Monday, November 6, 2017

[บทสรุป] Sora no Kiseki the3rd - Episode 1 อาณาจักรแห่งเงา

第一話 影の国
ฉากที่ 1 อาณาจักรแห่งเงา
Walkthrough Chart

สวนแห่งนักพรต 『隠者の庭園』
- "เควิน" และ "รีส" ตรวจสอบดูที่ชั้นหนังสือขนาดยักษ์ใหญ่ และพบว่าหนังสือที่อยู่ ณ ที่แห่งนี้ล้วนเป็นหนังสือล้ำค่าซึ่งหาไม่ได้แล้วในยุคปัจจุบัน ไม่ว่าจะเป็น [ตำราลัทธิอวิชชา] 『無明祭祀書』, [วงศ์วานแห่งเวกาห์น่า] 『ヴェガーナの眷属』, [คอสโม กราฟีก้า] 『コスモ=グラフィカ』, [บทตัดตอนสีฟ้า] 『蒼の断章』 และมีไปจนถึงหนังสือที่จะทำให้พวกกระทรวงนักบุญศักดินาถึงกับอ้าปากค้างอย่าง [ตำนานประหลาดอิสต์เมีย] 『イストミア異聞』 ด้วยค่ะ
รีส "ไม่ใช่เฉพาะหนังสือหายาก...... หนังสือที่เพิ่งจะวางจำหน่ายเมื่อเร็ว ๆ นี้ก็มีเหมือนกัน"
- รีสเอ่ยออกมาเรียบ ๆ เมื่อเธอเจอหนังสือเล่มหนึ่งที่เพิ่งจะมีวางจำหน่ายเมื่อไม่นานมานี้ ซึ่งหนังสือที่ว่านั่นก็คือ [บันทึกเดินไปกินไปในราชอาณาจักร] 『王国食べ歩き紀行』 ที่ตีพิมพ์โดยสำนักข่าวลีเบร์ลค่ะ
- เควินได้ยินก็อดหงุดหงิดนิด ๆ ที่หนังสือกินเที่ยวมาอยู่ในชั้นเดียวกับหนังสือหายาก เพราะมันดูประหลาดมาก ๆ ค่ะ
(ว่าแต่ว่า...... สิ่งที่จะเข้าสู่สายตาหนูรีสได้อย่างรวดเร็วปานจรวดเนี่ย ยังไงก็หนีไม่พ้นเรื่องกินกับกินและกินจริง ๆ ด้วยนะเนี่ย มิหนำซ้ำยังมาบอกอีกว่าภาพอาหารในหนังสือดูน่าอร่อยมาก ๆ ด้วย ก็แหมฝีมือการถ่ายรูปของโดรธีมันก็ยอดเยี่ยมอยู่แล้วนี่นา 555)
- แล้วเควินก็นึกสงสัยขึ้นมาว่า ทำไมยัยท้องร้องจ๊อก (อีกหนึ่งความหมายก็คือ ตะกละ นั่นแล) ถึงไม่มีท่าทีโหยหิวตามปกติเลยแม้แต่น้อยค่ะ
- ได้รับ "แซนด์วิชสลัดไข่" 『卵サラダサンド』 อาหารเพียงหนึ่งเดียวที่รีสเหลือเก็บไว้ให้ ส่วนอาหารอย่างอื่นน่ะเหรอ ในช่วงที่เควินมัวแต่สำรวจชั้นหนังสืออยู่ หนูรีสเขมือบไปเรียบร้อยแล้วค่า
(เควินอุบอิบว่าซื้อมาตั้งเยอะแยะ แต่ทำไมเหลือแค่เนี๊ยะ เอาน่าเควิน หนูรีสแค่ลืมตัวหม่ำเกินไปนี๊ดเดียว เพราะว่าขนมปังที่ใช้วัตถุดิบดี ๆ มันอร่อยมากก็เท่านั้นเอง ก็แหม ไม่ว่าใครก็อดเอ่ยปากชมราชอาณาจักรลีเบร์ลไม่ได้ ว่าเป็นอาณาจักรที่ยอดเยี่ยม โดยเฉพาะเรื่องของกินนี่นา)
- แต่ตอนนี้ไม่ว่าจะยังไง สถานที่แห่งนี้มันก็แปลกเอามาก ๆ แถมตอนนี้ "อาร์ติแฟกซ์ปริศนา" ก็ไม่ส่องแสงออกมาเลย แต่ ณ ตอนนี้ ก็สามารถชี้ชัดลงไปได้อย่างนึงว่า ที่พวกเรามาอยู่ที่นี่ได้ก็เพราะแสงที่ส่องออกมาจากเจ้านี่ค่ะ
รีส "เควิน ขอยืมหน่อย เอาเจ้านั่นมาฝากไว้ที่ฉัน"
- เควินตกใจที่รีสเอ่ยปากขอ "อาร์ติแฟกซ์ปริศนา" มาเก็บไว้ที่เธอ
เควิน "ห๊ะ...... อะไรกัน จู่ ๆ ก็"
รีส "การปกป้องเธอเป็นงานของฉันในฐานะอัศวินรับใช้ ให้เธอเก็บของที่ดูอันตรายแบบนั้นเอาไว้ไม่ได้หรอก"
เควิน "รีส...... นี่น่ะ"
รีส "ส่งมาเดี๋ยวนี้"
- รีสทำเสียงแข็งใส่เควิน
เควิน "ฟู่...... เอาเถอะน่าใจเย็นลงก่อน ที่พวกเรากระเด็นมาที่นี่จะเป็นเพราะเจ้า [ศิลาจตุรัส] 『方石』 นี่หรือเปล่าก็ยังตัดสินไม่ได้ นอกจากนั้น ทั้ง ๆ ที่ชั้นเป็นคนเก็บเอาไว้แท้ ๆ แต่ทำไมเธอถึงถูกกลืนเข้ามาด้วย เพราะฉะนั้นถึงแม้เธอจะเป็นคนเก็บ แต่เรื่องที่เป็นอันตรายมันก็ไม่เปลี่ยนแปลงอยู่ดีใช่มั้ยล่ะ"
รีส "แต่ว่า......!"
เควิน "โทษทีนี่เป็นการลงมติจากหัวหน้า ถ้าเป็นอัศวินรับใช้ล่ะก็ สิ่งที่อัศวินพิทักษ์พูดก็ต้องทำตามใช่รึเปล่า?"
- รีสยอมแพ้เมื่อเควินใช้อำนาจของหัวหน้าในการสั่งการเรื่องนี้ แต่รีสก็ยังคงยื่นเงื่อนไขต่อเควินว่า ถ้าเหมือนจะมีอะไรที่อันตรายเกิดขึ้นก็ให้มอบมันมาให้เธอทันทีค่ะ
- ออกสำรวจสถานที่แห่งนี้กันได้เลยค่ะ
- เมื่อเข้ามาตรงลานกว้างตรงกลางของฉากจะพบกับแผ่นหิน 『石碑』 ที่ท่าทางจะเป็นของที่มามาตั้งแต่ยุคเซมเรียค่ะ
(รีสสังเกตเห็นข้อความบางอย่างเขียนเอาไว้ที่ฐานของแผ่นหิน เควินจึงเดินเข้าไปดูและทำให้เราทราบว่า สถานที่แห่งนี้มีชื่อเรียกว่า "สวนแห่งนักพรต" 『The Garden of Recluse=隠者の庭園』 ค่ะ)
- หลังจากใช้เวลาสำรวจแผ่นหินแล้ว เราจะไม่พบกับดักอะไร นั่นเป็นการแสดงให้เห็นว่าแผ่นหินอันนี้ไม่ใช่อุปกรณ์ แต่เป็นแค่แผ่นหินธรรมดา ๆ อย่างที่คิดเอาไว้ค่ะ
- "ถ้ายังไง ลองออกแรงทำให้พังไปเลยดีมั้ย?" รีสถามความเห็นเควินด้วยสีหน้าเรียบเฉยตามสไตล์ของเธอ
เควิน "นั่นสินะ------ เฮ้ย จะทำอะไรแบบนั้นได้ยังไงเล่า! ถึงจะแตกต่างกับอุปกรณ์ไปบ้าง แต่ก็ไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นใช่มั้ยล่ะ?"
รีส "......ล้อเล่นน่ะ ก็แค่ลองพูดดูเท่านั้น"
- "(แต่แววตาแม่คุณเอาจริงสุด ๆ ......)" เควินทำหน้าเหนื่อยหน่ายบ่นอุบอิบเพียงคนเดียว
- ขึ้นไปทางเหนือของแผ่นหินจะพบกับเวิ้งอวกาศไร้ที่สิ้นสุดค่ะ
รีส "ที่นี่...... คือที่ไหนกันแน่?"
เควิน "ก็ไม่รู้เหมือนกัน...... แต่ถึงจะพูดกันอยู่แบบนี้ ก็ไม่มีเสียงสะท้อนกลับมาเลย ท่าทางเราจะมาอยู่ในอวกาศที่กว้างใหญ่อย่างเหลือเชื่อไม่ผิดแน่"
รีส "......อย่างนั้นเหรอ"
- ไปทางซ้ายของฉากจะพบกับแท่นลอยฟ้าที่มีน้ำพุไหลเป็นสายลงสู่บ่อรูปพระจันทร์เสี้ยวด้านล่าง ท่ามกลางบรรยากาศที่แสนจะสวยงามค่ะ
(หนูรีสยังไม่วายคิดว่าถ้าได้มาปิคนิคทานข้าวกล่องที่นี่ ข้าวกล่องคงจะอร่อยสุด ๆ ส่วนเควินก็บ้าตกปลาไม่เปลี่ยนเลยค่ะ แต่น่าเสียดายที่ที่นี่ไม่มีปลาซักตัวเนอะ)
รีส "เควิน ตอนนี้ก็ยังตกปลาอยู่อีกอย่างงั้นเหรอ?"
เควิน "ใช่ ไม่เก่งแต่ก็ยังชอบเหมือนเดิมเลยล่ะ จริงสิ ที่ลีเบร์ลคนที่ชอบตกปลาก็มีอยู่เยอะแยะไปหมดด้วยน๊า พวกกลุ่มที่ตกปลาเกินงานอดิเรกไปก็มี แล้วเด็กที่รู้จักกันก็มีฝีมือระดับที่มืออาชีพยังอายด้วย"
รีส "......งั้นเหรอ......"
- รีสได้ฟังเควินพูดถึงเรื่องตกปลาอย่างมีความสุขก็ได้แต่อมยิ้มเงียบ ๆ ค่ะ
