Tuesday, November 14, 2017

[บทสรุป] Sora no Kiseki the3rd - Last Episode สถานที่ที่สักวันจะไปถึง

最終話 いつか、辿り着く場所
ฉากสุดท้าย สถานที่ที่สักวันจะไปถึง
Walkthrough Chart
สวนแห่งนักพรต 『隠者の庭園』
- "------เหตุการณ์คร่าว ๆ ก็มีเท่านี้แหล่ะครับ" เควินเล่าเรื่องราวความเป็นไปทั้งหมดให้กับเหล่าพวกพ้องฟัง
เควิน "ถ้าพูดให้ชัด ๆ ก็คือ...... ต้นเหตุทั้งหมดมาจากชั้น ทุกคนแค่มาติดร่างแหไปด้วยเท่านั้นเอง ......ขอโทษนะ ชั้นไม่สมควรที่จะได้รับการให้อภัยจริง ๆ"
เอสเทล "อะ เอ่อ...... บอกตรง ๆ เลยนะ ว่าชั้นไม่ค่อยเข้าใจว่าทำไมคุณเควินต้องมาขอโทษขอโพยเพราะรู้สึกผิดขนาดนั้นด้วย......"
เควิน "เอ๋......"
มิวเลอร์ "เท่าที่ฟังดู มันก็เป็นเรื่องที่หลีกเลี่ยงไม่ได้อยู่แล้วที่ [อาณาจักรแห่งเงา] ซึ่งสูญเสีย [วงแหวนไป] จะต้องการ [นาย] คนใหม่...... ดังนั้น ไม่ว่าจะมีเธอหรือไม่ เหตุการณ์คล้าย ๆ กันแบบนี้ก็ต้องเกิดขึ้นอยู่ดี"
โอลิเวียร์ "หึ แม่นแล้ว ต่อให้คนโดนเลือกเป็นคนอื่นก็เถอะ ยังไง [อาณาจักรแห่งเงา] ก็สะท้อนความเจ็บปวดภายในจิตใจของคนคนนั้นออกมาอยู่ดี"
มิวเลอร์ "......แค่คิดว่านายโดนเลือกก็รู้สึกขยะแขยงขึ้นมาทันที เคราะห์ดีที่ไม่ใช่แบบนั้น"
โอลิเวียร์ "เสียมารยาทจัง...... เชื่อใจกันบ้างสิ ถ้าผมโดน มันก็แค่กลายเป็นโลกที่ทำให้ทุกคนที่อยู่ที่นี่ได้ร่วมปาร์ตี้ดื่มเหล้าเคล้านารีเท่านั้นเอง"
- ทุกคนเหงื่อตกไปตาม ๆ กัน นึกภาพไม่ออกเลยว่าถ้าคนที่โดนเลือกเป็นตาติงต๊องหลงตัวเองอย่างโอลิเวียร์ จะพบกับชะตากรรมแบบไหน แต่เพราะมุกตลกแบบนี้ก็ทำให้บรรยากาศอึมครึมเมื่อสักครู่หายไปทันที
- "ไม่ได้จะแก้ตัวแทนพี่ชายหรอกนะ...... แต่ถ้ามองในอีกแง่นึง อาจจะเป็นโชคดีก็ได้ที่คนที่ [อาณาจักรแห่งเงา] เลือกมาคือพี่ชาย" เร็นพูดขึ้น
เร็น "[ตราบาป] 『聖痕』 ของพี่ชายมีอำนาจมากทีเดียวเชียวแหล่ะ อย่างน้อย [อาณาจักรแห่งเงา] ก็ยังคงความเป็นระเบียบเรียบร้อยเอาไว้ได้ แต่ถ้าเป็นความเจ็บปวดของคนอื่นแล้วล่ะก็ จะคงความเป็นระเบียบเรียบร้อยนั้นเอาไว้ได้หรือเปล่านะ?"
- เควินฉุกคิด
โยชัวร์ "หมายความว่า มีความเป็นไปได้ที่ [อาณาจักรแห่งเงา] จะทำตามอำเภอใจโดยไม่จัดการกับความสับสนวุ่นวายที่เกิดขึ้น...... อย่างนั้นสินะ"
เร็น "อุหึหึ สมแล้ว เข้าใจเรื่องราวได้รวดเร็วดีจัง ในกรณีนั้น ก็มีความเป็นไปได้ที่คนจำนวนมากมายกว่านี้ จะถูกดึงเข้ามาติดร่างแหไปด้วย แต่เอ๊ะ ถ้าเป็นแบบนั้นดูท่าทางจะเป็นงานเลี้ยงน้ำชาที่สนุกสนานน่าดูชม♪"
- ทุกคนรู้สึกเห็นด้วยกับเร็น (เฉพาะเรื่องที่วิเคราะห์ สำหรับเรื่องงานเลี้ยงน้ำชาเนี่ยขอผ่าน) พร้อมทั้งบอกให้เควินอย่าคิดมาก ไม่แน่ว่าการที่ทุกคนได้มาอยู่ที่นี่อาจจะเป็นชะตากรรมร่วมกัน และไม่ว่ายังไงหากพรรคพวกลำบาก ทุกคนก็ยินดีจะช่วยอยู่แล้วค่ะ
เควิน "ฮะฮะ...... บ้าจริง...... พวกเธอเนี่ย โง่สุด ๆ จริง ๆ นะ มองโลกในแง่ดีเกินไปทุกคนเลย...... ทั้ง ๆ ที่ชั้นกะว่าจะหลอกใช้ตั้งแต่ต้นยันจบเลยแท้ ๆ ...... ............ทำไมถึงได้..............."
- ความรู้สึกซาบซึ้งและรู้สึกผิดเอ่อล้นในใจเควิน และด้วยกำลังใจจากเพื่อนพ้อง โดยเฉพาะเอสเทล ทำให้เควินยอมแพ้ในความมุ่งมั่นของพวกพ้อง และยินดียอมรับความช่วยเหลือจากทุกคนค่ะ
- เควินฝากเนื้อฝากตัวอีกครั้ง คราวนี้เขาจริงใจและจริงจังอย่างที่พูดจริง ๆ ซึ่งเป้าหมายสำคัญที่จะต้องทำในตอนนี้ก็คือ การหยุดยั้ง [จ้าวแห่งเงา] หรือรูฟีน่า อาร์เจนต์นั่นเองค่ะ แต่ปัญหาก็คือ เราไม่รู้ว่าตอนนี้เธออยู่ที่ไหน เพราะตอนที่ตกลงไปใน [แดนชำระ] ก็สัมผัสกลิ่นอายไม่ได้เลย ซึ่งถ้าเธออยู่ที่นั่นจริง ก็น่าจะปรากฎตัวออกมาให้เห็นแล้ว แถมตอนนี้ [แดนชำระ] ก็หายไปแล้วด้วย
"------ความสงสัยนั้น
คิดว่าข้าพเจ้าน่าจะตอบได้ค่ะ"
- "เซเลสต์" 『セレスト』 ปรากฎตัว พร้อมกับบอกว่าเธอรู้แล้วว่า [จ้าวแห่งเงา] อยู่ที่ไหน
เซเลสต์ "ในช่วงที่สำรวจ [ชั้นดาราที่ 7] ทำให้เข้าใจในทุกส่วนของ [อาณาจักรแห่งเงา] ณ ตอนนี้ได้คร่าว ๆ รู้สึกว่าตอนนี้ [จ้าวแห่งเงา] จะอยู่ข้างนอก [ชั้นดารา] ค่ะ"
รีส "ข้างนอก [ชั้นดารา]......"
ทีต้า "มะ มันเป็นสถานที่แบบไหนเหรอคะ......"
เซเลสต์ "[ชั้นดารา] คือ โครงสร้างจำนวนหลายชั้นที่ [จ้าวแห่งเงา] สร้างขึ้น โดยมี [อาณาจักรแห่งเงา] เป็นศูนย์กลาง ซึ่ง [อาณาจักรแห่งเงา] ยังเชื่อมต่อไปยังข้างนอกของโครงสร้างที่ว่ามานั้นด้วย ทว่า ณ ตอนนี้กลับถูกปล่อยทิ้งไว้ ราวกับทุ่งหญ้าอันรกร้างว่างเปล่า......"
เชราซาร์ด "ทุ่งหญ้างอันรกร้างว่างเปล่า......"
อากัต "เฮ้อ...... ฟังดูคลุมเครือยังไงไม่รู้แฮะ ชัด ๆ เลยก็คือรู้แล้วว่าอยู่ที่ไหนใช่มั้ย?"
เซเลสต์ "ไม่ใช่ค่ะ รู้แค่สถานที่คร่าว ๆ เพียงแต่ปัญหาก็คือ ทุ่งหญ้ารกร้างนั่น...... กว้างใหญ่จนไม่รู้จะทำเช่นไรค่ะ เกรงว่า...... น่าจะกว้างพอ ๆ กับทวีปเลยกระมัง"
- ทุกคนตกใจไปตาม ๆ กัน เพราะถ้าจะเดินทางไป คงจะกินเวลาเป็นเดือน ๆ ไหนจะเรื่องของเสบียงอาหารอีก แถมถ้าจะใช้พลังของเซเลสต์ส่งทุกคนไป โดยยึด [แผ่นหิน] ให้เป็นเสมือนศูนย์กลาง เมื่อวัดจากระยะทางก็ดูท่าจะไม่ไหวเหมือนกัน ในขณะที่ทุกคนกำลังครุ่นคิดกันว่าจะทำยังไงดีนั้น ทีต้าก็เสนอความคิดเห็นให้ลองใช้ [อัลเซยู] ลำปลอมที่อยู่ [ชั้นดาราที่ 1] ดูค่ะ
ทีต้า "เอ ก็ [อาณาจักรแห่งเงา] เนี่ย จะสะท้อนความต้องการของมนุษย์ออกมาใช่มั้ยคะ? ถึง [อัลเซยู] ลำนั้นจะเป็นของปลอมก็ตามที...... แต่ทั้งรูปร่างและโครงสร้างต่างก็เป็นเรือที่ทุกคนรู้จักกันเป็นอย่างดี ถ้าแค่นึกภาพเอาก็น่าจะพอได้อยู่นะคะ ถ้าทุกคนช่วยกันภาวนาแล้วล่ะก็ น่าจะทำให้มันเคลื่อนที่ได้ อะไรแบบนี้........"
- เมื่อเห็นทุกคนนิ่งไป ทีต้าก็ลนลานพลางคิดว่าแผนของเธอคงใช่ไม่ได้แหง ๆ แต่ผิดคาดที่ทุกคนกลับเห็นด้วยว่ามันน่าจะทำได้ค่ะ
เควิน "ตราบใดที่ภาพที่นึกถึงเป็นสิ่งที่แน่นอนชัดเจนแล้วล่ะก็ ก็น่าจะทำให้ปรากฎขึ้นมาใหม่ได้สบาย ๆ ที่ [อาณาจักรแห่งเงา] แห่งนี้ ไม่จำเป็นต้องรู้ลึกรู้จริงขนาดคุณยูเลีย แล้วทีต้าจังเองก็รู้จักโครงสร้างอย่างละเอียดด้วย......"
- จากการสอบถามเซเลสต์ เธอก็คิดว่าน่าจะเป็นไปได้ ถ้าให้ทุกคนนึกภาพในตอนที่เคยขึ้น [อัลเซยู] ตอนเหตุการณ์ [ลีเบล=อาร์ค] ขึ้นมาอีกครั้ง ทำให้ทุกคนดีใจที่สามารถหาทางออกได้สักทีค่ะ ซึ่งตรงนี้ โจเซ็ต นึกว่าจะทำแบบนั้นกับ [แมวป่า] ได้เหมือนกัน แต่น่าเสียดายที่คนที่รู้รายละเอียดของ [แมวป่า] ในที่นี้ มีแค่โยชัวร์กับโจเซ็ต ส่วนคนที่เคยขึ้นไปแบบผ่าน ๆ ก็มีแค่เอสเทล เจ๊เชร่า แล้วก็โอลิเวียร์เท่านั้น (ภาค FC) จึงเป็นการยากที่จะรวมพลังกันภาวนาให้มันขยับได้ค่ะ
- ดังนั้น [ปีกสีขาว] (อัลเซยู) จึงเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด แต่เซเลสต์ก็กังวลอยู่เรื่องนึงว่า ถ้า [ปีกสีขาว] บินไปจนถึงที่ที่ [จ้าวแห่งเงา] อยู่ ก็จะกลับมายัง [สวน] แห่งนี้ไม่ได้อีกแล้ว เพราะความสามารถในการวาร์ปของ [ศิลาจตุรัส] จะไม่สามารถใช้งานได้เมื่อออกห่างจาก [สวน] ค่ะ
- เมื่อตัดสินใจที่จะก้าวต่อไปแล้ว ก็ไปต่อกันได้เลยค่ะ
- จัดกลุ่มที่จะใช้ต่อสู้ได้อย่างอิสระค่ะ (อย่าลืมเซ็ต "Support Member" ด้วยนะคะ)
☆อย่าลืมไปสำรวจที่ชั้นหนังสือตรงมหาพฤกษา จะพบ "ลีเบร์ลสาร ฉบับปลายปีที่ 02 - ฉบับต้นปีที่ 03" ที่ตีพิมพ์ในภาค SC บนชั้น ในกรณีที่สะสมหนังสือได้ครบทุกเล่ม จะได้รับ "รัดเกล้าหยก" 『翡翠の頭環』 มาด้วยค่ะ
★หากไปคุยกับ "รีส" ตรงหน้ามหาพฤกษา เธอจะบอกว่า เพื่อท่านพี่แล้ว จะต้องปราบ [จ้าวแห่งเงา] ให้ได้ด้วยมือของพวกเรา เควินก็ยิ้มรับ แล้วก็สังเกตเห็นว่ารีสกำลังทำอะไรอยู่ รีสรีบบอกว่าได้รับหน้าที่ที่สำคัญยิ่งในการปกป้องเสบียงอาหารในแนวหน้า พร้อมทั้งขู่ว่าถ้าหัวเราะเยาะล่ะก็จะต่อยด้วยล่ะค่ะ
(เฉพาะกรณีที่มี "เควิน" ร่วมกลุ่มต่อสู้)
★หากไปคุยกับ "โยชัวร์" ตรงมหาพฤกษา เควินจะสารภาพว่าเขาอิจฉาโยชัวร์มาก "ตามหลักแล้วชั้นกับเธอ...... ต่างก็เคยเดินบนเส้นทางที่เหมือน ๆ กัน แต่ดันมีแค่เธอคนเดียวที่สามารถกลับไปยังสถานที่ที่ดวงอาทิตย์ส่องถึง...... เมื่อครึ่งปีก่อนชั้นเอาแต่คิดว่าโชคดีจังนะ...... แต่พอมาตอนนี้ก็ไม่รู้ว่าเพราะอะไรที่ทำให้รู้สึกอิจฉาขึ้นมาถึงขนาดนี้" โยชัวร์ยิ้มเขิน ๆ พร้อมกับบอกว่า "......น่าจะเป็นเพราะคุณเควินรู้สึก [ไม่ยอมแพ้] ขึ้นมาล่ะมั้งครับ" เควินก็บอกว่าน่าจะอย่างนั้นแหล่ะ ว่าแล้วสองหนุ่มก็แซวกันไปแซวกันมาอย่างมีความสุข และโยชัวร์ก็ขอให้เควินเชื่อมั่นในตนเอง ออกไปจากโลกแห่งนี้ไปพร้อมกับทุกคนค่ะ
(เฉพาะกรณีที่มี "เควิน" ร่วมกลุ่มต่อสู้)
★หากคุยกับ "เร็น" ที่หน้ามหาพฤกษา เร็นจะบอกรีสว่าอย่าแอบฉกอาหารไปกินสิ รีสรีบแก้ตัวบอกว่าไม่ได้ฉก แค่ชิมเฉย ๆ ค่ะ
★หากคุยกับ "ทีต้า" ที่หน้ามหาพฤกษา เธอจะบอกว่าแม่ของเธอเพิ่งจะทำการปรับปรุงอัลเซยูไปเมื่อเดือนที่แล้ว ทำให้บินเร็วขึ้นเยอะเลยค่ะ
(ในกรณีที่มี "เอสเทล" หรือ "โยชัวร์" ร่วมกลุ่มมาด้วย ทีต้าจะบอกว่าคุณพ่อกับคุณแม่อยากจะเจอพวกพี่มากเลย ถ้ากลับไปแล้วจะขอพาไปแนะนำให้รู้จักด้วยค่ะ)
★หากไปคุยกับ "อากัต" ตรงส่วนปลายของมหาพฤกษา เพื่อน ๆ จะถามอากัตปกติจะเห็นตัวติดกันกับทีต้าเป็นตังเม แต่ทำไมวันนี้ถึงได้แยกกันได้ซะล่ะ ว่าแล้วอากัตก็โดนแซวไปหนึ่งจึก
และถ้าหากคุยกับ "อากัต" อีกครั้ง เขาจะบอกว่าก็เพราะทีต้าไม่ใช่เด็กอมมือแล้ว เอสเทลหรือรีสได้ยิน ก็หรี่ตามองด้วยความสงสัย อากัตรีบแก้ตัวเป็นพัลวันว่าไม่ใช่เรื่องอย่างที่กำลังคิด
(เฉพาะกรณีที่ไม่ได้นำ "ทีต้า" ร่วมกลุ่ม และมี "รีส" หรือ "เอสเทล" ร่วมกลุ่มมาด้วยอย่างน้อย 1 คน)
★หากไปคุยกับ "โอลิเวียร์" ที่ตรงลานที่ยื่นออกไปตรงหน้าน้ำพุ เขาจะบอกว่าไม่อยากกลับไปโลกที่ตัวเองต้องทำแต่งานทุกวันเลย
ถ้าคุยอีกครั้ง "โอลิเวียร์" บอกว่าไหน ๆ ก็ไหน ๆ จะลองจีบท่านบรรพบุรุษคนนั้น (เซเลสต์) ดูดีมั้ยนะด้วยค่ะ
★หากไปคุยกับ "เจ๊เชร่า" ตรงหน้าน้ำพุ เพื่อน ๆ จะทักว่าเจ๊ลืมไพ่ทาโร่ต์ไว้บนโต๊ะ แต่เจ๊บอกว่านาน ๆ ทีไพ่ดี ๆ จะโผล่มา ก็เลยวางทิ้งไว้อย่างนั้นเป็นที่ระลึกค่ะ
★หากคุยกับ "เซเลสต์" ตรงหน้า [แผ่นหิน] เธอจะบอกว่า [ชั้นดาราที่ 7] ที่พวกเควินตกลงไปนั้น ได้กลายเป็นดินแดนที่มี [มารร้าย] เพ่นพ่านเต็มไปหมดค่ะ
☆ว่าด้วย [ห้วงลึก] (深淵)☆
- หลังจากคุยกับเซเลสต์ เราจะสามารถไปยัง [ห้วงลึก] ได้ โดยการเข้าเมนู [ศิลาจตุรัส] ซึ่งจะมี [ชั้นดาราที่ 7] 『第七星層』 เพิ่มเข้ามาค่ะ

- [ห้วงลึก] นอกจากจะมีมารร้ายเพ่นพ่านให้เราสลับสับเปลี่ยนเพื่อนที่ใช้ต่อสู้มาเก็บค่าประสบการณ์ได้แล้วนั้น ยังมีแรร์ไอเทมสำหรับตีอาวุธสุดยอด และบอสลับที่ทุกคนรู้จักกันดีอีกด้วย

- ดังนั้น ก่อนไปยังข้างนอก [ชั้นดารา] แนะนำให้แวะไปเก็บเลเวลกับไอเทมหายากที่ [ห้วงลึก] กันก่อนนะคะ

