บทที่ 8 แผ่นดินอันยุ่งเหยิง
第八章 混迷の大地
第八章 混迷の大地
- Part 1 -
การปรากฏตัวของนครลอยฟ้าก่อให้เกิดความสับสนวุ่นวายไปทั่วราชอาณาจักร
พวกเอสเทลต้องเผชิญหน้ากับเหล่า [งูกินหาง] อีกครั้ง โดยมีเหล่าผู้ช่วยเหลือที่คาดไม่ถึงปรากฏตัวเข้าแก้ไขสถานการณ์ได้อย่างทันท่วงที
แต่ในขณะเดียวกัน กองทัพจักรวรรดิได้ยกพลบุกประชิดชายแดนลีเบร์ล และชายหนุ่มผู้นั้นจะเป็นมิตรหรือศัตรูกันแน่!
พวกเอสเทลต้องเผชิญหน้ากับเหล่า [งูกินหาง] อีกครั้ง โดยมีเหล่าผู้ช่วยเหลือที่คาดไม่ถึงปรากฏตัวเข้าแก้ไขสถานการณ์ได้อย่างทันท่วงที
แต่ในขณะเดียวกัน กองทัพจักรวรรดิได้ยกพลบุกประชิดชายแดนลีเบร์ล และชายหนุ่มผู้นั้นจะเป็นมิตรหรือศัตรูกันแน่!
Walkthrough Chart - Main Quest
- เหนือน่านฟ้าราชอาณาจักรลีเบร์ล -
แมวป่า 『山猫号』
โจเซ็ต "อะ อะไรล่ะนั่น!? ใหญ่ขนาดนั้น...... อภิมหามหึมาเกินไปแล้ว!"
โดรุน "ใหญ่ขนาดนั้น ต้องมากกว่า 5 พันอาร์จแน่ ๆ ...... เกาะลอยฟ้ายักษ์ใหญ่งั้นเรอะ......"
คีล "ไม่หรอก...... โดยพื้นฐานแล้วดูเหมือนจะเป็นสิ่งที่มนุษย์สร้างขึ้น เรียกว่านครลอยฟ้าน่าจะเหมาะกว่านะ......"
โจเซ็ต "นะ นครลอยฟ้า......"
โดรุน "......ไม่น่าเชื่อ......"
- โดรุนเดินไปที่อุปกรณ์สื่อสาร ออกคำสั่งเหล่าลูกน้องให้ตระเตรียม [แมวป่า] เพื่อบินขึ้นไปที่นครลอยฟ้าด้วยเสียงอันดังลั่นโดรุน "ใหญ่ขนาดนั้น ต้องมากกว่า 5 พันอาร์จแน่ ๆ ...... เกาะลอยฟ้ายักษ์ใหญ่งั้นเรอะ......"
คีล "ไม่หรอก...... โดยพื้นฐานแล้วดูเหมือนจะเป็นสิ่งที่มนุษย์สร้างขึ้น เรียกว่านครลอยฟ้าน่าจะเหมาะกว่านะ......"
โจเซ็ต "นะ นครลอยฟ้า......"
โดรุน "......ไม่น่าเชื่อ......"
คีล "พะ พี่!?"
โจเซ็ต "อะ เอาจริงอ่ะ!?"
โดรุน "จริงซะยิ่งกว่าจริง เอาจริงสุด ๆ เฟ้ย! สมมติว่าถ้าเจ้าพวก [องค์กร] ทำให้สิ่งนั้นฟื้นคืนมาล่ะก็...... ต้องมีอภิมหาสมบัติหลับไหลอยู่เยอะแยะแน่ ๆ !"
คีล "คะ คิดให้มันถี่ถ้วนหน่อยซี~...... เจ้าสิ่งนั้นน่ะลำพังฝีมือของพวกเรารับไม่ไหวหรอกนะ! โจเซ็ตเองก็คิดแบบนั้นใช่มั้ยล่ะ!?"
โจเซ็ต "อะ อื~ม...... ผมเองก็ อุตส่าห์มาถึงที่นี่แล้วก็อยากจะพิสูจน์อะไรต่าง ๆ ให้แน่ใจล่ะมั๊ง......"
- คีลถึงกับผิดหวัง เพราะไม่คาดคิดว่าน้องสาวจะไม่ได้คิดแบบเดียวกับตนโจเซ็ต "อะ เอาจริงอ่ะ!?"
โดรุน "จริงซะยิ่งกว่าจริง เอาจริงสุด ๆ เฟ้ย! สมมติว่าถ้าเจ้าพวก [องค์กร] ทำให้สิ่งนั้นฟื้นคืนมาล่ะก็...... ต้องมีอภิมหาสมบัติหลับไหลอยู่เยอะแยะแน่ ๆ !"
คีล "คะ คิดให้มันถี่ถ้วนหน่อยซี~...... เจ้าสิ่งนั้นน่ะลำพังฝีมือของพวกเรารับไม่ไหวหรอกนะ! โจเซ็ตเองก็คิดแบบนั้นใช่มั้ยล่ะ!?"
โจเซ็ต "อะ อื~ม...... ผมเองก็ อุตส่าห์มาถึงที่นี่แล้วก็อยากจะพิสูจน์อะไรต่าง ๆ ให้แน่ใจล่ะมั๊ง......"
โจเซ็ต "กะ ก็แหม สถานการณ์มันแปลก ๆ ไปตั้งกะเมื่อคืน ผมว่าระวังเอาไว้ก็ไม่เสียหายนี่ แล้วเครื่องมือสื่อสารออร์บเมนท์ก็ไม่ค่อยมีการติดต่อเข้ามาด้วย......"
โดรุน "จะว่าไปก็จริง ทั้งทางกองทัพก็ดี หรือกิลด์ก็ช่าง แต่ที่ไม่มีแม้กระทั่งการติดต่อของพวกชาวเมืองเข้ามาเลยนี่มัน------"
- ทันใดนั้น คลื่นแสงสีทองส่องประกายเจิดจ้า อุปกรณ์ต่าง ๆ ภายในห้องบังคับการดับลง "สลัดอากาศเล็ก" 『空賊レグ』 เข้ามารายงานกับหัวหน้าของเขาว่าจู่ ๆ เครื่องยนต์ออร์บเมนท์, เครื่องยนต์ลอยตัวหยุดการทำงานค่ะโดรุน "จะว่าไปก็จริง ทั้งทางกองทัพก็ดี หรือกิลด์ก็ช่าง แต่ที่ไม่มีแม้กระทั่งการติดต่อของพวกชาวเมืองเข้ามาเลยนี่มัน------"
คีล "แบบนี้ก็แย่น่ะสิ...... สนามต้านแรงโน้มถ่วงที่เครื่องลอยตัวสร้างขึ้นลดลง...... ต่อจากนั้นหางเสือก็จะไม่มีปฏิกริยาตอบสนอง"
- พอได้ยินคีลพูดแบบนั้น ทั้งโดรุนทั้งโจเซ็ตถึงกับเหงื่อตก เพราะนั่นหมายความว่า......
คีล "......ด้วยระดับความสูงนี้ สิ่งที่พวกเราพอจะทำได้มีอยู่ 1 เรื่อง"
โดรุน & โจเซ็ต "คือ!?"
คีล "คือได้แค่ภาวนาต่อเทพธิดาไม่ให้พวกเราไปสวรรค์ทั้ง ๆ แบบนี้น่ะสิ......"
- แล้ว [แมวป่า] ก็สูญเสียการทรงตัว ตามมาด้วยเสียงกรีดร้องอันดังของสองศรีพี่น้องโดรุนและโจเซ็ตโดรุน & โจเซ็ต "คือ!?"
คีล "คือได้แค่ภาวนาต่อเทพธิดาไม่ให้พวกเราไปสวรรค์ทั้ง ๆ แบบนี้น่ะสิ......"
- ทุกพื้นที่ของราชอาณาจักร ระบบออร์บเมนท์หยุดการทำงานโดยสิ้นเชิง ไม่ว่าจะเป็น "รูอัน" ที่ [สะพานใหญ่แลนแกรนด์] หยุดการทำงานยังผลให้เขตเมืองทั้ง 2 ตัดขาดออกจากกัน, "ไซสส์" ที่พวกชาวเมืองไม่พอใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นอย่างมาก, "ทางหลวงมิลฮี" ที่ยานรักษาความปลอดภัยต้องนำเครื่องจอดลงกลางทุ่งหญ้าข้างทางหลวง และ "อัลเซยู" ที่ต้องเอาเครื่องลงจอดฉุกเฉินบนทะเลสาบวาเลเรีย
สาขาบอส 『ボース支部』
- พวกเราจะเล่าเรื่องราวต่าง ๆ ให้กับ "ผู้เฒ่ารูแกรน" ฟังค่ะ
☆ได้รับการรายงานผลของงาน "เหตุประหลาดที่ [หอคอยสี่วงแหวน]" ค่ะ☆
- พวกเราแทบจะไม่เชื่อเลยว่าระบบออร์บเมนท์ทั้งหมดจะหยุดการทำงาน เพราะนั่นส่งผลกระทบต่อระบบประเทศชาติไม่ว่าจะเป็น การติดต่อสื่อสาร, การคมนาคม, การป้องกันภัย และสายการผลิต ทุกอย่างล้วนเป็นอัมพาตหมด รวมทั้งพวกชาวเมืองก็ต่างกังวลใจที่ไม่มีแสงไฟไม่มีสิ่งอำนวยความสะดวกใช้ ไม่ว่าจะเป็นเตาออร์บเมนท์หรือโคมไฟออร์บเมนท์ ทำให้ต้องกลับไปใช้แสงไฟจากตะเกียงแทนค่ะ(จากตรงนี้จะทราบจาก "ผู้เฒ่ารูแกรน" ว่าเมื่อวานนี้พวกชาวเมืองได้กรูเข้ามาที่สมาคม, โรงงาน หรือแม้แต่คฤหาสน์นายกเทศมนตรีเพื่อถามว่าเกิดอะไรขึ้น ซึ่งทางสมาคมก็ไม่อาจหาคำตอบให้กับพวกชาวเมืองได้ เป็นค่ำคืนที่ปั่นป่วนมาก ๆ เลยค่ะ)
- แต่ยังดีที่เรายังพอมีข่าวดีแจ้งให้ทางสมาคมอยู่บ้าง ก็คือเรื่องที่ "ดร. รัซเซล" คิดค้นสิ่งประดิษฐ์ใหม่ขึ้นมาได้นั่นเองค่ะ
- ย้อนกลับไปเมื่อคืนวาน -
อัลเซยู 『アルセイユ』- "------นี่คือ [เครื่องกำเนิดสนามพลังงานศูนย์] 『零(ゼロ)力場(りきば)発生器』 รุ่นต้นแบบ" "ดร. รัซเซล" กล่าวต่อพวกเราทุกคนในห้องประชุมมืด ๆ บนยานอัลเซยู
เอสเทล "เครื่องกำเนิด...... สนามพลังงานศูนย์?"
ดร. รัซเซล "กล่าวง่าย ๆ ก็คือ วงจรที่ทำให้เกิดสนามพลังที่จะไปหักล้างการตอบสนองของสนามพลังงานออร์บเมนท์คลื่นความถี่ยาวชนิดพิเศษที่ [กอสเปล] ทำให้เกิดขึ้น......"
เอสเทล "ฟังแล้วไม่เห็นจะง่ายตรงไหนเลย......"
โยชัวร์ "ไม่แน่ว่านั่นอาจจะ...... หมายถึงสามารถยกเลิก [ปรากฏการณ์ออร์บเมนท์หยุดการทำงาน] ได้อย่างนั้นเหรอครับ?"
- เพื่อน ๆ ทุกคนต่างตกใจดร. รัซเซล "กล่าวง่าย ๆ ก็คือ วงจรที่ทำให้เกิดสนามพลังที่จะไปหักล้างการตอบสนองของสนามพลังงานออร์บเมนท์คลื่นความถี่ยาวชนิดพิเศษที่ [กอสเปล] ทำให้เกิดขึ้น......"
เอสเทล "ฟังแล้วไม่เห็นจะง่ายตรงไหนเลย......"
โยชัวร์ "ไม่แน่ว่านั่นอาจจะ...... หมายถึงสามารถยกเลิก [ปรากฏการณ์ออร์บเมนท์หยุดการทำงาน] ได้อย่างนั้นเหรอครับ?"
ดร. รัซเซล "ใช่...... ถูกต้องตามนั้น สรุปแล้ว [ปรากฏการณ์ออร์บเมนท์หยุดการทำงาน] ก็คือปรากฏการณ์ที่พลังงานของออร์บเมนท์ถูกดูดไปผ่าน [กอสเปล] ยังไงล่ะ แต่ดูด [ไปที่ไหน] นั้นเคยเป็นปริศนามาก่อน แต่ ณ ตอนนี้ในที่สุดก็กระจ่างแจ้งขึ้นมาแล้ว"
คลอเซ่ "หมายถึงนครลอยฟ้า...... หมายถึง [วงแหวนประกายแสง] 『輝く環』 สินะคะ"
ดร. รัซเซล "ใช่ ถูกต้องตามนั้น [วงแหวนประกายแสง] ใช้ช่องโหว่ที่เรียกว่า [กอสเปล] แล้วทำให้ [ปรากฏการณ์ออร์บเมนท์หยุดการทำงาน] เกิดขึ้นจากมิติประหลาด แต่เพราะช่องโหว่อันนั้นเล็กเกินไป อาณาเขตที่มีผลกระทบจึงแคบ...... แต่เมื่อ [วงแหวนประกายแสง] ได้รับการปลดปล่อย อาณาเขตอันนั้นจึงขยายตัวขึ้นชั่วพริบตา และสิ่งนั้นก็ได้กลืนกินทั่วราชอาณาจักรเข้าไปด้วยยังไงล่ะ"
เอสเทล "ทั่วราชอาณาจักร......"