- ในเขตน้ำพุนี้จะมีแท่นที่ยื่นออกไปด้วย ในกรณีที่เราดึง Cleared Data ของภาค SC มาใช้ หากสำรวจจุดที่ส่องแสงตรงแท่นจะได้รับไอเทมพิเศษ (Rare Item) มาค่ะ
- จะมีเงื่อนไขจาก Bracer Rank ของเอสเทลในตอนจบ ดังนี้ค่ะ
เงื่อนไขการได้รับ Rare Item ในกรณีที่ดึง Cleared Data จากภาค SC มาใช้
Bracer Rank A ตราประทับตะวัน 『太陽の刻印』 (STR+10 DEF-10 & CP ฟื้นฟูเรื่อย ๆ ในฉากต่อสู้),
เซพิธทุกคุณสมบัติ x100
Bracer Rank B+, B ตราประทับจันทรา 『月の刻印』 (STR+5 DEF-5 & ได้รับ CP ในอัตราที่เพิ่มขึ้น),
เซพิธทุกคุณสมบัติ x100
Bracer Rank C+ ลงไป เซพิธทุกคุณสมบัติ x100
- เควินเห็นรีสจ้องของที่เขาหยิบขึ้นมาซะเขม็งก็ถามรีสว่า "กำลังคิดอยู่ว่า [ถ้าเป็นของกินก็คงจะดี] ใช่มั้ยล่ะ?" หนูรีสดันยอมรับอีกต่างหากว่า "......เควิน ยอดไปเลย ใช้ได้กระทั่งหลักธรรมในการอ่านใจเนี่ย ก็สมกับที่เป็นอัศวินพิทักษ์ล่ะนะ......" (อันที่จริง ไม่ใช่หลักธรรมซะหน่อยนะ เห็นรีสเป็นแบบนี้เควินก็ได้แต่ถอนใจค่ะ)
- ไปทางด้านขวาของฉาก จะพบกับต้นไม้ขนาดยักษ์ที่หนูรีสรู้สึกเสียดายมาก เพราะไม่มีผลไม้ให้กินซักลูกค่ะ
เควิน "จริงสิรีส พวกสมุนไพรหรือพวกที่เกี่ยวกับพืช เธอมีความรู้อย่างละเอียดสินะ? ต้นไม้นี่ รู้สึกเหมือนเคยเห็นมาก่อนรึเปล่า?"
รีส "......ไม่รู้เหมือนกัน คิดว่าอย่างน้อยก็ไม่ใช่พันธุ์ที่ขึ้นอยู่ในทวีปแถบตะวันตกหรอก"
เควิน "ฮืมม์...... อย่างนี้นี่เอง"
รีส "......? รู้อะไรแล้วเหรอ?"
เควิน "เปล่าหรอก...... สะดุดใจนิดหน่อยน่ะ"
- หนูรีสหันไปมองต้นไม้อีกครั้ง เธอรู้สึกว่าต้นไม้ต้นนี้เหมือนต้นเมเปิลมาก ๆ เลย จึงคิดว่าถ้าลองทำให้เป็นแผลดู น่าจะมีน้ำหวานไหลออกมาจากลำต้นให้กิน แน่นอนว่าเควินต้องรีบห้ามทันทีค่ะ
- กลับไปที่ลานกว้างตรงกลางของแผนที่อีกครั้งค่ะ (ถ้าสำรวจเวิ้งอากาศด้านบนสุดของแผนที่เป็นจุดสุดท้าย ต้องตัดฉากก่อนถึงจะเกิดเหตุการณ์ต่อไปที่ลานกว้างค่ะ)
- ถึงแม้เราจะไม่พบเจอพวกกับดักใด ๆ เลยก็ตาม แต่เควินก็สามารถสรุปอะไรบางอย่างได้
เควิน "ที่นี่ไม่ได้อยู่ในลีเบร์ล และเป็นสถานที่ที่ไม่มีในลีเบร์ลด้วย...... น่าจะเป็นอวกาศที่ต่างออกไปชนิดหนึ่งก็ว่าได้"
รีส "................................ ......ขอละเอียด ๆ อีกนิดซิ"
เควิน "นั่นสินะ ก็เคยมีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นในเหตุการณ์ [วงแหวน] ที่ว่าเหมือนกัน......"
- ว่าแล้วเควินก็เล่าเรื่องมิติประหลาดซึ่งใช้ผนึก [วงแหวน] ที่ถูกซ่อนอยู่ใน [หอคอยสี่วงแหวน] เบื้องหลังให้รีสฟังค่ะ เมื่อได้ฟังทำให้รีสพอจะสรุปได้ว่า สถานที่แห่งนี้ก็เหมือนกับมิติประหลาดที่เควินเคยเจอนั่นเองค่ะ
เควิน "ไม่ว่าจะสมเหตุสมผล ไม่ว่าจะแค่สมมติ แต่ก็ยังมีเรื่องผิดปกติอยู่อีกเรื่อง"
รีส "รู้แล้วล่ะ...... [บันทึกเดินไปกินไปในราชอาณาจักร] สินะ?"
เควิน "บิงโก สมมติว่าที่นี่เป็นอีกส่วนหนึ่งของมิติประหลาดที่ถูกผนึกไปพร้อม ๆ กับ [วงแหวนประกายแสง] 『輝く環』 เมื่อ 1200 ปีก่อนล่ะก็...... หนังสือที่เพิ่งจะวางจำหน่ายในปีนี้มาอยู่ในสถานที่แบบนี้นับว่าผิดปกติ แล้วหนังสือหายากที่เจอบนชั้นหนังสือทั้งหมด ก็เป็นของที่มีหลังจาก [การล่มสลายครั้งยิ่งใหญ่] 『大崩壊』 ด้วย เมื่อว่าไปตามนี้......"
รีส "ก็จะกลายเป็นว่า มีใครบางคนเคยเข้าออกที่นี่จนถึงเมื่อเร็ว ๆ นี้...... ......หรือจะเป็นชายชุดดำทั้งตัวคนนั้น?"
เควิน "ความเป็นไปได้นั้นก็อาจจะมี ......ถึงจะพูดอย่างนั้น แต่ชั้นไม่คิดว่าผู้ชายคนนั้นจะอ่าน [บันทึกเดินไปกินไปในราชอาณาจักร] อะไรเนี่ยหรอก"
รีส "นั่นก็จริง......"
เควิน "ช่างเถอะ ไม่ว่าจะอะไรก็ตาม แต่นี่ต้องเป็นสถานการณ์ที่ได้วางแผนด้วยความจงใจของใครบางคนไม่ผิดแน่ บางทีอาจจะวางแผนไปจนถึงเรื่องที่ [ศิลาจตุรัส] จะถูกส่งมอบมาไว้ในมือของพวกเราด้วย"
รีส "......ถึงขนาดนั้นเชียว...... แต่ถ้าสมมติว่าเป็นแบบนั้น จากนี้ไปจะทำยังไงกันดีล่ะ......?"
เควิน "อ๊า นั่นก็เป็นปัญหาอยู่นี่ไงล่ะ อย่างน้อยถ้ามีคอมพิวเตอร์ปลายทางอะไรเทือกนี้ ก็จะทดสอบอะไรต่าง ๆ ได้อยู่หรอก......"
- ทันใดนั้น ทั้ง 2 คนก็ได้ยินเสียงอะไรบางอย่าง ซึ่งก็คือเสียงของ [ศิลาจตุรัส] ที่มีปฏิกริยาอีกครั้งนั่นเองค่ะ
- เควินหยิบ [ศิลาจตุรัส] ขึ้นมาดู แต่คราวนี้แสงที่ส่องออกมาได้เข้าโจมตีร่างของทั้ง 2 คน และตามมาด้วยเสียงอะไรบางอย่างแตกค่ะ
รีส "มะ เมื่อกี๊นี้มัน......"
เควิน "เสียงแตกของอะไรบางอย่าง...... ......หรือว่า......!?"
- เควินหยิบออร์บเมนท์ต่อสู้ออกมาจากในอกเสื้อ และพบว่าวงจรผลึก (ควอทซ์) แตกละเอียดไม่เหลือแม้แต่อันเดียว รวมทั้งออร์บเมนท์ของรีสก็แตกหมดเช่นเดียวกันค่ะ
เควิน "โธ่ว้อย แม้แต่ควอทซ์สำรองก็แหลกจนไม่เหลือซากเลยเรอะเนี่ย...... นี่มันเรื่องอะไรกันแน่......"
- ฉับพลันแสงสีทองก็สว่างวาบออกมาจาก [ศิลาจตุรัส] แผ่นหินที่อยู่ตรงหน้าทั้ง 2 คน, ต้นไม้ยักษ์, น้ำพุและแท่นด้านเหนือสุดก็ส่องแสงเรืองรองออกมาราวกับขานรับปฏิกริยาของอาร์ติแฟกซ์ปริศนานั่น
รีส "กะ เกิดอะไรขึ้นกันเนี่ย......?"
เควิน "......ไม่รู้เหมือนกัน......... แต่ดูเหมือนว่าเจ้านี่คงจะเข้าไปแทรกแซงอะไรบางอย่างไม่ผิดแน่ รวมทั้งที่ไปทำลายควอทซ์ที่พวกเรามีอยู่จนไม่เหลือซากนั่นก็ด้วย"
รีส "............................... ......ไม่ทิ้งมันไปจะดีแน่เหรอ?"
เควิน "ไม่ ถ้าทิ้งไป ก็มีแต่จะยิ่งมืดแปดด้านต่างหากล่ะ ยังไงก็ตาม เจ้านี่คงจะลงมือกับอะไรบางอย่างไปแล้วแน่ ๆ ไปสำรวจสถานที่ที่เปลี่ยนแปลงไปให้ถึงที่สุดกันเถอะ"
รีส "......เข้าใจแล้ว"
☆ได้รับ "เซพิธทุกคุณสมบัติx50" จากเศษของควอทซ์ที่แตกไปค่ะ☆
