Saturday, October 21, 2017

[บทสรุป] Sora no Kiseki SC - Epilogue chapter รอยทางแห่งฟากฟ้า - Part 2

บทส่งท้าย รอยทางแห่งฟากฟ้า
終章 空の軌跡
- Part 2 -


อัลเซยู 『アルセイユ』
- ลองแวะไปที่ [อัลเซยู] ในช่วงนี้ จะมีความเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นด้วยนะคะ ไม่ว่าจะแสงไฟตามทางเดินที่กลับมาใช้งานได้ปกติ หรือแม้แต่เรื่องที่ [อัลเซยู] กับ [แมวป่า] เริ่มทำการติดต่อกันค่ะ (ไม่บังคับค่ะ)
☆สถานที่ที่เหล่าพวกพ้องแยกย้ายกันไปให้ความช่วยเหลือ☆
เขตสวนหย่อม ไนแอล (ไนแอลบอกว่า เขาสำรวจรอบ ๆ อัลเซยูหมดแล้ว ก็เลยลองออกมาสำรวจไกล ๆ ดูบ้าง แต่ก็แทบไม่เชื่อสายตาเลยว่า จะมีสถานที่แบบนี้อยู่บนฟ้า ถ้าเอาลงฉบับพิเศษคงจะขายดีแน่ ๆ ค่ะ), โดรธี
ห้องบังคับการ คลอเซ่, ร้อยเอกยูเลีย, เจ้าหน้าที่สังเกตการณ์เอโก้, เจ้าหน้าที่สื่อสารริออน
ดาดฟ้าส่วนท้ายเรือ เจ้าหน้าที่บังคับการบินลูคูส, ไครเซ็น
ห้องพักผ่อน โอลิเวียร์, กุ๊กเคธี่, ทหารหน่วยองครักษ์
ทางเดินภายในยาน เจ๊เชร่า
โรงงาน โจเซ็ต, ดร. รัซเซล, ช่างซ่อมบำรุงเพตัน
ทางเดินหน้าโรงงาน ทีต้า (ได้รับทราบว่า พวกคุณตาของเธอจะเข้าไปในห้องเครื่อง เพื่อทำการซ่อมแซมเครื่องยนต์ลอยตัวค่ะ)
ห้องพยาบาล เควิน
ห้องพัก ทหารหน่วยองครักษ์
ใต้ท้องเรือ ทหารหน่วยองครักษ์
รอยที่อัลเซยูไถลลงมา อากัต, จิน, เฟย์, ทหารหน่วยองครักษ์
ด้านนอกอัลเซยู พันตรีมิวเลอร์
เส้นทางใต้ดินลีเบล=อาร์ค - 3 『リベルアーク地下道・3』
- ลงลิฟท์ไปที่เขตอุตสาหกรรม เข้าไปในเส้นทางใต้ดินได้เลยค่ะ
☆ไอเทมที่พบ "ยาแห่งคิวเรีย", "เซพิธทุกคุณสมบัติx100" และ "EPชาร์จII" ค่ะ☆
☆ไอเทมที่พบ "EPชาร์จIII", "ชพีเกล" (สู้กับ ไกรลาส เกรย์ + เอโบนี่ สเกล *2 + พลูโต แองเกอร์ *2),
"ยาแห่งอาเซราส", "ยาแห่งคิวเรีย", "อัญมณีประกายพฤกษ์ (สกัดกั้น5)"
และ "เซพิธทุกคุณสมบัติx100" ค่ะ☆
☆ไอเทมที่พบ "อัญมณีประกายวารี (HP5)","S-แทบเล็ต" , "ยาแห่งคิวเรีย",
"ตุ๊กตานาทีชีวิต", "EPชาร์จII", "ยาแห่งเทียร์ ออล"
และ "พาร์เทนอน เกียร์" (สู้กับ ไกรลาส เกรย์ + เอโบนี่ สเกล *2 + พลูโต แองเกอร์ *2) ค่ะ☆
- ระหว่างทางจะเกิดการต่อสู้กับ (ไกรลาส เกรย์ *8) ค่ะ
หอคอยแกนกลาง [แอคซิสพิลล่าร์] 『中枢塔《アクシスピラー》』
- เมื่อไปต่อ เราจะออกไปสู่เขตที่ "แอคซิสพิลล่าร์ (หอคอยแกนกลาง)" 『中枢塔(アクシスピラー)』 ตั้งตระหง่านอยู่ค่ะ
(จากการลงความเห็นกัน สรุปว่าพอมาดูใกล้ ๆ แล้ว เจ้าหอคอยนี่มีขนาดใหญ่กว่าที่พวกเราคาดเอาไว้ซะอีกค่ะ)
- "......นี่ โยชัวร์ เรเวหรือพวกศาสตราจารย์จะอยู่ที่นั่นมั้ยนะ?" เอสเทลหันมาถามโยชัวร์ด้วยความกังวล
โยชัวร์ "......มีความเป็นไปได้สูง ดูเหมือนจะเป็นสถานที่ที่ควบคุมดูแลแกนกลางของนคร อาจจะมีเงื่อนงำของ [วงแหวนประกายแสง] อยู่ก็เป็นได้นะ"
เอสเทล "งั้นเหรอ...... ......จะเอายังไงดี? จะบุกเข้าไปทั้ง ๆ อย่างนี้เลยมั้ย?"
โยชัวร์ "......ถ้าพวกเรเวอยู่ล่ะก็ ผมว่าสำหรับเวลานี้ คงจะเป็นการต่อสู้ที่ยากลำบากจนไม่อาจประมาณได้ ไปเตรียมตัวให้เรียบร้อยหลังจากกลับไปที่ [อัลเซยู] ครั้งนึงก่อนน่าจะดีนะ"
เอสเทล "อื้ม...... จริงด้วยนะ"
- จากตรงนี้ เราจะแวะกลับไปที่อัลเซยูก่อน หรือจะมุ่งหน้าไปต่อเลยก็ได้ตามสะดวกเลยค่ะ
- ถ้าเราสำรวจประตูเส้นทางใต้ดินที่อยู่ตรงทิศตะวันตกของฉาก (ตรงข้ามกับทางที่เราขึ้นมา) จะมีป้ายบอกว่าหลังประตูนี้จะเป็น "เส้นทางหนีไฟ" ระหว่าง แอคซิสพิลล่าร์ <-> คาล์มาเร่ สำหรับกรณีที่มีความผิดปกติกับการจ่ายพลังงานออร์บเมนท์ ประตูจะปลดล็อกแบบอัตโนมัติค่ะ ซึ่งข้อความจะมีลักษณะคล้าย ๆ กับอีกประตูที่เราได้พบในเส้นทางใต้ดิน 1 ค่ะ (ไม่บังคับค่ะ)
สถานีหน้าแอคซิสพิลล่าร์ 『アクシスピラー前駅』
- ใช้ลิฟท์ที่อยู่ทางด้านทิศใต้ของฉาก จะสามารถขึ้นไปที่ "สถานีหน้าแอคซิสพิลล่าร์" ได้ค่ะ
- คำสั่งต่าง ๆ ของคอมพิวเตอร์ปลายทาง มีดังนี้ค่ะ
(1) แนะนำแอคซิสพิลล่าร์ 『アクシスピラーのご案内』
ยินดีต้อนรับ เหล่าเบรเซอร์ทั้งหลาย
ฉันได้ตั้งสมมติฐานว่าพวกเธอทุกคนจะมาถึงที่นี่ได้ จึงขอทิ้งข้อความอันนี้เอาไว้ให้
[แผนการพระสุรเสียง] 『福音計画』 ได้เข้าสู่กระดานหมากสุดท้าย และ [วงแหวนประกายแสง] 『輝く環』 ก็ใกล้จะลืมตาตื่นอย่างแท้จริงแล้ว
ฉันตั้งใจจะให้พวกเธอได้มาร่วมเป็นสักขีพยาน ณ สถานที่แห่งนั้นด้วย แต่การพาชมสถานที่แบบธรรมดามันน่าเบื่อเกินไปหน่อย
ดังนั้น มาเล่นเกมกันสักเกมเถอะ
ในแต่ละจุดของหอคอยแกนกลาง จะมีผู้ร่วมมือของฉันเตรียมพร้อมรอต้อนรับอยู่
หากทะลวงฝ่าฟันพวกเขา ผ่านมาจนถึงจุดสูงสุดได้ล่ะก็ ฉันจะให้พวกเธอได้เห็นการฟื้นคืนชีพของ [วงแหวน] 『環』
ถ้าอย่างนั้น ฉันจะตั้งตารออย่างใจจดใจจ่อนะ
[สาวกแห่งงู] เสาต้นที่ 3 เกออร์ก ไวส์แมน
P.S. ถึงโยชัวร์
การพยายามจนได้มาพบกับครอบครัวหรือพวกพ้องอันแสนสำคัญอีกครั้งนั้น เป็นเรื่องน่ายินดีเสียยิ่งกว่าอะไร
แต่ทว่า อย่าได้รู้สึกลำพองใจนิด ๆ หน่อย ๆ ถือตัวว่าเรเวหรือเร็นง่าย ๆ ล่ะ
ลองพูดคุยกันให้เข้าใจ เพราะฉันอุตส่าห์จัดเตรียมโอกาสอันดีเอาไว้ให้เชียวนะ
- แทนที่จะเป็นข้อความแนะนำสถานที่ แต่กลับกลายเป็นข้อความที่ไวส์แมนเขียนขึ้นเพื่อส่งสารถึงพวกเรา และเมื่ออ่านข้อความจบ ทุกคนรู้สึกว่าไวส์แมนช่างเป็นคนที่มีรสนิยมแย่ ๆ รวมทั้งมีนิสัยบิด ๆ เบี้ยว ๆ ที่เหลือรับจริง ๆ ค่ะ
- "นี่ โยชัวร์ ไม่จำเป็นต้องไปใส่ใจหรอกนะ?" เอสเทลหันมาพูดให้โยชัวร์สบายใจ
โยชัวร์ "......ไม่เป็นไรหรอก ผมไม่ได้ใส่ใจอยู่แล้วล่ะ ยังไงก็ตาม รู้สึกว่าพวกเรเวจะอยู่ข้างในนั้นตามคาดนะ ท่าทางต้องทุ่มเทความตั้งใจกันหน่อยล่ะ"
เอสเทล "......อื้ม!"
