Saturday, October 21, 2017

[บทสรุป] Sora no Kiseki SC - Chapter 8 แผ่นดินอันยุ่งเหยิง - Part 1

บทที่ 8 แผ่นดินอันยุ่งเหยิง
第八章 混迷の大地
- Part 1 -

การปรากฏตัวของนครลอยฟ้าก่อให้เกิดความสับสนวุ่นวายไปทั่วราชอาณาจักร
พวกเอสเทลต้องเผชิญหน้ากับเหล่า [งูกินหาง] อีกครั้ง โดยมีเหล่าผู้ช่วยเหลือที่คาดไม่ถึงปรากฏตัวเข้าแก้ไขสถานการณ์ได้อย่างทันท่วงที
แต่ในขณะเดียวกัน กองทัพจักรวรรดิได้ยกพลบุกประชิดชายแดนลีเบร์ล และชายหนุ่มผู้นั้นจะเป็นมิตรหรือศัตรูกันแน่!


Walkthrough Chart - Main Quest
- เหนือน่านฟ้าราชอาณาจักรลีเบร์ล -
แมวป่า 『山猫号』
- "ปะ เป็นไปไม่ได้น่า......" เด็กสาวตกตะลึงเมื่อได้เห็นภาพนครลอยฟ้าที่กล้องส่องทางไกลของแมวป่าจับภาพเอาไว้ได้
โจเซ็ต "อะ อะไรล่ะนั่น!? ใหญ่ขนาดนั้น...... อภิมหามหึมาเกินไปแล้ว!"
โดรุน "ใหญ่ขนาดนั้น ต้องมากกว่า 5 พันอาร์จแน่ ๆ ...... เกาะลอยฟ้ายักษ์ใหญ่งั้นเรอะ......"
คีล "ไม่หรอก...... โดยพื้นฐานแล้วดูเหมือนจะเป็นสิ่งที่มนุษย์สร้างขึ้น เรียกว่านครลอยฟ้าน่าจะเหมาะกว่านะ......"
โจเซ็ต "นะ นครลอยฟ้า......"
โดรุน "......ไม่น่าเชื่อ......"
- โดรุนเดินไปที่อุปกรณ์สื่อสาร ออกคำสั่งเหล่าลูกน้องให้ตระเตรียม [แมวป่า] เพื่อบินขึ้นไปที่นครลอยฟ้าด้วยเสียงอันดังลั่น
คีล "พะ พี่!?"
โจเซ็ต "อะ เอาจริงอ่ะ!?"
โดรุน "จริงซะยิ่งกว่าจริง เอาจริงสุด ๆ เฟ้ย! สมมติว่าถ้าเจ้าพวก [องค์กร] ทำให้สิ่งนั้นฟื้นคืนมาล่ะก็...... ต้องมีอภิมหาสมบัติหลับไหลอยู่เยอะแยะแน่ ๆ !"
คีล "คะ คิดให้มันถี่ถ้วนหน่อยซี~...... เจ้าสิ่งนั้นน่ะลำพังฝีมือของพวกเรารับไม่ไหวหรอกนะ! โจเซ็ตเองก็คิดแบบนั้นใช่มั้ยล่ะ!?"
โจเซ็ต "อะ อื~ม...... ผมเองก็ อุตส่าห์มาถึงที่นี่แล้วก็อยากจะพิสูจน์อะไรต่าง ๆ ให้แน่ใจล่ะมั๊ง......"
- คีลถึงกับผิดหวัง เพราะไม่คาดคิดว่าน้องสาวจะไม่ได้คิดแบบเดียวกับตน
โจเซ็ต "กะ ก็แหม สถานการณ์มันแปลก ๆ ไปตั้งกะเมื่อคืน ผมว่าระวังเอาไว้ก็ไม่เสียหายนี่ แล้วเครื่องมือสื่อสารออร์บเมนท์ก็ไม่ค่อยมีการติดต่อเข้ามาด้วย......"
โดรุน "จะว่าไปก็จริง ทั้งทางกองทัพก็ดี หรือกิลด์ก็ช่าง แต่ที่ไม่มีแม้กระทั่งการติดต่อของพวกชาวเมืองเข้ามาเลยนี่มัน------"
- ทันใดนั้น คลื่นแสงสีทองส่องประกายเจิดจ้า อุปกรณ์ต่าง ๆ ภายในห้องบังคับการดับลง "สลัดอากาศเล็ก" 『空賊レグ』 เข้ามารายงานกับหัวหน้าของเขาว่าจู่ ๆ เครื่องยนต์ออร์บเมนท์, เครื่องยนต์ลอยตัวหยุดการทำงานค่ะ
คีล "แบบนี้ก็แย่น่ะสิ...... สนามต้านแรงโน้มถ่วงที่เครื่องลอยตัวสร้างขึ้นลดลง...... ต่อจากนั้นหางเสือก็จะไม่มีปฏิกริยาตอบสนอง"
- พอได้ยินคีลพูดแบบนั้น ทั้งโดรุนทั้งโจเซ็ตถึงกับเหงื่อตก เพราะนั่นหมายความว่า......
คีล "......ด้วยระดับความสูงนี้ สิ่งที่พวกเราพอจะทำได้มีอยู่ 1 เรื่อง"
โดรุน & โจเซ็ต "คือ!?"
คีล "คือได้แค่ภาวนาต่อเทพธิดาไม่ให้พวกเราไปสวรรค์ทั้ง ๆ แบบนี้น่ะสิ......"
- แล้ว [แมวป่า] ก็สูญเสียการทรงตัว ตามมาด้วยเสียงกรีดร้องอันดังของสองศรีพี่น้องโดรุนและโจเซ็ต



- ทุกพื้นที่ของราชอาณาจักร ระบบออร์บเมนท์หยุดการทำงานโดยสิ้นเชิง ไม่ว่าจะเป็น "รูอัน" ที่ [สะพานใหญ่แลนแกรนด์] หยุดการทำงานยังผลให้เขตเมืองทั้ง 2 ตัดขาดออกจากกัน, "ไซสส์" ที่พวกชาวเมืองไม่พอใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นอย่างมาก, "ทางหลวงมิลฮี" ที่ยานรักษาความปลอดภัยต้องนำเครื่องจอดลงกลางทุ่งหญ้าข้างทางหลวง และ "อัลเซยู" ที่ต้องเอาเครื่องลงจอดฉุกเฉินบนทะเลสาบวาเลเรีย
สาขาบอส 『ボース支部』
- พวกเราจะเล่าเรื่องราวต่าง ๆ ให้กับ "ผู้เฒ่ารูแกรน" ฟังค่ะ
☆ได้รับการรายงานผลของงาน "เหตุประหลาดที่ [หอคอยสี่วงแหวน]" ค่ะ☆
- พวกเราแทบจะไม่เชื่อเลยว่าระบบออร์บเมนท์ทั้งหมดจะหยุดการทำงาน เพราะนั่นส่งผลกระทบต่อระบบประเทศชาติไม่ว่าจะเป็น การติดต่อสื่อสาร, การคมนาคม, การป้องกันภัย และสายการผลิต ทุกอย่างล้วนเป็นอัมพาตหมด รวมทั้งพวกชาวเมืองก็ต่างกังวลใจที่ไม่มีแสงไฟไม่มีสิ่งอำนวยความสะดวกใช้ ไม่ว่าจะเป็นเตาออร์บเมนท์หรือโคมไฟออร์บเมนท์ ทำให้ต้องกลับไปใช้แสงไฟจากตะเกียงแทนค่ะ
(จากตรงนี้จะทราบจาก "ผู้เฒ่ารูแกรน" ว่าเมื่อวานนี้พวกชาวเมืองได้กรูเข้ามาที่สมาคม, โรงงาน หรือแม้แต่คฤหาสน์นายกเทศมนตรีเพื่อถามว่าเกิดอะไรขึ้น ซึ่งทางสมาคมก็ไม่อาจหาคำตอบให้กับพวกชาวเมืองได้ เป็นค่ำคืนที่ปั่นป่วนมาก ๆ เลยค่ะ)
- แต่ยังดีที่เรายังพอมีข่าวดีแจ้งให้ทางสมาคมอยู่บ้าง ก็คือเรื่องที่ "ดร. รัซเซล" คิดค้นสิ่งประดิษฐ์ใหม่ขึ้นมาได้นั่นเองค่ะ
- ย้อนกลับไปเมื่อคืนวาน -
อัลเซยู 『アルセイユ』
- "------นี่คือ [เครื่องกำเนิดสนามพลังงานศูนย์] 『零(ゼロ)力場(りきば)発生器』 รุ่นต้นแบบ" "ดร. รัซเซล" กล่าวต่อพวกเราทุกคนในห้องประชุมมืด ๆ บนยานอัลเซยู
เอสเทล "เครื่องกำเนิด...... สนามพลังงานศูนย์?"
ดร. รัซเซล "กล่าวง่าย ๆ ก็คือ วงจรที่ทำให้เกิดสนามพลังที่จะไปหักล้างการตอบสนองของสนามพลังงานออร์บเมนท์คลื่นความถี่ยาวชนิดพิเศษที่ [กอสเปล] ทำให้เกิดขึ้น......"
เอสเทล "ฟังแล้วไม่เห็นจะง่ายตรงไหนเลย......"
โยชัวร์ "ไม่แน่ว่านั่นอาจจะ...... หมายถึงสามารถยกเลิก [ปรากฏการณ์ออร์บเมนท์หยุดการทำงาน] ได้อย่างนั้นเหรอครับ?"
- เพื่อน ๆ ทุกคนต่างตกใจ
ดร. รัซเซล "ใช่...... ถูกต้องตามนั้น สรุปแล้ว [ปรากฏการณ์ออร์บเมนท์หยุดการทำงาน] ก็คือปรากฏการณ์ที่พลังงานของออร์บเมนท์ถูกดูดไปผ่าน [กอสเปล] ยังไงล่ะ แต่ดูด [ไปที่ไหน] นั้นเคยเป็นปริศนามาก่อน แต่ ณ ตอนนี้ในที่สุดก็กระจ่างแจ้งขึ้นมาแล้ว"
คลอเซ่ "หมายถึงนครลอยฟ้า...... หมายถึง [วงแหวนประกายแสง] 『輝く環』 สินะคะ"
ดร. รัซเซล "ใช่ ถูกต้องตามนั้น [วงแหวนประกายแสง] ใช้ช่องโหว่ที่เรียกว่า [กอสเปล] แล้วทำให้ [ปรากฏการณ์ออร์บเมนท์หยุดการทำงาน] เกิดขึ้นจากมิติประหลาด แต่เพราะช่องโหว่อันนั้นเล็กเกินไป อาณาเขตที่มีผลกระทบจึงแคบ...... แต่เมื่อ [วงแหวนประกายแสง] ได้รับการปลดปล่อย อาณาเขตอันนั้นจึงขยายตัวขึ้นชั่วพริบตา และสิ่งนั้นก็ได้กลืนกินทั่วราชอาณาจักรเข้าไปด้วยยังไงล่ะ"
เอสเทล "ทั่วราชอาณาจักร......"
โยชัวร์ "นั่นคือปรากฏการณ์ในครั้งนี้อย่างนั้นเหรอครับ......"
ดร. รัซเซล "อืม ออร์บเมนท์แต่ละอันที่อยู่ในราชอาณาจักรคงจะหยุดการทำงานไปแล้ว แต่ [เครื่องกำเนิดสนามพลังงานศูนย์] อันนี้ มีการทำงานที่จะไปยกเลิกการแทรกแซงจาก [วงแหวน] ได้ -------ถ้าพูดในอีกแง่นึง ออร์บเมนท์ที่อยู่ข้าง ๆ เจ้านี่ จะทำงานได้อย่างไร้ปัญหา"
- จากตรงนี้ เราจะทราบว่า [เครื่องกำเนิดสนามพลังงานศูนย์] (เครื่องที่ ดร. เรียกว่า [อุปกรณ์ที่ว่า] ในบทที่แล้วนั่นแหล่ะค่ะ) สภาพยังไม่ดีมากนัก เพราะเป้าหมายที่รุ่นต้นแบบอันนี้จะทำการป้องกันนั้นไม่แน่นอน ไม่สามารถใช้กับออร์บเมนท์ที่มีขนาดใหญ่ที่ต้องถือถึงสองมือ ทั้งยังมีจำนวนจำกัดด้วย เพราะตอนนี้ ดร. สามารถทำให้เสร็จสมบูรณ์ได้แค่ 16 อันเท่านั้น ยังไม่สามารถทำตามจำนวนที่ป๋าคาซิอุสขอเอาไว้ได้เลยค่ะ
(ทุกคนได้ฟังเรื่องที่ป๋าอ่านสถานการณ์ออก และขอให้ดร. ช่วยทำสิ่งนี้ขึ้นมา ถึงกับทึ่งในความเก่งกาจระดับเทพของป๋าค่ะ)
หลวงพ่อเควิน "เมื่อเป็นแบบนั้น...... การนำ 16 อันนั่นไปใช้ก็เกือบจะตัดสินใจไปหมดแล้วสินะคร๊าบ"
ดร. รัซเซล "โฮ่...... เจ้า เฉียบแหลมมากทีเดียวนะนี่"
เอสเทล "เอ๊ะ เอ๊ะ หมายถึงอะไรเหรอ?"
หลวงพ่อเควิน "ในระหว่างที่เกิดความวุ่นวายสับสนอยู่นี่ สิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือข้อมูลข่าวสารที่ถูกต้องรวดเร็ว ไม่ว่าจะเป็นพวกขององค์กรที่ปรากฏตัว ไม่ว่าจะขนของที่จำเป็นไปยังที่แห่งไหน ถ้าไม่มีข้อมูลส่งมาถึงก็ไม่อาจรับมือได้ เมื่อเป็นแบบนั้น......"
โยชัวร์ "ก็ต้องนำไปใช้ เพื่อทำให้ฟังก์ชั่นของเครื่องมือสื่อสารในทุกพื้นที่ฟื้นตัวขึ้นมา...... สรุปก็คือ จะพูดแบบนี้สินะครับ?"
หลวงพ่อเควิน "บิงโกจ้า♪"
เอสเทล "งั้นเหรอ ถ้าอย่างนั้น......"
ร้อยเอกยูเลีย "สำหรับกองทัพแล้ว การที่ปืนออร์บเมนท์และเรือเหาะต่างก็ใช้งานไม่ได้นั้น ถือเป็นเรื่องร้ายแรง...... แต่การติดต่อระหว่างกองบัญชาการหรือกองกำลังทุกหน่วยขาดสะบั้นลง เป็นเรื่องที่รุนแรงยิ่งกว่า โดยเฉพาะการติดต่อระหว่างราชวัง, ประตูฮาเก้น, ค่ายเรสตอน จำเป็นต้องได้รับการฟื้นฟูอย่างเร่งด่วน"
เชราซาร์ด "กิลด์เองก็เช่นเดียวกัน...... ถ้าไม่สามารถดำเนินการติดต่อระหว่างสาขาได้ ถ้าเกิดอะไรขึ้นมาก็ไม่อาจรับมือได้"
- จากนั้น "ดร. รัซเซล" จะมอบ [เครื่องกำเนิดสนามพลังงานศูนย์] ให้ทางกองทัพ 10 อัน โดยจะแบ่งไปใข้กับ อัลเซยู, ราชวัง, ค่ายเรสตอน, ประตูฮาเก้น และก็ด่านในทุกพื้นที่ ส่วนอีก 6 อันดอกเตอร์จะมอบให้กับทางสมาคมเบรเซอร์ไว้สำหรับฟื้นฟูเครื่องมือสื่อสารค่ะ

จัดส่ง [เครื่องกำเนิดสนามพลังงานศูนย์]
『『零力場発生器』の配達』 (BP8)
สาขาบอส 『ボース支部』
- จากนั้น พวกเราจะขอให้ "ทีต้า" ช่วยติดตั้ง [เครื่องกำเนิดสนามพลังงานศูนย์] ให้กับสาขารูอัน โดยทีต้าจะทดสอบว่าใช้งานได้หรือไม่ โดยการติดต่อไปยังอัลเซยูที่คุณตาของเธออยู่ ซึ่งการใช้งานทุกอย่างราบรื่นเป็นไปได้ด้วยดีค่ะ
- ส่วน "คลอเซ่" และ "หลวงพ่อเควิน" ที่ไม่ได้อยู่ ณ ที่นี้นั้น เพราะทั้ง 2 คนได้มุ่งหน้าไปที่นครหลวงตั้งแต่ช่วงเช้าตรู่พร้อม ๆ กับพวกหน่วยองครักษ์ค่ะ
(จากตรงนี้จะทราบว่า "คลอเซ่" กลับไปรายงานสถานการณ์กับราชินีอาริเชีย ส่วน "เควิน" กลับไปรายงานกับอัครสังฆราช ซึ่งทั้ง 2 คนก็ได้นำ [เครื่องกำเนิดสนามพลังงงานศูนย์] ไปส่งที่สมาคมสาขานครหลวงแทนพวกเราแล้ว ดังนั้นก็เหลือสมาคมอีก 3 แห่งที่พวกเราจะต้องนำเครื่องกำเนิดฯ ไปส่งค่ะ)
- ถึงแม้พวกเราอยากจะตามพวก [องค์กร] ไปที่นครลอยฟ้า แต่ตอนนี้เรือเหาะก็ใช้งานไม่ได้ ดังนั้น เราก็ต้องทำสิ่งที่พอจะทำได้ตอนนี้ให้ดีที่สุดค่ะ
☆เลือกเพื่อนเข้ากลุ่ม 2 คน (เอสเทล, โยชัวร์ เป็นตัวละครบังคับ)☆
☆คลอเซ่, เควิน ออกจากกลุ่ม (ควอทซ์, เครื่องป้องกันและเครื่องประดับ ตัวเกมถอดให้อัตโนมัติค่ะ)☆
▼พื้นที่บอส 『ボース地方』
เมืองบอส 『ボース市』
- อย่าลืมเข้าไปดูบอร์ดรับงานจะมีงานให้ทำดังนี้ค่ะ (อย่าลืมกลับมารายงานผลด้วยนะคะ เพราะยังคงคอนเซปต์เดิมที่ว่า รับงานสาขาไหนต้องรายงานผลกับสาขานั้น ๆ ค่ะ)
(49) ประกาศจับสัตว์ปิศาจบนยอดเขาโครเน่
(50) ประกาศจับสัตว์ปิศาจบนถนนตัดใหม่แอนเซล
☆ว่าด้วย [ปรากฏการณ์ออร์บเมนท์หยุดการทำงาน]☆
■ผลกระกระทบ
- ตัวละครที่ไม่ได้สวมใส่ "เครื่องกำเนิดสนามพลังงานศูนย์" 『零力場発生器』 จะไม่สามารถใช้อาร์ทได้
- รวมทั้ง "ปืนใหญ่ออร์บเมนท์" อาวุธของ "ทีต้า" ก็เช่นเดียวกัน ถ้าหากไม่ได้สวมใส่เครื่องกำเนิดฯ ก็จะไม่สามารถโจมตีปกติหรือใช้ Craft ต่าง ๆ ได้ แต่ S-Craft ที่เป็นปืนกลแกตริ่งรูปแบบดินปืนอย่าง [แคนนอน อิมพัลส์] สามารถใช้งานได้ปกติค่ะ
- ถึงแม้ ตัวละครนั้น ๆ จะใช้อาร์ทไม่ได้ (ไม่ได้ใส่เครื่องกำเนิดฯ) แต่ผลของควอทซ์ที่สนับสนุนความสามารถต่าง ๆ ไม่ว่าจะในฉากต่อสู้หรือฉากแผนที่ก็ยังสามารถใช้งานได้ตามปกติค่ะ