- สำรวจแผ่นหิน จะได้ยินเสียงใครบางคนขอร้องให้เราเอา [ศิลาจตุรัส] แสดงให้แผ่นหินค่ะ
- เควินจะเสี่ยงเป็นเสี่ยงตายโชว์ [ศิลาจตุรัส] ให้แผ่นหินดูค่ะ
".........เหล่าชาวต่างแดนเอ๋ย.........
เควิน "อีกแล้ว......"
รีส "แต่...... เสียงต่างไปจากเมื่อกี๊นี้......"
".........ในที่สุดก็มาจนได้.........
จะขานรับต่อเจตุจำนงค์ของนายข้า ให้พลังแก่พวกเจ้า......
จงสวดภาวนาถึงสิ่งตอบแทน......
หากทำได้ จะให้พลังด้วยหลักการที่พวกเจ้ารู้......"
เควิน "ดะ เดี๋ยวก่อนสิ! สิ่งตอบแทน...... หลักการที่พวกเรารู้เนี่ย......"
รีส "......................... บางที...... หรือว่าจะเป็นการใช้มิร่าซื้อของ?"
เควิน "งั้นเองเหรอ......!"
".........เข้าใจได้ถูกต้องแล้ว.........
ตามหลักที่พวกเจ้ารู้ ให้พลังสู่สิ่งตอบแทน......"
☆เราจะสามารถใช้คำสั่งต่าง ๆ จากแผ่นหินได้ดังนี้เลยนะคะ
(1) ฟื้นฟู HP & EP
(2) ซื้ออาวุธเครื่องสวมใส่
(3) ผสมควอทซ์
(4) จบการใช้งาน
สำหรับตอนนี้ แนะนำให้ผสมควอทซ์เอาไว้ได้เลยค่ะ
โดยเฉพาะควอทซ์คุณสมบัติน้ำเนี่ย ขอบอกว่าจำเป็นแน่นอนเลยนะคะ☆
"จงปลดปล่อยวงศ์วานของข้า......
หากทำได้ จะให้พลังที่มากขึ้นกว่านี้กับเจ้าอีกครั้ง......"
- ถึงพวกเราจะยังงง ๆ กับเรื่องที่เกิดขึ้น แต่การที่เราใช้มิร่าหรือเซพิธได้นั้น ก็ช่วยในเรื่องจัดเตรียมกำลังในการต่อสู้ได้ค่ะ
- สำรวจอาณาเขตด้านบนสุดของแผนที่ จะพบว่ามีค่ายธรรมะ (แท่นวาร์ป) อยู่อีกฝั่งค่ะ
- สำรวจจุดที่ส่องแสงในน้ำพุที่อยู่ด้านซ้ายของแผนที่ค่ะ
"ในที่สุดก็มาจนได้...... เหล่าผู้เยี่ยมเยือนเอ๋ย......
ผู้เยี่ยมเยือนเอ๋ย ดื่มให้ชุ่มคอสิ
จะขานรับต่อคำอธิฐานของนายข้า ให้ความกระปรี้กระเปร่าแก่พวกเจ้า......"
☆เราจะสามารถดื่มน้ำในบ่อน้ำพุนี้ เพื่อฟื้นฟู HP, EP & CP ได้นะคะ
โดยช่วงเวลาที่จะใช้ได้นั้น เราต้องเข้าฉากต่อสู้ประมาณ 5 ครั้งขึ้นไป ถึงจะมีจุดที่น้ำส่องแสงขึ้นมาให้สำรวจเป็นสัญลักษณ์ ! (Look Point) เหมือนเดิมค่ะ
แนะนำว่า ก่อนเข้าสู้กับบอสให้กลับมาเตรียมตัวที่นี่ครั้งนึงก่อน รับรองว่าเวิร์คสุด ๆ ค่ะ☆
- สำรวจต้นไม้ยักษ์ที่อยู่ด้านขวาของแผนที่ค่ะ
"ขอต้อนรับ เหล่าแขกผู้มาเยือนเอ๋ย......
......จะขานรับต่อความปรารถนาของนายข้า......
......ให้ศีลทานจากผืนพสุธาแก่พวกเจ้า......
แต่กระนั้นพลังของข้า ก็มิได้พรั่งพร้อม......
จงอธิษฐานด้วยสิ่งตอบแทนที่สมน้ำสมเนื้อ......"
☆เราจะสามารถซื้อวัตถุดิบทำอาหารต่าง ๆ จากมหาพฤกษาได้ค่ะ☆
"ยามที่ พลังของนายข้าคืนกลับมา......
สีสันแห่งศีลทานของข้าเองก็คงจะเพิ่มพูนขึ้น......
......จะอำนวยพรแห่งพสุธาแก่พวกเจ้า......
เควิน "ฮะฮะ...... อะไรกันเนี่ย...... ......ต้นไม้พูดได้ แถมยังขายวัตถุดิบทำอาหารได้ด้วย นี่มันเรื่องล้อเล่นแบบไหนกันแน่เนี่ย......"
- รีสจ้องเขม็งไปที่ต้นไม้ที่ส่องแสงเรืองรอง
เควิน "รีส......? นี่ เป็นอะไรไปเหรอ?"
- รีสหยิบคัมภีร์ที่เธอพกไว้กับตัวขึ้นมา พลางกล่าวบทสวดตอนหนึ่งด้วยสีหน้ายิ้มแย้มยินดี
รีส "[......มหาพฤกษานั้น หยั่งรากลึกลงริมฝั่งน้ำพุเจ็ดสี นำมาซึ่งศีลทานและความปีติยินดี......] ------วรรคที่เจ็ดคัมภีร์แห่งปฐมกาล จาก [ดินแดนแห่งการเริ่มต้น]"
- รีสเก็บคัมภีร์ลง กุมมืออธิษฐานอย่างมีความสุข
รีส "เทพธิดาเอย...... ขอขอบพระคุณในความเมตตาและการปกป้องคุ้มครองอันยิ่งใหญ่ของท่านค่ะ"
เควิน "ท่าทางมีความสุขสุด ๆ เลยนะ...... แต่ชั้นว่าเจ้านี่คงไม่เกี่ยวกับการปกป้องคุ้มครองจากเทพธิดาหรอกมั้ง"
รีส "......ไม่ใช่แบบนั้นซักหน่อย [เส้นทางทุกสิ่งอัน ขับเคลื่อนไปได้ด้วยอาหาร] แม้แต่เทพธิดาก็กล่าวไว้เช่นนั้นในพระคัมภีร์"
เควิน "ไม่ได้กล่าวเลย ไม่ได้กล่าว"
- แต่ดูเหมือนหนูรีสจะไม่สนใจว่าเควินจะพูดยังไง เธอตัดบทและมอบ "สมุดจดสูตรอาหาร" 『レシピ手帳』 ให้กับเควินค่ะ
(เหตุผลที่รีสมอบสมุดจดสูตรอาหารให้ ก็เพราะเควินไม่เชื่อในพระคัมภีร์ (ที่ว่าด้วยเรื่องอาหารอ่ะนะ) และถ้าเควินเป็นคนเก็บสมุดจดเมนูอาหารเอาไว้ก็จะได้เป็นคนลงมือทำอาหารเองด้วย แต่เควินไม่ยอมค่ะ เพราะถ้าเป็นเรื่องอาหารให้รีสทำเองก็ได้ แต่รีสเถียงว่าเควินเป็นฝ่ายทำอาหารเก่งกว่าเธอมาตั้งแต่เมื่อก่อนแล้ว จะยังไงก็ตามเควินก็ไม่ยอมท่าเดียว แต่พอเห็นรีสทำหน้าผิดหวัง (นิด ๆ) เควินก็ใจอ่อนจนได้ และบอกให้รีสมาเป็นลูกมือเขา ตอนทำอาหารด้วยก็แล้วกัน ทำให้รีสดีใจม๊ากมากค่ะ)
- เมื่อออกมาที่ลานกว้าง เราจะเห็นว่ากำแพงที่ปิดทางเข้าสู่แท่นวาร์ปตรงจุดเหนือสุดหายไปแล้ว และเมื่อไม่พบว่าจะมีทางอื่นให้เราไปได้ ดังนั้น ถึงแม้จะไม่รู้ว่านั่นเป็นทางออกหรือไม่ แต่พวกเราก็ตัดสินใจว่าจะเข้าไปในแท่นวาร์ปค่ะ
(ตอนแรกเควินจะให้รีสรอที่นี่ แต่ทนสายตาเสียดแทงจากรีสไม่ไหวจึงจำยอมให้เธอไปด้วยค่ะ)
- ได้รับ "สมุดจดจอกดารา" 『星杯手帳』 จากรีสค่ะ
(จากตรงนี้จะทราบว่า "อธิการเซลเนิร์ต" ให้รีสนำสมุดจดจอกดารามามอบให้เควิน ด้วยเหตุผลที่ว่า เดี๋ยวนี้เควินไม่ค่อยจะรายงานข้อมูลให้มันละเอียดซักเท่าไรน่ะค่ะ)
เควิน "จะว่าไป รีสรู้จักกับอธิการด้วยเรอะ?"
รีส "......เป็นท่านอาจารย์สอนวิชาดาบธรรมะให้ฉัน ฉันเคารพนับถือท่านมาก ๆ เลยล่ะ"
เควิน "มะ ไม่รู้มาก่อนเลยแฮะ...... (จะว่าไปก็เพราะอธิการ...... จงใจไม่พูดเรื่องนี้กับชั้นสินะ...... ......ถ้าชั้นรู้ล่ะก็...... เรื่องที่จะมาเป็นอัศวินอะไรเนี่ย......)"
รีส "เควิน......?"
เควิน "เปล่า ไม่มีอะไร......"
- เควินรีบตัดบท แล้วบอกให้รีบไปที่ค่ายธรรมะกันค่ะ
(จริง ๆ แล้ว เควินไม่เห็นด้วยที่จะให้รีสมาเป็นอัศวิน ดังนั้น อธิการเซลเนิร์ตจึงได้ปิดบังเรื่องนี้กับเควินค่ะ)

