Sunday, November 5, 2017

[บทสรุป] Sora no Kiseki the3rd - Episode 0 อัศวินจอกดารา

第零話 星杯騎士
ฉากที่ 0 อัศวินจอกดารา
Walkthrough - บทสรุป

ฤดูใบไม้ร่วง ปีเจ็ดจรัส 1203
หลังผ่านเหตุการณ์ <ลีเบล=อาร์ค> (リベル=アーク) ถล่มไปครึ่งปีกว่า------
จักรวรรดิเอเรโบเนียภาคตะวันออก
เหนือน่านฟ้า แคว้นคลอยแชง------
เรือเหาะโดยสารรุ่นใหม่ของบริษัทไรน์ฟอร์ด (ラインフォルド社) "ลูชิทาเนีย"------

เรือเหาะโดยสาร ลูชิทาเนีย (飛行客船ルシタニア号)
- ณ มุมหนึ่งในห้องจัดเลี้ยง "สุภาพบุรุษสวมหน้ากาก" (仮面の紳士) เฝ้าดู "เฮลแมน คอนราด" (ヘルマン・コンラート) พ่อค้าอาวุธแห่งบริษัทค้าอาวุธคอนราดผู้เป็นเจ้าภาพงานในวันนี้ ซึ่งกำลังกล่าวเปิดงานเลี้ยงเต้นรำสวมหน้ากาก พร้อมทั้งแนะนำประวัติของบริษัทที่ร่วมมือทางด้านการค้ากับไรน์ฟอร์ดกรุ๊ปเป็นเวลามาหลายปีก่อนหน้านี้
- "อุหึหึ...... ดูท่าทางจะเป็นเรื่องน่าเบื่อนะคะ?" "สุภาพสตรีสวมหน้ากาก" (仮面の婦人) เดินเข้ามาทักสุภาพบุรุษ จากนั้นก็พยายามเชิญชวน ยั่วยวนให้เขาไปที่ห้องของเธอหลังจากจบงานเลี้ยง แต่สุภาพบุรุษได้ให้คำปฏิเสธอย่างไม่ไยดีและเดินจากมา เพราะที่จริงแล้วดูเหมือนเป้าหมายของเขาในคราวนี้ คือการเข้าไปยังห้องส่วนตัวของคอนราดเพื่อค้นหาอะไรบางอย่าง
★หากไปคุยกับผู้ชายที่ยืนเลือกแพทรี่ (ขนมหวานต่าง ๆ) ที่อยู่ด้านซ้ายล่างของห้องจัดเลี้ยง จะรู้ว่าเขาคือสามีของสุภาพสตรีสวมหน้ากากที่เชิญชวนเราเมื่อครู่ค่ะ
- ในขณะที่กำลังจะออกจากห้องจัดเลี้ยง สุภาพบุรุษสวมหน้ากากรู้สึกเหมือนมีใครจ้องมองอยู่ แต่เมื่อหันไปดูกลับไม่เห็นใคร ยังไงก็ตามตอนนี้เขาไม่มีเวลามาสนใจเรื่องอื่นมากนัก เพราะตอนนี้มีหน้าที่ที่ต้องทำอยู่
★หากคุยกับชายชุดดำที่หน้าห้องจัดเลี้ยง เขาจะขอดูเทียบเชิญของเราค่ะ
☆ในห้องสมุด เราสามารถอ่านนวนิยายเลื่องชื่อ "คาร์เนเลีย เล่ม 1 - 11" (カーネリア) ได้ด้วยนะคะ จะรื้อฟื้นความหลังก่อนพบกับตัวละครต้นแบบตัวเป็น ๆ ก็ได้ค่ะ
☆อย่าลืมเก็บไอเทมระหว่างทางไปด้วย (ตามห้องพักรับรอง)
เพราะเมื่อผ่านเหตุการณ์ไปแล้วจะไม่สามารถย้อนกลับมาเก็บใหม่ได้นะคะ☆
★หากคุยกับ "นีลเซน" (ニールセン) ที่ยืนชมวิวอยู่ข้าง ๆ หน้าต่างจะรู้ว่าเขาตาบอดค่ะ
- ไปยังห้องส่วนตัวของคอนราดโดยเดินไปตามทางเรื่อย ๆ ก็จะไปถึงได้ค่ะ
- เมื่อมาถึงทางขึ้นไปยังห้องส่วนตัวของคอนราด SP (Special Police) อดีตทหารรับจ้างที่เป็นการ์ดเฝ้าหน้าห้องของคอนราดจะไม่ยอมให้เราผ่านไป แต่สุภาพบุรุษสวมหน้ากากไม่สะทกสะท้านอะไร เขาได้หยิบสัญลักษณ์อะไรบางอย่างขึ้นมา ฉับพลันแสงวาววาบสีทองออกมาจากสัญลักษณ์นั้นและทำให้ 2 บอดี้การ์ดสลบไป
- เมื่อเข้ามาในห้องส่วนตัวของคอนราดแล้วให้สำรวจสถานที่ต่าง ๆ ที่มีสวิตช์ซ่อนอยู่ ดังนี้ค่ะ
(1) แจกันดอกไม้
(2) หลังโต๊ะทำงาน
(3) ปลายพรมปูพื้นทางด้านซ้ายมือ
(4) กระถางต้นไม้
☆ระวังอย่าไปกดสวิตช์ที่โซฟานะคะ เป็นกับดักค่ะ
ถ้าเผลอไปกดล่ะก็ กับดักจะทำงานโดยการปลดล็อกสวิตช์ที่เราได้กดไปทั้งหมดค่ะ☆
- เมื่อกดสวิตช์ครบทั้ง 4 จุดแล้ว ประตูทางลับหลังตู้จะเปิดออกค่ะ
- สุภาพบุรุษสวมหน้ากากพบแผงควบคุมพบด้านหลังภาพ และจะมีรหัสให้เลือกเปิดประตูเหล็กอีกชั้นดังนี้

【O・R・F・E・U・H・S】 -
【O・R・P・H・E・U・S】 รหัสที่ถูกต้อง
【O・L・P・H・E・U・S】 -

- เมื่อเข้าไปในห้องด้านใน ตรงกลางห้องจะพบของที่เป็น "เป้าหมาย" ในคราวนี้
สุภาพบุรุษสวมหน้ากาก "<ล็อกเก็ตคนเขลา> (愚者のロケット)------ หากสวมเอาไว้จะทำให้อีกฝ่ายเชื่อเรื่องโกหกที่พูดออกไป------ 1 ในอาร์ติแฟกซ์ต้องห้ามงั้นเหรอ ให้มันได้อย่างนี้สิ...... พ่อค้าอาวุธอย่างนั้นดันมีของอันตรายแบบนี้ได้"
- ทันทีที่สุภาพบุรุษสวมหน้ากากหยิบล็อกเก็ตขึ้นมา ระบบรักษาความปลอดภัยก็เริ่มทำงาน เสียงเตือนภัยดังไปทั่วเรือเหาะ ประตูเหล็กปิดลงมาทันที สุภาพบุรุษสวมหน้ากากไม่มีท่าทีร้อนรนแม้แต่นิด
- ด้านนอกห้องลับ SP ชุดดำ 3 คนวิ่งเข้ามา พวกเขาตัดสินใจขังผู้บุกรุกเอาไว้ด้านในจนกว่างานเลี้ยงจะจบ เพราะจากกล้องวงจรปิดนั้นแสดงให้เห็นว่าผู้บุกรุกเข้ามาเพียงคนเดียว แต่ก็อาจจะเป็นไปได้ที่จะมีผู้ช่วยเหลืออยู่ที่อื่น
- "หึหึหึ..." เสียงหัวเราะของสุภาพบุรุษดังลอดออกมาจากห้องลับด้านใน
ชุดดำ 2 "เมื่อตะกี๊มัน......"
ชุดดำ 1 "เฮ้ย แก! ขำอะไร!"
เสียงสุภาพบุรุษ "เปล่า ไม่มีอะไรนี่...... แค่อยากจะขอโทษที่ดูแคลนพวกนายไปน่ะ นึกว่าจะเป็นแค่พวกคนพาลของหน่วยทหารพรานที่ล่มสลายไปแล้ว แต่ทำไมช่างเก่งกาจได้ถึงเพียงนี้น่ะ"
ชุดดำ 2 "ไอ้นี่......"
ชุดดำ 3 "ฮึ่ม...... แกควรจะสวดภาวนาเตรียมไว้ดีกว่า ถึงจะไม่รู้ว่าใครหนุนหลังแกอยู่ แต่ท่านคอนราดเป็นคนที่ไม่ยอมยกโทษให้ใครหน้าไหน ไม่คิดว่าแกจะอยู่รอดปลอดภัยไปอย่างนี้ตลอดหรอกนะ"
ชุดดำ 1 "คึคึคึ... ท่าทางแกคงจะโดนทรมานด้วยการถูกตัดลิ้นแน่ ๆ"
เสียงสุภาพบุรุษ "หึหึ...... นั่นช่างเป็นคำเชิญชวนที่น่าดึงดูดใจจังนะ แต่โชคไม่ดีเลยแฮะ ที่ทางนี้มีนัดอยู่ก่อนแล้วน่ะ"
- "เปรี้ยง!!" เสียงศรสีแดงยิงจนประตูเหล็กบุบบู้บี้
เสียงสุภาพบุรุษ "อ้อ ลืมบอกไปอย่าง (แล้วเสียงสุภาพบุรุษนั้น ก็เริ่มเปลี่ยนไปใช้สำเนียงคันไซ) ------ พวกนายรีบ ๆ ถอยออกไปจากตรงนั้นจะดีกว่านะ?"
- "เปรี้ยง!! เปรี้ยง!! เปรี้ยง!!" ศรสีแดงหลายดอกพุ่งออกมาหลายนัด ทำลายประตูเหล็กที่แม้แต่ปืนใหญ่ออร์บเมนท์ยิงตรง ๆ ก็ยังทำอะไรไม่ได้จนกระเด็น เหล่าคนชุดดำได้แต่ตกใจในสภาพทีเกิดขึ้น
เสียงชายหนุ่ม "เฮ้อ ไอ้ท่านี้มันควบคุมยากไปหรือเปล่าเนี่ย? คงเพราะไม่ค่อยได้ใช้มานานล่ะมั้ง"
- ชายหนุ่มผมเขียวในชุดบาทหลวงลาดตระเวนนาม "เควิน เกรแฮม" (ケビン・グラハム) เดินถือโบว์กันออกมา
ชุดดำ 2 "อะไรเนี่ย......"
ชุดดำ 3 "บาทหลวง...... ของโบสถ์?"
เควิน เกรแฮม "ก็คงจะ เป็นบาทหลวงตัวจริงเสียงจริงนั่นแหล่ะ ถ้าจะขอฟังคำสารภาพบาปตอนนี้เลยจะได้หรือเปล่าล่ะ? ดูเหมือนพวกพี่ชายจะมีอดีตเบื้องหลังที่มืดมนอยู่มากซะด้วย"
ชุดดำ 3 "คึ......"
ชุดดำ 1 "อย่าไปฟังมันเป่าหู! บุกเข้าไปพร้อมกันเลย!"
เควิน เกรแฮม "เฮ้อ------ นั่นน่ะ ชั้นอยากจะพูดว่า <สารภาพมาซะ ว่าไปขโมยมิร่ามาใช่มั้ย!> ต่างหากล่ะ ......แต่ก็ดี ไม่ค่อยมีเวลามากซะด้วย เข้ามาทั้งหมดเลยนั่นแหล่ะ"

