Saturday, October 21, 2017

[บทสรุป] Sora no Kiseki SC - Prologue Chapter การตัดสินใจของหญิงสาว

บทนำ การตัดสินใจของหญิงสาว
序章 乙女の決意
"ตั้งแต่ตอนแรกที่ได้พบเธอ... ชอบเธอมากที่สุด"
เพราะไม่อยากให้เหล่าคนสำคัญต้องพบกับอันตราย
โยชัวร์จึงได้ทิ้งคำกล่าวลาและหายตัวไปทั้ง ๆ อย่างนั้น
แต่ทว่า เอสเทลได้ตัดสินใจมุ่งมั่นที่จะพาโยชัรว์กลับมาให้ได้ และยังได้รับการแนะนำจากคาซิอุสผู้เป็นพ่อ ให้ไปเก็บตัวฝึกฝนเพื่อเตรียมพร้อมรับมือในการเผชิญหน้ากับองค์กรปริศนา "งูกินหาง" [Uroboros]
ความคิดคำนึงที่ไม่อาจลืมเลือน ทำให้การเดินทางเริ่มขึ้นอีกครั้ง!!
忘れられない、旅になる。


Walkthrough Chart - Main Quest
ราชวังแกรนเซล - ปีกขวา 『グランセル城・右翼』
- "เอสเทล" 『エステル』 ตื่นขึ้นมาในห้องพักรับรองของคาซิอุสและโยชัวร์ เธอพยายามนึกทบทวนเรื่องราวที่เกิดขึ้น เมื่อมองดูฮาร์โมนิก้าในมือ ทำให้รู้ว่าเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืนไม่ใช่ความฝัน
- พบกับ "เจ๊เชร่า" 『シェラザード』 ที่คิดว่าเมื่อคืนเอสเทลอยู่ด้วยกันกับโยชัวร์ทั้งคืน เพราะเจ๊เชร่าเองก็ไม่เห็นโยชัวร์เหมือนกัน จึงถามเอสเทลด้วยความสงสัยว่า
เชราซาร์ด "จะว่าไป เมื่อวานเธอเหนื่อยก็เลยไปนอนที่ห้องทางนั้นไม่ใช่เหรอ? ตอนที่ตื่นขึ้นมาไม่เห็นเขาหรอกเหรอ?"
เอสเทล "ชั้นเหนื่อย ก็เลยไปนอนงั้นเหรอ...... ปะ ไปได้ยินมาจากที่ไหน?"
เชราซาร์ด "ก็อาจารย์น่ะสิ......"
เอสเทล "คะ...... คุณพ่องั้นเหรอ!? ถ้าอย่างงั้น! เห็นคุณพ่อบ้างไม๊!?"
เชราซาร์ด "ถ้าอาจารย์ล่ะก็ เมื่อกี๊ขึ้นบันไดไปที่สวนลอยฟ้าแล้วล่ะ......"
- เอสเทลรีบวิ่งขึ้นไปที่สวนลอยฟ้า ปล่อยให้เจ๊เชร่าได้แต่ยืนสงสัยว่าเกิดอะไรขึ้น เธอจึงหยิบไพ่ท่าโรต์ขึ้นมาดู และสีหน้าที่เห็นไพ่แสดงออกถึงความไม่สบายใจและพึมพำออกมาว่า
เชราซาร์ด "[ไพ่คู่รัก] กลับหัว..."
สวนลอยฟ้า 『空中庭園』
- คุยกับป๋า "คาซิอุส" 『カジウス』
- คาซิอุสรู้เรื่องที่โยชัวร์จากไป เอสเทลร้อนใจมาก และบอกกับพ่อของเธอว่าให้รีบไปตามหาโยชัวร์ แต่คาซิอุสไม่ให้เอสเทลออกตามหาเขาโดยให้เหตุผลว่า "ถ้าโยชัวร์คิดจะหายตัวไปจากพวกเราจริง ๆ ล่ะก็ แม้แต่ตัวพ่อเองก็ไม่อาจหาเขาพบได้ เรื่องนี้เป็นเรื่องที่โยชัวร์ตั้งใจเอาไว้มาตั้งแต่เมื่อ 5 ปีก่อนแล้ว"
เอสเทล "ปัญหานี้หนูเคยสงสัยมาตั้งแต่เมื่อก่อนแล้ว...... โยชัวร์ เป็นใครกันแน่?......"
คาซิอุส "[งูกินหาง] 『身喰らう蛇』 ----- ในโลกนี้มีกลุ่มคนที่ใช้ชื่อนี้อยู่ หัวหอกที่นำกลุ่มคนกลุ่มนี้ได้รับการเรียกขานว่า [นายเหนือหัว] 『盟主』 ------- เป็นองค์กรที่เคลื่อนไหวภายในโลกมืด ดูเหมือนว่าโยชัวร์จะเคยสังกัดอยู่ที่นั่นมาก่อน บอกตามตรง สมาคมเบรเซอร์เองก็ยังไม่สามารถตามจับตัวตนที่แท้จริงของหน่วยงานนี้ได้ ถ้าคำนึงถึงผลกระทบที่มีแล้วล่ะก็ ส่งผลต่อโลกได้มากกว่าครึ่งเลยล่ะ"
- จากข้อมูลที่คาซิอุสบอกกับเอสเทล เป็นไปได้ว่าพันตรีโรแลนซ์นั่นก็คงจะเป็นพวกเดียวกับองค์กรนั้น และไม่น่าแปลกใจเลยที่จะมีคนอื่น ๆ ที่ออกมาเคลื่อนไหวด้วย เพราะโยชัวร์ก็เป็น 1 ในนั้นด้วยเหมือนกัน
- คาซิอุสบอกกับลูกสาวของตนว่าในจดหมายที่โยชัวร์เขียนทิ้งไว้ให้เขานั้นได้เล่าเรื่องราวทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นเรื่องที่โยชัวร์เป็นคนส่งข้อมูลต่าง ๆ ของสมาคมเบรเซอร์ให้กับองค์กรอย่างต่อเนื่องในช่วงที่ตนเองไม่รู้สึกตัว
- ดังนั้นแล้ว ไม่ว่ายังไงคาซิอุสก็ไม่ยอมให้เอสเทลตามหาโยชัวร์ เพราะเกี่ยวข้องกับองค์กรที่เราไม่รู้ตัวจริง ซึ่งเป็นเรื่องอันตรายเกินไป คาซิอุสได้บอกกับเอสเทลว่า
คาซิอุส "5 ปีก่อน ตอนที่โยชัวร์ยอมรับข้อเสนอยอมมาเป็นลูกบุญธรรมของพ่อ เจ้านั่นได้ให้คำปฏิญาณกับพ่ออยู่เรื่องคือ เมื่อเวลาที่ตัวตนที่แท้จริงของเขา ทำความเดือดร้อนให้กับลูกหรือกับพ่อ...... เมื่อเวลาที่อดีตที่เรียกว่าองค์กรใช้วิธีใด ๆ ก็ตามเข้าถึงตัวของเขาได้มาถึง เขาจะหายตัวไปจากพวกเรา"
- คาซิอุสจะเข้าใจความรู้สึกของเอสเทล และรู้ว่าความสัมพันธ์ที่เรียกว่าครอบครัวนั้นมันไม่สามารถตัดขาดกันได้ง่าย ๆ แต่ลูกผู้ชายนั้นเมื่อพูดแล้วก็ไม่คืนคำ ดังนั้นคาซิอุสจึงขอให้เอสเทลเข้าใจในความรู้สึกของโยชัวร์ด้วย
เอสเทล "รู้อยู่แล้วสิ...... รู้อยู่แล้วว่าสักวันหนึ่งโยชัวร์อาจจะหายหน้าไปจากหนู...... ......คุณพ่อ...... รู้อยู่แล้ว......"
คาซิอุส "......พ่อขอโทษ......"
เอสเทล "คุณพ่อบ้า!"
- "เจ๊เชร่า" ที่เพิ่งตามเอสเทลขึ้นมา เห็นเอสเทลร้องไห้วิ่งหนีไป
- คาซิอุสเห็นลูกศิษย์ตัวเองนิ่งเงียบ จึงถามเธอว่า "ไม่ตำหนิชั้นหน่อยเหรอ"
- เจ๊เชร่านั้นไม่อาจต่อว่าอะไรอาจารย์ของเธอได้
เชราซาร์ด "ที่ชั้นเป็นได้อย่างทุกวันนี้ ก็เพราะอาจารย์คอยช่วยเหลือ และก็ไม่ใช่ไม่เข้าใจความรู้สึกของอาจารย์กับโยชัวร์ แต่คำ ๆ เดียวที่ชั้นจะขอพูดในฐานะของผู้หญิงก็คือ ทั้งอาจารย์ ทั้งโยชัวร์ แย่ที่สุด"
ราชวังแกรนเซล 『グランセル城』
- เอสเทลวิ่งออกมานอกราชวัง สายฝนเริ่มโปรยปรายลงมา ทหารเดินยามเห็นเอสเทลเดินตากฝนอยู่คนเดียว ก็นึกว่าเป็นคนที่มาทัศนศึกษาในพระราชวัง จึงบอกให้เธอรีบกลับบ้านเร็ว ๆ ดีกว่าเพราะฝนลงเม็ดแล้ว
- เมื่อเอสเทลได้ยินทหารยามพูดว่าให้กลับบ้าน ทำให้เธอคิดไปเองว่าโยชัวร์ก็อาจจะไม่ได้ไปไหน แต่คงจะกลับไปที่บ้านแน่นอน
- ว่าแล้วดังนั้น เอสเทลจึงตัดสินใจไปหาโยชัวร์ที่บ้านตระกูลไบรท์
เซชิเรีย 『セシリア号』
"เอสเทลของผม.... เธอเป็นดังดวงตะวันอันเจิดจ้า แค่อยู่ด้วยกันกับเธอ ผมก็มีความสุขแล้ว
แต่ว่า ในขณะเดียวกัน ก็รู้สึกเจ็บปวดด้วยเช่นกัน...
เปรียบได้ดังแสงสว่างสดใส ที่ทำให้เงาชัดเจนขึ้น...
ยิ่งอยู่ด้วยกันกับเธอ ผมก็ยิ่งรู้สึกถึงนิสัยแท้จริงอันน่ารังเกียจของตัวเอง...
ดังนั้น ผมเคยคิดว่าหากเราไม่ได้พบกัน คงจะดีกว่านี้
"
- บนดาดฟ้าของเรือเหาะประจำทาง เอสเทลได้แต่ครุ่นคิดถึงคำพูดของโยชัวร์และพึมพำออกมาว่า "ชั้น...... ทำร้ายโยชัวร์งั้นเหรอ? โยชัวร์ถึงได้พูดว่าถ้าไม่ได้พบกันก็คงจะดีกว่านี้...... ......ชั้น......"
- พบกับผู้ชายที่ดูท่าทางร่าเริงผมเขียว (เควิน) เข้ามาจีบ
ชายหนุ่มท่าทางเบาสมอง "สนใจเธอ ตั้งแต่ตอนที่เห็นเธอขึ้นเรือเหาะมา ดูเหมือนว่าเธอจะไม่ค่อยร่าเริง ก็เลยอยากจะใช้การพูดที่ยอดเยี่ยมของชั้นสร้างรอยยิ้มให้เธอน่ะ แหม คิดแบบนั้นจริง ๆ น๊า"
- เอสเทลไม่ค่อยเข้าใจเรื่องที่ชายแปลกหน้าคนนี้พูดเท่าไรนัก จึงกล่าวขอบคุณเขาไป ทำใหชายหนุ่มผมเขียวยิ่งรุกหนักเข้าไปอีก และชวนเอสเทลไปหาอะไรดื่มกันที่ห้องชมวิวในเรือเหาะ
เอสเทล "......เรื่องนั้น ขอบคุณสำหรับความรู้สึกนะ แต่ชั้นไม่มีอารมณ์อย่างนั้น...... ......ขอโทษด้วย......"
ชายหนุ่มท่าทางเบาสมอง "ถ้างั้น หยุดจีบเล่น ๆ แล้วล่ะ เปลี่ยนเป็นงานจริง ๆ ดีกว่าดีไม๊? การชี้ทางสว่างให้กับลูกแกะที่หลงทางก็เป็นงานอย่างหนึ่งเหมือนกัน"
เอสเทล "งานจริง ๆ .......?"
- ชายหนุ่มผมเขียวดึงสร้อยที่มีรูปถ้วยสลักเอาไว้ที่แขวนไว้กับเข็มขัดของเขาออกมาให้เอสเทลดู ซึ่งนั่นก็คือสัญลักษณ์ของโบสถ์เจ็ดจรัส "สัญลักษณ์แห่งจอกดารา"
- เควินจึงแนะนำตัวเองและบอกว่า
หลวงพ่อเควิน "ถึงเห็นอย่างนี้ ชั้นก็เป็นบาทหลวงแห่งโบสถ์เจ็ดจรัสนะ ไม่เคยว่างเว้นการภาวนาทั้ง 3 เวลา ส่วนบทสวดก็ นี่ไง พกติดตัวไปไหนมาไหนไม่เคยห่าง....... (เควินคลำหาหนังสือสวดมนต์) .......โทษที ลืมเอาไว้ตรงที่นั่งน่ะ"
- เอสเทลเห็นเควินทำอะไรเปิ่น ๆ จึงทำให้เธอยิ้มออกนิดหน่อย เควินเห็นเอสเทลยิ้มได้ก็ดีใจมาก
หลวงพ่อเควิน "นั่นแหล่ะ ๆ เด็กน่ารัก ๆ เนี่ยไม่ยิ้มไม่ได้จริง ๆ ด้วยนะ เอาเถอะ ลงเป็นแบบนี้ล่ะก็ ถ้าไม่รังเกียจก็มาปรึกษากับหลวงพ่อคนนี้ได้เลยนะ จะไม่จีบเล่น ๆ แล้วล่ะ สาบานกับเทพธิดาแห่งท้องฟ้าเลยเอ้า"
