Saturday, October 21, 2017

[บทสรุป] Sora no Kiseki SC - Chapter 7 หอคอยสี่วงแหวน

บทที่ 7 หอคอยสี่วงแหวน
第七章 四輪の塔
เอสเทลและเหล่าพวกพ้องต่างยินดีที่โยชัวร์กลับมาร่วมทางอีกครั้ง
แต่ทว่า เหล่างูกินหางได้เริ่มแผนการขั้นต่อไปที่หอคอยบนทุกพื้นที่
เมื่อได้รับคำไหว้วานอย่างเป็นทางการจากกองทัพให้ทำการตรวจสอบความผิดปกติของหอคอย
พวกเอสเทลจึงต้องเผชิญหน้ากับเหล่าผู้ดำเนินแผนการ ทั้งยังได้สัมผัสถึงความมืดมิดที่ซ่อนไว้ในจิตใจของพวกเขาแต่ละคนอีกด้วย!


Walkthrough Chart - Main Quest
หอคอยหยก 『翡翠の塔』
จอมโจรบลูแบลง "------[จอมโจรลึกลับ] เรียก การติดตั้งเสร็จสมบูรณ์แล้ว จะเตรียมพร้อมไว้จนกว่าจะเปิดงานนะ"
หอคอยแดงชาด 『紅蓮の塔』
หมาป่าผอมวอลเตอร์ "[หมาป่าผอม] เอง ทางนี้ก็เสร็จสมบูรณ์แล้ว รีบ ๆ เริ่มซักทีสิเว้ย"
หอคอยฟ้าคราม 『紺碧の塔』
กระพรวนเสน่ห์ลูชิโอล่า "[กระพรวนเสน่ห์] เรียก การติดตั้ง [β] เสร็จสมบูรณ์แล้วค่ะ"
หอคอยอำพัน 『琥珀の塔』
นางฟ้าแห่งการทำลายล้างเร็น "อุหึหึ...... [นางฟ้าแห่งการทำลายล้าง] นะ การเตรียมการของเร็นเสร็จแล้วเหมือนกัน จะเริ่มเมื่อไรก็ได้"
- บนยานสอดแนมสีแดงของงูกินหาง -
ศจ. ไวส์แมน "------ได้เวลาแล้ว จะเริ่มขั้นที่ 3 ของ [แผนการพระสุรเสียง] 『福音計画』 ล่ะนะ"
- ศจ. ไวส์แมนเรียกคฑาของเขาออกมา
ศจ. ไวส์แมน "[วงแหวน] 『環』 ที่ถูกผนึกไว้ในช่องว่างแห่งความมืดมิดที่เจ็ดจรัสไปไม่ถึงเอย------ เจ้าจงจ้องมองสภาพที่ปรากฏในภพนี้ผ่าน [พระสุรเสียง]"
- ทันทีที่ศจ. ไวส์แมนพูดจบ ออร์บเมนท์สีดำที่อยู่เบื้องหน้าเขาส่องแสงสีดำเรืองรอง ปรากฏผลให้ช่องว่างระหว่างมิติกลางอากาศเปิดอ้าออก
ศจ. ไวส์แมน "จงดูซะ! [เสา] 『杭』 ที่สูงตระหง่านทั้งสี่ทิศ! จะแปรเปลี่ยนเป็นลิ่มขนาดใหญ่ที่สุดอันสุดท้าย เชื่อมโยงเจ้าไปสู่ความมืดมิด! และลิ่มอันนั้นจะปรากฏบนภพนี้คั่นความโป้ปดออกจากน้ำมือมนุษย์! จงนำมือนั้นที่บัญญัติทุกอย่างเปิดเผยรูปลักษณ์อันแท้จริง ณ บัดนี้!"
- แสงสีทองบนท้องฟ้าเจิดจ้าขึ้น ออร์บเมนท์สีดำที่เหล่างูกินหางทั้งหลายนำไปไว้บนชั้นบนสุดของแต่ละหอคอยเริ่มทำงาน วงแหวนปรากฏขึ้นรอบ ๆ ของ "เครื่องมือปริศนา" บนดาดฟ้าของหอคอยทั้งสี่
ศจ. ไวส์แมน "เอาล่ะทุกคน! เตรียมงานเทศกาลเรียบร้อยแล้ว! สนุกกันให้เต็มที่ล่ะ!"
จอมโจรบลูแบลง "------เข้าใจแล้ว!"
กระพรวนเสน่ห์ลูชิโอล่า "ผองเรา [ผู้ดำเนินแผนการ] รวมเป็นหนึ่ง"
หมาป่าผอมวอลเตอร์ "ด้วยการชี้นำจาก [สาวกแห่งงู] 『蛇の使徒』 ในฐานะตัวแทนนายเหนือหัวผู้ยิ่งใหญ่------"
นางฟ้าแห่งการทำลายล้างเร็น "จากนี้ไปจะเริ่มทำการคลายสลัก [เสา]!"



ราชวังแกรนเซล 『グランセル城』
โยชัวร์ "------ทั้งหมดนี่ คือรายละเอียดและข้อมูลที่ได้มาตอนที่ลอบเข้าไปใน [เรืออาร์ค] 『方舟』 จนถึงตอนนี้ครับ"
นายพลมอร์แกน "ฮืม...... ไม่น่าเชื่อเลยว่าเรือยักษ์ราวกับปิศาจแบบนั้นจะบุกรุกเข้ามาในลีเบร์ล...... เอาของแบบนั้นออกมา คิดจะทำอะไรกันแน่......"
โยชัวร์ "ภาพรวมทั้งหมดของ [แผนการพระสุรเสียง] ผมไม่อาจหามาได้ แต่พวกเขาน่าจะเริ่มเคลือนไหวไปสู่ขั้นต่อไปแล้วแน่นอนครับ"
เอสเทล "เห็นบอกว่า...... เป็นขั้นที่ 3 อะไรซักอย่างสินะ"
ราชินีอาริเชีย "กลายเป็นสถานการณ์ที่ย่ำแย่ไปซะแล้ว...... นายพลมอร์แกน การสนับสนุนของกองทัพราชอาณาจักรเป็นเช่นไรบ้าง?"
นายพลมอร์แกน "เมื่อคืนนี้ได้ยินมาว่าทั้ง 2 คนติดต่อไปหาคาซิอุสแล้ว ภายใต้การนำของเขาก็ได้ออกคำสั่งเฝ้าระวังภัยระดับที่ 1 ไปยังกองกำลังกองทัพราชอาณาจักรทั้งหมด แล้วก็ได้ให้กองยานบินเคลื่อนพลออกลาดตระเวนไปทั่วท้องที่ทั้งหมดของราชอาณาจักรแล้วพะย่ะค่ะ"
ราชินีอาริเชีย "อย่างนั้นเองหรือ...... คุณเอสเทล ท่านโยชัวร์ ขอบคุณมากนะคะ"
เอสเทล "มะ ไม่หรอก ก็แค่ติดต่อไปธรรมดา ๆ เท่านั้นเองค่ะ"
โยชัวร์ "ตามจริงแล้ว...... น่าจะติดต่อไปให้เร็วกว่านี้อีกนิด รวมทั้งคดีชิงยานสลัดอากาศนั่นต้องขอโทษจริง ๆ ครับ"
เอสเทล "ดะ เดี๋ยวสิโยชัวร์"
โยชัวร์ "ไม่เป็นไรหรอก เอสเทล ผมเตรียมใจรับคำพิพากษาไว้แล้ว"
- โยชัวร์ยิ้มนิด ๆ และบอกเอสเทลถึงการเตรียมใจยอมรับความผิดที่เขาได้ทำลงไป
นายพลมอร์แกน "ฮืม...... ฝ่าบาทจะรับสั่งเช่นไรดีพะย่ะค่ะ?"
ราชินีอาริเชีย "นั่นสินะ...... ก็ต้องว่าไปตามบทบัญญัติกฏหมายสูงสุด แต่ครั้งนี้ด้วยข้อมูลต่าง ๆ ที่เกี่ยวกับ [องค์กร] ที่ท่านโยชัวร์เปิดเผย...... เมื่อเป็นไปตามนั้นก็สามารถอภัยให้กับการกระทำในอดีตได้"
เอสเทล "จะ จริงหรือคะ!?"
โยชัวร์ "แต่ว่า......"
- เอสเทลหันมาถามราชินีด้วยความดีใจ แต่ดูเหมือนว่าโยชัวร์จะไม่เห็นด้วยกับรับสั่งขององค์ราชินี ราชินีอาริเชียจึงเดินเข้าไปใกล้ ๆ ทั้ง 2 คนพร้อมกล่าวด้วยรอยยิ้มที่อบอุ่น
ราชินีอาริเชีย "ดีแล้วล่ะค่ะ ท่านโยชัวร์ การตัดสินในระดับนี้...... คงไม่อาจชดเชยให้ท่านที่เป็นเด็กกำพร้าแห่ง [เฮอร์เมล] ได้ด้วยซ้ำไปค่ะ"
เอสเทล "เอ๋"
โยชัวร์ ".........................."
ราชินีอาริเชีย "......ดูเหมือนว่าจะรู้อยู่แล้วสินะคะ ที่ข้าพเจ้ารู้เรื่องเหตุการณ์ฆ่าฟันอันแสนโหดร้ายในคราวนั้น แล้วยังนิ่งเฉยมาจนถึงบัดนี้......"
- คำสารภาพที่พรั่งพรูออกมาขององค์ราชินี สร้างความประหลาดใจให้กับเอสเทลอย่างมาก
เอสเทล "ระ เรื่องอะไรเหรอคะ!?"
นายพลมอร์แกน "ตอนที่สงครามเปิดฉากขึ้นเอเรโบเนียได้ประกาศสงครามกับลีเบร์ล...... โดยกล่าวอ้างอย่างหนักแน่นว่า การฆ่าฟันกันอย่างโหดร้ายที่เฮอร์เมลในตอนนั้นเป็นฝีมือของกองทัพราชอาณาจักร แต่หลังจากสงครามจบลงไปไม่นาน รัฐบาลจักรวรรดิก็ได้ถอนคำกล่าวอ้างนั้นพร้อมทั้งยื่นข้อเสนอให้พักรบและเจรจาสงบศึกทันที ......โดยแลกเปลี่ยนกับการให้เรานิ่งเฉยเรื่องที่เกี่ยวข้องกับคดีที่เฮอร์เมลทั้งหมดน่ะ"
เอสเทล "!!!"
ราชินีอาริเชีย "......เมื่อพิจารณาถึงเหตุการณ์ก่อนหลังแล้ว ก็ได้คาดเดาอย่างเคลือบแคลงไปว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้นภายในจักรวรรดิหรือไม่ ถึงแม้กลยุทธ์โจมตีตอบโต้จะประสบผลสำเร็จ แต่กองทัพจักรวรรดิก็ยังคงเหลือทหารที่มีกำลังพอจะสู้ต่อได้ หากมีการส่งกำลังทหารมาจากแผ่นดินแม่ของจักรวรรดิเข้ามาแล้วล่ะก็ ราชอาณาจักรก็จะตกที่นั่งลำบากอีกครั้ง------ ข้าพเจ้าได้พิจารณาไปตามนั้น...... แล้วตัดสินใจยอมรับเงื่อนไขนั้นค่ะ"
เอสเทล "อา......"
โยชัวร์ "............................."
ราชินีอาริเชีย "......ให้ความสำคัญกับความสงบสุขของมาตุภูมิก่อนสิ่งใด ข้าพเจ้าจึงได้ละทิ้งการติดตามข้อเท็จจริง แล้วตัดความเสียใจต่อผู้ประสบภัยที่อยู่เบื้องหลังทิ้งไปเสีย ถ้อยคำของร้อยตรีโรแลนซ์ 『ロランス少尉』 ในอดีตที่ได้กล่าวกับข้าพเจ้าว่า [ไม่มีสิทธิ์มาเวทนาสงสาร]...... นั่นก็คือความจริงที่เข้ากลางเป้าเลยล่ะค่ะ"
เอสเทล "องค์ราชินี......"
โยชัวร์ "......โปรดอย่าได้ตำหนิตัวเองเลยครับ เดิมทีถ้าไม่มีความเกี่ยวข้องกับการฆ่าฟันกันอย่างโหดร้าย การคำนึงถึงความสงบสุขของมาตุภูมิก็เป็นการตัดสินตามปกติในฐานะของกษัตริย์อยู่แล้วนี่ครับ"
ราชินีอาริเชีย "ท่านโยชัวร์......"
โยชัวร์ "ประเทศที่ชื่อว่าลีเบร์ลแห่งนี้ ได้เยียวยารักษาจิตใจที่เย็นชา เป็นแผ่นดินซึ่งเรียกได้ว่าเป็นบ้านเกิดหลังที่ 2 ของผม การตัดสินพระทัยของฝ่าบาทที่ได้ปกป้องผืนแผ่นดินนั้นเอาไว้ ผมรู้สึกซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณ ไม่ได้คิดชิงชังใด ๆ เลยครับ"
เอสเทล "โยชัวร์......"
- สีพระพักตร์ขององค์ราชินีเผยให้เห็นถึงความปลาบปลื้มปิติ ราวกับความทุกข์ที่เธอเก็บงำไว้ในใจมานานได้ปลดปล่อยไปพร้อม ๆ กับคำพูดของโยชัวร์
ราชินีอาริเชีย "ขอบคุณนะคะ...... ท่านโยชัวร์ พอท่านกล่าวเช่นนั้นข้าพเจ้าก็รู้สึกว่าสิ่งต่าง ๆ ที่อยู่ในใจได้มลายหายไปแล้วล่ะค่ะ"
- "คุณเอสเทล คุณโยชัวร์!" คลอเซ่รีบวิ่งเข้ามาหาทั้ง 2 คน และเพื่อนพ้องทุกคนที่มากันพร้อมหน้า
คลอเซ่ "คุณเอสเทล ดีจังที่ไม่เป็นอะไร...... แล้วก็...... คุณโยชัวร์ด้วย......"
ทีต้า "ดะ ดีจังเล~ย...... ที่ทั้ง 2 คนกลับมา......!"
โยชัวร์ "คลอเซ่ ทีต้า......"
เอสเทล "ทั้ง 2 คน....... ดูเหมือนชั้นจะทำให้เป็นห่วงสินะ"
เชราซาร์ด "ก็ทำให้...... เสียวสันหลังวาบทีเดียวเชียวแหล่ะ"
อากัต "เหะเหะ...... แต่พาลูกชายที่หนีออกจากบ้านไปกลับมาได้นี่ ก็ดีซะยิ่งกว่าอะไรอีกล่ะนะ"
โยชัวร์ "คุณเชร่า คุณอากัต......"
จิน "ทั้ง 2 คน...... กลับมาอย่างปลอดภัยก็ดีแล้วล่ะ"
โอลิเวียร์ "หึ นี่ก็คงจะเป็นการชี้นำจากเทพธิดานะ"
เอสเทล "เอ๊ะเหะเหะ...... ขอโทษที่ทำให้เป็นห่วง"
- "ก็เป็นอย่างนั้นจริง ๆ นั่นแหล่ะ" เสียงชายหนุ่มสำเนียงคันไซที่ฟังคุ้นหูดังขึ้น
เอสเทล "อ๊ะ คุณเควิน!"
หลวงพ่อเควิน "ตอนที่เอสเทลจังโดนพาตัวไป ชั้นน่ะท้อไปเลยนะ ทำให้ชั้น...... เป็นห่วงมาก ๆ เลยนะเนี่ย"
เอสเทล "อืม...... ขอโทษค่ะ"
หลวงพ่อเควิน "ส่วนทางนี้ หรือจะเป็นคนที่ว่า......"
โยชัวร์ "ยินดีที่ได้รู้จัก หลวงพ่อเควิน โยชัวร์ ไบรท์ครับ"
หลวงพ่อเควิน "โอ๋ยโหย๋...... หล่อกว่าที่คิดเอาไว้อีกแฮะ เดี๋ยวสิ รู้จักชั้นด้วยเหรอเนี่ย?"
โยชัวร์ "เกี่ยวกับตัวตนของคุณ ผมเคยได้มาไว้ในเครือข่ายข้อมูลของผมเหมือนกัน ดูเหมือนว่าจะคอยช่วยเหลือเอสเทลในตอนที่ตกอยู่ในอันตรายไม่รู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้งด้วยสินะครับ ขอบคุณ...... ผมรู้สึกซาบซึ้งจริง ๆ ครับ"
หลวงพ่อเควิน "อุอุอุ...... ก็ดี ถ้าคืนดีกันแล้วชั้นก็ไม่มีอะไรจะพูด แต่ว่านะ......"
- เควินทำหน้าจริงจัง แล้วเดินเข้าไปกระซิบกระซาบกับโยชัวร์
หลวงพ่อเควิน "(......อย่าทิ้งแฟนน่ารักขนาดนี้เอาไว้สิ ถ้าไม่อยากให้แมลงตัวร้ายอย่างชั้นเข้าไปไต่ไปตอมน่ะ)"
โยชัวร์ "(......จะจำให้มั่นเลยครับ)"
เอสเทล "? ทำไมเหรอ?"
หลวงพ่อเควิน "เปล่านี่ ก็แค่"
โยชัวร์ "เรื่องของผู้ชายน่ะ"
- โยชัวร์หันมาพูดยิ้มกรุ้มกริ่มกับเอสเทลที่ได้แต่สงสัยว่าคุณเควินเข้าไปพูดอะไรกับโยชัวร์ แล้วก็ตามสไตล์ของนางเอกเราที่จะไม่พอใจสุด ๆ พลางบ่นอุบอิบว่า "ไม่ชอบใจเลยแฮะ......"
- พบกับป๋า "คาซิอุส" 『カシウス』 ที่บินมาที่นี่ทันทีที่การลงคำสั่งไปยังทั่วทุกพื้นที่เสร็จสิ้น เพื่อเข้ามารายงานผลกับองค์ราชินีและนายพลมอร์แกน และมีเรื่องที่ต้องทำในฐานะพ่อคนค่ะ
คาซิอุส "......เมื่อวานคุยกันทางเครื่องมือสื่อสารแล้วก็จริง แต่ไม่ได้เจอหน้ากันนานเลยนะ"
โยชัวร์ "อืม...... นั่นสินะ ......ขอโทษที่ทำให้เป็นห่วงครับ"
คาซิอุส "เพราะรู้คำปฏิญาณของลูกอยู่แล้ว พ่อก็เหมือนเป็นผู้สมรู้ร่วมคิดด้วย ไม่จำเป็นต้องขอโทษหรอก...... แต่ก็ขอให้พ่อทำตามหน้าที่ให้เสร็จก่อนก็แล้วกันนะ"
- คาซิอุสเงื้อมือของเขาตบลงไปที่หน้าของโยชัวร์ที่ไม่คิดจะหลบแม้แต่น้อย
เอสเทล "ดะ เดี๋ยวสิคุณพ่อ!?"
โยชัวร์ "......ไม่เป็นไร เอสเทล"
- โยชัวร์หันมาพูดกับคาซิอุส
โยชัวร์ "กับลูกชายที่หนีออกจากบ้านไป ย่อมต้องมีการลงโทษอยู่แล้วสินะ"
คาซิอุส "ก็ใช่น่ะสิ เรื่องที่ทำให้ทุกคนเป็นห่วงมากกว่าที่คิดเอาไว้...... ในที่สุดลูกก็ได้รู้ซึ้งแล้วสินะ?"
โยชัวร์ "......อืม ผมทำไปเพื่ออะไร------ แล้วทำไมถึงคิดอะไรแบบนั้นน่ะ มันใช้ไม่ได้เลยสินะ"
คาซิอุส "ใช่...... มนุษย์มีตัวตนอยู่ด้วยการรับอิทธิพลจากหลาย ๆ สิ่งแล้วมีชีวิตอยู่ต่อไป แต่ในทางกลับกัน การมีชีวิตอยู่เพียงอย่างเดียวก็ทำให้หลาย ๆ สิ่งได้รับอิทธิพลนั้น ๆ ไปด้วย ซึ่งนั่นก็คือ [สิ่งพึ่งพิง] 『縁』 ------ เมื่อได้ล่วงเลยข้ามผ่านกาลเวลาไปแล้วล่ะก็ [สิ่งพึ่งพิง] จะแปรเปลี่ยนเป็น [สายสัมพันธ์] 『絆』 ยังไงล่ะ"
โยชัวร์ "......[สายสัมพันธ์]......"
