ใช่เหรอ!?"
เร็น "......................................"
เอสเทล "แล้วกัน...... เหมือนแมวจริง ๆ ด้วยนะ จะไปช่วยเดี๋ยวนี้แหล่ะ รออยู่ตรงนั้นก่อนนะ......"
เร็น "อุหึหึ ไม่จำเป็นหรอก ก็ตรงนี้เป็นที่นั่งที่ดีที่สุดนี่นา ไม่คิดว่านี่เป็นสิทธิที่สมควรจะได้ในฐานะที่เป็นผู้จัดงานเลี้ยงน้ำชาหรอกเหรอ?"
เอสเทล "......เอ๊ะ............"
เร็น "ผู้ดำเนินแผนการ No. XV [นางฟ้าแห่งการทำลายล้าง] 『殲滅天使』 เร็น--------- เขาเรียกกันว่าอย่างนั้นน่ะ ฟังดูไม่ค่อยมีระดับซักเท่าไรเลยไม่ค่อยชอบนักหรอก"
เอสเทล "............ไม่จริง............"
ร้อยเอกยูเลีย "เด็กขนาดนี้ ก็เป็น 1 ใน [งูกินหาง] งั้นเหรอ!?"
นางฟ้าแห่งการทำลายล้างเร็น "อุหึหึ ใน [องค์กร] ไม่มีทั้งเด็กทั้งผู้ใหญ่หรอกนะ จะมีก็แต่ใช้การได้หรือใช้การไม่ได้เท่านั้นแหล่ะ แล้วเร็น ก็ใช้การได้มากซะด้วย เหมือนกับ [เขี้ยวดำขลับ] 『漆黒の牙』 ในอดีตเลยนะ"
เอสเทล "!!!"
หลวงพ่อเควิน "ถะ ถ้าอย่างนั้น...... นั่นก็? จะบอกว่าคุณหนูเป็นคนส่งจดหมายมาหาชั้นงั้นเหรอ!?"
นางฟ้าแห่งการทำลายล้างเร็น "ใช่แล้ว เร็นเองล่ะ จดหมายข่มขู่ 9 ฉบับ พี่ชายที่โบสถ์ 1 ฉบับ พี่สาวแห่งหน่วยสืบข้อมูล 1 ฉบับ แล้วก็เอสเทลอีก 1 ฉบับ รวมทั้งหมดก็ 12 ฉบับ--------- อุหึหึ อะไรกันเนี่ย เอาแต่เขียนจดหมายอย่างเดียวเลยเนอะ แต่เรเวก็จะชมเร็นด้วยนี่นา ก็เร็นน่ะ เป็นถึงคนจัดงานเลี้ยงน้ำชาที่เชิญทุกคนมาน่ะสิ แล้วก็ไม่อยากให้แขกเหรื่อที่มาร่วมงานสังสรรค์รู้สึกเบื่อ เร็นก็เลยพยายามอย่างเต็มที่เลยล่ะ"
เอสเทล ".........ถ้าอย่างนั้น......... ถ้าอย่างนั้น ปาป๊ากับมาม๊าล่ะ? พวกคุณพ่อของเร็นจะเป็นยังไงล่ะ!?"
นางฟ้าแห่งการทำลายล้างเร็น "??? อ๋อ อะไรกันเนี่ย ยังไม่รู้สึกตัวอีกเหรอ อุหึหึ อันที่จริงเร็นอาจจะเก่งกาจมาก ๆ ล่ะมั๊ง...... ไม่งั้นก็เป็นพวกเอสเทลที่ซื้อบื้อน่ะ......"
เอสเทล "วะ ว่าไงนะยะ......"
นางฟ้าแห่งการทำลายล้างเร็น "อุหึหึ อย่าโกรธไปสิ ......หมายถึงนี่ใช่ไม๊ล่ะ?"
- เร็นเรียกพ่อแม่ออกมา แต่แววตาทั้ง 2 ดูเลื่อนลอย เร็นใช้เคียวยักษ์ฟันลงไปที่ทั้ง 2 คน แต่ทว่าไม่มีเลือดไหลออกมาจากบาดแผลเลย แท้จริงแล้วพ่อแม่ของเร็นก็คือตุ๊กตานั่นเอง
นางฟ้าแห่งการทำลายล้างเร็น "อุหึหึ ถ้าไม่อยู่ใกล้ ๆ เร็น ก็บังคับให้เหมือนกับมนุษย์ไม่ได้หรอก แต่เร็นมั่นใจว่าไม่แพ้เปรโดรใน [อัศวินตุ๊กตา] 『人形の騎士』 หรอกนะ อ๊ะ แต่ว่าคราวนี้ถูกลักพาตัวด้วยแล้วก็เป็นคนจัดงานเลี้ยงน้ำชาไปด้วย...... บทขององค์หญิงทีอาจะออกมาเยอะเกินไปหรือเปล่านะ?"
หลวงพ่อเควิน "ละ ล้อเล่นกันแรงไปแล้ว......"
นางฟ้าแห่งการทำลายล้างเร็น "เอาล่ะ ต้องเรียกปาป๊ากับมาม๊าตัวจริงแล้วล่ะ มานี่--------- [ปาเทล มาเทล] 『パテル=マテル』"
- เสียงดังสั่นสะท้านไปทั่ว ตุ๊กตาสงครามขนาดยักษ์สีแดงสดร่อนลงจอดบนท่าเรือ ทั่วบริเวณนั้นถึงกับสะเทือนเพราะขนาดที่ใหญ่โตของมัน แขนกลขนาดมหึมาหักเสาสัญญาณของออลกวิยูที่ติด [กอสเปล] มาไว้ในมือ เร็นกระโดดลงไปบนมืออีกข้างของตุ๊กตาตัวนั้นพร้อมทั้งบอกว่า
นางฟ้าแห่งการทำลายล้างเร็น "นี่ไง ปาป๊ากะมาม๊า (ปาเทล มาเทล) ของเร็น ยิ่งใหญ่เหมือนปาป๊า ใจดีเหมือนมาม๊า ปาป๊ากับมาม๊านอกเหนือจากนี้ เร็นไม่ต้องการหรอก"
- "พันโทซีด" คนรักแมว, ลุง"ฟิลลิป", "อาเนราส" และเพื่อน ๆ ของเราที่ฟื้นแล้วรวมทั้งกำลังทหารก็ได้มาถึงที่นี่ แต่ทุกอย่างเป็นไปตามที่เร็นคาดการณ์เอาไว้ รวมทั้งช่วงเวลาที่ยานอนหลับหมดฤทธิ์ด้วย เพราะนี่ก็เป็นสิ่งที่โยชัวร์เคยสอนเร็นเมื่อก่อนนี้ค่ะ
นางฟ้าแห่งการทำลายล้างเร็น "จริงสินะ เคยคิดอยู่ว่าจะฆ่าเอสเทลซะดีไม๊น๊า ก็ศาสตราจารย์บอกว่าเพราะเอสเทล โยชัวร์ถึงไม่ยอมกลับมาน่ะ"
เอสเทล "เอ๊ะ......"
นางฟ้าแห่งการทำลายล้างเร็น "แต่ว่า สนุกมากเลยล่ะ จะยกโทษให้เอสเทลเฉพาะคราวนี้เท่านั้นนะ อุหึหึ เป็นพิเศษเลยนะ?"
เอสเทล "ระ รอเดี๋ยว เร็น!"
ทีต้า "เร็นจัง นี่มันเรื่องอะไรกันเหรอ?"
