บทส่งท้าย รอยทางแห่งฟากฟ้า
終章 空の軌跡
終章 空の軌跡
- Part 2 -
อัลเซยู 『アルセイユ』
- ลองแวะไปที่ [อัลเซยู] ในช่วงนี้ จะมีความเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นด้วยนะคะ ไม่ว่าจะแสงไฟตามทางเดินที่กลับมาใช้งานได้ปกติ หรือแม้แต่เรื่องที่ [อัลเซยู] กับ [แมวป่า] เริ่มทำการติดต่อกันค่ะ (ไม่บังคับค่ะ)
☆สถานที่ที่เหล่าพวกพ้องแยกย้ายกันไปให้ความช่วยเหลือ☆ | |
เขตสวนหย่อม | ไนแอล (ไนแอลบอกว่า เขาสำรวจรอบ ๆ อัลเซยูหมดแล้ว ก็เลยลองออกมาสำรวจไกล ๆ ดูบ้าง แต่ก็แทบไม่เชื่อสายตาเลยว่า จะมีสถานที่แบบนี้อยู่บนฟ้า ถ้าเอาลงฉบับพิเศษคงจะขายดีแน่ ๆ ค่ะ), โดรธี |
ห้องบังคับการ | คลอเซ่, ร้อยเอกยูเลีย, เจ้าหน้าที่สังเกตการณ์เอโก้, เจ้าหน้าที่สื่อสารริออน |
ดาดฟ้าส่วนท้ายเรือ | เจ้าหน้าที่บังคับการบินลูคูส, ไครเซ็น |
ห้องพักผ่อน | โอลิเวียร์, กุ๊กเคธี่, ทหารหน่วยองครักษ์ |
ทางเดินภายในยาน | เจ๊เชร่า |
โรงงาน | โจเซ็ต, ดร. รัซเซล, ช่างซ่อมบำรุงเพตัน |
ทางเดินหน้าโรงงาน | ทีต้า (ได้รับทราบว่า พวกคุณตาของเธอจะเข้าไปในห้องเครื่อง เพื่อทำการซ่อมแซมเครื่องยนต์ลอยตัวค่ะ) |
ห้องพยาบาล | เควิน |
ห้องพัก | ทหารหน่วยองครักษ์ |
ใต้ท้องเรือ | ทหารหน่วยองครักษ์ |
รอยที่อัลเซยูไถลลงมา | อากัต, จิน, เฟย์, ทหารหน่วยองครักษ์ |
ด้านนอกอัลเซยู | พันตรีมิวเลอร์ |
- ลงลิฟท์ไปที่เขตอุตสาหกรรม เข้าไปในเส้นทางใต้ดินได้เลยค่ะ
☆ไอเทมที่พบ "ยาแห่งคิวเรีย", "เซพิธทุกคุณสมบัติx100" และ "EPชาร์จII" ค่ะ☆
☆ไอเทมที่พบ "EPชาร์จIII", "ชพีเกล" (สู้กับ ไกรลาส เกรย์ + เอโบนี่ สเกล *2 + พลูโต แองเกอร์ *2),
"ยาแห่งอาเซราส", "ยาแห่งคิวเรีย", "อัญมณีประกายพฤกษ์ (สกัดกั้น5)"
และ "เซพิธทุกคุณสมบัติx100" ค่ะ☆
"ยาแห่งอาเซราส", "ยาแห่งคิวเรีย", "อัญมณีประกายพฤกษ์ (สกัดกั้น5)"
และ "เซพิธทุกคุณสมบัติx100" ค่ะ☆
☆ไอเทมที่พบ "อัญมณีประกายวารี (HP5)","S-แทบเล็ต" , "ยาแห่งคิวเรีย",
"ตุ๊กตานาทีชีวิต", "EPชาร์จII", "ยาแห่งเทียร์ ออล"
และ "พาร์เทนอน เกียร์" (สู้กับ ไกรลาส เกรย์ + เอโบนี่ สเกล *2 + พลูโต แองเกอร์ *2) ค่ะ☆
- ระหว่างทางจะเกิดการต่อสู้กับ (ไกรลาส เกรย์ *8) ค่ะ"ตุ๊กตานาทีชีวิต", "EPชาร์จII", "ยาแห่งเทียร์ ออล"
และ "พาร์เทนอน เกียร์" (สู้กับ ไกรลาส เกรย์ + เอโบนี่ สเกล *2 + พลูโต แองเกอร์ *2) ค่ะ☆
หอคอยแกนกลาง [แอคซิสพิลล่าร์] 『中枢塔《アクシスピラー》』
(จากการลงความเห็นกัน สรุปว่าพอมาดูใกล้ ๆ แล้ว เจ้าหอคอยนี่มีขนาดใหญ่กว่าที่พวกเราคาดเอาไว้ซะอีกค่ะ)
- "......นี่ โยชัวร์ เรเวหรือพวกศาสตราจารย์จะอยู่ที่นั่นมั้ยนะ?" เอสเทลหันมาถามโยชัวร์ด้วยความกังวล
โยชัวร์ "......มีความเป็นไปได้สูง ดูเหมือนจะเป็นสถานที่ที่ควบคุมดูแลแกนกลางของนคร อาจจะมีเงื่อนงำของ [วงแหวนประกายแสง] อยู่ก็เป็นได้นะ"
เอสเทล "งั้นเหรอ...... ......จะเอายังไงดี? จะบุกเข้าไปทั้ง ๆ อย่างนี้เลยมั้ย?"
โยชัวร์ "......ถ้าพวกเรเวอยู่ล่ะก็ ผมว่าสำหรับเวลานี้ คงจะเป็นการต่อสู้ที่ยากลำบากจนไม่อาจประมาณได้ ไปเตรียมตัวให้เรียบร้อยหลังจากกลับไปที่ [อัลเซยู] ครั้งนึงก่อนน่าจะดีนะ"
เอสเทล "อื้ม...... จริงด้วยนะ"
- จากตรงนี้ เราจะแวะกลับไปที่อัลเซยูก่อน หรือจะมุ่งหน้าไปต่อเลยก็ได้ตามสะดวกเลยค่ะเอสเทล "งั้นเหรอ...... ......จะเอายังไงดี? จะบุกเข้าไปทั้ง ๆ อย่างนี้เลยมั้ย?"
โยชัวร์ "......ถ้าพวกเรเวอยู่ล่ะก็ ผมว่าสำหรับเวลานี้ คงจะเป็นการต่อสู้ที่ยากลำบากจนไม่อาจประมาณได้ ไปเตรียมตัวให้เรียบร้อยหลังจากกลับไปที่ [อัลเซยู] ครั้งนึงก่อนน่าจะดีนะ"
เอสเทล "อื้ม...... จริงด้วยนะ"
- ถ้าเราสำรวจประตูเส้นทางใต้ดินที่อยู่ตรงทิศตะวันตกของฉาก (ตรงข้ามกับทางที่เราขึ้นมา) จะมีป้ายบอกว่าหลังประตูนี้จะเป็น "เส้นทางหนีไฟ" ระหว่าง แอคซิสพิลล่าร์ <-> คาล์มาเร่ สำหรับกรณีที่มีความผิดปกติกับการจ่ายพลังงานออร์บเมนท์ ประตูจะปลดล็อกแบบอัตโนมัติค่ะ ซึ่งข้อความจะมีลักษณะคล้าย ๆ กับอีกประตูที่เราได้พบในเส้นทางใต้ดิน 1 ค่ะ (ไม่บังคับค่ะ)
สถานีหน้าแอคซิสพิลล่าร์ 『アクシスピラー前駅』
- ใช้ลิฟท์ที่อยู่ทางด้านทิศใต้ของฉาก จะสามารถขึ้นไปที่ "สถานีหน้าแอคซิสพิลล่าร์" ได้ค่ะ
- คำสั่งต่าง ๆ ของคอมพิวเตอร์ปลายทาง มีดังนี้ค่ะ
(1) แนะนำแอคซิสพิลล่าร์ 『アクシスピラーのご案内』
ยินดีต้อนรับ เหล่าเบรเซอร์ทั้งหลาย
ฉันได้ตั้งสมมติฐานว่าพวกเธอทุกคนจะมาถึงที่นี่ได้ จึงขอทิ้งข้อความอันนี้เอาไว้ให้
[แผนการพระสุรเสียง] 『福音計画』 ได้เข้าสู่กระดานหมากสุดท้าย และ [วงแหวนประกายแสง] 『輝く環』 ก็ใกล้จะลืมตาตื่นอย่างแท้จริงแล้ว
ฉันตั้งใจจะให้พวกเธอได้มาร่วมเป็นสักขีพยาน ณ สถานที่แห่งนั้นด้วย แต่การพาชมสถานที่แบบธรรมดามันน่าเบื่อเกินไปหน่อย
ฉันตั้งใจจะให้พวกเธอได้มาร่วมเป็นสักขีพยาน ณ สถานที่แห่งนั้นด้วย แต่การพาชมสถานที่แบบธรรมดามันน่าเบื่อเกินไปหน่อย
ดังนั้น มาเล่นเกมกันสักเกมเถอะ
ในแต่ละจุดของหอคอยแกนกลาง จะมีผู้ร่วมมือของฉันเตรียมพร้อมรอต้อนรับอยู่
หากทะลวงฝ่าฟันพวกเขา ผ่านมาจนถึงจุดสูงสุดได้ล่ะก็ ฉันจะให้พวกเธอได้เห็นการฟื้นคืนชีพของ [วงแหวน] 『環』
หากทะลวงฝ่าฟันพวกเขา ผ่านมาจนถึงจุดสูงสุดได้ล่ะก็ ฉันจะให้พวกเธอได้เห็นการฟื้นคืนชีพของ [วงแหวน] 『環』
ถ้าอย่างนั้น ฉันจะตั้งตารออย่างใจจดใจจ่อนะ
[สาวกแห่งงู] เสาต้นที่ 3 เกออร์ก ไวส์แมน
P.S. ถึงโยชัวร์
การพยายามจนได้มาพบกับครอบครัวหรือพวกพ้องอันแสนสำคัญอีกครั้งนั้น เป็นเรื่องน่ายินดีเสียยิ่งกว่าอะไร
แต่ทว่า อย่าได้รู้สึกลำพองใจนิด ๆ หน่อย ๆ ถือตัวว่าเรเวหรือเร็นง่าย ๆ ล่ะ
ลองพูดคุยกันให้เข้าใจ เพราะฉันอุตส่าห์จัดเตรียมโอกาสอันดีเอาไว้ให้เชียวนะ
- แทนที่จะเป็นข้อความแนะนำสถานที่ แต่กลับกลายเป็นข้อความที่ไวส์แมนเขียนขึ้นเพื่อส่งสารถึงพวกเรา และเมื่ออ่านข้อความจบ ทุกคนรู้สึกว่าไวส์แมนช่างเป็นคนที่มีรสนิยมแย่ ๆ รวมทั้งมีนิสัยบิด ๆ เบี้ยว ๆ ที่เหลือรับจริง ๆ ค่ะการพยายามจนได้มาพบกับครอบครัวหรือพวกพ้องอันแสนสำคัญอีกครั้งนั้น เป็นเรื่องน่ายินดีเสียยิ่งกว่าอะไร
แต่ทว่า อย่าได้รู้สึกลำพองใจนิด ๆ หน่อย ๆ ถือตัวว่าเรเวหรือเร็นง่าย ๆ ล่ะ
ลองพูดคุยกันให้เข้าใจ เพราะฉันอุตส่าห์จัดเตรียมโอกาสอันดีเอาไว้ให้เชียวนะ
โยชัวร์ "......ไม่เป็นไรหรอก ผมไม่ได้ใส่ใจอยู่แล้วล่ะ ยังไงก็ตาม รู้สึกว่าพวกเรเวจะอยู่ข้างในนั้นตามคาดนะ ท่าทางต้องทุ่มเทความตั้งใจกันหน่อยล่ะ"
เอสเทล "......อื้ม!"