(2) ใช้เรลไฮโลว์ 『レールハイロゥのご利用』
- เลือกคำสั่งที่ 1 "ใช้งาน" ในโหมดฉุกเฉิน [เรลไฮโลว์] จะวิ่งตามรางเรืองแสงมาประจำที่สถานีนี้ซึ่งเป็นสถานีสุดท้ายค่ะ
(3) ออนไลน์ช็อป 『オンラインショップ』
- สถานีนี้มีควอทซ์ให้ผสมได้ 4 ชนิดก็คือ "อัญมณีประกายวารี (HP5)", "อัญมณีประกายวายุ (หลบหลีกEP5)", "อัญมณีประกายพฤกษ์ (สกัดกั้น5)" และ "อัญมณีประกายมายา (แม่นยำ5)" ค่ะ
(4) ปลดล็อกประตู 『ゲートのロック解除』
- เนื่องจาก เราได้ปลดล็อกเส้นทางใต้ดินหมายเลข 246 ไปแล้ว และเส้นทางอีกเส้นเป็นเส้นทางเฉพาะกรณีฉุกเฉินเท่านั้น จึงไม่สามารถปลดล็อกประตูจากคอมพิวเตอร์ปลายทางเครื่องนี้ได้ค่ะ
(5) จบการใช้บริการ 『サービスを中止する』
- ออกจากเมนูคำสั่งค่ะ
อัลเซยู 『アルセイユ』
- ช่วงนี้ ถือโอกาสใช้ [เรลไฮโลว์] กลับไปเตรียมตัวที่ [อัลเซยู] ได้นะคะ ซึ่งเราจะพบว่า การซ่อมแซมอัลเซยูเกือบจะเสร็จสมบูรณ์แล้ว เหลือแค่การเก็บกู้หูกรรเชียงกาบซ้ายของเรือที่โดนฟันจนกระเด็นมาซ่อมแซมเท่านั้นเองค่ะ และที่เห็นทุกคนกลับไปประจำที่ของตนเองนั้น ก็เพราะอัลเซยูจะเริ่มทดสอบเครื่องยนต์ลอยตัวก่อนเก็บกู้หูกรรเชียงค่ะ (ไม่บังคับค่ะ)
☆สถานที่ที่เหล่าพวกพ้องแยกย้ายกันไปให้ความช่วยเหลือ☆
ห้องบังคับการ คลอเซ่, ร้อยเอกยูเลีย, มิวเลอร์, ไนแอล, โดรธี, เจ้าหน้าที่สังเกตการณ์เอโก้, เจ้าหน้าที่บังคับการบินลูคูส, เจ้าหน้าที่สื่อสารริออน
หน้าห้องบังคับการ ทหารหน่วยองครักษ์
ห้องพักผ่อน โอลิเวียร์, เจ๊เชร่า, จิน, กุ๊กเคธี่
ทางเดินภายในยาน ทหารหน่วยองครักษ์
โรงงาน ทีต้า, โจเซ็ต, ดร. รัซเซล, เฟย์, ช่างซ่อมบำรุงเพตัน
ห้องพยาบาล เควิน
ห้องพัก อากัต
ใต้ท้องเรือ ทหารหน่วยองครักษ์ 2 นาย
ด้านนอกอัลเซยู ไครเซ็น
- ลองแวะไปที่โรงงานอัลเซยู แล้วสำรวจ [คาเปล] เลือกคำสั่ง "ดาต้าคริสตัล" 『データクリスタル』 จะพบว่า [คาเปล] ประมวลผล และแกะข้อความในดาต้าคริสตัลทั้งหมดเรียบร้อยแล้วค่ะ
❤ดูข้อมูลในดาต้าคริสตัลแต่ละอันตรงนี้ค่ะ❤
หอคอยแกนกลาง [แอคซิสพิลล่าร์] 『中枢塔《アクシスピラー》』
- เมื่อเข้าไปสู่ทางเข้า [แอคซิสพิลล่าร์] จะเกิดการต่อสู้ขึ้นทันทีค่ะ
- ไรอ็อต โครว์ + โซลิด ซีกเกอร์ *2 -
- 『ライアットクロウ + ソリッドシーカー*2』 -
**ไรอ็อต โครว์ จะมีแพทเทิร์นการโจมตีเหมือนกับไรอ็อต อาร์มส์ที่เราเจอมาก่อนหน้านี้เลยค่ะ แต่ตัวนี้น่ากลัวตรงที่ว่า ค่าพลังค่อนข้างสูง และท่าที่ควรระวังคือ "พลาสมา บอล" ที่จะโจมตีเราทำให้เราติด "ผนึกทักษะ" ถ้าไม่อยากเสียเวลาแก้ แนะนำให้ใส่เครื่องประดับกันไว้ได้เลยค่ะ**
**เวลาโซลิด ซีกเกอร์พัง จะใช้พลังเฮือกสุดท้ายเพิ่ม DEF&SPD ให้กับศัตรูที่เหลืออยู่ ยกเว้นไรอ็อต โครว์ค่ะ**
**ระวัง ไรอ็อต โครว์ สามารถเรียก "โซลิด ซีกเกอร์" มาเพิ่มได้ค่ะ**
- ปราบได้ มุ่งหน้าเข้าไปในหอคอยได้เลยค่ะ
- เมื่อเข้ามา เอสเทลจะสังเกตเห็นของเหลวไร้รูปที่เรืองแสงอยู่ด้านล่าง โยชัวร์สันนิษฐานว่า น่าจะเป็นของเหลวที่เต็มไปด้วยพลังงานออร์บเมนท์แรงดันสูง และแนะนำว่าอย่าไปสัมผัสโดยตรงจะดีกว่าค่ะ
หอคอยแกนกลาง - ชั้นที่ 1 『中枢塔・第一層』
☆ไอเทมที่พบ "ยาแห่งเซราส", "เซรั่มแคปซูล", "ตุ๊กตานาทีชีวิต",
"ยาแห่งเทียร์ ออล", "ลองบาเรลIII" และ "ยาแห่งเทียร์ ออล" ค่ะ☆
☆ไอเทมที่พบ "เบรฟ สตัฟฟ์" (สู้กับ มาสเตอร์ แทร็ปเปอร์ *3) ค่ะ☆
หอคอยแกนกลาง - ชั้นที่ 2 『中枢塔・第二層』
- เมื่อออกไปด้านนอกหอคอย ในขณะที่พวกเราจะลองสำรวจแผ่นหินที่ลักษณะท่าทางน่าจะเป็นคอมพิวเตอร์ปลายทาง โยชัวร์ก็พูดขึ้นมาเรียบ ๆ ว่าการสำรวจเอาไว้ทีหลัง แล้วเสียงหนึ่งก็ดังขึ้น "หึหึ สมกับที่เป็น [เขี้ยวดำขลับ] 『漆黒の牙』 ไม่เพียงแต่การเร้นกาย แต่ยังสามารถจับวี่แววที่ซ่อนเร้นได้ด้วยเหรอเนี่ย"
- สิ้นเสียง บนยอดเสา ณ เบื้องหน้าของพวกเรา ก็เกิดพายุม่านกุหลาบ ณ จุดศูนย์กลางของพายุนั้นปรากฏร่างของ "จอมโจรลึกลับบลูแบลง" [ผู้ดำเนินแผนการ] No.X ขึ้นค่ะ
◆ในกรณีที่มี "คลอเซ่" หรือ "โอลิเวียร์" ร่วมกลุ่มมาด้วย จะมีบทสนทนาพิเศษนิด ๆ หน่อย ๆ ระหว่างบลูแบลงและสองคนนี้ แต่ในกรณีที่ไม่มีคลอเซ่หรือโอลิเวียร์ บลูแบลงจะรู้สึกผิดหวังเล็ก ๆ ที่องค์หญิงหรือคู่ปรับของเขาไม่มาค่ะ สำหรับบทสนาต่อไปนี้ จะเป็นกรณีที่มีทั้งคลอเซ่และโอลิเวียร์นะคะ
เอสเทล "จะ เจ้าหน้ากาก......!"
