Saturday, November 11, 2017

[บทสรุป] Sora no Kiseki the3rd - Episode 6 บททดสอบจากผู้พิทักษ์ - Part 1

第六話 守護者の試練
ฉากที่ 6 บททดสอบจากผู้พิทักษ์
- Part 1 -
Walkthrough Chart
- "กริ๊ง กริ๊ง กริ๊ง" เสียงเครื่องมือสื่อสารดังขึ้นหลายครั้ง "ครับ โบสถ์เจ็ดจรัส ชาเปลเมืองเอเมโรสครับ------" "อัศวินรับใช้เควิน" รับสาย ซึ่งเสียงปลายทางเป็นเสียงหญิงสาวที่คุ้นหู "อ้าว...... เควิน เธอเองเหรอ นึกว่ายังไม่ถึง ก็เลยว่าจะฝากข้อความไปทางท่านสังฆราชสักหน่อย......"
อัศวินรับใช้เควิน "อ้าว พี่รูฟีน่าเองเหรอ ชั้นมาถึงที่นี่ตั้งแต่ก่อนเที่ยงแล้ว ทางพี่เกิดอะไรขึ้นน่ะ?"
เสียงรูฟีน่า "คือ ดูเหมือนจะเกิดอุบัติเหตุประมาณนั้น รถไฟก็เลยมาช้าน่ะจ้ะ น่าจะไปถึงทางโน้นตอนเย็น ๆ ล่ะมั้ง"
อัศวินรับใช้เควิน "เหรอ งั้นเดี๋ยวรออยู่ที่นี่จนถึงตอนนั้นแล้วกัน เพราะถ้าชั้นกลับไปคนเดียว มีหวังรีสกับพวกเด็ก ๆ ผิดหวังแย่"
เสียงรูฟีน่า "อุหึหึ พี่ว่าไม่หรอก จริงสิ...... คิดหาวิธีทำให้รีสอารมณ์ดีหรือยัง?"
อัศวินรับใช้เควิน "เหะ ๆ วางใจเถอะ ชั้นซื้อของขึ้นชื่อจากแต่ละท้องที่ ที่ไปมาตอนทำภารกิจมาเป็นของฝากเยอะแยะเลย เท่านี้ก็น่าจะทำให้อารมณ์ดีขึ้นแล้วล่ะมั้ง"
เสียงรูฟีน่า "อืมม์...... จะได้แน่เหรอออ เด็กผู้หญิงวัยนั้นเนี่ย มันไม่ง่ายขนาดนั้นหรอกนะ?"
อัศวินรับใช้เควิน "หืมม์ งั้นรึ? จริงสิ ยัยนั่น 13 แล้วนี่นะ อายุเท่า ๆ กับพี่ตอนที่เพิ่งเจอกันเลยนี่นา?"
เสียงรูฟีน่า "อุหึหึ...... จะว่าไปก็ใช่นะ"
- "กริ๊งงงงงงงงง" เสียงสัญญาณออกรถไฟที่ปลายสายดังขึ้น รูฟีน่าจึงรีบวางสาย พร้อมบอกว่าถ้าเกิดอะไรขึ้น ให้เควินกลับไปที่บ้านก่อนก็ได้
- "งั้นเหรอ...... ตั้งแต่ตอนนั้นก็ 9 ปีแล้วเหรอเนี่ย แล้วก็ไม่ได้กลับบ้านมา 2 ปีแล้ว...... เฮ้อ~ ยัยรีส คงโกรธน่าดู" เควินวางสาย พร้อมกล่าวขึ้นด้วยสีหน้าที่ดูมีความสุข
- "คะ เควินคุง......!" สังฆราชกระหืดกระหอบเข้ามาอย่างร้อนรน พร้อมกับบอกว่า มีคนเห็นกลุ่มคนน่าสงสัยชุดดำที่นอกเมือง ดูเหมือนว่าพวกมันจะมุ่งหน้าไปยังเส้นทางภูเขา ซึ่งเป็นที่ ๆ [บ้านดอกแอสเตอร์] 『紫苑の家』 ตั้งอยู่ เควินคิดว่าคนพวกนั้นไม่น่าจะใช่หน่วยอัศวินแน่ ๆ จึงรีบออกไปตรวจสอบ พร้อมกับฝากให้สังฆราชช่วยบอกพี่รูฟีน่าว่าเกิดอะไรขึ้นตอนเธอมาถึงด้วยค่ะ
- เควินซ่อนตัวอยู่ตรงพุ่มไม้ เฝ้าดูคนชุดดำที่ตรึงกำลังอยู่ด้านหน้าประตูทางเข้า [บ้านดอกแอสเตอร์] ที่แท้เจ้าพวกนั้นก็คือ [หน่วยทหารพราน] 『猟兵団』 นี่เอง
- "เท่าที่ลองจับวี่แววได้ น่าจะมี 5 - 10...... แต่ว่าทำไมถึงต้องเป็นอารามพระสุรเสียงของโบสถ์อีกแล้ว......" เควินวิเคราะห์อย่างเยือกเย็น พลางหยิบโบว์กันอาวุธคู่ใจขึ้นมา "......ถ้ามัวชักช้า รีสกับพวกเด็ก ๆ จะเป็นอันตราย ช่วยไม่ได้ ชั้นคงต้องลงมือคนเดียวแล้วมั้ง"
อัศวินรับใช้เควิน "ดูเหมือนเวลาที่ใช้วิชาต่อสู้กับศาสตราที่ร่ำเรียนมาให้เป็นประโยชน์......
จะมาถึงแล้วสินะ!"