คาซิอุส "แล้ว [สายสัมพันธ์] ที่ถักทอรวมเป็นหนึ่งจะเป็นสิ่งที่ไม่มีทางขาดจากกันได้ ไม่ว่าจะห่างกันไปไกลแสนไกล ไม่ว่าจะมีสถานภาพที่แตกต่างกันก็จะมีบางอย่างเชื่อมโยงเกี่ยวเนื่องกันไป...... คงจะรู้ถึงความแข็งแกร่งอันนั้นอยู่แล้วใช่ไม๊?"
โยชัวร์ "อืม...... บอกตามตรงว่าผมเคยดูแคลนสิ่งนั้นมาตลอด ผมเนี่ย...... ท่าทางจะเป็นพวกมีตาแต่ไร้แววจริง ๆ"
เอสเทล "โยชัวร์......"
คาซิอุส "หึหึ เมื่อมองสิ่งนั้นออกแล้ว ก็รับรู้ผลของการหนีออกจากบ้านไปได้แล้วสินะ"
- คาซิอุสเข้าไปกอดโยชัวร์
คาซิอุส "โยชัวร์...... เจ้าลูกบ้าคนนี้นี่ ในที่สุดก็กลับมาจนได้ซะทีนะ"
โยชัวร์ "คุณพ่อ......"
- ทุกคนในท้องพระโรงต่างซาบซึ้งในความใกล้ชิดผูกพันของสองพ่อลูก ที่แม้ไม่ได้มีสายเลือดเดียวกันแต่ก็มีความผูกพันอันยิ่งใหญ่
- "ร้อยเอกยูเลีย" รีบวิ่งเข้ามาแจ้งเหตุฉุกเฉินว่ามีสัตว์ปิศาจที่ไม่ทราบรูปร่างที่แท้จริงปรากฏตัวรอบ ๆ หัวเมืองใหญ่ทั้ง 5 ยกเว้นนครหลวง และจากที่เธอได้รับรายงานมาคาดว่าน่าจะเป็นตุ๊กตาสงคราม นอกจากนั้นด่านในทุกพื้นที่ก็มีทหารชุดแดงหุ้มเกราะปรากฏตัวอีกด้วย ซึ่งตอนนี้กองกำลังรักษาความปลอดภัยกำลังต้านไว้อยู่ค่ะ
นายพลมอร์แกน "ดูท่าคงต้องรีบกลับไปที่ประตูฮาเก้นโดยด่วนแล้วสินะ......"
ร้อยเอกยูเลีย "ละ แล้วก็......"
นายพลมอร์แกน "อะไร ยังมีอีกหรือ?"
ร้อยเอกยูเลีย "ยังไม่ทราบรายละเอียดก็จริงอยู่...... แต่มีเหตุการณ์ประหลาดเกิดขึ้นที่ [หอคอยสี่วงแหวน] 『四輪の塔』 ค่ะ ดูเหมือนว่าส่วนชั้นดาดฟ้าจะถูกปกคลุมด้วย [ความมืด] ที่ไม่เคยเห็นมาก่อนค่ะ"
เอสเทล "!!!"
หลวงพ่อเควิน "ชิ...... ได้กลิ่นไม่ดีเลยแฮะ"
ร้อยเอกยูเลีย "นอกจากนี้ ระหว่างที่ยานรักษาความปลอดภัยกำลังลาดตระเวนก็ได้เข้าไปใกล้ ๆ เพื่อทำการตรวจสอบ...... แต่ก็ตกอยู่ในสภาพเครื่องยนต์หยุดการทำงานทันที จำต้องถอนกำลังอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ค่ะ"
นายพลมอร์แกน "[ปรากฏการณ์ออร์บเมนท์หยุดการทำงาน] 『導力停止現像』 งั้นหรือ......"
คาซิอุส "แล้วหน่วยสอดแนมภาคพื้นล่ะ?"
ร้อยเอกยูเลีย "ก็ได้มีการส่งเข้าไปตรวจสอบทันทีแต่......"
- ไม่ทันที่ร้อยเอกยูเลียจะรายงานจบ นายกองแห่งกองทัพราชอาณาจักรวิ่งกระหืดกระหอบเข้ามารายงานผลว่า หน่วยสอดแนมที่ส่งไปยังหอคอยทุกท้องที่โดนตีแตกด้วยฝีมือของคนเพียงคนเดียวเท่านั้นค่ะ
ร้อยเอกยูเลีย "ว่าไงนะ......!?"
เอสเทล "นะ นั่นมัน......!"
โยชัวร์ "อา...... คงจะเป็น [ผู้ดำเนินแผนการ] 『執行者』 น่ะสิ คุณพ่อ...... พวกเขาเกินกำลังของทหารธรรมดาทั่ว ๆ ไป ให้ผมออกหน้าเถอะ"
- ทุกคนหันมาที่โยชัวร์ โดยที่คาซิอุสได้แต่ครุ่นคิด ส่วนเอสเทลไม่สบอารมณ์โยชัวร์อย่างมาก
เอสเทล "เดี๋ยวก่อนโยชัวร์...... ทำไมทำเหมือนจะออกไปคนเดียวเลยล่ะห๊า ลืมสัญญาที่ให้ไว้เมื่อวานแล้วเหรอ?"
โยชัวร์ "เอสเทล แต่ว่า......"
เอสเทล "[องค์กร] เริ่มดำเนินการตามที่บอก ในฐานะเบรเซอร์แล้วไม่ว่ายังไงก็ปล่อยไปไม่ได้ ยังไงชั้นก็จะตามไปด้วยให้ได้"
โยชัวร์ "เอสเทล......"
เชราซาร์ด "ไม่ใช่เฉพาะเอสเทลนะจ๊ะ ชั้นก็ขอไปด้วย เพราะชั้นมีความเกี่ยวข้องส่วนตัวด้วยนี่นา"
จิน "ใช่ ชั้นก็เหมือนกัน"
โยชัวร์ "คุณเชร่า คุณจิน......"
อากัต "ก็ ที่ไปเกี่ยวข้องน่ะไม่ได้มีแต่นายคนเดียวนี่ ชิงลงมือก่อนไม่ได้หรอกเฟ้ย"
ทีต้า "นะ นั่นสิพี่จ๋า! ในเวลาอย่างนี้ทุกคนต้องร่วมมือกันสิถึงจะถูก!"
โยชัวร์ "คุณอากัต ทีต้า...... ......ขอบคุณ ช่วยได้จริง ๆ ครับ"
คาซิอุส "ท่าทางจะตัดสินใจแล้วสินะ ถ้างั้นจะขอร้องทางสมาคมเบรเซอร์ให้ทำการตรวจสอบและคลี่คลายเหตุการณ์ประหลาดที่ [หอคอยสี่วงแหวน] นี่คือการไหว้วานอย่างเป็นทางการจากทางกองทัพ"
เอสเทล "อืม...... ทราบแล้ว!"
โยชัวร์ "ยืนยันการรับงานเรียบร้อยครับ"
- คลอเซ่ยังคงยืนครุ่นคิดอะไรบางอย่าง ก่อนที่เธอจะตัดสินใจเอ่ยปากขออะไรบางอย่างจากเสด็จย่าของเธอ
คลอเซ่ "......เสด็จย่า ทรงให้หม่อมฉันยืม [อัลเซยู] จะได้ไม๊เพคะ?"
เอสเทล "เห......!?"
ร้อยเอกยูเลีย "อะ องค์หญิง?"
ราชินีอาริเชีย "หึหึ...... ช่างเป็นสถานการณ์ที่แข่งกับเวลาเสียจริง ข้าพเจ้าเองก็คิดที่จะมอบ [อัลเซยู] ให้อยู่เหมือนกัน...... แต่ที่หลานแสดงความประสงค์ออกมาเองเช่นนั้น แสดงว่าได้เตรียมใจไว้แล้วใช่ไม๊คะ?"
คลอเซ่ "ไม่เพคะ...... หม่อมฉันยังไม่ได้ ทว่าตอนที่มอบยานคืน หม่อมฉันให้สัญญาว่าจะทูลคำตอบในตอนนั้นอย่างแน่นอนเพคะ"
ราชินีอาริเชีย "หึหึ...... ก็ได้ค่ะ จงนำปีกแห่งความหวังของลีเบร์ลไปใช้ได้ตามใจชอบเลยค่ะ"
คลอเซ่ "เป็นพระมหากรุณาธิคุณเพคะ"
- สีหน้าของคลอเซ่ดูจริงจังผิดกับใบหน้าอ่อนโยนที่เธอเคยแสดงให้เห็นอยู่เสมอ และเป็นครั้งแรกที่คลอเซ่ออกคำสั่งกับยูเลีย
คลอเซ่ "ร้อยเอกยูเลีย เตรียมตัวเคลื่อนพลมุ่งหน้าไปยัง [หอคอยสี่วงแหวน] ให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ค่ะ"
ร้อยเอกยูเลีย "รับด้วยเกล้า!"
- จากนั้น...... ลีเบร์ลก็ได้เข้าสู่สถานการณ์ที่ไม่อาจคาดเดาได้ ดังเช่น [สงครามร้อยวัน] คาซิอุสกับนายพลมอร์แกนจะแยกย้ายกันกลับไปประจำการที่ "ค่ายเรสตอน" และ "ประตูฮาเก้น" เพื่อทำการบัญชาการทหารทุกหน่วยของกองทัพ...... ส่วนพวกเอสเทลจะไปยังหอคอยทั่วทุกพื้นที่ด้วย [อัลเซยู] ปีกสีขาวแห่งลีเบร์ลค่ะ
☆ได้รับการรายงานผล "ลอบเข้าตึกวิจัยของ [องค์กร]" ในบทที่แล้วค่ะ☆

เหตุการณ์ประหลาดที่ [หอคอยสี่วงแหวน]
《四輪の塔》の異変 (BP9)
ท่าเทียบเรือเหาะ 『発着場』
เอสเทล "อื~ม เป็นไปได้ไงเนี่ย ที่โอลิเวียร์ต้องกลับไปจักรวรรดิน่ะ....."
เชราซาร์ด "กระทันหันมากเลยนะ"
โอลิเวียร์ "ไม่หรอก จริง ๆ แล้วมีกำหนดการที่ต้องกลับประเทศมาก่อนหน้านี้เล็กน้อยแล้วล่ะ แต่เพราะเอสเทลคุงโดนจับตัวไป ผมก็เลยเลื่อนกำหนดการแล้วอยู่ที่นี่ต่อน่ะ"
เอสเทล "งั้นเหรอ...... ขอโทษนะ เพราะชั้นแท้ ๆ"
โอลิเวียร์ "หึ ไม่ต้องคิดมากหรอก เพราะรอการกลับมาของเธอ ผมจึงได้พบกับโยชัวร์คุงผู้เป็นที่รักอีกครั้งด้วยนี่นา"
โยชัวร์ "ฮะฮะ ยังเหมือนเดิมเลยนะครับ ------------ ......เอ่อ คุณโอลิเวียร์"
โอลิเวียร์ "โอ้ มีไรเหรอ?"
โยชัวร์ "คุณน่ะ......"
- โยชัวร์เหมือนอยากจะถามโอลิเวียร์บางอย่าง "......เปล่า ไม่มีอะไรครับ" แต่ก็หยุดความสงสัยของเขาเอาไว้เพียงเท่านั้น
(อันที่จริง โยชัวร์รู้ตัวจริงของโอลิเวียร์มานานแล้วค่ะ เพื่อน ๆ ที่ยังไม่รู้ตัวจริงของเขาก็รอชมกันต่อไปนะ)
โยชัวร์ "ขอบคุณ ที่ให้ความช่วยเหลือการเดินทางของเอสเทลมาตลอดนะครับ"
โอลิเวียร์ "หึ มันเป็นความตั้งใจของผมอยู่แล้วนี่ ทำเป็นคนอื่นคนไกลไปได้ แต่ถ้าพูดถึงขนาดนั้นล่ะก็ คำขอบคุณขอเป็นจูบอันเร่าร้อน......"
เอสเทล "อย่ามามั่วได้ไม๊ ------------ สุดท้ายแล้ว...... ลากันดี ๆ เถอะนะ"
โอลิเวียร์ "ฮะฮะ แต่ไหนแต่ไรมาผมก็ตั้งใจทำให้มันจริงจังอยู่แล้วนี่นา ------------ เอสเทลคุง โยชัวร์คุง เชร่าคุง แล้วก็ทุกคน...... คงจะลำบากน่าดู แต่ก็ระวังตัวไปดีมาดีหน่อยล่ะ โอลิเวียร์คนนี้จะอธิษฐานให้พวกเธอโชคดีจากบนฟ้าของจักรวรรดินะ"
เอสเทล "อืม ขอบใจ!"
เชราซาร์ด "หึหึ...... นายต่างหากล่ะที่ต้องระวังตัว"
โยชัวร์ "......ยังไงก็รักษาตัวด้วยนะครับ"
จิน "ถ้ามีโอกาสก็มาดื่มกันอีกล่ะ"
อากัต "คราวหน้าก็รักษานิสัยแปลก ๆ ให้หายซะนะ"
ทีต้า "อ๊ะฮะฮะ...... เอ่อเอ่อ...... ลาก่อนค่ะ!"
หลวงพ่อเควิน "แหม~ ถึงจะร่วมทางกันสั้น ๆ แต่ทางนี้สนุกมากเลยล่ะครับ"
คลอเซ่ "โชคดีนะคะ...... ขอบคุณที่ให้ความช่วยเหลือในทุกเรื่องค่ะ"
อัลเซยู 『アルセイユ』
- หลังจากลาโอลิเวียร์เสร็จแล้ว พวกเอสเทลจะเข้าไปในห้องบังคับการภายในอัลเซยู และที่นั่นก็ได้พบกับ "ดร. รัซเซล" ค่ะ
(จากคำบอกเล่าของ "ดร. รัซเซล" ดร. ได้ขึ้นมาบนยานมาหลายวันก่อนหน้านี้แล้วเพราะเหตุจำเป็นบางอย่างค่ะ และที่เขามาเข้าร่วมเหตุการณ์ประหลาดที่ [หอคอยสี่วงแหวน] ก็เพื่อที่จะดำเนินการตรวจสอบความผิดปกตินั้นค่ะ)
- จากการลงความเห็นของพวกเรา ถึงแม้ [หอคอยอำพัน] กับ [หอคอยแดงชาด] จะอยู่ใกล้ที่สุดในตอนนี้ แต่ "ร้อยเอกยูเลีย" กล่าวว่าด้วยระดับความเร็วของอัลเซยูไม่ว่าจะไปหอคอยไหนก่อนก็เหมือน ๆ กันค่ะ (สุดยอด) เธอจึงแนะให้ไปที่หอคอยที่เรารู้ข้อมูลของศัตรูก่อนจะดีกว่า
ร้อยเอกยูเลีย "เมื่อสักครู่ มีการรายงานเข้ามาจากหน่วยสอดแนมที่มุ่งหน้าไปยัง [หอคอยหยก] ดูเหมือนว่าคนที่ออกมาจะเป็นชายประหลาดชุดขาวสวมหน้ากาก"
- แน่นอนว่าเจ้าจอมโจรนั่นเป็นคนที่พวกเรารู้จักอย่างดีเลยล่ะค่ะ ถึงจะท่าทางจะยังงั้น ๆ แต่ฝีมือก็สุด ๆ ไปเลย เพราะตีหน่วยสอดแนมให้แตกได้ด้วยตัวคนเดียวค่ะ
โยชัวร์ "[จอมโจรลึกลับ] 『怪盗紳士』 บลูแบลง...... ผู้ดำเนินแผนการที่เปิดฉากด้วยการแยกร่างหรือหุ่นเงาและใช้เทคนิคอันแพรวพราว คิดว่าคงไม่ได้ใช้วิธีการต่อสู้แบบตรงไปตรงมาแน่"
- ดังนั้น หอคอยแรกที่เราจะมุ่งหน้าไปก็คือ [หอคอยหยก] ในพื้นที่รอเลนซ์ค่ะ
ท่าเทียบเรือเหาะ 『発着場』
- ตัดมาที่ท่าเทียบเรือเหาะอีกครั้ง "โอลิเวียร์" จะยืนส่งพวกเอสเทลที่บินไปพร้อมกับ [อัลเซยู] ค่ะ
โอลิเวียร์ "หึ...... การผ่อนผันสิ้นสุดลงเท่านี้แล้วเหรอเนี่ย ไม่สิ ยังเหลือโอกาสครั้งสุดท้ายอยู่หรือเปล่านะ"
- "ไนแอล" และ "โดรธี" ก็ตาม [อัลเซยู] ไม่ทันเหมือนเคย
(พวกไนแอลได้ยินมาว่าโยชัวร์กลับมาแล้วก็เลยมาหาค่ะ แต่ก็แอบหวังไว้ลึก ๆ ว่าจะได้ขึ้นอัลเซยูไปเหมือนตอนคดีมังกรโบราณด้วยนั่นแหล่ะ)
- จากนั้น ไนแอลก็เข้าสู่โหมดบ้างาน ให้โดรธีใช้เลนส์ไวแสงถ่ายภาพอัลเซยูที่บินไปไกลลิบค่ะ
- "โอลิเวียร์" ปล่อยให้ไนแอลและโดรธีถ่ายรูปอัลเซยูต่อไป แล้วค่อย ๆ เดินออกมาจากสะพานเรือซึ่ง "มิวเลอร์" ก็ได้รออยู่แล้ว
มิวเลอร์ "......กล่าวลาเรียบร้อยแล้วเหรอ?"
โอลิเวียร์ "หึ ก็คร่าว ๆ น่ะ การเตรียมการทางนั้นเป็นไงบ้าง?"