เอสเทล "อะ อืม ตะ แต่ว่า...... แล้วจะปรึกษาเรื่องแบบไหนดีล่ะ...... ชั้น......"
- เอสเทลไม่สามารถกลั้นน้ำตาแห่งความเสียใจเอาไว้ได้อีกต่อไป เธอปล่อยโฮออกมาต่อหน้าเควิน
- เควินเห็นเอสเทลร้องไห้อย่างนั้นก็ขอโทษ เพราะพอจะรู้ว่าเอสเทลคงอดทนและกลั้นน้ำตาไม่ให้ไหลจนถึงเมื่อตะกี๊นี้ เขาเลยบอกให้เอสเทลร้องไห้จนกว่าจะสบายใจขึ้นค่ะ
- ที่ห้องชมวิว เอสเทลจะขอโทษเควินที่เธอให้สภาพของเธอแบบนั้น แต่เควินไม่ว่าอะไรและบอกเอสเทลว่าดีแล้วที่เธอรู้สึกดีขึ้น
- เอสเทลจึงแนะนำตัวเองกับเควินค่ะ แต่เควินก็ยังติดนิสัยจีบไปทั่ว ยังออกปากชมเอสเทลว่า
หลวงพ่อเควิน "แม้แต่ชื่อยังน่ารักเลย...... เอ๊ะ สมาคมเบรเซอร์......"
เอสเทล "เหะเหะ ถึงจะให้เห็นท่าทางน่าอายแบบนั้น แต่ก็เป็นเบรเซอร์จริง ๆ นะ ดูไม่เหมือนเลยใช่ไม๊ล่ะ"
หลวงพ่อเควิน "ไม่หรอก ไม่ใช่อย่างนั้น ถ้าดูดี ๆ เธอเหมาะมากเลยนะ แล้วใช้วิชาอะไรล่ะ?"
เอสเทล "วิชาพลองน่ะ แต่ได้แค่นิดเดียวนะ แล้วคุณเควินเป็นบาทหลวงของโบสถ์จริง ๆ เหรอ? ดูยังไงก็ไม่เห็นจะเหมือนเลย"
หลวงพ่อเควิน "อ๊า เต็ม ๆ เลยน๊า เอาน่า ชั้นน่ะ เป็นบาทหลวงลาดตระเวน เพราะงั้นก็เลยดูแตกต่างออกไปนิดหน่อย"
เอสเทล "บาทหลวงลาดตระเวน?"
หลวงพ่อเควิน "ก็ มีหมู่บ้านที่ไม่มีโบสถ์ตั้งอยู่ใช่ไม๊ล่ะ? บาทหลวงลาดตระเวนจะไปเยี่ยมเยือนหมู่บ้านที่ว่านั่นอย่างสม่ำเสมอ แล้วก็ทำงานอย่าง นำสวดภาวนาหรือสอนเด็ก ๆ ในโรงเรียนวันอาทิตย์ไงล่ะ เป็นบริการนอกสถานที่ของทางโบสถ์นั่นแหล่ะ"
เอสเทล "เป็นงั้นเอง... มีบาทหลวงแบบนั้นอยู่ด้วย"
- จริง ๆ แล้วเควินเพิ่งจะมาถึงที่ลีเบร์ลนี่เอง เขาได้รับคำสั่งจากสำนักงานใหญ่ให้มา เพราะดูเหมือนว่าที่นี่จะมีบาทหลวงลาดตระเวนไม่เพียงพอ
(จากตรงนี้ ทำให้เราทราบว่าสำนักงานใหญ่ของโบสถ์เจ็ดจรัสตั้งอยู่ที่ "ธรรมจักรอัลเทเรีย" 『アルテリア法国』 ตรงใจกลางของทวีปเซมเรียแห่งนี้ค่ะ)
- ซึ่งก่อนที่เควินจะไปรายงานตัวเข้ารับตำแหน่งกับพระราชาคณะที่มหาวิหารแกรนเซล ก็เลยถึงโอกาสนี้ทำการท่องเที่ยวก่อนค่ะ
(เอสเทลเลยไม่ค่อยจะเชื่อเลยว่าบาทหลวงยังงี้ก็มีด้วย แถมเควินยังพูดอีกว่าที่ได้เจอกับเด็กน่ารัก ๆ อย่างนี้ ก็เพราะการชี้นำของเทพธิดาอีกด้วย)
- เอสเทลบอกว่ากับเควินว่า เธอร้องไห้แบบนั้นโยชัวร์คงจะคาดไม่ถึงแน่นอน
เอสเทล "อ๊ะ โยชัวร์น่ะ เป็นเด็กผู้ชายที่เหมือนพี่น้องของชั้นน่ะ จู่ ๆ ก็หายตัวไป ชั้นก็เลยตกใจนิดหน่อย..."
หลวงพ่อเควิน "จู่ ๆ ก็หายตัวไป... หนีออกจากบ้านเหรอ?"
เอสเทล "อะอืม ไม่ใช่หรอก คงจะกลับไปที่บ้านก่อนเท่านั้นแหล่ะ ก็เป็นครอบครัวเดียวกันนี่นา จะไม่อยู่ตามอำเภอใจได้ไงล่ะ"
- เควินนิ่งเงียบและดูเหมือนว่าเขาจะรู้สึกถึงความผิดปกติในเรื่องที่เอสเทลเล่า
เอสเทล "แต่ว่า พลาดจัง ๆ เลยน๊า คงจะกะจังหวะสารภาพได้ไม่ดีสินะ ถ้าเจอโยชัวร์ล่ะก็ ต้องทำเป็นร่าเริงให้มากกว่านี้หน่อยแล้วล่ะ"
หลวงพ่อเควิน "...........นี่ เอสเทลจัง"
เอสเทล "เห?"
หลวงพ่อเควิน "ไม่มีอะไร.... เอางี้ดีไม๊ เมื่อกี๊ชั้นก็พูดไปแล้วว่ากำลังอยู่ระหว่างการท่องเที่ยว แล้วก็ไม่มีธุระอะไรเป็นพิเศษด้วย ชั้นว่าจะลงที่เมืองรอเลนซ์อะไรนั่น แล้วจะพาเอสเทลจังไปส่งที่บ้านก็แล้วกัน"
เอสเทล "เอ๋!!!"
เมืองรอเลนซ์ 『ロレント市』
- หากคุยกับคนในเมืองจะรับทราบความเป็นไปของทุก ๆ คนที่เมืองนี้นะคะ แถมยังเรายังสามารถรู้ได้ด้วยว่าคนในเมืองรอเลนซ์รักและเป็นห่วงเอสเทลมากขนาดไหนค่ะ
☆ไม่บังคับนะคะว่าต้องคุยกับคนในเมือง จะตรงดิ่งไปที่บ้านตระกูลไบรท์เลยก็ได้ค่ะ☆
★หากคุยกับ "อลัน" 『アラン』 ประชาสัมพันธ์ที่ท่าเทียบเรือเหาะ คราวนี้เขาจะให้คะแนนเอสเทล "82 คะแนน" ค่ะ
(อลันชอบมองผู้หญิงที่เดินไปผ่านไปมาแล้วให้คะแนนความมีเสน่ห์ค่ะ ถ้าหากมาคุยกับเขาอีกครั้งหลังจากเอสเทลเปลี่ยนชุดใหม่ คะแนนที่ได้จะกระฉูดไปอยู่ที่ "90 คะแนน" เลยนะคะ และแน่นอนว่าในบทถัด ๆ ไป หากนำเพื่อนผู้หญิงคนอื่น ๆ มาคุยกับเขาก็จะมีคะแนนให้ด้วยเหมือนกันค่ะ)
★คุยกับ "แพต" 『パット』 ที่เล่นอยู่แถว ๆ หอนาฬิกา เขาจะบอกว่าลุคเริ่มหัดเรียนดาบแล้วค่ะ
★ส่วน "ลุค" 『ルック』 ก็พูดจาข่มเอสเทลอีกตามเคย และเขาบอกว่าอยากจะดวลกับเอสเทลด้วยค่ะ
(จริง ๆ แล้วเด็กคนนี้ชอบเอสเทลนะคะ แต่อายที่จะแสดงออกมาค่ะ)
★คุยกับ "ฟอล์คเนอร์" 『フォークナー』 ในบาร์อาเบนด์ เขาจะบอกว่าก่อนหน้านี้เจ๊เชร่าพาผู้ชายผมทองมาด้วย แล้วผู้ชายคนนั้นก็ดื่มกับคุณไอน่าโดยไม่รู้อะไรเลย เขาก็เลยมองว่าไอ้ที่บอกว่าตัวเองเป็นหมาป่า ดันกลายเป็นลูกแกะไปซะอย่างนั้น
★คุยกับ "เอลิซซ่า" 『エリッサ』 เพื่อนกลุ่ม 3 สาวของเอสเทล เธอจะกระซิบถามว่าโยชัวร์ไปไหน แล้วผู้ชายคนนั้นเป็นใครกัน (เอลิซซ่าเชียร์เอสเทลกับโยชัวร์อยู่ค่ะ เลยหึงแทน)
(หากคุยกับเอลิซซ่าอีกครั้งเธอจะบอกว่า ทีโอ 『ティオ』 (เพื่อนกลุ่ม 3 สาวอีกคน) แล้วก็พวกเด็ก ๆ ที่ไร่เพอเซลก็คิดถึงเอสเทลมากเหมือนกันค่ะ)
★คุยกับ "คลูเซ่" 『クルーセ』 เด็กผู้หญิง (ที่อยากเป็นนักข่าวในอนาคต) ที่เดินไปเดินมาแถว ๆ บาร์อาเบนด์ เธอจะทึกทักเอาว่านายเนี่ยเข้ามาแทรกความสัมพันธ์ระหว่างเอสเทลกะโยชัวร์ทำให้เกิดเรื่องรัก 3 เส้าใช่ปะ (เควินจะบอกว่าคลูเซ่เป็นเด็กที่สุดยอดจริง ๆ)
★ที่บ้านข้าง ๆ บาร์อาเบนด์ บนชั้น 2 คุยกับ "หัวหน้ากองแอสตอน" 『アストン隊長』 พ่อของลุค (ปกติแอสตอนจะประจำการอยู่ที่ประตูกริวเน่ค่ะ) จะรู้ว่าเขาเป็นคนสอนวิชาดาบให้กับลุคค่ะ
★คุยกับ "เซร่า" 『セーラ』 แม่ของแพตจะบอกว่าแพตชอบอ่านหนังสือมาก ๆ ค่ะ
(ก็คงเจริญรอยตาม "เรโทร่า" พ่อเขานั่นล่ะค่ะ)
★หากไปคุยกับ "ยูนิ" 『ユニ』 ลูกสาวของ "เฟท" 『フェイト』 เพื่อนสมัยเป็นทหารของคาซิอุส (บ้านที่อยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ของเมืองค่ะ) ยูนิจะบอกว่าลุคเอาแต่พูดถึงเอสเทลอย่างเดียวเลย เอสเทลเลยงงว่า ลุคเนี่ยนะพูดถึงเอาแต่พูดถึงเธอ
★หากไปคุยกับ "สังฆราชดีไวน์" 『ディバイン教区長』 ที่โบสถ์ เควินจะแนะนำตัวกับสังฆราช ซึ่งสังฆราชก็ทราบเรื่องที่จะมีบาทหลวงลาดตระเวณจากสำนักงานใหญ่มาที่ลีเบร์ลอยู่แล้วค่ะ แล้วสังฆราชจะสังเกตเห็นสภาพของเอสเทลไม่เหมือนเคย จึงกระซิบกับเควิน ฝากให้ช่วยดูแลเอสเทลด้วย ซึ่งเควินก็ยินดีค่ะ
★หากไปคุยกับ "เมลเดิร์ซ" 『メルダーズ』 ที่โรงงานออร์บเมนท์ เขาจะบอกว่า "ฟรายดี้" 『フライディ』 ไปที่ไซสส์เพื่อไปเรียนรู้วิธีใช้งานของ "ออร์บเมนท์สำหรับการต่อสู้ รุ่นใหม่" ค่ะ
★หากไปคุยกับ "ริต้า" 『リタ』 เมดของคฤหาสน์นายกเทศมนตรี เธอจะบอกว่าทั้งนายกเทศมนตรีและภริยาคงจะยังอยู่ระหว่างการท่องเที่ยวที่แกรนเซลค่ะ
★หากไปคุยกับ "รินอน" 『リノン』 ที่ร้านสารพัดอย่าง เขาจะบอกเอสเทลว่าจะมีรองเท้าผ้าใบรุ่นใหม่ ของสเตรเกอร์ออกวางจำหน่ายในเร็ว ๆ นี้ ซึ่งเควินจะพูดขึ้นมาว่าคงจะเป็นรุ่นฉลองครบรอบ 50 ปีของบริษัทสเตรเกอร์
(จากตรงนี้ ทำให้เราทราบว่าเควินก็เป็นแฟนพันธุ์แท้ของรองเท้ายี่ห้อนี้เหมือนกันกับเอสเทลเลยค่ะ)
ว่าแล้วเควิน ก็โชวร์รองเท้าที่ใส่อยู่ให้เอสเทลกับรินอนดูค่ะ เอสเทลจะตกใจเพราะรองเท้าคู่ที่เควินใส่อยู่เป็นรุ่นที่ไม่มีขายในลีเบร์ลค่ะ ซึ่งเอสเทลเคยเห็นในนิตยสารเท่านั้น เธอเคยอยากได้รองเท้าคู่นี้มาก ๆ แต่มันหาซื้อไม่ได้น่ะ ทำให้เควินได้ทีหยอดมุขขนมจีบใส่เอสเทลอีกรอบว่า
"ชอบอะไรเหมือน ๆ กัน แสดงว่านี่ก็ต้องเป็นการชี้นำของท่านเทพธิดาแน่ ๆ เลย" แต่ว่า ทำไมบาทหลวงของโบสถ์ถึงใช้รองเท้าผ้าใบได้ล่ะ
(แม้แต่รินอนยังแทบไม่เชื่อสายตาตัวเองว่าเควินเป็นบาทหลวง!!)
★หากขึ้นไปคุยกับ "คุณป้าบลูม" 『ブルーム婆さん』 ที่ชั้น 2 เธอก็ยังขยันหาเจ้าสาวไปทั่วให้กับรินอนลูกชายหัวแก้วหัวแหวน