สวนแห่งนักพรต 『隠者の庭園』
- พวกเราต่างประหลาดใจที่ได้พบ "เซเลสต์" 『セレスト』 ผู้นำของเหล่าคนในยุคโบราณที่ทำการผนึก [วงแหวนประกายแสง] 『輝く環』 ไว้ในมิติประหลาด และยังเป็นบรรพบุรุษของราชวงศ์ลีเบร์ลอีกด้วย
เซเลสต์ "หึหึ...... ดูเหมือนว่าข้อมูลที่ [เรา] ทิ้งไว้ จะมีประโยชน์ในตัวของมันเองสินะคะ"
- เซเลสต์กล่าว ส่วนเรื่องบรรพบุรุษที่คลอเซ่ถามนั้น เซเลสต์ได้ปฏิเสธว่า ตัวเธอไม่ใช่เซเลสต์ แต่เป็น [เงา] ของเซเลสต์ตัวจริง เป็นเพียงบางส่วนของบุคลิกลักษณะที่ถูกสร้างขึ้นมาใหม่เพื่อทำการแทรกแซง [อาณาจักรแห่งเงา] แห่งนี้ แต่ก็ไม่ใช่วิญญาณค่ะ จากนั้น เซเลสต์จะอธิบายเรื่องต่าง ๆ ใน [อาณาจักรแห่งเงา] ให้เราฟังค่ะ
เซเลสต์ "[แฟนตาสม่า (อาณาจักรแห่งเงา] 『影の国(ファンタズマ)』------ คือโลกที่อยู่ภายใต้มิติชั้นสูงขึ้นไป ที่ [วงแหวนประกายแสง] สร้างขึ้นมาในอดีตเมื่อหลายพันปีก่อนค่ะ เป็นระบบรองที่สรรค์สร้างขึ้นมาเพื่อประมวลผลจัดการให้กับ [วงแหวนประกายแสง] ซึ่งยึดเอาความปรารถนา ความนึกคิดปริมาณมหาศาลของชาวลีเบล=อาร์ค 『リベル=アーク』 ไปเป็นของตน...... อาจกล่าวได้ว่าเป็นโลกที่เปลี่ยนแปลงโครงสร้างตนเอง ทำโลกซึ่งมีความเป็นไปได้หลากหลายให้กลายเป็นความจริง          ถ้าจะกล่าวให้เข้าใจได้ง่ายขึ้นแล้วล่ะก็...... ที่นี่คือ [โลกสมมติ] 『虚構世界』 ที่ [วงแหวนประกายแสง] สร้างขึ้นมา เพื่อทำให้ความหวังของผู้คนกลายเป็นจริง          แม้จะ [สมมติ] แต่ก็ไม่ได้ [หลอกลวง] แม้จะสะท้อนโลกแห่งความเป็นจริง แต่ก็เป็นโลกหุ่นเงาที่ทำงานตามกฎระเบียบซึ่งมีลักษณะเฉพาะ เปลี่ยนแปลงได้ราวกับกล้องกระจกเงาสะท้อน......      ถ้าจับใจความได้ตามนี้ ก็น่าจะเข้าใจได้ง่ายกระมังคะ"
- เซเลสต์อธิบายให้ทุกคนฟังง่าย ๆ พร้อมทั้งอธิบายต่ออีกว่า [อาณาจักรแห่งเงา] ยังถือเป็นระบบรองที่คอยช่วย [วงแหวนประกายแสง] ประมวลผลจัดการอีกด้วย และ [วงแหวน] ก็เป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้สำหรับ [อาณาจักรแห่งเงา] ด้วยเหตุนั้น [กลไกปิดผนึก] 『封印機構』 ของพวกเซเลสต์จึงมุ่งเป้าไปที่ความสัมพันธ์ที่ว่ามานี้ค่ะ
- ซึ่งในระยะแรก พวกเซเลสต์คิดเอาไว้ว่า แผนการที่จะปิดผนึก [วงแหวน] ไม่น่าจะได้ผล เพราะ [วงแหวน] ซึ่งคอยควบคุมอวกาศแบบสัมบูรณ์นั้น สามารถแทรกแซงการกระทำทุกอย่างของผู้คนส่วนใหญ่ได้
- เพราะฉะนั้น การ [ตรึงห้วงเวลา] 『時間凍結』 ที่มิติอื่น รวมทั้ง การจำกัดอิสระทางอ้อมที่เกิดจาก [อาณาเขตแรงโน้มถ่วง] 『重力結界』 นั้น ถึงจะนึกหาวิธีปิดผนึกสองชั้นออก แต่ก็หาโอกาสลงมือไม่ได้เลยค่ะ (ตรงส่วนนี้เคยแปลเอาไว้ใน 空の軌跡SC - Data Crystal แล้ว ลองคลิกเข้าไปดูได้นะคะ)
- แต่ที่ พวกเซเลสต์ทำสำเร็จได้นั้น ก็เพราะ [ศิลาจตุรัสเรคลูส] 『レクルス方石』 ที่พวกเซเลสต์ได้มาจากการพัฒนากลไกปิดผนึก ที่มาช่วยหาช่องว่างในการเริ่มการปิดผนึกนั่นเองค่ะ เพราะ [ศิลาจตุรัส] นั้น เป็นคอมพิวเตอร์ปลายทางเพียงหนึ่งเดียว ที่มีพลังเข้าแทรกแซง [อาณาจักรแห่งเงา] ได้โดยตรง โดยไม่ต้องพึ่งพา [วงแหวน] โดยเซเลสต์ตัวจริง ใช้ [ศิลาจตุรัส] ส่งเซเลสต์เงา ที่เป็นส่วนหนึ่งของตัวเองเข้ามายัง [อาณาจักรแห่งเงา] แห่งนี้ค่ะ
เซเลสต์ "และแล้ว [เรา] ก็ใช้ [สวน] แห่งนี้เป็นฐานที่มั่น ทำการแทรกแซงหลาย ๆ อย่าง ทำให้ [อาณาจักรแห่งเงา] ทั้งหมดทำหน้าที่ได้ไม่สมบูรณ์ค่ะ       ผลลัพธ์นั้น------ ทำให้ความสามารถในการประมวลผลของ [วงแหวน] ลดลงชั่วคราว เกิดช่องว่างที่จะทำให้แผนการสำเร็จค่ะ       แล้ว------ หลังจาก [วงแหวนประกายแสง] ถูกผนึก เราก็หลับไหลอยู่ที่นี่ เผื่อว่าวันใดผนึก [วงแหวน] คลายออก จะได้ให้ความช่วยเหลือแก่คนรุ่นหลัง       แต่ดูเหมือนว่า------ความช่วยเหลือนั้นจะไม่มีประโยชน์เลยนะคะ"
- โยชัวร์ให้ข้อคิดเห็นว่า สิ่งที่น่าเป็นห่วงในตอนนี้คือ ยังไม่มีใครรู้ว่าทำไม [วงแหวน] จึงหายไป ซึ่งตรงนี้เซเลสต์ก็ลองตรวจสอบดูจากที่นี่เหมือนกันค่ะ
- เซเลสต์กล่าวต่อว่า เธอเคยคิดว่าหน้าที่ของเธอได้จบลงแล้ว ที่เหลือก็ค่อย ๆ ปล่อยให้ร่างสลายไปพร้อม ๆ กับ [อาณาจักรแห่งเงา] แต่กลับไม่เป็นเช่นนั้น เพราะว่า [จ้าวแห่งเงา] ได้ปรากฏตัวขึ้นโดยไม่มีลางบอกเหตุล่วงหน้า แถมยังช่วงชิงพลังของเซเลสต์เงาที่อยู่ ณ [สวน] แห่งนี้ไป แล้วเปลี่ยนแปลง [อาณาจักรแห่งเงา] ตามใจชอบ สร้างเขตแดนหลายอันที่เรียกว่า [ชั้นดารา] 『星層』 ซึ่งข้อมูลตรงนี้ก็ตรงตามที่เร็นได้วิเคราะห์เอาไว้เลยค่ะ
- แต่ว่าตัวจริงของเจ้าหน้ากากนั่นล่ะ เป็นใครกันแน่ แล้วทำไมต้องดึงพวกเควินเข้ามาทดสอบต่าง ๆ ในนี้ด้วย ตรงนี้เซเลสต์เงาก็ไม่อาจรู้ได้เหมือนกัน แต่สิ่งที่เธอสามารถบอกได้ คือ [จ้าวแห่งเงา] น่าจะอยู่ที่ [ชั้นดาราที่ 7] เพราะเป็นเขตแดนที่สร้างขึ้นเป็นอันดับแรก ในตอนที่ [จ้าวแห่งเงา] ปรากฏตัวขึ้น และเธอสามารถจับวี่แววที่กระจายไปทั่วของ [อาณาจักรแห่งเงา] ได้จากที่นั่นด้วยค่ะ