โยชัวร์ "บลูแบลง...... คุณเองเหรอ"
จอมโจรบลูแบลง "ยินดีต้อนรับโยชัวร์...... แล้วก็เอสเทล ไบรท์ และแทบไม่น่าเชื่อเลยว่า องค์หญิงกับคู่ปรับของฉันก็อยู่ด้วย...... ขอให้สุภาพบุรุษจอมโจรลึกลับคนนี้ ได้ต้อนรับพวกเธอทุกคนด้วยความยินดีเป็นล้นพ้นด้วยเถอะ"
เอสเทล "ตะ ต้อนรับเหรอ......"
โอลิเวียร์ "หึ จัดฉากที่ใช้ปรากฏตัวเอิกเกริกเกินไปหน่อยหรือเปล่า"
คลอเซ่ "......ดูท่าแล้ว คุณคงจะเป็นอุปสรรคด่านแรกสินะคะ"
จอมโจรบลูแบลง "หึหึ...... เป็นทั้งด่านแรก และก็เป็นทั้งด่านสุดท้ายต่างหาก เพราะสิ่งที่อยู่ตรงนี้ คือคอมพิวเตอร์ปลายทางที่จะใช้ปลดล็อกประตูซึ่งจะขึ้นไปสู่ชั้นบน [หอคอยแกนกลาง] น่ะ ตราบใดที่เจ้านี่ทำงานอยู่ พวกเธอทุกคนก็ไม่อาจไปถึง [วงแหวน] ได้ชั่วนิรันดร์"
เอสเทล "วะ ว่าไงนะ~!?"
โยชัวร์ "......บลูแบลง คุณน่าจะเป็นคนที่มีความเกี่ยวข้องน้อยที่สุด ในบรรดาผู้ดำเนินแผนการที่มายังลีเบร์ลเพื่อแผนการในคราวนี้ ยิ่งไปกว่านั้น มีเหตุผลอะไรที่คุณต้องเชื่อฟังศาสตราจารย์และมาสู้กับพวกผม?"
จอมโจรบลูแบลง "หึหึ...... ฉันไม่ได้เชื่อฟังศาสตราจารย์อย่างที่ว่าซักหน่อย เท่าที่รู้ พวกเรา [ผู้ดำเนินแผนการ] 『執行者』 ไม่ได้มีหน้าที่ที่จะคอยทำตามคำสั่งที่ไม่พึงปรารถนา ---------สำหรับ [สาวก] 『使徒』 มันของแน่ แต่ถึงจะเป็นคำบัญชาของ [นายเหนือหัว] 『盟主』 ก็ไม่ต่างกันหรอก หึหึ แต่ดูเหมือนว่า เธอที่เคยเป็นตุ๊กตาของศาสตราจารย์จะอยู่ในสถานะที่ผิดแผกไปนิดหน่อยนี่นะ"
- โยชัวร์นิ่งเงียบไม่อาจเถียงอะไรได้ เพราะตลอดเวลาที่ผ่านมาเขาทำงานโดยไม่มีแข็งขืน เป็นเพียงตุ๊กตาที่ได้แต่ทำตามคำสั่งของไวส์แมน ไม่ผิดไปจากที่บลูแบลงบอกเลยแม้แต่น้อย
จอมโจรบลูแบลง "เหตุผลที่ฉันใส่ใจเป็นพิเศษนั้นมีเพียงข้อเดียว...... ก็คือ มีสิ่งที่งดงามซึ่งมีค่ามากพอที่จะขโมยอยู่ที่นั่นหรือไม่เท่านั้น เพราะอย่างนั้น ฉันจึงมาอยู่ที่นี่"
คลอเซ่ "สิ่งที่งดงามซึ่งมีค่ามากพอที่จะขโมย......"
โอลิเวียร์ "หืมม์ แล้วมันคืออะไรล่ะ?"
- บลูแบลงแสยะยิ้ม
จอมโจรบลูแบลง "หึหึ...... นั่นก็คือ [ความหวัง] ของพวกเธอทุกคนยังไงล่ะ"
เอสเทล "!?"
จอมโจรบลูแบลง "ยิ่งมีอุปสรรคขวากหนามมากเท่าไร สิ่งที่เรียกว่า [ความหวัง] นั้น ก็ยิ่งเจิดจรัสงดงาม เพื่อที่จะมองดูประกายแสงอันนั้น ฉันถึงได้มารอพวกเธอทุกคนอยู่ที่นี่ ผลลัพธ์ของสิ่งที่ว่ามานั้น ก็คือ [ความหวัง] ที่มลายหายไปราวกับดอกไม้ไฟในฤดูร้อน...... ฉันอยากจะเห็นจุดสูงสุดของมันยิ่งนัก!"
- บลูแบลงกวัดแกว่งคฑาเรียก "บาลานซิ่งคราวน์" ออกมา พลางพูดต่อด้วยความตื่นเต้น
จอมโจรบลูแบลง "เอ้า ทำให้ดูหน่อยสิ ประกายแสงในยามที่อัญมณีซึ่งได้ชื่อว่าความหวังนั้น แตกกระจัดกระจายไปน่ะ!"
เอสเทล "จะ เจื้อยแจ้วเอาแต่ตัวเองเข้าว่ามากไปหรือเปล่ายะ!"
คลอเซ่ "ถ้าเช่นนั้น เรามาพิสูจน์กันเถอะค่ะ...... ว่าความหวังที่สายสัมพันธ์รังสรรค์ขึ้น มิอาจแตกกระจัดกระจายไปได้!"
โอลิเวียร์ "และถ้าหากมีความรัก แสงไฟแห่งความหวัง ก็จะลุกโชนโชติช่วงเรื่อยไปตราบชั่วฟ้าดินสลาย!"
- จอมโจรบลูแบลง + บาลานซิ่งคราวน์ *2-
- 『怪盗ブルブラン + バランシングクラウン*2』 -
**แนะนำ ให้ใส่เครื่องประดับป้องกัน "ผนึกทักษะ" และ "ผนึกมาร" เอาไว้ จะง่ายขึ้นค่ะ**
**แนะนำ ให้ใช้ "คล็อกดาวน์" ใส่บลูแบลงจะง่ายขึ้นค่ะ**
**ถ้ามีคลอเซ่ร่วมกลุ่ม แนะนำให้ใช้คราฟท์ "เคมป์ฟาร์2" ใส่ศัตรูเพื่อลด STR&DEF จะง่ายขึ้นค่ะ**
**หลักการต่อสู้เหมือนตอนที่เจอในบทที่ 7 แต่คราวนี้งัดทุกอย่างที่มีออกมาให้หมด ไม่ต้องกั๊กเลยค่ะ**
**วิธีการดูร่างแยกของบลูแบลง ให้เอาเคอร์เซอร์ไปชี้ หากตัวไหนมี EXP=1 แสดงว่าเป็นร่างแยก เมื่อโจมตีร่างจริงร่างแยกจะหายไปค่ะ แต่ต้องสวมควอทซ์ "ข้อมูล" หรือ "เนตรสวรรค์" ก่อนนะคะ ถึงจะมองเห็น EXP ของศัตรูได้**
ดูคราฟท์ต่าง ๆ ของ "บลูแบลง" ได้ตรงนี้ค่ะ
- ปราบได้ หน้ากากของบลูแบลงก็แตกออก เผยให้เห็นใบหน้า (ที่น่าจะหล่อเหลา) เสี้ยวหนึ่ง
จอมโจรบลูแบลง "......คึ...... บ้าน่า......... ถึงกับทำให้หน้ากากของฉัน...... ......ร้าวได้......"
เอสเทล "ฮ้าฮ้า...... ไงล่ะ...... รู้ซึ้งรึยัง!?"
โยชัวร์ "......ดูเหมือนว่าที่แตกกระจายไป จะเป็นความเย่อหยิ่งของคุณนะ"
คลอเซ่ "ความแข็งแกร่งของความหวังที่สายสัมพันธ์รังสรรค์ขึ้น...... เข้าใจแล้วหรือยังคะ?"