นางฟ้าแห่งการทำลายล้างเร็น "อุหึหึ บ๊ายบายทีต้าด้วยนะ สนุกใช้ได้เลยล่ะ แล้วมากินไอศครีมด้วยกันอีกนะ ------ถ้าอย่างนั้นทุกท่าน...... ขอบคุณอย่างสุดซึ้งที่มาร่วมงานเลี้ยงน้ำชาในคืนนี้นะคะ"
- พูดจบเร็นก็บินจากไปพร้อมกับปาเทล มาเทล เอสเทลได้แต่ร้องเรียกเร็นเท่านั้น
- หลังจากนั้น เรือเหาะรักษาความปลอดภัยก็ได้ทำการออกค้นหา...... แต่ทว่าไม่พบแม้แต่เงาของตุ๊กตาสงครามขนาดยักษ์กับสาวน้อยที่นั่งไปด้วยเลย
ราชคฤหาสน์เอลเบ 『エルベ離宮』
- วันต่อมา -
- "พันโทซีด" จะขอร้อง "คาโนเน่" ให้ช่วยบอกเรื่องของเด็กคนนั้น และข้อมูลของ [องค์กร] เท่าที่เธอรู้ แต่ขอร้องยังไงคาโนเน่ก็ไม่ยอมบอก ถึงแม้ "ร้อยเอกยูเลีย" จะบอกว่าหากคาโนเน่ทำเช่นนี้ต่อไปเรื่อย ๆ กลับจะทำให้โทษของลูกน้องหนักยิ่งขึ้นกว่าเดิม แต่คาโนเน่บอกว่าทั้งเธอทั้งลูกน้องเตรียมใจที่จะตายไว้แล้วจึงไม่สำคัญอะไร ยูเลียจะโกรธมากที่คาโนเน่เอาแต่พูดว่า จะตาย จะตาย ทำไมถึงไม่สนใจความปลอดภัยของประเทศชาติเลย คาโนเน่นิ่งเงียบไป
พันโทซีด "คาโนเน่คุง...... พันเอกริชาร์ดน่ะ อย่างที่รู้ ๆ กันว่าเป็นคนที่รักชาติยิ่งกว่าใคร เฝ้าหวังว่าจะไม่ให้การคุกคามอิสระภาพของใครก็ตามในลีเบร์ลเกิดขึ้น แค่เพียงเรื่องนั้น แม้แต่ชั้นก็คิดว่าเป็นความจริง แล้วตอนนี้ก็มีเมฆดำที่เร้นกายคืบคลานเข้ามาในลีเบร์ลใหม่อีกครั้ง ถ้าเขารู้เรื่องนั้นล่ะก็ไม่รู้เหรอว่าเขาจะคิดยังไง?"
- แต่คาโนเน่บอกให้ซีดหุบปาก และอย่ามาพูดความรู้สึกของพันเอกทั้ง ๆ ที่ซีดก็เป็นคนที่ทิ้งพันเอกไป
ร้อยเอกยูเลีย "คาโนเน่...... แก!!!"
คาโนเน่ "เธอก็ด้วย ยูเลีย! คงจะเพลิดเพลินไปกับการมองดูคู่แข่งตั้งแต่อดีตที่ตกต่ำลงสินะ!? ถ้าเช่นนั้นก็หัวเราะสิ! จะสมน้ำหน้า จะหัวเราะเยาะก็เชิญเลย!"
ร้อยเอกยูเลีย ".........คาโนเน่........."
คาโนเน่ "ฉันน่ะ มีชีวิตอยู่มาจนบัดนี้ ก็เพื่อช่วยเหลือท่านพันเอก! มาถึงตอนนี้ที่ความหวังไม่อาจเป็นจริงได้ ก็ไม่มีความหมายที่จะมีชีวิตอยู่! รีบ ๆ สั่งยิงเป้าซะสิยะ!"
- เสียงเปิดประตูดังขึ้น พร้อม ๆ กับเสียงชายคนหนึ่งที่บอกให้คาโนเน่หยุดพูดเรื่องโง่ ๆ "คาซิอุส" เดินเข้ามาในห้อง เขาเพิ่งจะนั่งเรือเหาะมาถึงที่นครหลวงและเพิ่งจะไปทำการปรึกษากับองค์ราชินีถึงเรื่องนี้ แต่คาโนเน่คิดว่าคาซิอุสก็จะมาหัวเราะเยาะเธอเหมือนกัน คาซิอุสจะบอกว่าคาโนเน่ใจเด็ดไม่แพ้ผู้ชายอย่างริชาร์ดเลย ทำให้คาโนเน่โกรธมาก
คาโนเน่ "อย่ามาพูดเล่นนะ!!! ถ้าไม่มีคุณอยู่ล่ะก็...... ท่านพันเอก...... ท่านริชาร์ดก็คงจะ......"
- "ฮะแฮ่ม ท่านนายพล......" เสียงชายหนุ่มอีกคนดังขึ้น "อย่าแกล้งเธออีกเลย จะได้ไม๊ครับ?" สิ้นเสียง ริชาร์ดในชุดนักโทษเดินเข้ามา
ริชาร์ด "ไม่เจอกันนานนะ พันโทซีด ร้อยเอกชูวาร์ซ แล้วก็...... คาโนเน่คุงด้วย"
คาโนเน่ "อ๊ะ...... อา......"
ริชาร์ด "รับโทษอยู่แท้ ๆ แต่ท่านนายพลจัตวาพูดเอาแต่ใจแล้วพามาที่นี่แหล่ะ บอกว่าไม่ว่ายังไงก็ต้องมาพบแล้วพูดกับเธอโดยตรงน่ะ"
คาโนเน่ "......กับ ......ดิฉัน?"
ริชาร์ด "ใช่...... ---------ขอโทษนะ คาโนเน่คุง เพราะความหยิ่งทะนงและวิศัยทัศน์ที่คับแคบของชั้นดึงพวกเธอเข้ามาข้องเกี่ยวเสียแล้ว ทำให้คนหนุ่ม-สาวอนาคตไกลกลายมาเป็นคนร้ายที่สมรู้ร่วมคิดไปด้วย เรื่องนั้นชั้นน่ะอยากจะขอโทษมาตลอดเลยนะ"
คาโนเน่ "กรุณาหยุดพูดเถอะค่ะ ท่านคะ! มันเป็นความตั้งใจของพวกดิฉันเอง......"
ริชาร์ด "ไม่ได้ นี่เป็นความรับผิดชอบของชั้น พวกเธอดำเนินชีวิตด้วยแนวทางในอดีตของชั้น เมื่อเป็นเช่นนั้น เหตุการณ์ในคราวนี้ก็พูดได้ว่าเป็นความรับผิดชอบของชั้นอยู่แล้วนี่"
คาโนเน่ "ระ เรื่องนั้น......"
ริชาร์ด "เพราะฉะนั้น...... ขอประกาศไว้ ณ ที่นี่อีกครั้งนะ ------ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไปขอยุบหน่วยสืบข้อมูลกองทัพราชอาณาจักร ต่อจากนี้หน้าที่ต่าง ๆ จะมอบให้ทางกองบัญชาการกองทัพรับสืบทอดต่อไป ------ คาโนเน่คุง...... จนถึงตอนนี้ขอบคุณที่เหนื่อยมามากนะ"
คาโนเน่ "......อะ......................."
ริชาร์ด "จากนี้ไป...... เธอก็ไม่ต้องลำบากอีกแล้วล่ะ ไม่ต้องเดิมพันด้วยชีวิตเพื่อมาช่วยชั้นออกไป แล้วก็อย่าพูดเรื่องเศร้า ๆ ...... อย่างเรื่องจะตายอะไรแบบนั้นเถอะนะ"
คาโนเน่ "ท่าน...... ริชาร์ด...... ......อือออ......... อาาาาาาา.......................... โฮอออออออออออออออออออ..........!"