☆วิธีการสวมใส่ [เครื่องกำเนิดฯ] ให้เข้า Camp Menu เลือกคำสั่ง Equip ในหมวดเครื่องประดับค่ะ☆

■ข้อพึงระวัง

- เมื่อมีการเปลี่ยนเพื่อนในกลุ่ม ตัวเกมจะถอดเครื่องกำเนิดฯ ให้อัตโนมัติค่ะ
- เมื่อมีการนำส่งเครื่องกำเนิดฯให้กับทางสาขา จำนวนของเครื่องนี้จะลดลงไปเรื่อย ๆ นะคะ (เมื่อส่งครบทุกพื้นที่แล้วเราจะเหลืออยู่ 1 ชิ้นค่ะ)
- ในกรณี ที่นำส่งให้ทางสาขาแล้วเครื่องกำเนิดฯ มีไม่เพียงพอ (ใส่ให้กับตัวละครในกลุ่ม) จะมีหน้าต่างให้เราเลือกถอดเครื่องกำเนิดฯออกจากเพื่อนในกลุ่มมา 1 คนค่ะ
☆เนื่องจากว่า ศัตรูจิ๊ดจิ๋วกระจ้อยร่อยที่เคยพบเจอมาไม่ได้เก่งขึ้นตามเรา
ดังนั้น แนะนำให้สวมควอทซ์ "เร้นใบไม้" 『葉隠』 จะได้ไม่ต้องมาเสียเวลาต่อสู้ (กดปุ่ม) ให้เมื่อยข้อมือค่ะ☆
- เราจะสามารถเลือกไปตามหัวเมืองใหญ่ ๆ ที่ไหนก่อนก็ได้อีก 3 หัวเมือง แต่ตามบทสรุปนี้ เราจะมุ่งหน้าไปยัง รอเลนซ์ > ไซสส์ > รูอัน ตามลำดับค่ะ
- ที่ทางเข้าเขตเมืองด้านใต้ จะเห็นพวกชาวเมืองมุงดูอะไรกันอยู่ ซึ่งก็คือทิวทัศน์ของ "นครลอยฟ้า" นั่นเองค่ะ ❤ดูภาพ "นครลอยฟ้า-1" ตรงนี้ค่ะ
(พวกเราจะตกใจมาก เพราะเมื่อมองจากบนพื้นแล้วเห็นนครลอยฟ้านั่นมีขนาดใหญ่มาก ๆ การที่ชาวเมืองไม่สบายใจจึงไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรเลยค่ะ)
☆ในทุกพื้นที่จะมีภาพของ "นครลอยฟ้า" ในมุมต่าง ๆ ให้เราได้ชมกันด้วยนะคะ
โดยสถานที่สามารถมองเห็นได้จะมีเครื่องหมาย ! (Look Point) ปรากฏขึ้นค่ะ☆
★คุยกับพวกชาวเมือง จะทราบว่าพวกเขากำลังกังวลเรื่องที่ออร์บเมนท์หยุดการทำงานและทำให้เกิดความสับสนวุ่นวายขึ้นไปทั่วค่ะ
★คุยกับ "นายกเทศมนตรีเมเบล" เธอบอกว่าต้องใช้เวลาอธิบายมากกว่าครึ่งคืน พวกชาวเมืองที่กรูเข้ามาที่นี่ถึงจะยอมกลับไปค่ะ แต่นั่นก็ไม่ได้ทำให้พวกชาวเมืองคลายความกังวลใจลงไปได้ หากปล่อยให้เป็นแบบนี้ต่อไปเมเบลกลัวว่าจะเกิดเหตุการณ์อะไรบางอย่างขึ้นมาอีกค่ะ ถึงจะเป็นอย่างนั้นเมเบลก็ยังยืนยันหนักแน่นว่า ไม่ว่าสถานการณ์จะเป็นเช่นไร การปกป้องชาวเมืองก็เป็นงานของนายกเทศมนตรี และเธอก็เชื่อมั่นว่าพวกเอสเทลจะต้องคลี่คลายปัญหานี้ลงไปได้ค่ะ
- หากไปคุยกับ "โคเมลูส" 『コメルス』 ที่โรงงานลูชิล พวกเราจะให้เขายืมเครื่องกำเนิดฯ เฉพาะเวลาที่พวกเรามาใช้บริการที่โรงงานค่ะ (โรงงานของพื้นที่อื่น ๆ ก็เช่นเดียวกันค่ะ)
หอคอยอำพัน 『琥珀の塔』
- บนชั้นดาดฟ้าของหอคอยจะพบกับสัตว์ปิศาจรูปร่างประหลาดค่ะ (ไม่บังคับ แต่ถ้าปราบแล้วจะได้รับ Rare Item ที่หาที่ไหนไม่ได้ด้วยนะคะ แน่นอนว่ามีให้ตามไปปราบทุกหอคอย ถ้าไม่ลำบากจนเกินไปก็เดินทางไปปราบกันดีกว่าค่ะ)
- แมลงมิติ *3 + วิซาร์ดซีด *3 -
- 『次元蟲*3 + ウェザーシード*3』 -
**ศัตรูพลังป้องกันกายภาพค่อนข้างสูง แนะนำให้ใช้อาร์ทปราบจะดีกว่าค่ะ**
**แมลงมิติจะมีท่า "รังสีนูเมเรียม" ที่โจมตีเป็นเส้นตรงทำให้เราติด MOV Down และวิซาร์ดซีดสามารถใช้อาร์ท "เปโตร สเฟียร์" (ดิน - อาณาเขตปานกลาง) ทำให้เราติด MOV Down ได้เช่นเดียวกันค่ะ**
**การต่อสู้ครั้งนี้อย่าใช้เวลาให้นานจะดีกว่า เพราะเจ้าแมลงตัวนี้มีท่าดูด HP และ EP ด้วย ทั้งยังสามารถแบ่งตัวได้เรื่อย ๆ อีกต่างหาก (HP/2) ทำให้วุ่นวายพอควรค่ะ**
**แนะนำ ใช้ "คล็อกดาวน์" ใส่ศัตรู แล้วใช้อาร์ทกินอาณาเขตปราบพร้อม ๆ กันจะง่ายขึ้นค่ะ**
- ปราบได้ จะได้รับ "ชีลด์ ออร์บ" 『シールドオーブ』 มาจากแมลงมิติตัวนึงค่ะ (อัตราการได้รับไอเทม 100%)
ริมทะเลสาบวาเลเรีย 『ヴァレリア湖畔』
- คราวนี้ เรามาแวะทำ Event พิเศษที่ริมทะเลสาบกันดีกว่าค่ะ
★คุยกับ "เจ้าหน้าที่สังเกตการณ์เอโก้" ที่มาหาซื้ออาหารให้กับเพื่อน ๆ ในโรงเตี๊ยมนกกระเต็น ตอนแรกเอสเทลก็ตกใจอยู่หรอกค่ะ ว่าหน่วยองครักษ์มาอยู่ที่นี่ได้ยังไง แต่คิดไปคิดมาอัลเซยูก็จอดเท้งเต้งอยู่บนทะเลสาบจะมาอยู่ที่นี่ก็ไม่แปลกนี่นา (เฮ้อ นางเอกเราเป๋ออีกแล้ว)
★คุยกับ "เจ้าหน้าที่บังคับการบินลูคูส" ที่สะพานเรือหลังโรงเตี๊ยม เขาจะบอกว่าจริง ๆ แล้วที่ต้องมากับเอโก้เป็นหน้าที่ของริออนแท้ ๆ แต่เจ้าหมอนั่นก็ดันหนีไปซะเฉย ๆ น่ะค่ะ (เอโก้น่ากลัวขนาดนั้นเลยเหรอเนี่ย)
★คุยกับลุง "ลอยด์" เจ้าเก่าหน้าเดิม เขาจะบอกว่าทั้ง ๆ ที่คราวนี้อาจจะตกเจ้าของได้แท้ ๆ แต่พวกปลาที่จะใช้เป็นเหยื่ออย่าง "เทร้าด์" หรือ "ซาโมน่า" กลับไม่มีให้ตกเลย อาจเป็นเพราะเงาของเกาะที่ลอยอยู่บนฟ้าตกกระทบลงมาบนผิวทะเลสาบ พวกปลาก็เลยหนีหายไปหมดหรือเปล่านะ
- ไปที่สะพานปลา ในช่วงนี้เราจะสามารถตก "เจ้าของ" ทะเลสาบวาเลเรียได้แล้วค่ะ แต่จำเป็นต้องมีเหยื่ออย่าง "เทร้าด์" หรือ "ซาโมน่า" ด้วยนะคะ (ถ้ามีเหยื่อสำรองไว้น้อย แนะนำ Save ไว้ก่อนกันพลาดค่ะ)
- เมื่อตกปลาประหลาดขึ้นมาได้ "ลอยด์" จะดีใจม๊ากมาก เพราะตาสีแดงนั่น ลำตัวขนาดใหญ่นั่น ต้องเป็น "เจ้าของแห่งทะเลสาบวาเลเรีย" ไม่ผิดเพี้ยนแน่ ๆ และเพื่อเป็นการยืนยันว่าเอสเทลสามารถตกเจ้าของขึ้นมาได้ ลอยด์จะมอบ "ใบรับรองคุณวุฒินักตกปลาระดับพิเศษ" 『特級釣師認定証』 ให้กับเอสเทลค่ะ
(ใบรับรองนี้ใช้เพื่อยืนยันว่าเอสเทลเป็น [นักตกปลาระดับพิเศษ] ซึ่งได้รับการรับรองอย่างเป็นทางการของ [สมาพันธ์นักตกปลา] 『釣公師団』 และจะได้รับความสะดวกสบายอย่างหาพรรณาไม่ได้จากสำนักงานใหญ่ [สมาพันธ์นักตกปลา] ในนครหลวงค่ะ)
ยอดเขาโครเน่ 『クローネ峠』
- หากแวะมาที่ด่านบนยอดเขาโครเน่ จะพบกับ "เรย์" 『レイ』 (1 ในนักวิจัยจากไซสส์ที่ขึ้นไปช่วยดร. รัซเซลบนอัลเซยูค่ะ) และน้องเหมียว "อันโตวานู" 『アントワーヌー』 ที่อยู่ระหว่างเดินทางกลับไซสส์ค่ะ พวกเราจึงเอ่ยปากจะพาเขาไปส่งที่ไซสส์ให้ แต่เรย์บอกว่าจะกลับเองค่ะ โดยให้เหตุผลว่าเขารู้จักทางดีอยู่แล้วแถมมีอันโตวานนูไปเป็นเพื่อนด้วย และเพื่อเป็นการขอบคุณน้ำใจของพวกเรา เรย์จะมอบ "ลูกอมออโรร่ามหัศจรรย์" อาหารโจมตีที่เขาคิดค้นขึ้นมาให้เราค่ะ
(เอสเทลอดคิดไม่ได้ว่าถ้าเป็นคน ๆ นี้ล่ะก็ จะเดินทางไปไหนมาไหนเองก็คงจะไม่เป็นไรล่ะมั๊งเนี่ย)
- ไหน ๆ ก็มาถึงที่นี่แล้ว ลองออกไปข้างนอกด่านฝั่งพื้นที่รูอัน "พลทหารแอชเชอร์" 『兵士アッシャー』 กำลังยืนมองทิวทัศน์ของท้องฟ้าที่มี "นครลอยฟ้า" ปรากฏให้เห็นค่ะ ❤ดูภาพ "นครลอยฟ้า-2" ตรงนี้ค่ะ
- ยังมีที่ต่าง ๆ ที่สามารถไปถามไถ่เพื่อน ๆ ได้ด้วยนะคะ (ไม่บังคับค่ะ)
★ที่หมู่บ้านราเวนนู จะพบกับเบรเซอร์รุ่นพี่แห่งสาขาบอส "สติงก์" 『スティング』 ที่มาดูแลความปลอดภัยใหักับหมู่บ้านค่ะ
(ถ้าพา "เจ๊เชร่า" หรือ "อากัต" มาด้วยจะมีบทพูดทักทายตามประสาคนรู้จักค่ะ)
★คุยกับ "ผู้ใหญ่บ้านไรเซ็น" 『ライゼン村長』 เขาจะบอกว่าหมู่บ้านราเวนนูไม่ค่อยลำบากเท่าไหร่กับการที่ออร์บเมนท์ไม่ทำงาน เพราะปกติแล้วหมู่บ้านก็ไม่ค่อยได้ใช้พวกสิ่งอำนวยความสะดวกกันอยู่แล้วค่ะ
★ที่ประตูฮาเก้น ทางกองทัพได้ตั้งด่านป้องกันพวกจักรวรรดิขึ้นมาแบบลวก ๆ แก้ขัดไปก่อน เพราะไม่แน่ใจว่า พวกจักรวรรดิจะอาศัยช่วงเวลานี้ยกพลบุกเข้ามาในลีเบร์ลหรือเปล่าค่ะ
★คุยกับ "นายพลมอร์แกน" 『モルガン将軍』 เขาบอกว่าตัวเขาเองก็อยากจะเอ่ยปากขอบคุณพวกเอสเทลเรื่อง [หอคอย] เหมือนกัน แต่ในสถานการณ์ที่ตึงเครียดเช่นนี้เขาไม่อาจจะเอ่ยปากชมได้ไว้รอคราวหน้าจะดีกว่าค่ะ (ยังเป็นคนตรงยังกับไม้บรรทัดไม่เปลี่ยนเลยนะเนี่ย) แต่ถึงยังไงนายพลมอร์แกน (ที่เคยเกลียดเบรเซอร์) ก็ได้ฝากความหวังไว้กับเบรเซอร์อย่างพวกเอสเทลด้วยนะคะ
★ที่กระท่อมกลางหุบเขาหมอก "รุคเคน" 『リュッケン』 นักวิจัยสิ่งมีชีวิตยุคโบราณถึงกับเดินทางมาสอบถามลุง "เวมเลอร์" 『ヴェムラー』 เกี่ยวกับมังกรถึงที่นี่เชียวนะคะ
▼พื้นที่รอเลนซ์ 『ローレント地方』
★คุยกับ "หัวหน้ากองแอสตอน" 『アストン隊長』 (พ่อของลุค) ในด่านที่สะพานเวรูท เขาจะขอบคุณเราที่ช่วยเรื่องคดีหมอกลงเมื่อหลายวันก่อนค่ะ นอกจากนั้นยังได้รับทราบว่า ที่ให้เปิดประตูด่านทิ้งเอาไว้ทั้ง ๆ แบบนั้น เพราะว่าเวลาเปิดปิด (ด้วยมือ) ค่อนข้างลำบาก รวมทั้งไม่อยากให้ประตูไปขัดขวางการจราจรอีกด้วย ส่วนเรื่องความปลอดภัย ทางกองกำลังรักษาความปลอดภัยได้เข้มงวดในการตรวจคนเข้าเมืองอยู่แล้ว แต่สำหรับเบรเซอร์อย่างพวกเราก็ผ่านไปได้ตามสะดวกค่ะ
★บนทางหลวงมิลฮีจะพบกับเหล่ากองทัพราชอาณาจักรที่ต้องนำยานรักษาความปลอดภัยจอดลงฉุกเฉินบนทางหลวง แต่โชคดีที่อยู่ใกล้ ๆ ไร่เพอเซล พอตกเย็นก็ไปทานข้าวที่นั่น และเพื่อแทนคำขอบคุณพวกเขาจึงจัดสรรคนไปเฝ้าระวังที่ไร่ให้ด้วยนะคะ
★แวะไปทักทาย "ทีโอ" 『ティオ』 เธอจะดีใจที่โยชัวร์กลับมาแล้ว แต่ยังไม่วายแอบแซวเอสเทลกับโยชัวร์ว่า "ที่น่าเป็นห่วงที่สุดน่ะเป็นเอสเทลอยู่ตรงนี้ไม่ใช่เหรอไง ถึงกับร้องไห้ฟูมฟายเลยด้วยนะ ค่าชดใช้ให้กับน้ำตาของหญิงสาวมันแพงนะยะ~" โยชัวร์ยิ้มรับบอกว่าเรื่องนั้นเขาได้เตรียมใจไว้เรียบร้อยแล้วค่ะ จากนั้น ทีโอจะชวนให้ทั้ง 2 คนแวะมาเที่ยวที่นี่บ้างถ้าหากมีเวลาว่างค่ะ
(ถ้าพา "เจ๊เชร่า" มาด้วย ทีโอจะเอ่ยปากชวนคุณเชร่าด้วยค่ะ)
★ส่วนคู่แฝด "วิล" 『ウィル』 และ "เชล" 『チェル』 ก็ดีใจมาก ๆ ที่โยชัวร์กลับมาแล้ว แต่เด็ก ๆ ก็ต้องเบื่อไปตามระเบียบเพราะพี่โยชัวร์สุดที่รักอยู่ระหว่างการทำงานซะงั้น แต่โยชัวร์ก็ให้สัญญาว่าจะแวะมาเที่ยวหลังงานเสร็จ เด็ก ๆ ก็ตั้งหน้าตั้งตารอเลยล่ะค่ะ
★คุยกับป้า "ฮันนา" 『ハンナ』 ป้าแกบอกว่าอุปกรณ์ทำอาหารรุ่นที่ใช้พลังงานออร์บเมนท์ใช้งานไม่ได้มันก็ไม่ลำบากเท่าไรหรอก แต่เธอก็รู้สึกไม่ค่อยดีที่ให้พวกคุณทหารต้องมากินแซนวิชเย็น ๆ แบบเมื่อเช้านี้ค่ะ (เอสเทลกับโยชัวร์เอ่ยปากชมว่าฝีมือทำแซนด์วิชของคุณป้าฮันนาน่ะสุดยอดอยู่แล้ว พอป้าแกได้ยินคำชมก็รู้สึกปลื้มไปเลยล่ะค่ะ)
★ส่วนลุง "ฟรันซ์" 『フランツ』 ก็ดีใจที่เห็นพวกเอสเทล ส่วนเรื่องงานในไร่ลุงฟรันซ์บอกว่า เขาก็แค่กลับไปใช้แรงงานคนเหมือนสมัยก่อน แต่ถ้าเป็นไปได้ก็หวังว่าเรือประจำทางจะซ่อมเสร็จเร็ว ๆ นี้ เพราะไม่งั้นก็ขนส่งผักผลไม้ไปพื้นที่อื่น ๆ อย่างบอสมาร์เก็ตไม่ได้ ซึ่งถือเป็นปัญหาใหญ่เลยล่ะค่ะ
เมืองรอเลนซ์ 『ローレント市』
(51) ประกาศจับสัตว์ปิศาจบนทางหลวงเอรีซ
(52) ประกาศจับสัตว์ปิศาจบนทางหลวงมิลฮี
- ไปที่สาขาจะพบกับ "ไอน่า" 『アイナ』 ค่ะ
◆ในกรณีที่พา "เจ๊เชร่า" มาด้วย จะมีบทสนทนาพิเศษระหว่างเจ๊เชร่ากับไอน่าค่ะ
- ไอน่าดีใจที่ได้เห็นพวกเราปลอดภัยดี เพราะเธอเป็นห่วงตอนที่พวกเราต้องไปคลี่คลายเหตุการณ์ประหลาดที่ [หอคอย] ส่วนโยชัวร์จะขอโทษไอน่าที่ทำให้เธอต้องเป็นห่วง แต่ไอน่าบอกว่าแค่โยชัวร์กลับมาก็น่ายินดีแล้วค่ะ
- เราจะเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับ [นครลอยฟ้า] และเรื่อง [เครื่องกำเนิดสนามพลังงานศูนย์] ให้ไอน่าฟังค่ะ
- หลังจากเล่าให้ไอน่าฟังแล้ว เราจะนำ [เครื่องกำเนิดฯ] ไปติดตั้งให้ที่เครื่องมือสื่อสารของสาขา
(ในกรณีที่พา "เจ๊เชร่า" มาด้วย เจ๊เชร่าจะออกปากชวนไอน่าไปดื่มแทนคำขอบคุณ ซึ่งก็แน่อยู่แล้วที่ไอน่าจะตอบตกลง โยชัวร์ถึงกับเหนื่อยหน่ายที่ทั้ง 2 คนเนี่ยไม่เปลี่ยนไปเลยจริง ๆ ค่ะ)
