Saturday, November 18, 2017

[บทสรุป] Sora no Kiseki the3rd - ประตูดารา 4 ตอนจบของการเดินทาง

ประตูดารา④ 『星の扉④』
ตอนจบของการเดินทาง 『旅の終わり』
Walkthough
สถานที่ เส้นทางทอง ปริศนา เจ้า จงพาผู้ที่แสดงตนว่าเป็นผู้ประพฤติตนมาหาข้า

หากทำได้ [ประตู] จะเปิดออก......
คำตอบ จิน โบนัส หยินหยาง 『陰陽』
(ควอทซ์)
มิร่า 4000

- เมื่อเข้าประตูไป จะได้ดูเศษเสี้ยวแห่งความทรงจำค่ะ



นครหลวงแกรนเซล 『王都グランセル』
- หน้าเคาน์เตอร์ ณ สมาคมเบรเซอร์สาขานครหลวง "จิน" 『ジン』 กำลังแจ้ง "เอลนัน" 『エルナン』 ประชาสัมพันธ์ของสาขานี้ ว่าพรรคพวกของเขาที่อยู่ทางโน้น ขอให้กลับไปช่วยงานที่สาธารณรัฐคาลวาร์ด ประเทศบ้านเกิด ซึ่งเป็นหน้าที่ต่อสังคมในฐานะเบรเซอร์ระดับ A ค่ะ
(จริง ๆ แล้วเอลนันอยากให้จินอยู่ช่วยเหลือที่นี่ต่อนะคะ แต่เขาก็พอจะเข้าใจ ว่างานทางโน้นเป็นงานหลักของจิน ก็เลยไม่ขัดอะไร และยินดีที่จะจองตั๋วเรือเหาะประจำทางระหว่างประเทศให้ ด้วยเที่ยวบินที่เร็วที่สุด ตามที่จินขอมาว่าเดินทางวันพรุ่งนี้ได้ยิ่งดีค่ะ นอกจากนั้น เอลนันยังถามจินด้วยว่า ไม่ไปกล่าวลาคุณคิริก้าหน่อยเหรอ จินเจอคำถามจี้ใจดำ ถึงกับเหงื่อตก ตอบอย่างเซ็ง ๆ ว่า ตัวเขาก็คิดอยากจะทำอย่างนั้นเหมือนกัน แต่คิริก้าย้ำนักย้ำหนาว่าถ้ามีเวลาว่างนักล่ะก็ รีบ ๆ กลับประเทศไปซะ เพราะงั้นถึงอยากจะไปหาคิริก้ายังไง ก็ไม่ได้อยู่ดี น่าสงสารจริง ๆ นะคะเนี่ย)
- ในขณะนั้นเอง เสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้น ซึ่งสายปลายทางนั้น คือ "ท่านทูตเอลซ่า" 『エルザ大使』 แห่งสถานทูตสาธารณรัฐ ที่โทรมาชวนให้จินไปเที่ยวบ่อน้ำพุร้อนกับเธอให้ได้ค่ะ