โอลิเวียร์ "หึ...... และก็รู้ซึ้งถึงความยิ่งใหญ่ของความรัก ที่ทำให้เปลวไฟแห่งความหวังลุกโชนโชติช่วงแล้วใช่มั้ยล่ะ"
- บลูแบลงได้แต่นิ่งเงียบด้วยความเจ็บใจ ก่อนที่จะกัดฟันทำใจยอมรับความพ่ายแพ้ "ก็ได้...... ตอนนี้จะยอมถอยไปแต่โดยดีก่อน...... แต่เกมของศาสตราจารย์เพิ่งจะเริ่มขึ้นเท่านั้น เตรียมตัวเตรียมใจว่าจะไม่โชคดีอย่างคราวนี้เอาไว้เถอะ" บลูแบลงลุกขึ้น พร้อมกับกวัดแกว่งคฑาใช้กลม่านกุหลาบที่เขาช่ำชอง
จอมโจรบลูแบลง "อย่าลืมซะล่ะ...... ว่าพวกเธอทำให้ฉันคนนี้ยอมถอยไปได้...... ก้าวข้ามกำแพงแห่งความสิ้นหวังที่ตั้งตระหง่าน แล้วไปสู่สถานที่อันสูงส่งแสนงดงามให้ได้ก็แล้วกัน ......ถ้าเช่นนั้น ลาล่ะ"
- ร่างของบลูแบลงค่อย ๆ หายไปท่ามกลายพายุกุหลาบ และดูเหมือนว่าคราวนี้เขาจะยอมล่าถอยไปจริง ๆ ทำให้เราวางใจไปได้เปราะหนึ่งค่ะ
(จากคำบอกเล่าของโยชัวร์ บลูแบลงเป็นคนที่ภาคภูมิใจในตัวเองอย่างมาก พูดอะไรแล้วต้องทำ เมื่อเขาบอกจะถอยก็ถอยจริง ๆ ไม่มีทางผิดคำสัญญาแน่นอนค่ะ)
- เข้าไปสำรวจคอมพิวเตอร์ปลายทาง เมื่อสำรวจแล้วกำแพงที่กั้นประตูอยู่จะหายไป และสามารถใช้งานแท่นวาร์ปเพื่อลงไปยังชั้นล่างได้อีกด้วยค่ะ
- จะกลับไปที่ [อัลเซยู] เพื่อเตรียมตัวก่อน หรือจะมุ่งหน้าต่อไปได้ ก็แล้วแต่สะดวกเลยค่ะ
☆ไอเทมที่พบ "ยาแห่งอาเซราส", "ยอร์มุนกันท์", "เซพิธทุกคุณสมบัติx100", "S-แทบเล็ต",
"EPชาร์จIII", "ไทเกอร์ฮาร์ท", "ยาแห่งคิวเรีย" และ "ยาแห่งเทียร์ ออล" ค่ะ☆
หอคอยแกนกลาง - ชั้นที่ 3 『中枢塔・第三層』
☆ไอเทมที่พบ "ยาแห่งเทียร์รอล", "ยาแห่งอาเซราส",
"S-แทบเล็ต" และ "ยาแห่งคิวเรีย" ค่ะ☆
- เมื่อออกไปด้านนอกหอคอย เราจะได้ยินเสียงหนึ่งบอกว่ากำลังรอเราจนเง็ก ที่ต้นเสียงนั้นพบกับ "หมาป่าผอมวอลเตอร์" [ผู้ดำเนินแผนการ] No.VIII ค่ะ
◆ในกรณีที่มี "จิน" ร่วมกลุ่มมาด้วย จะมีบทสนทนาพิเศษที่จะทำให้เราได้รู้ถึงเหตุผลลึก ๆ ที่วอลเตอร์เก็บงำไว้ภายในใจมาตลอดค่ะ แต่ถ้าไม่มีจิน วอลเตอร์จะรู้สึกไม่ชอบใจที่จินไม่ได้มาด้วย เอสเทลก็เลยเสนอว่าให้วอลเตอร์ฝากข้อความไปบอกจินหรือจะฝากไปบอกคุณคิริก้าก็ได้ค่ะ สำหรับบทสนาต่อไปนี้ จะเป็นกรณีที่มีจินร่วมกลุ่มมาด้วยนะคะ
เอสเทล "นายแว่นกันแดด!"
โยชัวร์ "[หมาป่าผอม] 『痩せ狼』 เองเหรอ......"
จิน "......วอลเตอร์"
หมาป่าผอมวอลเตอร์ "คึคึ...... มาจนได้นะ ที่มาที่นี่คงจะเตรียมตัวเตรียมใจมาแล้วสินะ?"
จิน "ใช่...... หมัด [รักษ์ชีวี] 『活人』 ที่สืบทอดมาจากอาจารย์ ชั้นตั้งใจจะขอใช้มันทำลายหมัดนอกรีตของนาย"
หมาป่าผอมวอลเตอร์ "......คึคึ............ ดูท่าจะเป็นไปตามแผนการของไอ้แก่แล้วสินะ"
จิน "! เป็นไปตามแผนการ...... ของอาจารย์!? หมายความว่ายังไงกันหา วอลเตอร์! ที่นายกับอาจารย์ประลองกัน เกี่ยวข้องกับชั้นจริง ๆ ใช่มั้ย!?"
หมาป่าผอมวอลเตอร์ "ฮะฮะ...... ก็บอกไปแล้วไม่ใช่เรอะว่า ถ้าอยากจะรู้เรื่องนั้น ลองล้มชั้นให้ดูก่อนสิว้อยน่ะ"
- วอลเตอร์ดีดนิ้วเรียกตุ๊กตาสงครามออกมา
หมาป่าผอมวอลเตอร์ "ถ้าจะใช้หมัดเก่าคร่ำครึล่ะก็ จะได้ทำให้มันจบ ๆ ไปซะเลย...... เอ้า มาประลองชี้เป็นชี้ตายกันเถอะ!"
- หมาป่าผอมวอลเตอร์ + ชาโดว์คูเกอร์ *2 -
- 『痩せ狼ヴァルター + シャドウクーガー*2』 -
**แนะนำ ให้ใส่เครื่องประดับป้องกัน "หมดสติ" เอาไว้ จะง่ายขึ้นค่ะ**
**ระวัง อาร์ท "คล็อกดาวน์" ไม่มีผลต่อวอลเตอร์นะคะ**
**หลักการต่อสู้เหมือนตอนที่เจอในบทที่ 7 ค่ะ**
ดูคราฟท์ต่าง ๆ ของ "วอลเตอร์" ได้ตรงนี้ค่ะ
◆ในกรณีที่ไม่มี "จิน" ร่วมกลุ่มมาด้วย ปราบได้ วอลเตอร์จะเรียกเพลอาปาเช่ออกมา แล้วก็บินจากไป โดยทิ้งท้ายฝากให้เราไปบอกจินว่า ให้มาหาข้อยุติกับเขาใหม่คราวหน้าค่ะ สำหรับบทสนาต่อไปนี้ จะเป็นกรณีที่มีจินร่วมกลุ่มมาด้วยนะคะ
- ปราบได้ วอลเตอร์กับจินจะเผชิญหน้ากันตามลำพัง 2 คน โดยที่พวกเอสเทลได้แต่ยืนดูอยู่ห่าง ๆ
หมาป่าผอมวอลเตอร์ "คึ...... แก...... กังฟูไปถึงระดับนั้นได้ตั้งแต่เมื่อไหร่......"
จิน "วอลเตอร์...... นายเป็นอัจฉริยะจริง ๆ นั่นแหล่ะ แต่เพราะพรสวรรค์อันนั้น ไม่ว่าจะพูดยังไง ก็ขาดซึ่งการสั่งสม แล้วสิ่งที่เรียกว่ากังฟู คือสิ่งที่สั่งสมด้วยการขัดเกลาซ้ำไปซ้ำมาอย่างซื่อตรง เพราะเหตุนั้นต่างหากหมัดของชั้นที่ระดับต่ำกว่า จึงไปไม่ถึงระดับของนาย"
หมาป่าผอมวอลเตอร์ "...................................... คึคึคึ...... ระดับต่ำกว่าเรอะ เจ้าแก่นั่นมันไม่เคยคิดแบบนั้นเลยว้อย?"
จิน "......เอ๋..............."
- วอลเตอร์เริ่มเล่าเรื่องราวต่าง ๆ ที่เขาได้เก็บงำเอาไว้ให้จินฟัง
หมาป่าผอมวอลเตอร์ "ไอ้แก่นั่นเป็นคนบอกชั้นเอง ว่าไม่เกี่ยวกับแนวคิดของการช่วยคน หรือการฆ่าคน...... ไม่ว่าจะลักษณะพิเศษหรือพรสวรรค์...... แกต่างหากที่เหนือกว่าชั้น"
จิน "! ว่า......!?"
หมาป่าผอมวอลเตอร์ "แล้วไอ้แก่ ก็ตั้งใจที่จะให้คนที่มีพรสวรรค์มากกว่า สืบทอด [สำนักไทโตะ] 『泰斗流』 ......เรื่องนั้นมันมีความหมายว่ายังไง ฉลาดอย่างแกคงจะรู้สินะ?"