BATTLE ชุดดำ ดาบ + ชุดดำ มือปืน *2
黒服・刀 + 黒服・銃
- ไม่ยากค่ะ เพราะตอนนี้เควินเก่งมาก ๆ หากใช้ Craft "เดธพันนิชเชอร์" (デスパニッシャー) ที่กินอาณาเขตปานกลางสู้ หรือใช้อาร์ท "ไททานิค รอร์" (ทั่วฉาก) ก็จะชนะได้โดยง่ายค่ะ

**แถมค่ะ สังเกตดูดี ๆ เสียงพากษ์ในฉากต่อสู้ของเควินในตอนที่สู้คนเดียวจะหล่อและเท่ห์มาก ๆ ค่าาาาาา แต่ทำไมเวลาต่อสู้ร่วมกับเพื่อนในทีม เควินถึงดัดเสียงให้มันฟังตลก ๆ ก็ไม่รู้ แต่ยังไงก็ カッコイイ!! ケビン様!!

- เมื่อปราบได้เหตุการณ์จะดำเนินต่อไปค่ะ
ชุดดำ 1 "ขี้ข้าของโบสถ์...... <อัศวินจอกดารา> (聖杯騎士) งั้นเหรอ...... เคยได้ยินแต่ข่าวลือ ไม่นึกว่า......"
เควิน เกรแฮม "ไม่ขอถามแล้วกันว่าเป็นข่าวลือประเภทไหน ไม่ต้องห่วงไปหรอกเป้าหมายของชั้นคือนายจ้างของพวกนายเท่านั้น หลับให้สบายเถอะ"
ชุดดำ 1 "คึ...... ......ปิศาจ......"
เควิน เกรแฮม "......เอาล่ะ ของที่ต้องการถูกเก็บกู้แล้ว รีบกลับไปที่ห้องจัดเลี้ยงจัดการให้สิ้นเรื่องดีกว่า อ๊~า แต่ว่าน่าเสียดายที่ต้องปฏิเสธคำเชิญชวนของมาดามคนนั้นจังเลยน้า เชฟก็บ๊ะ แถมเหมือนคุณสามีจะไม่ค่อยเติมเต็มให้ซะด้วย...... เอาเถอะ เล่นกับไฟให้มันพอประมาณดีกว่า"
- กลับไปที่ห้องจัดเลี้ยงค่ะ ระหว่างทางจะเกิดการต่อสู้ขึ้น (สตีลคูเกอร์ *2) (スティールクーガー)
- และ (ชุดดำ ดาบ + ชุดดำ มือปืน *2)
- ตรงระเบียงทางเดินจะเกิดการต่อสู้ขึ้น (ชุดดำ ดาบ *2 + ชุดดำ มือปืน *2)
- ที่หน้าประตูทางเข้าห้องจัดเลี้ยงจะทราบว่าพวกชุดดำที่ถูกคอนราดจ้างมานั้น เป็นอดีต "ทหารรับจ้างทางเหนือ" (北の猟兵) แห่งโนแซมเบรีย (ノーザムブリア) ที่ล่มสลายไปแล้ว
(หากใครที่พอจะจำได้ว่าในภาค FC ศจ. อัลบา หรือก็คือ ศจ. ไวส์แมน 1 ในสาวกแห่งงู ก็เคยบอกพวกเอสเทลว่าเขาเกิดที่โนแซมเบรียค่ะ)
- เกิดการต่อสู้กับ (สตีลคูเกอร์ *2 + ชุดดำ ดาบ + ชุดดำ มือปืน)
- ปราบได้ เควินจะเข้ามาในห้องจัดเลี้ยงท่ามกลางเสียงเซ็งแซ่ของผู้คนในงาน
พ่อค้าอาวุธคอนราด "แก...... เป็นใครกัน ! บาทหลวงของโบสถ์------ หรือว่า!"
เควิน เกรแฮม "ฮะฮ่า สมกับที่เป็นผู้ครอบครองของพรรค์นั้น รู้ว่าพวกชั้นเป็นใครด้วย"
- พูดจบ เควินก็หยิบ <ล็อกเก็ตคนเขลา> ออกมา
พ่อค้าอาวุธคอนราด "กะ แก......! เอาคืนมาาาาา!! นั่นมันของของช้านนนนน!!"
เควิน เกรแฮม "เสียใจด้วยนะ ของเนี่ยเป็นของที่ควรจะคืนให้แก่เทพธิดา ไม่ใช่ของที่คน ๆ นึงจะเป็นเจ้าของได้ง่าย ๆ หรอก"
พ่อค้าอาวุธคอนราด "ฆะ ฆ่ามันซะ...... รีบ ๆ ฆ่าไอ้หมอนี่! แล้วเอาล็อกเก็ตกลับมาเดี๋ยวนี้!"
- SP ชุดดำชักปืนออกมา แขกเหรื่อต่างพากันวิ่งหนีอย่างชุลมุน เควินหยิบสัญลักษณ์จอกดาราออกมาสร้างเกราะป้องกันกระสุนรอบตัวเขา ในขณะที่พวกคอนราดได้แต่ตกใจ เควินฉวยโอกาสใช้โบว์กันยิงสะกัดไว้ได้ เขาค่อย ๆ เดินเข้าไปใกล้คอนราด
เควิน เกรแฮม "เฮลแมน คอนราด ภายใต้พระธรรมของโบสถ์ ด้วยนามแห่งเอดอส ขอทำการจับกุมเจ้า ข้อหาคือครอบครอง <อาร์ติแฟกซ์ (มรดกแห่งอารยธรรมโบราณ)> (古代遺物《アーティファクト》) โดยไม่ได้รับอนุญาต รวมถึงนำไปใช้งานในทางที่ไม่ถูกต้อง"
พ่อค้าอาวุธคอนราด "ทะ ทำแบบนี้ อย่าคิดว่ามันจะจบลงง่าย ๆ นะ!? ไม่ว่าจะโบสถ์เจ็ดจรัส (七耀教会) หน้าไหน ถ้ามาแตะต้องชั้นที่เป็นกรรมการบริหารของไรน์ฟอร์ดล่ะก็......"
เควิน เกรแฮม "อ๋อ------ เกี่ยวกับเรื่องนั้นเดี๋ยวค่อยไปคุยกับทางโน้น ถึงยังไงนายก็ใช้ไอ้เนี่ย ทำเรื่องเละตุ้มเป๊ะไปแล้วไม่ใช่เหรอ? แล้วก็ดูเหมือนว่าปัญหาจะเกิดขึ้นรอบด้านไปไม่น้อยด้วยใช่เปล่า?"
พ่อค้าอาวุธคอนราด "!!!"
เควิน เกรแฮม "แถมคนนอกอย่างนายน่าจะมีศัตรูเยอะแยะอย่างไม่ต้องสงสัยเลยล่ะ เอาเถอะ ถือซะว่าโชคไม่ดีแล้วยอมถูกจับง่าย ๆ ดีกว่า"
- คอนราดถอยออกไปด้านหลังแล้วฉวยจังหวะหยิบปืนขึ้นมา แต่ทว่าเควินไหวตัวทันและต่อยเข้าที่ท้องของเขา
เควิน เกรแฮม "......จริง ๆ เล้ย อย่าให้ต้องเสียเวลามากนักสิ"
- เควินแบกคอนราดขึ้นมาด้วยหน้าตาเหนื่อยหน่ายพร้อกกับบ่นพึมพำว่า
เควิน เกรแฮม "นึกว่าภารกิจนี้จะหมู ๆ ซะอีก...... แต่ไอ้ที่ต้องจับเป็นนี่มันก็วุ่นวายชะมัด......"
- จังหวะที่เควินกำลังบ่นอุบอยู่นั้น ทหารพรานสวมเกราะพร้อมอาวุธครบมือก็วิ่งกรูกันเข้ามาเพื่อชิงตัวนายจ้างของพวกเขา
เควิน เกรแฮม "โอ๊ะ เตรียมตัวพร้อมรบกันมาเลยเหรอ สมกับเป็น <ทหารพรานทางเหนือ> ผู้มีชื่อเสียงเลื่องลือ รับมือกับสถานการณ์ได้รวดเร็วดีนะ"
- ทหารพรานขู่ให้เควินวางคอนราดนายจ้างของพวกเขาลง เพราะว่าคอนราดจำเป็นต่อพวกเขา และยังขู่ว่าถ้าไม่ทำตามจะทำร้ายผู้โดยสารบนนี้อีกด้วย ไม่ว่าจะยังไงดูเหมือนทหารพรานพวกนี้จะร้ายไม่ใช่เล่น
เควิน เกรแฮม "ฟู่... คราวนี้ลัคกี้กันทั้งคู่นะ ถ้าหากคนชั่วเล็กน้อยอย่างนี้ถูกระบุว่าเป็น <นอกรีต> (外法) ล่ะก็...... ชั้นคงใกล้จะ "ล่า" (狩り) พวกนายทุกคนแล้วล่ะ เอาเถอะ ทุ่มเทเพื่อฟื้นฟูบ้านเกิดโดยไม่ย่อท้อไปเถอะ แต่อย่าให้ถึงขั้นที่ <พวกชั้น (หน่วยอัศวิน)> ต้องออกล่าซะล่ะ"
- พูดจบ เควินกระโดดทะลุกระจกหน้าต่างออกไป เบื้องล่างมีเรือเหาะความเร็วสูงบินมารับได้พอดีราวกับนัดหมายเอาไว้ ปล่อยให้ทหารพรานและแขกเหรื่อบนลูชิทาเนียตกตะลึงกับความกล้าบ้าบิ่นของเขา
- "หึหึ...... ทำให้ชั้นสนุกไม่น้อยเลย" เสียงบุคคลปริศนาดังขึ้น "ทว่า เรื่องราวมันหลังจากนี้ไปต่างหากล่ะ เควิน เกรแฮม------"
บุคคลสวมหน้ากาก "------เพราะว่า <ชั้น (จ้าว)> (王) เพิ่งจะลืมตาตื่นขึ้นมาเอง"