มิวเลอร์ "ทางท่านลุงจัดการแล้ว ดูท่าทางท่านรัฐมนตรีจะถึงเวลาโดนสอบสวนเองเสียมากกว่า"
โอลิเวียร์ "ก็เพราะได้ยินมาว่าคน ๆ นั้นรับเลี้ยงชาวราชอาณาจักรเอาไว้ด้วยนี่ หึหึ...... ท่าทางจะสนุกขึ้นอีกนะ"
มิวเลอร์ "นายนี่...... รสนิยมแย่ซะยิ่งกว่าอะไรจริง ๆ --------- สีหน้าที่แสดงความตกใจของพวกเขา ตอนนี้ก็เหมือนกับผุดขึ้นมาให้เห็นเลยล่ะ"
โอลิเวียร์ "ฮะฮะฮะ ก็นั่นเป็นความตั้งใจจริงอยู่แล้วนี่"
- โอลิเวียร์หัวเราะชอบใจ แล้วหันไปมองอัลเซยูที่บินลับไป
โอลิเวียร์ "(พบกันอีกครั้งในคราวหน้าก็จะเป็นศัตรูกันแล้วนะ อย่าไปแพ้ให้กับ [องค์กร] ซะล่ะ)"
☆"โอลิเวียร์" ออกจากกลุ่ม ควอทซ์และเครื่องป้องกัน ตัวเกมถอดให้อัตโนมัติค่ะ☆
อัลเซยู 『アルセイユ』
- ตัดมาที่พวกเอสเทลซึ่งใช้เวลาไม่ถึง 30 นาทีก็มาถึง [หอคอยหยก] ได้ค่ะ จากนั้นพวกเราจะดูสถานการณ์บนดาดฟ้าของหอคอยหยกผ่านหน้าจอภายในห้องบังคับการค่ะ
(จากสภาพที่เห็น "เควิน" รู้สึกว่าลูกกลม ๆ ดำ ๆ นั่นคล้ายกับอาณาเขตที่เป็นคลื่นสีดำที่ [กอสเปล] แผ่ออกมาค่ะ)
- "ดร. รัซเซล" เห็นว่าถ้าคลื่นนั่นมาจาก [กอสเปล] จริงล่ะก็ เราก็ไม่ควรขับยานเข้าไปใกล้ให้มาก ดังนั้นเราจะใช้ลิฟท์ที่ทางออกฉุกเฉินเพื่อลงไปยังหอคอยค่ะ
☆เลือกเพื่อนเข้ากลุ่ม 2 คน (เอสเทล และ โยชัวร์ เป็นตัวละครบังคับ)☆
◆ในกรณีที่เลือก "ทีต้า" เข้ากลุ่ม ดร. รัซเซล จะบอกให้หลานของเขาระวังตัวค่ะ
(ไม่ห้ามหลานตัวเองเลยแฮะ)
☆ช่วงที่อยู่ในยาน เราสามารถซื้อพวกยาหรืออาวุธเครื่องป้องกัน รวมไปถึงควอทซ์ใน [อัลเซยู] ได้นะคะ☆
☆หากต้องการเปลี่ยนกลุ่ม ก็ไปคุยกับเพื่อนคนไหนก็ได้ที่เราไม่ได้เลือก แล้วเลือกคำสั่งที่ 2 ค่ะ☆
- อย่าลืมแวะไปซื้อ "ลีเบร์ลสาร ฉบับ 9" ที่ "ที่ขายอุปกรณ์อัลเซยู" ด้วยนะคะ
- ในช่วงนี้ เพื่อน ๆ เราจะอยู่ตามนี้เลยนะคะ
★ที่ห้องบังคับการ "อากัต" บอกว่าถ้ารออยู่ที่นี่แล้วก็จะสามารถเป็นแบ็คอัฟให้พวกเราได้สะดวก เพราะห้องบังคับการเป็นที่ที่มองเห็นสถานการณ์ภายนอกได้ชัดเจนที่สุดค่ะ (เรื่องงานทีไรเอาจริงเอาจังเต็มที่ทุกที อากัตเนี่ยช่างน่ารักซะจริง ๆ)
★ที่ดาดฟ้าส่วนหัวเรือ "คลอเซ่" กำลังไม่สบายใจเรื่องอะไรบางอย่างอยู่ เธอขอโทษเอสเทลที่เธอดันมาเหม่อลอยในเวลาเช่นนี้ (คลอเซ่หนักใจเรื่องคำตอบที่จะให้กับเสด็จย่าของเธอค่ะ) แต่เอสเทลบอกว่าไม่จำเป็นต้องขอโทษเพราะก่อนหน้านี้ตัวเอสเทลเองก็ทำให้ทุกคนเป็นห่วงเหมือนกัน แต่ก็มีแอบแซวนิด ๆ ถึงใครบางคนว่า "แต่ในกรณีของชั้นน่ะ ทั้งหมดเป็นความผิดของใครก็ไม่รู้สินะ" โยชัวร์รีบออกตัวทันทีว่า "......ครับครับ สำนึกผิดแล้วคร๊าบ" ทำให้คลอเซ่อดขำทั้ง 2 คนไม่ได้ค่ะ
★ที่ดาดฟ้าส่วนท้ายเรือ "เจ๊เชร่า" มอง [หอคอยหยก] แล้วนึกถึงเรื่องราวต่าง ๆ ที่เคยเกิดขึ้น เพราะหอคอยหยกเป็นสถานที่ที่พวกเอสเทลทำงานในฐานะ "เตรียมเบรเซอร์" เป็นครั้งแรกค่ะ (แต่พอพวกเอสเทลคิดไปคิดมา สุดท้ายงานชิ้นนั้นป๋าก็แยกช็อตเด็ดไปอยู่ดีค่ะ) แต่ถึงยังไงเจ๊เชร่าก็ออกปากชมเอสเทลและโยชัวร์ว่าเก่งขึ้นกว่าเมื่อตอนนั้นเยอะค่ะ
★ในห้องอาหาร "จิน" กำลังดื่มอยู่คนเดียวเพราะเพื่อนดื่มอย่างโอลิเวียร์กลับประเทศไปแล้วค่ะ พวกเอสเทลนึกขึ้นมาได้จึงแซวไปว่าแปลกดีที่จินไปสนิทสนมกับโอลิเวียร์ได้ จินรีบแก้ตัวก่อนที่โดนเหมารวมว่าเป็นพวกผิดปกติเหมือนกับโอลิเวียร์ว่านอกจากเรื่องเหล้าแล้วนิสัยพื้นฐานไม่เหมือนกันค่ะ แล้วจินก็เห็นว่า "อาจเป็นเพราะคนเรานั้นมักจะแสวงหาในสิ่งที่ตนไม่มีก็เป็นได้" ค่ะ (สมกับที่เป็นผู้ฝึกตน ข้อคิดดีอีกแล้วค่ะ ลุงจิน)
(ในกรณีที่พา "เจ๊เชร่า" มาด้วย เจ๊จะเสนอให้จินชวนเธอมาดื่มเป็นเพื่อน เอสเทลคิดไปถึงโน่นเลยค่ะว่าถ้าเจ๊เชร่าเป็นเพื่อนดื่มล่ะก็ มีหวังเมาสุด ๆ น่ะสิ โยชัวร์รีบสะกิดเอสเทลเพราะกลัวเจ้าตัวได้ยินค่ะ)
(ในกรณีที่พา "เควิน" มาด้วย เควินจะเสนอให้จินชวนเขามาดื่มเป็นเพื่อน ถึงบาทหลวงจะดื่มเหล้าไม่ได้ แต่เควินใช้มุขว่าถ้าดื่มนิดเดียวเทพธิดาก็คงจะเอาหูไปนาเอาตาไปไร่น่ะค่ะ มีงี้ด้วยแฮะ)
(ในกรณีที่พา "อากัต" มาด้วย อากัตจะเสนอให้จินชวนเขามาดื่มเป็นเพื่อนค่ะ)
(ถ้าไม่ไม่ได้พาใครตามที่กล่าวข้างต้นมา "โยชัวร์" จะเสนอให้จินชวนเขามานั่งคุยเป็นเพื่อนแทน เพราะโยวร์ไม่ดื่มเหล้าค่ะ เป็นตัวอย่างที่ดีเนอะ น่ารักจัง)
★ในห้องทดลอง "ทีต้า" กำลังน้อยใจนิด ๆ ที่คุณตาของเธอแอบวิจัยอย่างอื่นนอกจากปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นด้วย ถึงการทำวิจัย 2 ชิ้นในเวลาเดียวกันจะเป็นเรื่องลำบาก แต่ทีต้าก็เชื่อว่าคุณตาเธอต้องทำได้และถ้ามีเรื่องอะไรที่เธอทำได้เธอก็ยินดีช่วยคุณตารวมไปถึงพวกเอสเทล ด้วยกำลังทั้งหมดที่เธอมีเลยล่ะค่ะ (น่ารักจังหนูทีต้า)
★ในห้องพยาบาล "หลวงพ่อเควิน" ได้รับการขอร้องให้มาช่วยดูแลเรื่องปฐมพยาบาลค่ะ โยชัวร์ออกปากชมเควินด้วยว่าสมกับที่เป็น [อัศวินจอกดารา] ที่มีความรู้ในศาสตร์แห่งการแพทย์ค่ะ
☆ในห้องทดลองคุยกับ "ช่างซ่อมบำรุงเพตัน" (คนที่เคยช่วยเรามาตั้งแต่ภาค FC ค่ะ)
เขาจะอำนวยความสะดวกให้กับพวกเรา โดยเปิด "โรงงานอัลเซยู" แล้วก็ "ที่ขายอาวุธอัลเซยู" ค่ะ☆
★ในห้องทดลองเอสเทลจะประหลาดใจที่ "อันโตวานู" ขึ้นมาบน [อัลเซยู] ด้วยค่ะ
★หากไปคุยกับ "ดร. รัซเซล" เขากำลังวิจัย [อุปกรณ์ที่ว่า] พวกเอสเทลจะไม่ค่อยเข้าใจความหมายของคำที่ชวนให้คิดแบบนี้ แต่ ดร. รัซเซลบอกว่าตอนนี้ยังบอกอะไรไม่ได้ ให้เรารอไปก่อนค่ะ
★นอกจากนั้น ในห้องทดลองนี่ยังมี "คาเปล" ให้เราได้สำรวจกันด้วยนะคะ
☆เราสามารถใช้เตียง ที่อยู่ตามห้องต่าง ๆ เป็นที่ฟื้นพลังได้นะคะ☆
- เมื่อเตรียมตัวพร้อมแล้วก็ไปคุยกับ "เฟย์" 『フェイ』 ที่ท้องเรือแล้วเลือกคำสั่งที่ 1 (ลงลิฟท์) ได้เลยค่ะ
(ที่ "เฟย์" ขึ้นมาบน [อัลเซยู] ด้วย ก็เพราะปู่รัซเซลไปชวนเธอมาเพราะขาดคนค่ะ แถมตอนนี้เฟย์เองก็ว่าง ๆ ก็เลยถือโอกาสเข้ามาช่วยซะเลย)
หอคอยหยก 『翡翠の塔』
- เมื่อลงมาที่ด้านหน้า [หอคอยหยก] เราจะพบกับ "พลทหารไฮนซ์" 『兵士ハインツ』 หน่วยสอดแนมที่มารอแจ้งข่าวพวกเราค่ะ
(จากคำบอกเล่าของ "พลทหารไฮนซ์" พอพวกเขามาถึงก็เห็นที่ประตูทางเข้าหอคอยมีอาณาเขตประหลาดอยู่แล้ว แต่พอจะเข้าไปสำรวจ "ชายสวมหน้ากาก" ก็โผล่ออกมาแล้วก็หายเข้าไปในประตูค่ะ เอสเทลจึงบอกว่าที่นี่ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของพวกเธอเองให้พลทหารไฮนซ์กลับไปรอที่หน่วยค่ะ)
หอคอยหยก - มิติประหลาด 『翡翠の塔・異空間』
- เมื่อเข้ามาภายใน [หอคอยหยก] พวกเราต่างประหลาดใจ เพราะพอเข้ามาแล้วเหมือนกับที่นี่เป็นอีกมิติหนึ่งเลยค่ะ แต่ถึงจะตกใจกับสภาพที่เห็นก็ต้องมีเส้นทางที่จะตามบลูแบลงไปบนดาดฟ้าได้อย่างแน่นอนค่ะ
☆ไอเทมที่พบในชั้น 1 "EPชาร์จ II" ค่ะ☆
☆ไอเทมที่พบในชั้น 2 "ยาแห่งลีเบ", "กรัมโชคเกอร์", "คาเรโด้วูล์ฟ", "ยาแห่งเซราส" ค่ะ☆
☆ไอเทมที่พบในชั้น 3 แล้ววาร์ปไปชั้น 5 ฝั่งซ้าย "EPชาร์จ I", "ยาแห่งคิวเรีย", "เซพิธ (ลมx300, เวลา+อากาศ+มายาx100)", "ยาแห่งเซราส", "เรจีน่าการ์ดเดอร์" ค่ะ☆
☆ไอเทมที่พบในชั้น 3 แล้ววาร์ปไปชั้น 5 ฝั่งขวา "ยาแห่งเทียร์รอล", "ยาแห่งอาเซราส", "เซพิธ (ลมx300, เวลา+อากาศ+มายาx100)", "ยาแห่งเทียร์ ออล", "บลูฟาลคอน"ค่ะ☆
☆ไอเทมที่พบในชั้น 3 "เสื้อไท้เก็ก" (สู้กับ โฟตอนจัดจ์J + การ์ดโดมิเนี่ยนJ + โบรคเค่นพีสJ), "S-แท็ปเล็ต" ค่ะ☆
☆ไอเทมที่พบในชั้น 4 "แผ่นป้ายคุ้มภัยศิลาประกายหยก" ค่ะ☆
- พบกับ "อุปกรณ์ประหลาด" โยชัวร์จะเข้าไปสำรวจดู ทำให้เรารู้ว่าเจ้าสิ่งนี้เป็นเครื่องมือที่ใช้บันทึกข้อมูล แต่น่าเสียดายที่ตัวอักษรขาดหายไปเยอะจึงไม่สามารถอ่านได้ ซึ่งโยชัวร์คิดว่าน่าจะมีวิธีที่ทำให้อ่านตัวอักษรออกได้ ดังนั้นเอสเทลจึงแนะให้เก็บเอาไว้ก่อนเผื่อมีประโยชน์ในภายหลังค่ะ
- ได้รับ "ดาต้าคริสตัล0" 『データクリスタル0』 ที่อ่านออกแค่บรรทัดแรก ๆ แต่นอกนั้นอ่านไม่ได้เลย เอสเทลจะติดใจคำว่า "อาวส์เลเซ่" นิด ๆ ว่ามันฟังดูคุ้น ๆ อยู่ค่ะ
◆ในกรณีที่พา "คลอเซ่" มาด้วย เธอจะบอกว่า "อาวส์เลเซ่" เป็นนามสกุลของเชื้อพระวงศ์แห่งลีเบร์ล คนที่ระบุเอาไว้นั้น น่าจะเป็นคนที่มีความเกี่ยวข้องบางอย่างกับลีเบร์ลก็เป็นได้ค่ะ
☆เก็บ "ดาต้าคริสตัล1", "ดาต้าคริสตัล2" และ "ดาต้าคริสตัล3" ที่กระจายอยู่บนชั้นนี้ให้ครบ และใกล้ ๆ แท่นวาร์ปจะมี "เสื้อยันต์แปดทิศ" ให้เก็บด้วยค่ะ☆
☆ไอเทมที่พบในชั้น 5 "EPชาร์จ II", "เซพิธ (ลมx300, เวลา+อากาศ+มายาx100)", "แถบฉนวน" และ "โคคุโยมารุ" ค่ะ☆
- เมื่อขึ้นไปถึงชั้นที่ 5 เตรียมตัวตรงจุดวาร์ปสุดท้าย (ที่มีจุดเพิ่มเลือดอยู่) ให้พร้อมค่ะ
- เมื่อเราวาร์ปขึ้นมาจะประหลาดใจอย่างมาก เพราะเรามาโผล่ที่ชั้นดาดฟ้าของ [หอคอยหยก] ในมิติปกติที่ถูกปกคลุมไปด้วยอาณาเขตสีดำค่ะ
- พบกับ "จอมโจรลึกลับบลูแบลง" ที่ยืนอยู่หน้าอุปกรณ์ปริศนา พร้อมทั้ง [กอสเปล] ที่ส่องแสงสีดำเรืองรองค่ะ
เอสเทล "มาอยู่ที่นี่อย่างที่คิดไว้เลยนะ...... เจ้าหน้ากากพิลึก"
จอมโจรบลูแบลง "เฮ่อ...... หยุดใช้คำพูดชั้นต่ำซักทีเถอะ เพราะฉันจะตอบสนองคำท้านั่นด้วยความงดงาม มาทำตัวไร้ซึ่งมารยาทแบบนั้นมันน่าหนักใจนะ"
เอสเทล "มะ ไม่ใช่เรื่องของนายซักหน่อยย่ะ!"
จอมโจรบลูแบลง "แล้วที่อยู่ข้าง ๆ นั่น...... ไม่ได้เจอกันนานเลยนะ [เขี้ยวดำขลับ] 『漆黒の牙』------ โยชัวร์ แอสเทรย์"
โยชัวร์ "......นั่นสินะ แต่ก็น่าสงสัยว่าทำไมคุณถึงมาให้ความร่วมมือกับแผนการของศาสตราจารย์นี่สิ......"
จอมโจรบลูแบลง "หึหึ นอกจากคนอื่นแล้ว ในกรณีของฉันมันก็รวมอยู่ในงานอดิเรกด้วยนี่นา ประเทศที่เรียกว่าลีเบร์ลเต็มไปด้วยสิ่งของที่งดงามอย่างน่าอัศจรรย์ ทั้งผู้คนทั้งที่ดิน แม้แต่อากาศก็ด้วย ฉันอยากจะตรวจดูให้แน่ใจว่าสิ่งของที่งดงามเหล่านั้นเป็นของจริงหรือไม่ แล้วยามที่สิ่งเหล่านั้นเผชิญหน้ากับความยุ่งยากลำบากแล้วจะกลายเป็นสิ่งที่เจิดจรัสชั้นยอดเลยนะ"
โยชัวร์ "อย่างนี่นี้เอง..... คุณกับศาสตราจารย์อาจจะคล้ายกันในตรงส่วนนั้นก็เป็นได้"
จอมโจรบลูแบลง "ฮ่าฮ่า สิ่งที่ชั้นแสวงหาคือความงดงาม แต่สำหรับศาสตราจารย์มันแตกต่างอย่างชัดเจน ซึ่งสิ่งนั้นเธอก็น่าจะรู้อยู่แก่ใจ"
โยชัวร์ "................................."
◆ในกรณีที่พา "คลอเซ่" มาด้วย จะมีบทสนาพิเศษกับบลูแบลงค่ะ
จอมโจรบลูแบลง "ทว่า ไม่คิดเลยว่าองค์หญิงจะมายังสถานแห่งนี้ด้วย...... หรือมีใจที่จะยินยอมรับความรักและเทิดทูนบูชาของฉันแล้วใช่ไม๊ล่ะ?"
คลอเซ่ "น่าเสียดาย...... ที่ดิฉันไม่ใช่คนที่จะตอบสนองต่อความคาดหวังของคุณได้ค่ะ หากดิฉันเป็นผู้ที่ล้ำเลิศจริง แล้วทำไมดิฉันถึงยังสับสนอยู่ล่ะคะ ในตอนที่จะคืน [อัลเซยู] ให้กับฝ่าบาท ดิฉันจำต้องหาคำตอบให้พบ ดิฉัน...... กลัวเวลานั้นที่จะมาถึงค่ะ"
เอสเทล "คลอเซ่......"
โยชัวร์ ".........................."
จอมโจรบลูแบลง "หึฮ่าฮ่า! ความหวาดกลัวนั่นแหล่ะ ที่เป็นสัญลักษณ์แห่งความล้ำเลิศสูงส่ง! เป็นความเจิดจรัสของปีกที่ฉันไม่อาจหยุดยั้งความหลงใหลที่มีต่อไส้เดือนกิ้งกือที่คลานไปมาบนพื้นได้!"
- บลูแบลงกวัดแกว่งคฑาของเขาเรียก "โอเวอร์มัพเพ็ต" ออกมา
โยชัวร์ "ตุ๊กตาสงครามเพิ่มความแข็งแกร่ง [บาลานซิ่งคราวน์]!"
จอมโจรบลูแบลง "เอ้า แสดงให้ดูหน่อยสิ ความเจิดจรัสที่ส่องประกายออกมา แม้จะเป็นผืนแผ่นดินที่เงาทอดลงมาก็ตามน่ะ!"