จิน "ตะ แต่ว่า...... ที่ชั้นฝีมือสูงกว่านายอะไรนั่น เป็นเรื่องล้อเล่นใช่มั้ยล่ะ!? แล้วอาจารย์ มีหรือ ที่จะไม่ใส่ใจกับความรู้สึกของคิริก้าแบบนั้น......"
หมาป่าผอมวอลเตอร์ "......คึคึคึ...... ก็เพราะแกมองโลกในแง่ดี ซื่อจนเซ่อเกินไปน่ะสิ ทั้ง ๆ มันไม่ใช่แค่สืบทอดสำนักอย่างเดียว แต่มันรวมไปถึงลูกสาวของอาจารย์ด้วย...... เรื่องพรรค์นั้น...... คิดว่าชั้นคนนี้จะทำใจยอมรับได้อย่างงั้นเรอะ?"
จิน "............................................"
หมาป่าผอมวอลเตอร์ "เพราะฉะนั้นชั้นจึง เรียกร้องให้ไอ้แก่ตัดสินตัวผู้สืบทอด ด้วยการต่อสู้ระหว่างชั้นกับแก แต่ไอ้แก่มันไม่ยอมรามือ แล้วพูดว่า [------จินน่ะกำลังรู้สึกเกรงใจเจ้าโดยไม่รู้ตัว ไม่ว่าจะเรื่องวิทยายุทธ์ หรือเรื่องผู้หญิง ตราบใดที่เจ้ายังอยู่เช่นตอนนี้ วิทยายุทธ์ของหมอนั่นก็ไม่อาจสมบูรณ์ได้]"
จิน "............ว่า....................."
หมาป่าผอมวอลเตอร์ "คึคึ...... ชั้นเองมันหนุ่มเลือดร้อนซะด้วย ก็เลยทำใจยอมรับไม่ได้เกินไปหน่อย แล้วไอ้แก่ ก็เสนอหน้ามาประลองชี้เป็นชี้ตายกับชั้นแทนแก...... แล้วชั้น------ ก็เอาชนะไอ้แก่ได้"
- วอลเตอร์กล่าวประโยคสุดท้ายด้วยสีหน้าที่เรียบสงบ จินได้แต่ฟังเขาเล่าต่อเงียบ ๆ
หมาป่าผอมวอลเตอร์ "คึคึคึ...... นี่ก็คือ เหตุผลที่ชั้นกับไอ้แก่ชี้เป็นชี้ตายกันยังไงล่ะ ตอบให้ตามที่แกหวังแล้ว"
จิน "......................................... ชั้นคิดหาเหตุผลมาตลอด...... ว่าทำไมอาจารย์ ถึงได้บอกให้ชั้นเป็นพยานในการประลองระหว่างนาย...... ในที่สุด...... ก็มองเห็นคำตอบนั่นแล้วล่ะ"
หมาป่าผอมวอลเตอร์ "......หมายความว่าไง?"
จิน "วอลเตอร์...... นายกำลังเข้าใจผิดอยู่ เรื่องนี้ชั้นเองก็รู้มาจากคิริก้าทีหลัง...... ว่าในตอนนั้นอาจารย์ริวง่ะป่วยหนัก ได้ยินมาว่าเป็นเนื้องอกร้ายแรง"
- วอลเตอร์ถึงกับตกใจ เพราะเขาไม่เคยรู้เรื่องนี้มาก่อนเลย
จิน "เพราะอย่างนั้นต่างหาก อาจารย์ถึงได้เสนอตัวประลองกับนาย ไม่ต้องบอกก็รู้อยู่แล้วว่า มีนัยที่จะห้ามปรามวิทยายุทธ์ของนายด้วย...... แล้วก็คงตั้งใจ จะทำให้ชั้นที่ยังอ่อนหัดได้เห็นจุดสูงสุดของวิทยายุทธ์ด้วย แต่เหนือสิ่งอื่นใด สิ่งที่อาจารย์ปรารถนาเอาไว้ก็คือ...... อยากจะสิ้นอายุขัยในฐานะผู้ใช้วิทยายุทธ์ ด้วยการต่อสู้กับลูกศิษย์อันดับหนึ่ง"
หมาป่าผอมวอลเตอร์ "............................................. ......คึคึ...... พูดเรื่องอะไรวะ...... เรื่องบ้า ๆ พรรค์นั้น...... .......มันไม่มีหรอก...... แล้วทำไม? ชั้นแค่โดนใช้เป็นเครื่องมืองั้นเรอะ? ถ้าเป็นแบบนั้น...... ชั้นน่ะ......"
จิน "เรื่องนั้น...... อาจจะเป็นการเอาแก่ได้ก็ได้ แต่ว่า การจะทำให้ความแข็งแกร่งไปจนถึงจุดสูงสุดนั้น หากพินิจพิเคราะห์ให้ถี่ถ้วนแล้ว คงจะเป็นการกระทำที่เห็นแก่ตัวเหมือนกัน ซึ่งนั่น ก็อาจกล่าวได้ว่าเป็นชะตากรรมที่ถูกกำหนดมา ให้ผู้ใช้วิทยายุทธ์อย่างพวกเราต้องกระทำ เพราะเหตุนั้นต่างหากอาจารย์ถึงได้...... แสดงความเอาแก่ได้ของตนออกมา ที่ทำเช่นนั้นก็เพื่อ แสดงด้านมืดกับด้านสว่างของวิทยายุทธ์ให้นายหรือชั้นได้เห็น......"
- วอลเตอร์ได้แต่นิ่งเงียบไม่พูดอะไรต่อ ก่อนที่จินตั้งท่าแล้วพูดต่อว่า
จิน "......วอลเตอร์ ตั้งท่าซะ"
หมาป่าผอมวอลเตอร์ "จะทำอะไร......?"
จิน "จะใช้หมัดนี่แสดงทุกสิ่งทุกอย่างของ [ไทโตะ] ที่ได้ร่ำเรียนมาจากอาจารย์และนาย ซึ่งได้ขัดเกลาเรื่อยมาในระหว่างที่ทำงานเบรเซอร์ แล้วก็ จะแผดเสียงเกรี้ยวกราดใส่ศิษย์พี่ ที่จิตใจอ่อนแอถึงกับร่วงลงสู่ความมืดมิดจนกลายเป็นอสูร ซึ่งนั่นอาจจะเป็นหน้าที่สุดท้ายที่ชั้นสามารถทำได้ในฐานะศิษย์น้องของนาย"
หมาป่าผอมวอลเตอร์ "..................................................... ......เหอะ............ พล่ามมากเกินไปมั้ง........."
- วอลเตอร์ตั้งท่า พลางพูดต่อด้วยสีหน้าที่รู้สึกพอใจอยู่ลึก ๆ
หมาป่าผอมวอลเตอร์ "ถ้าอย่างนั้นชั้น ก็จะใช้หมัดที่รวบรวมทุกสิ่งทุกอย่างของเทคนิคลับ ซึ่งได้ขัดเกลามาในระหว่างที่อยู่ในองค์กร...... เพื่อจะได้ฝังทุกสิ่งทุกอย่างของ [ไทโตะ] ซะ"
- คลื่นพลังมหาศาลกระจายขึ้นรอบกายของจินและวอลเตอร์ ทั้ง 2 คนจ้องหน้ากัน ราวกับรู้ว่าอีกฝ่ายก็กำลังเฝ้ารอจังหวะตัดสิน ก่อนที่จะรีดเร้นลมปราณออกมาทำให้สภาพรอบข้างถึงกับสั่นสะท้าน
เอสเทล "(ยะ ยอดไปเลย......)
โยชัวร์ "(ถ้าเป็นแบบนี้ คงมีฝ่ายนึงที่อาจจะ......)"
- พริบตานั้นเอง เสียงจากแรงปะทะหมัดของทั้งสองฝ่ายที่มองตามไม่ทันดังกึกก้องขึ้น "...............คึ....................." จินทรุดลง พวกเอสเทลตกใจกับสภาพที่เห็น
- "คึคึคึ...... ......เจ้าคนไม่ได้เรื่องเอ๊ย......" วอลเตอร์หันกลับมา เขามองไปที่จินซึ่งทรุดลงกับพื้น มือข้างหนึ่งหยิบบุหรี่ขึ้นมาสูบอย่างพอใจ พลางพูดต่ออย่างกระท่อนกระแท่น
หมาป่าผอมวอลเตอร์ "......ไม่รู้จักใช้กังฟูที่มีอยู่แค่นั้นให้เกิดประโยชน์ซะนี่...... คึคึ...... เรื่องที่ไอ้แก่พูด .........ในที่สุดก็เข้าใจซักทีว้อย......... ......ฟู่...... อร่อยว่ะ...... บุหรี่นี่มัน...... อร่อย...... ............จริง ๆ..............."
