Friday, November 10, 2017

[บทสรุป] Sora no Kiseki the3rd - Episode 5 วงกตแสงและเงา

第五話 光と影の迷宮
ฉากที่ 5 วงกตแสงและเงา
Walkthrough Chart
- เสียงก้าวเดินเป็นจังหวะดังกึกก้องไปทั่วทางเดินแคบ ๆ ตามมาด้วยเสียงเปิดประตูเหล็กดังขึ้น
เสียงผู้หญิง "เงยหน้าขึ้น------ เควิน แกรแฮม"
อัศวินรับใช้เควิน "....................................... ......อาจารย์...... เซลเนิร์ต......?"
- "ซูบไปเลยนะ......" "อัศวินพิทักษ์เซลเนิร์ต" 『守護騎士セルナート』 จ้องมองเควินที่กำลังนั่งก้มหน้าก้มตาหมดอาลัยตายอยากอยู่ในคุก
อัศวินพิทักษ์เซลเนิร์ต "ได้ข่าวว่าไม่ใช่แค่ข้าวปลาอาหาร แม้แต่น้ำที่จัดไว้ให้ก็ไม่ได้แตะเลยสินะ"
อัศวินรับใช้เควิน "......................................."
อัศวินพิทักษ์เซลเนิร์ต "ได้ฟังรายงานแล้วล่ะ เรื่องรูฟีน่าก็น่าเสียใจอยู่ แต่อุบัติเหตุที่เลวร้าย มักเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นอยู่บ่อยครั้ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับคนอย่างพวกเรา"
อัศวินรับใช้เควิน "....................................... ......ฆ่าผม...... เถอะครับ........."
อัศวินพิทักษ์เซลเนิร์ต "......ว่าไงนะ.................."
อัศวินรับใช้เควิน "ไม่มี...... ความหมายที่ผม...... ......จะเป็นอัศวินอีกแล้ว...... ไม่เพียงเท่านั้น......... ......แม้แต่ความหมาย...... ที่จะมีชีวิตอยู่ก็......... ถ้าอาจารย์เป็นคนลงมือ......... .........ผมคงตายตาหลับ............ ไม่ต้องรู้สึกเจ็บปวด......... เพราะอาจารย์คงลงมือ...... แค่ชั่วอึดใจ......"
อัศวินพิทักษ์เซลเนิร์ต "เข้าใจแล้ว ก็ได้------ คิดว่าฉันจะพูดแบบนั้นสินะ?"
อัศวินรับใช้เควิน "......................................."
อัศวินพิทักษ์เซลเนิร์ต "อยากให้ฆ่าในชั่วอึดใจ จะได้ไม่ต้องรู้สึกเจ็บปวดงั้นเรอะ? น่าขัน นึกว่าตัวเองมีสิทธิ์นั้นด้วยรึไง? เธอที่น่าจะอุทิศเลือดเนื้อให้แก่หลักธรรมคำสอนของเจ็ดจรัส อุทิศดวงวิญญาณให้แก่เทพธิดาไปแล้วน่ะ?"
อัศวินรับใช้เควิน "............อึก..........................."
อัศวินพิทักษ์เซลเนิร์ต "คึคึ...... ถ้ายังนั่งพูดจาตัดพ้ออย่างนั้นไหวล่ะก็ ฉันก็ขอพูดอย่างไม่เกรงใจล่ะนะ เฉพาะครั้งนี้แม้แต่ฉันเองก็ยังลังเลใจขึ้นมาแวบนึงเลย"
อัศวินรับใช้เควิน "...............?........................"
อัศวินพิทักษ์เซลเนิร์ต "------อัศวินรับใช้เควิน แกรแฮม ขอเชิญเจ้าให้เข้ามาเป็น [โดมิเนี่ยน (อัศวินพิทักษ์)] ลำดับที่ 5 ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป นี่เป็นมติแต่งตั้งจากกระทรวงนักบุญศักดินา ซึ่งได้รับความเห็นชอบจากองค์พระสันตะปาปาอยู่ก่อนแล้ว"
อัศวินรับใช้เควิน "....................................... .........เอ๊ะ.................."
- เควินเงยหน้าที่ซูบซีดไร้ชีวิตชีวาขึ้นนิดนึง สีหน้าเต็มไปด้วยความประหลาดใจ
อัศวินพิทักษ์เซลเนิร์ต "หลายสิบปีมานี่ เธอก็คงเคยได้ยินข่าวลือที่ว่า [ลำดับที่ 5] ว่างอยู่สินะ ยินดีด้วย------ เธอได้เป็น [ลำดับที่ 5] ที่ว่านั่นแล้ว"
อัศวินรับใช้เควิน "......................................."
อัศวินพิทักษ์เซลเนิร์ต "ฮึ เท่านี้เธอกับฉันก็อยู่ในสถานะเดียวกัน...... เครื่องหมายเลข 5 ที่ร้างราเจ้าของมานาน จะได้ออกไปต้องแสงอาทิตย์สักที"
อัศวินรับใช้เควิน "......มันเรื่อง...... อะไรกัน..............."
อัศวินพิทักษ์เซลเนิร์ต "อ้อ แล้วอัศวินพิทักษ์ก็ต้องมีฉายาของตัวเองด้วย ในระหว่างนี้เธอก็ลองไปคิด ๆ ฉายาที่เหมาะ ๆ ดูก็แล้วกัน ส่วนของฉันก็ [คาร์เนเรีย (พลอยประกายแดง)] อย่างที่รู้ ๆ กัน------ ด้วยความที่เป็นคนน่าเบื่อแสนเย็นชานั่นแหละนะ"
อัศวินรับใช้เควิน "ระ เรื่องนั้น...... ......ไม่เห็นเคยได้ยินมาก่อนเลย...... ละ แล้วทำไมชั้น...... ถึงได้...... ชั้นที่ไม่สามารถ...... ปกป้องพี่...... .........ปกป้องพี่รูฟีน่าได้........."
อัศวินพิทักษ์เซลเนิร์ต "[------เรื่องนั้นไม่ใช่ปัญหาใหญ่ ปัญหาคือ การที่รูฟีน่า อาร์เจนต์เป็นอัศวินที่ยอดเยี่ยมมากต่างหาก ถึงแม้ตราบาปจะไม่ได้ปรากฏออกมา แต่ความสามารถในการคลี่คลายสถานการณ์ของเธอ บางครั้งก็เหนือกว่าอัศวินพิทักษ์เสียอีก เราคาดหวังว่าลำดับที่ 5 จะทำงานในระดับที่สมน้ำสมเนื้อกับ "ความสูญเสีย" นั้นได้------] ------นี่เป็นคำกล่าวของพระคาร์ดินัล"
- เควินก้มหน้านิ่ง เสียงหัวเราะขืน ๆ ดังอยู่ในลำคอราวกับจะประชด
อัศวินรับใช้เควิน "อะไรกัน......... ......นี่มันเรื่องอะไรกัน............ ฮึฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า!"
อัศวินพิทักษ์เซลเนิร์ต "......................................."
อัศวินรับใช้เควิน "คึคึ...... ชั้นเนี่ยนะ!? ชั้นที่มาเป็นอัศวิน เพราะอยากปกป้องพี่รูฟีน่าเนี่ยนะ!? ได้รับเลือกให้เป็นอัศวินพิทักษ์ แล้วให้เอาไอ้ที่กลืนกินพี่ไปมาใช้งั้นเรอะ......!? ฮ่าฮ่าฮ่า ผลงานชิ้นเอก! เป็นผลงานชิ้นเอกจนอยากจะหัวเราะให้ตายไปข้างหนึ่งเลยว่ะ! อุ๊บ------ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า!!"
อัศวินพิทักษ์เซลเนิร์ต "......................................."
อัศวินรับใช้เควิน "......คึคึ...... ฮะฮะฮะ......... .........หึหึ...... ฮะฮะ ................................................... ......................................."
อัศวินพิทักษ์เซลเนิร์ต "------เอ้า จะเอายังไงเควิน แกรแฮม เธอมีสิทธิ์ที่จะปฏิเสธคำร้องขออันนี้นะ เพียงแต่ในประวัติศาสตร์นับพันปีของหน่วยอัศวินไม่เคยมีบันทึกเอาไว้เลยว่า มีคนที่ได้รับเลือกให้เป็นอัศวินพิทักษ์แล้วจะลาออกไป"
อัศวินรับใช้เควิน "หึหึ...... นั่นสินะ"
- เควินเงยหน้าขึ้น แม้หน้าตาของเขาจะดูอิดโรย แต่ก็ฉายแววแห่งความเย็นชา สายตาของเขาจับจ้องไปที่เซลเนิร์ตโดยไม่หวั่นไหว
อัศวินรับใช้เควิน "------[โดมิเนี่ยน (อัศวินพิทักษ์)] ลำดับที่ 5 น้อมรับคำสั่งครับ จะให้รับงานในวันนี้ทันทีเลยก็ได้ ไม่ขัดข้อง"
อัศวินพิทักษ์เซลเนิร์ต "......งั้นรึ............ เข้าใจแล้ว จะจัดให้ตามนั้น"
อัศวินพิทักษ์เควิน "อ้อ ถ้ายังไง ของานที่มันยาก ๆ เข้าไว้ด้วยนะครับ โอ๊ะ...... ต้องมีฉายาด้วยสินะ? อืมม์ นั่นสินะ......"
อัศวินพิทักษ์เควิน "[นักล่านอกรีต] ------ ขอทำงานตามที่มันสื่อออกมาอย่างนั้นนะครับ"