(จริง ๆ แล้วป้าแกหาเจ้าสาวให้รินอนมาตั้งกะภาค FC แล้วค่ะ แม้แต่เจ๊เชร่ากะไอน่ายังเคยโดนทาบทามมาแล้วเลย แต่ตัวรินอนเองยังไม่อยากแต่งค่ะ)
★หากไปคุยกับ "เอลเกอร์" 『エルガー』 ที่ "บริษัทค้าอาวุธเอลเกอร์" ครอบครัวที่สนิทกับครอบครัวของเอสเทลตั้งแต่เรน่าแม่เอสเทลยังอยู่ เอสเทลจะถามลุงเอลเกอร์ว่าโยชัวร์ไม่ได้แวะมาที่นี่หรอกเหรอ คงจะกลับบ้านไปก่อนแล้วแน่เลย ทำให้เควินได้แต่นิ่งเงียบค่ะ
(หากคุยกับเอลเกอร์อีกครั้ง เขาจะพยายามบอกอะไรเอสเทลบางอย่าง (เรื่องโยชัวร์) แต่ก็เปลี่ยนใจไม่บอก เพราะกลัวเธอเสียใจค่ะ)
★ที่ชั้น 2 "สเตล่า" 『ステラ』 จะเป็นห่วงเอสเทลมากและก็อยากเจอโยชัวร์ด้วยเหมือนกัน แล้วเธอก็อยากให้เอสเทลเล่าเรื่องที่พวกเธอออกเดินทาง เควินจึงแทรกขึ้นมา บอกว่ามีเรื่องไม่ดีเกิดขึ้นทำให้เอสเทลต้องรีบไปค่ะ
★หากไปคุยกับ "ไอน่า" 『アイナ』 ที่สาขา เธอจะประหลาดใจที่เอสเทลมาอยู่ที่นี่ ทั้ง ๆ ที่ตอนนี้ต้องอยู่ที่นครหลวง เอสเทลเลยบอกว่าโยชัวร์กลับมาที่บ้านเธอเลยมาตามโยชัวร์ค่ะ พอได้ยินดังนั้น ไอน่าก็เลยสังเกตเห็นความผิดปกติที่เกิดขึ้นกับเอสเทลค่ะ
(หากคุยกับไอน่าอีกครั้ง เธอจะกระซิบบอกกับเควินที่เป็นบาทหลวงว่า ถึงแม้เธอไม่รู้ว่ามีอะไรเกิดขึ้น แต่ขอให้เขาช่วยดูแลเอสเทลเผื่อเธอด้วยค่ะ เอสเทลได้แต่สงสัยว่าทั้ง 2 คนพูดอะไรกัน)
- ใช้ "ทางหลวงเอรีซ" มุ่งสู่บ้านตระกูลไบรท์ได้เลยค่ะ
บ้านตระกูลไบรท์ 『ブライト家』
- เมื่อมาถึง เอสเทลจะเข้าไปหาโยชัวร์ในบ้านและบอกว่าจะพาโยชัวร์มาให้เควินรู้จัก
- เมื่อเอสเทลเข้าไปในบ้านแล้ว เควินก็ได้แต่มองเอสเทลคล้อยหลังไป
หลวงพ่อเควิน "ไม่รู้หรอกนะว่าเป็นไอ้ผู้ชายแบบไหน แต่รู้ไม๊ว่าทำบาปลงไปแล้วน่ะ"
- เอสเทลจะเข้าไปหาโยชัวร์ในบ้าน ที่ชั้น 2 เธอจะตั้งความหวังไว้ว่า "...จริงสิ ไม่แน่นะ โยชัวร์อาจจะอยู่ในห้องของของชั้นก็ได้ ไม่รู้ว่าจะเอาชุดชั้นในออกมาหรือเปล่าด้วยสิ"
- แต่เมื่อเข้าไปก็ไม่เจอใคร ทำให้เธอพึมพำแก้ตัวไปว่า
เอสเทล "แหม ถ้าเป็นโยชัวร์ล่ะก็ ถึงเห็นชุดชั้นในของชั้นก็คงจะเฉย ๆ อยู่แล้วล่ะมั๊ง..."
- ดังนั้น เอสเทลจึงเข้าไปในห้องของโยชัวร์ แต่พบว่าในห้องมีแต่ความว่างเปล่า ไม่มีแม้แต่วี่แววของโยชัวร์
เอสเทล "...อา อ๊ะฮะ... งั้นหรอกเหรอ..."
- เอสเทลถึงกับหมดแรงทรุดลงไปนั่งกองกับพื้น
เอสเทล "...ชั้นนี่... บ้าจริง.."
- เควินเดินเข้ามาในห้องและพูดขึ้นมาว่า
หลวงพ่อเควิน "เขาคนนั้น... ดูเหมือนว่าจะไม่อยู่สินะ"
เอสเทล "............................."
หลวงพ่อเควิน "หรือว่าอาจจะ กลับมาที่บ้านแล้วครั้งหนึ่ง แล้วออกไปในเมืองหรือเปล่าล่ะ"
เอสเทล "...ไม่หรอก..."
หลวงพ่อเควิน "ฟู่... ในที่สุดก็ตาสว่างแล้วสินะ"
เอสเทล "............................. จริงด้วยสินะ ในที่สุดก็เข้าใจ... ว่าโยชัวร์จากไปและจะไม่กลับมาที่บ้านหลังนี้อีกแล้ว... เข้าใจอย่างแจ่มแจ้งเลยล่ะ..."
หลวงพ่อเควิน "งั้นเหรอ..."
เอสเทล "ก็นะ... เพราะว่าห้องนี้เป็นที่สุดท้ายแล้ว ที่อื่น ๆ ที่โยชัวร์อยู่ ชั้นคิดไม่ออกหรอก... เพราะงั้น... มันจบแล้วล่ะ ชั้น... จะไม่ได้พบกับโยชัวร์อีกเป็นครั้งที่ 2..."
หลวงพ่อเควิน "....................... ตัดใจซะแล้ว ไม่เร็วไปหน่อยหรือไง?"
เอสเทล "...?"
- เควินเดินไปใกล้ ๆ เอสเทล
หลวงพ่อเควิน " ท้ายที่สุดแล้ว ชะตากรรมจะเป็นยังไงก็มีแต่เทพธิดาที่มองเห็น หรือถ้าไม่คิดจะถูกผูกไว้กับสิ่งนั้น จะตัดใจมันเร็วเกินไปนะ ที่สำคัญก็คือเอสเทลจังอยากจะทำอย่างไหนล่ะ?"
เอสเทล "ตะ แต่ว่า... มันไม่มีทางไหนที่จะตามหาโยชัวร์ได้แล้ว..."
หลวงพ่อเควิน "ไม่หรอก มันไม่ใช่อย่างนั้นอยู่แล้ว เขาคนนั้นเป็นคนยังไงชั้นก็ไม่รู้หรอกนะ... แต่คงไม่ใช่คนที่อยู่ ๆ หายตัวไปโดยไม่มีสาเหตุหรอกนะ"
เอสเทล "...เอ๊ะ..."
หลวงพ่อเควิน "ช่วงนี้เขาคนนั้นมีอะไรแปลก ๆ อย่างพวกคำพูดหรือการกระทำบ้างไม๊ล่ะ? เช่นว่า มีอะไรแปลก ๆ เกิดขึ้นที่ดูเหมือนว่าจะเกี่ยวพันถึงเขาน่ะ เป็นเรื่องที่มีแต่เธอที่อยู่ด้วยกันตลอดเวลาเท่านั้นที่รู้น่ะ?"
เอสเทล "...อ๊ะ...!"
- เพราะคำพูดของเควิน ทำให้เอสเทลพยายามนึกถึงเรื่องราวต่าง ๆ ของโยชัวร์ในช่วงที่เขาดูแปลก ๆ ไป
เอสเทล "อ๊ะ...! ที่โยชัวร์เริ่มแปลก ๆ ไป ก็ตั้งแต่ตอนที่กลับมาจากที่แวะพักผ่อน... ...ไม่จริง ...ทำไม? ทำไมชั้นถึงนึกหน้าของคนที่พบกันตอนนั้นไม่ออกล่ะ?"
หลวงพ่อเควิน "ปะ เป็นไรรึเปล่า? สีหน้าแย่มากเลย"
เอสเทล "อะอืม... ไม่เป็นไร..."
- เอสเทลมีสีหน้าที่มุ่งมั่นขึ้นมา เธอลุกยืนขึ้น
เอสเทล "งั้นเหรอ... เป้าหมายของโยชัวร์คือหยุดยั้งผู้ใช้มนตราที่ชั่วร้าย ถ้าคนที่ชั้นพบในตอนนั้นคือผู้ใช้มนตรานั่นล่ะก็ ถ้านั่นเป็นพวกคนที่ชักใยอยู่เบื้องหลังเหตุการณ์ปฏิวัติ... แล้วผู้ใช้มนตราชั่วร้ายยังคงวางแผนทำอะไรสักอย่างที่ลีเบร์ล งั้น ถ้าชั้นที่เป็นเบรเซอร์สามารถหยุดผู้ใช้มนตราได้ล่ะก็... ...ไม่แน่ว่า..."
- "...ตาสว่างซักทีนะ" เสียงชายคนหนึ่งพร้อมกับเสียงเปิดประตูดังขึ้น
เอสเทล "คุณพ่อ เจ๊เชร่า!? ทะ ทำไมถึงมาอยู่ที่นี่ได้...?"
หลวงพ่อเควิน "...โทษนะ เอสเทลจัง ตอนที่ลงจากเรือประจำทาง ชั้นเป็นคนแจ้งไปที่กิลด์สาขานครหลวงเองน่ะ"
เอสเทล "เอ๋...."
เชราซาร์ด "ทำให้ตกอกตกใจกันหมดเลยนะ พอไปที่กิลด์เพื่อจะหาเธอแล้วก็มีคนติดต่อเข้ามาพอดี ก็เลยขอให้เรือเหาะออกมาก่อนและมาที่นี่พร้อมกับอาจารย์ไงล่ะ"
เอสเทล "อา..."
คาซิอุส "ก็ อย่างที่ว่านั่นแหล่ะ หลวงพ่อเควินใช่ไม๊? ที่ติดต่อเข้ามาช่วยได้มากจริง ๆ ขอบใจนะ"
หลวงพ่อเควิน "ไม่เป็นไร ไมใช่เรื่องใหญ่โต อันที่จริงเป็นแค่คนนอกแต่ดันเข้าไปยุ่งวุ่นวายด้วย ต้องขอโทษจริง ๆ นะคร้าบ"
เอสเทล "อะ คือว่า... คุณพ่อ หนูน่ะ..."
คาซิอุส "รู้อยู่แล้วล่ะ ...ที่บอกไม่ให้ลูกออกตามหาน่ะ มันก็แค่อีโก้ของพ่อเอง ถ้าว่ากันตามเหตุผลแล้ว ในฐานะที่เป็นผู้ชาย ในฐานะที่เป็นพ่อ พ่อก็จะไม่บังคับลูกไปมากกว่านี้แล้วล่ะ และก็จะได้ไม่ถูกเชราซาร์ดต่อว่าอีก"
เอสเทล "เจ๊เชร่า..."
เชราซาร์ด "หึหึ คราวนี้ชั้นเข้าข้างเธอเต็มที่เลยนะ"
คาซิอุส "พ่อทำใจแล้วล่ะ...แต่ดูเหมือนว่ากับเรื่องที่เจ้านั่นไม่อยู่แล้ว พ่อคงอดทนได้ไม่เท่าที่คิดเอาไว้ เพราะฉะนั้นอย่างน้อย พ่อจึงไม่อยากให้ลูกเดินไปสู่หนทางที่เต็มไปด้วยอันตราย ไม่อยากให้ลูกเป็นเหมือนกับเรน่าที่ช่วยชีวิตลูกเอาไว้ ...แต่ไอ้ที่คิดอย่างนั้น ดูเหมือนพ่อจะทำผิดต่อลูกและก็ผิดต่อแม่ด้วยเหมือนกัน ในเมื่อเรื่องมาถึงขั้นนี้แล้วพ่อก็จะให้ลูกรับรู้เอาไว้"
เอสเทล "คุณพ่อ..."
คาซิอุส "เพื่อที่จะจัดตั้งกองทัพให้เข้าที่เข้าทางใหม่ พ่อต้องลงไปทำงานตรงนี้นานซักหน่อย น่ากลัวว่าที่เกิดเรื่องแบบนั้นขึ้น ก็คงจะเป็นเป้าหมายของพวกมันด้วยนั่นล่ะ... ในคราวนี้พ่อคงไม่สามารถช่วยลูกได้เท่าที่ควร ถึงจะเป็นอย่างนั้นก็ไม่เปลี่ยนแปลงการตัดสินใจใช่ไม๊?"
เอสเทล "...อืม ถึงหนูจะยังด้อยประสบการณ์ แต่ก็คงจะมีแต่วิธีนี้นั่นแหล่ะ... หนู จะลองดู จะยับยั้งแผนการของ [งูกินหาง] แล้วพาโยชัวร์กลับมาให้ดู!"
คาซิอุส "อย่างงั้นหรือ... ถ้าอย่างนั้น พ่อก็ไม่มีอะไรจะพูดแล้ว ในฐานะที่เป็นเบรเซอร์และก็ในฐานะที่เป็นผู้หญิง ลูก ก็ไปตามทางของลูกแล้วกัน"
เอสเทล "...คุณพ่อ..."
- เอสเทลเดินเข้าไปกอดพ่อของเธอ
เอสเทล "หนู... หนู..."
คาซิอุส "จริงสิ... ลืมพูดเรื่องสำคัญไปเลย"
เอสเทล "เอ๊ะ...?"
คาซิอุส "เอสเทล ยังไงก็ตามฝากด้วยนะ พาโยชัวร์ --------------- พาเจ้าลูกบ้า ๆ นั่นกลับมาให้พ่อด้วย"
เอสเทล "...อา... อืม...เข้าใจแล้ว... เพื่อที่ทุกคนจะได้ใช้ชีวิตด้วยกันที่บ้านหลังนี้อีกครั้ง ไม่ว่ายังไงก็ต้องพาโยชัวร์กลับมาให้ได้!..."