- เรี่ยวแรงในการครองสติให้ยืนหยัดอยู่ของวอลเตอร์หมดลง พร้อม ๆ กับบุหรี่ในมือของเขาที่ร่วงหล่นลงสู่พื้น
เอสเทล "หรือว่า........."
โยชัวร์ "อืม...... ดูเหมือนว่าคุณจินเป็นฝ่ายชนะสินะ"
- พวกเอสเทลวิ่งเข้าไปหาจิน พลางกล่าวชื่นชมด้วยความยินดี ที่จินสามารถหาข้อยุติและเอาชนะผู้ชายที่เก่งกาจเช่นวอลเตอร์ได้ แต่จินปฏิเสธและค่อย ๆ พยุงตัวเองขึ้นมา
จิน "ที่ชนะได้น่ะ เป็นเพียงแค่ [สำนักไทโตะ] ที่ชั้นแบกรับเอาไว้เท่านั้น ถ้าหมอนั่น ไม่ได้เข้าร่วมการตัดสินแพ้ชนะครั้งนี้ ในฐานะที่เป็นผู้ใช้วิชาของ [ไทโตะ] อย่างขาวสะอาดแล้วล่ะก็...... บางทีคนที่จะล้มลงไปอาจจะเป็นชั้นก็ได้"
- ว่าแล้ว จินก็บอกให้เราปล่อยให้วอลเตอร์นอนหมดสติต่อ แล้วเข้าไปสำรวจคอมพิวเตอร์ปลายทางก่อนที่วอลเตอร์จะฟื้นดีกว่า เมื่อสำรวจแล้วกำแพงที่กั้นประตูอยู่จะหายไป และสามารถใช้งานแท่นวาร์ปได้ค่ะ
หอคอยแกนกลาง - ชั้นที่ 4 『中枢塔・第四層』
☆ไอเทมที่พบ "โพรมิธิอุส" (สู้กับ มาสเตอร์ แทร็ปเปอร์ *3) ค่ะ☆
☆ไอเทมที่พบ "ไชน์สเฟียร์", "ลิลี่เน็คเลส", "EPชาร์จII",
"ยาแห่งคิวเรีย", "S-แท็ปเล็ต" และ "เซพิธทุกคุณสมบัติx100" ค่ะ☆
- เมื่อออกไปด้านนอกหอคอย จะพบกับ "กระพรวนเสน่ห์ลูชิโอล่า" [ผู้ดำเนินแผนการ] No.VI ค่ะ
◆ในกรณีที่มี "เจ๊เชร่า" ร่วมกลุ่มมาด้วย จะมีบทสนทนาพิเศษ ที่จะทำให้เราได้รู้ถึงแรงจูงใจที่แท้จริง ที่ทำให้ลูชิโอล่าตัดสินใจสังหารหัวหน้าคณะละครฮาร์เวย์ผู้เปรียบเสมือนพ่อแท้ ๆ ด้วยมือของเธอเองค่ะ แต่ถ้าไม่ได้นำเจ๊เชร่ามา ลูชิโอล่าจะรู้สึกผิดหวังนิด ๆ ที่เชราซาร์ดไม่มาตามที่เธอทำนายเอาไว้ค่ะ สำหรับบทสนทนาต่อไปนี้ จะเป็นกรณีที่มีเจ๊เชร่าร่วมกลุ่มมาด้วยนะคะ
เอสเทล "อ๊ะ......!"
โยชัวร์ "[กระพรวนเสน่ห์] 『幻惑の鈴』...... คุณเองเหรอ"
เชราซาร์ด "คุณพี่...... ลูชิโอล่า"
กระพรวนเสน่ห์ลูชิโอล่า "ฝ่าบลูแบลงกับวอลเตอร์แล้วมาจนถึงที่นี่ได้...... ทำได้ไม่เลวเลยนะจ๊ะ พวกเธอเนี่ย"
เชราซาร์ด "คุณพี่...... ชั้นมาทวงสัญญาที่ให้ไว้ ที่บอกว่าในตอนที่พบกันอีกครั้ง จะเล่าเรื่องของหัวหน้าคณะฮาร์เวย์ให้ฟัง......"
กระพรวนเสน่ห์ลูชิโอล่า "อ๋อ...... หมายถึงเหตุผลที่ฆ่าเขาไปใช่มั้ยจ๊ะ?"
เชราซาร์ด "............อึก..............."
กระพรวนเสน่ห์ลูชิโอล่า "นั่นสินะ......"
- ลูชิโอล่านิ่งเงียบ ครุ่นคิดอะไรบางอย่างก่อนที่จะเอ่ยเรียบ ๆ ด้วยรอยยิ้มที่ดูเศร้า ๆ ตามเอกลักษณ์ของเธอ
กระพรวนเสน่ห์ลูชิโอล่า "......นี่ เชราซาร์ด สำหรับเธอแล้ว หัวหน้าคณะเป็นคนแบบไหนเหรอ?"
เชราซาร์ด "ระ เรื่องนั้นมันแน่อยู่แล้วไม่ใช่หรือยังไง! ว่าเขาเป็นผู้มีพระคุณที่เก็บชั้นซึ่งเคยอยู่อย่างโดดเดี่ยวมาเลี้ยงดูน่ะ!"
- เจ๊เชร่านึกภาพในตอนที่หัวหน้าคณะกับลูชิโอล่าเก็บเธอไปเลี้ยง แล้วพูดต่อด้วยสีหน้าอันเศร้าสร้อย
เชราซาร์ด "ชั้นน่ะ หน้าตาของพ่อแม่เป็นยังไงยังไม่รู้เลย...... แล้วคิดมาตลอดว่าคุณพ่อนั้น ให้ความรู้สึกแบบไหน...... ......ทั้ง ๆ ที่...... ทั้ง ๆ ที่เป็นแบบนั้นแล้วทำไม......!"
กระพรวนเสน่ห์ลูชิโอล่า "เหรอ...... เป็นคนที่อบอุ่นแล้วก็ใจดีสินะ แต่ว่านะ คณะนักแสดงละครเร่ร่อนอย่างนั้น แค่ความใจดีมันไปไม่รอดหรอกนะ มันต้องมีทั้งการค้าขายสกปรก มีทั้งให้นักแสดงหญิงออกไปรับแขก แต่หัวหน้าคณะน่ะ...... คน ๆ นั้นน่ะไม่ทำเรื่องพรรค์นั้นอย่างเด็ดขาด เพราะเหตุนั้น ก็เลยใช้สมบัติส่วนตัวจนหมดเกลี้ยง...... แล้วก็แบกรับภาระหนี้สินก้อนโต"
เชราซาร์ด "! มะ ไม่จริง......!? ก็หัวหน้าคณะ ไม่เห็นจะแสดงสีหน้าท่าทางแบบนั้นเลย......"
กระพรวนเสน่ห์ลูชิโอล่า "หึหึ ก็เพราะทั้ง ๆ ที่เป็นคนดี แต่ดันเป็นคนมีจิตใจเข้มแข็งน่ะสิจ๊ะ วิ่งวุ่นไประดมเงินทุนทางโน้นทีทางนี้ที โดยไม่ให้พวกเรารับรู้...... ......ท้ายที่สุดแล้ว ก็ตัดสินใจที่จะปล่อยคณะให้หลุดมือไปเสีย"
เชราซาร์ด "!!!"
กระพรวนเสน่ห์ลูชิโอล่า "แล้วก็คิดที่จะฝากให้ขุนนางผู้มั่งคั่งที่รู้จักกันดูแลคณะละครทั้งหมด และถ้าตัวเองยังเป็นหัวหน้าคณะต่อไปเรื่อย ๆ แบบนี้ จะยิ่งทำให้พวกเราลำบาก...... ถ้าอย่างนั้น ก็ให้ไปรับการดูแลจากคนที่ไหว้วานเอาไว้น่าจะดีกว่า...... ......ดูเหมือนว่าคน ๆ นั้นจะคิดแบบนั้นนะ"
เชราซาร์ด "ระ เรื่องนั้น แล้วทำไม...... ถ้ามาปรึกษากันล่ะก็ พวกเราก็จะได้ช่วยเหลือ......!"
กระพรวนเสน่ห์ลูชิโอล่า "ตอนที่เปิดเผยเรื่องนี้ให้ฟัง ฉันก็เกลี้ยกล่อมแบบนั้นเหมือนกัน แต่คน ๆ นั้นก็รั้นจนหัวชนฝาไม่ยอมรับฟังอะไร ถึงคนไร้ค่าเช่นตัวเองอยู่ ก็ไม่อาจทำอะไรเพื่อพวกเราได้เลย...... ดูเหมือนว่าคน ๆ นั้นจะคิดเองเออเองแบบนั้น"
- เจ๊เชร่าได้ยินก็เหนื่อยใจแทน แล้วถามลูชิโอล่าต่อด้วยสีหน้ากังวลใจ
เชราซาร์ด "นั่นคือเหตุผล...... ......ที่คุณพี่...หัวหน้าคณะ......?"