สาขาแกรนเซล 『グランセル支部』
- "เอลนัน" แจ้งแก่พวกเราว่าอดีตร้อยเอกคาโนเน่สงบลงแล้ว หากทางกองทัพทราบรายละเอียดจากเธอจะแจ้งมาทางสมาคมค่ะ
- ได้รับการรายงานผลที่ยังค้างอยู่ค่ะ (เฉพาะเมนเควสต์)
☆หากใครรู้ตัวว่าไม่ได้โบนัส BP คงต้องกลับไปเริ่มเล่นใหม่อีกยาวเลยค่ะ บทนี้โหดมาก ๆ เลยนะคะ☆
- เพื่อน ๆ ของเราจะสงสัยว่าเร็นเป็นคนของ [องค์กร] จริง ๆ หรือ ซึ่งเอสเทลบอกว่าก็เจ้าตัวบอกชื่อว่าเป็น [นางฟ้าแห่งการทำลายล้าง] 1 ใน [ผู้ดำเนินแผนการ] น่ะค่ะ ทีต้าได้ฟังก็มีสีหน้าแสดงความไม่สบายใจและเอาแต่นิ่งเงียบ
- อาเนราสจะกังวลว่าขนาดเด็กอายุเท่านั้น ยังเป็น [ผู้ดำเนินแผนการ] ได้ แสดงว่า [องค์กร] จะต้องมียอดฝีมืออยู่มากจริง ๆ
เอสเทล "ดูเหมือนว่าโยชัวร์ก็เคยเป็น [ผู้ดำเนินแผนการ] ตอนอายุประมาณนี้เหมือนกัน......"
- จากการวิเคราะห์ของเอสเทลนั้น ที่เร็นทำเรื่องเช่นนี้แทนที่จะทำการทดลองอย่างเดียวไปเลย ไม่แน่ว่าเร็นกำลังรู้สึกสนุกกับการเตรียมการหลาย ๆ อย่างเพื่อทำให้พวกเธอเข้าร่วม [งานเลี้ยงน้ำชา] ก็เป็นได้
(พวกเพื่อน ๆ เราจะบอกว่าคนที่วางยานอนหลับพวกเขาก็คงจะเป็นเร็นเหมือนกัน เพราะหลังจากทานคุ๊กกี๊ที่เร็นซื้อมาจากห้างเอเดลก็พากันหลับไปหมด แต่เร็นก็ไม่ได้ฆ่าพวกเขาค่ะ)
- เอลนันจะโทษตัวเองว่าทั้ง ๆ ที่เขาควรจะเป็นแบ็คอัฟให้กับพวกเรา แต่เหตุการณ์ในคราวนี้เขากลับช่วยอะไรไม่ได้เลย ทีต้าก็กังวลเรื่องของเร็นมาก ๆ รวมทั้งตุ๊กตาสงครามยักษ์นั่นด้วย บรรยากาศชวนหดหู่เข้าปกคลุมสมาคมทันที
เอสเทล "ทำตัวให้ร่าเริงกันหน่อยสิ! คราวหน้าถ้าเจอกันอีกล่ะก็ ชั้นจะดึงตัวเด็กคนนั้นออกมาจาก [องค์กร] ให้ได้!"
ทีต้า "เห......?"
เอสเทล "5 ปีก่อน คุณพ่อยังดึงโยชัวร์ออกมาจาก [องค์กร] ได้...... ถ้าอย่างนั้นลูกสาวอย่างชั้น ก็ต้องทำเรื่องแบบเดียวกันได้อยู่แล้ว! ถึงจะต้องใช้วิธีลากคอก็ต้องดึงตัวออกมาให้ได้!"
ทีต้า "พะ พี่จ๋า...... (รอยยิ้มที่สดใสของทีต้าเริ่มปรากฏอีกครั้ง) อืม จริงด้วยสินะ!"
- บรรยากาศที่เต็มเปี่ยมไปด้วยประกายแห่งความสดใสอย่างแรงของเอสเทล ทำให้ทุกคนเริ่มมีกำลังใจขึ้นมาอีกครั้ง
- พบกับ "หลวงพ่อเควิน" ซึ่งเอลนัน ก็กำลังรอเขาอยู่พอดี
หลวงพ่อเควิน "อ๊า~ ขอโทษที่สายนะ โดนพระราขาคณะคาแลนท์สวดซะยกใหญ่จนถึงเมื่อตะกี๊เลยล่าาา เพราะงั้นก็เลยมาสายน่ะคร๊าบ"
- เอสเทลจ้องเควินไม่วางตา
หลวงพ่อเควิน "ทำไมเหรอ? ที่หน้าของชั้นมีอะไรติดอยู่เหรอ?"
เอสเทล "ก็~ ถ้าจะให้พูดล่ะก็ จนป่านนี้แล้วก็ยังสงสัยน่ะว่า จริง ๆ แล้วคุณเควินเนี่ย เป็นใครกันแน่เฮอะ?"
- เอสเทลยิงคำถามใส่เควิน ทำให้ทุกคนก็รู้สึกเหมือนกันว่าเควินเป็นใคร แต่จะต้องไม่ใช่บาทหลวงธรรมดา ๆ แน่นอน
หลวงพ่อเควิน "จริงสินะ...... ขอแนะนำตัวอีกครั้งแล้วกัน --------------บาทหลวงเควิน แกรมแฮม สังกัด [หน่วยอัศวินจอกดารา] 『星杯騎士団』 แห่งโบสถ์เจ็ดจรัส ต่อจากนี้ฝากตัวด้วยนะครับ"
เอสเทล "[หน่วยอัศวินจอกดารา]......?"
โอลิเวียร์ "โฮ่ น่าประหลาดใจจริงที่คนหนุ่มอย่างเธอะเป็น [อัศวินจอกดารา] 『聖杯騎士』 น่ะ......"
เอสเทล "โอลิเวียร์รู้จักด้วยเหรอ?"
โอลิเวียร์ "เคยได้ยินมาเหมือนกัน เรื่องของอาร์ติแฟกซ์ที่ได้รับการควบคุมดูแลโดยโบสถ์...... องค์กรที่รับผิดชอบดำเนินการสำรวจเก็บกู้สิ่งนั้นที่เรียกขานกันว่า [หน่วยอัศวินจอกดารา] ไงล่ะ สมาชิกจะไม่เปิดเผยตัวตนต่อหน้าสาธารณชนและคัดเลือกเอาแต่ยอดฝีมือน่ะ"
หลวงพ่อเควิน "เห รู้ระเอียดจังแฮะ แต่เสียใจด้วยนะ ถึงชั้นจะเป็นหน่วยอัศวินก็เถอะ แต่ก็เป็นแค่เด็กใหม่เตาะ ๆ แตะ ๆ น่ะ ยอดฝีมืออะไรนั่น ประเมินสูงส่งเกินไปน่ะคร๊าบบ"
เอสเทล "เก็บกู้อาร์ติแฟกซ์...... ถ้างั้น คฑาของนายกเทศมนตรีดัลมอร์ที่ใช้เมื่อตอนนั้น......!"
หลวงพ่อเควิน "ใช่ นั่นน่ะได้รับมอบมาจากกองทัพราชอาณาจักรอย่างเป็นทางการ เพราะมีการทำสนธิสัญญาการเก็บกู้อาร์ติแฟกซ์ระหว่างโบสถ์กับลีเบร์ลอยู่ด้วย แต่ดันทำพังไปโดยพลการก็เลยถูกอัครสังฆราชสวดเข้าให้น่ะซิ๊......"
