Saturday, November 18, 2017

[บทสรุป] Sora no Kiseki the3rd - ประตูจันทรา 4 เช้าแห่งการออกเดินทาง

ประตูจันทรา④ 『月の扉④』
เช้าแห่งการออกเดินทาง 『旅立ちの朝』
Walkthrough Chart
สถานที่ ป่าแซงท์โครว่า ปริศนา เจ้า จงพาเด็กสาวผู้เป็นเจ้าของประกายแห่งแสงอาทิตย์
พร้อมทั้งเด็กหนุ่มข้างกายผู้คอยสนับสนุนประกายนั่นมาหาข้า

หากทำได้ [ประตู] จะเปิดออก
คำตอบ เอสเทล,
โยชัวร์
โบนัส ความทรงจำ 『記憶』
(ควอทซ์)
มิร่า 8000

-เมื่อเข้าประตูไป จะได้ดูเศษเสี้ยวแห่งความทรงจำค่ะ


- บทเพลง "ที่ที่ดาวคงอยู่" จากเสียงฮาร์โมนิก้าที่เป่าแบบกระท่อนกระแท่นล่องลอยไปตามสายลม

------The First Week. (สัปดาห์แรก)

- เสียงเดินเป็นจังหวะก้าวยาว ๆ ใกล้เข้ามาเรื่อย ๆ "ไง สวัสดี" เสียงหนึ่งกล่าวทักทายพร้อม ๆ กับเสียงประตูที่เปิดออกและเสียงฮาร์โมนิก้าที่ขาดหายไป
เสียง "......ไม่ต้องระแวงถึงขนาดนั้นก็ได้ ฉันคือผู้ใช้มนตรา
จะรักษาหัวใจของเธอให้เอง
เพียงแต่............ จะขอรับสิ่งตอบแทนไปด้วยนะ?"

บ้านตระกูลไบรท์ 『ブライト家』
- "เอสเทล" 『エステル』 เด็กสาวตัวจิ๋ว (บ้า) พลังเกินพิกัดในวัย 11 ขวบเห็น "โยชัวร์" 『ヨシュア』 เด็กชายเจ้าของดวงตาสีทองผมสีดำขลับที่พ่อของเธอแบกกลับบ้านมาเป็นของฝาก (!?) ละเมอเพ้อออกมาด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ พอลองจับตัวดูก็พบว่าตัวโยชัวร์ร้อนจี๋ เอสเทลจึงลนลานออกจากห้องไปหาผ้าเช็ดตัวแล้วก็น้ำแข็ง ขณะนั้นเองเด็กชายก็ลืมตาตื่นขึ้น สีหน้าของเขาฉายแววแห่งความเศร้าและเจ็บปวด เรียกหาพี่สาวของเขาด้วยเสียงรวยริน

"ในตอนนั้น ในหัวผมได้ยินแต่คำพูดเดิม ๆ ซ้ำไปซ้ำมาราวกับแผ่นเสียงตกร่อง
เพียงแต่ว่าผม [ไม่รู้จัก] เสียงนั้น
สิ่งที่ผมรู้จักมีเพียง............"