สวนแห่งนักพรต 『隠者の庭園』
- รีสเฝ้ามองเควินที่หมดสติไปที่คลังหนังสือ ในขณะที่พวกพ้องทุกคนยืนประชุมกันอยู่หน้าแผ่นหิน
- เอสเทลได้ฟังเรื่องราวต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นจากทุกคน ก็รู้สึกว่ามีแต่เรื่องที่ทำใจเชื่อได้ยาก ในขณะที่โยชัวร์นึกสงสัยว่าทำไมทุกคนถึงได้ถูกเลือกให้มาที่นี่ โอลิเวียร์จึงสรุปข้อสงสัยหลัก ๆ ไว้ 3 ข้อ คือ (1) ตัวจริงของ "จ้าวแห่งเงา" และ "อัศวินนิลกาฬ" (2) ตัวจริงของ "ศิลาจตุรัส" รวมทั้ง "วิญญาณผู้หญิง" และสุดท้าย (3) ข้อสรุปและข้อเท็จจริงของ "อาณาจักรแห่งเงา" เมื่อได้ฟังเอสเทลก็นึกถึงความเกี่ยวข้องที่ทำให้เควินหมดสติไป จะว่าเพราะต่อสู้ปิศาจยักษ์ก็ไม่น่าจะใช่ซะทีเดียว เพื่อน ๆ ในกลุ่มก็รู้สึกถึงพลังที่ทำลายอาณาเขตที่ขังทุกคน แล้วก็แสงสีแดงที่ดูเหมือนลวดลายบางอย่างที่ปรากฏขึ้นตอนนั้นคืออะไรกันแน่
โยชัวร์ "......................................."
เอสเทล "......โยชัวร์ นึกอะไรบางอย่างออกงั้นเหรอ?"
โยชัวร์ "อืม......นั่นสินะ ไม่ค่อยแน่ใจเท่าไหร่...... แต่ว่านั่นอาจจะเป็น [สติกม่า (ตราบาป)] 『聖痕(スティグマ)』 ก็ได้"
เอสเทล "หา......!?"
โจเซ็ต "ที่เคย...... โผล่ออกมาบนไหล่ของโยชัววร์นี่!?"
โยชัวร์ "อืม...... นั่นเป็น สิ่งที่ศาสตราจารย์สลักลงไปในจิตใต้สำนึกเพื่อควบคุมผม ซึ่งปรากฏออกมาเป็นรูปเป็นร่างบนร่างกายน่ะ ของคุณเควินเองก็เหมือนกัน...... เพียงแต่ว่ามันอาจจะมีพลังแข็งแกร่งมากกว่าอันที่สลักลงไปในตัวผมหลายเท่า"
- "......เข้าใจได้ถูกต้องแล้วค่ะ" รีสเดินเข้ามาสมทบทุกคน พร้อมทั้งบอกว่าอาการของเควินยังทรง ๆ อยู่ แต่เพราะจิตใจรับภาระมากเกินไป จึงต้องให้พักผ่อนต่ออีกสักพัก ซึ่งการรับภาระที่ว่านี้ ก็เป็นผลมาจาก [ตราบาป] ตามที่โยชัวร์คาดไว้ เพียงแต่ของเควินนั้นต่างจากของโยชัวร์ตรงที่เป็นตราบาป [ตัวต้นแบบ] เป็นตราประทับแห่งวิญญาณที่จะปรากฏออกมาเฉพาะในหมู่ [โดมิเนี่ยน (อัศวินพิทักษ์)] เท่านั้นค่ะ
(จากตรงนี้ จะทราบจากรีสว่า ความสามารถอันน่าหวาดกลัวต่าง ๆ ที่อัศวินพิทักษ์ทั้ง 12 ลำดับแต่ละคนมีนั้น เป็นผลมาจาก [ตราบาป] ที่แตกต่างกันไปนั่นเองค่ะ ซึ่งตราบาปเนี่ยแหละค่ะ ที่เป็นแหล่งกำเนิดของพลังอันไม่ธรรมดาทั้งหลายแหล่ ทั้งทำให้ร่างกายแข็งแกร่ง ทั้งทำให้พลังเวทย์สูงผิดมนุษย์มนา และเควินก็เป็น 1 ใน อัศวินพิทักษ์ลำดับที่ 5 จาก 12 ลำดับที่มี [ตราบาป] ที่ว่ามาค่ะ เมื่อทุกคนได้รู้เรื่องนี้ตอนแรกก็รู้สึกเหมือนกำลังฟังเรื่องของคนอื่นที่ไม่ใช่เควินอยู่ คลอเซ่ก็เสนอให้ลองหาวิธีรักษาเหมือนของโยชัวร์ แต่น่าเสียดาย ที่ไม่สามารถรักษาได้)
รีส "[ตราบาป] ที่แท้จริง เป็นสิ่งที่ไม่ได้มีเจตนาที่จะให้ฝังลงไปค่ะ กล่าวคือเป็นสิ่งที่ปรากฏขึ้นเองตามธรรมชาติ และจะคงอยู่จวบจนสิ้นไป และจำนวนของ [อัศวินพิทักษ์] ตามประวัติศาสตร์แล้วจะมี 12 คนเสมอ------ กล่าวกันว่าไม่ว่าจะยุคใดสมัยใด เมื่อบุคคลใดที่มี [ตราบาป] ปรากฏตัวขึ้น ก็ต้องมาเป็น [อัศวินพิทักษ์] ค่ะ"
เอสเทล "ปะ เป็นเรื่องประหลาด ๆ ยังไงไม่รู้แฮะ...... แล้ว [ตราบาป] ที่โยชัวร์เคยมีล่ะ......"
โยชัวร์ "บางทีนั่นอาจจะเป็น...... การทำเทียมให้ [ตราบาป] ที่แท้จริงปรากฏขึ้นมาอีกครั้ง ......เพราะไวส์แมนเคยเป็นคนของโบสถ์เจ็ดจรัสมาก่อน"
เอสเทล "อะ เรื่องนั้นเคยพูดถึงกันแล้วนี่เนอะ"
รีส "......ไวส์แมนคนทรยศ เคยเป็นบิชอปในสังกัด [กระทรวงนักบุญศักดินา] 『封聖省』 ซึ่งมีตำแหน่งสูงกว่า [หน่วยอัศวินจอกดารา] ค่ะ ได้ยินมาว่าเขาติดต่อกับ [งูกินหาง] มาตั้งแต่สมัยที่ดำรงตำแหน่งบิชอปอยู่ แล้วก็ขโมยพิธีกรรมอันศักดิ์สิทธิ์ต่าง ๆ ที่เป็นความลับไป เอกสารที่มีเนื้อหาครอบคลุมกับงานวิจัยที่เกี่ยวข้องกับ [ตราบาป] ของอัศวินพิทักษ์ ก็เป็นหนึ่งในนั้น...... คาดกันว่าวิทยาการที่สร้าง [ยอดมนุษย์] เทียมขึ้นมาได้โดยสมบูรณ์ที่องค์กร มีการอ้างอิงมาจากเอกสารพวกนั้นค่ะ"
- ถึงแม้ตอนนี้เราจะยังไม่รู้สาเหตุที่เควินล้มไป ว่าเป็นเพราะ ปลดปล่อยพลังของ [ตราบาป] ออกมามากเกินไปหรือไม่ (จากคำบอกเล่าของรีส เควินจะปลดปล่อยพลังออกมา เฉพาะตอนที่จะล่า [นอกรีต] เท่านั้น เพื่อกำจัดอาชญากรร้าย ๆ ที่ไม่สามารถทำให้กลับมาเป็นเหมือนเดิมได้แล้วค่ะ) แต่ทุกคนก็พร้อมที่จะให้ความร่วมมือกับรีสในการสำรวจชั้นดาราต่อไป โดยเอสเทลเสนอตัวขอร่วมทางไปกับรีสเองค่ะ
(ตรงบทสนทนานี้ เราจะทราบว่าถึงแม้รีสจะเป็นห่วงเควินมากแค่ไหน ก็ยังเลือกที่จะสำรวจชั้นดาราต่อไป เพราะอยากทำตามความมุ่งมั่นของเควิน ที่ได้มอบ [ศิลาจตุรัส] ไว้ให้ ซึ่งเธอถือว่าเป็นหน้าที่ของอัศวินรับใช้ค่ะ)
- เลือกเพื่อนที่จะเอาเข้ากลุ่มต่อสู้ตามสะดวก จากนั้น ให้ใช้ [ศิลาจตุรัส] วาร์ปไป "ชั้นดาราที่ 4" 『第四星層』 "ที่พักลู=ลอคเคิล" 『ル=ロックル宿舎』 เพื่อไปยังชั้นดาราถัดไปได้เลยค่ะ
- เมื่อได้เอสเทลมารวมพลแล้ว ตอนนี้เราสามารถไปเคลียร์ "ประตูตะวัน②" ได้แล้วนะคะ
- แล้วถ้าอยากดูเศษเสี้ยวแห่งความทรงจำของเอสเทลและโยชัวร์เมื่อครั้งยังเด็ก ก็นำโยชัวร์เข้ากลุ่ม แล้วไปเคลียร์ "ประตูจันทรา④" ได้เลยค่ะ
☆อย่าลืมไปสำรวจที่คลังหนังสือที่ด้านใต้ของสวนแห่งนักพรตนะคะ ตรงตู้ที่ 2 จากซ้าย จะพบหนังสือ "แจ็คนักเสี่ยงโชค" 『賭博師ジャック』 ค่ะ
★หากไปคุยกับ "โจเซ็ต" ที่เฝ้าไข้เควินอยู่แถว ๆ คลังหนังสือ โจเซ็ตบอกถ้าเควินฟื้นเมื่อไหร่ เธอจะต้มข้าวต้มให้เควินเอง เอสเทลได้ฟังก็หงุดหงิดยอมไม่ได้ที่โจเซ็ตทำกับข้าวเป็น (แถมได้เรื่องด้วย) ค่ะ
(ถ้านำ "โยชัวร์" ร่วมกลุ่มมาด้วย โยชัวร์จะกระซิบบอกว่า โจเซ็ตเป็นคนที่ดูแลเรื่องงานบ้านงานเรือน หุงหาอาหารให้กับพวกสลัดอากาศ จึงเก่งเรื่องพวกนี้อย่างคาดไม่ถึง เอสเทลได้ฟังก็ได้แต่ฉุนค่ะ)
★หากคุยกับ "คลอเซ่" เธอจะบอกว่าเมื่อสักครู่คงเพราะพลังที่ส่งผลกระทบต่อจิตใจเป็นอย่างมากของ [ตราบาป] ก็เลยทำให้เควินเพ้อออกมาค่ะ
(ถ้าคุยกับ "คลอเซ่" อีกครั้ง คลอเซ่จะเล่าว่าคุย ๆ กับโจเซ็ตแล้ว ทำให้รู้ว่าโจเซ็ตเก่งในการจัดการเรื่องต่าง ๆ มาก ๆ ถ้านำ "โยชัวร์" ร่วมกลุ่มมาด้วย โยชัวร์จะรีบเห็นด้วยบอกว่าโจเซ็ตเหนือกว่าเอสเทล ทำเอาเอสเทลฉุน ประชดว่าโจเซ็ตอยู่กับครอบครัวที่มีแต่ผู้ชายมาตลอด ก็ย่อมต้องเคยชินกับการทำโน่นนี่เป็นธรรมดาอยู่แล้ว)
★หากคุยกับ "อาเนราส" เอสเทลจะเห็นอาเนราสสนิทกับรีสม๊ากมาก อาเนราสก็เลยให้เหตุผลสั้น ๆ ที่ฟังดูง่าย ๆ ว่า... "เพราะคุณรีสน่ารักยังไงล่ะ!!" เอสเทลยิ้มเจื่อน ๆ ทำใจยอมรับในความเป็นอาเนราสที่ยังคงเหมือนเดิมค่ะ
★หากคุยกับ "เจ๊เชร่า" แถว ๆ น้ำพุ เจ๊แกจะบอกว่า ตอนที่เอสเทลไม่อยู่โยชัวร์เป็นทุกข์มาก เอสเทลได้ยินก็ดีใจที่โยชัวร์เป็นห่วงเธอด้วย
(หากนำ "โยชัวร์" ร่วมกลุ่มมาด้วย โยชัวร์จะทำหน้าเขินบอกว่า "ก็.......... ตามปกติถ้าได้ยินว่าคนรักโดนจับตัวไว้ ก็ต้องรู้สึกเป็นห่วงอยู่แล้ว" เอสเทลเขิน ปฏิเสธตามสไตล์สาวซึนว่าเธอจำไม่เห็นได้ว่าโดนจับตัวไป ส่วนเจ๊เชร่ามองทั้ง 2 คนก็ทำท่าเหมือนเข้าใจอะไรบางอย่าง แล้วก็บอกว่าเท่านี้เจ๊ก็ดื่มเหล้าได้อย่างสบายใจแล้ว เอสเทลรีบขัดบอกเจ๊ว่าอย่าทึกทักคิดอะไรไปเองค่ะ)
(ถ้าคุยกับ "เจ๊เชร่า" อีกครั้ง เจ๊เชร่าจะถามเอสเทลว่า หลังจากออกเดินทางกันแล้ว ทั้ง 2 คนคืบหน้าไปถึงขั้นไหนแล้ว ทำเอาเอสเทลอายจนหน้าแดง ก่อนที่จะนิ่วหน้าบอกเจ๊ว่าอย่าเปลี่ยนไปเรื่องแบบนั้นดื้อ ๆ สิ ส่วนโยชัวร์ก็คาดไว้แล้วว่าเจ๊คงต้องถามอะไรประมาณนี้มาแน่ ๆ ค่ะ อ้อ ถ้านำ "คลอเซ่" ร่วมกลุ่มมาด้วย คลอเซ่จะหัวเราะเฝื่อน ๆ คิดในใจว่า "รู้สึกติดใจยังไงไม่รู้" นอกจากนี้ ถ้านำ "โจเซ็ต" มาด้วยก็โจเซ็ตจะไม่พอใจ บอกให้รีบ ๆ แถลงมาไว ๆ ค่ะ)