โยชัวร์ "นั่นคือปรากฏการณ์ในครั้งนี้อย่างนั้นเหรอครับ......"
ดร. รัซเซล "อืม ออร์บเมนท์แต่ละอันที่อยู่ในราชอาณาจักรคงจะหยุดการทำงานไปแล้ว แต่ [เครื่องกำเนิดสนามพลังงานศูนย์] อันนี้ มีการทำงานที่จะไปยกเลิกการแทรกแซงจาก [วงแหวน] ได้ -------ถ้าพูดในอีกแง่นึง ออร์บเมนท์ที่อยู่ข้าง ๆ เจ้านี่ จะทำงานได้อย่างไร้ปัญหา"
- จากตรงนี้ เราจะทราบว่า [เครื่องกำเนิดสนามพลังงานศูนย์] (เครื่องที่ ดร. เรียกว่า [อุปกรณ์ที่ว่า] ในบทที่แล้วนั่นแหล่ะค่ะ) สภาพยังไม่ดีมากนัก เพราะเป้าหมายที่รุ่นต้นแบบอันนี้จะทำการป้องกันนั้นไม่แน่นอน ไม่สามารถใช้กับออร์บเมนท์ที่มีขนาดใหญ่ที่ต้องถือถึงสองมือ ทั้งยังมีจำนวนจำกัดด้วย เพราะตอนนี้ ดร. สามารถทำให้เสร็จสมบูรณ์ได้แค่ 16 อันเท่านั้น ยังไม่สามารถทำตามจำนวนที่ป๋าคาซิอุสขอเอาไว้ได้เลยค่ะคลอเซ่ "หมายถึงนครลอยฟ้า...... หมายถึง [วงแหวนประกายแสง] 『輝く環』 สินะคะ"
ดร. รัซเซล "ใช่ ถูกต้องตามนั้น [วงแหวนประกายแสง] ใช้ช่องโหว่ที่เรียกว่า [กอสเปล] แล้วทำให้ [ปรากฏการณ์ออร์บเมนท์หยุดการทำงาน] เกิดขึ้นจากมิติประหลาด แต่เพราะช่องโหว่อันนั้นเล็กเกินไป อาณาเขตที่มีผลกระทบจึงแคบ...... แต่เมื่อ [วงแหวนประกายแสง] ได้รับการปลดปล่อย อาณาเขตอันนั้นจึงขยายตัวขึ้นชั่วพริบตา และสิ่งนั้นก็ได้กลืนกินทั่วราชอาณาจักรเข้าไปด้วยยังไงล่ะ"
เอสเทล "ทั่วราชอาณาจักร......"
โยชัวร์ "นั่นคือปรากฏการณ์ในครั้งนี้อย่างนั้นเหรอครับ......"
ดร. รัซเซล "อืม ออร์บเมนท์แต่ละอันที่อยู่ในราชอาณาจักรคงจะหยุดการทำงานไปแล้ว แต่ [เครื่องกำเนิดสนามพลังงานศูนย์] อันนี้ มีการทำงานที่จะไปยกเลิกการแทรกแซงจาก [วงแหวน] ได้ -------ถ้าพูดในอีกแง่นึง ออร์บเมนท์ที่อยู่ข้าง ๆ เจ้านี่ จะทำงานได้อย่างไร้ปัญหา"
(ทุกคนได้ฟังเรื่องที่ป๋าอ่านสถานการณ์ออก และขอให้ดร. ช่วยทำสิ่งนี้ขึ้นมา ถึงกับทึ่งในความเก่งกาจระดับเทพของป๋าค่ะ)
หลวงพ่อเควิน "เมื่อเป็นแบบนั้น...... การนำ 16 อันนั่นไปใช้ก็เกือบจะตัดสินใจไปหมดแล้วสินะคร๊าบ"
ดร. รัซเซล "โฮ่...... เจ้า เฉียบแหลมมากทีเดียวนะนี่"
เอสเทล "เอ๊ะ เอ๊ะ หมายถึงอะไรเหรอ?"
หลวงพ่อเควิน "ในระหว่างที่เกิดความวุ่นวายสับสนอยู่นี่ สิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือข้อมูลข่าวสารที่ถูกต้องรวดเร็ว ไม่ว่าจะเป็นพวกขององค์กรที่ปรากฏตัว ไม่ว่าจะขนของที่จำเป็นไปยังที่แห่งไหน ถ้าไม่มีข้อมูลส่งมาถึงก็ไม่อาจรับมือได้ เมื่อเป็นแบบนั้น......"
โยชัวร์ "ก็ต้องนำไปใช้ เพื่อทำให้ฟังก์ชั่นของเครื่องมือสื่อสารในทุกพื้นที่ฟื้นตัวขึ้นมา...... สรุปก็คือ จะพูดแบบนี้สินะครับ?"
หลวงพ่อเควิน "บิงโกจ้า♪"
เอสเทล "งั้นเหรอ ถ้าอย่างนั้น......"
ร้อยเอกยูเลีย "สำหรับกองทัพแล้ว การที่ปืนออร์บเมนท์และเรือเหาะต่างก็ใช้งานไม่ได้นั้น ถือเป็นเรื่องร้ายแรง...... แต่การติดต่อระหว่างกองบัญชาการหรือกองกำลังทุกหน่วยขาดสะบั้นลง เป็นเรื่องที่รุนแรงยิ่งกว่า โดยเฉพาะการติดต่อระหว่างราชวัง, ประตูฮาเก้น, ค่ายเรสตอน จำเป็นต้องได้รับการฟื้นฟูอย่างเร่งด่วน"
เชราซาร์ด "กิลด์เองก็เช่นเดียวกัน...... ถ้าไม่สามารถดำเนินการติดต่อระหว่างสาขาได้ ถ้าเกิดอะไรขึ้นมาก็ไม่อาจรับมือได้"
- จากนั้น "ดร. รัซเซล" จะมอบ [เครื่องกำเนิดสนามพลังงานศูนย์] ให้ทางกองทัพ 10 อัน โดยจะแบ่งไปใข้กับ อัลเซยู, ราชวัง, ค่ายเรสตอน, ประตูฮาเก้น และก็ด่านในทุกพื้นที่ ส่วนอีก 6 อันดอกเตอร์จะมอบให้กับทางสมาคมเบรเซอร์ไว้สำหรับฟื้นฟูเครื่องมือสื่อสารค่ะดร. รัซเซล "โฮ่...... เจ้า เฉียบแหลมมากทีเดียวนะนี่"
เอสเทล "เอ๊ะ เอ๊ะ หมายถึงอะไรเหรอ?"
หลวงพ่อเควิน "ในระหว่างที่เกิดความวุ่นวายสับสนอยู่นี่ สิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือข้อมูลข่าวสารที่ถูกต้องรวดเร็ว ไม่ว่าจะเป็นพวกขององค์กรที่ปรากฏตัว ไม่ว่าจะขนของที่จำเป็นไปยังที่แห่งไหน ถ้าไม่มีข้อมูลส่งมาถึงก็ไม่อาจรับมือได้ เมื่อเป็นแบบนั้น......"
โยชัวร์ "ก็ต้องนำไปใช้ เพื่อทำให้ฟังก์ชั่นของเครื่องมือสื่อสารในทุกพื้นที่ฟื้นตัวขึ้นมา...... สรุปก็คือ จะพูดแบบนี้สินะครับ?"
หลวงพ่อเควิน "บิงโกจ้า♪"
เอสเทล "งั้นเหรอ ถ้าอย่างนั้น......"
ร้อยเอกยูเลีย "สำหรับกองทัพแล้ว การที่ปืนออร์บเมนท์และเรือเหาะต่างก็ใช้งานไม่ได้นั้น ถือเป็นเรื่องร้ายแรง...... แต่การติดต่อระหว่างกองบัญชาการหรือกองกำลังทุกหน่วยขาดสะบั้นลง เป็นเรื่องที่รุนแรงยิ่งกว่า โดยเฉพาะการติดต่อระหว่างราชวัง, ประตูฮาเก้น, ค่ายเรสตอน จำเป็นต้องได้รับการฟื้นฟูอย่างเร่งด่วน"
เชราซาร์ด "กิลด์เองก็เช่นเดียวกัน...... ถ้าไม่สามารถดำเนินการติดต่อระหว่างสาขาได้ ถ้าเกิดอะไรขึ้นมาก็ไม่อาจรับมือได้"
จัดส่ง [เครื่องกำเนิดสนามพลังงานศูนย์] 『『零力場発生器』の配達』 (BP8) |
- จากนั้น พวกเราจะขอให้ "ทีต้า" ช่วยติดตั้ง [เครื่องกำเนิดสนามพลังงานศูนย์] ให้กับสาขารูอัน โดยทีต้าจะทดสอบว่าใช้งานได้หรือไม่ โดยการติดต่อไปยังอัลเซยูที่คุณตาของเธออยู่ ซึ่งการใช้งานทุกอย่างราบรื่นเป็นไปได้ด้วยดีค่ะ
- ส่วน "คลอเซ่" และ "หลวงพ่อเควิน" ที่ไม่ได้อยู่ ณ ที่นี้นั้น เพราะทั้ง 2 คนได้มุ่งหน้าไปที่นครหลวงตั้งแต่ช่วงเช้าตรู่พร้อม ๆ กับพวกหน่วยองครักษ์ค่ะ
(จากตรงนี้จะทราบว่า "คลอเซ่" กลับไปรายงานสถานการณ์กับราชินีอาริเชีย ส่วน "เควิน" กลับไปรายงานกับอัครสังฆราช ซึ่งทั้ง 2 คนก็ได้นำ [เครื่องกำเนิดสนามพลังงงานศูนย์] ไปส่งที่สมาคมสาขานครหลวงแทนพวกเราแล้ว ดังนั้นก็เหลือสมาคมอีก 3 แห่งที่พวกเราจะต้องนำเครื่องกำเนิดฯ ไปส่งค่ะ)
- ถึงแม้พวกเราอยากจะตามพวก [องค์กร] ไปที่นครลอยฟ้า แต่ตอนนี้เรือเหาะก็ใช้งานไม่ได้ ดังนั้น เราก็ต้องทำสิ่งที่พอจะทำได้ตอนนี้ให้ดีที่สุดค่ะ
☆เลือกเพื่อนเข้ากลุ่ม 2 คน (เอสเทล, โยชัวร์ เป็นตัวละครบังคับ)☆
☆คลอเซ่, เควิน ออกจากกลุ่ม (ควอทซ์, เครื่องป้องกันและเครื่องประดับ ตัวเกมถอดให้อัตโนมัติค่ะ)☆
▼พื้นที่บอส 『ボース地方』
เมืองบอส 『ボース市』- อย่าลืมเข้าไปดูบอร์ดรับงานจะมีงานให้ทำดังนี้ค่ะ (อย่าลืมกลับมารายงานผลด้วยนะคะ เพราะยังคงคอนเซปต์เดิมที่ว่า รับงานสาขาไหนต้องรายงานผลกับสาขานั้น ๆ ค่ะ)
(49) ประกาศจับสัตว์ปิศาจบนยอดเขาโครเน่
(50) ประกาศจับสัตว์ปิศาจบนถนนตัดใหม่แอนเซล
☆ว่าด้วย [ปรากฏการณ์ออร์บเมนท์หยุดการทำงาน]☆ |
■ผลกระกระทบ - ตัวละครที่ไม่ได้สวมใส่ "เครื่องกำเนิดสนามพลังงานศูนย์" 『零力場発生器』 จะไม่สามารถใช้อาร์ทได้ - รวมทั้ง "ปืนใหญ่ออร์บเมนท์" อาวุธของ "ทีต้า" ก็เช่นเดียวกัน ถ้าหากไม่ได้สวมใส่เครื่องกำเนิดฯ ก็จะไม่สามารถโจมตีปกติหรือใช้ Craft ต่าง ๆ ได้ แต่ S-Craft ที่เป็นปืนกลแกตริ่งรูปแบบดินปืนอย่าง [แคนนอน อิมพัลส์] สามารถใช้งานได้ปกติค่ะ - ถึงแม้ ตัวละครนั้น ๆ จะใช้อาร์ทไม่ได้ (ไม่ได้ใส่เครื่องกำเนิดฯ) แต่ผลของควอทซ์ที่สนับสนุนความสามารถต่าง ๆ ไม่ว่าจะในฉากต่อสู้หรือฉากแผนที่ก็ยังสามารถใช้งานได้ตามปกติค่ะ
☆วิธีการสวมใส่ [เครื่องกำเนิดฯ] ให้เข้า Camp Menu เลือกคำสั่ง Equip ในหมวดเครื่องประดับค่ะ☆
■ข้อพึงระวัง - เมื่อมีการเปลี่ยนเพื่อนในกลุ่ม ตัวเกมจะถอดเครื่องกำเนิดฯ ให้อัตโนมัติค่ะ - เมื่อมีการนำส่งเครื่องกำเนิดฯให้กับทางสาขา จำนวนของเครื่องนี้จะลดลงไปเรื่อย ๆ นะคะ (เมื่อส่งครบทุกพื้นที่แล้วเราจะเหลืออยู่ 1 ชิ้นค่ะ) - ในกรณี ที่นำส่งให้ทางสาขาแล้วเครื่องกำเนิดฯ มีไม่เพียงพอ (ใส่ให้กับตัวละครในกลุ่ม) จะมีหน้าต่างให้เราเลือกถอดเครื่องกำเนิดฯออกจากเพื่อนในกลุ่มมา 1 คนค่ะ |