2 วันให้หลัง------
หมู่บ้านเอลโม 『エルモ村』
- ณ หมู่บ้านเอลโม "จิน" และ "คิริก้า" 『キリカ』 เดินมาหยุดยืนอยู่หน้าบ่อน้ำพุร้อนตรงใจกลางหมู่บ้าน ซึ่งพอนึก ๆ ดูแล้วที่นี่นั้นมีบรรยากาศคล้ายคลึงกับประเทศบ้านเกิดของทั้งสองมาก ๆ ค่ะ
(ตอนแรก จินนึกว่าจะต้องมากับท่านทูตเอลซ่าสองต่อสอง คิริก้าจึงหันไปแซวจินว่า ดูท่าทางจะผิดหวังไม่น้อย ถ้ายังไงให้เธอกลับไปดีหรือเปล่า จินหันขวับ บอกว่าเขาไม่ใช่เป้าหมายของท่านทูตสักหน่อย คนที่ท่านทูตต้องการจะคุยธุระด้วยคือตัวคิริก้าเองตะหาก คิริก้าเห็นท่าทางขึงขังเอาจริงเอาจังของจิน จึงอดเอ่ยปากออกมาว่า จินยังหวั่นไหวไปกับเรื่องล้อเล่นนิดหน่อยไม่เปลี่ยนเลย ว่าแล้วทั้ง 2 คนก็เริ่มเถียงกันไปเถียงกันมา ไม่มีใครยอมใครเลยค่ะ)
- ขณะนั้นเอง "ท่านทูตเอลซ่า" เดินเข้ามาทักทายทั้ง 2 คนที่กำลังเถียงกันอยู่ ซึ่งเอลซ่าสังเกตเห็นว่า จินดูแปลก ๆ จึงถามขึ้นว่า
ท่านทูตเอลซ่า "ตายจริง คุณจิน ทำไมท่าทางดูลุกลี้ลุกลนชอบกล มีอะไรหรือเปล่า?"
จิน "เอ๊ะ อ้อ...... ท่านทูตรู้สึกไปเองมั้ง?"
คิริก้า "หึหึ ก็มาเที่ยวบ่อน้ำพุร้อนกับสาวสวยสองคน...... จะสงบจิตสงบใจได้ยังไงล่ะ"
จิน "เฮ้ ๆ คิริก้า......"
ท่านทูตเอลซ่า "หึหึ นั่นสินะ...... ฉันเอง ถ้าอายุน้อยกว่านี้สักหน่อย ก็คงไม่ปล่อยให้คุณจินหลุดมือไปเหมือนกัน"
- จินสะดุ้งโหยง เมื่อได้ยินคำพูดของท่านทูตที่ดูเหมือนสนใจในตัวเขา แต่น่าเสียดายที่เป็นเพียงเรื่องล้อเล่นของท่านทูตเท่านั้น ว่าแล้วท่านทูตเอลซ่า ก็เชิญให้ทั้ง 2 คนทานอาหารค่ำฝีมือคุณป้ามาโอะ นายหญิงของโรงเตี๊ยม ที่อุตส่าห์เข้าครัวด้วยตัวเอง ส่วนเรื่องที่จะคุยนั้น เธอบอกว่าเอาไว้คุยหลังอาหารค่ะ