ลู=ลอคเคิล 『ル=ロックル』
- ออกไปข้างนอกที่พัก แล้วเข้าจุดวาร์ปตรงปลายสุดของหน้าผาของ ลู=ลอคเคิล เพื่อไปยังชั้นดาราถัดไปได้เลยค่ะ
(ก่อนที่จะเข้าจุดวาร์ปไป รีสจะถามเอสเทลว่ามีเหตุผลอะไรที่เสนอตัวเข้ามาช่วยเหลือเธอ ซึ่งเอสเทลก็บอกว่าที่เธอทำไป ก็เพื่อที่จะตอบแทนบุญคุณให้กับคุณเควิน ซึ่งเธอเคยรบกวนเอาไว้หลาย ๆ เรื่อง โดยเฉพาะเรื่องที่ช่วยแก้ไขปัญหาที่โยชัวร์แบกรับเอาไว้ ซึ่งพอเห็นคุณเควินในตอนนี้ เอสเทลก็พยายามคิดว่าตัวเองพอจะช่วยอะไรได้บ้าง และผลสรุปที่ได้ก็คือการช่วยเหลือคุณรีสนั่นเองค่ะ รีสได้ฟังก็ยิ่งสงสัย ว่าทำไมจะตอบแทนบุญคุณ ถึงกลายเป็นมาช่วยเหลือเธอแทนล่ะ เอสเทลบอกว่า "เพราะคุณรีสเป็นคนสำคัญของคุณเควิน" เอสเทลเห็นรีสงง ก็รีบอธิบายว่าคนสำคัญไม่ได้หมายถึงคนรัก แต่หมายถึงสิ่งที่เรียกว่าครอบครัวที่เธอสัมผัสได้จากทั้ง 2 คน รีสจึงบอกเรียบ ๆ ว่า เธอไม่ได้เจอเควินมาตลอด 5 ปี สายสัมพันธ์คงขาดไปนานแล้ว เอสเทลบอกว่าไม่ใช่ แล้วพูดขึ้นว่า "ความสัมพันธ์นั้นยิ่งนานไปยิ่งกลายเป็นสายสัมพันธ์ ซึ่งสายสัมพันธ์นั้นไม่ว่ายังไงก็ไม่มีทางขาดจากกันได้ แม้จะอยู่ห่างไกลกัน แม้จะมีฐานะต่างกัน แต่มันก็จะมีตัวตนอยู่ต่อไปด้วยรูปร่างบางอย่าง" ซึ่งนี่เป็นคำพูดของคุณลุงช่างพูดคนหนึ่ง ที่แสดงให้เห็นถึงความเป็นจริงนั่นเองค่ะ (เป็นใครคงรู้ ๆ กันอยู่แล้วนะคะ 555) แล้วเอสเทลก็บอกต่อว่า เธอเห็นคุณเควินฝากฝังให้คุณรีสรับช่วงต่อ แล้วคุณรีสก็รู้ดีว่าคุณเควินต้องการให้ทำอะไรโดยไม่ต้องบอก ซึ่งนั่นแหละค่ะ ที่เอสเทลคิดว่าเป็นสายสัมพันธ์ ถึงแม้รีสจะไม่ค่อยเข้าใจ แต่เธอก็ยอมรับเหตุผลที่ขอร่วมทางไปด้วยของคุณเอสเทลแล้วค่ะ แล้วเอสเทลก็ไม่รอด โดนรีสบอกว่าเธอเป็นพวก "ซื่อไม่ทันคน" อีกคนแล้วค่ะ)

วงกตแสง 『光の迷宮』
- ทันทีที่เข้ามาถึง "วงกตแสง" จะเกิดการต่อสู้ขึ้นค่ะ
- มุมา อวาลิส + กรีด วิดอว์ -
- 『ムマ・アバリス+グリードウィドウ』 -
**แนะนำ ให้ใส่เครื่องประดับที่ป้องกัน "นอนหลับ", "สับสน" และ "ตายคาที่" เอาไว้ค่ะ**
**หากเห็นมุมา อวาลิสร่ายอาร์ท ให้รีบสกัดกั้นซะ เพราะถ้าไม่ได้ใส่เครื่องประดับป้องกันเอาไว้ เกิดอาการ "ตายคาที่" แล้วจะหาว่าไม่เตือนค่ะ**
**เนื่องจาก ศัตรูพวกนี้แพ้คุณสมบัติอากาศ แนะนำ ให้ตัวละครสายอาร์ทใช้ "ดาร์คแมทเทอร์" ปราบจะง่ายขึ้นค่ะ**
**ปิศาจที่ชื่อนำหน้าด้วย "มุมา" มาจากคำว่า "夢魔" (มุมะ) ที่แปลว่า "มารฝัน" ค่ะ**
- ปราบได้ ให้ไปต่อได้เลยค่ะ (อย่าลืมทำสำรวจ [แผ่นหิน] เพื่อเพิ่มพลัง, ซื้อหาอาวุธเครื่องป้องกัน และผสมควอทซ์ใหม่ ๆ ด้วยนะคะ)
❤ดูรายละเอียด [ประตูดารา⑦] ได้ตรงนี้ค่ะ❤
☆ไอเทมที่พบ "เฟเซอร์บรอธ+", "EPชาร์จ II" และ "เฟลม ซิปโป้" ค่ะ☆
☆ไอเทมที่พบ "อุเงทซึซันชิน", "เซพิธ (ทุกคุณสมบัติx200)" และ "แฟนธ่อม S" ค่ะ☆
- พอเก็บไอเทมครบตามด้านบนแล้ว ให้ขึ้นไปสำรวจ [แผ่นหิน] ตรงด้านบนฉาก แล้วไปใช้จุดวาร์ป 2 ด้านที่อยู่แนวเดียวกับแผ่นหินเพื่อไปเก็บไอเทมก่อน โดยด้านตะวันตกจะวาร์ปไปเก็บ "มิราจริง" ส่วนด้านตะวันออกจะวาร์ปไปเก็บ "ลองบาเรล 3" จากนั้นค่อยกลับลงมาด้านล่าง ใช้จุดวาร์ปด้านตะวันออกเพื่อไปต่อค่ะ
- สุดทางของวงกตแสงนี้ จะได้รับ "ศิลาลงผนึก" ก้อนที่ 13 มาค่ะ