☆เนื่องจากว่า ศัตรูจิ๊ดจิ๋วกระจ้อยร่อยที่เคยพบเจอมาไม่ได้เก่งขึ้นตามเรา
ดังนั้น แนะนำให้สวมควอทซ์ "เร้นใบไม้" 『葉隠』 จะได้ไม่ต้องมาเสียเวลาต่อสู้ (กดปุ่ม) ให้เมื่อยข้อมือค่ะ☆
- เราจะสามารถเลือกไปตามหัวเมืองใหญ่ ๆ ที่ไหนก่อนก็ได้อีก 3 หัวเมือง แต่ตามบทสรุปนี้ เราจะมุ่งหน้าไปยัง รอเลนซ์ > ไซสส์ > รูอัน ตามลำดับค่ะดังนั้น แนะนำให้สวมควอทซ์ "เร้นใบไม้" 『葉隠』 จะได้ไม่ต้องมาเสียเวลาต่อสู้ (กดปุ่ม) ให้เมื่อยข้อมือค่ะ☆
- ที่ทางเข้าเขตเมืองด้านใต้ จะเห็นพวกชาวเมืองมุงดูอะไรกันอยู่ ซึ่งก็คือทิวทัศน์ของ "นครลอยฟ้า" นั่นเองค่ะ ❤ดูภาพ "นครลอยฟ้า-1" ตรงนี้ค่ะ❤
(พวกเราจะตกใจมาก เพราะเมื่อมองจากบนพื้นแล้วเห็นนครลอยฟ้านั่นมีขนาดใหญ่มาก ๆ การที่ชาวเมืองไม่สบายใจจึงไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรเลยค่ะ)
☆ในทุกพื้นที่จะมีภาพของ "นครลอยฟ้า" ในมุมต่าง ๆ ให้เราได้ชมกันด้วยนะคะ
โดยสถานที่สามารถมองเห็นได้จะมีเครื่องหมาย ! (Look Point) ปรากฏขึ้นค่ะ☆
โดยสถานที่สามารถมองเห็นได้จะมีเครื่องหมาย ! (Look Point) ปรากฏขึ้นค่ะ☆
★คุยกับพวกชาวเมือง จะทราบว่าพวกเขากำลังกังวลเรื่องที่ออร์บเมนท์หยุดการทำงานและทำให้เกิดความสับสนวุ่นวายขึ้นไปทั่วค่ะ
★คุยกับ "นายกเทศมนตรีเมเบล" เธอบอกว่าต้องใช้เวลาอธิบายมากกว่าครึ่งคืน พวกชาวเมืองที่กรูเข้ามาที่นี่ถึงจะยอมกลับไปค่ะ แต่นั่นก็ไม่ได้ทำให้พวกชาวเมืองคลายความกังวลใจลงไปได้ หากปล่อยให้เป็นแบบนี้ต่อไปเมเบลกลัวว่าจะเกิดเหตุการณ์อะไรบางอย่างขึ้นมาอีกค่ะ ถึงจะเป็นอย่างนั้นเมเบลก็ยังยืนยันหนักแน่นว่า ไม่ว่าสถานการณ์จะเป็นเช่นไร การปกป้องชาวเมืองก็เป็นงานของนายกเทศมนตรี และเธอก็เชื่อมั่นว่าพวกเอสเทลจะต้องคลี่คลายปัญหานี้ลงไปได้ค่ะ
- หากไปคุยกับ "โคเมลูส" 『コメルス』 ที่โรงงานลูชิล พวกเราจะให้เขายืมเครื่องกำเนิดฯ เฉพาะเวลาที่พวกเรามาใช้บริการที่โรงงานค่ะ (โรงงานของพื้นที่อื่น ๆ ก็เช่นเดียวกันค่ะ)หอคอยอำพัน 『琥珀の塔』
- บนชั้นดาดฟ้าของหอคอยจะพบกับสัตว์ปิศาจรูปร่างประหลาดค่ะ (ไม่บังคับ แต่ถ้าปราบแล้วจะได้รับ Rare Item ที่หาที่ไหนไม่ได้ด้วยนะคะ แน่นอนว่ามีให้ตามไปปราบทุกหอคอย ถ้าไม่ลำบากจนเกินไปก็เดินทางไปปราบกันดีกว่าค่ะ)
- แมลงมิติ *3 + วิซาร์ดซีด *3 - - 『次元蟲*3 + ウェザーシード*3』 - |
**ศัตรูพลังป้องกันกายภาพค่อนข้างสูง แนะนำให้ใช้อาร์ทปราบจะดีกว่าค่ะ** **แมลงมิติจะมีท่า "รังสีนูเมเรียม" ที่โจมตีเป็นเส้นตรงทำให้เราติด MOV Down และวิซาร์ดซีดสามารถใช้อาร์ท "เปโตร สเฟียร์" (ดิน - อาณาเขตปานกลาง) ทำให้เราติด MOV Down ได้เช่นเดียวกันค่ะ** **การต่อสู้ครั้งนี้อย่าใช้เวลาให้นานจะดีกว่า เพราะเจ้าแมลงตัวนี้มีท่าดูด HP และ EP ด้วย ทั้งยังสามารถแบ่งตัวได้เรื่อย ๆ อีกต่างหาก (HP/2) ทำให้วุ่นวายพอควรค่ะ** **แนะนำ ใช้ "คล็อกดาวน์" ใส่ศัตรู แล้วใช้อาร์ทกินอาณาเขตปราบพร้อม ๆ กันจะง่ายขึ้นค่ะ** |
ริมทะเลสาบวาเลเรีย 『ヴァレリア湖畔』
- คราวนี้ เรามาแวะทำ Event พิเศษที่ริมทะเลสาบกันดีกว่าค่ะ
★คุยกับ "เจ้าหน้าที่สังเกตการณ์เอโก้" ที่มาหาซื้ออาหารให้กับเพื่อน ๆ ในโรงเตี๊ยมนกกระเต็น ตอนแรกเอสเทลก็ตกใจอยู่หรอกค่ะ ว่าหน่วยองครักษ์มาอยู่ที่นี่ได้ยังไง แต่คิดไปคิดมาอัลเซยูก็จอดเท้งเต้งอยู่บนทะเลสาบจะมาอยู่ที่นี่ก็ไม่แปลกนี่นา (เฮ้อ นางเอกเราเป๋ออีกแล้ว)
★คุยกับ "เจ้าหน้าที่บังคับการบินลูคูส" ที่สะพานเรือหลังโรงเตี๊ยม เขาจะบอกว่าจริง ๆ แล้วที่ต้องมากับเอโก้เป็นหน้าที่ของริออนแท้ ๆ แต่เจ้าหมอนั่นก็ดันหนีไปซะเฉย ๆ น่ะค่ะ (เอโก้น่ากลัวขนาดนั้นเลยเหรอเนี่ย)
★คุยกับลุง "ลอยด์" เจ้าเก่าหน้าเดิม เขาจะบอกว่าทั้ง ๆ ที่คราวนี้อาจจะตกเจ้าของได้แท้ ๆ แต่พวกปลาที่จะใช้เป็นเหยื่ออย่าง "เทร้าด์" หรือ "ซาโมน่า" กลับไม่มีให้ตกเลย อาจเป็นเพราะเงาของเกาะที่ลอยอยู่บนฟ้าตกกระทบลงมาบนผิวทะเลสาบ พวกปลาก็เลยหนีหายไปหมดหรือเปล่านะ
- ไปที่สะพานปลา ในช่วงนี้เราจะสามารถตก "เจ้าของ" ทะเลสาบวาเลเรียได้แล้วค่ะ แต่จำเป็นต้องมีเหยื่ออย่าง "เทร้าด์" หรือ "ซาโมน่า" ด้วยนะคะ (ถ้ามีเหยื่อสำรองไว้น้อย แนะนำ Save ไว้ก่อนกันพลาดค่ะ)(ใบรับรองนี้ใช้เพื่อยืนยันว่าเอสเทลเป็น [นักตกปลาระดับพิเศษ] ซึ่งได้รับการรับรองอย่างเป็นทางการของ [สมาพันธ์นักตกปลา] 『釣公師団』 และจะได้รับความสะดวกสบายอย่างหาพรรณาไม่ได้จากสำนักงานใหญ่ [สมาพันธ์นักตกปลา] ในนครหลวงค่ะ)
ยอดเขาโครเน่ 『クローネ峠』
- หากแวะมาที่ด่านบนยอดเขาโครเน่ จะพบกับ "เรย์" 『レイ』 (1 ในนักวิจัยจากไซสส์ที่ขึ้นไปช่วยดร. รัซเซลบนอัลเซยูค่ะ) และน้องเหมียว "อันโตวานู" 『アントワーヌー』 ที่อยู่ระหว่างเดินทางกลับไซสส์ค่ะ พวกเราจึงเอ่ยปากจะพาเขาไปส่งที่ไซสส์ให้ แต่เรย์บอกว่าจะกลับเองค่ะ โดยให้เหตุผลว่าเขารู้จักทางดีอยู่แล้วแถมมีอันโตวานนูไปเป็นเพื่อนด้วย และเพื่อเป็นการขอบคุณน้ำใจของพวกเรา เรย์จะมอบ "ลูกอมออโรร่ามหัศจรรย์" อาหารโจมตีที่เขาคิดค้นขึ้นมาให้เราค่ะ
(เอสเทลอดคิดไม่ได้ว่าถ้าเป็นคน ๆ นี้ล่ะก็ จะเดินทางไปไหนมาไหนเองก็คงจะไม่เป็นไรล่ะมั๊งเนี่ย)
- ไหน ๆ ก็มาถึงที่นี่แล้ว ลองออกไปข้างนอกด่านฝั่งพื้นที่รูอัน "พลทหารแอชเชอร์" 『兵士アッシャー』 กำลังยืนมองทิวทัศน์ของท้องฟ้าที่มี "นครลอยฟ้า" ปรากฏให้เห็นค่ะ ❤ดูภาพ "นครลอยฟ้า-2" ตรงนี้ค่ะ❤
- ยังมีที่ต่าง ๆ ที่สามารถไปถามไถ่เพื่อน ๆ ได้ด้วยนะคะ (ไม่บังคับค่ะ)
★ที่หมู่บ้านราเวนนู จะพบกับเบรเซอร์รุ่นพี่แห่งสาขาบอส "สติงก์" 『スティング』 ที่มาดูแลความปลอดภัยใหักับหมู่บ้านค่ะ
(ถ้าพา "เจ๊เชร่า" หรือ "อากัต" มาด้วยจะมีบทพูดทักทายตามประสาคนรู้จักค่ะ)
(ถ้าพา "เจ๊เชร่า" หรือ "อากัต" มาด้วยจะมีบทพูดทักทายตามประสาคนรู้จักค่ะ)
★คุยกับ "ผู้ใหญ่บ้านไรเซ็น" 『ライゼン村長』 เขาจะบอกว่าหมู่บ้านราเวนนูไม่ค่อยลำบากเท่าไหร่กับการที่ออร์บเมนท์ไม่ทำงาน เพราะปกติแล้วหมู่บ้านก็ไม่ค่อยได้ใช้พวกสิ่งอำนวยความสะดวกกันอยู่แล้วค่ะ
★ที่ประตูฮาเก้น ทางกองทัพได้ตั้งด่านป้องกันพวกจักรวรรดิขึ้นมาแบบลวก ๆ แก้ขัดไปก่อน เพราะไม่แน่ใจว่า พวกจักรวรรดิจะอาศัยช่วงเวลานี้ยกพลบุกเข้ามาในลีเบร์ลหรือเปล่าค่ะ
★คุยกับ "นายพลมอร์แกน" 『モルガン将軍』 เขาบอกว่าตัวเขาเองก็อยากจะเอ่ยปากขอบคุณพวกเอสเทลเรื่อง [หอคอย] เหมือนกัน แต่ในสถานการณ์ที่ตึงเครียดเช่นนี้เขาไม่อาจจะเอ่ยปากชมได้ไว้รอคราวหน้าจะดีกว่าค่ะ (ยังเป็นคนตรงยังกับไม้บรรทัดไม่เปลี่ยนเลยนะเนี่ย) แต่ถึงยังไงนายพลมอร์แกน (ที่เคยเกลียดเบรเซอร์) ก็ได้ฝากความหวังไว้กับเบรเซอร์อย่างพวกเอสเทลด้วยนะคะ
★ที่กระท่อมกลางหุบเขาหมอก "รุคเคน" 『リュッケン』 นักวิจัยสิ่งมีชีวิตยุคโบราณถึงกับเดินทางมาสอบถามลุง "เวมเลอร์" 『ヴェムラー』 เกี่ยวกับมังกรถึงที่นี่เชียวนะคะ
▼พื้นที่รอเลนซ์ 『ローレント地方』
★คุยกับ "หัวหน้ากองแอสตอน" 『アストン隊長』 (พ่อของลุค) ในด่านที่สะพานเวรูท เขาจะขอบคุณเราที่ช่วยเรื่องคดีหมอกลงเมื่อหลายวันก่อนค่ะ นอกจากนั้นยังได้รับทราบว่า ที่ให้เปิดประตูด่านทิ้งเอาไว้ทั้ง ๆ แบบนั้น เพราะว่าเวลาเปิดปิด (ด้วยมือ) ค่อนข้างลำบาก รวมทั้งไม่อยากให้ประตูไปขัดขวางการจราจรอีกด้วย ส่วนเรื่องความปลอดภัย ทางกองกำลังรักษาความปลอดภัยได้เข้มงวดในการตรวจคนเข้าเมืองอยู่แล้ว แต่สำหรับเบรเซอร์อย่างพวกเราก็ผ่านไปได้ตามสะดวกค่ะ