2 เดือนให้หลัง------
ทวีปเซมเรีย แถบตะวันตกกลาง เขตปกครองตนเองเรแมนกลางหุบเขาลึก --------
สถานที่ฝึกซ้อม ลู=ลอคเคิล---------- สมาคมเบรเซอร์

ลู=ลอคเคิล 『ル=ロックル』
- ลานฝึกซ้อมกลางหุบเขาเสียงปะทะกันของอาวุธดังขึ้น ปรากฏร่างของหญิงสาว 2 นาง
เอสเทล "ลุยล่ะนะ คุณอาเนราส! คลื่นแยก-------ไร้ต้าน!"
อาเนราส "หวะ หวา รุนแรงสมชื่อเลยนะ แต่ว่า... ต่อไปเป็นตาของทางนี้บ้างล่ะ เพลงดาบ------ แปดกลีบพิฆาต!"
- ในขณะที่ 2 สาวกำลังซ้อมมือกันอย่างเมามันส์ "ผู้ดูแลฟีริส" 『管理人フィリス』 จะมาเรียกให้สาวทั้ง 2 ไปกินข้าวเช้าที่อาคารพักแรม เพื่อเตรียมรับมือกับการฝึกซ้อมสุดหฤโหดของรุ่นพี่คูลซ์ค่ะ
- ทานข้าวเสร็จแล้ว เอสเทลจะคุยกับอาเนราสถึงเรื่องฝึกซ้อมที่นี่ค่ะ
(ตรงนี้ จะรู้ว่าเอสเทลมาอยู่ที่นี่ได้ 3 สัปดาห์แล้วค่ะ)
- เอสเทลจะบอกว่ารู้สึกประหลาดใจนิดหน่อย ที่คุณคูลซ์เป็นอาจารย์ฝึกสอนอยู่ที่นี่ แถมไม่คิดว่าคนที่จะมาเป็นคู่ฝึกซ้อมด้วยจะเป็นอาเนราสน่ะค่ะ
อาเนราส "อื~ม คงเพราะว่าฉันได้เป็นเบรเซอร์ทางการหลังจากที่เป็นเด็กใหม่มาได้ประมาณครึ่งปีล่ะมั๊ง แล้วพอได้ฟังเรื่องของเอสเทลจังจากรุ่นพี่เชร่า ก็คิดว่าจะฝึกด้วยกันกับเอสเทลจังน่ะ แถมได้ยินมาว่าพวกรุ่นพี่ก็ชอบมาฝึกฝนในสถานที่ฝึกซ้อมแห่งนี้ตั้งแต่เมื่อก่อนด้วย"
เอสเทล "งั้นเหรอ... แต่ว่า ถึงขนาดมีสถานที่แบบนี้อยู่ด้วย กิลด์เองก็เป็นองค์กรที่กว้างขวางมาก ๆ เลยนะนี่ ตอนแรกที่ได้ฟังจากพวกคุณพ่อยังไม่ค่อยจะเชื่อเท่าไรเลย..."
- เอสเทลนึกถึงเหตุการณ์ก่อนหน้านี้ที่บ้านตระกูลไบรท์
คาซิอุส "-------ตามที่บอก พ่อไม่คิดที่จะขัดขวางลูกแล้ว แต่ถ้าพูดกันตามตรง ความสามารถของลูกในตอนนี้จะไปต่อกรกับองค์กรมันก็อันตรายเกินไป ถ้าเป็นอย่างนั้นล่ะก็ เอสเทล... ลูกไม่ลองไปที่ [ลู=ลอคเคิล] ดูหน่อยรึ?"
เอสเทล "[ลู=ลอคเคิล]?"
คาซิอุส "สถานที่ฝึกซ้อมในกรรมสิทธ์ของสมาคมเบรเซอร์ที่ตั้งอยู่ในเขตปกครองตนเองเรแมน รอบ ๆ สถานที่พักมีสิ่งปลูกสร้างหลายประเภทที่สร้างขึ้นมาเพื่อใช้เป็นสถานที่ฝึกฝนทักษะในหลาย ๆ ด้านได้อย่างเต็มที่ ไม่ว่าจะเป็นทักษะการแกะรอย ทักษะการจู่โจม ทักษะการเอาชีวิตรอด ทักษะในการเผชิญหน้ากับผู้ก่อการร้าย... เพราะทำการฝึกฝนด้วยระดับที่ใช้ต่อสู้จริง ๆ พูดได้ว่าเป็นสถานที่ ๆ เหมาะเป็นอย่างยิ่ง"
เอสเทล "มีสถานที่แบบนั้นด้วยแฮะ... แต่บอกว่าเป็นเขตปกครองตนเอง สถานที่ฝึกซ้อมนั่น อยู่ต่างประเทศสินะ? จะให้หนู... ไปจากลีเบร์ลตอนนี้มัน..."
เชราซาร์ด "ถึงจะบอกว่าอยู่ต่างประเทศ แต่ถ้าใช้เรือเหาะประจำทางระหว่างประเทศก็แค่ 1 วันเองนะ ส่วนช่วงเวลาที่จะฝึกซ้อม นั่นสินะ.... ถ้าใช้เวลาซักเดือนก็จบลงแล้วล่ะ ในช่วงนั้นหากได้ข้อมูลอะไรมา จะรีบประกาศแล้วติดต่อไปทันที ถ้าเป็นอย่างนั้นจะเอาไงล่ะ?"
เอสเทล ".........."
คาซิอุส "เอาเถอะ การตัดสินใจทั้งหมด ก็ขึ้นอยู่กับลูกล่ะนะ คิดดูให้ดี ๆ"
เอสเทล "...อะอืม ตัดสินใจไปแล้วนี่ หนูจะลองเข้ารับการฝึกฝนดู"
เชราซาร์ด "แหม..."
คาซิอุส "หืม ตัดสินใจได้ดี เป็นอย่างนี้แล้ว ดูเหมือนว่าตัวลูกเองก็มีเรื่องที่ต้องคิดเหมือนกันนะ"
เอสเทล "อืม... ก็นะ ถ้าลองคิดดูดี ๆ หนูน่ะ จนถึงตอนนี้ก็เอาแต่พึ่งโยชัวร์ ตอนที่เกิดเหตุการณ์อะไรขึ้นมาก็ได้โยชัวร์คอยชี้แนะให้บ่อย ๆ แต่จากนี้ต่อไปต้องพึ่งแต่การตัดสินใจของตัวเองอย่างเดียวแล้วล่ะ เพราะงั้นหนู... จะลองขัดเกลาตนเองที่สถานฝึกซ้อมนั่นดู"
เชราซาร์ด "เอสเทล..."
คาซิอุส "งั้นเหรอ ถ้างั้นพรุ่งก็ยื่นความจำนงขอใช้สถานที่ฝึกซ้อมก็แล้วกัน ยื่นที่สาขารอเลนซ์ก็ได้เหมือนกัน"
เอสเทล "อืม เข้าใจแล้ว"
เชราซาร์ด "นี่ เอสเทล... ถ้าตัดสินใจที่จะออกเดินทางแล้ว แวะไปห้างที่นครหลวงกันหน่อยดีไม๊?"
เอสเทล "เอ๋ ทำไมเหรอ?"
เชราซาร์ด "ของขวัญในโอกาสที่ได้เป็นเบรเซอร์อย่างทางการไงล่ะ อุตส่าห์จะซื้อชุดใหม่สำหรับทำงานให้เชียวนะจ๊ะ"
- เอสเทลจะกังวลว่าชุดนี้จะเหมาะกับเธอหรือเปล่า แต่อาเนราสบอกว่าเหมาะมาก ๆ และยังแนะนำเอสเทลว่า เป็นผู้หญิงก็ต้องหัดแต่งตัวเข้าไว้ แถมยังทำหน้าจริงจังพูดอีกว่า "ถึงเป็นเบรเซอร์ก็ไม่ต้องแต่ตัวน่ะ คิดผิดมหันต์!"
(อาเนราสชอบอะไร ๆ น่ารัก ๆ ค่ะ เธอจะมีสโลแกนประจำตัวว่า "ของน่ารักคือความถูกต้อง!" ถึงแม้อาเนราสจะชอบผู้หญิงสไตล์แบบรุ่นพี่เชร่า แต่ผู้หญิงอายุน้อย ๆ ก็ต้องใส่อะไรน่ารัก ๆ น่ะค่ะ แล้วยังจะให้เอสเทลลองผูกโบว์อีกด้วย เอสเทลยังกังวลว่าอย่างอาเนราสที่ชอบตุ๊กตาน่ารัก ๆ นี่ คงไปกันได้ดีกับทีต้าแน่ ๆ เลย)

เตรียมตัวพร้อมซ้อมรบ
『演習に向けての準備』 (BP0)
สถานที่ฝึกซ้อม - อาคารพักแรม 『訓練場・宿舎』
- หลังจากคุยกับอาเนราสเสร็จแล้ว ขึ้นไปเก็บสัมภาระส่วนตัวที่ห้องบนชั้น 2 เพื่อเตรียมตัวเข้าสู่การฝึกฝนขั้นต่อไปค่ะ
★หากไปคุยกับ "อาเนราส" ครั้งที่ 2 เธอจะบอกว่าให้เรารีบ ๆ เตรียมตัว เพราะรุ่นพี่คูลซ์เป็นประเภทรักษาเวลาอย่างมาก ดีไม่ดีไปช้าอาจจะถูกดุได้ค่ะ
- เข้าไปในห้อง เอสเทลจะหยิบฮาร์โมนิก้าขึ้นมาดูและให้กำลังใจตัวเองว่า "วันนี้ก็ต้องพยายาม"
☆ในกรณีดึงเซฟจบของภาคนี้มาใช้เล่นอีกรอบ
จะได้รับ เซพิธ, มิร่า, เมดัลและเซมเรียสโตน (ในกรณีที่ได้มาอยู่แล้ว) ด้วยนะคะ☆
- ลงมาที่ชั้น 1 "คูลซ์" 『クルツ』 จะรออยู่แล้ว เขาจะอธิบายการฝึกฝนในคราวนี้ให้ฟัง รวมทั้งอธิบาย ออร์บเมนท์รุ่นใหม่ที่เพิ่งมีการพัฒนาขึ้นมาจาก "มูลนิธิเอปสไตน์" 『エプスタイン財団』 ที่คูลซ์เพิ่งได้รับมาเมื่อหลายวันก่อนค่ะ แต่ออร์บเมนท์รุ่นใหม่นี้ไม่สามารถใช้ร่วมกับควอทซ์รุ่นเก่าได้
(นี่คือเหตุผลว่าทำไมเราถึงต้องผสมควอทซ์ใหม่ค่ะ)
- คูลซ์ยังถามเอสเทลด้วยว่าจำร้อยตรีโรแลนซ์ได้หรือเปล่า เขาได้ฟังจากเชราซาร์ดว่าร้อยตรีนั่นใช้อาร์ท "ซิลเวอร์ธอร์น" ไม่แน่ว่าอาจจะใช้ออร์บเมนท์รุ่นใหม่นี่ก็เป็นได้
- ได้รับ "ออร์บเมนท์รุ่นใหม่" "เซพิธ คุณสมบัติต่าง ๆ" และได้รับ "โกลบเกียร์" "ยาแห่งอาเซราส" "ตุ๊กตานาทีชีวิต" "โชคดี (ควอทซ์)"
☆ควอทซ์ "โชคดี" จะได้รับในกรณีที่ดึงเซฟจากภาค FC และได้ BP 368 เต็มค่ะ
เป็นของที่รุ่นพี่ที่แสนดีอย่างคูลซ์เตรียมไว้ให้เป็นของขวัญแก่เอสเทลที่ขึ้นเป็นเบรเซอร์ทางการค่ะ☆
- คุยกับ "ผู้ดูแลฟีริส" จะได้รับ "สมุดจดสูตรอาหาร" สูตรทำอาหารเมนู "น้ำดื่มจากธรรมชาติ" และวัตถุดิบทำอาหารอีกเล็ก ๆ น้อยค่ะ
- อย่าลืมซื้อ "ลีเบร์ลสาร ฉบับ 1" จากฟีริสด้วยนะคะ ถึงมาอยู่ต่างประเทศก็ต้องอัฟเดทข่าวคราวกันซักหน่อย
- คุยกับ "ช่างซ่อมบำรุงโรเบลท์" 『整備士ロベルト』 เพื่อทำการผสมควอทซ์
☆แนะนำให้เตรียมควอทซ์คุณสมบัติไฟ (โจมตี 1) เอาไว้ เพราะศัตรูในทางน้ำส่วนใหญ่แพ้ทางค่ะ☆
☆อย่าลืมเซ็ตควอทซ์คุณสมบัติอื่น ๆ และที่สำคัญต้องเซ็ตควอทซ์คุณสมบัติน้ำ (HP1) ลงในสล็อตของใครก็ได้ ให้เรียบร้อยด้วยนะคะ ไม่เช่นนั้นจะไปต่อไม่ได้นะ☆
- ไปคุยกับ "คูลซ์" ที่ทางออกของสถานที่ฝึกฝน เพื่อมุ่งสู่การซ้อมรบได้เลยค่ะ