สวนแห่งนักพรต 『隠者の庭園』
- ใช้ [ศิลาจตุรัส] วาร์ปกลับมาที่ "ฐานที่มั่น" สำรวจแผ่นหินเลือกคำสั่งที่ 1 "ปลดปล่อยศิลาลงผนึก" ได้เลยค่ะ
- ในขณะที่เรากำลังปลดปล่อย [ศิลาลงผนึก] นั้น อาณาเขตที่กั้นทางไปต่อในวงกตแสงก็หายไปค่ะ
- กลับมาที่ฐานที่มั่น ทุกคนจะประหลาดใจกับบุคคลที่ออกมาจากศิลาลงผนึกก้อนนี้ ไม่ใช่ใครที่ไหนอดีตพันเอกแห่งหน่วยสืบข้อมูล "ริชาร์ด" 『リシャール』 คุณหอมหัวใหญ่ในเครื่องแบบทหารแห่งกองทัพราชอาณาจักรนั่นเองค่ะ
- ทันทีที่ ริชาร์ดตั้งสติได้ ก็ขอฟังคำอธิบายเรื่องราวต่าง ๆ จากพวกเราทุกคนค่ะ (ตอนที่ริชาร์ดแนะนำตัวกับรีส เราจะได้รู้ว่า พันเอกริชาร์ด ไปเปิดบริษัทนักสืบที่ชื่อ "R&A Reserch" ด้วยค่ะ)
- เมื่อได้ฟังเรื่องราวต่าง ๆ จากพวกเราทุกคนแล้ว ริชาร์ดก็ตั้งข้อสงสัยว่า ทำไมถึงต้องเป็นเขาที่ถูกดึงตัวเข้ามาที่นี่ด้วย เพราะเท่าที่เขาเห็นคนที่มารวมตัวกันที่นี่ล้วนแต่มีความสัมพันธ์เกี่ยวข้องกันทั้งนั้น ซึ่งตัวเขาเป็นอาชญากรที่ทำให้ลีเบร์ลต้องตกที่นั่งลำบาก ไม่น่าจะใช่คนที่คู่ควรที่จะมาอยู่ที่นี่ ทุกคนได้ฟังก็บอกไม่ให้ริชาร์ดคิดแบบนั้น เพราะในตอนที่นครหลวงวุ่นวาย ริชาร์ดเองก็ออกมาช่วย แต่ริชาร์ดก็ไม่ยอมรับ จนโอลิเวียร์ต้องยกกรณีของตัวเองขึ้นมาเป็นตัวอย่าง ว่าในตอนนั้น (ที่ประตูฮาเก้น) เขาก็ถือว่าเป็นศัตรูของเอสเทลคุงรวมทั้งลีเบร์ลด้วยเหมือนกัน แต่ริชาร์ดก็ไม่ยอมรับอีก เพราะในกรณีของโอลิเวียร์นั้น โอลิเวียร์ทำไปเพราะตั้งใจจะหยุดยั้งแผนการของกองทัพจักรวรรดิเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ซึ่งอยู่คนละสถานะกับเขา โจเซ็ตก็เลยเอาบ้าง บอกว่าถึงแม้ว่าพวกเธอจะโดนหน่วยสืบข้อมูลหลอกใช้ แต่ความเป็นสลัดอากาศก็ไม่ได้เปลี่ยนแปลงไป แล้วก็ได้รับการอภัยโทษจากองค์ราชินี ซึ่งสถานะก็ไม่ได้แตกต่างจากริชาร์ดเลยค่ะ ลุงจินบอกว่า "สิ่งที่สำคัญไม่ใช่อดีต แต่เป็นปัจจุบันและอนาคตต่างหาก" พอหลาย ๆ คนยกตัวอย่างมากล่อมเข้า ริชาร์ดก็เริ่มอ่อนลง ยอมให้ความร่วมมือกับพวกเราทุกคนด้วยความยินดีค่ะ (เอสเทลจะสงสัยนิด ๆ ว่าอาเนราสไปรู้จักพันเอกริชาร์ดได้ยังไงด้วยนะคะ ใครอยากรู้ไปดูประตูดารา⑤ได้เลยค่ะ)
ริชาร์ด "แต่...... มีเรื่องอยากจะตรวจสอบให้แน่ใจอยู่เรื่องนึง"
รีส "......อะไรหรือคะ?"
ริชาร์ด "ที่จู่พวกเราทุกคนโดนแสงสีขาวห่อหุ้มแล้วถูกส่งมาที่นี่ในเวลาไล่เลี่ยกันนั่น...... ------การแต่งตัวในช่วงนั้น ทุกคนยังเหมือนเดิมใช่หรือเปล่า?"
เอสเทล "เห......"
ยูเลีย "! จะว่าไปท่านริชาร์ด...... ทั้งที่ออกจากกองทัพไปแล้ว ทำไมถึงยังสวมเครื่องแบบของหน่วยสืบข้อมูลอยู่?"
เอสเทล "อ๊ะ......!"
มิวเลอร์ "อืมม์ อย่างนั้นเองน่ะรึ...... ถ้าให้เดา ตอนที่โดนแสงสีขาวห่อหุ้ม คุณแต่งตัวอีกแบบสินะ?"
ริชาร์ด "......ถูกต้องตามที่คาด ตอนนี้ฉันเปิดสำนักงานอยู่ที่เมืองรูอัน...... จึงไม่เคยสวมเครื่องแบบในสมัยก่อนเลยแม้แต่ครั้งเดียว แม้แต่ตอนที่โดนแสงสีขาวห่อหุ้มเอง ฉันก็สวมชุดธรรมดาอย่างเสื้อเชิ้ตกับกางเกงสแล็ค"
โยชัวร์ "เรื่องนั้น...... มันแปลกจริง ๆ ด้วยนะครับ อาจจะเป็นรูปแบบที่ไม่เคยมีมาก่อนจนถึงตอนนี้ก็ได้"
โอลิเวียร์ "เฮือก หรือว่า...... [จ้าวแห่งเงา] คุงนั่น อุตส่าห์เปลี่ยนชุดให้เพราะว่า [สำหรับพันเอกก็ต้องเครื่องแบบทหารนี่นะ] อะไรแบบนี้?"
- ทุกคนเหงื่อตกกับความคิดไม่เหมือนใครของโอลิเวียร์ เอสเทลหงุดหงิดต่อว่าว่าพูดเหมือนเป็นพวกคลั่งเครื่องแบบทหารเลย... แต่หารู้ไม่ว่าพวกสาว ๆ (ย้ำว่าสาว ๆ) ก็รู้สึกอย่างนั้นจริง ๆ ค่ะ (ไม่เว้นแม้แต่คลอเซ่... ที่แอบใจเต้นตึกตักไปกับเขาด้วย แต่หนูทีต้าน่ะ ยังไม่เข้าใจเรื่องแบบนี้ ได้แต่ยืนงงค่ะ น่ารักจริง ๆ) และถึงตอนนี้แม้จะยังไม่รู้ว่า ทำไมชุดของริชาร์ดคนเดียวที่เปลี่ยนไป แต่ก็ทำให้มีเบาะแสใหม่เพิ่มขึ้นมา ซึ่งอาจจะทำให้รู้เหตุผลว่าพวกเราทุกคนถูกส่งมาที่นี่เพื่อการใดแล้วค่ะ
※ริชาร์ดเข้ากลุ่มค่ะ※
- เลือกเพื่อนที่จะเอาเข้ากลุ่มต่อสู้ตามสะดวก จากนั้น ให้ใช้ [ศิลาจตุรัส] วาร์ปไป "ชั้นดาราที่ 5" 『第五星層』 "วงกตแสง - จุดเชื่อม" 『光の迷宮・中継地点』 เพื่อไปยังชั้นดาราถัดไปได้เลยค่ะ
★หากไปคุยกับ "ริชาร์ด" ตรงมหาพฤกษา ริชาร์ดจะขอร้องให้เอสเทลเลิกเรียกเขาว่า "พันเอก" ได้แล้ว ซึ่งเอสเทลก็นึกขึ้นมาได้ว่าริชาร์ดไม่ใช่ทหารแล้ว แต่สุดท้าย เอสเทลก็เผลอเรียกว่า "พันเอก ๆ" อยู่ดีค่ะ (ตรงนี้เราจะได้รู้จากปากของริชาร์ดด้วยว่า ตอนนี้คาโนเน่เปลี่ยนไปมาก ดูทำตัวตามสบายขึ้นเยอะ ซึ่งเอสเทลก็รู้สึกว่าแม้แต่ตัวพันเอกเอง บรรยากาศรอบ ๆ ก็เปลี่ยนไปเหมือนกันค่ะ)
★หากไปคุยกับ "ยูเลีย" ตรงมหาพฤกษา ยูเลียบอกว่าเธอได้ยินข่าวลือว่า พลจัตวาคาซิอุสมีแผนจะดึงตัวท่านริชาร์ดกลับเข้าทำงานอีกครั้งค่ะ
★หากไปคุยกับ "คลอเซ่" ตรงมหาพฤกษา คลอเซ่จะบอกว่าเธอเคยเห็นประกาศโฆษณาบริษัทของคุณริชาร์ดลงในนิตยสารเป็นกรอบเล็ก ๆ ด้วยค่ะ
★หากไปคุยกับ "โจเซ็ต" (โดยไม่มี "เจ๊เชร่า" และ "โยชัวร์" ร่วมกลุ่มต่อสู้) โจเซ็ตจะบอกให้เจ๊เชร่าอย่าเข้าใกล้โยชัวร์ เพราะหน้าอกเจ๊มันดันออกมามากเกินไปค่ะ (หึงว่างั้น?)
★หากไปคุยกับ "ทีต้า" ตรงน้ำพุ ทีต้าจะเผลอนั่งหลับ ทุกคนรู้สึกเห็นใจ เพราะทีต้าเป็นแรกที่มาถึงที่นี่ก่อนเพื่อน (ไม่นับรวมพวกเควินค่ะ) ก็เลยปล่อยให้ทีต้าหลับ (น้ำลายยืด) ต่อไปค่ะ
★ส่วน "โอลิเวียร์" ที่นั่งข้าง ๆ ทีต้า บอกว่าจะดูแลทีต้าให้เอง (ประมาณ ความสัมพันธ์ที่แสนโรแมนซ์แบบพ่อกะลูก) แล้วเขาก็เป็นประเภทเลดี้เฟิร์สด้วย เพราะงั้นไม่ต้องเป็นห่วง... แต่ไอ้ที่ไม่ต้องเป็นห่วงเนี่ยแหละค่ะ ที่ทุกคนรู้สึกกลัวและไม่ไว้ใจกระทาชายนายโอลิเวียร์นี่เอาซะเลย