- "............ในตอนนั้น ผม......" ใต้ต้นไม้ใหญ่ในสวนหลังบ้าน เด็กหนุ่มนั่งครุ่นคิดถึงเรื่องในอดีตอยู่เพียงลำพัง
- "เอ๋ ไม่อยู่แฮะ...... เป็นคนเจ็บแท้ ๆ ริอาจไปเถลไถลตามใจได้ไง~!" เสียงหนึ่งที่แสนสดใสดังขึ้น
- "โยชัวร์~! หายไปไหนแล้วอ่ะ~! โยชัวร์ก็~!" เอสเทลเดินออกมาที่สวนหลังบ้าน เหลียวซ้ายแลขวามองหาโยชัวร์
เอสเทล "อ๊ะ โยชัวร์! มาอยู่ที่นี่เอง ยังหักโหมไม่ได้นะ!"
- เอสเทลตีหน้าเข้มเดินเข้าไปหาโยชัวร์
โยชัวร์ ".................................... ............ไม่เป็นไรแล้ว"
เอสเทล "เอ๋............ จริงอ่ะ? ......ไข้ลดแล้วเหรอ?"
โยชัวร์ "......ไข้พิษบาดแผล พอเช้าก็ลดแล้ว"
เอสเทล "งั้นเหรอ............ เฮ้ออ~ ดีจังเลยย...... ก็โยชัวร์ละเมอน่ากลัวมากเลยอ่ะ แวบนึงเค้านึกว่าจะเกิดอะไรขึ้นซะอีก"
โยชัวร์ ".................................... ......ผม...... พูดอะไรออกไปบ้าง?"
เอสเทล "............เห......?"
โยชัวร์ "......เปล่า ไม่มีอะไร ...................................."
- โยชัวร์ตัดบทดื้อ ๆ
- เอสเทลสบโอกาส กระโดด (พรวดเดียว!!?) ขึ้นไปบนเนินที่โยชัวร์นั่งอยู่ "งั้น............ ถ้าไข้ลดลงแล้ว ก็ไปเล่นด้วยกันเอาป่ะ เอาแต่นอนมาตลอดอย่างเดียว คงจะเบื่อแย่เลยใช่เปล่า?" เธอเอ่ยปากชวนด้วยรอยยิ้มที่แสนสดใสราวกับดวงตะวัน ส่วนโยชัวร์ได้แต่หันมามองเอสเทลอย่างไม่เข้าใจ
เอสเทล "อื้มอื้ม เข้าใจเข้าใจ เค้าเองตอนเป็นไข้ก็เบื่อแทบตายแน่ะ อ๊ะ แต่โยชัวร์เป็นแผลที่ขานี่นา คงยังวิ่งไม่ได้สินะ...... เอ...... งั้นก็เล่นเตะกระป๋องกะเล่นไล่จับไม่ได้อ่ะสิ......"
โยชัวร์ ".................................... ถ้าอยากเล่น ก็ไปเล่นคนเดียวสิ อย่ามาอยู่ใกล้ผมดีกว่า ......เพราะอีกไม่นานที่นี่ก็คงจะตกอยู่ในอันตราย"
เอสเทล "เห...............?"
โยชัวร์ "ขอบคุณที่ช่วยดูแลรักษา แต่รบกวนมามากเกินพอแล้ว ......ช่วยบอกคาซิอุส ไบรท์ตามนั้นด้วย"
- เอสเทลมองหน้าโยชัวร์เหรอหรา ก่อนที่จะส่งเสียงดังดุโยชัวร์ด้วยสำนวนพูดแบบผู้ชายว่า "เฮ้ย อย่ามาทำหน้าแบบนั้นนะ!" โยชัวร์ตกใจหันมามองเอสเทลที่พูดต่ออย่างสดใสว่า "ในตอนที่ไม่ร่าเริง ก็ต้องทำในสิ่งที่ชอบสิถึงจะดีที่สุด ดีล่ะ รอแป๊บนะ เดี๋ยวเค้าจะไปเอาของดี ๆ มา!" ว่าแล้วก็วิ่งไปอย่างแรงดีไม่มีตก
(ป.ล. เอสเทลในวัยเด็กจะใช้ภาษาผู้ชายบ้างเป็นบางครั้งนะคะ เข้าใจว่าคงติดมาจากป๋าน่ะค่ะ แต่โชคดีที่ไม่ติดไปจนโตเนอะ เพราะลำพังแค่นิสัยตรงไปตรงมา ห้าว ๆ ถึก ๆ กะงานอดิเรกส่วนตัวอย่างสะสมรองเท้าผ้าใบ ตกปลา จับแมลง ก็แมนเกินร้อยแล้วค่าาาา 555+)
- "(ยังไม่ได้กลิ่นอายของพวกที่ไล่ตามมา กว่าจะหาที่นี่เจอ อย่างมากก็ราว ๆ 2 - 3 วัน...... เหลืออีก 3 วัน............)" โยชัวร์หลับตาลงจับกลิ่นอายและวิเคราะห์ความเคลื่อนไหวของคนขององค์กร
- "โยชัวร์~......!" เอสเทลวิ่งกลับมาอย่างสดใส พลางหยิบอะไรบางอย่างออกมา
เอสเทล "เอ้า เค้าให้ ทำตัวให้ร่าเริงเข้าล่ะ!"
- เอสเทลหยิบเอา "พิลบั๊ค" (แมลงเปลือกแข็งชนิดหนึ่ง ลำตัวเป็นปล้อง ๆ มีขาเล็ก ๆ หลายขา รูปร่างคล้ายกิ้งกือ ภาษาญี่ปุ่นใช้คำว่า "ดังโกะมุชิ" 『団子虫』 ค่ะ) ขึ้นมาโชว์ โยชัวร์นิ่งเหลือบมองเอสเทลด้วยหางตา
โยชัวร์ "(............ไม่เข้าใจ ทำเพื่ออะไร......)"
เอสเทล "ไง น่ารักใช่ม้า? ถ้าเอานิ้วไปจิ้ม มันจะม้วนตัวด้วยล่ะ!"
โยชัวร์ "......ไม่เอา"
เอสเทล "เอ๊ะ ทำไมอ่ะ? ออกจะน่ารักขนาดนี้~!"
โยชัวร์ "ก็บอกว่าไม่เอาของพรรค์นั้นไง แล้วก็ ไม่ต้องมาที่นี่อีกแล้วนะ"
เอสเทล "ง่ะ ไม่ชอบแมลงตัวนี้หรอกเหรอ......"
โยชัวร์ "............เปล่า ไม่ใช่อย่างงั้น......"
เอสเทล "งั้นรอแป๊บนะ เดี๋ยวเค้าไปเอากล่องใส่แมลงมา!"
- โยชัวร์มองตามเอสเทลที่วิ่งออกไปอย่างเริงร่าด้วยความฉงนสงสัย ไม่นานเกินรอ (มีใครรอด้วยเรอะนั่น?) เอสเทลก็วิ่งกลับมา
- "โยชัวร์ งั้นนี่ล่ะเป็นไง!! [โอนิยัมม่า] !" เอสเทลโชว์ "โอนิยัมม่า" (แมลงปอยักษ์ขนาดใหญ่ที่สุดในโลก มีถิ่นกำเนิดในญี่ปุ่น) ให้โยชัวร์ดู และหวังว่าโยชัวร์จะต้องตื่นตาตื่นใจกับแมลงขนาดยักษ์ใหญ่ตัวนี้เช่นเดียวกับที่เธอชอบ
โยชัวร์ "ก็บอกว่าไม่เอายังไงล่ะ......."
- "งั้นก็ตัวนี้! ถ้าเป็นเจ้านี่น่าจะเวิร์คสุด ๆ! ต้องถูกใจแน่ ๆ !!" เอสเทลไม่ยอมแพ้ "ตะกวดมัลก้า!!"
โยชัวร์ "...................................."
เอสเทล "เจ้านี่ก็ไม่ชอบเหรอ!!"