- จอมโจรบลูแบลง + บาลานซิ่งคราวน์ *2 -
- 『怪盗ブルブラン + バランシングクラウン*2』 -
**แนะนำ ให้ใส่เครื่องประดับที่ป้องกัน "สับสน", "ผนึกทักษะ" กับ "ผนึกมาร" เอาไว้ เพราะการต่อสู้ในครั้งนี้ ไม่อาจรับมือแบบซึ่ง ๆ หน้าได้ตามที่โยชัวร์บอกค่ะ**
**แนะนำ ให้ใช้คราฟท์ "ตะโกน" (STR+20%) ของเอสเทล**
**ในกรณีที่มีคลอเซ่ร่วมกลุ่ม แนะนำให้ใช้คราฟท์ "เคมฟาร์2" (STR-20% & DEF-30%) ใส่บลูแบลงและบาลานซิ่งคราวน์จะทำให้การต่อสู้ง่ายขึ้นค่ะ**
**บลูแบลงมีท่าต่าง ๆ ที่มีกลเม็ดเด็ดพรายซ่อนอยู่ และเขาสามารถแยกร่างเพื่อหลอกลวงเราได้ค่ะ**
**วิธีการดูร่างแยกของบลูแบลง ให้เอาเคอร์เซอร์ไปชี้ หากตัวไหนมี EXP=1 แสดงว่าเป็นร่างแยก เมื่อโจมตีร่างจริงร่างแยกจะหายไปค่ะ**
**ระวัง บลูแบลงสามารถเรียก "บาลานซิ่งคราวน์" ออกมาร่วมต่อสู้ได้ ซึ่งเจ้าตัวนี้จะใช้ท่า "มาริโอเน็ต" ที่โจมตีทำให้เราติด "ผนึกทักษะ", "ผนึกมาร" และ "สับสน" ได้และยังมีท่า "หลุมพราง" ที่โจมตีเราติด AT dalay ด้วยค่ะ**
ดูคราฟท์ต่าง ๆ ของ "บลูแบลง" ได้ตรงนี้ค่ะ
จอมโจรบลูแบลง "หืม...... ทำได้ดีกว่าที่คิดไว้ซะอีก ถ้าอย่างนั้นทางนี้จะเอาจริงล่ะ------"
- ฉับพลัน [กอสเปล] เกิดปฏิกริยาขึ้น อาณาเขตที่ครอบคลุมดาดฟ้าของหอคอยหยกแตกออกเผยให้เห็นถึงท้องฟ้าสีครามอันกว้างใหญ่ ถึงบลูแบลงจะตกตะลึงกับภาพที่เห็นแต่จริง ๆ แล้ว......
จอมโจรบลูแบลง "หืม ท่าทางหน้าที่ฉันคงจะจบลงเท่านี้แล้วนะ ......ช่วยไม่ได้ ถอยก่อนก็แล้วกัน"
- บลูแบลงยกคฑาของเขาขึ้น ม่านกุหลาบหมุนรอบตัวเขาหลังจากกล่าวลาก็หายตัวไป
- หลังจากที่บลูแบลงไปแล้ว พวกเราจะเข้าไปดู [กอสเปล] ค่ะ
โยชัวร์ "นี่คือ [β]...... รูปแบบสุดท้ายของกอสเปลที่ [องค์กร] สร้างขึ้นมาอย่างงั้นเหรอ ดูเหมือนขนาดจะใหญ่กว่ารูปแบบใหม่ที่มีมาจนถึงตอนนี้เลย"
เอสเทล "ดาดฟ้าของหอคอยกลับมาเป็นแบบเดิมก็ดีอยู่หรอก...... แต่ปัญหาก็คือเรื่องที่พวกนั้นใช้เจ้านี่ทำอะไรน่ะสิ"
- พวกเราจะคิดกันไปต่าง ๆ นานา แต่สุดท้ายโยชัวร์แนะนำว่าให้กลับไปปรึกษากับเพื่อน ๆ ที่ [อัลเซยู] ค่ะ
อัลเซยู 『アルセイユ』
- ที่ห้องวางแผนการ พวกเอสเทลจะเล่าเรื่องที่ได้เจอมาให้กับ "ดร. รัซเซล" และ "ร้อยเอกยูเลีย" ฟังค่ะ
(พวกเอสเทลได้มอบ [β] ที่ได้มาจากหอคอยให้กับ ดร. รัซเซลเรียบร้อยไปแล้วค่ะ)
- เอสเทลจะมอบ "ดาต้าคริสตัล" ที่ได้มาในหอคอยทั้งหมดให้กับ ดร. รัซเซลเช่นกัน
("ดร. รัซเซล" บอกว่า รูปแบบของดาต้าคริสตัลคล้ายกับ "ควอทซ์ (วงจรผลึก)" ดังนั้นน่าจะใช้กับพวกวัตถุดิบของหินเจ็ดจรัสได้ โดยหลังจากนี้เขาจะลองให้ [คาเปล] วิเคราะห์ออกมา แต่ต้องใช้เวลานิดนึงค่ะ)
- จากนั้น"ร้อยเอกยูเลีย" บอกว่ามีการติดต่อมาจากหน่วยสอดแนมที่ไปฏิบัติงานในพื้นที่ไซสส์แจ้งมาว่า คนที่โผล่มาที่ [หอคอยแดงชาด] คือชายสวมแว่นดำ ซึ่งชายคนนั้นก็คือ [หมาป่าผอม] วอลเตอร์ นั่นเอง ดังนั้นจินจึงขอให้เอสเทลและโยชัวร์พาเขาไปด้วยค่ะ
ถนนทุ่งหญ้าทรัต 『トラット平原道』
- กองทัพลีเบร์ลงางกำลังพลพร้อมเครื่องป้องกันบน "ถนนทุ่งหญ้าทรัต" และศัตรูที่พวกเขากำลังเผชิญหน้าอยู่นั้นก็คือฝูง "โอเวอร์มัพเพ็ต" ค่ะ
สาขาไซสส์ 『ツァイス支部』
คิริก้า "......อย่างนี้นี่เอง พอจะเข้าใจสถานการณ์ส่วนใหญ่แล้วล่ะ ดูเหมือนว่าทางนี้หน่วยรักษาความปลอดภัยของกองทัพก็เปิดฉากการต่อสู้ไปได้ซักพักแล้ว จากสถานการณ์ทั้งหมดในตอนนี้ การช่วยเหลือกิลด์ก็ไม่จำเป็นแล้วล่ะสิ"
- คิริก้าหยุดฟังสายปลายทางเล่าเรื่องราว
คิริก้า "......งั้นเหรอ จุดหมายต่อไปคือ [หอคอยแดงชาด] สินะ เข้าใจแล้ว..... จะภาวนาให้กับเทพแห่งสงครามนะ"
- หลังจากวางสายคิริก้าครุ่นคิดอะไรบางอย่าง
คิริก้า "......เป็นคนที่เก็บความรู้สึกไม่มิดเหมือนเดิมไม่เคยเปลี่ยนเลยนะ เอาล่ะ...... ถ้าลงเป็นแบบนี้แล้วล่ะก็คงจะยุ่งขึ้นน่าดูเลยสินะ"
อัลเซยู 『アルセイユ』
- เมื่อมาถึงเหนือน่านฟ้าของ [หอคอยแดงชาด] ที่สภาพโดยรอบเหมือนกับหอคอยหยกทุกอย่าง "จิน" จะกลับเข้ามาในห้องบังคับการหลังจากที่เขาขอตัวไปแจ้งสถานการณ์ให้คิริก้ารู้ค่ะ
☆เลือกเพื่อนเข้ากลุ่มต่อสู้ 1 คน (เอสเทล โยชัวร์ จิน เป็นตัวละครบังคับ)☆
- ลงไปที่ชั้นล่าง "ดร. รัซเซล" จะบอกว่าเขาได้พบเรื่องน่าสนใจใน "ดาต้าคริสตัล" ที่ได้มาจากพวกเอสเทลว่า "ดาต้าคริสตัล" มีวงจรผลึกมีลักษณะคล้ายกับควอทซ์ในสมัยนี้ แถมยังสามารถใช้ร่วมกับออร์บเมนท์ในยุคนี้ได้อีกด้วย แต่ตอนนี้สล็อตออร์บเมนท์ของเรายังไม่รองรับเพราะต้องอัฟเกรดสล็อตให้เป็น Lv3 ก่อนจึงจะใช้ได้ค่ะ
(จากตรงนี้พวกเราแทบจะไม่เชื่อหูเลยว่า ยังสามารถอัฟเกรดสล็อตออร์บเมนท์ได้อีก 1 ขั้นค่ะ)
- ดร. รัซเซลยังบอกอีกว่าถ้าหากเราพบ "ดาต้าคริสตัล" อีก ก็ให้นำมามอบให้เขาด้วยค่ะ
☆หากคุยกับ "ช่างซ่อมบำรุงเพตัน" ที่เคาน์เตอร์โรงงานอัลเซยู
เราจะสามารถอัฟเกรดสล็อตเป็น Lv3 ได้แล้วค่ะ
(เช่นเคยเมื่อมีการอัฟเกรดสล็อต จะยังผลให้ EP สูงสุดเพิ่มขึ้นด้วยค่ะ)☆
★หากคุยกับ "ดร. รัซเซล" เขาเพิ่งจะเซ็ตข้อมูลของ "ดาต้าคริสตัล" ลงใน [คาเปล] ค่ะ ตอนนี้ยังอ่านไม่ได้ก็จริง แต่ถ้าทิ้งเวลาให้ [คาเปล] ประมวลผลแบบอัตโนมัติไปซักระยะแล้วค่อยกลับมาใหม่จึงจะอ่านได้ค่ะ
หากคุยกับ "ดร. รัซเซล" อีกครั้ง จะทราบว่าในระหว่างที่ปล่อยให้ [คาเปล] ประมวลผลไปเขาจะทำการวิจัยในหัวข้อ [อุปกรณ์ที่ว่า] ค่ะ แต่ก็ไม่ยอมบอกอยู่ดีว่า [อุปกรณ์ที่ว่า] คืออะไรค่ะ
- เมื่อเตรียมตัวพร้อมแล้ว ให้ไปคุยกับ "เฟย์" ที่ห้องเครื่องเพื่อใช้ลิฟท์ลงไปด้านล่างค่ะ
หอคอยแดงชาด - มิติประหลาด 『紅蓮の塔・異空間』
☆ไอเทมที่พบในชั้น 1 "ยาแห่งอาเซราส", "ยาแห่งเทียร์รอล", "ยาแห่งปาล์ม", "EPชาร์จ I", "ยาแห่งลีเบ", "ยาแห่งเซราส" และ "เซพิธ (ไฟx300, เวลา+อากาศ+มายาx100)" ค่ะ☆
☆ไอเทมที่พบในชั้น 2 "EPชาร์จ II" และ "ยาแห่งคิวเรีย" ค่ะ☆
☆ไอเทมที่พบในชั้น 3 "ดาต้าคริสตัล4", "ดาต้าคริสตัล5", "ดาต้าคริสตัล7", "ดาต้าคริสตัล6", "ธนูหงส์แดง (ชูจาคุ)", "ยาแห่งเซราส", "กระดองเต่าดำ (เก็มบุ)" ค่ะ☆
☆ไอเทมที่พบในชั้น 2 "EPชาร์จ III", "แถบฉนวน", "ยาแห่งโซล" และ "แผ่นป้ายคุ้มภัยศิลาประกายแดงชาด" (สู้กับ ดูมS-C *3 + การ์ดโดมิเนี่ยนC *2 + โบรคเค่นพีสC *2) ค่ะ☆
☆ไอเทมที่พบในชั้น 3 "ยาแห่งคิวเรีย", "เซพิธ (ไฟx300, เวลา+อากาศ+มายาx100)", "ยาแห่งอาเซราส" และ "ยาแห่งเทียร์รอล" ค่ะ☆
☆ไอเทมที่พบในชั้น 5 (ใช้แท่นวาร์ปด้านทิศตะวันออกของชั้น 4) "ยาแห่งอาเซราส", "ยาแห่งเทียร์รอล" และ "บลูฟาลคอน" ค่ะ☆
☆ไอเทมที่พบในชั้น 5 (ใช้แท่นวาร์ปด้านทิศตะวันตกของชั้น 4) "เสื้อไท้เก๊ก" และ "EPชาร์จ II" ค่ะ☆
☆ไอเทมที่พบในชั้น 5 "เซรั่มพาวเดอร์", "EPชาร์จ II", "ลองบาเรล III" (สู้กับ ดูมS-C *3 + การ์ดโดมิเนี่ยนC *2 + โบรคเค่นพีสC *2), "ยาแห่งเทียร์รอล", "อัญมณีประกายคราม", "ยาแห่งเทียร์รอล", "หยินหยาง", "ยาแห่งเทียร์ ออล", "ยาแห่งเทียร์ ออล" และ "ตุ๊กตาเปลี่ยนแทน" ค่ะ☆
- เมื่อขึ้นไปถึงชั้นที่ 5 เตรียมตัวตรงจุดวาร์ปสุดท้าย (ที่มีจุดเพิ่มเลือดอยู่) ให้พร้อมค่ะ
- พบกับ "หมาป่าผอมวอลเตอร์" ที่ยืนอยู่หน้าอุปกรณ์ปริศนา พร้อมทั้ง [กอสเปล] ที่ส่งแสงสีดำเรืองรอง ซึ่งเขาคิดไว้อยู่แล้วว่า "จิน" ต้องมาที่นี่ค่ะ
หมาป่าผอมวอลเตอร์ "จิน...... ว่าแล้วว่าแกต้องมา แล้วก็ไอ้หนู [ดำขลับ] ไม่ได้เจอกันนานเลยนะ"
โยชัวร์ "......นั่นสินะ แต่ไม่ยักรู้เลยว่าคุณกับคุณจินจะเคยเป็นศิษย์ร่วมสำนักกันน่ะ"
หมาป่าผอมวอลเตอร์ "คึคึ ชั้นน่ะนอกจาก [สำนักไทโตะ] 『泰斗流』 แล้ว ก็ได้นำเอาวิชาของหลาย ๆ สำนักมาเป็นของตนเพื่อไว้ทำลายมนุษย์หรือพาไปสู่เขตแดนสุดท้ายยังไงล่ะ ที่แกไม่รู้สึกถึงก็ไม่แปลกหรอกเฟ้ย"
จิน "วอลเตอร์ นาย......"
หมาป่าผอมวอลเตอร์ "แล้วแกเป็นไงบ้างล่ะ...... จิน? ยังยึดมั่นถือมั่นกับสำนักคร่ำครึที่ชื่อ [สำนักไทโตะ] อยู่อีกงั้นหรือ?"
จิน "......ก็ชั้นมันไม่ได้ความนี่ เอาแต่ไล่ตามอาจารย์อย่างเต็มที่เลยไม่มีเวลาเหลือเฟือไปสนใจเรื่องอื่นหรอก"
หมาป่าผอมวอลเตอร์ "ชิ...... เป็นคนที่น่าเบื่อซะจริง ช่างมันเถอะ เพราะตั้งแต่เมื่อกี๊ยังไงมันก็น่าเบื่อจริง ๆ นั่นแหล่ะ แล้วไม่ได้ตั้งใจจะมาสู้ตายแถวนี้หรือไงกัน"
- วอลเตอร์ดีดนิ้วเรียก "สตีลคูเกอร์" สัตว์ปิศาจสวมเกราะขององค์กรออกมา
หมาป่าผอมวอลเตอร์ "จิน...... ขอดูหน่อยสิ กังฟูที่แกขัดเกลามาในช่วง 6 ปีมานี่น่ะ!"
จิน "......ชั้นก็หวังไว้อย่างนั้นอยู่แล้ว!"
- หมาป่าผอมวอลเตอร์ + สตีลคูเกอร์ *3 -
- 『痩せ狼ヴァルター + スティールクーガー*3』 -
**แนะนำให้ใส่เครื่องประดับป้องกัน "หมดสติ" เอาไว้ก่อนเลยค่ะ เพราะวอลเตอร์มี S-craft "อัลติเมทโบลว์" ที่โจมตีเราแล้วติด "หมดสติ" นะคะ แถมสตีลคูเกอร์ก็โจมตีเราติด "หมดสติ" เช่นเดียวกันค่ะ**
**แนะนำให้ใช้ "คลอกดาวน์" ใส่วอลเตอร์จะง่ายขึ้นค่ะ**
**ถ้าจะให้ดีควรเพิ่มพลังโจมตีของฝ่ายเราด้วย จะใช้ Craft "ตะโกน" (STR+20%) ของเอสเทล หรือจะใช้อาร์ทสนับสนุนก็ได้ค่ะ เพราะวอลเตอร์สามารถใช้ Craft "เลเซอร์ แบแร็ต" โจมตีเราติด STR down ได้ค่ะ**
**ในกรณีที่มีคลอเซ่ร่วมกลุ่ม แนะนำให้ใช้คราฟท์ "เคมฟาร์" (STR-20% & DEF-30%) ใส่ศัตรูจะง่ายขึ้นค่ะ**
ดูคราฟท์ต่าง ๆ ของ "วอลเตอร์" ตรงนี้ค่ะ
- ปราบได้พวกเราจะรู้สึกว่าฝีมือของวอลเตอร์ช่างเก่งกาจเสียจริง
หมาป่าผอมวอลเตอร์ "......ดูท่าที่ขัดเกลามาไม่ได้มีแต่กังฟูอย่างเดียวนะ แต่การเคลื่อนไหวยังทื่อเกินไปหน่อยนะเฟ้ย เพราะมัวไปยึดมั่นถือมั่นกับ [สำนักไทโตะ] คร่ำครึตกรุ่นอะไรนั่นน่ะ"
จิน "หึหึ......
หมาป่าผอมวอลเตอร์ "......ขำอะไร?"
จิน "นายเป็นอัจฉริยะจริง ๆ นั่นแหล่ะ แต่ก็ไม่ได้เข้าใจเรื่องที่สำคัญเลย อาจารย์เองก็คงจะผิดหวังอย่างไม่ต้องสงสัยเลยล่ะ"
หมาป่าผอมวอลเตอร์ "โฮ่...... แกคิดจะมาอบรมสั่งสอนชั้นแทนไอ้แก่นั่นงั้นเหรอ?"
จิน "เรื่องเกินกำลังแบบนั้นไม่ได้มีอยู่ในหัวซักหน่อย แต่พอได้ลองแลกหมัดกันถึงได้เข้าใจอะไรบางอย่างว่า ชั้นในตอนนี้จะเอาชนะนายคงจะยาก...... แต่ในทำนองเดียวกันก็ไม่แพ้ด้วย หมัดของนายล้มชั้นไม่ได้หรอก"
หมาป่าผอมวอลเตอร์ "......................... คึคึ...... น่าสนุกดีนี่ ไม่คิดว่าจะได้ยินคำพูดแบบนั้นออกมาจากปากของแกได้เลย ว่าจะค่อย ๆ ฆ่าเวลาซักหน่อย แต่ตอนนี้เปลี่ยนใจแล้ว"
- วอลเตอร์ตั้งท่ารีดเร้นคลื่นพลังสีแดงเพลิงออกมารอบกายเขา
หมาป่าผอมวอลเตอร์ "ตั้งท่าซะ จิน...... ชั้นจะทำให้รู้ซึ้งว่าสิ่งที่เรียกว่าความแตกต่างน่ะเป็นยังไง......"
- จินตอบรับด้วยการรีดเร้นพลังแบบเดียวกันกับวอลเตอร์ ทั้ง 2 คนเข้าแลกหมัดด้วยท่วงท่าคล่องแคล่วว่องไวแต่แฝงไว้ซึ่งพลังอันหนักหน่วง พวกเอสเทลได้แต่ยืนดูไม่อาจเข้าไปแทรกพวกเขาได้เลย
หมาป่าผอมวอลเตอร์ "คึคึ...... ไม่ใช่แค่พูดจาวางก้าม แต่ทนมือใช้ได้เลยนี่หว่า......"
จิน "นายต่างหาก...... ทั้ง ๆ ที่มีพรสวรรค์ที่ฟ้าประทานมาให้แบบนั้น แล้วทำไมถึงลากตัวเองเข้าไปสู่ความมืดมิดแห่งวิทยายุทธ์ได้ล่ะ! แค่ทุ่มเทไปที่อาจารย์ก็น่าจะไปถึงจุดสูงสุดของวิถีทางแห่งความถูกต้องได้อยู่แล้ว!"
หมาป่าผอมวอลเตอร์ "หึ แกพูดมาแบบนั้น แสดงว่าแกไม่รู้สาเหตุที่ไอ้แก่นั่นตายสินะ"
จิน "!......วะ......!?"