วงกตเงา 『影の迷宮』
- เมื่อวาร์ปด้วยแท่นวาร์ปในสุดของวงกตแสง เราจะมาโผล่ที่ "วงกตเงา" ค่ะ
☆ไอเทมที่พบ "เซพิธ (ทุกคุณสมบัติx200)" และ "เครสชาร์ม" ค่ะ☆
☆ไอเทมที่พบ "ยาแห่งอาเซราส" และ "ลิลลี่เน็คเลส+" ค่ะ☆
☆ไอเทมที่พบ "วังลูกตาน้ำพุร้อน" ค่ะ☆
❤ดูรายละเอียด [ประตูตะวัน④] ได้ตรงนี้ค่ะ❤
- พอเก็บไอเทมครบตามด้านบนและสำรวจประตูตะวันแล้ว ให้ไปสำรวจ [แผ่นหิน] ตรงด้านล่างฉากเตรียมไว้ก่อน จากนั้นค่อยวาร์ปกลับไปที่เดิม เพื่อทำการสำรวจต่อค่ะ
☆ไอเทมที่พบ "ไพ่แห่งชะตากรรม" (ไอเทมสำหรับใช้เปิดประตูตะวัน 4 ค่ะ), "อไพรอน" และ "มูนกราส+" ค่ะ☆
☆ไอเทมที่พบ "สเตรเกอร์ O" ค่ะ☆
- สุดทางของวงกตเงานี้ เราจะพบ "ปาเทล=มาเทล" และ "ศิลาลงผนึก" ก้อนที่ 14 ค่ะ
(ตอนที่เข้าไปเก็บศิลาลงผนึกก้อนนี้ เอสเทลพูดขึ้นมาว่า "ในที่สุดก็เจอ" ด้วยค่ะ รีสเห็นก็เข้าใจได้ในทันทีว่า คนที่อยู่ในนั้นเป็นคนที่เอสเทลตามหาอยู่)