◆ในกรณีที่พา "ทีต้า" มาด้วย ทีต้าจะเป็นคนติดตั้ง [เครื่องกำเนิดสนามพลังงานศูนย์] เองค่ะ แต่ถ้าไม่ได้พาทีต้ามาด้วย "โยชัวร์" จะเป็นคนติดตั้งเองค่ะ
- นอกจากนั้น "ไอน่า" บอกว่าถ้าเป็นไปได้ก็อยากจะให้พวกเราลองตรวจดูที่บอร์ดรับงาน แถมเธอยังรู้สึกเป็นห่วง "ริจจ์" ที่ไปทำงานคุ้มภัยที่เหมืองมัลก้าด้วย เพราะที่เหมืองเพิ่งจะเริ่มลงมืองานใหม่เองแท้ ๆ แต่ออร์บเมนท์ก็มาใช้งานไม่ได้ ถ้ามีเวลาก็อยากจะให้เราช่วยไปดูลาดเลาให้หน่อยค่ะ
☆หากต้องการเปลี่ยนเพื่อนในกลุ่ม ให้คุยกับไอน่าแล้วเลือกคำสั่งที่ 3 "เรียกเพื่อน" 『仲間を呼ぶ』
ไอน่าจะเรียกเพื่อน ๆ ของเราให้มาพักบนชั้น 2 ของสมาคมค่ะ☆
- บนหอนาฬิกา เราจะสามารถมองเห็นทิวทัศน์อีกมุมหนึ่งของ "นครลอยฟ้า" ได้ค่ะ ❤ดูภาพ "นครลอยฟ้า-3" ตรงนี้ค่ะ
★คุยกับคุณปู่ "เมลเดิร์ซ" 『メルダース』 จะทราบว่าเขามาช่วยดูแลหอนาฬิกาที่หยุดเดินไปแล้ว ตามคำขอร้องของ "ผู้เฒ่าแพนดิว" 『パンデュ老人』 ค่ะ
★คุยกับ "เอลิซซ่า" 『エリッサ』 ที่บาร์อาเบนด์ พอเอลิซซ่าเห็นโยชัวร์กลับมาก็โล่งใจ เพราะว่าก่อนหน้านี้เอสเทลพาผู้ชายแปลกหน้ามาด้วยทำให้เธอคิดไปต่าง ๆ นานาด้วยความเป็นห่วง (ว่าเอสเทลจะนอกใจโยชัวร์) มากเลยล่ะ (เอสเทลอุบอิบว่าเรื่องที่เอลิซซ่าเป็นห่วงนี่ช่างผิดกับคนอื่นจริง ๆ นะ)
★คุยกับคุณลุง "เด็ซเซล" 『デッセル』 พ่อของเอลิซซ่าที่กำลังหนักใจว่ากำลังจะมีงานเลี้ยงขึ้นเย็นนี้ แต่เมื่อเตาออร์บเมนท์ใช้งานไม่ได้เขาก็จะใช้อุปกรณ์เท่าที่มีทำอาหารให้สำเร็จให้ดูค่ะ
◆ในกรณีที่พา "เจ๊เชร่า" มาด้วย ลองคุยกับ "ฟอล์คเนอร์" 『フォークナー』 ดูนะคะ เขาจะโล่งใจม๊ากมากที่คุณเชราซาร์ดอยู่ระหว่างการทำงานค่ะ (จะได้ไม่ต้องมาหาเรื่องดื่มที่นี่ไง)
- หากไปคุยกับ "ฟรายดี้" 『フライディ』 ที่โรงงานเมลเดิร์ซ เขาจะดีใจที่ได้เจอโยชัวร์อีกครั้งค่ะ และถึงเขาอยากจะช่วยสนับสนุนพวกเอสเทล แต่ออร์บเมนท์ก็ใช้งานไม่ได้ เอสเทลจะเสนอให้ฟรายดี้ยืมเครื่องกำเนิดฯ เวลาที่พวกเรามาใช้บริการที่โรงงานค่ะ
★คุยกับ "คลูเซ่" 『クルーセ』 สาวน้อยผู้ใฝ่ฝันอยากเป็นนักข่าว โยชัวร์สงสัยว่าคลูเซ่รู้จักคำยาก ๆ อย่างปรากฏการณ์ออร์บเมนท์หยุดการทำงานได้ยังไง เธอบอกว่าเพราะได้ข้อมูลมาจากฟรายดี้ค่ะ
(ถ้าคุยกับ "คลูเซ่" อีกครั้ง เธอบอกว่าวันนี้มีกำหนดการงานแต่งงานของคุณอารุมกับคุณแอร์รี่ด้วยค่ะ)
★คุยกับ "ลุค" 『ルック』 และ "แพ็ต" 『パット』 ที่กำลังวิ่งเล่นกันอยู่ ทั้ง 2 คนจะดีใจที่ได้เจอเอสเทลกับโยชัวร์ค่ะ ลุคก็ยังทำเป็นออกคำสั่งให้เอสเทลไปตรวจสอบเกาะที่ลอยอยู่บนฟ้า ซึ่งถ้าทำได้เอสเทลก็อยากจะรีบไปที่นั่นทันทีอยู่แล้วล่ะค่ะ
★คุยกับลุง "เฟท" 『フェイト』 เพื่อนสมัยเป็นทหารของป๋าที่หน้าร้านของรินอนค่ะ พอเห็นโยชัวร์แล้วลุงแกถึงกับบอกว่า "ไม่ได้เจอกันมาระยะนึง สีหน้าดูเป็นลูกผู้ชายขึ้นมากนะ" แล้วลุงเฟทก็ไม่ลืมที่จะบอกให้พวกเราพยายามต่อไปในฐานะเบรเซอร์ ไม่ให้แพ้เจ้าคาซิอุสที่กลับไปเป็นทหารด้วยค่ะ
★คุยกับ "รินอน" 『リノン』 เขาจะดีใจที่เห็นเอสเทลกับโยชัวร์ปรากฏตัวค่ะ (เอสเทลบอกว่าใช้คำว่าปรากฏตัวเนี่ย ทำอย่างกับเธอเป็นสัตว์ปิศาจหรือพวกวิญญาณเลยแฮะ) แถมรินอนยังพูดอะไรแปลก ๆ แบบชีวิตมนุษย์นี่เป็นเรื่องที่ละเอียดบอบบางนะ เอสเทลกับโยชัวร์ก็ได้แต่งง ๆ กับคำพูดและท่าทางแปลก ๆ ของเขาค่ะ
(ถ้าคุยกับ "รินอน" อีกครั้ง โยชัวร์จะถามว่าเด็กผู้หญิงที่เดินไปเดินมา (คิดดี้) เป็นพนักงานใหม่หรือเปล่า พอโยชัวร์ได้ยินรินอนบอกว่า คิดดี้ไม่ได้มาทำงานพิเศษที่นี่แต่เป็นเหมือนผู้อยู่อาศัยมากกว่า เพราะแม่ของเขาพามาก็เลยมาช่วยงานที่ร้านให้ โยชัวร์แอบคิดในใจว่า "(ท่าทางคุณรินอนเองก็คงจะลำบากนะเนี่ย......)" สงสัยว่าโยชัวร์จะรู้สึกถึงความผิดปกติของรินอนได้แล้วสิเนี่ย)
★คุยกับลุง "เอลเกอร์" 『エルガー』 ลุงแกจะดีใจที่เห็นโยชัวร์กลับมาอย่างปลอดภัยค่ะ ซึ่งโยชัวร์บอกว่าเขาได้รับประสบการณ์จากการหายไปในคราวนี้มากมายก็จริง แต่ตรงจุดนั้นก็ทำให้ทุกคนไม่สบายใจด้วย เอลเกอร์ให้กำลังใจโยชัวร์ด้วยเสียงหัวเราะสดใสว่า "ถ้าเป็นลูกผู้ชายก็ต้องประมาณนั้นอยู่แล้ว โยชัวร์ เจ้าเป็นลูกชายที่น่าภาคภูมิใจของเมืองนี้นะ" ค่ะ
(ถ้าคุยกับลุง "เอลเกอร์" อีกครั้ง ลุงจะบอกว่าถ้ายังไงก็ไปให้สเตล่าเห็นหน้าซักหน่อย เพราะสเตล่าเป็นห่วงโยชัวร์มากกว่าที่เขาเป็นห่วงซะอีกค่ะ)
★คุยกับป้า "สเตล่า" 『ステラ』 บนชั้น 2 ป้าแกอดไม่ได้ที่จะขอตำหนิโยชัวร์ที่จู่ ๆ ก็หายตัวไปค่ะ แต่พอป้าแกเห็นโยชัวร์รู้สึกผิดอยู่แล้วแบบนี้ ก็ขอโทษเขาและบอกกับโยชัวร์ว่าจะไปตำหนิโยชัวร์ก็ไม่ถูก เพราะคนที่เป็นทุกข์มากที่สุดก็น่าจะเป็นตัวโยชัวร์เองค่ะ แล้วป้าสเตล่าจะบอกให้โยชัวร์เงยหน้าขึ้น แล้วทำหน้าตาให้มันสดชื่นสมวัยค่ะ
★คุยกับ "สังฆราชดีไวน์" 『デバイン教区長』 หลวงพ่อจะรู้สึกโล่งใจที่เห็นโยชัวร์กลับมา และไม่ลืมที่จะให้หลักธรรมคำสอนแก่พวกเอสเทลด้วยค่ะ
★ที่โบสถ์รอเลนซ์ จะเห็นเพื่อนเจ้าบ่าว, เพื่อนเจ้าสาวและญาติ ๆ ที่มาร่วมงานแต่งงานของอารุมและแอร์รี่ค่ะ
★คุยกับ "อลัน" 『アラン』 ประชาสัมพันธ์ของท่าเทียบเรือเหาะ ถึงงานอธิบายเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับเรือประจำทางจะเป็นหน้าที่ของเขา แต่เขาก็ไม่อยากทำเท่าไรหรอกนะ เพราะทำให้ไม่มีเวลาไปเหล่สาวน่ะสิ ("มะ ไม่เคยเปลี่ยนไปเลยนะครับ" นี่คือคำพูดของโยชัวร์ที่ได้แต่ยิ้มแห้ง ๆ กับพฤติกรรมของอลันค่ะ)
★คุยกับ "นายกเทศมนตรีคลาอุส" 『クラウス市長』 ที่คฤหาสน์นายกเทศมนตรี เขาจะขอบคุณเอสเทลตอนเหตุการณ์หมอกที่รอเลนซ์ค่ะ พวกเอสเทลจะรู้สึกว่า ชาวเมืองรอเลนซ์ดูไม่ร้อนใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในตอนนี้เลย แถมยังใช้ชีวิตเหมือนว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้นซะด้วยซ้ำ ผิดกับชาวเมืองบอสเป็นอยากมาก คลาอุสบอกว่าอาจเป็นเพราะปกติที่รอเลนซ์ก็มีอุปกรณ์ออร์บเมนท์น้อยอยู่แล้ว หลัก ๆ ก็มีแค่หอนาฬิกาที่เดียว แล้วชาวเมืองรอเลนซ์ก็มีนิสัยสบาย ๆ อยู่แล้วด้วยค่ะ (เอสเทลก็ได้แต่ยอมรับกับความบ้านน๊อกบ้านนอกของเมืองเกิดตัวเองอีกครั้งค่ะ)
หอคอยหยก 『翡翠の塔』
- บนชั้นดาดฟ้าของหอคอยจะพบกับสัตว์ปิศาจรูปร่างประหลาด สู้กับ (แมลงมิติ *3 + วิซาร์ดซีด *3) เหมือนเดิมค่ะ
- ปราบได้ จะได้รับ "โซล ออร์บ" 『ソウルオーブ』 จากแมลงมิติตัวนึงค่ะ (อัตราการได้รับไอเทม 100% ค่ะ)
เหมืองมัลก้า 『マルガ鉱山』
(46) ช่วยเหลือเหล่าคนขุดแร่
- คุยกับ "คนขุดแร่แลงก์" 『鉱夫ラング』 ที่ยืนอยู่หน้าลิฟท์ในเหมือง จะเกิดเควสต์ลับทันทีค่ะ
- เมื่อเคลียร์ซับเควสต์อันนี้ เราจะกลับไปที่รอเลนซ์ (อัตโนมัติ) ค่ะ
- หลังจากเคลียร์ (46) ช่วยเหลือเหล่าคนขุดแร่ แล้ว เมื่อเข้าไปในโบสถ์รอเลนซ์จะมีอีเวนท์พิเศษงานแต่งงานของอารุมและแอร์รี่เกิดขึ้นค่ะ
◆ในกรณีของ "อากัต" จะทำหน้าตาหน้ากลัว (สุด ๆ) หลังจากที่เห็นคู่บ่าวสาวจูจุ๊บสาบานกัน เพราะตัวเขารู้สึกว่าคนนอกไม่สมควรไปจ้องคู่บ่าวสาวแบบนั้น เพราะมันน่าอายน่ะค่ะ (ดูเหมือนอากัตจะจริงจังมากเลยนะนี่)
◆ในกรณีของ "เจ๊เชร่า" พอเจ๊โดนคนผลักก็เข้าสู่โหมดเอาจริงโดยสิ้นเชิงค่ะ
◆ในกรณีของ "ทีต้า" ก็ใจเต้นตึกตัก เข้าสู่โหมดเอาจริงอย่างเงียบเชียบ แถมยังใช้หลักการของวิศวกรคำนวนแรงลม, องศาและจุดตกของช่อดอกไม้อีกต่างหากค่ะ
◆ในกรณีของลุง "จิน" จะรู้สึกสนใจที่ได้เห็นประเพณีแบบนี้ค่ะ
◆ในกรณีที่มี "เอสเทล" เป็นผู้หญิงคนเดียว เอสเทลจะคิดว่าไหน ๆ เธอก็เป็นผู้หญิงลองรับช่อดอกไม้ดูบ้างก็คงจะไม่เป็นไรค่ะ (เอ๊ะ แล้วปกติไม่ใช่ผู้หญิงเหรอเนี่ย)
- ทว่าช่อดอกไม้ที่เจ้าสาวปาออกไป ก็ไถลออกนอกเส้นทางออกซะอย่างงั้น (อะไรจะปาได้สูงขนาดนั้น) ในขณะที่ทุกคนคิดว่าใครจะไปรับได้นั้น จู่ ๆ ดอกไม้ก็หล่นปุ๊ลงไปบนมือของเมดสาว "คิดดี้" 『キディ』 ที่กำลังจะกลับไปที่ร้านหลังจากมาส่งของให้ที่คฤหาสน์นายกเทศนมนตรีพอดี๊พอดีค่ะ
(หรือว่า คิดดี้อาจจะได้แต่งงานกับรินอน หนุ่มผู้ไม่คิดจะมีแฟน เพราะมุแต่งานดูแลร้านสารพัดอย่าง แต่พอเห็นหนูคิดดี้ที่เอาการเอางานและนิสัยน่ารักสุด ๆ จิตใจของหนุ่มผู้นี้ก็หวั่นไหวไปกับชุดเมด! เอ๊ย ไม่ใช่ หวั่นไหวไปกับความขยันของเธอ!)
☆หลังพิธีแต่งงานที่โบสถ์จบลง ให้ไปคุยกับ "เซร่า" 『セーラ』 ที่บาร์อาเบนด์ เธอจะมอบ "แจ็คนักเสี่ยงโชค เล่ม 11" ให้กับเราค่ะ
★คุยกับ "ริจจ์" ที่โฮเต็ล รอเลนซ์ ริจจ์จะได้รับคำชมเชยที่ได้ยืนหยัดต่อสู้ปกป้องเหล่าชาวเมืองด้วยความกล้าหาญจากทุกคนค่ะ (อันที่จริง ข้อเสียใหญ่ ๆ ของริจจ์ก็คือไม่มั่นใจในตัวเอง แต่พอได้รับกำลังใจจากพวกเราเขาก็จะพยายามให้มากกว่านี้ค่ะ)
▼พื้นที่แกรนเซล 『グランセル地方』
นครหลวงแกรนเซล 『王都グランセル』
(57) ประกาศจับสัตว์ปิศาจที่ทางน้ำใต้ดิน
(58) ประกาศจับสัตว์ปิศาจบนถนนรอบเมืองเอลเบ
☆ในกรณีที่เราได้รับ "ใบรับรองคุณวุฒินักตกปลาระดับพิเศษ" มาแล้ว
ให้ไปคุยกับ "ฟิชเชอร์" 『フィッシャー』 หัวหน้าสมาพันธ์นักตกปลาที่สำนักงานใหญ่สมาพันธ์นักตกปลา
เขาจะให้สิทธิพิเศษกับเอสเทลในการเลือกซื้อเหยื่อตกปลา สนนราคาชิ้นละ 100 มิร่าค่ะ☆
★คุยกับ "เอลนัน" 『エルナン』 ที่สาขา เราจะสอบถามสถานการณ์ในนครหลวงจากเอลนันค่ะ เอลนันบอกว่าตอนแรกชาวเมืองก็ตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แต่เพราะองค์ราชินีอาริเชียออกมาประกาศด้วยพระองค์เองว่ากำลังอยู่ระหว่างตรวจสอบสาเหตุของปรากฏการณ์ออร์บเมนท์หยุดการทำงาน ชาวเมืองจึงวางใจและกลับไปดำเนินชีวิตตามปกติตามที่ราชินีได้รับสั่งค่ะ
☆คุยกับเอลนันอีกครั้งเลือกคำสั่งที่ 3 "เรียกเพื่อน" 『仲間を呼ぶ』 ได้เช่นเดียวกันค่ะ☆
★เมื่อขึ้นไปบนชั้น 2 ของสำนักข่าวลีเบร์ลที่ตั้งอยู่ในเขตเมืองด้านตะวันตก เหล่านักข่าวประชุมกันว่าในเวลาที่ออร์บเมนท์จะหยุดการทำงานเช่นนี้ หากประชาชนไม่ได้รับข่าวสารก็จะยิ่งกังวลใจ ดังนั้น พวกเขาก็ยิ่งต้องพยายามรวบรวมข่าวสารที่ถูกต้องเพื่อแจ้งให้แก่ประชาชนค่ะ
★คุยกับ "โดรธี" เธอจะดีใจมากที่เห็นโยชัวร์กลับมาแล้วก็จะถ่ายรูปเพื่อเป็นที่ระลึก แต่พอนึกขึ้นได้ว่าออร์เบิลคาเมร่าใช้งานไม่ได้ สาวแว่นผู้มีนิสัยที่เป็นตัวของตัวเองสุด ๆ ก็เศร้าไปตามระเบียบ แต่ก็เปลี่ยนอารมณ์กลับมาร่าเริงเหมือนเดิมแทบจะในทันทีค่ะ (เฮ้อ ไม่เปลี่ยนไปเลยนะนี่)
★คุยกับ "ไนแอล" เขาจะบอกว่าถึงเหตุการณ์จะเป็นแบบนี้ แต่ก็ทำให้เขาวางปากกาไม่ได้หรอก ถึงกล้องของยัยโดรธีจะใช้งานไม่ได้ แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะไม่มีวิธีอื่นค่ะ แล้วหลังจากนี้ไนแอลบอกว่าจะไปขอคำปรึกษาจากราชินีอาริเชียด้วยนะคะ (ไนแอลมีหยอดด้วยว่าให้โยชัวร์ล้างคอรอได้เลย เพราะว่าเขาจะขอดูดข้อมูลจากโยชัวร์ให้อิ่มเลยค่ะ)
-เข้าไปในบ้านที่เคยประกาศขายในภาค FC ข้าง ๆ คอฟฟี่เฮ้าส์บาราล จะพบกับอดีตนายกเทศมนตรีเมืองรูอัน "ดัลมอร์" ค่ะ
