Monday, November 13, 2017

[บทสรุป] Sora no Kiseki the3rd - Episode 7 กองเพลิงที่โพ้นไกล

第七話 遠い炎群
ฉากที่ 7 กองเพลิงที่โพ้นไกล
Walkthrough Chart
บ้านดอกแอสเตอร์ 『紫苑の家』
- ทุกคนเดินมาหยุดอยู่หน้าโบสถ์เก่า ๆ แต่ก็มีบรรยากาศอบอุ่นอ่อนโยนปกคลุมไปทั่ว
- "......มะ ไม่จริง นะ นี่มันก็แค่...... ของปลอมที่สร้างขึ้นมาใหม่......?" รีสไม่เชื่อกับสิ่งที่เห็น ซึ่งเควินก็บอกเหมือนกันว่า ไม่น่าจะใช่ของจริงอยู่แล้ว แต่กลิ่นอายของบรรยากาศนั้น ช่างเหมือนกับ [อารามพระสุรเสียง] 『福音施設』 สถานเลี้ยงเด็กกำพร้าในความดูแลของโบสถ์เจ็ดจรัส ที่ไม่ได้กลับมาเป็นเวลา 5 ปีพอดี ซึ่งที่นี่น่าจะมีเบาะแสที่จะไปสู่ [ชั้นดาราที่ 7] อย่างแน่นอนค่ะ
- ค้นหาเบาะแสตามที่ต่าง ๆ ได้ตามนี้เลยค่ะ โดยจะเริ่มสำรวจจากจุดไหนก่อนก็ได้นะคะ
(1) ประตูโบสถ์ด้านหน้า
- ประตูจะล็อกอยู่ ไม่สามารถเข้าไปได้ค่ะ
(2) บ่อน้ำแห้งขอดข้างโบสถ์ 『井戸』
(จากคำบอกเล่าของเควินกับรีส ทราบว่าบ่อน้ำที่ใช้ดื่มกันนี้ต้องตักกันเอง เพราะไม่มีปั๊มป์ออร์บเมนท์ใช้ ก็เลยลำบากมากโดยเฉพาะฤดูหนาวที่ตักน้ำกันจนมือแดงค่ะ)
(3) ประตูด้านข้างโบสถ์ 『礼拝堂通用口』
(ประตูล็อกอยู่ จากคำบอกเล่าของเควินกับรีส ทราบว่าเป็นประตูสามารถเปิดได้จากข้างในเท่านั้นค่ะ)
(4) ห้องผู้อำนวยการ 『院長先生の部屋』
(เควินจะถามรีสถึงครูผอ. ว่าหลังจากตอนนั้นแล้วท่านเป็นไงบ้าง รีสบอกว่าปลอดภัยดี แต่หลังจากเกษียณแล้ว สุขภาพก็ไม่ค่อยแข็งแรงเท่าไหร่ ทั้งยังคิดถึงเควินมากด้วยค่ะ)
(5) ห้องเด็ก ๆ 『子供部屋』
(ตอนมาอยู่ที่นี่ใหม่ ๆ เควินเคยนอนห้องนี้มาก่อน แต่เพราะเข้ากับเด็กคนอื่น ๆ ไม่ได้ ทำให้พี่รูฟีน่าต้องลำบาก ต้องคอยสร้างความสนิทสนมระหว่างควินกับคนอื่นให้ค่ะ เควินยังบอกอีกว่าตอนนั้นตัวเองเป็นเด็กนิสัยเสีย ทำตัวไม่ค่อยน่ารักเหมือนเม่น แต่ก็รู้สึกประหลาดใจที่รีสก็เข้าหาเขาเหมือนไม่มีอะไร รีสได้ทีบอกว่าเธอรู้ว่าที่เควินทำเป็นแข็งกร้าวใส่น่ะ เพราะแกล้งทำเป็นเข้มแข็ง ตอนที่พี่ป้อนช็อกโกแล็ตให้ก็เหมือนกัน เควินเสียงดังห้ามรีสไม่ให้พูดต่อ เพื่อนคนอื่นเห็นอาการเควินก็เลยสงสัยกันใหญ่ว่าเรื่องอะไรยังไงแน่ค่ะ)
(6) ห้องเด็กผู้ชาย 『男子の部屋』
(เป็นห้องที่เควินย้ายมานอนตั้งแต่อายุ 10 ขวบค่ะ ซึ่งตามกฎแล้วเด็กผู้ชายกับเด็กผู้หญิงห้ามเข้าห้องของกันและกัน แต่รีสก็เคยเข้ามาแบบไม่รู้ร้อนรู้หนาว รีสบ่นอุบสวนไปว่า ก็เพราะเควินนอนตื่นสายไม่ยอมมาทำเวรทำความสะอาดนี่นา และที่เธอไม่เคาะประตูเรียก เพราะกลัวเด็กคนอื่นจะตื่นก็เลยต้องเข้ามาปลุกเอง ไม่ว่าจะพูดยังไง ก็เป็นความผิดของเควินเต็ม ๆ นั่นแหล่ะ)
(7) ห้องเด็กผู้หญิง 『女子の部屋』
(เป็นห้องที่พี่รูฟีน่าใช้มาตลอด ซึ่งบางทีรีสก็เคยมานอนกับพี่รูฟีน่าด้วยเหมือนกัน เพราะเธอรู้สึกว่าเตียงของพี่อุ่นดี แล้วก็หอมด้วย แล้วหลังจากที่พี่ออกจากที่นี่ไป เธอก็ใช้เตียงของพี่เธอต่อ ตรงนี้ รีสกระหยิ่มยิ้มถามเควินว่า "......อิจฉามั้ย?" เควินก็ยิ้มร่าบอกตรง ๆ ว่าตอนนั้นก็อิจฉาจริง ๆ น่ะแหล่ะ แต่ด้วยปฏิกริยาที่ไม่ค่อยแสดงออกว่าอิจฉาเท่าไหร่ของเควิน ทำให้รีสรู้สึกเจ็บใจเล็กน้อยค่ะ)
(8) ห้องนั่งเล่น 『居間』
(เป็นห้องที่ใช้กินข้าว ฯลฯ ให้ความรู้สึกอบอุ่นเหมือนสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าของครูเทเรซ่า แต่เควินเล่าต่อว่า ผอ. ของที่นี่เป็นป้าซิสเตอร์หัวแข็ง เข้มงวดสุด ๆ ชอบให้สวดมนต์ขอพรทุกมื้อ ถ้าไม่ทำก็จะโดนบ่นโดนตีด้วย แต่รีสบอกว่านั่นเป็นเพราะเควินทำตัวเองต่างหาก)
(9) ห้องครัว 『厨房』
(พวกผู้ใหญ่จะทำอาหารกันในนี้ ซึ่งเควินเผาให้ฟังว่า รีสชอบแอบเข้ามาหยิบอาหารไปกินด้วยค่ะ นอกจากนั้นเรายังทราบอีกว่า ก่อนนี้พี่รูฟีน่าเป็นคนทำอาหาร แต่หลังจากที่ไปเป็นอัศวินแล้ว เควินกับรีสจึงรับช่วงต่อทำกับข้าวให้เด็ก ๆ แทนค่ะ รีสได้ฟังก็หวนคิดถึงวันเก่า ๆ ขึ้นมา พร้อมทั้งหรี่ตาเหน็บเควินให้เจ็บนิด ๆ ว่า เธอต้องทำคนเดียวหลังจากที่เควินออกไปจากที่นี่โดยพลการด้วยนะ พอนึกขึ้นมาได้ก็รู้สึกเคือง รู้สึกอยากกินโน่นนี่นั่นขึ้นมาทันที เควินรู้สึกผิดบอกว่าถ้ามีโอกาสจะทำให้กินแล้วกัน แต่รีสก็ไม่วายบอกว่าคำพูดเควินเชื่อไม่ได้หรอก แต่ยังไงเธอก็จะรอแบบไม่คาดหวังอะไรก็แล้วกัน คนอื่นฟังทั้งสองคนเถียงกันไปกันมาก็อดขำไม่ได้ค่ะ)
- เมื่อสำรวจครบแล้ว ให้ตัดฉากด้วยการออกตรงประตูด้านหน้าของห้องนั่งเล่นค่ะ (ระวัง ถ้าตัดฉากจุดอื่นจะไม่เกิดอีเวนท์ขึ้นค่ะ)
- "......ไม่เห็นจะมีอะไรเลย หรือว่าจะเป็นที่โบสถ์......?" รีสกล่าว เควินเห็นด้วย แต่สักพักก็เงียบไป แล้วหันมาถามรีสว่า
เควิน "......นี่ รีส ในวันนั้น...... ได้ยินมาว่าเธอเป็นเวรที่โบสถ์ใช่มั้ย?"
รีส "เอ๊ะ......"
เควิน "วันสุดท้ายของ [บ้านดอกแอสเตอร์] นี่...... วันนั้นเมื่อ 5 ปีก่อนที่พี่รูฟีน่าตายไปไง"
รีส ".........อึก....................."
เควิน "ตอนที่ไปเยี่ยมครูผอ. หลังเกิดเหตุการณ์นั้นขึ้น ชั้นได้ยินมาว่างั้นน่ะ...... ว่ายังไง...... ตรงกันหรือเปล่า?"
รีส "......อะ อืม............ ก็ใช่แหล่ะ...... แต่ว่า"
เควิน "งั้นเรอะ...... ถ้างั้น รีส ลองค้นกระเป๋าเสื้อดูหน่อยสิ น่าจะมีกุญแจโบสถ์อยู่ข้างในนั้น"
รีส "เอ๊ะ......"