กระพรวนเสน่ห์ลูชิโอล่า "ใช่ ถูกต้องจ้ะ สำหรับฉันแล้ว การตัดสินใจอย่างเด็ดขาดของเขา เป็นเพียงการทรยศหักหลังที่ไม่อาจให้อภัยได้ มอบความสงบและความสุขให้ และก็ให้เรารับเอาสิ่งนั้นมาอย่างนั้นน่ะ...... ถ้าจะทำเรื่องแบบนั้น ฉันก็ไม่ต้องการให้ยื่นมือออกมาซะตั้งแต่ตอนแรกหรอก ดังนั้น ฉันจึงฆ่าคน ๆ นั้นทิ้งยังไงล่ะจ๊ะ"
เชราซาร์ด "................................................ ถ้าอย่างนั้น...... ......แล้วชั้นล่ะจะทำยังไง?"
กระพรวนเสน่ห์ลูชิโอล่า "เอ๊ะ......?"
เชราซาร์ด "ชั้นน่ะ...... ได้รับรู้ถึงความสงบสุขมาจากหัวหน้าคณะกับคุณพี่นี่นา...... ความรู้สึกที่เปี่ยมไปด้วยความอบอุ่น อย่างที่ในสลัมไม่อาจรู้สึกได้...... แต่...... หัวหน้าคณะตายไป...... ......แม้แต่คุณพี่ก็จากไป......... เรื่องแบบนั้นน่ะ...... ......มันคือการทรยศหักหลังที่หนักหนายิ่งกว่าไม่ใช่เหรอ!"
กระพรวนเสน่ห์ลูชิโอล่า "......หึหึ นั่นสินะ...... เชราซาร์ด เธอมีสิทธิ์ที่จะโกรธแค้นฉัน จงใช้ความโกรธแค้นอันนั้น เข้ามาฟาดฟันฉันซะ"
- ลูชิโอล่าคลี่พัดออก สองมือพริ้วไหวกรีดกรายพัดอย่างอ่อนช้อย เสียงกระพรวนดังขึ้น ปรากฏร่างของภูตรับใช้ 2 ตน
เชราซาร์ด "คุณพี่......!
กระพรวนเสน่ห์ลูชิโอล่า "ทำท่าเหมือนกับจะไม่สามารถล้มฉันได้แบบนั้น พวกคนที่รออยู่ชั้นบนนี้ก็จะยิ่งไกลออกไปไม่ใช่เหรอ ลองทำลายการร่ายรำของ [กระพรวนเสน่ห์] ...... ให้งดงามหน่อยสิจ๊ะ"
- กระพรวนเสน่ห์ลูชิโอล่า + แซ็คคูม + จูบอคโค + อัลลาวเน่ *2 -
- 『幻惑のルシオラー + ザックーム + ジュポッコ + アルラウネ*2』 -
**แนะนำ ให้ใส่เครื่องประดับป้องกัน "นอนหลับ" กับ "สับสน" เอาไว้ จะง่ายขึ้นค่ะ**
**แนะนำ ให้ใช้ "คล็อกดาวน์" ใส่ศัตรู จะง่ายขึ้นค่ะ**
**ในกรณีที่มีคลอเซ่ร่วมกลุ่ม แนะนำให้ใช้คราฟท์ "เคมป์ฟาร์2" ใส่ศัตรูเพื่อลด STR&DEF จะง่ายขึ้นค่ะ**
**แนะนำ ให้มีอาร์ทคุณสมบัติ "ดิน" ติดตัวเอาไว้ด้วย เพราะศัตรูจะแพ้ทางค่ะ**
**ระวัง "แซคคูม" ดูดซับการโจมตีด้วยอาร์ท ต้องใช้การโจมตีกายภาพปราบ ในทางกลับกัน "จูบอคโค" จะดูดซับการโจมตีกายภาพ ต้องใช้การโจมตีด้วยอาร์ทเท่านั้นค่ะ**
**นอกจากนั้น เรามักจะโจมตี "อัลลาวเน่" ไม่ค่อยโดนนะคะ แนะนำให้ใช้อาร์ทโจมตีใส่ตัวนี้จะดีกว่า**
**ระวัง หากลูชิโอล่าใช้ร่างแยก ไม่ว่าจะโจมตีกินอาณาเขตหรือไม่ก็ตาม ห้ามโจมตีร่างแยกโดยเด็ดขาด เพราะลูชิโอล่าจะสลับร่างแยก กลายเป็นให้เพื่อนเรามารับการโจมตีแทน ถ้ายังไงหาร่างจริงให้เจอ เมื่อโจมตีร่างจริง ร่างแยกจะหายไปค่ะ**
**วิธีการดูร่างแยกของลูชิโอล่า เหมือนกับบลูแบลงเลยค่ะ**
**โดยรวมแล้ว หลักการต่อสู้เหมือนตอนที่เจอในบทที่ 7 ค่ะ**
ดูคราฟท์ต่าง ๆ ของ "ลูชิโอล่า" ได้ตรงนี้ค่ะ
◆ในกรณีที่ไม่มี "เจ๊เชร่า" ร่วมกลุ่มมาด้วย ปราบได้ ลูชิโอล่าจะใช้วิชามายาล่าถอยไป โดยทิ้งท้ายเอาไว้ว่าบุญกรรมระหว่างเธอกับเชราซาร์ดยังไม่ได้ถูกตัดขาดซะทีเดียว สักวันหนึ่งคงจะมีโอกาสได้เจอกันอีกครั้งค่ะ (ถ้านำโอลิเวียร์, จินหรือเควินร่วมกลุ่มมาด้วย กระทาชายนายสามคนเนี๊ยะ จะรู้สึกติดใจพี่สาวเสน่ห์แรงคนนี้ด้วยนะคะ) สำหรับบทสนาต่อไปนี้ จะเป็นกรณีที่มีเจ๊เชร่าร่วมกลุ่มมาด้วยนะคะ
- ปราบได้ ลูชิโอล่าจะถอยร่นไปอยู่ตรงริมสุดของด้านนอกหอคอยค่ะ
กระพรวนเสน่ห์ลูชิโอล่า "หึหึ...... แบบนี้นี่เอง ถ้าเป็นแบบนี้ล่ะก็...... อาจจะมีสิทธิ์ที่จะไปข้างบนเรื่อย ๆ ก็เป็นได้นะ"
เชราซาร์ด "......คุณพี่ ขอชั้นแก้อะไรหน่อยได้มั้ย ------ชั้นน่ะ โกรธแค้นชิงชังคุณพี่ไม่ลงหรอกนะ ไม่ว่าจะเรื่องที่จากชั้นไป ไม่ว่าจะเรื่องที่ฆ่าหัวหน้าคณะไป...... ชั้นก็แค่...... รู้สึกเศร้าใจที่หมดสิ้นหนทางเท่านั้นเองนะ"
เอสเทล "เจ๊เชร่า......"
กระพรวนเสน่ห์ลูชิโอล่า "......เชราซาร์ด........."
เชราซาร์ด "แล้วชั้นก็ ทำใจให้เชื่อไม่ได้จริง ๆ ว่าคุณพี่ฆ่าหัวหน้าคณะไป เพราะเหตุผลพรรค์นั้น...... ฆ่าหัวหน้าคณะที่คิดถึงจิตใจของพวกเรา แล้วเลือกที่จะเป็นทุกข์เองแบบนั้น......"
- ลูชิโอล่านิ่งเงียบ ทอดสายตาไปยังเชราซาร์ด
กระพรวนเสน่ห์ลูชิโอล่า "......หึหึ...... ตบตาเธอไม่ได้จริง ๆ อย่างที่คิดไว้งั้นเหรอ"
เชราซาร์ด "เอ๊ะ......"
- ลูชิโอล่าพูดต่อ ด้วยรอยยิ้มที่แฝงไว้ด้วยความเศร้าอยู่ภายในเหมือนเช่นเคย
กระพรวนเสน่ห์ลูชิโอล่า "เรื่องที่เล่าเมื่อครู่นี้...... ยังมีต่อนะ ---------ตอนที่ฉันรู้ และตั้งใจจะไปเกลี้ยกล่อมคน ๆ นั้น ถึงแม้ว่ามันจะเป็นความมุ่งมั่นที่มั่นคงก็ตาม...... ฉัน ก็ได้เปิดเผยความรู้สึกที่เก็บซ่อนมาตลอดให้กับคน ๆ นั้นไป"
เชราซาร์ด "!!! คุณพี่รู้สึกกับ...... หัวหน้าคณะ...... ......เป็นแบบนั้น...... เองเหรอ......"