ระเบียงหยก 『翡翠回廊』
- เมื่อวาร์ปเข้ามา เราจะพบว่าที่ที่เราอยู่ก็คือ "ระเบียงหยก" ที่วนไปวนมายาวสุดลูกหูลูกตาค่ะ
- ทันใดนั้นเอง ก็ปรากฏร่างของสัตว์ปิศาจ และเกิดการต่อสู้ขึ้นทันทีค่ะ
- โบน ชูตเตอร์ + โบน วอร์ริเออร์ *2 -
- 『ボーンシューター + ボーンウォリアー*2』 -
**แนะนำให้ใช้อาร์ทคุณสมบัติมายาอย่าง "แอสเซนชั่น" ปราบ จะง่ายขึ้นค่ะ**
- ปราบได้ เราจะรู้สึกว่าสัตว์ปิศาจเมื่อครู่เป็นสายพันธุ์ใหม่ที่เพิ่งเคยเห็นเป็นครั้งแรก รวมทั้งคุณสมบัติที่มีผลกระทบก็ได้มีการเปลี่ยนแปลงเพิ่มขึ้นมา และยิ่งไปกว่านั้น เราควรจะเรียกศัตรูว่า [ปิศาจ] 『魔物』 ซึ่งไม่อาจมีตัวตนอยู่ได้ในโลกที่เราอาศัยอยู่ตอนนี้ (หมายถึงโลกปกติ ไม่ใช่ที่นี่นะคะ) ตามพระคัมภีร์ค่ะ
(ดังนั้น ในภาคนี้เราจึงเรียกศัตรูว่า [สัตว์ปิศาจ] 『魔獣』 เหมือนเดิมไม่ได้นั่นเองค่ะ)
- ถึงแม้จะมีอันตรายรออยู่ข้างหน้า แต่เราก็ตัดสินใจไปต่อ เอาล่ะ บุกไปข้างหน้ากันต่อได้เลยค่ะ
☆ไอเทมที่พบ "ข้อมูล", "ยาแห่งเทียร์", "300 มิร่า" ค่ะ☆
- สุดทางของระเบียงหยกบนชั้นนี้ จะได้รับอีเวนท์ไอเทม "ศิลาลงผนึก" 『封印石』 ก้อนที่ 1 ที่ส่องแสงสีทองเรืองรองแสนอบอุ่นค่ะ
- เมื่อเราเก็บ [ศิลาลงผนึก] มาแล้ว [ศิลาจตุรัส] จะมีปฏิกริยาตอบสนอง พร้อม ๆ กับได้ยินเสียงของใครบางคนดังขึ้นมาอีกครั้งค่ะ
"......ชาวต่างแดนเอย......
ผู้ที่ครอบครอง [ศิลาจตุรัส] เอย......"
รีส "สะ เสียงเมื่อกี๊......"
เควิน "เฮ้ย แก!? กำลังพูดอยู่ที่ไหน!? แกเป็นใครกันแน่ห๊ะ!?"
"......ได้โปรดนำ [ศิลาลงผนึก] ก้อนนั้น......
ไปแสดงให้แผ่นหินในสวนดูด้วยเถิด......
เมื่อทำเช่นนั้น...... อาณาเขตกับ...... ที่ถูกกักขังอยู่...... จะ......"
เควิน "โธ่ว้อย...... จับใจความลำบากจริงแฮะ...... ให้เอาอัญมณีที่ได้มาเมื่อกี๊ไปที่แผ่นหินที่เจอตอนแรกว่างั้นสินะ!?"
"......จะทำการปลดปล่อย
พลังของ [ศิลาจตุรัส]...... อีกครั้ง......
......เพื่อจะได้เป็นกำลังให้......"
- แสงเรืองรองส่องสว่างห่อหุ้ม [ศิลาจตุรัส] ทำให้ฟังก์ชั่นวาร์ปใช้งานได้ค่ะ วิธีการใช้ฟังก์ชั่นนี้ก็ทำได้โดยคลิ๊กที่ [ปุ่มศิลาจตุรัส] 『方石ボタン』 บนมุมขวาบนของหน้าจอนะคะ
"จงระวัง...... คนของเขา......
ต้องรวบรวมกำลัง......
......พวกท่านจะ......นิรันดร์......
.........................................."
- ถึงแม้ตอนนี้เควินกับรีสจะปวดหัวตุ๊บ ๆ กับเหตุการณ์ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น แต่ยังไงก็มีแต่ต้องลองทำตามที่เสียงปริศนานั่นบอกโดยการกลับไปที่ "สวนแห่งนักพรต" กันก่อนค่ะ
- กด [ปุ่มศิลาจตุรัส] บนมุมขวาบนของหน้าจอ แล้วเลือกชั้นดาราที่ต้องการวาร์ปไป โดยตอนนี้จะมีแค่ "ฐานที่มั่น" ในสวนแห่งนักพรตให้เลือกที่เดียวค่ะ