- ถึงจะสงสัย แต่รีสก็ล้วงกระเป๋าชุดแม่ชีของเธอ แล้วก็เจอกุญแจทองเหลืองเก่า ๆ จากกระเป๋าตรงแขนเสื้อค่ะ
- ได้รับอีเวนท์ไอเทม "กุญแจโบสถ์" 『礼拝堂』 ท่ามกลางความประหลาดใจของทุกคนค่ะ
เควิน "จริง ๆ ชั้นเองก็ไม่ค่อยมั่นใจเท่าไหร่...... แต่ทุกเขตแดนที่มีมาจนถึงตอนนี้ ได้มีการเลือกผู้ที่ถูกกำหนดตายตัวเอาไว้อยู่แล้ว ในความหมายนั้น รีส ที่เธอต้องมาที่นี่ก็เพราะถูกกำหนดเอาไว้แล้วยังไงล่ะ"
- เพื่อพิสูจน์ว่ากุญแจนี่เป็นของจริง ก็ต้องลองไปใช้ไขประตูดู โดยสำรวจประตูโบสถ์อีกครั้ง เควินจะบอกรีสว่า "รีส ขอบอกเอาไว้อย่างนึง ว่าถ้าเปิดประตูนั่นไปแล้ว...... จะย้อนกลับไปไม่ได้แล้วนะ เพราะเธอจะรู้ความจริงทุกอย่างที่เกิดขึ้นในวันนั้น ......เตรียมใจแล้วหรือยัง?"
- ถ้าเตรียมใจแล้ว ก็เลือกคำสั่งที่ 1 "ใช้กุญแจ" 『鍵を使う』 ได้เลยค่ะ
รีส "......ต้องการแบบนั้นอยู่แล้ว ตลอดระยะเวลา 5 ปีมานี่...... ฉันไม่เคยทำใจยอมรับได้เลย หลังจากตอนนั้นทุกคนรวมทั้งฉันก็ถูกพาไปที่อารามอื่น...... แล้วพอลองมาที่นี่ก่อนเข้ารับการฝึกเป็นอัศวินรับใช้ ก็เห็นว่าถูกรื้อไปแล้ว...... เพราะงั้น...... เตรียมใจเอาไว้แล้วล่ะ เหนือสิ่งอื่นใด...... เพราะอยากจะไปให้ถึงท่านพี่กับเควินด้วย"
เควิน "งั้นรึ...... เข้าใจแล้วล่ะ งั้นรีบเข้าไปกันเถอะ"
รีส "อืม......"
- รีสเปิดประตูโบสถ์ออก เพื่อน ๆ ขอรออยู่ข้างนอก แต่เควินขอให้เข้าไปพร้อมกัน เพราะถึงยังไงก็เป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับทุกคนค่ะ
- เควินเดินนำเข้ามาในโบสถ์ บรรยากาศภายในดูเงียบสงบ
เควิน "5 ปีก่อน...... หน่วยทหารพรานที่ถูกใครบางคนจ้าง เข้ามายึด [บ้านดอกแอสเตอร์] แห่งนี้     นี่ รีส เธอจำเรื่องตอนนั้นได้แค่ไหนล่ะ?"
รีส "ฉะ ฉัน...... ......จู่ ๆ ก็มีพวกผู้ชายชุดดำพังประตูเข้ามา...... มัดทุกคน...... พาครูไปที่ชั้น 2...... จากนั้นก็......"
เควิน "......ตอนที่รู้สึกตัวก็อยู่บนเตียงที่โรงพยาบาลในเมือง ตอนนั้นมีคนเล่าให้ฟังว่าชั้นกับพี่รูฟีน่าเป็นคนมาช่วย...... แล้วพี่ก็ตายในหน้าที่ ......แบบนั้นใช่เปล่า?"
รีส "............อืม      นี่ เควิน...... เหตุการณ์ในตอนนั้นมันเป็นยังไงกันแน่? ได้ยินมาว่าเป็นฝีมือของใครบางคนที่เป็นศัตรูกับโบสถ์...... แถมตั้งแต่ตอนนั้นก็ไม่ได้เจอเควินอีกเลย...... ถึงจะถามอาจารย์เซลเนิร์ด แต่ท่านก็ไม่ยอมบอก......"
เควิน "ก็นะ ด้วยสถานะของอธิการแล้ว ก็คงจะพูดออกมาไม่ได้ง่าย ๆ ล่ะมั้ง ......ว่าอารามแห่งนี้ ใช้เป็นที่ซ่อนให้กับอาร์ติแฟกซ์ (มรดกแห่งอารยธรรมโบราณ) 『古代遺物(アーティファクス)』 ที่กำหนดมาให้ผนึกเอาไว้น่ะ"
รีส ".......................................... เอ๋"
- เควินเดินนำไปที่กำแพงด้านใน สำรวจผนังธรรมดาที่ดูไม่น่าจะมีอะไร ประตูลับที่ไปสู่ทางใต้ดินเปิดออก เขาเดินนำเข้าไปโดยไม่พูดไม่จา รีสวิ่งตามเข้าไป
รีส "ดะ เดี๋ยวสิเควิน......! มรดกแห่งอารยธรรมโบราณที่กำหนดมาให้ผนึกเอาไว้...... ......อยู่ข้างล่างนี่จริง ๆ เหรอ......!?"
เควิน "......ใช่แล้วล่ะ ข้างล่างนี่ มีสถานที่ที่เหมือนกับที่เห็นที่มหาวิหารแกรนเซล...... [ดินแดนแห่งการเริ่มต้น] 『始まりの地』 ที่ใช้ปิดผนึกมรดกแห่งอารยธรรมโบราณ"
รีส "!!!"
- เควินนำทางทุกคนลงไปตามบันไดวนที่ทอดยาวไปสู่เบื้องล่าง พร้อมกับเล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นไปด้วย
เควิน "......ในวันนั้น คิดว่าน่าจะจำได้นะ ว่าชั้นกับพี่รูฟีน่ามีกำหนดการที่จะกลับมาหลังจากไม่ได้กลับมาซะนาน ตั้งใจเอาไว้ว่าพอต่างคนต่างทำภารกิจของตัวเองเสร็จแล้ว ก็จะไปรวมพลกันที่เมืองแล้วค่อยกลับบ้านพร้อมกัน ......แต่ว่ารถไฟเที่ยวที่พี่น่าจะได้ขึ้นน่ะมาช้า...... มีแค่ชั้นที่มาถึงก่อน พอรู้เรื่องเข้าก็รีบมา......     เธอกับพวกเด็ก ๆ จะเป็นอันตราย......     ชั้นคิดแบบนั้นก็เลยตัดสินใจลงมือคนเดียว ขับไล่พวกทหารพรานที่ยึดอาราม     จริง ๆ พวกนั้นก็ไม่ได้เก่งกาจอะไรหรอกนะ ระดับอัศวินรับใช้อย่างชั้น ยังสามารถทำให้พวกมันหมดรูป ช่วยพวกเด็ก ๆ กับครูออกมาได้เลย...... แต่ว่าเธอกลับไม่ได้อยู่ที่นั่น     เห็นพวกเด็ก ๆ บอกว่าเธอหมดสติแล้วโดนทหารพรานคนนึงอุ้มไปที่ไหนก็ไม่รู้...... ชั้นเลยลองหาแบบเดาสุ่มไปเรื่อย ๆ ก็มาเจอที่นี่เข้าโดยบังเอิญ......      ......นี่ รีส...... ตอนที่เธอรู้สึกตัว ไม่ได้ผูกโบว์อยู่ใช่มั้ยล่ะ?"
รีส "อะ อืม...... แต่ว่า ทำไม......?"
เควิน "โบว์ของเธอน่ะ ตกอยู่หน้าประตูลับนั่นแหล่ะ แล้วก็มีรอยเท้าที่ยังใหม่ ๆ อยู่ด้วย ก็เลยรู้สึกเอะใจขึ้นมา"
รีส "อา......"
เควิน "จากนั้น...... พอไล่ตามทหารพรานที่อุ้มเธอไป ชั้นก็ลงมายังสถานที่แห่งนี้......"
- เควินหยุดยืนอยู่ตรงหน้ากำแพง ซึ่งแท้จริงแล้วคือประตูไปสู่ดินแดนแห่งการเริ่มต้น
เควิน "นี่ รีส ตอนที่เจอกันครั้งแรก...... จำได้มั้ยว่าชั้นเป็นยังไง?"
รีส "......อืม ฉันยังเด็กอยู่ก็จริง...... แต่ก็จำเรื่องเมื่อตอนนั้นได้ว่ามันน่าประหลาดใจมาก     เควินในตอนนั้นน่ะ...... มีแววตาที่สิ้นหวังกับทุกสิ่ง...... บอกตามตรง...... ค่อนข้างกลัวเลยล่ะ ว่าเด็กคนนี้ไปเจออะไรมากันแน่......"
เควิน "ฮะฮะ...... เจออะไรมางั้นเหรอ"
- เควินเงียบไปครู่หนึ่ง
เควิน "ดูเหมือนพี่จะรู้อยู่แล้ว...... ว่าในตอนนั้นน่ะ ชั้นฆ่าแม่ตัวเองตาย"
- ทุกคนตกใจ มองไปที่เควินเป็นตาเดียว เควินยังคงเล่าต่อไป รอยยิ้มบาง ๆ ปรากฏขึ้นบนใบหน้า แต่ดูเหมือนว่าจะกลบความเศร้าหมองของเขาไม่มิด
เควิน "อือ แต่พูดว่าฆ่าตายก็อาจจะเกินจริงไปหน่อยมั้ง ปล่อยให้ตาย...... แบบนี้น่าจะถูกต้องกว่า     เดิมทีที่บ้านเป็นครอบครัวที่มีกันแค่แม่ลูก นาน ๆ ทีพ่อถึงโผล่หน้ามาให้เห็นบ้าง ดูเหมือนจะเป็นคนร่ำรวยที่ไหนสักแห่งที่มีครอบครัวที่อื่นอยู่แล้ว แต่ชั้นก็รักแม่โดยไม่ได้สนใจเรื่องพรรค์นั้น พวกเด็กแถวบ้านก็เคยมาล้อเลียนเรื่องนั้นเหมือนกัน แต่ชั้นก็ไล่ตะเพิดไปหมด ก็แม่น่ะทั้งทำอาหารเก่ง ทั้งอบอุ่น...... เป็นแม่ที่น่าภาคภูมิใจเลยล่ะ     แต่พอตอนอายุ 7 ขวบ...... แม่ก็ถูกพ่อทิ้ง เดิมทีก็เป็นคนจิตใจอ่อนแออยู่แล้ว...... ไม่ทันไรจิตใจก็หดหู่ สุขภาพร่างกายก็แย่ลง...... ชั้นสู้พยายามตั้งเยอะแยะ แต่ก็ไม่ร่าเริงขึ้นเลย     แล้ว......วันนึงในฤดูหนาว แม่ก็...... เข้ามาบีบคอชั้นที่นอนหลับอยู่"
รีส "!!!"