(2) ใช้เรลไฮโลว์ 『レールハイロゥのご利用』เอสเทล "......อื้ม!"
- เลือกคำสั่งที่ 1 "ใช้งาน" ในโหมดฉุกเฉิน [เรลไฮโลว์] จะวิ่งตามรางเรืองแสงมาประจำที่สถานีนี้ซึ่งเป็นสถานีสุดท้ายค่ะ
(3) ออนไลน์ช็อป 『オンラインショップ』
- สถานีนี้มีควอทซ์ให้ผสมได้ 4 ชนิดก็คือ "อัญมณีประกายวารี (HP5)", "อัญมณีประกายวายุ (หลบหลีกEP5)", "อัญมณีประกายพฤกษ์ (สกัดกั้น5)" และ "อัญมณีประกายมายา (แม่นยำ5)" ค่ะ
(4) ปลดล็อกประตู 『ゲートのロック解除』
- เนื่องจาก เราได้ปลดล็อกเส้นทางใต้ดินหมายเลข 246 ไปแล้ว และเส้นทางอีกเส้นเป็นเส้นทางเฉพาะกรณีฉุกเฉินเท่านั้น จึงไม่สามารถปลดล็อกประตูจากคอมพิวเตอร์ปลายทางเครื่องนี้ได้ค่ะ
(5) จบการใช้บริการ 『サービスを中止する』
- ออกจากเมนูคำสั่งค่ะ
อัลเซยู 『アルセイユ』
- ช่วงนี้ ถือโอกาสใช้ [เรลไฮโลว์] กลับไปเตรียมตัวที่ [อัลเซยู] ได้นะคะ ซึ่งเราจะพบว่า การซ่อมแซมอัลเซยูเกือบจะเสร็จสมบูรณ์แล้ว เหลือแค่การเก็บกู้หูกรรเชียงกาบซ้ายของเรือที่โดนฟันจนกระเด็นมาซ่อมแซมเท่านั้นเองค่ะ และที่เห็นทุกคนกลับไปประจำที่ของตนเองนั้น ก็เพราะอัลเซยูจะเริ่มทดสอบเครื่องยนต์ลอยตัวก่อนเก็บกู้หูกรรเชียงค่ะ (ไม่บังคับค่ะ)
☆สถานที่ที่เหล่าพวกพ้องแยกย้ายกันไปให้ความช่วยเหลือ☆ | |
ห้องบังคับการ | คลอเซ่, ร้อยเอกยูเลีย, มิวเลอร์, ไนแอล, โดรธี, เจ้าหน้าที่สังเกตการณ์เอโก้, เจ้าหน้าที่บังคับการบินลูคูส, เจ้าหน้าที่สื่อสารริออน |
หน้าห้องบังคับการ | ทหารหน่วยองครักษ์ |
ห้องพักผ่อน | โอลิเวียร์, เจ๊เชร่า, จิน, กุ๊กเคธี่ |
ทางเดินภายในยาน | ทหารหน่วยองครักษ์ |
โรงงาน | ทีต้า, โจเซ็ต, ดร. รัซเซล, เฟย์, ช่างซ่อมบำรุงเพตัน |
ห้องพยาบาล | เควิน |
ห้องพัก | อากัต |
ใต้ท้องเรือ | ทหารหน่วยองครักษ์ 2 นาย |
ด้านนอกอัลเซยู | ไครเซ็น |
❤ดูข้อมูลในดาต้าคริสตัลแต่ละอันตรงนี้ค่ะ❤
หอคอยแกนกลาง [แอคซิสพิลล่าร์] 『中枢塔《アクシスピラー》』- เมื่อเข้าไปสู่ทางเข้า [แอคซิสพิลล่าร์] จะเกิดการต่อสู้ขึ้นทันทีค่ะ
- ไรอ็อต โครว์ + โซลิด ซีกเกอร์ *2 - - 『ライアットクロウ + ソリッドシーカー*2』 - |
**ไรอ็อต โครว์ จะมีแพทเทิร์นการโจมตีเหมือนกับไรอ็อต อาร์มส์ที่เราเจอมาก่อนหน้านี้เลยค่ะ แต่ตัวนี้น่ากลัวตรงที่ว่า ค่าพลังค่อนข้างสูง และท่าที่ควรระวังคือ "พลาสมา บอล" ที่จะโจมตีเราทำให้เราติด "ผนึกทักษะ" ถ้าไม่อยากเสียเวลาแก้ แนะนำให้ใส่เครื่องประดับกันไว้ได้เลยค่ะ** **เวลาโซลิด ซีกเกอร์พัง จะใช้พลังเฮือกสุดท้ายเพิ่ม DEF&SPD ให้กับศัตรูที่เหลืออยู่ ยกเว้นไรอ็อต โครว์ค่ะ** **ระวัง ไรอ็อต โครว์ สามารถเรียก "โซลิด ซีกเกอร์" มาเพิ่มได้ค่ะ** |
หอคอยแกนกลาง - ชั้นที่ 1 『中枢塔・第一層』
☆ไอเทมที่พบ "ยาแห่งเซราส", "เซรั่มแคปซูล", "ตุ๊กตานาทีชีวิต",
"ยาแห่งเทียร์ ออล", "ลองบาเรลIII" และ "ยาแห่งเทียร์ ออล" ค่ะ☆
"ยาแห่งเทียร์ ออล", "ลองบาเรลIII" และ "ยาแห่งเทียร์ ออล" ค่ะ☆
☆ไอเทมที่พบ "เบรฟ สตัฟฟ์" (สู้กับ มาสเตอร์ แทร็ปเปอร์ *3) ค่ะ☆
หอคอยแกนกลาง - ชั้นที่ 2 『中枢塔・第二層』- เมื่อออกไปด้านนอกหอคอย ในขณะที่พวกเราจะลองสำรวจแผ่นหินที่ลักษณะท่าทางน่าจะเป็นคอมพิวเตอร์ปลายทาง โยชัวร์ก็พูดขึ้นมาเรียบ ๆ ว่าการสำรวจเอาไว้ทีหลัง แล้วเสียงหนึ่งก็ดังขึ้น "หึหึ สมกับที่เป็น [เขี้ยวดำขลับ] 『漆黒の牙』 ไม่เพียงแต่การเร้นกาย แต่ยังสามารถจับวี่แววที่ซ่อนเร้นได้ด้วยเหรอเนี่ย"
- สิ้นเสียง บนยอดเสา ณ เบื้องหน้าของพวกเรา ก็เกิดพายุม่านกุหลาบ ณ จุดศูนย์กลางของพายุนั้นปรากฏร่างของ "จอมโจรลึกลับบลูแบลง" [ผู้ดำเนินแผนการ] No.X ขึ้นค่ะ
◆ในกรณีที่มี "คลอเซ่" หรือ "โอลิเวียร์" ร่วมกลุ่มมาด้วย จะมีบทสนทนาพิเศษนิด ๆ หน่อย ๆ ระหว่างบลูแบลงและสองคนนี้ แต่ในกรณีที่ไม่มีคลอเซ่หรือโอลิเวียร์ บลูแบลงจะรู้สึกผิดหวังเล็ก ๆ ที่องค์หญิงหรือคู่ปรับของเขาไม่มาค่ะ สำหรับบทสนาต่อไปนี้ จะเป็นกรณีที่มีทั้งคลอเซ่และโอลิเวียร์นะคะ
เอสเทล "จะ เจ้าหน้ากาก......!"
โยชัวร์ "บลูแบลง...... คุณเองเหรอ"
จอมโจรบลูแบลง "ยินดีต้อนรับโยชัวร์...... แล้วก็เอสเทล ไบรท์ และแทบไม่น่าเชื่อเลยว่า องค์หญิงกับคู่ปรับของฉันก็อยู่ด้วย...... ขอให้สุภาพบุรุษจอมโจรลึกลับคนนี้ ได้ต้อนรับพวกเธอทุกคนด้วยความยินดีเป็นล้นพ้นด้วยเถอะ"
เอสเทล "ตะ ต้อนรับเหรอ......"
โอลิเวียร์ "หึ จัดฉากที่ใช้ปรากฏตัวเอิกเกริกเกินไปหน่อยหรือเปล่า"
คลอเซ่ "......ดูท่าแล้ว คุณคงจะเป็นอุปสรรคด่านแรกสินะคะ"
จอมโจรบลูแบลง "หึหึ...... เป็นทั้งด่านแรก และก็เป็นทั้งด่านสุดท้ายต่างหาก เพราะสิ่งที่อยู่ตรงนี้ คือคอมพิวเตอร์ปลายทางที่จะใช้ปลดล็อกประตูซึ่งจะขึ้นไปสู่ชั้นบน [หอคอยแกนกลาง] น่ะ ตราบใดที่เจ้านี่ทำงานอยู่ พวกเธอทุกคนก็ไม่อาจไปถึง [วงแหวน] ได้ชั่วนิรันดร์"
เอสเทล "วะ ว่าไงนะ~!?"
โยชัวร์ "......บลูแบลง คุณน่าจะเป็นคนที่มีความเกี่ยวข้องน้อยที่สุด ในบรรดาผู้ดำเนินแผนการที่มายังลีเบร์ลเพื่อแผนการในคราวนี้ ยิ่งไปกว่านั้น มีเหตุผลอะไรที่คุณต้องเชื่อฟังศาสตราจารย์และมาสู้กับพวกผม?"
จอมโจรบลูแบลง "หึหึ...... ฉันไม่ได้เชื่อฟังศาสตราจารย์อย่างที่ว่าซักหน่อย เท่าที่รู้ พวกเรา [ผู้ดำเนินแผนการ] 『執行者』 ไม่ได้มีหน้าที่ที่จะคอยทำตามคำสั่งที่ไม่พึงปรารถนา ---------สำหรับ [สาวก] 『使徒』 มันของแน่ แต่ถึงจะเป็นคำบัญชาของ [นายเหนือหัว] 『盟主』 ก็ไม่ต่างกันหรอก หึหึ แต่ดูเหมือนว่า เธอที่เคยเป็นตุ๊กตาของศาสตราจารย์จะอยู่ในสถานะที่ผิดแผกไปนิดหน่อยนี่นะ"
- โยชัวร์นิ่งเงียบไม่อาจเถียงอะไรได้ เพราะตลอดเวลาที่ผ่านมาเขาทำงานโดยไม่มีแข็งขืน เป็นเพียงตุ๊กตาที่ได้แต่ทำตามคำสั่งของไวส์แมน ไม่ผิดไปจากที่บลูแบลงบอกเลยแม้แต่น้อยโยชัวร์ "บลูแบลง...... คุณเองเหรอ"
จอมโจรบลูแบลง "ยินดีต้อนรับโยชัวร์...... แล้วก็เอสเทล ไบรท์ และแทบไม่น่าเชื่อเลยว่า องค์หญิงกับคู่ปรับของฉันก็อยู่ด้วย...... ขอให้สุภาพบุรุษจอมโจรลึกลับคนนี้ ได้ต้อนรับพวกเธอทุกคนด้วยความยินดีเป็นล้นพ้นด้วยเถอะ"
เอสเทล "ตะ ต้อนรับเหรอ......"
โอลิเวียร์ "หึ จัดฉากที่ใช้ปรากฏตัวเอิกเกริกเกินไปหน่อยหรือเปล่า"
คลอเซ่ "......ดูท่าแล้ว คุณคงจะเป็นอุปสรรคด่านแรกสินะคะ"
จอมโจรบลูแบลง "หึหึ...... เป็นทั้งด่านแรก และก็เป็นทั้งด่านสุดท้ายต่างหาก เพราะสิ่งที่อยู่ตรงนี้ คือคอมพิวเตอร์ปลายทางที่จะใช้ปลดล็อกประตูซึ่งจะขึ้นไปสู่ชั้นบน [หอคอยแกนกลาง] น่ะ ตราบใดที่เจ้านี่ทำงานอยู่ พวกเธอทุกคนก็ไม่อาจไปถึง [วงแหวน] ได้ชั่วนิรันดร์"
เอสเทล "วะ ว่าไงนะ~!?"