ยานปฏิบัติการพิเศษ <เมลคาบาห์> (特殊作戦艇《メルカバ》) หมายเลข 5
สังกัดหน่วยอัศวินจอกดารา โบสถ์เจ็ดจรัส---
อัศวินรับใช้เซซัล "ท่านเกรแฮม เหนื่อยหน่อยนะครับ"
อัศวินรับใช้มาร์คัส "เหนื่อยหน่อยนะครับ ดูเหมือนว่าคราวนี้จะจัดการได้อย่างสบาย ๆ นะครับ"
เควิน เกรแฮม "ก็นะ ถ้าเทียบกับทุกทีก็เอาตัวรอดได้อย่างสบาย ๆ นั่นแหล่ะ เฮ้อ~ ถ้ามีเวลาเหลือล่ะก็ อยากจะผจญภัยกับมาดามขี้เหงานั่นให้สนุกเหมือนกันน้า"
อัศวินรับใช้เซซัล "พูดแบบนั้นอีกแล้ว......"
อัศวินรับใช้มาร์คัส "ถ้าปล่อยตัวหย่อนยานเกินไปล่ะก็ จะถูกท่านอธิการจับตามองเอาได้นะครับ?"
เควิน เกรแฮม "เฮ้เฮ้ พวกนายนี่ก็เข้มงวดเหมือนกันเลยน้า ไม่เข้าใจเลยว่าทำไมถึงโดนจัดมาอยู่กับคนเหลวไหลอย่างชั้นได้เนี่ย"
อัศวินรับใช้เซซัล "ฟู่...... ก็เพราะไม่ว่าจะมองจากมุมไหนท่านก็เป็น 1 ใน <อัศวินพิทักษ์> (守護騎士) นี่ครับ พวกเราจึงต้องคอยสนับสนุน รวมทั้ง <เมลคาบาห์> นี่ด้วย"
อัศวินรับใช้มาร์คัส "แถมจำนวนของอัศวินรับใช้ (従騎士) ก็ยังต่ำกว่าจำนวนที่กำหนดไว้อีก ไหน ๆ แล้วลองพิจารณาเพิ่มจำนวนคนดีมั้ยครับ"
เควิน เกรแฮม "ถ้าทำแบบนั้นมันก็จะทำอะไรคนเดียวยากขึ้นน่ะสิ เกรงใจไม่เอาดีกว่า"
อัศวินรับใช้มาร์คัส "เฮ้อ......"
อัศวินรับใช้เซซัล "ถ้าจะกรุณาทำตัวให้วางใจมากขึ้นกว่านี้อีกนิด พวกเราจะได้หมดห่วง...... แต่เหตุการณ์เมื่อครึ่งปีก่อนหน้านี้ ท่านเอา <เสาเกลือ> (塩の杭) ติดตัวไปอย่างเดียวเองนะครับ"
เควิน เกรแฮม "ที่ต้องเอาไอ้นั่นไปเพราะมันเป็นภารกิจที่ใหญ่หลวงมากน่ะสิ...... (แถมถ้าเคลื่อนไหวไม่ระวังจนโดนเจ้านั่นรับมือก็ไม่ได้ซะด้วย......)"
อัศวินรับใช้เซซัล "เอ๊ะ......?"
เควิน เกรแฮม "เปล่า ไม่มีอะไร ------ตามกำหนดการกลับอัลเทเรีย (アルテリア) ไปทั้ง ๆ อย่างนี้เลยนะ พรุ่งนี้...... ไม่สิต้องวันนี้แล้วสินะ กลับไปให้ทันช่วงบ่ายกันเถอะ"
อัศวินรับใช้มาร์คัส "ทราบแล้ว......"
- สัญญาณจากเครื่องมือสื่อสารดังขึ้น
เควิน เกรแฮม "จากที่ไหนน่ะ?"
อัศวินรับใช้เซซัล "อัลเทเรีย------ ติดต่อโดยตรงมาจากท่านอธิการเซลเนิร์ต (セルナート総長) ครับ"
เควิน เกรแฮม "แหง่ะ จริงง่ะ? (เวลาคน ๆ นั้นติดต่อมาในจังหวะแบบนี้ต้องไม่ใช่เรื่องดีแน่เลย......) ช่วยไม่ได้...... ต่อสายสิ"
อัศวินรับใช้เซซัล "รับทราบ"
- จอภาพเลื่อนลงมาแสดงให้เห็นภาพของสายปลายทาง
อธิการเซลเนิร์ต "ไงเควิน เหนื่อยหน่อยนะ ทางนั้นเป็นไงบ้างล่ะ?"
เควิน เกรแฮม "ครับ ไม่มีปัญหา ของคือ <ล็อกเก็ตคนเขลา> ถึงจะพบวี่แววของ <งู> ก็จริงอยู่ แต่คงจะซ่อนตัวอยู่ครับ"
อธิการเซลเนิร์ต "งั้นเหรอ...... ตามคาดเลยสินะ ขอบใจมาก กลับมาแล้วก็พักซักหน่อย------ ก็อยากจะพูดแบบนั้นอยู่หรอกแต่ว่า"
เควิน เกรแฮม "(นั่นไงว่าแล้ว......)"
อธิการเซลเนิร์ต "หืม มีอะไร?"
เควิน เกรแฮม "เปล่าครับเปล่า เชิญต่อได้เลยครับ"
อธิการเซลเนิร์ต "อืม ภารกิจเพิ่งเสร็จ ขอโทษด้วยนะแต่...... มีเรื่องนึงอยากจะขอร้องเธอน่ะ"
เควิน เกรแฮม "ฮืม...... เกี่ยวกับ <นอกรีต> หรือครับ?"
อธิการเซลเนิร์ต "เปล่า แค่ <ของที่เก็บกู้> (回収物) ธรรมดาน่ะ ดูเหมือนว่าจะถูกเก็บรักษาไว้ชั่วคราวที่ใต้ดินของมหาวิหารแกรนเซล (グランセル大聖堂)"
เควิน เกรแฮม "แกรนเซล......! อย่างนี้นี่เอง แสดงว่าอาจจะเกี่ยวข้องกับ <วงแหวน> (環) สินะครับ......"
อธิการเซลเนิร์ต "คงจะมีความเป็นไปได้มากล่ะมั้ง ว่าไงจะวานหน่อยได้มั้ยล่ะ?"
เควิน เกรแฮม "......ทราบแล้วครับ แต่ยังไงก็ต้องคุมตัวดวงดาวไปส่ง งั้นจะให้ <เมลคาบาห์> กลับอัลเทเรียไปเลย แล้วผมจะไปลีเบร์ลคนเดียว"
อธิการเซลเนิร์ต "อา ฝากด้วยนะ จริงสิ สำหรับคดีนี้ชั้นได้ส่งอัศวินรับใช้เข้าใหม่ไปให้ 1 นายด้วย เพิ่งจะทำงานเป็นครั้งแรกใต้บังคับบัญชาของเธอ เพราะงั้นช่วยดูแลเรื่องจุกจิกให้หน่อยนะ"
เควิน เกรแฮม "ดะ เดี๋ยวก่อนสิครับ! คนใหม่เนี่ย...... จู่ ๆ ก็!"
อธิการเซลเนิร์ต "หึ การพบกันของเทพธิดาก็เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นกะทันหันอยู่บ่อย ๆ นี่นะ ผลการฝึกก็อยู่ในระดับยอดเยี่ยม คงจะไม่ไปเกะกะเธอหรอก ไปล่ะ ขอให้สู้อย่างเต็มกำลังและความสามารถนะ"
- เมื่ออธิการเซลเนิร์ตพูดจบก็ตัดการติดต่อไปทันที
เควิน เกรแฮม "..................(ผงาบผงาบ)"
อัศวินรับใช้เซซัล "ฮะฮะ...... จะพูดว่ายังไงดีนะ"
อัศวินรับใช้มาร์คัส "ดะ ดีเลยไม่ใช่เหรอครับ เหมือนจะมีคนใหม่เข้ามาเนี่ย"
เควิน เกรแฮม "มันจะมีเรื่องดี ๆ ด้วยเหรอ! เฮ้อ คน ๆ เนี้ยะ ไม่เปลี่ยนไปจากเมื่อก่อนเลยนะ...... ไม่คิดว่าจะเป็นบุคคลต้นแบบในนวนิยายขายดีได้เล้ย"
อัศวินรับใช้มาร์คัส "อ๋อ...... <คาร์เนเลีย> (カーネリア) ใช่หรือเปล่าครับ"
อัศวินรับใช้เซซัล "อ้าว ก็ดีแล้วนี่ครับ? รู้สึกเหมือนกับว่า <พวกเรา (หน่วยอัศวิน)> ได้เป็นที่รู้จักไปทั่วโลก......"
เควิน เกรแฮม "ถ้าเป็นเนื้อหาที่อยู่ในละครก็ต้องดีอยู่แล้ว แถมมีการปล่อยข้อมูลออกมาป่วนตามเรื่องตามราวว่านางเอกตายไปแล้วด้วย ......นี่ถ้ามารู้จักตัวจริงล่ะก็คงจะรู้กันทันทีเลยล่ะว่าไม่ตายง่าย ๆ หรอก"
อัศวินรับใช้เซซัล "ฮะฮะ......"
อัศวินรับใช้มาร์คัส "แหม วิจารณ์กันพอประมาณดีกว่าครับ"
เควิน เกรแฮม "ยังไงก็เถอะ....... ตามที่คุยกันเมื่อกี๊ คดีนี้ที่เหลือพวกนายก็รับไปสะสางต่อทั้งหมด สำรวจเส้นทางการใช้มิร่า (เงิน) ด้วยก็ดี คิดว่าน่าจะยังมีบัญชีลับอยู่อีก"
อัศวินรับใช้เซซัล "อย่างนี้นี่เอง...... วางใจได้เลยครับ"
อัศวินรับใช้มาร์คัส "พวกเราจะกลับไปอัลเทเรียเอง...... แล้วท่านจะเอายังไดีครับ?"
เควิน เกรแฮม "นั่นสินะ ให้ชั้นลงที่เขตปกครองตนเองเหมาะ ๆ ก็แล้วกัน ถ้าเป็นไปได้ ขอเป็นใกล้ ๆ เมืองที่มีเรือเหาะประจำทางระหว่างประเทศก็ดี"
อัศวินรับใช้มาร์คัส "ทราบแล้ว------"
- แสงเรืองรองของดวงอาทิตย์โผล่ขึ้นมาจากเส้นขอบฟ้า เป็นสัญญาณบอกว่าเข้าสู่เช้าวันใหม่แล้ว