".........ขอโทษนะ............
......ขอโทษนะ...... เควิน.........
......แต่ว่าแม่.........
เหนื่อย......แล้วล่ะ......
......เพราะงั้น......
............เพราะงั้นนะ......เควิน............
......ไปกับแม่........
.........ทั้ง ๆ แบบนี้เถอะนะ........."
เควิน "ประมาณว่าถ้ามันลำบากนัก ก็ไปสบาย ๆ ด้วยกันดีกว่าอะไรแบบนั้นล่ะมั้ง     แต่ว่าชั้นน่ะ...... ไม่ได้ไปด้วยหรอก ชั้นผลักแม่ที่ไม่ได้สนใจสิ่งอื่นรอบตัวออกไป...... วิ่งเท้าเปล่าออกไปในเมืองที่หิมะกำลังตก     ก็แค่สับสน เลื่อนลอยอยู่เกือบชั่วโมงโดยที่ไม่เข้าใจความหมายในสิ่งที่แม่ทำ     พอหิว...... ก็รู้สึกเป็นห่วงแม่ขึ้นมา...... ......พอกลับไปถึงบ้านแบบกล้า ๆ กลัว ๆ ก็......"
- ภาพของแม่ที่จมอยู่ในกองเลือดยังคงติดอยู่ในความทรงจำของเควิน รีสได้ฟังก็หดหู่เศร้าใจไปด้วย
เควิน "ฮะฮะ โทษทีนะ ที่ให้ฟังเรื่องไร้สาระ แต่ก็...... คิดว่าคงจะเป็นตอนนั้นแหล่ะ ......ที่ [ตราบาป] 『聖痕』 สลักลงในตัวชั้น"
รีส "เอ๋......!?"
- เควินหยิบสัญลักษณ์แห่งจอกดาราขึ้นมา เปิดประตูเข้าสู่ [ดินแดนแห่งการเริ่มต้น] เขาเดินนำจนมาหยุดบริเวณด้านหน้าแท่นที่อยู่ใจกลางสถานที่แห่งนี้
เควิน "ตรงนี้พอดีเลย ที่ชั้นไล่ตามทหารพรานที่อุ้มเธอที่หมดสติไป     ก็คงคิดไม่ถึงว่าจะมีตัวเกะกะเข้ามาขัดขวางล่ะมั้ง หมอนั่นก็เลยลนลานจนทำปืนหล่น แล้วพรวดพราดไปที่แท่นตรงนั้น"
- เควินเดินเข้าไปใกล้แท่น
เควิน "แล้ว สิ่งที่เคยอยู่ตรงแท่นนี่ ก็คือมรดกแห่งอารยธรรมโบราณที่กำหนดมาให้ผนึกเอาไว้ ที่เรียกกันว่า [หอกมารรอร์] 『ロアの魔槍』"
รีส " [หอกมารรอร์]......"
เควิน "......หอกที่เปลี่ยนกายเนื้อของผู้ที่ถือไว้ให้กลายเป็น [ปิศาจ] บอกตรง ๆ ว่าเป็นปิศาจที่คาดไม่ถึงเลยว่าจะถูกสร้างขึ้นจากศีลอันศักดิ์สิทธิ์ของเทพธิดา 『女神の秘蹟』 แล้วทหารพรานที่โดนต้อนจนจนมุม...... ก็คว้า [หอกมาร] นั่นขึ้นมา"
- เควินนึกย้อนกลับไปในวันนั้นเมื่อ 5 ปีก่อน รีสสลบอยู่ข้างหลังเขา ส่วนตรงหน้าก็เป็นอสุรกายตัวใหญ่ที่มือข้างนึงถือหอกมารไว้ หมายจะทำร้ายเควินที่ได้รับบาดเจ็บ
เควิน "......แข็งแกร่งจนยากจะต่อกร ทุกโครงสร้างร่างกายเปลี่ยนแปลงไปจนไม่เหลือเค้าเดิม เมื่ออยู่ต่อหน้าทหารพรานที่กลายร่างเป็นปิศาจไป ชั้นก็ถูกซัดแบบไม่ทันตั้งตัว แล้วในตอนที่เจ้าปิศาจตัวนั้น...... กำลังจะฟาด [หอกมาร] ไปที่เธอที่หมดสติอยู่นั้น...... มัน...... ก็เกิดขึ้น"
- [ตราบาป] ปรากฏขึ้นบนหลังของเควิน ซ้อนทับกับมารร้ายในหอก เขาเล็งโบว์กันไปที่ปิศาจที่อยู่ตรงหน้า ลูกธนูหลายร้อยหลายพันดอกพุ่งทะยานไป ใบหน้าของเขาบิดเบี้ยว ดูน่ากลัวไม่ต่างอะไรกับปิศาจเลย
เควิน "ดูเหมือนว่า [ตราบาป] ของชั้น...... จะชิงเอาพลังของ [หอกมาร] ที่ทหารพรานถืออยู่มาเป็นของตัวเอง แล้วหลังจากพลังเพิ่มขึ้นอีกหลายสิบเท่า ก็ซัดไปที่ทหารพรานโดยไร้ซึ่งความปราณี     มันไม่ใช่การต่อสู้...... แต่เป็นเพียงการฆ่าฟันอย่างทารุณอยู่ฝ่ายเดียวเท่านั้น     และแล้วทหารพรานที่กลายเป็นปิศาจนั้น...... หลังโดนสับเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย ก็ตายลง     ส่วนชั้น...... ชั้นที่ [ตราบาป] ปรากฏขึ้นเป็นครั้งแรก ก็โดนพลังที่คุกรุ่นนั่นปั่นหัว สูญเสียความเป็นตัวของตัวเองไปจนหมดสิ้น...... ......ดูเหมือนว่าพี่ที่ตามหลังมา จะเข้าใจสถานการณ์ได้ทันที ขัดขวางด้วยโบว์กันกับดาบธรรมะ แยกชั้นออกจากรีส...... แล้วก็......"
- รูฟีน่าในภาพแห่งความทรงจำ ภาวนากับสัญลักษณ์แห่งจอกดารา เธอยิ้มให้เควิน พร้อมกับกางมือออกราวกับจะบอกว่าไม่เป็นไรฉันจะรับไว้เอง เสียงลูกธนูหลายร้อยหลายพันดอกแหวกอากาศพุ่งเข้าหาเธอ
เควิน "ตอนที่ความเป็นตัวของตัวเองกลับมา...... ชั้นก็อยู่ในอ้อมกอดของพี่ ร่างกายพี่ถูกเจาะทะลุจนนับไม่ถ้วน แต่ก็ยังกอดชั้นแน่น...... แล้วก็สิ้นลมไป......ทั้งอย่างนั้น"
- รีสพูดอะไรไม่ออกเมื่อได้ฟังความจริงเบื้องหลังการตายของพี่สาวแท้ ๆ ของเธอ
เควิน "เรื่องมันก็แบบนี้แหล่ะ ไม่ใช่ว่าชั้นช่วยพี่รูฟีน่าไม่ได้ แต่ชั้นคนนี้...... ตัวซวยไร้ค่าที่อยู่ต่อหน้าเธอคนนี้ เป็นคนฆ่าพี่สาวของเธอตาย"
รีส "ตะ แต่ว่า...... ......แต่ว่าเควินน่ะ......!"
เควิน "ไม่ได้ตั้งใจฆ่า...... นั่นมันก็แค่ข้อแก้ตัวเฉย ๆ ชั้นในตอนนั้นถูกพลังของ [ตราบาป] ปั่นหัว หลงระเริงไปกับเลือดและความรุนแรง ถ้าจิตใจชั้นไม่อ่อนแอล่ะก็...... เรื่องมันคงไม่ลงเอยแบบนี้"
รีส ".........เควิน....................."
เควิน "แล้ว...... อีกอย่าง...... ตอนนั้นชั้นน่ะ เห็นพี่เป็นแม่ของตัวเอง เข้ามาบีบคอชั้น...... เหมือนกับแม่เมื่อตอนนั้น     ก็เลย...... เอาการแก้แค้นที่ถูกหักหลังมารวมกัน อัดเข้าไปใน [หอกมาร]......     ทั้งที่รักมาก...... อยากปกป้องด้วยมือของชั้นเหมือนกันทั้งคู่......     คึคึคึ...... ก็เลยฆ่าแม่กับพี่รูฟีน่าตายเหมือน ๆ กันเลย......"
- รีสสุดกลั้น "......ทำไม.........ล่ะ......?" เธอเค้นเสียงถาม "ทำไมถึงปิดเงียบเอาไว้ล่ะ!?" น้ำตาพรั่งพรูจากดวงตาสีมรกตของรีส
รีส "ตลอดระยะเวลา 5 ปีมานี่...... ไม่บอกฉันสักคำ......!"