(จากคำบอกเล่าของ "ดัลมอร์" ความทรงจำในตอนที่เกิดคดีสถานเลี้ยงเด็กกำพร้านั้นคลุมเครือเหมือนกับโดนใครบางคนควบคุมอยู่ค่ะ หลังจากนั้นเขาได้ใช้ทรัพย์สมบัติที่เหลืออยู่ประกันตัวเองออกมาจากค่ายเรสตอนและกลับมาทำการค้าเพื่อรวบรวมเงินทำให้ตระกูลดัลมอร์รุ่งเรืองอีกครั้งค่ะ)
- ซึ่งร้านที่ดัลมอร์เลือกที่จะเปิด ก็คือร้านขายเซพิธที่ไม่เคยมีใครเปิดมาก่อนที่ลีเบร์ลนั่นเองค่ะ
(ถึงแม้การหาเซพิธมาไว้ในครอบครองจะเป็นเรื่องที่ลำบาก แต่ดัลมอร์บอกว่าเขามีวิธีการได้มาซึ่งบอกใครไม่ได้ ทำเอานางเอกของเราอดสงสัยไม่ได้ว่าดัลมอร์ใช้วิธีอะไร เพราะมันฟังดูแปลกมากกกก)
☆เราสามารถนำ "มิร่า" (Mira) มาแลกเป็น "เซพิธ" (Sepith)
ได้ที่ "บริษัทดัลมอร์" 『ダルモア商会』 เฉพาะบทที่ 8 เท่านั้นนะคะ
หากมีมิร่าเหลือพอ แนะนำให้ซื้อเซพิธตุนเอาไว้ให้เยอะ ๆ
เพราะหลังจากนี้การผสมควอทซ์จะเข้าสู่ขั้นหฤโหดค่ะ☆
★คุยกับ "อัครสังฆราชคาแลนท์" 『カラント大司教』 เขาจะพูดแต่เพียงว่าเหตุการณ์ในคราวนี้นั้นไม่ใช่แค่บททดสอบจากเทพธิดา จากนั้นก็นิ่งเงียบไม่พูดอะไรค่ะ
★คุยกับ "นักบวชลีวาล" 『リヴァル司祭』 เขาจะบอกว่าเมื่อกี๊มีผู้ชาย 2 คนเอาพัสดุขนาดไม่ใหญ่นักแต่ห่ออย่างมิดชิดจ่าหน้าถึงหลวงพ่อเควินมาส่ง (เพื่อน ๆ จะได้ทราบว่ามันคืออะไรในตอนท้ายของเรื่องราวค่ะ) ซึ่งอัครสังฆราชก็บอกให้รีบนำไปส่งทันที ทำให้นักบวชลีวาลสงสัยว่านี่มันเรื่องอะไรกันแน่ค่ะ
★คุยกับ "ซิสเตอร์ โนอา" 『シスター・ノア』 เธอจะบอกว่าหลวงพ่อเควินมาคุยกับพระราชคณะตั้งนาน แล้วหลังจากนั้นก็ออกไปไม่กลับเข้ามาอีกเลย เธอก็เลยสงสัยว่าหลวงพ่อเควินกับอัครสังฆราชเกี่ยวข้องกันแบบไหนกันแน่
- ด้านในสุดของท่าเรือแกรนเซล ตรงท่าเทียบทางทิศตะวันตกของฉาก เราจะสามารถมองเห็นมุมด้านล่างของ "นครลอยฟ้า" ได้ค่ะ ❤ดูภาพ "นครลอยฟ้า-4" ตรงนี้ค่ะ(เราสามารถมองเห็นมุมเดียวกันนี้ได้ที่ตำหนักราชินีค่ะ)
- เนื่องจากออร์บเมนท์หยุดการทำงานทำให้การขนส่งหยุดชะงัก "ลีเบร์ลสาร ฉบับ 10" จึงมีวางจำหน่ายในนครหลวงเท่านั้น ถ้าต้องการอัฟเดทข่าวสารก็อย่าลืมแวะไปที่ "ห้างเอเดล - มุมจิปาถะ" หรือไม่ก็ "ที่พักผู้โดยสาร - ท่าเทียบเรือเหาะ" ได้ค่ะ
★ไปคุยกับ "มิดดี้" 『ミディ』 น้องสาวฝาแฝดของคิดดี้ เธอโล่งใจที่ได้ข่าวว่าพี่สาวของเธออยู่ดีมีสุขที่รอเลนซ์ แต่ก็รีบแก้ตัวว่าไม่ได้เป็นห่วงอะไรหรอกนะ ก็แค่อยากจะตัดสินกับพี่สาวอย่างยุติธรรมว่าใครจะเป็นฝ่ายชนะในฐานะที่เป็นคนขายชาค่ะ
☆หากต้องการเข้าไปที่สถานทูต
ไม่ว่าจะเป็น "สถานทูตจักรวรรดิ" หรือ "สถานทูตสาธารณรัฐ" ก็สามารถเข้าไปได้เลย
ไม่จำเป็นต้องมี "โอลิเวียร์" หรือ "จิน" ร่วมกลุ่มค่ะ☆
★คุยกับ "ทูตเอลซ่า" 『エルザ大使』 ถึงเธอจะไม่รู้ข้อมูลใด ๆ เกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แต่เธอก็อ่านสถานการณ์ได้อย่างทะลุปรุโปร่งโดยไม่ต้องถามเอสเทลเช่นเคยค่ะ และเธอก็ยังเชื่อมั่นด้วยว่าพวกเอสเทลจะคลี่คลายเหตุการณ์นี้ลงไปได้ค่ะ
★คุยกับ "ทูตดาวิลล์" 『ダヴィル大使』 พอเขาเห็นพวกเอสเทลก็รีบถามทันทีว่าเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นได้ยังไง เพราะถ้าเป็นแบบนี้ทางสถานทูตก็ไม่สามารถติดต่อกับทางจักรวรรดิได้ค่ะ โยชัวร์จึงบอกให้ท่านทูตไปสอบถามกับทางราชวังแกรนเซลด้วยตัวเอง แต่ทูตดาวิลล์บอกว่าถึงไปถามก็คงไม่ได้รับคำตอบที่แน่ชัดมาอยู่ดี เขาก็แค่อยากจะให้เครื่องมือสื่อสารใช้งานได้เหมือนเดิมเท่านั้นค่ะ (ดูเหมือนว่าทางจักรวรรดิจะติดต่อมาหาทูตดาวิลล์ด้วยเรื่องบางอย่าง แต่ยังคุยกันได้ไม่เท่าไรการติดต่อก็หลุดไปเพราะเกิดปรากฏการณ์ออร์บเมนท์หยุดการทำงานขึ้นค่ะ ดังนั้น โยชัวร์เห็นว่าไม่สมควรให้ทางสถานทูตจักรวรรดิรู้เรื่องหรือให้ยืม [เครื่องกำเนิดฯ] โดยเด็ดขาดค่ะ)
★ที่ส่วนงานการบริหาร (ห้องทางด้านซ้ายบนชั้น 1 ค่ะ) จะพบกับ "ดยุคดิวนัน" 『デュナン公爵』 ที่กำลังให้ข้อมูลแก่ประชาชนที่มาสอบถามถึงเรื่องออร์บเมนท์หยุดการทำงานว่าตอนนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบ และก็ได้บอกให้ประชาชนวางใจว่าราชินีอาริเชียจะต้องให้ความช่วยเหลือเท่าที่จะทำได้อย่างแน่นอน (ทำเอาพวกเอสเทลอึ้งไปตาม ๆ กัน เพราะดยุคดิวนันใจเย็นขึ้นและเอาการเอางานผิดกับที่เคยเป็นมาก่อน แถมยังทำหน้าที่นี้ได้อย่างยอดเยี่ยมเสียด้วยนะคะเนี่ย)
★คุยกับลุง "หัวหน้าพ่อบ้านฟิลลิป" 『執事フィリップ』 ลุงแกจะบอกโยชัวร์ว่าตอนที่โยชัวร์ไม่อยู่ทางเขาได้รับความช่วยเหลือจากท่านเอสเทลมากมาย เอสเทลรีบถล่มตัวว่าไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรเลย ส่วนโยชัวร์ก็ได้แต่ยิ้ม ราวกับแอบดีใจที่เอสเทลพัฒนาตนเองจนเป็นที่พึ่งพาให้กับคนอื่นได้มากขึ้นค่ะ
★คุยกับ "ดยุคดิวนัน" เขาจะบอกว่าตอนนี้องค์ราชินีกับคลอเดียกำลังประชุมกันอยู่อาจจะเข้าพบไม่ได้ ถ้าอยากจะรู้รายละเอียดก็ให้ไปถามหัวหน้านางกำนัลฮิลด้าก็ได้ค่ะ (โห แม้แต่กริยาท่าทางที่แสดงต่อพวกเอสเทลก็เปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือเลยนะคะเนี่ย)
★คุยกับประชาชนที่มาสอบถามเรื่องราว เขาจะบอกว่าดยุคดิวนันยอดเยี่ยมยิ่งกว่าที่คิดไว้ เว้นแต่ทรงผมประหลาด ๆ นั่นทีดูไม่ค่อยจะ...... น่ะค่ะ
★คุยกับ "เชีย" 『シア』 ที่ห้องเมด เชียดีใจที่ได้พบกับโยชัวร์อีกครั้ง แล้วก็พูดออกมาว่า "ยังงดงามไม่เปลี่ยนไปเลยนะคะ" (ว่าแต่ทำไมถึงใช้คำว่า "สวย" ไม่ใช่ "หล่อ" ล่ะเนี่ย)
★คุยกับ "คุณนายฮิลด้า" 『ヒルダ夫人』 ที่หน้าท้องพระโรง เธอจะดีใจที่เห็นโยชัวร์กลับมาอย่างปลอดภัยค่ะ ทั้งยังบอกว่าองค์ราชินีกับองค์หญิงคลอเดียกำลังประชุมเรื่องสำคัญกันอยู่ ตอนนี้จึงไม่สามารถเข้าพบได้ค่ะ
- บนสวยลอยฟ้า เข้าไปที่ระเบียงในตำหนักราชินี เราจะสามารถมองเห็นมุมด้านล่างของ "นครลอยฟ้า" ได้ค่ะ ❤ดูภาพ "นครลอยฟ้า-4" ตรงนี้ค่ะ(เป็นมุมเดียวกันกับที่เห็นที่ท่าเรือค่ะ)
▼พื้นที่ไซสส์ 『ツァイス地方』
★คุยกับ "พลทหารซามูเอล" 『兵士サムエル』 ที่เฝ้ายามอยู่หน้าค่ายเรสตอน เอสเทลจะถามเขาว่านายพลจัตวาคาซิอุสอยู่ที่นี่หรือเปล่า ซึ่งซามูเอลบอกว่าตอนนี้นายพลจัตวาอยู่ก็จริง แต่ก็มีออกไปดูแลและลงคำสั่งในพื้นที่ต่าง ๆ โดยไม่มีหยุดพักผ่อน และถึงจะเป็นเบรเซอร์ก็ตาม แต่คงจะให้เข้าพบไม่ได้ค่ะ โยชัวร์จึงบอกกับซามูเอลว่าเอสเทลเป็นลูกสาวของนายพลจัตวา พอซามูเอลได้ยินก็ตกใจ ถึงเขาจะเคยได้ยินว่าท่านนายพลจัตวามีลูกสาวที่เป็นเบรเซอร์แต่ก็ไม่เคยเจอตัวจริงมาก่อนค่ะ (ถึงภายหลังซามูเอลจะให้เอสเทลเข้าไป แต่เธอไม่อยากเข้าไปรบกวนพ่อของเธอค่ะ แต่เพื่อน ๆ เห็นว่าแค่แป๊บเดียวจะเป็นไรไป เอสเทลจึงพูดกับเพื่อน ๆ ว่า "คุณพ่อก็มีเส้นทางของคุณพ่อ ชั้นก็มีเส้นทางของชั้น ชั้นคิดว่าถ้าคุณพ่อพยายามโดยไม่มีย่อท้อ งานของพวกเราก็จะสบายขึ้น...... และถ้าพวกเราพยายามโดยไม่มีย่อท้อ งานของคุณพ่อก็จะสบายขึ้นเช่นเดียวกัน เพราะงั้นตอนนี้แค่นี้ก็พอแล้วล่ะ" แล้วโยชัวร์จะฝากให้พลทหารซามูเอลว่าถ้ามีโอกาสก็ช่วยฝากบอกคาซิอุสว่าพวกเขาแวะมาหาค่ะ)
เมืองไซสส์ 『ツァイス市』
(55) ประกาศจับสัตว์ปิศาจบนทางหลวงริตเตอร์
(56) ประกาศจับสัตว์ปิศาจบนถนนทุ่งหญ้าทรัต
- ไปที่สาขาจะพบกับ "คิริก้า" 『キリカ』 ที่อ่านทางว่า พวกเราจะมาถึงในช่วงนี้ได้อย่างถูกต้องค่ะ
◆ในกรณีที่พา "จิน" มาด้วย จะมีบทสนทนาพิเศษระหว่างจินกับคิริก้าค่ะ
- ได้รับทราบจากคิริก้าว่า ทางหัวหน้าโรงงานเมอร์ด็อกซ์ก็ทุ่มเทสุดกำลังทำให้พวกชาวเมืองให้คลายความกังวลใจให้มากที่สุดค่ะ นอกจากนั้น ปัญหาอีกอย่างหนึ่งก็คืออุโมงค์คัลเดียที่ไฟส่องทางดับทั้งหมด ทำให้การเดินทางไปมาลำบากมาก รวมทั้งเครื่องสูบน้ำที่เอลโมก็หยุดการทำงานทำให้ไม่สามารถเข้าไปแช่น้ำพุร้อนได้ค่ะ
- เราจะเล่าเรื่องราวต่าง ๆ ที่พบเจอมาหลังจากแยกกับคิริก้าที่หอคอยแดงชาด รวมทั้งเรื่องของ [นครลอยฟ้า] และเรื่อง [เครื่องกำเนิดสนามพลังงานศูนย์] ให้คิริก้าฟังค่ะ
- จากนั้น เราจะนำ [เครื่องกำเนิดฯ] ไปติดตั้งให้ที่เครื่องมือสื่อสารของสาขาค่ะ
(ในกรณีที่พา "จิน" มาด้วย พอจินเห็นคิริก้ากล่าวขอบคุณพวกเรา จินจะแซวคิริก้าว่าเดี๋ยวนี้ทำตัวว่านอนสอนง่ายขึ้นเยอะ แต่ก็โดนคิริก้าตอกกลับมาด้วยคำพูดเรียบ ๆ แต่เสียดแทงใจเหมือนเดิมค่ะ)
- นอกจากนั้น "คิริก้า" บอกว่าถ้ามีโอกาสก็ให้ไปตรวจดูความเรียบร้อยของโรงงานกลางกับเอลโมด้วย เพราะตอนนี้ไม่รู้ว่าจะมีเรื่องลำบากอะไรหรือเปล่าค่ะ
☆ถ้าต้องการเรียกเพื่อนมาที่นี่ ก็คุยกับคิริก้าแล้วเลือกคำสั่งที่ 3 "เรียกเพื่อน" 『仲間を呼ぶ』 เหมือนเดิมค่ะ☆
◆ถ้ามี "ทีต้า" ร่วมกลุ่มล่ะก็ เวลาไปคุยกับพวกชาวเมืองบางคน จะมีบทสนทนาพิเศษเล็ก ๆ น้อย ๆ ด้วยนะคะ
★คุยกับ "หว่อง" 『ウォン』 เบรเซอร์ประจำสาขาไซสส์ที่กำลังยืนมองรถขนของที่จอดสนิทด้วยความหนักใจด้านหน้าร้านขายอาวุธสไตน์ค่ะ สอบถามแล้วได้ความว่า เพราะรถขนของที่เขาเคยคุ้มภัยคันนี้ ดันมาหยุดทำงานแล้วจอดขวางถนนครึ่ง ๆ กลาง ๆ ก็เลยกลายเป็นว่ารถมันมาขัดขวางการจราจรไปโดยปริยายค่ะ
★คุยกับ "หัวหน้าซ่อมบำรุงกุสตาฟ" 『グスタフ整備長』 ที่ท่าเทียบเรือเหาะ เขาก็ยังสดใสซาบซ่าร่าเริงแม้จะอยู่ในสถานการณ์เช่นนี้ และถ้ามีเรื่องที่ต้องขอแรงเขาก็จะขอรบกวนด้วยค่ะ
โรงงานกลาง 『中央工房』
- เมื่อเข้าไปที่โรงงานกลางจะพบว่าภายในโรงงานกลางมืดสลัวมีเพียงแสงไฟจากตะเกียงคอยส่องให้ความสว่างเท่านั้น นอกจากนั้นลิฟท์ก็ใช้งานไม่ได้ ต้องใช้บันไดหนีไฟแทนค่ะ
★คุยกับ "หัวหน้าโรงงานเมอร์ด็อกซ์" 『マードック工房長』 ที่ห้องหัวหน้าโรงงานบนชั้น 2 เขาจะถามว่าของที่ดอกเตอร์รัซเซลพัฒนามีประโยชน์กับพวกเราหรือเปล่า (แน่นอนว่ามีประโยชน์มาก ๆ อยู่แล้ว) พวกเราจะอดเป็นห่วงทางโรงงานกลางไม่ได้ เพราะในสภาพแบบนี้งานวิจัยต่าง ๆ ก็ต้องหยุดชะงักลงไป ตรงนี้เมอร์ด็อกซ์ก็กังวลใจเหมือนกัน ก็ได้แต่ภาวนาให้สามารถดำเนินการวิจัยได้อีกครั้งเร็ว ๆ ค่ะ
★คุยกับ "คัลโน่" 『カルノー』 ทีห้องเทคนิคบนชั้น 3 (คน ๆ นี้ก็คือคนที่มีหน้าที่พัฒนาปืนออร์บเมนท์ค่ะ) เขาจะถามถึงคนที่ใช้ปืน (โอลิเวียร์) ว่าไปไหน พอรู้ว่าโอลิเวียร์กลับประเทศบ้านเกิดไปแล้วก็รู้สึกเสียดาย (คัลโน่เพิ่งรู้ว่าโอลิเวียร์เป็นชาวต่างชาติค่ะ) เพราะเขาอยากจะให้โอลิเวียร์ดูปืนรุ่นใหม่ที่ตัวเขาได้พัฒนาจนเสร็จสมบูรณ์แล้วน่ะค่ะ
★คุยกับ "ทีเอรี่" 『ティエリ』 ที่ห้องทดลองบนชั้น 4 เขากำลังหนักใจว่าจะปรับระดับอุณหภูมิในเรือนกระจกยังไงดี เพราะออร์บเมนท์ก็ใช้งานไม่ได้ แถมรุ่นพี่เรย์ก็ไม่อยู่ซะอีก (ในกรณีที่เราพบกับ "เรย์" บนด่านที่ยอดเขาโครเน่มาแล้ว เราจะบอกทีเอรี่ว่าเรย์กำลังอยู่ระหว่างเดินทางกลับมาที่นี่ค่ะ)
- บนชั้นดาดฟ้าของโรงงานกลาง เราจะสามารถมองเห็นทิวทัศน์ของ "นครลอยฟ้า" ได้ค่ะ ❤ดูภาพ "นครลอยฟ้า-5" ตรงนี้ค่ะ
หอคอยแดงชาด 『紅蓮の塔』
- บนชั้นดาดฟ้าของหอคอยจะพบกับสัตว์ปิศาจรูปร่างประหลาด สู้กับ (แมลงมิติ *3 + วิซาร์ดซีด *3) เหมือนเดิมค่ะ