★บนทางหลวงมิลฮีจะพบกับเหล่ากองทัพราชอาณาจักรที่ต้องนำยานรักษาความปลอดภัยจอดลงฉุกเฉินบนทางหลวง แต่โชคดีที่อยู่ใกล้ ๆ ไร่เพอเซล พอตกเย็นก็ไปทานข้าวที่นั่น และเพื่อแทนคำขอบคุณพวกเขาจึงจัดสรรคนไปเฝ้าระวังที่ไร่ให้ด้วยนะคะ
★แวะไปทักทาย "ทีโอ" 『ティオ』 เธอจะดีใจที่โยชัวร์กลับมาแล้ว แต่ยังไม่วายแอบแซวเอสเทลกับโยชัวร์ว่า "ที่น่าเป็นห่วงที่สุดน่ะเป็นเอสเทลอยู่ตรงนี้ไม่ใช่เหรอไง ถึงกับร้องไห้ฟูมฟายเลยด้วยนะ ค่าชดใช้ให้กับน้ำตาของหญิงสาวมันแพงนะยะ~" โยชัวร์ยิ้มรับบอกว่าเรื่องนั้นเขาได้เตรียมใจไว้เรียบร้อยแล้วค่ะ จากนั้น ทีโอจะชวนให้ทั้ง 2 คนแวะมาเที่ยวที่นี่บ้างถ้าหากมีเวลาว่างค่ะ
(ถ้าพา "เจ๊เชร่า" มาด้วย ทีโอจะเอ่ยปากชวนคุณเชร่าด้วยค่ะ)
(ถ้าพา "เจ๊เชร่า" มาด้วย ทีโอจะเอ่ยปากชวนคุณเชร่าด้วยค่ะ)
★ส่วนคู่แฝด "วิล" 『ウィル』 และ "เชล" 『チェル』 ก็ดีใจมาก ๆ ที่โยชัวร์กลับมาแล้ว แต่เด็ก ๆ ก็ต้องเบื่อไปตามระเบียบเพราะพี่โยชัวร์สุดที่รักอยู่ระหว่างการทำงานซะงั้น แต่โยชัวร์ก็ให้สัญญาว่าจะแวะมาเที่ยวหลังงานเสร็จ เด็ก ๆ ก็ตั้งหน้าตั้งตารอเลยล่ะค่ะ
★คุยกับป้า "ฮันนา" 『ハンナ』 ป้าแกบอกว่าอุปกรณ์ทำอาหารรุ่นที่ใช้พลังงานออร์บเมนท์ใช้งานไม่ได้มันก็ไม่ลำบากเท่าไรหรอก แต่เธอก็รู้สึกไม่ค่อยดีที่ให้พวกคุณทหารต้องมากินแซนวิชเย็น ๆ แบบเมื่อเช้านี้ค่ะ (เอสเทลกับโยชัวร์เอ่ยปากชมว่าฝีมือทำแซนด์วิชของคุณป้าฮันนาน่ะสุดยอดอยู่แล้ว พอป้าแกได้ยินคำชมก็รู้สึกปลื้มไปเลยล่ะค่ะ)
★ส่วนลุง "ฟรันซ์" 『フランツ』 ก็ดีใจที่เห็นพวกเอสเทล ส่วนเรื่องงานในไร่ลุงฟรันซ์บอกว่า เขาก็แค่กลับไปใช้แรงงานคนเหมือนสมัยก่อน แต่ถ้าเป็นไปได้ก็หวังว่าเรือประจำทางจะซ่อมเสร็จเร็ว ๆ นี้ เพราะไม่งั้นก็ขนส่งผักผลไม้ไปพื้นที่อื่น ๆ อย่างบอสมาร์เก็ตไม่ได้ ซึ่งถือเป็นปัญหาใหญ่เลยล่ะค่ะ
เมืองรอเลนซ์ 『ローレント市』(51) ประกาศจับสัตว์ปิศาจบนทางหลวงเอรีซ
(52) ประกาศจับสัตว์ปิศาจบนทางหลวงมิลฮี
- ไปที่สาขาจะพบกับ "ไอน่า" 『アイナ』 ค่ะ
◆ในกรณีที่พา "เจ๊เชร่า" มาด้วย จะมีบทสนทนาพิเศษระหว่างเจ๊เชร่ากับไอน่าค่ะ
- ไอน่าดีใจที่ได้เห็นพวกเราปลอดภัยดี เพราะเธอเป็นห่วงตอนที่พวกเราต้องไปคลี่คลายเหตุการณ์ประหลาดที่ [หอคอย] ส่วนโยชัวร์จะขอโทษไอน่าที่ทำให้เธอต้องเป็นห่วง แต่ไอน่าบอกว่าแค่โยชัวร์กลับมาก็น่ายินดีแล้วค่ะ- เราจะเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับ [นครลอยฟ้า] และเรื่อง [เครื่องกำเนิดสนามพลังงานศูนย์] ให้ไอน่าฟังค่ะ
- หลังจากเล่าให้ไอน่าฟังแล้ว เราจะนำ [เครื่องกำเนิดฯ] ไปติดตั้งให้ที่เครื่องมือสื่อสารของสาขา
(ในกรณีที่พา "เจ๊เชร่า" มาด้วย เจ๊เชร่าจะออกปากชวนไอน่าไปดื่มแทนคำขอบคุณ ซึ่งก็แน่อยู่แล้วที่ไอน่าจะตอบตกลง โยชัวร์ถึงกับเหนื่อยหน่ายที่ทั้ง 2 คนเนี่ยไม่เปลี่ยนไปเลยจริง ๆ ค่ะ)
◆ในกรณีที่พา "ทีต้า" มาด้วย ทีต้าจะเป็นคนติดตั้ง [เครื่องกำเนิดสนามพลังงานศูนย์] เองค่ะ แต่ถ้าไม่ได้พาทีต้ามาด้วย "โยชัวร์" จะเป็นคนติดตั้งเองค่ะ
- นอกจากนั้น "ไอน่า" บอกว่าถ้าเป็นไปได้ก็อยากจะให้พวกเราลองตรวจดูที่บอร์ดรับงาน แถมเธอยังรู้สึกเป็นห่วง "ริจจ์" ที่ไปทำงานคุ้มภัยที่เหมืองมัลก้าด้วย เพราะที่เหมืองเพิ่งจะเริ่มลงมืองานใหม่เองแท้ ๆ แต่ออร์บเมนท์ก็มาใช้งานไม่ได้ ถ้ามีเวลาก็อยากจะให้เราช่วยไปดูลาดเลาให้หน่อยค่ะ
☆หากต้องการเปลี่ยนเพื่อนในกลุ่ม ให้คุยกับไอน่าแล้วเลือกคำสั่งที่ 3 "เรียกเพื่อน" 『仲間を呼ぶ』
ไอน่าจะเรียกเพื่อน ๆ ของเราให้มาพักบนชั้น 2 ของสมาคมค่ะ☆
- บนหอนาฬิกา เราจะสามารถมองเห็นทิวทัศน์อีกมุมหนึ่งของ "นครลอยฟ้า" ได้ค่ะ ❤ดูภาพ "นครลอยฟ้า-3" ตรงนี้ค่ะ❤ไอน่าจะเรียกเพื่อน ๆ ของเราให้มาพักบนชั้น 2 ของสมาคมค่ะ☆
★คุยกับคุณปู่ "เมลเดิร์ซ" 『メルダース』 จะทราบว่าเขามาช่วยดูแลหอนาฬิกาที่หยุดเดินไปแล้ว ตามคำขอร้องของ "ผู้เฒ่าแพนดิว" 『パンデュ老人』 ค่ะ
★คุยกับ "เอลิซซ่า" 『エリッサ』 ที่บาร์อาเบนด์ พอเอลิซซ่าเห็นโยชัวร์กลับมาก็โล่งใจ เพราะว่าก่อนหน้านี้เอสเทลพาผู้ชายแปลกหน้ามาด้วยทำให้เธอคิดไปต่าง ๆ นานาด้วยความเป็นห่วง (ว่าเอสเทลจะนอกใจโยชัวร์) มากเลยล่ะ (เอสเทลอุบอิบว่าเรื่องที่เอลิซซ่าเป็นห่วงนี่ช่างผิดกับคนอื่นจริง ๆ นะ)
★คุยกับคุณลุง "เด็ซเซล" 『デッセル』 พ่อของเอลิซซ่าที่กำลังหนักใจว่ากำลังจะมีงานเลี้ยงขึ้นเย็นนี้ แต่เมื่อเตาออร์บเมนท์ใช้งานไม่ได้เขาก็จะใช้อุปกรณ์เท่าที่มีทำอาหารให้สำเร็จให้ดูค่ะ
◆ในกรณีที่พา "เจ๊เชร่า" มาด้วย ลองคุยกับ "ฟอล์คเนอร์" 『フォークナー』 ดูนะคะ เขาจะโล่งใจม๊ากมากที่คุณเชราซาร์ดอยู่ระหว่างการทำงานค่ะ (จะได้ไม่ต้องมาหาเรื่องดื่มที่นี่ไง)
- หากไปคุยกับ "ฟรายดี้" 『フライディ』 ที่โรงงานเมลเดิร์ซ เขาจะดีใจที่ได้เจอโยชัวร์อีกครั้งค่ะ และถึงเขาอยากจะช่วยสนับสนุนพวกเอสเทล แต่ออร์บเมนท์ก็ใช้งานไม่ได้ เอสเทลจะเสนอให้ฟรายดี้ยืมเครื่องกำเนิดฯ เวลาที่พวกเรามาใช้บริการที่โรงงานค่ะ
★คุยกับ "คลูเซ่" 『クルーセ』 สาวน้อยผู้ใฝ่ฝันอยากเป็นนักข่าว โยชัวร์สงสัยว่าคลูเซ่รู้จักคำยาก ๆ อย่างปรากฏการณ์ออร์บเมนท์หยุดการทำงานได้ยังไง เธอบอกว่าเพราะได้ข้อมูลมาจากฟรายดี้ค่ะ
(ถ้าคุยกับ "คลูเซ่" อีกครั้ง เธอบอกว่าวันนี้มีกำหนดการงานแต่งงานของคุณอารุมกับคุณแอร์รี่ด้วยค่ะ)
(ถ้าคุยกับ "คลูเซ่" อีกครั้ง เธอบอกว่าวันนี้มีกำหนดการงานแต่งงานของคุณอารุมกับคุณแอร์รี่ด้วยค่ะ)
★คุยกับ "ลุค" 『ルック』 และ "แพ็ต" 『パット』 ที่กำลังวิ่งเล่นกันอยู่ ทั้ง 2 คนจะดีใจที่ได้เจอเอสเทลกับโยชัวร์ค่ะ ลุคก็ยังทำเป็นออกคำสั่งให้เอสเทลไปตรวจสอบเกาะที่ลอยอยู่บนฟ้า ซึ่งถ้าทำได้เอสเทลก็อยากจะรีบไปที่นั่นทันทีอยู่แล้วล่ะค่ะ
★คุยกับลุง "เฟท" 『フェイト』 เพื่อนสมัยเป็นทหารของป๋าที่หน้าร้านของรินอนค่ะ พอเห็นโยชัวร์แล้วลุงแกถึงกับบอกว่า "ไม่ได้เจอกันมาระยะนึง สีหน้าดูเป็นลูกผู้ชายขึ้นมากนะ" แล้วลุงเฟทก็ไม่ลืมที่จะบอกให้พวกเราพยายามต่อไปในฐานะเบรเซอร์ ไม่ให้แพ้เจ้าคาซิอุสที่กลับไปเป็นทหารด้วยค่ะ
★คุยกับ "รินอน" 『リノン』 เขาจะดีใจที่เห็นเอสเทลกับโยชัวร์ปรากฏตัวค่ะ (เอสเทลบอกว่าใช้คำว่าปรากฏตัวเนี่ย ทำอย่างกับเธอเป็นสัตว์ปิศาจหรือพวกวิญญาณเลยแฮะ) แถมรินอนยังพูดอะไรแปลก ๆ แบบชีวิตมนุษย์นี่เป็นเรื่องที่ละเอียดบอบบางนะ เอสเทลกับโยชัวร์ก็ได้แต่งง ๆ กับคำพูดและท่าทางแปลก ๆ ของเขาค่ะ
(ถ้าคุยกับ "รินอน" อีกครั้ง โยชัวร์จะถามว่าเด็กผู้หญิงที่เดินไปเดินมา (คิดดี้) เป็นพนักงานใหม่หรือเปล่า พอโยชัวร์ได้ยินรินอนบอกว่า คิดดี้ไม่ได้มาทำงานพิเศษที่นี่แต่เป็นเหมือนผู้อยู่อาศัยมากกว่า เพราะแม่ของเขาพามาก็เลยมาช่วยงานที่ร้านให้ โยชัวร์แอบคิดในใจว่า "(ท่าทางคุณรินอนเองก็คงจะลำบากนะเนี่ย......)" สงสัยว่าโยชัวร์จะรู้สึกถึงความผิดปกติของรินอนได้แล้วสิเนี่ย)
(ถ้าคุยกับ "รินอน" อีกครั้ง โยชัวร์จะถามว่าเด็กผู้หญิงที่เดินไปเดินมา (คิดดี้) เป็นพนักงานใหม่หรือเปล่า พอโยชัวร์ได้ยินรินอนบอกว่า คิดดี้ไม่ได้มาทำงานพิเศษที่นี่แต่เป็นเหมือนผู้อยู่อาศัยมากกว่า เพราะแม่ของเขาพามาก็เลยมาช่วยงานที่ร้านให้ โยชัวร์แอบคิดในใจว่า "(ท่าทางคุณรินอนเองก็คงจะลำบากนะเนี่ย......)" สงสัยว่าโยชัวร์จะรู้สึกถึงความผิดปกติของรินอนได้แล้วสิเนี่ย)