โยชัวร์ "......นี่ ผมไม่ได้หมายความว่าผมสนใจไม่สนใจแมลงตัวนั้นหรือตัวนี้แบบนั้น......"
เอสเทล "ฮึ้ยยย............! ทั้ง ๆ ที่เจ้านี่เป็นตัวที่เค้าถูกใจแท้ ๆ~!!"
โยชัวร์ "(......ยังไงกันนะ เด็กคนนี้......? เอาแต่ทำสิ่งที่ไม่เข้าใจว่าทำไปเพื่ออะไรมาตั้งแต่เมื่อกี๊แล้ว......)"
เอสเทล "......โยชัวร์ นั่งที่นี่แป๊บนึงนะ"
โยชัวร์ "............ก็นั่งอยู่แล้ว......"
เอสเทล "โยชัวร์...... ชอบแมลงแบบไหนเหรอ? ชอบตัวใหญ่ ๆ!? ชอบตัวสวย ๆ!? ชอบแบบขาเยอะ ๆ!? ชอบแบบหนวดยาว ๆ!? กระดอง? ปีก? หรือเท้าเป็นพังผืด!?"
- เอสเทลถามโยชัวร์เป็นชุดด้วยเสียงดังสดใสตามสไตล์ แต่โยชัวร์กลับนิ่งเงียบตีสีหน้าเย็นชาใส่
โยชัวร์ ".................................... ............ไม่เอาแมลง"
เอสเทล "แป่ววววว!!"
- เอสเทลหน้าเหวอผิดหวังอย่างแรง แต่มีหรือที่คนอย่างเอสเทลจะยอมแพ้
เอสเทล "อือออ อย่างงั้น............ ถ้าไม่มีเจ้าตัวที่พอจะทำให้ตกกะใจได้ก็ไม่เอางั้นเหรอ...... ......ดีล่ะ รอก่อนนะ เค้าจะไปเอามาให้เอง!"
- ว่าแล้วเอสเทลก็วิ่งออกไปข้างนอก โยชัวร์มองตามแบบงง ๆ ".................................... ......เด็กคนนั้น ชอบแมลงจริง ๆ เหรอเนี่ย?"
ทางหลวงเอรีซ 『エリーズ街道』
- เอสเทลวิ่งไล่จับแมลง (สัตว์ปิศาจมิใช่หรือน่ะ?) พลางบ่นเสียดายที่แมลงหน้าตาแปลก ๆ หลุดรอดเงื้อมมือไปได้ แต่เพราะตอนนี้โยชัวร์ยังขยับตัวไม่ค่อยได้ แถมยังทำหน้าซังกะตายไม่มีความสุขอีกตะหาก เพราะงั้นเอสเทลจึงไม่ยอมตัดใจที่จะจับแมลงกลับไปทำให้โยชัวร์ร่าเริงขึ้นให้ได้ค่ะ
บ้านตระกูลไบรท์ 『ブライト家』
- กลับมาที่บ้านตระกูลไบรท์อีกครั้ง โยชัวร์ยังคงนั่งอยู่ใต้ต้นไม้ สำหรับเขาที่เคยผ่านเส้นแบ่งความเป็นความตายมาไม่รู้กี่ครั้ง เมื่อได้สัมผัสกับความสงบเงียบแบบนี้เป็นครั้งแรกก็รู้สึกจิตใจสงบขึ้นอย่างประหลาด
- "โยชัวร์~!!" เสียงสดใสดังขึ้นทำลายบรรยากาศที่เงียบสงบลงไปทันที เอสเทลวิ่งเข้ามาหาโยชัวร์อย่างเริงร่าพลางเอาแมลงที่จับมาได้ ยื่นให้เขาดู
(แน่นอนว่าโยชัวร์ต้องหน้าบึ้งใส่เอสเทลแล้วก็ย้ำอีกครั้งว่าไม่เอา แต่เอสเทลก็ช่างดื้อดึงมากมาย พยายามทำให้โยชัวร์สนใจให้ได้ โดยบอกว่าเธอตั้งชื่อแมลงที่จับมาได้ตามลวดลายของปีกว่า "ตัวมอธหน้าคนต๊กกะใจ" โยชัวร์สงสัยจึงจ้องแมลงที่จับมาอย่างสนอกสนใจ สมใจเอสเทลเขาล่ะค่ะ)
เอสเทล "อ๊ะฮ่าฮ่า! ตกกะใจเลยใช่เปล่า~!"
โยชัวร์ "............เปล่าสักหน่อย"
เอสเทล "อื้ม ๆ ค่อยคุ้มค่ากับที่พี่สาวพยายามหน่อย~☆ ดีล่ะ ตัวต่อไปจะเอาให้ยอดเยี่ยมกว่านี้อีก! เฮี๊ยะโฮ่---!"
- เอสเทลวิ่งออกไปนอกบ้านอีกครั้ง (สรุป คุณเธอไม่ได้ฟังสิ่งที่โยชัวร์พูดเลยสักกะติ๊ดนิด ๆ)
- นานกว่าเมื่อกี๊นิดหน่อย เอสเทลวิ่งกลับมาพร้อม ๆ กับฝูงแมลงฝูงใหญ่ แล้วก็คว้าตัวโยชัวร์ที่ไม่ทันตั้งตัวกระโดดลงสระน้ำ (คนเจ็บนะนั่น) หนีฝูงแมลงที่บินตามมาค่ะ
(ขนาดโยชัวร์ดุเสียงดัง เอสเทลยังไม่สลด หัวเราะร่า กวักน้ำใส่โยชัวร์อย่างสนุกสนาน แล้วก็เปลี่ยนเป้าหมายไปเป็นการตกปลาไว้เป็นวัตถุดิบมื้อกลางวันซะงั้นน่ะค่ะ)
- "สำเร็จได้ตัวเบ้อเฮิ่มเลย! ตัวนี้ให้โยชัวร์นะ!" หลังขึ้นจากน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเรียบร้อย เอสเทลก็มานั่งตกปลาอย่างมีความสุข
โยชัวร์ "ส่วนของผม...... ผมไม่เอา"
เอสเทล "ต่อไปก็ตกส่วนของเค้า ถ้าตกไม่ได้ก็ไม่ได้กินข้าวกลางวัน!!"
- โยชัวร์อึ้ง หน้าของเขาตอนนี้มีเครื่องประดับเป็นคิ้วผูกโบว์ พลางถอนหายใจอย่างเหนื่อยหน่าย "(เฮ้อ......... ไม่ได้ฟังที่คนอื่นเขาพูดเลยจริง ๆ นะเนี่ย......)"
- แล้วเอสเทลก็ตกได้อีกตัว แต่ดันตกได้คาซากิงปลาตัวเล็กจิ๋ว ก็เลยเปลี่ยนเป็นเอาตัวนี้ให้ป๋าเกเรที่ชอบหนีเที่ยวแทนเพื่อเป็นการทำโทษค่ะ
- โยชัวร์ได้ยินก็สะดุดใจ "(หรือว่าเด็กคนนี้ ไม่รู้เรื่องของคาซิอุส ไบรท์งั้นเหรอ............ ไม่ได้บอกอะไรให้ลูกสาวฟัง ก็สมกับที่เป็นเขาอยู่หรอกแต่ว่า......)" เขาหันไปมองเอสเทลที่ไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไร และกำลังเจ็บใจเพราะปลาหนีไปได้
(เมื่อเห็นความสดใสของเอสเทล ทำให้โยชัวร์รู้สึกถึงอะไรบางอย่าง เขามองไปรอบตัวแล้วรู้สึกว่าบรรยากาศของสถานที่แห่งนี้ ช่างสดใส นกร้องขับขาน ต้นไม้ร่มรื่นถึงขนาดทำให้รู้สึกแสบตาขึ้นมาเลยทีเดียวค่ะ และแล้วปลาสำหรับอาหารกลางวันตัวที่เอสเทลตกได้อีกครั้ง ก็ตัวเล็กสุด ๆ ยิ่งกว่าตัวก่อนอีกค่ะ)