หมาป่าผอมวอลเตอร์ "คึคึ สีหน้าเปลี่ยนไปเลยนะ ถ้าเผื่อว่าแกชนะล่ะก็ชั้นจะบอกเรื่องนั้นให้ฟัง สิ่งเดิมพันเอาเป็นชีวิตของนายเป็นไง"
- วอลเตอร์รีดเร้นพลังขึ้นอีกครั้ง
จิน "......ก็ได้ ชั้นขอเดิมพันด้วยชีวิตนี้"
- จินตั้งท่ารีดเร้นพลังเตรียมรับมือกับวอลเตอร์ด้วยสีหน้าที่เอาจริง แม้พวกเอสเทลจะรู้สึกเป็นห่วงจินแต่ก็ไม่อาจเข้าไปหยุดเขาทั้ง 2 คนได้
- จินและวอลเตอร์ทุ่มพลังเข้าใส่กัน แต่ในจังหวะนั้นเองมีอะไรบางอย่างลอยเข้ามาขัดขวางการเข้าโจมตีใส่กันของพวกเขาทั้ง 2 เสียก่อน
หมาป่าผอมวอลเตอร์ "อะไร......!"
จิน "จักรจันทร์เสี้ยว 『偃月輪(えんげつりん)』 ...... หรือว่าจะเป็น!"
- ณ เบื้องหน้าของพวกเอสเทล จินและวอลเตอร์นั้น ปรากฏร่างหญิงสาวผมสีดำยาวสลวยในชุดตะวันออก
เอสเทล "คะ คุณคิริก้า!?"
โยชัวร์ "ทำไมถึงมาอยู่ที่นี่ได้......"
คิริก้า "......เพราะศึกป้องกันเมืองไซสส์จบลงไปได้ ฉันก็แค่วานให้หว่องช่วยทำงานประชาสัมพันธ์แล้วก็มาดูสถานการณ์ที่นี่สักหน่อย"
- พวกเราได้แต่ตะลึงงันและแทบไม่เชื่อสายตาเลยว่าคิริก้าสามารถผ่าน [หอคอยเบื้องหลัง] มาได้ด้วยตัวคนเดียว (อะไรจะเก่งกาจปานนั้น)
- คิริก้าเก็บอาวุธของเธอลง แล้วเดินเข้าไปใกล้ ๆ จินกับวอลเตอร์ เธอมองไปยังวอลเตอร์
จิน "คิริก้า เธอ......"
หมาป่าผอมวอลเตอร์ "คึคึ...... ไม่เปลี่ยนไปเลยนะ มาดูสถานการณ์แล้วก็ถือโอกาสมาล้างแค้นให้ไอ้แก่ด้วยใช่ไม๊?"
คิริก้า "โง่น่า...... ตัดสินแพ้ชนะไปแล้วไม่ใช่เหรอ ทำไมฉันต้องไปทำลายการตัดสินใจของพ่อด้วยล่ะ?"
หมาป่าผอมวอลเตอร์ ".........................."
จิน "คิริก้า......"
คิริก้า "ฉันมาที่นี่ ก็เพราะมีคำพูดที่ต้องบอกใครบางคนที่หายตัวไปเมื่อ 6 ปีก่อน มันก็เท่านั้นเอง"
หมาป่าผอมวอลเตอร์ "คำพูดที่ต้องบอก...... งั้นเหรอ?"
คิริก้า "ใช่...... ......นี่ วอลเตอร์ ทำไมถึงไม่เคยมองฉันที่เป็นฉันล่ะ......?"
หมาป่าผอมวอลเตอร์ "!!!"
คิริก้า "พ่อพูดอะไรกับคุณไปหรือไม่ รายละเอียดฉันไม่รู้ แต่นั่นไม่น่าจะเกี่ยวข้องอะไรกับความสัมพันธ์ของพวกเรานะ อย่างน้อยก็ไม่ใช่จินน่ะ"
จิน "!?"
หมาป่าผอมวอลเตอร์ "........................."
คิริก้า "......ว่าแล้วต้องเป็นอย่างที่คิดเอาไว้จริง ๆ วอลเตอร์...... เจ้าคนโง่ คิดว่าพ่อเป็นคนที่คิดถึงแม้แต่เรื่องแบบนั้นงั้นเหรอ?"
หมาป่าผอมวอลเตอร์ "ไอ้แก่ไม่เกี่ยว...... มันเป็นปัญหาของลักษณะพิเศษของตัวชั้นเองต่างหาก"
จิน "ดะ เดี๋ยวก่อน...... วอลเตอร์! อาจารย์พูดอะไรกับนาย!? แล้วมันมีอะไรเกี่ยวข้องกับชั้น!?"
หมาป่าผอมวอลเตอร์ "หนวกหูเฟ้ย...... ไม่เกี่ยวอะไรกับแกซักหน่อย"
คิริก้า "ใช่ ไม่เกี่ยวกับจิน แต่ว่า...... ที่ต้องพูดกับฉันน่าจะมี อย่างเรื่องที่หายไปโดยไม่พูดไม่จา แล้วก็ไม่ใช่ไม่รวมกับการไม่รับผิดชอบด้วย"
หมาป่าผอมวอลเตอร์ "..........................."
คิริก้า "ฉันน่ะ...... ไม่รู้สึกอาลัยอาวรณ์กับคนที่ไม่ได้มองฉันที่เป็นฉันหรอกนะ จะหายตัวไปที่ไหนก็ไป ถ้าอยากจะตกต่ำลงก็ตกต่ำไป ฉันก็จะขอรับมือในฐานะที่เป็นคนของกิลด์จนถึงที่สุด"
หมาป่าผอมวอลเตอร์ "......คึคึ...... ก๊าก ฮ่ะฮ่ะฮ่ะ!"
- วอลเตอร์หัวเราะดังลั่นราวกับคนบ้า แต่ฉับพลันนั้น [กอสเปล] ก็หยุดการทำงานลง อาณาเขตสีดำแตกออก สภาพแวดล้อมรอบ ๆ กลับมาเป็นปกติ
หมาป่าผอมวอลเตอร์ "คึคึ...... หน้าที่คราวนี้จบแล้วเหรอเนี่ย ......คิริก้า ชั้นดีใจที่ได้เจอเธอเป็นครั้งสุดท้าย"
คิริก้า "แต่ฉันดีใจครึ่งนึง เศร้าใจครึ่งนึงนะ"
- คิริก้าบอกความรู้สึกของเธอด้วยใบหน้าที่เศร้าสร้อยเพียงชั่วครู่ แล้วก็เปลี่ยนเป็นใบหน้าที่สงบเช่นเคย
คิริก้า "คงจะไม่ได้พบกันอีกแล้ว"
หมาป่าผอมวอลเตอร์ "ใช่...... ที่เหลือมันเป็นปัญหาของชั้นกับเจ้านี่ แต่ในเวลายังงี้เธอก็ไม่คิดจะทำตัวให้น่ารักอ่อนโยนบ้างหรือไง? คิดจะทำตัวเข้มงวดจนถึงท้ายที่สุดอย่างงั้นน่ะนะ"
คิริก้า "หึหึ...... แต่ก็เคยชื่นชมฉันที่ตรงนั้นไม่ใช่เหรอ?"
หมาป่าผอมวอลเตอร์ "คึคึ...... ถูกต้อง"
- วอลเตอร์กระโดดไปยังริมรั้วบนยอดหอคอย จินรีบวิ่งตามวอลเตอร์ไป
หมาป่าผอมวอลเตอร์ "......จิน ทำไมชั้นถึงต้องตัดสินชี้เป็นชี้ตายกับไอ้แก่...... ถ้าอยากรู้ล่ะก็ลองล้มชั้นให้ดูสิ ด้วย [เพลงหมัดรักษ์ชีวี] 『活人拳』 ที่ไอ้แก่ทิ้งไว้ให้แกน่ะ"
- พูดจบวอลเตอร์ก็กระโดดลงไปจากหอคอยที่สูงถึง 5 ชั้นโดยไมีมีทีท่าลังเลใจแม้แต่น้อย
(จากข้อมูลของโยชัวร์ ไม่ใช่ว่า [ผู้ดำเนินแผนการ] จะกระโดดลงไปบนความสูงระดับนี้ได้อย่างปลอดภัยทุกคน แต่เพราะวอลเตอร์เป็นยอดฝีมือ ดังนั้นความสูงระดับนี้เขาก็สามารถรอดไปได้สบาย ๆ ค่ะ)
คิริก้า "จริง ๆ เลยเชียว...... คนที่เอะอะโวยวายโดยไม่มีเหตุผลขนาดนี้ก็มีด้วยนะ"
- คิริก้าเดินเข้ามาหาพวกเอสเทล
จิน "คิริก้า...... ทำไมวอลเตอร์ถึงมาที่นี่รู้ไม๊?"
คิริก้า "คิดว่าฉันไม่รู้เหรอไง? จริง ๆ เลยเชียว...... ไม่ว่าจะคุณไม่ว่าจะวอลเตอร์ ผู้ชายเนี่ยทำไมถึงพูดไม่เก่งกันได้ถึงขนาดนี้นะ"
จิน "อุก......"
- เอสเทลหันไปทำตาเขม่นใส่โยชัวร์ทันที ทำเอาโยชัวร์อดพูดไม่ได้ว่า "......สำนึกผิดแล้ว ไม่ต้องมองด้วยสายตาแบบนั้นก็ได้"
(โยชัวร์น่ารักขนาดนี้ นางเอกของเรายังไปเหน็บแนมด้วยสายตาซะนี่ ไม่สงสารกันบ้างเลยแฮะ)
คิริก้า "เอาล่ะ ธุระส่วนตัวก็เสร้จแล้ว ได้เวลาที่ฉันต้องกลับไปที่ไซสส์แล้วล่ะ ......จะภาวนาต่อเทพเจ้าแห่งสงครามให้ หอคอยต่อ ๆ ไประวังตัวด้วยล่ะ"
เอสเทล "คุณคิริก้า......"
จิน "อา...... รู้แล้ว"
อัลเซยู 『アルセイユ』
- "ดร. รัซเซล" และ "ร้อยเอกยูเลีย" ประหลาดกับเรื่องที่พวกเราเล่าว่าคิริก้าบุกขึ้นหอคอยไปคนเดียวมาก โดยเฉพาะยูเลียจะรู้สึกชื่นชมเพราะได้ยินกิตติศัพท์ความเก่งกาจของท่านคิริก้าแห่งสาขาไซสส์มานานแล้ว ยูเลียจึงรู้สึกอยากพบตัวจริงบ้างสักครั้งค่ะ
(เอสเทลกับโยชัวร์เห็นพ้องต้องกันว่า ทั้งคิริก้าทั้งยูเลียต้องเป็นคู่ปรับด้านความเก่งกาจแบบหาใครเปรียบได้ยากที่สูสีกันอย่างแน่นอนค่ะ)
- จากนั้น "ร้อยเอกยูเลีย" จะบอกหอคอยเป้าหมายต่อไปก็คือ [หอคอยฟ้าคราม] ที่มีผู้หญิงชุดดำที่ทำให้เกิดเสียงกระพรวนค่ะ
โยชัวร์ "[กระพรวนเสน่ห์] ลูชิโอล่า...... ถ้าจำไม่ผิดเป็นคนรู้จักของคุณเชร่ามาก่อนสินะครับ?"
เชราซาร์ด "อืม เพื่อนเก่าน่ะ ดูเหมือนว่าต่อไปเป็นตาของชั้นสินะ"
เอสเทล "เจ๊เชร่า......"
เชราซาร์ด "อย่าทำหน้าแบบนั้นสิ คุณพี่ก็คือคุณพี่ ชั้นก็คือชั้น มันก็แค่ทำหน้าที่ให้ลุล่วงในฐานะที่เป็นเบรเซอร์จนถึงที่สุดเท่านั้นเอง"
ถนนเลียบทะเลเมเว 『メーヴェ海道』
- เหล่าทหารราชอาณาจักรคุ้มครอง "ผอ. เทเรซ่า" และเด็ก ๆ ของสถานเลี้ยงเด็กกำพร้ามาเชียจาก "สตีลคูเกอร์" ที่ไล่ตามพวกเขามาหมายจะทำร้ายอย่างไม่หยุดหย่อน
- ในช่วงที่เข้าสู่สถานการณ์ที่ย่ำแย่นั่นเอง กระสุนปืนก็ยิงสะกัดสตีลคูเกอร์และปรากฏร่างของเหล่าเบรเซอร์ที่ดูคุ้นตา การโจมตีประสานของพวกเขาสามารถทำลายตุ๊กตาสงครามได้อย่างง่ายดาย
กรัซ "เหะเหะ ขอโทษที่ให้รอนะ"
อาเนราส "ไม่เป็นไรนะ? ไม่บาดเจ็บใช่ไม๊เอ่ย?"
ดาเนียล "อะ อืม......"
โปลี่ "ไม่เป็นไรล่า"
- "หึหึ...... โชคดีที่มาทัน" เสียงผู้หญิงที่พูดห้าว ๆ แบบผู้ชายดังขึ้นจากอีกด้าน "คารูน่า" เบรเซอร์ประจำสาขารูอันเดินเข้ามาสมทบกับพวก
- จากนั้น "คูลซ์" จะให้พวกทหารพาพวกมาเชียไปหลบภัยที่มาโนเลียตามกำหนดการเดิม โดยที่พวกเขาจะรับมือทางนี้เองค่ะ
- หลังจากที่พวกทหารพาพวกมาเชียไปแล้ว เหล่าสตีลคูเกอร์ก็ปรากฏตัวเพิ่มขึ้นอีกเท่าตัว
กรัซ "อาาวล่ะ ท่าทางจะหินใช้ได้เลยนะ"
คารูน่า "แต่มัน...... มีแต่ต้องสู้อย่างเดียวนี่"
อาเนราส "ไม่เป็นไร ยังไงก็จะสู้ค่ะ! เพราะถ้าให้เทียบกับพวกเอสเทลจังที่ต้องไปที่ [หอคอย] แค่นี้ยังจิ๊บจ๋อยค่ะ!"
คูลซ์ "หึหึ นั่นสินะ เรามาทำให้ดีที่สุด เพื่อให้พวกเขาต่อสู้อย่างสบายใจเถอะ"
- คูลซ์ใช้ "จิตยุทธ์ เหล็กกล้า" สนับสนุนพรรคพวก จากนั้นเหล่าเบรเซอร์รุ่นพี่ที่พึ่งพาได้ทั้งหลาย ก็พร้อมใจกันเข้าต่อสู้กับศัตรูอย่างไม่ลดละค่ะ
อัลเซยู 『アルセイユ』
☆เลือกเพื่อนเข้ากลุ่มต่อสู้ 1 คน (เอสเทล โยชัวร์ เจ๊เชร่า เป็นตัวละครบังคับ)☆
★คุยกับ "คลอเซ่" ที่ห้องบังคับการ เธอจะบอกว่าหน่วยรักษาความปลอดภัยที่มาโนเลียติดต่อเข้ามาว่าผอ. เทเรซ่ากับพวกเด็ก ๆ ไปถึงที่นั่นโดยสวัสดิภาพแล้วค่ะ
☆ไปที่ดาดฟ้าเรือส่วนท้าย จะพบกับน้องเหมียว "อันโตวานู" ค่ะ ในกรณีที่มี "คลอเซ่" อยู่ในกลุ่มจะได้รับ "แจ็คนักเสี่ยงโชค เล่ม 10" ด้วยนะคะ
(ถ้าไม่มีคลอเซ่ร่วมทีมมาด้วย เอสเทลจะพูดลอย ๆ ขึ้นมาว่า "มีใครเข้าใจคำพูดของสัตว์บ้างไม๊นะ?" จากคำพูดนี้ สงสัยว่าคลอเซ่จะมีความสามารถในการพูดคุยกับพวกสัตว์นะเนี่ย)

★คุยกับ "ทีต้า" ที่ห้องทดลอง เธอจะบอกว่าตอนนี้คุณตาของเธอกำลังค้นคว้าเรื่องอาณาเขตอยู่ แต่ก็ยังไม่เข้าใจหลักการของอาณาเขตที่องค์กรสร้างขึ้นมาเลยค่ะ โยชัวร์เห็นว่าอาณาเขตที่องค์กรสร้างขึ้นมานั้น ต้องมีอะไรเกี่ยวข้องกับเป้าหมายของผู้ดำเนินแผนการแน่นอน
☆คุยกับ "ดร. รัซเซล" เราจะมอบ "ดาต้าคริสตัล" ให้ดร. นำไปเซ็ตลงในคาเปลเพื่อให้ทำการประมวลผลและแกะข้อความออกมาค่ะ☆
★คุยกับ "หลวงพ่อเควิน" ที่ห้องพยาบาล เขาจะรู้สึกทึ่งที่มีผู้หญิงที่ขึ้นไปที่หอคอยเบื้องหลังได้เพียงตัวคนเดียว ถึงกับบอกว่า "ถ้าอย่างนั้นผู้ชายอย่างเรา ๆ ก็ต้องตื่นตัวให้มากกว่านี้ซะแล้วสิน๊า ......เนอะ โยชัวร์คุง" โยชัวร์ตอบ "......ทะ ทำไมมาถามผมล่ะ?"
(ตกลงว่าตอนนี้โยชัวร์กลายเป็นเป้าหมายให้ทุกคนเหน็บแนมใช่ไม๊เนี่ย น่าสงสารจริง ๆ)
- เมื่อเตรียมตัวพร้อมแล้ว ก็ไปคุยกับ "เฟย์" ที่ห้องเครื่องเพื่อลงลิฟท์ไปที่หอคอยได้เลยค่ะ
หอคอยฟ้าคราม - มิติประหลาด 『紺碧の塔・異空間』
☆ไอเทมที่พบในชั้น 2 "ยาแห่งเทียร์รอล", "ยาแห่งอาเซราส", "ยาแห่งลีเบ", "EPชาร์จ I", "แถบฉนวน" และ "เซพิธ (น้ำx300, เวลา+อากาศ+มายาx100)" ค่ะ☆
- ในชั้นที่ 2 นี้ เมื่อเดินไปที่แท่นที่เป็นที่เก็บดาต้าคริสตัล จะได้ยินเสียงกระพรวนดังขึ้น และเกิดการต่อสู้กับ (กันดอลล์B) ค่ะ
- ปราบได้ให้เดินเข้าไปเก็บ "ดาต้าคริสตัล8" ได้เลยค่ะ
☆ไอเทมที่พบในชั้น 3 "อเวงเจอร์" (สู้กับ ดูมD-B x2 + การ์ดโดมิเนี่ยนB x2 + โบรคเค่นพีสB x2), "EPชาร์จ II", "ยาแห่งคิวเรีย", "เซพิธ (น้ำx300, เวลา+อากาศ+มายาx100)" และ "ยาแห่งอาเซราส" ค่ะ☆
- ในชั้นที่ 3 นี้ เมื่อเดินไปที่แท่นที่เป็นที่เก็บดาต้าคริสตัล จะได้ยินเสียงกระพรวนดังขึ้นเหมือนกับที่เจอในชั้นที่ 2 และเกิดการต่อสู้กับ (กันดอลล์B + ดูมM-B x2) ค่ะ
- ปราบได้ให้เดินเข้าไปเก็บ "ดาต้าคริสตัล9" ได้เลยค่ะ
☆ไอเทมที่พบในชั้น 4 "แส้เขี้ยวมังกร", "ยาแห่งเซราส", "เสื้อยันต์แปดทิศ" (สู้กับ ดูมD-B x2 + การ์ดโดมิเนี่ยนB x2 + โบรคเค่นพีสB x2) และ "ยาแห่งเทียร์รอล" ค่ะ☆
- ในชั้นที่ 4 นี้ก็เช่นกัน เมื่อเดินไปที่แท่นที่เป็นที่เก็บดาต้าคริสตัล จะได้ยินเสียงกระพรวนดังขึ้นเหมือนกับที่เจอในชั้นก่อน ๆ และเกิดการต่อสู้กับ (กันดอลล์B + ดูมM-B x2) ค่ะ
- ปราบได้ให้เดินเข้าไปเก็บ "ดาต้าคริสตัล10" ได้เลยค่ะ
☆ไอเทมที่พบในชั้น 5 "อัญมณีประกายแดงชาด", "ดาต้าคริสตัล11", "ยาแห่งเซราส", "แผ่นป้ายคุ้มภัยศิลาประกายคราม", "EPชาร์จ III", "ยาแห่งโซล", "เรจีน่าการ์ดเดอร์" และ "ยาแห่งเทียร์ ออล" ค่ะ☆
- เมื่อขึ้นไปถึงชั้นที่ 5 เตรียมตัวตรงจุดวาร์ปสุดท้าย (ที่มีจุดเพิ่มเลือดอยู่) ให้พร้อม นอกจากนั้นทางด้านหลังจุดวาร์ปจะมี "มาสเตอร์บีนส์" (เครื่องประดับป้องกัน "นอนหลับ" และ "สับสน") ด้วย อย่าลืมเก็บมาด้วยนะคะ
- เมื่อขึ้นไปบนชั้นดาดฟ้าจะพบ "กระพรวนเสน่ห์ลูชิโอล่า" ที่กำลังรอการมาของพวกเราอยู่ค่ะ
กระพรวนเสน่ห์ลูชิโอล่า "ยินดีต้อนรับ เชราซาร์ด แล้วก็โยชัวร์...... ไม่ได้เจอกันซะนาน ดีใจที่ได้เจอกันอีกนะจ๊ะ"
โยชัวร์ "ลูชิโอล่า...... ทำไมคุณถึงให้ความร่วมมือกับศาสตราจารย์ล่ะ? ทั้ง ๆ ที่เคยนึกว่าคุณไม่ได้สนิทสนมกับศาสตราจารย์ขนาดนั้นนี่นา......"