เควิน "อือ...... ก็คิดอยู่ว่ามันไม่ดี แต่ในเมื่อเล่าแล้ว ชั้นก็เตรียมใจไว้แล้วล่ะ ถ้าเธอลงมือ...... ถึงจะโดนแก้แค้นก็ถือว่าเป็นการชดใช้"
- "......จะบ้าเหรอ!" รีสน้ำตาไหลอาบเต็มแก้ม พุ่งเข้าไปกระชากคอเสื้อเควิน
รีส "อย่ามาล้อเล่นน่ะ! เควิน แกรแฮม! ที่ฉันกำลังโกรธอยู่นี่ ไม่ใช่เรื่องนั้นสักหน่อย......! ทำไมล่ะ...... ทำไมถึงแบกรับอะไรที่มันหนักอึ้งขนาดนั้น แล้วมีชีวิตอยู่มาคนเดียวลำพังล่ะ......!?"
- รีสซบลงบนหน้าอกของเควิน
รีส "กับฉัน......! กับฉันคนนี้ที่เป็นครอบครัวของเธอ......! ไม่ยอมปรึกษากันสักคำ......! ไม่ยอมให้แบกรับด้วยกัน......!"
เควิน "......รีส..............."
รีส "ในที่สุดก็เข้าใจ...... ว่าทำไมเควินถึงเป็น [นักล่านอกรีต]...... ......เพราะไม่ได้จะชดใช้ที่ทำให้พี่ต้องตายใช่มั้ย?"
เควิน "! วะ......!?"
รีส "พอเถอะ...... ฉันเข้าใจแล้วล่ะ...... ว่าไม่ได้จะชดใช้อะไร...... ......แล้วก็ไม่ได้จะลบล้างความรู้สึกผิดอะไร...... แต่เควิน...... เควินน่ะ...... ฮึก!"
"ถูกต้อง......
เพราะอยากได้รับ [การลงโทษ] ยังไงล่ะ"
- เสียงแหบแห้งดังขึ้น "จ้าวแห่งเงา" 『影の王』 ปรากฏตัว ทุกคนหยิบอาวุธตั้งท่ารอรับมือ มีเพียงเควินเท่านั้นที่ดูไม่ตกใจอะไรกับการปรากฏตัวในครั้งนี้
จ้าวแห่งเงา "หึหึ...... ในที่สุดก็มาถึงจนได้ จากนี้ไปคือ [ชั้นดาราที่ 7]...... เป็นสถานที่ที่ข้าถือกำเนิด เป็นสถานที่อันเป็นศิลารากฐานของชั้นดาราทั้งหมด"
เควิน "ว่าแล้วเชียว...... ......หมายความว่าที่นี่เป็นสถานที่ที่จะนำไปสู่ดินแดนแห่งนั้น...... ดูเหมือนว่า [ความมั่นใจ] ของชั้นจะถูกต้องสินะ"
รีส "เอ๊ะ......"
จ้าวแห่งเงา "หึหึ ถ้าอย่างนั้นจะถามมาอีกสักครั้งมั้ย ว่ายังไงล่ะ เควิน แกรแฮม หากเจ้า... อยากจะรู้ถึงตัวตนที่แท้ของข้าจริง ๆ ล่ะก็?"
เควิน "......ไม่จำเป็น     ถอดหน้ากากรสนิยมแย่ ๆ นั่นออกได้แล้วมั้ง......     [จ้าวแห่งเงา]------ ไม่สิ รูฟีน่า อาร์เจนต์!"
จ้าวแห่งเงา "ฮ่าฮ่าฮ่า ได้!"
- หน้ากากถูกถอดออก ใบหน้านั่นช่างดูคุ้นเคยยิ่งนัก
รีส "ทะ ท่านพี่........."
รูฟีน่า "ไม่ได้เจอกันนานเลยนะจ๊ะ รีส แล้วก็เควิน...... เก่งมากที่มองตัวจริงของพี่ออก"
เควิน "ไม่หรอก...... คำตอบมันกระจ่างแจ้งตั้งแต่แรกอยู่แล้ว คำพูดและการกระทำที่แสดงออกมาเป็นนัย...... แล้วก็คำพูดยั่วยุต่าง ๆ     ที่ไม่มั่นใจมาจนถึงตอนนี้ ก็เพราะชั้นไม่อยากรู้สึกถึงมันต่างหาก"
รูฟีน่า "หึหึ นั่นสินะ ก็เธอมันขี้ขลาดมาแต่ไหนแต่ไรแล้วนี่นา นึกไม่ถึงว่าจะล้มอัศวินที่แข็งแกร่งที่สุดของพี่ลงได้"
เควิน "อัศวินนิลกาฬ...... ไม่สิ [จักรพรรดิดาบ] น่ะรึ...... เขามีความสัมพันธ์กับพี่ยังไงแน่?"
รูฟีน่า "รู้จักกันเพราะคดีนึง...... เมื่อประมาณ 6 ปีก่อนน่ะ     พี่กับเขาเคยเผชิญหน้ากันมาก่อน แต่พอถึงจุดชี้ขาด ผลออกมาในรูปแบบที่ต่างคนต่างยอมรับซึ่งกันและกัน ซึ่งดูเหมือนเขาจะตีความว่ามันเป็น [หนี้] ที่ได้ก่อเอาไว้น่ะ"
เควิน "อย่างนี้นี่เอง...... ใช้ประโยชน์จากหนี้นั่น ทำให้ความคิดซึ่งได้ชื่อว่า [จักรพรรดิดาบ] ฟื้นคืนชีพขึ้นมานี่เอง เฮ้อ...... ใช้เทคนิคที่ไม่ค่อยมีคนรู้สมกับที่เป็นพี่เลย"
รูฟีน่า "หึหึ...... ชมไปก็ไม่ได้ผลหรอกนะจ๊ะ ในเมื่อมาจนถึงที่นี่แล้วล่ะก็...... คงจะรู้เป้าหมายของพี่แล้วใช่มั้ย?"
เควิน "อือ...... เตรียมใจไว้แล้วล่ะ ถ้าจะพาไปก็รีบ ๆ พาไปเถอะ"
รีส "! ดะ เดี๋ยวก่อน......! ทั้งสองคน...... กำลังพูดถึงเรื่องอะไรน่ะ!?"
เควิน "......รีส"
รูฟีน่า "หึหึ...... เธอก็คงรู้แล้วสินะ? ว่าเควินน่ะ...... ต้องการ [การลงโทษ]"
- ทุกคนตกใจไปตาม ๆ กัน
รีส "ระ หรือว่าท่านพี่จะ......"
รูฟีน่า "ใช่แล้ว พี่คือตัวตนที่ถือกำเนิดขึ้นมาบนดินแดนแห่งนี้ เพื่อมอบ [การลงโทษ] ให้แก่เควิน...... เพื่อการนั้น จึงได้เปลี่ยนแปลงและรับพวกเธอทุกคนเข้ามายัง [อาณาจักรแห่งเงา] แห่งนี้ ซึ่งผู้ที่ปรารถนาทุกสิ่งทุกอย่างที่กล่าวมาทั้งหมดนั้น ก็คือตัวเควินเอง"
รีส "กะ โกหก......!"
เควิน "......น่าเจ็บใจก็จริง แต่ก็ตามที่ว่ามานั่นแหล่ะ      ถึงจะไม่เข้าใจจริง ๆ ว่าทำไมถึงกลายเป็นแบบนั้นไปได้...... แต่สิ่งที่พี่กำลังพูดเป็นความจริงไม่ผิดแน่"
รีส "มะ ไม่จริง......"
- เควินก้าวออกไปข้างหน้า
เควิน "[ชั้นดาราที่ 7] คงจะเป็นดินแดนสำหรับการลงโทษชั้นคนนี้ไปเรื่อย ๆ แหง ๆ     อาจจะเป็นสถานที่ที่เหมาะสมกับชั้นที่ปล่อยให้แม่แท้ ๆ ต้องตาย รวมทั้งฆ่าพี่ด้วยมือคู่นี้ก็ได้     แล้วถ้าหาก...... มีแค่ชั้นที่ตกลงไปที่นั่นแล้วล่ะก็ เหตุการณ์ในครั้งนี้ก็คงจะคลี่คลายลงโดยสวัสดิภาพล่ะมั้ง"
- รีสหมดความอดทน วิ่งเข้าไปโจมตีผู้ที่น่าจะเป็นพี่สาวของเธอ แต่น่าเสียดายที่รูฟีน่าวาร์ปหลบ ลอยขึ้นไปบนอากาศ
รูฟีน่า "อุหึหึ ทำไมล่ะรีส? ทำไมเล่นพิเรนท์เป็นเด็ก ๆ ใส่พี่แบบนั้นล่ะจ๊ะ......"
รีส "เงียบเถอะ......! คุณต้องไม่ใช่ท่านพี่แน่ ๆ ......! ท่านพี่ไม่ทำเรื่องแบบนี้กับเควินหรอก!"
เควิน "ระ รีส......"
รีส "เควิน นึกให้ออกสิ! เควินที่สัญญากับฉัน...... ว่าจะไม่ทำให้ท่านพี่เสียใจเด็ดขาด! คิดว่าทำแบบนั้น ...... คิดว่าเป็นแพะรับบาปคนเดียวแบบนั้นแล้วท่านพี่จะมีความสุขจริง ๆ น่ะเหรอ!?"
เควิน "!!"
รูฟีน่า "หึหึ...... นั่นสิ? ถึง [พี่] จะไม่ใช่รูฟีน่าตัวจริง แต่ก็เป็นตัวตนที่ใกล้เคียงที่สุด...... ถ้าเควินปรารถนาถึง [การลงโทษ] ก็ต้องอยากทำให้มันเป็นจริงไม่ใช่เหรอจ๊ะ?"
รีส "ใช่ ซะที่ไหนล่ะ!     ถ้าเป็นท่านพี่ตัวจริงล่ะก็ จะไม่ตามใจเควินแบบนั้นหรอก!"