โยชัวร์ "......บลูแบลง คุณน่าจะเป็นคนที่มีความเกี่ยวข้องน้อยที่สุด ในบรรดาผู้ดำเนินแผนการที่มายังลีเบร์ลเพื่อแผนการในคราวนี้ ยิ่งไปกว่านั้น มีเหตุผลอะไรที่คุณต้องเชื่อฟังศาสตราจารย์และมาสู้กับพวกผม?"
จอมโจรบลูแบลง "หึหึ...... ฉันไม่ได้เชื่อฟังศาสตราจารย์อย่างที่ว่าซักหน่อย เท่าที่รู้ พวกเรา [ผู้ดำเนินแผนการ] 『執行者』 ไม่ได้มีหน้าที่ที่จะคอยทำตามคำสั่งที่ไม่พึงปรารถนา ---------สำหรับ [สาวก] 『使徒』 มันของแน่ แต่ถึงจะเป็นคำบัญชาของ [นายเหนือหัว] 『盟主』 ก็ไม่ต่างกันหรอก หึหึ แต่ดูเหมือนว่า เธอที่เคยเป็นตุ๊กตาของศาสตราจารย์จะอยู่ในสถานะที่ผิดแผกไปนิดหน่อยนี่นะ"
จอมโจรบลูแบลง "เหตุผลที่ฉันใส่ใจเป็นพิเศษนั้นมีเพียงข้อเดียว...... ก็คือ มีสิ่งที่งดงามซึ่งมีค่ามากพอที่จะขโมยอยู่ที่นั่นหรือไม่เท่านั้น เพราะอย่างนั้น ฉันจึงมาอยู่ที่นี่"
คลอเซ่ "สิ่งที่งดงามซึ่งมีค่ามากพอที่จะขโมย......"
โอลิเวียร์ "หืมม์ แล้วมันคืออะไรล่ะ?"
- บลูแบลงแสยะยิ้มคลอเซ่ "สิ่งที่งดงามซึ่งมีค่ามากพอที่จะขโมย......"
โอลิเวียร์ "หืมม์ แล้วมันคืออะไรล่ะ?"
จอมโจรบลูแบลง "หึหึ...... นั่นก็คือ [ความหวัง] ของพวกเธอทุกคนยังไงล่ะ"
เอสเทล "!?"
จอมโจรบลูแบลง "ยิ่งมีอุปสรรคขวากหนามมากเท่าไร สิ่งที่เรียกว่า [ความหวัง] นั้น ก็ยิ่งเจิดจรัสงดงาม เพื่อที่จะมองดูประกายแสงอันนั้น ฉันถึงได้มารอพวกเธอทุกคนอยู่ที่นี่ ผลลัพธ์ของสิ่งที่ว่ามานั้น ก็คือ [ความหวัง] ที่มลายหายไปราวกับดอกไม้ไฟในฤดูร้อน...... ฉันอยากจะเห็นจุดสูงสุดของมันยิ่งนัก!"
- บลูแบลงกวัดแกว่งคฑาเรียก "บาลานซิ่งคราวน์" ออกมา พลางพูดต่อด้วยความตื่นเต้นเอสเทล "!?"
จอมโจรบลูแบลง "ยิ่งมีอุปสรรคขวากหนามมากเท่าไร สิ่งที่เรียกว่า [ความหวัง] นั้น ก็ยิ่งเจิดจรัสงดงาม เพื่อที่จะมองดูประกายแสงอันนั้น ฉันถึงได้มารอพวกเธอทุกคนอยู่ที่นี่ ผลลัพธ์ของสิ่งที่ว่ามานั้น ก็คือ [ความหวัง] ที่มลายหายไปราวกับดอกไม้ไฟในฤดูร้อน...... ฉันอยากจะเห็นจุดสูงสุดของมันยิ่งนัก!"
จอมโจรบลูแบลง "เอ้า ทำให้ดูหน่อยสิ ประกายแสงในยามที่อัญมณีซึ่งได้ชื่อว่าความหวังนั้น แตกกระจัดกระจายไปน่ะ!"
เอสเทล "จะ เจื้อยแจ้วเอาแต่ตัวเองเข้าว่ามากไปหรือเปล่ายะ!"
คลอเซ่ "ถ้าเช่นนั้น เรามาพิสูจน์กันเถอะค่ะ...... ว่าความหวังที่สายสัมพันธ์รังสรรค์ขึ้น มิอาจแตกกระจัดกระจายไปได้!"
โอลิเวียร์ "และถ้าหากมีความรัก แสงไฟแห่งความหวัง ก็จะลุกโชนโชติช่วงเรื่อยไปตราบชั่วฟ้าดินสลาย!"
เอสเทล "จะ เจื้อยแจ้วเอาแต่ตัวเองเข้าว่ามากไปหรือเปล่ายะ!"
คลอเซ่ "ถ้าเช่นนั้น เรามาพิสูจน์กันเถอะค่ะ...... ว่าความหวังที่สายสัมพันธ์รังสรรค์ขึ้น มิอาจแตกกระจัดกระจายไปได้!"
โอลิเวียร์ "และถ้าหากมีความรัก แสงไฟแห่งความหวัง ก็จะลุกโชนโชติช่วงเรื่อยไปตราบชั่วฟ้าดินสลาย!"
- จอมโจรบลูแบลง + บาลานซิ่งคราวน์ *2- - 『怪盗ブルブラン + バランシングクラウン*2』 - |
**แนะนำ ให้ใส่เครื่องประดับป้องกัน "ผนึกทักษะ" และ "ผนึกมาร" เอาไว้ จะง่ายขึ้นค่ะ** **แนะนำ ให้ใช้ "คล็อกดาวน์" ใส่บลูแบลงจะง่ายขึ้นค่ะ** **ถ้ามีคลอเซ่ร่วมกลุ่ม แนะนำให้ใช้คราฟท์ "เคมป์ฟาร์2" ใส่ศัตรูเพื่อลด STR&DEF จะง่ายขึ้นค่ะ** **หลักการต่อสู้เหมือนตอนที่เจอในบทที่ 7 แต่คราวนี้งัดทุกอย่างที่มีออกมาให้หมด ไม่ต้องกั๊กเลยค่ะ** **วิธีการดูร่างแยกของบลูแบลง ให้เอาเคอร์เซอร์ไปชี้ หากตัวไหนมี EXP=1 แสดงว่าเป็นร่างแยก เมื่อโจมตีร่างจริงร่างแยกจะหายไปค่ะ แต่ต้องสวมควอทซ์ "ข้อมูล" หรือ "เนตรสวรรค์" ก่อนนะคะ ถึงจะมองเห็น EXP ของศัตรูได้** ☆ดูคราฟท์ต่าง ๆ ของ "บลูแบลง" ได้ตรงนี้ค่ะ☆ |
จอมโจรบลูแบลง "......คึ...... บ้าน่า......... ถึงกับทำให้หน้ากากของฉัน...... ......ร้าวได้......"
เอสเทล "ฮ้าฮ้า...... ไงล่ะ...... รู้ซึ้งรึยัง!?"
โยชัวร์ "......ดูเหมือนว่าที่แตกกระจายไป จะเป็นความเย่อหยิ่งของคุณนะ"
คลอเซ่ "ความแข็งแกร่งของความหวังที่สายสัมพันธ์รังสรรค์ขึ้น...... เข้าใจแล้วหรือยังคะ?"
โอลิเวียร์ "หึ...... และก็รู้ซึ้งถึงความยิ่งใหญ่ของความรัก ที่ทำให้เปลวไฟแห่งความหวังลุกโชนโชติช่วงแล้วใช่มั้ยล่ะ"
- บลูแบลงได้แต่นิ่งเงียบด้วยความเจ็บใจ ก่อนที่จะกัดฟันทำใจยอมรับความพ่ายแพ้ "ก็ได้...... ตอนนี้จะยอมถอยไปแต่โดยดีก่อน...... แต่เกมของศาสตราจารย์เพิ่งจะเริ่มขึ้นเท่านั้น เตรียมตัวเตรียมใจว่าจะไม่โชคดีอย่างคราวนี้เอาไว้เถอะ" บลูแบลงลุกขึ้น พร้อมกับกวัดแกว่งคฑาใช้กลม่านกุหลาบที่เขาช่ำชองเอสเทล "ฮ้าฮ้า...... ไงล่ะ...... รู้ซึ้งรึยัง!?"
โยชัวร์ "......ดูเหมือนว่าที่แตกกระจายไป จะเป็นความเย่อหยิ่งของคุณนะ"
คลอเซ่ "ความแข็งแกร่งของความหวังที่สายสัมพันธ์รังสรรค์ขึ้น...... เข้าใจแล้วหรือยังคะ?"
โอลิเวียร์ "หึ...... และก็รู้ซึ้งถึงความยิ่งใหญ่ของความรัก ที่ทำให้เปลวไฟแห่งความหวังลุกโชนโชติช่วงแล้วใช่มั้ยล่ะ"
จอมโจรบลูแบลง "อย่าลืมซะล่ะ...... ว่าพวกเธอทำให้ฉันคนนี้ยอมถอยไปได้...... ก้าวข้ามกำแพงแห่งความสิ้นหวังที่ตั้งตระหง่าน แล้วไปสู่สถานที่อันสูงส่งแสนงดงามให้ได้ก็แล้วกัน ......ถ้าเช่นนั้น ลาล่ะ"
- ร่างของบลูแบลงค่อย ๆ หายไปท่ามกลายพายุกุหลาบ และดูเหมือนว่าคราวนี้เขาจะยอมล่าถอยไปจริง ๆ ทำให้เราวางใจไปได้เปราะหนึ่งค่ะ(จากคำบอกเล่าของโยชัวร์ บลูแบลงเป็นคนที่ภาคภูมิใจในตัวเองอย่างมาก พูดอะไรแล้วต้องทำ เมื่อเขาบอกจะถอยก็ถอยจริง ๆ ไม่มีทางผิดคำสัญญาแน่นอนค่ะ)
- เข้าไปสำรวจคอมพิวเตอร์ปลายทาง เมื่อสำรวจแล้วกำแพงที่กั้นประตูอยู่จะหายไป และสามารถใช้งานแท่นวาร์ปเพื่อลงไปยังชั้นล่างได้อีกด้วยค่ะ
- จะกลับไปที่ [อัลเซยู] เพื่อเตรียมตัวก่อน หรือจะมุ่งหน้าต่อไปได้ ก็แล้วแต่สะดวกเลยค่ะ
☆ไอเทมที่พบ "ยาแห่งอาเซราส", "ยอร์มุนกันท์", "เซพิธทุกคุณสมบัติx100", "S-แทบเล็ต",
"EPชาร์จIII", "ไทเกอร์ฮาร์ท", "ยาแห่งคิวเรีย" และ "ยาแห่งเทียร์ ออล" ค่ะ☆
หอคอยแกนกลาง - ชั้นที่ 3 『中枢塔・第三層』"EPชาร์จIII", "ไทเกอร์ฮาร์ท", "ยาแห่งคิวเรีย" และ "ยาแห่งเทียร์ ออล" ค่ะ☆
☆ไอเทมที่พบ "ยาแห่งเทียร์รอล", "ยาแห่งอาเซราส",
"S-แทบเล็ต" และ "ยาแห่งคิวเรีย" ค่ะ☆
- เมื่อออกไปด้านนอกหอคอย เราจะได้ยินเสียงหนึ่งบอกว่ากำลังรอเราจนเง็ก ที่ต้นเสียงนั้นพบกับ "หมาป่าผอมวอลเตอร์" [ผู้ดำเนินแผนการ] No.VIII ค่ะ"S-แทบเล็ต" และ "ยาแห่งคิวเรีย" ค่ะ☆
◆ในกรณีที่มี "จิน" ร่วมกลุ่มมาด้วย จะมีบทสนทนาพิเศษที่จะทำให้เราได้รู้ถึงเหตุผลลึก ๆ ที่วอลเตอร์เก็บงำไว้ภายในใจมาตลอดค่ะ แต่ถ้าไม่มีจิน วอลเตอร์จะรู้สึกไม่ชอบใจที่จินไม่ได้มาด้วย เอสเทลก็เลยเสนอว่าให้วอลเตอร์ฝากข้อความไปบอกจินหรือจะฝากไปบอกคุณคิริก้าก็ได้ค่ะ สำหรับบทสนาต่อไปนี้ จะเป็นกรณีที่มีจินร่วมกลุ่มมาด้วยนะคะ
เอสเทล "นายแว่นกันแดด!"