สวนแห่งนักพรต 『隠者の庭園』
- ใช้ [ศิลาจตุรัส] วาร์ปกลับมาที่ "ฐานที่มั่น" สำรวจแผ่นหินเลือกคำสั่งที่ 1 "ปลดปล่อยศิลาลงผนึก" ได้เลยค่ะ
- ในขณะที่เรากำลังปลดปล่อย [ศิลาลงผนึก] นั้น อาณาเขตที่กั้นทางไปต่อในวงกตเงาก็หายไปค่ะ
- กลับมาที่ฐานที่มั่น ร่างของสาวน้อยผู้บอบบางนอนคุดคู่อยู่อย่างน่าสงสาร "นางฟ้าแห่งการทำลายล้างเร็น" 『殲滅天使レン』 ละเมอขึ้นมาว่า "......ปาป๊า......มาม๊า...... ..........ทำไมถึง................." เอสเทล โยชัวร์ ทีต้ารู้สึกเศร้าขึ้นมาจับใจ
- เร็นตื่นขี้นขยี้ตาอย่างงัวเงียแล้วมองไปรอบ ๆ "ที่นี่......มัน......" เธอก้มหน้าลงรู้สึกผิดหวังอย่างบอกไม่ถูก "......งั้นเหรอ.........ความฝันสินะ........."
เอสเทล "เร็น......"
นางฟ้าแห่งการทำลายล้างเร็น "เอสเทล...... แล้วก็โยชัวร์...... ......ทีต้าก็ด้วย...... อุหึหึ...... เป็นความฝันที่สะดวกสบายยังไงไม่รู้เนอะ......"
เอสเทล "......เร็น......!"
- เอสเทลวิ่งเข้าไปกอดเร็น
นางฟ้าแห่งการทำลายล้างเร็น "อ๊ะ...... อุหึหึ......เอสเทลล่ะก็...... เป็นพี่แท้ ๆ ดันขี้อ้อนซะได้......"
- เร็นกอดตอบ สีหน้าดูมีความสุข
นางฟ้าแห่งการทำลายล้างเร็น "แถมยัง...... ......อบอุ่น กลิ่นก็ห๊อมหอม...... เหมือนไม่ใช่ความฝันเลย------"
- เร็นรู้สึกตัว ผลักเอสเทลออกไปทันที
นางฟ้าแห่งการทำลายล้างเร็น "อะ......!? นะ นี่มันหมายความว่ายังไงกันเนี่ย!?"
เอสเทล "เร็น......"
นางฟ้าแห่งการทำลายล้างเร็น "ทะ ทำไมเอสเทลถึงมาอยู่ในที่แบบนี่ได้!? ไม่สิ...... ไม่ใช่...... ทำไมเร็นถึงมาอยู่ในที่แปลก ๆ แบบนี้ได้!?"
เอสเทล "เร็น...... ใจเย็น ๆ แล้วฟังก่อนนะ"
- เอสเทลค่อย ๆ เดินเข้าไปหาเร็น พยายามอธิบายที่มาที่ไป แต่เร็นตะโกนบอกให้เอสเทลอย่าเข้ามาใกล้
นางฟ้าแห่งการทำลายล้างเร็น "ยะ อย่าเข้ามาใกล้นะ! ถ้าเข้ามาใกล้เกินกว่านั้น เร็นจะฆ่าเอสเทลนะ!"
- เอสเทลอึ้งไป โยชัวร์จึงบอกให้ถอยออกมา
โยชัวร์ "เร็น...... ไม่ได้เจอกันนานเลยนะ ที่ได้เจอหน้ากันจริง ๆ ก็ตั้งแต่ [แอคซิสพิลล่าร์ (หอคอยแกนกลาง] หรือเปล่านะ?"
นางฟ้าแห่งการทำลายล้างเร็น "จะ จะไปรู้เหรอ! แม้แต่โยชัวร์...... ก็ทำแบบเอสเทล! ไล่ตามเร็นไม่ยอมปล่อย......"
โยชัวร์ "รู้ตัวจริง ๆ ด้วยแฮะ อื้ม หลายเดือนที่ผ่านมานี่พวกเราตามหาเธอมาตลอด ตอนนี้อยู่ครอสเบล...... ใกล้กันพอสมควรเลยใช่รึเปล่า?"
นางฟ้าแห่งการทำลายล้างเร็น "กะ ใกล้ขนาดนั้นเลย...... ......ทำไม...... ทำไมต้องไล่ตามเร็นมาด้วยเล่า!"
โยชัวร์ "ไม่ว่ายังไงก็อยากจะคุยกับเธออีกสักครั้งน่ะ ได้ข่าวจากช่องทางที่ไม่มีใครรู้กัน...... เห็นว่าหลังจากนั้นเธอไม่ได้กลับไปที่ [องค์กร] เลยใช่มั้ย?"
นางฟ้าแห่งการทำลายล้างเร็น "นะ นั่นมันเรื่องของเร็น!? เร็นน่ะ ไม่ได้อยากจะคุย ไม่ได้อยากเจอหน้าพวกเธอเลยนะ! ทำไมถึงไม่ยอมปล่อยเร็นไปเล่า!?"
โยชัวร์ "เรื่องนั้น......"
เอสเทล "ขอโทษด้วยนะ......เร็น ก็ชั้น เป็นห่วงเร็นมาตลอดตั้งแต่ตอนนั้น...... ให้โยชัวร์ช่วยตรวจสอบให้ แล้วก็ไล่ตามหาไปหลาย ๆ ที่...... แต่ว่า...... ดีใจจริง ๆ ที่ได้เจอกันแบบนี้"
นางฟ้าแห่งการทำลายล้างเร็น "ระ...... เรื่องนั้น......"
- เร็นนิ่งไป ก่อนที่บอกขึ้นมาว่าเธอเข้าใจทุกอย่างแล้วว่า ที่เอสเทลทำก็เพราะคิดที่จะจับเธอ เร็นจึงบอกว่า "บอกไว้ก่อนนะ เร็นน่ะ รู้เรื่องของ [องค์กร] ในระดับเดียวกับโยชัวร์เท่านั้น และถึงจะรู้ ก็ไม่คิดที่จะบอกด้วย คิกคิก น่าเสียดายจังเนอะ" เอสเทลรีบปฏิเสธว่าไม่ใช่ แต่ดูเหมือนเร็นจะไม่เข้าใจ แววตาแข็งกร้าว ชักเคียวยักษ์อาวุธคู่กายออกมา หมายจะจัดการทุกคนที่คิดจะจับตัวเธอ
- "อย่างนี้นี่เอง...... ฉันรู้ตัวจริงของคุณแล้วล่ะค่ะ ผู้ดำเนินแผนการของ [องค์กร] ------ No. XV [นางฟ้าแห่งการทำลายล้าง] ใช่มั้ยคะ?" รีสที่ได้แต่ฟังมาตลอดเดินเข้าไปใกล้ ๆ เร็นด้วยสีหน้านิ่งเฉยตามสไตล์
นางฟ้าแห่งการทำลายล้างเร็น "ก็ใช่แหละ...... เพิ่งเคยเห็นหน้าพี่สาวนี่ คุณอัศวินของโบสถ์เหรอ?"
รีส "ค่ะ...... อัศวินรับใช้แห่งจอกดารา รีส อาร์เจนต์ค่ะ ฉันไม่ทราบความเป็นมาก็จริง...... แต่จะเอาแต่ใจ ก็ให้มันอยู่ในขอบเขตหน่อยได้มั้ยคะ?"
นางฟ้าแห่งการทำลายล้างเร็น "! ......อะ เอาแต่ใจ......?"
รีส "......ยิ่งฟัง ก็ยิ่งรู้ว่าคุณมีความสามารถในการดำเนินการในระดับหายาก ท่าทางองค์กรจะค้นพบความสามารถนั้น เลยได้ร่ำเรียนวิทยาการทั้งหมดมาสินะคะ ถ้าอย่างนั้น นี่ก็ไม่ใช่กับดักที่จะจับตัวคุณได้เลย ถ้าเป็นจริงก็น่าจะแก้กับดักได้ในทันทีอยู่แล้ว...... แล้วทำไมการทำตัวเกินกว่าเหตุแบบนี้ ถึงเรียกว่าเป็นการเอาแต่ใจไม่ได้ล่ะคะ"
คลอเซ่ "คะ คุณรีส......"
โจเซ็ต "พะ พูดตรงชะมัดเลยแฮะ......"
นางฟ้าแห่งการทำลายล้างเร็น "......น่าสนใจดีนี่ พี่สาว ถึงจะเป็นอัศวินจอกดาราก็เถอะ แต่แค่อัศวินรับใช้มาใช้วีธีการพูดแบบนั้นกับเร็น...... ท่าทางคงอยากจะถูกทำลายมากสินะ?"
รีส "ทางคุณต่างหาก...... ถึงจะไม่รู้ว่ามีความเป็นมาแบบไหน แต่ ฉันก็ไม่คิดที่จะทำความสนิทสนมกับ [งู] หรอก"
- รีสกล่าวยิ้ม ๆ แล้วชักดาบธรรมะออกมา สีหน้าของเธอเริ่มเย็นชา "......ถ้าทางคุณคิดแบบนั้น ฉันก็จะเป็นคู่มือให้ทุกเมื่อค่ะ"
- ทุกคนรีบห้าม
นางฟ้าแห่งการทำลายล้างเร็น "อุหึหึ ผู้ใช้ดาบธรรมะเหรอ ก่อนนี้เร็นก็เคยสู้มาไม่รู้กี่คนต่อกี่คนแล้ว ถ้าจำไม่ผิดรับมือยากพอสมควรนะ แต่ถ้าอ่านรูปแบบการต่อสู้ออก ก็ไม่ใช่คู่มือของเร็นหรอก......"
- เร็นสะบัดเคียวยักษ์ สีหน้าฉายแววของนางฟ้าแห่งทำการทำลายล้าง
นางฟ้าแห่งการทำลายล้างเร็น "......แล้วท้ายที่สุดทุกคนก็ดูไม่ได้ ร้องห่มร้องไห้ขอชีวิตจากเร็น อุหึหึ พี่สาวจะร้องด้วยเสียงแบบไหนกันน้า?"
เอสเทล "ดะ เดี๋ยวก่อน......!?"
ทีต้า "ระ เร็นจัง......!"
รีส "......พร่ำพรรณาพอแล้ว ลงมือกันเลยดีกว่ามั้ยคะ?"
นางฟ้าแห่งการทำลายล้างเร็น "คิกคิก...... นั่นสิ"
โยชัวร์ "คึ......"
เอสเทล "ทะ ทั้ง 2 คน! ทำตัวให้มัน------"
- "ทำตัวให้มันดี ๆ กันหน่อยได้มั้ย!" ทีต้าตะโกนสุดเสียง ทั้งรีสทั้งเร็นหยุดมือด้วยความตกใจ ทีต้าวิ่งเข้าไปขวางกลางคนทั้ง 2 พูดไปน้ำตาคลอเบ้าไป
ทีต้า "ทั้ง 2 คน! ทำไมต้องเป็นแบบนี้ด้วย!? ทั้งที่จริงแล้ว เร็นจังก็ดีใจที่ได้เจอกับพี่ ๆ เขา! คุณรีสเองก็เหมือนกัน ทั้งที่จริงแล้ว ก็รู้อยู่แก่ใจว่าเร็นจังไม่ใช่เด็กไม่ดี"
รีส "คุณทีต้า......"
นางฟ้าแห่งการทำลายล้างเร็น "พะ พูดอะไรน่ะ...... เร็นเนี่ยนะ ดีใจที่ได้เจอพวกเอสเทล ไม่มี------"
ทีต้า "แล้วทำไมถึงทำท่ามีความสุขที่พี่เขากอดล่ะ!? บอกว่าอบอุ่นแล้วกลิ่นก็หอม......! ทั้ง ๆ อย่างนั้น...... ทำไมต้องบอกว่าไม่อยากจะคุยบ้างล่ะ...... ......ไม่อยากเจอหน้าบ้างล่ะ......"
นางฟ้าแห่งการทำลายล้างเร็น "ดะ เดี๋ยวสิทีต้า......"
ทีต้า "อย่างนั้นน่ะ...... อย่างนั้นน่ะมันโกหกชัด ๆ เลยนี่!"
นางฟ้าแห่งการทำลายล้างเร็น "......ฮึก........."
ทีต้า "......ฮึก......... ฮึก...... ฮือ........."
- ทีต้าพยายามกลั้นน้ำตาเอาไว้ ทุกคนเห็นก็เศร้าใจตามไปด้วย ทั้งรีสและเร็นจึงวางอาวุธลง เร็นเดินเข้าไปหาทีต้า
นางฟ้าแห่งการทำลายล้างเร็น "ทีต้าล่ะก็...... เป็นพี่ของเร็นคนนึงเหมือนกันไม่ใช่เหรอ? แล้วทำไมถึงต้องเบะปากร้องไห้ขนาดนั้น...... ......เด็กจริง ๆ เลยนะ......"
ทีต้า "ฮึก...... ก็......! พวกพี่สาวกับเร็นจังอุตส่าห์ได้เจอกัน......! ก็มัน......ฮือ......ก็มันเศร้าเกินไปนี่นา......! ......ฮืออออ............ แ-----------------------------ง!"
- ทีต้าทรุดตัวลงร้องไห้ออกมาดังลั่น เร็นทรุดตัวลงตาม ทำท่าจะร้องแต่ก็ไม่ร้อง ได้แต่สงสัยว่าทำไมทีต้าต้องร้องไห้ถึงขนาดนี้ด้วย เอสเทลจึงบอกว่า ก็เพราะทีต้ารักเร็นยังไงล่ะ แล้วเอสเทลก็ขอให้เร็นสงบศึกสักพัก เพราะตอนนี้ทุกคนตกอยู่ในสถานการณ์ที่ไม่ค่อยจะสู้ดีเท่าไหร่ เร็นก็รู้สึกแบบนั้น แล้วก็ไม่อยากทำให้ทีต้าร้องไห้ด้วย ก็เลยยอมให้ความร่วมมือแต่โดยดีค่ะ
(ฟู่ เล่นเอาเหนื่อยเลยกว่าจะยอมร่วมมือ แต่เร็นก็แอบซึนเหมือนกันนะคะ ปากบอกว่าไม่ได้จะช่วย แค่รับฟังเรื่องต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นก่อนเท่านั้นแล้วค่อยตัดสินใจว่าจะช่วยหรือไม่ แต่ดูท่าทางแล้วก็อยากจะช่วยอยู่แล้วล่ะค่ะ)
- "อย่างนี้นี่เอง เนอะ พอจะเข้าใจเรื่องราวคร่าว ๆ แล้วล่ะ [แฟนตาสม่า (อาณาจักรแห่งเงา)] เหรอ...... อุหึหึ ช่างกล้าเรียกเนอะ" เร็นกล่าวยิ้ม ๆ หลังจากฟังเรื่องราวต่าง ๆ จากทุกคนแล้ว ทุกคนประหลาดใจที่เร็นพูดเหมือนวิเคราะห์อะไรบางอย่างได้
นางฟ้าแห่งการทำลายล้างเร็น "อุหึหึ ถึงจะบอกว่าเข้าใจ แต่ก็ไม่มั่นใจเท่าไหร่...... แต่ว่า พอได้ฟังเรื่องของคุณพันเอก ก็เริ่มมองอะไรออกอย่างนึงแล้วล่ะ"
ริชาร์ด "เรื่องของฉัน......?"
นางฟ้าแห่งการทำลายล้างเร็น "ใช่ ถ้าจำไม่ผิดเร็นเองก็โดนแสงสีขาวนั่นห่อหุ้มเหมือนกัน...... แต่คุณพันเอกน่ะ ชุดที่ใส่อยู่ตอนนั้นไม่ใช่เครื่องแบบทหารสีดำนั่นใช่มั้ย?"
ริชาร์ด "(ก็บอกว่าไม่ใช่พันเอกแล้ว....เฮ้อช่างเถอะ) ฮื่อ ชุดที่ใส่อยู่ตอนนั้น เป็นเสื้อเชิ้ตกับกางเกงสแล็คธรรมดาน่ะ"
นางฟ้าแห่งการทำลายล้างเร็น "อุหึหึ เท่าที่ฟัง...... คุณพันเอกน่ะ รู้สึกฝังใจกับเครื่องแบบทหารเอามาก ๆ เลยใช่เปล่า?"
ริชาร์ด "! หา......"
นางฟ้าแห่งการทำลายล้างเร็น "อุหึหึ ถูกเผงเลยสินะ ต้องตัดมันทิ้งไปทั้งที่ยังอาลัยอาวรณ์อยู่...... นั่นเป็นสัญลักษณ์ที่แสดงถึงอดีตแบบนั้นใช่มั้ยล่ะ?"
ริชาร์ด "...................................... ......อืม ถูกต้องตามนั้น"
- ทุกคนรู้สึกเศร้าใจแทนริชาร์ด
นางฟ้าแห่งการทำลายล้างเร็น "แล้วตอนที่ถูกเรียกมาที่โลกนี้ คุณพันเอกก็สวมชุดนั้นแล้วปรากฏตัวขึ้น อุหึหึ มันมีความหมายอะไรกันแน่น้า?"
ริชาร์ด "...................................... ความอาลัยอาวรณ์ได้เปลี่ยนสภาพให้กลายเป็นจริง กล่าวคือ [อาณาจักรแห่งเงา] แห่งนี้สามารถเปลี่ยนแปลงรูปแบบความคิดที่แวบขึ้นมาของมนุษย์ได้"
- ทุกคนประหลาดใจไปตาม ๆ กัน ทุกคนเข้าใจในทันที ยกเว้นแต่เอสเทลที่ไม่ค่อยเข้าใจนัก จึงขอให้เร็นอธิบายให้ฟังแบบง่าย ๆ เร็นก็เลยยกตัวอย่างที่ลูชิโอล่าเคยทำให้ให้พวกเอสเทลได้เห็นความฝันผ่าน [กอสเปล] 『ゴスペル』 มาก่อน ซึ่งนั่นก็คือ การทำโลกในความฝันให้เป็นไปตามความต้องการของคน ๆ นั้นนั่นเอง
นางฟ้าแห่งการทำลายล้างเร็น "แน่นอนว่าโลกนี้ไม่ได้เป็นความฝัน แต่ตอบสนองต่อความต้องการของคน แล้วเปลี่ยนมันให้กลายเป็นจริง...... หรือไม่ก็สร้างสถานที่ที่รู้จักให้เหมือนกับของจริงขึ้นมาอีกครั้ง...... พูดได้ว่าเป็นอะไรที่เหมือนกระบวนการแบบนั้นมาก ๆ"
จิน "อย่างนี้นี่เอง......"
อาเนราส "ถ้าอธิบายมาแบบนั้น ก็อาจจะยอมรับการทำงานของ [แผ่นหิน] หรือ [ประตู] ได้ก็ได้......."
ยูเลีย "ตะ แต่...... ฉันว่าสถานการณ์ของมันนี่ ไม่น่าจะเป็นสิ่งที่พวกเรากำลังต้องการให้เป็นอยู่เลยนะ......"
นางฟ้าแห่งการทำลายล้างเร็น "ก็คงจะเป็นอย่างนั้นแหละ แต่ถ้า...... เป็นใครบางคนนอกเหนือไปจากพวกเร็นล่ะ?"
ยูเลีย "! อ๊ะ......"
คลอเซ่ "ใครบางคนนอกเหนือไปจากพวกเรา ต้องการสภาพที่เป็นอยู่ ณ ตอนนี้ของโลกนี้ แล้วทำให้มันกลายเป็นไปตามนั้น...... สรุปว่าเป็นเช่นนั้นสินะคะ"
นางฟ้าแห่งการทำลายล้างเร็น "อุหึหึ...... ดูเหมือนจะเข้าใจกันสักทีนะ เดิมที [วงแหวนประกายแสง] 『輝く環』 เป็นสมบัติที่ทำให้ความปรารถนาของมนุษย์กลายเป็นจริง ในตอนนี้ที่มันถูกทำให้สูญสลายไป ก็มีอะไรบางอย่างที่แม้แต่เร็นเองก็ไม่รู้ทำให้มันเป็นไปได้...... แต่ [ใครบางคน] ที่ว่านั่น เกือบจะแน่ชัดอยู่แล้วนี่?"
รีส "[จ้าวแห่งเงา]......"
นางฟ้าแห่งการทำลายล้างเร็น "ใช่แล้ว แล้วคน ๆ นั้นก็ใช่ว่าจะอยู่ที่ [อาณาจักรแห่งเงา] มาตั้งแต่แรกด้วย ดูเหมือนคนที่อยู่มาตั้งแต่แรก จะเป็นคุณวิญญาณผู้หญิงนะ คุณวิญญาณคอยปกป้องคุ้มครอง [อาณาจักรแห่งเงา] อยู่ที่นี่...... แต่พอคุณ [จ้าวแห่งเงา] มา ก็เริ่มลงมือชิงพลังของเธอไปตามใจชอบ แล้ว [อาณาจักรแห่งเงา] ก็ค่อย ๆ ถูกเอามาทำใหม่ตามความต้องการของคุณ [จ้าวแห่งเงา]...... ------ก็คงประมาณนี้ล่ะมั้ง?"
- ทุกคนทึ่งไปกับพรสวรรค์และความสามารถในการวิเคราะห์และสรุปผลของเร็น แต่เร็นเห็นว่าระดับโยชัวร์ถ้าฉุกใจคิดขึ้นมา ก็น่าจะเข้าใจได้ตามนี้เหมือนเธออยู่แล้ว แต่เพราะอยู่กับเอสเทลมากเกินไป ก็เลยทำให้สมองโยชัวร์เริ่มทื่อ เอสเทลก็เลยหงุดหงิดไปตามระเบียบ ส่วนโยชัวร์, ทีต้าและเจ๊เชร่าต่างคนต่างก็หัวเราะคิกคักชอบใจค่ะ
- และแล้วพวกเราก็ได้พรรคพวกที่พึ่งพาได้เพิ่มขึ้นมาอีกคนหนึ่งค่ะ
※เร็นเข้ากลุ่มค่ะ※
- เลือกเพื่อนที่จะเอาเข้ากลุ่มต่อสู้ตามสะดวก จากนั้น ให้ใช้ [ศิลาจตุรัส] วาร์ปไป "ชั้นดาราที่ 5" 『第五星層』 "วงกตเงา - จุดเชื่อม" 『影の迷宮・中継地点』 เพื่อไปยังชั้นดาราถัดไปได้เลยค่ะ
★ในกรณีที่ไม่ได้เลือกเร็นเข้ากลุ่มต่อสู้ และไม่ได้เลือกทั้งโยชัวร์และคลอเซ่เข้ากลุ่ม (แต่เลือกคนใดคนหนึ่งได้) หากไปคุยกับ "โยชัวร์" หรือ "คลอเซ่" ที่มหาพฤกษาจะเกิดอีเวนท์พิเศษขึ้นค่ะ
(เอสเทลบอกว่าที่เธอตามหาเร็นมาตลอดตั้งแต่ออกจากลีเบร์ลไปกับโยชัวร์ เพราะมีเรื่องที่อยากจะคุยกับเร็นค่ะ แล้วพอได้เห็นเร็นที่เป็นอยู่ในตอนนี้ ก็อยากจะคอยดูแลปกป้องตลอดไปอย่างนี้ค่ะ)
★หากไปคุยกับ "ริชาร์ด" นอกจากคุณหอมหัวใหญ่จะรู้สึกถึงความอ่อนหัดของตัวเองที่ไม่สามารถตัดความอาลัยอาวรณ์ลงได้ เขายังบอกเอสเทลด้วยว่า พอได้เห็นความสามารถของเร็นที่เก่งกาจสมคำล่ำลือแล้ว ก็อยากจะให้เข้ามาทำงานบริษัทของเขาด้วยค่ะ
★หากไปคุยกับ "อาเนราส" ผู้น่ารักที่น้ำพุ พอได้ยินจากเร็นว่าอาณาจักรแห่งนี้ตอบสนองต่อความต้องการของคนที่ขอ อาเนราสก็เลยพยายามเพ่งภาวนาขอตุ๊กตาน่ารัก ๆ ให้ออกมาเยอะ ๆ อย่างตั้งใจ จนทุกคนได้แต่เหงื่อตกกับความบ้าของน่ารักของอาเนราสค่ะ
- หากนำ "เร็น" เข้ากลุ่มต่อสู้ แล้วไปยังจุดที่เราเจอ "ปาเทล=มาเทล" จะมีอีเวนท์พิเศษเกิดขึ้นค่ะ
(เร็นจะพยายามเรียก ปาเทล=มาเทล แต่ดูเหมือนว่าจะไม่มีปฏิกริยาตอบกลับมา ทุกคนก็เลยคิดว่าอุปกรณ์ออร์บเมนท์หยุดการทำงานไป แต่เร็นคิดว่าอาจจะเป็นเพราะพลังของโลกนี้ที่ทำให้มันขยับไม่ได้ค่ะ ถึงตอนนี้จะทำให้ปาเทล=มาเทลขยับตัวไม่ได้ แต่เร็นมั่นใจว่าจะทำให้มันขยับตัวได้ในภายหลัง เพราะปาเทล=มาเทลคือ "ปาป๊ากับมาม๊า" ของเร็นที่จะมาช่วยเวลาเร็นตกอยู่ในอันตรายค่ะ ทุกคนได้ฟังก็ได้แต่ทำหน้าเศร้า สงสารเร็นค่ะ)