- ปราบได้ จะได้รับ "พาวเวอร์ ออร์บ" 『パワーオーブ』 จากแมลงมิติตัวนึงค่ะ (อัตราการได้รับไอเทม 100% ค่ะ)
หมู่บ้านเอลโม 『エルモ村』
(47) ซ่อมแซมบ่อน้ำพุร้อนเอลโมให้เหมือนเดิม **จำเป็นต้องมี "ทีต้า" ร่วมกลุ่มมาด้วย**
- เมื่อเข้าไปคุยกับ "คุณป้ามาโอะ" 『マオ婆さん』 ที่โรงเตี๊ยมโมมิจิจะเกิดเควสต์ลับทันทีค่ะ
ป้อมวูล์ฟ 『ヴォルフ砦』
☆ในกรณีที่เคลียร์ (47) ซ่อมแซมบ่อน้ำพุร้อนเอลโมให้เหมือนเดิม ให้ไปคุยกับ "หัวหน้ากองเพส" 『ペイス隊長』 เขาจะมอบ "แจ็คนักเสี่ยงโชค เล่ม 13" ให้กับเอสเทลอ่านจะได้รีแลกซ์ค่ะ
★คุยกับ "กุลดอล์ฟ" 『グンドルフ』 เบรเซอร์รุ่นพี่ประจำสาขาไซสส์ที่อยู่ระหว่างการเดินตรวจตราไปตามที่ต่าง ๆ ในพื้นที่ไซสส์ค่ะ (ในกรณีที่มาก่อนเคลียร์ซับเควสต์ข้างต้นนะคะ)
อุโมงค์คัลเดีย 『カルデア隧道』
- จริง ๆ แล้วจะวิ่งผ่านอุโมงค์คัลเดียเพื่อมุ่งสู่พื้นที่รูอันไปเลยก็ได้ค่ะ แต่ว่า ถ้าทำแบบนั้นจะพลาด Rare Item ไปน่ะสิ ดังนั้น แนะนำให้เพื่อน ๆ ที่มี "แว่นส่องมองกลางคืน" ไม่ครบ 4 อัน ก็ให้กลับไปซื้อที่ "เบล สเตชั่น" (ไซสส์) หรือไปซื้อที่ "ร้านปลอดภาษีโอนีล" (รูอัน) เตรียมไว้ได้เลยนะคะ เพราะจำเป็นแน่นอนค่ะ
- ให้เข้าไปในทางแยกที่อยู่ทางด้านทิศใต้ในอุโมงค์คัลเดียตรงฉากที่จะเข้าสู่ทางเข้าชั้นใต้ดินของโรงงานกลาง (เดินเลียบกำแพงไปเรื่อย ๆ ก็จะเจอได้โดยง่ายค่ะ)
- ดีไวน์เพนกวิน *2 -
- 『デヴァインペングー*2』 -
**แนะนำ ให้สวม "แว่นส่องมองกลางคืน" ให้กับเพื่อน ๆ ทุกคนค่ะ ถ้าไม่สวมล่ะก็การต่อสู้ในครั้งนี้จะยากขึ้นอย่างมาก เพราะจะติดสถานะ "มืดมิด" กันถ้วนหน้าค่ะ**
**แนะนำ ให้สวมเครื่องประดับที่ป้องกัน "สับสน", "นอนหลับ" และ "ผนึกทักษะ" ไว้จะง่ายขึ้น เพราะศัตรูมีท่าที่ทำให้เราติดสถานะที่น่าปวดหัวเหล่านี้ค่ะ**
**ถ้าเตรียมการมาดี การต่อสู้ในครั้งนี้จะไม่ยากอะไรเลยค่ะ โจมตีธรรมดาสลับกับใช้ Craft และ S-Craft ไปเรื่อย ๆ ก็จะชนะได้อย่างสบาย ๆ ค่ะ**
- ปราบได้ จะได้รับ "ดีไวน์ครอส" 『デヴァインクロス』 จากดีไวน์เพนกวินตัวนึงค่ะ ซึ่งไอเทมนี้จะเพิ่มสเตตัสทุกอย่าง (ยกเว้น RNG) ค่ะ กล่าวได้ว่าเป็นเครื่องประดับสุดยอดของภาค SC นี้เลยนะคะ (อัตราการได้รับไอเทม 100% ค่ะ)
▼พื้นที่รูอัน 『ルーアン地方』
★ที่ด้านหน้าทางเข้าแอร์ แลตเท่น เราจะได้พบกับ "เมรูซ" 『メルツ』 เตรียมเบรเซอร์แห่งสาขารูอันส่งเสียงทักทายเราด้วยความสดใสเต็มเปี่ยมไปด้วยพละกำลังเช่นเคยด้วยนะคะ ตอนนี้เขากำลังอยู่ระหว่างการเดินตรวจตราไปรอบ ๆ พื้นที่นั่นเองค่ะ
หอคอยฟ้าคราม 『紺碧の塔』
- บนชั้นดาดฟ้าของหอคอยจะพบกับสัตว์ปิศาจรูปร่างประหลาด สู้กับ (แมลงมิติ *3 + วิซาร์ดซีด *3) เหมือนเดิมค่ะ
- ปราบได้ จะได้รับ "ไมนด์ ออร์บ" 『マインドオーブ』 จากแมลงมิติตัวนึงค่ะ (อัตราการได้รับไอเทม 100% ค่ะ)
เมืองรูอัน 『ルーアン市』
(53) ประกาศจับสัตว์ปิศาจบนถนนเลียบทะเลเมเว
(54) ประกาศจับสัตว์ปิศาจที่หอคอยฟ้าคราม
☆เนื่องจากว่า "สะพานใหญ่แลนแกรนด์" 『ラングランド大橋』 ไม่สามารถใช้งานได้
การเดินทางไปมาระหว่างเขตเมืองด้านเหนือกับเขตเมืองด้านใต้นั้นจำเป็นต้องใช้เรือเล็กแทนค่ะ
สำหรับเขตเมืองด้านเหนือ ท่าขึ้นเรือจะอยู่ที่ชั้นใต้ดินของโฮเต็ล บลังเช่
และเขตเมืองด้านใต้ ท่าขึ้นเรือจะอยู่ใกล้ ๆ โกดังด้านใต้สุดของฉากค่ะ
แต่ต้องรอคิวกันนานหน่อยนะคะ เพราะมีเรือเล็กของ "ผู้เฒ่ามูราต" 『ムラート老人』 ให้เพียงลำเดียวค่ะ
(น่าสงสารลุงแกจังเลย จะพายจนกล้ามโตมั้ยน๊า)☆
★ไม่น่าเชื่อแต่ก็ต้องเชื่อว่าเหล่าเด็กเกแห่งเมืองรูอันกลุ่ม "เรเว่น" 『レイヴン』 จะกลับตัวกลับใจมาช่วยเหลือพวกชาวเมืองในเวลาคับขันเช่นนี้ค่ะ ลองคุยดูแล้วจะพบว่าบางคนพยายามพูดภาษาสุภาพหลังจากที่ลิ้นพันกันไปพันกันมาก็พูดได้ แต่จนแล้วจนรอดเวลาดีใจก็หลุดปากพูดภาษาเด็กแนวซะงั้นค่ะ
◆ในกรณีที่พา "อากัต" มาด้วย ไปคุยกับ "เบลูฟ" 『ベルフ』 ที่ห้องครัวในคฤหาสน์นายกฯ จะมีบทสนทนาพิเศษของอากัตกับลูกชายของนายกฯนอร์แมนที่ตอนนี้เอาการเอางานมากขึ้นกว่าแต่ก่อนเยอะค่ะ
★คุยกับ "เลขาเดรุส" 『秘書デルス』 ที่หน้าห้องนายกฯ เขาจะขอบคุณเราที่ช่วยคลี่คลายคดี่ที่เกิดขึ้นที่โรงแรมเมื่อหลายวันก่อนค่ะ (ในกรณีที่เคลียร์ (10) คดีลอบทำร้ายในสำนักงานเลือกตั้ง ค่ะ ถ้าลืมไปแล้ว ก็กลับไปดูรายละเอียดในบทที่ 1 ได้นะคะ)
★คุยกับ "นายกเทศมนตรีนอร์แมน" 『ノーマン市長』 นายกฯคนใหม่ของเมืองรูอัน เขาจะขอบคุณพวกเราที่ช่วยคลี่คลายคดีที่โรงแรมเมื่อวันก่อนค่ะ (ในกรณีที่เคลียร์ (10) คดีลอบทำร้ายในสำนักงานเลือกตั้ง ค่ะ พอโยชัวร์ได้ยินรายละเอียดว่าเป็นคดีประตูโขกหัว ก็อุบอิบออกมาว่ามีคดีแบบนั้นด้วยหรือนี่) ถึงตอนนี้นอร์แมนอยากจะร่วมดื่มเหล้าอวยพรที่เขาได้รับเลือกเป็นนายกฯกับพวกเรา แต่ก็ไม่สามารถทำได้ เพราะตอนนี้เรื่องสำคัญที่สุดคือต้องให้ความช่วยเหลือชาวเมืองที่กำลังเดือดร้อนอยู่ในสถานการณ์เช่นนี้ค่ะ (อันที่จริง นอร์แมนไม่ค่อยได้กลับบ้านตั้งแต่เป็นนายกฯค่ะ ถ้าลองไปคุยกับ "บริตเจ็ต" 『ブリジット』 ภรรยาของเขาในบ้านหลังด้านขวามือของคฤหาสน์นายกฯ เธอจะเป็นห่วงสามีเธอมากค่ะ)
- ไปที่สาขาจะพบกับ "จาง" 『ジャン』 ที่เห็นพวกเราทุกคนกลับมาจากหอคอยอย่างปลอดภัยกันทุกคนก็รู้สึกโล่งใจค่ะ
(ได้รับทราบจากจางว่า สะพานใหญ่แลนแกรนด์ไม่สามารถใช้งานได้ทำให้เมืองรูอันวุ่นวายมาก ถ้าไม่ได้กลุ่ม [เรเว่น] หรือคนจากโบสถ์เจ็ดจรัสคงจะวุ่นวายขึ้นกว่านี้ค่ะ พอพวกเราได้ยินว่าพวก [เรเว่น] มาช่วยเหลือทางสมาคมถึงกับออกอาการอ้าปากค้างเลยค่ะ)
- เราจะเล่าเรื่องของ [นครลอยฟ้า] และเรื่อง [เครื่องกำเนิดสนามพลังงานศูนย์] ให้จางฟังค่ะ
- จากนั้น เราจะนำ [เครื่องกำเนิดฯ] ไปติดตั้งให้ที่เครื่องมือสื่อสารของสาขาค่ะ
(จางจะโล่งใจเป็นอย่างมากที่เครื่องมือสื่อสารสามารถใช้งานได้ ถึงขนาดอยากจะจูจุ๊บขอบคุณพวกเรากับดร. รัซเซลเชียวนะคะ)
☆ในกรณีที่นำส่ง [เครื่องกำเนิดฯ] ครบทุกพื้นที่แล้ว จะได้รับการรายงานผลของงานในครั้งนี้ค่ะ☆
- นอกจากนั้น จางยังขอให้เราช่วยเช็คที่บอร์ดรับงาน แล้วก็ถ้าเป็นไปได้ก็อยากจะให้พวกเราช่วยตรวจสอบพื้นที่ใกล้ ๆ รูอันที่มีคนอาศัยอยู่ให้ด้วยค่ะ
☆ถ้าต้องการเรียกเพื่อนมาที่นี่ ก็คุยกับจางแล้วเลือกคำสั่งที่ 3 "เรียกเพื่อน" 『仲間を呼ぶ』 ได้ตามสะดวกเลยค่ะ☆
- ในขณะที่พวกเรากำลังจะออกจากสาขา (สาขาสุดท้ายที่เรานำส่งเครื่องกำเนิดฯ) จะมีการติดต่อมาถึงพวกเอสเทล ซึ่งคนที่ติดต่อมาก็คือ "เอลนัน" แห่งสาขานครหลวงนั่นเอง
(จากข้อมูลที่ได้รับ ดูเหมือนว่าองค์ราชินีมีเรื่องอยากจะคุยกับพวกเรา จึงอยากจะให้พวกเราแวะไปที่นครหลวงค่ะ แต่รายละเอียดนั้นทางเอลนันไม่ได้แจ้งเอาไว้ น่ากลัวว่าที่ไม่สามารถบอกผ่านทางเครื่องมือสื่อสารได้ อาจเพราะเป็นเรื่องที่เป็นความลับที่จำเป็นต้องป้องกันการล้วงข้อมูลค่ะ)
โรงเรียนเจนิสแห่งราชอาณาจักร 『ジェニス王立学園』
(48) คดียึดโรงเรียนแห่งราชอาณาจักร
- เมื่อเข้าไปใน "ถนนป่าละเมาะวิสต้า" จะเกิดเควสต์ลับขึ้นทันทีค่ะ
☆เมื่อเคลียร์ซับเควสต์นี้แล้ว ให้เข้าไปคุยกับ "เพอเพิล" 『パープル』 ในห้องเรียนภาควิชามนุษศาสตร์บนชั้น 1 ของอาคารหลัก เธอจะมอบ "แจ็คนักเสี่ยงโชค เล่ม 12" ให้พวกเราแทนคำขอบคุณค่ะ
★เข้าไปในห้องสภานักเรียน บนคลับเฮ้าส์ชั้น 2 จะมีบทสนทนาพิเศษกับ "จิล" และ "ฮันส์" ค่ะ เอสเทลจะเป็นห่วงว่า เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นมาแล้วชีวิตในโรงเรียนของทุกคนจะเป็นยังไงต่อไป ซึ่งตรงนี้จิลและฮันส์ก็พูดออกมาอย่างมั่นใจว่าพวกเขาจะพยายามทำหน้าที่ให้ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้ และจะไม่ยอมแพ้พวกเราหรือคลอเซ่ที่กำลังพยายามอยู่ที่นครหลวงค่ะ จิลกับฮันส์ยังบอกอีกนะคะว่าถ้าจัดการทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว พวกเขาจะจัดงานเลี้ยงขึ้นแล้วจะเชิญคลอเซ่มาด้วย (แฟนซีปาร์ตี้นะคะ แล้วดูเหมือนว่าจิลจะเอาจริงเรื่องที่จะให้พวกเอสเทลรวมทั้งคลอเซ่แต่งตัวเป็นอัศวินกับองค์หญิงเหมือนตอนแมดริเกิลดอกไม้ขาวด้วยค่ะ เอสเทลเห็นด้วยอย่างแรง แต่โยชัวร์น่ะสิ)
ส่วนเรื่องที่โยชัวร์หายไปนั้น ฮันส์ไม่ต่อว่าอะไรโยชัวร์แม่แต้น้อย ถึงตอนนี้โยชัวร์อยากจะเล่าอดีตของเขาให้ฟัง แต่ฮันส์บอกว่าไม่ว่าจะฟังหรือไม่ฟังมันก็ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือเรื่องที่โยชัวร์กลับมาอย่างปลอดภัยต่างหากค่ะ (แม้โยชัวร์กับฮันส์จะเคยใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันสั้น ๆ แต่สายสัมพันธ์แห่งความเป็นเพื่อนก็ยิ่งใหญ่จริง ๆ นะคะ)
สถานเลี้ยงเด็กกำพร้ามาเชีย 『マーシア孤児院』
- เข้าไปที่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้ามาเชีย จะมีบทสนทนาพิเศษระหว่างเอสเทล โยชัวร์ และพวกเด็ก ๆ รวมไปถึง ผ.อ. เทเรซ่าด้วยนะคะ
★คุยกับพวกเด็ก ๆ "ครัม" 『クラム』 กับ "ดาเนียล" 『ダニエル』 จะช่วยงานอย่างแข็งขันเพื่อไม่ให้ผ.อ.ต้องลำบากค่ะ, "มารี่" 『マリィ』 รู้สึกดีใจมากที่ได้พบโยชัวร์ และออกปากชมด้วยว่าชุดใหม่ของโยชัวร์เท่มากเลยค่ะ, ส่วน "โปลี่" 『ポーリィ』 จะบอกว่าบรรยากาศรอบ ๆ ตัวโยชัวร์จังเปลี่ยนไป แต่เธอก็ชอบแบบนี้เหมือนกัน เพราะว่าโยชัวร์จังดูเท๊เท่ห์ค่ะ
★คุยกับ "ผ.อ. เทเรซ่า" 『テレサ院長』 เธอจะขอให้โยชัวร์คอยอยู่เคียงข้างเอสเทลจากนี้และตลอดไปค่ะ ส่วนเรื่องของคลอเซ่นั้นเธอได้รับข่าวจากจดหมายที่คลอเซ่ฝากให้ซิกมาส่งแล้ว ในจดหมายนั้นคลอเซ่เขียนมาว่ากำลังลำบากใจที่ต้องตัดสินใจเรื่องอะไรบางอย่าง แม้ผ.อ. เทเรซ่าจะไม่รู้ว่าคลอเซ่ต้องตัดสินใจเรื่องอะไรก็ตาม แต่เธอเชื่อมั่นว่าคลอเซ่จะค้นพบเส้นทางของตนเองได้อย่างแน่นอนค่ะ
บอสมาร์เก็ต 『ボースマーゲット』
- ก่อนที่จะไปทำเหตุการณ์ที่นครหลวง แนะนำให้แวะไปที่เมืองบอสอีกครั้งก่อนนะคะ เพราะในบอสมาร์เก็ตจะมีมหกรรมลดราคาครั้งยิ่งใหญ่ โดยจะมีไอเทมดี ๆ ให้เราเลือกซื้อด้วยนะคะ
- แนะนำให้ใช้ช่วงนี้เตรียมตัวให้พร้อมเอาไว้เลยนะคะ เพราะเมื่อเข้าบทไปแล้วเราจะไม่สามารถเตรียมตัวใด ๆ กับเพื่อน ๆ คนอื่นที่ไม่ได้เลือกเข้ากลุ่มต่อสู้ได้ค่ะ
☆คุยกับ "คุณป้ามิเน่" 『ミネ婆さん』 ที่ร้านโกรเซอร์ มิเน่ในบอสมาร์เก็ต ป้าแกจะมอบ "แจ็คนักเสี่ยงโชค เล่ม 14" ซึ่งเป็นเล่มสุดท้ายของนวนิยายชุดนี้ให้กับเอสเทลค่ะ
- ไอเทมใหม่ ๆ ที่หาซื้อได้ในช่วงนี้ มีดังนี้เลยค่ะ
※โกรเซอร์ มิเน่ 『グローサー・ミネ』 > ลีเบร์ลสาร ฉบับโรลแบ็คตั้งแต่ 1 - 9 และฉบับพิเศษค่ะ
※ร้านของแคเทรีย 『カトリアのお店』 > "แก้วลึกลับ" 『摩訶不思議ペースト』 (อาหารพกพา)
※โพล เอลค์ 『ポール・エルク』 > "สเตรเกอร์ MAX" 『ストレガーMAX』 (รองเท้า)
※ร้านผักผลไม้แบ็คส์ 『バックス青果店』 > "เนื้อสัตว์ตุ๋นรวดร้าว" 『獣肉の苦界煮込み』 (อาหารพกพา)
※ทรัดฟูดส 『トラッドフーズ』 > "โน่นมันกระดูกชิ้นใหญ่เกินไป" 『骨太すぎるアレ』 (อาหารพกพา)
※ร้านเครื่องมือเฟร็ซซ่า 『フレッサ金物店』 > "มีดสารพัดประโยชน์" 『万能ナイフ』 (อาวุธของโยชัวร์)