โยชัวร์ "[หมาป่าผอม] 『痩せ狼』 เองเหรอ......"
จิน "......วอลเตอร์"
หมาป่าผอมวอลเตอร์ "คึคึ...... มาจนได้นะ ที่มาที่นี่คงจะเตรียมตัวเตรียมใจมาแล้วสินะ?"
จิน "ใช่...... หมัด [รักษ์ชีวี] 『活人』 ที่สืบทอดมาจากอาจารย์ ชั้นตั้งใจจะขอใช้มันทำลายหมัดนอกรีตของนาย"
หมาป่าผอมวอลเตอร์ "......คึคึ............ ดูท่าจะเป็นไปตามแผนการของไอ้แก่แล้วสินะ"
จิน "! เป็นไปตามแผนการ...... ของอาจารย์!? หมายความว่ายังไงกันหา วอลเตอร์! ที่นายกับอาจารย์ประลองกัน เกี่ยวข้องกับชั้นจริง ๆ ใช่มั้ย!?"
หมาป่าผอมวอลเตอร์ "ฮะฮะ...... ก็บอกไปแล้วไม่ใช่เรอะว่า ถ้าอยากจะรู้เรื่องนั้น ลองล้มชั้นให้ดูก่อนสิว้อยน่ะ"
- วอลเตอร์ดีดนิ้วเรียกตุ๊กตาสงครามออกมาโยชัวร์ "[หมาป่าผอม] 『痩せ狼』 เองเหรอ......"
จิน "......วอลเตอร์"
หมาป่าผอมวอลเตอร์ "คึคึ...... มาจนได้นะ ที่มาที่นี่คงจะเตรียมตัวเตรียมใจมาแล้วสินะ?"
จิน "ใช่...... หมัด [รักษ์ชีวี] 『活人』 ที่สืบทอดมาจากอาจารย์ ชั้นตั้งใจจะขอใช้มันทำลายหมัดนอกรีตของนาย"
หมาป่าผอมวอลเตอร์ "......คึคึ............ ดูท่าจะเป็นไปตามแผนการของไอ้แก่แล้วสินะ"
จิน "! เป็นไปตามแผนการ...... ของอาจารย์!? หมายความว่ายังไงกันหา วอลเตอร์! ที่นายกับอาจารย์ประลองกัน เกี่ยวข้องกับชั้นจริง ๆ ใช่มั้ย!?"
หมาป่าผอมวอลเตอร์ "ฮะฮะ...... ก็บอกไปแล้วไม่ใช่เรอะว่า ถ้าอยากจะรู้เรื่องนั้น ลองล้มชั้นให้ดูก่อนสิว้อยน่ะ"
หมาป่าผอมวอลเตอร์ "ถ้าจะใช้หมัดเก่าคร่ำครึล่ะก็ จะได้ทำให้มันจบ ๆ ไปซะเลย...... เอ้า มาประลองชี้เป็นชี้ตายกันเถอะ!"
- หมาป่าผอมวอลเตอร์ + ชาโดว์คูเกอร์ *2 - - 『痩せ狼ヴァルター + シャドウクーガー*2』 - |
**แนะนำ ให้ใส่เครื่องประดับป้องกัน "หมดสติ" เอาไว้ จะง่ายขึ้นค่ะ** **ระวัง อาร์ท "คล็อกดาวน์" ไม่มีผลต่อวอลเตอร์นะคะ** **หลักการต่อสู้เหมือนตอนที่เจอในบทที่ 7 ค่ะ** ☆ดูคราฟท์ต่าง ๆ ของ "วอลเตอร์" ได้ตรงนี้ค่ะ☆ |
◆ในกรณีที่ไม่มี "จิน" ร่วมกลุ่มมาด้วย ปราบได้ วอลเตอร์จะเรียกเพลอาปาเช่ออกมา แล้วก็บินจากไป โดยทิ้งท้ายฝากให้เราไปบอกจินว่า ให้มาหาข้อยุติกับเขาใหม่คราวหน้าค่ะ สำหรับบทสนาต่อไปนี้ จะเป็นกรณีที่มีจินร่วมกลุ่มมาด้วยนะคะ
- ปราบได้ วอลเตอร์กับจินจะเผชิญหน้ากันตามลำพัง 2 คน โดยที่พวกเอสเทลได้แต่ยืนดูอยู่ห่าง ๆ
หมาป่าผอมวอลเตอร์ "คึ...... แก...... กังฟูไปถึงระดับนั้นได้ตั้งแต่เมื่อไหร่......"
จิน "วอลเตอร์...... นายเป็นอัจฉริยะจริง ๆ นั่นแหล่ะ แต่เพราะพรสวรรค์อันนั้น ไม่ว่าจะพูดยังไง ก็ขาดซึ่งการสั่งสม แล้วสิ่งที่เรียกว่ากังฟู คือสิ่งที่สั่งสมด้วยการขัดเกลาซ้ำไปซ้ำมาอย่างซื่อตรง เพราะเหตุนั้นต่างหากหมัดของชั้นที่ระดับต่ำกว่า จึงไปไม่ถึงระดับของนาย"
หมาป่าผอมวอลเตอร์ "...................................... คึคึคึ...... ระดับต่ำกว่าเรอะ เจ้าแก่นั่นมันไม่เคยคิดแบบนั้นเลยว้อย?"
จิน "......เอ๋..............."
- วอลเตอร์เริ่มเล่าเรื่องราวต่าง ๆ ที่เขาได้เก็บงำเอาไว้ให้จินฟังจิน "วอลเตอร์...... นายเป็นอัจฉริยะจริง ๆ นั่นแหล่ะ แต่เพราะพรสวรรค์อันนั้น ไม่ว่าจะพูดยังไง ก็ขาดซึ่งการสั่งสม แล้วสิ่งที่เรียกว่ากังฟู คือสิ่งที่สั่งสมด้วยการขัดเกลาซ้ำไปซ้ำมาอย่างซื่อตรง เพราะเหตุนั้นต่างหากหมัดของชั้นที่ระดับต่ำกว่า จึงไปไม่ถึงระดับของนาย"
หมาป่าผอมวอลเตอร์ "...................................... คึคึคึ...... ระดับต่ำกว่าเรอะ เจ้าแก่นั่นมันไม่เคยคิดแบบนั้นเลยว้อย?"
จิน "......เอ๋..............."
หมาป่าผอมวอลเตอร์ "ไอ้แก่นั่นเป็นคนบอกชั้นเอง ว่าไม่เกี่ยวกับแนวคิดของการช่วยคน หรือการฆ่าคน...... ไม่ว่าจะลักษณะพิเศษหรือพรสวรรค์...... แกต่างหากที่เหนือกว่าชั้น"
จิน "! ว่า......!?"
หมาป่าผอมวอลเตอร์ "แล้วไอ้แก่ ก็ตั้งใจที่จะให้คนที่มีพรสวรรค์มากกว่า สืบทอด [สำนักไทโตะ] 『泰斗流』 ......เรื่องนั้นมันมีความหมายว่ายังไง ฉลาดอย่างแกคงจะรู้สินะ?"
จิน "ตะ แต่ว่า...... ที่ชั้นฝีมือสูงกว่านายอะไรนั่น เป็นเรื่องล้อเล่นใช่มั้ยล่ะ!? แล้วอาจารย์ มีหรือ ที่จะไม่ใส่ใจกับความรู้สึกของคิริก้าแบบนั้น......"
หมาป่าผอมวอลเตอร์ "......คึคึคึ...... ก็เพราะแกมองโลกในแง่ดี ซื่อจนเซ่อเกินไปน่ะสิ ทั้ง ๆ มันไม่ใช่แค่สืบทอดสำนักอย่างเดียว แต่มันรวมไปถึงลูกสาวของอาจารย์ด้วย...... เรื่องพรรค์นั้น...... คิดว่าชั้นคนนี้จะทำใจยอมรับได้อย่างงั้นเรอะ?"
จิน "............................................"
หมาป่าผอมวอลเตอร์ "เพราะฉะนั้นชั้นจึง เรียกร้องให้ไอ้แก่ตัดสินตัวผู้สืบทอด ด้วยการต่อสู้ระหว่างชั้นกับแก แต่ไอ้แก่มันไม่ยอมรามือ แล้วพูดว่า [------จินน่ะกำลังรู้สึกเกรงใจเจ้าโดยไม่รู้ตัว ไม่ว่าจะเรื่องวิทยายุทธ์ หรือเรื่องผู้หญิง ตราบใดที่เจ้ายังอยู่เช่นตอนนี้ วิทยายุทธ์ของหมอนั่นก็ไม่อาจสมบูรณ์ได้]"
จิน "............ว่า....................."
หมาป่าผอมวอลเตอร์ "คึคึ...... ชั้นเองมันหนุ่มเลือดร้อนซะด้วย ก็เลยทำใจยอมรับไม่ได้เกินไปหน่อย แล้วไอ้แก่ ก็เสนอหน้ามาประลองชี้เป็นชี้ตายกับชั้นแทนแก...... แล้วชั้น------ ก็เอาชนะไอ้แก่ได้"
- วอลเตอร์กล่าวประโยคสุดท้ายด้วยสีหน้าที่เรียบสงบ จินได้แต่ฟังเขาเล่าต่อเงียบ ๆจิน "! ว่า......!?"
หมาป่าผอมวอลเตอร์ "แล้วไอ้แก่ ก็ตั้งใจที่จะให้คนที่มีพรสวรรค์มากกว่า สืบทอด [สำนักไทโตะ] 『泰斗流』 ......เรื่องนั้นมันมีความหมายว่ายังไง ฉลาดอย่างแกคงจะรู้สินะ?"
จิน "ตะ แต่ว่า...... ที่ชั้นฝีมือสูงกว่านายอะไรนั่น เป็นเรื่องล้อเล่นใช่มั้ยล่ะ!? แล้วอาจารย์ มีหรือ ที่จะไม่ใส่ใจกับความรู้สึกของคิริก้าแบบนั้น......"
หมาป่าผอมวอลเตอร์ "......คึคึคึ...... ก็เพราะแกมองโลกในแง่ดี ซื่อจนเซ่อเกินไปน่ะสิ ทั้ง ๆ มันไม่ใช่แค่สืบทอดสำนักอย่างเดียว แต่มันรวมไปถึงลูกสาวของอาจารย์ด้วย...... เรื่องพรรค์นั้น...... คิดว่าชั้นคนนี้จะทำใจยอมรับได้อย่างงั้นเรอะ?"
จิน "............................................"
หมาป่าผอมวอลเตอร์ "เพราะฉะนั้นชั้นจึง เรียกร้องให้ไอ้แก่ตัดสินตัวผู้สืบทอด ด้วยการต่อสู้ระหว่างชั้นกับแก แต่ไอ้แก่มันไม่ยอมรามือ แล้วพูดว่า [------จินน่ะกำลังรู้สึกเกรงใจเจ้าโดยไม่รู้ตัว ไม่ว่าจะเรื่องวิทยายุทธ์ หรือเรื่องผู้หญิง ตราบใดที่เจ้ายังอยู่เช่นตอนนี้ วิทยายุทธ์ของหมอนั่นก็ไม่อาจสมบูรณ์ได้]"
จิน "............ว่า....................."