★คุยกับลุง "เอลเกอร์" 『エルガー』 ลุงแกจะดีใจที่เห็นโยชัวร์กลับมาอย่างปลอดภัยค่ะ ซึ่งโยชัวร์บอกว่าเขาได้รับประสบการณ์จากการหายไปในคราวนี้มากมายก็จริง แต่ตรงจุดนั้นก็ทำให้ทุกคนไม่สบายใจด้วย เอลเกอร์ให้กำลังใจโยชัวร์ด้วยเสียงหัวเราะสดใสว่า "ถ้าเป็นลูกผู้ชายก็ต้องประมาณนั้นอยู่แล้ว โยชัวร์ เจ้าเป็นลูกชายที่น่าภาคภูมิใจของเมืองนี้นะ" ค่ะ
(ถ้าคุยกับลุง "เอลเกอร์" อีกครั้ง ลุงจะบอกว่าถ้ายังไงก็ไปให้สเตล่าเห็นหน้าซักหน่อย เพราะสเตล่าเป็นห่วงโยชัวร์มากกว่าที่เขาเป็นห่วงซะอีกค่ะ)
(ถ้าคุยกับลุง "เอลเกอร์" อีกครั้ง ลุงจะบอกว่าถ้ายังไงก็ไปให้สเตล่าเห็นหน้าซักหน่อย เพราะสเตล่าเป็นห่วงโยชัวร์มากกว่าที่เขาเป็นห่วงซะอีกค่ะ)
★คุยกับป้า "สเตล่า" 『ステラ』 บนชั้น 2 ป้าแกอดไม่ได้ที่จะขอตำหนิโยชัวร์ที่จู่ ๆ ก็หายตัวไปค่ะ แต่พอป้าแกเห็นโยชัวร์รู้สึกผิดอยู่แล้วแบบนี้ ก็ขอโทษเขาและบอกกับโยชัวร์ว่าจะไปตำหนิโยชัวร์ก็ไม่ถูก เพราะคนที่เป็นทุกข์มากที่สุดก็น่าจะเป็นตัวโยชัวร์เองค่ะ แล้วป้าสเตล่าจะบอกให้โยชัวร์เงยหน้าขึ้น แล้วทำหน้าตาให้มันสดชื่นสมวัยค่ะ
★คุยกับ "สังฆราชดีไวน์" 『デバイン教区長』 หลวงพ่อจะรู้สึกโล่งใจที่เห็นโยชัวร์กลับมา และไม่ลืมที่จะให้หลักธรรมคำสอนแก่พวกเอสเทลด้วยค่ะ
★ที่โบสถ์รอเลนซ์ จะเห็นเพื่อนเจ้าบ่าว, เพื่อนเจ้าสาวและญาติ ๆ ที่มาร่วมงานแต่งงานของอารุมและแอร์รี่ค่ะ
★คุยกับ "อลัน" 『アラン』 ประชาสัมพันธ์ของท่าเทียบเรือเหาะ ถึงงานอธิบายเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับเรือประจำทางจะเป็นหน้าที่ของเขา แต่เขาก็ไม่อยากทำเท่าไรหรอกนะ เพราะทำให้ไม่มีเวลาไปเหล่สาวน่ะสิ ("มะ ไม่เคยเปลี่ยนไปเลยนะครับ" นี่คือคำพูดของโยชัวร์ที่ได้แต่ยิ้มแห้ง ๆ กับพฤติกรรมของอลันค่ะ)
★คุยกับ "นายกเทศมนตรีคลาอุส" 『クラウス市長』 ที่คฤหาสน์นายกเทศมนตรี เขาจะขอบคุณเอสเทลตอนเหตุการณ์หมอกที่รอเลนซ์ค่ะ พวกเอสเทลจะรู้สึกว่า ชาวเมืองรอเลนซ์ดูไม่ร้อนใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในตอนนี้เลย แถมยังใช้ชีวิตเหมือนว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้นซะด้วยซ้ำ ผิดกับชาวเมืองบอสเป็นอยากมาก คลาอุสบอกว่าอาจเป็นเพราะปกติที่รอเลนซ์ก็มีอุปกรณ์ออร์บเมนท์น้อยอยู่แล้ว หลัก ๆ ก็มีแค่หอนาฬิกาที่เดียว แล้วชาวเมืองรอเลนซ์ก็มีนิสัยสบาย ๆ อยู่แล้วด้วยค่ะ (เอสเทลก็ได้แต่ยอมรับกับความบ้านน๊อกบ้านนอกของเมืองเกิดตัวเองอีกครั้งค่ะ)
หอคอยหยก 『翡翠の塔』- บนชั้นดาดฟ้าของหอคอยจะพบกับสัตว์ปิศาจรูปร่างประหลาด สู้กับ (แมลงมิติ *3 + วิซาร์ดซีด *3) เหมือนเดิมค่ะ
- ปราบได้ จะได้รับ "โซล ออร์บ" 『ソウルオーブ』 จากแมลงมิติตัวนึงค่ะ (อัตราการได้รับไอเทม 100% ค่ะ)
เหมืองมัลก้า 『マルガ鉱山』
(46) ช่วยเหลือเหล่าคนขุดแร่
- คุยกับ "คนขุดแร่แลงก์" 『鉱夫ラング』 ที่ยืนอยู่หน้าลิฟท์ในเหมือง จะเกิดเควสต์ลับทันทีค่ะ
- หลังจากเคลียร์ (46) ช่วยเหลือเหล่าคนขุดแร่ แล้ว เมื่อเข้าไปในโบสถ์รอเลนซ์จะมีอีเวนท์พิเศษงานแต่งงานของอารุมและแอร์รี่เกิดขึ้นค่ะ
◆ในกรณีของ "อากัต" จะทำหน้าตาหน้ากลัว (สุด ๆ) หลังจากที่เห็นคู่บ่าวสาวจูจุ๊บสาบานกัน เพราะตัวเขารู้สึกว่าคนนอกไม่สมควรไปจ้องคู่บ่าวสาวแบบนั้น เพราะมันน่าอายน่ะค่ะ (ดูเหมือนอากัตจะจริงจังมากเลยนะนี่)
◆ในกรณีของ "เจ๊เชร่า" พอเจ๊โดนคนผลักก็เข้าสู่โหมดเอาจริงโดยสิ้นเชิงค่ะ
◆ในกรณีของ "ทีต้า" ก็ใจเต้นตึกตัก เข้าสู่โหมดเอาจริงอย่างเงียบเชียบ แถมยังใช้หลักการของวิศวกรคำนวนแรงลม, องศาและจุดตกของช่อดอกไม้อีกต่างหากค่ะ
◆ในกรณีของลุง "จิน" จะรู้สึกสนใจที่ได้เห็นประเพณีแบบนี้ค่ะ
◆ในกรณีที่มี "เอสเทล" เป็นผู้หญิงคนเดียว เอสเทลจะคิดว่าไหน ๆ เธอก็เป็นผู้หญิงลองรับช่อดอกไม้ดูบ้างก็คงจะไม่เป็นไรค่ะ (เอ๊ะ แล้วปกติไม่ใช่ผู้หญิงเหรอเนี่ย)
- ทว่าช่อดอกไม้ที่เจ้าสาวปาออกไป ก็ไถลออกนอกเส้นทางออกซะอย่างงั้น (อะไรจะปาได้สูงขนาดนั้น) ในขณะที่ทุกคนคิดว่าใครจะไปรับได้นั้น จู่ ๆ ดอกไม้ก็หล่นปุ๊ลงไปบนมือของเมดสาว "คิดดี้" 『キディ』 ที่กำลังจะกลับไปที่ร้านหลังจากมาส่งของให้ที่คฤหาสน์นายกเทศนมนตรีพอดี๊พอดีค่ะ(หรือว่า คิดดี้อาจจะได้แต่งงานกับรินอน หนุ่มผู้ไม่คิดจะมีแฟน เพราะมุแต่งานดูแลร้านสารพัดอย่าง แต่พอเห็นหนูคิดดี้ที่เอาการเอางานและนิสัยน่ารักสุด ๆ จิตใจของหนุ่มผู้นี้ก็หวั่นไหวไปกับชุดเมด! เอ๊ย ไม่ใช่ หวั่นไหวไปกับความขยันของเธอ!)
☆หลังพิธีแต่งงานที่โบสถ์จบลง ให้ไปคุยกับ "เซร่า" 『セーラ』 ที่บาร์อาเบนด์ เธอจะมอบ "แจ็คนักเสี่ยงโชค เล่ม 11" ให้กับเราค่ะ
★คุยกับ "ริจจ์" ที่โฮเต็ล รอเลนซ์ ริจจ์จะได้รับคำชมเชยที่ได้ยืนหยัดต่อสู้ปกป้องเหล่าชาวเมืองด้วยความกล้าหาญจากทุกคนค่ะ (อันที่จริง ข้อเสียใหญ่ ๆ ของริจจ์ก็คือไม่มั่นใจในตัวเอง แต่พอได้รับกำลังใจจากพวกเราเขาก็จะพยายามให้มากกว่านี้ค่ะ)
▼พื้นที่แกรนเซล 『グランセル地方』
นครหลวงแกรนเซล 『王都グランセル』(57) ประกาศจับสัตว์ปิศาจที่ทางน้ำใต้ดิน
(58) ประกาศจับสัตว์ปิศาจบนถนนรอบเมืองเอลเบ
☆ในกรณีที่เราได้รับ "ใบรับรองคุณวุฒินักตกปลาระดับพิเศษ" มาแล้ว
ให้ไปคุยกับ "ฟิชเชอร์" 『フィッシャー』 หัวหน้าสมาพันธ์นักตกปลาที่สำนักงานใหญ่สมาพันธ์นักตกปลา
เขาจะให้สิทธิพิเศษกับเอสเทลในการเลือกซื้อเหยื่อตกปลา สนนราคาชิ้นละ 100 มิร่าค่ะ☆
ให้ไปคุยกับ "ฟิชเชอร์" 『フィッシャー』 หัวหน้าสมาพันธ์นักตกปลาที่สำนักงานใหญ่สมาพันธ์นักตกปลา
เขาจะให้สิทธิพิเศษกับเอสเทลในการเลือกซื้อเหยื่อตกปลา สนนราคาชิ้นละ 100 มิร่าค่ะ☆
★คุยกับ "เอลนัน" 『エルナン』 ที่สาขา เราจะสอบถามสถานการณ์ในนครหลวงจากเอลนันค่ะ เอลนันบอกว่าตอนแรกชาวเมืองก็ตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แต่เพราะองค์ราชินีอาริเชียออกมาประกาศด้วยพระองค์เองว่ากำลังอยู่ระหว่างตรวจสอบสาเหตุของปรากฏการณ์ออร์บเมนท์หยุดการทำงาน ชาวเมืองจึงวางใจและกลับไปดำเนินชีวิตตามปกติตามที่ราชินีได้รับสั่งค่ะ
☆คุยกับเอลนันอีกครั้งเลือกคำสั่งที่ 3 "เรียกเพื่อน" 『仲間を呼ぶ』 ได้เช่นเดียวกันค่ะ☆
★เมื่อขึ้นไปบนชั้น 2 ของสำนักข่าวลีเบร์ลที่ตั้งอยู่ในเขตเมืองด้านตะวันตก เหล่านักข่าวประชุมกันว่าในเวลาที่ออร์บเมนท์จะหยุดการทำงานเช่นนี้ หากประชาชนไม่ได้รับข่าวสารก็จะยิ่งกังวลใจ ดังนั้น พวกเขาก็ยิ่งต้องพยายามรวบรวมข่าวสารที่ถูกต้องเพื่อแจ้งให้แก่ประชาชนค่ะ
★คุยกับ "โดรธี" เธอจะดีใจมากที่เห็นโยชัวร์กลับมาแล้วก็จะถ่ายรูปเพื่อเป็นที่ระลึก แต่พอนึกขึ้นได้ว่าออร์เบิลคาเมร่าใช้งานไม่ได้ สาวแว่นผู้มีนิสัยที่เป็นตัวของตัวเองสุด ๆ ก็เศร้าไปตามระเบียบ แต่ก็เปลี่ยนอารมณ์กลับมาร่าเริงเหมือนเดิมแทบจะในทันทีค่ะ (เฮ้อ ไม่เปลี่ยนไปเลยนะนี่)
★คุยกับ "ไนแอล" เขาจะบอกว่าถึงเหตุการณ์จะเป็นแบบนี้ แต่ก็ทำให้เขาวางปากกาไม่ได้หรอก ถึงกล้องของยัยโดรธีจะใช้งานไม่ได้ แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะไม่มีวิธีอื่นค่ะ แล้วหลังจากนี้ไนแอลบอกว่าจะไปขอคำปรึกษาจากราชินีอาริเชียด้วยนะคะ (ไนแอลมีหยอดด้วยว่าให้โยชัวร์ล้างคอรอได้เลย เพราะว่าเขาจะขอดูดข้อมูลจากโยชัวร์ให้อิ่มเลยค่ะ)
(จากคำบอกเล่าของ "ดัลมอร์" ความทรงจำในตอนที่เกิดคดีสถานเลี้ยงเด็กกำพร้านั้นคลุมเครือเหมือนกับโดนใครบางคนควบคุมอยู่ค่ะ หลังจากนั้นเขาได้ใช้ทรัพย์สมบัติที่เหลืออยู่ประกันตัวเองออกมาจากค่ายเรสตอนและกลับมาทำการค้าเพื่อรวบรวมเงินทำให้ตระกูลดัลมอร์รุ่งเรืองอีกครั้งค่ะ)
- ซึ่งร้านที่ดัลมอร์เลือกที่จะเปิด ก็คือร้านขายเซพิธที่ไม่เคยมีใครเปิดมาก่อนที่ลีเบร์ลนั่นเองค่ะ