Note: [ห้วงลึก] แบ่งโครงสร้างออกเป็นทั้งหมด 4 ชั้น โดยใน 1 ชั้นต้องวนลงไปเรื่อย ๆ รวม 5 ชั้นย่อย ซึ่งจะมีรองบอสประจำอยู่ในแต่ละชั้น เมื่อปราบรองบอสครบทั้ง 3 ชั้นตามเงื่อนไข จะได้เจอกับบอสลับในชั้นที่ 4 ชั้นสุดท้ายของ [ห้วงลึก] ค่ะ
ซึ่งเงื่อนไขและข้อมูลต่าง ๆ นั้น สามารถไปดูได้ที่หน้า Shining Pom นะคะ

ห้วงลึก 1 『深淵・1』
- เมื่อวาร์ปมายัง [ห้วงลึก] อย่าลืมสำรวจ [แผ่นหิน] เพื่อจับจ่ายซื้อของและผสมควอทซ์ให้พร้อมค่ะ
☆ไอเทมที่พบในห้วงลึก 1 "ยาแห่งอาเซราส", "5000 มิร่า", "ไทเกอร์ฮาร์ท" และ "ยาแห่งเทียร์ ออล" ค่ะ☆
- ลูคิฟกุส -
- 『ルキフグス』 -
**แนะนำ ให้ใส่เครื่องประดับป้องกัน "หมดสติ" และ "พิษ" ไว้จะง่ายขึ้นค่ะ**
▼ลูคิฟกุส 『ルキフグス』
HP 32957 / ดิน100, น้ำ100, ไฟ100, ลม100, เวลา100, อากาศ100, มายา120
อบิส ฟอล = อาณาเขตกว้าง ※ยกเลิกไม่ได้
ไวท์เกเฮนน่า = อาณาเขตปานกลาง ทำให้ติด "หมดสติ" ※ยกเลิกไม่ได้
ไกอาชิลด์ = ป้องกันการโจมตีทุกประเภท 1 ครั้ง

- แนะนำ ให้ใช้ "คล็อกอัฟ รุ่นปรับปรุง" ใส่ฝ่ายเรา และใช้อาร์ท "คล็อกดาวน์" ใส่ศัตรู จะง่ายขึ้นค่ะ
- ศัตรูแพ้อาร์ทคุณสมบัติ "มายา" เพราะงั้นถ้ามีอาร์ทอย่าง "ซิลเวอร์ธอร์น" (อาณาเขตปานกลาง) สลับกับการใช้ S-craft และ Chain Craft ไปด้วยจะทำให้การต่อสู้ง่ายขึ้นค่ะ
- เมื่อเห็นลูคิฟกุสร่ายอาร์ท ถ้าเทิร์นทันให้รีบเดินออกมา เนื่องจากว่าเราไม่สามารถสกัดกั้นการร่ายอาร์ทได้ค่ะ

▽บลัดชูตเตอร์ 『ブラッドシューター*4』
HP 16660 / ดิน100, น้ำ100, ไฟ100, ลม100, เวลา100, อากาศ100, มายา120

- บลัดชูตเตอร์ จะกลายร่างเป็นเกริวออนเมื่อ HP หมดค่ะ

▽เกริวออน 『ゲリュオーン』
HP 28000 / ดิน100, น้ำ100, ไฟ100, ลม100, เวลา100, อากาศ100, มายา120
พอยซั่น เบรธ = อาณาเขตแคบ+ทำให้ติด "พิษ"
- ปราบได้ จะได้รับ "เซมเรียสโตน" ก้อนที่ 1
- อย่าลืมสำรวจบ่อน้ำพุด้านใน เลือก "ดื่มน้ำจากบ่อน้ำพุ" 『泉の水を飲む』 เพื่อฟื้นฟู HP&EP ด้วยนะคะ
☆ว่าด้วย [เซมเรียสโตน] (セムリアストーン)☆
- "เซมเรียสโตน" หินแร่ซึ่งส่องประกายราวกับหมู่ดาวนับร้อยนับพันบนท้องฟ้า เป็นแรร์ไอเทมสำหรับตีอาวุธสุดยอดเหมือนในภาคก่อน ๆ ค่ะ

- เมื่อไปคุยกับ "เซเลสต์" ที่ "สวนแห่งนักพรต" เธอจะใช้พลังของ [สวน] เปลี่ยนให้หินก้อนเล็ก ๆ แต่แข็งแกร่งก้อนนี้ ตีเป็นอาวุธสุดยอดให้ค่ะ

- ชื่อของอาวุธสุดยอดของแต่ละคน ดูได้ตามด้านล่างนี้เลยนะคะ

ธนูอัตโนมัติ : เซเว่นท์ ช็อต 『セブンスショット』
ดาบธรรมะ : โฟตอน โครม 『フォトンクローム』
พลอง : สเฟียร์ โซเรยู 『スフィアソレイユ』
ดาบคู่ : โคอุนริวซุย (เคลื่อนคล้อยตามกาล) 『双剣「行雲流水」』
แส้ : อาร์ก ออง เชียล 『アルカンシェル』
ปืนออร์บเมนท์ : มาสเคอเรด อาย 『マスカレイドアイ』
ดาบเรียว : ดีไวน์ โนว่า 『デヴァインノヴァ』
ดาบใหญ่ : ไดนา ฟอสซิล 『ダイナフォッシル』
ปืนใหญ่ออร์บเมนท์ : เมลตี้ บัสเตอร์ 『メルティバスター』
ปลอกแขน : เทตระ มอนสเตอร์ 『テトラモンスター』
ดาบ : โฮคิโบชิ (ดาวหาง) 『ホウキボシ』
เคียว : เนเมซิส ริป 『ネメシスリップ』

Note: ในการเล่น 1 รอบ จะได้รับทั้งหมด 4 ก้อน และสามารถดึงไปใช้ในการเล่นรอบต่อไปได้ สำหรับรายละเอียดนั้น ให้ดูเพิ่มเติมหน้า System Guide นะคะ

ห้วงลึก 2 『深淵・2』
☆ไอเทมที่พบในห้วงลึก 2 "ยาแห่งคิวเรีย", "อสูร (ชูร่า)" (ควอทซ์), "EPชาร์จIII" และ "เซพิธทุกคุณสมบัติx500" ค่ะ☆
- เบลเซเบิล -
- 『ベイルゼブル』 -
**แนะนำ ให้ใส่เครื่องประดับป้องกัน "ตายคาที่", "ผนึกทักษะ" และ "ผนึกมาร" ไว้จะง่ายขึ้นค่ะ**
▼เบลเซเบิล 『ベイルゼブル』
HP 65176 / ดิน100, น้ำ100, ไฟ100, ลม100, เวลา100, อากาศ120, มายา100
เวลามาถึงแล้ว→การล่มสลายครั้งยิ่งใหญ่ = ทั่วฉาก+ระเบิดตัวเอง ※ยกเลิกไม่ได้
ห่าฝูงอันชั่วร้าย = โจมตี+ทำให้ติด "ผนึกทักษะ" และ "ผนึกมาร"
แยกร่าง = แยกร่างออกเป็น 2 ตัว (HP แบ่งออกครึ่งนึง)

- แนะนำ ให้ใช้ S-craft หรืออาร์ทกินอาณาเขตปราบดูราฮานก่อน จะง่ายขึ้นค่ะ
- เบเซเบิลสามารถแยกร่างได้เรื่อย ๆ แนะนำ ให้รีบกำจัดก่อนที่จะแยกร่างจนฝ่ายเราเทิร์นไม่ทันค่ะ
- หากไม่รีบปราบเบเซเบิลแล้วล่ะก็ มีโอกาสโดนท่า "เวลามาถึงแล้ว" ซึ่งจะนำไปสู่ "การล่มสลายครั้งยิ่งใหญ่" ที่จะระเบิดตัวเองโจมตีทั่วฉาก ซึ่งถ้าหากเตรียมตัวมาไม่ดีแล้วล่ะก็ มีสิทธิ์เกมโอเวอร์ได้ค่ะ
- ดังนั้น เมื่อเห็นเบเซเบิลชาร์จคราฟท์ ให้รีบรุมโจมตีโดยด่วน แต่ในกรณีที่ไม่ว่าทำยังไง ก็ไม่ทันจริง ๆ สามารถใช้ S-craft "แกรล สเฟียร์" ของเควิน หรืออาร์ท "เอิร์ธการ์ด" แก้ขัดได้ค่ะ

▽ดูราฮาน*6 『デュラハーン*6』
HP 24116 / ดิน100, น้ำ100, ไฟ100, ลม100, เวลา120, อากาศ100, มายา100
เดม่อนแลนซ์ = โจมตี+ทำให้ติด "ตายคาที่"
เนตรมาร = โจมตี+AT delay
- ปราบได้ จะได้รับ "เซมเรียสโตน" ก้อนที่ 2
- อย่าลืมสำรวจบ่อน้ำพุด้านใน เลือก "ดื่มน้ำจากบ่อน้ำพุ" 『泉の水を飲む』 เพื่อฟื้นฟู HP&EP ด้วยนะคะ

ห้วงลึก 3 『深淵・3』
☆ไอเทมที่พบในห้วงลึก 3 "ควินตี้ ริบบอน" (เครื่องประดับ), "เซพิธทุกคุณสมบัติx500", "5000 มิร่า" และ "เซรั่ม แคปซูล" ค่ะ☆
- อาคา มานะห์ -
- 『アカ・マナフ』 -
**แนะนำ ให้ใส่เครื่องประดับป้องกัน "พิษ", "ผนึกทักษะ", "หมดสติ" และ "เยือกแข็ง" ไว้จะง่ายขึ้นค่ะ**
▼อาคา มานะห์ 『アカ・マナフ』
HP 69280 / ดิน100, น้ำ100, ไฟ100, ลม100, เวลา100, อากาศ140, มายา100
โคคิวทอส = ทั่วฉาก+ทำให้ติด "เยือกแข็ง" ※ยกเลิกได้
เดม่อน คลอว์ = โจมตี+ทำให้ติด "พิษ", "ผนึกทักษะ" และ "หมดสติ"

- แนะนำ ให้ปราบไฟรท์ ไนท์ที่พลังค่อนข้างน้อยและโจมตีทำให้เราติดสถานะผิดปกติก่อน จะง่ายขึ้นค่ะ
- STR, ATS และ SPD ของอาคา มานะห์ค่อนข้างสูง นอกจากการโจมตีกายภาพที่รุนแรงแล้ว การโจมตีด้วยอาร์ท "โคคิวทอส" ก็ถือว่ารุนแรงไม่ใช่เล่น แถมยังถี่อีกด้วย ดังนั้น ถ้าหากฝ่ายเราไม่เตรียมตัวมาดี ๆ ก็อาจจะแป้กได้ค่ะ
- แนะนำ ให้ใช้อาร์ท "คล็อกอัฟ รุ่นปรับปรุง" ใส่ฝ่ายเรา และใช้ "คล็อกดาวน์" ใส่ศัตรูจะง่ายขึ้นค่ะ
- อาคา มานะห์ สามารถเรียกไฟรท์ ไนท์มาเพิ่มได้ค่ะ

▽ไฟรท์ ไนท์*4 『フライトナイト*4』
HP 4499 / ดิน100, น้ำ100, ไฟ100, ลม100, เวลา100, อากาศ100, มายา120
คำสาปมืดมิดนิรันดร์ = โจมตี+ทำให้ติดสภาพผิดปกติ (ตัวเล็ก, ตัวใหญ่)
- ปราบได้ จะได้รับ "เซมเรียสโตน" ก้อนที่ 3
- อย่าลืมสำรวจบ่อน้ำพุด้านใน เลือก "ดื่มน้ำจากบ่อน้ำพุ" 『泉の水を飲む』 เพื่อฟื้นฟู HP&EP ด้วยนะคะ

ห้วงลึก 4 『深淵・4』
☆ไอเทมที่พบในห้วงลึก 4 "ผู้เชี่ยวชาญนาเบะ [สุดขั้ว]", "ใบอนุญาตเข้าร่วม งานประลองยุทธ์เบื้องหลัง" (ไอเทมจำเป็นสำหรับเคลียร์ "ประตูตะวัน③/Nightmare"), "เลเบนส์บอลลูน+" (เครื่องประดับ) และ "เซพิธทุกคุณสมบัติx1000" ค่ะ☆
❤ดูรายละเอียด [ประตูดารา⑮] ได้ตรงนี้ค่ะ❤
- ปอม เดอะ เทมเพสต์ -
- 『ポム・ザ・テンペスト』 -
**แนะนำ ให้ใส่เครื่องประดับป้องกัน "ตายคาที่" ไว้จะง่ายขึ้นค่ะ**
▼ปอม เดอะ เทมเพสต์ 『ポム・ザ・テンペスト』
HP 2007 / ดิน0, น้ำ0, ไฟ0, ลม0, เวลา0, อากาศ0, มายา0
คอสโม เอกซ์โพลชั่น = ทั่วฉาก

- วิธีการปราบ ดูได้ที่หน้า Shining Pom เลยค่ะ

▽ไชน์นิ่งปอม*6 『シャイニングポム*6』
HP 1604 / ดิน50, น้ำ50, ไฟ50, ลม50, เวลา50, อากาศ50, มายา50
- ปราบได้ จะได้รับ "เซมเรียสโตน" ก้อนที่ 4 ก้อนสุดท้าย และเครื่องประดับ "สัญลักษณ์แห่งประกายแสง" 『閃光の紋章』 (เครื่องประดับ) มาค่ะ

สวนแห่งนักพรต 『隠者の庭園』
- หลังจากเคลียร์ประตู และเก็บเลเวลหรือเซพิธจนพอใจแล้ว กลับไปเตรียมตัวที่ "สวนแห่งนักพรต" เพื่อออกเดินทางครั้งสุดท้ายค่ะ
- คุยกับ "เซเลสต์" เลือกคำสั่งที่ 2 "ออกเดินทางด้วยอัลเซยู" 『アルセイユで出発する』 ถ้ายังไม่พร้อมก็สามารถเลือกข้อ 2 เพื่อกลับไปเตรียมตัวใหม่ได้ แต่ถ้าพร้อมแล้วให้เลือกข้อ 1 เพื่อเรียกทุกคนไปยัง [อัลเซยู] กันเลยค่ะ