- "อืมม์...... สรุปก็คือ จะมีการก่อตั้งสถาบันข่าวกรองขึ้นใหม่ที่สาธารณรัฐเหรอครับ" จินเอ่ยถามเอลซ่า หลังกินข้าวเย็นกันเสร็จเรียบร้อย
ท่านทูตเอลซ่า "อืม มีกำหนดการที่จะก่อตั้งขึ้นในเร็ว ๆ นี้ ซึ่งจะอยู่ภายใต้การบริหารของท่านประธานาธิบดีเอง ชื่อก็คือ [สถาบันร็อคสมิธ] 『ロックスミス機関』------ ขึ้นตรงกับประธานาธิบดีร็อคสมิธ ตามชื่อเลยน่ะ"
จิน "โฮ่...... ประธานาธิบดีมาเองเลย"
คิริก้า "......อย่างนี้นี่เอง สรุปก็คือ สภาผู้แทนฯ จะไม่มีอิทธิพลต่อการปฏิบัติงานของสถาบันสินะคะ"
ท่านทูตเอลซ่า "ถูกต้องตามนั้น...... เข้าใจได้รวดเร็วเรื่องก็ง่ายขึ้นเยอะเลยนะ ทั้งการที่ต้องยืดระยะเวลาลงมติ ทั้งการที่ไม่สามารถทำให้สถาบันเกิดประโยชน์ได้อย่างเต็มที่ พูดกันตรง ๆ เลยว่าเป็นอะไรที่ต้องแก้ไข...... การดำเนินงานของสถาบันซึ่งไม่มีคุณภาพทั้งยังไม่โปร่งใส เพราะพวกอภิสิทธิ์ชนบางกลุ่ม...... การตัดอำนาจจากสภาฯ ที่เป็นต้นเหตุของปัญหาเหล่านั้นออกไป คือจุดสำคัญที่สุดของสถาบันที่แท้จริง"
จิน "อืมม์...... เป็นเรื่องที่น่าสนใจมากเลยนะครับ ถ้าให้เทียบกับกรมข่าวกรองของกองทัพเอเรโบเนีย 『軍情報局』 หรือกับอดีตหน่วยข่าวกรองของลีเบร์ล 『旧情報部』 สถาบันที่เป็นอยู่ในตอนนี้เทียบไม่ติดเลยนะครับ"
ท่านทูตเอลซ่า "ใช่...... เป็นอย่างนั้นจริง ๆ สาธารณรัฐน่ะ ไม่ว่าจะเรื่องอะไร ๆ การออกกฎควบคุมดูแลก็ไม่ทันชาวบ้านชาวช่องเขา"
- ถึงแม้จะน่าตกใจ ที่ประธานาธิบดีจะลุกขึ้นมาบริหารด้วยตนเอง แต่เพราะตอนนี้เอเรโบเนียก็ยังไม่หยุดการขยายเขตแดน ทั้งยังปัญหาภายในประเทศ หรือแม้แต่ปัญหาผู้ก่อการร้าย โดยเฉพาะ [องค์กร] ที่ยังไม่รู้จุดประสงค์ที่แท้จริงว่า ต้องการอะไรกันแน่ การจัดตั้งสถาบันข่าวกรอง เพื่อสืบหาข้อมูลข่าวสารขึ้นมา ก็นับว่าเป็นเรื่องที่น่าเห็นด้วย
- และก่อนที่เรื่องที่เล่ามาจะเยิ่นเย้อมากไปกว่านี้ ท่านทูตเอลซ่าก็ขอตัดเข้าประเด็นหลักที่เชิญทั้ง 2 คน โดยเฉพาะคิริก้ามาที่บ่อน้ำพุร้อนแห่งนี้ ซึ่งเรื่องที่ว่านั้นก็คือ
คิริก้า "------ถ้างั้น ตำแหน่งที่ได้จัดเตรียมไว้ให้แล้วคือ?"
จิน "ห๊ะ!?"
ท่านทูตเอลซ่า "หึหึ...... คงต้องกล่าวว่า สมแล้วที่เป็นคุณสินะ สถาบันข่าวกรองซึ่งขึ้นตรงต่อประธานาธิบดี เป็นสถาบันที่จะเข้าไปจัดการการรวบรวมและวิเคราะห์ข่าวสารจากภายในและนอกประเทศแต่เพียงผู้เดียว------ ......ทางเราจึงอยากให้คุณเข้ามาเป็นสมาชิก ทำงานเพื่อสาธารณรัฐให้ได้ ในโอกาสนั้น จึงได้มีการวางตัวคุณให้มารับตำแหน่งในระดับผู้ช่วยมือขวา ......ซึ่งนี่เป็น ความประสงค์ของตัวท่านประธานาธิบดีเอง"