หมาป่าผอมวอลเตอร์ "คึคึ...... ชั้นเองมันหนุ่มเลือดร้อนซะด้วย ก็เลยทำใจยอมรับไม่ได้เกินไปหน่อย แล้วไอ้แก่ ก็เสนอหน้ามาประลองชี้เป็นชี้ตายกับชั้นแทนแก...... แล้วชั้น------ ก็เอาชนะไอ้แก่ได้"
หมาป่าผอมวอลเตอร์ "คึคึคึ...... นี่ก็คือ เหตุผลที่ชั้นกับไอ้แก่ชี้เป็นชี้ตายกันยังไงล่ะ ตอบให้ตามที่แกหวังแล้ว"
จิน "......................................... ชั้นคิดหาเหตุผลมาตลอด...... ว่าทำไมอาจารย์ ถึงได้บอกให้ชั้นเป็นพยานในการประลองระหว่างนาย...... ในที่สุด...... ก็มองเห็นคำตอบนั่นแล้วล่ะ"
หมาป่าผอมวอลเตอร์ "......หมายความว่าไง?"
จิน "วอลเตอร์...... นายกำลังเข้าใจผิดอยู่ เรื่องนี้ชั้นเองก็รู้มาจากคิริก้าทีหลัง...... ว่าในตอนนั้นอาจารย์ริวง่ะป่วยหนัก ได้ยินมาว่าเป็นเนื้องอกร้ายแรง"
- วอลเตอร์ถึงกับตกใจ เพราะเขาไม่เคยรู้เรื่องนี้มาก่อนเลยจิน "......................................... ชั้นคิดหาเหตุผลมาตลอด...... ว่าทำไมอาจารย์ ถึงได้บอกให้ชั้นเป็นพยานในการประลองระหว่างนาย...... ในที่สุด...... ก็มองเห็นคำตอบนั่นแล้วล่ะ"
หมาป่าผอมวอลเตอร์ "......หมายความว่าไง?"
จิน "วอลเตอร์...... นายกำลังเข้าใจผิดอยู่ เรื่องนี้ชั้นเองก็รู้มาจากคิริก้าทีหลัง...... ว่าในตอนนั้นอาจารย์ริวง่ะป่วยหนัก ได้ยินมาว่าเป็นเนื้องอกร้ายแรง"
จิน "เพราะอย่างนั้นต่างหาก อาจารย์ถึงได้เสนอตัวประลองกับนาย ไม่ต้องบอกก็รู้อยู่แล้วว่า มีนัยที่จะห้ามปรามวิทยายุทธ์ของนายด้วย...... แล้วก็คงตั้งใจ จะทำให้ชั้นที่ยังอ่อนหัดได้เห็นจุดสูงสุดของวิทยายุทธ์ด้วย แต่เหนือสิ่งอื่นใด สิ่งที่อาจารย์ปรารถนาเอาไว้ก็คือ...... อยากจะสิ้นอายุขัยในฐานะผู้ใช้วิทยายุทธ์ ด้วยการต่อสู้กับลูกศิษย์อันดับหนึ่ง"
หมาป่าผอมวอลเตอร์ "............................................. ......คึคึ...... พูดเรื่องอะไรวะ...... เรื่องบ้า ๆ พรรค์นั้น...... .......มันไม่มีหรอก...... แล้วทำไม? ชั้นแค่โดนใช้เป็นเครื่องมืองั้นเรอะ? ถ้าเป็นแบบนั้น...... ชั้นน่ะ......"
จิน "เรื่องนั้น...... อาจจะเป็นการเอาแก่ได้ก็ได้ แต่ว่า การจะทำให้ความแข็งแกร่งไปจนถึงจุดสูงสุดนั้น หากพินิจพิเคราะห์ให้ถี่ถ้วนแล้ว คงจะเป็นการกระทำที่เห็นแก่ตัวเหมือนกัน ซึ่งนั่น ก็อาจกล่าวได้ว่าเป็นชะตากรรมที่ถูกกำหนดมา ให้ผู้ใช้วิทยายุทธ์อย่างพวกเราต้องกระทำ เพราะเหตุนั้นต่างหากอาจารย์ถึงได้...... แสดงความเอาแก่ได้ของตนออกมา ที่ทำเช่นนั้นก็เพื่อ แสดงด้านมืดกับด้านสว่างของวิทยายุทธ์ให้นายหรือชั้นได้เห็น......"
- วอลเตอร์ได้แต่นิ่งเงียบไม่พูดอะไรต่อ ก่อนที่จินตั้งท่าแล้วพูดต่อว่าหมาป่าผอมวอลเตอร์ "............................................. ......คึคึ...... พูดเรื่องอะไรวะ...... เรื่องบ้า ๆ พรรค์นั้น...... .......มันไม่มีหรอก...... แล้วทำไม? ชั้นแค่โดนใช้เป็นเครื่องมืองั้นเรอะ? ถ้าเป็นแบบนั้น...... ชั้นน่ะ......"
จิน "เรื่องนั้น...... อาจจะเป็นการเอาแก่ได้ก็ได้ แต่ว่า การจะทำให้ความแข็งแกร่งไปจนถึงจุดสูงสุดนั้น หากพินิจพิเคราะห์ให้ถี่ถ้วนแล้ว คงจะเป็นการกระทำที่เห็นแก่ตัวเหมือนกัน ซึ่งนั่น ก็อาจกล่าวได้ว่าเป็นชะตากรรมที่ถูกกำหนดมา ให้ผู้ใช้วิทยายุทธ์อย่างพวกเราต้องกระทำ เพราะเหตุนั้นต่างหากอาจารย์ถึงได้...... แสดงความเอาแก่ได้ของตนออกมา ที่ทำเช่นนั้นก็เพื่อ แสดงด้านมืดกับด้านสว่างของวิทยายุทธ์ให้นายหรือชั้นได้เห็น......"
จิน "......วอลเตอร์ ตั้งท่าซะ"
หมาป่าผอมวอลเตอร์ "จะทำอะไร......?"
จิน "จะใช้หมัดนี่แสดงทุกสิ่งทุกอย่างของ [ไทโตะ] ที่ได้ร่ำเรียนมาจากอาจารย์และนาย ซึ่งได้ขัดเกลาเรื่อยมาในระหว่างที่ทำงานเบรเซอร์ แล้วก็ จะแผดเสียงเกรี้ยวกราดใส่ศิษย์พี่ ที่จิตใจอ่อนแอถึงกับร่วงลงสู่ความมืดมิดจนกลายเป็นอสูร ซึ่งนั่นอาจจะเป็นหน้าที่สุดท้ายที่ชั้นสามารถทำได้ในฐานะศิษย์น้องของนาย"
หมาป่าผอมวอลเตอร์ "..................................................... ......เหอะ............ พล่ามมากเกินไปมั้ง........."
- วอลเตอร์ตั้งท่า พลางพูดต่อด้วยสีหน้าที่รู้สึกพอใจอยู่ลึก ๆหมาป่าผอมวอลเตอร์ "จะทำอะไร......?"
จิน "จะใช้หมัดนี่แสดงทุกสิ่งทุกอย่างของ [ไทโตะ] ที่ได้ร่ำเรียนมาจากอาจารย์และนาย ซึ่งได้ขัดเกลาเรื่อยมาในระหว่างที่ทำงานเบรเซอร์ แล้วก็ จะแผดเสียงเกรี้ยวกราดใส่ศิษย์พี่ ที่จิตใจอ่อนแอถึงกับร่วงลงสู่ความมืดมิดจนกลายเป็นอสูร ซึ่งนั่นอาจจะเป็นหน้าที่สุดท้ายที่ชั้นสามารถทำได้ในฐานะศิษย์น้องของนาย"
หมาป่าผอมวอลเตอร์ "..................................................... ......เหอะ............ พล่ามมากเกินไปมั้ง........."
หมาป่าผอมวอลเตอร์ "ถ้าอย่างนั้นชั้น ก็จะใช้หมัดที่รวบรวมทุกสิ่งทุกอย่างของเทคนิคลับ ซึ่งได้ขัดเกลามาในระหว่างที่อยู่ในองค์กร...... เพื่อจะได้ฝังทุกสิ่งทุกอย่างของ [ไทโตะ] ซะ"
เอสเทล "(ยะ ยอดไปเลย......)
โยชัวร์ "(ถ้าเป็นแบบนี้ คงมีฝ่ายนึงที่อาจจะ......)"
- พริบตานั้นเอง เสียงจากแรงปะทะหมัดของทั้งสองฝ่ายที่มองตามไม่ทันดังกึกก้องขึ้น "...............คึ....................." จินทรุดลง พวกเอสเทลตกใจกับสภาพที่เห็นโยชัวร์ "(ถ้าเป็นแบบนี้ คงมีฝ่ายนึงที่อาจจะ......)"
- "คึคึคึ...... ......เจ้าคนไม่ได้เรื่องเอ๊ย......" วอลเตอร์หันกลับมา เขามองไปที่จินซึ่งทรุดลงกับพื้น มือข้างหนึ่งหยิบบุหรี่ขึ้นมาสูบอย่างพอใจ พลางพูดต่ออย่างกระท่อนกระแท่น
หมาป่าผอมวอลเตอร์ "......ไม่รู้จักใช้กังฟูที่มีอยู่แค่นั้นให้เกิดประโยชน์ซะนี่...... คึคึ...... เรื่องที่ไอ้แก่พูด .........ในที่สุดก็เข้าใจซักทีว้อย......... ......ฟู่...... อร่อยว่ะ...... บุหรี่นี่มัน...... อร่อย...... ............จริง ๆ..............."
- เรี่ยวแรงในการครองสติให้ยืนหยัดอยู่ของวอลเตอร์หมดลง พร้อม ๆ กับบุหรี่ในมือของเขาที่ร่วงหล่นลงสู่พื้น
เอสเทล "หรือว่า........."
โยชัวร์ "อืม...... ดูเหมือนว่าคุณจินเป็นฝ่ายชนะสินะ"
- พวกเอสเทลวิ่งเข้าไปหาจิน พลางกล่าวชื่นชมด้วยความยินดี ที่จินสามารถหาข้อยุติและเอาชนะผู้ชายที่เก่งกาจเช่นวอลเตอร์ได้ แต่จินปฏิเสธและค่อย ๆ พยุงตัวเองขึ้นมาโยชัวร์ "อืม...... ดูเหมือนว่าคุณจินเป็นฝ่ายชนะสินะ"
จิน "ที่ชนะได้น่ะ เป็นเพียงแค่ [สำนักไทโตะ] ที่ชั้นแบกรับเอาไว้เท่านั้น ถ้าหมอนั่น ไม่ได้เข้าร่วมการตัดสินแพ้ชนะครั้งนี้ ในฐานะที่เป็นผู้ใช้วิชาของ [ไทโตะ] อย่างขาวสะอาดแล้วล่ะก็...... บางทีคนที่จะล้มลงไปอาจจะเป็นชั้นก็ได้"
- ว่าแล้ว จินก็บอกให้เราปล่อยให้วอลเตอร์นอนหมดสติต่อ แล้วเข้าไปสำรวจคอมพิวเตอร์ปลายทางก่อนที่วอลเตอร์จะฟื้นดีกว่า เมื่อสำรวจแล้วกำแพงที่กั้นประตูอยู่จะหายไป และสามารถใช้งานแท่นวาร์ปได้ค่ะหอคอยแกนกลาง - ชั้นที่ 4 『中枢塔・第四層』
☆ไอเทมที่พบ "โพรมิธิอุส" (สู้กับ มาสเตอร์ แทร็ปเปอร์ *3) ค่ะ☆
☆ไอเทมที่พบ "ไชน์สเฟียร์", "ลิลี่เน็คเลส", "EPชาร์จII",
"ยาแห่งคิวเรีย", "S-แท็ปเล็ต" และ "เซพิธทุกคุณสมบัติx100" ค่ะ☆
- เมื่อออกไปด้านนอกหอคอย จะพบกับ "กระพรวนเสน่ห์ลูชิโอล่า" [ผู้ดำเนินแผนการ] No.VI ค่ะ"ยาแห่งคิวเรีย", "S-แท็ปเล็ต" และ "เซพิธทุกคุณสมบัติx100" ค่ะ☆
◆ในกรณีที่มี "เจ๊เชร่า" ร่วมกลุ่มมาด้วย จะมีบทสนทนาพิเศษ ที่จะทำให้เราได้รู้ถึงแรงจูงใจที่แท้จริง ที่ทำให้ลูชิโอล่าตัดสินใจสังหารหัวหน้าคณะละครฮาร์เวย์ผู้เปรียบเสมือนพ่อแท้ ๆ ด้วยมือของเธอเองค่ะ แต่ถ้าไม่ได้นำเจ๊เชร่ามา ลูชิโอล่าจะรู้สึกผิดหวังนิด ๆ ที่เชราซาร์ดไม่มาตามที่เธอทำนายเอาไว้ค่ะ สำหรับบทสนทนาต่อไปนี้ จะเป็นกรณีที่มีเจ๊เชร่าร่วมกลุ่มมาด้วยนะคะ
เอสเทล "อ๊ะ......!"