สวนแห่งนักพรต 『隠者の庭園』
- เราจะตัดสินใจแสดง [ศิลาลงผนึก] ให้แผ่นหินดูตามที่เสียงปริศนาบอก โดยรีสจะทำหน้าที่คุ้มครองเผื่อมีอะไรเกิดขึ้นค่ะ

ระเบียงหยก 『翡翠回廊』
- ในขณะนั้นเอง กำแพงเรืองแสง (อาณาเขต) ที่อยู่ใน "ระเบียงหยก" ก็คลายออกค่ะ

สวนแห่งนักพรต 『隠者の庭園』
- กลับมาที่สวนแห่งนักพรต เควินและรีสต่างก็ประหลาดใจกับแสงสว่างสีทองที่ห่อหุ้มอะไรบางอย่างเอาไว้
รีส "......เด็กผู้หญิง......?"
ทีต้า "ฮือ เฮ้อ~...... ......สะ แสงเมื่อกี๊นี้......"
เควิน "................................ (ผงาบผงาบ)"
- รีสเก็บดาบของเธอลง
รีส "เด็กคนนี้ ที่อยู่ในรูป......"
- "เห......?" ทีต้าที่ยังอยู่ในอาการงัวเงียและงุนงงยืนขึ้น
ทีต้า "คะ คุณเควิน......? เอ่อเอ่อ? คุณเควินสินะคะ? ทำไมถึงมาอยู่ที่นี่ล่ะ......"
เควิน "อ๊า~...... ฮะฮะ ไม่ได้เจอกันนานนะ ทีต้าจัง ครึ่งปีได้แล้วสิเนี่ย? ดูเหมือนตัวจะสูงขึ้นนิดหน่อยนะ"
ทีต้า "อ๊ะ...... เอ๊ะเหะเหะ ขอบคุณค่า เอ่อ ไม่ได้พบกันนานเลย มาเที่ยวที่ลีเบร์ลอีกใช่มั้ยคะ? เอ๊ะ พี่สาวคนนั้นคือ......"
- ทีต้าสะดุดใจเมื่อเห็นรีส เธอหันรีหันขวางมองไปรอบ ๆ ตัว "เอ๊ะ...... หนูกำลังเฝ้าบ้านด้วยกันกับคุณพ่อนี่นา...... กำลังเตรียมข้าวเย็น เพราะเดี๋ยวคุณอากัตจะมา แล้วจู่ ๆ ก็มีแสงสีขาวโพลนขึ้นมา...... แล้วก็......" และแล้วหนูทีต้าก็รู้สึกตัวแล้วว่าที่นี่ไม่ใช่ที่ไซสส์ ไม่ใช่ที่ลีเบร์ล หนูน้อยได้แต่ตื่นตระหนกตกใจว่านี่เป็นความฝันหรือเปล่า ว่าแล้วก็จะหยิกแก้มตัวเองทำให้แน่ใจค่ะ
(เควินเห็นหนูน้อยลนลานแบบนี้ ทำให้เขามั่นใจได้เลยว่าทีต้าคนนี้ต้องเป็นตัวจริงแน่นอน ส่วนรีสก็อดอมยิ้มในความน่ารักของทีต้าไม่ได้ค่ะ)
- "ยะ อย่างนั้นเหรอคะ...... เป็นเพราะอาร์ติแฟกซ์อันนั้นที่พวกคุณแม่นำขึ้นมาถึงทำให้......" ทีต้ากล่าวด้วยสีหน้ากังวลหลังจากที่ได้ฟังเรื่องราวต่าง ๆ จากพวกเควิน
เควิน "เปล่าหรอก...... บอกตามตรงว่าเจ้านี่จะเป็นสาเหตุหรือไม่ตอนนี้ก็ยังไม่เข้าใจดี"
- เควินเก็บ [ศิลาจตุรัส] ลง แล้วพูดต่อด้วยสีหน้าที่เคร่งเครียดว่า
เควิน "นอกจากนั้น ถ้าเจ้านี่เป็นสาเหตุล่ะก็ เหตุผลที่กลืนเอาทีต้าจังที่อยู่ที่ไซสส์มาด้วยก็ยังไม่เข้าใจอยู่ดี"
ทีต้า "จะ จะว่าไป...... ที่ไซสส์กับแกรนเซลระยะทางก็ห่างกันมาก ๆ ด้วย......"
รีส "แต่ รู้สึกว่าช่วงเวลาที่ถูกแสงสีขาวกลืนเข้าไปนั้นเกือบจะเป็นช่วงเดียวกันเลยนะคะ คงจะมีความเกี่ยวข้องอะไรบางอย่างไม่ผิดแน่......"
ทีต้า "คะ ค่ะ หนูก็คิดแบบนั้นเหมือนกัน อ๊ะ...... ขะ ขอโทษค่ะ! หนูยังไม่ได้แนะนำตัว...... เอ่อ หนูชื่อทีต้า รัซเซลเป็นวิศวกรฝึกหัดของโรงงานกลางไซสส์ค่ะ!"
รีส "ซิสเตอร์แห่งโบสถ์เจ็ดจรัส รีส อาร์เจนต์ค่ะ เรื่องของคุณได้รับทราบจากท่านแม่แล้วก็เควินมาบ้างแล้วค่ะ"
ทีต้า "อ๊ะ คุณรีสก็ได้พบกับคุณแม่แล้วเหรอคะ?"
รีส "ค่ะ...... ได้ดูรูปด้วยนะคะ พอได้มาพบกันแบบนี้ ก็พอจะเข้าใจที่ท่านแม่ภาคภูมิใจได้เลยล่ะค่ะ"
ทีต้า "ฮะ ฮือ...... ......คุณแม่ล่ะก็...... เอ่อ คุณแม่ทำอะไรที่เสียมารยาทกับคุณรีสไปหรือเปล่าคะ? หนูว่าคนน่ารัก ๆ อย่างคุณรีส เป็นแบบที่คุณแม่ชอบมากเลยด้วย......"
รีส "เอ๊ะ......"
ทีต้า "ขะ ขอโทษค่ะ! ทั้ง ๆ ที่อายุมากกว่าแท้ ๆ แต่หนูดันใช้คำว่าน่ารักเนี่ย! แต่ว่าแต่ว่า จะพูดยังไงดี เป็นคนสวย สุขุม ให้บรรยากาศที่ดูโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ล่ะมั้ง......"
- ".........โดดเด่นเป็นเอกลักษณ์........." รีสทวนคำพูดของทีต้าด้วยสีหน้ากังวลใจ
เควิน "ฮะฮะ เหมือนกันเปี๊ยบเลยแม่ลูกคู่เนี้ยะ แต่จะว่าไปเรื่องโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์เนี่ย คงจะไม่มีใครเกินรีสล่ะมั๊ง"
รีส "ฮึ่ม......"
ทีต้า "คือว่า นั่นมันก็...... แล้ว พวกคุณเควินต่อจากนี้จะทำยังไงเหรอคะ? จะหาวิธีออกจากที่นี่ไปเรื่อย ๆ สินะคะ?"
เควิน "อ้อ ก็คิดแบบนั้นนั่นแหล่ะ แต่จะว่าไปก็เพิ่งจะเริ่มสำรวจไปได้แป๊บเดียวเอง ยังไม่ค่อยจะคืบหน้าเท่าไร"
ทีต้า "อย่างนั้นเหรอคะ...... ......เอ่อ! ถ้าอย่างนั้นก็ให้หนูช่วยด้วยนะคะ! จะพยายามแบบที่ไม่ไปเกะกะแน่นอนค่ะ!"
รีส "เอ๊ะ......"
เควิน "อืมม์ นั่นสิน๊า บอกตามตรง ชั้นน่ะอยากให้ทีต้าจังรออยู่ที่นี่ เพราะดูเหมือนว่าจะเป็นสถานที่ใช้พวกสามัญสำนึกของพวกเราไม่ได้อย่างที่บอกไปเมื่อตะกี๊นี้น่ะ"
ทีต้า "แต่ว่าแต่ว่า ถ้าพูดแบบนั้นมันก็เหมือนให้รออยู่ที่นี่นั่นแหล่ะค่ะ...... ถ้ามีเรื่องที่หนูทำได้ หนูก็อยากจะช่วยค่ะ!"
เควิน "งั้นเหรอ...... ฮะฮะ สมกับที่เป็นน้องสาวบุญธรรมของเอสเทลจังจริง ๆ นะ"
ทีต้า "เอ๊ะเหะเหะ"
รีส "เควิน...... เอาจริงเหรอ?"
เควิน "สำหรับเด็กคนนี้ไม่ต้องเป็นห่วงถึงขนาดนั้นก็ได้ เห็นอย่างนี้นะ ก็ไปมาจนถึงสนามรบสุดท้ายในเหตุการณ์ครั้งก่อนเชียวนะ มองไปให้ลึกลงไปยิ่งกว่าภาพที่เห็นสิ"
รีส "ถึงจะพูดแบบนั้นมามันก็......"
ทีต้า "เอ่อ...... ขอรบกวนด้วยนะคะ! หนูจะระวังตัวให้ดี จะไม่ทำให้ทั้ง 2 คนต้องเป็นห่วงค่ะ!"
- รีสอึ้งไปชั่วครู่ ก่อนที่จะมีสีหน้าที่เชื่อมั่นในความเด็ดเดี่ยวของทีต้า
รีส "......ทราบแล้วค่ะ ทางนี้ต่างหากที่ต้องขอรบกวนด้วย"
ทีต้า "! จะ จริงเหรอคะ!?"
รีส "ดูเหมือนว่าคุณจะทราบดีอยู่แล้วว่าการทำให้ผู้อื่นเป็นห่วงเป็นเช่นไร เมื่อเป็นเช่นนั้น ฉันก็จะไม่ห้ามอะไรไปมากกว่านี้ค่ะ ......แต่ถ้ายังไง ก็ระวังตัวให้มาก ๆ นะคะ"
ทีต้า "คะ ค่ะ!"
เควิน "สำหรับเรื่องนั้น ชั้นเองก็ต้องขอด้วยเหมือนกันนะ ถ้ามีอะไรเกิดขึ้นกับทีต้าจัง ชั้นต้องโดนดร. เอริก้าเจี๋ยนแน่ ๆ เลยล่ะ"
- ทีต้าหน้าซีดเหงื่อตก และด้วยความที่รู้นิสัยแม่ตัวเองดีจึงรีบรับปากคำขอของเควินทันทีค่ะ
※ทีต้าเข้ากลุ่มค่ะ※
- เมื่อเตรียมตัวเรียบร้อยแล้ว ก็มุ่งหน้าต่อไปที่ระเบียงหยกได้เลยค่ะ