------The Second Week. (สัปดาห์ที่สอง)

บ้านตระกูลไบรท์ 『ブライト家』
- "เอลิซซ่า" 『エリッサ』 และ "ทีโอ" 『ティオ』 2 สาวเพื่อนสนิทของเอสเทล มาหาเอสเทลที่บ้านด้วยความเป็นห่วง เพราะนึกสงสัยว่าเอสเทลเป็นอะไรไปทำไมไม่โผล่หน้ามาให้เห็นเลยตั้งหลายวัน ทั้ง ๆ ที่ปกติจะต้องมาเล่นที่ร้านของเอลิซซ่าทุกวันแท้ ๆ
(เอลิซซ่าเป็นห่วงเอสเทลมากถึงขนาดจะร้องไห้เชียวนะคะ เพราะทีโอแกล้งสมมติว่า นิสัยแบบเอสเทลน่ะ ถ้าจะหายไปก็น่าจะเป็นเพราะเข้าป่าไปแล้วโดนพวกสัตว์ปิศาจเล่นงานจนตาย มากกว่าที่จะโดนจับตัวไปเรียกค่าไถ่ค่ะ จะว่าไป ทีโอก็คิดอะไรโหด ๆ สมกับที่เป็นเพื่อนเอสเทลเหมือนกันนะคะ 555+)
- "......ถ้าเอสเทลล่ะก็ออกไปข้างนอกน่ะ" เสียงเด็กชายดังขึ้น เด็กสาวทั้ง 2 สงสัยจึงเดินไปดูต้นเสียงที่สวนหลังบ้าน แล้วก็ต้องตกใจเมื่อเห็นเด็กชายแปลกหน้า
- เอสเทลกลับมาที่บ้านหลังจากออกไปจับแมลงแปลก ๆ มาได้ แล้วก็ต้องประหลาดใจเมื่อเห็นเพื่อน 2 คนของเธอกำลังรุมล้อมโยชัวร์อยู่ เมื่อเห็นเอสเทลกลับมา 2 สาวก็ยิงคำถามใส่เอสเทล ว่าเด็กผู้ชายคนนี้เป็นใคร ถามอะไรไปก็ไม่ตอบ บอกแต่ว่า "ไม่จำเป็นต้องตอบ"
โยชัวร์ "..................เอสเทล 2 คนนี้เป็นเพื่อนของเธอเหรอ?"
เอสเทล "เอ๊ะ อื้ม ก็ใช่แหล่ะ...............?"
โยชัวร์ "(พวกเจ้าตัวเองก็พูดตรงกัน ......แล้วยังมีแต่ช่องโหว่ เหมือนไม่ได้รับการฝึกฝนอะไรมา นึกว่าถึงเวลาที่เจ้าพวกนั้นดมกลิ่นหาตัวเจอแล้วซะอีก...... แต่ดูเหมือน 2 คนนี้จะไม่ใช่สินะ......)"
ทีโอ "เป็นแบบนี้มาตั้งแต่เมื่อกี๊แล้วเนี่ย แล้วก็ไม่เคยเห็นหน้าที่รอเลนซ์มาก่อนด้วย...... เอสเทล รู้จักเด็กคนนี้สินะ"
เอสเทล "อ๋อ รู้สิ ก็โยชัวร์น่ะ จริง ๆ แล้วเป็น............ น้องชายของเค้าเอง!!"
- ทุกคนได้ยินก็ตกใจไปตาม ๆ กัน (โดยเฉพาะโยชัวร์อ่ะนะ) ทีโอสงสัยเค้นถามว่าทำไมจู่ ๆ เอสเทลถึงได้มีน้องชายกะเขาได้ ในขณะที่เอลิซซ่าเชื่อสิ่งที่เอสเทลบอกง่าย ๆ ซะงั้นน่ะค่ะ
(เอสเทลบอกว่าเป็นเรื่องจริง แต่โยชัวร์ปฏิเสธเสียงแข็ง (แน่นอนอยู่แล้ว) และเดินหนีออกไปจากตรงนั้นโดยไม่สนใจคำสั่งของเอสเทล (ที่ทึกทักว่าตัวเองเป็นพี่สาวไปเรียบร้อยโรงเรียนแมลงแล้ว) แม้แต่น้อย)
โยชัวร์ "......คนอย่างเธอน่ะเหรอ คงไม่มีทางเป็นแบบพี่ได้หรอก"
เอสเทล "เอ๋............?"
โยชัวร์ "ผมไม่ได้คิดที่จะสนิทสนมกับพวกเธออยู่แล้ว ที่ผมอยู่ที่นี่ก็เพราะ...... ตามที่คาซิอุส ไบรท์บอกไว้ล่ะมั้ง ...... [เลยตามเลย] ยังไงล่ะ"
เอสเทล "........................................."
โยชัวร์ "แล้วก็...... เลิกเอาแมลงมาให้สักทีได้มั้ย ผมไม่รู้หรอกว่าเธอคิดอะไรอยู่ แต่ถ้ายุ่งเรื่องของคนอื่นมากไป จะเจ็บตัวเอาได้นะ"
- พูดจบโยชัวร์ก็เดินจากไปอย่างไม่ไยดี เอสเทลอดรนทนไม่ไหวกระโดดถีบ (!?) ทุบตีโยชัวร์ด้วยความโมโห
เอสเทล "ที่บ้านหลังนี้ เค้าอยู่มาก่อน! เค้าก็ต้องเป็นพี่สาวสิ!"
โยชัวร์ "จะ เจ็บนะ......"
- เอสเทลดึงคอเสื้อโยชัวร์ขึ้น (โหดร้ายยยยยย)
เอสเทล "ไง เค้าเป็นพี่สาวใช่มั้ย? เค้า - เป็น - พี่ - สาว เอ้า พูดสิ!"
โยชัวร์ "......มะ ......ไม่"
เอสเทล "ว่าไงน้า~!!"
- เอสเทลจับโยชัวร์เหวี่ยงไปรอบ ๆ (คนเจ็บเน้ออออ) ในขณะที่เอลิซซ่ากับทีโอเห็นท่าทางของเอสเทลกับโยชัวร์แล้ว รู้สึกว่าทั้ง 2 คนสนิทกันจริง ๆ เลยนะเนี่ย (จริงอ่ะ!) โยชัวร์หันไปบอกให้ทั้ง 2 เงียบ เลยเผลอเปิดช่องโหว่ให้เอสเทลเป็นฝ่ายทะเลาะชนะ แล้วบอกว่าตั้งแต่วันนี้ไปเธอคือพี่สาวค่ะ
- ความมืดโรยตัว เอสเทลนั่งบนเก้าอี้เฝ้าโยชัวร์จนตัวเองผลอยหลับไป โยชัวร์ทำท่ารำคาญก็จริง แต่ก็อุ้มเอสเทลขึ้นไปนอนที่เตียง ส่วนเขาก็เดินออกจากห้องไปค่ะ
(ถึงโยชัวร์จะทำเป็นไม่ใส่ใจ หรือบ่นนู่นบ่นนี่ว่าเอสเทลชอบยุ่งเรื่องของคนอื่นบ้างล่ะ ชอบมานั่งเฝ้าแบบนี้ทุกคืนบ้างล่ะ แต่เขาก็ยังเผยให้เห็นความอ่อนโยนลึก ๆ ภายใต้สีหน้าที่เย็นชาบ้างเหมือนกันนะคะเนี่ย)
- "............โยชัวร์" เสียงของชายคนหนึ่งเรียกโยชัวร์ที่เดินออกมานอกบ้าน ที่แท้ก็คือ "ป๋าคาซิอุส" 『カシウス』 ที่กำลังนั่งดื่มบรั่นดีอยู่คนเดียวนั่นเอง
คาซิอุส "ออกมานอนข้างนอกอีกแล้วงั้นรึ?"
โยชัวร์ "........................................."
คาซิอุส "ว่าแล้วเชียว รังเกียจที่จะนอนห้องเดียวกับเอสเทลใช่มั้ย"
- โยชัวร์เดินเข้ามาใกล้ ๆ คาซิอุส
โยชัวร์ "......เด็กคนนั้นยุ่งเรื่องของคนอื่นมากเกินไป แล้วก็ไม่ได้รู้เรื่องรู้ราวอะไร ไม่รู้แม้แต่เรื่องที่ตัวเองกำลังทำในสิ่งที่อันตรายแค่ไหนด้วย......"
- โยชัวร์แสดงสีหน้าเศร้าแวบนึง ในยามที่พูดถึงสิ่งที่เอสเทลทำให้เขา ก่อนที่จะแสดงสีหน้าโกรธขึงใส่คาซิอุส
โยชัวร์ "คาซิอุส ไบรท์ คุณควรจะบอกเธอไม่ใช่เหรอ ......ทำไมถึงไม่พูดอะไรเลยล่ะ!"
คาซิอุส "......ห้องข้าง ๆ ห้องเอสเทลน่ะ ตอนนี้ใช้เป็นห้องเก็บของ...... แต่จะเก็บกวาดแล้วเอาไปใช้ก็ได้นะ ถ้าจำไม่ผิดน่าจะยังมีเตียงอยู่"
โยชัวร์ "............รู้สึกเกรงใจจริง แต่มันไม่จำเป็นสำหรับผมหรอก"
คาซิอุส "อืม............ คงเพราะยัยเอสเทลชอบยื่นมือเข้าไปสอดซะทุกเรื่องสินะ ถ้าจากมุมมองของนาย คงจะมองว่าก็แค่เด็กธรรมดา ๆ คนหนึ่งที่ไร้เดียงสา ไม่รู้ไม่เข้าใจอะไรสักอย่าง แต่ว่านะโยชัวร์...... ......คนที่ไม่รู้ไม่เข้าใจอะไรเลยน่ะ คือนายเองไม่ใช่รึ?"
โยชัวร์ "...........................!!"
คาซิอุส "อย่างน้อยเด็กคนนั้น ก็รู้ว่าตัวเองต้องการอะไรและต้องทำอะไร รู้และเข้าใจในแบบของเด็กคนนั้นเอง เพราะนั่นคงเป็นสิ่งจำเป็นต่อเด็กคนนั้น ......แต่ก็นะ ในฐานะคนเป็นพ่อแล้ว ก็อยากจะเลี้ยงดูให้สมกับเป็นเด็กผู้หญิงกว่านี้อีกนิดอยู่หรอก......"
- โยชัวร์ได้แต่นิ่งเงียบ
คาซิอุส "ดังนั้นโยชัวร์...... เทียบกับนายที่เอาแต่เบือนหน้าหนีแม้แต่สิ่งที่ตัวเองต้องการหรือแม้แต่สิ่งที่ตัวเองต้องทำแล้ว......... คิดว่าใครกันแน่ที่เป็นฝ่ายที่ถูกต้อง?"
โยชัวร์ "......ผม.................."
คาซิอุส "......บอกไว้ก่อนนะว่า ชั้นไม่คิดที่จะคอยเอาอกเอาใจนาย จะไม่พูดว่าไปซะหรืออยู่ที่นี่เถอะ จากนี้ไปนายจะไปที่ไหน อยากจะทำอะไร...... แล้วอยากจะมีชีวิตแบบไหนก็ตัดสินใจด้วยตัวของนายเอง เพราะว่ามัน...... เป็นเรื่องที่ยังไม่มีใครรู้"
โยชัวร์ "........................................... ......ผม น่ะ............... (ผมน่ะ...... จริง ๆ แล้ว......?)"