โยชัวร์ "[กระพรวนเสน่ห์] 『幻惑の鈴』...... คุณเองเหรอ"
เชราซาร์ด "คุณพี่...... ลูชิโอล่า"
กระพรวนเสน่ห์ลูชิโอล่า "ฝ่าบลูแบลงกับวอลเตอร์แล้วมาจนถึงที่นี่ได้...... ทำได้ไม่เลวเลยนะจ๊ะ พวกเธอเนี่ย"
เชราซาร์ด "คุณพี่...... ชั้นมาทวงสัญญาที่ให้ไว้ ที่บอกว่าในตอนที่พบกันอีกครั้ง จะเล่าเรื่องของหัวหน้าคณะฮาร์เวย์ให้ฟัง......"
กระพรวนเสน่ห์ลูชิโอล่า "อ๋อ...... หมายถึงเหตุผลที่ฆ่าเขาไปใช่มั้ยจ๊ะ?"
เชราซาร์ด "............อึก..............."
กระพรวนเสน่ห์ลูชิโอล่า "นั่นสินะ......"
- ลูชิโอล่านิ่งเงียบ ครุ่นคิดอะไรบางอย่างก่อนที่จะเอ่ยเรียบ ๆ ด้วยรอยยิ้มที่ดูเศร้า ๆ ตามเอกลักษณ์ของเธอโยชัวร์ "[กระพรวนเสน่ห์] 『幻惑の鈴』...... คุณเองเหรอ"
เชราซาร์ด "คุณพี่...... ลูชิโอล่า"
กระพรวนเสน่ห์ลูชิโอล่า "ฝ่าบลูแบลงกับวอลเตอร์แล้วมาจนถึงที่นี่ได้...... ทำได้ไม่เลวเลยนะจ๊ะ พวกเธอเนี่ย"
เชราซาร์ด "คุณพี่...... ชั้นมาทวงสัญญาที่ให้ไว้ ที่บอกว่าในตอนที่พบกันอีกครั้ง จะเล่าเรื่องของหัวหน้าคณะฮาร์เวย์ให้ฟัง......"
กระพรวนเสน่ห์ลูชิโอล่า "อ๋อ...... หมายถึงเหตุผลที่ฆ่าเขาไปใช่มั้ยจ๊ะ?"
เชราซาร์ด "............อึก..............."
กระพรวนเสน่ห์ลูชิโอล่า "นั่นสินะ......"
กระพรวนเสน่ห์ลูชิโอล่า "......นี่ เชราซาร์ด สำหรับเธอแล้ว หัวหน้าคณะเป็นคนแบบไหนเหรอ?"
เชราซาร์ด "ระ เรื่องนั้นมันแน่อยู่แล้วไม่ใช่หรือยังไง! ว่าเขาเป็นผู้มีพระคุณที่เก็บชั้นซึ่งเคยอยู่อย่างโดดเดี่ยวมาเลี้ยงดูน่ะ!"
- เจ๊เชร่านึกภาพในตอนที่หัวหน้าคณะกับลูชิโอล่าเก็บเธอไปเลี้ยง แล้วพูดต่อด้วยสีหน้าอันเศร้าสร้อยเชราซาร์ด "ระ เรื่องนั้นมันแน่อยู่แล้วไม่ใช่หรือยังไง! ว่าเขาเป็นผู้มีพระคุณที่เก็บชั้นซึ่งเคยอยู่อย่างโดดเดี่ยวมาเลี้ยงดูน่ะ!"
เชราซาร์ด "ชั้นน่ะ หน้าตาของพ่อแม่เป็นยังไงยังไม่รู้เลย...... แล้วคิดมาตลอดว่าคุณพ่อนั้น ให้ความรู้สึกแบบไหน...... ......ทั้ง ๆ ที่...... ทั้ง ๆ ที่เป็นแบบนั้นแล้วทำไม......!"
กระพรวนเสน่ห์ลูชิโอล่า "เหรอ...... เป็นคนที่อบอุ่นแล้วก็ใจดีสินะ แต่ว่านะ คณะนักแสดงละครเร่ร่อนอย่างนั้น แค่ความใจดีมันไปไม่รอดหรอกนะ มันต้องมีทั้งการค้าขายสกปรก มีทั้งให้นักแสดงหญิงออกไปรับแขก แต่หัวหน้าคณะน่ะ...... คน ๆ นั้นน่ะไม่ทำเรื่องพรรค์นั้นอย่างเด็ดขาด เพราะเหตุนั้น ก็เลยใช้สมบัติส่วนตัวจนหมดเกลี้ยง...... แล้วก็แบกรับภาระหนี้สินก้อนโต"
เชราซาร์ด "! มะ ไม่จริง......!? ก็หัวหน้าคณะ ไม่เห็นจะแสดงสีหน้าท่าทางแบบนั้นเลย......"
กระพรวนเสน่ห์ลูชิโอล่า "หึหึ ก็เพราะทั้ง ๆ ที่เป็นคนดี แต่ดันเป็นคนมีจิตใจเข้มแข็งน่ะสิจ๊ะ วิ่งวุ่นไประดมเงินทุนทางโน้นทีทางนี้ที โดยไม่ให้พวกเรารับรู้...... ......ท้ายที่สุดแล้ว ก็ตัดสินใจที่จะปล่อยคณะให้หลุดมือไปเสีย"
เชราซาร์ด "!!!"
กระพรวนเสน่ห์ลูชิโอล่า "แล้วก็คิดที่จะฝากให้ขุนนางผู้มั่งคั่งที่รู้จักกันดูแลคณะละครทั้งหมด และถ้าตัวเองยังเป็นหัวหน้าคณะต่อไปเรื่อย ๆ แบบนี้ จะยิ่งทำให้พวกเราลำบาก...... ถ้าอย่างนั้น ก็ให้ไปรับการดูแลจากคนที่ไหว้วานเอาไว้น่าจะดีกว่า...... ......ดูเหมือนว่าคน ๆ นั้นจะคิดแบบนั้นนะ"
เชราซาร์ด "ระ เรื่องนั้น แล้วทำไม...... ถ้ามาปรึกษากันล่ะก็ พวกเราก็จะได้ช่วยเหลือ......!"
กระพรวนเสน่ห์ลูชิโอล่า "ตอนที่เปิดเผยเรื่องนี้ให้ฟัง ฉันก็เกลี้ยกล่อมแบบนั้นเหมือนกัน แต่คน ๆ นั้นก็รั้นจนหัวชนฝาไม่ยอมรับฟังอะไร ถึงคนไร้ค่าเช่นตัวเองอยู่ ก็ไม่อาจทำอะไรเพื่อพวกเราได้เลย...... ดูเหมือนว่าคน ๆ นั้นจะคิดเองเออเองแบบนั้น"
- เจ๊เชร่าได้ยินก็เหนื่อยใจแทน แล้วถามลูชิโอล่าต่อด้วยสีหน้ากังวลใจกระพรวนเสน่ห์ลูชิโอล่า "เหรอ...... เป็นคนที่อบอุ่นแล้วก็ใจดีสินะ แต่ว่านะ คณะนักแสดงละครเร่ร่อนอย่างนั้น แค่ความใจดีมันไปไม่รอดหรอกนะ มันต้องมีทั้งการค้าขายสกปรก มีทั้งให้นักแสดงหญิงออกไปรับแขก แต่หัวหน้าคณะน่ะ...... คน ๆ นั้นน่ะไม่ทำเรื่องพรรค์นั้นอย่างเด็ดขาด เพราะเหตุนั้น ก็เลยใช้สมบัติส่วนตัวจนหมดเกลี้ยง...... แล้วก็แบกรับภาระหนี้สินก้อนโต"
เชราซาร์ด "! มะ ไม่จริง......!? ก็หัวหน้าคณะ ไม่เห็นจะแสดงสีหน้าท่าทางแบบนั้นเลย......"
กระพรวนเสน่ห์ลูชิโอล่า "หึหึ ก็เพราะทั้ง ๆ ที่เป็นคนดี แต่ดันเป็นคนมีจิตใจเข้มแข็งน่ะสิจ๊ะ วิ่งวุ่นไประดมเงินทุนทางโน้นทีทางนี้ที โดยไม่ให้พวกเรารับรู้...... ......ท้ายที่สุดแล้ว ก็ตัดสินใจที่จะปล่อยคณะให้หลุดมือไปเสีย"
เชราซาร์ด "!!!"
กระพรวนเสน่ห์ลูชิโอล่า "แล้วก็คิดที่จะฝากให้ขุนนางผู้มั่งคั่งที่รู้จักกันดูแลคณะละครทั้งหมด และถ้าตัวเองยังเป็นหัวหน้าคณะต่อไปเรื่อย ๆ แบบนี้ จะยิ่งทำให้พวกเราลำบาก...... ถ้าอย่างนั้น ก็ให้ไปรับการดูแลจากคนที่ไหว้วานเอาไว้น่าจะดีกว่า...... ......ดูเหมือนว่าคน ๆ นั้นจะคิดแบบนั้นนะ"
เชราซาร์ด "ระ เรื่องนั้น แล้วทำไม...... ถ้ามาปรึกษากันล่ะก็ พวกเราก็จะได้ช่วยเหลือ......!"
กระพรวนเสน่ห์ลูชิโอล่า "ตอนที่เปิดเผยเรื่องนี้ให้ฟัง ฉันก็เกลี้ยกล่อมแบบนั้นเหมือนกัน แต่คน ๆ นั้นก็รั้นจนหัวชนฝาไม่ยอมรับฟังอะไร ถึงคนไร้ค่าเช่นตัวเองอยู่ ก็ไม่อาจทำอะไรเพื่อพวกเราได้เลย...... ดูเหมือนว่าคน ๆ นั้นจะคิดเองเออเองแบบนั้น"
เชราซาร์ด "นั่นคือเหตุผล...... ......ที่คุณพี่...หัวหน้าคณะ......?"
กระพรวนเสน่ห์ลูชิโอล่า "ใช่ ถูกต้องจ้ะ สำหรับฉันแล้ว การตัดสินใจอย่างเด็ดขาดของเขา เป็นเพียงการทรยศหักหลังที่ไม่อาจให้อภัยได้ มอบความสงบและความสุขให้ และก็ให้เรารับเอาสิ่งนั้นมาอย่างนั้นน่ะ...... ถ้าจะทำเรื่องแบบนั้น ฉันก็ไม่ต้องการให้ยื่นมือออกมาซะตั้งแต่ตอนแรกหรอก ดังนั้น ฉันจึงฆ่าคน ๆ นั้นทิ้งยังไงล่ะจ๊ะ"
เชราซาร์ด "................................................ ถ้าอย่างนั้น...... ......แล้วชั้นล่ะจะทำยังไง?"
กระพรวนเสน่ห์ลูชิโอล่า "เอ๊ะ......?"
เชราซาร์ด "ชั้นน่ะ...... ได้รับรู้ถึงความสงบสุขมาจากหัวหน้าคณะกับคุณพี่นี่นา...... ความรู้สึกที่เปี่ยมไปด้วยความอบอุ่น อย่างที่ในสลัมไม่อาจรู้สึกได้...... แต่...... หัวหน้าคณะตายไป...... ......แม้แต่คุณพี่ก็จากไป......... เรื่องแบบนั้นน่ะ...... ......มันคือการทรยศหักหลังที่หนักหนายิ่งกว่าไม่ใช่เหรอ!"