วันเดียวกัน ช่วงบ่าย---
ใจกลางภาคตะวันตกของทวีปเซมเรีย
ตามพิกัดบนน่านฟ้า
ห่างจากลีเบร์ลประมาณ 500 เซลจ์

เรือเหาะประจำทางระหว่างประเทศ เกรทน่า (国際定期船グレトナ号)
- หญิงสาวที่ดูคุ้นเคยยืนถ่ายรูปนกย้ายถิ่นอยู่บนดาดฟ้าเรือประจำทาง
- "อ๊า คุณหนู หรือว่าจะเป็น......" "บาทหลวงเควิน" (ケビン神父) เดินออกมาพร้อมกับทักทายสาวน้อยช่างภาพสุดเอ๋อว่า "โดรธีจัง ไม่ได้เจอกันนานเลยน้า! นึกไม่ถึงว่าจะบังเอิญมาเจอกันบนเรือที่จับผลัดจับผลูขึ้นมา"
โดรธี "อุหึหึ ฉันเองก็ตกใจเหมือนกันค่า~! ไม่ได้เจอกันนานเลยนะคะ ................................. ............เอ่อ.............."
- "โดรธี" (ドロシー) เงียบไปพักใหญ่ พยายามนึกชื่อของอีกฝ่าย
บาทหลวงเควิน "....................... หรือว่า จะลืมชื่อชั้นไปแล้ว?"
โดรธี "ปะ เปล่าน้า~ ต้องไม่ใช่อย่างนั้นอยู่แล้วค่า~ เอ คือ อื~ม...... ใช่แล้ว! คุณเนงิ เกรแฮมสิน้า~! (คุณต้นหอม เกรแฮม)"
บาทหลวงเควิน "ใช่แล้วใช่แล้ว จะเอาไปต้มก็ดีหรือเอาไปทอดก็ได้ เป็นผักที่ต้องขอแนะนำเลยคร้า~บ ใช่ซะที่ไหนล่ะ! ว่าแล้ว ดูยังไง ๆ ก็ลืมชื่อไปแล้ว! จำเกรแฮมได้แท้ ๆ แล้วทำไมถึงจำชื่อไม่ได้ล่ะ!"
โดรธี "อุหึหึ ล้อเล่นน่ะค่า อันที่จริงเมื่อวานซืนเพิ่งจะทานอาหารที่ทำจากต้นหอมที่เมืองของคนทางตะวันออกมาน่ะค่า~ มันอร่อยจริง ๆ นะค้า~! ทั้งที่ใส่แค่ต้นหอมลงไปในเมนูนาเบะ ก็อุ๊นอุ่นนุ๊มนุ่มหว๊านหวาน~! ก็เลยจำผิดไปน่ะค่า~"
บาทหลวงเควิน "เฮ้อ...... เอาเถอะไม่เป็นไร งั้นโดรธีจัง ตกลงว่าชื่อของชั้นคือ......"
โดรธี "อะแฮ่ม วางใจได้เลยค่า~ คุณโดบิน (กาน้ำชาดินเผาที่คนญี่ปุ่นนิยมใส่อาหารต่าง ๆ ลงไปนึ่ง) ไม่ได้เจอกันนานจริง ๆ นะค้า~"
บาทหลวงเควิน "ใช่แล้วใช่แล้ว ถ้าใส่เครื่องตามฤดูกาลลงไปนึ่งด้วยก็จะกลายเป็นซุปใสอร๊อยอร่อย~ เอ้ย มันจะเป็นไปได้ยังไงเล่า!?"
- ที่ห้องชมวิวจะรู้ว่าโดรธีมาหาข้อมูลไปทำข่าวตามที่รุ่นพี่ไนแอล (ナイアル) ได้วานให้ไปทำคนเดียวที่บอสมาร์เก็ต ในเมืองบอส แต่ว่าเธอดันขึ้นเรือประจำทางผิดค่ะ แถมไม่รู้ตัวแม้แต่นิดเพราะหลับไปตลอดทาง พอตื่นขึ้นมาก็อยู่ที่คาลวาร์ดแล้วค่ะ (แบบนี้ก็มีด้วยแฮะ) แต่เรื่องเงินกับพาสปอร์ตนั้นไม่มีปัญหา เพราะได้คนของสถานทูตลีเบร์ลให้ความช่วยเหลือ แถมตอนเดินทางหาข้อมูลทำข่าวไปรอบ ๆ สาธารณรัฐก็มีแต่คนใจดีให้ความช่วยเหลือจึงไม่ลำบากอะไรค่ะ (โชคดีจริง ๆ นะเนี่ย)
- เควินจะเป็นห่วงว่าแล้วคุณไนแอลรู้รึยัง ซึ่งโดรธีบอกว่าเมื่อวานติดต่อไปแล้วว่ากำลังจะเดินทางกลับไปที่สำนักข่าวลีเบร์ล แต่รุ่นพี่ทำเสียงเหมือนปวดท้อง โดรธีเลยแอบนินทาไนแอลว่าอายุก็มากแล้วยังสูบบุหรี่จัดนี่นะ (อันที่จริงเขาเครียดจนลงกระเพาะต่างหากเล่าหนูเอ๊ย)
- เมื่อเสียงประชาสัมพันธ์ดังขึ้นและแจ้งว่า อีก 30 นาทีจะถึงลีเบร์ล โดรธีจะแยกตัวออกไปหาข้อมูลทำข่าวอีกหน่อย ส่วนเราก็ไปคุยกับผู้โดยสารบนเรือประจำทางให้ครบทุกคน แล้วตัดฉากก็จะผ่านบทไปได้ค่ะ
★บนเรือประจำทาง เราจะพบคู่ข้าวใหม่ปลามันอย่าง "อารุม" และ "แอร์รี่" ที่เดินทางไปท่องเที่ยวรอบทวีปมาตลอดครึ่งปีที่ผ่านมาด้วยนะคะ ดูเหมือนว่าทั้ง 2 คนจะมีความสุขมาก ๆ เลย แถมยังพูดถึงเรื่องบ้านที่อยากจะสร้างขึ้นในลีเบร์ลด้วย

นครหลวงแกรนเซล (王都グランセル)
- เมื่อเรือเหาะเทียบท่า โดรธีจะคิดถึงบรรยากาศที่ลีเบร์ลมาก ๆ แล้วทั้ง 2 คนจะคุยกันถึงเรื่องบ้านเกิด
โดรธี "บ้านเกิดของคุณเควินเนี่ย ใช่ที่อัลเทเรียหรือเปล่~า? ได้ยินมาว่ามีโบสถ์ใหญ่ ๆ อยู่เยอะแยะเล~ย"
บาทหลวงเควิน "อ่อ------...... ชั้นไม่ได้เกิดที่อัลเทเรียหรอก ธรรมจักรอัลเทเรีย (アルテリア法国) เป็นที่ตั้งสำนักงานบริหารส่วนกลางของโบสถ์เจ็ดจรัส (七耀教会の総本山) ถึงจะมีเหล่าศาสนิกชนและคนที่เกี่ยวข้องกับโบสถ์จากทั่วทวีปมารวมตัวกัน แต่น้อยคนที่จะเกิดในอัลเทเรียจริง ๆ แล้วถึงจะได้ชื่อว่าเป็นอาณาจักร แต่พื้นที่ทั้งหมดก็ยังเล็กว่าเขตปกครองตนเองแถวนั้นอีก"
โดรธี "ฮ้า~ อย่างนั้นเองเหรอค้า เอ๊ะ ถ้างั้นบ้านเกิดของคุณเควินเนี่ย......"
- "โดร~ ธี~" เสียงผู้ชายดังขึ้นทำให้การสนทนาของทั้งคู่ต้องหยุดไป
- รุ่นพี่ "ไนแอล" มารับโดรธีที่ท่าเทียบเรือเหาะ แต่ก็แฝงอารมณ์เคือง ๆ โดรธีนิด ๆ เพราะทั้ง ๆ ที่ตนสั่งให้ไปหาข่าวที่บอส แต่ยัยรุ่นน้องตัวดีดันทำให้หัวข้อข่าวเปลี่ยนไปเป็นการทำหนังสือรวบรวมเมนูอาหารของคาลวาร์ดซะนี่
(ไนแอลไม่มีแรงจะต่อว่ารุ่นน้องที่น่าปวดหัว แต่โดรธีไม่ได้รู้ตัวเล้ย ยังมีหน้าไปเหน็บไนแอลว่า ก็ 30 แล้วนี่ แถมวันเกิดของรุ่นพี่เพิ่งผ่านมาด้วย แล้วเดี๋ยวเธอจะซื้อขนมเค้กเลี้ยงให้เอง)
- เควินกับไนแอลจะทักทายกันตามประสาคนที่ไม่ได้เจอกันนาน เควินเห็นท่าทางของไนแอลกับโดรธีแล้วก็รู้สึกว่าไนแอลคงลำบากไม่ใช่น้อยกับคุณหนูคนนี้
- เควินมองดู 2 นักข่าวที่เดินจากไปด้วยความเหนื่อยหน่ายใจ
บาทหลวงเควิน "ฮ้า~ พอมอง 2 คนนั้นแล้ว รู้สึกเลยแฮะว่ามาถึงลีเบร์ลแล้ว แต่ว่าคนอื่น ๆ ทำอะไรกันอยู่นะ...... ได้ยินมาว่าเอสเทลจังกับโยชัวร์คุงไปต่างประเทศนี่นา......"
- "บาทหลวงแกรมแฮม......" "พันโทซีด" (シード中佐) มารับเควินแทนยูเลียที่ไปปฏิบัติหน้าที่อื่นอยู่ จากนั้นทั้ง 2 จะไปที่มหาวิหารแกรนเซล โดยซีดบอกว่ามีคนอยากจะแนะนำให้เควินรู้จักด้วยค่ะ