(ถึงแม้การหาเซพิธมาไว้ในครอบครองจะเป็นเรื่องที่ลำบาก แต่ดัลมอร์บอกว่าเขามีวิธีการได้มาซึ่งบอกใครไม่ได้ ทำเอานางเอกของเราอดสงสัยไม่ได้ว่าดัลมอร์ใช้วิธีอะไร เพราะมันฟังดูแปลกมากกกก)
☆เราสามารถนำ "มิร่า" (Mira) มาแลกเป็น "เซพิธ" (Sepith)
ได้ที่ "บริษัทดัลมอร์" 『ダルモア商会』 เฉพาะบทที่ 8 เท่านั้นนะคะ
หากมีมิร่าเหลือพอ แนะนำให้ซื้อเซพิธตุนเอาไว้ให้เยอะ ๆ
เพราะหลังจากนี้การผสมควอทซ์จะเข้าสู่ขั้นหฤโหดค่ะ☆
ได้ที่ "บริษัทดัลมอร์" 『ダルモア商会』 เฉพาะบทที่ 8 เท่านั้นนะคะ
หากมีมิร่าเหลือพอ แนะนำให้ซื้อเซพิธตุนเอาไว้ให้เยอะ ๆ
เพราะหลังจากนี้การผสมควอทซ์จะเข้าสู่ขั้นหฤโหดค่ะ☆
★คุยกับ "อัครสังฆราชคาแลนท์" 『カラント大司教』 เขาจะพูดแต่เพียงว่าเหตุการณ์ในคราวนี้นั้นไม่ใช่แค่บททดสอบจากเทพธิดา จากนั้นก็นิ่งเงียบไม่พูดอะไรค่ะ
★คุยกับ "นักบวชลีวาล" 『リヴァル司祭』 เขาจะบอกว่าเมื่อกี๊มีผู้ชาย 2 คนเอาพัสดุขนาดไม่ใหญ่นักแต่ห่ออย่างมิดชิดจ่าหน้าถึงหลวงพ่อเควินมาส่ง (เพื่อน ๆ จะได้ทราบว่ามันคืออะไรในตอนท้ายของเรื่องราวค่ะ) ซึ่งอัครสังฆราชก็บอกให้รีบนำไปส่งทันที ทำให้นักบวชลีวาลสงสัยว่านี่มันเรื่องอะไรกันแน่ค่ะ
★คุยกับ "ซิสเตอร์ โนอา" 『シスター・ノア』 เธอจะบอกว่าหลวงพ่อเควินมาคุยกับพระราชคณะตั้งนาน แล้วหลังจากนั้นก็ออกไปไม่กลับเข้ามาอีกเลย เธอก็เลยสงสัยว่าหลวงพ่อเควินกับอัครสังฆราชเกี่ยวข้องกันแบบไหนกันแน่
- ด้านในสุดของท่าเรือแกรนเซล ตรงท่าเทียบทางทิศตะวันตกของฉาก เราจะสามารถมองเห็นมุมด้านล่างของ "นครลอยฟ้า" ได้ค่ะ ❤ดูภาพ "นครลอยฟ้า-4" ตรงนี้ค่ะ❤ (เราสามารถมองเห็นมุมเดียวกันนี้ได้ที่ตำหนักราชินีค่ะ)- เนื่องจากออร์บเมนท์หยุดการทำงานทำให้การขนส่งหยุดชะงัก "ลีเบร์ลสาร ฉบับ 10" จึงมีวางจำหน่ายในนครหลวงเท่านั้น ถ้าต้องการอัฟเดทข่าวสารก็อย่าลืมแวะไปที่ "ห้างเอเดล - มุมจิปาถะ" หรือไม่ก็ "ที่พักผู้โดยสาร - ท่าเทียบเรือเหาะ" ได้ค่ะ
★ไปคุยกับ "มิดดี้" 『ミディ』 น้องสาวฝาแฝดของคิดดี้ เธอโล่งใจที่ได้ข่าวว่าพี่สาวของเธออยู่ดีมีสุขที่รอเลนซ์ แต่ก็รีบแก้ตัวว่าไม่ได้เป็นห่วงอะไรหรอกนะ ก็แค่อยากจะตัดสินกับพี่สาวอย่างยุติธรรมว่าใครจะเป็นฝ่ายชนะในฐานะที่เป็นคนขายชาค่ะ
☆หากต้องการเข้าไปที่สถานทูต
ไม่ว่าจะเป็น "สถานทูตจักรวรรดิ" หรือ "สถานทูตสาธารณรัฐ" ก็สามารถเข้าไปได้เลย
ไม่จำเป็นต้องมี "โอลิเวียร์" หรือ "จิน" ร่วมกลุ่มค่ะ☆
ไม่ว่าจะเป็น "สถานทูตจักรวรรดิ" หรือ "สถานทูตสาธารณรัฐ" ก็สามารถเข้าไปได้เลย
ไม่จำเป็นต้องมี "โอลิเวียร์" หรือ "จิน" ร่วมกลุ่มค่ะ☆
★คุยกับ "ทูตเอลซ่า" 『エルザ大使』 ถึงเธอจะไม่รู้ข้อมูลใด ๆ เกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แต่เธอก็อ่านสถานการณ์ได้อย่างทะลุปรุโปร่งโดยไม่ต้องถามเอสเทลเช่นเคยค่ะ และเธอก็ยังเชื่อมั่นด้วยว่าพวกเอสเทลจะคลี่คลายเหตุการณ์นี้ลงไปได้ค่ะ
★คุยกับ "ทูตดาวิลล์" 『ダヴィル大使』 พอเขาเห็นพวกเอสเทลก็รีบถามทันทีว่าเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นได้ยังไง เพราะถ้าเป็นแบบนี้ทางสถานทูตก็ไม่สามารถติดต่อกับทางจักรวรรดิได้ค่ะ โยชัวร์จึงบอกให้ท่านทูตไปสอบถามกับทางราชวังแกรนเซลด้วยตัวเอง แต่ทูตดาวิลล์บอกว่าถึงไปถามก็คงไม่ได้รับคำตอบที่แน่ชัดมาอยู่ดี เขาก็แค่อยากจะให้เครื่องมือสื่อสารใช้งานได้เหมือนเดิมเท่านั้นค่ะ (ดูเหมือนว่าทางจักรวรรดิจะติดต่อมาหาทูตดาวิลล์ด้วยเรื่องบางอย่าง แต่ยังคุยกันได้ไม่เท่าไรการติดต่อก็หลุดไปเพราะเกิดปรากฏการณ์ออร์บเมนท์หยุดการทำงานขึ้นค่ะ ดังนั้น โยชัวร์เห็นว่าไม่สมควรให้ทางสถานทูตจักรวรรดิรู้เรื่องหรือให้ยืม [เครื่องกำเนิดฯ] โดยเด็ดขาดค่ะ)
★ที่ส่วนงานการบริหาร (ห้องทางด้านซ้ายบนชั้น 1 ค่ะ) จะพบกับ "ดยุคดิวนัน" 『デュナン公爵』 ที่กำลังให้ข้อมูลแก่ประชาชนที่มาสอบถามถึงเรื่องออร์บเมนท์หยุดการทำงานว่าตอนนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบ และก็ได้บอกให้ประชาชนวางใจว่าราชินีอาริเชียจะต้องให้ความช่วยเหลือเท่าที่จะทำได้อย่างแน่นอน (ทำเอาพวกเอสเทลอึ้งไปตาม ๆ กัน เพราะดยุคดิวนันใจเย็นขึ้นและเอาการเอางานผิดกับที่เคยเป็นมาก่อน แถมยังทำหน้าที่นี้ได้อย่างยอดเยี่ยมเสียด้วยนะคะเนี่ย)
★คุยกับลุง "หัวหน้าพ่อบ้านฟิลลิป" 『執事フィリップ』 ลุงแกจะบอกโยชัวร์ว่าตอนที่โยชัวร์ไม่อยู่ทางเขาได้รับความช่วยเหลือจากท่านเอสเทลมากมาย เอสเทลรีบถล่มตัวว่าไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรเลย ส่วนโยชัวร์ก็ได้แต่ยิ้ม ราวกับแอบดีใจที่เอสเทลพัฒนาตนเองจนเป็นที่พึ่งพาให้กับคนอื่นได้มากขึ้นค่ะ
★คุยกับ "ดยุคดิวนัน" เขาจะบอกว่าตอนนี้องค์ราชินีกับคลอเดียกำลังประชุมกันอยู่อาจจะเข้าพบไม่ได้ ถ้าอยากจะรู้รายละเอียดก็ให้ไปถามหัวหน้านางกำนัลฮิลด้าก็ได้ค่ะ (โห แม้แต่กริยาท่าทางที่แสดงต่อพวกเอสเทลก็เปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือเลยนะคะเนี่ย)
★คุยกับประชาชนที่มาสอบถามเรื่องราว เขาจะบอกว่าดยุคดิวนันยอดเยี่ยมยิ่งกว่าที่คิดไว้ เว้นแต่ทรงผมประหลาด ๆ นั่นทีดูไม่ค่อยจะ...... น่ะค่ะ
★คุยกับ "เชีย" 『シア』 ที่ห้องเมด เชียดีใจที่ได้พบกับโยชัวร์อีกครั้ง แล้วก็พูดออกมาว่า "ยังงดงามไม่เปลี่ยนไปเลยนะคะ" (ว่าแต่ทำไมถึงใช้คำว่า "สวย" ไม่ใช่ "หล่อ" ล่ะเนี่ย)
★คุยกับ "คุณนายฮิลด้า" 『ヒルダ夫人』 ที่หน้าท้องพระโรง เธอจะดีใจที่เห็นโยชัวร์กลับมาอย่างปลอดภัยค่ะ ทั้งยังบอกว่าองค์ราชินีกับองค์หญิงคลอเดียกำลังประชุมเรื่องสำคัญกันอยู่ ตอนนี้จึงไม่สามารถเข้าพบได้ค่ะ
- บนสวยลอยฟ้า เข้าไปที่ระเบียงในตำหนักราชินี เราจะสามารถมองเห็นมุมด้านล่างของ "นครลอยฟ้า" ได้ค่ะ ❤ดูภาพ "นครลอยฟ้า-4" ตรงนี้ค่ะ❤ (เป็นมุมเดียวกันกับที่เห็นที่ท่าเรือค่ะ)
▼พื้นที่ไซสส์ 『ツァイス地方』
★คุยกับ "พลทหารซามูเอล" 『兵士サムエル』 ที่เฝ้ายามอยู่หน้าค่ายเรสตอน เอสเทลจะถามเขาว่านายพลจัตวาคาซิอุสอยู่ที่นี่หรือเปล่า ซึ่งซามูเอลบอกว่าตอนนี้นายพลจัตวาอยู่ก็จริง แต่ก็มีออกไปดูแลและลงคำสั่งในพื้นที่ต่าง ๆ โดยไม่มีหยุดพักผ่อน และถึงจะเป็นเบรเซอร์ก็ตาม แต่คงจะให้เข้าพบไม่ได้ค่ะ โยชัวร์จึงบอกกับซามูเอลว่าเอสเทลเป็นลูกสาวของนายพลจัตวา พอซามูเอลได้ยินก็ตกใจ ถึงเขาจะเคยได้ยินว่าท่านนายพลจัตวามีลูกสาวที่เป็นเบรเซอร์แต่ก็ไม่เคยเจอตัวจริงมาก่อนค่ะ (ถึงภายหลังซามูเอลจะให้เอสเทลเข้าไป แต่เธอไม่อยากเข้าไปรบกวนพ่อของเธอค่ะ แต่เพื่อน ๆ เห็นว่าแค่แป๊บเดียวจะเป็นไรไป เอสเทลจึงพูดกับเพื่อน ๆ ว่า "คุณพ่อก็มีเส้นทางของคุณพ่อ ชั้นก็มีเส้นทางของชั้น ชั้นคิดว่าถ้าคุณพ่อพยายามโดยไม่มีย่อท้อ งานของพวกเราก็จะสบายขึ้น...... และถ้าพวกเราพยายามโดยไม่มีย่อท้อ งานของคุณพ่อก็จะสบายขึ้นเช่นเดียวกัน เพราะงั้นตอนนี้แค่นี้ก็พอแล้วล่ะ" แล้วโยชัวร์จะฝากให้พลทหารซามูเอลว่าถ้ามีโอกาสก็ช่วยฝากบอกคาซิอุสว่าพวกเขาแวะมาหาค่ะ)
เมืองไซสส์ 『ツァイス市』(55) ประกาศจับสัตว์ปิศาจบนทางหลวงริตเตอร์
(56) ประกาศจับสัตว์ปิศาจบนถนนทุ่งหญ้าทรัต
- ไปที่สาขาจะพบกับ "คิริก้า" 『キリカ』 ที่อ่านทางว่า พวกเราจะมาถึงในช่วงนี้ได้อย่างถูกต้องค่ะ
◆ในกรณีที่พา "จิน" มาด้วย จะมีบทสนทนาพิเศษระหว่างจินกับคิริก้าค่ะ