previous: Chapter 7 หอคอยสี่วงแหวน
to be continued: Chapter 8 แผ่นดินอันยุ่งเหยิง - Part 2

Sub-Quest
 (46) ช่วยเหลือเหล่าคนขุดแร่ 『鉱夫たちの救出』 (BP8)
※เควสต์ลับ
- คุยกับ "คนขุดแร่แลงก์" 『鉱夫ラング』 ที่หน้าลิฟท์ภายในเหมืองมัลก้า
(แลงก์จะจำพวกเราได้ค่ะ และเขาก็กำลังไม่สบายใจ เพราะพวกหัวหน้าลงไปทำงานปิดรูที่พังลงมา (รูที่เคยมีสัตว์ปิศาจออกมาในภาค FC) โดยใช้ระเบิดทำให้ถล่ม (ซึ่งเบรเซอร์ประจำสาขารอเลนซ์อย่างริจจ์ ก็มาทำหน้าที่คุ้มครองให้ด้วยค่ะ) แต่ในระหว่างที่ทำงานกันอยู่นั้นปรากฏการณ์ออร์บเมนท์หยุดการทำงานก็เกิดขึ้นทันที พวกหัวหน้าของแลงก์ก็เลยออกมาไม่ได้ เพราะลิฟท์ไม่ทำงานค่ะ)
- สำรวจที่ลิฟท์ พวกเราจะใช้ [เครื่องกำเนิดสนามพลังงานศูนย์] ทำให้ลิฟท์ใช้งานได้ในสภาพที่น่าหวาดผวาเล็กน้อยค่ะ
(อันที่จริง ลิฟท์อันนี้เป็นชนิดที่สร้างส่วนขับเคลื่อนไว้ภายใน และใช้วิธีบังคับโดยการกดปุ่มควบคุมภายนอก ดังนั้น พอใส่ [เครื่องกำเนิดฯ] ลงไปก็เลยมีแสงคล้าย ๆ กับที่กอสเปลส่องออกมา แต่เป็นแค่คลื่นพลังงานที่โดนรบกวนเท่านั้นจึงหายไปในไม่ช้า และอย่างที่ทราบว่า [เครื่องกำเนิดฯ] ยังไม่เสถียร พอใช้กับอุปกรณ์ออร์บเมนท์ใหญ่ ๆ อย่างลิฟท์ก็เลยเกิดอาการกระตุกจนหัวใจของคนขึ้นลิฟท์หล่นตุ้บค่ะ)
- เมื่อลงลิฟท์มาจะพบกับ "คนขุดแร่ทินท์" 『鉱夫ティント』 ที่กำลังวิ่งหนีอะไรมา
- เกิดการต่อสู้กับ (คิลเลอร์แคนเซอร์ *5) ทันทีค่ะ
- ปราบได้จะได้ทราบเรื่องจาก "คนขุดแร่ทินท์" (ที่คิดถึงแต่เรื่องกินข้าวให้อร่อย) ว่าในระหว่างที่พวกเขาทำงานเมื่อวานนี้ จู่ ๆ ไฟที่ใช้ไล่พวกสัตว์ปิศาจก็ดับลง แถมพี่ชายเบรเซอร์ที่ช่วยให้พวกเขามีเวลาหนีก็โดนสัตว์ปิศาจล้อมเอาไว้ ส่วนคนที่ยังอยู่ด้านในก็มีอยู่ 4 คนรวมพี่ชายเบรเซอร์ด้วยเป็น 5 คน
- ดังนั้น พวกเราต้องรีบมุ่งหน้าไปช่วยริจจ์และเหล่าคนขุดแร่ทันทีค่ะ
- ให้ไปช่วยเหล่าคนขุดแร่ตามที่ต่าง ๆ ดังนี้
(1) ข้ามสะพานแล้ว เข้าไปตรงทางแยกด้านตะวันตก
- จะพบกับ "คนขุดแร่ปองส์" 『鉱夫ポンズ』 ที่กำลังเจ็บใจเพราะเจ้าทินท์ดันวิ่งหนีไปคนเดียวซะงั้นค่ะ
- เกิดการต่อสู้กับ (คิลเลอร์แคนเซอร์ *4) **คนขุดแร่ปองส์เป็น NPC**
- ปราบได้ เราจะบอกให้ปองส์ไปรอที่หน้าลิฟท์ค่ะ
(2) ทางแยกด้านตะวันออก
- จะพบกับ "คนขุดแร่พีรุม" 『鉱夫ピルム』 ที่กำลังภาวนาต่อเทพธิดาบนท้องฟ้ากับ "คนขุดแร่ไฮเน่" 『鉱夫ハイネ』 ที่บอกให้พีรุมสวดเบา ๆ หน่อยค่ะ
- เข้าไปคุยกับคนขุดแร่ทั้ง 2 จะเกิดการต่อสู้กับ (คิลเลอร์แคนเซอร์ *3) **คนขุดแร่ทั้ง 2 คน เป็น NPC**
- ปราบได้ เราจะบอกให้ทั้ง 2 คนไปรอที่หน้าลิฟท์ค่ะ
(3) ทางแยกด้านใต้
- จะพบกับ "หัวหน้าเหมืองกาตอน" 『ガートン親方』 ที่กำลังโดนเจ้าปูสีแดงรุมอยู่ค่ะ
- เกิดการต่อสู้กับ (คิลเลอร์แคนเซอร์ *4) **หัวหน้าเหมืองกาตอนเป็น NPC**
- ปราบได้ หัวหน้าเหมืองกาตอนยังมีอารมณ์ขันบอกว่า ถ้าเป็นไปได้ นาน ๆ ทีเจอกันแบบไม่ต้องมีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้นก็ดีนะ ด้วยนะคะ (แต่ก็จริงแฮะ มาที่เหมืองทีไรก็มีแต่เรื่องด่วนเกิดขึ้นทุกทีสิน่า)
- จากนั้น เราจะบอกให้หัวหน้าเหมืองไปรอที่หน้าลิฟท์พร้อม ๆ กับทุกคนค่ะ
(หัวหน้าเหมืองกาตอนจะถามพวกเราว่าได้ช่วยพี่ชายเบรเซอร์ที่มาช่วยพวกเขาแล้วหรือยัง แต่ถ้ายังไม่เจอกาตอนบอกให้เราไปตรงที่เขาทำงาน (ตรงรูที่เขาใช้ระเบิดปิดทาง) เพราะพี่ชายคนนั้นช่วยปกป้องให้พวกเขามีเวลาหนีจนถึงที่สุดค่ะ)
- เมื่อช่วยเหล่าคนขุดแร่ครบแล้ว เราจะปรึกษากัน เพราะตอนนี้เหลือริจจ์อยู่คนเดียวที่ยังหาไม่เจอค่ะ
- ข้ามสะพานกลับไปที่ลิฟท์ จากนั้นให้ไปแยกทางด้านตะวันตก ถ้าพร้อมแล้วก็เลือกคำสั่งที่ 1 เพื่อลุยเข้าไปในม่านควันเลยค่ะ
- พบกับ "ริจจ์" 『リッジ』 ที่กำลังหมดแรงและโดนศัตรูล้อมอยู่ ถึงแม้ร่างกายจะไม่ไหวยังไง ริจจ์ก็ยังคงยืนหยัดต่อสู้ไม่ย่อท้อค่ะ
- ริจจ์บอกว่าศัตรูไม่ได้มีแค่เท่าที่เห็นตรงหน้า ทันใดนั้นก็ปรากฏร่างของสัตว์ปิศาจขนาดยักษ์ผู้เป็นเจ้าของถ้ำที่นี่ กระโดดลงมาเบื้องหน้าพวกเราค่ะ
- ไฮดราอาร์มเมอร์ + คิลเลอร์แคนเซอร์ *5 -
- 『ヒュドラアーマー + キラーキャンサー*5』 -

**ศัตรูมีท่า "ประกายแสงยักษ์" ทำให้เราติด "มืดมิด" ซึ่งมีผลทั่วฉาก และการโจมตีแต่ละท่าก็รุนแรงใช่เล่นเลย แถมยังโจมตีต่อเนื่อง 2 ครั้งได้อีกต่างหากค่ะ และต้องระวังท่า "กีก้าครัช" ที่โจมตีเราแล้วติด "หมดสติ" ด้วยนะคะ**
**แนะนำ อย่ายืนใกล้กันเป็นดีที่สุด เพราะศัตรูสามารถใช้ท่า "ดูดซับ" ที่โจมตีกินอาณาเขตแล้วดูด HP ของพวกเราได้ด้วยค่ะ**
**ระวัง เมื่อเห็นศัตรูชาร์จท่าต่อไปที่จะใช้อาจจะเป็น "งานแยกส่วน" ที่โจมตีรุนแรงมาก ๆ หรือไม่ก็ "แสงสีฟ้าแสดงความตะกละ" ที่ดูด EP&CP ของพวกเราทุกคนจนหมดไม่มีเหลือก็ได้นะคะ หากเห็นศัตรูชาร์จล่ะก็ รีบ ๆ สะกัดกั้นเป็นดีที่สุดค่ะ**
**แนะนำ ใช้ "คล็อกดาวน์" ใส่ศัตรูจะง่ายขึ้น และไฮดราอาร์มเมอร์สามารถเรียกเพื่อน (คิลเลอร์แคนเซอร์) มาเพิ่มได้ค่ะ**

- ปราบได้ จะได้รับ "อัญมณีประกายอำพัน" จากไฮดราอาร์มเมอร์
(ริจจ์จะหมดสติไปเพราะเหนื่อยมาก ดังนั้น เราจะตัดสินใจพาเขากลับไปที่เมืองรอเลนซ์ หลังจากรวมพลกับเหล่าคนขุดแร่แล้วค่ะ)
- กลับไปที่เมืองรอเลนซ์ (อัตโนมัติ) ที่สาขาของสมาคมเราจะรายงานข้อมูลกับ "ไอน่า" พร้อมกับ "หัวหน้าเหมืองกาตอน" ค่ะ
(หลังจากนั้น หัวหน้าเหมืองกาตอนจะกลับไปทำงานที่เหลืออีกหน่อยที่เหมืองต่อ และจากคำบอกเล่าของไอน่า "ริจจ์" พักอยู่ที่โรงแรม ไม่มีบาดแผลรุนแรง แค่เหนื่อยมากเท่านั้นค่ะ)
◆ในกรณีที่มี "เจ๊เชร่า" ร่วมกลุ่ม เจ๊เชร่าจะบอกให้ไอน่าตอบแทนค่าเหนื่อยในคราวนี้ 1 แก้ว แต่ถึงจะแค่ 1 แก้วก็เป็น 1 แก้วของ [สไตน์โรเซ่] เชียวนะคะ ทำเอาเอสเทลกับโยชัวร์หนักใจกับ 2 คนนี้เหลือเกินค่ะ
- เคลียร์ค่ะ (อย่าลืมรายงานผลกับไอน่าด้วยนะคะ)

 (47) ซ่อมแซมบ่อน้ำพุร้อนเอลโมให้เหมือนเดิม 『エルモ温泉の復旧』 (BP8)
※เควสต์ลับ
☆จำเป็นต้องมี "ทีต้า" อยู่ในกลุ่มค่ะ☆
- คุยกับ "คุณป้ามาโอะ" 『マオ婆さん』 นายหญิงแห่งโรงเตี๊ยมโมมิจิ (คุยครั้งที่ 2 นะคะ) ทีต้าจะถามป้ามาโอะว่ามีอะไรที่พวกเราพอจะช่วยได้มั้ย ซึ่งป้ามาโอะเห็นว่าเรื่องความปลอดภัยไม่น่าเป็นห่วงเท่าไร เพราะมีทหารมาดูแลให้แล้ว แต่ป้าแกอยากจะให้บ่อน้ำพุร้อนใช้งานได้เหมือนเดิมค่ะ
- ถ้าต้องการช่วยเหลือล่ะก็ตอบข้อ 2 "ลองให้ความช่วยเหลือ" 『あえて協力を申し出る』 ไปเลยค่ะ
- ได้รับ "กุญแจกระท่อมเครื่องสูบน้ำ" จากป้ามาโอะค่ะ
- ไปที่กระท่อมเครื่องสูบน้ำที่อยู่ทางด้านตะวันตกของหมู่บ้าน ใช้กุญแจไขเข้าไปด้านในได้เลยค่ะ
(เมื่อเข้ามาอุปกรณ์สูบน้ำทั้งหมดจะหยุดการทำงานตามที่คิดไว้เป๊ะ และถึงอยากจะใช้ [เครื่องกำเนิดฯ] กับเครื่องสูบน้ำที่นี่ก็ไม่อาจทำได้ เพราะอย่างที่ดอกเตอร์รัซเซลบอกเอาไว้ว่า [เครื่องกำเนิดฯ] ไม่สามารถใช้กับออร์บเมนท์ที่มีขนาดใหญ่ได้ค่ะ)
- จากการที่หนูน้อย "ทีต้า" สำรวจเครื่องสูบน้ำ (ในโหมดโอตาคุเครื่องจักร) ก็พบว่าเครื่องสูบน้ำอันนี้สามารถใช้งานร่วมกับ "เครื่องกำเนิดพลังงานเผาไหม้จากภายใน" ซึ่งถ้าไปขอร้องหัวหน้าซ่อมบำรุงกุสตาฟต้องมีแน่นอน แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นเจ้าเครื่องกำเนิดการเผาไหม้นี้ก็ต้องการเชื้อเพลิงอย่าง "ก๊าซโซลีน" ที่เราเคยไปขอมาจากชั้นใต้ดินของโรงงานเหมือนเมื่อก่อน (ภาค FC) ด้วยเหมือนกันค่ะ
- เอาล่ะ!! มุ่งหน้าไปหา "เครื่องกำเนิดพลังงานเผาไหม้จากภายใน" และ "ก๊าซโซลีน" กันเลยค่ะ โดยจะเริ่มหาจากอันไหนก่อนก็ได้นะคะ
- สำหรับ "เครื่องกำเนิดพลังงานเผาไหม้จากภายใน" 『内焼機関』 ก็ตามนี้เลยค่ะ
(1) คุยกับ "หัวหน้าซ่อมบำรุงกุสตาฟ" ที่ท่าเทียบเรือเหาะ
- จะได้รับทราบว่า ทางกองทัพยืมเครื่องฯเผาไหม้ไปตั้งแต่ตอนที่ไปซ่อมบำรุงอัลเซยูที่ค่ายเรสตอนค่ะ
(2) คุยกับ "พลทหารซามูเอล" ที่ค่ายเรสตอน เพื่อสอบถามเครื่องฯเผาไหม้ค่ะ (เลือกข้อ 2 ค่ะ)
- เขาจะเข้าไปสอบถามในค่าย แล้วได้ความว่าเครื่องฯเผาไหม้ไม่ได้อยู่ที่ค่าย แต่ถูกขนไปพร้อม ๆ กับยานรักษาความปลอดภัยที่ลงจอดฉุกเฉินที่ทุ่งหญ้าทรัตระหว่างมุ่งหน้าไปเมืองไซสส์ค่ะ
หรือถ้าไม่อยากเดินไปไกลถึงค่ายเรสตอนก็ให้ไปคุยกับ "คิริก้า" แทนค่ะ
(2) คุยกับ "คิริก้า" ที่สาขา (เลือกข้อ 3)
- คิริก้าจะติดต่อไปยังค่ายเรสตอนให้พวกเราเพื่อสอบถามทางค่ายเรสตอนให้กับพวกเราค่ะ
- ได้รับทราบว่า เครื่องฯเผาไหม้ไม่ได้อยู่ที่ค่าย แต่ถูกขนไปพร้อม ๆ กับยานรักษาความปลอดภัยที่ลงจอดฉุกเฉินที่ทุ่งหญ้าทรัตระหว่างมุ่งหน้ามาเมืองไซสส์ค่ะ
(3) คุยกับ "ร้อยเอกฮอฟแมน" 『ホフマン大尉』 หรือ "พลทหารริโน่" 『兵士リノ』 บนถนนทุ่งหญ้าทรัตค่ะ (จะอยู่ใกล้ ๆ กับทางเข้าสู่หอคอยแดงชาดฝั่งตรงข้ามกับบ่อน้ำค่ะ)
- ได้รับ "เครื่องกำเนิดพลังงานเผาไหม้จากภายใน" ค่ะ
- ต่อไปก็ "ก๊าซโซลีน" 『ガソリン』 นะคะ
(1) คุยกับ "รูดี้" 『ルーディ』 ที่ชั้นใต้ดินของโรงงานกลาง
- ได้รับทราบว่า ตอนนี้ก๊าซโซลีนที่มีอยู่ที่โรงงานกลางหมดไปแล้วค่ะ
- "หัวหน้าโรงงานเมอร์ด็อกซ์" ที่ลงมาที่ชั้นใต้ดินพอดี บอกกับพวกเราว่าทางโรงงานสั่งก๊าซโซลีนจากสาธารณรัฐไปเมื่อประมาณ 1 เดือนก่อนหน้านี้ แต่ของยังมาไม่ถึงเพราะใช้วิธีจัดส่งมาทางทะเลไม่ใช่ทางเรือเหาะประจำทาง ถ้าเป็นตอนนี้ไม่แน่ว่าของอาจจะอยู่ที่เมืองรูอันก็เป็นได้ค่ะ
- เพื่อที่เราจะสามารถไปขอรับก๊าซโซลีนได้ หัวหน้าโรงงานเมอร์ด็อกซ์จะออก "จดหมายแนะนำตัวจากหัวหน้าโรงงาน" 『工房長の紹介状』 เพื่อนำไปแสดงให้กับผู้รับผิดชอบท่าเรือรูอันให้แก่เราค่ะ
- ใช้ "อุโมงค์คัลเดีย" มุ่งสู่พื้นที่รูอันได้เลยค่ะ แต่ทว่า อุโมงค์คัลเดียมืดตึ้บซะอย่างนี้ เราจึงจำเป็นต้องมี "แว่นส่องมองกลางคืน" 『暗視ゴーグル』 ซะก่อนค่ะ โดยจะให้ใครสวมเอาไว้ก็ได้จะได้มองทางเห็นไงคะ
(2) คุยกับ "พอลทอส" 『ポルトス』 ผู้ดูแลท่าเรือรูอันได้เลยค่ะ (ไม่บังคับนะคะ จะไปคุยกับ "ฮางุ" เลยก็ได้)
- จะรับทราบว่า เขาเป็นผู้ดูแลท่าเรือก็จริงอยู่ แต่เรื่องนี้ให้ไปถาม "ฮางุ" คนที่รับผิดชอบเรื่องเกี่ยวกับการขนส่งสินค้าจะดีกว่าค่ะ
(3) คุยกับ "ฮางุ" 『ハーグ』 ที่อยู่ด้านในสุดของท่าเรือรูอัน
- ฮางุจะเข้าไปเอา "ถังก๊าซโซลีน" ที่เก็บไว้ในโกดังมาให้เรา 3 ถังค่ะ
- เมื่อได้อุปกรณ์ครบแล้ว ก็กลับไปที่หมู่บ้านเอลโม เข้าไปในกระท่อมเครื่องสูบน้ำอีกครั้ง ทีต้าจะลงมือปฏิบัติการอย่างคล่องแคล่วเพื่อทำให้เครื่องสูบน้ำกลับมาใช้งานได้เหมือนเดิมค่ะ
- ได้รับ "ชาสมุนไพรหอมสุดเข้มข้น" จากป้ามาโอะแทนคำขอบคุณค่ะ
(แล้วหลังจากนั้น ป้ามาโอะจะลงครัวด้วยตัวเอง ทำอาหารตะวันออกให้พวกเราทานหลังขึ้นจากน้ำพุร้อนแล้วค่ะ แต่ไม่มีอีเวนท์ให้ดูนะคะ เป็นแค่ตัวอักษรเขียว ๆ อธิบายเท่านั้นเองค่ะ)
☆หลังจากนี้พวกเราสามารถมาใช้บริการบ่อน้ำพุร้อน เพื่อเพิ่ม HP&CP ได้แล้วนะคะ☆