ร่วมมือฝึกฝนเพิ่มความแข็งแกร่ง
『総合強化訓練』 {BP2 (+14)}
ทางน้ำบัลส์ทาร์ 『バルスタール水道』
- เมื่อมาถึงคูลซ์จะให้เราใช้เส้นทางน้ำนี่เข้าไปเอาเอกสารลับกลับคืนมาค่ะ
(ทางน้ำนี้จะมีจุดเพิ่มเลือดให้ตรงทางออกนะคะ)
☆ ในช่วงแรก ๆ นั้น จะว่าไปก็คล้าย ๆ กับโหมดติวโตเรียลนั่นแหล่ะค่ะ
ถ้าไม่อยากติวอะไรเก่า ๆ จะข้ามไปลอง "Chain-craft" เลยก็ได้นะคะ (หากจะข้ามการติว ก็ตอบข้อที่ 2 ค่ะ)☆
- เมื่อเข้าประตูไปด้านในของทางน้ำจะเป็นของจริงแล้วค่ะ
- ด้านในจะมีเส้นทางด้านซ้ายที่เป็นทางไปต่อ และทางขวาเป็นเส้นทางไปเก็บไอเทมค่ะ
- หากต้องการเก็บไอเทม ให้สับสวิทซ์ที่อยู่ตรงกลางไปทางด้านขวามือ 『右に倒す』 เพื่อข้ามไปเก็บไอเทมค่ะ
- ที่เส้นทางด้านขวามือนี้ จะมีสวิทซ์ทางทิศใต้ สับลงแล้วน้ำจะลด ทำให้เราเข้าไปเก็บ "ตุ๊กตาเปลี่ยนแทน" ค่ะ (สู้กับ ริปเปิลฟอกซ์ *3 + สติกกี้สลัก *3)
- สับสวิทซ์ทางทิศตะวันออก จะสามารถไปเก็บ "ยาแห่งเทียร์" "ยาแห่งเซราส" "EPชาร์จ I" ได้ค่ะ
- กลับไปที่ทางเดิม สับสวิทซ์ที่อยู่ตรงกลางไปทางซ้าย 『左に倒す』 เพื่อไปยังเส้นทางที่ถูกต้อง และต้องไปสับสวิทซ์ที่อยู่ทางด้านซ้ายเพื่อเชื่อมทางด้วยนะคะ เพราะจะเดี๋ยวไปต่อไม่ได้ค่ะ (สับไปทางไหนก็ได้ไม่แตกต่างค่ะ ซึ่งสวิทซ์ที่จะได้เจอหลังจากนี้ก็เหมือนกันค่ะ)
- ระหว่างทางอย่าลืมเก็บไอเทมในหีบติดมือไปด้วยนะคะ
☆ในเส้นทางด้านซ้ายนี้ จะมีไอเทมให้เก็บดังนี้ค่ะ "จิตใจ1", "ยาแห่งเทียร์", "EPชาร์จ I", "ซิลเวอร์เพียส", "โจมตี1", "ยาแห่งเซราส", "คุ๊กกี้ตกใจ" และ "เซพิธ x10 (ทุกคุณสมบัติ)" ค่ะ☆
- จะมีอยู่จุดนึงเมื่อสับสวิทซ์แล้วน้ำลดลง แล้วจะมีทางให้ลงไปเก็บไอเทมและก็ควอทซ์ "ขับเคลื่อน1" อยู่ในหีบที่มีศัตรูออกมาด้วยค่ะ (หีบจะอยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือ) (สู้กับ ริปเปิลฟอกซ์ *3 + สติกกี้สลัก *3)
- ด้านในสุด จะพบกับ "คูลซ์" ที่มารอเราอยู่แล้ว (รุ่นพี่คูลซ์ใช้เส้นทางอื่นมารอเราที่นี่ค่ะ) เห็นรุ่นพี่คูลซ์มายืนรออยู่ที่นี่ อาเนราสเลยถามถึงเอกสารลับที่ว่า แต่คูลซ์กลับตั้งท่าเตรียมจะสู้และบอกว่า ให้คิดซะว่าเขาคือจารชนของประเทศหนึ่งที่เข้ามาปล้นเอกสารลับนั่นมาและให้พวกเอสเทลใช้พลังที่มีทั้งหมดต่อสู้เพื่อชิงเอกสารกลับคืนไปค่ะ
- คูลซ์ -
- 『クルツ』 -
**คูลซ์จะมีท่า "จิตยุทธ์" 『方術』 ที่สนับสนุนความสามารถในการต่อสู้นะคะ**
**หากเข้าใช้ท่าเพิ่ม DEF แล้ว ให้เราเปลี่ยนเป็นการโจมตีด้วยอาร์ท ก็จะชนะได้สบาย ๆ แน่นอนค่ะ**
☆ปราบได้เราจะได้ควอทซ์ "เนตรสวรรค์" มาด้วยนะคะ
(ควอทซ์นี้จะมีคุณสมบัติของควอทซ์ "ตาเหยี่ยว" และควอทซ์ "ข้อมูล" รวมกันค่ะ)
- พวกเอสเทลจะไม่ค่อยเชื่อตัวเองเลยว่าจะสามารถชนะ "ผู้ใช้จิตยุทธ์" 『方術使い』 ได้ ถึงต้องใช้คนถึง 2 คนก็เถอะ
- "เอาล่ะ... เพราะจารชนไร้พลังที่จะต่อสู้แล้ว พวกเธอสามารถเอาเอกสารลับนี่กลับคืนไปได้ การฝึกซ้อมในคราวนี้ จบแล้วล่ะ" คูลซ์กล่าวกับพวกเบรเซอร์รุ่นน้อง และบอกว่าก่อนที่พวกเราจะกลับไปกินข้าวที่สถานที่พักแรมกัน จะต้องไป "ป่าแซงท์โครว่า" เพื่อทำการฝึกซ้อมกันต่ออีกชุดค่ะ
(ทำเอาพวกเอสเทลอึ้งไปเลย คูลซ์นี่เฮี้ยบจริง ๆ)
สถานที่ฝึกซ้อม - อาคารพักแรม 『訓練場・宿舎』
- พระอาทิตย์ลับขอบฟ้า พวกเอสเทลเพิ่งมาถึงสถานที่พักแรม คูลซ์จะให้เราแยกย้ายกันไปกินข้าว และก็รีบไปนอนพักผ่อนเพื่อเตรียมตัวฝึกซ้อมวันพรุ่งนี้ต่อค่ะ
- หลังจากกินข้าวเสร็จแล้วเอสเทลจะถามอาเนราสว่า
เอสเทล "คุณคูลซ์เนี่ย เก่งมาก ๆ เลยไม่ใช่เหรอ? ขนาดพวกเราร่วมมือกัน 2 คน ยังดูเหมือนว่าแทบจะเอาเขาไม่อยู่เลย"
อาเนราส "ถ้าหากพูดถึงคูลซ์ [ผู้ใช้จิตยุทธ์] แล้วล่ะก็ ถือได้ว่าเป็นเบอร์ 2 ในหมู่เบรเซอร์ของลีเบร์ลเลยนะ ส่วนเบอร์ 1 นั้น ก็ต้องเป็นคุณพ่อของเอสเทลจังไงล่ะ"
(จากตรงนี้เราจะรู้ว่าระดับเบรเซอร์ของอาเนราสอยู่ที่ระดับ F ของคูลซ์จะอยู่ที่ระดับ B และกำลังจะได้รับการเลื่อนเป็นระดับ A ในเร็ว ๆ นี้ค่ะ)
- เอสเทลกังวลว่าขนาดคุณคูลซ์ที่เก่งขนาดนั้นยังถูกคนร้ายลบความทรงจำให้หายไปได้ แล้วอย่างเธอจะสามารถหยุดยั้งพวกนั้นได้หรือเปล่าก็ไม่รู้
- อาเนราสเห็นเอสเทลสีหน้าไม่ค่อยดี ก็เลยถามว่าคิดถึงเรื่องโยชัวร์คุงอีกแล้วใช่ไม๊ ถึงอาเนราสรู้เรื่องจากรุ่นพี่เชร่ามาบ้างนิดหน่อยแต่เธอก็เป็นห่วงเอสเทลหมือนกันนะคะ เอสเทลจึงบอกอาเนราสว่าไม่ต้องเป็นห่วงหรอก ถ้าเธอเจอโยชัวร์แล้วล่ะก็จะลากคอกลับมาให้ดู
- อาเนราสจะดีใจที่เอสเทลฮึดสู้ขึ้นมาอีกครั้งและบอกว่า "พี่สาวคนนี้จะคอยให้กำลังใจเอง" เอสเทลเองนั้นบอกว่าเธอไม่ค่อยรู้สึกว่าอาเนราสเหมือนพี่สาวซักเท่าไร (ซึ่งก็จี้ใจดำอาเนราสที่ว่าเธอเหมือนเด็ก ๆ จริง ๆ ล่ะนะ) แต่ก็แน่ล่ะอายุมากกว่ากันแค่ 2 ปี (อาเนราส 18 ค่ะ) ดังนั้น อาเนราสจึงยินดีที่จะเป็นเพื่อนกับเอสเทลแทนค่ะ
- คุยกลับอาเนราสเสร็จแล้ว ก็ขึ้นไปพักผ่อนที่ห้องบนชั้น 2 ได้เลยค่ะ
☆แต่ก่อนอื่น ไหน ๆ เราก็ได้ควอทซ์ "เนตรสวรรค์" มาแล้ว เพื่อน ๆ ที่ยังไม่ได้อัฟเกรดสล็อต อย่าลืมอัฟเกรดจะได้สวมใส่ควอทซ์นี้ได้นะคะ แนะนำให้เตรียมตัวตั้งแต่ตอนนี้เลย เพราะหลังจากนี้จะเกิดเหตุการณ์ต่อเนื่อง ทำให้ไม่สามารถมาผสมควอทซ์และซื้อไอเทมได้อีกนานค่ะ☆
★หากไปคุยกับ "อาเนราส" ที่ห้องพัก เธอยังไม่นอน แต่กำลังคุยกับ "คุณหมี" อยู่ค่ะ (เด็กจริง ๆ ด้วยสิ)
★หากไปคุยกับ "คูลซ์" ที่ห้องพัก เขาก็ยังไม่นอนเหมือนกัน แต่กำลังอ่านทบทวน "ตำราพิชัยสงคราม แห่งดินแดนตะวันออก" อยู่ แถมยังแนะนำให้เอสเทลลองอ่านดูด้วยนะคะ (แน่นอนว่าคนเกลียดเรื่องอะไรยาก ๆ อย่างเอสเทลต้องปฏิเสธอยู่แล้ว) เห็นคูลซ์อ่านตำราของทางตะวันออก เอสเทลเลยสงสัยว่า "หรือว่า... คุณคูลซ์เกิดที่ดินแดนทางตะวันออกงั้นเหรอ" ซึ่งจริง ๆ แล้วคูลซ์เกิดที่ลีเบร์ลค่ะ แต่สืบเชื้อสายมาจากบรรพบุรุษที่เกิดทางดินแดนตะวันออก และ "จิตยุทธ์" 『方術』 ที่เขาใช้อยู่ ก็เป็นวิชาที่ได้รับการถ่ายทอดต่อ ๆ กันมาในตระกูลจากปู่ของเขาค่ะ
(จากตรงนี้เราจะรู้ว่า ในลีเบร์ลนั้นนอกจากคูลซ์แล้วอาจจะไม่มีคนใช้วิชานี้เลยก็ได้ค่ะ ดังนั้นแล้วคูลซ์เลยถามเอสเทลว่าจะลองฝึก "จิตยุทธ์" ดูไม๊เขาจะสอนให้ แต่ถ้าต้องการฝึกจำเป็นต้องอ่านตำราพิชัยยุทธ (ที่มีเป็นกะตั๊ก ๆ) ก่อน ซึ่งเอสเทลเธออยากฝึกค่ะ แต่ก็ฝึกไม่ได้อยู่ดี เพราะไม่อยากอ่านพิชัยสงครามค่ะ)
- กลางดึกคืนนั้น เอสเทลจะได้ยินเสียงแปลก ๆ ดังขึ้น
すぐに起きる
ตื่นทันที
Bonus BP
気にせずに眠り続ける
ไม่สนใจ หลับต่อดีกว่า
-
- เมื่อตื่นขึ้นมา เอสเทลจะรู้สึกเหมือนได้ยินเสียงปืน
- รวมพลกับ "อาเนราส" ลงไปช่วยคูลซ์ที่ลงไปสกัดผู้บุกรุกก่อนแล้วที่ชั้นล่าง
- ลงไปที่ชั้นล่างจะพบกับคูลซ์ที่บาดเจ็บอยู่ เขาจะขอให้พวกเอสเทลร่วมมือช่วยกันป้องกันสถานที่พักแรมนี้ค่ะ ซึ่งพวกที่บุกเข้ามานั้น คูลซ์วิเคราะห์ว่าน่าจะเป็นพวก "หน่วยทหารพราน" เขาให้เหตุผลว่าที่พวกนี้บุกเข้ามา เพราะไม่กินเส้นกับสมาคมเบรเซอร์ แถมที่นี่อยู่นอกเขตราชอาณาจักรลีเบร์ลอีกด้วย ไม่แน่ว่าองค์กรที่ว่าอาจจะให้ความร่วมมือก็เป็นได้ พูดไม่ทันจบก็มีทหารพรานบุกเข้ามาจากหน้าต่างด้านหลังค่ะ
- ทหารพราน -
- 『猟兵』 -
**พยายามสู้ไปพร้อม ๆ กับเพิ่มเลือดไปด้วยนะคะ เพราะศัตรูโจมตีหนักมาก ๆ ค่ะ**
**และก็ระวังท่า "ชาร์จ" ที่โจมตีแล้วทำให้เราติด "หมดสติ" ด้วยนะคะ ส่วนท่า "ระเบิดควัน" ไม่ค่อยมีปัญหาค่ะ เพราะทำให้เราติด "มืดมิด" แค่ไม่กี่เทิร์นค่ะ (แต่ความแม่นยำเรา ก็ลดลงไปด้วยนะ)**
☆การต่อสู้ครั้งนี้ถึงแพ้ก็สามารถไปต่อได้ แต่จะไม่ได้โบนัส BP ยังไงก็พยายามสู้ให้ชนะให้ได้นะคะ☆
- เงื่อนไขการรับโบนัส BP
สามารถเอาชนะทหารพรานได้ Bonus BP
- เมื่อการต่อสู้จบลง ทหารพรานหญิงจะบุกเข้ามาและปาระเบิดควันเข้ามา "ราตรีสวัสดิ์ เหล่าลูกแมวน้อย" เมื่อสิ้นเสียง พวกเอสเทลก็หมดสติไปค่ะ