- คิริก้าครุ่นคิด ซ่อนความสับสนเอาไว้ภายใต้สีหน้าที่เรียบเฉยของเธอ
จิน "ยะ อย่างนั้นเองรึ...... แต่ว่าทำไมท่านทูต ถึงกับต้องมาพูดเรื่องนี้ด้วยตัวเองล่ะ?"
ท่านทูตเอลซ่า "หึหึ ตามปกติ เรื่องแบบนี้ถือเป็นงานของพวกแมวมองที่กระจายตัวอยู่ทั่วสารทิศอยู่หรอก...... แต่กับนายร็อคสมิธนั่น เป็นเพื่อนเล่นกับฉันมาตั้งแต่สมัยเด็ก ๆ แล้วล่ะ เพราะงั้นเรื่องของคุณคิริก้า จึงฝากฝังฉันมาเป็นการส่วนตัวน่ะ"
จิน "อย่างนี้นี่เอง......"
คิริก้า "......มีเหตุผลอะไรถึงเลือกฉัน?"
ท่านทูตเอลซ่า "แหม นี่ตั้งใจจะให้ฉันพูดเรื่องนั้นออกมาเองเลยเหรอ? แน่นอนอยู่แล้ว เพราะฝีมือซึ่งได้รับการสืบทอดวิชาลับจาก [สำนักไทโตะ] 『泰斗流』 มาทั้งหมดนั้น ก็เป็น 1 ในเหตุผลที่เลือก...... แล้วอีกอย่างก็คือ ความสามารถในการจัดการและวิเคราะห์ข้อมูลได้อย่างยอดเยี่ยม ที่เห็นได้จากการที่คุณไปเป็นประชาสัมพันธ์ของกิลด์ ซึ่งนั่นเป็นความสามารถที่จำเป็นที่สุด สำหรับสถาบันที่กำลังก่อตั้งขึ้นใหม่"
- คิริก้ายังคงครุ่นคิด หลังจากได้ฟังเหตุผลจากปากของท่านทูตเอลซ่า
จิน "ขะ เข้าใจเรื่องทั้งหมดแล้วล่ะ...... แต่ไม่คิดว่าท่านทูต จะกล้าดึงตัวคนของกิลด์ต่อหน้าต่อตาเบรเซอร์ตัวเป็น ๆ หยั่งกับมืออาชีพจริง ๆ เลยนะครับเนี่ย"
ท่านทูตเอลซ่า "หึหึ ถ้าเป็นคนระดับคุณแล้วล่ะก็ ฉันคิดว่าคุณคงจะไม่ยึดติดกับตำแหน่งหน้าที่ และจะเป็นสื่อกลางให้ได้นี่นา แล้วว่ายังไงล่ะ...... คุณคิริก้า ฉันอยากฟังความเห็นอย่างตรงไปตรงมาของคุณ?"
คิริก้า "นั่นสินะคะ...... เป็นเรื่องที่น่าสนใจอยู่ แต่คิดว่า......ฉันคงไม่มีเหตุผลที่จะรับข้อเสนอ"
ท่านทูตเอลซ่า "แต่ก็------ไม่มีเหตุผลที่จะไม่รับเหมือนกัน ใช่หรือเปล่า?"
- ท่านทูตเอลซ่าพูดสะกิดใจคิริก้าเต็ม ๆ
ท่านทูตเอลซ่า "หึหึ ดูเหมือนแม้แต่คุณเอง ก็ยังลังเลใจอยู่นิดหน่อยนะ เอาเถอะ ฉันจะให้คุณลองเก็บไปคิดสักคืนนึงก็แล้วกัน แล้วฉันก็จองห้องพักที่โรงเตี๊ยมนี้ไว้ เพื่อการนั้นแล้วด้วย"
- ท่านทูตเอลซ่าลุกขึ้น พร้อมกับบอกคิริก้าว่าจะขอฟังคำตอบในวันพรุ่งนี้ และคำตอบนั้น เธอก็อยากจะให้เป็นคำตอบที่ตัดสินใจมาอย่างถี่ถ้วนที่สุด และพูดทิ้งท้ายไว้ด้วยว่า "......ความสามารถของคุณนั้น ไม่ใช่ความสามารถที่กิลด์จะรับไว้ได้ทั้งหมดหรอกนะ"