มหาวิหารแกรนเซล (グランセル大聖堂)
- ภายในมหาวิหารได้พบกับ "อาร์คบิชอปคาแลนท์" (カラント大司教) และผู้หญิงในชุดสีขาว
หญิงในชุดขาว "หื~ม หนุ่มยิ่งกว่าที่ได้ยินมาอีกนะเนี่ย คุณ อายุเท่าไร?"
บาทหลวงเควิน "เห......? เพิ่งจะ ยะ 22 ครับ"
หญิงในชุดขาว "ฮืม......หนุ่มกว่าที่คิด ------<หน่วยอัศวินจอกดารา> เนี่ย ถึงจะยังหนุ่มแบบนี้ก็ได้รับความไว้วางใจให้ทำงานสำคัญ ๆ งั้นเหรอ? ------<โดมิเนี่ยน (อัศวินพิทักษ์)> (守護騎士《ドミニオン》) ลำดับที่ 5------ คุณเควิน เกรแฮม"
บาทหลวงเควิน "..............."
หญิงในชุดขาว "อือหืม สีหน้าเปลี่ยนไปเลยนะ ระดับนี้แล้วยังหวั่นไหวได้เนี่ย ขาดการฝึกฝนไปหน่อยมั้ง? ยิ่งกว่านั้น ลักษณะท่าทางที่แสดงออกแบบนั้นก็เป็นการแสดงอย่างหนึ่งด้วยใช่มั้ยล่ะ?"
บาทหลวงเควิน "......คุณ ......"
พันโทซีด "ฟู่ ดร. รัซเซล......"
บาทหลวงเควิน "เห......"
หญิงในชุดขาว "ไม่ - สน ------ก็ต้องเอาไอ้นั่นที่อุตส่าห์งมขึ้นมาให้กับคน ๆ นี้ไปใช่มั้ยล่ะ? แล้วก็อย่ามาเรียกฉันด้วยชื่อนั้นด้วย ไม่ชอบที่จะมาเรียกด้วยชื่อเหมือนกับตาแก่พรรค์นั้นนะ"
พันโทซีด "เฮ้อ......."
บาทหลวงเควิน "ระ รัซเซลเนี่ย...... หรือว่าจะเป็น ...ของทีต้าจัง?"
ดร. เอริก้า "หึหืม ควรจะพูดว่ายินดีที่ได้รู้จักสินะ ฉันชื่อเอริก้า เอริก้า รัซเซล จากนี้ไปมาปรองดองกันไว้ดีกว่านะ"

มหาวิหารแกรนเซล - ชั้นใต้ดิน (グランセル大聖堂・地下)
- เควิน, ดร. เอริก้า และพันโทซีด ใช้บันไดวนยาวสุดลูกหูลูกตามุ่งหน้าไปสู่ที่เก็บรักษาอาร์ติแฟกซ์ในชั้นใต้ดินของมหาวิหาร
(จากตรงนี้เราจะทราบว่า เอริก้าไม่ค่อยพอใจพ่อของตัวเองมากนัก (เธอเรียกพ่อตัวเองว่า "ตาแก่") ที่ชอบพาหลานสาวที่น่ารักหรือก็คือทีต้าลูกของเธอไปข้องเกี่ยวกับอันตรายบ่อย ๆ ในช่วงที่เธอไม่ได้อยู่ที่ลีเบร์ลค่ะ แถมยังบ่นว่าตาลุงนั่นชอบเปิดโอกาสให้ทีต้าลูกรัก ไปคลุกคลีกับผู้ชายผมแดงจอนแดงท่าทางเกกมะเหรกเกเรอีกต่างหาก แต่ไอ้ผมแดงจอนแดงน่ะ หมายถึงอากัตใช่มั้ยเนี่ย)
ดร. เอริก้า "คึคึคึ เตรียมใจเอาไว้เถอะ อากัต ครอสเนอร์...... คราวหน้าฉันจะโจมตีนายด้วยเครื่องบินรบที่พาวเวอร์อัฟแล้วให้ดู......"
- เควินถึงกับสะอึกกับคำพูดอันแสนน่ากลัวของเอริก้า แล้วหันไปกระซิบกระซาบถามพันโทซีดว่า ดร. เอริก้า น่าจะไปพบเจออะไรมาแน่เลย ซึ่งพันโทซีดก็ไม่รู้รายละเอียด รู้แต่เพียงว่า ดร. รัซเซล อยู่ระหว่างการท่องเที่ยวต่างประเทศในตอนนี้พอดีก็เลยขอให้ ดร. เอริก้ามาช่วยแทนค่ะ
(แต่ถึงจะกระซิบเบากันเพียงใด 2 หนุ่ม (หรืออีกคนไม่หนุ่ม แต่เสน่ห์เหลือร้ายแบบผู้ใหญ่) ก็ไม่อาจรอดพ้นหูจับเสียงนินทาพลังโซนาร์ของเอริก้าผู้เอาแต่ใจตัวเองไปได้ค่ะ โดนดุไปซะยกใหญ่)
- เมื่อมาถึงสุดทางของชั้นใต้ดิน ดร. เอริก้า และพันโทซีดต้องประหลาดใจเมื่อทางที่มาถึงเป็นทางตัน
บาทหลวงเควิน "ดร. เอริก้า พันโทซีด เพื่อที่จะไปข้างหน้าต่อ มีเรื่องจำเป็นที่จะต้องให้คุณทั้ง 2 ช่วยดำเนินการให้ครับ"
พันโทซีด "หืม......"
ดร. เอริก้า "จู่ ๆ ก็มาพูดเรื่องชวนน่าสงสัยนะ หรือจะเป็นวิชาธรรมะที่ทางโบสถ์ชำนาญหรือไงกัน?"
บาทหลวงเควิน "ครับ เป็นอย่างนั้นแหล่ะ ถ้าพูดให้เป็นรูปธรรมหน่อย ก็คืออยากจะให้หลับตาลง"
พันโทซีด "หลับตา......"
ดร. เอริก้า "มาถึงตรงนี้แล้ว คิดว่าว่าจะมาพูดอะไรกับใครก็ได้งั้นเหรอ?"
บาทหลวงเควิน "ไม่ใช่ครับ พันโทคงจะรายงานเรื่องต่าง ๆ ไปยังเบื้องบน จนกว่าจะถึงตอนนั้นทางนี้จะไม่พูดจาไร้สาระหรอกครับ เป็นเรื่องธรรมดาที่ทางเราจะไม่บอกใครนอกจากผู้ที่ให้ความเชื่อมั่นเรื่องที่เห็นนี้ได้ ......แค่คิดด้วยใจก็พอแล้วครับ"
ดร. เอริก้า "วุ่นวายจริงนะ...... เอาเถอะ ถ้าแค่นั้นจะทำให้เท่าไรก็ได้"
พันโทซีด "ทางนี้ก็รับทราบแล้ว ต้องภาวนาในใจด้วยหรือเปล่าล่ะ?"
บาทหลวงเควิน "ไม่ต้องหรอกครับ แค่ทำตัวให้สบาย ๆ ก็พอแล้วครับ เอาล่ะ จะเริ่มแล้วนะครับ------"
- เควินหยิบสัญลักษณ์จอกดาราขึ้นมา
บาทหลวงเควิน "------ด้วยนามแห่งเทพธิดาแห่งท้องฟ้า พลังศักดิ์สิทธิ์ที่ถูกแยกเป็นเจ็ดจรัส ณ ที่นี้ ประกายสีทองแห่งฟากฟ้า ประกายสีเงินแห่งภูมิปัญญา------ จงชี้นำคนเหล่านี้สู่เส้นทางที่จะไปยังรอยทางแห่งความลับ"
- แสงสว่างวาบออกมาจากสัญลักษณ์แห่งจอกดารา ทำให้ร่างกายของ ดร. เอริก้า และพันโทซีด เรืองรองด้วยแสงสีขาวบริสุทธิ์ ยังผลให้คนทั้ง 2 มองเห็นประตูที่ซ่อนเอาไว้ ซึ่งถ้าหากพวกเขาไม่เชื่อมั่นด้วยใจแล้ว จะไม่มีทางมองเห็นประตูทางเข้าได้เลย จากนั้นทั้ง 3 คนจะเข้าไปในประตูกันค่ะ

ดินแดนแห่งการเริ่มต้น (始まりの地)
- เมื่อเข้ามาด้านใน ดร. เอริก้า และพันโทซีดต่างปลาดใจที่มีสถานที่เช่นนี้อยู่ในชั้นใต้ดินของมหาวิหาร
- เควินจะบอกคนทั้ง 2 ว่าสถานที่แห่งนี้ สร้างขึ้นตามพันธะสัญญาระหว่างราชวงศ์ลีเบร์ลกับโบสถ์เจ็ดจรัส จุดมุ่งหมายที่สร้างที่แห่งนี้ขึ้นมามีเพียงข้อเดียวคือ จำกัดพลังของมรดกแห่งอารยธรรมโบราณและจำกัดการทำงานของมันไม่ให้ขยายวงกว้างไปถึงข้างนอก
- พอพันโทซีดได้ฟังดังนั้น ก็วิเคราะห์ว่านอกจากลีเบร์ลแล้ว สถานที่แบบนี้ก็คงจะมีอยู่ที่อื่นด้วย ซึ่งเควินก็ไม่ปฏิเสธและบอกกับพวกเขาว่า "สถานที่แห่งนี้ พวกเราเรียกกันว่า <ดินแดนแห่งการเริ่มต้น> (始まりの地) ครับ"
- ดร. เอริก้า ได้ยินเควินพูดดังนั้น เธอจึงพูดขึ้นมาว่า "สถานที่ต้นแบบนั้น คงจะอยู่ที่อัลเทเรียสินะ" เควินถึงกับตกใจที่ ดร. เอริก้า จี้ใจดำพอดี (เก่งจริง ๆ แฮะ แม่ของทีต้า) เควินจึงอดออกปากชมไม่ได้ว่า "สมกับที่เป็นลูกสาวของ ดร. รัซเซลจริง ๆ" แต่เอริก้าไม่ชอบให้ใครมาเรียกเธอแบบนั้นค่ะ การชมในครั้งนี้จึงไร้ผล (จริงดิ?) นอกจากนั้นเอริก้ายังเสริมความเก่งกาจของตัวเองอีกว่า
ดร. เอริก้า "ทางทฤษฏีน่ะอาจจะไม่ แต่ถ้าเป็นการนำหลักวิศวกรรมไปประยุกต์ใช้ ฉันเหนือกว่าตาแก่นั่นนะ ไม่ว่าจะเป็นระบบพื้นฐานของ <คาเปล> หรือ <อัลเซยู> ก็ฉันนี่แหล่ะที่เป็นคนออกแบบ"
- จากนั้นทั้ง 3 คน เดินไปที่ของที่เป็นตัวปัญหา หรือก็คือมรดกแห่งอารยธรรมโบราณที่กู้ขึ้นมาจากพิกัดใต้น้ำของ <นครลอยฟ้า (ลีเบล=อาร์ค)> (浮遊都市《リベル=アーク》) ในทะเลสาปวาเลเรีย เมื่อ 3 วันก่อน