กระพรวนเสน่ห์ลูชิโอล่า "สำหรับฉันแล้ว ที่นี่ก็เป็นผืนแผ่นดินที่คิดถึงที่เคยมาเยี่ยมเยือนเปิดการแสดงน่ะสิ...... ก็เลยเผลอให้ความสนใจมากไปล่ะมั๊งจ๊ะ"
เอสเทล "ทะ ทั้ง ๆ ที่บอกว่าเป็นสถานที่ที่คิดถึง แล้วทำไมถึงทำเรื่องแบบนี้อยู่!? โดยไม่นึกถึงความรู้สึกของเจ๊เชร่าเลยล่ะ......!"
เชราซาร์ด "เอสเทล...... ช่างเถอะ ถ้าเอ่ยปากถามไปเฉย ๆ คุณพี่ก็ไม่ตอบอะไรมาหรอก ตราบใดที่ชั้นยังไม่พิสูจน์ให้เห็นถึงพลังที่แท้จริงที่คู่ควรกับคำตอบน่ะ"
กระพรวนเสน่ห์ลูชิโอล่า "หึหึหึ...... ดูเหมือนจะเข้าใจฉันมากที่เดียวเชียวนะ"
เชราซาร์ด "ก็ตอนที่สอนเทคนิคการแสดงให้ ก็เป็นแบบนี้ทุกครั้ง...... เพราะงั้นคุณพี่...... สัญญาสิ ว่าถ้าฉันสามารถพิสูจน์พลังให้เห็นได้ ต้องบอกเหตุผลที่ร่วมมือกับ [องค์กร] น่ะ......!"
กระพรวนเสน่ห์ลูชิโอล่า "หึหึ...... ก็ได้"
- ลูชิโอล่าเรียก "ภูตรับใช้" ของเธอออกมา
โยชัวร์ "เซ็นคิ 『善鬼』 กับโกะคิ 『護鬼』 ------ เหล่าภูตรับใช้ผู้คุ้มกฏหยินหยาง!"
กระพรวนเสน่ห์ลูชิโอล่า "เป็นภูตที่ฉันได้ปรับแต่งวิชาสัญลักษณ์แห่งดินแดนตะวันออกใหม่ในแบบของฉันน่ะ เชราซาร์ด แสดงให้ดูหน่อยสิ พลังที่เธอได้รับมาจากผืนแผ่นดินนี้หลังจากที่แยกจากฉันไปแล้วน่ะ"
เชราซาร์ด "......เข้าใจแล้ว จะให้ดูพลังของ [ประกายเงิน] 『銀閃』 ให้เต็มที่ไปเลยย่ะ!"
- กระพรวนเสน่ห์ลูชิโอล่า + แซ็คคูม + จูบอคโค + อัลลาวเน่ *2 -
- 『幻惑のルシオラー + ザックーム + ジュポッコ + アルラウネ*2』 -
**แนะนำให้ใส่เครื่องประดับป้องกัน "นอนหลับ" กับ "สับสน" เตรียมไว้จะง่ายขึ้นค่ะ**
**แนะนำให้ใช้ "คล็อกดาวน์" ใส่ศัตรูจะง่ายขึ้นค่ะ**
**ระวัง "แซคคูม" ดูดซับการโจมตีด้วยอาร์ท ต้องใช้การโจมตีกายภาพปราบ ในทางกลับกัน "จูบอคโค" จะดูดซับการโจมตีกายภาพ ต้องใช้การโจมตีด้วยอาร์ทเท่านั้นค่ะ**
**นอกจากนั้น เรามักจะโจมตี "อัลลาวเน่" ไม่ค่อยโดนนะคะ แนะนำให้ใช้อาร์ทโจมตีใส่ตัวนี้จะดีกว่า**
**การต่อสู้ครั้งนี้ แนะนำให้ใช้อาร์ทกินอาณาเขตปราบไปก่อน (ถ้าเป็นคุณสมบัติ "ดิน" อย่าง "ไททานิค รอร์" (ทั่วฉาก) ได้ยิ่งดีค่ะ) แล้วค่อยรุมโจมตี "แซคคูม" กับ "ลูชิโอล่า" ทีหลังจะง่ายขึ้นค่ะ**
**หรืออีกวิธีก็คือใช้ S-Craft ของเพื่อน ๆ เปิดการโจมตีแบบสายฟ้าแลบ จากนั้นเมื่อเหลือ "จูบอคโค" ตัวเดียว ก็ให้ใช้อาร์ทคุณสมบัติดินปราบได้เลยค่ะ**
ดูคราฟท์ต่าง ๆ ของ "ลูชิโอล่า" ตรงนี้ค่ะ
- ปราบได้ ลูชิโอล่าจะรู้สึกประหลาดใจที่เราสามารถล้มภูตรับใช้ของเธอได้
กระพรวนเสน่ห์ลูชิโอล่า "อุ๊ย ปราบภูติรับใช้ของฉันได้ด้วยหรือนี่...... หรือเพราะได้รับการชี้แนะจาก [ปราชญ์ดาบ] 『剣聖』 หรือเปล่าจ๊ะ?"
เอสเทล "ฮ้าฮ้า......"
เชราซาร์ด "คุณพี่...... ทำไม!?"
กระพรวนเสน่ห์ลูชิโอล่า "หึหึ...... งั้นจะบอกให้เป็นรางวัลสำหรับความพยายามนะ ที่ฉันเข้าร่วมกับ [องค์กร]...... ก็เพราะอยากจะดูความมืดมิดของตนเองในแน่ใจน่ะ"
เชราซาร์ด "เอ๊ะ......"
กระพรวนเสน่ห์ลูชิโอล่า "8 ปีก่อน...... ที่หัวหน้าคณะหล่นลงจากหน้าผาแล้วตายไป จำได้สินะ?"
เชราซาร์ด "มะ มันแน่นอนอยู่แล้ว เพราะอุบัติเหตุในคราวนั้น คณะฮาร์เวย์ของพวกเราถึง......"
กระพรวนเสน่ห์ลูชิโอล่า "ใช่...... คณะละครปิดตัวแล้วแตกกระสานซ่านเซ็นไป แต่ทำไม หัวหน้าคณะถึงได้ไปอยู่ในที่ ๆ ไม่มีผู้คนแบบนั้นคนเดียว สุดท้ายแล้วก็ไม่มีใครรู้...... คิดว่าเป็นเพราะอะไรล่ะ?"
เชราซาร์ด "ละ แล้วเพราะอะไร......"
กระพรวนเสน่ห์ลูชิโอล่า "คำตอบนั้นง่ายนิดเดียว...... เพราะตอนนั้น หัวหน้าคณะไม่ได้อยู่ใกล้ ๆ หน้าผาคนเดียวน่ะสิ --------- ฉันอยู่ข้าง ๆ หัวหน้าคณะ...... แล้วก็ผลักคนคนนั้นให้ตกลงไปยังไงล่ะ"
- เชราซาร์ดถึงกับพูดไม่ออก เธอไม่คิดเลยว่าเบื้องหลังการตายของหัวหน้าคณะที่ทุกคนให้ความเคารพนับถือนั้น จะเป็นฝีมือของบุคคลซึ่งเปรียบเสมือนพี่สาวของเธอ
เชราซาร์ด "......ว่าไงนะ...... พูดอะไรออกมาน่ะคุณพี่?"
กระพรวนเสน่ห์ลูชิโอล่า "หึหึ ก็บอกแล้วไง หัวหน้าคณะฮาร์เวย์ ฉันเป็นคนฆ่าเองด้วยมือคู่นี้ยังไงล่ะ"
เชราซาร์ด "อ๊ะฮะฮะ...... ล้อเล่นแรงไปแล้ว ก็ตอนนั้นคุณพี่น่ะ......"
กระพรวนเสน่ห์ลูชิโอล่า "หลังจากที่ฆ่าหัวหน้าคณะด้วยมือของตัวเอง ก็ทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้กลับไปหาทุกคน แล้วจากนั้นก็สั่นกระพรวนขึ้นตรงนั้น ทำให้ได้ยินเสียงกรีดร้องลวง ๆ ของหัวหน้าคณะ ------สำหรับวิชามายาของฉัน ก็เป็นทริคง่าย ๆ ไม่ยุ่งยากอะไรเลย"
เชราซาร์ด "พอแล้ว...... พอทีเถอะ! คุณพี่ฆ่าหัวหน้าคณะอะไรแบบนั้น...... มันต้องไม่ใช่แบบนั้นอยู่แล้ว! ทั้ง ๆ ที่เหมือนกับเป็นพ่อลูกแท้ ๆ...... มิหนำซ้ำยังสนิทกันมากอีกด้วย!"
กระพรวนเสน่ห์ลูชิโอล่า "เพราะอย่างนั้นถึงให้อภัยไม่ได้ ที่คน ๆ นั้นคิดจะไปจากพวกฉัน......"
เชราซาร์ด "เอ๊ะ......"
- ขณะนั้นเอง [กอสเปล] หยุดการทำงานลง อาณาเขตสีดำที่ปกคลุมชั้นดาดฟ้าของหอคอยแตกออก สภาพแวดล้อมกลับมาเป็นเช่นเดิม
กระพรวนเสน่ห์ลูชิโอล่า "หึหึ...... ท่าทางเวลาจะหมดแล้วนะ"
เอสเทล "นะ นี่...... อาณาเขตที่อยู่ที่นี่ กางขึ้นมาเพื่ออะไรงั้นเหรอ? [องค์กร] คิดจะทำอะไรกันแน่?"
กระพรวนเสน่ห์ลูชิโอล่า "น่าเสียดาย ที่พวกฉันเองก็ไม่ได้รับฟังรายละเอียดมาซะด้วย ก็แค่ทำตามที่ศาสตราจารย์บอกก็เท่านั้น แต่พอได้เห็นภายในของหอคอยที่ถูกเก็บซ่อนเอาไว้แล้ว ก็พอจะเดาอะไรบางอย่างได้ลาง ๆ อยู่หรอก"
- พูดจบ ลูชิโอล่าก็สะบัดพัดเหล็กของเธอ เสียงกระพรวนดังขึ้นทำให้รู้ว่าเธอกำลังจะหนีไป เจ๊เชร่าเห็นดังนั้นจึงรีบบอกให้หยุดเพราะว่าเธอยังตอบคำถามไม่ครบเลย โดยเฉพาะเหตุผลที่เธอต้องฆ่าหัวหน้าคณะที่แสนใจดี และเปรียบเสมือนพ่อแม่ของทุก ๆ คน
กระพรวนเสน่ห์ลูชิโอล่า "หึหึ...... ขอโทษที แต่คราวนี้ไว้แค่นี้ก่อนนะ ในตอนที่พบกันอีกครั้ง ฉันจะบอกตอนต่อให้จ้ะ เป็นเด็กดีจนกว่าจะถึงตอนนั้นนะจ๊ะ"
- ว่าแล้วลูชิโอล่าก็หายไปราวกับหมอกจาง ๆ ปล่อยให้เจ๊เชร่าทอดสายตามองตามด้วยใบหน้าที่เศร้าสร้อย แต่เธอบอกเพื่อน ๆ ว่าเธอไม่เป็นอะไร เพราะเธอสามารถเข้าใจความจริงในใจของคุณพี่ได้ก้าวนึงแล้วค่ะ
- เหนือน่านฟ้าราชอาณาจักรลีเบร์ล -
- ยานรักษาความปลอดภัยภายใต้การนำของ "นายพลมอร์แกน" ไล่ตามยานสีแดงของ [องค์กร] แต่ทว่าระดับความเร็วของยานรักษาความปลอดภัยไม่อาจตามทันได้ ได้แต่ตามไปเรื่อย ๆ เท่านั้น ดังนั้น นายพลจึงเปลี่ยนแผนให้ตามไปเรื่อย ๆ แล้วค่อยขนาบจับกุมยานของข้าศึกค่ะ
นครหลวงแกรนเซล 『王都グランセル』
- ด้านหน้าของนครหลวงมีการป้องกันเตรียมรับการมือกับพวกตุ๊กตาภายใต้การนำของ "พันโทซีด" และลูกน้องคู่ใจของเขา "รองหัวหน้ากองเบลูค" แต่ที่น่าเป็นห่วงก็คือ ตอนนี้เหล่าพลทหารอาจจะกำลังเหน็ดเหนื่อยกับการที่ต้องตระเวนไปทำศึกคุ้มกันตามหัวเมืองต่าง ๆ ดังนั้นพันโทซีดจึงลงคำสั่งอนุญาตให้พวกทหารพักผ่อนกันในวันนี้ค่ะ
ค่ายเรสตอน 『レイストン要塞』
- "หัวหน้ากองกองทัพราชอาณาจักร" รายงานข้อมูลทั้งหมดจากทั่วทุกพื้นที่ รวมทั้งสถานการณ์ของเหล่าเบรเซอร์ที่อยู่บน [อัลเซยู] เป็นไปเรียบร้อยให้กับนายพลจัตวา "คาซิอุส" ค่ะ
(ป๋าคาซิอุสจะกำชับให้กองทัพไม่ให้ประมาท เพราะยังมี [เรืออาร์ค] อยู่ ดังนั้นป๋าจึงออกคำสั่งให้ยานรักษาความปลอดภัยออกลาดตระเวนทั่วราชอาณาจักรให้ต่อเนื่อง และให้ถือเป็นคำสั่งฉุกเฉินด้วยค่ะ)
คาซิอุส "คำสั่งฉุกเฉิน...... เอกสารคำสั่งให้เคลื่อนไหวในช่วงที่เกิดหายนะงั้นหรือ ถ้าเรื่องจบลงได้โดยเป็นแค่การกลัวเกินกว่าเหตุก็ดีอยู่หรอก......"
- หลังจากหัวหน้ากองออกไปแล้ว คาซิอุสก็ครุ่นคิดอะไรบางอย่าง เขาลุกออกจากเก้าอี้ พลางยกหูเครื่องมือสื่อสารขึ้น
คาซิอุส "------เหนื่อยหน่อยนะ นี่ฉันเองคาซิอุส ไบร์ท ขอโทษที่ติดต่อมากระทันหัน แต่ช่วยเรียกเขามาที่นี่หน่อยสิ"
อัลเซยู 『アルセイユ』
- พวกเราจะอยู่เหนือน่านฟ้าของ [หอคอยอำพัน] ซึ่งเป็นหอคอยสุดท้าย และตามรายงานศัตรูที่ออกมาคือ เด็กหญิงที่มีตุ๊กตาขนาดใหญ่อยู่คู่กาย ซึ่งก็คือ "เร็น" ตามที่พวกเราคาดการณ์ไว้ค่ะ
โยชัวร์ "[นางฟ้าแห่งการทำลายล้าง] เร็น...... ช่วงที่ผมยังอยู่กับองค์กร ยังเป็นตัวเสริม [ผู้ดำเนินแผนการ]...... แต่ไม่น่าเชื่อเลยว่าจะสามารถทำให้ [ปาเทล มาเทล] ขยับได้"
เอสเทล "โยชัวร์...... รู้จักตุ๊กตายักษ์นั่นด้วยเหรอ?"
โยชัวร์ "เป็นตุ๊กตาสงครามยักษ์ระดับกลยุทธ์ที่เคยได้พัฒนาภายใต้ห้องแล็บขององค์กร เพราะการบังคับควบคุมทำได้ยาก โครงการพัฒนาน่าจะถูกสั่งปิดไปแล้ว......"
หลวงพ่อเควิน "แล้วคุณหนูคนนั้นก็ใช้เจ้านั่นได้อย่างสบาย ๆ เลยน่ะเหรอ...... ช่างเป็นเด็กน้อยที่น่ากลัวสุด ๆ เลยน๊า"
ทีต้า "............................"
เอสเทล "ไม่ต้องห่วงนะทีต้า อย่าทำหน้าแบบนั้นสิ ยังไงชั้นก็จะทำให้เด็กคนนั้นตาสว่างขึ้นมาให้ได้!"
ทีต้า "พี่จ๋า......"
โยชัวร์ "..........................."
เอสเทล "เอ...... หรือชั้นจะมองโลกในแง่ดีไปหน่อยหรือเปล่านะ?"
โยชัวร์ "......เปล่า ไม่แน่ว่าถ้าเป็นเธอ...... อาจจะส่งเสียงไปถึงใจของเด็กคนนั้นก็ได้ เราไปลองเรียกดูด้วยกันเถอะ"
เอสเทล "......อืม!"