- ในขณะที่ทุกคนกำลังวางแผนจะไปชั้นดาราต่อไปนั้น "เควิน" ก็ฟื้น แล้วก็เข้ามารวมพลกับทุกคนค่ะ (ตรงนี้เควินจะบอกว่า ไม่นึกว่าพันเอกริชาร์ดจะถูกดึงเข้ามาร่วมวงด้วย รวมไปถึงเร็นด้วยค่ะ ซึ่งเร็นก็มีเรื่องอยากจะถามเควินตั้งหลายเรื่องเหมือนกัน แต่คงต้องเอาไว้ทีหลัง)
รีส "เควิน...... เอ่อ ไม่เป็นไรแล้วเหรอ?"
เควิน "อือ คงเพราะนอนซะนาน เลยรู้สึกสดชื่นขึ้น สภาพร่างกายพร้อมสุด ๆ แต่ดูท่าทางจะคืบหน้าไปมากระหว่างที่ชั้นเหนื่อยจนสลบไปนะ"
รีส "อืม......"
- รีสเป็นห่วงเควินอย่างเห็นได้ชัด จากนั้นเควินจะหันมาแนะนำตัวกับเซเลสต์เงา ซึ่งเควินก็คาดว่าเซเลสต์น่าจะรู้จักเขาผ่าน ๆ แล้ว
เซเลสต์ "ค่ะ เรื่องที่เกิดขึ้นบน ลีเบล=อาร์ค ก็พอจะรับรู้และเข้าใจได้ผ่าน ๆ จาก [สวน] แห่งนี้แล้วค่ะ แต่ว่า...... เกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในคราวนี้ รู้สึกว่าตัวท่านจะใกล้กับข้อเท็จจริงมากที่สุดสินะคะ"
รีส "เอ๊ะ......"
เควิน "ใช่แล้วล่ะ คงจะอย่างนั้นแหล่ะครับ [อาณาจักรแห่งเงา] คืออะไรนั้นช่างมันก่อน...... แต่กับ [จ้าวแห่งเงา] ก็พอจะสะกิดใจจริง ๆ นั่นแหล่ะ คนที่เลียนแบบแบบนั้น บอกตรง ๆ คิดว่าเป็นคนอื่นไปไม่ได้ซะด้วย"
รีส "........................................."
เอสเทล "ระ หรือว่า...... จะเป็นคนรู้จักของคุณเควินเหรอ!?"
เควิน "ฮะฮะ...... จะเรียกว่ารู้จักดีหรือไม่รู้จักดีล่ะ แต่ที่พูดได้คำเดียวก็คือ...... เป็นคนที่นิสัยไม่ดีสุด ๆ ฉลาดแกมโกง หยิ่ง...... เลือดเย็นราวกับไม่ใช่คน ก็คงไม่มีอะไรดีเลยล่ะมั้ง"
- พอโอลิเวียร์ถามว่าเป็นใครกัน เควินก็บ่ายเบี่ยง บอกว่าคำตอบอยู่อีกไม่ไกล ซึ่งเควินค่อนข้างมั่นใจ แต่อยากได้อะไรมาตัดสินอีกสักอย่าง ซึ่งน่าจะอยู่ที่ [ชั้นดาราที่ 6] ชั้นต่อไป ซึ่งถ้าได้ความมั่นใจอันนั้นมาไว้ในมือแล้ว เควินสัญญาว่าจะเล่าให้ฟังอย่างแน่นอน (ถึงขนาดเดิมพันด้วยเทพธิดาแห่งท้องฟ้า แล้วก็สัญลักษณ์แห่งจอกดาราที่สำคัญสำหรับอัศวินเลยเชียวค่ะ) ซึ่งทุกคน พอได้ยินดังนั้นก็ยินดีให้ความช่วยเหลือเต็มที่ค่ะ (สำหรับหนูเร็นเนี่ย ขอแค่สนุกก็พอ อะไรก็ได้อยู่แล้ว)
- จากนั้น เซเลสต์บอกว่า เธอจะลองค้น ๆ เรื่อง [ชั้นดาราที่ 7] อีกนิด และก็ตั้งใจจะช่วยเหลือพวกเราผ่าน [ศิลาจตุรัส] และ [แผ่นหิน] เหมือนเดิมด้วยค่ะ
(ตรงนี้ คลอเซ่เรียกเซเลสต์ว่า "ท่านบรรพบุรุษ" ด้วยนะคะ แต่เซเลสต์บอกว่า เธอเป็นเพียงแค่ [เงา] เป็นแค่ส่วนหนึ่งของเซเลสต์ เพราะฉะนั้นไม่ต้องให้ความเคารพเธอก็ได้ค่ะ)
- "รีส...... ขอโทษด้วยที่ทำให้เป็นห่วงหลายเรื่อง" เควินหันมาขอโทษรีส เขาทำหน้าจริงจังเอ่ยปากขอเป็นคนจัดการทุกอย่างเอง
- "......สัญญาอย่างนึงนะ" สีหน้าของรีสเต็มไปด้วยความไม่สบายใจ
รีส "จะไม่ขอว่าอย่าทำอะไรเกินควร แต่...... ขออย่างเดียวเท่านั้นว่าอย่าทำให้ท่านพี่ต้องเสียใจเด็ดขาด"
เควิน "! ...........อึก...................... ฮะฮะ...... จี้ใจดำเลยแฮะ"
รีส "...... สัญญา ได้มั้ย?"
เควิน "............................................. อือ สัญญา จะไม่สาบานกับเทพธิดาหรือจอกดารา...... แต่จะเดิมพัน สาบานกับชื่อของพี่เลยล่ะ"
※เควินเข้ากลุ่มค่ะ※
- เลือกเพื่อนที่จะเอาเข้ากลุ่มต่อสู้ตามสะดวก 3 คน จากนั้น ให้ใช้ [ศิลาจตุรัส] วาร์ปไป "ชั้นดาราที่ 5" 『第五星層』 "วงกตแสง - จุดสุดท้าย" 『光の迷宮・終点』 เพื่อไปยังชั้นดาราถัดไปได้เลยค่ะ
☆อย่าลืมไปสำรวจที่คลังหนังสือที่ด้านใต้ของสวนแห่งนักพรต ตรงตู้ที่ 3 จากซ้าย จะพบ "อัศวินตุ๊กตา" 『人形の騎士』 ค่ะ
☆ในกรณีที่ไม่ได้เลือก "เจ๊เชร่า" เข้ากลุ่มต่อสู้ ให้ไปคุยกับเจ๊เชร่าที่คลังหนังสือ เจ๊จะพบหนังสือแปลก ๆ ที่ชื่อ "แผนการเสริมสร้างกล้ามเนื้อ" 『肉体改造論』 ที่เขียนโดย "กิลเบิร์ต สไตน์" ค่ะ ทำเอาพวกเราถึงกับเหงื่อตกไปตาม ๆ กัน สงสัยว่าทำไมตู้หนังสือเนี่ย ถึงได้มีแต่อะไรไม่รู้ที่เข้าใจได้ยากเหลือเกิน สำรวจตู้หนังสือตรงแถว ๆ เจ๊เชร่าอีกครั้ง จะได้อ่านหนังสือเล่มที่ว่าค่ะ ซึ่งปฏิกริยาของตัวละครหัวแถวที่อ่านหนังสือเล่มนี้จะแตกต่างกันไปด้วยนะคะ
★หากไปคุยกับ "รีส", "เอสเทล", "โยชัวร์" ตรงน้ำพุ พวกเขาจะคุยกันถึงเรื่อง "ผู้พิทักษ์แห่งอาณาจักรแห่งเงา" ค่ะ
ถ้าหากคุยกับ "รีส" อีกครั้ง เควินจะถามรีสว่าเริ่มสนิทกับทุกคนหรือยัง รีสก็ตอบว่าช่วงที่เควินหลับไป เธอก็ทำความรู้จักกับทุกคนจนสนิทขึ้นมาบ้างแล้วค่ะ ส่วนเรื่องสัญญานั้น ถ้าเควินไม่ทำตามล่ะก็ เธอจะลงโทษด้วยการให้อดอาหาร 1 อาทิตย์
★หากไปคุยกับ "เอสเทล" เอสเทลจะถามเควินว่าอาการเป็นไงบ้าง เควินก็ขอโทษเอสเทลที่ไม่ได้ทักทายแล้วก็ฟุบไปเฉยเลย แถมยังทำให้ทุกคนต้องลำบากอีก รีสได้ที เลยเหน็บหน้าเรียบ ๆ ตามสไตล์ว่า แน่ล่ะสิ ตอนนั้นน่ะ ทุกคนลำบากจนไม่อยากจะพูด เป็นอัศวินพิทักษ์แท้ ๆ แต่ปวกเปียกไปหน่อยนะ เอสเทลหัวเราะแห้ง ๆ คิดในใจว่าจริง ๆ แล้วตอนนั้น คุณรีสน่ะเป็นคนที่เดือดเนื้อร้อนใจที่สุดเลยไม่ใช่เหรอ