- ได้รับทราบจากคิริก้าว่า ทางหัวหน้าโรงงานเมอร์ด็อกซ์ก็ทุ่มเทสุดกำลังทำให้พวกชาวเมืองให้คลายความกังวลใจให้มากที่สุดค่ะ นอกจากนั้น ปัญหาอีกอย่างหนึ่งก็คืออุโมงค์คัลเดียที่ไฟส่องทางดับทั้งหมด ทำให้การเดินทางไปมาลำบากมาก รวมทั้งเครื่องสูบน้ำที่เอลโมก็หยุดการทำงานทำให้ไม่สามารถเข้าไปแช่น้ำพุร้อนได้ค่ะ- เราจะเล่าเรื่องราวต่าง ๆ ที่พบเจอมาหลังจากแยกกับคิริก้าที่หอคอยแดงชาด รวมทั้งเรื่องของ [นครลอยฟ้า] และเรื่อง [เครื่องกำเนิดสนามพลังงานศูนย์] ให้คิริก้าฟังค่ะ
- จากนั้น เราจะนำ [เครื่องกำเนิดฯ] ไปติดตั้งให้ที่เครื่องมือสื่อสารของสาขาค่ะ
(ในกรณีที่พา "จิน" มาด้วย พอจินเห็นคิริก้ากล่าวขอบคุณพวกเรา จินจะแซวคิริก้าว่าเดี๋ยวนี้ทำตัวว่านอนสอนง่ายขึ้นเยอะ แต่ก็โดนคิริก้าตอกกลับมาด้วยคำพูดเรียบ ๆ แต่เสียดแทงใจเหมือนเดิมค่ะ)
- นอกจากนั้น "คิริก้า" บอกว่าถ้ามีโอกาสก็ให้ไปตรวจดูความเรียบร้อยของโรงงานกลางกับเอลโมด้วย เพราะตอนนี้ไม่รู้ว่าจะมีเรื่องลำบากอะไรหรือเปล่าค่ะ
☆ถ้าต้องการเรียกเพื่อนมาที่นี่ ก็คุยกับคิริก้าแล้วเลือกคำสั่งที่ 3 "เรียกเพื่อน" 『仲間を呼ぶ』 เหมือนเดิมค่ะ☆
◆ถ้ามี "ทีต้า" ร่วมกลุ่มล่ะก็ เวลาไปคุยกับพวกชาวเมืองบางคน จะมีบทสนทนาพิเศษเล็ก ๆ น้อย ๆ ด้วยนะคะ
★คุยกับ "หว่อง" 『ウォン』 เบรเซอร์ประจำสาขาไซสส์ที่กำลังยืนมองรถขนของที่จอดสนิทด้วยความหนักใจด้านหน้าร้านขายอาวุธสไตน์ค่ะ สอบถามแล้วได้ความว่า เพราะรถขนของที่เขาเคยคุ้มภัยคันนี้ ดันมาหยุดทำงานแล้วจอดขวางถนนครึ่ง ๆ กลาง ๆ ก็เลยกลายเป็นว่ารถมันมาขัดขวางการจราจรไปโดยปริยายค่ะ
★คุยกับ "หัวหน้าซ่อมบำรุงกุสตาฟ" 『グスタフ整備長』 ที่ท่าเทียบเรือเหาะ เขาก็ยังสดใสซาบซ่าร่าเริงแม้จะอยู่ในสถานการณ์เช่นนี้ และถ้ามีเรื่องที่ต้องขอแรงเขาก็จะขอรบกวนด้วยค่ะ
โรงงานกลาง 『中央工房』- เมื่อเข้าไปที่โรงงานกลางจะพบว่าภายในโรงงานกลางมืดสลัวมีเพียงแสงไฟจากตะเกียงคอยส่องให้ความสว่างเท่านั้น นอกจากนั้นลิฟท์ก็ใช้งานไม่ได้ ต้องใช้บันไดหนีไฟแทนค่ะ
★คุยกับ "หัวหน้าโรงงานเมอร์ด็อกซ์" 『マードック工房長』 ที่ห้องหัวหน้าโรงงานบนชั้น 2 เขาจะถามว่าของที่ดอกเตอร์รัซเซลพัฒนามีประโยชน์กับพวกเราหรือเปล่า (แน่นอนว่ามีประโยชน์มาก ๆ อยู่แล้ว) พวกเราจะอดเป็นห่วงทางโรงงานกลางไม่ได้ เพราะในสภาพแบบนี้งานวิจัยต่าง ๆ ก็ต้องหยุดชะงักลงไป ตรงนี้เมอร์ด็อกซ์ก็กังวลใจเหมือนกัน ก็ได้แต่ภาวนาให้สามารถดำเนินการวิจัยได้อีกครั้งเร็ว ๆ ค่ะ
★คุยกับ "คัลโน่" 『カルノー』 ทีห้องเทคนิคบนชั้น 3 (คน ๆ นี้ก็คือคนที่มีหน้าที่พัฒนาปืนออร์บเมนท์ค่ะ) เขาจะถามถึงคนที่ใช้ปืน (โอลิเวียร์) ว่าไปไหน พอรู้ว่าโอลิเวียร์กลับประเทศบ้านเกิดไปแล้วก็รู้สึกเสียดาย (คัลโน่เพิ่งรู้ว่าโอลิเวียร์เป็นชาวต่างชาติค่ะ) เพราะเขาอยากจะให้โอลิเวียร์ดูปืนรุ่นใหม่ที่ตัวเขาได้พัฒนาจนเสร็จสมบูรณ์แล้วน่ะค่ะ
★คุยกับ "ทีเอรี่" 『ティエリ』 ที่ห้องทดลองบนชั้น 4 เขากำลังหนักใจว่าจะปรับระดับอุณหภูมิในเรือนกระจกยังไงดี เพราะออร์บเมนท์ก็ใช้งานไม่ได้ แถมรุ่นพี่เรย์ก็ไม่อยู่ซะอีก (ในกรณีที่เราพบกับ "เรย์" บนด่านที่ยอดเขาโครเน่มาแล้ว เราจะบอกทีเอรี่ว่าเรย์กำลังอยู่ระหว่างเดินทางกลับมาที่นี่ค่ะ)
- บนชั้นดาดฟ้าของโรงงานกลาง เราจะสามารถมองเห็นทิวทัศน์ของ "นครลอยฟ้า" ได้ค่ะ ❤ดูภาพ "นครลอยฟ้า-5" ตรงนี้ค่ะ❤หอคอยแดงชาด 『紅蓮の塔』
- บนชั้นดาดฟ้าของหอคอยจะพบกับสัตว์ปิศาจรูปร่างประหลาด สู้กับ (แมลงมิติ *3 + วิซาร์ดซีด *3) เหมือนเดิมค่ะ
- ปราบได้ จะได้รับ "พาวเวอร์ ออร์บ" 『パワーオーブ』 จากแมลงมิติตัวนึงค่ะ (อัตราการได้รับไอเทม 100% ค่ะ)
หมู่บ้านเอลโม 『エルモ村』
(47) ซ่อมแซมบ่อน้ำพุร้อนเอลโมให้เหมือนเดิม **จำเป็นต้องมี "ทีต้า" ร่วมกลุ่มมาด้วย**
- เมื่อเข้าไปคุยกับ "คุณป้ามาโอะ" 『マオ婆さん』 ที่โรงเตี๊ยมโมมิจิจะเกิดเควสต์ลับทันทีค่ะ
ป้อมวูล์ฟ 『ヴォルフ砦』
☆ในกรณีที่เคลียร์ (47) ซ่อมแซมบ่อน้ำพุร้อนเอลโมให้เหมือนเดิม ให้ไปคุยกับ "หัวหน้ากองเพส" 『ペイス隊長』 เขาจะมอบ "แจ็คนักเสี่ยงโชค เล่ม 13" ให้กับเอสเทลอ่านจะได้รีแลกซ์ค่ะ
★คุยกับ "กุลดอล์ฟ" 『グンドルフ』 เบรเซอร์รุ่นพี่ประจำสาขาไซสส์ที่อยู่ระหว่างการเดินตรวจตราไปตามที่ต่าง ๆ ในพื้นที่ไซสส์ค่ะ (ในกรณีที่มาก่อนเคลียร์ซับเควสต์ข้างต้นนะคะ)
อุโมงค์คัลเดีย 『カルデア隧道』- จริง ๆ แล้วจะวิ่งผ่านอุโมงค์คัลเดียเพื่อมุ่งสู่พื้นที่รูอันไปเลยก็ได้ค่ะ แต่ว่า ถ้าทำแบบนั้นจะพลาด Rare Item ไปน่ะสิ ดังนั้น แนะนำให้เพื่อน ๆ ที่มี "แว่นส่องมองกลางคืน" ไม่ครบ 4 อัน ก็ให้กลับไปซื้อที่ "เบล สเตชั่น" (ไซสส์) หรือไปซื้อที่ "ร้านปลอดภาษีโอนีล" (รูอัน) เตรียมไว้ได้เลยนะคะ เพราะจำเป็นแน่นอนค่ะ
- ให้เข้าไปในทางแยกที่อยู่ทางด้านทิศใต้ในอุโมงค์คัลเดียตรงฉากที่จะเข้าสู่ทางเข้าชั้นใต้ดินของโรงงานกลาง (เดินเลียบกำแพงไปเรื่อย ๆ ก็จะเจอได้โดยง่ายค่ะ)
- ดีไวน์เพนกวิน *2 - - 『デヴァインペングー*2』 - |
**แนะนำ ให้สวม "แว่นส่องมองกลางคืน" ให้กับเพื่อน ๆ ทุกคนค่ะ ถ้าไม่สวมล่ะก็การต่อสู้ในครั้งนี้จะยากขึ้นอย่างมาก เพราะจะติดสถานะ "มืดมิด" กันถ้วนหน้าค่ะ** **แนะนำ ให้สวมเครื่องประดับที่ป้องกัน "สับสน", "นอนหลับ" และ "ผนึกทักษะ" ไว้จะง่ายขึ้น เพราะศัตรูมีท่าที่ทำให้เราติดสถานะที่น่าปวดหัวเหล่านี้ค่ะ** **ถ้าเตรียมการมาดี การต่อสู้ในครั้งนี้จะไม่ยากอะไรเลยค่ะ โจมตีธรรมดาสลับกับใช้ Craft และ S-Craft ไปเรื่อย ๆ ก็จะชนะได้อย่างสบาย ๆ ค่ะ** |
▼พื้นที่รูอัน 『ルーアン地方』
★ที่ด้านหน้าทางเข้าแอร์ แลตเท่น เราจะได้พบกับ "เมรูซ" 『メルツ』 เตรียมเบรเซอร์แห่งสาขารูอันส่งเสียงทักทายเราด้วยความสดใสเต็มเปี่ยมไปด้วยพละกำลังเช่นเคยด้วยนะคะ ตอนนี้เขากำลังอยู่ระหว่างการเดินตรวจตราไปรอบ ๆ พื้นที่นั่นเองค่ะ
หอคอยฟ้าคราม 『紺碧の塔』- บนชั้นดาดฟ้าของหอคอยจะพบกับสัตว์ปิศาจรูปร่างประหลาด สู้กับ (แมลงมิติ *3 + วิซาร์ดซีด *3) เหมือนเดิมค่ะ
- ปราบได้ จะได้รับ "ไมนด์ ออร์บ" 『マインドオーブ』 จากแมลงมิติตัวนึงค่ะ (อัตราการได้รับไอเทม 100% ค่ะ)
เมืองรูอัน 『ルーアン市』
(53) ประกาศจับสัตว์ปิศาจบนถนนเลียบทะเลเมเว
(54) ประกาศจับสัตว์ปิศาจที่หอคอยฟ้าคราม
☆เนื่องจากว่า "สะพานใหญ่แลนแกรนด์" 『ラングランド大橋』 ไม่สามารถใช้งานได้
การเดินทางไปมาระหว่างเขตเมืองด้านเหนือกับเขตเมืองด้านใต้นั้นจำเป็นต้องใช้เรือเล็กแทนค่ะ
สำหรับเขตเมืองด้านเหนือ ท่าขึ้นเรือจะอยู่ที่ชั้นใต้ดินของโฮเต็ล บลังเช่
และเขตเมืองด้านใต้ ท่าขึ้นเรือจะอยู่ใกล้ ๆ โกดังด้านใต้สุดของฉากค่ะ
แต่ต้องรอคิวกันนานหน่อยนะคะ เพราะมีเรือเล็กของ "ผู้เฒ่ามูราต" 『ムラート老人』 ให้เพียงลำเดียวค่ะ
(น่าสงสารลุงแกจังเลย จะพายจนกล้ามโตมั้ยน๊า)☆
การเดินทางไปมาระหว่างเขตเมืองด้านเหนือกับเขตเมืองด้านใต้นั้นจำเป็นต้องใช้เรือเล็กแทนค่ะ
สำหรับเขตเมืองด้านเหนือ ท่าขึ้นเรือจะอยู่ที่ชั้นใต้ดินของโฮเต็ล บลังเช่
และเขตเมืองด้านใต้ ท่าขึ้นเรือจะอยู่ใกล้ ๆ โกดังด้านใต้สุดของฉากค่ะ
แต่ต้องรอคิวกันนานหน่อยนะคะ เพราะมีเรือเล็กของ "ผู้เฒ่ามูราต" 『ムラート老人』 ให้เพียงลำเดียวค่ะ
(น่าสงสารลุงแกจังเลย จะพายจนกล้ามโตมั้ยน๊า)☆
★ไม่น่าเชื่อแต่ก็ต้องเชื่อว่าเหล่าเด็กเกแห่งเมืองรูอันกลุ่ม "เรเว่น" 『レイヴン』 จะกลับตัวกลับใจมาช่วยเหลือพวกชาวเมืองในเวลาคับขันเช่นนี้ค่ะ ลองคุยดูแล้วจะพบว่าบางคนพยายามพูดภาษาสุภาพหลังจากที่ลิ้นพันกันไปพันกันมาก็พูดได้ แต่จนแล้วจนรอดเวลาดีใจก็หลุดปากพูดภาษาเด็กแนวซะงั้นค่ะ
◆ในกรณีที่พา "อากัต" มาด้วย ไปคุยกับ "เบลูฟ" 『ベルフ』 ที่ห้องครัวในคฤหาสน์นายกฯ จะมีบทสนทนาพิเศษของอากัตกับลูกชายของนายกฯนอร์แมนที่ตอนนี้เอาการเอางานมากขึ้นกว่าแต่ก่อนเยอะค่ะ