- ที่ระเบียงทางเดินที่เชื่อมต่อไปยังบ่อน้ำพุร้อนภายในโรงเตี๊ยม คิริก้ายืนครุ่นคิดอยู่เพียงลำพัง เมื่อเห็นจินขึ้นจากบ่อ เธอก็เปลี่ยนสีหน้าท่าทางกลับมาเป็นเธอตามปกติ
คิริก้า "เร็วจัง อาบเสร็จแล้วเหรอ?"
จิน "เฮ้ย...... นี่นะเร็ว? ชั้นว่าเกือบจะชั่วโมงเต็ม ๆ ที่ลงไปแช่ตัวนะนั่น"
คิริก้า "เหรอ......"
จิน "อะไรกัน น่าแปลกใจจริง ๆ ที่ดูเหมือนว่าเธอกำลังหมกมุ่นคิดอะไรอยู่น่ะ"
- จินเดินเข้าไปใกล้คิริก้า ที่ยอมรับว่าเธอกำลังคิดอะไรอยู่จริง ๆ
จิน "อาจารย์ริวง่ะเสียไปได้ 6 ปีแล้วเหรอเนี่ย...... ได้ยินว่าเธอเดินทางมาเยอะแยะเลยนี่?"
คิริก้า "อืม ก็หลาย ๆ ที่แหล่ะ.... แต่การเดินทางที่ว่า ไม่ใช่สิ่งที่ดูดีขนาดนั้นหรอก เป็นแค่การล่องไปมาภายในทวีป จนถูกต้อนให้จนมุม...... ซึ่งเหมาะสมกับใบไม้ที่ร่วงหล่นที่ไหลลงสู่ลำธารไงล่ะ"
จิน "....................................... ......แล้วได้คำตอบเรื่องที่คุยกันก่อนหน้านี้แล้วหรือยัง?"
คิริก้า "หึหึ สิ่งที่เรียกว่าคำตอบ จนบัดนี้ก็ยังหาไม่เจอเลย แต่ถ้าจะให้พูด...... สิ่งที่ดูเหมือนกับข้อสรุปน่ะ อาจจะค้นพบแล้วก็ได้มั้ง"
จิน "ข้อสรุป......"
คิริก้า "นี่ จิน...... คิดว่าเพราะอะไร ฉันถึงไปเป็นประชาสัมพันธ์ของกิลด์ โดยไม่คิดที่จะทำงานที่ต้องใช้วิชาต่อสู้ซึ่ง ๆ หน้า?"
จิน "จริงด้วยแฮะ...... เพราะไม่อยากเดินบนเส้นทางเดียวกันกับพวกโง่เง่าอย่างชั้นกับวอลเตอร์ เพราะเหตุผลนั้นใช่มั้ยล่ะ?"
คิริก้า "หึหึ...... ฉันคงไม่ปฏิเสธเรื่องที่พวกเธอเป็นพวกโง่เง่าหรอกนะ"
- จินหงุดหงิด แต่ไม่ปรี๊ดเท่าไหร่
จิน "เฮ้! อย่างน้อยก็น่าจะปฏิเสธเรื่องนั้นสักหน่อยซี"
คิริก้า "....................................... ฉันน่ะนะ อยากจะพิสูจน์ให้แน่ใจมาตลอด พิสูจน์ถึงความหมายของกำปั้นช่วยชีวิต 『活人拳』 ตามที่พ่อได้สั่งสอนไว้ พิสูจน์ถึงแนวความคิดที่ยกระดับตนเองโดยผ่านการต่อสู้ แนวความคิดอันนั้น...... อาจจะอยู่ใกล้อุดมคติจริง ๆ ก็ได้มั้ง ......แต่ฉันกลับคิดว่า การต่อสู้ที่เป็นสมมติฐานนั่น มันจะยังไงก็ช่าง"
จิน "อืมม์......"
คิริก้า "ในฐานะผู้ใช้วรยุทธ์แล้ว ต้องเข้าใจถึงความหมายของการสิ้นอายุขัย และต้องเข้าใจได้ว่า แม้ความตายจะมาเยือนก็ต้องไม่โศกเศร้าเสียใจ จนถึงบัดนี้แม้แต่ฉันก็ไม่เคยเปลี่ยนแนวคิดนั้น แต่ว่า...... ในตอนที่พ่อจากไป วอลเตอร์ไม่อยู่ ฉันฉุกคิดในทันทีว่า เส้นทางของการช่วยชีวิตผู้คนโดยไม่ต้องต่อสู้...... ถึงจะต้องเจอเรื่องแบบนั้น มันก็ไม่ลำบากอะไรไม่ใช่เหรอ"
- จินประหลาดใจกับแนวคิดของคิริก้า ที่เธอได้พรั่งพรูออกมาด้วยสีหน้าที่เศร้าหมอง
คิริก้า "ฉันเดินทางไปทั่วทวีปเพื่อแสวงหาคำตอบนั้น แล้วเมื่อได้พบเจอการต่อสู้ การใช้ความรุนแรงมากมายในระหว่างการเดินทาง ทำให้ฉันตระหนักถึงความไร้ซึ่งพละกำลังของตนเอง ......ในตอนนั้นที่ที่ฉันวิ่งกระหืดกระหอบเข้าหา ก็คือกิลด์ในลีเบร์ลแห่งนี้ ซึ่งมีแนวความคิดที่จะเคลื่อนไหวเพื่อความปลอดภัยของประชาชนก่อนทุกครั้ง ไม่ว่าจะ ณ เวลาใดก็ตาม...... ทำให้ฉันรู้สึกว่า ถ้าได้ทำงานภายใต้แนวความคิดอันนั้น ก็คงจะค้นพบคำตอบได้เอง แต่...... สุดท้ายฉันก็ไม่สามารถหลีกหนีการต่อสู้ได้เลย"