------Several Weeks Later. (หลายสัปดาห์ให้หลัง)

และแล้วก็ช่วงเวลาที่แสนสุขสงบก็ผ่านไปหลายสัปดาห์......
แผลของโยชัวร์เริ่มหาย และกลับมาเดินเหินได้แล้ว
เอสเทลกระโดดโลดเต้นด้วยความดีใจ พาโยชัวร์วิ่งเล่นไปทางตะวันตกบ้างตะวันออกบ้าง
แต่เมื่อกลับมาขยับตัวได้บ้างแล้วเช่นนี้ ก็หมายถึงว่าต้องคิดหาคำตอบให้ได้นั่นเอง
เวลาที่ต้องตัดสินใจเลือกได้มาถึงแล้ว......

ทางหลวงมิลฮี 『ミルヒ街道』
- เช้าที่อากาศแสนจะสดใส เอสเทลพาโยชัวร์มาตรงหน้าทางเข้าสู่ "ไร่เพอเซล" ตรง "ทางหลวงมิลฮี" ด้านใต้
- "เพอเซล............ เด็กคนผมสั้น ๆ คนนั้นน่ะเหรอ" โยชัวร์เอ่ยขึ้น
เอสเทล "อื้ม บ้านไร่หลังนี้ เป็นบ้านของทีโอเองแหล่ะ~ บ้านทีโออ่ะนะ เมื่อไม่นานมานี้...... เพิ่งจะมีทารกฝาแฝดเกิดมาล่ะ!"
โยชัวร์ "......รู้แล้วน่ะ ก็เธอโหวกเหวกไปทั่วเลยไม่ใช่รึไง แล้วก็เคยมาดูที่นี่ตั้งหลายครั้งแล้วด้วย ยังมีอะไรให้ตื่นเต้นอีกล่ะ?"
เอสเทล "ไม่นะ ไม่เหมือนกัน วันนี้ทั้งวัน เราจะมาเป็นลูกมือที่นี่ยังไงล่ะ!"
โยชัวร์ "?"
เอสเทล "เห็นว่าช่วงนี้ได้เวลาเก็บเกี่ยวพอดี แต่ว่าป้าฮันนายังขยับตัวไม่ค่อยไหว เพราะงั้นก็ต้องลำบากกว่าที่เคยใช่เปล่า? คุยกับเอลิซซ่าแล้วตกลงกันว่า จะมาเป็นลูกมือกันยังไงล่า"
โยชัวร์ "......เป็นการอุทิศตนที่น่ายกย่องไม่เลวนะแต่ว่า...... ทำไมถึงต้องลากผมมาด้วยล่ะ......"
เอสเทล "อย่างมาอ้างโน่นอ้างนี่นะ! เอ้า ไปกันได้แล้ว!"
- เอสเทลคว้ามือโยชัวร์หมับ บังคับให้เขาไปช่วยงานด้วย ปากก็บอกโยชัวร์ว่า "นี่ก็เป็นการ [กาตะพาบบำบัด] ไง [กาตะพาบบำบัด] !" โยชัวร์ได้ยินก็ถอนหายใจบอกแบบเซ็ง ๆ ว่า "ถ้าอยากจะพูดคำนั้นน่ะ ต้องพูดว่า [กายภาพบำบัด] ต่างหาก......"
ไร่เพอเซล 『パーゼル農園』
- ที่ไร่เพอเซล "เอลิซซ่า" มารออยู่แล้ว โดยมี "ทีโอ" กับ "ลุงฟรันซ์" 『フランツ』 รอต้อนรับอยู่ สักพัก "ป้าฮันนา" 『ハンナ』 ก็อุ้มน้องฝาแฝดของทีโอ "วิล" 『ウィル』 แฝดชายกับ "เชล" 『チェル』 แฝดหญิงออกมา
(ป้าฮันนาเห็นโยชัวร์พันแผลอยู่ก็สงสัยว่าโยชัวร์จะช่วยงานไหวหรือเปล่า แต่โยชัวร์บอกว่าแผลเกือบหายดีแล้ว ไม่มีผลกระทบกับงานแน่นอนค่ะ แต่ถึงโยชัวร์จะบอกอย่างนั้น ตอนแบ่งงานกัน ป้าฮันนาก็ให้งานเบา ๆ กับโยชัวร์ไปทำอยู่ดี งานเบา ๆ ที่ว่านั้นก็คือ ให้ดูแลน้อง ๆ ฝาแฝดนั่นเองค่ะ)
- เมื่อทุกคนแยกย้ายกันไปทำงานในส่วนของตนแล้ว โยชัวร์ที่แยกตัวมานั่งเลี้ยงเด็กแฝดอยู่ใต้ต้นไม้อีกฝั่ง ก็คิดถึงเรื่องที่ว่าทำไมผ่านไปหลายสัปดาห์แล้ว ยังไม่เห็นวี่แววของคนที่ไล่ตามมาเลย ทั้ง ๆ ที่ตามจริงแล้วน่าจะได้เวลาที่พวกนั้นต้องบุกมาทำลายสถานที่ที่เขาพักอยู่แท้ ๆ หรือว่าพวกนั้นจะไม่ได้สนใจในตัวเขาอีกแล้ว แต่ถ้าเป็นแบบนั้นทำไมพวกนั้นถึงไม่ลบความทรงจำของเขาทิ้งไปด้วยล่ะ แต่ถึงแม้จะรู้สึกว่ายังไม่โดนลบความทรงจำไป โยชัวร์ก็รู้สึกว่ามีอะไรบางอย่างที่สำคัญที่หายไปจากใจของเขา ไม่ว่าจะนึกยังไงก็นึกไม่ออกสักทีค่ะ
- ในขณะที่โยชัวร์กำลังตกอยู่ในความสับสน เสียงนึงที่สดใสก็ร้องเรียกชื่อของเขา ปลุกให้ตื่นขึ้นจากภวังค์ที่มืดมิด ณ เบื้องหน้านั้นก็คือ เอสเทลที่กำลังยื่นแครอทหัวใหญ่ ๆ มาให้โยชัวร์ดูนั่นเอง
เอสเทล "ไงล่า ยอดไปเลยใช่ม้า อันนี้เค้าเป็นคนเก็บมากับมือเลยนะ! ส่วนนี่เป็นมะเขือล่ะ...... ♪ .........วิ้งวับจับจิตไปเลย!"
โยชัวร์ "...................... ............นี่......"
เอสเทล "หืมม์? มีไรเหรอ??"
โยชัวร์ "................................"
- "เฮ้อ..............." โยชัวร์ถอนหายใจเฮือกใหญ่ ท่าทีอ่อนโยนของเขาในตอนนี้กลบความเย็นชาที่เก๊กใส่เอสเทลมาตลอด
โยชัวร์ "......เอสเทล หัวเข่าถลอกอยู่น่ะ"
เอสเทล "เห............?"
โยชัวร์ "ก็เธอน่ะเอาแต่ตั้งหน้าตั้งตาจะวิ่งอย่างเดียวไม่คิดหน้าคิดหลังอยู่เรื่อย...... ไหน เอาเข่ามาดูหน่อยสิ"
- โยชัวร์เผยให้เห็นรอยยิ้มอันอ่อนโยนเป็นครั้งแรก เขาวางเด็กฝาแฝดลง และหันมาทำแผลให้เอสเทลอย่างอ่อนโยน (แต่เอสเทลแสบแผลจนร้องจ๊าก)
โยชัวร์ "เรื่องแค่นี้ต้องอดทนสิ (เฮ้อ มีแต่แผลอยู่เรื่อย ก็รู้สึกกังวลมาตั้งแต่เมื่อก่อนอยู่หรอกว่า ไม่กลัวเป็นบาดทะยักเลยรึไงนะ?)"
เอสเทล "??? โยชัวร์?"
โยชัวร์ "......อย่าสร้างความยุ่งยากให้คนอื่นมากนักสิ......"
เอสเทล "หือ~............ เค้าก็ไม่ได้ขอให้ทำแผลให้สักหน่อยนี่นา!"
โยชัวร์ "แต่ถึงยังไงก็สร้างความยุ่งยากให้คนอื่นอยู่ดี ไม่ใช่แค่ทำแผลให้ตัวเองไม่ได้เท่านั้น ยังระวังตัวเองไม่ได้อีกต่างหาก เห็นเมื่อไหร่ก็รู้สึกไม่ปลอดภัยเอาซะเลย มันช่วยไม่ได้......"
- พูด (ดุ?) จบโยชัวร์ก็ตั้งอกตั้งใจทำแผลต่อไป ส่วนเอสเทลก็สงสัยว่าทำไมจู่ ๆ โยชัวร์ถึง...... แต่ดูเหมือนโยชัวร์จะไม่ได้ฟัง เพราะมัวแต่ห่วงแผลที่หลังมือของเอสเทลอีกแห่ง เอสเทลร้องจ๊ากอีกครั้ง แล้วก็ชักสีหน้าไม่พอใจบอกโยชัวร์ว่าให้บอกเธอก่อนที่จะทำแผลได้มั้ย แต่โยชัวร์ไม่สนใจทำแผลต่อไปเรื่อย ๆ อย่างเบามือ
- "เอ้า เสร็จแล้ว ต่อไปก็พยายามอย่าให้บาดเจ็บล่ะ......" โยชัวร์ตีหน้าเคร่งแนะเอสเทลให้ระวังตัว
- ขณะนั้นเอง ฝาแฝดก็ร้องไห้จ้า เอสเทลลนลานทำอะไรไม่ถูก แต่โยชัวร์กลับอุ้มเด็กขึ้นมาอย่างทะมัดทะแมง แล้วกล่อมจนหยุดร้องไห้อย่างช่ำชอง เอสเทลเห็นก็ทึ่งที่โยชัวร์ทำให้เด็กหยุดร้องได้ (โยชัวร์ = คุณแม่?) จากนั้นโยชัวร์จึงบอกให้เอสเทลรีบกลับไปทำงานค่ะ
- "......ขอบคุณ งั้นเหรอ............" โยชัวร์ทวนคำขอบคุณของเอสเทลด้วยสีหน้าเศร้าสร้อย ครุ่นคิดต่ออย่างเงียบงันแล้วก็วางวิลกับเชลลง แล้วหยิบฮาร์โมนิก้าขึ้นมาเป่า
- บทเพลง "ที่ที่ดาวคงอยู่" ที่เขาบรรเลงช่างเข้ากับบรรยากาศในยามอาทิตย์อัสดงของไร่เพอเซลในขณะนี้เหลือเกิน
(เอสเทลไม่พอใจมาก ๆ เลยนะคะ ที่โยชัวร์เป็นแค่น้องชายแท้ ๆ แต่ไม่ยอมบอกเธอสักคำว่าเป่าฮาร์โมนิก้าเป็น ไม่พอใจขนาดไหนน่ะเหรอ ก็ขนาดที่ตะโกนออกมาว่า "แก่แดดชะมัด! เจ้าบ้าโยชัวร์!!" จนเพื่อน ๆ 2 สาวเหงื่อตกไปตาม ๆ กันเลยล่ะค่ะ)
- แต่จู่ ๆ ทุกอย่างก็มืดมิดลง ฉับพลันเสียงที่โยชัวร์ได้ยินซ้ำไปซ้ำมาในห้วงความคิดของเขาดังขึ้นอีกครั้ง

เสียง "ไง สวัสดี
......ไม่ต้องระแวงถึงขนาดนั้นก็ได้ ฉันคือผู้ใช้มนตรา
จะรักษาหัวใจของเธอให้เอง
เพียงแต่............ จะขอรับสิ่งตอบแทนไปด้วยนะ?"

"..................ในที่สุดก็เข้าใจ
ว่าผมได้จ่ายค่าตอบแทนไปแล้ว
ด้วยสิ่งสำคัญ ด้วยช่วงเวลาที่มีความสุข......
รวมทั้งทุกสิ่งทุกอย่างที่ทำให้ผมเป็นตัวเป็นตนขึ้นมา......
ผมคือตุ๊กตา......
คือเศษเสี้ยวบิดเบี้ยวที่ผุพัง
มีตัวตนอยู่เพื่อทำลายสิ่งสำคัญของใครสักคน
............ต้องไป
ผมจะต้องทำลายโลกใบนี้อย่างแน่นอน
ถ้าเป็นสิ่งสำคัญแล้วล่ะก็
อย่าไปอยู่ใกล้เพียงเอื้อมมือจะดีกว่า
ต้องไปให้ไกล
ไปในที่ที่มือนี้เอื้อมไปไม่ถึง
ก่อนที่ผม............
ก่อนที่ความมืดมิดของผมจะทำให้สถานที่แห่งนี้ต้องแปดเปื้อน
.........ต้องไป
ก่อนที่ตัวตนของผมจะสร้างบาดแผลให้กับเธอ------..."