อัลเซยู 『アルセイユ』
ยูเลีย "......ประจำตำแหน่งเรียบร้อย"
คลอเซ่ "ท่านบรรพบุรุษคะ เริ่มกันเลยเถอะค่ะ"
เซเลสต์ "------ทราบแล้วค่ะ ถ้าเช่นนั้นรบกวนทุกท่าน รวบรวมสมาธิ ด้วยการนึกภาพในใจ...... ที่ [ปีกสีขาว] นี้ จะทะยานขึ้นไปสู่ฟากฟ้าอันกว้างใหญ่ด้วยค่ะ"
เควิน "รับทราบ"
เอสเทล "อะฮะฮะ...... เหมือนจะนึกภาพขึ้นมาได้สบาย ๆ เลยแฮะ"
รีส "เพิ่งจะเคยขึ้นเรือลำนี้เป็นครั้งแรกก็จริง...... แต่คงจะเป็นภาพที่งดงามน่าดูนะคะ"
กิลเบิร์ต "จะ จะว่าไป...... เมื่อก่อนตอนที่เคยโดนจับก็ขึ้นเรือลำนี้ไปค่ายเรสตอนนี่นา...... เฮ่อ ตั้งแต่ตอนนั้นชีวิตของผมก็......"
เซเลสต์ "ยังไง...... รบกวนขอความร่วมมือด้วยนะคะ หากความรู้สึกของทุกท่านไม่เป็นหนึ่งเดียวกัน [ปีก] คู่นี้ ก็ไม่มีทางที่จะฟื้นคืนชีพได้...... ......หรือไม่เช่นนั้น จะรออยู่ที่ [สวน] เพียงลำพัง?"
กิลเบิร์ต "ร่วมมือสิ! ต้องร่วมมืออยู่แล้ว! ปัดโธ่...... บ่น ๆ...... ทำไมผมต้องมาโดนแบบนี้ด้วยล่ะเนี่ย......"
เอสเทล "เฮ้อ......"
เร็น "อุหึหึ...... เป็นพี่ชายที่น่าสนใจดีนะ"
- "......เอาล่ะค่ะ มาเริ่มกันเลยดีกว่า" เซเลสต์รวบรวมพลัง ร่างกายของทุกคนที่อยู่ ณ ที่แห่งนี้ถูกห่อหุ้มด้วยแสงเรืองรอง ใบพัดของอัลเซยูเริ่มขยับ เป็นสัญญาณว่าเดินเครื่องเรียบร้อยท่ามกลางความดีใจของทุกคน
คลอเซ่ "คุณเควิน...... ว่ายังไงดีคะ?"
เควิน "ครับ...... ออกเดินทางสู่ข้างนอก [ชั้นดารา]------ ไปยังที่รกร้างว่างเปล่าและอ้างว้าง ที่ [จ้าวแห่งเงา] กำลังรอรับพวกเรากันเถอะ......"
คลอเซ่ "รับทราบค่ะ คุณยูเลียคะ รบกวนด้วยค่ะ"
ยูเลีย "รับด้วยเกล้า เรือลาดตระเวณความเร็วสูง [อัลเซยู] สังกัดกองกำลังรักษาพระองค์------ จากนี้ไปจะออกจาก [ชั้นดารา] ด้วยความเร็วสูงสุด เดินเครื่องได้"
- "เยส มาม!" เหล่าลูกเรือส่งเสียงกู่ก้อง [อัลเซยู] ทะยานจากระเบียงหยกออกไปสู่ภายนอก [ชั้นดารา] ผ่านบรรยากาศแต่ละชั้น ๆ อย่างรวดเร็ว
อาเนราส "ยะ ยอดไปเลย......!"
มิวเลอร์ "นี่น่ะรึ สภาพที่แท้จริงของ [ชั้นดารา]......"
โอลิเวียร์ "หึ...... เหมือนกับกล้องคาไลโดสโคปเลยเนอะ"
โจเซ็ต "ระดับความเร็วอยู่ที่ 3000, 3100, 3200...... ดะ เดี๋ยวสิ! 3500......3800......4300....... ความเร็วไปที่ 5000 เซลจ์แล้ว!"
- ทุกคนตกใจไปตาม ๆ กัน
คลอเซ่ "ไม่น่าเชื่อว่าความเร็วจะสูงเกินกว่า 3600 CE/h ซึ่งเป็นระดับความเร็วสูงสุดอัลเซยูในตอนนี้......"
เซเลสต์ "ดูเหมือนจะดึงเอาประสิทธิภาพออกมาได้เกินกว่าขีดจำกัดในทางทฤษฎีสินะคะ เป็นเครื่องพิสูจน์ว่าความรู้สึกของทุกท่านที่ส่งมานั้นเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันกระมัง"
ทีต้า "ตะ ตกใจหมดเลย......"
เควิน "ถ้าเป็นความเร็วระดับนี้ กว่าจะไปถึงจุดหมายก็น่าจะใช้เวลาไม่เท่าไหร่......"
รีส "......เราหลุดจากอาณาเขตของ [ชั้นดารา] แล้วหรือยังคะ?"
ริชาร์ด "ยัง...... แต่ดูจากระยะแล้วก็ใกล้แล้วล่ะ"
- สัญญาณกระพริบ แจ้งเตือนว่ามีกำแพงเขตแดนรูปวงแหวนอยู่เบื้องหน้า ห่างออกไปแค่ 120 วินาที
ยูเลีย "เดินเครื่องเต็มกำลัง เตรียมยิงปืนใหญ่ด้านหน้า! ทะลวงอาณาเขตด้วยการยิงต่อเนื่อง!"
- กระสุนแสงของปืนใหญ่ยิงออกไปหลายนัด จนสามารถเจาะกำแพงวงแหวนให้อัลเซยูทะยานออกไปสู่ภายนอกได้
- ทิวทัศน์ด้านนอกนั้น ราวกับทุ่งหญ้าอันรกร้างว่างเปล่า ดูอ้างว้างโดดเดี่ยว ไม่มีสิ่งมีชีวิตใดอยู่บนดินแดนแห่งนี้เลย
อากัต "......นี่มัน........."
รีส "ที่นี่เหรอ ข้างนอก [ชั้นดารา]......"
เชราซาร์ด "รกร้างและอ้างว้างจริง ๆ......."
เซเลสต์ "สำหรับพิกัดของจุดหมายปลายทาง ก็ตามที่ได้แจ้งไปแล้วเลยค่ะ ถ้าตรงไปเรื่อย ๆ แบบนี้ ครู่เดียวก็น่าจะถึงกระมัง"
เอสเทล "เฮ้อออ...... โล่ง"
เร็น "อุหึหึ...... สนุกไม่เลวเลย เรือความเร็วขนาดนี้ [องค์กร] ยังไม่มีเลยด้วย"
จิน "แต่ความกว้างใหญ่ไพศาลขนาดนี้มัน...... ขนาด [อาณาจักรแห่งเงา] ยังสู้ไม่ได้เลย"
โอลิเวียร์ "หืมม์ ไม่น่าเชื่อว่าจะเป็นแค่ระบบรองของ [วงแหวนประกายแสง]...... ยิ่งทำให้ไม่น่าเชื่อเข้าไปอีกว่า [วงแหวน] จะหายไป"
เควิน "นั่นสิครับ...... เห็นด้วยเหมือนกัน ขนาดมันใหญ่เกินไปจนไม่น่าจะหายไปได้ง่าย ๆ"
- เควินนึกถึงคำพูดของ "คัมพาเนลล่า" ที่โผล่มาตอนเขากำจัด "ไวส์แมน" บน [ลีเบล=อาร์ค]
เควิน "(......นึกแล้วเชียว ไอ้ที่โดนเก็บกู้ไปในตอนนั้นมัน......)"
เอสเทล "? คุณเควิน มีอะไรเหรอ?"
เควิน "เปล่า...... ไม่ใช่เรื่องสำคัญอะไร ดูเหมือนว่ามันจะไม่เกี่ยวข้องตรง ๆ กับเหตุการณ์ในคราวนี้ด้วยแหล่ะ"
เอสเทล "?"
- สัญญาณเตือนดังขึ้นอีกครั้ง แจ้งว่ามีวัตถุลอยฟ้าขนาดเล็กห่างออกจากด้านหลังไป 200 เซลจ์ ทุกคนไม่เชื่อว่าจะมียานลำอื่นอยู่ในสถานที่แบบนี้
เซเลสต์ "ไม่ใช่ค่ะ...... ดูเหมือนว่าจะเป็นผู้ไล่ล่าที่มาจาก [ชั้นดารา] นะคะ"
เควิน "ผู้ไล่ล่า......!?"
- เมื่อเปิดมอนิเตอร์ดู ก็พบว่า "ผู้ไล่ล่า" ที่ว่า ก็คือ "ดรากิออนสีเงิน" ที่ไม่เคยเห็นที่ไหนมาก่อน แถมยังเร็วกว่าอัลเซยูอีกด้วยค่ะ
- แม้ว่าจะมีโอกาสที่อัลเซยูจะร่วง แต่ยูเลียก็ตัดสินใจเปิดการโจมตีกลางหาว ขณะที่เธอสั่งให้หันหัวเรือกลับไปต่อสู้กับศัตรูนั้น จู่ ๆ กระทาชายนายกิลเบิร์ตก็บอกว่าไม่มีความจำเป็นต้องทำแบบนั้น
กิลเบิร์ต ".......รู้สึกว่าเวลาที่จะทำให้พวกนายได้สำนึกถึงความสามารถที่แท้จริงของผมจะมาถึงแล้วสินะ"
เควิน "เหอ......"
เอสเทล "จะ จะไหวเร้อ!?"
รีส "......ไปนอนพักที่ห้องพยาบาลด้านล่างน่าจะดีกว่านะคะ?"
กิลเบิร์ต "ฮ่าฮ่าฮ่า! เอาเถอะ รอดูอยู่ตรงนั้นแล้วกัน! ว่าฮีโร่ตัวจริงเขาทำยังไงน่ะ!"
- กิลเบิร์ตหันหลังวิ่งออกไป ทิ้งไว้ให้ทุกคนในห้องควบคุมอึ้งไปตาม ๆ กัน
- "หึหึหึ...... ในที่สุด...... ในที่สุดเวลาที่ผมจะได้รับบทตัวเอกก็มาถึงสักที......!" กิลเบิร์ตพูดเองเออเองอย่างมีความสุขตรงท้ายเรือด้านนอก "ถ้าโลกนี้ตอบสนองต่อความคิดคำนึงของมนุษย์แล้วล่ะก็...... จงมา! สีฟ้าที่ยิ่งกว่าฟ้าสีคราม! ปีกของผม (G-อาปาเช่) แหวกม่านเมฆออกมาเลย!" ไม่น่าเชื่อแต่ก็ต้องเชื่อว่า G-อาปาเช่จะออกมาตามแรงอธิษฐานของกระทาชายนายกิลเบิร์ตจริง ๆ
กิลเบิร์ต "หัวหน้ากองร้อยแห่งหน่วยทหารพรานเสริมความแข็งแกร่งที่ 38 สังกัด [งูกินหาง] กิลเบิร์ต สไตน์...... จากนี้ไปจะทำการปั่นป่วนและตอบโต้ยานมังกรฝ่ายศัตรูล่ะนะ!"
- ทุกคนในห้องควบคุม เอ๋อไปกับภาพกิลเบิร์ตผู้กล้าหาญที่ปรากฎอยู่ในมอนิเตอร์
(เควินกับรีสนึกไม่ถึงว่าคนขับ G-อาปาเช่จะเป็นกิลเบิร์ต ส่วนโจเซ็ตเพิ่งมารู้เอาตอนนี้ว่าคนที่เคยโจมตี "แมวป่า" ก็คือนายกิลเบิร์ตอีกนั่นแหล่ะ)
- การต่อสู้กลางหาวของกิลเบิร์ต สร้างความประหลาดใจให้แก่ทุกคนที่อยู่ในอัลเซยูสุด ๆ (แบบว่ามีฝีมืออย่างไม่น่าเชื่อ) แต่ลำพังแค่การโจมตีของกิลเบิร์ตไม่น่าจะพอ ยูเลียจึงตัดสินใจที่จะช่วยโจมตีสนับสนุน แต่เสียงกิลเบิร์ตก็แว่วมาทางมอนิเตอร์ว่าอย่าเข้ามายุ่ง ให้ทุกคนไปก่อนเลย เดี๋ยวเขาจะตามไปสมทบเอง (ก็อุตส่าห์มีโอกาสออกหน้าทั้งที) เมื่อได้ฟังความตั้งใจอย่างสุด ๆ ของกิลเบิร์ต ยูเลียจึงตัดสินใจเดินเครื่องเต็มกำลังมุ่งหน้าไปต่อ โดยที่ทุกคนก็เริ่มรู้สึกว่ากิลเบิร์ตก็มีส่วนดี ๆ แถมยังมีความสามารถซ่อนอยู่เหมือนกันกับคนอื่นเขาด้วยค่ะ (สมหวังสักทีนะนายกิลเบิร์ต)
กิลเบิร์ต "หึ...... นี่ล่ะความอิ่มเอมใจของฮีโร่...... ♪ ฮ่าห์! ผมเนี่ยช่างเท่เสียนี่กระไร!"
- ความสุขของกิลเบิร์ตจบลง เมื่อเห็นดรากิออนสีเงินมาเพิ่มอีก 2 ตัว
กิลเบิร์ต "ดะ เดี๋ยวก่อน! หลายตัวแบบนั้นมันขี้โกงนี่!? รอด้วยจ้าอัลเซยู! โทษที! ขอเปลี่ยแผน! ....................ง่ะ นอกเขตสัญญาณซะงั้น!"
- ผลงานในฐานะฮีโร่ของกิลเบิร์ต จบลงด้วยเสียงร้องโหยหวนภาวนาต่อเทพธิดา ที่ไล่หลังมาด้วยดรากิออนสีเงิน 3 ตัว
- "เอ๊ะ...... เมื่อกี๊ได้ยินอะไรหรือเปล่า?" เอสเทลถามเพื่อน ๆ ที่อยู่ในอัลเซยู "เหรอ? เร็นไม่เห็นได้ยินอะไรเลย"
- สัญญาณเตือนดังขึ้นอีก แจ้งว่าพบวัตถุขนาดใหญ่อยู่ข้างหน้าไป 120 เซลจ์ แน่นอนว่านั่นคือ สถานที่เป้าหมายของพวกเราที่ดั้นด้นมาจนถึงที่นี่
ยูเลีย "ใกล้จะเห็นแล้วสินะ...... โยชัวร์คุง ช่วยหมุนกล้องไปดูหน่อย"
โยชัวร์ "รับทราบ ซูมเต็มกำลัง เริ่มจับเป้าหมายได้...... ...................................! ......จับภาพได้แล้ว! จะส่งขึ้นจอแล้วนะครับ!"
- ภาพปราสาทหลังใหญ่ตั้งตะหง่านกลางทุ่งอันรกร้างว่างเปล่า แม้จะดูเหมือนปราสาทที่หลุดออกมาจากนิทานก่อนนอน แต่ก็ดูบิดเบี้ยวผิดธรรมชาติไม่ใช่น้อย
- [อัลเซยู] บินวนรอบปราสาทสำรวจหาทางเข้า นาฬิกาด้านนอกปราสาทหมุนคว้าง ประตูใหญ่เปิดออกเมื่อเข็มสั้นและยาวมาบรรจบกัน ราวกับทุกอย่างตระเตรียมไว้มาอย่างดี

ปราสาทมายา 『幻影城 』
- ภายใน [ปราสาท] โอ่โถงกว้างขวางและงดงาม ด้านหน้ามีประตูอีก 4 บาน
โยชัวร์ "ที่นี่...... ดูเหมือนจะเป็นโถงด้านหน้า [ปราสาท] นะ"
เอสเทล "มะ มีประตูที่เหมือนจะตั้งไว้มั่ว ๆ ไงไม่รู้......"
รีส "ลักษณะการก่อสร้างแบบนี้...... เหมือนกับการออกแบบมหาวิหารที่อยู่ในอัลเทเรียเลยนะคะ"
เควิน "..................................."
รีส "......เควิน......?"
- "พี่รูฟีน่า...... ไม่สิ------ [จ้าวแห่งเงา]! ชั้นรู้อยู่แล้วน่าว่าอยู่ข้างใน! ชั้นน่ะ...... ไม่หนีไม่ซ่อนแล้วนะ! ไม่คิดที่จะทำให้มันจบลงตรงนี้ดี ๆ รึไง!" เควินก้าวออกไปข้างหน้า พลางเรียกให้ [จ้าวแห่งเงา] ออกมา
"หึหึ ในที่สุดก็มา......
ขอต้อนรับสู่ [ปราสาทมายา] ของข้า
จะไม่ขอกล่าวอะไรให้มากความ------
มาเริ่มเล่นเกมกันเลยดีกว่า"
- เสียงระฆังดังเหง่งหง่าง ประตูทั้ง 4 บานเปิดออก
"[ผู้ที่ข้าต้องการ] กับพรรคพวกเหล่านั้น
จงเข้าไปยังประตูใหญ่อันสูงตระหง่านด้านบน......
นอกนั้น ให้ไปยังประตูทั้ง 3 บานด้วยจำนวนเท่า ๆ กัน......
แต่ละปลายทางข้าได้ตระเตรียม
การเลี้ยงต้อนรับแบบใหม่ ๆ เอาไว้แล้ว
หึหึ ถ้าอย่างนั้น
ขอเชิญมาร่วมสุขสันต์กันให้เต็มที่ดีกว่า"
- เสียงของ [จ้าวแห่งเงา] หายไป
รีส "ท่านพี่......"
เซเลสต์ "รู้สึกว่าจะใส่ใจกับ [กฎ] จนถึงวินาทีสุดท้ายเลยนะคะ เกรงว่าถ้าไม่ทำตามที่ว่ามา จะไม่สามารถไปถึง [จ้าวแห่งเงา] ได้กระมัง ......แต่ตามหลักแล้ว กล่าวได้ว่าตัวตนของเธอนั้น ก็ทำตาม [กฎ] ที่วางเอาไว้เหมือนกัน คิดว่าไม่น่าจะวางกับดักอะไรไว้ค่ะ"
เอสเทล "......ตั้งใจจะกำราบพวกเราแบบแฟร์ ๆ จนถึงที่สุดสินะ"
โยชัวร์ "อืม ดูเหมือนจะเป็นแบบนั้น"
เร็น "อุหึหึ...... เป็นคำเชื้อเชิญที่วิเศษไม่เบา เร็นชักจะรู้สึกดีใจจนเนื้อเต้นขึ้นมาแล้วสิ♪"
อาเนราส "อะฮ่าฮ่า...... ก็พอจะเข้าใจนิด ๆ ล่ะมั้ง ฉันเองก็ตื่นเต้นดีใจครึ่งนึง ตื่นเต้นหวั่น ๆ ครึ่งนึง......"
เชราซาร์ด "ไหน ๆ ก็ตั้งใจจะขอบคุณที่อุตส่าห์ดึงเข้ามาที่นี่อยู่แล้ว"
อากัต "ถ้ามาท้าให้ต่อยตีกัน ก็ต้องสนองด้วยความยินดีสิน่า!"
ทีต้า "คะ คุณอากัตล่ะก็......"
ริชาร์ด "ไม่ว่ายังไง...... มันก็เป็นเส้นทางที่หลีกเลี่ยงไม่ได้อยู่แล้วนี่"
ยูเลีย "ไม่แน่ว่า [อาณาจักรแห่งเงา] แห่งนี้ อาจจะนำภัยพิบัติครั้งใหม่มาสู่ลีเบร์ลด้วยก็ได้......"
คลอเซ่ "ต้องตรวจสอบให้แน่ใจ วางเฉยไม่ได้หรอกค่ะ"
ซิก "ปี้!"
โจเซ็ต "ผมน่ะ...... ต้องรีบกลับไปหาพวกพี่ ๆ พวกเขาจะได้สบายใจ"
จิน "ฮ่าฮ่า ส่วนชั้นถ้ากลับไปช้าล่ะก็ มีหวังโดนคิริก้าทำปึงปังใส่แหง ๆ"
โอลิเวียร์ "หึ สำหรับผม ขอแค่ได้อยู่กับทุกคนแบบนี้ต่อไปก็พอแล้ว...... แต่ก็คงจะพูดแบบนั้นออกมาไม่ได้มั้ง"
มิวเลอร์ "มันแหงอยู่แล้ว เจ้าบ้า"
- เมื่อทุกคนรวมพลังกันเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน ก็ยากที่จะมีอะไรมาต้านทานได้ค่ะ
- เมื่อผ่านบทตรงนี้ไป ตัวเกมจะมีคำสั่งให้เราเซฟเกมและไปต่อ ซึ่งประตูทั้ง 4 นั้นมีดังนี้ค่ะ
(Party 1) ประตูขวา : อุปสรรคที่ตั้งตะหง่านคือ ยักษ์สีทอง
(Party 2) ประตูซ้าย : อุปสรรคที่ตั้งตะหง่านคือ มายาสีดำ
(Party 3) ประตูหน้า : อุปสรรคที่ตั้งตะหง่านคือ สัตว์เทวะสีแดง
(Party 4) ประตูใหญ่ : อุปสรรคที่ตั้งตะหง่านคือ ความมุ่งมั่นแห่งโลกา
- จัดเพื่อนเข้ากลุ่มได้อิสระ ยกเว้น Party 4 จะมีเควินและรีสเป็นตัวละครที่กำหนดไว้ค่ะ
- เมื่อจัดกลุ่มเสร็จแล้ว จะมีคำสั่ง "เปลี่ยนเครื่องสวมใส่" 『装備を入れ替える』, "จัดกลุ่มใหม่" 『編成をやりなおす』 และ "ไปต่อ" 『先に進む』 ค่ะ
- และเมื่อดำเนินการทุกขั้นตอนเสร็จเรียบร้อย ก็ถึงเวลาลุยกันแล้วล่ะค่ะ โดยเราสามารถเริ่มเล่นจากประตูไหนก่อนก็ได้ แต่ประตูใหญ่จะต้องเป็นลำดับสุดท้ายค่ะ
(ตรงนี้ เซเลสต์จะอาสารอท่านกิลเบิร์ตกลับมา จะได้อธิบายเหตุการณ์ต่าง ๆ ให้ฟัง ส่วนเควินก็ขอให้ทุกคนกลับมาเจอกันอีกครั้งอย่างปลอดภัยค่ะ)

ปราสาทมายา / ประตูขวา 『幻影城 /右門の道』
- อย่าลืมตั้ง "Support Member" ด้วยนะคะ
☆ว่าด้วย [อาวุธ & เครื่องป้องกันสุดยอด]☆
- ไอเทมที่จะได้รับในปราสาทมายานั้น จะเปลี่ยนไปตามเพื่อน ๆ ที่เรานำเข้ากลุ่มต่อสู้ (เหมือนฉากที่ 3 เส้นทางทอง, เส้นทางเงิน) ค่ะ
- ซึ่งในบทสรุปนี้ จะแสดงไอเทมที่เปลี่ยนแปลงไปตามเพื่อน ๆ ด้วยสัญลักษณ์นี้ "(***)" นะคะ และสำหรับรายละเอียดนั้น ดูตามนี้ได้เลยค่ะ

■■อาวุธ■■
เควิน : ปีเอต้า ปีเอโร่ต์ (ตำแหน่งตายตัว)
รีส : อักนุสดี้ (ตำแหน่งตายตัว)
เอสเทล : อามาโนมาโดร่า
โยชัวร์ : สวอลโล่ เทล
เชราซาร์ด : กอร์กอน เดร็ด
โอลิเวียร์, โจเซ็ต : อากาธิค R
คลอเซ่, ยูเลีย : เซเลสต์ บลู
อากัต, มิวเลอร์ : อโพคริฟฟา
ทีต้า : วรี่ทราฮัน
จิน : อาจลนาถ
อาเนราส, ริชาร์ด : ฮาคุริว
เร็น : ลิโคริส เชีย

■■เครื่องป้องกัน■■
เควิน, โอลิเวียร์, ริชาร์ด : ไททัน ทูธ (รองเท้า)
รีส, เชราซาร์ด, คลอเซ่, อาเนราส, ยูเลีย : อาร์เทมิส ฮีล (รองเท้า)
เอสเทล, ทีต้า, โจเซ็ต, เร็น : กาบริเอล ออร่า (เกราะ)
โยชัวร์, อากัต, จิน, มิวเลอร์ : ราฟาเอล ฮาโล (เกราะ)
☆ไอเทมที่พบในประตูขวา "EPชาร์จIII", "(***)", "(***)", "ยาแห่งคิวเรีย", "แกรลล็อคเก็ต", "(***)", "S-แทบเล็ต" และ "มาสเตอร์บีนส์+" (เครื่องประดับ) ค่ะ☆
- สำรวจแผ่นหินที่ส่องแสงสีแดงกลางทาง เพื่อฟื้นฟู HP&EP หรือจะซื้อของผสมควอทซ์ค่ะ
☆ไอเทมที่พบในประตูขวา "(***)", "(***)", "(***)", "ยาแห่งเทียร์ ออล" และ "ยาแห่งเทียร์ ออล" ค่ะ☆
- สู้กับ (สเลปนิร์+เบลด แองเจล*2) ค่ะ
☆ไอเทมที่พบในประตูขวา "(***)", "เซรั่ม พาวเดอร์", "(***)" และ "ยาแห่งอาเซราส" ค่ะ☆
- ฟื้นฟู HP&EP ตรงแท่นเรืองแสง เตรียมตัวให้เรียบร้อย เมื่อเข้าไปจะพบกับ "โกลเดียสรุ่นศูนย์" ร่างต้นแบบของ [ปาเทล=มาเทล] ค่ะ