------ 3 วันก่อนหน้านี้
ประมาณใจกลางทะเลสาบวาเลเรีย
พิกัดใต้น้ำ <นครลอยฟ้า (ลีเบล=อาร์ค>
- ปรากฏเรือเหาะโรงงาน "ไลฟ์นิท" (ライプニッツ号) ลอยลำอยู่กลางทะเลสาบ
- เนื่องจากอาทิตย์ตกดินแล้ว"หัวหน้าช่างซ่อมบำรุงกุสตาฟ" (グスタフ整備長) จึงออกคำสั่งให้ยกเลิกการค้นหาในวันนี้ แต่ "พันโทซีด" เห็นว่าตามที่ ดร. เอริก้า ระบุไว้สิ่งนั้นจะต้องอยู่แถว ๆ นี้แน่นอน
- แต่ทว่าตามความเห็นของกุสตาฟ ถ้า "สิ่งนั้น" เป็นสิ่งที่เล็กมาก ๆ แล้วมาค้นหาในทะเลสาบวาเลเรียที่ลึกเช่นนี้ค่อนข้างจะเป็นเรื่องที่ลำบาก
- "ดร. เอริก้า" เดินออกมา พร้อมทั้งบอกให้พวกเขาทำการค้นหาต่อไป เพราะเธอจับสัญญาณจากโซนาร์ใต้น้ำได้
(ตรงนี้ เอริก้าจะขอให้กุสตาฟเลิกเรียกเธอว่า "หนูเอริก้า" (エリカ坊) เพราะเธอแต่งงานมีลูกแล้ว แต่กุสตาฟบอกว่ายังไง ๆ ในสายตาเขา เอริก้าก็ยังเป็น "หนูเอริก้า" อยู่ดีค่ะ ดังนั้นเอริก้าก็เลยปล่อยเลยตามเลย ให้กุสตาฟเรียกเธอว่า "หนูเอริก้า" ต่อไป)
- ตามที่โซนาร์ระบุขนาดของ "สิ่งนั้น" ใหญ่ประมาณ 50 รีจ (ขนาดใหญ่ประมาณน้องเหมียวอันโตวานู) จากนั้นกุสตาฟจะเริ่มทำการกู้ซากต่อไปตามคำขอ (แบบบังคับ) ของเอริก้าค่ะ
- หลังจากที่ใช้เครนควานหาใต้น้ำอยู่สักพัก พวกเขาก็เจออะไรบางอย่างใต้น้ำดังที่เอริก้าคาดการณ์ไว้ ในขณะที่ดึงเครนขึ้นมาเพื่อตรวจว่า "สิ่งนั้น" คืออะไรกันแน่ ก็บังเกิดแสงสว่างส่องประกายวูบวาบขึ้น



- บัดนี้ สิ่งที่พวกเอริก้าได้กู้ขึ้นมาและได้มาอยู่เบื้องหน้าเควินนั้น ไม่มีปฏิกริยาอะไรอีกแล้ว ซึ่งเควินกล่าวว่าการที่จะเก็บกู้มรดกแห่งอารยธรรมโบราณที่ไร้ซึ่งพลังแล้วนั้น อยู่นอกเหนือพันธะสัญญาที่ทำการตกลงกันไว้ค่ะ ทำให้เควินเข้าใจแล้วว่า ดร. เอริก้า รอเควินอยู่ด้วยเหตุผลอะไร
- พันโทซีดได้บอกว่าในกรณีที่ไม่สามารถดำเนินการให้สำเร็จลุล่วงไปได้นั้น กรรมสิทธิ์ของ "มรดกแห่งอารยธรรมโบราณ" จะตกไปอยู่กับใครก็ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของเควินที่เป็นอัศวินจอกดาราว่าต้องการจะกู้กลับไปหรือไม่
(จากตรงนี้จะทราบว่าพันโทซีดเป็นคนที่นำ "อาร์ติแฟกซ์" อันนี้มามอบให้กับทางมหาวิหาร แล้วทางมหาวิหารก็ได้นำมาเก็บไว้ที่นี่เพื่อรออัศวินจอกดารามาดำเนินการค่ะ)
บาทหลวงเควิน "อื~ม เป็นเรื่องที่ตัดสินใจได้ยากนะครับเนี่ย แล้วถ้ามองในฐานะของลีเบร์ลคุณอยากจะยืนยันกรรมสิทธิ์ของสิ่งนี้ยังไงดีล่ะ?"
พันโทซีด "ก็เพื่อที่จะตรวจสอบสิ่งนี้ให้แน่ใจ ฉันจึงได้มาอยู่ในที่แห่งนี้ด้วย อันที่จริงคนที่กำลังต้องการคำยืนยันอยู่ไม่ใช่ใครอื่นหรอก ก็ ดร. เอริก้ายังไงล่ะ"
ดร. เอริก้า "เดิมทีโรงงานกลางได้ดำเนินการกู้ซากเรื่อยมาจนมาพบเจ้าสิ่งนี้เข้า มันก็ย่อมจะเป็นสิทธิของทางนี้อยู่แล้วไม่ใช่เหรอไง?"
บาทหลวงเควิน "......มีการกล่าวเอาไว้ว่ามรดกแห่งอารยธรรมโบราณที่ตายไปแล้วคือกล่องดำ ไม่ว่าจะใช้วิธีแบบไหนก็ไม่สามารถวิเคราะห์แยกแยะออกมาได้ครับ ถึงจะเป็นแบบนั้นก็ยังอยากจะรับไปเหรอ?"
ดร. เอริก้า "ใช่ ตามนั้นแหล่ะ ก็ลองคิดดูสิ หลังจากเหตุการณ์นั้นเกิดขึ้น ถึงฉันจะไม่ได้อยู่ ณ ที่นั้น แต่สมมติฐานต่าง ๆ ตามที่พวกเราได้ยึดถือ ถึงแม้จะเพียงเล็กน้อยแต่ก็ยังถูกหักล้างลงไป ก็เพราะพวกเธอน่ะ (โบสถ์เจ็ดจรัส) ใช้เวลาหลายพันปี ปิดบังความจริงเอาไว้สินะ"
- เควินถึงกับตกใจในคำพูดของเอริก้า สีหน้าของเขาแสดงให้เห็นถึงความเคร่งเครียด
ดร. เอริก้า "ก็เหมือนกับ <งูกินหาง> (身喰らう蛇) องค์กรที่เราไม่รู้ตัวตนที่แท้ ยิ่งได้ฟังก็ยิ่งรู้ว่าระดับของวิทยาการตอนนี้นั้นเป็นเรื่องเหลวไหล อาจจะเป็นความจริงของอะไรซักอย่าง หรืออาจจะมีอะไรเกิดขึ้นซักอย่าง...... ไม่อยากให้คนมากมายถูกเพิกเฉยอีกต่อไปแล้ว ดังนั้นไม่ว่าจะยังไงก็จะเอาสิ่งนั้นมาให้ได้"
- เควินได้แต่นิ่งเงียบฟังคำพูดที่ ดร. เอริก้าพรั่งพรูออกมาด้วยความเป็นห่วงเพื่อนมนุษย์ ดร. เอริก้า ได้ยื่นคำขาดกับเควินให้ทำการตัดสินใจว่าจะเอากลับไปหรือไม่เอากลับไป แต่เควินก็ยังคงลังเลอยู่ดี
- "<ความสับสนอันเพียงน้อยนิดนั้น ก่อกำเนิดสิ่งชั่วร้าย------>" เสียงของสาวน้อยดังขึ้น ทุกคนต่างประหลาดใจในภาพที่เห็น ณ เบื้องหน้าของพวกเขา มีหญิงสาวในชุดซิสเตอร์กำลังอ่านบทสวดจาก "พระธรรมเอเซล วรรคที่ 2 <ภัยพิบัติที่ถูกปลดปล่อย>" (エゼル記第二節『解き放たれた災厄』) อยู่ เมื่อเธออ่านจบจึงเดินเข้ามาใกล้คนทั้ง 3
หญิงสาวในชุดซิสเตอร์ "ท่านเกรแฮม ขอโทษที่มาช้าค่ะ โบสถ์เจ็ดจรัส ภายใต้สังกัดหน่วยอัศวินจอกดารา อัศวินรับใช้ รีส อาร์เจนต์ค่ะ จากนี้ไปช่วยชี้แนะด้วยนะคะ"
- เควินตกใจและได้แต่ผงาบ ๆ พูดอะไรไม่ออก ส่วน ดร. เอริก้า ในตอนแรกดูเหมือนว่าจะไม่ชอบใจที่จู่ ๆ รีสก็ปรากฏตัวขึ้นมาแบบกระทันหัน แต่เมื่อเธอสังเกตรีสอย่างพินิจพิจารณาแล้ว
ดร. เอริก้า "...... เธอ......"
ซิสเตอร์ รีส ".........อะไรคะ?"
ดร. เอริก้า "คึ...... ไม่ถูกหลอกหรอกนะยะ! ไม่มีทางยอมให้หลอกด้วยการแต่งกายอย่างนั้นหรอกนะ!"
- รีสได้แต่งุนงงและรู้สึกเหมือนว่าตัวเธอทำอะไรผิดไปหรือเปล่า
ดร. เอริก้า "นะ น่าแค้นเคืองหน่วยอัศวินจอกดารานัก....... ส่งเด็กสาวอย่างนี้มาเพื่อทำให้ทางนี้หมดกำลังใจทำงานเนี่ย...... ตะ แต่ว่า ฉันน่ะ มีพรรคพวกที่แข็งแกร่งอยู่นะยะ! ดูให้ดี นี่แน่ะ!"
- เอริก้าควักภาพของทีต้าที่เธอพกไว้ประจำออกมา 2 หนุ่มได้แต่ยืนเอ๋อ เมื่อรีสเห็นภาพของทีต้า เธอยิ้มพร้อม ๆ กับชมว่า "น่ารัก"
ดร. เอริก้า "เมื่อกี๊พูดว่าน่ารัก!? พูดว่าน่ารักใช่มั้ยล่ะ!? ใช่มั้ยล่ะ ใช่มั้ยล่ะ! เนี่ย แก้มนิ่ม ๆ เนี่ย เป็นอะไรที่ฉันชอบสุด ๆ เลยล่ะ! อื~ม รู้ว่าอะไรน่ารักจริงด้วยนะเนี่ย!"
- ทุกคนได้แต่ยืนมองเอริก้าแสดงความชอบ (บ้า) ของน่ารักด้วยความเงียบงัน เมื่อเอริก้าเห็นทุกคนเงียบไปจึงรู้ตัวว่าท่าทางเธอจะออกอาการมากเกินไป แล้วกลับมาเข้าเรื่องว่าโบสถ์เจ็ดจรัสถึงกับส่งเด็กสาวน่ารัก ๆ มาเพื่อทำให้เธอไขว้เขว
ซิสเตอร์ รีส "เอ่อ...... เรื่องที่พูดเมื่อสักครู่นี้ ไม่เข้าใจเลยสักนิดเดียวค่ะ น่ารักเนี่ย...... หมายถึงฉันเหรอคะ?"
ดร. เอริก้า "มันแน่อยู่แล้ว! ทั้ง ๆ ที่ทำท่าทางเฉย ๆ สุขุม แต่ก็มีรูปโฉมงดงามหมดจดที่ได้หลงเหลือความอ่อนเยาว์เอาไว้! ชุดซิสเตอร์ที่ดูนุ่มนิ่มน่ารักห่อหุ้มร่างกายอันอรชรอ้อนแอ้นที่เพิ่งเติบโตขึ้นจากสาวน้อย! คึ เป็นพลังทำลายรุนแรงใช่ย่อยเลยนะ......"
- รีสหรี่ตาลงจ้องไปที่เอริก้าผู้บ้าของน่ารักแบบเซ็ง ๆ แล้วหันไปถามเควิน
ซิสเตอร์ รีส "......ท่านเกรแฮม ท่านเหล่านี้คือ?"
บาทหลวงเควิน "อ๊ะ อา...... ดร. เอริก้า รัซเซลแห่งโรงงานกลาง กับพันโทซีดแห่งกองทัพราชอาณาจักรน่ะ แต่ว่าเธอ ท่านเกรแฮมน่ะมัน......"
ซิสเตอร์ รีส "อย่างนี้นี่เอง...... เหล่าผู้ที่ค้นพบเองหรือ ......ขอบคุณมากนะคะ หลังจากนี้ทางนี้จะขอรับเรื่องต่อเองค่ะ ยังไงก็ตามขอรับไปเลยก็แล้วกันนะคะ (คำนับ)"
- ดร. เอริก้าและพันโทซีดได้แต่ตกใจ ที่อยู่ ๆ รีสก็พูดขึ้นมาเหมือนตัดสินใจไปแล้วว่าจะนำ "มรดกฯ" กลับไป
บาทหลวงเควิน "ดะ เดี๋ยวก่อนสิ! ยังไม่ได้ถามความเห็นของอีกฝ่ายเลยนะ!"
ซิสเตอร์ รีส "......แค่ทำให้เวลาของท่านเกรแฮมรวบรัดขึ้นเท่านั้นค่ะ ถึงพลังจะหายไปแต่ก็ยังเป็นโบราณวัตถุที่เกี่ยวข้องกับ <สมบัติทั้งเจ็ด> (七の至宝) อยู่ดี...... แม้จะมอบให้คนนอกไปก็ตาม......?"
บาทหลวงเควิน "นะ นั่นมันก็......"
- ดร. เอริก้าไม่ยอมให้เป็นแบบนั้น รีสเองก็ไม่อยากจะมอบสิ่งนี้ให้คนนอกไปเหมือนกัน ดังนั้นสาวทั้ง 2 บังคับให้เควินตัดสินใจ สร้างความลำบากใจแก่เควินมาก ๆ ที่อยู่ ๆ ก็โยนมาให้เขาซะงั้น ถึงแม้เควินอยากจะกู้กลับไป แต่ลีเบร์ลเองก็มีพรรคพวกที่เคยให้ความร่วมมือกับเขามาก่อน ทำให้ตัดสินใจได้ยาก
- ในขณะที่ 2 สาวกำลังบังคับเควินที่กำลังสับสนนั้นเอง ทุกสิ่งทุกอย่างรอบตัวก็บังเกิดความผิดปกติขึ้นมา แต่มีแค่เควินและรีสเท่านั้นที่รู้สึกได้ถึงความผิดปกติที่เกิดขึ้น
- อาร์ติแฟกซ์ปริศนาส่องแสงเรืองรองราวกับขานรับเควินและรีส เบื้องหน้าของทุกคนปรากฏหินรูปสี่เหลี่ยมจตุรัสขนาดเท่าฝ่ามือออกมาจากเปลือกนอกที่ห่อหุ้มเอาไว้ พลังที่ปลดปล่อยออกมาแสดงให้เห็นว่ามรดกฯ ยังไม่ตาย ทำให้เควินสามารถตัดสินใจได้แล้วว่าเขาควรจะกู้สิ่งนี้กลับคืนไป