จิน "....................................... [ในเมื่อมนุษย์ยังคงเป็นมนุษย์ สงครามก็จะติดตามไปทุกหนแห่ง แต่เมื่อต้องต่อสู้แล้ว จะระงับการต่อสู้นั้นได้เช่นไร------ ในการเพ่งมอง [ความเป็นจริง] อันนั้น จะเรียงร้อย [อุดมคติ] ออกมาเป็นถ้อยคำ] ......นั่นเป็นคำกล่าวของอาจารย์ใช่มั้ย"
คิริก้า "ใช่...... และถ้าจะให้มองจากความคิดอันนั้น...... ......ฉันก็ขอเลือกที่จะเบือนหน้าหนีไปจากความเป็นจริง"
จิน "เฮ้...... แต่ถึงหยั่งงั้น สิ่งที่ไม่ได้เป็นแบบนั้นนั่น เธอก็คงเข้าใจอยู่แล้วใช่มั้ย เพราะ [ความเป็นจริง] ที่อาจารย์กล่าว ก็ไม่ใช่ว่าจะบ่งชี้ไปที่การต่อสู้แค่อย่างเดียวสักหน่อย"
คิริก้า "......ไม่หรอก เรื่องนั้นกับเรื่องนี้มันคนละปัญหากัน หลายปีมานี่...... ฉันไม่ได้คิดที่จะเดินไปด้วยขาของตัวเองเลย ทั้ง ๆ ที่แก้ตัวว่า จะลองค้นหาเส้นทางเส้นทางของการช่วยชีวิตผู้คนอีกครั้ง...... แต่ฉันก็ละทิ้งมัน ......แล้วไปตอบรับคำเชิญชวนให้เข้าไปซุกตัวในสถานที่ ที่อยู่อย่างสุขสบายแบบกิลด์แบบนั้นน่ะ"
- จินฟังคิริก้าอย่างเงียบ ๆ สีหน้าของเขาเต็มไปด้วยความเจ็บปวดเมื่อได้ยินสิ่งที่คิริก้าค่อย ๆ ระบายออกมาให้เขารู้
คิริก้า "ในความหมายนั้นฉัน...... อาจจะเป็นศิษย์คนแรกในบรรดาลูกศิษย์ของพ่อที่สอบตกก็ได้นะ จะถูกต้องหรือผิดยังไงค่อยว่ากันทีหลัง...... แต่ทั้งเธอและวอลเตอร์ ก็ได้เลือกและก้าวเดินไปในเส้นทางของตัวเอง เผชิญหน้าตรง ๆ กับกำปั้นช่วยชีวิตที่พ่อสอนจนค้นพบคำตอบของตัวเอง แล้วก็ยังเผชิญหน้ากับ [ความเป็นจริง] ที่เรียกกันว่าโลกด้วยวิธีการอันหลากหลาย...... สุดท้ายแล้ว...... มีเพียงฉันเท่านั้นที่ไม่ได้เดินไปบนเส้นทางไหนเลย"
- จินนิ่งไปครู่นึง ก่อนที่จะพูดขึ้นมาอย่างมั่นใจว่า
จิน "ไม่หรอก......เธอได้เดินไปแล้วล่ะ"
คิริก้า "! เอ๋?"
จิน "เพียงแต่...... เป็นเส้นทางเพื่อผู้อื่นยังไงล่ะ เธอที่อยู่ที่กิลด์ เหยียบย่างลงบนเส้นทางที่ให้ผู้อื่นก้าวไป แล้วเดินไปอย่างมุ่งมั่น ซึ่งชั้นก็คิดว่านั่นแหล่ะ...... คือเส้นทางของการช่วยชีวิตผู้คนอย่างแท้จริง"
คิริก้า "....................................... หึหึ...... อย่าบอกนะว่าคิดที่จะปลอบใจฉันด้วยคำพูดแบบนั้น?"
จิน "อึก...... โทษทีนะที่พูดไม่เก่งน่ะ หย่ะ ยังไงก็ตาม มันก็เป็นสิ่งที่ชั้นอยากจะพูด...... เพราะเธอน่ะเข้มแข็งเกินไป เพราะจริงจังมากเกินไป จึงเห็นความเข้มแข็งกับความจริงจังนั้นผูกมัดตัวเธอเอาไว้"
คิริก้า "อะ......"
จิน "เพราะงั้น......คิริก้า ปลดสิ่งที่อยู่บนบ่าออกไปบ้างเถอะนะ ปลดลงไป...... แค่นิดเดียวก็ยังดี ถ้าทำได้ล่ะก็ ถ้าเป็นเธอต้องมองเห็นสิ่งต่าง ๆ ขึ้นมามากมายแน่ ๆ"
- คิริก้ารับฟังสิ่งที่จินพูด พร้อมกับทอดสายตามองออกไปไกล
คิริก้า ".........นี่ จิน"
จิน "หืม มีอะไร?"
คิริก้า "ถ้าฉันกลับประเทศไปจะดีใจมั้ย?"
- รอยยิ้มปรากฏขึ้นบนใบหน้าอันงดงามของคิริก้า จินเลิกลั่กทำอะไรไม่ถูก
จิน "อะ อะไรกัน จู่ ๆ ก็"
คิริก้า "เอาเถอะน่าตอบมา"
จิน "อะ อืม...... เรื่องนั้น มันก็ต้องดีใจอยู่แล้วสิ"
คิริก้า "......................................."
จิน "ละ แล้วทำไมเรอะ?"
คิริก้า "ไม่มีอะไร...... คำเชิญของประธานาธิบดี ฉันจะตกลงรับเอาไว้นะ"
จิน "! ฮะ เฮ้!? อย่าบอกนะว่า......"
คิริก้า "อย่าเข้าใจผิด ฉันแค่อยากจะจบการเดินทางลงเท่านั้นหรอก แล้วก็อยากจะไปยังที่ที่สามารถใช้ความสามารถของตัวเองให้มีประโยชน์มากกว่านี้......"