- เมื่อทุกคนได้ฟังคำอธิบายของเควินแล้วก็เริ่มไว้วางใจในตัวเขามากขึ้น ซึ่งเควินบอกว่าจากนี้ไปก็ต้องขอความร่วมมือจากพวกเรา อย่างเช่นการแลกเปลี่ยนข้อมูลที่เกี่ยวกับ [งูกินหาง]
(จากตรงนี้จะทราบว่า ที่เควินมาลีเบร์ลก็เพื่อทำการตรวจสอบ [องค์กร] ซึ่งเขาบอกว่าถ้าจะให้พูดกันตามตรงก็คือ เขามาเพื่อทำการตรวจสอบ [โอรีออล (วงแหวนประกายแสง)] 『オーリオール 《輝く環》』 นั่นเองค่ะ เพราะช่วงนี้มีกลุ่มคนอื่น ๆ ที่รวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับ [สมบัติทั้งเจ็ด] 『七の至宝』 บนทวีปนี้อยู่ ในฐานะของโบสถ์แล้วยังไงก็ต้องทำการตรวจสอบเรื่องนี้ให้กระจ่างแจ้งค่ะ)
- เควินยังบอกอีกว่าถึงแม้จะเป็นแค่ข่าวลือว่ามี [วงแหวนประกายแสง] อยู่ในเขตที่ถูกผนึกใต้ดินของราชวังแกรนเซลก็ตาม แต่หน้าที่ของเขาก็คือการมาหาข้อเท็จจริงต่าง ๆ ค่ะ ดังนั้นพวกเอสเทลเลยรับปากว่าจะให้ความร่วมมือกับเควินค่ะ
- หลังจากที่เควินกลับไปแล้ว เราก็ยังไม่คลายความกังวลว่า [การทดลอง] ที่ [องค์กร] กำลังทำกันอยู่นั้น มีความเกี่ยวข้องกับ [วงแหวนประกายแสง] หรือเปล่า ซึ่งเอลนันบอกว่านั่นก็มีความเป็นไปได้ เพราะดูจากรูปการที่พวกนั้นทำการทดลองในพื้นที่ทั้ง 3 แล้ว คาดว่าน่าจะมีการทดลองในพื้นที่อื่น ๆ อีกเช่นกัน ซึ่งที่เหลือก็คือพื้นที่รอเลนซ์และพื้นที่บอสค่ะ
- เครื่องมือสื่อสารดังขึ้น ปลายทางแจ้งแก่เอลนันว่ากลุ่มสลัดอากาศที่เหลือรอดปรากฏตัวขึ้นที่พื้นที่บอสเมื่อคืนนี้ ซึ่งสถานที่ก็คือฐานทัพลับที่พวกนั้นเคยใช้ [หุบเขาหมอก] นั่นเอง แต่ทางกองทัพที่ไปดำเนินการอยู่ที่นั่นไม่สามารถจับตัวพวกสลัดอากาศได้ค่ะ
- เอสเทลจะประหลาดใจกับเรื่องที่เกิดขึ้นว่าทุกอย่างมันลงตัวกันเกินไป ไม่แน่ว่าอาจจะเกี่ยวข้องกับ [องค์กร] ก็เป็นได้ เพื่อการนี้เราจึงได้รับการมอบหมายให้ไปทำการตรวจสอบข้อมูลในพื้นที่บอสค่ะ **อากัต หรือ เจ๊เชร่า ที่ไม่ได้เลือกในบทที่ 1 เข้ากลุ่ม**
(ส่วน "อาเนราส" จะไปสมทบกับพวกรุ่นพี่คูลซ์ที่กำลังจะกลับมาจากการฝึกฝนในเวลาอันใกล้นี้ เพื่อร่วมมือกันทำการค้นหาฐานที่มั่นขององค์กรค่ะ)
☆เครื่องป้องกัน เครื่องประดับ และควอทซ์ของ "เควิน" ตัวเกมถอดออกให้อัตโนมัติค่ะ☆



- ยามค่ำคืน ณ สถานที่แห่งหนึ่ง -
- ตึกขนาดใหญ่ กลางทะเลสาบ -
- ปาเทล มาเทล ลงจอดบนดาดฟ้าของที่แห่งนั้น
นางฟ้าแห่งการทำลายล้างเร็น "อุหึหึ สลัดเรือเหาะรักษาความปลอดภัยที่เหมือนกับหมูป่านั่นจนหลุดไปแล้วสินะ ขอบใจนะ [ปาเทล มาเทล]"
- ปาเทล มาเทล ทำเสียงขานรับเร็น
- "กลับมาแล้วเหรอ เร็น" เสียงของชายคนหนึ่งดังขึ้น
- "เรเว!" เร็นกระโดดลงมามือของปาเทล มาเทล วิ่งไปหาชายหนุ่มผมเงินด้วยความดีใจ
นางฟ้าแห่งการทำลายล้างเร็น "อุหึหึ กลับมาแล้ว อย่างที่บอกไว้ ทดลองเสร็จเรียบร้อยแล้วล่ะ"
ชายหนุ่มผมเงิน "อืม ขอบใจนะ แต่ทำอะไรสะดุดตาเกินไปหน่อยนะ"
นางฟ้าแห่งการทำลายล้างเร็น "ก็คราวนี้เล่นพูดเอาไว้ว่าห้ามฆ่าคนนี่ มันน่าเบื่อออก เร็นก็เลยทำให้มันครึกครื้นขึ้นมานิดหน่อย เพราะงั้นก็เลยจัดงานเลี้ยงน้ำชาได้อย่างสนุกสนานมาก ๆ เลยล่ะ"
ชายหนุ่มผมเงิน "หึหึ...... งั้นเหรอ แล้วผลของการทดลองล่ะ?"
นางฟ้าแห่งการทำลายล้างเร็น "นั่นสินะ คงไม่เลวมั๊ง แต่โดนพี่ชายที่โบสถ์ใช้ความสามารถที่ปิดบังเอาไว้ขัดขวางซะได้...... แต่ถึงยังไงการทำงานก็มีเสถียรภาพ น่าจะใช้ในการต่อสู้จริง ๆ ได้อย่างเหลือเฟือเลยล่ะ"
ชายหนุ่มผมเงิน "อืม งั้นเหรอ"
นางฟ้าแห่งการทำลายล้างเร็น "แต่ว่า [กอสเปล] เนี่ย คงทำออกมามาก ๆ ไม่ได้ใช่ไม๊ล่ะ? ไม่ว่าจะใช้ได้หรือใช่ไม่ได้ แต่ในฐานะที่เป็นอาวุธสงครามแล้ว มันออกจะบอบบางไปหน่อยนะ"
ชายหนุ่มผมเงิน "ไม่จำเป็นต้องผลิตออกมาเป็นจำนวนมากหรอก ถึงจะทำการทดลองครั้งต่อไป เป้าหมายก็มึแค่วัดความสามารถที่อยู่ภายในของ [กอสเปล] รุ่นใหม่ให้ถึงที่สุดเท่านั้น ไม่ได้มีเป้าหมายอะไรเป็นพิเศษ อย่างสร้างอาวุธสงครามหรอก"
นางฟ้าแห่งการทำลายล้างเร็น "อุ๊ย อย่างนั้นเหรอ? ก็ดีเหมือนกัน เพราะเร็นก็ไม่ค่อยชอบซักเท่าไรด้วย --------------- นี่ ยิ่งไปกว่านั้น...... ยังไม่เจอโยชัวร์อีกเหรอ?"