 (48) คดียึดโรงเรียนแห่งราชอาณาจักร 『王立学園占拠事件』 (BP8)
※เควสต์ลับ
- เมื่อเข้ามาใน "ถนนป่าละเมาะวิสต้า" จะเกิดซับเควสต์นี้ขึ้นทันทีค่ะ
- พบกับ "มิค" 『ミック』 นักเรียนโรงเรียนเจนิสที่กำลังร้องโหยหวนวิ่งหนีศัตรูเพื่อไปแจ้งข่าวที่เมืองค่ะ
- เกิดการต่อสู้กับ (เบลดคูเกอร์ *2) **มิค เข้าเป็น NPC**
- ปราบได้ จะทราบจาก "มิค" ว่าโรงเรียนแห่งราชอาณาจักรถูกพวกทหารชุดแดงยึด และคุณนักการโดนยิงค่ะ
- จากนั้น โยชัวร์จะขอให้มิคช่วยไปแจ้งเรื่องนี้แก่สมาคม ส่วนพวกเราจะไปดูลาดเลาใกล้ ๆ โรงเรียนค่ะ
- พวกเพื่อน ๆ ของเราที่อยู่ที่สมาคมพอได้ยินว่ามีเรื่องเกิดขึ้นที่โรงเรียนก็ตามมาสมทบด้วย
(จากการลงความเห็นกัน เราเห็นว่าตอนนี้ออร์บเมนท์ก็ใช้ไม่ได้ ไม่มีประโยชน์ที่จะไปเรียกทางกองทัพให้มาช่วย มีแต่พวกเราที่ต้องลุยเท่านั้น แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น พวกนักเรียนอาจจะถูกจับเป็นตัวประกันอยู่ เราจึงจำเป็นต้องรู้ข้อมูลภายในโรงเรียนก่อนค่ะ)
- โยชัวร์จะออกปากขอเข้าไปดูลาดเลาภายในโรงเรียนด้วยตัวคนเดียว ซึ่งเอสเทลก็ไม่ห้ามและไม่ขอตามไปด้วยเหมือนเช่นแต่ก่อน และขอให้โยชัวร์อย่าลืมคำสัญญาว่าจะเดินไปข้างหน้าด้วยกันค่ะ
(หวานซึ้งกันอีกแล้วคู่นี้)
- หลังจากโยชัวร์ไปแล้ว เพื่อน ๆ สงสัยว่าปล่อยให้โยชัวร์ไปคนเดียวแบบนี้จะดีหรือ แต่เอสเทลบอกว่ามันช่วยไม่ได้ที่ต้องปล่อยให้เป็นแบบนี้ แต่ถึงยังไงเธอจะขอเชื่อมั่นในตัวโยชัวร์ค่ะ
(เจ๊เชร่าถึงกับออกปากชมว่าเอสเทลเติบโตขึ้นเป็นผู้หญิงที่ดีแล้วจริง ๆ ค่ะ ถ้าเพื่อน ๆ จำไม่ได้ว่าเมื่อก่อนเอสเทลเป็นคนหัวรั้นและดื้อดึงยังไง ลองกลับไปดูเหตุการณ์ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในภาค FC นะคะ)
- "โยชัวร์" ลอบเข้ามาด้านหลังหอพักชาย (ตึกด้านทิศตะวันตกเฉียงใต้ของโรงเรียน) ซึ่งเขาตัดสินใจจะใช้เส้นทางด้านหลังตึกที่เป็นมุมอับเพื่อตรวจสอบสภาพภายในโดยไม่ให้ศัตรูรู้ตัวค่ะ
- จุดที่สำรวจก็ตามนี้เลยนะคะ
(1) หอพักชาย - หน้าต่างบานแรก (จุดเริ่ม)
- ทหารฝ่ายศัตรู 2 นาย
(2) หอพักชาย - หน้าต่างบานที่ 2
- นักเรียนชาย 2 คนกับนักการที่ถูกยิง
(3) คลับเฮ้าส์ - หน้าต่างบานที่ 2
- ทหารฝ่ายศัตรู 4 นาย (โยชัวร์สงสัยว่าอาจจะมีตัวประกันที่ถูกจับตัวไว้บนชั้น 2 ของที่นี่ค่ะ)
(4) สำรวจประตูหลังโรงเรียน
- โยชัวร์จะใช้เทคนิคส่วนตัว สะเดาะกุญแจที่ล็อกอยู่ออกค่ะ
(5) อาคารหลัก - หน้าต่างบานแรก (ห้องอาจารย์ใหญ่)
- "กิลเบิร์ต" 『キルバート』 บอกกับ "อาจารย์ใหญ่โคลินซ์" 『学園長コリンズ』 ว่าเป้าหมายของเขามีอยู่ 2 อย่าง คือ 1 พวกเขาต้องการทำให้ภายในราชอาณาจักรเกิดความปั่นป่วน ดังนั้นเขาจึงเลือกโรงเรียนที่เขาได้จบการศึกษาไปมาเป็นฉากค่ะ พอโคลินซ์ได้ยินก็บอกว่ากิลเบิร์ตเปลี่ยนไปเพราะตอนสมัยเรียนกิลเบิร์ตได้ตัดสินใจที่จะเข้าสู่หนทางการเมืองด้วยจิตใจที่มุ่งมั่น ซึ่งกิลเบิร์ตบอกว่าที่เขาได้เปลี่ยนอุดมคติของตนไป ก็เพราะได้ค้นพบความจริงในตอนที่เป็นเลขาของดัลมอร์ว่า มิร่ากับอำนาจต่างหากที่เป็นทุกสิ่งทุกอย่างค่ะ และเป้าหมายอย่างที่ 2 ก็คือเขาต้องการองค์หญิงแห่งราชวงศ์ลีเบร์ลที่ตัวเขาได้ยินข่าวลือมาว่าองค์หญิงคนนั้นศึกษาอยู่ที่นี่ค่ะ
- กิลเบิร์ตจึงได้คาดคั้นโคลินซ์ ให้บอกมาว่าองค์หญิงเป็นใคร โคลินซ์ปฏิเสธพร้อมทั้งบอกว่าไม่มีเด็กสาวแบบนั้นอยู่ที่นี่ค่ะ แต่กิลเบิร์ตก็ไม่ทุกข์ร้อนใด ๆ ทั้งยังบอกว่ายังมีเวลาอีกเยอะ เขาจะลงมือตรวจสอบเองก็ได้ค่ะ
(6) อาคารหลัก - หน้าต่างบานที่ 2 (ห้องพักอาจารย์)
(7) อาคารหลัก - หน้าต่างบานที่ 3 (ทางเดินเข้าสู่ตึกเรียน)
- เป็นมุมอับ แต่โยชัวร์จับวี่แววได้ว่ามีคนเดินอยู่ที่ทางเดิน
(8) อาคารเรียนหลัก - หน้าต่างบานที่ 4 (ห้องเรียนภาควิชามนุษศาสตร์)
- พบ "จิล" 『ジル』 และ "ฮันส์" 『ハンス』 และเด็กนักเรียนคนอื่น ๆ ที่ถูกขังอยู่ในนี้
(โยชัวร์จะบอกให้ฮันส์อย่าส่งเสียงดัง ซึ่งเขาก็ทำตามที่โยชัวร์บอก แต่จิลน่ะสิพอเห็นโยชัวร์ก็ตกใจเสียงดัง ดีที่ฮันส์ห้ามไว้ได้ทันนะเนี่ย)
- จากนั้น โยชัวร์จะเล่าเรื่องราวคร่าว ๆ ที่เขาได้เจอกับมิคให้พวกจิลฟังและขอให้จิลช่วยลิสต์รายชื่อนักเรียนแล้วก็พนักงานทุกคนที่อยู่ในโรงเรียนให้ด้วยค่ะ
- โยชัวร์จะจดรายชื่อตัวประกันที่ได้รับมาจากจิลและฮันส์ลงบนสมุดจดเบรเซอร์ โดยเราสามารถตรวจสอบรายชื่อจากสมุดจดเบรเซอร์ในหัวข้อ "รายชื่อตัวประกัน" 『人質リスト』 ได้ค่ะ
(9) หอประชุม - หน้าต่างบานที่ 2 ด้านที่ติดกับกำแพงด้านเหนือสุดของโรงเรียนค่ะ
- ที่นี่ไม่มีวี่แววผู้คนจึงวางใจไปได้ค่ะ
(10) หอพักหญิง - หน้าต่างบานที่ 2
- นักเรียนหญิง 3 คน
(11) หอพักหญิง - หน้าต่างบานแรก
- ทหารฝ่ายศัตรู 2 นาย
- เมื่อสำรวจครบแล้ว โยชัวร์จะตัดสินใจกลับออกไปแจ้งข้อมูลให้เพื่อนที่รออยู่ด้านนอกค่ะ
(ตอนแรก โยชัวร์คิดว่าถึงทหารฝ่ายศัตรูจะมีอาวุธครบมือ แต่แค่เขาคนเดียวก็น่าจะจัดการได้อยู่แล้ว แต่สุดท้ายก็เปลี่ยนใจไม่ลงมือคนเดียว เพราะไม่อยากให้เอสเทลเป็นห่วงค่ะ)
- กลับมาที่พวกเอสเทล พอเอสเทลได้ยินว่ากิลเบิร์ตคนนั้นเป็นตัวการยึดโรงเรียนก็แทบไม่เชื่อหู (ว่าคนอ่อนแออย่างหมอนั่นจะทำได้อ่ะนะ) แต่เรื่องที่ต้องการตัวคลอเซ่เนี่ยรู้สึกจี๊ดขึ้นมาเชียวค่ะ
- จากข้อมูลที่ได้มา ภายในโรงเรียนมีทั้งทหารพรานและตุ๊กตาสงครามอยู่เต็มไปหมด และน่ากลัวว่าฝ่ายศัตรูก็คงใช้เทคนิคอะไรบางอย่างที่เหมือนกับ [เครื่องกำเนิดสนามพลังงานศูนย์] ทำให้สามารถใช้อุปกรณ์ออร์บเมนท์หรืออาร์ทได้ค่ะ
- เจ๊เชร่าจะเสนอให้แยกออกเป็น 2 กลุ่ม กลุ่มนึงจะบุกเข้าไปทางด้านหน้า เพื่อล่อให้ศัตรูออกมา ส่วนอีกกลุ่มก็รับหน้าที่บุกทะลวงเข้าจากด้านหลังค่ะ แต่เรื่องของเรื่องคือตอนนี้กำลังคนของเราไม่พอ เพราะจินเห็นว่ากลุ่มที่จะบุกเข้าทางด้านหน้าควรจะมีอย่างน้อย 6 คนค่ะ
- พบกับ "คูลซ์" 『クルツ』, "อาเนราส" 『アネラス』, "กรัซ" 『グラッツ』 และ "คารูน่า" 『カルナ』 ที่เพิ่งมาถึงสาขารูอัน แล้วพอได้ข่าวก็รีบบึ่งมาช่วยพวกเราที่นี่ทันทีค่ะ
(หลังจากอาเนราสขอบคุณเอสเทลที่ช่วยเธอออกมาตอนเหตุการณ์ที่ริมทะเลสาบ โยชัวร์ก็จะอธิบายสถานการณ์ภายในโรงเรียนให้พวกอาเนราสฟังค่ะ)
- จากนั้น เราจะแบ่งเป็นกลุ่มที่จะบุกข้างหน้าคือ เจ๊เชร่า, อากัต, ทีต้า, จิน, กรัซและคารูน่ารวม 6 คน ส่วนกลุ่มที่จะบุกเข้าด้านหลังก็จะเป็น เอสเทล, โยชัวร์ที่รู้ที่ทางภายในโรงเรียนดี ผนึกกำลังเข้ากับอาเนราสที่อยากจะร่วมต่อสู้ด้วยกันกับเอสเทลและคูลซ์ที่จะเป็นฝ่ายซัพพอร์ตให้รวม 4 คนค่ะ
(อากัตจะเป็นห่วงว่าคารูน่าจะไม่สามารถใช้อาวุธของเธอได้ แต่คารูน่าบอกว่าเรื่องนั้นไม่ต้องเป็นห่วง เพราะเธอจะใช้ "แอซซอลท์ไรเฟิลรุ่นใช้ดินปืน" ของบริษัทไลน์ฟอลท์แทน ซึ่งปืนอันนี้เป็นของสะสมโบราณที่คารูน่าได้ยืมมาจากคุณเอฟาแห่งบริษัทค้าอาวุธโจแอนที่คารูน่าสนิทสนมนั่นเองค่ะ ส่วนทีต้าก็จะใช้ "ปืนกลแกตริงรุ่นดินปืน" ที่คุณตาของเธอให้มาค่ะ)
☆จะมีหน้าต่างให้เราเลือกดังนี้ค่ะ
(1) เลือกเพื่อนเข้ากลุ่ม (เพื่อถอดเครื่องสวมใส่ต่าง ๆ ไปให้กับพวกอาเนราสค่ะ)
(2) เปลี่ยนเครื่องสวมใส่
(3) ไปต่อ☆
- เมื่อเลือกไปต่อ จะเริ่มแผนกลยุทธ์ทันทีค่ะ
(เราจะได้ยินพวกทหารพรานเสริมความแข็งแกร่งนินทากิลเบิร์ตด้วยนะคะ พวกเขาแอบนินทาว่ากิลเบิร์ตน่ะติ๊งต๊อง เพราะถ้าจะทำให้ภายในราชอาณาจักรปั่นป่วนก็น่าจะยึดนครหลวงเลยไม่ดีกว่าเหรอ)
- พวกเอสเทลจะลอบเข้ามาทางอาคารเรียนเก่า โดยจะเข้าไปในโรงเรียนจากประตูหลังที่โยชัวร์สะเดาะกุญแจเตรียมเอาไว้แล้วค่ะ
- อย่าลืมเช็ครายชื่อตัวประกันด้วยนะคะ เพราะเราจะต้องช่วยพวกเขาออกมาให้หมดทุกคนค่ะ
- ตัวประกันที่เราพบแล้วจะแสดงด้วยสัญลักษณ์ ◆ ตัวประกันที่ยังไม่พบจะแสดงด้วยสัญลักษณ์ ◇ หน้าชื่อค่ะ
- สถานที่ต่าง ๆ ที่มีตัวประกันถูกจับอยู่
(1) คลับเฮ้าส์ ชั้น 2 『クラブハウス』
- เกิดการต่อสู้กับ (ทหารพรานเสริมความแข็งแกร่ง (ดาบใหญ่) + ทหารพรานเสริมความแข็งแกร่ง (ปืน) + เบลดคูเกอร์)
(1.1) ห้องล็อกเกอร์หญิง 『女子ロッカー』
- อาจารย์มิเรีย, อาจารย์วิโอล่า, เดโบล่า 『ミリア先生、ウィオラ先生、デボラ』
- ได้รับเครื่องดื่ม "ไมตี้เอสเซนส์" จากเดโบล่า
(1.2) ห้องล็อกเกอร์ชาย 『男子ロッカー』
- อาจารย์ลาทีโอ, อาจารย์เอฟอร์ต 『ラティオ先生、エフォート先生』
(2) หอพักชาย ชั้น 1 『男子寮』
- เกิดการต่อสู้กับ (ทหารพรานเสริมความแข็งแกร่ง (ดาบใหญ่) + ทหารพรานเสริมความแข็งแกร่ง (ปืน) + เบลดคูเกอร์)
- นักการปาคูส, โรดี้, โลอิส 『パークス用務員、ロディー、ロイス』
(3) หอพักหญิง ชั้น 1 『女子寮』
- เกิดการต่อสู้กับ (ทหารพรานเสริมความแข็งแกร่ง (ดาบใหญ่) + ทหารพรานเสริมความแข็งแกร่ง (ปืน) + วอล์กเกิล235 *3)
- นิคีต้า, ฟรัซเซ่, ทีร่า 『ニキータ、フラッセ、ティラ』
(4) อาคารหลัก ชั้น 1
- เกิดการต่อสู้กับ (ทหารพรานเสริมความแข็งแกร่ง (ดาบใหญ่) + ทหารพรานเสริมความแข็งแกร่ง (ปืน) + วอล์กเกิล570 *2)
(4.1) ห้องเรียนภาควิชามนุษศาสตร์ 『人文科教室』
- จิล, ฮันส์, คันโน่, อลิส, เพอเพิล 『ジル、ハンス、カンノ、アリス、パープル』
(ทราบจาก "จิล" และ "ฮันส์" ว่าเมื่อกี๊กิลเบิร์ตมาที่ห้องนี้ เพื่อถามชื่อขององค์หญิงโดยแลกกับอิสรภาพของคนที่บอก แต่แน่นอนว่าทั้ง 2 คนไม่บอกอยู่แล้วค่ะ)
(4.2) ห้องอาจารย์ใหญ่ 『学園長室』
- อาจารย์ใหญ่โคลินซ์, ฟาวน่า 『コリンズ学園長、ファウナ』
(5) อาคารหลัก ชั้น 2
- เกิดการต่อสู้กับ (ทหารพรานเสริมความแข็งแกร่ง (ดาบใหญ่) + ทหารพรานเสริมความแข็งแกร่ง (ปืน) + แวนการ์ด)
(5.1) ห้องเรียนภาควิชาสังคมศาสตร์ 『社会科教室』
- โลจิค, อจิล, โมนิก้า, เซลม่า 『ロジック、アジル、モニカ、セルマ』
(5.2) ห้องเรียนภาควิชาธรรมชาติวิทยา 『自然科教室』
- จิโนคิโอ, พาทอม, เดนิส, เรย์นะ 『ジノキオ、パトム、デニス、レイナ』
- เมื่อออกมาข้างนอกจะได้ยินเสียงเด็กผู้หญิงร้องมาจากทางด้านหลังของโรงเรียนค่ะ
- ไปที่อาคารเก่าด้านหลังโรงเรียน จะพบกับ "กิลเบิร์ต" และ "ริเชล" 『リチェル』 รุ่นน้องชมรมฟันดาบของคลอเซ่ ซึ่งกิลเบิร์ตเข้าใจผิดว่าเด็กคนนี้เป็นองค์หญิงค่ะ
(เอสเทลกับโยชัวร์ถึงกับหน่ายใจในความก่งก๊งของกิลเบิร์ต ต้องบอกเป็นนัย ๆ ให้นึกถึงนักเรียนหญิง (คลอเซ่) ที่ไปที่ประภาคารบาเรนน์ตอนคดีของดัลมอร์ค่ะ)
- พอกิลเบิร์ตรู้ว่าคลอเซ่คุงต่างหากที่เป็นองค์หญิงตัวจริง ก็ดันไม่ยอมรับซะงั้นอีก เมื่อพูดดี ๆ ไม่รู้เรื่อง ก็ต้องซัดให้เข็ดหลาบ (ถึงแม้เอสเทลจะรู้สึกสังเวชหมอนี่จนไม่รู้สึกอยากจะสั่งสอนก็เถอะ) ในจังหวะนั้นเอง "ซิก" 『ジーク』 ฮายะบุซะเหยี่ยวซึ่งเป็นสัญลักษณ์แห่งลีเบร์ลที่คลอเซ่ไหว้วานให้มาช่วย ก็เข้าโจมตีกิลเบิร์ตเปิดโอกาสให้ริเชลหลุดจากการจับกุมได้ค่ะ
- ทหารพรานกิลเบิร์ต + วอล์กเกิล235 *3 -
- 『猟兵ギルバート + ヴォーグル235*3』 -