- ทั้งรูฟีน่า ทั้งเควินต่างคาดไม่ถึง แววตาไม่พอใจของรูฟีน่าในตอนนี้จ้องเขม็งไปที่รีส ราวกับจะกินเลือดกินเนื้อ
รีส "นึกให้ออกสิ เควิน! นึกถึงตอนที่พบกันครั้งแรก! ท่านพี่ที่ยังไงก็ไม่ยอมปล่อยเควินที่สิ้นหวัง...... เควินที่ตั้งใจจะไล่เราให้ไปจากตัวเอง......! ป้อนช็อกโกแล็ตให้โดยไม่เถียงสักคำ แล้วพากลับมาอยู่ทางนี้......!"
เควิน "............อา.................. ................................. ............ชั้น.................. "
- ความทรงจำในตอนที่พบกันครั้งแรกผุดขึ้น เควินก้มหน้าทบทวนสิ่งที่รีสพูด
รูฟีน่า "หึหึ...... น่าตกใจจัง ที่เธอเติบโตขึ้นมาจนต่อล้อต่อเถียงแบบนั้นได้......"
รีส "ก็บอกให้เงียบยังไงล่ะ......! ถ้าหยามท่านพี่มากไปกว่านี้...... ฉันจะไม่ให้อภัยแล้วนะ!"
รูฟีน่า "หึหึ ก็ได้ ถ้าอย่างนั้น...... จะเชิญเธอให้ไปเป็นตัวแทนของเควินก็แล้วกันนะจ๊ะ"
รีส "วะ......"
- รูฟีน่าร่ายมนต์ พื้นตรงที่รีสยืนแยกออก เปลวไฟพวยพุ่งขึ้นมาตามรอยแยก "หึหึ...... ดูอยู่ตรงนั้นเงียบ ๆ ซะนะ" รูฟีน่ากระหยิ่มยิ้ม พร้อมกับใช้เนตรมารตรึงร่างกายของพวกเควินเอาไว้
- ขณะเดียวกันพื้นตรงจุดที่รีสยืนอยู่ก็ค่อย ๆ ขยายใหญ่ขึ้น รีสพยายามเกาะเอาไว้ "หยุดเดี๋ยวนี้นะพี่! รีสไม่เกี่ยวไม่ใช่เรอะ!?" เควินกร้าว แต่รูฟีน่าตีหน้าตายตอบกลับมาว่า
รูฟีน่า "นี่ถือเป็น [การลงโทษ] อย่างนึงยังไงล่ะจ๊ะ ถ้าให้เด็กคนนี้ทุกข์ทรมานชั่วกัปชั่วกัลป์แทนเธอแล้วล่ะก็...... ความทุกข์ทรมานของเธอก็คงจะเข้มข้นขึ้นอย่างแน่นอน?"
เควิน "วะ......"
รีส "ถ้าทำได้ ก็ลองดูสิ......!"
- รีสท้าทายอย่างไม่กลัวเกรง ยิ่งทำให้รูฟีน่าไม่ชอบใจเข้าไปอีก เควินเป็นห่วงรีสจนเห็นได้ชัด
รีส "ไม่ว่าจะโดนให้ตกไปอยู่ที่ไหนก็ตาม ฉันต้องมีชีวิตรอดแน่นอน......! เควินจะได้...... ไม่ต้องอยู่คนเดียวอีก...... ......จะกลับมา...... อย่างปลอดภัยให้ดู......!"
เควิน "............อา.................."
รูฟีน่า "หึหึ พูดได้ดี ถ้าอย่างนั้น...... ก็พยายามให้เต็มที่นะจ๊ะ"
- รูฟีน่าทำให้รีสตกลงไปทันที จังหวะนั้นเอง เควินเค้นพลัง [ตราบาป] ของตัวเอง ทำลายเนตรมารของรูฟีน่า แล้วกระโดดตามรีสลงไปในกองเพลิงอันร้อนระอุ ผ้าคลุมผมของรีสที่หมดสติปลิวผ่านหน้าเควินไป เขาเร่งตัวเองให้ตกไปให้ทันรีส

แดนชำระ 『煉獄』
- "...........นี่..................... ......รีส............... ............ ฟื้นสิ......... ฮึ่ย..............." เควินเรียกสติรีสคืนกลับมา เธอลืมตาขึ้นในอ้อมกอดของเควิน โชคดีที่ไม่บาดเจ็บอะไร แต่ก็โดนเควินสวดยกใหญ่ แถมยังโดนดีดมะเหงกด้วย
เควิน "ไปมีอารมณ์กับคำยั่วยุไร้สาระจนทำอะไรไม่คิดหน้าคิดหลังได้ยังไง! ถ้าทำได้ ก็ลองดูสิ!? ไม่ว่าจะโดนให้ตกไปอยู่ที่ไหนก็ตาม ต้องมีชีวิตรอดแน่นอน!? พูดอะไรแบบนั้นโดยไม่มองความจริงได้เรอะ!?"
รีส "......ตะ แต่ว่า............"
เควิน "เธอน่ะ เป็นอัศวินรับใช้ไม่ใช่เรอะ!? เด็กใหม่ที่ไม่มีทั้งความสามารถในการวินิจฉัย ไม่มีทั้งความสามารถในการปฏิบัติการ ห้ามตัดสินใจลงมือโดยพลการ! ถ้ารักษาข้อนั้นเอาไว้ไม่ได้...... ก็เลิกเป็นอัศวินไปซะ!"
รีส "........................................"
เควิน "......ก็นะ จริง ๆ ก็อยากจะด่าแบบนั้นแหล่ะ ชั้นเองก็ไม่ได้อยู่ในสถานะที่จะพูดแบบนั้นได้เหมือนกัน ที่มะเหงกไปเมื่อกี๊นี้ยกโทษให้ด้วยนะ"
รีส "......เอ๊ะ..............."
- เควินวางรีสลง พลางบอกให้รีสดูรอบ ๆ และดินแดนที่เต็มไปด้วยกองเพลิง ที่อยู่ระหว่างโลกนี้และโลกหน้าซึ่งคอยตัดสินว่าวิญญาณที่มาถึงจะไปอยู่ที่ไหน ก็คือแดนชำระ หรือ [ชั้นดาราที่ 7] นั่นเองค่ะ
รีส "......[แดนชำระ]............"
เควิน "อือ ภาพที่เห็นก็คงจะเป็นแบบนั้นจริง ๆ นั่นแหล่ะ     แล้ว...... สิ่งที่สร้างภาพที่เห็นนี้ขึ้นมา ก็คงจะเป็นตัวชั้นเองล่ะมั้ง"
รีส ".........อา..............."
เควิน "[อาณาจักรแห่งเงา] แห่งนี้ คือโลกที่สะท้อนความคิดของมนุษย์......     ด้วยเหตุผลบางอย่าง...... พี่รูฟีน่าถึงได้ฟื้นคืนชีพขึ้นมาที่ดินแดนแห่งนี้ เป็นตัวตนที่มีความทรงจำและลักษณะนิสัยของพี่ คงอยู่เพียงเพื่อลงโทษชั้น    ......และนั่นเองที่เป็น [การลงโทษ] ที่รุนแรงที่สุดสำหรับชั้น"
รีส ".............................."
เควิน "ชั้น...... คงจะต้องการ [การลงโทษ] จริง ๆ ล่ะมั้ง แล้วก็ทึกทักเอาเองว่าจะสามารถคลี่คลายทุกอย่างลงได้ด้วยการรับ [การลงโทษ]     คิดว่าจะช่วยพวกเธอได้ด้วยการเสียสละตนเองเหมือนกับพี่ในตอนนั้น     แต่ว่า...... มันไม่ถูกต้องใช่มั้ย?"
รีส "อืม...... สมมติว่าถ้าในตอนนั้น ท่านพี่ช่วยเควินด้วยการเสียสละตัวเองแล้วล่ะก็...... คิดว่าเพราะคงไม่มีทางอื่นแล้วล่ะ เพราะมีฉันที่หมดสติอยู่...... จะถอยไปก่อนก็ทำไม่ได้...... เลยเหลือเพียงทางเลือกที่ต้องเสียสละใครสักคนไป......     ฉันคิดว่าเพราะแบบนั้น ท่านพี่ถึงได้เลือกทางนั้น"
เควิน "......อือ พี่น่ะเป็นพวกที่ชอบคิดว่าการเสียสละตัวเองน่ะดีแล้ว หลังจากคิดหาวิธีทั้งหมด คงตัดสินใจได้ว่าสุดท้ายแล้วมันก็เป็นวิธีที่ดีที่สุดล่ะมั้ง"
รีส "แต่...... คราวนี้ไม่เหมือนคราวนั้น ทั้งที่มีฉัน มีคนอื่น ๆ อยู่ด้วย ไม่ว่าจะรวมพลังกันสักเท่าไร ก็หาหนทางอื่นไม่พบอยู่ดี...... ทั้งที่ช่วยกันคิดแทบตาย น่าจะเจอวิธีอื่นบ้างแท้ ๆ ...... เพราะอย่างนั้น...... เควินก็เลยคิดจะหนีไปทางที่มันง่าย ๆ ......ใช่มั้ยล่ะ?"
เควิน "อือ...... ดูเหมือนจะอย่างนั้นแหล่ะ วิธีอื่นมีตั้งเยอะแยะ แต่นึกไม่ถึงว่า [อัศวินพิทักษ์] จะมาหมดรูปแบบนี้...... ฮะฮะ...... เพราะงั้นจะบอกว่าหมดคุณสมบัติที่จะเป็นอัศวินแล้วก็ได้มั้ง"
รีส ".............................."