ชายหนุ่มผมเงิน "อา...... ได้ยินมาว่าตุ๊กตาที่ใช้ไปปั่นป่วนถูกจัดการไปไม่รู้ตั้งกี่ตัวน่ะ น่ากลัวว่าจะเป็นฝึมือของหมอนั่นล่ะมั๊ง"
นางฟ้าแห่งการทำลายล้างเร็น "หื~ม สมแล้วล่ะนะ ถึงเร็นจะเล่นซ่อนหาเก่ง แต่เล่นสู้โยชัวร์ไม่ได้เลย..... อา~อ๊า น่าเบื๊อน่าเบื่อ ทำไมถึงดื้อดึงไม่ยอมกลับมาที่องค์กรซักทีนะ?"
ชายหนุ่มผมเงิน "ไม่รู้สิ......"
นางฟ้าแห่งการทำลายล้างเร็น "จริงสิ ศาสตราจารย์บอกว่าที่โยชัวร์ไม่ยอมกลับมาก็เพราะเอสเทล แต่ดูเหมือนเอสเทลก็กำลังตามหาโยชัวร์เหมือนกันน๊า~ มันเรื่องอะไรกันเหรอ?"
ชายหนุ่มผมเงิน "เร็น...... อย่าเชื่อเรื่องที่ศาสตราจารย์พูดให้มากจะดีกว่านะ"
นางฟ้าแห่งการทำลายล้างเร็น "ทำไมเหรอ?"
ชายหนุ่มผมเงิน "สิ่งที่เรียกว่าความเป็นจริง มันเปลี่ยนไปตามมุมมอง ก็เหมือนกับด้านของดวงจันทร์ที่มีรูปแบบอันหลากหลาย"
นางฟ้าแห่งการทำลายล้างเร็น "อย่างคุณกระต่ายหรือคุณปูน่ะเหรอ?"
ชายหนุ่มผมเงิน "ใช่ ความเป็นจริงที่ศาสตราจารย์บอก กับความเป็นจริงที่เร็นคิดว่าใช่ มันเป็นคนละเรื่องกัน ต้องมองลงไปให้ลึกถึงข้างใน ใช้ความรู้สึกจับความเป็นจริงในแบบที่เป็นเร็นนะ"
นางฟ้าแห่งการทำลายล้างเร็น "อื~ม ยากจัง ไม่ค่อยเข้าใจเท่าไร...... แต่เร็นน่ะ รู้สึกถูกใจพวกเอสเทลไม่น้อยล่ะมั๊ง ถึงจะเจอกันคราวหน้าก็ไม่ฆ่าทันทีหรอกจ้ะ"
ชายหนุ่มผมเงิน "ก็ดี"
- ชายหนุ่มผมเงินเดินเข้าไปลูบหัวเร็น
ชายหนุ่มผมเงิน "ยอดเยี่ยมมาก เร็น"
นางฟ้าแห่งการทำลายล้างเร็น "เอ๊ะเหะเหะ......"
- "หึหึ เหนื่อยหน่อยนะ" เสียงชายคนหนึ่งดังมาจากอีกด้าน
นางฟ้าแห่งการทำลายล้างเร็น "ศาสตราจารย์...... แล้วก็คัมพาเนลล่า!"
ตัวตลกคัมพาเนลล่า "สุขสบายดีหรือไร เร็น ดู ๆ ไปแล้วคงจะสนุกอยู่ที่นครหลวงไม่น้อยเลยใช่ไม๊ล่ะ?"
นางฟ้าแห่งการทำลายล้างเร็น "อุหึหึ ก็นิดหน่อย ถ้ารู้ว่าเธอจะมาล่ะก็ จะต้องชวนเธอมาร่วมงานด้วยแน่นอน แล้วทางเธอสนุกครึกครื้นมากไม๊ล่ะ?"
ตัวตลกคัมพาเนลล่า "หึหึ น่าเสียดายจังน๊า ทางผมน่ะ พวกพี่สาว (พี่ชาย) เบรเซอร์ให้ผมดูการแสดงตุ๊กตามาล่ะ...... คงไม่ครึกครื้นเท่างานเลี้ยงน้ำชาของเธอหรอกมั๊ง"
ศจ. ไวส์แมน "ฮะฮะ ไว้โอกาสหน้าค่อยชวนก็แล้วกัน แต่ว่าเร็น...... ดูท่าทางเธอคงถูกใจเอสเทลคุงไม่น้อยเลยใช่ไม๊ล่ะ?"
นางฟ้าแห่งการทำลายล้างเร็น "อุหึหึ ก็นิดหน่อย อย่างที่ศาสตราจารย์บอก ไม่ใช่พี่สาวที่น่ารังเกียจเลยล่ะ"
ศจ. ไวส์แมน "ฮะฮะ จริง ๆ แล้ว ชั้นก็ไม่เคยพูดว่ามนุษย์น่ารังเกียจซักหน่อยนี่ น่าจะบอกว่าเป็นคุณหนูที่มีเสน่ห์ที่มีแต่ความรู้สึกดี ๆ อยู่เต็มเปี่ยมเสียมากกว่านะ เพราะงั้นที่โยชัวร์ไม่กลับมาก็เพราะหล่อนเป็นต้นเหตุนี่นะ ใช่ไม๊ เรเว?"
ชายหนุ่มผมเงิน "ถ้าเป็นเหตุผลนั่นจริง...... ก็ไม่ปฏิเสธ"
ศจ. ไวส์แมน "ไงล่ะ เร็น ถ้าให้เอสเทลคุงมาเป็นพวก เธอจะยินดีไม๊นะ?
ชายหนุ่มผมเงิน "พะ......"
นางฟ้าแห่งการทำลายล้างเร็น "เอสเทลมาเป็นพวก? ......อุหึหึ ก็ได้ น่าสนุกดีออก! ถึงฝีมือจะอ่อนหัดไปหน่อย แต่ก็เป็นพวกที่เอามาขัดเกลาได้...... แล้วถ้าเอสเทลอยู่ล่ะก็ โยชัวร์ก็จะกลับมาสินะ?"
ศจ. ไวส์แมน "หึหึ แน่นอน"
ตัวตลกคัมพาเนลล่า "อ๊ะฮ่าฮ่า สมกับที่เป็นศาสตราจารย์ รสนิยมดีจริง ๆ นะเนี่ย"
ชายหนุ่มผมเงิน "ล้อเล่นเกินไปแล้วศาสตราจารย์...... ถึงคุณจะพูดไปซักเท่าไร ถ้าไม่เห็นความสำคัญในตัดสินใจของเจ้าตัวแล้วล่ะก็ เรื่องที่จะมาเข้าร่วมกับองค์กรนั้นทำไม่ได้แน่นอน มันเป็นกฏระเบียบของ [งูกินหาง] ที่ [นายเหนือหัว] 『盟主』 กำหนดเอาไว้นี่"
ศจ. ไวส์แมน "หึหึ ไม่ต้องบอกก็รู้ คิดว่าชั้นคนนี้ที่เป็น [สาวกแห่งงู] 『蛇の使徒』 จะไม่รู้เรื่องนั้นอย่างนั้นเหรอ? กับเธอหรือโยชัวร์ ชั้นก็ไม่ได้บังคับให้ตัดสินใจไม่ใช่เหรอไง?"