วงกตแสง2 『光の迷宮2』
- เข้าไปที่จุดวาร์ปด้านในสุดของวงกตแสง เพื่อไปยังชั้นดาราถัดไปได้เลยค่ะ

ถนนรอบเมืองเอลเบ 『エルベ周遊道』
- เมื่อวาร์ปมา เราจะมาโผล่ที่ถนนรอบเมืองเอลเบค่ะ (อย่าลืมสำรวจ [แผ่นหิน] เพื่อเตรียมตัว และซื้อข้าวของที่จำเป็นด้วยนะคะ)
- ถนนเส้นนี้จะเป็นเส้นทางที่วนต่อเนื่องกันไป แต่ถ้าจับทางได้จะไม่ยากเลยค่ะ ซึ่งแต่ละฉากจะมีแผ่นหินสีต่าง ๆ ประจำอยู่ด้วยค่ะ
- วิธีผ่านเริ่มแรก เมื่อออกมาบนถนนรอบเมืองแล้ว ให้เดินขึ้นไปเก็บหีบ แล้ววนกลับไปออกด้านทิศใต้ของฉาก (แต่ถ้าเก็บหีบครบแล้ว ใช้ทางออกด้านทิศเหนือก็จะถึงแผ่นหินที่เราต้องเคลียร์เป็นอันแรกเลยค่ะ)
- จากนั้นไปตามทาง เก็บหีบไปเรื่อย ๆ ก็จะพบฉากซึ่งมีแผ่นหินประกายคราม ที่เราต้องเคลียร์เป็นอันแรกค่ะ (สังเกตว่า แผ่นหินจะเรืองแสง)
☆ไอเทมที่พบบนถนนรอบเมืองเอลเบ "อัญมณีประกายเงิน" (ควอทซ์), "อัญมณีประกายแดงชาด" (ควอทซ์) และ "อัญมณีประกายคราม" (ควอทซ์) ค่ะ☆
- สำรวจ [แผ่นหินประกายคราม] จะมีตัวอักษรลอยขึ้นมาว่า
"[จ้าวแห่งเงา] ขอแจ้ง------

จากนี้ไปคือโรงเรียนไร้สีสัน

จงพาปีกสีขาวมา
สัมผัสลงบนหน้าปัดนี้"
- เมื่อสำรวจแผ่นหิน เซเลสต์เงาจะส่งร่างเงาตัวเองมาบอกใบ้ว่า แผ่นหินนี่เป็น [ประตู] ที่จะผ่านไปยังดินแดนที่ [จ้าวแห่งเงา] สร้างขึ้น ซึ่งการผ่าน [ประตู] ที่ว่า ต้องพาคนที่ระบุไว้มาด้วย และคนที่ต้องพามาด้วยในครั้งนี้ ก็คือ คลอเซ่นั่นเองค่ะ
- วาร์ปกลับไปที่ "ฐานที่มั่น" แล้วนำ "คลอเซ่" เข้ากลุ่มต่อสู้ แล้วกลับมาสำรวจที่ [แผ่นหินประกายคราม] อีกครั้ง เลือก "สัมผัสหน้าปัด" 『文字盤に手を触れる』 จะผ่านเข้าไปได้ค่ะ