กระพรวนเสน่ห์ลูชิโอล่า "......หึหึ นั่นสินะ...... เชราซาร์ด เธอมีสิทธิ์ที่จะโกรธแค้นฉัน จงใช้ความโกรธแค้นอันนั้น เข้ามาฟาดฟันฉันซะ"
- ลูชิโอล่าคลี่พัดออก สองมือพริ้วไหวกรีดกรายพัดอย่างอ่อนช้อย เสียงกระพรวนดังขึ้น ปรากฏร่างของภูตรับใช้ 2 ตนกระพรวนเสน่ห์ลูชิโอล่า "ใช่ ถูกต้องจ้ะ สำหรับฉันแล้ว การตัดสินใจอย่างเด็ดขาดของเขา เป็นเพียงการทรยศหักหลังที่ไม่อาจให้อภัยได้ มอบความสงบและความสุขให้ และก็ให้เรารับเอาสิ่งนั้นมาอย่างนั้นน่ะ...... ถ้าจะทำเรื่องแบบนั้น ฉันก็ไม่ต้องการให้ยื่นมือออกมาซะตั้งแต่ตอนแรกหรอก ดังนั้น ฉันจึงฆ่าคน ๆ นั้นทิ้งยังไงล่ะจ๊ะ"
เชราซาร์ด "................................................ ถ้าอย่างนั้น...... ......แล้วชั้นล่ะจะทำยังไง?"
กระพรวนเสน่ห์ลูชิโอล่า "เอ๊ะ......?"
เชราซาร์ด "ชั้นน่ะ...... ได้รับรู้ถึงความสงบสุขมาจากหัวหน้าคณะกับคุณพี่นี่นา...... ความรู้สึกที่เปี่ยมไปด้วยความอบอุ่น อย่างที่ในสลัมไม่อาจรู้สึกได้...... แต่...... หัวหน้าคณะตายไป...... ......แม้แต่คุณพี่ก็จากไป......... เรื่องแบบนั้นน่ะ...... ......มันคือการทรยศหักหลังที่หนักหนายิ่งกว่าไม่ใช่เหรอ!"
กระพรวนเสน่ห์ลูชิโอล่า "......หึหึ นั่นสินะ...... เชราซาร์ด เธอมีสิทธิ์ที่จะโกรธแค้นฉัน จงใช้ความโกรธแค้นอันนั้น เข้ามาฟาดฟันฉันซะ"
เชราซาร์ด "คุณพี่......!
กระพรวนเสน่ห์ลูชิโอล่า "ทำท่าเหมือนกับจะไม่สามารถล้มฉันได้แบบนั้น พวกคนที่รออยู่ชั้นบนนี้ก็จะยิ่งไกลออกไปไม่ใช่เหรอ ลองทำลายการร่ายรำของ [กระพรวนเสน่ห์] ...... ให้งดงามหน่อยสิจ๊ะ"
กระพรวนเสน่ห์ลูชิโอล่า "ทำท่าเหมือนกับจะไม่สามารถล้มฉันได้แบบนั้น พวกคนที่รออยู่ชั้นบนนี้ก็จะยิ่งไกลออกไปไม่ใช่เหรอ ลองทำลายการร่ายรำของ [กระพรวนเสน่ห์] ...... ให้งดงามหน่อยสิจ๊ะ"
- กระพรวนเสน่ห์ลูชิโอล่า + แซ็คคูม + จูบอคโค + อัลลาวเน่ *2 - - 『幻惑のルシオラー + ザックーム + ジュポッコ + アルラウネ*2』 - |
**แนะนำ ให้ใส่เครื่องประดับป้องกัน "นอนหลับ" กับ "สับสน" เอาไว้ จะง่ายขึ้นค่ะ** **แนะนำ ให้ใช้ "คล็อกดาวน์" ใส่ศัตรู จะง่ายขึ้นค่ะ** **ในกรณีที่มีคลอเซ่ร่วมกลุ่ม แนะนำให้ใช้คราฟท์ "เคมป์ฟาร์2" ใส่ศัตรูเพื่อลด STR&DEF จะง่ายขึ้นค่ะ** **แนะนำ ให้มีอาร์ทคุณสมบัติ "ดิน" ติดตัวเอาไว้ด้วย เพราะศัตรูจะแพ้ทางค่ะ** **ระวัง "แซคคูม" ดูดซับการโจมตีด้วยอาร์ท ต้องใช้การโจมตีกายภาพปราบ ในทางกลับกัน "จูบอคโค" จะดูดซับการโจมตีกายภาพ ต้องใช้การโจมตีด้วยอาร์ทเท่านั้นค่ะ** **นอกจากนั้น เรามักจะโจมตี "อัลลาวเน่" ไม่ค่อยโดนนะคะ แนะนำให้ใช้อาร์ทโจมตีใส่ตัวนี้จะดีกว่า** **ระวัง หากลูชิโอล่าใช้ร่างแยก ไม่ว่าจะโจมตีกินอาณาเขตหรือไม่ก็ตาม ห้ามโจมตีร่างแยกโดยเด็ดขาด เพราะลูชิโอล่าจะสลับร่างแยก กลายเป็นให้เพื่อนเรามารับการโจมตีแทน ถ้ายังไงหาร่างจริงให้เจอ เมื่อโจมตีร่างจริง ร่างแยกจะหายไปค่ะ** **วิธีการดูร่างแยกของลูชิโอล่า เหมือนกับบลูแบลงเลยค่ะ** **โดยรวมแล้ว หลักการต่อสู้เหมือนตอนที่เจอในบทที่ 7 ค่ะ** ☆ดูคราฟท์ต่าง ๆ ของ "ลูชิโอล่า" ได้ตรงนี้ค่ะ☆ |
◆ในกรณีที่ไม่มี "เจ๊เชร่า" ร่วมกลุ่มมาด้วย ปราบได้ ลูชิโอล่าจะใช้วิชามายาล่าถอยไป โดยทิ้งท้ายเอาไว้ว่าบุญกรรมระหว่างเธอกับเชราซาร์ดยังไม่ได้ถูกตัดขาดซะทีเดียว สักวันหนึ่งคงจะมีโอกาสได้เจอกันอีกครั้งค่ะ (ถ้านำโอลิเวียร์, จินหรือเควินร่วมกลุ่มมาด้วย กระทาชายนายสามคนเนี๊ยะ จะรู้สึกติดใจพี่สาวเสน่ห์แรงคนนี้ด้วยนะคะ) สำหรับบทสนาต่อไปนี้ จะเป็นกรณีที่มีเจ๊เชร่าร่วมกลุ่มมาด้วยนะคะ
- ปราบได้ ลูชิโอล่าจะถอยร่นไปอยู่ตรงริมสุดของด้านนอกหอคอยค่ะ
กระพรวนเสน่ห์ลูชิโอล่า "หึหึ...... แบบนี้นี่เอง ถ้าเป็นแบบนี้ล่ะก็...... อาจจะมีสิทธิ์ที่จะไปข้างบนเรื่อย ๆ ก็เป็นได้นะ"
เชราซาร์ด "......คุณพี่ ขอชั้นแก้อะไรหน่อยได้มั้ย ------ชั้นน่ะ โกรธแค้นชิงชังคุณพี่ไม่ลงหรอกนะ ไม่ว่าจะเรื่องที่จากชั้นไป ไม่ว่าจะเรื่องที่ฆ่าหัวหน้าคณะไป...... ชั้นก็แค่...... รู้สึกเศร้าใจที่หมดสิ้นหนทางเท่านั้นเองนะ"
เอสเทล "เจ๊เชร่า......"
กระพรวนเสน่ห์ลูชิโอล่า "......เชราซาร์ด........."
เชราซาร์ด "แล้วชั้นก็ ทำใจให้เชื่อไม่ได้จริง ๆ ว่าคุณพี่ฆ่าหัวหน้าคณะไป เพราะเหตุผลพรรค์นั้น...... ฆ่าหัวหน้าคณะที่คิดถึงจิตใจของพวกเรา แล้วเลือกที่จะเป็นทุกข์เองแบบนั้น......"
- ลูชิโอล่านิ่งเงียบ ทอดสายตาไปยังเชราซาร์ดเชราซาร์ด "......คุณพี่ ขอชั้นแก้อะไรหน่อยได้มั้ย ------ชั้นน่ะ โกรธแค้นชิงชังคุณพี่ไม่ลงหรอกนะ ไม่ว่าจะเรื่องที่จากชั้นไป ไม่ว่าจะเรื่องที่ฆ่าหัวหน้าคณะไป...... ชั้นก็แค่...... รู้สึกเศร้าใจที่หมดสิ้นหนทางเท่านั้นเองนะ"
เอสเทล "เจ๊เชร่า......"
กระพรวนเสน่ห์ลูชิโอล่า "......เชราซาร์ด........."
เชราซาร์ด "แล้วชั้นก็ ทำใจให้เชื่อไม่ได้จริง ๆ ว่าคุณพี่ฆ่าหัวหน้าคณะไป เพราะเหตุผลพรรค์นั้น...... ฆ่าหัวหน้าคณะที่คิดถึงจิตใจของพวกเรา แล้วเลือกที่จะเป็นทุกข์เองแบบนั้น......"
กระพรวนเสน่ห์ลูชิโอล่า "......หึหึ...... ตบตาเธอไม่ได้จริง ๆ อย่างที่คิดไว้งั้นเหรอ"
เชราซาร์ด "เอ๊ะ......"
- ลูชิโอล่าพูดต่อ ด้วยรอยยิ้มที่แฝงไว้ด้วยความเศร้าอยู่ภายในเหมือนเช่นเคยเชราซาร์ด "เอ๊ะ......"
กระพรวนเสน่ห์ลูชิโอล่า "เรื่องที่เล่าเมื่อครู่นี้...... ยังมีต่อนะ ---------ตอนที่ฉันรู้ และตั้งใจจะไปเกลี้ยกล่อมคน ๆ นั้น ถึงแม้ว่ามันจะเป็นความมุ่งมั่นที่มั่นคงก็ตาม...... ฉัน ก็ได้เปิดเผยความรู้สึกที่เก็บซ่อนมาตลอดให้กับคน ๆ นั้นไป"
เชราซาร์ด "!!! คุณพี่รู้สึกกับ...... หัวหน้าคณะ...... ......เป็นแบบนั้น...... เองเหรอ......"
กระพรวนเสน่ห์ลูชิโอล่า "หึหึ นึกไม่ถึง เพราะมันแตกต่างกับท่าทางที่แสดงออกใช่มั้ยล่ะ รวมทั้ง...... คน ๆ นั้นก็เหมือนกัน ---------คิดมาตลอดว่าเป็นคนสำคัญเหมือนกับลูกสาวคนหนึ่ง จึงไม่สามารถตอบรับความรู้สึกได้ มองหาคู่ครองที่เหมาะสม อย่าปล่อยให้เป็นไปตามอารมณ์ชั่ววูบ...... ......ใช่แล้วล่ะ ฉันถูกปฏิเสธตามที่เขาว่ากล่าวตักเตือนยังไงล่ะ"
เชราซาร์ด "............................................"
กระพรวนเสน่ห์ลูชิโอล่า "ที่ถูกปฏิเสธฉันเองก็ช็อก แล้วก็รู้สึกกลัวยิ่งขึ้นกว่าเดิม ---------เพื่อที่จะไม่ทำให้ฉันหลงผิด...... ต้องมองหาคู่ครองที่เหมาะสมให้ได้...... จากที่พูดมา เป็นไปได้ว่าคน ๆ นั้น อาจจะตีตัวออกห่างจากฉันไปจริง ๆ"
เชราซาร์ด "อะ......"