วันต่อมา------

เมืองรอเลนซ์ 『ロレント市』
- เอสเทลถือสวิงจับแมลงคู่ชีพ วิ่งเข้าไปในเมืองรอเลนซ์ ดูเหมือนว่าวันนี้เธอจะมีแผนในการอะไรบางอย่าง ซึ่งเป้าหมายของแผนการในวันนี้ก็คือ "แมลงในตำนาน" นั่นเองค่ะ
(และจากการที่เอสเทลได้พูดคุยกับ "ป้าสเตล่า" 『ステラ』 ที่ออกมาจ๊ะเอ๋เอสเทลหน้าร้านขายอาวุธของสามีเธอโดยบังเอิญ ก็ทำให้ทราบว่าวันนี้เอสเทลจะทำน้ำหวานล่อให้แมลงมาติดกับค่ะ แต่ดูเหมือนป้าสเตล่าจะไม่ชอบใจเลยที่เอสเทลทำตัวไม่สมกับเป็นผู้หญิงแม้แต่นิด ทั้ง ๆ ที่อายุก็ปาเข้าไป 11 ขวบแล้วอย่างน้อยก็น่าจะแต่งตัวให้สมหญิงหน่อยก็ยังดี แต่เอสเทลเถียงว่าชุดพวกนั้นทำให้เคลื่อนไหวลำบาก ว่าแล้วก็วิ่งหนีป้าสเตล่าไปเฉย ๆ ซะงั้น)
- เอาล่ะ เมื่อรู้แผนการวันนี้ของเอสเทลแล้ว ก็ต้องไปหาวัตถุดิบในการทำน้ำหวานกันล่ะค่ะ โดยเราสามารถเลือกว่าจะไปที่ไหนก่อนก็ได้นะคะ คำสั่งก็ตามนี้เลยค่ะ (ถ้าเลือกไปที่ (1) หรือ (2) ก่อน เราจะไม่สามารถดูเหตุการณ์พิเศษที่ (3) ได้นะคะ)
(1) ก่อนอื่นก็ไปหาเอลิซซ่าก่อน
- เอสเทลจะไปขอแบ่ง "ดราก้อนบีนส์" เมล็ดที่ใช้ในการชงกาแฟจากเอลิซซ่าที่ "บาร์อาเบนด์" ค่ะ
(เอลิซซ่าจะรู้สึกว่า เหมือนโยชัวร์มีเรื่องทุกข์ใจอะไรบางอย่าง อยากจะให้เอสเทลลองคุยกับเขาดู ซึ่งเอสเทลก็รู้อยู่แล้วว่าโยชัวร์น่ะต้องมีเรื่องไม่สบายใจอะไรอยู่แน่ ๆ เพราะบางทีเธอก็เห็นโยชัวร์ทำหน้าเจ็บปวด แต่เธอรู้ตัวว่าตัวเองในตอนนี้ยังเป็นกำลังให้เขาไม่ได้ เพราะงั้นสิ่งที่จะทำให้โยชัวร์ได้ในตอนนี้ คือการมอบความสดใสร่าเริงให้เขาค่ะ)
(2) ต่อไปก็ไปหาทีโอ
- เอสเทลจะไปขอแบ่ง "นมสดใหม่" กับ "ไข่ไก่ออกใหม่" จากทีโอที่ "ไร่เพอเซล" ค่ะ
(ทีโอจะแนะเอสเทลว่า ถ้าคิดที่จะให้โยชัวร์เป็นน้องชายจริง ๆ ล่ะก็ ก็ควรจะคุยกันให้เข้าใจ ไม่ว่าจะเป็นอดีตของเอสเทล หรืออดีตของโยชัวร์ และอย่างน้อยทีโอก็อยากให้โยชัวร์ได้รับรู้ว่าคุณเรน่า แม่ของเอสเทลเคยอาศัยอยู่ที่บ้านหลังนั้นมาก่อน แต่เอสเทลบอกกับทีโอด้วยรอยยิ้มที่สดใสว่า ถ้าหากได้อยู่ด้วยกันไปเรื่อย ๆ เธอคิดว่าอีกหน่อยต่างฝ่ายก็จะรับรู้และเข้าใจได้ด้วยตัวเอง โดยไม่ต้องถามหรือบอกอะไรก็ได้ เพราะว่ายังไง ๆ โยชัวร์ก็เป็นครอบครัวที่แสนสำคัญของเธอนั่นเองค่ะ ซึ่งทีโอได้ฟัง ก็ไม่รบเร้าเอสเทลอีก เพราะเธอก็ชอบนิสัยมองโลกในแง่ดีของเอสเทลแบบนี้ และแน่นอนว่ายังคงคอยเอาใจช่วยเอสเทลอยู่ห่าง ๆ ค่ะ)
(3) เพื่อความชัวร์ ไปตรวจดูรองเท้าผ้าใบรุ่นใหม่ก่อนดีกว่า
- เอสเทลจะแวบไปที่ "ร้านสารพัดอย่างรินอน" เพื่อไปเช็กรองเท้าผ้าใบรุ่นใหม่ค่ะ
(แต่น่าเสียดายที่รองเท้ารุ่นใหม่ยังไม่มา รินอนบอกว่ากว่าของจะเข้าก็ตั้งวันที่ 16 อีกตั้งอาทิตย์นึงแน่ะ เอสเทลเสียดายจับจิต พอป้าสเตล่าที่มาซื้อของชำที่นี่เจอเอสเทลอีกครั้ง ก็บอกว่าป้าเจอเสื้อสวย ๆ เหมาะกับเอสเทลพอดี ทำให้เอสเทลลืมไปซะสนิทว่าเธอกำลังจะไปจับแมลงนี่นา)
- เมื่อได้วัตถุดิบครบแล้ว เอสเทลก็เตรียมตัวมุ่งหน้าไปยัง "มิสต์วอลท์" แต่เมื่อเธอผ่านหอนาฬิกา ก็หยุดยืนมอง และตัดสินใจแวะที่นี่ด้วยสีหน้าเศร้า ๆ ค่ะ (แน่นอนว่าเอสเทลยังไม่กล้าพอที่จะขึ้นไปบนนั้นค่ะ)
- ในตอนนั้น "นายกเทศมนตรีคลาอุส" 『クラウス市長』 ก็ผ่านมาแถวนั้นพอดีค่ะ
(นายกเทศมนตรีผู้แสนใจดีทักทายเอสเทล พร้อมกับบอกว่าเพิ่งซ่อมแซมหอนาฬิกาเสร็จไปเมื่อเดือนที่แล้ว โดยเกณฑ์ชาวเมืองมาช่วยกันซ่อมให้เหมือนก่อนที่จะพังไปให้มากที่สุดค่ะ ซึ่งเอสเทลก็พอรู้อยู่แล้ว แต่ตัวเธอก็จำไม่ค่อยได้หรอกว่าก่อนนี้หอนาฬิกาหน้าตาเป็นอย่างไร คลาอุสรู้ความรู้สึกของเอสเทลดี จึงบอกว่าว่านาน ๆ ทุกครั้งที่เขามองดูหอนาฬิกานี้จะรู้สึกร่าเริงขึ้นมา ซึ่งไม่เพียงแต่เขาแต่ชาวเมืองทุกคนก็คงจะรู้สึกเหมือนกัน เพราะหอนาฬิกานี้เป็นสิ่งสำคัญสำหรับชาวเมืองทุกคนค่ะ)
มิสต์วอลท์ 『ミストヴァルト』