วงกตแสง2 『光の迷宮2』
- เมื่อวาร์ปด้วยแท่นวาร์ปในวงกตเงา เราจะมาโผล่ที่ "วงกตแสง2" ค่ะ
☆ไอเทมที่พบ "ยาแห่งอาเซราส" ค่ะ☆
❤ดูรายละเอียด [ประตูดารา⑧] ได้ตรงนี้ค่ะ❤
☆ไอเทมที่พบ "กำไลอำพัน" ค่ะ☆
☆ไอเทมที่พบ "จาร์ดีโน่" และ "3000 มิร่า" ค่ะ☆
☆ไอเทมที่พบ "เซพิธ (ทุกคุณสมบัติx200)" ค่ะ☆
- สำรวจ [แผ่นหิน] เตรียมตัวให้เรียบร้อย แล้วบุกเข้าไปด้านในได้เลยค่ะ
- ตรงปลายสุดทางเดินในวงกตแสงนี้มีวงเวทย์เคลื่อนย้ายอยู่ ในขณะที่เอสเทลจะเข้าไปสำรวจดู รีสห้ามเอาไว้พร้อมกับบอกว่าเธอได้กลิ่นของนรกแรงขึ้นเรื่อย ๆ ทันใดนั้นก็ปรากฏร่างของปิศาจแมงมุมยักษ์ 3 ตัวห้อยหัวลงมาจู่โจมใส่เราจากด้านบน
รีส "เหล่าผู้ปั่นด้ายแห่งฝันร้าย 3 สาวพี่น้องผู้น่าสะพรึงกลัวที่คอยกัดกินวิญญาณที่หลงเข้ามาในวงกต ผู้รับใช้ของมารร้ายทั้ง 77 ตนที่ถูกบันทึกลงในพระคัมภีร์ อาราคเน่ [ผู้ตะกละตะกลาม] 『《暴食》のアルケイニー』 !"
- อาราคเน่ [ผู้ตะกละตะกลาม] -
- 『《暴食》のアルケイニー』 -
**บอสตัวนี้เป็นบอสที่ยากที่สุดของช่วงต้นเกม ถ้าเตรียมตัวไม่ดีจะหินเอามาก ๆ ค่ะ**
**แนะนำ ให้ใส่เครื่องประดับที่ป้องกัน "ตายคาที่", "เป็นหิน" และ "พิษ" เอาไว้ จะทำให้ง่ายขึ้นค่ะ**
**แนะนำ ให้ปราบ "ฮิดเด้น" และแมงมุมตัวอื่น ๆ นอกจาก "เอพรอส" ก่อนค่ะ เพราะถ้าเราปราบเอพรอสปุ๊บ มันจะเรียก "ซิกม่า" แม่ของพวกมันออกมาทันที**
**ตัวละครสายอาร์ท แนะนำ ให้ใช้อาร์ทคุณสมบัติอากาศอย่าง "ดาร์คแมทเทอร์" ปราบ จะง่ายขึ้นค่ะ**
▼อาราคเน่ เกรียอา (พี่ใหญ่) 『アルケニー・グライア』
HP 19900 / ดิน100, น้ำ100, ไฟ100, ลม100, เวลา100, อากาศ120, มายา100
เนตรปิศาจ 『邪眼』 = 1 คน + ทำให้ "เป็นหิน" & AT delay
เบลดเน็ต 『ブレードネット』 = 1 คน + MOV down & ยกเลิกการร่ายอาร์ทและการชาร์จคราฟท์