- เมื่อไม่มีประโยชน์ที่จะมานั่งเสียใจให้กับความไม่เอาไหนของตัวเอง เควินจึงบอกว่าทางไหนไปได้ ก็ให้ไปกันต่อดีกว่าค่ะ
(ตรงนี้รีสนึกว่าเควินจะยอมรับ [การลงโทษ] อยู่ที่นี่เฉย ๆ ซะอีก แต่เควินบอกว่า ไม่รู้ว่าสถานที่แห่งนี้ เกิดขึ้นเพราะตัวเองต้องการรับ [การลงโทษ] จริง ๆ หรือไม่ แต่สิ่งเดียวที่แน่ใจได้คือ เขารู้สึกดีใจที่ได้เจอกับพี่อีกครั้ง แม้จะเป็นในลักษณะนี้ก็ตาม แต่เขาก็ไม่ต้องการดึงรีสเข้ามาติดร่างแห มาอยู่ในที่แบบนี้ไปด้วย เพราะงั้นไม่ว่ายังไงก็ต้องช่วยกันออกไปจากที่นี่ค่ะ)
- ในแดนชำระแห่งนี้ เราสามารถฟื้นฟูสภาพร่างกายได้ที่แท่นที่มีแสงเรืองรองอยู่ค่ะ
☆ไอเทมที่พบในแดนชำระ "ยาแห่งอาเซราส", "ทาเวอร์น่า ครูม" (ดาบธรรมะ), "EPชาร์จIII" และ "คอสมิก เกียร์" (เครื่องป้องกัน) ค่ะ☆
- เมื่อไปตามทางสักพัก จะได้ยินเสียงร้องโหยหวนด้วยความเคียดแค้นของ "วิญญาณโอเว่น" [นอกรีต] ที่เคยถูกเควินกำจัดค่ะ
(จากคำบอกเล่าของเควิน วิญญาณตนนี้คือ อดีตบิชอปกระทรวงศักการะพิธี แกนนำในการว่าจ้างพวกทหารพรานให้มาโจมตี [บ้านดอกแอสเตอร์] เนื่องจากไม่พอใจที่โดนเนรเทศ เพราะถูกจับได้ว่าทุจริต และเป็นนอกรีตคนแรกที่เควินฆ่าตายในฐานะ [นักล่านอกรีต] ด้วยค่ะ)
- วิญญาณโอเว่น + ไวท์เม็น x2 -
- 『亡者オーウェン+ワイトメンx2』 -
**แนะนำ ให้ใส่เครื่องประดับป้องกัน "พิษ" ไว้จะง่ายขึ้นค่ะ**

**วิญญาณโอเว่นสามารถแบ่ง HP เพื่อแยกร่างได้เรื่อย ๆ ให้รีบปราบก่อนที่จำนวนจะเพิ่มมากขึ้นค่ะ**
**เนื่องจาก ศัตรูแพ้คุณสมบัติเวลา แนะนำให้ใช้อาร์ทกินอาณาเขตอย่าง "เดธ สครีม" (ทั่วฉาก + ตายคาที่) และ "คาลามิตี้ บลาสต์" (ทั่วฉาก + ADF down) ไปเลยค่ะ**
**ระวัง หากปราบได้ ศัตรูจะระเบิดตัวเองเป็นของเหลวที่มีพิษ แนะนำให้ปราบจากระยะไกลในระยะที่เกิน 2 ช่องจะดีที่สุดค่ะ**
- ปราบได้ ให้ไปต่อได้เลยค่ะ
☆ไอเทมที่พบในแดนชำระ "วาจูร่า" (เครื่องประดับ) และ "สตูว์นรกเนื้อสัตว์" ค่ะ☆
☆ไอเทมที่พบในแดนชำระ "ดึ๋งดึ๋งสีรุ้ง" , "โลหิตต่อชีวิตสกัดกลางพายุ" และ "ไชน์ สเฟียร์" (เครื่องประดับ) ค่ะ☆
- เมื่อไปตามทางสักพัก จะได้ยินเสียงโหยหวนของเด็กเรียกเควินว่าพี่ชาย พร้อมกับขออะไรกินเพราะหิวมาก ซึ่งต้นเสียงที่ฟังดูไร้เดียงสานั้น ก็คือ "วิญญาณเอลเมอร์" ซึ่งเคยถูกเควินกำจัดไปเหมือนกันค่ะ
(จากคำบอกเล่าของเควิน วิญญาณตนนี้คือ เด็กชายที่โดนลัทธิบูชามารร้าย ใช้อาร์ติแฟกซ์เปลี่ยนร่างไปเป็นปิศาจกินคนในพิธีกรรมชั่วร้าย ซึ่งไม่ว่าจะใช้วิธีหรือวิชาแบบไหนก็ไม่มีผล จึงต้องทำให้ไปสบายเท่านั้นในขณะที่เควินกำลังเล่าให้รีสฟังอยู่นั้น วิญญาณเด็กก็ยังขอกินรีสที่ดูนุ่มนิ่มน่าอร่อย พร้อมทั้งบอกว่าจะแบ่งให้เควินกินด้วย รีสได้ยินก็รู้สึกสงสารวิญญาณตนนี้จับใจ เควินก็สงสารไม่แพ้กัน จึงบอกว่าจะทำให้ไปสบายอีกรอบ แต่วิญญาณเด็กคลุ้มคลั่งเข้ามาทำร้ายพวกเควินค่ะ)
- วิญญาณเอลเมอร์ + ไวท์เม็น x2 + แมลงกระดูก x2 -
- 『亡者エルマー+ワイトメンx2+骨蟲x2』 -
**แนะนำ ให้ใส่เครื่องประดับป้องกัน "พิษ" ไว้จะง่ายขึ้นค่ะ**

**การต่อสู้ค่อนข้างคล้ายกับตอนสู้กับวิญญาณโอเว่น แต่ต่างกันตรงที่ วิญญาณเอลเมอร์ สามารใช้ท่า "ดูด CP" ได้ เพราะงั้นไม่ต้องหวง CP ใช้ให้เต็มที่ไปเลยก็ได้ค่ะ**
- "................................. ฮะฮะ ตอนนั้นหลังเหตุการณ์จบ ก็หลับสนิทไปหนึ่งสัปดาห์เต็ม ๆ...... แต่พอเป็นตอนนี้คงเพราะชำนาญแล้วล่ะมั้ง" เควินพูดติดตลก แต่น้ำเสียงฟังดูเศร้า รีสทนไม่ไหววิ่งเข้าไปซบเควิน น้ำตาไหลอาบแก้มของเธออีกแล้ว
รีส "ทำไมล่ะ......! ทำไมที่แล้วมาถึงทำเรื่องแบบนี้คนเดียวลำพัง......! ......อย่างน้อยแค่เล่าให้ฉันฟังบ้าง......!"
เควิน "ฮะฮะ...... ก็มันเป็นทางที่ชั้นเลือกนี่นา เพราะไม่อยากให้เธอ...... ต้องติดร่างแหไปด้วย .......................... .........ไม่สิ ......ไม่ใช่หรอก คงเพราะ......... ชั้นกลัวต่างหากล่ะ แค่เธอเท่านั้นที่ไม่อยากให้เห็นตัวชั้น ที่ต้องการรับ [การลงโทษ] ด้วยการทำให้ตัวเองต้องเจ็บปวดต่างหาก......     ชั้นกลัวว่าสายสัมพันธ์ระหว่างเธอ...... จะถูกตัดขาดจนหมดสิ้น......      อา...... คงเพราะแบบนั้นมากกว่ามั้ง"
รีส "บ้า......! เควินบ้าที่สุด......!"
เควิน "ฮะฮะ...... ชั้นชอบให้ด่าว่าไอ้โง่มากกว่า...... เอาเถอะ แค่บ้าก็พอแล้วล่ะมั้ง"
รีส "เควินไอ้โง่...... ห่วย...... ไปตายซะ......"
เควิน "......ไหงมันเยอะขึ้นซะงั้นเล่า"
- เมื่อรีสหยุดร้องไห้แล้ว ให้ไปกันต่อได้เลยค่ะ
☆ไอเทมที่พบในแดนชำระ "ยาแห่งเทียร์ ออล", "เพอร์กาโทรีโอ" (โบว์กัน), "โรเอ็นกุริง" (รองเท้า), "EPชาร์จIII" และ "สร้อยคอแซฟไฟร์" (เครื่องประดับ) ค่ะ☆
☆ไอเทมที่พบในแดนชำระ "แกรลล็อกเก็ต" และ "ยาแห่งอาเซราส" ค่ะ☆
- เมื่อไปตามทางต่อ จะได้ยินเสียงพร่ำขอโทษแต่เควิน ที่แท้เสียงนั้นก็คือเสียงแม่ของเควิน ที่พูดวนเวียนอยู่แค่ตอนที่จะบีบคอเควินในวัยเด็กค่ะ
- โกรลด์ โกสต์ + ไวท์เม็น x3 + แมลงกระดูก x4 -
- 『グロールドゴースト+ワイトメンx3+骨蟲x4』 -
**แนะนำ ให้ใส่เครื่องประดับป้องกัน "พิษ" เอาไว้จะง่ายขึ้นค่ะ**

**การโจมตีปกติของโกรลด์ โกสต์ทำให้ STR & DEF down แนะนำให้สวมเครื่องประดับ "สร้อยคอแซฟไฟร์" ที่เพิ่งได้มาจากการเปิดหีบไว้ก่อนจะง่ายขึ้นค่ะ**

**การต่อสู้ค่อนข้างคล้ายกับการต่อสู้ที่ผ่านมา 2 ครั้งที่แล้ว แต่โกรลด์ โกสต์ต่างจากตัวอื่น ๆ ซึ่งจะแพ้ทางอาร์ทคุณสมบัติมายา เพราะงั้นแนะนำเก็บตัวอื่น ๆ ด้วยอาร์ทคุณสมบัติเวลากินอาณาเขตก่อน แล้วค่อยปราบโกรลด์ โกสต์ทีหลังค่ะ**
- "......ฮะฮะ......... เมื่อกี๊อดทนแทบแย่แน่ะ......" เควินหัวเราะฝืน ๆ
รีส "เควิน...... พอเถอะ......"
เควิน "ถ้า [แดนชำระ] นี่ คือสิ่งที่ชั้นปรารถนาจริง ๆ ล่ะก็...... ชั้นคงจะเป็นพวกมาโซฯ พอตัวเหมือนกันแฮะ"
รีส "พอได้แล้ว......! ในเวลาอย่างนี้ไม่ต้องพูดอะไรก็ได้!"