- เช้าวันต่อมา หน้าโรงเตี๊ยมโมมิจิ "ท่านทูตเอลซ่า" ที่หลับเต็มอิ่ม (หลังจากที่ไม่ได้หลับแบบนี้มานาน) รู้สึกดีใจและยินดีเป็นอย่างยิ่ง เมื่อได้ยินคำตอบของคิริก้า ที่ตกลงรับคำเชิญชวน แต่คิริก้า ขอยื่นเงื่อนไข 1 ข้อ ซึ่งก็คือ
คิริก้า "ฉันอยากทำงานให้กับสถาบัน โดยยึดเอาความเชื่อของตัวเองเป็นหลักจนถึงที่สุดค่ะ ถ้าสมมติเกิดความรู้สึกสงสัยในการปฏิบัติงานของสถาบันแม้แต่เพียงนิดเดียว...... ฉันจะขอแก้ไขสถาบันที่เป็นอยู่นั้นให้ถูกต้องโดยไม่เกรงใจ ถ้าเห็นชอบ ช่วยกรุณาบอกท่านประธานาธิบดีด้วยนะคะ"
- ท่านทูตเอลซ่าเห็นด้วย และคิดว่าประธานาธิบดีก็คงจะเห็นด้วยเช่นเดียวกันค่ะ ส่วนกำหนดการกลับประเทศของคิริก้านั้น จะเป็นในอีก 2 - 3 เดือนให้หลัง เพราะมีงานที่ต้องสะสางให้เรียบร้อยเหลืออยู่ ซึ่งเอลซ่าก็ไม่ขัดข้องเช่นเดียวกัน และเฝ้ารอที่จะพบกับคิริก้าที่คาลวาร์ดค่ะ
- ที่หน้าหมู่บ้าน จินหยุดครุ่นคิดถึงเรื่องที่คิริก้าบอกว่าจะกลับประเทศในอีก 2 - 3 เดือนให้หลัง ทำให้เขาตัดสินใจว่าจะยังไม่กลับประเทศในตอนนี้ แต่จะขออยู่ที่ลีเบร์ลต่อไปอีกสักพัก คิริก้ารู้ทัน ก็เลยสั่ง (บังคับ) ให้จินรีบ ๆ กลับไป ไม่ต้องคิดที่จะกลับไปพร้อม ๆ กันกับเธอ ทำเอาจินบนอุบถึงความเย็นชาของคิริก้า ซึ่งคิริก้าก็บอกว่าแบบนี้ก็ดีแล้ว เพราะถ้ามีสิ่ง ๆ หนึ่งที่ไม่ว่าเราจะไม่ชอบยังไง ก็ต้องเผชิญหน้ากับสิ่งนั้นอยู่ดี ซึ่งจินก็ตอบรับเบา ๆ คิริก้าเห็นจินมัวแต่เหม่อ จึงรีบบอกให้รีบ ๆ ไปกันได้แล้วค่ะ

Episode [ตอนจบของการเดินทาง] ~Fin~

☆ได้รับ "หยินหยาง" และ "4000 มิร่า" ค่ะ☆



Related entries:
Sora no Kiseki the3rd (空の軌跡the3rd)


No comments:

Post a Comment