ปราสาทมายา / ประตูซ้าย 『幻影城 /左門の道』
- อย่าลืมตั้ง "Support Member" ด้วยนะคะ
☆ไอเทมที่พบในประตูซ้าย "(***)", "(***)", "ยาแห่งคิวเรีย", "(***)", "EPชาร์จIII", "(***)", "(***)" และ "แกรลล็อคเก็ต" ค่ะ☆
- สำรวจแผ่นหินที่ส่องแสงสีแดงกลางทาง เพื่อฟื้นฟู HP&EP หรือจะซื้อของผสมควอทซ์ค่ะ
☆ไอเทมที่พบในประตูซ้าย "(***)", " เซรั่ม พาวเดอร์", " S-แทบเล็ต", "ยาแห่งเทียร์ ออล", "(***)" และ "EPชาร์จIII" ค่ะ☆
- สู้กับ (ทิล ดอว์น+แอโรว์ แองเจล*2) ค่ะ
☆ไอเทมที่พบในประตูซ้าย "EPชาร์จIII", "(***)" และ "ทอร์นาโดแฟน+" (เครื่องประดับ) ค่ะ☆
- ฟื้นฟู HP&EP ตรงแท่นเรืองแสง เตรียมตัวให้เรียบร้อย เมื่อเข้าไปจะพบกับ "T-IIเกชเปนสท์" หรือก็คือ [ทรอยเมไร-II] นั่นเองค่ะ

ปราสาทมายา / ประตูหน้า 『幻影城 /正門の道』
- อย่าลืมตั้ง "Support Member" ด้วยนะคะ
☆ไอเทมที่พบในประตูหน้า "(***)", "เซรั่ม พาวเดอร์", "(***)", "S-แทบเล็ต", "ยาแห่งคิวเรีย", "(***)", "ยาแห่งเทียร์ ออล" และ "(***)" ค่ะ☆
- สำรวจแผ่นหินที่ส่องแสงสีแดงกลางทาง เพื่อฟื้นฟู HP&EP หรือจะซื้อของผสมควอทซ์ค่ะ
☆ไอเทมที่พบในประตูหน้า "(***)", "(***)" และ "(***)" ค่ะ☆
- สู้กับ (สเลปนิร์+ร็อด แองเจล*2) ค่ะ
☆ไอเทมที่พบในประตูหน้า "(***)", "S-แทบเล็ต", "T แองค์เคร็ต+" (เครื่องประดับ), "EPชาร์จIII" และ "ยาแห่งเทียร์ ออล" ค่ะ☆
- ฟื้นฟู HP&EP ตรงแท่นเรืองแสง เตรียมตัวให้เรียบร้อย เมื่อเข้าไปจะพบกับ "R-ไทคูน" ที่หน้าตาเหมือนมังกรโบราณ [เลกนาร์ต] ผิดกันตรงที่เป็นเกล็ดสีแดงเพลิงนั่นเองค่ะ

ปราสาทมายา / ประตูใหญ่ 『幻影城 /大門の道』
- อย่าลืมตั้ง "Support Member" ด้วยนะคะ
☆ไอเทมที่พบในประตูใหญ่ "EPชาร์จIII", "(***)", "(***)", "ยาแห่งอาเซราส", "ยาแห่งคิวเรีย", "หลักแห่งศิลา" (ควอทซ์) และ "(***)" ค่ะ☆
- สำรวจแผ่นหินที่ส่องแสงสีแดงกลางทาง เพื่อฟื้นฟู HP&EP หรือจะซื้อของผสมควอทซ์ค่ะ
☆ไอเทมที่พบในประตูใหญ่ "เซรั่ม พาวเดอร์", "EPชาร์จIII", "(***)", "ยาแห่งคิวเรีย", " วาจูร่า+" (เครื่องประดับ), "ปีเอต้า ปีเอโร่ต์" (โบว์กัน), "ยาแห่งคิวเรีย", "EPชาร์จIII", "S-แทบเล็ต", "แถบฉนวน", "(***)" และ "เซรั่ม แคปซูล" ค่ะ☆
- สู้กับ (ทิล ดอว์น+แอโรว์ แองเจล*2) ค่ะ
☆ไอเทมที่พบในประตูใหญ่ "(***)", "อักนุกดี้" (ดาบธรรมะ), " ไชน์ สเฟียร์+" และ "ยาแห่งอาเซราส" (เครื่องประดับ) ค่ะ☆
- ฟื้นฟู HP&EP ตรงแท่นเรืองแสง เตรียมตัวให้เรียบร้อย ตรงสุดทางจะพบประตูบานใหญ่ ซึ่งถ้าพร้อมกับศึกสุดท้ายแล้ว ก็เลือกข้อแรก "เปิดประตู" 『扉を開く』 ได้เลยค่ะ
- "ทั้ง 2 คน...... ขอบคุณจริง ๆ ที่อุตส่าห์มาด้วยกันจนถึงที่นี่" เควินหันมาขอบคุณเพื่อนร่วมทางที่เคียงข้างด้วยกันมาตลอด
เควิน "เหลืออีกแค่นิดเดียว ขอยืมพลังของทั้ง 2 คนหน่อยนะ อีกฝ่ายคือ [จ้าวแห่งเงา]...... ตัวตนยิ่งใหญ่ที่สุดที่ควบคุมหลักของโลกนี้ให้เป็นไปตามใจนึก อาจจะต้องเสี่ยงเดิมพันด้วยทุกอย่างที่มีก็ได้"
- เพื่อนพ้องตอบรับด้วยความเต็มใจ เควินและรีสเดินนำเข้าไปสู่ด้านในประตู ณ ที่แห่งนั้น [จ้าวแห่งเงา] ในร่างของรูฟีน่ายืนคอยพวกเควินอยู่แล้ว
รูฟีน่า "หึหึ...... ยินดีต้อนรับ ในที่สุดก็มาถึงสถานที่แบบนี้จนได้นะจ๊ะ"
รีส "......ท่านพี่"
เควิน "ชั้นมาแล้ว...... พี่รูฟีน่า"
รูฟีน่า "พี่เห็นการตอบโต้ที่ [แดนชำระ] จากที่นี่แล้วล่ะจ้ะ ไม่อยากเชื่อเลยว่าเธอจะอดใจไม่ตอบรับคำชักชวนของ [ไร้หน้า] ได้"
เควิน "บอกตามตรง...... ถ้ารีสไม่ได้อยู่ด้วยแล้วล่ะก็ คงจะโดนหว่านล้อมไปแล้วก็ได้ ในกรณีนั้น...... ชั้นมันก็คงจะห่วย ขี้ขลาดจริง ๆ ล่ะมั้ง เพราะมนุษย์...... ไม่ใช่จะเปลี่ยนแปลงกันได้ง่าย ๆ แบบนั้นนี่นา"
รีส "เควิน......"
รูฟีน่า "หึหึ แววตาดูสงบเยือกเย็นอย่างไม่น่าเชื่อเลยนะ แต่ว่า...... ไม่มีความมั่นใจแบบนั้น จะทำได้จริงเหรอ? ถ้าเธอหยุดพี่ไม่ได้แล้วล่ะก็ [อาณาจักรแห่งเงา] แห่งนี้ก็ไม่มีทางหยุดหรอกนะ เข้าใจเรื่องนั้นอยู่แล้วใช่มั้ยจ๊ะ?"
เควิน "อือ...... และด้วยผลกระทบนั้น ก็จะทำให้โลกนี้ไม่มีทางหยุดลง...... แล้ว [อาณาจักรแห่งเงา] ก็จะเริ่มรุกล้ำเข้าสู่โลกแห่งความเป็นจริง...... ......อย่างนั้นสินะ?"
- ความจริงของความสัมพันธ์ระหว่าง [อาณาจักรแห่งเงา] และโลกแห่งความเป็นจริงอันน่าตระหนก เผยออกมาจากปากของเควิน
รูฟีน่า "หึหึ...... รู้ตัวเร็วดีนี่จ๊ะ หลายพันปีมานี่...... แรงอัดแน่นของ [อาณาจักรแห่งเงา] ดำเนินไปสู่ขีดสุดได้ ก็ด้วยการดึงเอาความปรารถนาของผู้คนมาเป็นของตน และเมื่อปลดปล่อยแรงดันภายในนั้นออกมา...... ก็จะทำให้มันเริ่มรุกล้ำเข้าสู่โลกแห่งความเป็นจริง"
เควิน "กะแล้วเชียว......"
รูฟีน่า "ไม่มีทางอยู่แล้วที่จู่ ๆ จะเปลี่ยนแปลงทุกสิ่งบนโลกได้ในทันที...... แต่มันค่อย ๆ รุกล้ำเข้าไปทีละนิดด้วยโปรเซสที่เหมือนกับการเปลี่ยนแปลงไปสู่โลกใบใหม่ ซึ่งท้ายที่สุดท้ายแล้ว ดวงวิญญาณหรือพวกมารร้ายทั้งหลายก็คงจะทะลักเข้าไปสู่โลกแห่งความเป็นจริง"
รีส "มะ ไม่จริง......"
รูฟีน่า "หึหึ...... แต่ลองคิดดูให้ดีสิจ๊ะ ว่ามันก็เป็นโลกที่ตอบสนองต่อความคิดหรือความปรารถนาของผู้คนได้สบาย ๆ เหมือนกัน ถ้าหากทุกคนอธิษฐานถึงสันติภาพหรือความสุขสมแล้วล่ะก็ อาจจะเปลี่ยนแปลงโลกให้เป็นอย่างที่คิดไว้ได้จริงก็ได้...... ไม่แน่ว่าการทำใจรับมันเข้ามาก็อาจจะเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกก็ได้นะ"
เควิน "......ไม่ล่ะ มันเป็นไปไม่ได้หรอก"
- รูฟีน่าประหลาดใจกับท่าทีของเควิน
เควิน "จากเหตุการณ์ [วงแหวนประกายแสง] ทำให้เข้าใจเลยว่ามันไม่ใช่เรื่องง่ายดายแบบนั้น สมบัติของเทพธิดา 『女神の至宝』 ที่ทำให้ความปรารถนาของผู้คนเป็นจริงได้แบบไม่มีข้อกำจัด...... ถึงจะรับเอาความเมตตากรุณานั้นมา มนุษย์ก็ไม่มีทางหลีกหนีการล่มสลายพ้น ซึ่งมันอาจจะเกิดขึ้นซ้ำไปซ้ำมาก็ได้?"
- สายตาของรูฟีน่าจ้องเขม็งราวกับจะกินเลือดกินเนื้อเควิน
เควิน "......แล้วเรื่องนั้น พี่ก็น่าจะรู้ดีที่สุด พี่ที่ถึงจะขึ้นเป็นอัศวินก็ไม่หวังพึ่งในพลังอำนาจ คิดพิจารณา ใช้ความพยายามอย่างเต็มที่ที่จะหาผลลัพธ์ที่ดีกว่า...... พี่ที่ดึงดันจะพาชั้นซึ่งอยากจะหายไปในความสิ้นหวังกลับมา...... คงเป็นเพราะสิ่งที่เกิดขึ้น ทำให้รู้ว่าโลกมันไม่ได้สะดวกสบายกับพวกเราสักเท่าไหร่ มีเพียงมนุษย์ที่จะทำให้มนุษย์ สร้างโลกที่เป็นอยู่ให้อ่อนโยนขึ้นได้ด้วยความตั้งใจที่จะนำไปสู่ผลลัพธ์ที่ดีกว่า...... ไม่คิดแบบนั้นบ้างเหรอ?"
รูฟีน่า ".................................................."
เควิน "เพราะตกลงไปที่ [แดนชำระ] ด้วยกันกับรีส จึงทำให้ชั้นรู้สึกถึงเรื่องนั้นได้สักที แล้วมันก็...... ทำให้ตระหนักได้อีกครั้งว่าชั้นมันก็แค่ตัวตนเล็กกระจ้อยร่อย ไม่เคยคิดพิจารณากระทั่งเจตนาที่พี่ยอมเสียสละตัวเองเพื่อช่วยชั้น...... ไม่เคยคิดพิจารณาที่จะให้อะไรกับแม่โดยไม่ต้องหนี...... ชั้นมันเหมือนเด็กขี้อ้อนไม่สิ้นกลิ่นน้ำนม ที่หวังจะได้รับการให้อภัยด้วยการไขว่คว้าหาแต่ [การลงโทษ]...... นั่นแหล่ะที่ทำให้ชั้น...... มองเห็นตัวชั้นในความเป็นจริง"
รีส "เควิน......"
เควิน "แต่ว่านะ...... ตอนนี้คิดว่าแค่นี้ก็พอแล้ว เพราะรู้สึกได้แล้วว่าในที่สุดก็มองเห็นสถานที่ที่พี่เคยยืนอยู่...... ทำให้มั่นใจที่จะหันไปทางนั้น แล้วค่อย ๆ เดินไป...... เพราะงั้นชั้นก็เลย...... รู้สึกยอมรับตัวเองในตอนนี้ได้สักที"
รูฟีน่า ".......................................... หึหึ ดูเหมือนว่าการรมยาจะได้ผลเกินไปนะ แต่ประเมิน [ฉัน] สูงเกินไปแบบนั้น จะดีหรือจ๊ะ? ที่นี่คือ [อาณาจักรแห่งเงา]...... คือดินแดนที่ความนึกคิดจะส่งผลกระทบต่อโลก ถ้าเธอในตอนนี้มาไม่ถึง [ฉัน] แล้วล่ะก็...... ไม่มีทางที่จะเอาชนะ [ฉัน] ได้หรอก"
รีส "ท่านพี่......"
เควิน "มันก็ คงจะเป็นแบบนั้นล่ะนะ ------ถ้านายเป็นแค่ตัวตนที่ทำให้พี่รูฟีน่าปรากฎตัวขึ้นอีกครั้งจริง ๆ ล่ะก็นะ"
- รูฟีน่ามีสีหน้าตกใจไม่น้อย รวมถึงคนอื่น ๆ ที่อยู่ที่นี่ด้วย
เควิน "ชั้น...... รู้ตัวตนที่แท้จริงของนายแล้ว ตัวตนที่ถูก [อาณาจักรแห่งเงา] ก็อปปี้ไปเมื่อครึ่งปีก่อน...... หลักซึ่งเป็นแกนกลางสำหรับโลกใบนี้ให้ดำรงอยู่ได้ด้วยตนเอง...... รวมเข้ากับความคิดคำนึงที่ได้ชื่อว่าพี่ [ตราบาป] ของชั้นนั่นเอง......!"
รูฟีน่า "!!"
- แสงสีแดงห่อหุ้มร่างของรูฟีน่า ค่อย ๆ ลอยขึ้นสู่ข้างบน
รูฟีน่า "คึ...... ไม่น่าเชื่อ......... ไม่น่าเชื่อ...... ว่าจะรู้ตัวถึงขนาดนั้น......!"
- ร่างของรูฟีน่าจางหายไป กลายเป็น [ตราบาป] ของเควิน
เควิน "ถ้าศัตรูเป็นแกแล้วล่ะก็...... ชั้นไม่คิดที่จะแพ้หรอก! เพื่อปลดปล่อยพี่ที่แกหลอกใช้อย่างหน้าไม่อาย...... ชั้นจะจัดการแกด้วยพลังทั้งหมดที่มี!"
"ฮ่าฮ่าฮ่า......
ได้ เควิน แกรแฮม......
ถ้าได้กินเจ้าซึ่งเป็นร่างต้นแล้วล่ะก็......
[ข้า] ก็จะสมบูรณ์แบบอย่างแท้จริง......"
- ภาพตัดมาที่เพื่อนซึ่งเผชิญหน้ากับโกลเดียสรุ่นศูนย์
"ณ ตอนนี้ เหล่าผู้รับใช้ของข้า
กำลังไปต้อนรับพวกพ้องของพวกเจ้าพอดี......"
- ภาพตัดมาที่เพื่อนซึ่งเผชิญหน้ากับ T-IIเกชเปนสท์
"หากไม่มีชัยเหนือทั้งหมดทั้งมวลแล้วล่ะก็
วันพรุ่งนี้ของพวกเจ้าก็ไม่มีทางมาถึง......"
- ภาพตัดมาที่เพื่อนซึ่งเผชิญหน้ากับ R-ไทคูน
"จงกลืนกินตัวตนทั้งหลายเหล่านั้น
ในสถานะเสบียงอาหารของ [อาณาจักรแห่งเงา] ซะ......"
- [ตราบาป] สำแดงฤทธิ์รุนแรงขึ้น
"นามของข้าคือ [อนิม่า (เจตนารมณ์)] 『意志(アニマ)』......
หลักซึ่งเป็นแกนกลางที่จะตัดสินโลก!"
เควิน "เพื่อที่ชั้นจะได้ยอมรับในตัวชั้นเอง......! และก็เพื่อสัญญาที่ทุกคนจะต้องปลอดภัยกลับมาพบกันใหม่อีกครั้ง!"
รีส "พวกเรา...... จะเอาชนะนายให้ดู!"

ปราสาทมายา / ประตูขวา 『幻影城 /右門の道』
- โกลเดียสรุ่นศูนย์ + แอโรว์ แองเจล*4-
- 『ゴルディアス零式+アローアンヘル*4』 -
**แนะนำ ให้ใส่เครื่องประดับป้องกัน "มืดมิด", "เป็นหิน", "หมดสติ" และ "ตายคาที่" ไว้จะง่ายขึ้นค่ะ**

**ระวัง เมื่อเปิดฉากมา ฝ่ายศัตรูจะได้โจมตีก่อนค่ะ**
**แนะนำ ให้จัดตัวละครที่มี S-craft กินอาณาเขตเข้ากลุ่ม สะสม CP เตรียมให้พร้อมแล้วใช้ S-break จะง่ายขึ้นค่ะ**

**แนะนำ ให้ปราบแอโรว์ แองเจลก่อน เพราะเจ้านางฟ้ายิงศรพวกนี้ นอกจากการท่า "กอร์กอน แอโรว์" 『ゴルゴンアロー』 ที่ทำให้ติดพิษและเป็นหินแล้ว ยังสามารถใช้ท่า "อาร์เทมิส แอโรว์" 『アルテミスアロー』 โจมตีเราและสกัดกั้นการร่ายอาร์ทของฝ่ายเราได้ค่ะ**
**การโจมตีปกติของโกลเดียสรุ่นศูนย์ มีผลทำให้เราติดหมดสติ แต่ถ้าใส่เครื่องประดับป้องกันมาพร้อม ก็ไม่ต้องกังวลเลยค่ะ**
**โกลเดียสรุ่นศูนย์ เป็นร่างต้นแบบของปาเทล=มาเทล ดังนั้นจึงมีท่า "ดับเบิ้ล บัสเตอร์ แคนนอน" (เส้นตรง+มืดมิด) อย่างไม่ต้องสงสัย นอกจากนั้นยังมีท่า "กิกันท์ เพรส" 『ギガントプレス』 (โจมตี+ตายคาที่) อีกด้วย**
**เนื่องจากศัตรูแพ้ทางอาร์ทคุณสมบัติเวลา แนะนำ ให้ตัวละครสายอาร์ท ใช้อาร์ทกินอาณาเขตอย่าง "เดธ สครีม" หรือ "คาลามิตี้ บลาสต์" ปราบจะง่ายขึ้นค่ะ**

**โกลเดียสรุ่นศูนย์ สามารถเรียกแอโรว์ แองเจลมาเพิ่มได้ค่ะ**

ปราสาทมายา / ประตูซ้าย 『幻影城 /左門の道』
- T-IIเกชเปนสท์ + เบลด แองเจล*4-
- 『T-Ⅱゲシュペンスト+ブレードアンヘル*4』 -
**ระวัง เมื่อเปิดฉากมา ฝ่ายศัตรูจะได้โจมตีก่อนค่ะ**
**แนะนำ ให้จัดตัวละครที่มี S-craft กินอาณาเขตเข้ากลุ่ม สะสม CP เตรียมให้พร้อมแล้วใช้ S-break จะง่ายขึ้นค่ะ**