- เมื่อมาถึง "มิสต์วอลท์" ป่าหมอกที่ขึ้นชื่อว่าเป็นป่าที่สุดแสนจะอันตราย เอสเทลก็ลงมือหาต้นไม้เหมาะ ๆ ทา ๆ ป้าย ๆ น้ำหวานที่เธอเตรียมมาทันที แล้วก็เดินไปอีกฝั่งเพื่อซุ่มตัวรอเหยื่อมาติดกับ แต่เอสเทลไม่ได้รู้ตัวเลยว่า มีเงาขนาดใหญ่ ค่อย ๆ ตะคุ่มเข้ามาทางด้านหลังของเธอ
บ้านตระกูลไบรท์ 『ブライト家』
- ตัดมาที่บ้านตระกูลไบรท์ โยชัวร์วางจดหมายลาลงบนโต๊ะในห้องของป๋าคาซิอุส "......ขอบคุณที่ช่วยดูแลนะครับ" สีหน้าของเขาช่างเศร้าสร้อยเหลือเกิน
- ในขณะกำลังจะจากไปโยชัวร์ได้ยินเสียงหนึ่งร้องว๊ากมาแต่ไกล ซึ่งเสียงนั้นต้องเป็นเสียงของเอสเทลไม่ผิดแน่ ตอนแรกโยชัวร์สับสนที่จะไปช่วย พยายามคิดว่าเอสเทลอาจจะแค่วิ่งหกล้มก็ได้ เพราะถึงยังไงตอนนี้ก็ไม่เกี่ยวข้องอะไรกับเขาแล้ว...... แต่สุดท้ายโยชัวร์ก็ตัดสินใจเลือกที่จะไปช่วยเอสเทลค่ะ
(เอ่อ เพิ่งเคยเห็นนางเอกร้องว๊ากก็คราวนี้แหล่ะค่ะ ไม่เหลือภาพลักษณ์นางเอกเลยนะหนูเอสเทล)
มิสต์วอลท์ 『ミストヴァルト』
- ฝูงสัตว์ปิศาจหลายตัวกำลังเข้าล้อมเอสเทล
เอสเทล "เจ้านี่เป็นของเค้า! เค้าไม่ให้หรอกนะ! นะ นี่แน่ะ!! ไปทางโน้นไป๊ ชิ่ว ๆ!"
- แต่ดูเหมือนว่าจะไม่เป็นผล สัตว์ปิศาจใกล้ถึงตัวเอสเทลแล้ว เอสเทลหมดทางหนีได้แต่หลับตาปี๋หันหลังให้ ในขณะที่เธอนึกว่าตัวเองคงจะไม่รอดแล้ว โยชัวร์ก็เข้ามาช่วยเธอทันเวลาพอดี
- "มาหลบข้างหลังผมเร็ว" สิ้นเสียงเด็กหนุ่มใช้คราฟท์ "เนตรมาร" ทำให้พวกสัตว์ปิศาจล่าถอยไปจนหมด
เด็กหนุ่ม "(ฟู่................... สภาพร่างกายในตอนนี้ก็คงทำได้เท่านี้ล่ะนะ......)"
เอสเทล "? เอ๊ะ หนีไปแล้ว...... อะ เอ่อ...... ............โยชัวร์.......?"
- โยชัวร์เก็บดาบคู่ของเขาลง หันมาตวาดเอสเทลดังลั่น "ทำอะไรอยู่ห๊ะ เธอน่ะ!!"
โยชัวร์ "เข้ามาในป่าลึกขนาดนี้ แถมยังโดนสัตว์ปิศาจเข้าโจมตีอีก...... เป็นเด็กเป็นเล็กอย่าทำอะไรอันตราย ๆ ได้มั้ย! ......ปกติเธอก็ไม่ค่อยยั้งคิด จะทำอะไรก็ควรจะดูสถานการณ์รอบตัวให้มากกว่านี้แล้วค่อยลงมือทำสิ! ถ้าไม่อย่างนั้นล่ะก็......!"
- โยชัวร์ตวาดเอสเทลด้วยความเป็นห่วง
เอสเทล "โยชัวร์............. เหะเหะ พอดีเลย"
โยชัวร์ "......ไม่ดีสักหน่อย! ถ้าหากผมไม่มา ป่านนี้ก็คง............!!"
เอสเทล "เอ้า ดูนี่สิ!"
- เอสเทลไม่สลด พลางโชว์ด้วงยักษ์สีสันสดใสให้โยชัวร์ดู ตามตัวของเธอมีแต่แผลเต็มไปหมดไม่ผิดไปจากที่โยชัวร์เคยว่าไปก่อนหน้านี้เลย
เอสเทล "......ไงล่าโยชัวร์ ในที่สุดก็จับได้แล้ว! เจ้านี่ก็คือ............ [แมลงในตำนาน] !!"
โยชัวร์ "......อะ......................!? ............................. ......ใหญ่เกินไปแล้ว............"
เอสเทล "เหะเหะ...... สุดยอดไปเลยใช่เปล่า!?"
- เอสเทลครุ่นคิดแล้วตัดสินใจพูดออกไปว่า
เอสเทล "......นี่โยชัวร์...... ถ้าหากมีเรื่องทุกข์ใจล่ะก็...... ถ้าหากเป็นเรื่องที่ไม่อยากจะพูดถึงล่ะก็ ......เค้าก็จะไม่ถาม แต่จะรอจนกว่าโยชัวร์จะเล่าให้ฟังนะ ......จนกว่าจะถึงตอนนั้น เค้าจะอยู่เคียงข้างเอง"
โยชัวร์ "!!!"
เอสเทล "...............อืม เค้าจะให้แมลงตัวนี้! เพราะงั้นร่าเริงเข้านะ?"
- โยชัวร์พูดอะไรไม่ออก สีหน้าของเขาเศร้าสร้อย แต่แล้ว...... รอยยิ้มบาง ๆ ก็เผยออกมาให้เห็น
โยชัวร์ "หึ................... ......แมลงนั่นน่ะเหรอตำนาน? ไม่เห็นจะเท่าไหร่เลยนี่"
เอสเทล "! เอ๋............!! มะ ไม่เท่าไหร่!? ทั้ง ๆ ที่ออกจะตัวเบ้อเริ่มขนาดนี้!?"
โยชัวร์ "ใช่ ไม่ได้ใหญ่อะไรเท่าไหร่เลย ............ได้แค่นั้นเองน่ะเหรอ?"
เอสเทล "ฮึ้ย~~~............ คะ คอยดูเหอะ...... จะทำให้บอกว่าสุดยอดให้ได้!"
- เอสเทลหยิบสวิงจับแมลงขึ้นมาอีกครั้ง
เอสเทล "จะจับแมลงที่สุดยอดกว่านี้ แล้วเอามาทำให้โยชัวร์ตกใจให้ได้!! ............โยชัวร์!! รออยู่ตรงนั้นแป๊บนะ!!"
- ว่าแล้วเอสเทลก็มุ่งหน้าไปตามหาแมลงอย่างไม่ยอมแพ้อีกครั้ง โยชัวร์ที่ยืนมองไล่หลังเอสเทลไปก็ยิ้มออกมาแล้วพูดเบา ๆ แบบที่ไม่อยากให้เอสเทลได้ยินว่า ".............แค่นั้นก็ตกใจแล้วล่ะ"