▼อาราคเน่ เอพรอส (พี่รอง) 『アルケニー・エプロス』
HP 19900 / ดิน100, น้ำ100, ไฟ100, ลม100, เวลา100, อากาศ120, มายา100
เบลดเน็ต 『ブレードネット』 = 1 คน + MOV down & ยกเลิกการร่ายอาร์ทและการชาร์จคราฟท์

- เนื่องจาก แมงมุมพี่สาวคนรองตัวนี้ใช้อาร์ทสนับสนุนอย่าง "เทียร์รอล" เพิ่มเลือดให้ตัวอื่น และใช้อาร์ทโจมตีอย่าง "ดาร์คแมทเทอร์" โจมตีใส่เราได้ ดังนั้น ถ้าเห็นมันร่ายอาร์ทเมื่อไหร่ ให้รีบสะกัดกั้นทันที และจำไว้ว่า เจ้าตัวนี้ต้องปราบเป็นตัวสุดท้ายค่ะ

▼อาราคเน่ ธาไลอา (น้องเล็ก) 『アルケニー・タレイア』
HP 19900 / ดิน100, น้ำ100, ไฟ100, ลม100, เวลา100, อากาศ120, มายา100
ห่าฝูงอันอุบาวท์ 『邪悪な群れ』 = 1 คน + STR & DEF & SPD down
เบลดเน็ต 『ブレードネット』 = 1 คน + MOV down & ยกเลิกการร่ายอาร์ทและการชาร์จคราฟท์

▼อาราคเน่ ซิกม่า (แม่ของทั้ง 3 ตัว) 『アルケニー・シグマ』
HP 27280 / ดิน100, น้ำ100, ไฟ100, ลม100, เวลา100, อากาศ120, มายา100
สูบจิตศักดิ์สิทธิ์คุบริเอ 『吸聖クブリエ』 = 1 คน + ดูด HP & ทำให้ติด "ตายคาที่"
เนตรปิศาจ 『邪眼』 = อาณาเขตปานกลาง + ทำให้ติด "เป็นหิน" & AT delay
พอยซั่น บอมบ์ 『ポイズンボム』 = อาณาเขตปานกลาง + ทำให้ติด "พิษ"
เบลดเน็ต 『ブレードネット』 = อาณาเขตปานกลาง + MOV down & ยกเลิกการร่ายอาร์ทและการชาร์จคราฟท์

- ท่าต่าง ๆ ของซิกม่านั้น เหมือนกับลูก ๆ ของมันแทบทุกอย่าง เพียงแต่ท่าจะมีการพาวเวอร์อัฟขึ้นมาหน่อย (รุนแรงขึ้น + กินอาณาเขต) แนะนำ พยายามอย่ากระจุกอยู่ที่ใดที่หนึ่ง ให้กระจาย ๆ กันเข้าโจมตี และให้ตัวละครสายอาร์ท เน้นการใช้อาร์ทคุณสมบัติอากาศไปเรื่อย ๆ จะปราบได้โดยง่ายค่ะ

▽ฮิดเด้น *2 『ヒドゥン*2』
HP 7074 / ดิน100, น้ำ100, ไฟ100, ลม100, เวลา100, อากาศ120, มายา100

- การโจมตีปกติของฮิดเด้น ทำให้เราติด "พิษ" ได้ ถ้าใส่เครื่องประดับป้องกันพิษเอาไว้ก่อนก็ได้ จะง่ายขึ้นค่ะ
- ปราบได้ พวกเราจะถึงกับทรุดลง เพราะความแข็งแกร่งของแมงมุมตัวสุดท้ายที่เป็นแม่ของแมงมุมพี่น้องทั้ง 3 ตัวค่ะ
- ทันใดนั้น ศิลาส่องประกายสีเงินเรืองรองก็ปรากฏขึ้น ณ เบื้องหน้าของทุกคน ได้รับ "ศิลาลงผนึก" ก้อนสุดท้าย ซึ่งให้ความรู้สึกแตกต่างไปจากก้อนอื่น ๆ ค่ะ (รีสบอกว่า ศิลาก้อนนี้ให้ความรู้สึกเย็นสบายบริสุทธิ์ผุดผ่องราวกับเทพธิดา ซึ่งต่างจากก้อนอื่น ๆ ที่ให้ความรู้สึกอบอุ่นส่องประกายค่ะ)
- "คึคึ...... เฉียบแหลมเหมือนเคยเลยนะ" เสียงชายหนุ่มดังขึ้น ร่างของ "อัศวินนิลกาฬ" ปรากฏตัวขึ้นหลังจากวงเวทย์สีแดงเลือนหายไป
รีส "อัศวินนิลกาฬ...... ไม่คิดที่จะเปลี่ยนนิสัยในการปรากฏตัวเลยสินะคะ"
อัศวินนิลกาฬ "หึหึ บาทหลวงนั่นยังหมดสติไม่รู้สึกตัวอยู่สินะ แต่ไม่คิดเลยว่ามีเพียง [นักล่านอกรีต] เท่านั้นที่ใช้พลังของ [ตราบาป] ได้ คึคึ...... แต่มันช่างว่างเปล่า ดูไม่ได้เอาซะเลย"
รีส ".........อึก.................."
อัศวินนิลกาฬ "นึกว่ากว่าจะมาถึงที่นี่ได้ ต้องใช้เวลามากกว่านี้อีกสักนิด...... แต่ดูเหมือนหมากตัวสุดท้าย จะอยู่เหนือมาตรฐานไปหน่อยนะ"
◆ในกรณีที่นำ "เร็น" ร่วมกลุ่มต่อสู้มาด้วย จะมีบทสนทนาพิเศษ ซึ่งเร็นจะถามว่า "หมากตัวสุดท้ายที่ว่า หมายถึงเร็นใช่มั้ย" อัศวินนิลกาฬก็บอกว่าเพราะหมากตัวนั้น ทำให้การปรากฏตัวของเขาเลื่อนขึ้นมาเร็วกว่ากำหนด พร้อมทั้งชมว่า สมกับที่เป็น ผู้จัด [งานเลี้ยงน้ำชา] จริง ๆ เร็นก็เลยสวนไปว่าอัศวินนิลกาฬรู้มาไม่ใช่น้อยค่ะ
อัศวินนิลกาฬ "เอาล่ะ...... มาเข้าเรื่องเลยดีกว่า นึกซะว่าศิลาก้อนนั้น เป็นรางวัลให้แก่พวกแกที่ได้หมากทั้งหมดมาไว้ในมือก็แล้วกัน ไอ้ที่ถูกผนึกอยู่ไม่ใช่หมาก แต่เป็นบางอย่างที่เทียบได้กับหนังสืออธิบายกฎเกณฑ์ล่ะมั้ง"
เอสเทล "หนังสืออธิบายกฎเกณฑ์......"
รีส "สิ่งที่รวบรวมความรู้กับหนังสือสัญญาสำหรับเดินเกมต่อไปข้างหน้า...... แสดงว่าในที่สุดก็คิดที่เผชิญหน้ากันอย่างยุติธรรมและตรงไปตรงมาแล้วสินะคะ"
อัศวินนิลกาฬ "หึหึ นั่นก็แล้วแต่พวกแก ถ้าให้พูดขึ้นมาสักคำ...... ก็คงจะเป็น กระดานหมากต่อไป พวกแกทุกคนจะต้องเผชิญหน้ากับ [บททดสอบ] ล่ะมั้ง"
- อัศวินนิลกาฬร่ายวงเวทย์เคลื่อนย้ายเตรียมจากไปเช่นเคย ก่อนไปเขาก็ทิ้งท้ายไว้ว่า [บททดสอบ] ที่ว่าเป็น [บททดสอบ] อันหลากหลายที่มีทั้งหนักและเบา ซึ่ง 1 ใน [บททดสอบ (อุปสรรค)] นั้นก็รวมถึงตัวเขาด้วย และเขาก็จะรอดูว่าพวกเราจะสามารถก้าวข้ามบททดสอบเหล่านั้นไปได้หรือไม่ พูดจบร่างของเขาก็หายวับไปทันที ทิ้งปริศนาให้พวกเราได้ครุ่นคิดอีกเช่นเคยค่ะ

สวนแห่งนักพรต 『隠者の庭園』
- รีสก้าวออกไปด้านหน้า [แผ่นหิน] ปลดปล่อย [ศิลาลงผนึก] สีเงิน ซึ่งแสงที่ส่องออกมาช่างแตกต่างจากทุกอันที่เคยเจอ คลอเซ่เองพอเห็นแสงนั่นแล้ว ก็รู้สึกโหยหา คิดถึงสถานที่ที่หนึ่งขึ้นมาอย่างประหลาด
"หึหึ...... ก็ย่อมจะเป็นเช่นนั้นกระมังคะ"
- เสียงหญิงสาวที่แสนคุ้นเคยดังขึ้น ร่างโปร่งแสงสีเงิน (ฟ้า?) เย็นตาปรากฏตัวต่อหน้าทุกคน
- "------ในที่สุดก็สามารถพูดคุยกันได้โดยตรงสักทีนะคะ หึหึ...... ไม่รู้ว่ากี่ร้อยกว่าปีแล้วกระมัง?" วิญญาณหญิงสาวเอ่ยขึ้น
ยูเลีย "อะ องค์หญิง...... ไม่สิ......"
คลอเซ่ "......หรือว่า...... คุณคือ........."
- "หึหึ...... ยินดีที่ได้รู้จักลูกหลานของเรา แล้วก็ยินดีที่ได้รู้จัก เหล่าอาคันตุกะผู้มาเยี่ยมเยือนสวนของเรา ------นามของเราคือเซเลสต์       เซเลสต์ ดี อาวส์เลเซ่ 『セレスト・D・アウスレーゼ』"
- จบฉากที่ 5 ค่ะ




Related entries:
Sora no Kiseki the3rd (空の軌跡the3rd)


No comments:

Post a Comment