นครหลวงแกรนเซล (王都グランセル)
- เวลากลางคืนหน้ามหาวิหารแกรนเซล
บาทหลวงเควิน "เฮ้อ~...... ใช้เวลาไปยืดเยื้อสุด ๆ เลยน้า แถมตอนนั้น ดร. เอริก้าก็กัดไม่ปล่อยเลยด้วย"
ซิสเตอร์ รีส "......นั่นสิคะ"
บาทหลวงเควิน "แต่คำพูดตอนสุดท้ายนั่น สุด ๆ ไปเลยนะ <ถ้าจะนำสิ่งนั้นไป ก็ให้นำเด็กคนนั้นมาแลกเปลี่ยน!> น่ะ...... ฮะฮะ...... ไม่ใช่อาเนราสจังซักหน่อย"
ซิสเตอร์ รีส "อาเนราสจัง......?"
บาทหลวงเควิน "โอ๊ะ โทษที คนรู้จักที่ลีเบร์ลน่ะ เป็นเด็กที่ทำงานเป็นเบรเซอร์อยู่ อายุก็ราว ๆ รีสเนี่ยแหล่ะ"
ซิสเตอร์ รีส "......งั้นเหรอคะ"
บาทหลวงเควิน "ฮะฮะ...... ก็...................................................... เอ่อ...... คุณรีส?"
ซิสเตอร์ รีส "......มีอะไรคะ?"
บาทหลวงเควิน "นี่...... หรือว่าเธอจะโกรธชั้นอยู่? จนถึงตอนนี้ก็ไม่เคยติดต่อมาเลย......"
ซิสเตอร์ รีส "------ท่านเกรแฮม"
บาทหลวงเควิน "คะ ครับ!"
ซิสเตอร์ รีส "............ฉันได้เข้ามารับหน้าที่เช่นเดียวกับท่าน ที่เข้ารับหน้าที่เป็นอัศวินพิทักษ์เมื่อ 5 ปีก่อน........... ในช่วง 5 ปีมานี้ ฉันเปลี่ยนไปแล้ว ฉันในตอนนี้คืออัศวินรับใช้แห่งจอกดารา มีตัวตนอยู่เพื่อสนับสนุนและปกป้องท่านเท่านั้นค่ะ"
บาทหลวงเควิน "......รีส......"
ซิสเตอร์ รีส "......ดังนั้น หวังว่าท่านจะไม่เป็นกังวลเกินความจำเป็นนะคะ ถ้าไม่อย่างนั้นก็ไม่มีความหมายที่ฉันจะอยู่ในรูปลักษณ์เช่นนี้ค่ะ"
บาทหลวงเควิน "............"
ซิสเตอร์ รีส "......คงจะขึ้นเรือประจำทางระหว่างประเทศเที่ยวสุดท้ายใช่มั้ยคะ? รีบ ๆ ไปท่าเทียบเรือเหาะกันดีกว่าค่ะ"
- รีสตัดบท แล้วเดินมุ่งหน้าไปยังท่าเทียบเรือเหาะโดยไม่สนใจเควินที่กำลังยืนอึ้งอยู่เลย "ครื------ดดดดด" เสียงอะไรบางอย่างที่เหมือนท้องร้องดังขึ้น
บาทหลวงเควิน "......เมื่อกี๊"
ซิสเตอร์ รีส "............ หูฝาดค่ะ"
บาทหลวงเควิน "เห......"
ซิสเตอร์ รีส "ท่านเกรแฮมคงจะเหนื่อยสินะคะ? ก็เลยได้ยินเสียงอะไรขึ้นมา ถ้าขึ้นเรือเหาะกันแล้วนั่งพักสักหน่อยน่าจะดีกว่า------"
- "ครื--------ดดดดด" เสียงบางอย่างดังขึ้นอีกครั้ง คราวนี้แน่ใจได้เลยว่าเป็นเสียงท้องร้องแน่ ๆ รีสหันกลับมาพูดกับเควินด้วยหน้าแดง ๆ เพราะความเขิน
ซิสเตอร์ รีส "......คิดว่าพักกันหน่อยก็ดีค่ะ"
บาทหลวงเควิน "อุ๊บ...... ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า! <ครื---ดดดด> เลยล่ะ! เธอน่ะ ไม่เปลี่ยนไปเลยนะ! ยังเป็นยัยท้องร้องจ๊อก (腹ペコ) เหมือนเดิมเลยน้า------!"
ซิสเตอร์ รีส "นะ นี่มันก็แค่การทำงานของร่างกายเท่านั้นค่ะ การที่ไม่สามารถควบคุมการทำงานของร่างกายได้ เป็นเครื่องแสดงให้เห็นว่ายังขาดการฝึกฝน...... ฉันตระหนักถึงความอ่อนด้อยของตัวเองดีค่ะ"
บาทหลวงเควิน "ความอ่อนด้อย...... คึคึ มันไม่ใช่อย่างนั้นซักหน่อย ก็เพราะว่าถ้าท้องไม่ร้องจ๊อกก็ไม่ใช่รีสน่ะสิ แถมยังเคยโดนโกรธเพราะว่าแอบเข้าไปหยิบอาหารในครัวด้วย......"
ซิสเตอร์ รีส "อึก...... พอเถอะค่ะ!"
บาทหลวงเควิน "อ๋า เดี๋ยวเดี๋ยว!"
- เควินรีบวิ่งไปขวางหน้ารีสที่กำลังเดินหนีไป
ซิสเตอร์ รีส "......ขวางทางนะคะ กรุณาหลีกด้วย"
บาทหลวงเควิน "ขอโทษ ยกโทษให้เถอะนะ ไม่ได้คิดจะแกล้งหรอก แต่ดันลืมตัวทำนิสัยไม่ดีใส่เธอไปน่ะ"
ซิสเตอร์ รีส "......เปล่านี่คะ ไม่จำเป็นต้องขอโทษหรอกค่ะ คำขอโทษของท่านมันมากเกินไป ไม่จำเป็นต้องมาใส่ใจหรอกค่ะ"
บาทหลวงเควิน "โอ๊ะ ใช้ได้เลยนี่ ------ มีเรื่องอยากจะขอร้องอยู่อย่าง...... นั่น เลิกได้มั้ย?"
ซิสเตอร์ รีส "......เรื่องอะไรเหรอคะ?"
- รีสถามเควินด้วยสีหน้าเป็นกังวล
บาทหลวงเควิน "คำพูดสุภาพ ๆ นั่นน่ะ คนอื่นน่ะช่างเถอะ แต่ฟังเธอพูดแล้วมันยังไง ๆ อยู่นะ"
ซิสเตอร์ รีส "............"
บาทหลวงเควิน "แล้วก็เลิกเรียกว่าท่านเกรแฮมเถอะ เรียกแบบปกติก็ได้"
ซิสเตอร์ รีส "ขอปฏิเสธค่ะ ------ ถ้าพูดแบบนี้ล่ะ?"
บาทหลวงเควิน "ก็จะตื้อจนกว่าเธอจะพูดว่า <อืม> ถึงจะเลิกตามรังควานน่ะสิ"
ซิสเตอร์ รีส "......จริงเหรอ"
บาทหลวงเควิน "ก็เป็นนิสัยที่ติดตัวมาตั้งแต่เด็กนี่นา จะว่าไปก็เป็นนิสัยเสียที่ไม่เคยเปลี่ยนไปเลยล่ะนะ"
ซิสเตอร์ รีส "............ ของคน ๆ นั้น...... ทำไมกันล่ะ......"
บาทหลวงเควิน "หืม พูดอะไรน่ะ?"
ซิสเตอร์ รีส "............ เปล่าค่ะ ช่วยไม่ได้นะคะถ้าเป็นคำสั่งล่ะก็------"
บาทหลวงเควิน "จุ๊จุ๊ ไม่ใช่คำสั่ง ขอร้องต่างหากล่ะ อย่าเข้าใจผิดสิ"
ซิสเตอร์ รีส "คึ...... .................... ......เควิน ยังเอาแต่ใจตัวเองมากไปไม่เปลี่ยนเลยนะ"
- รีสพูดกับเควินด้วยท่าทีที่เบื่อหน่ายกับพฤติกรรมของเขาเสียเหลือเกิน
บาทหลวงเควิน "อึก......! ฮะฮะ...... นั่นแหล่ะนั่นแหล่ะ ต้องงี้ซี่!"
ซิสเตอร์ รีส "ก็อย่างที่บอก แค่เปลี่ยนมาพูดแบบเดิม...... แต่เรื่องที่เธอเป็นอัศวินพิทักษ์ ฉันเป็นอัศวินรับใช้ก็ไม่ได้เปลี่ยนแปลง อย่าเข้าใจตรงนั้นผิดล่ะ"
บาทหลวงเควิน "อืม...... นั่นสินะ จะกลับไปเป็นเหมือนก่อน...... ก็คงจะเป็นไปไม่ได้อยู่แล้วนี่"
ซิสเตอร์ รีส "............"
บาทหลวงเควิน "เอาล่ะ...... อีกข้อนะ กว่าเรือเหาะเที่ยวสุดท้ายจะมายังเหลือเวลาอีกหน่อย แวะไปที่ห้างทางเมืองเขตทิศตะวันออกกันหน่อยมั้ย? จะได้ซื้อขนมปังเตรียมไว้กินตอนที่บินอยู่น่ะ"
ซิสเตอร์ รีส "......เห็นด้วยอยู่แล้ว จะกว้านซื้อของที่วางขายอยู่ให้เกลี้ยงเลยล่ะ"
บาทหลวงเควิน "ยัยท้องร้องจ๊อกเนี่ย จะทำถึงขนาดนั้นเลยเหรอ......"
- หน้าห้างเอเดล หลังจากที่เควินและรีสซึ้อของกินเตรียมไว้เรียบร้อยแล้ว (กว้านซื้อจริง ๆ ด้วยล่ะ เห็นว่าเป็นช่วงลดราคาหน่อยไม่ได้เลยแฮะหนูรีส) ขณะที่ทั้ง 2 คนกำลังจะไปยังท่าเทียบเรือเหาะก็รู้สึกได้ว่ามีใครจับตามองพวกเขาอยู่
(และทำให้รีสไม่พอใจอย่างมาก ที่มีคนมาขัดขวางเวลาจะได้กินขนมปังอันเอร็ดอร่อยของเธอ ที่จะได้กินในเวลาอันใกล้นี้ให้ยืดยาวยิ่งขึ้นไปอีก)
- เควินและรีสลงความเห็นให้คนที่แอบอยู่สะกดรอยตามพวกเขาไปเรื่อย ๆ ก่อน จากนั้นค่อย...