**ไม่อยากบอกเลยว่า อ่อนสุด ๆ เพราะฉะนั้นจะทำอะไรเขาก็ทำไปเถอะค่ะ แต่อย่ารุนแรงมากนะคะ เพราะนายคนนี้น่าสงสารอย่างแรงค่า**
- ปราบได้ กิลเบิร์ตจะร้องขอชีวิตพวกเราค่ะ แต่ถึงยังไงก็ต้องจับกุมตัวเพื่อไปดำเนินคดีตามบทบัญญัติ ทันใดนั้น "ตัวตลกคัมพาเนลล่า" 『道化師カンパネルラ』 ก็ปรากฏตัวออกมาค่ะ
(คัมพาเนลล่าไม่ได้มาช่วยกิลเบิร์ตอย่างที่ตัวกิลเบิร์ตคิดหรอกนะคะ แต่มาพาตัวกลับไปค่ะ แต่เพราะคัมพาเนลล่าไม่ได้สั่งกิลเบิร์ตให้มาลักพาตัวองค์หญิง ก็เลยใช้วิชามายาลงโทษกิลเบิร์ตแบบไม่ให้ถึงตาย แต่ออกแนวซาดิสม์เล็กน้อยต่อหน้าพวกเราค่ะ)
- จากนั้น พวกเราจะแจ้งไปที่กองทัพราชอาณาจักร และทางกองทัพราชอาณาจักรก็เข้ามาทำการขับไล่ทหารพรานที่หลงเหลืออยู่ในโรงเรียนจนหมดค่ะ
- หน้าประตูโรงเรียนเจนิสที่เข้าสู่ภาวะปกติสุข พวกเราจะกล่าวขอบคุณเหล่าเบรเซอร์รุ่นพี่ที่ให้ความช่วยเหลือค่ะ ซึ่งต่อจากนี้พวกเขาก็จะเดินเท้าไปรอบ ๆ ราชอาณาจักรเพื่อตรวจตราไม่ให้เกิดเหตุการณ์อย่างครั้งนี้ขึ้นค่ะ
(ก่อนไป อาเนราสก็ยังคงมีความรู้สึกที่อยากจะร่วมต่อสู้ไปพร้อม ๆ กับเอสเทลเหมือนเดิมค่ะ และเพราะรู้สึกว่าเอสเทลแข็งแกร่งขึ้นมาก เธอก็เลยบอกกับเอสเทลว่า เธอจะพยายามให้มากกว่านี้ มากจนถึงขนาดที่ถ้าพบกันอีกครั้ง เอสเทลจะต้องตกใจจนอ้าปากค้างเลยล่ะค่ะ)
- เพื่อน ๆ ของเราที่ไม่ได้เลือกเข้ากลุ่มตอนแรกจะกลับไปที่สาขา ส่วนซิกจะกลับไปหาคลอเซ่ที่นครหลวง ส่วนพวกเอสเทลหลังจากทักทายทุกคนในโรงเรียนแล้วก็ออกเดินทางอีกครั้งค่ะ
- เคลียร์ค่ะ
☆เครื่องป้องกัน, เครื่องประดับและควอทซ์ที่คูลซ์และอาเนราสสวมใส่อยู่ ตัวเกมถอดให้อัตโนมัติค่ะ☆

 (49) ประกาศจับสัตว์ปิศาจบนยอดเขาโครเน่ 『クローネ峠の手配魔獣』 (BP5)
- ปราบ (เรดแฟงก์ *4 + บอยล์เด็กเกอร์R *2 + บอยล์เด็กเกอร์G *2) ที่อยู่ตรงเส้นทางภูเขาโครเน่ (ฝั่งพื้นที่บอส)
**แนะนำใช้อาร์ทคุณสมบัติลมที่กินอาณาเขตอย่าง "แอโร่สตอร์ม" ปราบเรดแฟงก์ค่ะ**
**ส่วนบอยล์เด็กเกอร์ เวลาตายจะระเบิดตัวเอง ให้จบด้วยการโจมตีจากระยะไกลหรือจะใช้อาร์ทก็ได้ค่ะ**

- ปราบได้ จะได้รับ "หลักแห่งผนึกมาร" 『封魔の理』 จากเรดแฟงก์ตัวนึงค่ะ (อัตราการได้รับไอเทม 100% ค่ะ)

 (50) ประกาศจับสัตว์ปิศาจบนถนนตัดใหม่แอนเซล 『アンセル新道の手配魔獣』 (BP5)
- ปราบ (ดูม รูปแบบS *3 + การ์ดโดมิเนี่ยน + โบรคเค่นพีส) บนถนนตัดใหม่แอนเซล ซึ่งจะอยู่ตรงทางเข้าหอคอยอำพันค่ะ (แถว ๆ ทางแยกที่จะมุ่งสู่ริมทะเลสาบวาเลเรีย)
**แนะนำ ให้สวม "สคัลแพนแดนท์" หรือ "เลเบนส์บอลลูน" ที่ป้องกัน "ตายคาที่" เอาไว้จะง่ายขึ้นค่ะ**
**แนะนำ ให้ปราบการ์ดโดมิเนี่ยนก่อน (ตัวที่คล้าย ๆ กับเฮลิคอปเตอร์) เพราะเจ้าตัวนี้ใช้อาร์ทเพิ่มเลือดได้ค่ะ**

- ปราบได้ จะได้รับ "หลักแห่งไม้ตาย" 『必殺の理』 จากดูม รูปแบบ S ตัวนึงค่ะ (อัตราการได้รับไอเทม 100% ค่ะ)

 (51) ประกาศจับสัตว์ปิศาจบนทางหลวงเอรีซ 『エリーズ街道の手配魔獣』 (BP5)
- ปราบ (แวนการ์ด *3 + วอล์กเกิล911 รุ่นปรับปรุง *3) บนทางหลวงเอรีซ ใกล้ ๆ กับทางแยกที่จะเข้าสู่มิสต์วอลท์ค่ะ (ฉากที่จะเข้าสู่ประตูกริวเน่)
**แนะนำ ให้ใส่เครื่องประดับป้องกัน "เป็นหิน" เอาไว้จะง่ายขึ้นค่ะ**
**แนะนำให้ใช้การโจมตีระยะไกลหรือใช้อาร์ทจบการต่อสู้กับแวนการ์ด เพราะเวลาศัตรูพังจะระเบิดตัวเองค่ะ**

- ปราบได้ จะได้รับ "หลักแห่งเป็นหิน" 『石化の理』 จากแวนการ์ดตัวนึงค่ะ (อัตราการได้รับไอเทม 100% ค่ะ)

 (52) ประกาศจับสัตว์ปิศาจบนทางหลวงมิลฮี 『ミルヒ街道の手配魔獣』 (BP5)
- ปราบ (เดวิลส์ สเปียร์ *3 + แมส สแปร์โรว์ *5) บนทางหลวงมิลฮี ที่อยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือของฉากที่จะเข้าสู่ไร่เพอเซลค่ะ
**แนะนำ ให้สวมเครื่องประดับป้องกัน "พิษ" และ "ตายคาที่" จะง่ายขึ้นค่ะ**
**แนะนำ ให้ใช้อาร์ทกินอาณาเขตปราบไปพร้อม ๆ กันจะง่ายขึ้นค่ะ**

- ปราบได้ จะได้รับ "หลักแห่งสับสน" 『混沌の理』 จากเดวิลส์ สเปียร์ตัวนึงค่ะ (อัตราการได้รับไอเทม 100% ค่ะ)

 (53) ประกาศจับสัตว์ปิศาจบนถนนเลียบทะเลเมเว 『メーヴェ海道の手配魔獣』 (BP5)
- ปราบ (บาลานซ์ซิ่งคราวน์ *3 + วอล์กเกิล911 รุ่นปรับปรุง *3) บนถนนเลียบทะเลเมเว ตรงทางเข้าสู่เมืองรูอันค่ะ
**แนะนำ ให้สวมเครื่องประดับป้องกัน "เป็นหิน" กับ "พิษ" จะง่ายขึ้นค่ะ**
**บาลานซ์ซิ่งคราวน์นั้น จะโจมตีเราติด "สับสน", "ผนึกทักษะ" และ "ผนึกมาร" ด้วยท่า "มาริโอเน็ต" จะใส่เครื่องประดับกันเอาไว้ก็ไม่เสียหายอะไรค่ะ**

- ปราบได้ จะได้รับ "หลักแห่งหลับไหล" 『睡眠の理』 จากบาลานซ์ซิ่งคราวน์ตัวนึงค่ะ (อัตราการได้รับไอเทม 100% ค่ะ)

 (54) ประกาศจับสัตว์ปิศาจที่หอคอยฟ้าคราม 『紺碧の塔の手配魔獣』 (BP5)
- ปราบ (เอโบนี่ สเกล *3 + ลอว์โดรัน *3) ที่หน้าทางเข้าหอคอยฟ้าครามค่ะ
**แนะนำ ให้สวมเครื่องประดับป้องกัน "มืดมิด" เอาไว้จะง่ายขึ้น**
**เอโบนี่ สเกลสามารถเรียกลอว์โดรันออกมาเพิ่มได้ ระวังด้วยนะคะ**

- ปราบได้ จะได้รับ "หลักแห่งเยือกแข็ง" 『凍結の理』 จากเอโบนี่ สเกลตัวนึงค่ะ (อัตราการได้รับไอเทม 100% ค่ะ)

 (55) ประกาศจับสัตว์ปิศาจบนทางหลวงริตเตอร์ 『リッター街道の手配魔獣』 (BP5)
- ปราบ (เบลดคูเกอร์ *5) ที่ยืนจังก้าตรงทางเข้าสู่เมืองไซสส์บนทางหลวงริตเตอร์ค่ะ
**ศัตรูจะมีท่า "คมดาบความตาย" ที่จะทำให้เราติด "ตายคาที่" และมีท่า "คมดาบผนึก" ที่จะทำให้เราติด "ผนึกทักษะ" เพื่อความชัวร์จะใส่เครื่องประดับกันไว้ก่อนก็ได้ค่ะ**
**แนะนำ ให้ใช้อาร์ทปราบ เพราะศัตรูมีพลังโจมตีกายภาพค่อนข้างสูง หรือจะใช้ "คาออสแบรนด์" ทำให้ศัตรูติด "สับสน" ก็จะง่ายขึ้นอย่างมากค่ะ**

- ปราบได้ จะได้รับ "หลักแห่งมืดมิด" 『闇の理』 จากเบลดคูเกอร์ตัวนึงค่ะ (อัตราการได้รับไอเทม 100% ค่ะ)

 (56) ประกาศจับสัตว์ปิศาจบนถนนทุ่งหญ้าทรัต 『トラット平原の手配魔獣』 (BP5)
- ปราบ (อบิส วอร์ม *8) ตรงกลางของฉากที่จะเข้าสู่ป้อมวูล์ฟบนถนนทุ่งหญ้าทรัตค่ะ
**อย่าคิดว่างานคราวนี้จะหวานหมูนะคะ เพราะเพียงแค่เราโจมตีใส่ศัตรู ไม่ว่าจะโจมตีกายภาพหรือใช้อาร์ทล่ะก็ ศัตรูจะใช้ท่า "แผ่นดินไหวจากชั้นลึกสุด" ทันทีที่ได้เทิร์นค่ะ**
**แนะนำ ให้ปราบไปทีละตัว เพราะถ้าโดนท่า "แผ่นดินไหวจากชั้นลึกสุด" ขึ้นมาพร้อม ๆ กันต้องตายหยังเขียดกันหมดแน่ ๆ ค่ะ**
**หรือถ้ามั่นใจว่าเราเจ๋งพอ ให้ใช้ตัวละครที่ที่มี S-Craft อาณาเขตกว้าง ๆ อย่างโยชัวร์หรืออากัตปราบไปพร้อม ๆ กันในชั่วอึดใจจะดีที่สุดค่ะ**

- ปราบได้ จะได้รับ "หลักแห่งพิษ" 『毒の理』 จากอบิส วอร์มตัวนึงค่ะ (อัตราการได้รับไอเทม 100% ค่ะ)

 (57) ประกาศจับสัตว์ปิศาจที่ทางน้ำใต้ดิน 『地下水路の手配魔獣』 (BP5)
- ปราบ (อีวิลสตรีม *4 + มอธเกรท *2 + บอยล์เด็กเกอร์ Ω (โอเมก้า) + แมดสเนล) ที่ทางน้ำใต้ดินด้านตะวันตกค่ะ (แต่ต้องเข้ามาจากทางน้ำใต้ดินด้านตะวันออกนะคะ) เจ้าตัวนี้จะอยู่ตรงกำแพงที่เป็นทางเชื่อมต่อระหว่างทางน้ำใต้ดินด้านตะวันออกกับด้านตะวันตกค่ะ
**แนะนำ ให้สวมใส่เครื่องประดับป้องกัน "มืดมิด" หรือ "หมดสติ" เอาไว้จะง่ายขึ้นค่ะ**
**หากเห็นศัตรูร่ายอาร์ท ก็ให้ใช้คราฟท์สกัดกั้นให้เร็วที่สุด แต่ไม่ต้องเป็นห่วงไปเลย เพราะการต่อสู้ในครั้งนี้โดยรวมแล้วไม่ยาก แต่ถ้า ADF ฝ่ายเราน้อยก็มีสิทธิ์แป้กเอาดื้อ ๆ ค่ะ**

- ปราบได้ จะได้รับ "หลักแห่งความตาย" 『死の理』 จากอีวิลสตรีมตัวนึงค่ะ (อัตราการได้รับไอเทม 100% ค่ะ)

 (58) ประกาศจับสัตว์ปิศาจบนถนนรอบเมืองเอลเบ 『エルベ周遊道の手配魔獣』 (BP5)
- ปราบ (บิ๊กแคคตัส + เลิร์คแคคตัส *7) ตรงหน้าทางเข้าราชคฤหาสน์เอลเบค่ะ
**แนะนำ ให้สวมเครื่องประดับป้องกัน "ผนึกทักษะ" เอาไว้จะง่ายขึ้นค่ะ**
**แนะนำ ให้ปราบเลิร์คแคคตัสก่อน เพราะเจ้าตัวนี้มีท่าที่ลด STR&DEF ของฝ่ายเรา หรือไม่ก็เพิ่ม STR&DEF ให้กับพวกได้ หากศัตรูเพิ่ม STR แล้วโจมตีเราตอนที่โดนลด DEF อยู่ล่ะก็ เห็นแสงสวรรค์ร่ำไรเลยล่ะค่ะ ตายหยังเขียดแหง ๆ**

- ปราบได้ จะได้รับ "หลักแห่งผนึกทักษะ" 『封技の理』 จากบิ๊กแคคตัสค่ะ (อัตราการได้รับไอเทม 100% ค่ะ)



Related entries:
Sora no Kiseki SC (空の軌跡SC)


No comments:

Post a Comment