**แนะนำ ให้ใช้อาร์ทสนับสนุนอย่าง "โซดิแอค" (ทั่วฉาก+STR&DEF+25%) และ "คล็อกอัฟ รุ่นปรับปรุง" ใส่ฝ่ายเรา จะทำให้การต่อสู้ง่ายขึ้นค่ะ**
**แนะนำ ให้ปราบเบลด แองเจิลก่อน เพราะถ้าปล่อยทิ้งไว้เจ้านางฟ้าถือดาบพวกนี้จะเพิ่ม STR ของตัวเองด้วยท่า "กองทัพสวรรค์บัญชาการโจมตี" 『天軍突撃命令』 ซึ่งถ้าฝ่ายเราโดนรุมหลายทางแล้วล่ะก็ อาจจะเกมโอเวอร์ได้ง่าย ๆ ค่ะ**
**T-IIเกชเปนสท์ หรือ ทรอยเมไร-II โอเวอร์มัพเพ็ต (ตุ๊กตาสงคราม) ซึ่งเป็นบอสใหญ่ในภาค FC แน่นอนว่าต้องมีท่าต่าง ๆ ที่เหมือนกันอยู่แล้ว โดยเฉพาะท่า "เจโนไซด์" 『ジェノサイド』 (ทั่วฉาก) ที่พลังโจมตีรุนแรงไม่ใช่เล่นค่ะ**
**เนื่องจากศัตรูแพ้ทางอาร์ทคุณสมบัติเวลา ดังนั้นใช้อาร์ทพลังโจมตีรุนแรงอย่าง "อบิส ฟอล" หรือ "คาลามิตี้ บลาสต์" ปราบจะง่ายขึ้น แต่ทั้งนี้ต้องมั่นใจว่าคนที่ร่ายอาร์ทนั้น เทิร์นได้เร็วและเทิร์นทันก่อนที่จะโดนท่า "AAแคนเซิ่ลเลอร์" 『AAキャンセラー』 (อาณาเขตกว้าง+ยกเลิกการร่ายอาร์ท) หรือท่า "ดีเลย์ แคนน่อน" 『ディレイキャノン』 (อาณาเขตกว้าง+AT-delay) ของT-IIเกชเปนสท์ค่ะ**

**T-IIเกชเปนสท์ สามารถเรียกเบลด แองเจลมาเพิ่มได้ค่ะ**

ปราสาทมายา / ประตูหน้า 『幻影城 /正門の道』
- R-ไทคูน + ร็อด แองเจล*4-
- 『R-タイクーン+ロッドアンヘル*4』 -
**แนะนำ ให้ใส่เครื่องประดับป้องกัน "สับสน", "หมดสติ" และ "ตายคาที่" ไว้จะง่ายขึ้นค่ะ**

**ระวัง เมื่อเปิดฉากมา ฝ่ายศัตรูจะได้โจมตีก่อนค่ะ**
**แนะนำ ให้จัดตัวละครสายโจมตีกายภาพและสายอาร์ทมาอย่างละ 2 คน เพื่อคอยซัพพอร์ตกันและกัน และถ้าให้ดีสะสม CP มาให้พร้อมจะง่ายขึ้นค่ะ**

**แนะนำ ให้ใช้อาร์ทสนับสนุนอย่าง "โซดิแอค" (ทั่วฉาก+STR&DEF+25%) และ "คล็อกอัฟ รุ่นปรับปรุง" ใส่ฝ่ายเรา จะทำให้การต่อสู้ง่ายขึ้นค่ะ**
**แนะนำ ให้ปราบเจ้านางฟ้าถือคฑาอย่างร็อด แองเจลก่อน จะง่ายขึ้นค่ะ เพราะเจ้าตัวนี้นอกจากจะใช้ท่า "เฮฟเว่น สลัมป์" 『ヘヴンスラップ』 (โจมตี+สับสน) แล้ว ยังสามารถใช้อาร์ทคุณสมบัติเวลาอย่าง "ไวท์เกเฮนน่า" และ "เดธ สครีม" ใส่เราได้ค่ะ**
**เนื่องจาก HP ของ R-ไทคูนนั้นสูงมาก (HP 78257 หน่วย) แถมการโจมตีด้วยอาร์ทแทบจะไม่มีผลเลย เพราะไม่แพ้ทางอาร์ทคุณสมบัติใด ๆ พร้อมทั้งร็อด แองเจลก็สามารถใช้อาร์ท "เจเนซิก บาเรีย" (ทั่วฉาก+ป้องกันการโจมตีจากอาร์ท) สนับสนุนฝ่ายตัวเองได้ ดังนั้น ถ้าเน้นจัดตัวละครมาแบบไม่สมดุล จะกลายเป็นการต่อสู้ที่ยืดเยื้อทำให้ฝ่ายเราเสียเปรียบได้ค่ะ**
**ระวัง ท่า "เพรชเชอร์ เอ็กโพลชั่น" 『プレッシャーエクスプロージョン』 (ทั่วฉาก+ยกเลิกไม่ได้) ถ้าเห็นศัตรูชาร์จ ให้รีบเตรียมการป้องกันหรือฟื้นฟูได้เลยค่ะ**
**การโจมตีของ R-ไทคูน ส่วนใหญ่เป็นท่ากินอาณาเขตและทำให้ฝ่ายเราร่นไปอยู่ในแนวหลัง ดังนั้น ต้องคำนวณให้ดี หากจะใช้อาร์ทฟื้นฟูหรือสนับสนุนฝ่ายเราค่ะ**

**R-ไทคูน สามารถเรียกร็อด แองเจลมาเพิ่มได้ค่ะ**
- สู้ครบ 3 ศึก จะมีคำสั่งให้เซฟ เมื่อไปต่อจะเกิดการต่อสู้ขึ้นในต่างมิติกับ Last Boss ค่ะ

ปราสาทมายา / ประตูใหญ่ 『幻影城 /大門の道』
- อนิม่า=มุนดี -
- 『アニマ=ムンディ』 -
**แนะนำ ให้ใส่เครื่องประดับป้องกัน "เยือกแข็ง" และ "หมดสติ" ไว้จะง่ายขึ้นค่ะ**
▼อนิม่า มุนดี 『アニマ=ムンディ』
HP 150000 / ดิน100, น้ำ100, ไฟ100, ลม100, เวลา100, อากาศ100, มายา100

อัญเชิญมารแดนชำระ 『煉魔招来』 = ป้องกันการโจมตีทุกประเภท+เรียกเสาทั้ง 7 ต้นออกมา (เทิร์นแรก) / เรียกแกรน กลีมัวร์ออกมา (เทิร์นที่ 2 เป็นต้นไป)
เซ็พต์ ไครซิส 『セプトクライシス』 = ทั่วฉาก (เฉพาะกรณีที่มีเสาเหลืออยู่บนฉาก ยิ่งเหลือเยอะ ความเสียหายก็ยิ่งมาก) ※ยกเลิกไม่ได้นอกจากทำลายเสาให้หมดทุกต้น
แยกสวรรค์ สุริยคราส 『裂空斬 陰の衝』 = อาณาเขตแคบ+ทำให้ติด "หมดสติ"
ดาบนอกรีตเซคู วอร์ 『邪法剣ゼク・ウォー』 = เส้นตรง+AT-delay ※ยกเลิกได้
ธนูมารสีครามนากู รูบ 『魔蒼弓ナグ・ルブ』 = ทั่วฉาก+ทำให้ติด "เยือกแข็ง" ※ยกเลิกได้
คลื่นแสงมารเซนาดูว์ 『邪光波セナーデュウ』 = ยกเลิก Status ที่เพิ่มขึ้นของฝ่ายเรา
ปืนใหญ่ตราบาปเมกิเดลุส 『聖痕砲メギデルス』 = ทั่วฉาก+ทำลายพื้น (ขณะชาร์จคราฟท์ DEF & ADF down) ※ยกเลิกไม่ได้
มารเวลาสวอลเดล 『時魔ズウォルデル』 = ทั่วฉาก+ทำให้ติด "STR down"
มารสวรรค์เมอีฟคลาว 『空魔メイヴクラウ』 = ทั่วฉาก+ทำให้ติด "MOV down"
เสียงสังหารซีเมอดา 『裂音シーメーダ』 = ทั่วฉาก+สกัดกั้นการร่ายอาร์ท
เช้นจ์ แอทริบิวต์ 『チェンジアトリビュート』 = เปลี่ยนคุณสมบัติที่แพ้ทาง (DEF up ขณะเปลี่ยนคุณสมบัติ)

- แนะนำ ให้ตั้ง S-Break ของเควินเป็น S-craft "แกรล สเฟียร์" รวมทั้งสวมใส่เครื่องประดับเพิ่ม CP อัตโนมัติ อย่าง "สุดยอด เข็มขัดวิญญาณสงคราม" ฯลฯ จะได้ไม่ต้องกังวลกับการเก็บ CP ค่ะ
- แนะนำ ให้ใช้อาร์ทสนับสนุนฝ่ายเราอย่าง "โซดิแอค" หรือ "คล็อกอัฟ รุ่นปรับปรุง" ใส่ฝ่ายเรา เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการต่อสู้ค่ะ

- ในเทิร์นแรก อนิม่า มุนดีจะใช้ท่า "อัญเชิญมารแดนชำระ" เรียกเสา (พิลล่าร์) ทั้ง 7 ต้นออกมา พร้อมกับกางบาเรีย "ป้องกันการโจมตีทุกประเภท" ซึ่งถ้าเสายังอยู่แม้แต่เพียงต้นเดียว อนิม่า มุนดีจะยังคงสภาพที่ป้องกันโจมตีทุกประเภท และจะร่ายอาร์ทที่มีอานุภาพรุนแรงในเทิร์นถัดไปอย่าง "เซ็พต์ ไครซิส" ดังนั้น ไม่ว่าจะยังไงก็ต้องกำจัดเสาให้หมดทุกต้นค่ะ
- เมื่อจัดการพิลล่าร์ทั้งหมดลงได้ อนิม่า มุนดีจะสยายปีกตราบาป และเริ่มเรียกแกรน กลีมัวร์ออกมา และถือว่าการต่อสู้ที่แท้จริงกำลังจะเริ่มขึ้น ให้งัดทุกอย่างที่มีออกมาให้หมดไม่ต้องกั๊กเลยค่ะ

- เมื่ออนิม่า มุนดีเหลือพลังน้อยกว่าครึ่งนึง จะชาร์จท่า "ปืนใหญ่ตราบาปเมกิเดลุส" (ยกเลิกไม่ได้) ที่จะโจมตีทั่วฉากเมื่อเทิร์นของมันมาถึง สามารถป้องกันด้วย S-craft "แกรล สเฟียร์" ของเควิน หรืออาร์ทสนับสนุนอย่าง "เอิร์ธวอลล์" และขณะที่อนิม่า มุนดีชาร์จท่านี้อยู่ จะติด DEF & ADF down ดังนั้น ให้ฉวยโอกาสนี้ให้ทุกคนรุมโจมตีเท่าที่จะทำได้ค่ะ
- อนิม่า มุนดีสามารถเปลี่ยนคุณสมบัติที่แพ้ทางได้ด้วยท่า "เช้นจ์ แอทริบิวต์" และยังผลให้ DEF up ด้วย ดังนั้น เมื่อเห็นศัตรูใช้ท่านี้ให้ตรวจสอบคุณสมบัติที่แพ้ทางใหม่ทุกครั้ง เพื่อจะได้กระหน่ำโจมตีด้วยอาร์ทค่ะ (สังเกตได้ว่า สีเกราะกำบังจะเปลี่ยนไปตามคุณสมบัติ หรือจะส่งดูด้วยควอทซ์ "ข้อมูล" ก็ได้ โดยจะคุณสมบัติที่แพ้ทางจะเพิ่มขึ้นเป็น 150 หน่วยค่ะ)

- อนิม่า มุนดี สามารถเรียกแกรน กลีมัวร์มาเพิ่มได้ค่ะ

▽แกรนด์ พิลล่าร์ 『グランドピラー』
HP 16000 / ดิน100, น้ำ0, ไฟ0, ลม0, เวลา0, อากาศ0, มายา0
▽วอเตอร์ พิลล่าร์ 『ウォートピラー』
HP 16000 / ดิน0, น้ำ100, ไฟ0, ลม0, เวลา0, อากาศ0, มายา0
▽เฟลม พิลล่าร์ 『フレイムピラー』
HP 16000 / ดิน0, น้ำ0, ไฟ100, ลม0, เวลา0, อากาศ0, มายา0
▽วินด์ พิลล่าร์ 『ウィンドピラー』
HP 16000  / ดิน0, น้ำ0, ไฟ0, ลม100, เวลา0, อากาศ0, มายา0
▽โครนอส พิลล่าร์ 『クロノスピラー』
HP 16000 / ดิน0, น้ำ0, ไฟ0, ลม0, เวลา100, อากาศ0, มายา0
▽เฮฟเว่น พิลล่าร์ 『ヘブンスピラー』
HP 16000 / ดิน0, น้ำ0, ไฟ0, ลม0, เวลา0, อากาศ100, มายา0
▽แฟนธ่อม พิลล่าร์ 『ファントムピラー』
HP 16000 / ดิน0, น้ำ0, ไฟ0, ลม0, เวลา0, อากาศ0, มายา100

- เสาซึ่งเป็นตัวแทนของคุณสมบัติ (ธาตุ) ทั้ง 7 หากปล่อยทิ้งไว้จะทำให้อนิม่า มุนดีอยู่ในสภาพป้องกันการโจมตีทุกรูปแบบ และร่ายอาร์ท "เซ็พต์ ไครซิส" ซึ่งมีพลังโจมตีรุนแรงมาก ซึ่งการกำจัดเสา 1 ต้น ทำให้พลังของอาร์ท "เซ็พต์ ไครซิส" ลดลง แต่ไม่ว่ายังไงก็จำเป็นต้องปราบให้หมด ด้วยการโจมตีกายภาพหรือด้วยอาร์ทตามคุณสมบัติที่เสาแต่ละต้นแพ้ทางค่ะ
- แนะนำ ให้ใช้ตัวละครสายโจมตีกายภาพที่มี S-craft กินอาณาเขตจะดีที่สุดค่ะ
- ระวัง อาร์ทที่เสาแต่ละต้นจะโจมตีเรานั้น เป็นอาร์ทระดับสูงตามคุณสมบัติของตัวเองทั้งสิ้นค่ะ

▽แกรน กลีมัวร์ 『グラン・グリモア*2』
HP 7490 / ดิน100, น้ำ100, ไฟ100, ลม100, เวลา140, อากาศ140, มายา140

เป็นดั่งแสงสว่าง 『ヒカリトナル』 = ทำให้ติด "VANISH"
เป็นดั่งความมืดมิด 『ヤミトナル』 = ระเบิดตัวเองโจมตี+ทำลายพื้น

- เมื่อเข้าไปใกล้แกรน กลีมัวร์มันจะใช้ท่า "เป็นดั่งแสงสว่าง" ทำให้เราติด VANISH และจะระเบิดตัวเองด้วยท่า "เป็นดั่งความมืดมิด" ทำให้พื้นที่ยืนอยู่หายไปเมื่อโดนปราบ ดังนั้น แนะนำให้จบการต่อสู้กับแกรน กลีมัวร์ด้วยการโจมตีในระยะไกลจะดีที่สุดค่ะ
- เมื่อปราบได้ ร่างของอนิม่า มุนดีจะมลายหายไป ตราบาปที่เคยส่องแสงเรืองรองสีแดงกลับกลายมาเป็นสีฟ้าสุกใส ฉับพลันแสงสีขาวอันอบอุ่นอ่อนโยนแผ่กระจายไปทั่ว เบื้องหน้าของเควินและรีส ณ ตอนนี้ คือลานประลองที่เคยประมือกับอัศวินนิลกาฬ