โรงเรียนไร้สีสัน 『無色の学舎』
- เมื่อเข้ามาถึง ให้ไปสำรวจตามสถานที่ต่าง ๆ ทั้งหมด 6 ที่ได้เลยค่ะ วิธีการผ่านก็คือ ต้องทำให้โรงเรียนกลับมามีสีสันเหมือนเดิม โดยการปราบ "ดาร์ค ไนท์" 『ダークナイト』 ให้หมดทุกตัวค่ะ ซึ่งดาร์ค ไนท์จะกระจายอยู่ตามที่ต่าง ๆ ดังนี้เลยค่ะ
(1) สนาม 4 ตัว
(2) อาคารหลัก 4 ตัว
(3) หอพักชาย 2 ตัว
(4) หอพักหญิง 2 ตัว
(5) หอประชุม 2 ตัว
(6) คลับเฮ้าส์ 2 ตัว
- หากเผลอไปปราบ "คัลเลอร์ ไนท์" 『カラーナイト』 ในฉากใดฉากหนึ่งเข้า เมื่อตัดฉาก ดาร์ค ไนท์จะปรากฏออกมาอีก ต้องเริ่มฉากนั้นใหม่ทั้งหมด เพราะงั้นระวังด้วยนะคะ แต่ถ้าเกิดการต่อสู้ขึ้นโดยไม่ทันระวัง สามารถใช้คำสั่ง "ล่าถอย" จากคัลเลอร์ ไนท์ได้ค่ะ
- อย่าลืมสำรวจ [แผ่นหิน] ที่ตั้งอยู่ตรงสนามด้านหน้าอาคารหลักด้วยนะคะ
☆ไอเทมที่พบในโรงเรียน "10000 มิร่า", "หลักแห่งผนึกมาร" (ควอทซ์), "10000 มิร่า", "10000 มิร่า", "ทอร์นาโดแฟน" (อาคารหลัก - ห้องพักครู), "เซรั่ม แคปซูล" (อาคารหลัก - ห้องเรียนภาควิชาธรรมชาติวิทยา), "ริโก้ ฟองดู" (หอพักชาย), "ปลาเสียบไม้ย่างริมฝั่งน้ำ" (หอพักหญิง), "ซิกุร์ด รีว่า" (หอประชุม; ดาบเรียว), "10000 มิร่า" (คลับเฮ้าส์) และ "กาลูกัน อาร์มเมอร์" (คลับเฮ้าส์) ค่ะ☆
❤ดูรายละเอียด [ประตูดารา⑨] ได้ตรงนี้ค่ะ❤
- เมื่อปราบ "ดาร์ค ไนท์" จนครบหมดทุกตัว และโรงเรียนกลับมามีสีสันแล้ว ประตูทางออกไปสู่ "อาคารเรียนเก่า" จะเปิดออกค่ะ (ถึงตรงนี้ เราสามารถปราบ "คัลเลอร์ ไนท์" ได้โดยไม่มีเงื่อนไขแล้วค่ะ)

โรงเรียนเจนิส - ถนนด้านหลัง 『ジェニス王立学園・裏道』
- เมื่อเข้ามายังถนนด้านหลัง จะพบกับบุคคลที่คุ้นเคย "ร็อกโก้" 『ロッコ』, "เรส" 『レイス』 และ "ดีน" 『ディン』 3 หนุ่มเรเว่นนั่นเองค่ะ
(จากคำบอกเล่าของทั้ง 3 คน พวกเขาโดนดึงตัวเข้ามา พอรู้สึกตัวก็มามีตัวตนที่นี่ ที่ใช้คำว่ามีตัวตน ก็เพราะพวกเขาไม่ใช่ตัวจริง เป็นเพียง [ตัวปลอม] ที่ใครบางคนเตรียมไว้ให้มาต่อสู้กับพวกเราค่ะ)
◆ในกรณีที่มี "อากัต" ร่วมกลุ่มต่อสู้ จะมีบทสนทนาพิเศษระหว่างอากัตกับเจ้าบ้า 3 ตัวกลุ่มเรเว่นค่ะ ตรงนี้เราจะทราบว่า พวกเรเว่นผ่านคุณสมบัติที่จะเป็นเตรียมเบรเซอร์แล้วด้วยนะคะ
- เกิดการต่อสู้กับ (ร็อกโก้ + เรส + ดีน) ค่ะ
- ร็อกโก้ + เรส + ดีน -
- 『ロッコ+レイス+ディン』 -
**ไม่ยาก หากจับจังหวะการต่อสู้ได้ก็สามารถผ่านไปได้ง่าย ๆ ค่ะ**
**เนื่องจากทั้ง 3 คนสามารถใช้ท่า "สับเนื้อบะช่อ" 『メンチギリ』 ทำให้ติด "ผนึกทักษะ" และท่าอันตรายที่ทำให้ติด "ตายคาที่" อย่าง "โดดฟันแอคแทค" 『ブチ切れアタック』 (สกัดกั้นได้) แนะนำ ให้ใส่เครื่องประดับกันไว้ก่อนก็จะยิ่งจบการต่อสู้ได้ง่ายขึ้นค่ะ**
- ปราบได้ พวกเรเว่นจะหายไป ซึ่งดีน 1 ในทีมเรเว่นพูดทิ้งท้ายไว้ว่า "ไม่รู้ว่าเรื่องที่เกิดขึ้นที่นี่ [พวกเรา] ตัวจริง จะจำได้หรือเปล่า......" ส่วนร็อกโก้ก็เตือนพวกเราว่า ข้างหน้านี่มีที่เก่งกว่าเขาตั้งหลายเท่า ยังไงก็ให้เราระวังตัวไว้ด้วยค่ะ

โรงเรียนเจนิส - อาคารเรียนเก่า 『ジェニス王立学園・旧校舎』
☆ไอเทมที่พบที่อาคารเรียนเก่า "เซรั่ม แคปซูล" ค่ะ☆
- เมื่อเข้าอาคารเรียนไป จะพบว่าผู้ที่รอเราอยู่คือ พ่อบ้านผู้แสนนอบน้อมและใจเย็น คุณลุง "พ่อบ้านฟิลลิป" 『執事フィリップ』 นั่นเอง ซึ่งเขาจะเข้าต่อสู้กับพวกเควินในฐานะที่เป็น [ผู้พิทักษ์] คนแรกค่ะ
(แน่นอนว่า เป็นเพียงแค่เงาที่โดน [จ้าวแห่งเงา] ดึงตัวเข้ามาที่นี่ แถมฉายาของคุณลุงพ่อบ้านอดีตหัวหน้ากองพันแห่งกองกำลังรักษาพระองค์ ก็คือ "ดาบจิ้งจอก" 『剣狐』 เข้ากับตาตี่ ๆ ของลุงมากมายค่ะ)
- ฟิลลิป + เอเมอรัลด์ เซอร์เวนท์ *4 -
- 『フィリップ+エメラルドサーバント*4』 -
**ลุงฟิลลิปค่อนข้างเก่ง หากไม่เตรียมตัวมาดี ๆ แล้ว อาจจะเสียท่าได้ง่ายค่ะ**
**ที่ต้องระวังก็คือ "เอสเมราส ฮาร์ท" 『エスメラスハーツ』 S-craft ของลุงที่พลังโจมตีไม่ใช่เล่นเลยค่ะ**
**ส่วนการโจมตีของลิ่วล้อลุง "เอเมอรัลด์ เซอร์เวนท์" แค่โจมตีธรรมดาก็ทำให้ติด "ผนึกมาร+ADF down" แล้ว และยังสามารถใช้อาร์ท "ลากูน่าบลาสต์" ทำให้ติด "ผนึกทักษะ" อีกด้วย ถ้าโดนพร้อม ๆ กันจะทำให้การต่อสู้ลำบากมากขึ้น แนะนำ ให้ใส่เครื่องประดับป้องกันไว้ และปราบเจ้าลิ่วล้อพวกนี้ก่อน ด้วย Craft หรืออาร์ทกินอาณาเขตค่ะ**
**มีโอกาสที่ฝ่ายเราจะเพิ่มเลือดไม่ทัน เพราะงั้นตั้ง S-craft ของคลอเซ่ไว้ที่ท่า "ริชต์ ไครส์" เผื่อไว้ได้เลยค่ะ**

**ข้อมูลต่าง ๆ ของลุงฟิลลิปดูได้ที่หน้า Sub Character & Enemy ค่ะ**
- ปราบได้ ลุงฟิลลิปจะหายตัวไป พร้อมทั้งเตือนว่าผู้พิทักษ์คนต่อไปฝีมือเก่งกาจกว่าเขามาก ให้พวกเราระวังตัวด้วยค่ะ
- ในตอนนั้นเอง [แผ่นหินประกายอำพัน] ที่อยู่บนถนนเอลเบก็ส่องแสงเรืองรองค่ะ
- ก่อนไปต่อ แนะนำให้เก็บหีบในอาคารเรียนเก่าให้เรียบร้อยก่อนนะคะ
☆ไอเทมที่พบที่อาคารเรียนเก่า "พันนิชเชอร์" (โบว์กัน), "เซพิธทุกคุณสมบัติx200" และ "T แองค์เคร็ต" (เครื่องประดับ) ค่ะ☆
❤ดูรายละเอียด [ประตูจันทรา⑤] ได้ตรงนี้ค่ะ❤
★หากกลับไปคุยกับ "เซเลสต์" ที่ "ฐานที่มั่น" เธอจะบอกว่าตอนนี้เธอพบ [ประตู] (แผ่นหิน) แล้ว 4 ที่ แต่มีอีกที่ที่เธอไม่สามารถค้นพบได้ว่ามันอยู่ตรงไหนค่ะ
★หากไปคุยกับ "คลอเซ่" ตรงคลังหนังสือที่ด้านใต้ของสวนแห่งนักพรต เธอจะบอกว่าหนังสือพวกนี้ไม่ได้ตั้งเรียงไว้อยู่แบบเดียว แต่ดูเหมือนว่าชั้นหนังสือเองก็มี [กฎ] ซึ่งเป็นเอกลักษณ์อยู่ อย่างเช่น ถ้าคิดว่าอยากอ่านหนังสือ หนังสือที่กำลังคิดว่าอยากอ่านจะโดนเรียกให้เข้ามาใกล้ ๆ ชั้นหนังสือ แต่ก็ไม่ใช่ว่านึกอยากจะอ่าน ก็เรียกหนังสือนั้นได้ ซึ่งตอนนี้คลอเซ่ก็ยังไม่ค่อยแน่ใจ บอกว่าเธอจะพยายามรวบรวมข้อมูลให้ได้มากที่สุดค่ะ
(กรณีที่มี "โยชัวร์" ร่วมกลุ่มมาด้วย โยชัวร์จะคุยกับคลอเซ่แทนเควินค่ะ)
★หากไปคุยกับ "รีส" ที่ด้านในมหาพฤกษา เธอจะอ่านพระคัมภีร์จนลืมสังเกตรอบ ๆ ตัวค่ะ (น่ารักจริง ๆ หนูรีส)