- รีสน้ำตานองหน้า เควินขอโทษที่ทำให้รีสรู้สึกแย่ เขาพยายามอดทนต่อสิ่งที่เกิดขึ้น
เควิน "......ตามหลักแล้ว เรื่องเมื่อกี๊อาจจะหลีกเลี่ยงไม่ได้ก็ได้ ตั้งแต่วันในฤดูหนาวตอนนั้น...... ชั้นก็เอาแต่หนีการตายของแม่มาตลอด...... เท่านี้...... ......ก็รู้สึกขึ้นมาว่าจะสามารถเผชิญหน้ากับมันได้สักที"
รีส ".........เควิน..............."
เควิน "......รีส รีบไปต่อกันเถอะ จากนี้ไป...... ไม่ว่าจะทุกข์ทรมานแค่ไหนก็ช่างมัน ทั้งหมดนั่น...... คือการมีชีวิตรอดต่อไปหลังจากนี้"
รีส ".................................... ......อื้ม...... เข้าใจแล้ว.......!"
☆ไอเทมที่พบในแดนชำระ "ยาแห่งเทียร์ ออล" ค่ะ☆
- ฟื้นฟูสภาพร่างกายที่แท่น เตรียมตัวให้เรียบร้อยค่ะ
- เมื่อไปจนสุดท้ายจะพบกับ [ประตูแดนชำระ] 『煉獄門』 ค่ะ (หรือแบบบ้าน ๆ จะเรียกว่าประตูนรกก็ได้)
รีส "[ประตูบานนั้นช่างโค้งมนและแข็งแกร่ง เป็นด่านซึ่งแยกคนเป็นกับคนตายออกจากกัน......]"
เควิน "รูปทรงตรงตามที่บันทึกไว้ในพระคัมภีร์เป๊ะเลยแฮะ...... ปัญหาก็คือจะเปิดเจ้านี่ยังไงเนี่ยแหล่ะ......"
"หึหึ......
น่าเสียดายที่มันเป็นไปไม่ได้"
- เสียงคุ้นหูดังขึ้น เบื้องหน้านั่นปรากฏร่างของ "ไวส์แมน" 『ワイスマン』 ที่กล่าวทักทายเควินหลังจากไม่ได้พบกันเสียนาน ซึ่งดูเหมือนว่าเควินจะคาดเอาไว้อยู่แล้วว่าต้องได้เจอกับไวส์แมนแน่ ๆ เพราะที่นี่มีแต่พวกที่เควินเคยกำจัดไปป้วนเปี้ยนอยู่ ดังนั้น ยังไงก็ต้องมีไวส์แมนรวมอยู่ด้วยแน่นอนค่ะ
รีส "......คะ ใครเหรอ?"
เควิน "อดีตบิชอปกระทรวงนักบุญศักดินา นักบวชธุศีลผู้ชั่วร้ายที่สุดเป็นประวัติการณ์ของโบสถ์...... สาวกแห่ง [งูกินหาง] มารร้ายผู้มีฉายา [ไร้หน้า]...... คนที่ชั้นกำจัดไปเมื่อครึ่งปีที่แล้ว เกออร์ก ไวส์แมน"
รีส "!!! ชะ ชายคนนี้เอง......"
ไวส์แมน "คึคึ...... ฉันไม่ทันระวังต่างหาก [นักล่านอกรีต] เควิน แกรแฮม นึกไม่ถึงว่าเธอจะเป็นผู้สืบทอด [ลำดับที่ 5] ที่ไม่เคยปรากฏมาเนิ่นนาน"
เควิน "ก็ชั้นเป็นหนึ่งใน [ไพ่เด็ด] ที่ชื่อว่า [อัศวินพิทักษ์] นี่นา     แต่หน้าไพ่ก็โดนเผย เพราะกำจัดแกไป"
ไวส์แมน "หึหึ เจ้าพวกกระทรวงนักบุญศักดินา วางแผนได้แนบเนียนจริง ๆ...... คงจะเขียนบทเสร็จทันทีที่เธอมี [ตราบาป] ปรากฏออกมาสินะ      [เสาเกลือ] 『塩の杭』 กับ [อัศวินพิทักษ์]...... ดูเหมือนจะใช้ 2 อย่างนี้ ทำให้ฉันไม่มีโอกาสหนีรอดไปได้"
เควิน "อา ก็คงจะอย่างนั้น     ในความหมายนั้น...... ชั้นก็คงจะเป็น [สุนัขรับใช้] อย่างที่แกว่านั่นแหล่ะ ......เคยคิดว่าแค่นั้นก็น่าจะพอแล้ว"
ไวส์แมน "คึคึ ดูเหมือนว่าจะประทับใจไม่น้อยสินะ แต่ก็สมแล้วที่ได้ชื่อว่า [อัศวินพิทักษ์]     โดยส่วนตัวฉันเองก็วิจัยเรื่อง [ตราบาป] มาไม่น้อย...... นึกไม่ถึงเลยว่าต้นแบบนั้น จะมีความสามารถซ่อนอยู่ข้างในมากมายเพียงนี้"
เควิน "หมายถึงอะไร......?"
ไวส์แมน "หึหึ...... เธอเองก็น่าจะรู้สึกได้ราง ๆ ว่า [แดนชำระ] นี่ กำเนิดมาจากความปรารถนาที่อยู่ภายในตัวเธอ......      ถ้าจะพูดให้ชัดกว่านี้------ ทั้งหมดนี่มาจาก [ตราบาป] ของเธอไง"
เควิน "ว่าไงนะ......!?"
รีส "นี่มันเรื่องอะไรกัน......!"
ไวส์แมน "การหายตัวไปของ [วงแหวน]...... นำความโกลาหลขั้นร้ายแรงมาสู่ [อาณาจักรแห่งเงา] ซึ่งเป็นระบบรอง     เป็นธรรมดา...... เพราะจู่ ๆ ตัวตนที่เคยสั่งการตนเองหายตัวไปแบบไร้ร่องรอย      และแล้ว [อาณาจักรแห่งเงา] ...... ก็ต้องการ [นาย] คนใหม่ที่จะมาสั่งการตนเองต่อ     ถ้าจะพูดให้ชัดกว่านี้......มันได้เลือกผู้ที่บอบช้ำทางจิตใจมากที่สุด จากบรรดาผู้ที่อยู่ใกล้ ๆ [วงแหวน] ในตอนนั้น"
รีส "!!!"
เควิน ".........อา............"
ไวส์แมน "และแล้ว [อาณาจักรแห่งเงา] ก็หา [ตราบาป] ที่อยู่ลึกที่สุดในจิตใจของเธอพบ     ก๊อปปี้เข้ามาเป็นของตนเอง แล้ว [ตราบาป] ก็...... ทำให้ [แดนชำระ] ซึ่งเป็นความปรารถนาภายใต้จิตสำนึกของเธอปรากฏออกมาใน [อาณาจักรแห่งเงา]     หึหึ...... [จ้าวแห่งเงา] ก็เลยถือกำเนิดขึ้นมาในสภาพแบบนั้น"
- เควินเถียงอะไรไม่ออก
ไวส์แมน "หึหึ...... จบการบรรยายเท่านี้ดีกว่า     จากเรื่องที่กล่าวมานั้น...... จะบอกวิธีดี ๆ วิธีหนึ่งให้ฟัง     ก็คือหนทางที่จะสามารถคลี่คลายสถานการณ์นี้ลงได้ โดยไม่นับเรื่องที่เธอต้องเสียสละตัวเองน่ะ     เป็นวิธีง่าย ๆ ก็แค่ทิ้งหัวใจที่เป็นมนุษย์ไปซะ"
รีส "!?"
เควิน ".........อา............"
ไวส์แมน "ถ้าจะให้พูด [ตราบาป] ของเธอ เกิดจากความสิ้นหวังและความรู้สึกผิด ถ้าอย่างนั้น ก็จงเป็นสิ่งที่ไม่ต้องไปยึดติดกับความรู้สึกไร้สาระนั่นซะ หรือก็คือไม่ต้องยึดมั่นกับสิ่งใด กลายเป็น [ยอดมนุษย์] ที่สามารถควบคุมตนเองได้ยังไงล่ะ"
เควิน "..................................."
รีส "ระ ไร้สาระ...... เรื่องพรรค์นั้น......     มันไม่ใช่หนทางที่ถูกต้องในฐานะมนุษย์สักหน่อย!"
ไวส์แมน "คึคึ แต่ฉันก็ใช้ชีวิตมาอย่างยาวนาน ไขว่คว้าหาสิ่งนั้นมาตลอด     ห่วงโซ่ของการวิจัย [ตราบาป] แต่ละห่วง......     ถึงจะพลาดตรงโยชัวร์ไป แต่เธอในตอนนี้ก็มาจนถึงอีกแค่ก้าวเดียวข้างหน้านั้น     พอถึงตอนที่กลายเป็น [ยอดมนุษย์] เธอก็จะสามารถควบคุม [ตราบาป] และกลายเป็น [จ้าวแห่งเงา] คนใหม่ได้"
รีส "หยุดพล่ามสักที [ไร้หน้า]......! ถ้าชักชวนเควินให้ไปในทางที่ผิดมากกว่านี้ ฉันจะไม่ให้อภัยแล้วนะ!"
ไวส์แมน "หึหึ...... ไม่ได้ชักชวน แต่ยื่นข้อเสนอต่างหาก     สาบานได้เลย...... ว่าฉันไม่ได้โกหกแม้แต่คำเดียว     ความเคียดแค้นที่ถูกเขากำจัด...... เมื่ออยู่ในสถานการณ์แบบนี้ กลายเป็นเรื่องเล็กน้อยไปเลย     เพราะฉันอยากเห็น...... พริบตาที่ทิ้งคำสอนของเจ็ดจรัส ทำให้หนทางสู่ [ยอดมนุษย์] ที่ [องค์กร] แสวงหากลายเป็นจริง......!"