ลานประลอง 『狭間』
- กลีบดอกไม้โปรยปราย ตัดกับบรรยากาศเวิ้งว้างว่างเปล่าที่อยู่รายรอบ เควินและรีสยืนมองภาพที่เห็นเพียงลำพัง 2 คน
- "......ที่นี่คือสถานที่ที่แยกตัวออกมาที่พี่สร้างขึ้นหลังจากที่ได้หารือกับเขาน่ะ หึหึ...... มีประโยชน์อย่างที่คิดจริง ๆ" เสียงหนึ่งดังขึ้น ร่างของ "รูฟีน่า" 『ルフィナ』 ในชุดอัศวินจอกดาราปรากฎขึ้น แสงสีฟ้าเรืองรองห่อหุ้มดวงวิญญาณของเธอไว้
เควิน "เครื่องแบบอัศวิน...... ......ในที่สุด...... ก็หลุดพ้นจาก [ตราบาป] สักทีสินะ"
รูฟีน่า "หึหึ ก็ได้พวกเธอช่วยนั่นล่ะจ้ะ ทั้ง 2 คน...... พยายามได้ดีมากจริง ๆ นะ ไม่ยอมย่อท้อต่อความยากลำบากจนวินาทีสุดท้าย...... สมแล้วที่เป็นน้องชายกับน้องสาวที่น่าภาคภูมิใจของพี่♪"
รีส "......ท่านพี่........."
เควิน "......ฮะฮะ...... จริง ๆ เล้ย ไม่เปลี่ยนไปเลยนะ แล้วนี่...... [ตราบาป] หายไปหมดแล้วใช่มั้ย?"
รูฟีน่า "ยังจ้ะ...... มันยังอยู่ในตัวพี่อยู่ ถึงจะโดนสะกดเอาไว้เพราะพวกเธอเอาชนะได้ก็จริง...... แต่ถ้าปล่อยทิ้งไว้แบบนี้ เดี๋ยวพลังของมันก็คงจะกลับคืนมาอีก"
เควิน "งั้นเรอะ......"
รีส "ละ แล้วต้องทำยังไง......"
รูฟีน่า "......เพราะงั้นนะ เควิน พี่อยากให้มันยุติลงด้วยมือของเธอ"
- เควินและรีสอึ้ง แม้จะไม่อยากได้ยินประโยคนี้ แต่ก็เข้าใจในสิ่งที่รูฟีน่าพูดได้ในทันที
รูฟีน่า "ใช่แล้วจ้ะ หมายถึงตัวพี่ที่อยู่ตรงนี้นี่แหล่ะ ถ้าลงมือแล้ว [ตราบาป] ที่ถูกโลกใบนี้ก๊อปปี้ก็จะหายไปโดยสมบูรณ์ คุณเซเลสต์...... ใช่มั้ยนะ? พลังของเธอคนนั้นก็คงจะกลับคืนเหมือนกัน แล้วก็คงจะช่วยพาพวกเธอทุกคนกลับไปยังโลกเดิมได้แน่นอน"
รีส "ตะ แต่ว่า...... เรื่องนั้นมัน......!"
เควิน "............................ นี่ พี่ครับ...... ......มันจำเป็นต้องทำสินะ?"
- เควินถาม แม้ใบหน้าจะมีรอยยิ้มแต่ก็แฝงไว้ด้วยความลำบากใจ
รูฟีน่า "จ้ะ...... ไม่มีตัวเลือกอื่น ถึงตัวเธอเมื่อ 5 ปีก่อน จะทำมันลงไปเพราะขาดสติก็ตาม...... แต่ครั้งนี้ เธอต้องลงมือด้วยเจตนารมณ์ของตัวเองแล้วนะจ๊ะ"
เควิน "..................................."
รีส "ท่านพี่...... ใจร้าย......! จะให้เควิน...... ทำเรื่องแบบนั้นอีกน่ะ......! อีกอย่าง....... อีกอย่างนึง...... ถ้าเป็นแบบนั้นท่านพี่ก็จะ......!"
รูฟีน่า "ขอโทษนะ รีส...... แต่เพราะไม่ว่ายังไง มันเป็นสิ่งที่พี่ต้องพูด"
- "------เควิน แกรแฮม ฉันจะพูดอีกเป็นครั้งสุดท้าย ทำลายฉัน แล้วกลับไปยังโลกเดิมพร้อมกับทุกคนซะ เป็นคำแนะนำสุดท้ายที่ฉันพอจะให้ได้ในฐานะพี่สาว ในฐานะอัศวินรุ่นพี่ และในฐานะตัวแทนของแม่เธอ......" ไม่ว่าน้ำตาของรีสผู้เป็นน้องสาวจะเอ่อล้นแค่ไหน ไม่ว่าเควินจะเสียใจแค่ไหน รูฟีน่าก็ยังคงเด็ดเดี่ยวและอ่อนโยน กล้าที่จะพูดในสิ่งที่จำเป็นต้องทำออกมา แม้จะต้องเสียสละตัวเองโดยยอมสูญสลายไปก็ตาม
รีส "......ฮึก........."
เควิน ".........ฮะฮะ......... จริง ๆ เล้ย...... เป็นพี่ที่ใจดี แต่ก็เข้มงวดเกินใคร...... แต่...... เพราะอย่างนั้นล่ะนะถึงจะเป็นพี่รูฟีน่า"
- เควินหยิบโบว์กันเล็งไปที่รูฟีน่า
รีส "เควิน......!"
เควิน "โทษทีนะ รีส...... ที่ต้องจัดการพี่สาวของเธอ...... ด้วยมือคู่นี้ถึง 2 ครั้ง......"
รีส "ถะ ถ้าอย่างนั้น...... ถ้าอย่างนั้นฉันก็จะยิงด้วย!"
- เควิน รูฟีน่าถึงกับตกใจกับการตัดสินใจของรีส
รีส "ฉะ ฉัน...... ไม่อยากถูกทั้ง 2 คนทิ้งไว้อีกแล้ว......! ไม่อยากเอาแต่เฝ้าดู......! ไม่อยากเอาแต่เฝ้ารออย่างเดียว! ถ้ามันจำเป็นแล้วล่ะก็...... คราวนี้ฉัน...... จะขอแบกรับบาปไปพร้อม ๆ กับเควินด้วย!"
เควิน "รีส......"
รูฟีน่า "หึหึ...... อย่างนี้นี่เอง 5 ปีแล้วเหรอ...... เติบโตขึ้นมากจริง ๆ นะจ๊ะ ถ้าจำไม่ผิดเธอก็เป็นลูกศิษย์ของไอน์เหมือนกับเควินใช่มั้ยจ๊ะ? หึหึ...... ต้องขอบคุณไอน์ซะแล้วสิ"
รีส "ทะ ท่านพี่......"
รูฟีน่า "......พี่คงไม่พูดอะไร เควิน เธอตัดสินใจได้เลยจ้ะ"
เควิน "ดะ เดี๋ยวสิ! เรื่องนี้ชั้น...... ชั้นควรจะต้องแบกรับคนเดียวไม่ใช่รึไง!? ทำไมรีสจะต้อง......"
รูฟีน่า "------นายเป็นผู้ชายไม่ใช่เรอะ! อย่าปอดแหกไปหน่อยเลยน่า!"
- เควินกับรีสสะดุ้งโหยง
รูฟีน่า "ก็ถ้าเป็นไอน์ล่ะก็ คงจะตวาดประมาณนี้ล่ะมั้ง เอาเถอะ ท้ายที่สุดแล้วพี่ว่า ให้เควินเป็นคนเลือกเองดีกว่า"
- เควินกับรีสเหงื่อตก หลุดยิ้มออกมา
รีส "ทะ ท่านพี่ล่ะก็......"
เควิน "ฮะฮะ...... เฮ้อ...... .....เหลือเกินจริง ๆ......"
- "รีส...... มาทางนี้สิ มาถือโบว์กัน...... ด้วยกัน 2 คนเถอะ" เควินยิ้ม พลางยื่นมือไปหารีส "......อื้ม.........!" รีสรับคำ จับโบว์กันด้วยกันกับเควินแล้วเล็งไปที่รูฟีน่า
รูฟีน่า "หึหึ...... พี่นี่ยังใช่ไม่ได้เลย ไม่ทันนึกว่า..... จะมีตัวเลือกแบบนั้นด้วย"
เควิน "เอ๋......"
รีส "ท่านพี่......?"
รูฟีน่า "นี่ เควิน...... เมื่อกี้นี้บอกว่า จะเดินไปให้ถึงที่ที่พี่เคยยืนอยู่ใช่มั้ย?"
เควิน "อะ อือ...... ถึงปลายทางมันจะดูยาวไกล...... แต่ก็ตั้งใจว่าจะทำแบบนั้นนั่นแหล่ะ"
รูฟีน่า "ถึงมันจะเป็นสิทธิ์ของเธอ..... แต่ถ้าเป็นไปได้ก็อยากให้คิดดูใหม่นะ พี่เอง...... ก็เดินมาอย่างสับสน ทุกข์ทรมานใจ ......โลกที่ไม่ว่าใครก็มีความสุขได้นั่นน่ะ รู้ทั้งรู้ว่ามันไม่มีอยู่ ทุกวันต้องตะเกียกตะกายแบบไม่คิดชีวิตว่าจะเข้าใกล้มันได้หรือเปล่า......"
เควิน "......ก็ตั้งใจไว้แบบนั้นอยู่แล้ว"
รีส "ฉันด้วย...... ถ้าเป็นไปได้ฉันเองก็อยากจะเดินไปบนเส้นทางเดียวกับท่านพี่"
รูฟีน่า "หึหึ...... ช่วยไม่ได้ ......ถ้าอย่างนั้น...... ถ้าอย่างนั้นอย่าพูดออกมาแล้วกันว่าสถานที่ที่พี่เคยอยู่น่ะมันเป็นเรื่องเล็ก แล้วมุ่งมั่นไปสู่สถานที่แห่งนั้นที่พี่เคยวาดฝันไว้และยังไปไม่ถึง ถ้าเป็นพวกเธอแล้วล่ะก็...... จะต้องทำได้แน่นอน"
รีส "ท่านพี่......"
เควิน "ฮะฮะ...... อยู่ ๆ ก็มาเรียกร้องอะไรที่ดูจะลำบากลำบนซะงั้น...... แต่ก็..... เข้าใจแล้วล่ะ ถ้าพูดถึงขนาดนั้น ยังไงก็จะลองมุ่งมั่นดู"
รีส "......อื้ม ฉันสัญญา"
รูฟีน่า "หึหึ...... ต้องด้วยก้าวย่างของพวกเธอนะ ------เอาล่ะ เดี๋ยวคนอื่นต้องมารอมันจะไม่ดี เควิน รีส ......ได้เวลาแล้วรบกวนด้วยนะจ๊ะ"
เควิน "......อือ.............."
รีส "...............อืม"
- เควินกับรีสยกโบว์กันขึ้น รูฟีน่าอ้าแขนรอรับ
รีส "......ฮึก........."
เควิน "ไม่เป็นไร...... ชั้นอยู่นี่...... ช้า ๆ นะ ...... นั่นล่ะ...... ค่อย ๆ ไม่ต้องรีบ"
รูฟีน่า "หึหึ...... ขอให้เทพธิดาชี้ทางให้แก่พวกเธอทั้ง 2 คนด้วยเถิด...... เควิน...... ฝากรีสด้วยนะ"
เควิน "......อือ วางใจเถอะ ขอบคุณ...... สำหรับทุกอย่าง"
รีส "ทะ ท่านพี่...... หนู...... หนู......"
รูฟีน่า "หึหึ...... รีสก็ด้วย ฝากเควินด้วยนะ ขอให้ทั้ง 2 คน...... สนิทสนมกัน อยู่ดีมีสุขตลอดไปนะจ๊ะ"
รีส "......ทะ ท่านพี่...... ......อื้ม......! ไม่ต้องห่วง...... เพราะงั้น......!"
เควิน "ลาก่อน...... ......พี่รูฟีน่า......"
- ลูกธนูพุ่งออกไป ร่างของรูฟีน่าลอยขึ้นแล้วมลายหายไปพร้อมกับตราบาป กลีบดอกไม้ที่แสนสวยงามจากร่างของรูฟีน่าค่อย ๆ ร่วงหล่น รีสถึงกับกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่
เควิน "......รีส...... ไม่เป็นไรนะ สักวันหนึ่ง...... พวกเราเองก็จะไปถึงเหมือนกัน ไปถึงสถานที่ที่พี่วาดฝัน...... และตั้งใจจะไปให้ถึง...... ไม่แน่ว่า...... พี่อาจจะแค่มุ่งหน้าไปก่อนแล้วก็ได้...... ......เพราะงั้น......... คงจะได้พบกันอีก...... แน่นอน"
รีส "ฮือออออ...... ฮือออออออ...... ฮือออออออออออออออออ!"