ระเบียงหยก 『翡翠回廊』
- ไปตามทางเดิมที่ได้ผ่านมา เมื่อมาถึงจุดที่เคยมีกำแพงกั้นอยู่ (อาณาเขต) พวกเราจะประหลาดใจที่มันหายไปแล้วค่ะ และสาเหตุที่กำแพงหายไป อาจเป็นเพราะปลดปล่อยทีต้าออกมาค่ะ
(จากคำบอกเล่าของทีต้า ถ้าพิจารณาจากจุดที่ว่า พวกเควินได้ทำการปลดปล่อยตัวเธอออกมาจาก [ศิลาลงผนึก] แล้วกำแพงถึงหายไปล่ะก็ นี่อาจจะเป็น [กฏ] อะไรบางอย่างก็เป็นได้ค่ะ)
- เมื่อไปต่อจะพบประตูสีเหลือทองตั้งตระหง่านอยู่ค่ะ
เควิน "......อะไรกันล่ะเนี่ย?"
รีส "ประตูที่มีภาพพระจันทร์เขียนไว้......"
"มาจนได้......
เจ้า จงพาเด็กสาวอัจฉริยะแห่งวิทยาการออร์บเมนท์มาหาข้า
หากทำได้ [ประตู] จะเปิดออก......"
ทีต้า "เฮือก หวาหวา...... ได้ยินเสียงดังเข้ามาในหัวตรง ๆ ด้วย......!?"
เควิน "จากที่พูดเมื่อกี๊ หมายความว่าประตูนี่ก็มีความมุ่งมั่นด้วยงั้นเรอะ...... เหลวไหลจริง ๆ ท่าทางคงจะต้องทำตัวให้ชินกับกฏพิลึก ๆ นี่แล้วนะเนี่ย"
รีส "แต่...... ที่บอกว่าเด็กสาวอัจฉริยะแห่งวิทยาการออร์บเมนท์นั่น"
- เควินกับรีสหันมาจ้องทีต้าเขม็ง
ทีต้า "เห...... หนะ หนูเหรอคะ!?"
รีส "......เกรงว่าจะใช่"
เควิน "ไม่ว่ามองจากมุมไหน ก็คงจะเป็นทีต้าจังนั่นแหล่ะนะ"
- "เฮ้ย ใช่เด็กนี่รึเปล่าล่ะ?" เควินหันไปพูดกับประตู
"ถูกต้อง......
เด็กสาวผู้นั้นเป็นผู้ที่ข้าต้องการ"
- ประตูเปิดอ้าออก
"ผู้ที่จะเข้าไปได้ มีเพียงเด็กสาวผู้นั้น......
หากมิเกรงกลัวต่ออุปสรรคของข้า
จงทะลวงผ่านประตู ณ บัดนี้"
ทีต้า "ฮะหวาหวา...... ทะ ที่บอกว่าอุปสรรคเนี่ย......"
เควิน "ดูเหมือนจะเป็นการขอวัดระดับฝีมืออะไรแบบนั้นนะ...... ยิ่งไปกว่านั้นท่าทางตั้งใจจะให้ทีต้าจังเข้าไปแค่คนเดียวด้วย"
รีส "......ไม่มีเหตุผลเอาซะเลยนะคะ น่าจะพูดว่าไม่จำเป็นต้องเข้าไปยุ่งด้วย"
- ทีต้าครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนที่จะเอ่ยปากขอให้เธอลองเข้าไป สร้างความตกใจให้กับเควินและรีสมาก และถึงแม้เควินกับรีสจะห้ามเพราะว่ามันอันตรายเกินไป แต่ทีต้าเห็นว่านี่อาจจะเป็น [กฏ] อะไรบางอย่างก็เป็นได้ ดังนั้น เธอจะลองเข้าไปดูค่ะ เควินกับรีสเห็นทีต้าตัดสินใจแน่วแน่ขนาดนั้น จึงยอมให้เธอเข้าไป แต่ถ้าพบอันตรายให้รีบออกมาทันทีค่ะ
- หลังจากทีต้าออกมาจากประตูแล้ว เธอจะเล่าเรื่องราวต่าง ๆ ที่ได้เจอมาเบื้องหลังประตูให้พวกเควินฟังค่ะ ทำให้พวกเราเข้าใจอย่างแจ่มแจ้งยิ่งขึ้นว่า นี่คือ [กฏ] อย่างที่คิดเอาไว้จริง ๆ ค่ะ
☆ว่าด้วย [ประตูแห่งความทรงจำ]☆
- [ประตูแห่งความทรงจำ] ที่สามารถดู Episode ได้นั้นจะมีวางอยู่ทั่วไป โดยจะแยกออกเป็น 3 ชนิดดังนี้ค่ะ
[ประตูจันทรา] Long Episode
[ประตูดารา] Short Episode
[ประตูตะวัน] Mini Game
- สำหรับการเปิดประตูนั้น หากไม่ทำตามเงื่อนไขที่ประตูบอกก็จะไม่สามารถเข้าไปเคลียร์ได้ค่ะ
- นอกจากนั้น บางครั้งอาจจะมีการจำกัดผู้ที่จะเข้าไปในประตู หรือบางครั้งก็จะเกิดการต่อสู้ขึ้นด้านใน แล้วแต่ประตูด้วยค่ะ
- เมื่อได้ซาบซึ้งไปกับ Episode แล้ว ในการเล่นครั้งแรกจะได้รับมิร่า, ได้รับไอเทมหรือโบนัสตามการเลือกคำตอบหรือการกระทำค่ะ
- โดยเราสามารถดูข้อมูลต่าง ๆ เพิ่มเติมจากบันทึกที่จดเอาไว้ใน [สมุดจอกดารา] ได้ค่ะ
- ทั้งยังสามารถใช้คำสั่ง [ศิลาจตุรัส] วาร์ปมายังประตูที่เราเจอไปแล้วได้ด้วยค่ะ (ในกรณีที่เจอแล้วแต่ยังไม่ได้เข้าไปเล่น ก็สามารถวาร์ปมาได้ค่ะ)
- มุ่งหน้าต่อไปเรื่อย ๆ เราจะวาร์ปมาและได้พบกับยาน [อัลเซยู] ที่ไม่รู้มาอยู่ที่นี่ได้ยังไง ดังนั้น เราจึงต้องไปที่ ๆ ยานจอดอยู่เพื่อเข้าไปตรวจสอบดูค่ะ
- เดินลงบันไดมาเราจะพบกับแผ่นหินที่คล้ายกันกับแผ่นหินอันใหญ่ที่ตั้งอยู่ในสวนแห่งนักพรตค่ะ จากนั้นเควินจะใช้ [ศิลาจตุรัส] ทำให้แผ่นหินส่องแสงค่ะ
(จากตรงนี้ เราจะทราบว่า ข้อความที่แผ่นหินในสวนแห่งนักพรตกล่าวทิ้งท้ายเอาไว้ว่า [จงปลดปล่อยวงศ์วานของข้า] ก็คือการปลดปล่อยแผ่นหินขนาดเล็กพวกนี้ค่ะ)
☆ว่าด้วย [แผ่นหิน]☆
- แผ่นหินที่มีอยู่ทั่วไปนั้น เมื่อเข้าไปสำรวจ เราจะใช้การทำงานของ [ศิลาจตุรัส] ทำให้แผ่นหินฟื้นคืนพลังค่ะ
- โดยแผ่นหินที่พบแต่ละอัน เราสามารถใช้งานได้เหมือนกับแผ่นหินที่ตั้งอยู่ที่ฐานที่มั่นในสวนแห่งนักพรตทุกประการค่ะ
- นอกจากนั้น แผ่นหินขนาดเล็กพวกนี้ จะเป็นจุดที่ให้เราใช้ [ศิลาจตุรัส] วาร์ปมาได้ โดยจุดวาร์ปจะทำงานได้ก็ต่อเมื่อเราสำรวจแผ่นหินนั้น ๆ แล้วค่ะ
- และในกรณีที่แผ่นหินในแต่ละที่ มีไอเทมหรือควอทซ์ใหม่ ๆ ขาย แผ่นหินที่ฐานที่มั่นก็จะมีไอเทมที่เราพบนั้น ๆ เพิ่มขึ้นมาให้ซื้อเช่นเดียวกันค่ะ
☆ใช้จุดวาร์ปด้านตะวันตก จะพบไอเทม "กรัมโชคเกอร์" และ "แบล็คบังเกอร์" ค่ะ☆
☆ใช้จุดวาร์ปด้านตะวันออก จะพบไอเทม "ยาแห่งเทียร์",
"มันฝรั่งซอสมะเขือเทศแดงชาด" และ "ยาแห่งลีเบ" ค่ะ☆

อัลเซยู 『アルセイユ』
- เมื่อวาร์ปไปเรื่อย ๆ จนมาถึง [อัลเซยู] ก็ให้เข้าไปสำรวจด้านในได้เลยค่ะ
(จากตรงนี้จะทราบว่า [อัลเซยู] ซึ่งมีระดับความเร็วสูงสุดอยู่ที่ระดับ 3600 เซลจ์นั้นสูงกว่า [เมลคาบาห์] ค่ะ ทีต้าสงสัยว่า [เมลคาบาห์] คืออะไร เควินบอกทีต้าเรียบ ๆ ว่าเป็นยานที่โบสถ์ใช้กัน แล้วก็ตัดบทให้เข้าไปสำรวจในอัลเซยูที่ถึงแม้ออร์เบิลเอนจิ้นจะทำงานอยู่ แต่ก็ไม่มีวี่แววของมนุษย์เลยค่ะ)
- เมื่อเข้ามาภายใน [อัลเซยู] จะพบว่าพลังงานออร์บเมนท์ล่มทั้งหมด (ไม่มีไฟฟ้าใช้) ทีต้าบอกว่าไม่แน่ว่าออร์เบิลเอนจิ้นอาจจะเกิดความผิดปกติก็เป็นได้ค่ะ
☆ที่ดาดฟ้าเรือส่วนท้าย จะพบไอเทม "รอแยล สไปค์" ค่ะ☆
- ลงไปชั้นล่าง เข้าไปที่โรงงานอัลเซยู สำรวจประตูห้องเครื่อง ทีต้าจะลองสำรวจเครื่องยนต์ภายใน แต่ไม่ว่าจะทำยังไงเครื่องยนต์ก็ไม่ทำงาน แต่เธอก็ได้ต่อสายวงจรไปที่คอมพิวเตอร์ปลายทางที่อยู่ข้าง ๆ ประตูแล้วค่ะ
(จากคำบอกเล่าของทีต้า ในห้องเครื่องนี้ได้บรรจุเครื่องยนต์รุ่นใหม่ [XG-02] ซึ่งเป็นเครื่องยนต์หลักของอัลเซยูเอาไว้ถึง 8 ตัวค่ะ)
- สำรวจคอมพิวเตอร์ปลายทาง [คาเปล] เราจะสามารถปลดล็อกประตูต่าง ๆ ที่อยู่ใน [อัลเซยู] ได้ดังนี้เลยค่ะ
(1) ห้องบังคับการ
(2) ห้องวางแผนกลยุทธ์
(3) ห้องพยาบาล
(4) จบการทำงาน
☆ไอเทมที่พบภายในอัลเซยู "ปั๊บปาร่า พาเอเรีย" (ห้องอาหาร),
"ยาแห่งเซราส", "300 มิร่า" (ห้องพยาบาลทั้ง 2 ห้อง), "แม่นยำ2" (ห้องวางแผนกลยุทธ์) ค่ะ☆
- ไปที่ห้องบัญชาการชั้นบนสุด จะพบ "ศิลาลงผนึก" ก้อนที่ 2 ค่ะ
(พอทีต้ารู้ว่าตัวเองเคยอยู่ในหินสวย ๆ แบบนี้ ก็รู้สึกดีใจมากค่ะ)

สวนแห่งนักพรต 『隠者の庭園』
- ใช้ [ศิลาจตุรัส] วาร์ปกลับมาที่ "ฐานที่มั่น" สำรวจแผ่นหินเลือกคำสั่งที่ 1 "ปลดปล่อยศิลาลงผนึก" ได้เลยค่ะ
(ทีต้าเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่งว่าจะมีคนออกมาจากหินก้อนนั้นได้จริง ๆ หรือเปล่า รีสก็เลยพูดแหย่ทีต้าว่า อาจจะเป็นคุณทีต้าออกมาอีกคนก็ได้ ทำเอาหนูน้อยทีต้าผวาไปเลยค่ะ ว่าแต่ ทำไมรีสพูดเล่นแต่สีหน้าเหมือนเอาจริงจังเลยล่ะเนี่ย)

ระเบียงหยก 『翡翠回廊』
- ในตอนนั้นเอง กำแพงเรืองแสงที่อยู่ใกล้ ๆ กับแผ่นหินก็ได้คลายออกค่ะ