การบุกจู่โจมกลางดึก1-2
真夜中の襲撃①‐②』 (BP0)
ป่าแซงท์โครวา 『サントクロワの森』
- หลังจากเอสเทลปลุกอาเนราสตื่นขึ้นมาแล้ว (หนูอาเนราสขนาดหลับยังหลับฝันถึง "ตุ๊กตาคุณกระต่าย กะตุ๊กตาคุณหมี" อยู่เลยค่ะ) ทั้ง 2 สาวพยายามนึกทบทวนเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อวาน และพบว่าอาวุธของพวกเธอหายไปหมด
- จากนั้นเอสเทลกับอาเนราสจะวิเคราะห์ว่าคนที่นำพวกเรามาทิ้งไว้ที่นี่เป็นใคร
クルツさん
คุณคูลซ์
-
襲撃してきた猟兵団
หน่วยทหารพรานที่บุกโจมตี
Bonus BP
それ以外第三者
บุคคลที่ 3 นอกเหนือจากนี้
-
- เมื่อสรุปได้ อาเนราสจะถามเอสเทลว่ามีแผนที่หรือเปล่า โชคดีที่สัมภาระอื่น ๆ ไม่ถูกเอาไปด้วย ดังนั้นทั้ง 2 คนดูสถานที่ที่น่าจะเป็นได้ในแผนที่ว่า พวกเธออยู่ที่ "ป่าแซงท์โครวา" ที่มาฝึกกันต่อก่อนไปกินข้าวกันที่พักแรมเมื่อคืนวานนี้
- เอสเทลและอาเนราสตัดสินใจกลับไปที่สถานที่ฝึกซ้อมเพื่อไปดูลาดเลาและเป็นห่วงคนที่นั่นด้วยค่ะ
☆เนื่องจากว่า อาวุธที่พวกเราใส่อยู่ตอนนี้เป็นอาวุธสำหรับฝึกซ้อมเท่านั้น ยังไงก็ตามพยายามหาอาวุธของพวกเราที่ถูกเก็บเอาไว้ในป่านี้นะคะ☆
☆อาวุธที่หายไป "เลเธอร์เสริมความแข็งแกร่ง *2" "บู๊ทเสริมความแข็งแกร่ง *2" "เฟนเซอร์" "เบรค ร็อด" ซึ่งจะอยู่ในหีบสมบัติที่กระจายอยู่ในป่านี้ค่ะ☆
☆หากสำรวจเต๊นท์ จะได้รับ "ยาแห่งเทียร่า *5" และ "EPชาร์จ I *2" และยังสามารถใช้เต๊นท์นี้เพิ่ม HP&EP ได้ด้วยนะคะ☆
☆นอกจากอาวุธที่กระจายอยู่ในป่าแล้ว ยังมีไอเทมอีกดังนี้ค่ะ "EPชาร์จ I", "น้ำดื่มจากธรรมชาติ" ค่ะ☆
- ทางออกของป่าจะต้องข้ามแม่น้ำไป (ทางทิศตะวันตก) แล้วไปทางทิศเหนือ (จะมีป้ายบอกทางก่อนที่จะถึงทางออกค่ะ) ยังไงก็เก็บไอเทมให้ครบก่อนแล้วค่อยออกไปนะคะ เพราะว่าเราจะต้องสูกับทหารพรานหญิงค่ะ
(หากเก็บไม่ครบ แต่เผลอเดินออกไปแล้ว ตอบข้อ 1 ก็จะเข้ามาในป่าได้อีกครั้งค่ะ แต่หากต้องการสู้ให้เลือกตอบข้อ 2 นะคะ (ไม่มีผลต่อ BP ที่ได้รับ))
- ทหารพรานหญิง -
- 『女猟兵』 -
**ศัตรูจะเน้นการโจมตีจากระยะไกล แนะนำให้ใช้อาร์ทสู้ค่ะ แต่ก็ต้องระวังด้วย เพราะเธอมีท่า "ช็อคสไปเดอร์" สกัดกั้นการร่ายอาร์ทของเราได้นะคะ**
**ถ้าสะสม CP มาก่อน ก็ให้ใช้คราฟท์โจมตีระยะไกล อย่าง "พลองพันเกลียว" (โจมตีเป็นเส้นตรง) ของเอสเทล ก็จะง่ายขึ้นค่ะ**
- ปราบได้ ทหารพรานหญิงจะใช้ระเบิดควันแล้วหนีไปอีกครั้ง พร้อมทั้งยังบอกว่า "ได้จับตัวผู้ใช้จิตยุทธ์ไปแล้ว ไม่มีพรรคพวกของเหล่าลูกแมวน้อยอีกแล้ว จะตัดใจยอมแพ้ก็ได้นะ..."
- พอทหารพรานหญิงไปแล้ว อาเนราสจะเป็นห่วงรุ่นพี่คูลซ์ แต่เอสเทลก็บอกอาเนราสไม่ต้องเป็นห่วง เพราะเก่งอย่างคุณคูลซ์ต้องไม่เป็นไรอยู่แล้ว
- แล้วเราจะกลับไปที่สถานที่ฝึกซ้อม ลู=ลอคเคิล ค่ะ
สถานที่ฝึกซ้อม - อาคารพักแรม 『訓練場・宿舎』
- เมื่อมาถึงจะไม่มีวี่แววของคนอยู่เลย
- เข้าไปในอาคารพักแรม จะพบสภาพที่เละเทะ หอกที่หัก และรอยเลือดที่น่าจะเป็นของคูลซ์
- สำรวจจุดที่น่าสงสัยดังนี้ค่ะ
(1) รอยเลือด
(2) หอกที่หักของคูลซ์
(3) เครื่องมือสื่อสารใกล้ ๆ เคาน์เตอร์โรงงาน (อาเนราสจะบอกว่าพวกนั้นสมกับเป็นมืออาชีพจริง ๆ เพราะเครื่องมือสื่อสารโดนทำลายหมด ทำให้เราไม่สามารถติดต่อไปโลกภายนอกได้)
(4) ถังไม้ ตรงเคาน์เตอร์ทำอาหาร (อาหารถูกเอาไปหมด เหลือแต่ถังเปล่า ๆ)
(5) หน้าต่าง ที่ทหารพรานพังเข้ามา
(6) บอร์ด ที่เคยมีแผนที่แปะไว้ (แผนที่ได้ถูกดึงออกไป)
- เมื่อสำรวจครบหมดแล้ว เราจะวิเคราะห์ถึงการเคลื่อนไหวของพวกทหารพรานว่าจะเป็นยังไงต่อไป
峡谷から撤退した
หลบหนีออกจากหุบเขา
-
峡谷の入口を封鎖した
ปิดล้อมทางออกของหุบเขา
-
新たな拠点に移動した
หาฐานที่มั่นใหม่
Bonus BP
- แล้วอาเนราสจะวิเคราะห์ว่าเต๊นท์ที่พบในป่านั่น เป็นไปได้ว่าพวกทหารพรานสร้างขึ้นเพื่อเตรียมตัวในการบุกจู่โจมที่นี่ค่ะ แต่ที่ไม่เอาที่นี่เป็นฐานที่มั่นเพราะเป็นที่ของสมาคมซึ่งอาจจะถูกพบเมื่อไรก็ได้ ดังนั้นพวกนั้นต้องหาฐานที่มั่นที่จะไม่พบเจอได้ง่าย ๆ ด้วย
- พบกับ "ช่างซ่อมบำรุงโรเบลท์" ที่ปลอดภัยดี เขาบอกว่าเพราะเมื่อวานนี้คูลซ์ช่วยให้เขาหนีรอดไปได้ ก็เลยแอบอยู่ตลอดจนถึงเมื่อกี๊ เขาจะขอโทษที่หนีไปได้คนเดียว แต่เอสเทลบอกว่ามันช่วยไม่ได้หรอกเพราะอีกฝ่ายเป็นทหารรับจ้างมืออาชีพน่ะ ซึ่งอาเนราสบอกว่าโชคดีมาก ๆ ที่รอดมาได้ค่ะ แต่ยังไงก็ตามคุณคูลซ์กับคุณผู้ดูแลหายไปไหนก็ไม่รู้
- พวกเอสเทลจะเล่าเรื่องราวและหลักฐานที่ได้มาให้โรเบลท์ฟัง ซึ่งโรเบลท์คิดว่าที่ ๆ พวกนั้นไป น่าจะเป็น "ค่ายย่อยกริมเซล" ซึ่งเป็นสถานที่ฝึกซ้อมที่เพิ่งสร้างขึ้นมาได้ไม่นาน โดยเลียนแบบค่ายที่ทางกองทัพใช้จริง ๆ ค่ะ
- อาเนราสจะฝากให้คุณโรเบลท์ซ่อมเครื่องมือสื่อสาร ถ้าซ่อมเสร็จก็ให้คุณโรเบลท์ให้แจ้งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไปที่กิลด์และเรียกกำลังเสริมมา
☆อย่าลืมขึ้นไปเก็บ "แจ็คนักเสี่ยงโชค เล่ม 1" บนห้องที่เคยล็อกบนชั้น 2 นะคะ ตอนนี้สามารถเข้าไปได้แล้วค่ะ (จริง ๆ แล้วห้องนี้เป็นห้องของกรัซกับคารูน่าค่ะ)
(หนังสือชุด "แจ็คนักเสี่ยงโชค" เป็นหนังสือที่เราสามารถสะสมแล้วนำไปแลกของที่จะใช้ทำ "อาวุธสุดยอด" สำหรับภาคนี้ค่ะ)