ถนนรอบเมืองเอลเบ 『エルベ周遊道』
- ไปสำรวจ [แผ่นหินประกายอำพัน] (อยู่ทางด้านทิศใต้ บนฉากที่เป็นทางเข้าราชคฤหาสน์เอลเบซึ่งมีอาณาเขตกางอยู่) จะมีตัวอักษรลอยขึ้นมาว่า
"[จ้าวแห่งเงา] ขอแจ้ง------

จากนี้ไปคือที่ซ่อนตัวในกระจก

จงพาหญิงสาวแห่งดาบมา
สัมผัสลงบนหน้าปัดนี้"
- วาร์ปกลับไปที่ "ฐานที่มั่น" แล้วนำ "อาเนราส" เข้ากลุ่มต่อสู้ แล้วกลับมาสำรวจที่ [แผ่นหินประกายอำพัน] อีกครั้ง เลือก "สัมผัสหน้าปัด" 『文字盤に手を触れる』 จะผ่านเข้าไปได้ค่ะ

ที่ซ่อนตัวในกระจก - ตึกวิจัยริมทะเลสาบ 『鏡の隠れ処・湖畔の研究所』
- แท้จริงแล้ว ที่ซ่อนตัวในกระจกก็คือ "ตึกวิจัยริมทะเลสาบ" ที่พวก [งูกินหาง] ใช้เป็นฐานที่มั่นชั่วคราวมาก่อนนั่นเอง แต่อาเนราสรู้สึกว่ามันแปลก ๆ ตรงไหนไม่รู้ ยังไงตอนนี้ก็ต้องลองเข้าไปสำรวจกันดูก่อนค่ะ
- เนื่องจากว่าประตูด้านหน้าล็อคอยู่ ให้ใช้ประตูด้านหลัง (ทิศตะวันตก) แทนนะคะ
(ตรงนี้อาเนราสบอกว่า ของจริงมันต้องอยู่อีกด้านสิ แต่ถ้ามี "เอสเทล" ร่วมกลุ่มมาด้วย เอสเทลจะเป็นคนพูดเองค่ะ)
- เมื่อเข้าไปจะเกิดการต่อสู้ขึ้นค่ะ
- มิลเลอร์ วอล์กเกิล *3 -
- 『ミラーヴォーグル』 -
**ระวัง เราไม่สามารถใช้อาร์ทกับมิลเลอร์ วอล์กเกิลได้ เพราะว่าอาร์ทจะโดนสะท้อนกลับมาทั้งหมดค่ะ**
**มิลเลอร์ วอล์กเกิล สามารถเรียก "เอโบนี่ วอล์กเกิล" ซึ่งมีพลังป้องกันกายภาพสูงมาเพิ่มได้ แต่ตัวนี้เราสามารถใช้อาร์ทใส่ได้ค่ะ**
- ปราบเสร็จ พวกเราจะรู้แล้วว่าความรู้สึกแปลก ๆ ที่อาเนราสสัมผัสได้ในตอนแรกที่มาถึง ที่แท้คือสภาพของที่นี่ที่กลับด้านซ้ายขวาหมดเลยนั่นเองค่ะ
☆ไอเทมที่พบในที่ตึกวิจัยริมทะเลสาบ 1F "เซพิธทุกคุณสมบัติx1000" (สำรวจตรงแผงควบคุมสายพานที่ใกล้ทางเข้าที่สุด), "มุเม จิทเททซึ" (ดาบ) และ "หลักแห่งพิษ" (ควอทซ์) ค่ะ☆
- ระหว่างทางจะมีห้อง ๆ นึงที่มีคันโยกเปิดประตูใหญ่ด้านหน้าออกไปนอกตึกได้ (ห้องที่มีไฟสีเขียวทั่วทั้งห้อง) ยังไงก็อย่าลืม "โยกคันโยก" 『レバーを動かす』 ตรงผนังด้วยนะคะ จะได้ใช้ทางออกด้านหน้าได้ไม่ต้องอ้อมไปมา
☆ไอเทมที่พบในที่ตึกวิจัยริมทะเลสาบ 1F "เยลลี่ของสด", "โกลด์ เครสต์" (ปลอกแขน), "เนื้อติดกระดูกนาปาล์ม" และ "คลื่นกล" (ควอทซ์) ค่ะ☆
- สำรวจ [แผ่นหิน] เตรียมตัวให้เรียบร้อย เมื่อเข้าไปด้านในสุดของชั้น 1F จะเกิดการต่อสู้ขึ้นค่ะ ซึ่งไม่ใช่ใครอื่นแต่เป็นเบรเซอร์รุ่นพี่ผู้ใจดีนามว่า "กรัซ" นั่นเองค่ะ (แน่นอนว่าเป็นแค่ร่างเงา)
- กรัซ + ทหารพราน *2 -
- 『グラッツ+猟兵*2』 -
**"ท่าลับ กรัซ บิ๊กแบง" (สกัดกั้นไม่ได้) กับท่า "ชาร์จ" ของทหารพราน (เป็นร่างแยกของกรัซ ที่เราเคยสู้ด้วยในภาค SC) ทำให้เราติด "หมดสติ" ได้ เพราะงั้น แนะนำให้ใส่เครื่องประดับป้องกันไว้จะง่ายขึ้นค่ะ**
**ในกรณีที่จะใช้อาร์ท แนะนำให้ดูเทิร์นดี ๆ ถ้าเทิร์นไม่ทันอาจโดนท่า "กรัซ สเปเชียล" (โจมตี+AT-delay) ได้ค่ะ**
- ปราบได้ กรัซจะหายไปค่ะ
- สำรวจเครื่องคอมพิวเตอร์ปลายทางในห้อง จะได้รับอีเวนท์ไอเทม "คีย์การ์ดสีแดง" 『赤のカードキー』 มาค่ะ
(ตรงนี้ คำใบ้จากคอมพิวเตอร์ปลายทาง เป็นแบบกลับด้านดูในกระจกด้วย ทำเอาอาเนราสรู้สึกไม่ดีไปเลยล่ะค่ะ)
- กลับไปทางเดิม เพื่อใช้คีย์การ์ดที่ได้มาปลดล็อกประตูลิฟท์ได้เลยค่ะ
- แต่ก่อนจะขึ้นไปชั้น 2 ให้กลับไปตรงทางที่เรามาก่อนหน้านี้ หาประตูที่ใช้คีย์การ์ดสีแดงปลดล็อกได้ เพื่อเข้าไปเก็บหีบในห้องที่มีซากของ "ทรอยเมไร" อยู่ค่ะ
☆ไอเทมที่พบในห้องที่มีซากทรอยเมไรอยู่ "หลักแห่งหลับไหล" (ควอทซ์) ค่ะ☆
- ใช้ลิฟท์ขึ้นไปยังชั้น 2 ของตึกวิจัยเลยค่ะ
☆ไอเทมที่พบในที่ตึกวิจัยริมทะเลสาบ 2F "เซรั่ม แคปซูล", "เซพิธทุกคุณสมบัติx1000" (สำรวจตรงเตียงแคปซูลที่เปิดฝาอยู่) และ "อัญมณีประกายมายา" (ควอทซ์) ค่ะ☆
- สำรวจ [แผ่นหิน] เตรียมตัวให้เรียบร้อย เมื่อเข้าประตูไป จะเกิดการต่อสู้ขึ้น กับเบรเซอร์รุ่นพี่อีกคนค่ะ
- คารูน่า + ทหารพรานหญิง *2 -
- 『カルナ+女猟兵*2』 -
**แนะนำ ให้ใส่เครื่องประดับป้องกัน "หมดสติ" กับ "มืดมิด" ไว้จะง่ายขึ้นค่ะ**
**การต่อสู้กับคารูน่า ก็เหมือน ๆ ต่อสู้กับกรัซ แต่คารูน่าจะมีรูปแบบการต่อสู้ที่หลากหลายกว่า ระยะโจมตีไกลกว่าค่ะ**
**ถ้าต้องการจบการต่อสู้โดยไว จะใช้ S-craft ถล่มใส่แบบไม่ยั้ง หรือจะเพิ่มสมรรถภาพในการต่อสู้ของฝ่ายเรา แล้วลดของฝ่ายศัตรู สู้ไปเรื่อย ๆ สลับฟื้นฟูฝ่ายเราก็ได้ แล้วแต่สะดวกเลยค่ะ**
- ปราบได้รุ่นพี่สุดห้าวแต่แอบเซ็กซี่ คารูน่าจะหายไปค่ะ
- สำรวจเครื่องคอมพิวเตอร์ปลายทางในห้อง จะได้รับอีเวนท์ไอเทม "คีย์การ์ดสีเขียว" 『緑のカードキー』 มาค่ะ
- กลับไปทางเดิม เพื่อใช้คีย์การ์ดที่ได้มาปลดล็อกประตูลิฟท์ได้เลยค่ะ ซึ่งระหว่างทางบนชั้นนี้ จะมีประตูที่ใช้คีย์การ์ดสีเขียวปลดล็อกได้ด้วยนะคะ ซึ่งหนึ่งในนั้นจะเป็นห้องที่มีประตูดาราอยู่ด้วยค่ะ
☆ไอเทมที่พบในที่ตึกวิจัยริมทะเลสาบ 2F "หลักแห่งสับสน" (ควอทซ์) ค่ะ☆
❤ดูรายละเอียด [ประตูดารา⑩] ได้ตรงนี้ค่ะ❤
- ก่อนจะใช้คีย์การ์ดสีเขียวขึ้นไปชั้น 3 ให้ลงไปชั้น 1 ก่อน เพื่อไปเก็บหีบในห้องที่ใช้คีย์การ์ดสีเขียวเปิดได้ค่ะ
☆ไอเทมที่พบในที่ตึกวิจัยริมทะเลสาบ 1F ห้องข้าง ๆ ห้องซากทรอยเมไร "กาลูกัน อาร์มเมอร์" (เครื่องป้องกัน) ค่ะ☆
- ใช้ลิฟท์ไปชั้น 3 ของตึกวิจัยได้เลยค่ะ
☆ไอเทมที่พบในที่ตึกวิจัยริมทะเลสาบ 3F "อัญมณีประกายวารี" (ควอทซ์), "เซพิธทุกคุณสมบัติx1000" (สำรวจสปอร์ตไลท์ด้านนอกตึก), "ยาพิษร้ายแรง [ผู้ทดสอบพิษ]" และ "ยาแห่งเทียร์ ออล" ค่ะ☆