สวนแห่งนักพรต 『隠者の庭園』
รีส "......เครื่องแบบทหาร......?"
ทีต้า "หระ หรือว่าจะเป็น......"
เควิน "นึกแล้วเชียว...... ชั้นคาดเอาไว้ตั้งแต่ตอนที่เจอในอัลเซยูแล้วล่ะ......"
- เมื่อแสงสว่างสีทองเรืองรองที่ห่อหุ้มร่างกายดับลง ก็ปรากฏร่างของหญิงสาวในชุดทหารแห่งกองกำลังรักษาพระองค์ที่ดูคุ้นตาค่ะ
ร้อยเอกยูเลีย "......คึ......... เอโก้! เกิดอะไรขึ้นกันเนี่ย!?"
- ร้อยเอกยูเลียถามเจ้าหน้าที่สังเกตุการณ์เอโก้ผู้เป็นลูกน้องของเธอ แต่เมื่อไม่เห็นเงาของลูกน้องแม้แต่คนเดียวและได้สังเกตุเห็นสภาพโดยรอบ เธอก็นึกสงสัยและเอ่ยถามพวกเควินอย่างใจเย็นว่านี่เป็นความฝันหรือเปล่าค่ะ
- หลังจากที่ยูเลียได้ฟังเรื่องราวจากพวกเควินแล้ว เธอรู้สึกว่าเรื่องนี้ทำใจให้เชื่อได้ยากจริง ๆ ค่ะ
เควิน "แล้วทางคุณยูเลียจำได้รึเปล่าครับว่ามีอะไรเกิดขึ้น? เมื่อคืนวานถูกกลืนเข้าไปในแสงสีขาวจริง ๆ ใช่มั้ยครับ?"
ร้อยเอกยูเลีย "ถึงจะบอกว่าเมื่อคืนวาน...... แต่ฉันรู้สึกราวกับว่าเป็นเรื่องที่เพิ่งจะเกิดขึ้นเมื่อสักครู่นี้...... ที่เกิดขึ้นหลังจากการซ้อมบินจบลง แล้วก็อยู่ระหว่างการบินกลับไปที่ค่ายเรสตอนพอดีน่ะ ตอนที่นั่งอยู่บนที่นั่งในห้องบังคับการ จู่ ๆ รอบ ๆ ก็ขาวโพลนขึ้นมา...... ......ดูเหมือนว่าความทรงจำจะขาดช่วงไปจากตรงนั้นนะ"
เควิน "อย่างนี้นี่เอง...... ชักจะเข้าใจความเป็นไปส่วนใหญ่แล้วล่ะครับ"
รีส "เกือบจะเป็นช่วงเวลาเดียวกันกับกรณีของพวกเราอย่างที่คิดไว้จริง ๆ นะคะ...... ทราบหรือเปล่าคะว่าลูกเรือท่านอื่นเป็นยังไงกันบ้าง?"
ร้อยเอกยูเลีย "ไม่รู้สิ...... บอกตามตรงว่าไม่มีความคิดเห็นในเรื่องนี้เลย ถ้าคนที่ถูกกลืนเข้ามามีแค่ฉันคนเดียว ก็ยังวางใจได้อยู่หรอก......"
ทีต้า "ที่อัลเซยูมีอยู่เนี่ย ลูกเรือคนอื่น ๆ ก็ต้องมีอยู่เหมือนกัน...... ......หมายถึงเรื่องนั้นใช่มั้ยคะ?"
เควิน "ฮึ่ม...... ถึงจะไม่พูดถึงเวลา ณ ปัจจุบัน แต่อย่างน้อยก็ชี้ชัดลงไปได้ว่าในยานไม่มีใครอยู่เลยซักคนเดียว นอกจากศิลาลงผนึกที่คุณยูเลียออกมาน่ะ"
- ยูเลียเงียบไปครู่นึงด้วยสีหน้าที่กังวลใจที่แสดงให้เห็นถึงความรู้สึกเป็นห่วงลูกน้อง
ร้อยเอกยูเลีย "หลวงพ่อเควิน แล้วก็ซิสเตอร์ รีส ดูเหมือนว่าพวกเธอจะเริ่มตรวจสอบสถานที่แห่งนี้ไปก่อนแล้วสินะ?"
เควิน "ครับ ก็ใช่"
รีส "......เพิ่งจะเริ่มตรวจสอบไป ก็เลยยังไม่ทราบอะไรซักเท่าไหร่ค่ะ"
ร้อยเอกยูเลีย "ถ้าเช่นนั้น...... ฉันก็อยากจะขอช่วยเหลือพวกเธอด้วย ฉันรู้สึกเป็นห่วงความปลอดภัยของพวกลูกน้อง แล้วก็ต้องการจะไปดูสาเหตุที่อัลเซยูขยับเขยื้อนไม่ได้ให้แน่ใจด้วย...... ดูเหมือนว่าเพื่อการนั้นแล้ว การขอความร่วมมือจากพวกเธอเป็นทางลัดที่ดีที่สุด"
ทีต้า "ว้าว......!"
เควิน "บอกตามตรงว่าถึงไม่ขอก็จัดให้ จะขอฝากความหวังไว้กับทักษะดาบของสุดยอดในหมู่รุ่นใหม่แห่งกองทัพราชอาณาจักรนะครับ"
ร้อยเอกยูเลีย "ฮะฮะ...... ทักษะดาบของฉันยังไม่ถึงขั้นนั้นหรอก ซิสเตอร์ รีส แล้วก็ทีต้าคุง ถึงพวกเธอจะยังเด็กแต่ก็ขอฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะ"
- รีสกับทีต้าน้อมรับและฝากตัวกับยูเลียด้วยความยินดีค่ะ
※ยูเลียเข้ากลุ่มค่ะ※

ระเบียงหยก 『翡翠回廊』
- กลับไปที่ระเบียงหยกอีกครั้ง (แนะนำให้วาร์ปมาค่ะ เลือกชั้นดาราที่ 1 แล้วเลือกระเบียงหยกได้เลยค่ะ) เราจะสามารถเข้าไปใช้แท่นวาร์ปทางด้านใต้ได้แล้วค่ะ

อัลเซยู 『アルセイユ』
- แต่ก่อนที่จะผ่านตรงนี้ไป หากเราแวะไปที่ [อัลเซยู] จะมีอีเวนท์พิเศษเกิดขึ้นค่ะ ซึ่งรายละเอียดการตรวจสอบก็จะมีบันทึกลงไป "สมุดจดจอกดารา" ด้วยนะคะ (ไม่บังคับ)