- ทั้ง ๆ ที่ตลอดมาไม่ว่าจะรู้สึกเช่นไร ลูชิโอล่าก็แทบไม่แสดงให้เห็นความรู้สึกที่แท้จริงของเธอออกมา แต่ยามที่พูดถึงเรื่องราวต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นเมื่อครั้งอดีต ลูชิโอล่าก็แสดงความรู้สึกโกรธแค้นอย่างเห็นได้ชัดเชราซาร์ด "!!! คุณพี่รู้สึกกับ...... หัวหน้าคณะ...... ......เป็นแบบนั้น...... เองเหรอ......"
กระพรวนเสน่ห์ลูชิโอล่า "หึหึ นึกไม่ถึง เพราะมันแตกต่างกับท่าทางที่แสดงออกใช่มั้ยล่ะ รวมทั้ง...... คน ๆ นั้นก็เหมือนกัน ---------คิดมาตลอดว่าเป็นคนสำคัญเหมือนกับลูกสาวคนหนึ่ง จึงไม่สามารถตอบรับความรู้สึกได้ มองหาคู่ครองที่เหมาะสม อย่าปล่อยให้เป็นไปตามอารมณ์ชั่ววูบ...... ......ใช่แล้วล่ะ ฉันถูกปฏิเสธตามที่เขาว่ากล่าวตักเตือนยังไงล่ะ"
เชราซาร์ด "............................................"
กระพรวนเสน่ห์ลูชิโอล่า "ที่ถูกปฏิเสธฉันเองก็ช็อก แล้วก็รู้สึกกลัวยิ่งขึ้นกว่าเดิม ---------เพื่อที่จะไม่ทำให้ฉันหลงผิด...... ต้องมองหาคู่ครองที่เหมาะสมให้ได้...... จากที่พูดมา เป็นไปได้ว่าคน ๆ นั้น อาจจะตีตัวออกห่างจากฉันไปจริง ๆ"
เชราซาร์ด "อะ......"
กระพรวนเสน่ห์ลูชิโอล่า "......ฉับพลันที่ตระหนักได้แบบนั้น อะไรบางอย่างก็ระเบิดขึ้นภายในใจฉัน ......เพื่อที่จะไม่ให้ไปจากฉัน...... เพื่อที่จะทำให้เป็นของ ๆ ฉันไปชั่วนิรันดร์...... ทำตามเสียงกระซิบที่ได้ยินนั่น...... แล้วก็ลงมือกับคน ๆ นั้นด้วยมือคู่นี้"
เชราซาร์ด "......คุณพี่ ......ลูชิโอล่า......"
กระพรวนเสน่ห์ลูชิโอล่า "ที่รู้สึกได้ถึงความมืดมิดที่จมดิ่งอยู่ภายในตัวเอง ก็ตั้งแต่ตอนนั้นนั่นแหล่ะ เพื่อที่จะเป็นไปตามที่ความมืดมิดชี้นำ ฉันจึงตอบรับคำเชิญชวนของ [งูกินหาง] 『身食らう蛇』...... ไม่ทันตั้งตัว...... เวลาก็ผ่านไปจนมาถึงตอนนี้แล้ว หึหึ อาจจะเป็นโอกาสเหมาะก็ได้นะ"
เชราซาร์ด "เอ๊ะ......"
- ลูชิโอล่าถอยหลังออกไปอีก "คุณพี่ อย่าน้าาาา!" เจ๊เชร่ารีบร้องห้ามด้วยเสียงอันดัง แล้วรีบวิ่งออกไปในจังหวะที่ลูชิโอล่าทิ้งตัวลงสู่เบื้องล่าง เสียงตวัดแส้ดังขึ้น ช่วงเวลานี้ มีเพียงแส้เส้นบาง ๆ ที่ยื้อชีวิตของลูชิโอล่าเอาไว้เชราซาร์ด "......คุณพี่ ......ลูชิโอล่า......"
กระพรวนเสน่ห์ลูชิโอล่า "ที่รู้สึกได้ถึงความมืดมิดที่จมดิ่งอยู่ภายในตัวเอง ก็ตั้งแต่ตอนนั้นนั่นแหล่ะ เพื่อที่จะเป็นไปตามที่ความมืดมิดชี้นำ ฉันจึงตอบรับคำเชิญชวนของ [งูกินหาง] 『身食らう蛇』...... ไม่ทันตั้งตัว...... เวลาก็ผ่านไปจนมาถึงตอนนี้แล้ว หึหึ อาจจะเป็นโอกาสเหมาะก็ได้นะ"
เชราซาร์ด "เอ๊ะ......"
กระพรวนเสน่ห์ลูชิโอล่า "หึหึ...... การใช้แส้ก็เก่งขึ้นมากทีเดียวไม่ใช่เหรอ ทั้ง ๆ ที่ตอนแรก ๆ ไม่ได้เรื่องขนาดนั้นแท้ ๆ น่ะ"
- "เจ๊เชร่า!" เอสเทลวิ่งนำเพื่อน ๆ เข้ามา
กระพรวนเสน่ห์ลูชิโอล่า "เอสเทล โยชัวร์...... ครู่เดียวก็ได้...... ปล่อยให้ฉันได้พูดกับเด็กคนนี้ทั้ง ๆ อย่างนี้เถอะ"
เอสเทล "ตะ แต่ว่า......!"
โยชัวร์ "ลูชิโอล่า...... คุณ......"
เชราซาร์ด "มะ ไม่ใช่เวลาจะมาพูดคุยกันซักหน่อย!? จับเอาไว้นะจะดึงขึ้นมาเดี๋ยวนี้ล่ะ!"
กระพรวนเสน่ห์ลูชิโอล่า "นี่ เชราซาร์ด...... เรื่องที่ใช้มือคู่นี้ทำกับคน ๆ นั้น แม้แต่ตอนนี้ฉันก็ไม่ได้นึกเสียใจในภายหลังหรอกนะ...... แต่เรื่องที่นึกเสียใจจริง ๆ มีอยู่เรื่องเดียว คือการจากเธอไป ---------เธอจะเป็นอย่างไรและทำอะไรอยู่ นั่นเป็นสิ่งที่ติดค้างอยู่ภายในใจฉัน แต่ว่า ถึงฉันจะไม่อยู่ เธอก็ยังคงเติบโตขึ้นอย่างมั่นคง และสามารถค้นหาเส้นทางของตนด้วยตัวของตัวเองจนเจอ"
เชราซาร์ด "คุณพี่...... ขอร้องล่ะ......"
- ลูชิโอล่าพูดต่อด้วยสีหน้าอันเศร้าสร้อยเอสเทล "ตะ แต่ว่า......!"
โยชัวร์ "ลูชิโอล่า...... คุณ......"
เชราซาร์ด "มะ ไม่ใช่เวลาจะมาพูดคุยกันซักหน่อย!? จับเอาไว้นะจะดึงขึ้นมาเดี๋ยวนี้ล่ะ!"
กระพรวนเสน่ห์ลูชิโอล่า "นี่ เชราซาร์ด...... เรื่องที่ใช้มือคู่นี้ทำกับคน ๆ นั้น แม้แต่ตอนนี้ฉันก็ไม่ได้นึกเสียใจในภายหลังหรอกนะ...... แต่เรื่องที่นึกเสียใจจริง ๆ มีอยู่เรื่องเดียว คือการจากเธอไป ---------เธอจะเป็นอย่างไรและทำอะไรอยู่ นั่นเป็นสิ่งที่ติดค้างอยู่ภายในใจฉัน แต่ว่า ถึงฉันจะไม่อยู่ เธอก็ยังคงเติบโตขึ้นอย่างมั่นคง และสามารถค้นหาเส้นทางของตนด้วยตัวของตัวเองจนเจอ"
เชราซาร์ด "คุณพี่...... ขอร้องล่ะ......"
กระพรวนเสน่ห์ลูชิโอล่า "ถึงแม้จะมีเพียงเรื่องนั้นที่ทำให้แน่ใจได้ แต่ก็คุ้มค่าแล้วที่ได้มายังลีเบร์ล ที่จริงแล้วฉันอยากจะให้เธอตัดสินความผิดของฉัน...... แต่เรื่องนั้น...... มันเป็นเรื่องที่เห็นแก่ตัวเกินไปจริง ๆ สินะ......"
เชราซาร์ด "......ขอร้องล่ะ จับให้แน่น ๆ เถอะ!"
กระพรวนเสน่ห์ลูชิโอล่า "หึหึ เหล้ามันก็ดีอยู่หรอก...... ......แต่ดื่มให้พอประมาณหน่อยล่ะ"
- "ล่าก่อน...... เชราซาร์ดของพี่" ลูชิโอล่าใช้พัดเหล็กของเธอ ตัดแส้ที่พันข้อมือทิ้ง "คุณพี่ลูชิโอล่าาาาาา!" ลูชิโอล่าร่วงหล่นลงสู่เบื้องล่าง ร่างของเธอค่อย ๆ ลับตาไป เจ๊เชร่าทำได้แต่เพียงร้องเรียกเท่านั้นเชราซาร์ด "......ขอร้องล่ะ จับให้แน่น ๆ เถอะ!"
กระพรวนเสน่ห์ลูชิโอล่า "หึหึ เหล้ามันก็ดีอยู่หรอก...... ......แต่ดื่มให้พอประมาณหน่อยล่ะ"
เอสเทล "จะ เจ๊เชร่า......"
โยชัวร์ "คุณเชร่า......"
เชราซาร์ด "............ไม่เป็นไร....................."
- เจ๊เชร่าลุกขึ้นยืน หันมาพูดด้วยรอยยิ้มที่เศร้าสร้อยกับพวกเอสเทลโยชัวร์ "คุณเชร่า......"
เชราซาร์ด "............ไม่เป็นไร....................."
เชราซาร์ด "......คุณพี่คนนั้น แค่ตกลงไปไม่น่าจะถึงตายหรอก สักวันหนึ่งต้องได้...... ......ต้องได้...... พบกันอีกครั้งแน่นอน"
เอสเทล "อะ อืม...... ต้องเป็นแบบนั้นอยู่แล้วล่ะ! ก็ เป็นคนที่สามารถใช้ภูติรับใช้ที่ยอดเยี่ยม แล้วก็ใช้วิชาย้ายที่ไปไหนมาไหนได้แบบนั้นด้วยนี่นา! ต้อง...... ......ต้องไม่เป็นอะไรแน่ ๆ อยู่แล้ว!"
เชราซาร์ด "หึหึ...... จริงด้วยนะ......"
- เจ๊เชร่าตอบเอสเทลด้วยรอยยิ้ม แต่ก็เงียบไปครู่นึง จนเพื่อน ๆ ที่มาด้วยต้องบอกให้เธอเลิกฝืนตัวเอง แล้วกลับไปพักซักหน่อย แต่เจ๊เชร่าบอกว่าเธอไม่เป็นไร เพราะเดี๋ยวพี่ลูชิโอล่าจะหัวเราะเยาะเธอเอา ว่าแล้วก็บอกให้เราลุยไปข้างหน้าต่อค่ะเอสเทล "อะ อืม...... ต้องเป็นแบบนั้นอยู่แล้วล่ะ! ก็ เป็นคนที่สามารถใช้ภูติรับใช้ที่ยอดเยี่ยม แล้วก็ใช้วิชาย้ายที่ไปไหนมาไหนได้แบบนั้นด้วยนี่นา! ต้อง...... ......ต้องไม่เป็นอะไรแน่ ๆ อยู่แล้ว!"
เชราซาร์ด "หึหึ...... จริงด้วยนะ......"
- เข้าไปสำรวจคอมพิวเตอร์ปลายทาง เมื่อสำรวจแล้วกำแพงที่กั้นประตูอยู่จะหายไป และสามารถใช้งานแท่นวาร์ปได้เหมือนชั้นที่ผ่านมาค่ะ
previous: Epilogue Chapter รอยทางแห่งฟากฟ้า - Part 1
to be continued: Epilogue Chapter รอยทางแห่งฟากฟ้า - Part 3
to be continued: Epilogue Chapter รอยทางแห่งฟากฟ้า - Part 3
Related entries:
◆ Sora no Kiseki SC (空の軌跡SC)
No comments:
Post a Comment