- สำรวจ [แผ่นหิน] เตรียมตัวให้เรียบร้อย เมื่อเข้าประตูไป จะเกิดการต่อสู้ขึ้น กับเบรเซอร์รุ่นพี่ผู้ใช้จิตยุทธ์ นิสัยเอาจริงเอาจัง "คูลซ์" ตามที่เราคาดไว้นั่นเองค่ะ
- คูลซ์ + ทหารพราน *2 -
- 『クルツ+猟兵*2』 -
**แนะนำ ให้ใส่เครื่องประดับป้องกัน "ตายคาที่" และ "หมดสติ" ไว้จะง่ายขึ้นค่ะ**
**คูลซ์มีจุดเด่นตรงที่พลังทุกอย่างค่อนข้างสมดุล มีความเร็วเป็นเลิศ ทั้งยังมีท่าที่สามารถฟื้นฟู+เพิ่มความสามารถตัวเองได้อีกด้วย แนะนำ ให้พยายามเพิ่มความสามารถของฝ่ายเรา และลดความสามารถของฝ่ายศัตรูเข้าไว้ การต่อสู้ก็จะง่ายขึ้นค่ะ**
**ถ้าจะให้ดี แนะนำ ให้ปราบทหารพรานก่อน เพราะสามารถใช้ท่า "สควอซฟายเอล" 『スクワーツファイエル』 เพิ่ม STR&SPD ได้ ซึ่งถ้าเราเทิร์นไม่ทันแล้วโดนรุม มีสิทธิ์เดี้ยงได้แบบตั้งตัวไม่ทันแน่นอนค่ะ**
- ปราบได้ คูลซ์จะบอกว่า ถ้าประสบการณ์แพ้ชนะในครั้งนี้เหลือไปถึงตัวจริงของเขาก็คงจะดี ซึ่งอาเนราสก็ยิ้มรับพร้อมทั้งบอกว่า "รุ่นพี่...... จริงจังเกินไปแล้วนะคะ......"
- ก่อนจะหายตัวไป คูลซ์ทิ้งท้ายเอาไว้ว่า ถ้าเป็นพวกเราในตอนนี้ น่าจะมีคุณสมบัติพอที่จะท้าสู้กับ [เธอ] ด้วย พวกเราตกใจว่ายังมีบททดสอบอีกหรือ คูลซ์ยิ้มบอกว่าให้เราไปยังดาดฟ้า แต่บอกไว้ก่อนว่า [เธอ] น่ะแข็งแกร่งมาก ถึงแม้อายุจะยังน้อย แต่ก็เป็นผู้เยี่ยมยุทธ์ที่ประสบความสำเร็จ ให้เราเตรียมตัวเตรียมใจไว้ให้ดีค่ะ
- สำรวจเครื่องคอมพิวเตอร์ปลายทางในห้อง จะได้รับอีเวนท์ไอเทม "คีย์การ์ดสีฟ้า" 『青のカードキー』 มาค่ะ
- กลับไปทางเดิม อย่าลืมแวะไปห้องที่ล็อกเอาไว้บนชั้นนี้ ใช้คีย์การ์ดสีฟ้าที่ได้มาเปิดเข้าไปเก็บหีบด้วยนะคะ
☆ไอเทมที่พบในที่ตึกวิจัยริมทะเลสาบ 3F "ยาแห่งอาเซราส", "แกรนด์ สแลม" (ปืนใหญ่ออร์บเมนท์) และ "ใบอนุญาตเข้าร่วมงานประลองยุทธ์เบื้องหลัง" (ไอเทมจำเป็นสำหรับเคลียร์ "ประตูตะวัน③/Hard") ค่ะ☆
- ก่อนขึ้นไปยังชั้น 4 ให้ลงไปยังชั้น 2 (เก็บหีบ) และชั้น 1 (ประตูดารา) ก่อนค่ะ
☆ไอเทมที่พบในที่ตึกวิจัยริมทะเลสาบ 2F "อัญมณีประกายพฤกษ์" (ควอทซ์) และ "ยาแห่งอาเซราส" ค่ะ☆
❤ดูรายละเอียด [ประตูดารา⑪] ได้ตรงนี้ค่ะ❤
- ใช้ลิฟท์ไปชั้น 4 ของตึกวิจัยได้เลยค่ะ
- สำรวจ [แผ่นหิน] เตรียมตัวให้เรียบร้อย เข้าประตูไปพวกเราจะประหลาดใจที่ไม่มีใครรออยู่ที่นี่เลย
- จากนั้น ให้ขึ้นไปที่ชั้นดาดฟ้าได้เลยค่ะ
- "......มาช้านะ" เสียงผู้หญิงดังขึ้น ซึ่ง ณ เบื้องหน้าของเรานั้น ผู้ที่ยืนอยู่ก็คือ อดีตประชาสัมพันธ์สาวสวย "คิริก้า" นั่นเองค่ะ
◆ในกรณีที่มี "เบรเซอร์" คนใดคนหนึ่งร่วมกลุ่มต่อสู้มาด้วย (นอกจากจิน) บทพูดจะมีเปลี่ยนไปนิดหน่อยค่ะ
◆ในกรณีที่มี "จิน" ร่วมกลุ่มต่อสู้มาด้วย จะมีบทสนทนาพิเศษค่ะ ซึ่งบทสนทนาต่อไปนี้เป็นกรณีที่มีจินร่วมกลุ่มมาด้วยนะคะ
คิริก้า "ผู้ชายที่อยู่ตรงนั้นเอาไว้ก่อน...... ไม่ได้เจอกันนานเลยนะ อาเนราส เอลฟีด ตั้งแต่ที่ฉันกลับประเทศไปใช่หรือเปล่า"
อาเนราส "อะ อะฮ่าฮ่า...... ไม่ได้เจอกันนานเลยนะคะ"
จิน "อ้าวเฮ้ย...... มาบอกไว้ก่อนไม่ได้นะ คุยกับชั้นด้วยสิ?"
คิริก้า "ยังไงก็ได้เจอหน้าเธอที่สาธารณรัฐอยู่แล้วนี่ หรืออยากจะสวมกอด ให้น้ำตานองหน้าไปด้วยความซาบซึ้งดีล่ะ?"
จิน "มะ ไม่ดีกว่า...... เกรงใจน่ะ"
คิริก้า "เอ...... หลวงพ่อเควินสินะ มาถึงนี่แล้วคงจะรู้กฎดีสินะ?"
เควิน "อืม ให้เดา คุณคือ [ผู้พิทักษ์] ต่อจากคุณพ่อบ้าน...... เป็น [ศัตรู] ที่ขวางทางไปสู่เขตแดนต่อไปสินะครับ"
คิริก้า "หึหึ ถูกต้อง มาตัดสินแพ้ชนะบนเวทีรสนิยมแย่แบบนี้ ก็ไม่ค่อยเต็มใจเท่าไหร่หรอกนะ...... แต่ก็จะทำให้มันเด็ดขาดแล้วกัน"
- คิริก้าหยิบ "จักรจันทร์เสี้ยว" 『偃月輪』 อาวุธคู่ใจของเธอออกมา
คิริก้า "จิน...... เราไม่ได้ประมือกันมานานหลายปีแล้วสินะ โทษทีนะ แต่ฉันขอใช้อาวุธโดยไม่เกรงใจล่ะ"
จิน "เดิมที [สำนักไทโตะ] 『泰斗流』 ก็ไม่ได้เป็นสำนักสายมือเปล่าอย่างเดียวอยู่แล้วนี่ ถ้าใช้อาวุธ ความสามารถที่แท้จริงของ [เฟยย่านหงเอ๋อ (สตรีนางแอ่นเหิน)] 『飛燕紅児』 ที่เคยทำให้ศิษย์เอกอัจฉริยะวอลเตอร์ต้องอับอายมาแล้ว...... นาน ๆ ครั้งก็ขอชมฝีมือหน่อยแล้วกัน"
คิริก้า "หึหึ...... ถ้าต้องการแบบนั้นก็จะจัดให้เต็มที่ ศิษย์สำนักไทโตะ--------- ผู้ได้รับการถ่ายทอดวิชาลับทั้งหมด คิริก้า โหรวหรัน ขอปฏิบัติหน้าที่เป็นคู่มือให้ในฐานะ [ผู้พิทักษ์] ลำดับที่ 2 ล่ะนะ"
- เกิดการต่อสู้กับ (คิริก้า) ค่ะ
- คิริก้า+ โกซ บีสต์ *2 -
- 『キリカ+ゴズ・ビースト*2』 -
**ถ้าหากไม่เตรียมตัวมาดี ๆ แล้ว การต่อสู้กับคิริก้าหืดขึ้นคอแน่ ๆ ค่ะ**
**ควรจัดกลุ่มต่อสู้ โดยให้มีสายโจมตีกายภาพกับสายอาร์ท อย่างละ 2 คน ให้สายอาร์ทเน้นสนับสนุนและฟื้นฟู ถ้าเร็วพอที่จะใช้อาร์ทโจมตี แนะนำให้ผสมควอทซ์ให้เควินสามารใช้อาร์ทคุณสมบัติเวลา กินอาณาเขตอย่าง "คาลามิตี้ บลาสต์" เตรียมไว้เลย ส่วนสายโจมตีกายภาพก็พยายามช่วยกันปราบศัตรูให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ค่ะ**
**แนะนำ ให้ใช้ "คล็อกอัฟ รุ่นปรับปรุง", "โซดิแอค" ฯลฯ เพิ่มประสิทธิภาพให้กับฝ่ายเรา จะทำให้การต่อสู้ง่ายขึ้นค่ะ**
**ในกรณีที่มี "จิน" ร่วมกลุ่มมาด้วย ให้จินใช้ท่า "แก่นแท้ คลื่นเทพมังกร" 『真・龍神功』 เพิ่ม STR&DEF ให้ตัวเองได้เลยค่ะ**
**"โกซ บีสต์" STR และ DEF ค่อนข้างสูง แถมการโจมตีธรรมดาก็ทำให้ฝ่ายเราร่นไปในแนวหลังได้ เพราะงั้นเน้นใช้อาร์ทโจมตีจะดีกว่า ส่วนคิริก้านั้น จะใช้อาร์ทหรือโจมตีธรรมดาก็ได้แล้วแต่ถนัดค่ะ**