☆เลือกเพื่อนเข้ากลุ่มต่อสู้ 2 คน (เอสเทล โยชัวร์ เป็นตัวละครบังคับค่ะ)☆
★คุยกับ "คลอเซ่" ที่ห้องบังคับการ เธอจะเชื่อมั่นว่าพวกเราจะต้องส่งเสียงไปถึงใจของเร็นจังได้อย่างแน่นอนค่ะ
★คุยกับ "อากัต" ที่ดาดฟ้าส่วนหัวเรือ เขาจะนึกถึงตอนที่เกิดเหตุการณ์ที่นครหลวงค่ะ (บทที่ 3) โดยเฉพาะตุ๊กตาสงครามยักษ์ที่เห็นในคราวนั้นค่ะ
(จากตรงนี้ โยชัวร์จะบอกว่า ศึกคราวนี้จะต้องรับมือกันหนักหน่วงทีเดียว เพราะถ้าเป็นการต่อสู้แบบซึ่ง ๆ หน้าแล้ว ฝีมือของเร็นอาจจะสูงกว่าโยชัวร์ก็เป็นได้ เพราะกล่าวได้ว่าเร็นเป็นผู้ดำเนินแผนการที่มีความสามารถรอบด้าน ซึ่งต่างกับโยชัวร์ที่จะเน้นไปที่ด้านการเคลื่อนไหวไร้ร่องรอยที่ใช้สำหรับการลอบสังหารค่ะ)
★คุยกับ "เจ๊เชร่า" ที่ห้องอาหาร เจ๊จะบอกว่าถึงตอนนี้จะยังไม่รู้เป้าหมายขององค์กร แต่ผลสรุปก็ยังไม่ออกมา ดังนั้นพวกเราก็มีแต่ต้องเดินไปข้างหน้าเพื่อหยุดยั้งแผนการเท่านั้นค่ะ
★คุยกับ "จิน" ที่ห้องอาหาร เขาจะรู้สึกว่า ฝีมือของเร็นนั้น คงจะผ่านการฝึกฝนมาอย่างโชกโชน และนั่นก็อาจจะทำให้เร็นมีอะไรบางอย่างที่ต้องเก็บงำเอาไว้ เพราะนั่นก็ถือได้ว่าเป็นการแลกเปลี่ยนเพื่อให้ได้พลังอันยิ่งใหญ่มาไว้ในมือค่ะ
★คุยกับ "ทีต้า" ที่ห้องทดลอง เธอจะกังวลเรื่องของเร็นมาก ๆ ค่ะ เอสเทลกับโยชัวร์จึงปลอบทีต้าว่า ถึงตอนนี้จะไม่รู้หัวรู้ก้อยแต่พวกเขาก็จะพยายามทำให้ดีที่สุดค่ะ
☆คุยกับ "ดร. รัซเซล" เราจะมอบ "ดาต้าคริสตัล" ที่ได้มาให้กับเขาค่ะ☆
★คุยกับ "ดร. รัซเซล" อีกครั้งเขาจะบอกว่า [อุปกรณ์] ที่ว่านั่น ใกล้ถึงความเป็นจริงแล้วค่ะ ไม่แน่ว่าหลังจากที่พวกเรากลับมาจากหอคอยแล้ว อาจจะได้เห็นรูปร่างหน้าตาของมันก็เป็นได้ค่ะ
★คุยกับ "หลวงพ่อเควิน" ที่ห้องพยาบาล เควินจะรู้สึกว่าศึกครั้งนี้อาจจะยากมาก ๆ ก็เป็นได้ แต่เอสเทลเห็นว่าถึงอาจจะยาก แต่นี่ก็น่าจะเป็นโอกาสอันดีที่เธอจะดึงเร็นออกมาจากองค์กรค่ะ เควินจึงอดแซวเอสเทลที่มีมุมมองแบบบวกสุด ๆ ไม่ได้ว่า "สมกับที่เป็นเอสเทลจัง ความคิดซุปเปอร์โพสสิทีฟจริง ๆ นะ ไม่ใช่ซี~ ยิ่ง ๆ ขึ้นไป ยิ่ง ๆ ขึ้นไป................................................................................... อะแฮ่ม ไม่ไหว ๆ พูดเจื้อยแจ้วแบบทุกทีอีกแล้ว" เอสเทลก็เข้าสู่โหมดบ๊องแบ๊วอีกครั้งถามว่าไอ้ที่ยิ่ง ๆ ขึ้นไปอีกนี่มันอะไรกัน โยชัวร์อดไม่ได้ต้องขอขัดจังหวะเควินซะหน่อย (หึงอ่ะดิ) แต่เควินก็รู้สึกตัวว่าคิดเลยเถิดไปนี๊ดนึง จึงขอโทษโยชัวร์ ส่วนเอสเทลก็รู้สึกหงุดหงิดเพราะพวกผู้ชายพวกนี้พูดแต่เรื่องที่พวกเขาเข้าใจกัน 2 คน (อีกแล้ว) ค่ะ
- เมื่อเตรียมตัวพร้อมแล้ว ให้ไปคุยกับ "เฟย์" ที่ห้องเครื่อง เพื่อลงลิฟท์ไปที่หอคอยอำพันได้เลยค่ะ
หอคอยอำพัน - มิติประหลาด 『琥珀の塔・異空間』
☆ไอเทมที่พบในชั้น 1 "EPชาร์จ III" และ "ยาแห่งเซราส" ค่ะ☆
☆ไอเทมที่พบในชั้น 2 "ยาแห่งเทียร์รอล" และ "EPชาร์จ II" ค่ะ☆
☆ไอเทมที่พบในชั้น 3 "สคัลแพนแดนท์" และ "ยาแห่งเทียร์รอล" ค่ะ☆
- ต่อจากนี้ เส้นทางจะแยกออกเป็น 2 ฝั่ง ซึ่งเป็นเส้นทางที่ถูกต้องและจะเชื่อมถึงกันหมด แนะนำให้ไล่เก็บไอเท็มที่อยู่ในแต่ละชั้นก่อนวาร์ปไปยังจุดอื่น ๆ เท่านี้เพื่อน ๆ ก็ไม่มีทางพลาดไอเทมดี ๆ แน่นอนค่ะ
☆ไอเทมที่พบในชั้น 5 "อัญมณีประกายหยก", "เซพิธ (ดินx300, เวลา+อากาศ+มายาx100)", "ดาต้าคริสตัล12", "ดาต้าคริสตัล14", "ดาต้าคริสตัล13" และ "ดาต้าคริสตัล15" ค่ะ☆
☆ไอเทมที่พบในชั้น 4 "เลเบนส์บอลลูน" (สู้กับ กันดอลล์A + โฟตอนจัดจ์Ax2), "EPชาร์จ II", "ยาแห่งอาเซราส", "เทมเพสต์ แคนนอน", "ยาแห่งเทียร์ ออล" และ "แผ่นป้ายคุ้มภัยศิลาประกายอำพัน" ค่ะ☆
- ต่อจากนี้ เส้นทางจะแยกออกเป็น 2 ฝั่ง และแยกออกจากกัน ไม่ได้เชื่อมถึงกันหมดเหมือนชั้นที่ผ่านมา เมื่อไปถึงจุดวาร์ปสุดท้าย จะมีทางอีกฝั่งให้ไปต่อ ซึ่งจะวนออกไปเก็บไอเทมแต่ละเส้นทางได้ค่ะ
(ตามบทสรุปนี้เราจะใช้แท่นวาร์ปฝั่งตะวันออกนะคะ ไอเทมที่พบก็เรียงตามที่เราพบเลยค่ะ)
☆ไอเทมที่พบในชั้น 3 "เซพิธ (ดินx300, เวลา+อากาศ+มายาx100)" ค่ะ☆
☆ไอเทมที่พบในชั้น 2 "มิราจริง", "ยาแห่งเทียร์ ออล", "บลูฟาลคอน" และ "ยาแห่งคิวเรีย" ค่ะ☆
☆ไอเทมที่พบในชั้น 3 "ยาแห่งอาเซราส" ค่ะ☆
☆ไอเทมที่พบในชั้น 5 "แถบฉนวน", "ยาแห่งอาเซราส" , "พลองพระอรหันต์" และ "ยาแห่งเทียร์ออล"ค่ะ☆
- ตรงนี้หากเพื่อน ๆ ต้องการไปเก็บไอเทมที่เหลืออยู่ ก็อย่าเพิ่งวาร์ปที่จุดวาร์ปสุดท้ายนะคะ (จุดวาร์ปที่มีจุดเพิ่มเลือดอยู่) ให้เดินไปอีกฝั่งจะมีจุดวาร์ปของอีกเส้นทางค่ะ
☆ไอเทมที่พบในชั้น 3 "ยาแห่งคิวเรีย" ค่ะ☆
☆ไอเทมที่พบในชั้น 2 "S-แท็ปเล็ต", "เซพิธ (ดินx300, เวลา+อากาศ+มายาx100)", "เซรั่มแคปซูล" และ "เสื้อไท้เก็ก" ค่ะ☆
☆ไอเทมที่พบในชั้น 3 "เร้นใบไม้" ค่ะ☆
- เมื่อมาถึงตรงที่เราเก็บควอทซ์เร้นใบ้ไม้แล้ว ก็วนกลับยังจุดวาร์ปสุดท้ายบนชั้น 5 ได้เลยค่ะ เพราะถ้าไปต่อก็จะเป็นทางเดิมที่เราได้ผ่านมาในชั้น 4 นั่นเองค่ะ
(หากเพื่อน ๆ ไม่อยากเจอศัตรูลูกกระจ๊อก ก็สามารถสวมใส่ควอทซ์ที่เพิ่งได้มาอันนี้ได้เลยนะคะ)
- เตรียมตัวที่จุดวาร์ปสุดท้ายให้พร้อม เพราะศึกต่อไปหนักไม่ใช่เล่นเลยล่ะค่ะ ขอบอก
- เมื่อขึ้นมาที่ดาดฟ้า จะพบกับ "นางฟ้าแห่งการทำลายล้างเร็น" ที่กำลังรอการมาของพวกเราค่ะ
เอสเทล "......เร็น"
นางฟ้าแห่งการทำลายล้างเร็น "อุหึหึ เอสเทลเนี่ยเป็นเด็กไม่ดีเลยนะ หนีออกมาจาก [เรืออาร์ค] ในช่วงที่เร็นไม่อยู่ซะได้ แต่ก็ดี เพราะได้ออกมาเที่ยวแบบนี้ด้วย"
◆ในกรณีที่พา "ทีต้า" มาด้วย จะมีบทสนทนาพิเศษเล็ก ๆ น้อย ๆ ระหว่างเธอกับเร็นค่ะ
นางฟ้าแห่งการทำลายล้างเร็น "อุหึหึ ทีต้าก็อุตส่าห์มาเที่ยวด้วยเหรอเนี่ย? ไม่ได้เลี้ยงไอศครีมก็จริง แต่ไม่ต้องรีบร้อนก็ได้นะจ๊ะ"
พอได้ยินเร็นพูดแบบนี้มา ทีต้าถึงกับพูดอะไรไม่ออกค่ะ
นางฟ้าแห่งการทำลายล้างเร็น "แล้วก็...... อุหึหึ ในที่สุดก็ออกมาให้เห็นจนได้นะ อยากเจอมานานแล้วล่ะจ้ะ โยชัวร์"
โยชัวร์ "......ไม่คิดว่าจะได้มาพบเธออีกครั้งในที่แบบนี้เลย โตขึ้นมากนะ...... เร็น"
นางฟ้าแห่งการทำลายล้างเร็น "อุหึหึ แน่นอนอยู่แล้ว♪ เร็นอายุ 11 แล้วนี่นา ในช่วงที่ไม่ได้เจอกันมาซักระยะนี่ โยชัวร์เองก็หล่อขึ้นเยอะเหมือนกันนะ ไม่ได้ทำสายตาเย็นชาแล้ว รู้สึกแปลก ๆ นิดหน่อย...... แต่โยชัวร์ในตอนนี้ก็ไม่เลวเลยล่ะ"
โยชัวร์ "งั้นเหรอ...... ขอบใจนะ"
เอสเทล "จริง ๆ เลยเชียว...... ทำตัวแก่แดดแก่ลมไม่เปลี่ยนเลยนะ ......นี่ เร็น พวกชั้นมาที่นี่ ก็เพื่อมาขัดขวางแผนการของ [องค์กร] นะ"
นางฟ้าแห่งการทำลายล้างเร็น "อุหึหึ ดูเหมือนจะเป็นอย่างนั้นอยู่แล้วนี่ เร็นเองก็ไม่ชอบอะไรที่มันน่าเบื่อด้วย จะเล่นเป็นเพื่อนให้ก็แล้วกันนะ"
- เร็นเรียกเคียวยักษ์ของเธอออกมา
นางฟ้าแห่งการทำลายล้างเร็น "คิกคิก...... คงจะทำให้เร็นสนุกได้สินะ?"
โยชัวร์ "......เร็น......"
เอสเทล "โทษที ชั้นไม่ได้ตั้งใจจะมาสู้กับเร็นหรอกนะ แต่...... มาเพื่อพูดคุยกันน่ะ"
นางฟ้าแห่งการทำลายล้างเร็น "พูดคุย? ว้าว หรือว่าจะมาคุยกันเรื่องเทพนิยายอะไรแบบนั้นน่ะเหรอ?"
เอสเทล "เปล่า...... เรื่องที่ว่าจะเป็นพรรคพวกของ [องค์กร] น่ะ อุตส่าห์ชวนทั้งที แต่คงต้องขอปฏิเสธอีกครั้ง"
นางฟ้าแห่งการทำลายล้างเร็น "ก็ได้พบกับโยชัวร์อีกครั้งแล้วนี่ มันก็คงไม่แปลกอะไรอยู่แล้วนี่นา แต่ว่า คิดดูใหม่จะดีกว่านะ? พวกเอสเทลพยายามยังไงก็หยุด [งูกินหาง] 『身喰らう蛇』 ไม่ได้หรอก เรื่องนั้นโยชัวร์น่าจะรู้ดีที่สุดสินะ?"
โยชัวร์ "......เรื่องนั้น......"
นางฟ้าแห่งการทำลายล้างเร็น "นอกจากนั้น ถ้ามาเข้าร่วมกับ [องค์กร] เอสเทลก็จะได้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น และก็จะได้เป็น [ผู้ดำเนินแผนการ] แบบเดียวกับเร็นยังไงล่ะ? อุหึหึ ไม่คิดว่ามันวิเศษหรอกเหรอ?"
เอสเทล "อืมม์ ที่บอกว่าจะได้แข็งแกร่งยิ่งขึ้นนั่นก็ไม่ใช่ว่าจะไม่สนใจหรอก...... แต่ชั้นว่า...... นั่นไม่ใช่ความแข็งแกร่งที่แท้จริง อย่างน้อยก็สำหรับชั้นน่ะ"
นางฟ้าแห่งการทำลายล้างเร็น "เอ๊ะ......"
เอสเทล "ชั้นน่ะ อยากจะแข็งแกร่งขึ้นอยู่แล้วล่ะ เพื่อที่จะปกป้องคนสำคัญเหมือนกับคุณแม่ และก็เพื่อที่จะสามารถปกป้องตนเองได้โดยไม่ทำให้โยชัวร์เป็นห่วง"
โยชัวร์ "เอสเทล......"
เอสเทล "แต่ถ้าไปเข้ากับ [องค์กร] ชั้นที่เป็นชั้นก็จะหายไป ไม่สามารถแข็งแกร่งขึ้นได้ด้วยตัวตนที่แท้จริงได้ ชั้นว่ามันไม่มีความหมายอะไรเลย"
- เร็นคิดทบทวนคำพูดของเอสเทลครู่นึง สีหน้าของเธอแสดงถึงความไม่พอใจ
นางฟ้าแห่งการทำลายล้างเร็น "......ไม่เข้าใจ เรื่องที่เอสเทลพูดเร็นไม่เข้าใจเลยซักนิด ตัวตนที่แท้จริงคืออะไร? แล้วมันเป็นของแบบไหน?"
- เอสเทลเดินออกไปข้างหน้า พลางพูดด้วยความรู้สึกที่เธอมีต่อเร็น
เอสเทล "ชั้นน่ะ...... ชอบเร็นนะ ถึงจะแก่แดด ถึงจะชอบแกล้ง ถึงจะทำเรื่องไม่คาดคิด...... ถึงจะหลอกชั้นหลายเรื่อง แต่ชั้นก็เกลียดเธอไม่ลง"
นางฟ้าแห่งการทำลายล้างเร็น "......เอสเทล......"
เอสเทล "เพราะเหตุนี้...... เพราะเหตุนี้ชั้นเลยไม่อยากให้เร็นอยู่กับ [องค์กร] ถึงอย่างไรคนเราพอโตเป็นผู้ใหญ่ก็จะเลือกความมุ่งมั่นตั้งใจได้ด้วยตนเอง...... แต่เด็กอย่างเธอ ชั้นว่าไปอยู่ในที่แบบนั้นมันออกจะผิดอยู่ เพราะถ้าปล่อยให้โตเป็นผู้ใหญ่ไปทั้ง ๆ แบบนี้ ก็จะไม่สามารถกลับไปสู่สภาพที่ควรจะเป็นได้...... เพราะงั้น......"
นางฟ้าแห่งการทำลายล้างเร็น ".................................... ......เปลี่ยนใจแล้วล่ะ"
เอสเทล "เอ๊ะ......"
โยชัวร์ "......คึ......!"
- เร็นเข้าจู่โจมเอสเทลทันที โชคดีที่โยชัวร์รู้สึกตัวและรับการโจมตีของเร็นเอาไว้ได้
นางฟ้าแห่งการทำลายล้างเร็น "หึหึ...... สมกับที่เป็นโยชัวร์ ปฏิกริยาตอบสนองรวดเร็วจริงนะ"
โยชัวร์ "เธอต่างหาก...... ที่ยอดเยี่ยม ท่าทางฉายา [นางฟ้าแห่งการทำลายล้าง] จะไม่ได้มีไว้ประดับโก้ ๆ เลยนะ"
นางฟ้าแห่งการทำลายล้างเร็น "ใช่ เร็นน่ะแข็งแกร่ง แกร่งกว่า [เขี้ยวดำขลับ] ที่ได้แต่เร้นกายเคลื่อนไหวภายใต้ความมืดมิดเท่านั้นมาก ๆ เลยด้วย"
เอสเทล "ดะ เดี๋ยวสิเร็น! จู่ ๆ คิดจะทำอะไรห๊ะ!?"
นางฟ้าแห่งการทำลายล้างเร็น "อุหึหึ ก็เปลี่ยนใจแล้วยังไงล่ะ ถ้าไม่มาเป็นพวกเดียวกันกับเร็น เอสเทลก็ต้องตายไปซะ โยชัวร์ด้วย ทุกคนก็ด้วย"
- เอสเทลไม่สบอารมณ์อย่างแรง
เอสเทล "อึก...... ต้องตายอะไรนั่น พูดน่ากลัวไปมั๊งยะ! โกรธแล้วน๊~า! จะตีให้ก้นลายเลยคอยดู!"
โยชัวร์ "เอสเทล ใจเย็น ๆ ถ้าประมาณหล่อนต่ำไปล่ะก็------"
เอสเทล "โยชัวร์เงียบไปเลย! มันก็เหมือนอบรมเด็ก ๆ น่ะแหล่ะ!"
นางฟ้าแห่งการทำลายล้างเร็น "คิกคิก...... อ่อนจังนะ ก็ค่อนข้างชอบตรงจุดนั้นของเอสเทลอยู่หรอก...... แต่ตอนนี้เกลียดที่สุด"
- ตุ๊กตาสงครามปรากฏตัวขึ้นรอบ ๆ พวกเอสเทล
นางฟ้าแห่งการทำลายล้างเร็น "No. XV ------ [นางฟ้าแห่งการทำลายล้าง] เร็น ต่อจากนี้จะเข้าสู่การทำลายล้างกลุ่มศัตรูล่ะ"
- เกิดการต่อสู้แบบ Back Attack
- นางฟ้าแห่งการทำลายล้างเร็น + วอล์กเกิล911 รุ่นปรับปรุง *6 -
- 『殲滅天使レン + ヴォーグル911改*6』 -
**เมื่อเริ่มการต่อสู้ เร็นจะใช้ S-Craft "เร รานันเดธ" ทันที ซึ่งเราจะเกิดอาการ "ตายคาที่" (โอกาสรอดน้อยมั่ก ๆ) แนะนำให้สวมเครื่องประดับป้องกันอย่าง "สคัลแพนแดนท์" หรือ "เลเบนส์บอลลูน" (ป้องกัน "เป็นหิน" กับ "ตายคาที่") ที่เพิ่งได้มาจากหีบก็ได้ค่ะ **
**วอล์กเกิล911 รุ่นปรับปรุง จะใช้ "กอร์กอนเลเซอร์" ที่จะทำให้เราติด "เป็นหิน", "มืดมิด" และ "พิษ" ด้วยนะคะ ดังนั้นใส่เครื่องประดับที่ป้องกันเอาไว้ก็ไม่เสียหายอะไรค่ะ**
**แนะนำให้ใช่ "คล็อกดาวน์" ใส่ศัตรูจะง่ายขึ้น**
**ระวัง อย่าทุ่มพลังให้กับการต่อสู้ในครั้งนี้จนหมด เหลือเก็บไว้กับการต่อสู้สุดหฤโหดแบบต่อเนื่องด้วยนะคะ**
ดูคราฟท์ต่าง ๆ ของ "เร็น" ตรงนี้ค่ะ
- ปราบได้เร็นจะประหลาดใจเล็กน้อย และเอ่ยปากชมที่เราสามารถปราบพวกเด็ก ๆ (ตุ๊กตา) ของเธอได้ค่ะ
เอสเทล "ยะ อย่ามาล้อเล่นนะ! ทำแต่เรื่องแบบนี้ แล้วเร็นรู้สึกสนุกจริง ๆ น่ะเหรอ!?"