ปราสาทมายา 『幻影城 』
- เสียงพวกพ้องปลุกเควินและรีสให้ฟื้นขึ้นมา ทุกคนมีสีหน้าเป็นห่วงที่พอการต่อสู้จบลงเควินกับรีสก็หมดสติไปเฉย ๆ ค่ะ
เควิน "หมดสติ......!?"
รีส "มะ ไม่น่าเชื่อ......"
เซเลสต์ "คิดว่า...... น่าจะโดนเรียกไปยังเขตแดนที่ [เธอ] สร้างขึ้นเฉพาะแค่ดวงจิตกระมังคะ ......แล้วเมื่อสักครู่นี้ พลังของข้าพเจ้าก็ได้กลับคืนมาแล้วทั้งหมดด้วยค่ะ ท่านเควินคะ...... เกิดอะไรขึ้นกันแน่คะ"
- เซเลสต์ปรากฎกายพร้อมกับเอ่ยถาม เควินจึงอธิบายเรื่องที่เกิดขึ้นให้ฟัง ทุกคนได้ยินแล้วก็รู้สึกว่ารูฟีน่าเป็นผู้หญิงที่เข้มแข็งมาก ขนาดเซเลสต์เองก็ยังอยากเจอรูฟีน่าสักครั้งเลยค่ะ
- เซเลสต์ยังกล่าวต่ออีกว่า เมื่อ [ตราบาป] หายไป [อาณาจักรแห่งเงา] จึงสูญเสียผู้เป็นนายไป และจะกลับสู่สภาพที่ไม่เสถียรอีกครั้ง ทำให้ [ปราสาทแห่งเงา] แห่งนี้รักษาสภาพไว้ไม่ได้และจะหายไปในที่สุด รวมไปถึง [ชั้นดารา] (ยกเว้น [สวนแห่งนักพรต]) ก็คงจะหายไปเหมือนกัน ซึ่งนั่นหมายความว่าเวลาของพวกเรานั้นเหลือน้อยเต็มทีแล้วค่ะ
(ตรงนี้เร็นจะรู้อยู่แล้วว่าต้องเป็นแบบนี้ เอสเทลก็เลยบ่นอุบว่าถ้ารู้ก็น่าจะบอกกันก่อนค่ะ)
โยชัวร์ "ถ้าอย่างนั้น รีบ ๆ หนีออกไปด้วยอัลเซยูน่าจะดีกว่านะครับ"
เซเลสต์ "ไม่ต้องก็ได้ค่ะ เพราะเดี๋ยวข้าพเจ้าจะเปิด [ประตูสวรรค์] 『天上門』 ขึ้นมาให้ที่นี่เลย"
รีส "เอ๊ะ......!?"
เควิน "[ประตูสวรรค์]...... ที่อยู่ในพระคัมภีร์นะเรอะ?"
เซเลสต์ "ค่ะ...... มันก็คือประตูที่เป็นคู่ตรงข้ามกับ [ประตูแดนชำระ] 『煉獄門』 ซึ่งเชื่อมระหว่างโลกและสวรรค์เข้าด้วยกัน ถึงประตูนั้นจะเป็นของเลียนแบบ แต่ก็ถูกเตรียมเอาไว้ที่ด้านในสุดของสถานที่แห่งนี้พอดี ดูเหมือนว่าเธอคนนั้นที่หลอมรวมกับ [จ้าวแห่งเงา] จะเป็นคนเตรียมเอาไว้ให้น่ะค่ะ"
- เควินกับรีสได้ฟังก็ซาบซึ้งในสิ่งที่รูฟีน่าเตรียมการเอาไว้ให้ ซึ่งถ้าผ่านประตูบานนั้นไป ทุกคนก็จะกลับสู่โลกเดิมได้ค่ะ
- จากนั้น เซเลสต์จะเรียก [ประตูสวรรค์] ออกมา แสงสีทองเรืองรองลอดผ่านเข้ามา บันไดค่อย ๆ ทอดยาวลงมายังเบื้องล่างที่พวกเควินยืนอยู่
เซเลสต์ "คิดว่าน่าจะกลับไปยังสถานที่ที่ใกล้กับตอนที่พวกท่านแต่ละคนโดนดึงตัวเข้ามา สำหรับท่านที่อยู่บนยาน ก็คงจะปรากฎตัวขึ้นภายในยานตรงไหนสักแห่งกระมังคะ"
- และแล้ว เวลาที่ทุกคนต้องจากกันก็มาถึง
เอสเทล "......ต้องจากกัน แล้วสินะ"
คลอเซ่ "นั่นสิคะ......"
ทีต้า "เอ๊ะ เอ๋...... ถึงเวลาแล้วเหรอคะ!?"
อาเนราส "ระ รู้สึก...... โหวง ๆ ยังไงไม่รู้แฮะ......"
โอลิเวียร์ "ฮะฮะ ไม่มีเวลาว่างพอจะจัดงานเลี้ยงฉลองกันเป็นครั้งสุดท้ายเลยสิเนี่ย...... แต่...... การจากกันมันก็ต้องแบบนั้นอยู่แล้ว"
เชราซาร์ด "หึหึ...... อาจจะอย่างนั้น"
เร็น "........................................."
จิน "ถ้าอย่างนั้น......"
ริชาร์ด "......พวกฉันขอไปก่อนแล้วกัน"
- ลุงหมีจินกับเฮียริชาร์ดเอ่ยจากลาในจังหวะที่ทุกคนกำลังลังเล
จิน "......ก็ถ้ายังนิ่งกันอยู่แบบนี้ รังแต่จะทำให้อาลัยอาวรณ์ แล้วก็ไม่มีใครยอมไปก่อน"
ริชาร์ด "ดังนั้น พวกฉันที่อาวุโสสุด ก็เลยคิดว่าควรจะเป็นคนเริ่มก่อน"
เอสเทล "คุณจิน...... พันเอกริชาร์ด......"
เควิน "......ขอบคุณนะครับ ที่ทั้ง 2 คน...... อุตส่าห์กังวลในเรื่องนั้น ต้องขอบคุณจริง ๆ"
ริชาร์ด "ฮะฮะ ไม่เป็นไร ฉันต่างหากล่ะ...... ที่ต้องขอบคุณที่อ้าแขนต้อนรับฉันอย่างอบอุ่นโดยไม่สนใจเรื่องราวในอดีต ......เพราะพวกเธอทำให้ฉันรู้สึกว่า สามารถไขว่คว้าสิ่งที่สำคัญมาไว้ด้วยมือคู่นี้ได้สักที"
อาเนราส "คุณริชาร์ด......"
โยชัวร์ "พวกผมต่างหาก...... ขอบคุณสำหรับทุกอย่างนะครับ"
คลอเซ่ "คงจะมีเรื่องงานที่ทำให้มีโอกาสได้พบกันอีกครั้ง ถึงตอนนั้นต้องขอรบกวนด้วยนะคะ"
ริชาร์ด "ตรัสเกินไปแล้ว....... ถ้าหากมีพระราชดำรัสสั่งแล้วล่ะก็ ขอทรงเรียกใช้กระหม่อมได้ตลอดเวลา"
จิน "ชั้นเอง...... ก็ดีใจที่ได้มาเจอทุกคน เพราะคงไม่มีโอกาสที่จะได้มาเจอกันแบบนี้บ่อย ๆ"
เชราซาร์ด "หึหึ...... นั่นสิ"
อากัต "ชั้นยังอยาก...... ซ้อมมือกับนายต่ออีกหน่อยนะ"
จิน "ฮะฮะ ถ้าหาเวลาว่างได้จะแวะไปเที่ยวที่ลีเบร์ลนะ แล้ว...... ถ้าไม่รังเกียจก็อยากให้ทุกคนมาเที่ยวที่คาลวาร์ดด้วยเหมือนกัน ชั้นกับคิริก้าจะได้รอต้อนรับ"
เอสเทล "อื้ม......! อีกไม่นานจะไปหานะ!"
โอลิเวียร์ "ผมน่ะอยากไปเที่ยวตลอดเวลาเลยล่ะ"
มิวเลอร์ "......ถ้านายยังจัดการการบ้านทั้งหมดไม่เสร็จ ก็เลิกคิดไปได้เลย"
เควิน "ฮะฮะ พวกชั้นก็น่าจะได้ไปบ่อย ๆ เพราะเรื่องงานล่ะมั้ง"
รีส "......ถึงตอนนั้นต้องขอรบกวนด้วยนะคะ"
จิน "ได้ จะรอต้อนรับนะ .......ไปกันได้แล้วมั้งพันเอก"
ริชาร์ด "เฮ้อ...... แม้แต่เธอก็ยังเรียกฉันว่าพันเอกอยู่อีกรึเนี่ย แต่เอาเถอะ มันก็ไม่เลวหรอกนะ ถ้าพวกเธอจะเรียกฉันแบบนั้น"
- พูดจบทั้ง 2 คนก็วิ่งเข้าประตูไป "หึหึ...... ต่อไปเป็นตาพวกผมแล้วสิ" โอลิเวียร์ชิงพูดขึ้น เขาเดินออกมาพร้อมกับมิวเลอร์
โอลิเวียร์ "ถ้าอยู่นานเกินไป เดี๋ยวจะยิ่งรู้สึกไม่อยากกลับไปน่ะนะ ก็ขอไปก่อนแล้วกัน"
เควิน "พระโอรสโอลิเวิร์ต......"
โยชัวร์ "......ปุบปับเกินไปจนรู้สึกสับสนยังไงไม่รู้นะครับ"
โอลิเวียร์ "อาฮ้า ไม่นึกไม่ฝันเลยว่าโยชัวร์คุงจะพูดแบบนั้นกับผม! ถึงขนาดอยากจะพากลับไปด้วยกันทีเดียวเชียวล่ะ!"
เอสเทล "บอ~กแล้วไง! ว่าเลิกพูดจาอย่างนั้นได้แล้ว!"
โจเซ็ต "เฮ้อ...... เป็นพระโอรสที่เหลือเกินจริง ๆ"
มิวเลอร์ "......โอลิเวียร์"
โอลิเวียร์ "..................................... ฮะฮะ...... ......ยังไงก็ไม่เคยคาดคิดอยู่แล้วว่า จะมีโอกาสได้พบกันแบบนี้อีก ดูเหมือนในใจมันเต็มไปด้วยความรู้สึกมากมายหลายอย่าง...... ต่างออกไปจากทุกที"
เอสเทล "อา......"
เชราซาร์ด "......โอลิเวียร์..............."
โอลิเวียร์ "......เชร่าคุง เรื่องที่คุยกัน อยากให้คิดเป็นจริงเป็นจังจะได้มั้ย ถึงแม้ว่ามันน่าละอายก็ตาม...... แต่คงไม่รังเกียจใช่มั้ย ถ้าผมอยากให้เธอได้ใช้ชีวิตอย่างมีความสุขกว่านี้?"
เชราซาร์ด "เฮ้อ...... คนอย่างนายนี่มัน...... ก็ได้ ขอเก็บคำตอบไว้สักระยะแล้วกัน เพราะงั้น...... พยายามเข้าล่ะ!"
โอลิเวียร์ "หึ แน่นอน"
อาเนราส "ระ รุ่นพี่......?"
เอสเทล "มะ มีความหมายแอบแฝงยังไง ๆ ไม่รู้......"
เควิน "อ้าว~ ตั้งแต่เมื่อไหร่กันครับ"
มิวเลอร์ "ขอบคุณที่ช่วยดูแลฉัน...... แล้วก็เจ้าหมอนี่นะ เรื่องดาบก็เหมือนกัน รู้สึกว่าพัฒนาขึ้นมาก เพราะพวกเธอแท้ ๆ ต้องขอบคุณจริง ๆ"
อากัต "เหอะ โดนยอดฝีมืออย่างนายนำไปก่อนเนี่ย มันก็ลำบากในการไล่ตามเหมือนกันนะ"
ยูเลีย "ทางนี้ต่างหากล่ะคะ...... ขอบคุณที่ให้ความช่วยเหลือค่ะ จะเฝ้ารอโอกาสที่จะได้พบกันอีกครั้งนะคะ"
มิวเลอร์ "......อือ ฉันต่างหากที่ต้องพูดแบบนั้น แต่ว่าหลังจากนี้ทางจักรวรรดิเองก็คงจะวุ่นวายขึ้นอีกเยอะ เรื่องการคุ้มกันยามเดินทางก็คงจะไม่มีปัญหาไปอีกพักใหญ่"
ยูเลีย "ขนาดนั้นเชียว......"
คลอเซ่ "......ยังไงก็ระมัดระวังตัวด้วยนะคะ"
มิวเลอร์ "หึ ถ้าเจ้าคนบ้ายอหลงตัวเองนี่ยอมทำตัวดี ๆ ล่ะก็ คงจะหลีกเลี่ยงสถานการณ์คับขันที่สุดได้ล่ะมั้ง ......จริงสิ ถ้าทุกคนช่วยกันภาวนาไม่ให้เทพธิดาเหลืออดกับหมอนี่แล้วล่ะก็ จะช่วยได้เยอะเลยล่ะ"
เอสเทล "อะฮะฮะ......"
ทีต้า "คิกคิก......"
เควิน "เอาเถอะ เรื่องการภาวนานต่อเทพธิดามันของถนัดของพวกชั้นอยู่แล้ว"
รีส "......ถ้าแค่นั้นล่ะก็ จะภาวนาให้เท่าไหร่ก็ได้ค่ะ"
- โอลิเวียร์หงุดหงิด น้อยใจที่ไม่มีใครเชื่อใจตัวเองเลย "❤ แต่ก็มีคนบอกเหมือนกันนะว่า คนไหนยิ่งชอบก็ยิ่งอยากแกล้ง โถ ๆ มิวเลอร์ก็ ขี้อายเหมือนกันนะเราเนี่ย❤" แล้วก็โหมดหลงตัวเองเข้าสิงไม่ทิ้งลายตามสไตล์ "......จะให้ลากคอพาไปที่ประตูมั้ย?" มิวเลอร์รับมือได้เฉียบเหมือนเดิม โอลิเวียร์เลยรีบตัดบท ขอเดินไปเองดีกว่า ว่าแล้วก็ส่งรอยยิ้ม กล่าวลาทุกคนว่าแล้วพบกันใหม่ พร้อมกับเบื้องหลังที่ลับตาไปในประตู
- "หึหึ จริง ๆ เลยเชียว...... ตีหน้าไม่ทุกข์ไม่ร้อนจนหยดสุดท้ายเลยนะ" เจ๊เชร่ายิ้มเศร้า ๆ แล้วเดินออกไปข้างหน้าพร้อมกับอาเนราส
เอสเทล "เจ๊เชร่า...... คุณอาเนราส......"
อาเนราส "เอสเทลจัง...... ต้องจากกันแล้วสินะ"
เชราซาร์ด "......ถ้าคนอื่น ๆ คิดแบบนั้น ก็ต้องหาทางให้ได้พบกันอีก เอสเทล โยชัวร์ รักษาเนื้อรักษาตัวแล้วเดินทางต่อไปนะ"
เอสเทล "......อื้ม รู้แล้ว"
โยชัวร์ "จะส่งจดหมาย....... ไปหาบ่อย ๆ นะครับ"
เชราซาร์ด "หึหึ ถ้าทางนี้ไม่ค่อยได้ตอบกลับไป จะทิ้งช่วงหน่อยก็ได้นะจ๊ะ แต่ได้ยินมาว่าระยะหลังมานี่ เขากำลังเตรียมความพร้อมเรื่องเครือข่ายสื่อสารออร์บเมนท์กันอยู่นี่นา...... ถ้าถึงตอนนั้น จะใช้เครื่องมือสื่อสารติดต่อมาที่สาขานครหลวงก็ได้นะ?"
เอสเทล "อื้ม...... ได้!"
โยชัวร์ "ทางโน้นก็เหมือนกัน...... ถ้ามีเรื่องอะไรก็ใช้เครื่องมือสื่อสารติดต่อมาได้ตลอดเวลานะครับ"
อาเนราส "เฮ้อ~ แต่ว่าน่าเสียดายจังน้า ที่จะไม่ได้เจอกับเอสเทลจัง ทีต้าจัง เร็นจัง...... แล้วก็คุณรีสด้วย!"
รีส "ฉะ ฉันเหรอคะ......?"
อาเนราส "ค่ะ! ทั้งที่อุตส่าห์สนิทกันแล้ว...... ถ้ามาลีเบร์ลอีก ก็แวะมาเที่ยวด้วยกันให้ได้นะคะ! เดี๋ยวฉันจะแนะนำร้านไอศครีมอร่อย ๆ ให้เอง!"
รีส "......ถ้าอย่างนั้นจะไปให้ได้ค่ะ ถ้าไม่รังเกียจล่ะก็ กลับไปแล้วจะขอไปหาเป็นคนแรกเลยนะคะ"
- เควินเหงื่อตก รู้ใจรีสเลยว่าอยากไปหาเพราะอยากไปกิน ทำเอาอาเนราสอดขำไม่ได้
อาเนราส "แล้วก็ ทีต้าจัง ถ้ารุ่นพี่อากัตไม่อยู่เมื่อไหร่ จะขอไปหาไปแสดงความรักหน่อยนะ......"
ทีต้า "เห!?"
อากัต "เดี๋ยวเหอะ...... จะพูดอะไรดูกาลเทศะหน่อยสิ"
อาเนราส "อะฮะฮะ ก็แหม แล้วก็...... เหลืออีกคนที่ยังติดค้างในใจสินะ นี่ เร็นจัง ชอบ? หรือเกลียดพวกเอสเทลจังล่ะ?"
เร็น "หา......"
อาเนราส "ฉันว่านะ สิ่งสำคัญที่สุดก็คือเรื่องนั้นนั่นแหล่ะ ถือว่านี่เป็นคำแนะนำจากพี่สาวคนนี้ก็แล้วกันนะ"
เร็น "คะ คิดจะทำ......"
เอสเทล "คุณอาเนราส......"
อาเนราส "❤ หึหึ ถ้าได้เจอกันอีกครั้งล่ะก็ จะขอกอดให้หนำใจเลย♪"
เชราซาร์ด "เฮ้อ...... เอาล่ะไปกันหรือยัง ทุกคน โชคดีนะ"
เควิน "อือ...... พวกพี่สาวก็ด้วย!"
คลอเซ่ "ทั้ง 2 คน...... ขอบคุณมากนะคะ โชคดีค่ะ"
- เจ๊เชร่าและอาเนราสวิ่งเข้าประตูไป ก็ถึงคิวของอากัตและทีต้า
เอสเทล "ทีต้า......"
โยชัวร์ "......ต้องจากกันแล้วสินะ"
ทีต้า "เอ๊ะเหะเหะ...... พี่เอสเทล...... พี่โยชัวร์ แล้วก็...... เร็นจัง......"
เร็น "ทีต้า......"
ทีต้า "ฉันน่ะ...... ไม่มีอะไรจะพูดเหมือนคุณอาเนราส...... แล้วก็ไม่มีพลังพอที่จะไล่ตามเร็นจังด้วย...... แต่ว่า...... ฉันจะรอนะ รอวันที่ทั้ง 3 คนจะกลับมาที่ลีเบร์ลพร้อมกัน...... เอ๊ะเหะเหะ คิดแบบตามอำเภอใจไปหน่อยเนอะ......?"
เร็น "................................................... เชอะ...... ทำตามใจบ้างจะเป็นไรไป แต่ว่าเรื่องออร์เบิลเกียร์น่ะ อย่าเอาแต่คิดอย่างเดียวล่ะ ทำให้เสร็จสมบูรณ์ด้วย? เพราะ [ปาเทล=มาเทล] ของเร็นใครจะมาลองดีก็รับมือได้อยู่แล้ว!"
ทีต้า "อื้ม...... จะพยายามจ้ะ!"
- เอสเทลกับโยชัวร์อดอมยิ้มไปกับบทสนทนาของทีต้ากับเร็นไม่ได้
อากัต "เฮ้อ...... ยัยจิ๋วตัวอันตรายคูณสอง ......ชั้นไม่เหมือนเชราซาร์ดหรอกนะ แต่พวกนายก็ดูแลตัวเองดี ๆ ด้วยล่ะ โดยเฉพาะเอสเทล เป็นมืออาชีพแล้ว จะทำอะไรก็คิดหน้าคิดหลังหน่อยล่ะ"
เอสเทล "ค่าค่า รู้แล้วน่า อากัตนั่นแหล่ะ อย่ามัวแต่ทะเลาะกับแม่ของทีต้าล่ะ?"
อากัต "กะ ก็บอกแล้วไงว่าฝ่ายโน้นต่างหากที่เข้ามาหาเรื่องอยู่ฝ่ายเดียว! แถมเรื่องในคราวนี้ก็ไม่รู้ว่าจะโดนด่าแบบไหนด้วย......"
ทีต้า "......อะ อะฮะฮะ........."
เควิน "ฮะฮะ ถ้าเป็นคุณเอริก้าล่ะก็ คงต้องยอมจำนนจริง ๆ นั่นล่ะครับ"
อากัต "โธ่ว้อย...... ไม่ใช่เรื่องตลกเลยนะ จริงสิจะว่าไป...... เฮ้ย บาทหลวงเกเร"
เควิน "หา...... ทำไมเหรอ?"
อากัต "......ตอนเจอกันครั้งแรก ชั้นคิดว่านายเป็นพวกไม่น่าไว้วางใจ แต่คราวนี้พอได้เห็นธาตุแท้แล้ว ชั้นว่าก็ไม่เลวเลยนะ"
เควิน ".............................. (พะงาบพะงาบ)"
อากัต "หืม อะไรอีกล่ะ?"
เควิน "เปล่าหรอก แค่นึกไม่ถึงว่า...... จะได้รับคำชมจากคุณอากัตแบบนั้น เกิดอะไรขึ้นกันแน่ครับนั่น?"
อากัต "ฮะฮะ...... ไม่มีอะไรเป็นพิเศษหรอกน่า ก็แค่เรื่องที่ต้องพยายามด้วยกันระหว่างร่วมทางกันแค่นั้น"
เควิน "งั้นเหรอ...... ขอบคุณครับ"
รีส "หึหึ......"
เอสเทล "เฮ้อ พวกผู้ชายเนี่ย หน้าไหน ๆ ก็พูดไม่เก่งเอาซะเล้ยยย"
อากัต "ช่างชั้นเถอะ เอ้า...... ไปกันยัง"
ทีต้า "ค่า"
- อากัตและทีต้าวิ่งเข้าประตูไป ถึงคราวคลอเซ่และยูเลีย+ซิก
โยชัวร์ "คลอเซ่......"
เอสเทล "จะไม่ได้...... พบกันอีกสักพักเลยสินะ"
คลอเซ่ "ค่ะ...... แต่ว่าได้มาพบพวกคุณ 2 คนอีกครั้งในลักษณะนี้...... ดิฉันรู้สึกขอบคุณเทพธิดามากจริง ๆ ค่ะ"
โยชัวร์ "......พวกผมก็ด้วย"
เอสเทล "เอ๊ะเหะเหะ...... จะเขียนจดหมายไปหาอีกนะ"
คลอเซ่ "หึหึ จะรอนะคะ แล้วก็...... คุณโจเซ็ต"
โจเซ็ต "เอ๋...... ผะ ผม?"
คลอเซ่ "ดิฉันสนุกมากเลยค่ะที่ได้ใช้เวลาร่วมกันในคราวนี้ ถ้ามีโอกาสล่ะก็ไว้มาพูดคุยสัพเพเหระกันอีกได้หรือเปล่าคะ?"
โจเซ็ต "อะ เอ่อเรื่องนั้น...... ......อื้ม ได้สิ มีเรื่องคุยเหมือน ๆ กัน งานอดิเรกก็คล้าย ๆ กันอีก...... แถมยังแวะไปที่แกรนเซลบ่อย ๆ เพราะเรื่องงานอยู่แล้วด้วย"
คลอเซ่ "หึหึ...... จะรอนะคะ"
เอสเทล "ชิส์......"
โจเซ็ต "อื้อหืมม์ ถ้าเจ็บใจล่ะก็ เธอก็ลองหัดทำขนมหรือการบ้านการเรือนดูบ้างสิ~? แต่ดู ๆ ไปคงจะไม่ได้เรื่อง ก็ความสามารถมันไม่ถึงนี่นา"
เอสเทล "คึ...... ไม่เถียงย่ะ"
คลอเซ่ "หึหึ แล้วกัน เอ่อ...... ท่านบรรพบุรุษคะ......"
เซเลสต์ "หึหึ...... โปรดอย่าห่วงเรื่องของข้าพเจ้าเลย ข้าพเจ้าคือ [เงา]...... เป็นแค่บุคคลิกภาพเสมือน ซึ่งมีความทรงจำของเซเลสต์ตัวจริงเท่านั้น"
คลอเซ่ "แต่ถึงอย่างนั้น...... เสด็จย่าก็อยากพบท่านบรรพบุรุษสักครั้งนะคะ ส่วนดิฉันก็ยังอ่อนประสบการณ์...... คงจะทำให้ท่านบรรพบุรุษผิดหวัง......"
เซเลสต์ "หึหึ...... เรื่องนั้น ก็เหมือนกับข้าพเจ้าเมื่อสมัยก่อนเลยล่ะค่ะ"
คลอเซ่ "! ......เอ๋............"
เซเลสต์ "คิดว่าเสด็จย่าของท่านก็คงจะรู้สึกแบบเดียวกันกระมัง ไม่ต้องห่วงนะคะ แม้จะสับสน แต่จงก้าวเดินไปบนเส้นทางของตัวเองเถิดค่ะ แล้วปีก...... จะสยายได้กว้างขึ้นกว่านี้แน่นอนค่ะ"
คลอเซ่ "......อา......... ค่ะ...... ขอบคุณนะคะ!"
ยูเลีย "หึหึ...... ไปกันเถอะเพคะ ......จริงสิ ท่านเควิน ถ้ากลับถึงที่หมายพร้อมกัน อาจจะเกิดสถานการณ์วุ่นวายขึ้นเล็กน้อย ยังไงก็รบกวนด้วยนะ"
เควิน "ครับ เข้าใจแล้ว พวกเราก็จะติดต่อกระทรวงนักบุญศักดินา 『封聖省』 แล้วพิจารณาถึงการให้ความช่วยเหลือหลังจากนี้"
คลอเซ่ "หึหึ ถ้าเช่นนั้นลาก่อนนะคะทุกคน...... ขอให้โชคดีค่ะ!"
- คลอเซ่ ยูเลีย ซิกหายลับไปในประตู โจเซ็ตก้าวออกมาเป็นคนต่อไป เอสเทลอึกอักทำตัวไม่ถูก
โจเซ็ต "อ๊าา ไม่ต้องฝืน ไม่ต้องพูดอะไรก็ได้น่า เพราะผมก็ไม่ได้อยากจะฟังคำร่ำลาพร้อมทั้งน้ำตาจากเธอเท่าไหร่"
เอสเทล "วะ ว่าไงน้า~!?"
โจเซ็ต "เชอะ ถ้าดูท่าทางยังไม่ก้าวหน้ากับโยชัวร์แล้วล่ะก็ จะไปรับตัวมาแบบไม่เกรงใจล่ะนะ...... จริงสิโยชัวร์ ไม่เข้าประตูกลับไปพร้อมกันกับผมซะเลยล่ะ? ไม่แน่ว่าอาจจะกลับไปที่เดียวกันก็ได้นะ"
เอสเทล "ธะ เธอเนี่ยน้า......"
โยชัวร์ "เอ่อ เรื่องนั้น ทั้ง 2 คนใจเย็น ๆ ก่อ......"
โจเซ็ต & เอสเทล "โยชัวร์เงียบไปเลย!"
โยชัวร์ "......คร้าบบบ........."
เควิน "(ยะ โยชัวร์คุง......)"
รีส "(......ที่เรื่องนี้เงอะงะเชียว......)"
โจเซ็ต "ฮึ่ม แต่เอาเถอะ...... เฉพาะเรื่องที่ได้ใช้เวลาร่วมกันอย่างสนุกสนานน่ะผมยอมรับก็ได้"
เอสเทล "นั่นน่ะมันคำพูดของชั้นต่างหาก ดูเหมือนงานจะยุ่งใช่มั้ยล่ะ อย่าฝืนมากไปก็แล้วกัน? เพราะสุขภาพร่างกายน่ะถือเป็นต้นทุนเหมือนกับพวกชั้น (เบรเซอร์) นี่นา"
โจเซ็ต "หึหืมม์ เธอนั่นแหล่ะ อย่าบาดเจ็บโน่นนี่จนต้องฉุดโยชัวร์ให้ล้มตามซะล่ะ"
โยชัวร์ "เฮ้อ...... (ทั้งที่ไม่ถูกกัน แต่ก็เข้ากันได้ดีพิลึกแฮะ......)"
โจเซ็ต "เอาล่ะ...... ไปก่อนนะ โยชัวร์...... คราวหน้าพวกเราจะส่งจดหมายไปหาบ้างนะ!"
โยชัวร์ "อื้ม จะรอนะ"
โจเซ็ต "ทั้ง 2 คนตรงนั้น ดูเหมือนจะลำบากไม่น้อย...... แต่ก็สู้ ๆ เข้าล่ะ"
เควิน "ฮะฮะ ขอบคุณ"
รีส "ขอให้พรของเทพธิดาสถิตย์กับคุณและยานของคุณนะคะ......"
โจเซ็ต "อะฮะฮะ ขอบใจ! ล่าก่อนนะ แล้วเจอกัน!"
- โจเซ็ตวิ่งเข้าประตูไป เร็นมองตามอย่างสับสน
เอสเทล "......เป็นอะไรไปน่ะ เร็น? เงียบไปตั้งแต่เมื่อกี๊แล้ว"
เร็น "......ทำไม......... ทำไมทุกคน...... ถึงยังยิ้มยังหัวเราะได้แบบนั้นล่ะ?"
เอสเทล "เอ๋......"
โยชัวร์ "เร็น......?"
เร็น "ก็...... ต้องจากกันแล้วแท้ ๆ อาจจะไม่ได้เจอกันอีกแล้วก็ได้...... แล้วทำไมถึงจากกันด้วยรอยยิ้มแบบนั้นล่ะ......?"
เอสเทล "เร็น......"
เร็น "ทั้ง ๆ ที่...... ถ้าทุกคนจะอยู่ที่นี่ต่อก็ได้นี่นา! ถ้า [สวน] ปลอดภัย ก็สร้าง [อาณาจักรแห่งเงา] ขึ้นมาใหม่ได้ตามใจชอบ......! ทั้ง ๆ ที่งานเลี้ยงน้ำชาที่มีแต่ความสนุกสนานจะคงอยู่ต่อเรื่อยไปแท้ ๆ! แล้วทำไมทุกคน......!"
โยชัวร์ "................................ อย่างงั้นรึ...... ที่แท้เธอ...... รู้สึก [เจ็บปวด] ที่จะไม่ได้พบกันสินะ......?"
เร็น "......ฮึก..............."
เอสเทล "เอ๋......?"
โยชัวร์ "จะไม่ได้พบกับอีกคนที่ชอบ...... อีกคนที่คิดว่าอยากจะอยู่ด้วยกัน...... มันทำให้เธอ...... เจ็บปวดใช่มั้ย"
เอสเทล "อา......"
เร็น "ปะ เปล่าสักหน่อย! ความรู้สึกพรรค์นั้น...... ไม่มีอยู่หรอก! ก็ตอนได้ยินว่าเรเวตาย เร็นยังไม่รู้สึก [เจ็บปวด] เลย! ถึงจะทำใจลำบาก แต่ก็ไม่ได้ [เจ็บปวด] สักหน่อย!"
โยชัวร์ "เรื่องนั้นน่ะ เร็น ผมว่าเป็นเพราะเธอยอมรับเรื่องที่เรเวตายได้ต่างหาก เพราะเข้าใจว่ายังไงก็ไม่ได้พบกันอยู่แล้ว ก็เลยทำใจได้ง่าย ๆ ......แต่กับคนที่ชอบมาก ทั้งที่จริง ๆ แล้วจะพบกันก็ได้แต่ก็พบไม่ได้นั้น...... มันเป็นอะไรที่ [เจ็บปวด] ยิ่งกว่าไง"
เร็น "ไม่ใช่...... ไม่ใช่สักหน่อย......!"
โยชัวร์ "นั่นแสดงว่าเธอชอบเอส......"
เร็น "ม่ายยยยยยยยยยยย!"
- เร็นทรุดตัวลง ร้องไห้โฮ เอสเทลนิ่งไป แล้วก็เดินเข้าไปหาเร็น
เอสเทล "นี่ เร็น ชั้นจะบอกให้เอามั้ย? ว่าทำไมถึงจากกันด้วยรอยยิ้มได้น่ะ"
เร็น "......ไม่เอา......! ไม่อยากรู้......!"
เอสเทล "......นั่นน่ะ จะกับคนที่ชอบมาก กับคนที่เกลียดมาก มันไม่ได้เกี่ยวกันหรอก...... ไม่ว่าจะกับคนไหน ๆ ยังไงการลาจากก็ยังรอเราอยู่ดี"
เร็น "! ............เอ๋....................."
เอสเทล "ชั้นกับโยชัวร์ก็เหมือนกัน ถึงจะแต่งงาน มีลูก อยู่ด้วยกันตลอดไป...... พอถึงอายุขัยของคนใดคนหนึ่ง ก็ต้องจากกันอยู่ดี...... แน่นอนว่าความเป็นไปได้ที่จะจากกันไปเพราะเกิดอุบัติเหตุ หรือความรู้สึกของคนสองคนเปลี่ยนไปมันก็ไม่ได้เป็นศูนย์ ซึ่งพวกเราทุกคน...... กำลังต่อสู้กับความกังวลนั้นอยู่"
เร็น "อา......"
โยชัวร์ "เอสเทล......"
รีส "......คุณเอสเทล......"
เควิน "...................................."
เอสเทล "แต่ว่านะ...... เพราะรอยยิ้มเนี่ยแหล่ะ!"
เร็น "......!?"
เอสเทล "ถ้าได้ยิ้มได้หัวเราะด้วยกันกับทุกคน ก็จะขจัดความกังวลอันนั้นออกไป! ถ้ายิ้มหัวเราะด้วยกันแล้วล่ะก็ จะสัมผัสได้ว่าไม่ได้อยู่ตัวคนเดียว! ตื่นเต้น ดีใจว่าอาจจะได้พบกันอีกครั้ง! พอทำแบบนั้นก็จะคุยกันได้ตรง ๆ สัญญาว่าแล้วเจอกันใหม่นะ แล้วต่างคนก็ต่างเดินไปบนเส้นทางของตัวเอง...... ......คิดว่าทุกคนก็น่าจะคิดกันแบบนั้น"
เร็น "ทุกคนเหรอ......"
เอสเทล "อื้ม ทุกคนเลย เพราะงั้นนะเร็น...... มายิ้มมาหัวเราะกับพวกเราเถอะนะ?"
เร็น "! อะ......"
เอสเทล "ชั้นคงสัญญาไม่ได้หรอกนะ ว่าจะอยู่ด้วยกันตลอดไป...... แต่เพราะชั้นชอบเร็น ก็เลยคิดว่าจะคอยดูแลจนเธอเติบโตเป็นผู้ใหญ่ เพราะงั้นจนถึงตอนนั้น...... ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็จะอยู่ด้วยกันให้ได้"
เร็น "อือ..... อา........."
เอสเทล "แล้ว...... พอเร็นโตเป็นผู้ใหญ่ เจอสิ่งที่อยากจะทำจริง ๆ ...... มันจะเป็นเส้นทางที่จะทำให้ต้องจากพวกชั้นไป...... ถึงตอนนั้น..... เรามายิ้มกว้าง ๆ ด้วยกันแล้วค่อยจากกันนะ ชั้นไม่รู้ว่าต่อไปจะเป็นยังไง...... แต่ก่อนอื่นมาเริ่มจากตรงนั้นก่อนกันดีมั้ย?"
เร็น "อือออ...... อาาา....... ......เรื่องนั้น...... เรื่องพรรค์นั้น........."
โยชัวร์ "ไม่ต้องตัดสินใจทันทีทันใดหรอก เพราะพวกผมน่ะ...... เตรียมใจเอาไว้อยู่แล้ว...... ว่าพวกเราจะเป็นครอบครัวเดียวกันกับเร็น"
เร็น "! ............อา....................."
เอสเทล "มันก็เป็นความใฝ่ฝันของพวกชั้นอ่ะนะ คุณพ่อก็อนุญาตแล้วด้วย ที่เหลือก็อยู่ที่เธอเนี่ยแหล่ะ"
เร็น "......อือออ......................... พอเถอะ...... พอได้แล้ว!"
- เร็นน้ำตาไหลอาบ ผละออกจากพวกเอสเทล
เอสเทล "......เร็น........."
เร็น "......ถ้าอย่างนั้น......! ถ้าอย่างนั้นเร็นจะหนีสุดกำลัง! จะหนีสุดกำลังไม่ให้พวกเอสเทลจับตัวได้......! ......เพราะงั้น...... เพราะงั้น......!"
โยชัวร์ "อื้ม พวกเราตั้งใจอย่างนั้นอยู่แล้ว จนกว่าจะตัดสินใจได้ก็หนีต่อไปเถอะ"
เอสเทล "อื้อหืมม์ บอกไว้ก่อนนะ ว่าชั้นไม่ชอบความพ่ายแพ้นา~? ถึงเร็นจะเล่นซ่อนแอบเก่งแค่ไหน ชั้นก็จะหาให้เจอให้ได้!"
เร็น "อืออ......! ............เกลียด................. เกลียดทั้งเอสเทล ทั้งโยชัวร์ที่สุด! ......แต่ก็...... แต่ก็ชอบมากพอกัน......ฮึก!"
- เร็นวิ่งหนีเข้าไปประตูไปในขณะที่ทุกคนไม่ทันคาดคิด
เอสเทล "อะฮะฮะ...... ......ในที่สุด...... ในที่สุดก็บอกออกไปได้สักที...... ......บอกคำพูดของชั้น...... บอกคำพูดของพวกเราให้เด็กคนนั้น......"
โยชัวร์ "เอสเทล......"
- เอสเทลกลั้นน้ำตาเอาไว้ไม่อยู่ เดินไปซบไหล่โยชัวร์
เอสเทล "ฮึกก.......... ฮึกกกก............ โยชัวร์...... โยชัวร์........."
โยชัวร์ "อื้ม...... พยายามได้ดีมาก ......แต่ว่า ต่อจากนี้ไปต่างหากล่ะ"
เอสเทล "อื้ม...... อื้ม...... ...................ฮึบ................ ขอโทษนะ...... คุณเควิน คุณรีส พวกชั้น...... ต้องไปแล้ว......"
เควิน "อือ...... จะตามเด็กคนนั้นไปใช่มั้ยล่ะ? ไล่ตาม...... ให้สุดกำลังเลยนะ"
รีส "ขอพรแห่งเทพธิดาแห่งท้องฟ้าจงสถิตย์กับพวกคุณทั้ง 3 คน...... จะรอวันที่เห็นคุณทั้ง 3 คนอยู่ด้วยกันในตอนที่พบกันคราวหน้านะคะ......"
เอสเทล "อื้ม...... วางใจเถอะ!"
โยชัวร์ "พวกคุณทั้ง 2 คนเองก็...... โชคดีนะครับ!"
- เอสเทลและโยชัวร์วิ่งเข้าประตูไปด้วยรอยยิ้ม
รีส "ยอดไปเลยนะ...... พวกคุณเอสเทลน่ะ"
เควิน "อือ...... นับถือเลยล่ะ แต่ว่า...... พอเห็นแบบนั้น ก็ทำให้รู้สึกขึ้นมาได้ว่ามีอยู่จริง ๆ ด้วยนะ สถานที่ที่พี่เคยมุ่งมั่น...... เคยคิดที่จะไปให้ถึงน่ะ"
รีส "......อืม......... พวกเราเอง...... ก็อย่ายอมแพ้นะ"
- พื้นสั่นสะเทือน เป็นสัญญาณว่าเหลือเวลาอีกไม่มากแล้ว
เซเลสต์ "ที่นี่เอง...... ก็คงถึงเวลาแล้วกระมัง เอาล่ะ...... พวกท่านเองก็รีบเข้าเถอะ"
เควิน "ครับ......"
รีส "เอ๊ะ...... แต่ว่า......"
เควิน "ทำไม มีอะไรเหรอ?"
รีส "อืม...... ......เหมือนจะลืมอะไรไปน่ะ......"
- เควิน รีส เซเลสต์นิ่งไป แล้วเสียงกระทาชายนายหนึ่งก็ดังขึ้น ใช่แล้ว สิ่งที่ทุกคนลืมไปเลยก็คือ กระทาชายนาย "กิลเบิร์ต" นั่นเองค่ะ
- กิลเบิร์ตมาถึงก็ต่อว่าเซเลสต์เสียยกใหญ่ว่าอธิบายเรื่องที่ทางให้ฟังปุ๊บก็หายไปปั๊บ แต่ที่เขามาถึงนี่ได้แบบงง ๆ ก็เพราะเป็นพวกหลงทิศนั่นเองค่ะ ว่าแล้วก็บ่นไม่หยุดว่า กว่าจะมาถึงนี่ได้ก็โดนกลุ่มนางฟ้าไล่ตามบ้าง โดนรถถังม้าทับบ้าง แถมยังเจอแรงสั่นสะเทือนนี่อีก เควินก็เลยอธิบายไปว่าปราสาทหลังนี้จะหายไปแล้ว ให้พี่ชายรีบหนีออกไปทางประตูที่อยู่ทางโน้น กิลเบิร์ตไม่รอช้า ทำท่าจะวิ่งออกไป แล้วก็ต้องอึ้งไปเมื่อรีสกล่าวขอบคุณที่ช่วยเหลือกันมาจนถึงตอนนี้ค่ะ
- และแน่นอนว่าเมื่อเจอกันอีกครั้ง ก็ต้องเป็นศัตรูกันแล้ว เพราะงั้นเควินก็เลยขอว่าอย่ามาเจอะเจอกันอีกจนกว่าจะแก่เฒ่าดีกว่า แต่กิลเบิร์ตได้ใจบอกว่าเจอกันคราวหน้า เขาจะแกร่งขึ้นกว่านี้แน่ ๆ ว่าแล้วก็จากไปพร้อมกับรอย (แสยะ) ยิ้มตามสไตล์ ทำเอาเควินกับรีสขำกับท่าทีของพี่ชายคนนั้นที่ไม่เคยเปลี่ยน
- แรงสั่นสะเทือนรุนแรงขึ้น เซเลสต์บอกให้พวกเควินรีบหนีไป
เควิน "แล้วคุณเซเลสต์ล่ะ...... ต่อจากนี้จะทำยังไงต่อครับ?"
เซเลสต์ "ข้าพเจ้าก็คงจะกลับไปทำหน้าที่ หลับไหลชั่วนิจนิรันดร์ที่ [สวน] อีกครั้ง จนถึงวันที่ [อาณาจักรแห่งเงา] แห่งนี้จะค่อย ๆ สูญสลายไปกระมัง แล้วพอถึงตอนนั้น...... หน้าที่ที่ได้รับมอบหมายนี้ ก็คงจะหมดวาระลงเสียที"
เควิน "อย่างนั้น...... เหรอครับ ขอบคุณ...... ที่คอยเป็นธุระให้นะครับ"
รีส "......ขอให้ฝันดีค่ะ"
เซเลสต์ "หึหึ ขอบคุณค่ะ พอพวกท่านจากไป ข้าพเจ้าจะหยุดการทำงานของ [ศิลาจตุรัส] 『方石』 ซึ่งก็จะไม่มีวันฟื้นคืนกลับมาอีก ดังนั้นดำเนินการได้ตามใจชอบเลยนะคะ"
เควิน "......ทราบแล้วครับ กะว่าจะนำไปฝากไว้ที่คนที่เหมาะสมน่ะครับ"
รีส "เควิน...... คิดจะเอาไปให้ ดร. เอริก้าเหรอ?"
เควิน "ก็ถ้าไม่ทำแบบนั้น เดี๋ยวเขาก็โวยขึ้นมาน่ะสิ ยิ่งลูกสาวที่น่ารักของตัวเองโดนดึงเข้ามาเอี่ยวด้วยแบบนี้แล้วล่ะก็"
รีส "......ก็คงงั้นมั้ง"
เควิน "เอ้ารีส พวกเราก็ไปกันได้แล้วมั้ง!"
รีส "อืม...... ......ถ้ายังไง จะจับมือไปด้วยกันมั้ย?"
เควิน "! เห......"
รีส "......หึหึ ล้อเล่น แต่ยังไงก็ไปด้วยกันนะ ไปยังสถานที่ที่ท่านพี่เคยวาดฝัน...... ที่ที่สักวันจะไปถึง"
เควิน "อือ...... ฝากเนื้อฝากตัวอีกครั้งนะ...... คู่หู!"
รีส "อื้ม......!"