- แววตาอันยากหยั่งถึงของชายหนุ่มผมเงินที่มักจะไม่แสดงออกถึงความรู้สึกใด ๆ แต่ขณะนี้แม้จะเพียงชั่วแวบเดียวก็ได้แสดงให้เห็นความชิงชังที่มีต่อไวส์แมน
ศจ. ไวส์แมน "อีกอย่าง ความสนุกที่อุตส่าห์เฝ้ารอก็จะล้มครืนลงมาน่ะสิ อย่างเช่นเรื่องไม่ยอมเข้าเป็นพวกโดยความสมัครใจน่ะ"



นครหลวงแกรนเซล 『王都グランセル』
☆เลือกเพื่อน 2 คน เข้ากลุ่มต่อสู้ ค่ะ (เอสเทล อากัต หรือ เจ๊เชร่า (คนทีเราเลือกในบทที่ 1) เป็นตัวละครบังคับ)☆
☆ก่อนที่จะมุ่งหน้าไปยังท่าเทียบเรือเหาะ จะมีซับเควสต์ให้ทำด้วยนะคะ อย่าลืมไปตรวจสอบบอร์ดรับงานนะคะ☆
(25) ประกาศจับสัตว์ปิศาจบนถนนคิลเช
- อย่าลืมแวะไปห้างเอเดล - มุมจิปาถะ อัฟเดทข่าวกันหน่อยกับ "ลีเบร์ลสาร ฉบับ 5" ด้วยนะคะ พาดหัวข่าวเอาไว้ว่าเมืองรูอันได้นายกเทศมนตรีคนใหม่แล้วค่ะ
★หากไปคุยกับ "มิดดี้" 『ミディ』 ที่ห้างเอเดล - ซุ้มขายอาหาร เธอจะบอกว่าพี่สาวฝาแฝดของเธอ "คิดดี้" 『キディ』 ออกเดินทางไปร่ำเรียนที่บอสเพราะอยากจะมีร้านเป็นของตัวเองค่ะ
★หากไปคุยกับ "ฟิชเชอร์" ที่สมาพันธ์นักตกปลา เขาจะบอกว่า "เปชูล" 1 ในสมาชิกของที่นี่ เดินทางไปยังรอเลนซ์เพื่อหาเสาะหาสถานที่ตกปลาอยู่ค่ะ
★หากไปคุยกับ "ทูตดาวิลล์" ที่สถานทูตจักรวรรดิ (ต้องมี "โอลิเวียร์" อยู่ในกลุ่ม) เขาจะบอกว่ารู้เรื่องที่ทหารพิเศษเป็นคนร้ายส่งจดหมายขมขู่แล้ว เป็นอย่างที่เขาบอกว่าคนร้ายไม่เกี่ยวกับข้องกับทางจักรวรรดิ
(จริง ๆ แล้วคนร้ายไม่ใช่ทหารพิเศษซักหน่อย แต่รุ่นพี่เราเห็นว่าไม่ต้องบอกท่านทูตเรื่องคนร้ายตัวจริงก็ได้ค่ะ)
★หากไปคุยกับ "ซันดี้" 『サンディ』 ที่สถานทูตสาธารณรัฐ (ต้องมี "จิน" อยู่ในกลุ่ม) เธอจะบอกว่า "ทูตเอลซ่า" ไปดูงานที่ราชคฤหาสน์เอลเบค่ะ
★หากไปคุยกับ "ซันเท" ที่พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ เขาจะบอกว่าได้อ่านรายงานการวิจัยของเมื่อก่อน เขาเลยสรุปว่าต้องมี [มังกร] ในสมัยเซมเรียโบราณอาศัยอยู่ในพื้นที่บอสอย่างแน่นอน
★หากไปคุยกับ "จิมมี่" และ "หัวหน้าพิพิธภัณฑ์" เขาจะรับจิมมี่เข้าเป็นนักวิจัยของที่นี่ เพราะความมีเอกลักษณ์ของเขาน่าจะใช้ทำการวิจัยต่าง ๆ เกี่ยวกับพวกโบราณสถานหรืออาร์ติแฟกซ์ได้ค่ะ (ยินดีด้วยนะจิมมี่)
★หากไปคุยกับ "ร้อยเอกยูเลีย" ในราชวังแกรนเซลที่ห้องทำงานของกองกำลังรักษาพระองค์ (ต้องมี "คลอเซ่" อยู่ในกลุ่ม) เธอจะบอกว่าหากไม่มีพวกเราไม่มีท่านเควิน เธอก็คงไม่สามารถสะสางเรื่องของคาโนเน่ได้ ยูเลียยังได้บอกอีกว่าคาโนเน่นั้นเปรียบเสมือนเพื่อนของเธอมาตั้งแต่สมัยเรียนโรงเรียนนายร้อยแล้ว ถึงแม้พอจบมาจะแยกย้ายไปอยู่คนละหน่วย แต่ความเป็นเพื่อนก็ไม่เปลี่ยนแปลง ไม่ว่าคาโนเน่จะพูดยังไง แต่เธอคิดว่าหากไม่มีคาโนเน่ก็คงไม่มีเธอในวันนี้ค่ะ (ทำไมเป็นคนจิตใจดีเช่นนี้น๊า)
★คุยกับ "คุณนายฮิลด้า" ที่ห้องเมด เธอจะบอกว่าทั้งการกระทำหรือความรู้สึกของร้อยเอกคาโนเน่ที่ทำเพื่อพันเอกริชาร์ดนั้น เมื่อมองในฐานะผู้หญิงด้วยกันแล้วก็ไม่ใช่ว่าจะไม่เข้าใจ แต่ถ้าจะทำอะไรองค์ราชินีล่ะก็เธอไม่ยอมอยู่เฉย ๆ แน่นอนค่ะ
★หากไปที่เขตบริหารการจัดการ จะพบกับ "ดยุคดิวนัน" และลุง "ฟิลลิป" ค่ะ เอสเทลจะเห็นดยุคดิวนันทำหน้าเครียดเพราะเป็นห่วงเรื่องเมื่อคืนด้วย ซึ่งคลอเซ่บอกว่าเพราได้เจอกับองค์กรศัตรูที่แข็งแกร่ง ทำให้เสด็จลุงเริ่มจริงจังขึ้นมาบ้างแล้วค่ะ ส่วนลุงฟิลลิปก็จะขอบคุณเอสเทลที่ช่วยท่านดยุคออกมา เอสเทลบอกว่าถ้าไม่มีคุณฟิลลิปเธอก็ไม่สามารถไปที่ท่าเรือเพื่อช่วยดยุคได้หรอกค่ะ เพราะงั้นถ้าจะให้พูดแล้ว ก็เหมือนฟิลลิปเป็นคนช่วยดยุคเองนั่นแหล่ะ ฟิลลิปรีบปฏิเสธใหญ่ด้วยความเกรงใจเลยล่ะค่ะ
★หากไปคุยกับเมดสาว "พริม" 『プリム』 ในท้องพระโรง เธอจะบอกว่าปกติดยุคจะชอบทำตาเล็กตาน้อยใส่เธออยู่เสมอ แต่ทำไมเดี๋ยวนี้ไม่เห็นแบบนั้นเลย ถึงเธอจะรู้สึกสบายใจขึ้นก็จริง แต่ก็อดสงสัยไม่ได้ว่าเธออ้วนขึ้นหรือเปล่า
★คุยกับ "ราชินีอาริเชีย" ราชินีจะบอกว่าเธอได้รับรายงานเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืนนี้จากยูเลียแล้วค่ะ และไม่น่าเชื่อว่าเด็กที่ชื่อเร็น จะเป็น 1 ในสมาชิกขององค์กร เรื่องนี้ต้องกลายเป็นปัญหาใหญ่ที่ไม่เฉพาะแต่ในลีเบร์ลแน่นอน นอกจากนั้นราชินีได้มอบหมายป๋าคาซิอุสกับนายพลมอร์แกนให้ไปจัดการเรื่องการตรวจสอบองค์กรเรียบร้อยแล้วค่ะ แล้วราชินีอาริเชียยังให้กำลังใจเอสเทลด้วยนะคะ ทั้งยังบอกกับคลอเซ่ด้วยว่า "ย่าจะรอคำตอบของหลานนะคะ" (เราจะได้เห็นการตัดสินใจของคลอเซ่ ในเวลาอันใกล้นี้ค่ะ)
★คุยกับ "ริอันนู" หลานสาวของนายพลมอร์แกนที่บ้านของนายพล ในเขตเมืองตะวันตก เธอจะบ่น ๆ ว่า "เดี๋ยวนี้ พี่ริชาร์ดไม่มาเล่นด้วยกันเลย น่าเบื่อจัง......"