☆หากต้องการเพิ่มเลือด ก็สามารถใช้ห้องของเอสเทลหรือของอาเนราสพักผ่อนได้นะคะ☆
☆หากคุยกับโรเบลท์ จะสามารถผสมควอทซ์และซื้อของได้ด้วยนะคะ ใครที่ต้องการเตรียมตัวเพิ่มเติมก็เชิญตามอัธยาศัยเลยค่ะ☆
ค่ายย่อยกริมเซล 『グリムゼル小要塞』
- เมื่อมาถึง แม้ด้านนอกจะไม่มีวี่แววของคนอาศัยอยู่ แต่จากที่เอสเทลลองสำรวจดูก็ได้พบรอยเท้าของคนจำนวนหนึ่ง เป็นเครื่องแสดงว่าเมื่อไม่นานมานี้มีคนผ่านไปมาค่ะ
(อาเนราสจะดีใจที่ผลจากการฝึกฝนทักษะการแกะรอยมีประโยชน์แล้วในตอนนี้ค่ะ)
- ที่เส้นทางด้านขวา สับสวิทซ์เพื่อเปิดประตู
- เอสเทลจะบ่น ๆ ว่า ตึกนี้ถึงขนาดสร้างกับดักอะไรแบบนี้ขึ้นมาด้วย ทำให้เธอนึกถึงตอนที่เข้าไปค่ายเรสตอนเลยค่ะ ยังไงก้ตามแต่
- เอสเทลจะสงสัยว่าพวกคนที่ทำให้กับดักทำงานน่าจะเป็นพวกทหารพรานล่ะมั๊ง
อาเนราส "อืม คิดว่าไม่ผิดแน่นอน แต่ว่าศัตรูคงไม่ได้รู้ทุกซอกทุกมุมของสถานที่ฝึกซ้อมแห่งนี้หรอก เราต้องก้าวไปข้างหน้าด้วยความรอบคอบ และดำเนินการอย่างน่าเชื่อถือ"
- เอสเทลบอกว่าอาเนราสพูดเหมือนเจ๊เชร่าเลย ซึ่งจริง ๆ แล้วเป็นคำพูดที่อาเนราสได้รับการถ่ายทอดมาจากเจ๊เชร่าในตอนที่เธอเป็นเตรียมเบรเซอร์และเจ๊เชร่าเป็นเบรเซอร์รุ่นพี่ที่คอยดูแลเธอมาก่อนค่ะ
- จากนั้น ให้สับสวิทซ์ในห้องทางขวามือจะสามารถสับสวิทซ์เปิดประตูอีกอันได้ค่ะ
- เมื่อเดินไปเรื่อย ๆ จะเจอกับสัตว์ปิศาจมาขวางทาง สู้กับ (ครายเบบี้ *2 + เวนบีทเทิล *2)
- ที่ชั้น 2 ไปตามทางเรื่อย ๆ จะเจอกับห้องมืดค่ะ (หากเกิดการต่อสู้ในนี้เราจะติดสถานะ "มืดมิด" นะคะ) ให้พยายามหาทางเดินไปยังห้องที่อยู่ทางทิศตะวันออกของห้องนี้ จะพบ "แว่นส่องมองกลางคืน" 『暗視ゴーグル』 อยู่ในหีบค่ะ ให้ใครก็ได้สวมจะสามารถมองเห็นในความมืดได้ (ในฉากต่อสู้ คนที่สวมใส่จะไม่ติดสถานะ "มืดมิด" ด้วยค่ะ)
- ใต้บันไดที่จะขึ้นไปยังชั้น 4 จะได้อีเวนท์ไอเทม "อุปกรณ์ยืนยัน" 『認証ユニット』 ค่ะ ซึ่งอาเนราสบอกว่าน่าจะเป็นอุปกรณ์ที่ใช้ทำงานแบบพิเศษ เพราะมีสวิทซ์ติดออร์บเมนท์ไว้ด้วย
- ให้ห้องด้านในสุดของชั้น 4 สำรวจแผงควบคุม อาเนราสจะให้เอสเทลใช้ของที่ได้มาเมื่อกี๊นี้ค่ะ (เข้าเมนูไอเทม แล้วกดใช้ "อุปกรณ์ยืนยัน" แล้วประตูจะเปิดออก ให้ไปต่อได้ค่ะ)
- ที่หน้าห้องจุดเพิ่มเลือด เข้าไปจะเกิดการต่อสู้ขึ้น ยังไงก็เตรียมตัวให้ดีก่อนนะคะ
- เข้าไปแล้ว พวกเราจะขู่ทหารพรานว่าเราติดต่อไปยังสมาคมแล้ว อีกไม่นานก็จะมีกำลังเสริมมา ทหารพรานบอกว่าเป็นไปไม่ได้เพราะเครื่องมือสื่อสารถูกพวกเขาทำลายแล้ว จะติดต่อไปได้ยังไง
- จะมีคำตอบให้เอสเทลหาคำตอบที่จะข่มขู่ตอบกลับไปค่ะ
狼煙を上げて連絡した
ใช้พลุสัญญาณยิงขึ้นไป
-
連絡する必要がない
ไม่จำเป็นต้องแจ้งไป
Bonus BP
他の訓練希望者が来る予定
มีกำหนดการมาของบุคคลอื่น ผู้เป็นที่คาดหวังของสถานที่ฝึกซ้อม
-
- หากตอบ "ไม่จำเป็นต้องแจ้งไป" เอสเทลจะขู่ว่า "ถ้าหากไม่มีการติดต่อกลับไปที่สมาคมตามเวลาที่กำหนดจากทางนี้ล่ะก็ กิลด์ก็จะรับรู้ได้ถึงความผิดปกติเองนั่นแหล่ะ" อาเนราสเลยผสมโรงด้วยว่า "ไม่แน่ว่าทางโน้นอาจจะรู้สึกถึงความผิดปกติแล้วก็ได้ เพราะเมื่อเช้าพวกเราไม่ได้ติดต่อไป... อืม คงจะได้เวลาที่กำลังเสริมจะมาถึงแล้วล่ะมั๊ง♪"
- สู้กับ (ทหารพรานสงคราม)
- ทหารพรานสงคราม -
- 『戦猟兵』 -
**ยังไงก็ตาม ให้ระวังเขาใช้ท่าที่มีคุณสมบัติเหมือนอาร์ท "ชาโดว์สเปียร์" ด้วย เพราะท่านี้ทำให้เราติด "ตายคาที่" นะคะ**
**ในกรณีที่ศัตรูใช้ท่า "สควอซฟายเอล" เพิ่ม STR&SPD ให้ระวังด้วยค่ะ เพราะสามารถสร้างความเสียหายให้เราได้มากโขเลยนะคะ พยายามโจมตีสลับกับเพิ่มเลือดเอาไว้ด้วยค่ะ**
**ถ้าหากโชคร้าย ศัตรูใช้ท่า "สควอซไวลด์" เพิ่มเลือดบ่อย ๆ รับประกันได้เลยค่ะว่าการต่อสู้ยืดเยื้อแน่นอน**
**ในกรณีที่เราโดนอัดจนกระเด็นไปอยู่แนวหลัง ด้วยท่า "ชาร์จ" หรือ "ท่าแทงฝนต้นฤดูร้อน" ให้ใช้อาร์ทโจมตีไปก่อน แล้วค่อย ๆ หาจังหวะที่เทิร์นทันเดินเข้าไปใกล้ศัตรูจะดีกว่าบุ่มบ่ามวิ่งเข้าไปแล้วโดนอัดกระเด็นออกมาอีกหนค่ะ**
**การต่อสู้ในครั้งนี้ พยายามใช้ "Chain-craft" ร่วมด้วย เพราะมีประโยชน์ชัวร์ค่ะ**
- ปราบได้ ทั้งเอสเทลทั้งอาเนราสจะรู้สึกคุ้น ๆ กับทหารพรานคนนี้มาก ๆ
- จากนั้น ทหารพรานชาย-หญิงที่เราเคยสู้ จะออกมาสมทบ "ไม่ได้เปลี่ยนสำเนียงในการพูดสักหน่อย ถ้าเป็นพวกเธอก็น่าจะรู้ไม่ใช่เหรอ?" ทหารพรานหญิงถามพวกเอสเทล ทำให้เอสเทลนึกถึงวิธีการพูดนี้ว่าเคยได้ยินมาก่อน อาเนราสถึงกับตกใจร้องเสียงหลงออกมา "ระ รุ่นพี่คารูน่า!?"
- ทหารพรานทุกคนเปิดเผยตัวออกมา ความจริงแล้วก็คือพวกรุ่นพี่เบรเซอร์ที่มาช่วยเราในการฝึกฝนขั้นสุดท้ายนั่นเองค่ะ ซึ่งพวกกรัซอุตส่าห์ออกมาจากลีเบร์ลเพื่อมาช่วยคูลซ์ฝึกพวกเราเชียวนะคะ
- ถึงแม้พวกเอสเทลจะบ่นว่าคูลซ์ทำเกินไป แต่ทว่าพวกคูลซ์ได้ให้ข้อคิดว่าหากเป็นทหารพรานจริง ๆ มันไม่หวานหมูอย่างนี้หรอก ซึ่งเอสเทลและอาเนราสไม่สามารถเถียงอะไรได้ คารูน่าและกรัซยังเสริมอีกว่า
คารูน่า "ก็ที่ลีเบร์ล พวกทหารพรานถูกห้ามไม่ให้เข้าราชอาณาจักร เพราะงั้นก็เลยจินตนาการไม่ออกหรอกว่าจริง ๆ แล้วเจ้าพวกนั้นมันเป็นยังไง... แต่ถ้าเป็นประเทศอื่น ๆ ล่ะก็ การเผชิญหน้ากันระหว่างสมาคมเบรเซอร์กับหน่วยทหารพรานมันเป็นเรื่องปกตินะ เหล่าเบรเซอร์ส่วนใหญ่ก็มักจะตกอยู่ในสถานการณ์ฉุกเฉินอย่างนี้แหล่ะ"
กรัซ "ดังนั้นแล้ว ก็อยากจะให้เบรเซอร์ของลีเบร์ล มีประสบการณ์ในสถานการณ์อันตรายอย่างนี้บ้างสักครั้ง ก็เลยคิดว่าพวกเธอน่าจะเข้าใจตรงจุดนี้นะ"
- พอได้ฟังพวกรุ่นพี่แล้ว เอสเทลกับอาเนราสก็ไม่สามารถบ่นอะไรได้
- แล้วผู้ดูแลฟิริสก็ออกมา ซึ่งเธอบอกพวกเราว่าเธอไม่ได้ร่วมมือด้วยนะ ก็ตอนนั้นเธอบอกให้พวกเราพยายามให้เต็มที่แล้วไง
(แล้วที่มาอยู่ที่นี่ไม่ได้ให้ความร่วมมือกับพวกรุ่นพี่หรือไงกันล่ะ)
- แถมช่างซ่อมบำรุงโรเบลท์ก็เข้ามาสมทบด้วย ทำให้อาเนราสโกรธทุกคนมาก ๆ ที่ทำให้พวกเธอเป็นห่วง
- เอสเทลจะสงสัยว่าแล้วเครื่องมือสื่อสารที่เห็นพัง ๆ อยู่ล่ะ ซึ่งโรเบลท์บอกว่าที่เห็นนั่นเป็นเพียงแค่เศษอะไหล่ เท่านั้นเองค่ะ แถมเขายังได้เห็นพวกเอสเทลทดสอบออร์บเมนท์รุ่นใหม่อีกแค่นี้ก็พอใจแล้วด้วย
- ดังนั้น พวกเอสเทลเลยยอมจำนนต่อความตั้งใจของทุก ๆ คนค่ะ เป็นเพราะเธอไม่รู้สึกตัวเองว่าเหตุการณ์ทั้งหมดเป็นเรื่องที่แต่งขึ้น เป็นไปได้ว่าเธออาจจะยังฝึกฝนไม่พอ
- ซึ่งคูลซ์ได้บอกว่าไม่ใช่หรอก เพราะเขาได้ฟังจากกรัซและเห็นความสามารถที่แท้จริงของพวกเราในตอนที่ต่อสู้ด้วยแล้ว และคูลซ์จะยินดีกับพวกเราที่สามารถจบการฝึกซ้อมขั้นสุดท้ายจากที่นี่ได้ และยังได้ซื้อตั๋วเรือประจำทางกลับลีเบร์ลเที่ยววันพรุ่งนี้เตรียมไว้ให้แล้วด้วยค่ะ