★คุยกับ "เลขาเดรุส" 『秘書デルス』 ที่หน้าห้องนายกฯ เขาจะขอบคุณเราที่ช่วยคลี่คลายคดี่ที่เกิดขึ้นที่โรงแรมเมื่อหลายวันก่อนค่ะ (ในกรณีที่เคลียร์ (10) คดีลอบทำร้ายในสำนักงานเลือกตั้ง ค่ะ ถ้าลืมไปแล้ว ก็กลับไปดูรายละเอียดในบทที่ 1 ได้นะคะ)
★คุยกับ "นายกเทศมนตรีนอร์แมน" 『ノーマン市長』 นายกฯคนใหม่ของเมืองรูอัน เขาจะขอบคุณพวกเราที่ช่วยคลี่คลายคดีที่โรงแรมเมื่อวันก่อนค่ะ (ในกรณีที่เคลียร์ (10) คดีลอบทำร้ายในสำนักงานเลือกตั้ง ค่ะ พอโยชัวร์ได้ยินรายละเอียดว่าเป็นคดีประตูโขกหัว ก็อุบอิบออกมาว่ามีคดีแบบนั้นด้วยหรือนี่) ถึงตอนนี้นอร์แมนอยากจะร่วมดื่มเหล้าอวยพรที่เขาได้รับเลือกเป็นนายกฯกับพวกเรา แต่ก็ไม่สามารถทำได้ เพราะตอนนี้เรื่องสำคัญที่สุดคือต้องให้ความช่วยเหลือชาวเมืองที่กำลังเดือดร้อนอยู่ในสถานการณ์เช่นนี้ค่ะ (อันที่จริง นอร์แมนไม่ค่อยได้กลับบ้านตั้งแต่เป็นนายกฯค่ะ ถ้าลองไปคุยกับ "บริตเจ็ต" 『ブリジット』 ภรรยาของเขาในบ้านหลังด้านขวามือของคฤหาสน์นายกฯ เธอจะเป็นห่วงสามีเธอมากค่ะ)
- ไปที่สาขาจะพบกับ "จาง" 『ジャン』 ที่เห็นพวกเราทุกคนกลับมาจากหอคอยอย่างปลอดภัยกันทุกคนก็รู้สึกโล่งใจค่ะ(ได้รับทราบจากจางว่า สะพานใหญ่แลนแกรนด์ไม่สามารถใช้งานได้ทำให้เมืองรูอันวุ่นวายมาก ถ้าไม่ได้กลุ่ม [เรเว่น] หรือคนจากโบสถ์เจ็ดจรัสคงจะวุ่นวายขึ้นกว่านี้ค่ะ พอพวกเราได้ยินว่าพวก [เรเว่น] มาช่วยเหลือทางสมาคมถึงกับออกอาการอ้าปากค้างเลยค่ะ)
- เราจะเล่าเรื่องของ [นครลอยฟ้า] และเรื่อง [เครื่องกำเนิดสนามพลังงานศูนย์] ให้จางฟังค่ะ
- จากนั้น เราจะนำ [เครื่องกำเนิดฯ] ไปติดตั้งให้ที่เครื่องมือสื่อสารของสาขาค่ะ
(จางจะโล่งใจเป็นอย่างมากที่เครื่องมือสื่อสารสามารถใช้งานได้ ถึงขนาดอยากจะจูจุ๊บขอบคุณพวกเรากับดร. รัซเซลเชียวนะคะ)
☆ในกรณีที่นำส่ง [เครื่องกำเนิดฯ] ครบทุกพื้นที่แล้ว จะได้รับการรายงานผลของงานในครั้งนี้ค่ะ☆
- นอกจากนั้น จางยังขอให้เราช่วยเช็คที่บอร์ดรับงาน แล้วก็ถ้าเป็นไปได้ก็อยากจะให้พวกเราช่วยตรวจสอบพื้นที่ใกล้ ๆ รูอันที่มีคนอาศัยอยู่ให้ด้วยค่ะ
☆ถ้าต้องการเรียกเพื่อนมาที่นี่ ก็คุยกับจางแล้วเลือกคำสั่งที่ 3 "เรียกเพื่อน" 『仲間を呼ぶ』 ได้ตามสะดวกเลยค่ะ☆
- ในขณะที่พวกเรากำลังจะออกจากสาขา (สาขาสุดท้ายที่เรานำส่งเครื่องกำเนิดฯ) จะมีการติดต่อมาถึงพวกเอสเทล ซึ่งคนที่ติดต่อมาก็คือ "เอลนัน" แห่งสาขานครหลวงนั่นเอง(จากข้อมูลที่ได้รับ ดูเหมือนว่าองค์ราชินีมีเรื่องอยากจะคุยกับพวกเรา จึงอยากจะให้พวกเราแวะไปที่นครหลวงค่ะ แต่รายละเอียดนั้นทางเอลนันไม่ได้แจ้งเอาไว้ น่ากลัวว่าที่ไม่สามารถบอกผ่านทางเครื่องมือสื่อสารได้ อาจเพราะเป็นเรื่องที่เป็นความลับที่จำเป็นต้องป้องกันการล้วงข้อมูลค่ะ)
โรงเรียนเจนิสแห่งราชอาณาจักร 『ジェニス王立学園』
(48) คดียึดโรงเรียนแห่งราชอาณาจักร
- เมื่อเข้าไปใน "ถนนป่าละเมาะวิสต้า" จะเกิดเควสต์ลับขึ้นทันทีค่ะ
★เข้าไปในห้องสภานักเรียน บนคลับเฮ้าส์ชั้น 2 จะมีบทสนทนาพิเศษกับ "จิล" และ "ฮันส์" ค่ะ เอสเทลจะเป็นห่วงว่า เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นมาแล้วชีวิตในโรงเรียนของทุกคนจะเป็นยังไงต่อไป ซึ่งตรงนี้จิลและฮันส์ก็พูดออกมาอย่างมั่นใจว่าพวกเขาจะพยายามทำหน้าที่ให้ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้ และจะไม่ยอมแพ้พวกเราหรือคลอเซ่ที่กำลังพยายามอยู่ที่นครหลวงค่ะ จิลกับฮันส์ยังบอกอีกนะคะว่าถ้าจัดการทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว พวกเขาจะจัดงานเลี้ยงขึ้นแล้วจะเชิญคลอเซ่มาด้วย (แฟนซีปาร์ตี้นะคะ แล้วดูเหมือนว่าจิลจะเอาจริงเรื่องที่จะให้พวกเอสเทลรวมทั้งคลอเซ่แต่งตัวเป็นอัศวินกับองค์หญิงเหมือนตอนแมดริเกิลดอกไม้ขาวด้วยค่ะ เอสเทลเห็นด้วยอย่างแรง แต่โยชัวร์น่ะสิ)
ส่วนเรื่องที่โยชัวร์หายไปนั้น ฮันส์ไม่ต่อว่าอะไรโยชัวร์แม่แต้น้อย ถึงตอนนี้โยชัวร์อยากจะเล่าอดีตของเขาให้ฟัง แต่ฮันส์บอกว่าไม่ว่าจะฟังหรือไม่ฟังมันก็ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือเรื่องที่โยชัวร์กลับมาอย่างปลอดภัยต่างหากค่ะ (แม้โยชัวร์กับฮันส์จะเคยใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันสั้น ๆ แต่สายสัมพันธ์แห่งความเป็นเพื่อนก็ยิ่งใหญ่จริง ๆ นะคะ)
สถานเลี้ยงเด็กกำพร้ามาเชีย 『マーシア孤児院』ส่วนเรื่องที่โยชัวร์หายไปนั้น ฮันส์ไม่ต่อว่าอะไรโยชัวร์แม่แต้น้อย ถึงตอนนี้โยชัวร์อยากจะเล่าอดีตของเขาให้ฟัง แต่ฮันส์บอกว่าไม่ว่าจะฟังหรือไม่ฟังมันก็ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือเรื่องที่โยชัวร์กลับมาอย่างปลอดภัยต่างหากค่ะ (แม้โยชัวร์กับฮันส์จะเคยใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันสั้น ๆ แต่สายสัมพันธ์แห่งความเป็นเพื่อนก็ยิ่งใหญ่จริง ๆ นะคะ)
- เข้าไปที่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้ามาเชีย จะมีบทสนทนาพิเศษระหว่างเอสเทล โยชัวร์ และพวกเด็ก ๆ รวมไปถึง ผ.อ. เทเรซ่าด้วยนะคะ
★คุยกับพวกเด็ก ๆ "ครัม" 『クラム』 กับ "ดาเนียล" 『ダニエル』 จะช่วยงานอย่างแข็งขันเพื่อไม่ให้ผ.อ.ต้องลำบากค่ะ, "มารี่" 『マリィ』 รู้สึกดีใจมากที่ได้พบโยชัวร์ และออกปากชมด้วยว่าชุดใหม่ของโยชัวร์เท่มากเลยค่ะ, ส่วน "โปลี่" 『ポーリィ』 จะบอกว่าบรรยากาศรอบ ๆ ตัวโยชัวร์จังเปลี่ยนไป แต่เธอก็ชอบแบบนี้เหมือนกัน เพราะว่าโยชัวร์จังดูเท๊เท่ห์ค่ะ
★คุยกับ "ผ.อ. เทเรซ่า" 『テレサ院長』 เธอจะขอให้โยชัวร์คอยอยู่เคียงข้างเอสเทลจากนี้และตลอดไปค่ะ ส่วนเรื่องของคลอเซ่นั้นเธอได้รับข่าวจากจดหมายที่คลอเซ่ฝากให้ซิกมาส่งแล้ว ในจดหมายนั้นคลอเซ่เขียนมาว่ากำลังลำบากใจที่ต้องตัดสินใจเรื่องอะไรบางอย่าง แม้ผ.อ. เทเรซ่าจะไม่รู้ว่าคลอเซ่ต้องตัดสินใจเรื่องอะไรก็ตาม แต่เธอเชื่อมั่นว่าคลอเซ่จะค้นพบเส้นทางของตนเองได้อย่างแน่นอนค่ะ
บอสมาร์เก็ต 『ボースマーゲット』- ก่อนที่จะไปทำเหตุการณ์ที่นครหลวง แนะนำให้แวะไปที่เมืองบอสอีกครั้งก่อนนะคะ เพราะในบอสมาร์เก็ตจะมีมหกรรมลดราคาครั้งยิ่งใหญ่ โดยจะมีไอเทมดี ๆ ให้เราเลือกซื้อด้วยนะคะ
- แนะนำให้ใช้ช่วงนี้เตรียมตัวให้พร้อมเอาไว้เลยนะคะ เพราะเมื่อเข้าบทไปแล้วเราจะไม่สามารถเตรียมตัวใด ๆ กับเพื่อน ๆ คนอื่นที่ไม่ได้เลือกเข้ากลุ่มต่อสู้ได้ค่ะ
☆คุยกับ "คุณป้ามิเน่" 『ミネ婆さん』 ที่ร้านโกรเซอร์ มิเน่ในบอสมาร์เก็ต ป้าแกจะมอบ "แจ็คนักเสี่ยงโชค เล่ม 14" ซึ่งเป็นเล่มสุดท้ายของนวนิยายชุดนี้ให้กับเอสเทลค่ะ
- ไอเทมใหม่ ๆ ที่หาซื้อได้ในช่วงนี้ มีดังนี้เลยค่ะ
※โกรเซอร์ มิเน่ 『グローサー・ミネ』 > ลีเบร์ลสาร ฉบับโรลแบ็คตั้งแต่ 1 - 9 และฉบับพิเศษค่ะ
※ร้านของแคเทรีย 『カトリアのお店』 > "แก้วลึกลับ" 『摩訶不思議ペースト』 (อาหารพกพา)
※โพล เอลค์ 『ポール・エルク』 > "สเตรเกอร์ MAX" 『ストレガーMAX』 (รองเท้า)
※ร้านผักผลไม้แบ็คส์ 『バックス青果店』 > "เนื้อสัตว์ตุ๋นรวดร้าว" 『獣肉の苦界煮込み』 (อาหารพกพา)
※ทรัดฟูดส 『トラッドフーズ』 > "โน่นมันกระดูกชิ้นใหญ่เกินไป" 『骨太すぎるアレ』 (อาหารพกพา)
※ร้านเครื่องมือเฟร็ซซ่า 『フレッサ金物店』 > "มีดสารพัดประโยชน์" 『万能ナイフ』 (อาวุธของโยชัวร์)
previous: Chapter 7 หอคอยสี่วงแหวน
to be continued: Chapter 8 แผ่นดินอันยุ่งเหยิง - Part 2
to be continued: Chapter 8 แผ่นดินอันยุ่งเหยิง - Part 2
Sub-Quest
Related entries:
◆ Sora no Kiseki SC (空の軌跡SC)
No comments:
Post a Comment