★คุยกับ "อัครสังฆราชคาแลนท์" ที่มหาวิหาร เขาจะบอกว่าเรื่องที่หลวงพ่อเควินทำอาร์ติแฟกซ์พังเพื่อช่วยเหลือคนอื่นก็ถือว่าเป็นเรื่องที่ถูกต้อง แต่ก็ควรจะคำนึงถึงหน้าที่ ที่ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ต้องเก็บกู้อาร์ติแฟกซ์กลับไปให้ได้
★คุยกับ "หัวหน้ากอง บ.ก." ที่สำนักข่าวลีเบร์ล เขาจะบอกว่าเมื่อกี๊ไนแอลคุงออกไปข้างนอกกับโดรธีที่เพิ่งกลับมา เห็นบอกว่าไปสอบถามเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืนนี้น่ะค่ะ
★หากคุยกับคนในเมือง ชาวเมืองจะรู้ข่าวเรื่องที่ทหารพิเศษกับหน่วยองค์รักษ์ประทะกันที่ท่าเรือเมื่อคืนนี้ค่ะ ส่วนนักท่องเที่ยวก็ได้แต่หวั่น ๆ ว่าเมื่อคืนนี้มันเกิดอะไรขึ้นค่ะ
★หากไปคุยกับ "หัวหน้าพ่อบ้านเรมอนด์" ที่ห้องสนทนาในราชคฤหาสน์เอลเบ เขาจะถามว่าไม่ได้มากับเร็นเหรอ เอสเทลจะบอกเขาไปว่าเร็นกลับไปหาพ่อแม่เขาแล้วค่ะ
(เรมอนด์บอกว่าดีที่กลับไปหาพ่อแม่แล้ว แต่เอสเทลฉุนกึกขึ้นมาบอกว่าไม่ดีหรอกยังไงก็ต้องพากลับมาให้ได้ เรมอนด์เลยงง ๆ ว่าพ่อแม่ของเร็นมีปัญหาอะไรหรือเปล่าเนี่ย)
★หากไปที่ห้องพักรับรองด้านตะวันตก จะพบ "ทูตเอลซ่า" เธอจะรู้เรื่องที่คนร้ายจดหมายข่มขู่โดนจับแล้วว่าเป็นพวกทหารพิเศษ แต่เธอรู้สึกว่าน่าจะเป็นการปิดบังเนื้อหาข่าวจริง ๆ ไม่ให้กระจายเป็นวงกว้างของราชินีอาริเชียมากกว่า (สุดเก่งจริง ๆ ผู้หญิงคนนี้ พลังในการวิเคราะห์เรื่องราวช่างยอดเยี่ยมจริง ๆ)
★คุยกับ "พันโทซีด" เขาจะขอบคุณพวกเราที่ให้ความร่วมมือทำให้คดีในครั้งนี้ปิดลงไปได้ค่ะ และหลังจากนี้เขาก็อยากจะให้กองทัพกับสมาคมร่วมมือกันไปเรื่อย ๆ โดยเฉพาะการเผชิญหน้ากับองค์กรด้วยนะคะ พอเขารู้ว่าพวกเอสเทลจะไปพื้นที่บอสจึงบอกว่า ทางนายพลนอร์แกนก็กำลังทำการตรวจสอบคดีที่เกิดขึ้นที่นั่นอยู่เหมือนกันค่ะ
- ไปยังท่าเทียบเรือเหาะเพื่อเตรียมตัวมุ่งสู่พื้นที่บอสค่ะ
ท่าเทียบเรือเหาะ 『発着場』
- คุยกับประชาสัมพันธ์ "ฟีซ" 『フィズ』 ค่ะ (หากไม่ลืมอะไรก็เลือกคำสั่งที่ 2 เพื่อออกเดินทางได้เลยค่ะ)
- ในขณะที่เราจะขึ้นเรือประจำทางนั้น พบกับ "ไนแอล" และ "โดรธี" ที่มีสีหน้าเคร่งเครียด ซึ่งไนแอลบอกว่าเรื่องจะคุยกับเอสเทลค่ะ ดังนั้นเพื่อน ๆ ของเราก็จะไปรอบนเรือเหาะกันก่อนค่ะ
(โอลิเวียร์ก็ยังสอดรู้สอดเห็นเหมือนเดิมค่ะ พี่แกทำเป็นมายืนฟัง แล้วยังมีหน้ามาบอกว่าให้คิดซะว่าเขาเป็นแค่ก้อนหินกลิ้งไปมาแถวนี้ก็แล้วกันซะอย่างนั้นน่ะ แต่ก็โดนเจ๊เชร่ามาลากตัวออกไปเช่นเคยค่ะ ไนแอลจะบอกว่า "ยังเป็นพี่ชายที่นิสัยไม่เคยเปลี่ยนไปเลยนะ")
- เอสเทลจะเห็นโดรธีหน้าตาไม่สดชื่นเลย โดรธีบอกว่าเธอเพื่งกลับมาถึงเมื่อเช้านี้หลังจากไปหาข้อมูลทำข่าวที่พื้นที่บอส ไนแอลบอกว่าเมื่อคืนนี้ที่ฐานทัพลับของสลัดอากาศที่ตอนนี้ทางกองทัพใช้เป็นฐานในการฝึกซ้อมการบินอยู่นั้น มีคนบุกเข้าไปชิงยานสลัดอากาศออกมา เอสเทลจะรู้สึกตื้นตันที่พวกไนแอลอุตส่าห์มาบอกข้อมูลกับเธอ แต่ดูเหมือนว่าที่ไนแอลและโดรธีอยากจะบอกไม่ใช่แค่เรื่องนี้เท่านั้นค่ะ แล้วไนแอลจะบอกให้โดรธีเอาอะไรบางอย่างให้เอสเทล
โดรธี "นี่~ เอสเทลจัง อย่าคิดอะไรที่มันเลวร้ายเลยน๊า~? รูปถ่ายน่ะ มันไม่ได้ถ่ายความจริงออกมาทั้งหมดหรอกน๊า~"
เอสเทล "ทะ ทำไมเหรอ? ทำหน้าจริงจังแบบนั้นน่ะ......"
โดรธี "นี่น่ะ...... เป็นรูปที่ชั้นถ่ายมาเมื่อคื~น"
- เอสเทลรับภาพมาจากโดรธี
เอสเทล "นี่มัน..... ยานสลัดอากาศกับยัยห้าวคนนั้นนี่ แล้วคนที่อยู่ตรงนี้.................."
- เอสเทลมองภาพอย่างละเอียด แล้วเธอก็ประหลาดใจมาก เพราะว่า คน ๆ นั้นน่ะ......