นครหลวงแกรนเซล - ท่าเรือ (王都グランセル・波止場)
- ที่แท้คนที่สะกดรอยตามพวกเควินมาก็คือ "กิลเบิร์ต" (ギルバート) ดูเหมือนว่าเขาจะคลาดสายตาจากทั้ง 2 คนซะแล้ว
- เควินและรีสปรากฏตัวออกมาด้านหลังกิลเบิร์ต กิลเบิร์ตชักปืนออกมาเตรียมสู้ แต่กลับโดนรีสใช้ดาบฟาดลงมาแทนซะนี่
บาทหลวงเควิน "<เทมเปิลซอร์ด (ดาบธรรมะ)> (法剣《テンプルソード》)...... นั่นเป็นอาวุธของเธองั้นเหรอ"
ซิสเตอร์ รีส "......เควินเลือกใช้โบว์กัน ฉันเลือกใช้สิ่งนี้ มันก็เท่านั้นเอง"
บาทหลวงเควิน "......งั้นเหรอ......"
- เควินเดินเข้าไปใกล้กิลเบิร์ตเพื่อสอบถามเขาว่ามาทำอะไรที่นี่ แต่กิลเบิร์ตไม่ยอมปริปากบอก รีสจึงชักดาบขึ้นมาขู่ (แต่แววตาเอาจริงนะ น่ากลัว) กิลเบิร์ตเห็นสีหน้าท่าทางของรีส จึงรีบใช้มุกขอขมาลาโทษ แต่แท้จริงแล้วเขาได้จัดเตรียมตุ๊กตาสงครามสำหรับการต่อสู้ไว้เรียบร้อยแล้ว

BATTLE กิลเบิร์ต + G อาปาเช่
ギルバート + G-アパッシュ
- แนะนำให้ปราบกิลเบิร์ตก่อนค่ะ เพราะเมื่อเทียบกับ G อาปาเช่แล้วพลังของเขาค่อนข้างน้อย
- ถ้ากิลเบิร์ตใช่ท่า "ตัดพลังใจ" (ลด STR & DEF) ใส่เราล่ะก็ เวลาเราโดน G อาปาเช่โจมตีจะได้รับความเสียหายรุนแรงมากค่ะ

- นอกจากนั้น ให้ระวังท่า "กระสุนบดเยือกแข็งเข้มข้น" ของกิลเบิร์ตที่จะทำให้เราติด "เยือกแข็ง" และท่าของ G อาปาเช่ "เบรกแคนนอน" ที่จะยิงเป็นเส้นตรงทั้งยังทำให้ DEF เราลงลงด้วยนะคะ (ท่านี้เราไม่สามารถสกัดกั้นได้) เมื่อเห็น G อาปาเช่ชาร์จ แนะนำให้เดินหนีออกมาหรือใช้ S-craft "แกรล สเฟียร์" ของเควินกันเอาไว้ก่อนก็ได้ค่ะ

- เมื่อ G อาปาเช่ ใกล้พังจะเข้าสู่ "คริตติเคิล โหมด" เพิ่ม STR & ADF ตัวเองค่ะ ระวังด้วยนะคะ

- ปราบได้ เควินจะชมรีสว่าเก่งมาก แต่รีสบอกว่าเธอยังเทียบกับท่านพี่ไม่ได้เลย ซึ่งเควินบอกว่าเขาก็เหมือนกันนั่นแหล่ะ
- เควินตัดสินใจจะจับกิลเบิร์ตกลับไปที่อัลเทเรียเพื่อให้คายความลับของ <องค์กร> ออกมาด้วย
- แต่ช่วงเวลานั้นเอง "ศิลาอาร์ติแฟกซ์" ก็มีปฏิกริยาเกิดขึ้นอีกครั้ง และสิ่งที่มันมีปฏิกริยาตอบรับนั้นก็คือ...
- "หึหึ...... เริ่มแล้วเหรอ" สิ้นเสียงปรากฏร่างชายผมยาวสีเงินสวมเกราะประหลาดสีดำ โดยที่ไม่มีใครรู้ตัวเลยว่าเขายืนอยู่ตรงนั้นตั้งแต่เมื่อไร
ชายประหลาด "ไม่เจอกันนานนะ เควิน เกรแฮม------ ผู้แบกรับ <ตราบาป> (聖痕) อันหนักหนา ผู้ชดใช้ซึ่งเข้าไปสู้เส้นทางที่นำไปสู่ความมืดเอ๋ย"
บาทหลวงเควิน "!? นะ นาย......"
- แสงสว่างจากศิลาปริศนาส่องประกายรุนแรงยิ่งขึ้น กลืนกินสภาพแวดล้อมรอบข้างจนกลายเป็นสีขาวโพลน
ชายประหลาด "<จ้าว> ฟื้นคืนชีพ ประตูนรกที่มืดมิดได้เปิดออกแล้ว....... จงมา! ผู้รับบาปเอย! เหล่าผู้ที่สับสนเอย! จงถูกแผดเผาจนมอดไหม้ไม่เหลือแม้เถ้าธุลีไปชั่วนิรันดร์!"
- เควินและรีส (ที่รู้สึกไม่ดีมาก ๆ เพราะท้องว่างสุด ๆ) ฟื้นขึ้นมาในสถานที่แห่งหนึ่งที่แปลกประหลาดมาก ๆ ซึ่งสถานที่แห่งนี้ก็คือ <สวนแห่งนักพรต> (隠者の庭園=The Garden of Recluse) นั่นเอง




Related entries:
Sora no Kiseki the3rd (空の軌跡the3rd)


No comments:

Post a Comment