ระเบียงหยก 『翡翠回廊』
☆ไอเทมที่พบ "น้ำดื่มจากธรรมชาติสุดสดชื่น" และ "เซพิธ (ดิน+น้ำ+ไฟ+ลมx50)" ค่ะ☆
☆ไอเทมที่พบ "ถือศีล [ดื่มด่ำไปกับปลา]" และ "เซพิธ (เวลา+อากาศ+มายาx50)" ค่ะ☆
- เมื่อลงมาข้างล่างสุดของชั้นดาราที่ 1 รีสกับเควินจะได้กลิ่นอะไรบางอย่างที่มีแต่คนของโบสถ์เท่านั้นที่จะรับรู้ได้ค่ะ
เควิน "กลิ่นเน่าเปื่อย...... ไม่สิ ควรจะเรียกว่ากลิ่นของยมโลก 『黄泉』 มากกว่าล่ะมั้ง กลิ่นนั่นลอยออกมาจาง ๆ จากข้างหน้านี้น่ะครับ"
- เควินหันมาอธิบายพวกยูเลีย รีสยังเสริมอีกว่า กลิ่นของพวกโครงกระดูกที่เราเจอมาก่อนหน้า เทียบชั้นกับกลิ่นนี้ไม่ได้เลยค่ะ
- อย่าลืมสำรวจแผ่นหินซึ่งเป็นจุดสิ้นสุดของระเบียงหยก เพื่อจะได้เตรียมตัวให้เรียบร้อยค่ะ
- เมื่อไปต่อจะพบกับปิศาจขนาดใหญ่ปรากฏตัวขึ้นค่ะ
รีส "ผู้แจวเรือข้ามฟากแห่งยมโลก กำปั่นวิญญาณที่คอยนำทางเหล่าดวงวิญญาณคนตาย 1 ในมารร้ายทั้ง 77 ตนที่ถูกบันทึกลงในพระคัมภีร์ [โลงศพแห่งการคร่ำครวญ] เบ็นนู......!"
เควิน "ไม่นึกไม่ฝันมาก่อนเลยว่าวันที่ได้เผชิญหน้ากับมารร้ายตัวเป็น ๆ จะมาถึง...... เยี่ยมไปเลย! จะทำให้รู้ซึ้งถึงพลังของข้ารับใช้แห่งเทพธิดาซะ!"
- [โลงศพแห่งการคร่ำครวญ] เบ็นนู -
- 《嘆きの柩》ベヌウ -
**แนะนำ ให้อัฟเกรดสล็อตของออร์บเมนท์ให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพราะความยากของการต่อสู้ในครั้งนี้ก็คือ เราจะเหลือ EP ไปจนถึงร่างสุดท้ายของบอสที่ต้องสู้ต่อเนื่องถึง 3 ร่างได้หรือเปล่านั่นเองค่ะ**
**แนะนำ ให้ใส่เครื่องประดับที่ป้องกัน "ผนึกมาร" และ "นอนหลับ" อย่าง "กรัมโชคเกอร์" หรือ "แบล็คบังเกอร์" เอาไว้จะง่ายขึ้นค่ะ**
▼เบ็นนู (ร่างแรก) 『ベヌウ(第一形態)』
HP 9999 / ดิน100, น้ำ100, ไฟ100, ลม100, เวลา100, อากาศ120, มายา100
ลิ้นตะกละ = โจมตี 1 คน + ดูด HP
- ก่อนอื่น แนะนำให้ปราบซยูโดรูด กิซ่าที่อยู่รอบ ๆ ก่อนค่ะ
- เบ็นนูในร่างแรกจะมี ADF ที่สูงมาก นอกจากอาร์ทคุณสมบัติอากาศอย่าง "ดาร์ค แมทเทอร์" แล้วอาร์ทอื่น ๆ แทบจะทำอะไรมันไม่ได้เลย ดังนั้น แนะนำให้ใช้การโจมตีกายภาพธรรมดาหรือไม่ก็ใช้ "Chain-craft" ปราบจะง่ายขึ้นค่ะ
- การเพิ่มเลือด แนะนำให้ใช้ Craft "ไวทัล แคนนอน2" ของทีต้าจะเวิร์คสุด ๆ หรือจะใช้ "เซคริด เบรธ" ของเควินก็ได้ แต่แนะนำให้เก็บ CP ของเควินไว้ใช้กับร่างสุดท้ายจะดีกว่าค่ะ
▼เบ็นนู (ร่างที่ 2) 『ベヌウ(第二形態)』
HP3999 / ดิน100, น้ำ100, ไฟ100, ลม100, เวลา100, อากาศ120, มายา100
เอิร์ธ แลนซ์ = โจมตี 1 คน ※ยกเลิกได้
- เบ็นนูในร่างที่ 2 นั้นระดับ HP จะต่ำมากจึงไม่ยากเท่าไรค่ะ และถึงร่างนี้จะมีค่า DEF ที่สูง แต่ถ้าเราใช้ Craft "ออกคำสั่ง" (STR+20%) ของยูเลีย แล้วให้ทุกคนรุมโจมตีเพียงชั่วอึดใจก็จะปราบได้โดยง่ายค่ะ
- หากเห็นศัตรูร่ายอาร์ท ให้ยกเลิกการร่ายโดยใช้ Craft "อาร์ค เฟนเซอร์" ของรีส หรือ "ลันเซน เรเตอร์" ของยูเลียค่ะ
▼นิวเคลียส เบ็นนู 『ニュクレウス・ベヌウ』
HP 19888 / ดิน100, น้ำ100, ไฟ100, ลม100, เวลา100, อากาศ120, มายา100
คลื่นปรภพ = โจมตีทั่วฉาก + ทำให้ติดสถานะ "ผนึกมาร" & "นอนหลับ" ※ยกเลิกไม่ได้
- ร่างสุดท้ายหรือก็คือแกนกลางของเบ็นนูนั้นจัดได้ว่ามีค่า DEF ในระดับสูง ดังนั้น การโจมตีกายภาพแทบจะทำอะไรมันไม่ได้เลยค่ะ แต่ค่า ADF ถือว่าต่ำกว่าร่างก่อน ๆ มาก แนะนำ ให้รุมโจมตีด้วยอาร์ทคุณสมบัติอากาศอย่าง "ดาร์ค แมทเทอร์" จะง่ายขึ้นค่ะ
- ระวังให้ดี ร่างสุดท้ายนี่หินสุด ๆ ค่าาาา ไม่ว่าจะระดับ HP ที่สูงมาก ๆ รวมทั้งมีท่าที่โจมตีทั่วฉากอย่าง "คลื่นปรภพ" ซึ่งจะใช้โจมตีพวกเราทุกเทิร์น!! ดังนั้น แนะนำให้เตรียมตัวเพิ่มเลือดด้วยคราฟท์ของทีต้าหรือถ้าเพิ่มเลือดไม่ทันจริง ๆ ให้กดใช้ S-break "แกรล สเฟียร์" ของเควินได้เลยค่ะ ไม่อย่างนั้นจะหาว่าไม่เตือนนะคะ
▽ซยูโดรูด กิซ่า *4 『スードルード・ギザ*4』
HP 4072 / ดิน100, น้ำ120, ไฟ80, ลม100, เวลา120, อากาศ100, มายา100
พ่นไฟ = โจมตีเส้นตรง ※ยกเลิกได้
- เจ้ารูปปั้นหิน 4 ตัวนี้ มีท่า "พ่นไฟ" ซึ่งจะสร้างความเสียหายได้มากโขเวลาเราอยู่รวมกลุ่มกัน หากเห็นศัตรูชาร์จท่า แนะนำให้รีบใช้ Craft ของฝ่ายเรายกเลิกโดยเร็วค่ะ
- ซยูโดรูด กิซ่ามีพลังป้องกันการโจมตีกายภาพค่อนข้างสูง ดังนั้น แนะนำให้ใช้อาร์ทคุณสมบัติเวลา อย่าง "โซลเบลอร์" ปราบจะง่ายขึ้นค่ะ
☆หลังจบการต่อสู้ รีสจะเรียนรู้ S-craft "เฮฟเว่น สเฟียร์"
หากต้องการเซ็ตท่านี้เป็น S-break ก็เลือกข้อ 1 เพื่อตอบตกลงได้เลยค่ะ☆
- ปราบได้ พวกเราจะเหนื่อยล้าจากการต่อสู้ และไม่อยากจะเชื่อเลยว่า ปิศาจแบบนั้นจะมีตัวตนอยู่บนโลกไปนี้ ทำให้พวกเราชักจะสงสัยว่าที่นี่มันเป็นสถานที่แบบไหนกันแน่ค่ะ
- "หึหึ...... เดาไม่ถูกหรอก" เสียงของชายหนุ่มดังขึ้น สิ้นสุดเสียง ณ เบื้องหน้าของพวกเควินก็ปรากฏร่างของชายในชุดเกราะสีดำทั้งตัวที่เควินและรีสได้พบที่ท่าเรือแกรนเซล เขาค่อย ๆ เดินเข้ามาหาพวกเควิน
ยูเลีย "ชายประหลาดที่ปรากฏตัวตอนที่พวกเธอโดนกลืนเข้าไปในแสงอย่างนั้นเหรอ...... แกเป็นใคร จงบอกชื่อมาเดี๋ยวนี้!"
- ชายประหลาดหยุดเดิน เขาแสยะยิ้มที่มุมปาก
ชายประหลาด "ถ้าจะให้คนอื่นบอกชื่อ ก่อนอื่นก็ต้องบอกชื่อของตัวเองมาก่อนถึงจะถูกต้องตามมารยาทไม่ใช่รึไง? หัวหน้ากองพันแห่งกองกำลังรักษาพระองค์...... ร้อยเอกยูเลีย ชูวาร์ซ"
- ยูเลียประหลาดใจที่ชายประหลาดรู้ประวัติของตน
เควิน "ดูท่าทางจะดอดไปตรวจสอบเรื่องของพวกชั้นเอาไว้แล้วสินะ...... มีเป้าหมายอะไร? มารร้ายเมื่อตะกี๊เป็นฝีมือของนายงั้นเรอะ? ที่ทำให้เกิดสถานการณ์แบบนี้ขึ้นมา จะบอกว่าเป็นฝีมือของแกใช่มั้ยล่ะ!?"
- เควินเอ่ยถามด้วยเสียอันดัง แต่ชายประหลาดไม่มีท่าทีร้อนรนเลยแม้แต่น้อย
ชายประหลาด "คึคึคึ...... ไม่ต้องเห่าไปหรอก เควิน แกรแฮม ความทุกข์ทรมานของพวกแกเพิ่งจะเริ่มต้นอย่างแท้จริง...... ตอนนี้ ความต้องการที่จะถูกจับรวมเอาไว้กับความสิ้นหวังอันบ้าระห่ำไปอยู่ที่ไหนซะแล้วล่ะ?"
เควิน "ว่าไงนะ......!?"
- ในจังหวะนั้นเอง รีสฉวยโอกาสเข้าโจมตีชายประหลาดผู้นั้น ทว่า การโจมตีของรีสไม่อาจทำอะไรเขาได้เลย ซ้ำยังเป็นฝ่ายที่ถูกปัดป้องจนต้องกระเด็นกลับมา เควินถึงกับเอ่ยห้ามรีสไม่ให้เธอทำอะไรไม่ยั้งคิดเช่นนี้
ชายประหลาด "หึหึ ดาบธรรมะของโบสถ์เจ็ดจรัสอย่างนั้นหรือ เฉียบคมไม่ใช่เล่นเลย...... แต่ถ้าให้เทียบกับพี่สาวแล้วยังอ่อนหัดนัก"
- เควินกับรีสประหลาดใจที่ได้ยินคำพูดประโยคนี้ของชายประหลาด
ชายประหลาด "ฮ่าฮ่าฮ่า ไม่ต้องรีบร้อน งานเลี้ยงแห่งความสิ้นหวังใน [แฟนตาสม่า (อาณาจักรแห่งเงา)] 『影の国(ファンタズマ)』 แห่งนี้เพิ่งจะเริ่มต้นขึ้นเท่านั้น...... ต้องดิ้นรน ต้องกระเสือกกระสน ชักดิ้นชักงอไปมาให้มากกว่านี้ ไม่อย่างนั้น [จ้าว] 『王』 ของข้าคงจะไม่รู้สึกยินดีเป็นแน่"
- วงกลมสีแดงบนพื้นปรากฏตัวรอบ ๆ ตัวชายประหลาด เป็นสัญญาณชี้ให้เห็นว่าเขากำลังจะหนีไป
ชายประหลาด "......ขอบอกอะไรอย่างหนึ่งแทนคำลาก็แล้วกัน ชื่อของข้าคือ [อัศวินนิลกาฬ] 『黒騎士』 ผู้พิทักษ์แห่ง [แฟนตาสม่า (อาณาจักรแห่งเงา)] ที่คอยรับใช้ [จ้าว] ผู้ยิ่งใหญ่ ถ้าเช่นนั้น ลาล่ะ------"
- ร่างของ [อัศวินนิลกาฬ] หายไป โดยที่พวกเราไม่อาจหยุดยั้งการหนีของเขาได้
เควิน "คึ......"
ทีต้า "หะ หายไปแล้ว......"
รีส "..........................................."
ยูเลีย "ถึงจะไม่รู้ว่าเป็นใครก็ตาม...... แต่มีอยู่เรื่องที่แน่ใจได้ ......ว่าพวกเรามี [ศัตรู] อยู่อย่างเห็นได้ชัด"
เควิน "......ใช่"
- เควินหันมาพูดกับทุกคนด้วยสีหน้าที่จริงจัง
เควิน "แถมดูเหมือนจะเป็นศัตรูที่รับมือยากเป็นพิเศษซะด้วย"
- จบฉากที่ 1 ค่ะ




Related entries:
Sora no Kiseki the3rd (空の軌跡the3rd)


No comments:

Post a Comment