กระพรวนเสน่ห์ลูชิโอล่า "หึหึ นึกไม่ถึง เพราะมันแตกต่างกับท่าทางที่แสดงออกใช่มั้ยล่ะ รวมทั้ง...... คน ๆ นั้นก็เหมือนกัน ---------คิดมาตลอดว่าเป็นคนสำคัญเหมือนกับลูกสาวคนหนึ่ง จึงไม่สามารถตอบรับความรู้สึกได้ มองหาคู่ครองที่เหมาะสม อย่าปล่อยให้เป็นไปตามอารมณ์ชั่ววูบ...... ......ใช่แล้วล่ะ ฉันถูกปฏิเสธตามที่เขาว่ากล่าวตักเตือนยังไงล่ะ"
เชราซาร์ด "............................................"
กระพรวนเสน่ห์ลูชิโอล่า "ที่ถูกปฏิเสธฉันเองก็ช็อก แล้วก็รู้สึกกลัวยิ่งขึ้นกว่าเดิม ---------เพื่อที่จะไม่ทำให้ฉันหลงผิด...... ต้องมองหาคู่ครองที่เหมาะสมให้ได้...... จากที่พูดมา เป็นไปได้ว่าคน ๆ นั้น อาจจะตีตัวออกห่างจากฉันไปจริง ๆ"
เชราซาร์ด "อะ......"
- ทั้ง ๆ ที่ตลอดมาไม่ว่าจะรู้สึกเช่นไร ลูชิโอล่าก็แทบไม่แสดงให้เห็นความรู้สึกที่แท้จริงของเธอออกมา แต่ยามที่พูดถึงเรื่องราวต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นเมื่อครั้งอดีต ลูชิโอล่าก็แสดงความรู้สึกโกรธแค้นอย่างเห็นได้ชัด
กระพรวนเสน่ห์ลูชิโอล่า "......ฉับพลันที่ตระหนักได้แบบนั้น อะไรบางอย่างก็ระเบิดขึ้นภายในใจฉัน ......เพื่อที่จะไม่ให้ไปจากฉัน...... เพื่อที่จะทำให้เป็นของ ๆ ฉันไปชั่วนิรันดร์...... ทำตามเสียงกระซิบที่ได้ยินนั่น...... แล้วก็ลงมือกับคน ๆ นั้นด้วยมือคู่นี้"
เชราซาร์ด "......คุณพี่ ......ลูชิโอล่า......"
กระพรวนเสน่ห์ลูชิโอล่า "ที่รู้สึกได้ถึงความมืดมิดที่จมดิ่งอยู่ภายในตัวเอง ก็ตั้งแต่ตอนนั้นนั่นแหล่ะ เพื่อที่จะเป็นไปตามที่ความมืดมิดชี้นำ ฉันจึงตอบรับคำเชิญชวนของ [งูกินหาง] 『身食らう蛇』...... ไม่ทันตั้งตัว...... เวลาก็ผ่านไปจนมาถึงตอนนี้แล้ว หึหึ อาจจะเป็นโอกาสเหมาะก็ได้นะ"
เชราซาร์ด "เอ๊ะ......"
- ลูชิโอล่าถอยหลังออกไปอีก "คุณพี่ อย่าน้าาาา!" เจ๊เชร่ารีบร้องห้ามด้วยเสียงอันดัง แล้วรีบวิ่งออกไปในจังหวะที่ลูชิโอล่าทิ้งตัวลงสู่เบื้องล่าง เสียงตวัดแส้ดังขึ้น ช่วงเวลานี้ มีเพียงแส้เส้นบาง ๆ ที่ยื้อชีวิตของลูชิโอล่าเอาไว้
กระพรวนเสน่ห์ลูชิโอล่า "หึหึ...... การใช้แส้ก็เก่งขึ้นมากทีเดียวไม่ใช่เหรอ ทั้ง ๆ ที่ตอนแรก ๆ ไม่ได้เรื่องขนาดนั้นแท้ ๆ น่ะ"
- "เจ๊เชร่า!" เอสเทลวิ่งนำเพื่อน ๆ เข้ามา
กระพรวนเสน่ห์ลูชิโอล่า "เอสเทล โยชัวร์...... ครู่เดียวก็ได้...... ปล่อยให้ฉันได้พูดกับเด็กคนนี้ทั้ง ๆ อย่างนี้เถอะ"
เอสเทล "ตะ แต่ว่า......!"
โยชัวร์ "ลูชิโอล่า...... คุณ......"
เชราซาร์ด "มะ ไม่ใช่เวลาจะมาพูดคุยกันซักหน่อย!? จับเอาไว้นะจะดึงขึ้นมาเดี๋ยวนี้ล่ะ!"
กระพรวนเสน่ห์ลูชิโอล่า "นี่ เชราซาร์ด...... เรื่องที่ใช้มือคู่นี้ทำกับคน ๆ นั้น แม้แต่ตอนนี้ฉันก็ไม่ได้นึกเสียใจในภายหลังหรอกนะ...... แต่เรื่องที่นึกเสียใจจริง ๆ มีอยู่เรื่องเดียว คือการจากเธอไป ---------เธอจะเป็นอย่างไรและทำอะไรอยู่ นั่นเป็นสิ่งที่ติดค้างอยู่ภายในใจฉัน แต่ว่า ถึงฉันจะไม่อยู่ เธอก็ยังคงเติบโตขึ้นอย่างมั่นคง และสามารถค้นหาเส้นทางของตนด้วยตัวของตัวเองจนเจอ"
เชราซาร์ด "คุณพี่...... ขอร้องล่ะ......"
- ลูชิโอล่าพูดต่อด้วยสีหน้าอันเศร้าสร้อย
กระพรวนเสน่ห์ลูชิโอล่า "ถึงแม้จะมีเพียงเรื่องนั้นที่ทำให้แน่ใจได้ แต่ก็คุ้มค่าแล้วที่ได้มายังลีเบร์ล ที่จริงแล้วฉันอยากจะให้เธอตัดสินความผิดของฉัน...... แต่เรื่องนั้น...... มันเป็นเรื่องที่เห็นแก่ตัวเกินไปจริง ๆ สินะ......"
เชราซาร์ด "......ขอร้องล่ะ จับให้แน่น ๆ เถอะ!"
กระพรวนเสน่ห์ลูชิโอล่า "หึหึ เหล้ามันก็ดีอยู่หรอก...... ......แต่ดื่มให้พอประมาณหน่อยล่ะ"
- "ล่าก่อน...... เชราซาร์ดของพี่" ลูชิโอล่าใช้พัดเหล็กของเธอ ตัดแส้ที่พันข้อมือทิ้ง "คุณพี่ลูชิโอล่าาาาาา!" ลูชิโอล่าร่วงหล่นลงสู่เบื้องล่าง ร่างของเธอค่อย ๆ ลับตาไป เจ๊เชร่าทำได้แต่เพียงร้องเรียกเท่านั้น
เอสเทล "จะ เจ๊เชร่า......"
โยชัวร์ "คุณเชร่า......"
เชราซาร์ด "............ไม่เป็นไร....................."
- เจ๊เชร่าลุกขึ้นยืน หันมาพูดด้วยรอยยิ้มที่เศร้าสร้อยกับพวกเอสเทล
เชราซาร์ด "......คุณพี่คนนั้น แค่ตกลงไปไม่น่าจะถึงตายหรอก สักวันหนึ่งต้องได้...... ......ต้องได้...... พบกันอีกครั้งแน่นอน"
เอสเทล "อะ อืม...... ต้องเป็นแบบนั้นอยู่แล้วล่ะ! ก็ เป็นคนที่สามารถใช้ภูติรับใช้ที่ยอดเยี่ยม แล้วก็ใช้วิชาย้ายที่ไปไหนมาไหนได้แบบนั้นด้วยนี่นา! ต้อง...... ......ต้องไม่เป็นอะไรแน่ ๆ อยู่แล้ว!"
เชราซาร์ด "หึหึ...... จริงด้วยนะ......"
- เจ๊เชร่าตอบเอสเทลด้วยรอยยิ้ม แต่ก็เงียบไปครู่นึง จนเพื่อน ๆ ที่มาด้วยต้องบอกให้เธอเลิกฝืนตัวเอง แล้วกลับไปพักซักหน่อย แต่เจ๊เชร่าบอกว่าเธอไม่เป็นไร เพราะเดี๋ยวพี่ลูชิโอล่าจะหัวเราะเยาะเธอเอา ว่าแล้วก็บอกให้เราลุยไปข้างหน้าต่อค่ะ
- เข้าไปสำรวจคอมพิวเตอร์ปลายทาง เมื่อสำรวจแล้วกำแพงที่กั้นประตูอยู่จะหายไป และสามารถใช้งานแท่นวาร์ปได้เหมือนชั้นที่ผ่านมาค่ะ



previous: Epilogue Chapter รอยทางแห่งฟากฟ้า - Part 1
to be continued: Epilogue Chapter รอยทางแห่งฟากฟ้า - Part 3



Related entries:
Sora no Kiseki SC (空の軌跡SC)


No comments:

Post a Comment