- ในขณะเดียวกัน ราชอาณาจักรลีเบร์ล -
- ปรากฏเรือเหาะสีแดงลงจอดบนดาดฟ้าตึก ชายหนุ่มที่ไม่สามารถคาดเดาอายุได้ เดินออกมาจากเรือเหาะ "หืม เป็นที่ที่ดีใช้ได้เลยไม่ใช่เหรอ ศาสตราจารย์ก็มีรสนิยมใช้ได้เหมือนกันนะเนี่ย" ชายหนุ่มผู้แปลกประหลาดพูดถึงสถานที่ ๆ เขาเห็น
- "มาสายนะ คัมพาเนลล่า" เสียงชายหนุ่มอีกคนดังขึ้น ปรากฏร่างของชายหนุ่มผมเงินสวมโค้ทสีงา เดินออกมาหยุดอยู่ตรงหน้าคัมพาเนลล่า
ตัวตลกคัมพาเนลล่า "ไง [จักรพรรดิดาบ] 『剣帝』 ไม่ได้เจอกันนานนะ ช่วงเวลาที่เธอไม่อยู่ครึ่งปี เหงาจนแทบจะทนไม่ไหวเชียว"
ชายหนุ่มผมเงิน "ฮึ อย่ามาพูดแบบนั้นเลย ได้ยินมาว่าการบุกโจมตีสมาคมเบรเซอร์จักรวรรดิอยู่ในความรับผิดชอบของนายนี่ กับคาซิอุส ไบรท์คงจะสนุกไม่ใช่เล่นเลยใช่ไม๊ล่ะ?"
ตัวตลกคัมพาเนลล่า "อารายกาน รู้แล้วเหรอเนี่ย แต่ก็นะ คุณลุงคนนั้นเป็นคนน่าเหลือเชื่อจริง ๆ เลยล่ะ ทั้ง ๆ ที่ไม่รู้ว่าผมเป็นใครแต่ก็ยังสามารถตามรับมือผมได้เรื่อย ๆ หน่วยทหารพรานที่ให้ความช่วยเหลือก็เลยถูกทำลายไปหนึ่งหน่วยน่ะ"
ชายหนุ่มผมเงิน "[หน่วยทหารพรานเจสเตอร์] งั้นเหรอ ครั้งหนึ่งชั้นเคยฝึกฝีมือให้ แต่ดูเหมือนว่าไม่ว่าจะทำยังไง เจ้าพวกนั้นมันก็ยังงั้น ๆ นั่นแหล่ะ ไปเป็นคู่มือของ [ปราชญ์ดาบ] 『剣聖』 ก็คงจะหนักมือไปหน่อยใช่ไม๊ล่ะ"
ตัวตลกคัมพาเนลล่า "แต่ว่านะ เพราะเธอเลิกไปซะก่อนที่จะสร้างพวกนั้นเสร็จสมบูรณ์ (หมายถึงฝึกทหาร) เพราะงั้นก็ถือว่าน่าจะใช้ได้แล้วล่ะมั๊ง เอ๊ะ หรือว่าเธอเองก็รอคอยที่จะได้เผชิญหน้ากับเขาเหมือนกันใช่ไม๊ล่ะ?"
ชายหนุ่มผมเงิน "หึหึ... ก็นิดหน่อย แต่ว่า เสือที่ถูกปล่อยออกไปสู่ทุ่งหญ้า ก็ถูกล่ามด้วยตรวนที่เรียกว่ากองทัพแล้ว ไม่อาจมาขัดขวางพวกเราซึ่ง ๆ หน้าได้อีกแล้ว"
ตัวตลกคัมพาเนลล่า "หึหึ ดูเหมือนว่าแผนการของศาสตราจารย์จะเป็นแผนที่ยอดเยี่ยมมากเลยนะ แล้ว สมาชิกคนอื่น ๆ ล่ะ มาที่ลีเบร์ลแล้วรึยัง?"
ชายหนุ่มผมเงิน "อา เพิ่งจะมารวมพลเมื่อวานนี้น่ะ แต่ดูเหมือนว่าเจ้าบลูแบลงจะมาสำรวจที่นี่ก่อนหน้านั้นอยู่แล้วน่ะ [จอมโจรลึกลับ] 『怪盗紳士』 [หมาป่าผอม] 『痩せ狼』 [กระพรวนเสน่ห์] 『幻惑の鈴』 [นางฟ้าแห่งการทำลายล้าง] 『殲滅天使』..... เป็นกลุ่มที่รวมเอาแต่ไอ้พวกที่เหมือน ๆ กันมาอยู่นะ"
ตัวตลกคัมพาเนลล่า "หึหึ ถ้าเป็นอย่างที่เธอว่าก็มีแต่พวกที่เก่ง ๆ น่ะสิ อ้อจริงด้วยสิ..... แล้วรู้ร่องรอยของ [เขา] หรือยังล่ะ?"
ชายหนุ่มผมเงิน ".........................."
ตัวตลกคัมพาเนลล่า "อุหึหึ น่าสนุกจังนะ แม้แต่ในหมู่ [ผู้ดำเนินแผนการ] อย่างพวกเรา เขาน่ะเรียกได้ว่าเป็นหนึ่งในด้านการไปมาไร้ร่องรอยเลยนี่นะ กลายมาเป็นศัตรูกับ [จักรพรรดิดาบ] และ [ไร้หน้า] 『白面』 แล้ว จะพยายามไปได้ถึงไหนกันนะ"
ชายหนุ่มผมเงิน "................................... แต่สุดท้าย เมื่อหลายปีก่อนก็เป็นคนที่ล้างมือออกจากองค์กรไปแล้ว ไม่เป็นภัยใหญ่หลวงอะไรนักหรอก"
- "ไม่หรอก ไม่หรอก ไม่คิดอย่างนั้นหรอกนะ" เสียงชายอีกคนดังขึ้น ศจ. ไวส์แมน นั่นเอง
ศจ. ไวส์แมน "ไง คัมพาเนลล่า ขอบใจที่เหนื่อยนะ สามารถหยุดคาซิอุส ไบรท์ได้อย่างยอดเยี่ยม ช่วยได้มากทีเดียวล่ะ"
ตัวตลกคัมพาเนลล่า "อุหึหึ เป็นงานที่สนุกดีนะ แต่ก็เป็นเพราะเอกสารแผนการของศาสตราจารย์ที่เขียนให้ดูหมดทุกอย่างนั่นแหล่ะ... ไม่ใช่ว่าศาสตราจารย์เอาแต่คิดเฉพาะเรื่องสนุก ๆ ล่ะมั๊ง"
ศจ. ไวส์แมน "ฮ่าฮ่าฮ่า รู้สึกเป็นเกียรติจริง ๆ ที่ตัวตลกอย่างเธอพูดแบบนั้นน่ะ แต่แผนการที่แท้จริงจะทำให้สนุกยิ่งขึ้นกว่านี้อีกนะ เหล่าคนที่ให้ความร่วมมือในคราวนี้ ทุกคนต่างก็มีเป้าหมายส่วนตัวกันทั้งนั้น ทั้งฉัน และก็เขาที่ยืนอยู่ตรงนั้นด้วยน่ะ"
ชายหนุ่มผมเงิน ".....ไม่ปฏิเสธ แต่ก็ไม่มีเหตุผลที่คุณจะมาให้ข้อคิดกับชั้นนี่"
ศจ. ไวส์แมน "เฮ้อ อย่าพูดจาไร้น้ำใจอย่างนั้นสิ"
ตัวตลกคัมพาเนลล่า "หึหึ อย่างนี้~นี่เอง ท่าทางจะเจอเรื่องอะไรมาเยอะแยะเลยล่ะสิ แต่ก็นะ ถ้าจะพูดไป รสนิยมแย่ ๆ ของศาสตราจารย์ก็เกือบจะเป็นศิลปะแล้วนี่ ถ้ายังไงก็ช่วยทำให้สนุก ๆ แบบเต็มที่หน่อยนะ"
ศจ. ไวส์แมน "หึหึ... มันฟังดูไม่ดีนะไอ้คำว่ารสนิยมแย่ ๆ น่ะ แต่ก็ดี เธอก็จงชมแผนการครั้งนี้ให้เห็นกับตาอย่างเต็มที่ก็แล้วกัน เพราะว่าพวกเราเป็นตัวแทนของ [นายเหนือหัว] นี่นะ"
ตัวตลกคัมพาเนลล่า "อุหึหึ วางใจได้เลยล่ะ----------- ผู้ดำเนินแผนการหมายเลข 0 ----- [ตัวตลก] 『道化師』 คัมพาเนลล่า จากนี้ไปจะขอชม [แผนการพระสุรเสียง] 『福音計画』 ที่ดำเนินการโดยสาวกไวส์แมนให้เห็นกับตาคู่นี้เลย"



- ในช่วงเวลาเดียวกันนั้น จักรวรรดิเอเรโบเนีย สุดชายแดนทางทิศใต้ -
- ห่างจากชายแดนทางเหนือของลีเบร์ล 120 เซล์จ -
- สลัดอากาศคาปัว 3 พี่น้องเดินดูสภาพโดยรอบของดินแดนนี้ แต่ทว่าพวกเขาพบแต่เพียงซากปรักหักพังเท่านั้น
- ด้านในสุดของสถานที่นี่ บนเนินที่สามารถมองเห็นทิวทัศน์ของลีเบร์ลอยู่ลิบ ๆ
- "พี่คารินครับ... ผมกลับมาแล้ว" เด็กหนุ่มผมดำพูดกับแผ่นหินประดับหน้าหลุมศพ พร้อมทั้งวางดอกไม้ช่อใหญ่ที่อยู่ในมือลงด้านหน้าแผ่นหินนั้น
- "นะ นี่---- หายไปอยู่ไหนน่ะ---!?" เสียงเด็กสาวตะโกนเรียกมาจากอีกด้าน 3 พี่น้องคาปัวเดินเข้ามาหาเด็กหนุ่มที่หน้าหลุมศพ
โจเซ็ต "ดีจัง มาอยู่ที่นี่เอง อย่าทำให้ตกใจสิ! เล่นเข้ามาข้างในคนเดียวแบบนี้"
โยชัวร์ "ฟู่...... จะมากันทำไม พูดไปแล้วไม่ใช่เหรอว่ามีธุระส่วนตัว พวกคุณไม่จำเป็นต้องมาด้วยหรอก"
โจเซ็ต "นะ นายนี่มันไม่น่ารักเลย! คนเขาอุตส่าห์ตามหา เพราะว่าเป็นห่วงต่างหากเล่า!"
คีล "ยิ่งกว่านั้น ไม่มีประโยชน์หรอกนะ สภาพความเป็นจริงที่เป็นแบบนั้นน่ะ เท่าที่ได้เห็นมาดูเหมือนว่าที่นี่กลายเป็นซากมาได้ประมาณ 10 ปีแล้วนะ"
โดรุน "พวกชั้นเคยอยู่ทางเหนือจนถึงเมื่อประมาณ 3 ปีก่อน ไม่เห็นเคยได้ยินเลยว่ามีหมู่บ้านที่ถูกทำให้รกร้างแบบนี้อยู่ทางใต้น่ะ หมู่บ้านนี้มีชื่อว่าอะไรเหรอ"
โยชัวร์ "........................ [เฮอร์เมล] 『ハーメル』 ในอดีตเคยเรียกขานกันว่าอย่างนั้นน่ะ"
โจเซ็ต "เฮอร์เมล... เป็นชื่อที่ไม่เคยได้ยินเลยแฮะ พี่คีลรู้จักหรือเปล่า?"
คีล "เปล่า... ชั้นก็ไม่เคยได้ยินเลย พี่ล่ะ"
โดรุน "หืม--- เดี๋ยวก่อนนะ... ก่อนหน้านี้นานมาแล้ว เหมือนจะเคยมีจดหมายเวียนอะไรซักอย่าง มาจากรัฐบาลจักรววรดิ... ...แย่แฮะ นึกไม่ออกเลย"
โจเซ็ต "อะไรกันล่ะ---- นั่น"
โยชัวร์ "....ผมเสร็จธุระแล้วล่ะ ทั้ง ๆ ที่ไม่เกี่ยวกับพวกคุณเลย ขอโทษที่ทำให้ต้องมาด้วย"
โจเซ็ต "เรื่องนั้นช่างมันเถอะน่า... แต่นายน่ะ ลักษณะท่าทางที่เห็น มันแตกต่างกับตอนแรกที่เจอกันเกินไปไม่ใช่เหรอไง? ดูถูกพวกเรางั้นเหรอ?"
โยชัวร์ "...ไม่มีเหตุผลที่จะพูดเรื่องนั้นกับเธอนี่นา ตอนที่พบกันครั้งแรกมันก็เป็นแค่การแสดงเท่านั้นล่ะมั๊ง ลักษณะท่าทางของผมก็คงจะเป็นเหมือน ๆ อย่างนั้นด้วยนั่นล่ะ"
โจเซ็ต "อึ๊ย... ถะ ถ้างั้น จะบอกว่านั่น ก็เป็นธาตุแท้ของนายด้วยงั้นเหรอ!?"
โยชัวร์ "....จะคิดอย่างนั้น ก็ไม่รังเกียจหรอก ผมในตอนนี้ ตัดขาดกับสิ่งที่เรียกว่าเบรเซอร์แล้วล่ะ"
คีล "ฟู่... ไม่รู้หรอกนะว่าเกิดอะไรขึ้น แต่ดูเหมือนจะเจออะไรมามากนะนี่ แต่ช่างเถอะ ถึงจะแสดงนิสัยที่แท้จริงออกมา ไม่ว่ายังไงทางนี้ก็ยังให้ความไว้ใจอยู่ดี เพราะยังไงมันก็ดีกว่าถูกตบตาให้เห็นแต่เปลือกนอกน่ะ"
- โยชัวร์ประหลาดใจกับคำพูดของคีลที่ว่าพวกเขายังคงเชื่อใจตัวเองอยู่
โดรุน "ยิ่งไปกว่านั้น พวกเรายังได้นายช่วยเหลือตอนที่กองทัพราชอาณาจักรตามมาด้วยนี่นา ถึงจะเป็นนิสัยแท้จริงที่ดูน่าขัน พวกเราก็จะมองข้าม ๆ มันไปแล้วกัน"
โยชัวร์ "....ไม่จำเป็นต้องมองข้ามหรอก เพราะที่ช่วยพวกคุณ ก็หวังจะใช้ประโยชน์จากพวกคุณไม่มากก็น้อย มันก็เป็นแค่การทำให้พวกคุณคาดหวังว่าจะได้รับสิ่งตอบแทนที่สมน้ำสมเนื้อกัน ก็เท่านั้นเอง"
โดรุน "ฮึ เป็นไอ้หนูที่ไม่ยอมลดราวาศอกเลยนะ แต่ว่า เราก็ขอยอมรับข้อเสนอนั้นของนาย จริง แล้ว ทางนี้ต่างหากล่ะที่จะขอใช้ประโยชน์จากนายน่ะ"
โยชัวร์ "...ก็ได้ ----ถ้าเคลื่อนไหวไปพร้อมกับผม อาจจะต้องเข้าไปเกี่ยวข้องกับเรื่องค่อนข้างอันตราย หวังว่าจะได้รับความร่วมมือในระดับที่สมน้ำสมเนื้อกับอันตรายที่จะได้รับนะ"
โจเซ็ต "นะ นายนี่มันไม่น่ารักจริง ๆ ด้วย! -----ทำไมกับคนอย่างนายนี่ ชั่ววูบนึงในตอนนั้น..."
โยชัวร์ "...?"
โจเซ็ต "ไม่มีอะไร! อย่ามามองผมด้วยนัยน์ตาประหลาด ๆ นั่นนะ!"
คีล "พอเถอะน่า โจเซ็ต งั้น จากนี้ไป จนกว่าจะทำเป้าหมายให้สำเร็จไปด้วยกัน พวกเราก็เป็นพรรคพวกกันอย่างแน่นอนแล้วนะ ฝากตัวด้วยนะ โยชัวร์"
โยชัวร์ "......................... เข้าใจแล้ว ฝากตัวด้วย"
โดรุน "เหอะ... ออกเดินทางกันได้หรือยังล่ะ?"
โยชัวร์ "อา... กลับกันเถอะ กลับไปยังลีเบร์ล ไปยังยังแผ่นดินที่ถูกปกคลุมไปด้วยเงาที่ซ่อนเร้นนั่น"



to be continued: Chapter 1 เงาที่เร้นกายคืบคลาน



Related entries:
Sora no Kiseki SC (空の軌跡SC)


No comments:

Post a Comment