- ไนแอลจะบอกว่าภาพนี้พวกเขาไม่คิดที่จะนำไปมอบให้ทางกองทัพ รวมทั้งไม่คิดจะนำไปพิมพ์ลงหนังสือด้วย จะทำกับรูปนี้ยังไงก็ปล่อยให้เอสเทลเป็นคนตัดสินใจค่ะ
- จบบทที่ 3 ค่ะ

previous: Chapter 2 แผ่นดินอาละวาด
to be continued: Chapter 4 เป้าหมายของปิศาจหมอก

Sub-Quest
 (21) ผลงานจัดแสดงที่หายไป 『消えた展示物』 (BP4)
- ไปคุยกับ "หัวหน้าพิพิธภัณฑ์" ที่พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ ในเขตเมืองด้านตะวันออกค่ะ
- จะทราบว่าภาพ "อัลเซยู" ที่จัดแสดงเอาไว้ที่ผนังถูกขโมยไปประมาณช่วงบ่าย ๆ และมีการ์ดแปะเอาไว้แทนค่ะ ซึ่งแน่นอนว่าคนที่ทำเรื่องแบบนี้นั้น ต้องเป็น "หมอนั่น" อยู่แล้วค่ะ
(1) คำใบ้ที่ 1 ในที่พักอาศัยของนายพลเฒ่า จงค้นหา [ผู้เฝ้ามองแห่งกาลเวลา]
- สำรวจนาฬิกาบนชั้น 2 ที่คฤหาสน์ของนายพลมอร์แกน ที่เขตเมืองด้านตะวันตกค่ะ
(เอสเทลจะบอกให้พวกบ้านนายพลมอร์แกนวางใจ เพราะคนร้ายไม่ได้ขโมยอะไรไปค่ะ แต่ยังไง ก็ขอให้ปิดประตูหน้าต่างให้แน่นหนามากขึ้นค่ะ)
(2) คำใบ้ที่ 2 ในเมือง จงค้นหา [สัญลักษณ์ที่หยุดนิ่งบนแผ่นดิน]
- สำรวจรูปปั้นเหยี่ยว (ฮายาบุซะ=เหยี่ยวที่มีจงอยปากแหลมคม ใช้สำหรับล่าสัตว์) ตรงน้ำพุด้านหน้า ทางเข้านครหลวงค่ะ
(เหยี่ยว "ฮายะบุซะ" เป็นสัญลักษณ์ของราชอาณาจักรลีเบร์ลค่ะ)
(3) คำใบ้ที่ 3 ในที่พักของคนต่างแดน จงค้นหา [การตัดสินใจของอัศวินน้ำเงิน]
- สำรวจชั้นหนังสือที่ห้องด้านขวามือ ในสถานทูตสาธารณรัฐ แล้วอ่าน [อัศวินตุ๊กตา เล่มที่ 15] จะพบการ์ดคำใบ้ใบต่อไปค่ะ
(4) คำใบ้สุดท้าย ประตูถูกเปิดแล้ว จงเข้าร่วม [งานเต้นรำของเหล่ายอดฝีมือ]
- ไปที่ "แกรนด์อารีน่า" เข้าไปที่ลานประลอง จะเกิดการต่อสู้ขึ้นค่ะ
- มาสเตอร์คลีออน + คลีออนบิท *2 -
- 『マスタークリオン+クリオンビット*2』 -

**แนะนำให้ใส่ "หางไฟ" เพื่อป้องกันสถานะ "เยือกแข็ง" กันไว้ก่อนค่ะ เพราะว่า มาสเตอร์คลีออนจะใช้อาร์ท "ไดมอนด์ดัสต์" โจมตีเราติด "เยือกแข็ง" ค่ะ และถ้าใช้อาร์ทคุณสมบัติไฟ ก็จะปราบได้ง่ายขึ้นค่ะ**
- เมื่อปราบได้แล้ว จะได้รับ "ภาพถ่ายอัลเซยู" กลับคืนมาค่ะ แถมยังแนบการ์ดมาประมาณว่าจะมีเรื่องแปลกใหม่แบบนี้ อีกด้วยนะ
- จากนั้น พวกเอสเทลจะนำภาพอัลเซยูไปคืนให้กับ หัวหน้าพิพิธภัณฑ์ค่ะ
(หัวหน้าพิพิธภัณฑ์จะบอกว่า ทำไมไม่ขโมยภาพหรือของที่มันมีค่ามากกว่าภาพถ่ายอัลเซยูนะ ซึ่งเอสเทลจะขอโทษหัวหน้าพิพิธภัณฑ์ เพราะคราวนี้เจ้าหน้ากากพิลึกนั่น ต้องการปั่นหัวพวกเอสเทลเล่นเท่านั้น เลยทำให้หัวหน้าพิพิธภัณฑ์ต้องมาลำบากด้วย แต่เขาบอกว่าไม่ใช่ความผิดของพวกเอสเทลค่ะ)

 (22) ประกาศจับสัตว์ปิศาจบนถนนรอบเมืองเอลเบ 『エルベ周遊道の手配魔獣』 (BP4)
- ปราบ (โครโนไซเดอร์ *5) บนถนนรอบเมืองเอลเบ จะอยู่เยื้อง ๆ ทางเข้าราชคฤหาสน์เอลเบค่ะ
**เจ้าตัวนี้ จะมีท่าที่โจมตีเราแล้วเกิดอาการ "หมดสติ" ค่ะ แนะนำให้ใส่ "เฟเธอร์บรอธ" กันไว้ก่อนจะง่ายขึ้น และถ้าใช้อาร์ทสู้จะง่ายขึ้นค่ะ เพราะ ADF ของเจ้าตัวนี้ค่อนข้างต่ำค่ะ**

 (23) ประกาศจับสัตว์ปิศาจที่ทางน้ำใต้ดิน 『地下水路の手配魔獣』 (BP4)
- ปราบ (แมดทรี *4 + ซีซาร์ฮันส์ + มอธเกรท) ที่ทางน้ำใต้ดิน ตรงจุดที่จะไปยังเขตตะวันตก
**แมดทรี จะโจมตีแล้วดูดเลือดไปด้วย และยังมีท่า "แมดสแปลช" ลด MOV หรือ SPD ฝ่ายเราและทำให้ติด "สับสน" ด้วย**
**แนะนำให้ใช้อาร์ทคุณสมบัติไฟ เช่น "ไฟเออร์โบลท์ รุ่นปรับปรุง" หรือ "สไปรอล แฟลร์" ปราบ จะง่ายขึ้นค่ะ**

 (24) ประกาศจับสัตว์ปิศาจที่ทางน้ำใต้ดิน2 『地下水路の手配魔獣②』 (BP4)
- ปราบ (กันดอล์ล *3 + บอยล์เด็กเกอร์ โอไมครอน *2) ในทางน้ำใต้ดินด้านทิศตะวันตก (แต่ต้องใช้ทางเข้าด้านตะวันออก เข้าไปนะคะ)
**แนะนำ ให้ใส่เครื่องประดับที่ป้องกันสถานะ "หมดสติ" เตรียมไว้ก่อนค่ะ**
**ใช้อาร์ท "คาออสแบรนด์" โจมตีใส่ศัตรู ทำให้ศัตรูติด "สับสน" ให้โจมตีกันเอง ก็จะง่ายขึ้นค่ะ**

 (25) ประกาศจับสัตว์ปิศาจบนถนนคิลเช 『キルシェ通りの手配魔獣』 (BP4)
- ปราบ (เฟลมเวลก์*4 + เฮลเมอร์ส *2) บนถนนคิลเช (จะอยู่ตรงฉากทางเข้าไปยังประตูกริวเน่ จะเป็นรูปตัว Y โดยจะอยู่ทางทิศใต้ ที่จะเข้าสู่ถนนรอบเมืองเอลเบค่ะ)
**แนะนำให้ใช้อาร์ทคุณสมบัติ "น้ำ" ค่ะ และก็ พยายามอย่าเกาะกันเป็นกลุ่มด้วยนะคะ เพราะเฟลมเวลก์ สามารถใช้ท่า "เฟเธอร์ ชาวเวอร์" โจมตีอาณาเขตปานกลางได้ค่ะ**



Related entries:
Sora no Kiseki SC (空の軌跡SC)


No comments:

Post a Comment