"ผมเปลี่ยนไปได้ถึงขนาดนี้
เธอช่างเป็นเด็กที่มหัศจรรย์จริง ๆ นะ
.........เอสเทล............
------และแล้ว ผมก็ได้สัญญากับตัวเองข้อนึง
ไม่ได้เพื่อใคร แต่เป็นสัญญาเพื่อตัวผมเอง
สัญญากับตัวตนที่แตกต่างจากคนอื่นที่เรียกว่าตนเอง
สัญญากับคำสาปที่จะทิ้งเอาไว้เบื้องหลังบนโลกที่แสนสงบสุขแห่งนี้
ถึงแม้ว่ามันจะเป็นเรื่องที่ขี้ขลาดที่สุดบนโลกใบนี้
แต่เธอจะยอมให้อภัยให้ผมได้ใช่มั้ย
ผมกังวลกับเรื่องนั้น
ยิ่งกว่ากังวลที่จะต้องโกหกหลอกลวงตัวเองเรื่อยไปเสียอีก"



------And The Last Day... (และแล้วก็มาถึงวันสุดท้าย)

ท่าเทียบเรือเหาะรอเลนซ์ 『ロレント乗り場』
- เหล่าชาวเมืองรอเลนซ์มารวมตัวกันที่ท่าเทียบเรือเหาะ เพื่อมาส่งเด็กสาวและเด็กหนุ่ม 2 คนที่ได้ตัดสินใจว่าจะออกเดินทางไปรอบ ๆ ให้ทั่วทั้งทวีปและก็จะรับงานเบรเซอร์ในพื้นที่ที่ไปถึง เพื่อเป็นการฝึกฝนไปในตัวด้วย และถึงแม้จะเป็นการตัดสินใจแบบปุบปับโดยไม่ปรึกษาป๋า "ป๋าคาซิอุส" ก็ไม่คิดที่จะตำหนิลูก ๆ ของเขา แต่ยังคงให้ความไว้วางใจ เชื่อใจในสิ่งที่พวกเขาเลือกเดินค่ะ
- "เจ๊เชร่า" 『シェラザード』 บอกว่าพวกเอสเทลก็ผ่านประสบการณ์มาตั้งมากมาย คงไม่มีอะไรที่เธอจะต้องสั่งสอนในฐานะรุ่นพี่อีกแล้ว จากนี้ไปก็ให้พิจารณาด้วยตัวเองว่า สิ่งไหนที่ควรเรียนรู้และเรื่องไหนที่ควรรับทราบ และไม่ลืมที่จะพัฒนาตนเองด้วยค่ะ
- ส่วน "ไอน่า" 『アイナ』 ประชาสัมพันธ์ (นักดื่มคอทองแดง) คนสวยเพื่อนสนิทเจ๊ก็บอกว่า รายละเอียดการทำงานของเบรเซอร์ในที่อื่น อาจจะค่อนข้างแตกจากลีเบร์ล แต่หลักการพื้นฐานแล้วก็เหมือน ๆ กับที่พวกเอสเทลได้ร่ำเรียนมาค่ะ ซึ่งเอสเทลกับโยชัวร์ไม่รู้จะตอบแทนพวกเจ๊ ๆ ยังไงดี ได้แต่กล่าวคำขอบคุณที่คอยช่วยเหลือพวกเธอมาตลอดค่ะ
- นอกจากนั้น "ป้าสเตล่า" ก็อดเป็นห่วงเอสเทลไม่ได้ว่าจะเป็นอยู่อย่างไรตามประสา บอกเอสเทลให้ติดกระดุมให้เรียบร้อย ก่อนนอนก็ให้แปรงฟัน และบลา ๆๆๆ จน "ลุงเอลเกอร์" 『エルガー』 สามีป้าต้องเตือนว่าเอสเทลไม่ใช่เด็ก ๆ แล้ว แต่ป้าสเตล่าก็อดเป็นห่วงไม่ได้จริง ๆ เพราะงั้นขอย้ำอีกทีว่า ถ้าเอสเทลไม่ทำตัวดี ๆ ป้าจะโผล่ไปให้เห็นในฝันซะอย่างนั้นน่ะค่ะ
(ส่วนลุงเอลเกอร์ก็ยังใจดีเหมือนเดิม บอกโยชัวร์ว่าให้ฝากเอสเทลด้วย และงานพิเศษที่ร้านขายอาวุธ จะว่างอยู่เสมอรอให้โยชัวร์กลับมาทำได้ตลอดเวลาค่ะ)
- "เอลิซซ่า" ร้องไห้สะอึกสะอื้นบอกเอสเทลว่าอย่าลืมเรื่องของพวกเธอ "ทีโอ" ก็เดินเข้ามาปลอบเพื่อนสาวขี้แยเหมือนเคย ซึ่งเอสเทลก็บอกกับแก๊งสาว ๆ ของเธอว่าเธอจะเขียนจดหมายมาหาแน่นอน และฝากฝังให้ทีโอช่วยดูแลเอลิซซ่าด้วยค่ะ
(ส่วนทีโอก็บอกให้เอสเทลจับโยชัวร์ให้อยู่มือ อย่าปล่อยให้หายไปไหนอีก โยชัวร์ก็สงสัยว่าที่ 2 สาวพูดหมายถึงอะไร ส่วนฝาแฝด "วิล" และ "เชล" ก็ถึงกับร้องไห้เมื่อจะต้องจากพวกพี่เอสเทลกับพี่โยชัวร์ไปค่ะ แต่แค่พี่โยชัวร์ส่งยิ้มแล้วบอกว่า "โชคดีนะ" เด็ก ๆ ก็หยุดร้องไห้ (เลี้ยงเด็ก) เก่ง สมกับที่เป็นโยชัวร์จริง ๆ นะคะเนี่ย)
- และแล้วเวลาช่างสั้นนัก "เซชิเรีย" 『セーシリア号』 ก็พร้อมที่จะออกเดินทาง ทำให้เวลาในการกล่าวลาสิ้นสุดลง
- "............โยชัวร์" ป๋าคาซิอุสเรียกโยชัวร์ที่กำลังเดินขึ้นเครื่องด้วยสีหน้าจริงจัง
คาซิอุส "ตัดสินใจแล้วใช่มั้ย?"
- โยชัวร์นิ่งเงียบไปครู่นึง ก่อนที่จะตอบรับด้วยสีหน้าที่เปี่ยมไปด้วยความมั่นใจและฉายแววแห่งความสุข
โยชัวร์ "คุณพ่อครับ ผม...... อยากมีชีวิตอยู่ในฐานะโยชัวร์ ไบรท์ เพื่อการนั้นแล้ว ผมถึงได้ตั้งใจที่จะเดินทางไปให้ทั่วทวีป ผมจะต้องไขว่คว้าหาสิ่งที่เรียกว่าตัวตนของผมด้วยตัวของผมเอง ดังนั้น ผมจึงต้องมีความหวัง เพราะผมอยากมีชีวิตอยู่ที่นี่ในฐานะของโยชัวร์ ไบรท์ อยากใช้ชีวิตอยู่เคียงข้างเอสเทลกับคุณพ่อ อยากใช้ชีวิตอยู่ท่ามกลางผู้คนในเมืองนี้ อยากใช้ชีวิตอยู่บนโลกใบนี้อย่างอบอุ่น เพราะงั้น...... ผมจึงตั้งใจว่าจะค้นหาเส้นทางของตัวผมเองให้แน่ใจอีกครั้งแล้วกลับมา"
คาซิอุส "............งั้นรึ หึหึ หน้าตาค่อยดูเข้าทีขึ้นมานิด ๆ แล้วนะ"
โยชัวร์ "ฮะฮะ............... ......ขอบคุณนะครับ เป็นคำชมที่ยอดเยี่ยมที่สุดเลยล่ะ"
- เอสเทลอารมณ์เสีย บ่นอุบด้วยความไม่พอใจ สงสัยว่าทำไมผู้ชายบ้านเธอชอบพูดอะไรที่เข้าใจกันอยู่แค่ 2 คนก็ไม่รู้ค่ะ
เอสเทล ".........เอ้าโยชัวร์ ถ้าไม่รีบเข้าเดี๋ยวก็ปล่อยทิ้งไว้ที่นี่ซะหรอก?"
โยชัวร์ "ครับผม"
- โยชัวร์อมยิ้ม เดินตามเอสเทลขึ้นเรือเหาะไปอย่างมีความสุข
เอสเทล "ไว้เจอกันใหม่นะทุกคน!"
ลุค "......อะ เอสเทล! คะ คราวหน้าถ้าเจอกัน ชั้นก็จะเป็นเบรเซอร์เหมือนเธอนะ!"
เอสเทล "อ๊ะฮะฮะ จะรอนะ"
ลุค "นี่ จริงจังหน่อยสิ!? ชะ ชั้นจะเป็นเบรเซอร์จริง ๆ นะเอ้า!"
แพ็ต "อะ เอ่อผมก็...... ผมก็ตั้งใจว่าจะเป็นเบรเซอร์เหมือนกันล่ะ! เพราะงั้น......"
โยชัวร์ "อื้ม พวกพี่จะต้องกลับมาแน่นอน"
เอสเทล "ลุค แพ็ต แสดงว่าถ้าเจอกันคราวหน้า ก็จะเป็นเพื่อนร่วมงานกันแล้วใช่มั้ย งั้นชั้นก็จะตั้งตารอนะ"
ลุค "อะ โอ๊ส!
- "ลุค" 『ルック』 เด็กชายคู่กัดเอสเทล (แต่จริง ๆ แอบชอบเอสเทลอยู่ และเห็นเอสเทลเป็นฮีโร่แต่ไม่บอกเธอตรง ๆ ค่ะ) กับ "แพ็ต" 『パット』 เด็กชายหนอนหนังสือผู้แสนเรียบร้อยที่มาเข้าขากับลุคได้ยังไงก็ไม่รู้ บอกกับเอสเทลว่าพวกเขาจะเป็นเบรเซอร์เหมือนกับพวกเอสเทล และรอคอยวันที่พวกเอสเทลจะกลับมาค่ะ
คาซิอุส "เอสเทล โยชัวร์...... ที่นี่เป็นสถานที่ที่รอให้พวกลูกกลับมา ......อย่าลืมซะล่ะ!"
โยชัวร์ "ครับ คุณพ่อ......."
เอสเทล "หนูไม่ลืมอยู่แล้วล่ะ"
- "ไปก่อนนะคะ/ครับ!" เอสเทลและโยชัวร์พร้อมใจกล่าวคำลา เพื่อกลับมาพบกันใหม่ และแล้วเซชิเรียก็บินสูงขึ้นไปบนฟากฟ้าอันกว้างใหญ่

Episode [เช้าแห่งการออกเดินทาง] ~Fin~

☆ได้รับ "ความทรงจำ" และ "8000 มิร่า" ค่ะ☆



Related entries:
Sora no Kiseki the3rd (空の軌跡the3rd)


No comments:

Post a Comment