นางฟ้าแห่งการทำลายล้างเร็น "อุหึหึ แน่นอน เร็นน่ะนะ ชอบที่จะมองดูความเจ็บปวดที่มนุษย์แสดงออกมามาก ๆ เลยล่ะ เพราะรู้สึกว่ามันได้เติมเต็มช่องว่างในอกที่กลวงโบ๋ เร็นน่ะนะ ชอบฟังเสียงร้องที่มนุษย์แสดงความเจ็บปวดออกมามาก ๆ เลยล่ะ เพราะตอนกลางคืนจะได้หลับสนิทยังไงล่ะ"
เอสเทล "......อะ......"
โยชัวร์ "งั้นหรือ...... แม่แต่ตอนนี้เธอก็ยัง......"
นางฟ้าแห่งการทำลายล้างเร็น "......โยชัวร์เงียบไปเลย ------------ นี่ เอสเทล ตอนที่เร็นยังเล็ก มีปาป๊ากะมาม๊าปลอม ๆ ด้วยล่ะ"
เอสเทล "เอ๊ะ......"
นางฟ้าแห่งการทำลายล้างเร็น "ปาป๊ากะมาม๊าปลอม ๆ เร็นเคยชอบทั้ง 2 คนมากเลย แต่พวกเขาทำงานอะไรซักอย่างล้มเหลว เลยมอบเร็นให้กับพวกผู้ใหญ่เลว ๆ ไปล่ะ พลางร้องไห้แล้วบอกว่า [จะกลับมารับแน่นอนนะ] ซ้ำไปซ้ำมาไม่รู้ตั้งกี่ครั้งเชียวนะ"
เอสเทล "หระ หรือว่า......"
นางฟ้าแห่งการทำลายล้างเร็น "หลังจากที่คนพวกนั้นรับตัวไว้ เร็นก็โดนทำอะไรตั้งหลาย ๆ อย่าง เรื่องทั่ว ๆ ไปก็ชินได้ในไม่ช้า แต่เรื่องที่โดนทำให้เจ็บปวดเท่านั้น ที่ไม่สามารถชินได้เลย...... มีพวกเด็ก ๆ แบบเดียวกันอยู่ด้วยก็จริง แต่สักพักก็มีอาการไม่ดีแล้วหายไปก็มีอยู่เยอะ ชีวิตแบบนั้นดำเนินไปได้ประมาณครึ่งปี"
เอสเทล "......คึ......"
นางฟ้าแห่งการทำลายล้างเร็น "เพราะงั้นนะ ปาป๊ากะมาม๊าจึงเป็นของปลอมยังไงล่ะ ถ้าเป็นของจริงล่ะก็ เวลาที่เร็นเจ็บปวดก็น่าจะมาหาทันทีเลย ใช่ไม๊ล่ะ เอสเทล?"
เอสเทล "................................"
นางฟ้าแห่งการทำลายล้างเร็น "อุหึหึ แต่เอาเถอะ เพราะโยชัวร์กับเรเวมาหาเร็นแทน แล้วก็ฆ่าพวกผู้ใหญ่เลว ๆ นั่นทุกคนเลยนี่นา"
เอสเทล "เอ๊ะ......"
โยชัวร์ "......นาน ๆ ครั้ง [องค์กร] จะมีงานให้ไปถล่มองค์กรอาชญากรรมเลว ๆ อยู่บ้าง แน่นอนว่าไม่ได้ทำเพื่อความถูกต้อง แต่เพื่อยื่นมือเข้าไปจัดการความเป็นระเบียบเรียบร้อยในสังคมของตน ซึ่งก็เป็น 1 ในหน้าที่นั่นแหล่ะ"
เอสเทล "เป็นแบบนั้น......"
นางฟ้าแห่งการทำลายล้างเร็น "หลังจาก [องค์กร] รับตัวไป เร็นก็เรียนรู้เรื่องต่าง ๆ โยชัวร์สอนเทคนิคการพรางตัว เรเวสอนเทคนิคการต่อสู้ คนอื่น ๆ ทุกคนก็สอนในเรื่องที่แต่ละคนถนัด แล้วก็สอนวิธีเป็นเพื่อนกับตุ๊กตาที่ [โรงงานสิบสาม] 『十三工房』 ...... ---------แล้วที่นั่น เร็นก็ได้พบกับปาป๊ากะมาม๊า (ปาเทล มาเทล) จริง ๆ"
- เร็นเรียกปาเทล มาเทลออกมา แล้วกระโดดไปบนยอดเสาใกล้ ๆ กับจุดที่ปาเทล มาเทลลงจอด
(จากตรงนี้ จะทราบจากโยชัวร์ว่า [ปาเทล มาเทล] คือตุ๊กตากลยุทธ์ระดับโกลเดียสค่ะ)
นางฟ้าแห่งการทำลายล้างเร็น "เด็กแบบเร็นอยู่กับ [องค์กร] แล้วผิดงั้นเหรอ...... ? ถ้าโตเป็นผู้ใหญ่ไปทั้ง ๆ แบบนี้ จะกลับมาเป็นแบบที่ควรจะเป็นไม่ได้งั้นเหรอ......? "
- ปาเทล มาเทลขยับแขนกลให้เร็นกระโดดขึ้นไปบนมือของตัวเองเหมือนเคย
นางฟ้าแห่งการทำลายล้างเร็น "เรื่องแบบนั้นน่ะโกหก! หลังจากที่ [องค์กร] รับตัวไป เร็นก็ได้พบกับปาป๊ากะมาม๊าจริง ๆ กลายเป็นเด็กผู้หญิงที่มีความสุขที่สุดในโลกนี้แล้ว"
เอสเทล "......เร็น......"
นางฟ้าแห่งการทำลายล้างเร็น "ถ้าไม่เห็นด้วยกับเรื่องนั้น เอสเทลจะเป็นศัตรูของเร็นนะ...... ถูกปาป๊ากะมาม๊าบดขยี้ ทุกข์ทรมานแล้วตายซะเถอะ"
- ปาเทล มาเทล -
- 『パテル=マテル』 -
**บอกได้คำเดียวว่าแข็งแกร่งมาก และเราไม่สามารถใช้ท่าลดความสามารถใส่ศัตรูได้ ทั้งยังมีท่า "บัสเตอร์ แคนนอน" ที่โจมตีเป็นเส้นตรง และทำให้เราติด "มืดมิด" อีกด้วยค่ะ**
**ปาเทล มาเทล พลังโจมตี&ป้องกันกายภาพค่อนข้างสูง แนะนำให้ฝ่ายเราโจมตีสลับกับเพิ่มเลือดไปเรื่อย ๆ รวมทั้งใช้อาร์ทปราบจะดีกว่าค่ะ**
**ถ้ามี "เควิน" ร่วมกลุ่มมาด้วย ให้ใช้ "แกรล สเฟียร์" เวลาคับขันจะง่ายขึ้นอย่างมากค่ะ**
- ปราบได้ พวกเราจะรู้สึกว่าปาเทล มาเทลแข็งแกร่งมาก ๆ ทั้งพลัง ทั้งเกราะป้องกันเหนือกว่า [ทรอยเมไร] 『トロイメライ』 อย่างเห็นได้ชัด
(เผื่อเพื่อน ๆ ลืมว่า [ทรอยเมไร] คือใคร ขออนุญาตทบทวนความจำกันหน่อยว่า [ทรอยเมไร] ก็คือบอสสุดยอดในภาค FC และเป็น [ผู้พิทักษ์แห่งวงแหวน] ที่อยู่ในชั้นใต้ดินที่ราชวังแกรนเซลค่ะ)
นางฟ้าแห่งการทำลายล้างเร็น "......ตายยากจริงนะ เอาเถอะ เบื่อซะแล้วล่ะ [ปาเทล มาเทล] ! ใช้พลังงานทั้งหมด------"
- ทันใดนั้น [กอสเปล] ก็หยุดการทำงานลง อาณาเขตสีดำที่ปกคลุมหอคอยแตกออก เผยให้เห็นทิวทัศน์ยามอาทิตย์อัสดง
- ถึงจะน่าเบื่อที่ต้องจบลงโดยยังไม่ได้ฆ่าทุกคน แต่เร็นก็ต้องกลับไปที่ [กลอเรียส] เพื่อรายงานกับศาสตราจารย์ว่า [β] ทำหน้าที่เสร็จสมบูรณ์แล้ว ทำให้โยชัวร์สงสัยว่าที่ [หอคอย] กลับเป็นอย่างเดิมก็รวมอยู่ในแผนการส่วนหนึ่งด้วย แต่เร็นบอกว่าเธอไม่รู้รายละเอียด เพียงแต่ได้ยินว่าที่ต้องสร้างอาณาเขตก็เพราะ "มือ" แห่ง [วงแหวน] เท่านั้นค่ะ
นางฟ้าแห่งการทำลายล้างเร็น "อุหึหึ แล้วเจอกันใหม่นะ ตอนที่เจอกันคราวหน้า------ เร็นจะฆ่าให้หมดเลยล่ะ"
- แล้วเร็นก็บินจากไปพร้อม ๆ กับปาเทล มาเทล ปล่อยให้พวกเราได้แต่สงสัยเนื้อหาที่เธอกล่าวทิ้งไว้ค่ะ
อัลเซยู 『アルセイユ』
- ยามค่ำคืนอันมืดมิดในห้องบังคับการบนอัลเซยู พวกเอสเทลได้รับทราบจาก "ร้อยเอกยูเลีย" ว่าพวกตุ๊กตาที่ปรากฏตัวทั่วทุกพื้นที่ได้ล่าถอยไปแล้ว เหตุการณ์ทุกอย่างคืนสู่ความปกติ สร้างความเบาใจแก่พวกเพื่อน ๆ เป็นอย่างมาก
- เอสเทลยังคงไม่สบายใจเรื่องของเร็นที่เธอไม่สามารถทำอะไรได้ และโทษตัวเองว่า
เอสเทล "ชั้นน่ะ ประสบการณ์ชีวิตก็ไม่มี และก็เอาแต่รับการปกป้องจากทุกคนเพียงอย่างเดียว...... คนอย่างชั้น จะไปช่วยเด็กคนนั้นมันก็...... อาจจะเห็นแก่ตัวเกินไปก็ได้......"
โยชัวร์ "......ผิดแล้วล่ะ"
เอสเทล "เอ๊ะ......"
โยชัวร์ "เร็นน่ะนะ...... เป็นอัจฉริยะที่มีประสาทสัมผัสเป็นเลิศ ซึมซับข้อมูลทั้งหมดภายในชั่วพริบตา แล้วนำมาเป็นพลังของตนเอง...... ไม่ว่าจะในสถานการณ์แบบไหน ก็จะปรับให้เหมาะสม และจัดการสถานการณ์รอบตัวให้เข้ากับตัวเอง...... ดูเหมือนว่าจะมีความสามารถแบบนั้นติดตัวมาตั้งแต่เกิด"
เอสเทล "งี้นี่เอง......"
โยชัวร์ "ก่อนที่ [องค์กร] จะรับตัวไป สภาพแวดล้อมที่เคยอยู่รอบ ๆ เด็กคนนั้น เป็นสถานการณ์ที่สับสนอย่างมาก...... แต่เด็กคนนั้นแตกต่างจากผม ที่ไม่ได้หัวใจแตกสลาย แม้จะเป็นอุปสรรคแบบไหน ก็จะสามารถเข้าใจตัวแปรแวดล้อมที่ต้องรับมือได้...... เพราะงั้นถึงรักษาความเป็นตัวของตัวเองมาได้เรื่อย ๆ"
เอสเทล "ตะ แต่ว่านั่น......!"
โยชัวร์ "อืม...... นั่นสินะ ถึงจะสามารถจัดการกับความรู้สึกไปเท่าไร ผมว่าจิตใจก็น่าจะไม่ใช่ไม่รู้สึกเจ็บปวดหรอก"
เอสเทล "................................"
โยชัวร์ "เร็นเท่าที่ผมรู้จัก ไม่เคยแสดงท่าทีเดือดดาลแบบนั้นมาก่อน นั่นอาจเป็นเพราะ คำพูดของเธอส่งไปถึงเร็นที่ทำราวกับไม่รู้สึกอะไรจริง ๆ ก็เป็นได้ ......เพราะเป็นเธอถึงทำได้น่ะ"
- เพราะคำพูดของโยชัวร์ทำให้เอสเทลฮึดที่จะพาเร็นกลับมาอีกครั้ง โดยไม่มีย่อท้ออีกต่อไปค่ะ
- จากนั้น "ร้อยเอกยูเลีย" เห็นว่าคืนนี้ให้พวกเราไปพักผ่อนที่ค่ายเรสตอนก็ดี เพราะจะได้ถือโอกาสไปทักทายเสธนาธิการคาซิอุสด้วยค่ะ
- แต่ทว่า "ดร. รัซเซล" วิ่งมาบอกพวกเราด้วยท่าทีร้อนรน เพราะเขาได้พบอะไรบางอย่างในดาต้าคริสตัลอันนึงที่คาเปลประมวลผลเสร็จเรียบร้อย ซึ่งเรื่องที่น่าตกใจนั่นก็คือ
ดร. รัซเซล "เป็นฟังก์ชั่นของ [ดีไวซ์ทาวเวอร์] 『ディバイスタワー』 ดูเหมือนว่าหอคอยทั้ง 4 เป็นสิ่งที่สร้างขึ้นเพื่อตรึง [วงแหวนประกายแสง] 『輝く環』 เอาไว้ที่มิติประหลาดน่ะสิ!"
- และนั่นก็หมายความว่า หากช่องว่างที่เราพบที่ [หอคอยเบื้องหลัง] สัมพันธ์กับมิติประหลาดล่ะก็ ดังนั้นตัวจริงของ [กอสเปล] ก็คือ
- "------ใช่แล้ว ก็คือ [คอมพิวเตอร์ปลายทาง] ของ [วงแหวนประกายแสง] ครับ" เสียงผู้ชายคนหนึ่งดังขึ้น จอภาพภายในห้องบังคับการเลื่อนลง เผยให้เห็นถึงบุคคลที่แฮ็กระบบติดต่อเข้ามาคือ "ศจ. ไวส์แมน" นั่นเอง
(ดร. รัซเซลรู้สึกไม่พอใจที่ระบบจัดการข้อมูลระดับสูงโดนแฮ็กค่ะ)
ศจ. ไวส์แมน "หึหึ...... ยินดีที่ได้รู้จัก ดอกเตอร์รัซเซล ทำให้ระบบขนาดนั้นเป็นจริงขึ้นมาด้วยกำลังของตนเองก็น่าตกใจอยู่ครับ สมกับที่เป็นลูกศิษย์สายตรงเพียงคนเดียวที่เหลืออยู่ของดอกเตอร์เอปสไตน์คนนั้น"
ดร. รัซเซล "ฮึ่ม ประชดเหรอ บอกไว้ก่อนนะ การควบคุมทิศทางของยานเป็นอิสระจากระบบ ถึงคิดจะบังคับก็ทำไม่ได้ร๊อกเฟ้ย"
ศจ. ไวส์แมน "ไม่หรอก ไม่ทำแบบนั้นหรอกครับ เพราะไม่อยากให้พลาดชมวินาทีสุดท้ายที่อุตส่าห์ทำมา ก็แค่ติดต่อมาเท่านั้นเอง"
ดร. รัซเซล "ว่าไงนะ......?"
โยชัวร์ "วินาทีสุดท้าย...... หรือว่าจะเป็น!"
ศจ. ไวส์แมน "หึหึ เรื่องตำแหน่งนั้น ออกมาที่ดาดฟ้าเรือส่วนหน้าจะดีกว่า ถ้าอย่างนั้นทุกคน ขอให้เป็นคืนที่ดีนะ"
- แล้วศจ. ไวส์แมนก็ตัดการติดต่อไป พวกเราจะออกไปดูที่ดาดฟ้าเรือส่วนหน้าตามที่เขาบอกค่ะ
- เมื่อมองไปบนท้องฟ้าพวกเราต่างตกตะลึงกับภาพที่เห็น เมื่อฟ้าผ่าลงมาอย่างรุนแรงทำให้ท้องฟ้าแยกออกจากกัน ปรากฏวัตถุประหลาดออกมาจากช่องว่างระหว่างมิติส่องแสงสีทองสว่างเรืองรองไปทั่ว
เอสเทล "นะ นะ นะ......"
คลอเซ่ "หรือว่านั่นจะเป็น...... ......นครขนาดใหญ่......"
โยชัวร์ "ใช่...... ไม่ผิดแน่......"
หลวงพ่อเควิน "[วงแหวนประกายแสง]...... โอรีออล 『オーリオール』 งั้นเหรอ!"
- ดร. รัซเซลรู้สึกอะไรบางอย่าง เขารีบบอกให้ร้อยเอกยูเลียนำเครื่องลงจอดโดยด่วนและให้ติดต่อไปหาคาซิอุสว่าเป็นคำสั่งฉุกเฉินไม่เช่นนั้นทุกอย่างอาจจะสายเกินไปค่ะ
- แต่สายไปซะแล้ว คลื่นพลังประหลาดได้ถูกปลดปล่อยออกมาจากนครลอยฟ้าขยายเป็นวงกว้างไปทั่วราชอาณาจักรลีเบร์ล ปรากฏการณ์ออร์บเมนท์หยุดการทำงานเกิดขึ้นตามอาณาเขตที่คลื่นพลังแผ่ออกไป แสงไฟที่หล่อเลี้ยงชีวิตของผู้คนยามค่ำคืนดำวูบลง เข้าสู่ความมืดมิดไม่เหลือเค้าเมืองที่เคยสว่างไสว
- เหล่างูกินหางเฝ้ามองความเป็นไปบนกลอเรียสด้วยความตื่นตาตื่นใจกับภาพที่เห็นอยู่ตรงหน้า แท้จริงแล้วแผนการของพวกเขาก็คือปลดปล่อย [วงแหวนประกายแสง] นั่นเองค่ะ
ศจ. ไวส์แมน "[วงแหวนประกายแสง] ที่ได้ถูกส่งไปผนึกที่มิติประหลาดชั่วนิรันดร์...... แต่หากมี [พระสุรเสียง] 『福音』 ในฐานะที่เป็นคอมพิวเตอร์ปลายทาง ก็จะสามารถแทรกแซงมิติทางนี้ได้เหมือนกัน ปัญหาก็คือระดับความแม่นยำของรูปแบบจำลองว่าจะขึ้นไปได้ถึงขนาดไหน"
จักรพรรดิดาบเรเว "แล้วเมื่อผ่านการทดลองไปหลาย ๆ ครั้ง [พระสุรเสียง] ที่กลายเป็นรูปแบบแท้จริงก็เสร็จสมบูรณ์...... [วงแหวน] 『環』 ก็ใช้สิ่งเหล่านั้น ถอน [เสา] 『杭』 ที่ตรึงตนเองออก...... และแล้วตอนนี้ ก็ฟื้นคืนชีพมาจากห้วงลึกที่มืดมิด ------นั่นคือความเป็นจริงของขั้นที่ 3 งั้นหรือ"
ศจ. ไวส์แมน "คึคึคึ...... ตามนั้นแหล่ะ"
ศจ. ไวส์แมน "เพราะการทำงานของทุกคน ขั้นที่ 3 จึงสำเร็จลงด้วยดี!
จากนี้ไป [แผนการพระสุรเสียง] 『福音計画』 จะเข้าสู่ขั้นสุดท้าย------"
- จบบทที่ 7 ค่ะ
☆สำหรับบทนี้ไม่มี Sub-quest ค่ะ☆

previous: Chapter 6 ที่ที่สายสัมพันธ์คงอยู่
to be continued: Chapter 8 แผ่นดินอันยุ่งเหยิง



Related entries:
Sora no Kiseki SC (空の軌跡SC)


No comments:

Post a Comment