รีส ".........เสียสติไปแล้ว............"
เควิน "......รีส พอเถอะ พอได้แล้วล่ะ......"
รีส "! เควิน......!?"
- เควินก้าวไปข้างหน้า ไวส์แมนกระหยิ่มยิ้ม นึกพอใจที่เควินเข้าใจในสิ่งที่ตัวเองพูด
เควิน "ชั้น...... ควรจะแข็งแกร่งกว่านี้จริง ๆ น่ะแหล่ะ ฆ่าพี่รูฟีน่าด้วยมือคู่นี้......     ปฏิเสธแล้วปล่อยให้แม่ตายไป......     แล้วตอนนี้ ก็ดึงรีสและคนอื่น ๆ ให้มาติดร่างแหไปด้วย......      โน่นนี่นั่นทั้งหมด...... เพราะความขี้ขลาด ไม่เอาไหนของชั้น"
รีส "เควิน......"
ไวส์แมน "หึหึ ใช่แล้ว แต่ความอ่อนแอนั่นสามารถบำบัดได้ ด้วยหนทางแห่ง [ยอดมนุษย์] ที่ฉันจะชี้ทางให้"
เควิน "อือ...... บางทีมันอาจจะจริงมั้ง ------แต่ชั้น ไม่คิดที่จะเลือกทางนั้นหรอกนะ"
ไวส์แมน "! .........ว่าไงนะ..............."
เควิน "ดูเหมือนว่าชั้น จะไม่เอาไหนกว่าที่คิดไว้นะ เพราะไม่มีทีท่าว่าจะลืม...... รสชาติของช็อกโกแล็ตในตอนนั้นได้เลย"
ไวส์แมน "ว่า......!?"
- สีหน้าผิดหวังอย่างสุดซึ้ง ปรากฏขึ้นบนใบหน้าของไวส์แมน
เควิน "ชั้นเมื่อตอนนั้น...... สิ้นหวังไปหมด...... แต่เพราะอย่างนั้น...... ช็อกโกแล็ตนั่นจึงเป็นรสชาติที่ลืมไม่ลงสำหรับชั้น     สุข ทุกข์ เศร้า ดีใจ สนุกสนาน......     ทั้งหมดนั่น รวมเอารสชาติที่ทั้งหอมหวาน ทั้งเจ็บปวด ทั้งคิดถึง ทำให้ชั้นก้าวไปข้างหน้าได้"
รีส ".........เควิน............"
เควิน "เพราะงั้น...... โทษทีนะ [ไร้หน้า]     ข้อเสนอของนาย...... ชั้นขอปฏิเสธด้วยความเคารพ"
- ไวส์แมนจ้องเขม็งไปที่เควิน ไม่สนใจแล้วว่าเควินจะเลือกทางไหน ทั้งยังดูถูกว่าเควินจะใช้ความรู้สึกอ่อนหัดผ่านวิกฤตการณ์ไปได้แค่ไหน
- เมื่อเจรจาไม่สำเร็จ ไวส์แมนจึงเรียกยามเฝ้าประตูนรก (ประตูแดนชำระ) "อัสทาร์เต้" และ "ลอสต์ทรูม" ออกมา หวังจะทำให้เควินคิดใหม่อีกครั้งว่าควรจะเลือกทางไหนค่ะ
- เควินบอกว่าถ้าเป็นเขาเมื่อก่อนคงคิดว่าไม่ไหวแน่ ๆ แต่ในตอนนี้เปลี่ยนไปแล้ว เควินเค้นพลัง ตราบาปบนหลังที่เคยส่องแสงสีแดง ส่องแสงเรืองรองเป็นสีขาวบริสุทธิ์
☆เควินเรียนรู้ S-craft "หอกศักดิ์สิทธิ์ อูร์" แนะนำให้ตั้งเป็น S-break ค่ะ☆
รีส ".........สุดยอด..............."
ไวส์แมน "บะ บ้าน่า...... แสงของ [ตราบาป] มัน......!?"
เควิน "นี่เป็นรูปร่างดั้งเดิมอีกอันของ [ตราบาป] ของชั้น...... เป็นอีกด้านหนึ่งที่กระทั่งชั้นก็ยังไม่เคยเห็นจนถึงตอนนี้"
ไวส์แมน "วะ ว่าไงนะ......!?"
เควิน "ขอบใจนะ [ไวส์แมน]...... เพราะปฏิเสธคำชักชวนของนาย ชั้นก็เลยเชื่อมั่นในตัวเองเพิ่มขึ้นมานิดหน่อย     โทษทีที่ต้อง...... ทดสอบพลังนี้ทั้งอย่างนี้น่ะ!"
ไวส์แมน "เจ้าสุนัขรับใช้เอ๊ย...... ได้! คิดว่าการเรียนรู้แบบลวก ๆ จะเอาชนะ [ไร้หน้า] ผู้นี้ได้งั้นรึ......     มาลองทดสอบดูซะสิ!"
- ไวส์แมน + อัสทาร์เต้ + ลอสต์ทรูม -
- 『ワイスマン+アスタルテ+ロストルム』 -
**แนะนำ ให้ใส่เครื่องประดับป้องกัน "ผนึกทักษะ" ไว้จะง่ายขึ้นค่ะ**

**แนะนำ ให้ตั้ง "หอกศักดิ์สิทธิ์ อูร์" เป็น S-craft ของเควิน สะสม CP ให้เร็วที่สุดเท่าที่จะได้ เพื่อใช้ S-break ปราบอัสทาร์เต้และลอสต์ทรูม ยามเฝ้าประตูนรกทั้ง 2 ไปพร้อม ๆ กัน แล้วค่อยรุมสกรัมไวส์แมนต่อค่ะ**
**การต่อสู้ในครั้งนี้ เน้นให้เควินเป็นคนโจมตี (S-craft & อาร์ทกินอาณาเขต) และให้รีสเป็นคนคอยซัพพอร์ตด้วยคราฟท์ "โฮลี่ เบรธ" (ฟื้นฟู HP & CP) ก็จะชนะได้โดยง่ายค่ะ หรือจะให้รีสช่วยโจมตีด้วย S-craft "เฮฟเว่น สเฟียร์" ก็ได้เหมือนกันนะคะ**

**ข้อมูลต่าง ๆ ของไวส์แมนดูได้ที่หน้า Sub Character & Enemy ค่ะ**
- ปราบได้ ไวส์แมนจะทิ้งท้ายไว้ว่า ตราบใดที่ยังมี [อาณาจักรแห่งเงา] อยู่ ความคิดที่เป็น [ตัวเขา] ก็จะไม่มีทางถูกกำจัด ซึ่งเขาจะขอเฝ้าดูว่าพวกเควินจะผ่านแดนชำระนี้ไปได้ยังไง พร้อมกับหัวเราะลั่นแล้วก็หายไปค่ะ
- พอไวส์แมนหายไป เควินก็ทรุดลงทันที แต่เขาบอกรีสว่าไม่ต้องห่วง เพราะได้ตัดสินใจที่จะเผชิญหน้ากับพี่รูฟีน่าแล้ว เพราะงั้นจะไม่เป็นเหมือนเมื่อก่อนแน่นอน แต่ตอนนี้ปัญหาใหญ่ก็คือ จะเปิดประตูยักษ์ที่อยู่ข้างหน้านี่ยังไงค่ะ
(ตรงนี้ หนูรีสพูดหน้าเรียบ ๆ ตามสไตล์ว่าลองใช้กำลังพังไปเลยดีมั้ย เควินเหงื่อตกขอร้องว่าให้วิธีรุนแรงแบบนั้น เป็นวิธีสุดท้ายก็แล้วกัน แต่จริง ๆ ก็คงทำลายกันไม่ได้ง่าย ๆ หรอกค่ะ)
- ขณะที่เควินกับรีสกำลังคิดหาวิธีเปิดประตูนั้นเอง เสียงชายหนุ่มที่แสนจะคุ้นเค๊ยคุ้นเคยก็ดังขึ้น ถึงจะไม่น่าเชื่อ แต่ชายหนุ่มที่วิ่งมาสะดุดล้มตรงหน้าพวกเควินก็คือ กระทาชายนาย "กิลเบิร์ต" 『ギルバート』 นั่นเองค่ะ
- ถึงจะไม่รู้ว่านายคนนี้จะมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง แต่ดูเหมือนว่าเขาจะหนีปิศาจระดับสูงที่ไล่ตามหลังมาหลายตน ซึ่งจำนวนมากแบบนี้ เควินและรีสที่กำลังหมดแรงอยู่ ถือว่าหืดขึ้นคอเลยล่ะค่ะ
- ขณะที่เควินตัดสินใจจะฝืนใช้ [ตราบาป] เพื่อช่วยรีสกับกิลเบิร์ตนั่นเอง ประตูแดนชำระก็เปิดออก เพื่อนพ้องกรูกันเข้ามาช่วยทันหวุดหวิดค่ะ
(จากคำบอกเล่าของเพื่อน ๆ ทำให้ทราบว่า พวกเขาให้เซเลสต์ช่วยหาให้ว่าพวกเควินตกมาอยู่ที่ไหน โดยจับสัมผัสของ [ศิลาจตุรัส] ทำให้ระบุสถานที่ที่ชัดเจน แล้วก็หาทางติดต่อ จนเปิดประตูได้นั่นเองค่ะ)
- และด้วยความช่วยเหลือของเพื่อน ๆ ทำให้เควิน รีส และนายกิลเบิร์ตกลับไปยัง [สวนแห่งนักพรต] ได้อย่างปลอดภัย
- จบฉากที่ 7 ค่ะ




Related entries:
Sora no Kiseki the3rd (空の軌跡the3rd)


No comments:

Post a Comment