**ข้อมูลต่าง ๆ ของอดีตประชาสัมพันธ์สาวสวยดุ ดูได้ที่หน้า Sub Character & Enemy ค่ะ**
- ปราบได้ คิริก้าจะรู้สึกเจ็บใจเล็กน้อย ที่ตัวเธอฝีมือตกลงจากเมื่อก่อนค่ะ
(ในกรณีที่มี "จิน" ร่วมกลุ่มต่อสู้มาด้วย คิริก้าจะเอ่ยปากชมว่า "[ผู้มั่นคง] แห่งไทโตะ...... เป็นกังฟูที่ไม่เลวเลยนะ" ด้วยค่ะ ส่วนจินก็เอ่ยปากชมคิริก้าว่า ถึงฝีมือจะตกลง แต่ก็ยังเก่งกาจจนไม่คิดว่า จะแค่เคยทำงานเป็นประชาสัมพันธ์ของกิลด์ค่ะ)
- พอคิริก้าหายไป [แผ่นหินประกายแดงชาด] ที่อยู่บนถนนเอลเบก็ส่องแสงเรืองรองค่ะ
★หากกลับไปคุยกับ "เซเลสต์" ที่ "ฐานที่มั่น" เธอจะบอกว่า รู้สึกว่าพลังของ [จ้าว] เพิ่มขึ้นมาทีละนิด ยังไงก็ให้พวกเราระวังตัวด้วยค่ะ
★หากไปคุยกับ "โยชัวร์" ที่คลังหนังสือด้านใต้ของสวนแห่งนักพรต จะทราบว่าความทรงจำของเซเลสต์ที่เกี่ยวข้องกับ [ลีเบล=อาร์ค] นั้นไม่ได้มีทั้งหมด เนื่องจากว่าเธอเป็นแค่ [เงา] ของตัวจริงเท่านั้น ก็เลยเลือกที่จะเก็บเฉพาะข้อมูลที่คิดว่าสำคัญเอาไว้
★หากไปคุยกับ "คลอเซ่" ที่คลังหนังสือด้านใต้ของสวนแห่งนักพรต จะทราบว่าเซเลสต์บอกมาว่า โลกนี้มีลักษณะเหมือนเป็นห้วงอวกาศที่เอาไว้เก็บข้อมูล หนังสือพวกนี้ เป็นข้อมูลที่สะสมเอาได้รับอิทธิพลทางตัวตนและความคิดของพวกเรา เปลี่ยนให้กลายเป็นสภาพที่จับต้องได้ค่ะ
★หากไปคุยกับ "ริชาร์ด" ด้านหน้าน้ำพุ จะเห็นเขาฝึกอิไออยู่ ถือเป็นการลับฝีมือและทำให้จิตใจผ่อนคลายด้วยค่ะ
(ในกรณีที่มี "อาเนราส" ร่วมกลุ่มมาด้วย จะมีบทพูดพิเศษด้วยค่ะ)
★หากไปคุยกับ "ทีต้า" ตรงน้ำพุ คุยรอบที่ 2 เธอจะลืมไปเสียสนิทเลยว่า คุณเมอร์ด็อกซ์ (หัวหน้าโรงงานไซสส์) เป็นยังไงบ้าง พอไม่มีคุณคิริก้าที่คอยช่วยเหลืออยู่ ตอนนี้คงจะสลบไปแล้วล่ะมั้งเนี่ย...
★หากไปคุยกับ "อากัต" ตรงน้ำพุ อากัตบอกว่าจะพยายามไปช่วยงานที่ไซสส์ เพราะดูเหมือนยัยคิริก้าจะถูกอกถูกใจเมืองนั้นไม่น้อย (อากัตใจดีกับคนอื่น นอกจากทีต้าด้วยเหมือนกันนะคะเนี่ย) แต่ถ้าคุยอีกรอบ อากัตจะคิดอีกทีว่าที่ไซสส์มี เอริก้า รัซเซลอยู่นี่นา...ว่าแล้วอากัตก็เงียบไปซะเฉย ๆ ค่ะ
★หากไปคุยกับ "อาเนราส" เธอจะนอนอยู่ตรงด้านหลังของมหาพฤกษา ดูท่าทางจะฝันดีถึงอาณาจักรตุ๊กตาของเธอซะด้วยค่ะ
★หากไปคุยกับ "รีส" ตรงชั้นหนังสือที่มหาพฤกษา เธอจะครุ่นคิดถึงเรื่องเควิน กับพี่สาวของเธอค่ะ
(เฉพาะ กรณีที่มี "เร็น" ร่วมกลุ่มต่อสู้ และยังไม่ได้ไปคุยกับเร็นตรงส่วนปลายสุดของมหาพฤกษานะคะ)
★หากไปคุยกับ "เร็น" ที่ตรงปลายสุดของมหาพฤกษา จะมีอีเวนท์พิเศษกับ "รีส" ค่ะ
(ในกรณีที่มี "รีส" ร่วมกลุ่มด้วย จะมีบทพูดของเร็นกับเควินเพิ่มขึ้นมาในตอนต้นนะคะ แต่ถ้าไม่มีรีสร่วมกลุ่มมาด้วย เมื่อเดินเข้าไปใกล้จะเกิดอีเวนท์ทันทีค่ะ บทสนทนาต่อไปนี้ เป็นบทสนทนาในกรณีที่มีรีสร่วมกลุ่มมาด้วยนะคะ)
เควิน "อ้าว เร็นจัง มาทำอะไรตรงนี้น่ะ......? อ๋อ หรือว่ากำลังวิเคราะห์ [ผู้พิทักษ์] คนต่อไป? เฮ้อ ไม่ว่าจะวิชาที่เป็นเอกลักษณ์ หรือการอ่านทางล่วงหน้าได้ทะลุปรุโปร่งนั่น ช่วยได้มากเลยล่ะ......"
เร็น "หึหึ นั่นสิเนอะ แถมการเลือกคนของคุณ [จ้าวแห่งเงา] ก็น่าสนใจดีด้วย..... ต่อไปคนที่จะปรากฏตัวในดินแดนมหัศจรรย์ จะเป็นคนแบบไหนกันนะ น่าสนุกดีเนอะ♪"
เควิน "นะ น่าสนุกเหรอ............ ลองวิเคราะห์แล้วบอกมาหน่อยได้เปล่า?"
เร็น "อุ๊ย ถ้าทำแบบนั้น ก็น่าเบื่อแย่สิ นิทานน่ะ มันต้องตื่นเต้นเร้าใจถึงจะสนุก"
รีส "................................. รู้สึกข้องใจมาตั้งแต่เมื่อสักครู่แล้วนะคะ ว่าไม่รอบคอบไปหน่อยหรือเปล่า?"
เร็น "? ไม่รอบคอบ............?"
รีส "ดูจากวิธีการจนถึงตอนนี้ ก็เป็นที่แน่ชัดแล้วว่า [จ้าวแห่งเงา] น่ะเป็นศัตรู มีผู้คนที่แม้จะเป็นแค่บุคลิกลักษณะ โดน [จ้าวแห่งเงา] เอามาใช้การอยู่นะคะ มาเล่าเรื่องเหมือนเล่นพ่อแม่ลูกเป็นเด็ก ๆ ในสถานการณ์แบบนี้ ความเห็นหลุดประเด็นไปหน่อยหรือเปล่าคะ?"
เควิน "ระ รีส............"
- เร็นชักสีหน้า
เร็น "ทำไมพี่สาวต้องโมโหด้วยล่ะ?"
รีส "......ไม่ได้โมโหเลยค่ะ เพียงแต่ เราควรจะเข้าใจร่วมกันว่า [จ้าว] คือศัตรู จึงไม่สามารถยอมรับความเห็นที่พูดเข้าข้างยอมรับคนแบบนั้นได้ค่ะ"
เร็น "หืมม์.................. จะว่าไป ท่าทางคุณ [จ้าวแห่งเงา] ก็มีเสน่ห์ไม่เบาเลย...... หึหึ มันมาเกี่ยวข้องกับอารมณ์หงุดหงิดของพี่สาวใช่มั้ยล่ะ"
- รีสชักสีหน้าบ้าง
เร็น "......นั่นสินะ ดูเหมือนคุณ [จ้าวแห่งเงา] จะสนอกสนใจ [นักล่านอกรีต] อยู่ แต่พี่สาวเองก็ไม่เข้าใจว่ามันเป็นมายังไงเหมือนกัน...... คิก...... ก็เลยโมโหใช่มั้ยล่ะ?"
เควิน "................................."
รีส "................................. ลืมกันแบบนี้ก็แย่สิคะ มันไม่ใช่เรื่องเล่น ๆ นะคะ ถึงจะเป็นอัจฉริยะยังไง คิดเอาเองถึงขั้นนั้นก็เป็นแค่คนหลงตัวเองนะคะ"
- "......เอ้า ๆ สต๊อป สต๊อป" เอสเทลเดินปรี่เข้ามาห้ามทัพ
เอสเทล "ทั้ง 2 คน...... หยุดเดี๋ยวนี้เลยนะ เร็น พวกคุณรีสน่ะเจอเรื่องมาตั้งเยอะแยะมากมาย เพราะงั้นอย่าพูดแบบนั้นสิ แล้วคุณรีสก็ด้วย เอาแต่พูดอัจฉริยะ อัจฉริยะอยู่ได้ ถึงยังไงเร็นก็เป็นเด็กผู้หญิงธรรมดานะ"
เร็น "............เอ๋..............."
รีส ".............................. ไม่ค่อยเข้าใจความหมายที่ว่ามาเลยค่ะ......"
เอสเทล "นี่ คุณรีส ถึงเร็นจะหัวดี มีความสามารถเหลือเชื่อแค่ไหนก็ตาม...... ถึงจะอย่างนั้นชั้นก็คิดว่า เค้ายังเป็นเด็กผู้หญิงธรรมดาไม่เปลี่ยนแปลง เอาแต่ใจ เจ้าอารมณ์ เกินวัย จองหอง เห็นอะไรก็เป็นเรื่องสนุก...... แต่ก็เอาใจใส่ เป็นห่วงเป็นใยคนอื่นด้วย ว่าไง ไม่คิดว่าเป็นเด็กผู้หญิงธรรมดาสุด ๆ ที่ต้องไปเรียนโรงเรียนวันอาทิตย์บ้างเหรอ?"
- รีสฉุกคิด ส่วนเร็นก็หยุดคิดไปเหมือนกัน
เอสเทล "เพราะงั้นเรื่องของเร็นน่ะ...... ไม่อยากให้ยึดติดว่าเป็นคนพิเศษ ปฏิบัติต่อเค้าในฐานะเด็กธรรมดา แล้วก็ถ้ามีอะไรจะบ่น ก็บ่นใส่ให้เต็มที่เลยก็ได้...... พอได้ยินวิธีการพูดของคุณรีสเข้า ก็รู้สึกว่าคิดอะไรด้านเดียวเกินไปนิด......"
รีส "............................... นั่นสิคะ...... อาจจะมีมุมมองอยู่ด้านเดียวนิดนึงจริง ๆ ล่ะมั้งคะ ......ขอโทษนะคะ คุณเร็น"
เร็น "อุ๊ย...... พี่สาว ว่าง่ายดีจัง ......แต่คงมีอะไรที่อยากพูดกับเร็นเยอะแยะเลยสิท่า"
รีส "แน่นอนอยู่แล้วค่ะ การสั่งสอนเด็กที่ไม่รู้เหตุรู้ผล มันเป็นหน้าที่ของผู้ใหญ่นี่คะ"
เอสเทล "อ๊ะ ชั้นก็เห็นด้วย ตราบใดที่ยังอยู่ที่นี่ ผู้ปกครองของเร็นก็คือพวกชั้นนะ"
เร็น "หึ ฮึ่ม...... จะพูดเองเออเองก็ตามใจ ......ยังไงก็เถอะ เอสเทล เรื่องของเร็นเมื่อกี๊นี้ พูดว่าเป็นเด็กธรรมดาที่ไปเรียนโรงเรียนวันอาทิตย์ใช่มั้ย?"
เอสเทล "อะ อืม...... แล้ว?"
เร็น "เอสเทลจะคิดเอาเองว่าเร็นเป็นยังไงน่ะช่างเถอะ...... แต่ขอแก้ให้มันถูกต้องอย่างนึงนะ ......ไม่ว่าจะด้านไหน เร็นน่ะไม่ได้เป็นคนเรียน แต่เป็นคนสอนต่างหาก เพราะว่าได้ปริญญาเอกมาตั้ง 3 ใบนี่นา"
- ทุกคนตกใจไปตาม ๆ กัน
เร็น "วิชาเคมี วิชาคณิตศาสต์ ทฤษฏีข้อมูล...... ก็จัดบรรยายวิทยานิพนธ์อยู่เรื่อย ๆ แต่เพราะไม่ชอบให้ใครมาวุ่นวายด้วย ก็เลยซ่อนตัว แต่งตั้งตัวแทนขึ้นมา"
เอสเทล "ฮะ ฮะฮะ...... งั้นหรอกเหรอ"
รีส "(จะ...... อบรมบ่มนิสัยนี่คงลำบากน่าดูนะคะ)"
☆อย่าลืมไปสำรวจที่ชั้นหนังสือตรงมหาพฤกษา จะพบหนังสือที่ดูอ่านยากบนชั้นค่ะ ("บันทึกสงครามร้อยวัน", "ประวัติศาสตร์เศรษฐกิจรูอัน เล่มต้น", "ประวัติศาสตร์เศรษฐกิจรูอัน เล่มกลาง", "ประวัติศาสตร์เศรษฐกิจรูอัน เล่มจบ" และ "รวมทฤษฎีทัศนศาสตร์ของผลึกคริสตัล" ค่ะ)
★ในกรณีที่เจออีเวนท์คุยกับเร็นแล้ว หากไปคุยกับ "รีส" ตรงน้ำพุ เธอจะมาหลบอยู่หลังเสา บอกว่าคุณเอสเทลเป็นคนจิตใจดีค่ะ ถ้าคุยอีกครั้ง รีสจะคิดอะไรคนเดียวว่าทำไมต้องยึดติดเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ แค่นี้ แล้วอีกอย่าง [งูกินหาง] ก็ถือเป็นศัตรูอยู่แล้วด้วย...ค่ะ
- ต่อ Part 2 ค่ะ




Related entries:
Sora no Kiseki the3rd (空の軌跡the3rd)


No comments:

Post a Comment