เรือรบพิเศษ [เมลคาบาห์] เครื่องหมายเลข 1
สังกัดหน่วยอัศวินจอกดารา โบสถ์เจ็ดจรัส---
อธิการเซลเนิร์ต "------อย่างนี้นี่เอง
เข้าใจเรื่องราวคร่าว ๆ แล้ว"
- ภายในห้องบังคับการ เรือรบพิเศษ [เมลคาบาห์] อธิการเซลเนิร์ต 『セルナート総長』 รับฟังเรื่องราวจากเควินผ่านเครื่องมือสื่อสาร
อธิการเซลเนิร์ต "บุคคลที่เธอถามมา เพิ่งยืนยันเสร็จไปนี่เอง พระโอรสโอลิเวิร์ต มิวเลอร์ แวนเดอร์ จิน วาแธ็ค โจเซ็ต คาปัว เอสเทล ไบรท์ โยชัวร์ ไบรท์ ------สำหรับ 6 รายที่ว่ามานั้น ยืนยันได้ว่ากลับถึงที่หมายอย่างปลอดภัยแล้ว"
เสียงเควิน "อย่างนั้นเหรอครับ...... ค่อยวางใจหน่อย ทางนี้เองก็ยืนยันความปลอดภัยคนที่อยู่ในลีเบร์ลเสร็จแล้วเหมือนกัน...... ที่เหลือก็ [งู] 2 ราย แต่ช่างเถอะ เพราะไม่รู้ว่าจะยืนยันยังไงดี"
อธิการเซลเนิร์ต "หึหึ ก็สมแล้วล่ะนะ แต่ว่า...... เป็นเรื่องที่จู่ ๆ จะให้เชื่อมันก็ยากล่ะนะ [อาณาจักรแห่งเงา]------ มรดกอันมิพึงปรารถนาที่สมบัติหลงเหลือไว้งั้นรึ"
เสียงเควิน "ครับ...... ......เดี๋ยวรายละเอียด ไว้จะรายงานหลังกลับไปนะครับ ดูท่าทางแล้วคงต้องใช้เวลาสะสางเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอีกหน่อย"
อธิการเซลเนิร์ต "อือ ฝากด้วยล่ะ ......ว่าแต่เธอน่ะ บรรยากาศเปลี่ยนไปนิด ๆ นะ"
เสียงเควิน "เห......"
อธิการเซลเนิร์ต "ถ้าเป็นเธอเมื่อก่อนล่ะก็ ไม่มาใส่ใจคนที่ไม่เกี่ยวข้องหรอกว่าเป็นตายร้ายดียังไงถึงขนาดนี้ ไม่สิ...... ต้องบอกว่าพยายามควบคุมตัวเองไม่ให้ใส่ใจสินะ ดูท่าทางจะเจออะไรที่ [อาณาจักรแห่งเงา] มาเยอะล่ะสิ?"
เสียงเควิน "ฮะฮะ...... ถ้าจะบอกว่าเจอ ก็เจอจนเอียนเลยล่ะครับ เรื่องนั้น ไว้กลับไปก็จะขอรายงานด้วยเหมือนกันครับ ......แล้วก็มีเรื่องที่อยากจะแจ้งอธิการเป็นการส่วนตัวด้วย"
อธิการเซลเนิร์ต "อะไรกัน ฟังดูมีเงื่อนงำจังนะ เอาเถอะ ขอแค่กลับมาได้อย่างปลอดภัยพร้อมกับรีสก็พอ กลับมาเมื่อไหร่ ไปหาอะไรดื่มกัน 3 คนดีกว่า"
เสียงเควิน "ฮะฮะ ได้ครับ ......จริงสิอธิการ อยากถามอยู่เรื่องนึง"
อธิการเซลเนิร์ต "ว่ามา?"
เสียงเควิน "เอ่อ คือว่า...... ฉายาของ [อัศวินพิทักษ์] น่ะ เปลี่ยนใหม่ทีหลังได้รึเปล่าครับ?"
อธิการเซลเนิร์ต "! ............หา.....................?"
เสียงเควิน "จริง ๆ นอกจาก [นักล่านอกรีต] แล้ว ก็มีอะไรตั้งหลายอย่างที่อยากทำ...... แน่นอนว่าหน้าที่ในฐานะอัศวินพิทักษ์ก็จะขอทำให้เต็มที่"
- "......คึคึคึ...... ฮ่าฮ่าฮ่า...... ฮ่า ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ!" อธิการเซลเนิร์ตหัวเราะชอบใจ
เสียงเควิน "อา---...... ไม่ได้สินะครับ?"
อธิการเซลเนิร์ต "คึคึคึ...... จะเปลี่ยน [ฉายา] ที่อัศวินพิทักษ์ตั้งเองเพียงครั้งเดียวน่ะรึ คงจะเป็นอะไรที่ไม่ค่อยมีให้เห็นในประวัติศาสตร์พันปีของกลุ่มอัศวินมาก่อนแน่ ๆ ......แต่ก็ใช่ว่าจะไม่มีตัวอย่างให้เห็น"
เสียงเควิน "ถ้าอย่างนั้น......"
อธิการเซลเนิร์ต "หึหึ ก็คิดหาฉายาเหมาะ ๆ เตรียมไว้จนกว่าจะเจอกันก็แล้วกัน ถ้าไม่ได้เรื่องล่ะก็ เดี๋ยวฉันจะตั้งชื่อแปลก ๆ ให้เป็นการลงโทษ"
เสียงเควิน "ไม่ใช่เกมลงโทษของที่ไหนสักที่นะครับ แต่ก็จะคิดชื่อเท่ ๆ เตรียมไว้ อย่าง [ดาวตกสีคราม] หรือ [แบล็ก แอโรว์] อะไรอย่างนี้"
- อธิการกุมขมับ ส่วนอัศวินติดตามคนอื่น ๆ ในห้องบังคับการก็เงียบไปตาม ๆ กัน
เสียงเควิน "อะ อ้าว...... ไม่ผ่านเหรอครับ?"
อธิการเซลเนิร์ต "......เควิน แกรแฮม จะแนะนำอะไรให้อย่างนึงในฐานะอดีตครูของเธอ"
เสียงเควิน "เหอ......"
อธิการเซลเนิร์ต "ถ้าหากเธอ
ไม่อยากขายขี้หน้าชาวบ้านเขาในภายภาคหน้าล่ะก็......
ไปปรึกษารีสแล้วค่อยตัดสินใจซะ
แล้วรับรองว่าจะไม่ผิดหวัง"

SORA NO KISEKI is completely ended.
To becontinued...The Legend of HeroesVII
Thank you for playing

- จบฉากสุดท้าย ขอบคุณที่ติดตามกันมาข้าม (หลาย) ปีค่ะ




Related entries:
Sora no Kiseki the3rd (空の軌跡the3rd)


No comments:

Post a Comment